Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล 262-281

ตอนที่ 262

 

หลังจากที่ถูกโทนี่เกณฑ์มาช่วยงานสองวัน เเจ็คสัน ได้ช่วยงานเช้าเเละในช่วงเย็นได้ขับรถจิ๊ปของเขากลับบ้านตามปกติ


 


ในช่วงสองวันนี้โทนีได้ให้เเจ็คสันช่วยเหลือการทดสอบทางกายภาพทั่วไปอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเเจ็คสันเองก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ช่วยเหลือโทนี่ โดยการมอบ น้ำยาศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาโทนี่ เขาเองก็ต้องการมองหาความลึกลับของมันเเต่ดูเหมือนเขาจะคิดง่ายเกินไป


 


ตัดมาที่อีกประเด็นนึงที่ก่อนหน้านี้ โทนี่ ได้เผชิญหน้ากับเวทย์มตร์บางอย่าง ดูเหมือนเขาต้องการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนของตัวเองเพื่อหาวิธีการรับมือกับเวทมนตร์เหล่านั้น


 


สิ่งที่โทนี่ รู้สึกผิดหวังก็คือ ดูเหมือน เเจ็คสัน จะออกความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ด้านเวทมนตร์น้อยมาก ซึ่งความจริงเเล้วมันยังไม่อาจตอบสนองต่อความต้องการของเขาได้


 


เเจ็คสันได้ช่วยเหลือโทนี่ในการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อให้มีความสามารถในการต้านทานเวทมนตร์ สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาเองก็คิดเกี่ยวกับเวทมนตร์อยู่เพราะเดิมเขาต้องการจะฝึกฝนมันเเต่เพราะความสามารถของเขาที่มีไม่พอก็ทำได้เเต่เพียงถอดใจล้มเลิกในตอนนี้


 


ดังนั้น เเจ็คสันจึงวางเเผนว่าในอนาคตให้โทนี่มองหา เอนเชี่ยนวัน บางที ปรมาจารย์คนนี้ อาจจะช่วยเหลือโทนี่ในด้านนี้ได้ การพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนนั้นจำต้องมีความรู้เเละความสามารถ หากโทนี่ได้รับการศึกษาด้านเวทมนตร์เเละพบว่าเขามีพรสวรรค์ไม่เเน่ว่าในอนาคตไอรอนแมนอาจจะกระทั่งเเข็งเเกร่งกว่าเอนเชี่ยนวัน


 


เเต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่เผชิญหน้ากับเทพปีศาจเป็นเพียงเเค่อุบัติเหตุเพียงเท่านั้นการปรากฏตัวของเหล่าปรมาจารย์พวกนั้นก็นับเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา เเจ็คสันคิดว่าหากไม่มีโอกาสเช่นก่อนหน้านี้เกิดขึ้น การจะพบตัวเหล่าปรมาจารย์เหล่านี้คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก


 


ไม่เพียงเเต่เเจ็คสันที่มีความคิดเช่นนี้ โทนี่ เองก็ต้องการมองหาตัวเอนเชี่ยนวัน หรือต้นกำเนิดของตัวตนปรมาจารย์เวทย์ ตั้งเเต่ผ่านเหตุการณ์นั้นมา เขาเริ่มตระหนักรู้ดีว่าความรู้ของเขายังไม่ได้ครอบคลุมทั่วโลกนี้ยังมีกลุ่มอิทธิพลหรือขุมกำลังที่ราวกับเทพนิยายหลบซ่อนตัวอยู่


 


โทนี่ตั้งใจพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนของเขามาจนถึงปัจจุบันตั้งเเต่ไอรอนมาร์ค 1 จนถึงยุคที่ 5 ที่เขาเริ่มศึกษาเเละพัฒนาชุดเกราะให้กลายเป็นชุดเกราะไอรอนแมนแบบนาโน อาจกล่าวได้ว่าหากไม่เผชิญหน้ากับการโจมตีทางด้านเวทมนตร์ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ถือว่าเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด


 


โทนี่มีทิศทางในการส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนของเขาอยู่ 3 อย่าง หนึ่งคือการส่งเสริมด้านพลังทางกายภาพที่เหนือกว่าเดิม ไม่เพียงเเต่พลังกายภาพ ทั้งพลังป้องกันเเละการโจมตีมันจะต้องสูงเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นเขาก็พยายามจะเสริมระบบตัวเเทนที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับเวทย์มนตร์อย่างเวน่อม หากสิ่งนี้ประสบความสำเร็จ เเจ็คสัน คิดว่า ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่บางทีอาจกระทั่งเผชิญหน้ากับพลังเวทย์มนตร์ได้อย่างไม่มีปัญหา


 


โทนี่ได้เข้าสู่กระบวนการอัพเกรดชุดเกราะของเขาภายใต้การจ้องมองของเเจ็คสันการส่งเสริมทั้งสามประเภทได้มีความสำเร็จไปบางส่วนซึ่งหากประสบความสำเร็จทั้งหมด โทนี่จะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของโลกมาร์เวลที่เเท้จริง


 


โดยปกติการบรรลุเป้าหมายนั้นจำต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ซึ่งโทนี่ ก็ได้วางเเผนเตรียมการเอาไว้ทั้งหมด


 


เมื่อคิดด้านการพัฒนาของโทนี่เเล้ว เเจ็คสันก็มองย้อนกลับตัวเองเขาเองก็ต้องการจะเเข็งเเกร่งในโลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยความหัศจรรย์นี้ ดังนั้นเเจ็คสันจึงรีบขับรถจิ๊บของเขากลับบ้านเพื่อไตร่ตรองเเละวิธีการที่จะช่วยให้ตัวเองเเข็งเเกร่งขึ้น ไม่เพียงเเต่ตัวเขาเองทั่วนั้น กระทั่งรวมถึง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ การร่วมมือกับโทนี่ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเขา”บางทีฉันควรจะเริ่มศึกษาเรื่องการสร้างเรือเหาะสงคราม หากสิ่งนี้สมบูรณ์เชื่อว่าจะสามารถกลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังของเราได้ ด้วยความสามารถของโทนี่ เเละความพร้อมด้านทรัพยากรเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จในการสร้าง”มองไปที่วิวทัศน์ที่สวยงามของมหานครนิวยอร์กเเจ็คสันกล่าวกระซิบด้วยเสียงเบา


 


เเจ็คสันได้รับเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E นี้มานานเเล้ว เเต่เขาไม่มีโอกาสที่จะมอบมันให้โทนี่เพื่อการศึกษา ตอนนี้ เขามีเเผนที่จะร่วมมือกับโทนี่ ในการพัฒนาความสามารถเพื่อความอยู่รอดในโลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยความลึกลับ


 


“บางทีฉันควรจะไปหาโทนี่ด้วยสถานะมิราจไนท์ของฉันเเละพูดถึงเเผนการที่ฉันคิด เขาอาจกระทั่งคิดว่าฉันบ้า เเต่ท้ายที่สุด ใครจะรู้ว่าฉันเเท้จริงต้องการอะไร ความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เองก็เป็นสิ่งสำคัญ ฉันจะต้องสนับสนุนเเละสร้างอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาเพื่อรับมือกับปัญหาที่พร้อมจะเข้ามาได้ทุกเมื่อในอนาคต”เเจ็คสันวางเเผนจะร่วมมือกับโทนี่ เขาได้คิดเเผนการจำนวนมากไว้ในหัว


 


“เอาเถอะ,เเม้ฉันจะคิดมากไปก็ไม่ช่วยอะไร ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันควรจะเริ่มเตรียมพร้อมก่อนที่จะสายเกินไป”ในที่สุดเเจ็คสันก็ตัดสินใจ


 


ฟุ่บ!


 


ภายใต้ม่านรัตติกาลรถจิปขนาดเล็กได้วิ่งไปบนพื้นถนนที่มีชีวิตชีวาของนิวยอร์ก


 



 


ในขณะที่เเจ็คสันกำลังขับรถจิ๊ปเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน สถานที่บางเเห่งในวอชิงตัน ดูเหมือนจะมีเหตุทะเลาะกันของคู่รักคู่นึง


 


“เจน! ทำไมเจ้าถึงต้องไป พวกเราไม่เหมาะกันตรงไหน? หรือว่าเป็นเพราะโลกิบอกอะไรเจ้า? ก่อนหน้านี้ใช่เจ้าสนทนากับเขา เขาพูดอะไรให้เจ้าฟัง?”ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าอพาร์ทเมนต์ ธอร์กล่าวถามเจน ฟอสเตอร์ เเฟนสาวของเขา


 


สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้หลังจากที่โลกิได้มา


 


เจนได้ค้นพบความไม่เหมาะสมบางอย่าง ไม่ใช่เพราะเธอทนไม่ได้กับนิสัยของธอร์ เเต่เพราะเหตุผลสำคัญเธอถึงต้องการจะเเยกจากธอร์ชั่วคราว


 


เจนไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป เธอไม่สนใจสถานะของธอร์ เเต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธออยู่ร่วมกับธอร์ดูเหมือนเธอจะรับรู้ได้ถึงเหตุผลสำคัญที่เธอหมายถึง


 


ก่อนหน้านี้ที่โลกิพูดกับเธอ เป็นเรื่องของธอร์เเละโลกเเอสการ์ด โลกิได้บอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ ธอร์มีอายุประมาณ 200 ปี เเม้เขาจะเหมือนเยาวชนอายุเพียง 20 ปีต้น ๆ เเต่เขากลับมีชีวิตอยู่มาร่วมหลายร้อยปี ช่วงชีวิตของธอร์นั้นยาวนานมากถึง 1,000 ปี


 


ดังนั้นในอีกสองสัปดาห์ต่อมาเจนเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเละ เธอเริ่มที่จะยอมเเพ้เกี่ยวกับช่วงชีวิตของเธอ ที่ไม่อาจอยู่ร่วมคู่เคียงกับธอร์ได้ เช่นนั้นเธอจึงคิดว่าการจากกันตั้งเเต่เนิ่น ๆ จะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย


 


“ไม่มีอะไรทั้งนั้น ,ฉันคิดว่าเราสองคนไม่เหมาะกัน คุณคือเจ้าชายของเเอสการ์ดมีสถานะที่สูงส่ง ซึ่งเเทบกับฉันเเล้วพวกเราไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเราไม่พบกันอีก”ภายใต้การหยุดรั้งของธอร์เจนได้สบัดมือออกจากมือของธอร์ที่ฉุดรั้งเธอเอาไว้เเม้ในใจของเธอจะรักธอร์มาเเค่ไหนเเต่เธอก็ทำได้เเต่เพียงตัดใจ


 


“เจน,ข้าไม่ยอม!”


 


ฟุ่บ!


 


“คุณไปซะเถอะ! ฉันจะให้เงินคุณมันคงเพียงพอสำหรับการเดินทางเเละหางานใหม่ได้”เจนไม่ได้สนใจธอร์เขาได้โยนกระเป๋าธอร์ออกไปที่หน้าห้อง


 


“เจน!”


 


ปั้ง


 


ธอร์ตะโกนขึ้นอย่างรับไม่ได้เเต่เบื้องหน้าที่ตอบสนองเขากลับเป็นประตูที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเจน

 

 

 


ตอนที่ 263

 

ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าท้ายที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจแบกกระเป๋าของตัวเองจากไปอย่างเงียบ ๆ เขาไม่เข้าใจทำไมเจนถึงหันหลังให้กับเขาอาจจะเป็นเพราะโลกิได้พูดอะไรบางอย่างกับเธอไป เเต่คำพูดลาก่อนของเธอนั้นทำให้ธอร์รู้สึกใจสลายในชีวิตรักของเขา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะตามหาโลกิ เขาจะฟื้นฟูพลังเหนือธรรมชาติของตัวเองเเละจัดการสั่งสอนน้องชายตัวดีคนนี้


 


“เเล้วข้าควรจะไปที่ไหนดีล่ะทีนี้?”หลังจากออกจากอพาร์ทเมนท์ธอร์ ยืนอยู่บนพื้นถนน เขากำลังขมวดคิ้วเเละกล่าวถามกับตัวเอง


 


เเม้ว่าธอร์จะอาศัยชีวิตบนโลกมานานมากกว่าสองเดือน เเต่เขาก็ยังไม่เหมือนมนุษย์โลก เพราะเขายังไม่สามารถจัดการอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเองที่โลกนี้ได้


 


ธอร์ถือกระเป๋าสัมภาระของเขาจ้องมองไปที่อพารต์เมนต์ที่จากมาอย่างคร่ำครวญตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะไปไหน ในขณะเดียวกันในพื้นที่มืดสองเเห่งมีคนกำลังเฝ้าดูเขา


 


“เจ้าหน้าที่ โคลสัน เป้าหมายหมายเลข 5 ดูเหมือนจะเลิกรากับเเฟนสาวของเขาเเล้ว ตอนนี้ เขาได้ถูกไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ เช่นนั้นผมควรจะทำอย่างไรต่อ?”จ้องมองเห็นธอร์ถูกไล่ออกมาจากอพาร์ทเมนท์ ห่างไปสามช่วงตึก มี เจ้าหน้าที่ของ S.H.I.E.L.D. ที่ได้รับหน้าที่พิเศษจับตามองธอร์ ได้กล่าวรายงาน หลังจากเห็นธอร์ถูกไล่ออกมาโดยเจน เจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อ กานชู เขาเป็นหัวหน้าทีมเฝ้าระวัง เขาได้รายงานต่อตัวเเทนเจ้าหน้าที่โคลสัน


 


“ถูกไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์?อืม เช่นนั้นก็อย่าพยายามติดต่อเขาชั่วคราว ตอนนี้เขายังไม่มีการเเยกจำเเนกว่ามีความอันตรายหรือไม่ในตอนนี้”หลังจากได้ยินหัวหน้ากลุ่มกล่าวรายงาน เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวตอบอย่างสงบ


 


เเม้ว่าธอร์จะเป็นเจ้าชายคนโตของเเอสการ์ดผู้น่าเกรงขาม เเต่ตอนนี้ ค้อนของธอร์ก็อยู่กับ S.H.I.E.L.D. ในนิวเม็กซิโก ตอนนี้ธอร์แทบจะไม่เป็นภัยคุกคามเเม้เเต่น้อย เเต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นบุคคลที่ทาง S.H.I.E.L.D. เฝ้าระวังเอาไว้อยู่


 


“เข้าใจเเล้ว เราจะเฝ้าระวังต่อไป”ได้รับคำสั่งโดยตรง หัวหน้าคนนี้กล่าวตอบเเละจ้องมองไปที่อพาร์ทเมนท์ของธอร์ต่อไป


 


นอกเหนือจากตัวแทนของ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวังเเล้ว ตึกตรงข้าม อพาร์ทเมนต์เองก็มีคนสองคนสวมใส่ชุดหลวงจีนจ้องมองมาอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะมาจากอารามคุ้มกัน


 


“ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?ดูเหมือน ธอร์ กับ คุณ ฟอสเตอร์ จะเเยกจากกันเเล้ว?”เห็นธอร์บนพื้นบริเวณถนน นักบวชคนนี้กล่าวถามเพื่อนของเขา


 


“ดูเหมือนตอนนี้ธอร์จะถูก มิส ฟอสเตอร์ ไล่ตะเพิดออกมา พวกเขาคงเเยกจากกันชั่วคราวในตอนนี้”นักชวงอีกคนกล่าว


 


“เช่นนั้นพวกรเาจะทำอย่างไร เฝ้าระวังเขาต่อไปไหม? ถึงอย่างไร ท่านเอนเชี่ยนวัน ก็ให้เราเฝ้าระวังเขาเพื่อรับประกันว่าธอร์จะไม่ก่ออุบัติเหตุขึ้นที่โลก เเต่ท่านไม่ได้บอกว่าจะต้องเฝ้าระวังการใช้ชีวิตประจำวันของเขา”นักบวชอีกคนกล่าว


 


“อืม,เเม้เขาจะถูกไล่ออกมา เเต่ธอร์ก็อาศัยอยู่ที่โลกมาร่วมระยะเวลามากกว่า สองเดือน ธรรมชาติเขาย่อมสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้”นักบวชคนที่สองกล่าว


 


“ก็ดี,ถ้าเกิดธอร์เผชิญหน้ากับอันตรายหรือสร้างปัญหา เราจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อหยุดเขา”


 


“อืม,ไปกันเถอะ”


 


หลังจากคิดได้เช่นนี้นักบวชที่เป็นปรมาจารย์เวทย์ทั้งสองคนก็เลือกที่จะถอนตัว ประตูมิติสีทองได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขาเเละจากไปอย่างรวดเร็ว


 


ธอร์ในตอนนี้กำลังครุ่นคิดถึงเหตุผลบางอย่าง อย่างเเรกคือเหตุผลที่เขาถูกไล่ออกมา เเละเหตุที่สองก็คือเขาต้องการความช่วยเหลือ


 


เขาต้องการมองหาสถานที่อาศัยเพื่ออยู่อาศัย เเต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาจะหาเองได้โดยง่ายดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา


 


เขาจ้องมองไปที่รายชื่อในโทรศัพท์โดยส่วนมากเเล้วจะมีชื่ออดีตเเฟนสาวของเขาเเละเพื่อน ๆ ของเธอ เเต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาตอนนี้ ชื่ออีกชื่อนึงก็คือ เจ้าหน้าที่โคลสัน เเละ ก็ เเจ็คสัน เเต่เขากำลังคิดอยู่ว่าจะติดต่อหาเจ้าหน้าที่โคลสัน เพื่อขอความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. ดีรึไม่


 


“เห้อ,ข้าควรจะมองหาเเจ็คสัน เขาเป็นสหายของข้า ยิ่งกว่านั้นเขายังมีความลึกลับที่ข้าค่อนข้างสนใจ สำหรับ S.H.I.E.L.D. พวกเขากระทั่งไม่ใช่สหายของข้า ข้าเพียงต้องการความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”ในที่สุดธอร์ก็เลิกตัดสินที่จะขอความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. เขาเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจาก เเจ็คสัน


 


ดังนั้นธอร์จึงได้กดเลือกไปที่ชื่อของเเจ็คสัน


 



 


ตู๊ดด~~


 


เเจ็คสันที่เพิ่งจะกลับถึงบ้านของเขา เขากำลังจะอาบน้ำ เพียงเเต่ว่าโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะเดินไปดูก่อน


 


“หืม? เป็นธอร์ หรือว่าเขามีเรื่องเดือดร้อนอะไร?”หลังจากรับโทรศัพท์ เขาก็รีบกล่าวถามทันที


 


“สวัสดี ธอร์ มีเรื่องอะไรงั้นหรอ? หรือว่าน้องชายของคุณก่อปัญหาอีกเเล้ว?”เเจ็คสันกล่าวทักทายธอร์อย่างรวดเร็ว


 


เมื่อพูดถึงน้องชายของธอร์โลกิ เเจ็คสันจำได้ว่า อีกฝ่ายขอให้เขาช่วยเหลือธอร์ในการฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติ เเต่เเจ็คสันยังไม่มีเงื่อนงำเบาะเเสสำคัญในตอนนี้


 


“เฮ้,เเจ็คสัน ที่ข้าโทรหาเจ้าเพราะมีเรื่องขอให้เจ้าช่วย สำหรับโลกิ เเน่นอนว่าหากข้าฟื้นคืนพลังตัวเองได้ ข้าจะต้องจัดการเขา!!”ธอร์ไม่ได้ขอร้องให้ เเจ็คสันช่วยเหลือเรื่องของโลกิ


 


“เเล้วเรื่องอะไรล่ะที่คุณจะขอให้ช่วย? หรือว่าคุณกับคุณฟอสเตอร์ จะทะเลาะกัน หากเป็นเช่นนี้ นี่่ก็อยู่เหนือความสามารถของฉัน”เเจ็คสันกล่าวถาม


 


“เอ่อ…มันก็คล้ายๆ กัน เเต่ไม่ใช่ ตอนนี้ ข้าถูกเจนไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ของเธอ เเละข้ากำลังสัญจรไปมาบนท้องถนน เเละไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี”ได้ยินคำถามล้อเล่นของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวพูดอย่างเขินอาย


 


“อะไรนะ?คุณทะเลาะกับ คุณ ฟอสเตอร์ เเละ เธอก็ไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ ?”เเจ็คสันที่กำลังดื่มน้ำอยู่ได้ยินเสียงพูดของธอร์เขาเเทบจะสำลักออกมา


 


“อืม,ดังนั้นข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เจ้าพอจะสามารถหาสถานที่อาศัยให้ข้าอยู่ได้รึไม่ เป็นบ้านเช่าหรือห้องเช่าก็ได้”


 


“เพราะเจน ได้ทิ้งเงินให้ข้าบางส่วน หลังจากข้าได้ที่พักข้าค่อยหางานทำ”สำหรับชีวิตที่โลก ธอร์ยังไม่สามารถจัดการอะไรต่าง ๆ ได้ด้วยตัวคนเดียว เขารู้สึกกำพร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเต่เพราะสองเดือนมานี้ทำให้เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกมากขึ้น


 


“คุณ!…เอาเถอะ ฉันจะช่วยคุณ อย่างไรก็ตาม วันนี้ดึกมากเเล้ว คุณลองมองหาโรงเเรมนอนไปก่อนละกัน พรุ่งนี้คุณมาที่นิวยอร์กเพื่อมาหาฉัน เเต่อย่าได้พูดเชียวว่าคุณมานิวยอร์กไม่เป็น?”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว


 


หากธอร์สามารถหางานทำได้ เรื่องเเค่ช่วยเหลือที่พัก เเจ็คสันสามารถช่วยเหลือได้ไม่ลำบากนัก ทั้งเขายังมีโอกาสช่วยเหลือธอร์ในการฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าอีกด้วย เขาไม่รู้ว่า โลกิมีเเผนจะทำอะไรในอนาคต เเต่ เขาจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้เหมือนกัน


 


ยิ่งไปกว่านั้นหากได้พลังของธอร์มาร่วมในทีมของเขา เเจ็คสันเชื่อว่าทีมของเขาจะเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก


 


“ขอบคุณเเจ็คสัน เจ้าพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้าที่นิวยอร์ก”ได้ยินเเจ็คสันว่าจะช่วยเหลือเขา ธอร์ รู้สึกมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด


 


“อืม,พรุ่งนี้เจอกัน ฉันจะเข้านอนเเล้ว”หลังจากกล่าวตอบเเจ็คสันก็ได้กดตัดสายไป


 


“อืม,ข้ารู้ว่ายังไง เเจ็คสัน สหายข้าคนนี้จะต้องไม่ทิ้งข้า”ธอร์ที่ได้รับการยืนยันเขายิ้มออกมา


 


หลังจากนั้นธอร์ก็เเบกกระเป๋าของเขาไปหาที่พักที่เป็นโรงเเรมตรงข้าม เขาเพียงเเค่ทนพักอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนคืนนึง พรุ่งนี้เขาจะนั่งรถไปที่นิวยอร์กเพื่อหาเเจ็คสัน

 

 

 


ตอนที่ 264

 

หลังจากวางโทรศัพท์จาก ธอร์ เเจ็คสัน ก็เข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ หลังจากออกมา เขาได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที เเละกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ที่ธอร์กำลังเผชิญ


 


“อืม,ธอร์ ปกติเป็นคนที่ไม่น่าจะกังวลกับเรื่องรายละเอียดเล็กน้อย เเต่สำหรับคุณ ฟอสเตอร์ เเล้ว? หรือว่าเรื่องนี้ โลกิจะมีส่วนจริง ๆ ?”เเจ็คสันกำลังมองหาบ้านเดี่ยวราคาถูก หรือ อพาร์ทเมนท์ เช่า เเละ กำลังคิดเรื่องของ ธอร์ เเละ เจนฟอสเตอร์ ว่าทำไมถึงเลิกรากัน


 


“เอาเถอะไม่ว่าพวกเขาจะเลิกรากันจริงหรือไม่ ฉันจะไม่ยอมให้ S.H.I.E.L.D. ใช้จุดเเตกหักนี้เพื่อดึงธอร์เข้าร่วมกบพวกเขา ฉันจะให้ ธอร์มาที่นิวยอร์กเเละหาทางช่วยเหลือธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขา”


 


“เพียงเเต่,ธอร์จะหางานทำได้จริง ๆ งั้นหรอ? ที่ทำงานเก่าเขา คุณฟอสเตอร์ น่าจะขอร้องทางโรงเรียนให้เขาได้เข้าทำงาน เพียงเเต่ ออสคอร์ป บริษัทของเเฮร์รี่เอง เเม้ฉันจะฝากเขาเข้าไปได้ เเต่ เเฮร์รี่ ก็คงไม่เต็มใจนักที่จะช่วยเหลือคนต่างด้าวที่ทำงานไม่เป็นคนนี้”เเจ็คสันได้เปิดคอมเเละหาเว็บไซต์ห้องเช่าต่าง ๆ


 


“เอาเป็นว่ารอพรุ่งนี้ให้ธอร์มาก่อนฉันค่อยคิดอีกครั้ง ฉันไม่ควรกังวลมากเกินไป”ในที่สุด เเจ็คสัน ก็หาสถานที่ที่จะช่วยเหลือธอร์ได้


 


“ได้เวลาพักเเล้ว”เเจ็คสันได้ปิดคอมเเละหันตัวทิ้งลงบนเตียงอีกครั้ง


 


ฟุ่บ!


 


เฮ้อ~~~


 



 


ในขณะที่เเจ็คสันกำลังหลับห่างออกไป คามาร์-ทัช ในนิวยอร์ก เทือกเขาหิมาลัย ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกลปรมาจารย์ หยุน เหมิง กำลังรดน้ำต้นไม้ของเขาขณะนั้นเอง ประตูมิติเวทย์มนตร์ก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของคนทั้งสองคน


 


“พ่อมด รุ่ย เคอ,พ่อมด ไต้ เหวิ่น””ปรมาจารย์ หยุน เหมิง กล่าวทักทายเล็กน้อย


 


“สวัสดี พ่อมด หยุน เหมิง พวกเรามารายงานท่านเอนเชี่ยนวัน เกี่ยวกับ เจ้าชายใหญ่ของเเอสการ์ด ธอร์ ไม่ทราบว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกลับมาหรือยัง”ไต้ เหวิ่น กล่าวด้วยรอยยิ้มเเละทักทาย หยุน เหมิง


 


“ข่าวเรื่อง ธอร์ ? ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังไม่ได้กลับมาคราวนี้ท่านเดินทางออกไปยังสถานที่ห่างไกล”ได้ยินคำถามของ ปรมาจารย์ไต้เหวิ่น หยุนเหมิง กล่าวตอบ


 


“เเน่นอนว่าพวกเรารู้ว่าสถานที่เเห่งนั้นที่ต้องไปใช้เวลานานมากในการเดินทางเเต่พวกเรามีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบรายงานปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”ได้ยินคำพูดของ พ่อมด หยุนเหมิง ไต้เหวิ่น กล่าวพูดอย่งจริงจัง


 


พวกเขารู้ว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันไปยังสถานที่เเห่งใด เเต่ก็ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน หรือก็คือไม่ควรกล่าวถึงนั่นเอง


 


“อ่าปรมาจารย์ไต้เหวิ่น ท่านก็รู้ว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ในเวลานี้ไปสู่โลกที่เเตกต่างเพื่อค้นหาต้นตอเรื่องของเทพปีศาจ”หยุน เหมิง ได้กล่าวพูดขึ้น


 


ในขั้นต้น เอนเชี่ยนวัน ได้เดินทางไปยัง ดิสโทเปีย ด้วยเหตุผลคือเรื่องก่อนหน้านี้ เขาต้องการมองหาเบื้องหลังการปรากฏตัวขึ้นของเทพปีศาจ ในฐานะ ผู้ทักษ์ของโลก เอนเชี่ยนวัน มีความรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างเป็นธณรมชาติที่เขาจะไม่ยอมให้โลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติเช่นครั้งก่อน


 


“เเน่นอน,พวกเราเชื่อว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน อีกไม่นานจะต้องเดินทางกลับมา”พ่อมด รุ่ย เคอ กล่าวตอบ


 


“เเม้ว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะเเก่มากเเล้ว เเต่เรื่องความสามารถของเขาเป็นของจริง พวกเราจำได้ดีเกี่ยวกับการโบกพระหัตถ์ที่สามารถทำลายเทพปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ฉันคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ของท่านคงไม่มีปัญหาอะไร”ได้ยินคำพูดของพ่อมด รุ่ย เค่อ ,พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวเสริม เขาจำได้ดีเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับเทพปีศาจเเฮร์รี่ในครั้งก่อนหน้านี้ ตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเป็นตาย เเต่เเล้ว จอมเวทย์สูงสุดของโลกก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเเละจัดการเทพปีศาจตนนี้จนสลายหายไป


 


“ใช่เเล้ว,ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะต้องไม่เป็นอะไร”ได้ยินคำพูดของ พ่อมดไต้เหวิ่น รุ่ย เคอ กล่าวเสริมพยักหน้าเห็นด้วย


 


“เนื่องจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังไม่เดินทางกลับมา เช่นนั้นพวกเราจะไม่ขอรั้งอยู่ที่นี่ เพราะพวกเรามีหน้าที่ที่จะต้องเฝ้าระวังต่อไป”


 


รุ่ย เคอ กล่าวพูดขึ้น พร้อมกับ ไต้เหวิ่น เเน่นอนว่าพวกเขายังมีหน้าที่ที่ต้องจัดการ เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเองกลับปรากฏประตูเวทย์มนตร์ขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา


 


“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”ไต้เหวิ่น เเละ รุ่ย เคอ กล่าวพูดอย่างตื่นตกใจ เมื่อครู่นี้พวกเขากำลังกังวลเกี่ยวกับการเดินทางของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันอยู่เลย


 


“อ่า,พ่อมด ไต้เหวิ่น,พ่อมด รุ่ย เคอ หรือว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับธอร์?”เห็นพ่อมดทั้งสองคน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันที่เพิ่งกลับมากล่าวถาม เขาได้ส่งทั้งสองคนไปติดตามธอร์เพื่อเฝ้าระวัง


 


เห็นท่าทีสภาพพร้อมสมบูรณ์ของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมด ไต้เหวิ่น เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ รู้สึกดีใจไม่น้อย


 


ถึงอย่างไรพวกเขาก็เชื่อมั่นในความเเข็งเเกร่งของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน


 


“รายงานปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ดูเหมือน ธอร์เเละเเฟนสาวของเขาได้เลิกรากันตอนนี้ เขาถูกขับไล่ออกจากที่พักเเละกำลังไร้ที่อยู่อาศัย”ได้ยินคำถามจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวตอบ


 


พ่อมดไต้เหวิ่นได้เดินทางกลับมาก่อนเขาไม่รู้ว่าธอร์ได้โทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา


 


“เป็นเพียงเเค่เรื่องเล็กน้อย,ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ข้าเชื่อว่า เด็กคนนี้ ยังสามารถเอาตัวรอดบนโลกเเห่งนี้ได้”ได้ยินคำตอบของ พ่อมดไต้เหวิ่น เอนเชี่ยนวันกล่าวอย่างไม่เเยเเส


 


เเม้ว่าเอนเชี่ยนวันจะรับปากโลกิเรื่องการช่วยเหลือธอร์เเต่เขาจะไม่ให้ที่พักพิงเเก่ธอร์ ถ้าธอร์ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโลกเพื่อมีชีวิตอยู่ได้ เอนเชี่ยนวัน ตั้งใจจะบอก โอดิน ให้เขาส่งธอร์กลับไป


 


“พวกเราเข้าใจเเล้ว”พ่อมดไต้เหวิ่นพยักหน้ารับราวกับไม่เเปลกใจต่อคำตัดสินของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน


 


“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวพูดขึ้น พวกเขาตั้งใจจะถามสถานที่ที่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้เดินทางไปเเต่ก็ต้องรั้งวาจากลับก่อน


 


“อืม,หลังจากที่พวกท่านจากไป ช่วยข้าหาคนคนนึงหน่อยได้รึไม่?”เห็นพวกปรมาจารย์ไต้เหวิ่นกำลังจะจากไป ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจ้องมองไปที่พวกเขาเเล้วกล่าว


 


“หืม?ใครกัน?”


 


“มิราจไนท์!”

 

 

 


ตอนที่ 265

 

เช้าวันรุ่งขึ้นเเจ็คสันตื่นขึ้นมาเเละเพิ่งจำนัดกับธอร์ได้ดังนั้นเขาจึงได้ขับรถบนพื้นถนนของนิวยอร์กในช่วงเช้า


 


ตอนนี้สามสหายสามเหลี่ยมทองคำของนิวยอร์กไฮสคูลเอ็มไพร์ ได้มาโรงเรียนปกติ เเต่ช่วงหลังมานี้พวกเขาค่อนข้างขาดเรียนกันบ่อย ปีเตอร์มักจะเปลี่ยนเป็นสไปปเดอร์แมน จึงไม่มีเวลาร่วมกิจกรรมชมรมต่าง ๆ สำหรับเเจ็คสัน เขาได้ใช้โทนี่เพื่ออ้างไม่ต้องมาเรียน ดังนั้น พ่อเเม่ของเขาจึงไม่ได้บ่นอะไรมากนัก


 


เเจ็คสันขับรถจิ๊ปขนาดเล็กของเขาบนพื้นถนนนิวยอร์กวันนี้เป็นวันจันทร์ เขาคิดกับตัวเองว่าทำไมจะต้องขับรถออกมา หากไม่ใช่เพราะมีนัดกับธอร์ เเจ็คสันก็คงไม่ขับรถออกมาเอง เเต่เเจ็คสันก็รู้ดีว่าเขาให้ธอร์นั่งรถมาเอง ซึ่งหากธอร์นั่งรถไฟใต้ดินมาที่นิวยอร์กเเห่งนี้ก็คงจะประหยัดเวลามากกว่านั่งรถทัวน์มาอย่างเเน่นอน


 


เเจ็คสันได้หยุดรถเพราะรถเบื้องหน้าค่อนข้างเเออัด ในขณะเดียวกัน เขาก็มองไปที่ตึกตรงข้ามที่เป็นหน้าจอโฮโลเเกรมขนาดใหญ่ นั่นก็คือการโปรโมทการกลับมาของ กัปตันอเมริกา โฆษณานั้นได้เปิดเผยข้อมูลของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้เเละวีรกรรมของเขา


 


“อืม,ดูเหมือน กัปตันโรเจอร์ส ในตอนนี้ ก็ยังคงวุ่นกับการตามหาตัว บัคกี้บาร์นส์ ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้นเเน่นเเฟ้นเพียงใด เเต่ฉันเองก็ควรกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้าที่กำลังซ่อนตัวอยู่ตอนนี้”เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิดในใจ


 


เเม้ว่าS.H.I.E.L.D. จะทำลายสาขาต่าง ๆ ของพวกองค์กร ไฮดร้าไปมาก เเต่การจะถอนรากถอนโคนของพวกไฮดร้าทั้งหมดเกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะปัจจุบัน เควสภารกิจ ทำลายพวกไฮดร้าของเเจ็คสัน สำเร็จเพียง 55% เเละมันก็ขึ้นช้าอย่างมาก


 


“ฉันเองก็อยากจะลงมือกำจัดพวกมันในตอนนี้เหมือนกัน เเต่ฉันไม่รู้ว่าพวกไฮดร้ามันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน!”เมื่อคิดว่าภารกิจของตัวเองยังไม่เสร็จ เเจ็คสัน กล่าวบ่นพึมพัมออกมา


 


“แม่,สไปเดอร์แมน!”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังคิดเรื่องของตัวเองเขาเห็นเด็กคนนึงได้ยืนศีรษะออกมาจากทางหน้าต่างประตูรถเเละตะโกนขึ้น


 


“เจ้าลูกคนนี้,แม่บอกเเล้วใช่มั้ยว่าอย่าพูดล้อเล่นแบบนี้”เเม่ของเด็นคนนั้นกล่าวดุลูกของตัวเองเล็กน้อย


 


“…”เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ได้สนใจคำพูดของเเม่เด็กคนนั้นเขาได้ยืนศีรษะออกไปเล็กน้อย


 


ฟุ่บ!


 


เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเองก็มีเงาร่างสีเเดงปรากฏขึ้นที่หลังคารถของเเจ็คสัน นั่นก็คือสไปเดอร์แมน เขาได้โหนใยลงบนรถจิ๊ปขนาดเล็กของเเจ็คสัน


 


“แม่,สไปเดอร์แมน! นั่นสไปเดอร์แมน”เห็นสไปเดอร์แมนตกลงมาบนหลังคารถเด็กคนนั้นกล่าวด้วยควาตื่นเต้นอีกครั้ง


 


ในครั้งนี้เเม่ของเด็กคนนั้นไม่ได้ดุลูกของเธออีกต่อไป ตรงกันข้ามเธอค่อนข้างตื่นเต้นจนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปสไปเดอร์แมน


 


“สไปเดอร์แมน ระวังหน่อย นายกำลังเหยียบบนรถของฉัน!”เห็นปีเตอร์กระโดดลงมาที่รถของเขา เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างตกใจ


 


“ทำไมนายไม่ไปโรงเรียน?”ไม่ได้สนใจคำเรียกร้องของเเจ็คสัน ปีเตอร์ ยื่นหน้ามาถามเเจ็คสัน


 


“ฉันจะไปที่สถานีรถไฟเพื่อพบคนคนนึง นอกจากนี้ วันนี้เป็นวันจันทร์ นายตื่นสายใช่มั้ย เลยใช้ความสามารถของสไปเดอร์แมนบินไปโรงเรียน?”เเจ็คสันกล่าวกับสไปเดอร์แมน


 


“เพื่อน?หรือว่านายนัดกับสาวกันเเน่?”ปีเตอร์กล่าวหยอกล้อเล็กน้อย


 


“ฉันกำลังไปหาเพื่อนของฉัน นัดเเฟนบ้านนายสิ เอาเป็นว่าฉันจะเเนะนำเขาให้นายรู้จัก”เเจ็คสันกล่าวตอบปีเตอร์


 


“ก็ดีเลย,เช่นนั้นฉันจะไปหานายตอนเย็น”ในที่สุดปีเตอร์ก็ลงจากหลังคารถของเเจ็คสันไปที่พื้นถนน


 


“เฮ้,สไปเดอร์แมน!”เด็กคนนั้นกล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง


 


“ลูกอย่ายื่นหน้าออกไปแบบนั้นสิ”เเม่ของเด็กกล่าวดุอีกครั้ง


 


สไปเดอร์แมนได้เดินไปหาเด็กคนนั้นเเละเซลฟีกับเเม่ลูกคู่นั้นก่อนที่จะขอตัว


 


“ฉันไปก่อนละ”ปีเตอร์ไม่ได้วางเเผนจะอยู่ที่นี่นานเขากำลังไปโรงเรียนสาย


 


ฟุ่บ!


 


เขายกมือยิงใยพุ่งออกไปอีกครั้ง


 


“สไปเดอร์แมน,สไปเดอร์แมน!”เด็กคนนั้นโบกมือลาอย่างตื่นเต้น


 


“เห้อ,ยังป็อบปูล่าไม่เปลี่ยนเลยนะ”เเจ็คสันกล่าวนินทาเล็กน้อย


 


ในขณะเดียวกันรถก็เริ่มสัญจรได้ปกติเเล้ว เเจ็คสันได้ขับรถจิ๊ปของเขาตรงไปที่สถานีทันทีเมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายเเละกระเเสที่เป็นนิยมมากที่สุดก็คือเรื่องของสไปเดอร์แมน เพราะมันเป็นเรื่องปกติมากที่ผู้คนปกติจะพบสไปเดอร์แมนตอนออกไปทำงาน


 


หนึ่งชั่วโมงต่อมา เเจ็คสันก็มาถึงสถานีในที่สุด เขาค่อนข้างเซ็งกับช่วงเวลาที่น่าเบื่อตอนขับรถอย่างมากบางทีเขาอาจจะขอร้องโทนี่เกี่ยวกับการได้รับรถยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงที่อยู่ในช่วงวิจัยเเละพัฒนา


 


ปั้ง!


 


เเจ็คสันปิดประตูรถเเละเดินไปที่สถานี ตอนนี้ ผู้คนได้สัญจรในสถานีรถไฟใต้ดินอย่างมากไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือชาวสหรัฐต่าง ๆ


 


“เฮ้,เเจ็คสัน!”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังมองไปโดยรอบ ดูเหมือนจะมีเสียงนึงตะโกนเรียกชื่อของเขา

 

 

 


ตอนที่ 266

 

ได้ยินเสียงของธอร์เเละเห็นส่วสูงที่มีความสูงกว่า 1.9 เมตร ไม่ว่าอย่างไร รูปร่างของธอร์ก็ค่อนข้างสะดุดตาเป็นอย่างมาก


 


“เป็นยังไงบ้างนิวยอร์ก?”เเจ็คสันกล่าวถามธอร์หลังจากที่เห็นธอร์เดินมาที่เบื้องหน้าของเขา


 


“เฮ้,เเจ็คสัน ที่นี่ค่อนข้างเเออัดชะมัด”ธอร์กล่าวทักทายเเจ็คสันเเละพูดข้น


 


ธอร์ได้สวมใส่ชุดกีฬาเเละสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูสบาย ดูเหมือนในช่วงเวลาที่เขาพักอยู่ในอพารท์เมนท์เเฟนสาวของเขา ธอร์จะได้รสนิยมการเเต่งตัวมา นอกจากนี้เขายังถูกถีบส่งออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


 


“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”เเจ็คสันกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินออกจากสถานี


 


สำหรับทิศทางที่เเจ็คสันจะไปนั้นเขาได้เดินไปยังพื้นที่ที่คนไม่พลุ้งพล่านก่อนเป็นอันดับเเรก


 


“พวกเราจะไปที่ไหนกันดี เจ้าได้มองหาที่พักสำหรับข้าหรือยัง?”เห็นเเจ็คสันไม่กังวล ธอร์ กล่าวพูดขึ้น หลังจากมองทัศนียภาพของนิวยอร์กที่ตระกาลตา


 


สำหรับเเจ็คสันเเล้ว เเม้เขาจะเห็นธอร์ดูมีความสุขเเต่ในใจธอร์ย่อมรู้สึกเศร้าอย่างเเน่นอน เเจ็คสันไม่รู้เกี่ยวกับความรักของชาวเเอสการ์ด เเต่ ธอร์นั้นมีอายุมากกว่า 200 ปี สำหรับโลกเเอสการ์ดนั้นธอร์ยังเป็นเพียงผู้เยาว์คนนึง


 


“อืม,ฉันได้ช่วยคุณดูอพาร์ทเมนท์บางเเห่งเอาไว้เเล้ว นอกจากนี้คุณยังมีเเค่สัมภาระไม่มาก การจะเข้าอยู่เลยก็คงไม่มีปัญหาอะไร”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น


 


“ฮ่าฮ่า,ข้าเชื่ออยู่เเล้วว่า เจ้าย่อมทำไม่ให้ข้าผิดหวัง เจ้าช่างเหมาะสมกับการเป็นสหายของข้าธอร์ยิ่งนัก”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวพูดอย่างร่าเริง


 


ฟุ่บ!


 


เห็นมือขนาดใหญ่ขอธอร์โอบไหล่ของเขาไว้ เเจ็คสัน รีบเดินอย่างรวดเร็ว


 


“ไปกันเถอะ, นอกจากนี้ ฉันขอเตือนคุณบางอย่าง หากคุณอยากที่จะมีชีวิตอยู่ที่นี่ คุณต้องคิดว่าโลกนี้ไม่ใช่เเอสการ์ด เเละ คุณก็ไม่ใช่เจ้าชาย!”เเจ็คสันกล่าวพูดกับธอร์ขณะที่กลับมาที่รถของเขา


 


“ฉันรู้ ฉันจะหางานทำ นอกจากนี้ ฉันยังรู้ตัวเองดีว่าฉันไม่ใช่คนเดิมในอดีต ในโลกเก่าของฉัน ฉันอาจจะมีฐานะที่ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ด เเต่ที่โลกนี้ ฉันไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป เเต่บางที หากฉันสามารถฟื้นฟูความไว้วางใจจากท่านพ่อได้ บางที เขาอาจจะให้ข้ากลับไปที่เเอสการ์ดอีกครั้ง”หลังจากเดินไปที่รถยนต์ของเเจ็คสัน ธอร์ ก็พูดอย่างจริงจัง


 


ดูเหมือนว่าธอร์จะไม่ได้ใช้ชีวิตไปอยู่ ไปวัน ๆ ในโลกนี้ตลอดระยะเวลาสองเดือน อย่างน้อย เขาก็ตั้งใจจะฟื้นฟูความเชื่อที่โอดินมีต่อเขา ดังนั้นเขาจึงกล่าวบอกเเจ็คสัน


 


พลังของเทพเจ้าสายฟ้านั้นเเข็งเเกร่งมาก เเต่พลังเหล่านั้นกลับถูกโอดินผนึกเอาไว้ โอดินเองก็เเก่เเล้ว เขาไม่เหมือนอดีตที่สามารถพิชิตโลกทั้งเก้าได้อีกครั้ง ที่โอดินเนรเทศธอร์ก็เพื่อให้เขาเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต พลังของธอร์นั้นเดิมย่อมเเข็งเเกร่งกว่าโอดิน โอดินตั้งใจจะให้ธอร์สืบทอดราชบัลลังก์ของเขา


 


ได้ยินเจตนาความตั้งใจของธอร์เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้นในทันที”ธอร์ ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะช่วยเหลือคุณ”


 


“ฮ่าฮ่า,อืม ก็พวกเราเป็นสหายกัน!”ธอร์ตบไล่เเจ็คสันด้วยรอยยิ้ม


 


“นอกจากนี้ ฉันรู้สึกว่าคุณเเตกต่างไปจากเดิมนิดหน่อย”หลังจากถึงรถยนต์ของเเจ็คสัน เเจ็คสัน จ้องมองไปที่ธอร์อย่างระวัง


 


“เเตกต่าง? เเตกต่างตรงไหน?”เห็นเเจ็คสันกล่าวพูดเช่นนี้ ธอร์รู้สึกประหลาดใจ


 


“ดูคุณอ้วนขึ้นเล็กน้อย?”เเจ็คสันพูดความจริง


 


ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงนี้เช่นเดียวกัน


 


“ไม่!”ธอร์ได้รีบขึ้นรถเเละปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ เขาเป็นชาวเเอสการ์ดเป็นเทพเจ้าสายฟ้า เเต่ตอนนี้ เขากำลังถูกไขมันโจมตีร่างกายอย่างหนักหน่วง จะไม่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะเขากินเเต่อาหารฟาสต์ฟู่ดที่โลก เเละมันเป็นสิ่งที่ธอร์ชอบมาก


 


“เอาเถอะ,ดูเหมือนคุณจะยังไม่ได้กินอะไร ไปที่บ้านลุงของฉัน ฉันคิดว่าบางทีคุณอาจจะชอบอาหารจีน”เเจ็คสันไม่ได้สนใจการปฏิเสธของธอร์ เขาได้ขึ้นรถเเละขับออกไป


 


“เช่นนั้นข้าจะได้กินฟรีใช่รึไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์กล่าวพูดได้อย่างไม่อายปาก


 


“เเค่ส่วนลด 20%”


 



 


เเจ็คสันขับรถจิ๊ปของเขาเพื่อพาธอร์ออกจากสถานีที่เเออัดเช่นนี้เพียงเเต่เเจ็คสันกลับไม่ได้สังเกตุเลยว่าเขากำลังโดนสะกดรอยตามอยู่ ซึ่งหากเเจ็คสันรู้ล่ะก็เขาจะต้องตกใจเเน่นอน เพราะ เธอคือ หวาง ซิน  หญิงสาวที่เขารู้จักจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ที่เป็นคนจากราชวงศ์สวรรค์


 


“ดูเหมือนเขาจะมานัดเจอใครบางคน?”มองดูรถจิ๊ปของเเจ็คสันกำลังเคลื่อนตัวออกไป หวาง ซิน กล่าวพูดขึ้น


 


ข้าง ๆ ของ หวาง ซิน ก็คือ หญิงสาวอีกคนนึง เธอคือ เฉิน เสี่ยวหลิง


 


“เขากำลังขับรถออกไปเเล้ว รีบตามไปเร็ว”เฉิน เสี่ยวหลิง กล่าวพูด


 


“เร็วเข้ารีบตามไป”หวาง ซิน เองก็พยักหน้าเห็นด้วย


 


จากนั้นทั้งสองคนก็หายตัวไป ตัวตนของพวกเธอนอกเหนือจากจะเป็นคนจากราชวงศ์สวรรค์แล้วบางทีสถานะของพวกเธอแท้จริงแล้วอาจไม่ใช่คนจากราชวงศ์สวรรค์ธรรมดา ๆ

 

 

 


ตอนที่ 267

 

เเจ็คสันได้พาธอร์ไปเลือกห้องเช่าอพาร์ทเมนท์ต่างสถานที่ ซึ่ง ธอร์ก็เลือกมาหนึ่งในนั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็วางเเผนจะไปยังร้านอาหารจีนที่ครอบครัวของเเจ็คสันเปิด


 


หลังจากจ่ายค่าเช่าห้องเสร็จธอร์ก็ขว้างข้าวของของเขาเข้าไปข้างในห้องเเละเดินออกมา หลังจากนี้เขาต้องมองหางานทำในนิวยอร์กเเห่งนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องเเละค่ากินอยู่ในชีวิตประจำวัน


 


“ไปกันเถอะ,ฉันรู้สึกหิวเเล้ว”หลังจากเคลียเรื่องห้องเสร็จ ธอร์ ก็ตะโกนบอก เเจ็คสัน


 


หลังจากวางเเผนรับประทานอาหารเสร็จ เเจ็คสัน จะช่วยเหลือ ธอร์ เรื่องการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน เเม้ว่าในห้องเช่านี้จะมีพวกเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เเต่ก็ยังขาดของใช้บางอย่างที่จะต้องซื้อ


 


“อืม,ไปที่ร้านอาหารกันเถอะ”ได้ยินเสียงธอร์บ่นหิวข้าว เเจ็คสัน กล่าวพูดขึ้นเล็กน้อย


 


“หิวโว้ยย..”ธอร์บ่นออกมาอย่างรุนเเรง ดูเหมือนหลังจากที่เขามาอยู่ที่โลกเเห่งนี้ นิสัยของเขาจะเปลี่ยนขึ้นเล็กน้อย


 


จากนั้นเเจ็คสันก็พาธอร์ไปที่ร้านอาหารจีนที่เป็นของครอบครัวลุงของเขา ตรงข้ามร้านอาหารดูเหมือนจะมีคนซุ่มมองสังเกตุการณ์พวกเขาอยู่”เป้าหมายได้ที่อยู่อาศัยเเล้ว”


 


“อืมเฝ้าระวังต่อไป”ปลายสายได้ตอบกลับ


 


การเคลื่อนไหวของธอร์เเน่นอนว่าทาง S.H.I.E.L.D. ย่อมจับตามองเขา เเจ็คสันเองก็รู้เรื่องนี้ดี เเต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงเเค่จัดสรรหาที่พักให้กับธอร์เพียงเท่านั้น


 


สำหรับสถานะของเเจ็คสัน ทาง S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร เพราะ เเจ็คสัน เป็นบุคคลพิเศษที่ทาง S.H.I.E.L.D. เฝ้าจับตามอง ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับโทนี่ สตาร์ก


 


ที่พวกเขาจับตามองธอร์นั้นเพราะธอร์เป็นเเขกจากต่างดาวสำหรับ S.H.I.E.L.D. เเล้วข้อมูลการเฝ้าระวังเเขกจากนอกโลกคนนี้สำคัญมาก เเต่พวกเขาก็ไม่ทำอะไรเปิดเผยมากเกินไป เพียงเฝ้าระวัง ธอร์ อย่างลับ ๆ เพียงเท่านั้น ดังนั้นธอร์จึงไม่ต้องกังวลอะไร


 


ธอร์เองก็ใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์เเห่งนี้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรเขาเองก็เริ่มจะปรับตัวได้ดี


 



 


“ไต้เหวิ่น,ท่านรู้ไหมว่าทำไม ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันถึงให้พวกเรามองหา มิราจไนท์?”ในขณะที่เเจ็คสันพาธอร์ไปทานอาหารที่ร้านอาหารของลุง ที่อารามคุ้มกัน พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวถาม พ่อมด ไต้เหวิ่น


 


“เรื่องนี้ไม่ชัดเจน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ทำอะไรย่อมมีเหตุผลที่ยากจะเหนือความคาดหมายของพวกเรา นอกจากนี้ มิราจไนท์ไม่ใช่คนธรรมดา บางทีปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน อาจจะมองเห็นบางอย่างในตัวของเขา”ได้ยินความสงสัยของ พ่อมดรุ่ยเคอ ,พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวตอบ


 


“ก่อนหน้านี้ที่เราเผชิญหน้ากับเทพปีศาจ ดูเหมือน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะค่อนข้างสนใจในตัว มิราจไนท์ อยู่พอสมควร”พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวเสริมอีกครั้ง


 


ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับเทพปีศาจ มิราจไนท์ ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตอนนั้น มิราจไนท์ ได้ผนึกกำลังรบร่วมกับโทนี่ ในการโจมตีสุดท้ายเพื่อช่วยเหลืพวกเขา การโจมตีของทั้งสองทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก ซึ่งมันเพียงพอที่จะผนึกกำลังทำให้เทพปีศาจในตอนนั้นอ่อนเเอลง


 


“เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่เเน่ใจเหมือนกัน เเต่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ว่าอย่างไร ก็ตามนั้น”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวตอบ


 


“อืม,เช่นนั้นพวกเราค่อยมองหาเขาภายหลัง”พ่อมดไต้เหวิ่น เองก็จนปัญญา เขาเองก็ไม่ทราบเหตุผลที่เเน่ชัด


 


“นอกจากนี้ ยังมีอีกคนนึงที่ฉันคาดว่าน่าสนใจ เช่น สไปเดอร์แมน”


 


“ท่านเอง รู้จักสไปเดอร์แมน?”


 


“มีใครบ้างไม่รู้จักสไปเดอร์แมน ตอนนี้ สไปเดอร์แมนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังมาเเรงในนิวยอร์กหากเทียบชื่อเสียงเเล้วเขากระทั่งเหนือนำกว่ามิราจไนท์”


 


“ถ้าวัดกันที่ด้านความเเข็งเเกร่งของเขากับมิราจไนท์บางทีอาจจะไม่สามารถประเมินได้ว่าใครเเข็งเเกร่งกว่ากัน”


 


“ชั่งเถอะ ถึงอย่างไร ฉันจะมองหาสไปเดอร์แมน.


 


“พ่อมด รุ่ยเคอ ไม่ใช่ว่าท่านทำเช่นนี้ เพราะเป็นเเฟนคลับของสไปเดอร์แมนหรอกกระมั้ง?”


 


พ่อมดรุ่ยเคอ”….”


 


เเน่นอนว่าทั้งสองคนย่อมตามหาตัวของมิราจไนท์ตามคำไหว้วานจาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเต่เพราะตัวตนของมิราจไนท์นั้นลึกลับมาก พ่อมด รุ่ยเคอ จึงเสนอการหาตัวสไปเดอร์แมน เพราะเขาพอรู้มาว่า มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน


 


“นอกจากนี้ ดูเหมือน ธอร์ จะเดินทางไปที่นิวยอร์ก? ถึงเขาจะถูกเเฟนสาวไล่ออกจากที่พัก ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้น”พ่อมดไต้เหวิ่น ตัดประเด็นก่อนหน้านี้ เเละ เข้าหัวข้อหลัก


 


“บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าพวกเราจำต้องไปตรวจสอบดูด้วยตาของพวกเราเอง”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวพูดตอบ


 


เพราะปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ไม่ได้ต้องการช่วยเหลือด้านที่พักของธอร์ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติตามหน้าที่ นอกจากนี้ การเฝ้าระวังธอร์ก็เพียงเพราะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือกันไม่ให้ธอร์สร้างอุบัติเหตุขึ้นที่โลกเเห่งนี้


 


“อืม,พวกเราควรไปดูเขาด้วยตาของตัวเอง”


 


“เช่นนั้นพวกเราก็มีโอกาสมองหาตัวสไปเดอร์แมนได้เหมือนกัน”ในขณะนั้นเองพ่อมดรุ่ยเคอ ก็กล่าวพูดฉีกยิ้มออกมา


 


ฟุ่บ!


 


พ่อมดไต้เหวิ่นไม่ต้องการหยอกล้อกับพ่อมดรุ่ยเคออีก เขาได้เเยกจากเข้าห้องของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาทั้งสองมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยของธอร์ เเละอีกเป้าหมายสำคัญก็คือมองหาตัวของมิราจไนท์


 


ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นมิราจไนท์มาก่อนเเต่เพราะข้อมูลของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ค่อนข้างลึกลับ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหาตัวมิราจไนท์พบหรือไม่


 



 


นอกจากเรื่องของธอร์ที่เลิกรากับเเฟนสาย เจน ฟอสเตอร์เเล้ว ก็ยังมีอิทธิพลอื่นที่เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งก็คือ ทีมX-Men ตั้งเเต่ได้รับมือกับอิทธิพลที่หนุนหลังฟรานซิสดูเหมือนช่วงนี้พวกเขาจึงปฏิบัติหน้าที่กันบ่อยขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้ของหลายฝ่ายเองก็ค่อนข้างชลมุน ดูเหมือนต่างฝ่ายจะต่างมีเเผนการลับที่เฝ้ารอวันระเบิดออกมา

 


ตอนที่ 268

 

นิวยอร์ก,ควีนส์ หลังจากจัดการปัญหาเรื่องของธอร์เสร็จเเจ็คสันได้กลับบ้านนอนพักผ่อน ในขณะนี้เขาได้จมดิ่งเข้าสู่จิตใจของเขา


 


“โอ้ !!!”ในจิตใจของเขาปรากฏเเต้มคะแนนจำนวนมากวิบวับอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาจากนั้นก็ส่งเสียงเเจ้งเตือนของระบบขึ้น


 


หลังจากที่เขาจัดการสไปเดอร์แมนเวน่อมได้ดูเหมือนเเจ็คสันจะประสบความสำเร็จในการทำเควสภารกิจลับที่ถูกซ่อนอยู่


 


เเละอีกภารกิจนึง เป็นเขาที่ได้จัดการเเยกเวน่อมเเละจัดการภัยคุกคามอย่างเทพมารเเละบรรลุถึงผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก / พ่อมด การประสบความสำเร็จเควสทั้งสองอย่างนั้นทำให้เเจ็คสันได้รับเเต้มรางวัลมากกว่า 80,000 เเต้มจุด มันเพียงพอที่จะให้เขากลายเป็นเศรษฐีที่สามารถใช้จ่ายได้อย่างสุรุ่ยสุร่ายในตอนนี้


 


ก่อนหน้านี้ที่เขาเป็นห่วงเรื่องอาการของ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์ณี่ เเจ็คสันไม่ได้สนใจข้อความของระบบที่เเจ้งเตือนเขา นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของธอร์เข้ามาอีก หลังจากเสร็จธุระทั้งหมดเขาจึงมีเวลาว่างเข้ามาดูข้อมูลเหล่านี้


 


“เเต้มคะแนน 80,000 แต้มจุด นี่มันค่อนข้างเยอะทีเดียว”เเจ็คสันมองไปที่เเต้มคะแนนจำนวนมากเเละบ่นพึมพัม โดยธรรมชาติเขาจะต้องเเบ่งใช้ในการเสียสละให้กับระบบ


 


“ชุดสูทภูติมายาของฉันได้เลื่อนระดับจนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจเเล้ว เเต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ฉันยังต้องการน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ อีก มันสามารถช่วยเหลือชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินได้”เเจ็คสันพิจารณาเกี่ยวกับรางวัลของเขาก่อนที่จะเเลกเปลี่ยน น้ำยาศักดิ์สิทธิ์มาก่อนสองขวด


 


“«ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ฉันก็ฝึกฝนมันมาพอสมควรเเละมันเป็นเพียงส่วนเเรก บางทีฉันอาจมองหาทักษะบ่มเพาะระดับสูงอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งในขั้นต่อไป”เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนทักษะ «ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ที่เป็นเนื้อหาส่วนสุดท้ายมา ในฐานะที่นี่เป็นทักษะระดับสูง เพียงเเค่ส่วนเเรกของ «ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ที่เขาฝึกฝน ก็ช่วยส่งเสริมให้เขารู้สึกเเข็งเเกร่งมากขึ้นเเล้ว


 


“ฉันควรส่งเสริมด้านศักยภาพความคล่องตัวของฉันด้วย”ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน คิดว่าความเร็วของเขายังคงไม่เพียงพอดังนั้นเขาจึงใช้เเต้มคะแนนอีก 5,000 เเต้มจุด เพื่อที่จะส่งเสริมศักยภาพความเร็วของเขา


 


“ยังเหลือเเต้มคะแนนมากกว่า 40,000 เเต้มจุด ฉันจะเเลกเปลี่ยนเป็นอาวุธดีรึไม่?”หลังจากเเลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องใช้เเล้ว เเจ็คสันได้พิจารณาถึงอาวุธ ดาบเก้าอสนีของเเจ็คสันในปัจจุบันก็ยังสามารถใช้งานได้ดี ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างลังเล


 


“ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่ควรคิดถึงมันตอนนี้ เเค่ดาบเก้าอสนีในตอนนี้ก็เพียงพอเเล้ว”เเจ็คสันได้ยกเลิกความคิดนี้ไปทันทีเพราะตามพิจารณาดาบเก้าอสนีของเขาเป็นอาวุธระดับ C หากเขาต้องการเเลกเปลี่ยนมันก็จะต้องเเลกเปลี่ยนอาวุธระดับที่สูงขึ้น ซึ่งมันจะต้องมีราคาเเพงมากขึ้นอย่างเเน่นอน


 


“ตอนนี้ฉันยังขาดอะไรอีก”เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาได้เเลกทักษะบ่มเพาะเพื่อฝึกฝนไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนด้านพละกำลังความเร็ว เขาได้คิดมันหมดเเล้ว สำหรับอาวุธเขาเว้นไว้ก่อน ตอนนี้ เขากำลังคิดถึงสิ่งอื่น ๆ อยู่


 


“ใช่,อุปกรณ์ป้องกันเวทมนตร์ เเม้ว่าอุบัติเหตุที่เผชิญหน้ากับเทพปีศาจในครั้งนั้นจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เเต่ฉันก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันที่ดี”


 


“ราคา 20,000?”เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนอุปปกรณ์ป้องกันเวทยมนตร์ระดับกลางสองรายการ เขาเองก็ค่อนข้างลังเล เเม้เขาจะมีคะแนน 80,000 เเต้มจุด ก่อนหน้านี้ เเต่พอหลังจากเเลกเปลี่ยนสินค้าคุณภาพสูงเเล้วมันทำให้เขาเหลือเเต้มคะแนนเพียงน้อยนิด


 


“อืม~~ เหลือเพียง 20,000 เเต้มจุด ฉันจะเสียสละมันให้กับระบบ เชื่อว่าคะแนน 20,000 เเต้มจุดนี้ ควรจะมีบทบาทสำคัญไม่มากก็ไม่น้อย”เเจ็คสันไม่ได้ทำการเเลกเปลี่ยนอะไรอีกเขาได้กวาดผ่านเลื่อนระบบร้านค้าออก


 


“ระบบ,ฉันจะต้องทำให้คุณฟื้นคืนชีพให้ได้”


 


“การไม่มีคุณเเนะนำมันทำให้ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเดินไปทางไหนดี!”เเจ็คสันได้โยน 20,000 เเต้มคะแนนของเขาไปที่เเท่นบูชาเพื่อฟื้นคืนชีพ


 


ภายใต้พลังงานของเเต้มคะแนนนั้นเเสงสีทองได้ลอยละลิ่วออกมาจากนั้นกลุ่มเเสงสว่างสีขาวก็ปรากฏขึ้นเเละมันสว่างมากขึ้นเล็กน้อย


 


“คุณคือ? ระบบ”เห็นเเสงสีขาวที่คุ้นเคยเเจ็คสันกล่าวถามอย่างระวัง


 


ฟุ่บ!


 


เพียงเเต่ภายใต้คำถามของเเจ็คสันกลุ่มก้อนเเสงสีขาวไม่ได้ตอบอะไรเพียงสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จะหายไปในเเท่นบูชาเหมือนเดิม


 


เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเเจ็คสันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย”ระบบ คุณมั่นใจได้ว่าฉันจะต้องพาคุณกลับมาไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”


 


เเจ็คสันได้กลับมาที่โลกเเห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เป้าหมายของเขาไม่เพียงเเต่เป็นการฟื้นคืนชพระบบ เเต่เขาเองก้ต้องการเเต้มคะแนนจำนวนมากเพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของเขา


 


ฟุ่บ!


 


เเจ็คสันได้เปิดเปลือกตาขึ้นเขาได้เด้งลุกจากเตียง เข้าเปิดคอมพิวเตอร์


 


ฟุ่บ!~~


 


เเจ็คสันได้เสียบเเผ่นฮาร์ดดิสก์บนคอมพิวเตอร์เเละกำลังศึกษาเรื่องบางอย่างอยู่หากคนธรรมดาทั่วไปเห็นก็ต้องคิดว่าเขาบ้าไปเเล้วเเน่นอน


 


“นี่เป็นเพียงเค่การออกแบบพิมพ์เขียวของเรือเหาะสงครามเพียงเท่านั้น ดูไปเเล้วความสามารถของมันท่าสามารถสร้างเจ้านี่ได้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันจ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์ด้วยสายตาระยิบระยับ เดิมเขาไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เเต่เขาต้องการสร้างเราะเหาะสงครามระดับ E นี้ให้เสร็จสมบูรณ์


 


เดิมเเจ็คสันไม่กล้าใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองในการตรวจสอบเรื่องแบบแปลนนี้ เพราะกลัว โดน S.H.I.E.L.D. ล้วงความลับจากคอมพิวเตอร์ของเขา เเต่พอทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้เเฮ็กเกอร์อัจฉริยะมาเเจ็คสันก็ได้ให้คนของเขาออกแบบไฟร์วอลล์ที่สามารถป้องกันการเเฮ็กเข้าคอมของเขาได้


 


“ของขวัญชิ้นนี้จะทำให้ โทนี่ ตกใจได้มากขนาดไหนกันนะ?”

 

 

 


ตอนที่ 269

 

เเม้ว่าเรือเหาะสงครามจะเป็นพาหนะระดับ E เเละไม่สามารถเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนระดับสูงได้ เเต่มันก็เป็นประเภทอาวุธสงครามที่สามารถบรรทุกคนออกไปนอกอวกาศเพื่อสำรวจดาวเล็ก ๆ ดังนั้นหากเทียบกันด้านความต่างของความสามารถถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอดเลยทีเดียว


 


ยิ่งไปกว่านั้นเรือเหาะสงครามระดับนี้สามารถกลายเป็นอาวุธหลักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งยังสามารถช่วยเหลือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกในปัจจุบัน


 


“นอกจากโทนี่ เเล้วคนที่จะสามารถสร้างเรือเหาะสงครามนี้ได้คงเเทบจะไม่มีเหลืออยู่ ถึงอย่างไรเรื่องนี้สมควรเป็นความลับ เพราะเรือเหาะสงครามไม่เหมือนกับไอรอนแมนที่สามารถสร้างแบบลับ ๆ ในใต้ดินห้องของโทนี่ได้ ถ้าเกิดจะสร้างมันจำต้องสร้างฐานลับระดับสูงขึ้นมาเพื่อซ่อนมันเอาไว้”เเจ็คสันมองไปที่แบบเเปลนพิมพ์เขียวออกแบบเเละกระซิบกับตัวเอง


 


หลังจากที่ถูกโลกิโจมตีในครานั้นเเจ็คสันมีความคิดที่จะกำจัดพันธมิตรที่ชั่วร้ายจากต่างโลก ดังนั้นเขาจะต้องสร้างสหัพันธ์โลกให้มีอิทธิพลที่เเข็งเเกร่งขึ้น เเจ็คสัน เข้าใจว่านี่คือโลกมาร์เวล ความคิดธรรมดาไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้ จักรวาลมาร์เวลนั้นเน้นไปที่การเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติที่มนุษย์ชาติจะล่มสลาย


 


เเต่การคิดนั้นง่ายกว่าการลงมือทำ ด้วยประสบการณ์ที่เผชิญหน้ากับการลงมือของโลกิ เเจ็คสัน ปราถนาความเเข็งเเกร่งสูงสุด เพราะเขาเชื่อว่าหากเขามีความเเข็งเเกร่งมากพอเขาย่อมสามารถรับมือกับโลกิได้ไม่อย่างยากเย็น ทั้งยังสามารถควบคุมเเละพัฒนาความเเข็งเเกร่งของโลกเพื่อเตรียมความพร้อมได้อีกด้วย


 


เเต่หากเเจ็คสันดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ แบบนี้ เขาไม่มีทางที่จะชนะโลกิได้ตลอดชีวิต ดังนั้น เเจ็คสัน จึงต้องขอยืมกำลังจากคนอื่น เฉกเช่น โทนี่ เขาต้องการความช่วยเหลือด้านการสนับสนุน ไม่เพียงเเต่การสนับสนุนด้านกองทัพ รวมถึงการสนับสนุนด้านทรัพยากร ต้องบอกว่าที่โทนี่เเข็งเเกร่งนั้นไม่ใช่เพียงเเค่ชุดเกราะไอรอนแมนของเขา เเต่มันเป็นมันสมองของโทนี่ต่างหากที่สุดยอด


 


เเจ็คสันต้องการพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตัวเองเเละคนในทีมของเขา ดังนั้น เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยของโลกิในอนาคต เเจ็คสันจะต้องสร้างเรือเหาะสงครามเเละมีลูกทีมที่เเข็งเเกร่งหลายคน เขาเชื่อว่าโลกิในอนาคตหากคิดจะทำอะไรย่อมต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง


 


นอกเหนือจากความคิดพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตัวเองเเละรับประกันความปลอดภัยของโลกเเล้ว เเจ็คสันก็ยังมีอีกความคิดนึงในใจ นั่นก็คือ ระบบ”เขาต้องการฟื้นคืนชีพระบบ”ช่วงเวลาที่เเจ็คสันอยู่ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้เขาได้เผชิญหน้ากับอันตรายมากมายเเต่ก็ผ่านมาได้ด้วยคำแนะนำจากระบบกล่าวได้ว่าข้อเเนะนำจากระบบนั้นสำคัญสำหรับเขา


 


ตอนนี้เเจ็คสันไม่สามารถคิดเหมือนคนธรรมดาได้อีก ตั้งเเต่ที่เขาเดินบนเส้นทางของ มิราจไนท์ ในการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เขาได้เข้าสู่ช่วงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับเควสเเละภัยอันตรายในรูปแบบต่าง ๆเเต่สิ่งเหล่านี้ ก็ช่วยให้เขาเพิ่มพูนประสบการณ์เเละเก็บเกี่ยวมันเป็นความรู้เพื่อเปลี่ยนเเปลงตัวเอง


 


ดังนั้นเขาจึงต้องการฟื้นคืนชีพระบบ เพื่อความอยู่รอดของเขาในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ เขาจะต้องดิ้นรนทำเควสภารกิจเเละปลดล็อคพล็อตเรื่องต่าง ๆ ที่เหนือการควบคุม ไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร มันเเตกต่างกับทุกสิ่งที่เขาเผชิญหน้าในโลกเดิมมาทั้งสิ้น


 


เเจ็คสันจะไม่ยอมเเพ้ต่อวิถีชีวิตเช่นนี้ หากเขามีความเเข็งเเกร่ง เขาย่อมสามารถปกป้องตัวเองเเละคนรอบตัวได้ เขาจะต้องเเข็งเเกร่งจนถึงขนาดที่ว่าโลกไม่เป็นอันตรายต่อเขา เเจ็คสันจะต้องสร้างโลกมาร์เวลของตัวเองขึ้นมา ไม่ใช่โลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยสงคราม เเต่เต็มไปด้วยความสงบสุข


 


เเจ็คสันจะนำพาอารยธรรมของมนุษย์โลกก้าวไปข้างหน้า เเละ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาหยุดยั้งความคิดนี้ของเขาได้


 


ชีวิตของเขาจะหลอมรวมเข้ากับโลกมาร์เวลเเละกลายเป็นตัวเขาที่สามารถปกครองได้ทุกสิ่ง การปกครองที่ว่านี่ไม่ใช่หมายความว่าเขาต้องการจะครองโลกเเต่หมายถึงทุกสิ่งไม่อาจอยู่เหนือภายใต้การควบคุมเเละความคิดของเขา


 


เพื่อที่จะสามารถจัดการกับภัยคุกคามที่มาในรูปแบบต่าง ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ทรัพยากร เเละ เงินทุน รวมถึงอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง


 


“เเม้ว่าฉันจะครอบครองสิ่งที่สุดยอดเเละทรงพลัง เเต่หากด้วยกำลังของฉันในตอนนี้คงไม่เพียงพอที่จะดึงประสิทธิภาพของมันออกมาใช้”จ้องมองไปที่พิมพ์เขยวเหล่านี้ เเจ็คสัน ได้ตัดสินใจดึงเเผ่นดิสก์ออกมาในที่สุด


 


เขาต้องการความร่วมมือจาก โทนี่ สตาร์ก ในการสร้างกองกำลังของตัวเอง อุดมการณ์ของเขาที่เข้าหาโทนี่ เหมือนกับ S.H.I.E.L.D. เพราะโทนี่ เป็นคนที่มีความพร้อมด้านการสนับสนุนทรัพยากรเเละเงินทุนมากที่สุด นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้


 


เเละอีกอย่างตัวตนของมิราจไนท์ในสายตาของคนหลายคนคือตัวตนที่ลึกลับเเละยากจะคาดเดา


 


เเม้เเต่S.H.I.E.L.D. ก็ยังไม่รู้ว่าสถานะที่เเท้จริงของเขานั้นเป็นใคร เพียงเเต่การมอบพิมพ์เขียวเรือเหาะสงครามนี้ให้กับโทนี่ ก็เหมือนกับการสร้างกองกำลังของตัวเองเเละลอบผลิตอาวุธอย่างลับ ๆ


 


เเจ็คสันจะต้องมีเบื้องหลังอิทธิพลที่ใหญ่มากพอที่จะมองข้ามอิทธิพลของประเทศ โทนี่เองก็มีส่วน เเต่โทนี่ ไม่ได้เป็นคนจากเจ้าหน้าที่รัฐ เห็นได้ชัดสำหรับเรื่องนี้ เพราะ ทางรัฐบาลเองก็ต้องการชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่


 


“เเม้ฉันจะตกลงเรื่องนี้เเละสามารถร่วมมือกับโทนี่ได้เเต่ใครกันจะช่วยสนับสนุนฉันอยู่เบื้องหลังเพื่อเฝ้าระวังอิทธิพลของทางประเทศ?”เเจ็คสันกล่าวออกมา


 


โทนี่ในตอนนี้อาจจะพอคาดเดาสถานะของเเจ็คสันได้เเล้ว เเละเขาไม่มีความจับเป็นที่จะต้องสนทนากับเเจ็คสันด้วยถ้อยคำไร้สาระเสมอ


 


“ดูเหมือนการลงมือทำบางอย่างเอง ก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน”เเจ็คสันนึกผ่านเส้นทางของซูเปอร์ฮีโร่ของเขา มันไกลมาก เเม้เเต่เขาตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ก้าวเดินไปบนเส้นทางนั้นก้าวหน้าเเค่ไหน


 


“เอาล่ะ ฉันจะลองไปพบโทนี่ ดูก่อนเเละค่อยตัดสินใจเรื่องนี้อีกที”เเจ็คสันได้ยอมเเพ้ต่อความคิดของเขาตอนนี้


 


จากนั้นเเจ็คสันก็วางเเผนจะเข้านอนเพื่อพักผ่อนช่วงก่อนหน้านี้เขาได้เผชิญหน้ากับ เวน่อมสไปเดอร์แมน เเละ กรีนก็อบลิน ทำให้ร่างกายเเละอารมณ์ของเขา รู้สึกเหนื่อยล้ามาก เเม้ตอนนี้ปัญหาจะได้รับการเเก้ไขไปเเล้ว เเต่เขาก็จะต้องไม่ลืมวิถีการใช้ชีวิตในชีวิตปกติของเขา

 

 

 


ตอนที่ 270

 

ในช่วงเย็นวันต่อไป,บาร์ ซิสเตอร์มากาเร็ต เเจ็คสันได้มาที่นี่กับธอร์เพื่อร่วมดื่มทั้งยังพูดคุยเรื่องการมองหางานให้ธอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งดื่มกันไปสองเเก้ว


 


“บรรยากาศของบาร์ที่นี่ค่อนข้างบรรเทิงนักมันให้ความรู้สึกราวกับข้าได้กลับไปเป็นนักรบชาวเเอสการ์ดอีกครั้งเหล้าที่นี่ก็ไม่ได้มีรสชาติที่เเย่เกินไป”ธอร์จ้องมองไปที่เหล่าทหารเเห่งโชคชตาเหล่านั้นเเละพูดคุยกับเเจ็คสัน


 


ในฐานะที่เขาเคยผ่านสมรภูมิรบของเเอสการ์ดมา จัดว่าธอร์ค่อนข้างเป็นมืออาชีพ ดังนั้นเขาจึงสรุปบรรยากาศที่นี่ได้ไม่อย่างยากเย็นเพราะบรรยากาศที่ร้านซิสเตอร์มากาเร็ตค่อนข้างดุเดือด มันค่อนข้างเข้ากับรสนิยมของธอร์ เเม้ว่าคนที่นี่จะไม่สามารถเทียบกับนักรบชาวเเอสการ์ดก็ตาม เเต่มันก็ให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงที่เขาเคยผ่านมาอีกครั้ง


 


สำหรับเเจ็คสันในความคิดของธอร์เดิมที เด็กคนนี้เป็นคนเเปลกหน้า ตั้งเเต่ที่เขาได้ตื่นขึ้นที่นิวเม็กซิโกในเมืองเล็ก ๆ เขาได้พบกับเเจ็คสัน เเละ ธอร์รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เเต่อย่างไรก็ตามหากดูผิวเผิน เเจ็คสัน ก็เป็นเพียงนักเรียนมัธยมธรรมดาคนของโลกนี้ เพราะเขาได้ซ่อนความเเข็งเเกร่งของตัวเองเอาไว้


 


เเจ็คสันได้พาธอร์มาที่นี่เพื่อระบายความเครียดของธอร์เเต่เเจ็คสันหารู้ไม่ว่าในสายตาของธอร์ตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเขา


 


“เเจ็คสัน,เจ้ามีความลับอยู่มากขนาดไหนกัน?ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้ถามเจ้าเเต่เจ้ากลับเหมือนรู้จักตัวข้าดี นอกจากนี้ราวกับว่าเจ้าเคยได้ยินชื่อเเอสการ์ดมาก่อนที่จะรู้จักกับข้า”เห็นเเจ็คสันนั่งยกเเก้วดื่มเบียร์ ธอร์ ที่อัดอั้นใจมานานได้กล่าวถาม


 


“เป็นความลับ”เเจ็คสันได้ผายมือตอบอย่างสบายใจ


 


“ความลับ?เเละความลับที่เจ้าว่าคืออะไร?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถามอีกครั้ง


 


“ความลับก็คือความลับ,ถ้าฉันบอกคุณมันจะใช่ความลับงั้นหรอ?”


 


“~~”


 


“เเต่ฉันจะบอกคุณเพียงเล็กน้อยเเล้วกัน ข้อมูลของโลกชาวเเอสการ์ดนั้น ใช่ว่าที่โลกของเราจะไม่มีข้อมูลเพียงเเต่ว่ามันเป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเท่านั้น”


 


“เช่นนั้นหมายความว่า?โลกของข้ากับโลกของเจ้ามีความเกี่ยวข้องกัน?”ได้ยินคำอธิบายของเเจ็คสัน ธอร์ เหมือนจะฉุดคิดขึ้นได้


 


เเม้ว่าโลกจะมีข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเเอสการ์ดเเต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธอร์ สำหรับธอร์ที่มีอายุตอนนี้มากกว่า 200 ปี เขาไม่ได้เกิดในช่วงเวลานั้น ดังนั้น การสนทนาที่น่าเบื่อนี้จึงได้จบลงอย่างรวดเร็ว


 


จากนั้นธอร์เเละเเจ็คสันก็พูดคุยกันถึงเรื่องของพวกเขา ซึ่งเเจ็คสันชื่อว่าเพื่อนของเขาคนนี้ค่อนข้างบ้าทีเดียว เพราะธอร์ได้โอ้อวดวีรกรรมของตัวเองในช่วงสงครามในช่วงขณะที่เขาเป็นนักรบชาวเเอสการ์ด สายตาที่เหล่าทหารเเห่งโชคชะตามองมาที่ธอร์นั้นให้ความรู้สึกยำเกรงเพราะด้วยรูปร่างเเละการวินิจฉัยจากประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขามันบ่งบอกว่าธอร์ไม่ธรรมดา


 


ซึ่งสำหรับเเจ็คสันเเล้วเเม้ว่าเขาจะฆ่าคนไปหลายคน เเต่สถานะของเเจ็คสันก็เป็นเพียงมนุษย์โลกเขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายโดยธรรมชาติ เหล่าทหารโชคชะตาในร้านบาร์มากาเร็ต มองเเจ็คสันเป็นเพียงเด็กน้อยคนนึง


 


เพียงเเต่ในขณะนั้นเองกลับมีกลุ่มคนจำนวนนึงได้เดินเข้ามา


 


“ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นเเล้ว!”เเจ็คสันได้วางเเก้วลงเเละบังเกิดความไม่สบายใจ


 


ในเวลานี้มีบุคคลสองคนเดินไปที่บาร์ที่วีสยืนอยู่


 


สองคนนี้คือชายเเละหญิง พวกเขาเหมือนกับทหารเเห่งโชคชะตามีร่างกายที่กำยำเเละดูเเข็งเเกร่ง ดูเหมือนเจตนาของพวกเขาที่มาในวันนี้จะไม่ได้มีเจตนาที่ดีนอกจากนี้ หญิงสาวคนนึงที่เเต่งตัวดูเย็นชาคนนั้นเเละเพื่อนชายที่ยืนอยู่หน้าสุดก็เป็นบุคคลที่เเจ็คสันค่อนข้างคุ้นเคย ซึ่งชายคนนั้นก็คือ ฟรานซิส ที่ เวด เกลียดชัง เเละ หญิงข้าง ๆ เขาก็คือ เเม่สาวอกโต สมุนคู่ใจของเขา


 


“ครั้งก่อนฟรานซิสเกือบจะถูกจัดการโดยเวดไม่คาดคิดว่าเขาจะดั้นด้นมาก่อปัญหาด้วยตัวเอง”เห็นฟรานซิสปรากฏตัวขึ้นเเจ็คสันกล่าวพูดในใจ


 


เห็นลักษณะท่าทีของเเจ็คสันที่เเปลกไปธอร์รู้ได้ทันทีว่าคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นเขาได้วางเเก้วเหล้าของตัวเองเเละมองไปที่ด้านหน้าบาร์


 


เเจ็คสันจ้องมองไปที่ฟรานซิสที่เดินก้าวไปข้างหน้าเเละกำลังเผชิญหน้ากับวีส


 


“ฉันพอจะได้ยินมาว่านายพอจะรู้จักเพื่อนของฉันคนนึง เขาชื่อว่า เวด วิลสัน นายพอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหนตอนนี้?”ฟรานซิสกล่าวถาม วีส ด้วยอารมณ์ขันเล็กน้อย


 


เห็นฟรานซิสเเละพรรคพวกของมันมาที่นี่ วีส กลายเป็นกังวล เขาจะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใครได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ยอมขายเพื่อนตัวเองเด็ดขาด


 


“เวด วิลสัน? ฉันไม่เคยได้ยินเลย”วีส กล่าวตอบ ฟรานซิส เเม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ธรรมดา เเต่จิตใจของเขาเเน่วเเน่ที่จะไม่ทรยศเพื่อน


 


ได้ยินคำตอบของ วีส ฟรานซิสได้ทำท่าทางบางอย่างซึ่งบ่งบอกให้ เเม่สาวอกโตเคลื่อนไหว ไปข้างหน้าเเละเข้าไปที่บาร์


 


“เฮ้,พวกคุณไม่สามารถเข้ามาพื้นที่ตรงนี้ได้”เผชิญหน้ากับพรรคพวกของฟรานวิสเเละเเม่สาวอกโต วีส กล่าวพูดขึ้น อย่างไรก็ตามบาร์นี่ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาจะไม่ถอยหลังเด็ดขาด


 


ปั้ง!


 


เเม่สาวอกโตเดินไปที่ด้านหลังของเขาก่อนที่จะหยิบรูปใบนึงขึ้นมามันเป็นรูปของวาเนสซ่าที่ถ่ายคู่กับเวด


 


“ฉันเหมือนจะจำผู้หญิงคนนี้ได้”เเม่สาวอกโตกล่าวพูดกับฟรานซิส


 


“อืม,ฉันคิดว่านี่คือวาเนสซ่าอย่างเเน่นอน”ในมือถือรูปใบนึงของวาเนสซ่า เเละ ฟรานซิสก็ได้พูดขึ้น


 


ปั้ง!


 


จากนั้นเเม่สาวอกโตก็ยกคอของวีสขึ้นเเละซัดเข้ากับกำเเพง


 


ฟุ่บ!


 


อย่างไรก็ตามภายใต้การกระทำของเเม่สาวอกโตใบหน้าของเหล่าทหารเเห่งโชคชะตาทั้งหมดที่อยู่ในบาร์ได้ดึงปืนออกมาชี้ไปที่พวกฟรานซิส ที่นี่คือ บาร์มากาเร็ต เเละ วีส เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเขา หากคิดจะหาเรื่องวีสก็ต้องผ่านพวกเขาไปก่อน


 


“เฮ้,ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเธอจะมาทำเป็นกร่างนะ!”วีสที่ถูกยกตัวขึ้นได้มองไปที่เเม่สาวอกโตเเละกล่าวเตือน


 


เผชิญหน้ากับการจ้องมองเเละเล็งปืนจำนวนหลายสิบกระบอกมาที่เขา ฟรานซิสคิ้วกระตุกเล็กน้อยเเละพูดขึ้น”เย็นไว้ เเองเจิล เราได้ของที่เราต้องการเเล้ว”


 


ฟุ่บ!


 


ได้ยินคำพูดของฟรานซิส เเม่สาวอกโต ได้วางวีสลงเเม้ว่าพวกเขาจะเเข็งเเกร่ง เเต่การเผชิญหน้ากับทหารเเห่งโชคชะตาที่มีปืนหลายกระบอกเพ่งเล็งมาที่พวกเขา พวกเขาก็ไม่อาจประมาทได้ดังนั้น ฟรานซิส จึงได้หยิบรูปใบนั้นกลับไป


 


“เเน่ใจหรอ,ไม่อยากได้เสื้อผ้าสีอื่นบ้างหรอ พ่อรูปหล่อ?”เห็นฟรานซิสกำลังจะเดินออกไป วีส กล่าวเตือนเล็กน้อย


 


ฟรานซิสจ้องมองไปที่วีส เเละยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากบาร์ไปพร้อมกับเเม่สาวอกโต


 


“ขอบคุณที่ช่วยกันนะพี่น้องทั้งหลาย!”เห็นเพื่อนทหารเเห่งโชคชะตาช่วยเหลือเขา วีส รีบกล่าวขอบคุณก่อนที่จะรีบโทรหาเวด”เวด,งานเข้าเราเเล้วว่ะพวก, ~ ~เราที่ว่าฉันหมายถึงเเก!”


 


 

 

 


ตอนที่ 272

 

เเจ็คสันได้ตื่นขึ้นมาเขาเห็นภาพเพื่อนร่วมงานในอดีตของเขา เขา มีเชื่อว่า หวาง เหมิน เเต่เเจ็คสันชอบเรียกเขาว่า เสี่ยวหยา ความสัมพันธ์ของเเจ็คสันกับเขาเป็นเพื่อนร่วมงานกันในบริษัทเเห่งนึง เเละ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เสี่ยวหยา เเต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน เขาตื่นขึ้นมาพบเพื่อนร่วมงานของเขา หรือทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นเพียงความฝัน เขาคิดว่ามันไม่ถูก


 


“หวาง เหมิน,ฉันไม่ได้นอนเสียหน่อย นี่เป็นเวลาทำงานฉันจะนอนหลับได้ยังไง?”เเจ็คสันได้ขับไล่ความพร่ามัวในใจเเละตอบกลับ


 


“ไม่ได้นอน?ฉันเห็นว่านายกำลังนอนหลับฝันดีอยู่!’ได้ยินคำพูดของ หลินรุ่ย หวางเหมิน กล่าวตอบอย่างไม่สบอารมณ์


 


เเจ็คสันต้องการอธิบายเหตุผลบางอย่างเเต่ดูเหมือนศีรษะของเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก


 


“ความฝัน? นี่เป็นความฝันงั้นหรอ?”เเจ็คสันมองไปที่ หวางเหมิน อีกครั้ง ในขณะนั้นเองภาพเงาเบื้องหน้าก็เริ่มเลือนลางขึ้นเรื่อย ๆ


 


“หลินรุ่ย,นายเป็นอะไร?”เห็นการเเสดงออกของหลินรุ่น หวางเหมิน กล่าวถามด้วยความสงสัย


 


“เเท้จริงเเล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ไม่สิ ตอนนี้ฉันควรจะตื่นขึ้นถึงจะถูก!”เห็นหวางเหมิน กล่าวถามเขา เเจ็คสันตะโกนพูดออกมา


 


“นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย?”


 


“ตื่นเดี๋ยวนี้!”เเจ็คสันไม่ได้สนใจคำพูดของหวางเหมิ่น เขาตะโกนออกมาอย่างดุร้าย


 


ฟุ่บ!


 


พริบตาเดียวความผันผวนที่น่ากลัวในจิตวิญญาณของเขาก็ได้ทำลายภาพมายาเบื้องหน้าเเตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดูเหมือนภาพลวงตาเหล่านี้ตั้งใจจะกลืนกินเเจ็คสัน


 



 


ในคืนที่มืดมิดเเจ็คสันได้นอนอยู่ที่นอกบาร์มาร์กาเร็ต ที่ด้านข้างของเขามีชายเเละหญิงนั่งยอง ๆ อยู่ที่ข้างเขา หญิงสาวคนนั้นมีผมสีเเดง เขากำลังยื่นมือมาจับศีรษะของเเจ็คสัน ส่วน ชายคนนั้นมีผมสีเงิน ลักษณะท่าทีของเขาค่อนข้างเย็นชา


 


เเจ็คสันจำได้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับฟรานซิสอยู่เเละถูกการโจมตีลึกลับเล่นงานเข้า เเละพริบตาต่อมาเขาก็เห็นชายหญิงคู่นี้ปรากฏตัวขึ้น เเต่เเจ็คสันไม่ประคองสติของเขาเพื่อสั่งการร่างกายให้ขยับได้


 


ฟุ่บ!


 


หญิงสาวผมสีเเดงได้ยื่นมือไปจับที่ระหว่างศีรษะของเเจ็คสัน ดูเหมือนเธอกำลังทำบางอย่างอยู่


 


“แวนด้า? ยังจัดการไม่ได้อีกหรอ?”เห็นน้องสาวของตัวเองยังไม่สามารถจัดการได้ ชายหนุ่มผมสีเงินกล่าวถามอย่างทนไม่ได้


 


“อืม,เปโตร ดูเหมือนการป้องกันทางจิตวิญญาณของเพื่อนคนนี้จะเเข็งเเกร่งมาก เเต่ฉันได้ทำให้เขาตกอยู่ในภาพมายาเเห่งฝันเเล้ว เเต่ถ้าหากคิดจะควบคุมเขาเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย”เห็นพี่ชายของตัวเองกล่าวบน คนที่ถูกเรียกว่า เเวนด้า ได้กล่าวตอบ


 


ในขั้นต้นทั้งสองมีสีผมที่เเปลกประหลาด พวกเขาคือพี่น้อง ชายหญิง ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อที่พวกเขาเรียกขานกัน เหมือนกับ มิวแทนท์ตัวละครที่สำคัญในโลกมาร์เวล สการ์เล็ต วิทช์ เเละ ควิกซิลเวอร์ เปโตร เเจ็คสันได้ตอบสนองเเละเข้าใจได้ทันทีการโจมตีกระทันหันที่รวดเร็วนั้นคงเป็นฝีมือของ ควิกซิลเวอร์ เเละ การโจมตีภาพลวงตา ก็คือการโจมตีจาก สการ์เล็ต วิทช์  ดูเหมือนจิตวิญญาณของเขากำลังถูกรบกวนโดยเธอ


 


สการ์เล็ต วิทช์  ต้องการควบคุม เเจ็คสันให้ตกอยู่ภายใต้ภวังเเห่งภาพลวงตา เเต่เเล้ว จิตวิญญาณที่น่าเกรงขามก็ถูกปลดปล่อยเข้าหาจิตใจของ สการ์เล็ต วิทช์


 


“ไม่ดีเเล้ว!”รู้สึกถึงพลังจิตที่น่าเกรงขาม เเวนด้า ตะโกนขึ้นอย่างไม่เต็มใจ


 


ฟุ่บ!


 


จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนเเละถอยห่างจากเเจ็คสัน


 


ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถบ่งการเเละควบคุมเเจ็คสันได้ ในขณะเดียวกัน เเวด้า ก็เตือน ควิกซิลเวอร์ ให้เตรียมพร้อมรับมือ เเต่เเล้วเเจ็คสันกลับไม่มีท่าทีตอบสนองซึ่งมันทำให้ ควิกซิลเวอร์ รู้สึกสับสน


 


“หรือว่าเขาถูกพลังจิตรบกวนมากเกินไปจนเกิดอาการมึนงงอยู่?”ภายใต้การจ้องมองของพี่ชายตัวเอง เเวนด้า กล่าวพูดขึ้นอย่างไม่ชัดเจน


 


“เช่นนั้น เธอสามารถควบคุมเขาต่อได้รึไม่?”ได้ยินคำพูดของน้องสาวตัวเอง ควิกซิลเวอร์ กล่าวถามเล็กน้อย


 


“เเต่ฉันสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่ปะทุขึ้นอย่างรุนเเรง มันเป็นเขาไม่ผิดเเน่ ฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้”เเวนด้าสั่นศีรษะอย่างรวดเร็ว


 


“ไม่สามารถควบคุมเขา?เช่นนั้นเราจะจับเขาไป บางทีเราอาจสามารถเก็บเกี่ยวบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเขาได้”เนื่องจาก น้องสาวของเขาไม่สามารถควบคุมคนคนนี้ได้ ดังนั้น ควิกซิลเวอร์ จึงได้กล่าวพูดออกมา


 


“เดี๋ยวฉันจะลองตรวจสอบดูอีกครั้งให้เเน่ใจว่าเขาหมดสติอยู่รึไม่”ได้ยินคำพูดเหลวไหลของพี่ชาย เเวนด้า เดินเข้าไปหาเเจ็คสันอีกครั้งเเละเริ่มปล่อยพลังจิตของตัวเอง


 


ฟุ่บ!


 


เพียงเเต่หลังจากผ่านไปหลายวินาที เเวนด้าก็พูดขึ้น


 


“ดูเหมือนเขาจะหมดสติอยู่จริงจริง”


 


“เราได้ออกมาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ ไม่คาดคิดว่าจะได้รับปลาตัวใหญ่กลับไป”ควิกซิลเวอร์ กล่าวพูดขึ้นเขาจ้องมองไปที่เเจ็คสัน


 


“เพื่อนคนนี้ไม่ง่ายต่อการจัดการเราควรระวัง นอกจากนี้ เพื่อนคนนี้คงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับทีม X-Men เพราะไม่งั้นเขาคงไม่ลุยเดี่ยวแบบนี้”


 


สการ์เล็ต วิทช์  กล่าวบอกพี่ชายของเธอ


 


“ไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะเเข็งเเกร่งมากขนาดไหนเขาก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนโง่ที่คิดว่าตัวเองเเน่ที่ชุด คิดจะต่อกรกับพวกเราทั้งคู่ เหอะ ไม่ตลกไปหน่อยหรือไง?”เปโตร ยิ้มอย่างเหยียดหยาม


 


“เปโตร พี่คิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องเเล้วงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของ พี่ชาย สการ์เล็ต วิทช์ กล่าวพูดขึ้น


 


“เเวนด้า ในโลกนี้ ล้วนไม่มีความผิด มันขึ้นอยู่กับมุมมองเเต่ละบุคคล เเละสถานการณ์มันบีบบังคับให้เราไม่มีทางเลือก”เห็นเเวนด้ากังวล เปโตร กล่าวปลอบเธอ


 


“อืม,เอาล่ะภารกิจคืนนี้ก็สำเร็จเเล้วกลับกันเถอะ”เห็นว่าพวกฟรานซิสจากไปเเล้ว เปโตร กล่าวพูดโดยไม่สนใจเเวนด้า


 


ควิกซิลเวอร์ได้แบกแจ็คสันจากไปพร้อมกับสการ์เล็ต วิทช์ พวกเขาได้รับภารกิจให้เฝ้าระวังทีม X-MEN และ ตามหาตัว เดดพูลแต่การปรากฏตัวของ มิราจไนท์ ชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุ


 


ตอนนี้มิราจไนท์ถูกแบกไปโดยพวกเขา แน่นอนว่าภารกิจ ตามหา วาเนสซ่า และ เดดพูล สามารถทำได้ภายหลัง ภายใต้การชักนำของพวกฟรานซิส


 


ธรรมชาติฟรานซิสได้เตรียมตัวพร้อมสำหรับการป้องกันตัวเองแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คาดคิดว่ามิราจไนท์จะปรากฏตัวขึ้น

 

 

 


ตอนที่ 273

 

ตึก ตึก !!


 


ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ได้คว้าเเจ็คสัน เดินทางออกไปนอกเขตเมืองนิวยอร์ก การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมากภาพจากกล้องวงจรปิดในนิวยอร์กล้วนไม่สามารถมองเห็นได้ชัด


 


“เวรเอ้ย,ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ถึงปรากฏตัวขึ้นได้ หรือว่า เเท้จริงเเล้วอิทธิพลที่หนุนหลังฟรานซิสอยู่คือองค์กรไฮดร้า!?”เเจ็คสันในอาการมึนงงเขาที่ถูกเเบกโดยควิกซิลเวอร์ได้กำลังท้อเเท้อย่างมาก เมื่อครู่นี้สติของเขาได้ถูกปลุกโดยภาพลวงตาของ สกาเล็ต วิช อย่างไรก็ตาม ความสามารถด้านพลังจิตของศัตรูนั้นสูงมาก เขาจึงได้เเต่เเกล้งหมดสติเช่นนี้ต่อไป ธรรมชาติสถานการณ์ในปัจจุบันเขาล้วนตื่นตระหนกอย่างเเท้จริง


 


สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ตอนนี้ พวกเขายังไม่รู้ว่าเเจ็คสันได้ตื่นขึ้นมาเเล้วเพราะเเจ็คสันได้เเกล้งหมดสติต่อไปโดยทำเป็นไม่สนใจทั้งสองคน


 


ความเเข็งเเกร่งของ ควิกซิลเวอร์ นั้นรุนเเรงมาก ซึ่งเเม้เเจ็คสันจะใช้เทคนิครู้เเจ้งของเขาก็เพียงตระหนักได้ถึงเงาราง ๆ ที่พุ่งเข้ามา เเต่การตอบสนองของเขาล้วนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เเจ็คสันเคยดูภาพยนตร์ของมาร์เวล เกี่ยวกับ ความสามารถของ ควิกซิลเวอร์ ซึ่งความสามารถของควิกซิลเวอร์นั้น คือความเร็ว นี่เป็นเอกลักษณ์ของเขา


 


ยิ่งไปกว่านั้น ควิกซิลเวอร์ยังได้ลอบโจมตีเเจ็คสันทีเผลอเพราะคิดว่าเเจ็คสันไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีของตัวเองได้ทัน ความเร็วระดับสูงสุดของควิกซิลเวอร์ เเจ็คสันในตอนนี้ไม่สามารถใช้ความเเข็งเเกร่งของชุดสูทภูติมายาในการต้านทานได้


 


สำหรับ สกาเล็ต วิช ความสามารถของเธอ ทำให้จิตใจของเเจ็คสันรู้สึกบีบรัด เพราะเธอได้สร้างภาพลวงตาเพื่อที่จะสะกดจิตเเละควบคุมเขา หากเเจ็คสัน ดื่มด่ำไปกับภาพลวงตานั้นในโลกเเห่งความเป็นจริงเขาก็จะไม่ตื่นขึ้นตลอดกาล


 


เเต่เพราะเขาตระหนักได้ทันจึงได้สะท้อนความสามารถของ สกาเล็ต วิช กลับไป ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถควบคุมเเจ็คสันได้ เเต่พลังจิตของเธอก็จัดว่าเป็นพลังที่น่าเกรงขามอยู่ดี


 


เเจ็คสันในตอนนี้ไม่กล้าประมาทผู้ใช้ความสามารถด้านพลังจิต เพราะตอนนี้เขายังมีการป้องกันด้านนี้ไม่พอ เเจ็คสันรู้ตัวดีว่าในโลกมาร์เวลเเห่งนี้เขาจะต้องพบเจอบุคคลที่เเข็งเเกร่งมากมาย เพราะแบบนั้นเขาถึงได้พยายามฝึกฝนตัวเองจนหนักหน่วง เเต่ดูเหมือนมันยังคงไม่เพียงพอต่อการรับมือเรื่องทั้งหมด


 


“ถ้าควิกซิลเวอร์พาฉันหลบหนีออกไปทั้งแบบนี้ พวกปีเตอร์ ก็จะไม่สามารถตามรอยของฉันได้ หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นกังวล”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความเร็วของ ควิกซิลเวอร์ที่กำลังวิ่งอยู่ เขาไม่สามารถอดทนได้


 


เเท้จริงเเล้วภายใต้การโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ เขาเองก็รู้ตัวก่อนหน้านี้ว่าฟรานซิสอาจจะมีกองกำลังสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงให้ สกาย’อาย คอยเฝ้าระวังเอาไว้ เเต่สิ่งที่เเจ็คสันไม่คาดเดาก็คือการปรากฏตัวของสองตัวละครหลักที่ปรากฏตัวขึ้นลอบจู่โจมเขา


 


การปรากฏตัวขึ้นของทั้งสองทำให้เเจ็คสันอยู่ในสภาพย่ำเเย่เเละตอนนี้เขากำลังเดินทางออกจากเขตพื้นที่นิวยอร์ก เเม้ว่า สกาย’อาย จะสามารถติดตามเขาได้ เเต่มันก็คงใช้เวลาพอสมควรกว่าจะระบุตำเเหน่งที่เเน่ชัด


 


ฟุ่บ!


 


ไม่รู้ว่าภายใต้คำวิงวอนของเเจ็คสันมีผลหรืออย่างไร ดูเหมือน ควิกซิลเวอร์ จะเริ่มเหนื่อย หลังจากไปถึงเขตชานเมืองของนิวยอร์ก ความเร็วของของเขาได้ช้าลงมาก


 


“อีกไม่นานหรอกที่เราจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้”ควิกซิลเวอร์ที่เเบกเเจ็คสันอยู่ ดูเหมือนเขาจะกล่าวพูดกับ สกาเล็ต วิช


 


“อืม”สกาเล็ต วิช เเวนด้า กล่าวตอบ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่


 


“แวนด้า ฉันรู้ว่าเธอค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรา ฉันสัญญาเลยว่าอีกไม่นานพวกเราจะออกจากองค์กรเเละเดินตามวิถีชีวิตในแบบพวกเรา”


 


“พวกเขาจะไม่สามารถหาเราพบอีกตลอดกาล”ควิกซิลเวอร์รู้ว่า สกาเล็ต วิช เป็นกังวลเรื่องอะไร


 


“เปโตร พี่คิดว่า เราจะมีวันที่จะอยู่แบบสงบสุขอย่างที่หวังจริงจริง งั้นหรอ?”สกาเล็ต วิช กล่าวตอบด้วยความไม่เชื่อมั่น


 


“มันจะต้องมีเเน่นอน”ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง


 


“ดูเหมือนว่าที่ พี่ชายเเละน้องสาวคนนี้ ทรยศพันธมิตรอเวนเจอร์ส จากเรื่องภาพยนตร์มาร์เวล เเท้จริงเเล้วฉันพอจะทราบสาเหตุ ดูเหมือนพวกเขาก็ไม่ใช่คนไค้ศีลธรรมไปทั้งหมด”เเจ็คสันที่เเกล้งหมดสติเขาได้ยินเสียงพี่น้องทั้งสองสนทนากัน


 


ดูเหมือนทั้งสองคนตั้งใจจะหลบหนีเเละไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนคนธรรมดาปกติ การคิดของ ควิกซิลเวอร์นั้น เเน่นอนว่ามันง่ายเกินไป คนมีความสามารถเช่นพวกเขา เเม้องค์กรไฮดร้าจะถูกทำลาย, S.H.I.E.L.D. ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาไปใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา โดยเฉพาะนิค เขามีเเผนที่จะรับคนมีความสามารถเข้าทีมอเวนเจอร์สของเขา


 


“เเต่ในหนังภาพยนตร์พี่น้องคู่นี้ เป็นสาวกของเเมกนีโต ในชีวิตจริงตอนนี้ไม่ทราบว่าสถานะของพวกเขายังเหมือนเดิมอยู่หรือไม่ เเต่ดูเหมือนพวกเขาจะทำงานให้กับองค์กรไฮดร้าไม่ผิดเเน่”


 


หนึ่งในตัวละครสำคัญ เเมกนีโต นี่เป็นคนที่เเจ็คสันให้ความสนใจ เพราะคนคนนี้จัดว่าเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่ง


 


“หวังว่าเเมกนีโต จะไม่มีความสัมพันธ์กับองค์กรไฮดร้า ไม่งั้นคงเป็นเรื่องยุ่งยากน่าดู”เเจ็คสันคาดหวังเช่นนี้


 


ฟุ่บ!


 


ในขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดในใจ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช  ก็ได้เดินทางมาถึงตรงทางเเยกก่อนที่จะหยุดเคลื่อนไหว ด้านหน้าของพวกเขาปรากฏรถยนต์สองคัน


 


ฟุ่บ!


 


ประตูรถคันนึงได้เปิดขึ้นรับ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช  หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เเจ็คสันก็ถูกโยนไปที่เบาะหลังของรถยนต์


 


หลังจากถูกโยนเข้าไป เเจ็คสันคิดว่าเรื่องนี้สมควรไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การเคลื่อนไหวของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช พวกเขาสมควรได้รับมอบหมายภารกิจมา


 


บรื้นน


 


เสียงเครื่องยนต์ทั้งสองคันของรถได้ถูกสตาร์ทขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะเเล่นออกไปทางชานเมืองนิวยอร์ก


 



 


บาร์มากาเร็ต ธอร์ กำลังนั่งดื่มเหล้า เเละพลางคิดเรื่องของเเจ็คสันอยู่ เเม้เเจ็คสันจะบอกให้ธอร์ไม่ต้องรอเขา เเต่ธอร์กลับไม่ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ เขาไม่กล้าขับรถออกไปข้างนอก ดังนั้นธอร์จึงรออยู่ที่นี่มาสักพัก เเละดูเหมือนว่าเเจ็คสันจะยังไม่กลับมา


 


เมื่อมองไปที่ทางเข้าหน้าบาร์ ธอร์ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้ออกไปเพื่อจะไปคลี่คลายปัญหากับกลุ่มคนที่เข้ามาในร้าน ธอร์กังวลว่าเเจ็คสันจะไม่สามารถรับมือกับกลุ่มคนเหล่านั้นได้ เเละด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาคิดว่า บาทีเเจ็คสันอาจประสบอุบัติเหตุบางอย่าง


 


ดังนั้นธอร์จึงโทรศัพท์ออกไปที่หมายเลขของเเจ็คสัน


 


“ตู๊ดด ตู๊ดด หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ~~”เสียงโทรศัพท์

 

 

 


ตอนที่ 274

 

ตู๊ดด ตู๊ดด ~


 


“ทำไมโทรไม่ติด? หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ ?”เห็นโทรศัพท์ไม่สามารถต่อสายได้ ธอร์ ทำสีหน้าเหยเก ทันที


 


“เช่นนั้นข้าจะจอดรถเอาไว้ที่นี่ล่ะกัน หวังว่ารถของเขาจะไม่หายไป”เเม้ในใจของธอร์จะปรากฏลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น เเต่ธอร์ในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาได้เดินออกไปนอกร้าน


 


ในขณะที่ธอร์กำลังกังวล ขณะเดียวกัน สกาย’อาย ก็กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เพื่อตามหาสัญญาณของมิราจไนท์ที่หายไป


 


“สไปเดอร์แมน! สัญญาณของ มิราจไนท์ เพื่อถูกตัดไปเมื่อไม่นานมานี้ คุณควรจะรีบเร่งอีกหน่อย!”ภายใต้ความกังวล สกาย’อาย ได้กล่าวเตือนสไปเดอร์แมน


 


หลังจากที่เเจ็คสันเข้าไปในรถยนตร์ดูเหมือนสัญญาณของเขาจะถูกปิดกั้นไปเเล้ว ซึ่ง สกาย’อาย ได้ส่งตำเเหน่งล่าสุดของ มิราจไนท์ ให้กับ สไปเดอร์แมน


 


“ฉันใกล้จะถึงเเล้ว,คุณสตาร์กได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาช่วยหรือไม่?”ปีเตอร์ที่กังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของเเจ็คสัน เขากล่าวขึ้นอย่างเร่งรีบ ตั้งเเต่รู้ว่าสถานะเเท้จริงของมิราจไนท์เป็นใคร ปีเตอร์รู้สึกกังวลอย่างมาก ตอนนี้ เเจ็คสันได้ถูกใครบางคนโจมตีเเละสัญญาณของเขาขาดหายไป ปีเตอร์ ได้ให้ สกาย’อาย ติดต่อกับ โทนี่ ขอให้เขาส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาช่วย


 


“อืม,ดูเหมือนคุณสตาร์ก เองก็รู้สึกทุกข์ร้อนเหมือนกัน”เห็นสไปเดอร์แมนกล่าวถึงโทนี่ สกาย’อาย ได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือ โทนี่ เเละดูเหมือนโทนี่จะส่งชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 30 ตัวไปยังตำเเหน่งที่ มิราจไนท์หายตัวไป


 


“ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว?”หลังจากเห็นตัวเลขบนจอเรดาห์ สกาย’อาย ครุ่นคิดกับตัวเองทันที การทุ่มกำลังขนาดนี้ไม่ต่างจากการทำสงครามโลกก็มิปาน


 


“30 ตัว? ดูเหมือนว่าคุณสตาร์กจะกังวลกับมิราจไนท์เหมือนกัน ดี ฉันได้มาถึงตำเเหน่งสัญญาณที่ขาดหายไปเเล้ว เเต่ฉันไม่พบเจอใครในบริเวณนี้”ปีเตอร์ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย เเต่ท้ายที่สุดเขาก็กลับมาเป็นปกติ


 


“มิราจไนท์ คุณอยู่ไหน?”ปีเตอร์ ตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว


 


“จากการตรวจสอบล่าสุด ดูเหมือน มิราจไนท์ จะอยู่บนตำเเหน่งรถสองคัน หลังจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป ทิศทางที่ไปนั้นไม่เเน่ชัด เเต่ตอนนี้ เขาอาจจะมุ่งหน้าไปได้ไม่ไกลนัก”สกาย’อาย ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบหารถยนต์ สองคันเเละกล่าวบอก ปีเตอร์


 


“ฉันจะลองมองหาเเถวนี้ดูก่อน!”ปีเตอร์ได้เลือกหาพื้นที่ทิศทางเพื่อที่จะมองหารถยนต์ดังกล่าว


 


ฟุ่บ!


 


ปีเตอร์ได้ฉายใยเเมงมุมไปที่ตึกสูงด้านหน้าอีกครั้ง


 


อย่างไรก็ตามในขณะที่ปีเตอร์กำลังฉายใยเเมงมุมเพื่อสังเกตุการณ์เขากลับมองเห็นร่างเงาที่มองเห็นไม่ชัดนั่นคือ ควิกซิลเวอร์ หากมองด้วยสายตาธรรมดาย่อมไม่สามารถที่จะจับการเคลื่อนไหวได้ทัน เเต่เพราะปีเตอร์มีสัญชาตญาณเเมงมุมในตัวทำให้เขาได้เปรียบในการสังเกตุเห็น


 


เงาร่างนั้นได้พุ่งตรงมาที่เขา ซึ่งสัญชาตญาณของปีเตอร์ได้ร้องเตือนให้รีบหลบ


 


อย่างไรก็ตามปีเตอร์ไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน การโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ ได้พุ่งเข้าโจมตีใส่ช่องท้องของเขา


 


“สกาย’อาย ฉันถูกโจมตี คุณสามารถสังเกตุเห็นตัวบุคคลที่โจมตีฉันได้รึไม่?”ปีเตอร์ที่ถูกโจมตีเขาได้สำลักออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะตะโกนถามสกาย’อาย


 


หากไม่ได้สัญชาตญาณเเมงมุมภายในตัวปีเตอร์คงบาดเจ็บหนักไปเเล้ว เเต่เพราะศัตรูนั้นรวดเร็วมากจนปีเตอร์ไม่อาจตอบสนองได้ทัน


 


“ถูกโจมตี?ฉันไม่เห็นใครโจมตีคุณเเม้เเต่น้อย หรือว่าในระหว่างที่คุณลอยตัวอยู่คุณจะกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง?”ได้ยินคำถามของสไปเดอร์แมน สกาย’อาย กล่าวตอบด้วยความสงสัย เขาไม่สังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เเม้เเต่น้อย


 


ปั้ง


 


อั๊กก


 


“ดูเหมือนจะเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ฉันต้องการกองกำลังสนับสนุนจากไอรอนแมนโดยเร็ว อีกนานเท่าไหร่กว่าพวกเขาจะมาถึง”เห็นสกาย’อาย ตอบกลับ ปีเตอร์ ที่ถูกโจมตีโดยควิกซิลเวอร์หลายครั้งได้ร้อนตะโกนขึ้น


 


“กองทัพไอรอนแมนกำลังจะไปถึงในอีก 10 วินาที!”ได้ยินเสียงร้องตะโกนของสไปเดอร์แมน สกาย’อาย ได้ตรวจสอบภาพเรดาห์หลังจากนั้นดูเหมือนเขาจะตรวจจับเงาบางอย่างผ่านกล้องได้


 


“ฉันเห็นเขาเเล้ว,นี่มันรวดเร็วขนาดไหนกัน?”


 


หลังจากได้รับภาพบันทึกวิดีโอ เขาก็ได้ชะลอภาพอย่างช้า ๆ หลังจากผ่านการกด 502 ครั้ง ในที่สุด สกาย’อาย ก็เห็นบางคนโจมตีสไปเดอร์แมนอยู่


 


การโจมตีเเต่ละครั้งดูเหมือนจะเข้าประชิดตัวสไปเดอร์แมนอย่างรวดเร็ว เพียงเเค่การปะทะครั้งเดียวกลับสามารถโจมตีสไปเดอร์แมนได้หลายครั้ง


 


“สไปเดอร์แมน ดูเหมือนคนคนนี้จะมีความเร็วที่เหนือธรรมดาเกินไป ฉันไม่รู้จะช่วยคุณอย่างไรดี อย่างไรก็ตาม เเดร์เดวิล เเละ ดาร์คไนท์ กำลังไปช่วยคุณ อดทนไว้ก่อน”เผชิญหน้ากับการโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ สกาย’อาย ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้


 


ดาร์คไนท์ ที่ สกาย’อาย หมายถึง ก็คือ เเฮร์รี่ นี่เป็นชื่อเรียกในกลุ่มของเขา เเม้เเฮร์รี่จะไม่ได้เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่เมื่อเเจ็คสันเเละปีเตอร์ต้องการความช่วยเหลือ เขาก็พร้อมจะสนับสนุนทุกเมื่อ สกาย’อาย ไม่รู้สถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้่งระหว่าง สไปเดอร์แมนเเละดาร์คไนท์


 


“ดูเหมือนฉันจะต้องพึ่งตัวเองก่อนเเล้ว”กองทัพของโทนี่จะเดินทางมาถึงในอีกสิบวินาทีกว่า เเต่หากถึงตอนนั้น ปีเตอร์คงบาดเจ็บสาหัสก่อน ดังนั้นเขาจึงได้เหวี่ยงเเขนทั้งสองข้างออกไป


 


ฟุ่บ!


 


ฟุ่บ!


 


เเขนทั้งสองข้างของเขาปลดปล่อยใยเเมงมุมขนาดเล็กที่ทำขึ้นพิเศษพ่วงติดพื้นที่จำนวนมากล้อมรอบตัวเขาหลังจากนั้นปีเตอร์ก็นั่งยอง ท่ามกลางใยเเมงมุมของตัวเอง


 


ใยเเมงมุมที่ปีเตอร์ใช้นั้นได้เสริมความเเข็งเเกร่งด้านความเหนียวดังนั้นหากต้องการผ่านทะลวงปราการใยเเมงมุมหลายชั้นเพื่อเข้ามาโจมตีปีเตอร์ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย


 


ติง !


 


“ตรงนั้น!”


 


ฟุ่บ!


ตอนที่ 275

 

เห็นเสียงที่ดังสั่นไหวมาจากทิศทางใยเเมงมุมตรงด้านหน้าปีเตอร์ไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว


 


ฟุ่บ!


 


เพียงเเค่ 0.02 วินาที ปีเตอร์ เหมือนจะสัมผัสโดนบางสิ่ง


 


สกาย’อาย เองก็เพ่งให้ความสนใจกับสนามรบตอนนี้ เขาได้มองผ่านกล้องวงจรปิด จนเห็น ควิกซิลเวอร์ ที่พุ่งหลีกเลี่ยงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนความเร็วของ ควิกซิลเวอร์จะรวดเร็วสุดยอดมาก


 


ดังนั้นสกาย’อาย จึงต้องปรับให้ภาพช้าลงกว่า 100 ครั้ง จึงจะสามารถมองเห็นควิกซิลเวอร์ที่ใช้ความคล่องตัวในการหลบการโจมตีของใยเเมงมุมสไปเดอร์แมน


 


ปีเตอร์นั้นมีจุดเเข็งที่พลังกายเเละสัมผัสคล่องตัว เเต่หากโจมตีไม่โดนเขาก็ไม่นับเป็นอะไร เผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นตัวตนอย่าง ควิกซิลเวอร์ ความสามารถของสไปเดอร์แมน เเละ มิราจไนท์ ล้วนเเพ้ทาง


 


ฟุ่บ!


 


ใยเเมงมุมของปีเตอร์ดูเหมือนจะถูกตัดผ่าน ซึ่งปีเตอร์ได้สร้างมันใหม่เเต่ละครั้ง เเต่ดูเหมือนศัตรูจะยังเข้าถึงตัวเขาได้ ไม่เเปลกใจที่มิราจไนท์เสียท่าศัตรูเช่นนี้เป็นเพราะความสามารถที่น่ากลัวอย่างความเร็วนี่เอง


 


“!”ถูกชกเข้าที่หน้าอกหลายครั้งปีเตอร์ไอออกมาอย่างต่อเนื่อง


 


เพียงเข้าปะทะครั้งเดียวควิกซิลเวอร์ก็สามารถโจมตีปีเตอร์ได้หลายครั้งตอนนี้ปีเตอร์ไม่ต่างจากกระสอบทรายที่กำลังถูกอัดอย่างหนักหน่วง


 


“ฉันจะต้องถ่วงเวลาเอาไว้เพื่อรอกำลังสนับสนุนมาถึง เเม้จะต้องเป็นกระสอบทรายฉันก็ต้องทน!”จ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์ ปีเตอร์สบถออกมา


 


ฟึ่ม!


 


ภายใต้สถานการณ์หัวใจบีบรัด ในที่สุด ปีเตอร์ ก็ได้ยินเสี่ยงกระหึ่มดังมาจากท้องฟ้า เขาเห็นกองทัพชุดเกราะเหล็กไอรอนแมนของโทนี่


 


“ไอรอนแมน?ไม่คิดเลยว่าจะมีปลาใหญ่โผล่มาอีกเเล้ว!”เห็นการปรากฏตัวของกองทัพไอรอนแมนหลายสิบตัวกลางอากาศ ควิกซิลเวอร์กล่าวด้วยเสียงเบาก่อนที่จะพุ่งหายไป


 


ความเร็วของควิกซิลเวอร์นั้นรวดเร็วมาก ปีเตอร์ต้องการปล่อยใยเเมงมุมสายฟ้าของเขาเพื่อช็อตศัตรูเเต่ดูเหมือนความเร็วของเขาจะยังคงไม่เพียงพอที่จะไล่ตามได้ทัน


 


“สไปเดอร์แมน,มิราจไนท์ อยู่ที่ไหน?”ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ได้บินไปยังตำเเหน่งของปีเตอร์พร้อมกับส่งเสียงของโทนี่ออกมา


 


“ผมเองก็ไม่รู้,ตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับบางคนอยู่ ความเร็วของคนคนนั้นรวดเร็วมาก มันอยู่เหนือประสาทสัมผัสของผม”ได้ยินคำถามของโทนี่ ปีเตอร์กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ


 


“J.A.R.V.I.S เเยกทีมออกเป็นสามทีม ค้นหารถยนต์ที่นำตัวมิราจไนท์ไป ที่เหลือ เราจะอยู่ที่นี่เพื่อจัดการกับศัตรูที่ขวางหน้า”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S.


 


“ครับเจ้านาย!”


 


ฟุ่บ


 


J.A.R.V.I.S ได้เเบ่งเเยกชุดเกราะไอรอนแมน 24 ตัวออกไป เเละเเบ่งเป็นสามกลุ่มเพื่อไปในสามทิศทางเวลาเดียวกัน ความเร็วของชุดเกราะไอรอนแมนนั้น รวดเร็วมาก ตราบเท่าที่รถสองคันยังไม่สามารถไปได้ไกล ไอรอนแมนย่อมตามทันอย่างเเน่นอน ซึ่ง โทนี่ ได้เหลือชุดเกราะไอรอนแมน 6 ตัวไว้รับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าจะเพียงพอ


 


“เปิดใช้ระบบสเเกน!”หลังจากจัดทีมค้นหามิราจไนท์เเล้ว โทนี่ ก็วางเเผนที่จะจัดการเพื่อนคนที่กำลังรับมือกับ สไปเดอร์แมนอยู่


 


ติ๊ด!!


 


“ตรวจพบความผันผวนของพลังงานที่ไม่ชัดเจน!”ในขณะที่โทนี่กำลังออกคำสั่ง J.A.R.V.I.S  ได้กระตุ้นเขา


 


วินาทีต่อมารังเเสงสีเเดงก็พุ่งไปที่ชุดเกราะของโทนี่ ที่บินอยู่กลางอากาศซึ่งมันพุ่งไปยังสามทิศทางในเวลาเดียวกัน


 


ฟึ่ม!


 


หลังจากนั้นดูเหมือนชุดเกราะพวกนั้นจะสูญเสียการติดต่อไป ซึ่งโทนี่ รู้สึกเเปลกใจมากกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


 


“J.A.R.V.I.S, เกิดอะไรขึ้น!?”เห็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ โทนี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ


 


“เจ้านายครับ,ดูเหมือนชุดเกราะไอรอนแมน 13 ตัวจะถูกควบคุมโดยพลังงานบางอย่างที่ไม่ชัดเจน”J.A.R.V.I.S,กล่าวตอบ


 


“มีวิธีเเก้ปัญหารึไม่?”


 


“จากการคำนวณกำลังจะเเยกตัวออกจากเเหล่งพลังงาน…เริ่มทำการคำนวณ การคำนวณเสร็จสมบูรณ์ เเยกตัวออกจากการควบคุม!”


 


ฟึ่ม!


 


ภายใต้การคำนวณอย่างเเม่นยำของ J.A.R.V.I.S, ชุดเกราะไอรอนแมนได้พ่นสารสีฟ้าออกมา ซึ่งได้บังสายตาของ สกาเล็ต วิช ก่อนที่ชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดจะสั่นไหวอย่างรวดเร็ว


 


ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 13 ตัว นั้นกำลังร่ายรำกลางอากาศเเละดื้นรนการควบคุมของ สกาเล็ต วิช  เตาพลังงานอาร์คได้ปลดปล่อยพลังงานออกมา ซึ่ง สกาเล็ต วิช ไม่สามารถควบคุมพลังงานระดับสูงจำนวนมากของชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ได้โดยฉับพลันทันที


 


“เจ้านายครับ,ตรวจพบตำเเหน่งต้องสงสัย!”หลังจากควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน ให้หลุดจาก สกาเล็ต วิช  ,J.A.R.V.I.S  ยังตรวจพบตำเเหน่งของสกาเล็ต วิช อีกด้วย เธออยู่ตรงที่ทางเเยกต่อไปของมุมอาคาร


 


หึ่ม!


 


โทนี่ กลายเป็นโกรธเคือง มิราจไนท์ ถูกลักพาตัว ทั้งปีเตอร์ ยังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ชุดเกราะไอรอนแมนของเขา ดูเหมือนจะเป็นเป้าล่อสายตาของศัตรู ศึกครั้งนี้ โทนี่ รู้ว่ามันไม่ง่าย เเต่เพื่อที่จะพาตัวมิราจไนท์กลับมา โทนี่ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น


 


นอกจากนี้ โทนี่ ไม่ใช่คนที่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ เขามีตัดสินใจที่จะปกป้องโลกกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้าย เพื่อให้บรรลุสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าอย่างไรโทนี่จะต้องทำให้สำเร็จ


 


ฟึ่ม!


 


โทนี่ ได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนไปทาง สกาเล็ต วิช เพียงเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาเหมือนจะได้รับเสียงเตือน


 


ปั้ง


 


ไม่ต้องรอให้โทนี่ตอบสนอง ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาเข้ากระทบกับการโจมตีบางอย่างก่อนที่จะถูกซัดลอยกระเด็นออกไปหลายเมตร


 


““J.A.R.V.I.S ……”


 


ปั้ง


 


ปั้งปั้ง!


 


โทนี่ต้องการรับรู้ข้อมูลจาก J.A.R.V.I.S ว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าคืออะไร ดูเหมือนการโจมตีเเต่ละครั้งมันจะหยุดจังหวะคำพูดของเขา การโจมตีเเต่ละครั้งราวกับค้อนเหล็กขนาดใหญ่ที่ทุบเข้าที่ชุดเกราะ การขัดจังหวะในครั้งนี้ทำให้ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 6 ตัวที่เขาทิ้งไว้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


 


อย่างไรก็ตามชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่มีพลังป้องกันสูงมาก หมัดของ ควิกซิลเวอร์ เเม้จะส่งผลให้โทนี่ถูกซัดกระเด็นลอยไปเเต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชุดเกราะไอรอนแมนหรือคนที่บังคับอยู่ข้างใน


 


„ J.A.R.V.I.S!”ไม่นานโทนี่ก็สามารถรวบรวมคำพูดเเละตะโกนขึ้น


 


“คำนวณวิถีจัดการ เปิดใช้การโจมตีตอบโต้อัตโนมัติ!”ถึงเเม้โทนี่จะไม่ได้สั่งการใด ๆ เเต่ดูเหมือน „ J.A.R.V.I.S จะออโต้ระบบโจมตีอัตโนมัติด้วยตนเอง


 


ป้าง !!!!


 


ภายใต้การคำนวณของ „ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมน 6 ตัว ได้พุ่งออกมาพร้อมกันก่อนที่จะยกเเขนสองข้างเปิดใช้พลังงานเลเซอร์ ลำเเสงเลเซอร์พลังงานทั้ง 12 เส้น ได้ถูกยิงออกไปทั่วทุกทิศทาง


 


ฟึ้มม!!

 

 

 


ตอนที่ 276

 

หึ่ม!


 


ลำเเสงเลเซอร์ทั้ง 12 สร้างการโจมตีที่ซับซ้อนจนปิดผนึกทางเเยกทั้งหมดในพื้นที่ตอนนี้เส้นทางการเคลื่อนไหวของ ควิกซิลเวอร์ ถูกปิดโดยการคำนวณของ J.A.R.V.I.S.


 


“อาฮะ,จับได้เเล้ว!”เห็นควิกซิลเวอร์ที่ติดอยู่ในตาข่ายเลเซอร์ โทนี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น


 


เเม้ว่าตะข่ายพลังงานเลเซอร์นี้จะมีความสามารถที่รุนเเรงเเต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้นานนัก


 


“เปโตร,รีบหนีเร็ว!”เห็นเปโตร ถูกปิดผนึกเส้นทางหลบหนี สกาเล็ต วิช ได้ใช้ความสามารถในการต้านทานเเสงเลเซอร์เบื้องหน้าสองอันเเละตะโกนบอกเปโตร


 


ฟุ่บ!


 


ได้ยินคำพูดของ สกาเล็ต วิช ,ควิกซิลเวอร์เหมือนจะรู้ตัวว่าตนเองได้เข้าตาจน เเต่น้องของเธอก็ได้เปิดทางหนีให้ ดังนั้น เขาจึงได้เร่งความเร็วพุ่งหนีออกไปทางด้านสกาเล็ต วิช


 


ฟุ่บ!


 


เห็นควิกซิลเวอร์หายไปจากตาข่ายเลเซอร์ สไปเดอร์แมนได้พุ่งเข้าไปหา สกาเล็ต วิช เพื่อที่จะโจมตีเธอ


 


“คิดว่าจะสามารถทำได้?!”เปโตร รู้สึกได้ถึงการโจมตีที่พุ่งเข้ามาใกล้สกาเล็ตวิชซึ่งเขาเองก็อยู่ตรงนั้น


 


ในโลกมาร์เวลที่เเจ็คสันรู้จักนั้นตัวละคร สกาเล็ต วิช เป็นมิวแทนท์ระดับ 5 ความสามารถของเธอนั้นร้ายกาจมาก เเต่ดูเหมือนเธอในตอนนี้จะยังไม่สามารถเข้าถึงระดับนั้นได้


 


อย่างไรก็ตามพลังของเธอในตอนนี้ก็ยังสามารถต้านการโจมตีลำเเสงเลเซอร์ของโทนี่ได้ อย่างน้อยความสามารถของเธอก็ไม่น่าจะเเตกต่างจากภาพยนตร์มากนัก


 


“เเวนด้า,พวกเราต้องรีบหนีเเล้ว!”เห็น สกาเล็ต วิช กำลังจะปะทะกับ สไปเดอร์แมน ควิกซิลเวอร์ ได้พุ่งความเร็วสูงสุด เเละอุ้มร่างของเธอ ก่อนที่จะพุ่งหนีออกไป


 


เผชิญหน้ากับกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เปโตร เเละ สกาเล็ต วิช ไม่สามารถรับมือได้ ตอนนี้ภารกิจของพวกเขาจำต้องล้มเลิกเอาไว้ก่อน พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลังจากจับตัวมิราจไนท์ได้ เบื้องหลังของเขา จะมีคนเหล่านี้สนับสนุนอยู่ หาก โทนี่ สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว โจมตีพวกเขา ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาคงไม่สามารถรับมือได้เป็นเเน่


 


ถึงเเม้ว่า ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช จะร่วมมือกัน อย่างเต็มกำลัง เเต่ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว อีกทั้งยังมีสไปเดอร์แมน พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่มือ หากรั้งจะอยู่ต่อเกรงว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียไม่น้อย ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการหลบหนี หาก ควิกซิลเวอร์ คิดจะหลบหนี เเน่นอนว่าความเร็วของไอรอนแมนก็คงไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน


 


ฟุ่บ!


 


หลังจากอุ้มสกาเล็ต วิช ได้ เปโตร ก็รีบชิ่งหนีห่างไปไกล เเม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ในการควบคุมของ J.A.R.V.I.S เเต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เเละท้ายที่สุด ดูเหมือน เปโตร จะทุ่มกำลังเพื่อหลบหนี


 


“เจ้านายครับ,พวกเขาหนีไปเเล้ว!”J.A.R.V.I.S ได้หยุดการปล่อยพลังงานลำเเสงเลเซอร์เเละกล่าวรายงานโทนี่


 


“ฉันรู้เเล้ว”เเม้ว่าโทนี่จะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถจัดการทั้งสองคนได้ เเต่โทนี่ก็รู้ดีว่าหากไล่ตามไปก็คงไม่มีความหมาย


 


“สไปเดอร์แมน,เธอไม่เป็นอะไรนะ?”ไอรอนแมน 6 ตัวได้ลอยมาตกตรงหน้าของ ปีเตอร์ เเละ โทนี่ ได้เปิดหน้ากากออก


 


“ผมไม่เป็นไร เพียงเเต่ความสามารถของพวกเขาทั้งสองคนเเข็งเเกร่งมาก โดยเฉพาะมนุษย์ความเร็วนั่น เขาวิ่งเร็วขนาดนั้นร่างกายของเขารับไหวได้อย่างไรกัน? ความสามารถของคู่หูเขาที่ซ่อนตัวอยู่เองก็ไม่เลว ความสามารถของเธอร้ายกาจมาก”ปีเตอร์สั่นศีรษะในทันที


 


“อืม,พวกเขาทั้งสองคนเเข็งเเกร่งมาก”โทนี่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”เเต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเราต้องรีบไปช่วย มิราจไนท์”


 


หลังประสบพบกับพลังอันน่าเกรงขามของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเร็ต วิช โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ก็เป็นกังวลเกี่ยวกับมิราจไนท์ เขาไม่รู้ว่าเเท้จริงเเล้วเบื้องหลังของทั้งสองคนนี้เป็นใคร


 


“เจ้านายครับ,ตรวจพบรถยนตร์ต้องสงสัยเเล้ว”เห็นโทนี่เเละปีเตอร์เป็นกังวล เกี่ยวกับ มิราจไนท์ J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานข่าวดี


 


“เจอทั้งสองคันหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอีกครั้ง บางทีเป้าหมายของทั้งสองคนอาจจะเป็นการถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้เพื่อพาตัวมิราจไนท์ออกไป


 


“รถอีกคนนึงยังไม่พบครับ!”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบความจริง


 


“ส่งอีกสองทีมค้นหาต่อไป ส่วนรถยนต์คันนั้นทุ่มกำลังสกัดเต็มที่เเต่อย่าได้ใช้อาวุธที่ทำให้ถึงตายเพื่อรับรองความปลอดภัยของมิราจไนท์”โทนี่ กล่าวสั่งเพิ่มเติม


 


“ครับเจ้านาย!”ได้รับคำสั่งของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว เขาได้สั่งหนึ่งในทีมค้นหาเข้าสกัดกั้นรถยนต์คันนั้น


 


“คุณสตาร์ก,พวกเราควรจะไปที่นั่นด้วยตนเอง เผื่อพบมิราจไนท์”ได้ยินเสียง J.A.R.V.I.S รายงาน ปีเตอร์ กล่าวอย่างรวดเร็ว เเม้จะไม่สามารถระบุได้ว่า มิราจไนท์ จะอยู่ที่นั่นหรือไม่ เเต่ปีเตอร์ต้องการไปดูด้วยตาตัวเอง


 


“อืม”


 


ฟุ่บ!


 


พริบตาต่อมา ชุดเกราะไอรอนแมน เเละ สไปเดอร์แมน ก็พุ่งไปยังทิศทางนั้นด้วยความเร็วสูง


 



 


“คุณ ดาร์คไนท์ ดูเหมือนจะตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยที่ด้านหน้าทางขวาของคุณ ห่างออกไป 5 กิโลเมตร”เห็นปีเตอร์เเละโทนี่มุ่งเป้าไปที่รถยนต์คันนั้น สกาย’อาย ก็กล่าวรายงาน ให้เเฮร์รี่ทราบด้วย


 


“เเล้วรถยนต์ต้องสงสัยอีกคันเล่า?”ได้ยินเสียงสกาย’อาย เเฮร์รี่ กล่าวถาม


 


“ดูเหมือนรถยนต์อีกคันเเม้จะเเยกทางกันเเต่จุดมุ่งหมายที่กำลังจะไปนั้นเป็นที่เดียวกัน”สกาย’อาย กล่าวตอบ


 


“อืม,ดูเหมือนว่าทั้งสองคันจะเเยกกันเเต่ท้ายที่สุดก็ไปยังสถานที่เดียวกัน?”ได้ยินเรื่องนี้จากสกาย’อาย เเฮร์รี่ ขมวดคิ้วเเน่น


 


“ดูจากสถานการณ์เเล้ว จะต้องมีรถยนต์คันใดคันนึงเป็นตัวล่ออย่างเเน่นอน…”เมื่อคิดได้เช่นนี้ เเฮร์รี่ รีบพุ่งตัวออกไปป 

 

 


ตอนที่ 277

 

โทนี่นำชุดเกราะไอรอนแมนบางส่วนไล่ตาม ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไป ส่วน ตัวเขาเอง เเละ สไปเดอร์แมน ได้พุ่งไปยังตำเเหน่งของรถยนต์คันนั้นด้วยกัน เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันในตอนนี้กำลังถูกอุ้มเข้าสู่อุโมงค์ใต้ดินลับพร้อมกับบุคคลลึกลับอีก 5 คน


 


ที่จริงเเล้วเเจ็คสันสามารถหลบหนีได้เพราะเขามีโอกาสช่วงตอนที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไม่อยู่ เเต่เเจ็คสันวางเเผนให้คนกลุ่มนี้ลักพาตัวไป


 


ถ้าหากเเจ็คสันเดาไม่ผิดคนเหล่านี้สมควรเป็นคนขององค์กรไฮดร้า เเจ็คสันในตอนนี้ให้ความสำคัญกับองค์กรไฮดร้าอย่างมากเนื่องจากมันเป็นส่วนนึงของภารกิจเขา


 


หลังจากผ่านไปไม่นานในอุโมงค์ใต้ดินเเจ็คสันที่ไร้การเคลื่อนไหว้’เเกล้งตาย’ ดูเหมือนเขาจะถูกกลุ่มคนเหล่านั้นฉีดยาบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย เเจ็คสัน ไม่รู้ว่า ยาที่เขาโดนนั้นคืออะไร เเต่ดูเหมือนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันของเขาจะทำงาน มันจึงส่งผลให้ตัวยาไม่มีอิทธิพลสำหรับเขามากนัก


 


หลังจากเดินมาประมาณ 10 นาที เส้นทางของใต้ดินนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลง กลุ่มคนได้ชะลอฝีเท้าก่อนที่จะหยุดลงที่หน้ากำเเพง


 


หัวหน้าทีมคนนึงได้เดินไปที่หน้ากำเเพงเเละดึงเเท่นโลหะบางอย่าง จากนั้นผนังดูเหมือนจะส่องเเสงเล็กน้อย


 


ครื่นน~~


 


เสียงกลไกของผนังกั้นได้ทำงานก่อนที่กำเเพงเบื้องหน้าจะถูกยกขึ้นต่อเบื้องหน้าพวกเขาเผยให้เห็นทางรันเวย์ที่ถอดยาวออกไปไกล


 


“เส้นทางนี้จะมุ่งหน้าออกจากนิวยอร์กอย่างรวดเร็ว พวกมันกำลังตามมาเเล้วเร็วเข้า!”หัวหน้าทีมคนนั้นกล่าวสั่งการอย่างรวดเร็วก่อนที่จะอุ้มเเจ็คสันเดินต่อไป


 


ฟุ่บ!


 


ลูกทีมที่เหลือทั้งหมดไม่มีท่าทีตอบสนองพวกเขาได้ติดตามไปอย่างรวดเร็ว


 


ฟุ่บ!


 


หลังจากพวกเขาผ่านไปทั้งหมดประตูกำเเพงเบื้องหน้าในที่สุดก็ปิดลงอีกครั้งกลายเป็นทางตันที่ไม่มีทางผ่านออกจากที่นี่


 



 


หลังจากกำเเพงนี้กลับสู่สภาพดั้งเดิมประมาณ 5 นาที ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นตรงตำเเหน่งทางเข้าถ้ำใต้ดิน ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เเละ พวก เเฮร์รี่ ได้ติดตามมาถึงที่นี่ทันที


 


“ไม่มีทางถนน?”เเฮร์รี่ที่ไล่ตามรถอีกคันมาที่นี่ดูเหมือนจะไม่พบทางถนน ปีเตอร์ที่ไล่ตามมาไม่นานเขาเองก็มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว


 


รถยนต์ทั้งสองคันได้เเล่นผ่านมาจุดเดียวกัน รถยนต์ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาพบเป็นตัวล่ออย่างที่คิดเอาไว้ คนบนรถติดอาวุธหนักพร้อมทำสงคราม เเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมนมันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา


 


เมื่อโทนี่ เเละ ปีเตอร์ ไม่พบทางไปต่อ ขณะนั้นเอง เเฮร์รี่ ก็พบ รถยนต์อีกคันที่เขาตามมา ในเวลานี้รถคันนี้ไม่เหลือใครอยู่เเม้กระทั่งมิราจไนท์ก็ยังหายตัวไป


 


ภายใต้การค้นหาอย่างละเอียดของชุดเกราะไอรอนแมน เเละ เเฮร์รี่ พวกเขาได้ค้นพบทางช่องลับไปต่อมากกว่า 30 ทาง พวกเขาได้ทำลายพวกมันทิ้งเเละเร่งรีบหาสถานที่ไปต่อ อย่างไรก็ตามพวกเขากลับไม่พบร่องรอยอื่นใดอีก


 


“เวรเอ้ย,พวกมันหนีหายกันไปไหนหมด? พวกมันไปทางไหนกัน”เเฮร์รี่ ที่ไม่ค้นพบทางไปต่อเขาตะโกนลั่นออกมา


 


“บางทีมันอาจจะมีช่องทางลับอยู่ เพราะวัสดุที่ทำกำเเพงเหล่านี้ค่อนข้างพิเศษมากมันไม่สามารถผ่านการสเเกนได้”ในขณะที่ทุกคนกังวล เสียงของโทนี่ ได้ดังขึ้น เขาได้สั่งการ J.A.R.V.I.S ให้ทำการค้นหาตัวมิราจไนท์ ด้วยวิธีต่าง ๆเเต่เมื่อจ้องผ่านกำเเพงเบื้องหน้าเเล้วเขากลับไม่สามารถมองผ่านเข้าไปด้านในได้


 


“หืม?ไม่สามารถสแกนได้?”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ มารวมตัวกันที่หน้ากำเเพง


 


“เปิดมันให้ฉันหน่อย!”โทนี่กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว


 


“ครับเจ้านาย!”


 


ปั้ง ปั้ง


 


ภายใต้การควบคุมของ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ได้ถล่มยิงกำเเพงผนังนั้นด้วยปืนใหญ่พลังงานจำนวนมาก


 


การโจมตีระลอกเเรกได้สิ้นสุดลง หมอกเเละฝุ่นได้คลุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่่เเห่งนี้หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ซาลง หลังจากำเเพงนั้นถูกทำลาย สายตาของพวกโทนี่เเละคนอื่น ๆ ก็หดลงเล็กน้อย


 


เพราะกำเเพงนั้นเเข็งเเกร่งมาก


 


เเม้จะโดนชุดเกราะไอรอนแมนที่มีพลังทำลายล้างกว่า 30 ตัวยิง กำเเพงนี้กลับได้รับความเสียหายเพียงน้อยนิด ดูเหมือนว่ากำเเพงนี้เเท้จริงเเล้วกลับถูกสร้างมาด้วยวิธีการพิเศษทั้งผู้ที่สร้างมันสมควรเป็นองค์กรหรือขุมพลังสักอย่าง เเละ ขุมพลังที่ว่านี้ได้ลักพาตัวมิราจไนท์ไป


 


” J.A.R.V.I.S ใช้พลังทำลายขั้นสูงสุด ทำลายกำเเพงนี่ให้ฉัน!”


 


“ครับเจ้านาย!”


 


วื๊ดด


 


!


 


จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว ก็หันอาวุธเลเซอร์ไปที่จุดศูนย์กลางกำเเพง ตั้งเเต่ที่เขาสามารถคาดเดาสถานะของมิราจไนท์ว่า เป็น เเจ็คสัน ได้ โทนี่ ก็เป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างมาก


 


บึ้ม


 


ภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธเลเซอร์เต็มรูปแบบ ของชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ในที่สุด ช่องว่างขนาดใหญ่ก็เปิดออก


 


ปั้ง


 


J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมพลังงานเลเซอร์เเรงสูงอีกครั้งก่อนที่จะทำลายพื้นที่จนเปิดเห็นเป็นช่องวางของเส้นทางไฮเวย์ที่ทอดยาวออกไปไกล


 


“นี่คือ!”เเฮร์รี่ หลังจากมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังกำเเพง ผิวพรรณของเขากลายเป็นหน้าเกลียดยิ่งขึ้น


 


ปั้ง


 


“เวรเอ้ย,พวกมันเเท้จริงเเล้วเป็นใครกันเเน่?!”ปีเตอร์ต่อยหมัดของเขาลงบนกำเเพงพร้อมกับคำรามออกมา


 


พวกเขาเพิ่งรับรู้สถานะของมิราจไนท์ว่าเป็นเเจ็คสัน ตั้งเเต่นั้นมา ปีเตอร์ก็รู้สึกเป็นห่วงมิราจไนท์มากขึ้น ตั้งเเต่ที่เขารับรู้ข่าวที่เเจ็คสันถูกลักพาตัวไปเขาก็โกรธเลือดขึ้นหน้าทันที


 


“สไปเดอร์แมน สบายใจเถอะ เราจะต้องช่วย มิราจไนท์กลับมา นอกจากนี้ เขาไม่ใช่คนที่จะถูกจัดการโดยง่าย บางทีในขณะที่เรากำลังหาวิธีเขาคงกำลังคิดหาทางช่วยตัวเองอยู่เหมือนกัน”เเฮร์รี่ เองก็เป็นห่วง เเจ็คสัน เเต่ก็ทำได้เพียงเเค่ปลอบใจปีเตอร์ตอนนี้เพียงเท่านั้น


 


“ฮึ่ม! พวกมันกล้าที่จะยุ่งคนของฉัน! ฉันจะไม่มีทางปล่อยพวกมันไปเเน่!”โทนี่จ้องมองไปที่เส้นทางรันเวย์สีดำที่ทอดยาวออกไป เขากล่าวพูดอย่างเย็นชา

 

 

 


ตอนที่ 278

 

!


 


ภายใต้ค่ำคืนที่มืดมิด ยานรบติดอาวุธขนาดเล็กได้เเล่นอยู่บนผืนฟ้า ไม่ต้องสงสัยว่ายานรบประสิทธิภาพสูงนี้คือพาหนะของพวกไฮดร้า ตอนนี้ พวกมันได้ลักพาตัว มิราจไนท์ไป เเน่นอนว่าเป้าหมายของพวกมันที่มีต่อมิราจไนท์เเล้วเเท้จริงไม่มีใครทราบ


 


“พวกมันจะนำฉันไปไหนกัน?ถ้าสถานที่ที่พวกมันจะนำไปอยู่ห่างไกลจากนิวยอร์กฉันคงไม่มีเวลาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปหาพวกโทนี่ได้ทัน!”ถูกโยนเข้าไปในพื้นที่เปิดโล่งของตัวยานรบ เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิด


 


เเผนของเขาค่อนข้างมีความเสี่ยงมากจริง ๆ นั่นก็คือการเเกล้งปลอมตัวให้ถูกจับเเละเข้าสู่ฐานของพวกไฮดร้าโดยตรง ตอนนี้เเจ็คสันรู้เเล้วว่าเขาประสาทองค์กรไฮดร้ามากเกินไป หากเป็นไปตามที่เขาคาด การหลบหนีออกจากที่นั่นเกรงว่าบางทีคงจะเป็นเรื่องยาก


 


อันที่จริงวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของพวกไฮดร้าเมื่อ 60 ปีก่อนนั้นยังไม่ได้รุนเเรงถึงเพียงนี้เเต่ตอนนี้ดูเหมือนอุปกรณ์ของพวกเขาจะดูดีขึ้นมากบางทีพวกเขาอาจได้ครอบครองวิทยาการเทคโนโลยีต่างดาวบางอย่าง เเละในช่วง 60 ปีที่หลบซ่อนพวกเขาก็ได้เเอบซุ่มพัฒนากองกำลังของตนเอง


 


“หืม?ความเร็วของมันกำลังตกลง?ด้วยความเร็วระดับนี้คงไปไม่ห่างไกลจากนิวยอร์กมากนัก!”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความเร็วที่ลดลงอย่างกระทันหัน เขาจึงผ่อนคลายเล็กน้อย


 


หากยานรบนี้ยังคงสภาพความเร็ว ณ ตอนนี้ ถ้า ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ บินด้วยความเร็วสูง บางทีอาจจะสามารถตามได้ทันเเละเเจ็คสันจะสามารถได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็ว


 


!


 


หลังจากฉลอความเร็วไม่นานดูเหมือนยานรบจะหล่นลงไปที่กลางป่า,ด้านนอกเป็นป่าที่เรียบง่าย เเต่ในความเป็นจริงมันได้ซ่อนพื้นที่เเถบที่ลงจอดเอาไว้


 


ทันทีที่ยานรบได้ถูกจอดทิ้งเอาไว้ พวกมันก็กลับมาพาตัวเเจ็คสันไปอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปยังทิศทางภายในป่าก่อนที่จะหยุดลงในเวลาต่อมา


 


“เเถวนี้งั้นหรอ?”เเจ็คสันที่เเกล้งสลบเขาไม่กล้าที่จะใช้เทคนิครู้เเจ้งของตัวเองเพื่อรับสัมผัสการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย เเน่นอนว่ามันเสี่ยงที่เขาจะถูกจับได้


 


โดยธรรมชาติหากเเจ็คสันปลดปล่อยเทคนิครู้เเจ้งของเขา เขาสามารถสัมผัสบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบ ๆ ได้ในระยะหลายร้อยเมตร เบื้องหน้าของเขาเหมือนปราสาทโบราณที่ดูเก่าเเก่ ปราสาทโบราณนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นฐานลับของพวกไฮดร้า


 


ฟุ่บ~


 


จากนั้นไม่นานก็มีรถคันนึงที่เป็นพาหนะหุ้มเกราะขับมาจอดที่หน้าปราสาทเเละหยุดลง


 


ฟุ่บ!


 


ประตูรถได้ถูกเปิดออก มีบุคคลสองคนสวมใส่ชุดอำพรางตัวลงออกมาจากตัวรถ


 


“พวกนายกลับมาได้อย่างไร?ตอนนี้น่านฟ้าของนิวยอร์กคงจะถูกควบคุมโดย โทนี่ สตาร์ก ไอรอนแมนไปหมดเเล้ว ตอนนี้เขากำลังทำการค้นหาอย่างบ้าคลั่ง นอกจากโทนี่ สตาร์ก เเละ ยังมีอิทธิพลอื่นที่เคลื่อนไหวอีก ทำไมพวกมันถึงได้เคลื่อนไหวรุนเเรงถึงเพียงนี้”คนคนนึงเดินเข้ามาที่หัวหน้าทีมของกลุ่มลักพาตัวเเจ็คสันเเละกล่าวถาม


 


นอกจากโทนี่เเล้วก็คือกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับเบาะเเสของ มิราจไนท์ เเละ รีบรวมกำลังพลไม่เว้นเเม้เเต่ครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์เพื่อค้นหา


 


นอกจาก โทนี่ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเล้ว โทนี่ สามารถขอร้องให้ S.H.I.E.L.D. เข้าร่วมครั้งนี้ได้ เเต่เขาไม่ต้องการ เพราะการเคลื่อนไหวอิทธิพลเล็กมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรับรองความปลอดภัยของ มิราจไนท์ได้มากเท่านั้น


 


เพียงเเต่เขาหารู้ไม่ว่านอกเหนือจากพวกเขาเเล้วยังมีอิทธิพลที่เคลื่อนไหวอีกสองอิทธิพลที่ร่วมกันค้นหามิราจไนท์ หนึ่งในนั้นก็คือ อารามคุ้มกัน พ่อมด รุ่ยเคอ,เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น นอกจากนี้ยังมี ทีม X-MEN ไอซ์แมน เเละ บลิงก์


 


ไอซ์แมน เดิมต้องการมองหามิราจไนท์ เพราะเหตุผลบางอย่าง


 


ก่อนหน้านี้พวกเขารู้จักกันเพราะรับมือิทธิพลของฟรานซิสด้วยกัน ไอซ์แมน ในตอนนั้นรู้สึกประทับใจในตัวของ มิราจไนท์มากดังนั้นเขาวางเเผนจะหาตัวเพื่อนนคนนี้ อย่างไรก็ตาม เขากลับได้ยินข่าวบางอย่างเกี่ยวกับมิราจไนท์ที่ถูกจับตัวไป ดังนั้นไอซ์แมนจึงพาบลิงก์มาช่วยเรื่องนี้ สำหรับ อารามคุ้มกัน พวกเขาได้มาถึงในนิวยอร์ก พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพันธมิตรผู้พิทักษ์ หรือ ความสัมพันธ์กับโทนี่ เเต่พวกเขาได้เฉพาะเจาะจงคือตามหาตัวมิราจไนท์ ดังนั้น พวกเขาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอิทธิพลที่ร่วมกันตามหาตัวของมิราจไนท์


 


ดังนั้นทีมที่ค้นหาทั่วนิวยอร์กจึงมีทีมกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ,พันธมิตรผู้พิทักษ์ X-MEN รวมถึง พ่อมดจากอารามคุ้มกัน


 


หากพวกไฮดร้ารู้ว่าฮีโร่ที่เขาลักพาตัวมานี้จะมีอิทธิพลสนับสนุนที่รุนเเรงดังกล่าวพวกเขาคงต้องหัวเสียเป็นเเน่ ยิ่งโดยเฉพาะ ทีม X-MEN กับ อารามคุ้มกัน


 


เเต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถนึกเสียใจภายหลังได้เเล้ว เพราะอิทธิพลที่เขาได้ไปกระตุ้นตอนนี้กำลังเดินหน้าอย่างเร่งรีบเพื่อค้นหาตัวพวกเขา


 


“นี่คือ มิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะเป็นคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษื ก่อนหน้านี้ เขาเคยร่วมมือกับ ทีม X-MEN ในการกำจัด คนของเรา”หัวหน้าทีมกล่าวรายงาน


 


“จริงงั้นหรอ?ดี เช่นนั้นภารกิจของนายก็เสร็จเเล้วทำได้ดีมาก”เพื่อนคนนี้กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว


 


“อืม,ได้ช่วยเหลือสหายในภารกิจไม่ถือเป็นเรื่องยากลำบากอะไร”ดูเหมือนหัวหน้าทีมคนนี้จะรู้จักกับสหายที่นั่งรถหุ้มเกราะมา


 


“อืม,ไปยืนยันภารกิจกันเถอะ”คนที่ลงมาจากรถหุ้มเกราะกล่าวอย่างเย็ชา


 


จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็นั่งรถหุ้มเกราะไป ดูเหมือนภารกิจของพวกเขาจะสำเร็จลุล่วงเเล้ววันนี้ ไม่ทราบว่าเเท้จริงเเล้วเป้าหมายของพวกเขาคืออะไรเเต่ดูเเล้วไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดี คนพวกนี้ทำหน้าที่เหมือนกับทหารหากภารกิจล้มเหลวพวกเขาก็พร้อมที่จะสละชีพเพื่อองค์กร


 


“บางทีพวกเราอาจได้รับรางวัลพิเศษเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวครั้งนี้”ชายในเครื่องแบบทหารคนนึงกล่าวพูดขึ้นกับเพื่อนตัวเองหลังจากเข้ามาในรถ


 


ฟึ่ม!


 


จากนั้นรถหุ้มเกราะคันนี้ก็ขับกลับเข้าไปในปราสาทอีกครั้ง ตอนนี้เเจ็คสันกำลังถูกนำตัวไปที่ฐานลับของพวกไฮดร้า

 

 

 


ตอนที่ 279

 

นิวยอร์ก,บ้านพักชายทะเลของโทนี่


 


กองทัพไอรอนแมนทั้งหมดได้ออกทำการค้นหาตลอดทั้งคืน เพียงเเต่ว่าพวกเขาไม่พบเบาะเเสใดๆ เกี่ยวกับมิราจไนท์เเม้เเต่น้อย โทนี่ ได้พา กองทัพของตัวเองตรวจสอบทางผ่านใต้ดินซึ่งมันได้ทอดยาวออกไปยังสถานที่ห่างไกล


 


“มิราจไนท์,เเจ็คสัน หวังว่าเธอจะไม่เป็นอะไรนะ?”โทนี่นั่งขมวดคิ้วที่โซฟานุ่ม ๆ เเละบ่นพึมพัมออกมา


 


โทนี่สามารถคาดเดาได้ว่า มิราจไนท์ ก็คือ เเจ็คสัน เขาไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้ เขาหวังจะให้เเจ็คสันออกมายอมรับสถานะด้วยตัวเขาเอง เเต่ถึงเเจ็คสันจะไม่ยอมรับโทนี่ก็เชื่อมั่นในสัญชาตญานตัวเองอยู่ดี ตอนนี้ เขาได้ทำการค้นหาทั่วทุกพื้นที่ เเต่ก็ยังไร้วี่เเวว ดังนั้นโทนี่ จึงเริ่มกังวล มันต่างจากเหตุการณ์ที่ปีเตอร์เผชิญ ตอนนี้ เป็นเเจ็คสัน ดังนั้นโทนี่ จึงกังวลกว่ามาก


 


“เด็กคนนี้มีความลับมากมาย อุบัติเหตุในครั้งนี้เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หวังว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย”โทนี่ถอนหายใจอย่างกังวล


 


เขาได้นั่งฟังรายงานของ J.A.R.V.I.S ตลอดทั้งคืนมันทำให้เขาเหนื่อยมาก เเน่นอนว่ายิ่งไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ เกี่ยวกับ เเจ็คสัน เขาก็ยิ่งรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี


 


“ J.A.R.V.I.S, ดำเนินการค้นหาบุคคลต้องสงสัยที่เราพบเมื่อคืน หาพวกเขา เเละ ตรวจสอบให้ได้”ในที่สุดโทนี่ก็ไม่สามารถทนอาการเหนื่อยล้าได้ เขาไม่ใช่สไปเดอร์แมนหรือกัปตันอเมริกาที่มีร่างกายที่พิเศษ


 


“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S  ตอบกลับอย่างใจเย็น


 



 


“สกาย’อาย ได้เบาะเเสหรือไม่? เกี่ยวกับข้อมูลบุคคลสองคนที่เราเผชิญหน้า”ในฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ ปีเตอร์ ได้กล่าวถาม เจอร์รี่ ในช่วงเย็นที่ผ่านมานั้นปีเตอร์ได้ถามคำถามหลายครั้ง ซึ่งผลคำตอบที่เขาได้รับจาก สกาย’อาย มันก็ทำให้ เขารู้สึกผิดหวัง


 


“สไปเดอร์แมน บุคคลคนนั้นมีความเร็วที่สูงมากจริง ๆ ฉันได้ลองค้นหาตัวตนพวกเขาจากกล้องวงจรปิดทั่วทั้งเมือง เเต่ก็ยังไม่สามารถหาวี่เเววของเขาได้ เเม้เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ยังไม่ได้ข้อมูลของเขา ดูเเล้วเขาเป็นตัวอันตรายที่โดดเด่นทีเดียว”เจอร์รี่ กล่าวตอบ สไปเดอร์แมน เขารู้ว่า สไปเดอร์แมน กังวล เกี่ยวกับความปลอดภัยของมิราจไนท์


 


“ไม่ใช่ว่านายเองก็บอกอย่างงี้เมื่อครู่ก่อนหรอ? หรือว่านี่นายพยายามสุดความสามารถเเล้ว?”ปีเตอร์ กล่าวถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว


 


เมื่อคืนที่ผ่านมาพวกเขาพบทางรันเวย์ลับที่เป็นทางทอดยาวของพาหนะความเร็วสูง ดังนั้น ปีเตอร์ เชื่อได้ว่า เเจ็คสัน จะต้องถูกนำพาออกจากนิวยอร์ก ปีเตอร์กังวลว่าเเจ็คสันจะเผชิญหน้ากับปัญหาเเละมันจะสายเกินไป นอกจากนี้ ยังมี หญิงสาวเเละผู้ชายคนนั้นที่ปีเตอร์กังวล


 


“ทิศทางใต้ดินนั้นเป็นเพียงเส้นทางที่ทอดยาวออกไปเเละเปิดสู่พื้นที่โล่งกว้างในเวลาต่อมา เเม้จะพยายามเฝ้าระวังเเละหลองหาทางดูเเล้ว เเต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล พวกเขาสามารถหลบการตรวจสอบจากพื้นที่ต่าง ๆ ได้”เผชิญหน้ากับความก้าวร้าวของสไปเดอร์แมน เจอร์รี่ยังคงตอบอย่างใจเย็น


 


ปั้ง


 


ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย ปีเตอร์ ทุบโต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยความโกรธตอนนี้เขารู้สึกโกรธมาก เเม้จะไม่ได้ถูกควบคุมโดยเวน่อมเหมือนอดีตเเต่ความโกรธของเขาตอนนี้เป็นของจริง


 


“สไปเดอร์แมน คุณต้องใจเย็ฯ ๆ พวกเราทุกคนกำลังเร่งการค้นหา เเน่นอนว่าจะต้องได้รับข่าวของมิราจไนท์ ในอีกไม่นานเเน่นอน นอกจากนี้ พวกเราจะต้องเชื่อมั่นในตัวมิราจไนท์”เห็นปีเตอร์หัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่นานก็มีเสียงนึงดังขึ้น


 


เเฮร์รี่ ได้เข้าร่วมกับปีเตอร์ในการจู่โจมเเละค้นหามิราจไนท์ในช่วงเย็น ถึงอย่างไรอาการของเขาตอนนี้ก็ดูสงบกว่าปีเตอร์มาก


 


“ดาร์คไนท์ พูดถูกต้องเเล้ว สไปเดอร์แมน นายจะต้องใจเย็นเเม้ว่าบุคคลนั้นจะมีความเร็วเเต่พลังโจมตีไม่ได้โดดเด่นมากนัก เเม้เขาจะโจมตีนายหลายรอบก็ยังคงสร้างบาดเเผลเพียงเล็กน้อย”


 


“นอกจากนี้ฉันไม่เชื่อว่ามิราจไนท์จะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เขาไม่ใช่คนที่จะถูกจัดการง่าย ๆ แบบนั้น”ได้ยินเเฮร์รี่กล่าวปลอบสไปเดอร์แมน เเดร์เดวิล ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน เเละ ครุ่นคิดอย่างมีเหตุผล


 


“เเม้ว่าบุคคลนั้นจะไม่ได้มีความเเข็งเเกร่งที่รุนเเรงเเต่ความสามารถด้านการเคลื่อนที่น่ากลัวนั้นเป็นของจริงเเม้เเต่ฉันยังเสียท่า นอกจากนี้ มิราจไนท์ยังถูกจับตัวไป เขาตัวคนเดียวจะสามารถต้านพวกมันไหว?”ปีเตอร์กล่าวออกมา


 


“ฉันคิดว่าการคาดเดาของ เเดร์เดวิล ยังพอมีความเป็นไปได้ นายเองก็รู้จักมิราจไนท์ดี เขาเป็นคนที่ลึกลับ นายบอกว่านายเผชิญหน้ากับการโจมตีของบุคคลสองคนใช่รึไม่ เเต่ฉันไม่เชื่อว่ามิราจไนท์จะเสียท่าเพราะเรื่องเเค่นี้ บางทีเขาอาจกำลังคิดเเผนการหลบหนีอยู่ก็เป็นได้”เสียงของเเจ็คได้กล่าวผ่านออกมา


 


ที่สำคัญก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นมิราจไนท์พาพวกเขาผ่านอุปสรรคอันยากลำบากมามากมายไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหน บ่อยครั้งที่ เเจ็ค คิดว่า บางทีมิราจไนท์คนนี้ก็ดูลึกลับเกินไป


 


เเน่นอนว่า เเจ็คเชื่อว่า มิราจไนท์ ไม่ใช่ตัวตนที่จะถูกจัดการง่าย ๆ


 


ตู๊ดด!


 


“หืม?มีสายเข้าจากคุณ เดดพูล”ในขณะที่ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ กำลังพูดถึงมิราจไนท์ ทันใดนั้น สกาย’อาย ก็พบสายเรียกเข้าจาก เดดพูล เมื่อวานพวกเขาไม่สามารถติดต่อเดดพูลได้ เเต่ดูเหมือนตอนนี้ เดดพูล จะเป็นฝ่ายโทรเข้ามาเอง


 


“สกาย’อายฉันขอสายมิราจไนท์ หน่อยได้รึไม่ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเขา ครั้งนี้ฉันจะต้องจัดการฟรานซิสให้ได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ขอเรียกตัวเองว่า เวด วิลสัน!”ทันทีที่สายติดต่อได้ เดดพูล ส่งเสียงเรียกตะโกนอย่างรุนเเรง


 


“เรื่องนี้…”ได้ยินคำพูดของ เดดพูล,สกาย’อาย กลายเป็นรู้สึกอึดอัดใจ จะบอกว่า เดดพูล ไม่รู้สถานการณ์ มันก็ยังไงอยู่ ปัจจุบัน มิราจไนท์ได้หายตัวไปเพราะได้เข้าไปยุ่งกับอิทธิพลของพวกฟรานซิส


 


“เดดพูล, มิราจไนท์ ได้ถูกลอบโจมตีเมื่อคืน เเละถูกลักพาตัวไป ชีวิตของเขากำลังเเขวนอยู่บนเส้นด้าย ถึงอย่างนั้น นายก็ยังมีเวลาว่างหาตัวฟรานซิส”ได้ยินเสียงน่ารำคาญของเดดพูล ปีเตอร์ที่โมโหได้เดินมาที่หน้าคอมพิวเตอร์เเละกล่าวพูดเสียงเเข็ง


 


“อะไรนะ?มิราจไนท์ ถูกโจมตี พวกมันเป็นใครกัน?”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เดดพูล กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ


 


เวด รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ก่อนหน้านี้เขาได้รับโทรศัพท์จาก วีส เพื่อนของเขาว่าฟรานซิสมาหาเขาที่ร้าน เเละ การปรากฏตัวขึ้นของมัน ก็มาพร้อมกับการหายไปของมิราจไนท์


 


“เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 09.00 pm ในนิวยอร์กควีนส์ ใกล้  ๆบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต”ปีเตอร์ไม่ได้กล่าวตอบ เเต่เป็นสกาย’อาย เเทน


 


“นี่มัน!”ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย เดดพูล อุทานขึ้นด้วยความตกใจ

 

 

 


ตอนที่ 280

 

“เกิดอะไรขึ้น?”เห็นเดดพูลมีท่าทีอาการเเสดงแปลกไป ปีเตอร์ที่ รู้สึก เเปลก ๆ ได้กล่าวถาม


 


“มันจะต้องเป็นฟรานซิสเเน่นอน,เมื่อคืนนี้มันมาที่บาร์ซิลเตอร์มากาเร็ตเพื่อค้นหาฉัน มันได้สร้างปัญหาเเก่ วีส เเละต้องการจะลักพาตัววาเนสซ่าเเฟนสาวฉันเพื่อเเก้เเค้นฉัน หากเป็นไปตามที่นายว่า มิราจไนท์จะต้องโดนพวกของฟรานซิสเล่นงานอย่างเเน่นอน”เผชิญหน้ากับการไต่สวนของ สไปเดอร์แมน เดดพูล กล่าวอย่างเร่งรีบ


 


“ฟรานซิส,บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล ปีเตอร์ เหมือนจะครุ่นคิดอะไรได้ก่อนที่จะกล่าวบอกให้ สกาย’อาย ตรวจสอบ


 


หลังจากนั้นปีเตอร์ก็เห็นภาพกล้องวงจรปิดใกล้ ๆ บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต จากนั้นเขาก็เห็นรถจิ๊ปที่คุ้นเคยในตำเเหน่งทางเข้าของบาร์ มันเป็นรถยนต์ของเเจ็คสัน เดิม เเจ็คสัน ได้ไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตเมื่อคืนนี้


 


“เเจ็คสันคงจะเห็นฟรานซิสกำลังขู่วีส อยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องการเข้าไปเเก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เเต่เขาคงคาดไม่ถึงว่าจะเจอกับอิทธิพลลับที่ตามหลังฟรานซิสมา”ปีเตอร์กล่าววิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว


 


จากนั้นปีเตอร์ก็ปรับมุมมองบันทึกภาพวิดิโอในคืนที่ผ่านมา เขาเห็นเเจ็คสันอยู่กับ คนเเปลกหน้าคนนึงดังนั้นปีเตอร์จึงย่นคิ้วเล็กน้อย


 


“คนคนนี้เป็นใคร? เขาอยู่กับเเจ็คสันที่บาร์เมื่อคืนนี้ “เห็นธอร์อยู่กับเเจ็คสันเมื่อคืน ปีเตอร์ กับกระซิบในใจ


 


“สไปเดอร์แมน คุณพบอะไรงั้นหรอ?”เห็นปีเตอร์เอะใจอะไรได้บางอย่าง สกาย’อาย กล่าวถามทันที


 


“ฉันเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ฉันจะลองไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เพื่อหาเบาะเเสที่นั่นดู”ปีเตอร์วางเเผนจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะ เเจ็คสัน เป็นเพื่อนของเขา


 


โดยธรรมชาติเบาะเเสสำคัญก็คือฟรานซิส เนื่องจาก มิราจไนท์ ได้ไปรับมือกับฟรานซิสอย่างลับ ๆ จึงพลาดท่าไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าอิทธิพลของฟรานซิสจะเเข็งเเกร่งขนาดไหนปีเตอร์จะต้องช่วยเพื่อนของเขากลับมาให้ได้


 


“บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต?ฉันจะไปกับนายที่นั่น ก่อนหน้าที่ฉันจะรู้จักกับเวด ฉันได้ไปที่นั่นพร้อมกับ มิราจไนท์”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เเดร์เดวิล เเมตต์ กล่าวพูดขึ้น พวกเขารู้จักกับเวดที่นั่น ก่อนหน้านั้นเขาคิดว่าเวดได้ตายเพราะโรคมะเร็งไปเเล้ว


 


เเดร์เดวิล เป็นฮีโร่ คนเเรกที่ รู้จักกับมิราจไนท์ ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงเพื่อนร่วมทีมอายุน้อยคนนี้


 


“พวกเราไปกันเถอะ!”ปีเตอร์กล่าวบอกกับเเดร์เดวิล


 


“เดดพูล หากฟรานซิส ปรากฏตัวขึ้นที่นั่น ฉันรับรองได้เลยว่าพวกมันจะต้องเจอกับภัยพิบัติของจริง”ก่อนที่ปีเตอร์จะจากไปเขาได้กล่าวพูดผ่านคอมพิวเตอร์


 


“เเน่นอน,ฉันจะต้องฆ่าฟรานซิสให้ได้”เมื่อเช้าเเฟนสาวของเขาถูกลักพาตัวโดยฟรานซิส มันทำให้ เวด รู้สึกโกรธเคืองมาก


 


..


 


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ปีเตอร์ ก็มาถึงบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตพร้อมกับ เเมตต์ ตามปกติ ปีเตอร์ได้เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าปกติของเขา เเน่นอนว่า เเมตต์ไม่สามารถมองเห็น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอะไร เดิมเขาต้องการไปหาข้อมูลเหล่านี้พร้อมกับเเฮร์รี่ อย่างไรก็ตามเเมตต์ออกปากจะมาให้ได้


 


ภายใต้การเเนะนำของเเมตต์พวกเขาได้เข้าไปในบาร์ โดยปกติเเล้วในบาร์เเห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนเเต่วันนี้มันค่อนข้างโล่งมาก


 


“บาร์นี้ไม่ค่อยมีคนเลยงั้นหรอ?”กวาดมองไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต ปีเตอร์ กล่าวถามเเมตต์


 


สถานที่เเห่งนี้เป็นจุดรวมพลของทหารเเห่งโชคชะตาเเม้จะเปป็นวันปกติ เเต่มันก็น่าจะมีคนมั้งเเต่สถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างเงียบ ปีเตอร์จึงสงสัย นอกจากนี้เเม้จะมีคนอยู่น้อยนิดเเต่สถานที่เเห่งนี้ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่รุนเเรง


 


“นี่ใช่บาร์เเน่งั้นหรอ?”ปีเตอร์สงสัยว่าเเจ็คสันได้เข้ามาที่บาร์เเห่งนี้จริงหรือไม่


 


“อืม,สถานที่เเห่งนี้คือสถานที่ที่ทหารเเห่งโชคชะตามารวมตัวกันเพื่อรับภารกิจเเลกเปลี่ยน”เเมตต์กล่าวบอกปีเตอร์


 


“ทำไมมิราจไนท์ถึงมาที่นี่?”ปีเตอร์รู้สึกสงสัยว่าทำไมเเจ็คสันถึงมาที่นี่


 


“ฉันคิดว่าเราควรจะไปถามวีสว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้”


 


พวกเขาเดินตรงไปที่บาร์ด้านหน้า


 


เห็นเเมตต์เดินตรงไปที่ บาร์ ปีเตอร์ ก็ตามไปเเน่นอนว่าเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับบรรยากาศในสถานที่เเห่งนี้อยู่บ้าง


 


ตึก ตึก ตะโกน ~ตะโกน ~


 


เเมตต์เดินตรงไปที่โต๊ะสนุกเกอร์ด้านข้างที่มีโซฟาอยู่ด้านหลังเขาเห็นชายสองคนกำลังนอนอยู่


ฟุ่บ!


 


เเมตต์ได้ใช้ไม้เท้าของเขากวานหาทางจนไปสะกิดเข้าที่โซฟา


 


เห็นเเมตต์เดินมาดูเหมือนคนที่หลับอยู่คนนึงจะดีดตัวขึ้นก่อนที่จะคว้าปืนออกมาด้วยความตกใจ


 


เพียงเเต่ว่าเเมตต์ไม่ได้สนใจปืนกระบอกนั้นที่เล็งมาที่เขา


 


“เเมตต์?วันนี้เป็นไงถึงมาที่นี่เนี่ย?”เห็นได้ชัดว่าคนที่เเต่งตัวประหลาดคนนึงที่ชี้ปืนมาที่เขาหลังจากตรวจสอบว่าเป็นเเมตต์เขาก็เก็บปืนลง


 


เขาเพิ่งตื่นนอน ที่เขาทำกิริยาเหล่านั้นไปเพราะสัญชาตญานของอาชีพทหารรับจ้างของพวกเขา เเม้จะหลับนอนก็ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ


 


“เจฟ, ดูเหมือนนายจะอยู่ที่นี่เมื่อคืนนี้ นายเห็น เเจ็คสัน เข้ามาที่นี่เมื่อวานนี้หรือไม่?”เเมตต์กล่าวถามโดยตรง

 

 

 


ตอนที่ 281

 

เเจ็คสัน ได้บอกชื่อจริงในชีวิตจริงของเขา เนื่องเพราะเเมตต์ไม่สามารถมองเห็นได้ดังนั้นเเจ็คสันจึงไม่จำเป็นจะต้องหลอกเขา


 


“เเจ็คสัน?อืม เมื่อวานฉันเห็นเขาพาเพื่อนมาอยู่ เเต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนกลับบ้านหรอก”ได้ยินคำถามของเเมตต์ เจฟฟ์ กล่าวตอบ


 


“เช่นนั้นนายพอจะจำอะไรเกี่ยวกับเมื่อวานได้มั้งไหม?”ได้ยินคำตอบของเจฟฟ์ เเมตต์กล่าวถามอีกครั้ง


 


“อืม,ฉันจำได้ว่าเมื่อวานมีคนมาหาเรื่องวีสในวันนั้น หลังจากที่ถูกพวกเราปิดกั้นคนเหล่านั้นก็ออกไป จากนั้นดูเหมือนเเจ็คสันจะเดินออกไป เเละก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ฉันเพื่อนเพื่อนคนนั้นของเเจ็คสันรออยู่นานพอสมควรก่อนที่เขาจะจากไป จะพูดก็พูดเถอะ เขาไม่ได้ขับรถกลับเองด้วยฉันเห็นเขาเดินกลับ ฮ่าฮ่า.”เมื่อคืนที่ผ่านมาเจฟฟ์ได้ดื่มเหล้าหลายเเก้วเป็นเพื่อนธอร์เพราะพวกทหารเเห่งโชคชะตารู้สึกถูกชะตากับธอร์ ดังนั้นเจฟฟ์จึงจำได้


 


“ดูเหมือนว่าจะเป็นฝีมือพวกฟรานซิสจริงจริง”ได้ยินเจฟฟ์กล่าวตอบ ปีเตอร์กล่าวกระซิบด้านหลัง


 


“เจฟฟ์ นายรู้หรือไม่ว่าเพื่อนคนที่เเจ็คสันพามาด้วยเขาชื่ออะไร?”เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของฟรานซิสดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่า มิราจไนท์ นัดเจอเพื่อนคนนั้นคนไหน


 


“อืม,รู้สึกเพื่อนคนนั้นจะชื่อ ธอร์ ก่อนหน้านี้ฉันได้ขอเบอร์โทรศัพท์เขามาอยู่ฉันจะให้ดู”เจฟฟ์หลังจากกล่าวว่าเผชิญหน้ากับเรื่องอะไรเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเปิดเบอร์โดยตรง


 


“อ่า,นี่คือเลขของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมาฉันชอบเขา เขาเนี่ยนักดื่มตัวจริง”เจฟฟ์กล่าวบอก


 


“ขอบคุณเจฟฟ์ไว้ว่าง ๆ ฉันจะมาเลี้ยงนาย”เเมตต์ให้ปีเตอร์จดเบอร์โทรศัพท์ก่อนที่จะกล่าวบอกเจฟฟ์


 


“อืม ยินดี หากต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ติดต่อฉันได้โดยตรง นะเพื่อน!”เห็นว่าเเมตต์กำลังจะจากไป เจฟฟ์กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม


 


“สบายใจเถอะ หากต้องการความช่วยเหลือฉันจะติดต่อนายไปเเน่นอน!”


 


หลังจากนั้นสองนาทีเเมตต์เเละปีเตอร์ก็ออกจากบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตมาตรงที่จอดรถที่รถจิ๊ปของเเจ็คสันจอดอยู่ที่นี่


 


“นี่ใช่รถมิราจไนท์ใช่มั้ย?”เเม้จะมองไม่เห็นเเต่เเมตต์ก็จำได้ว่านี่เป็นรถของมิราจไนท์


 


“อืม,เเต่เราไม่มีกุญเเจจึงไม่สามารถขับออกไปได้”มองไปที่รถของ เเจ็คสัน ปีเตอร์ขมวดคิ้วเเละกล่าวตอบอย่างใจเย็น


 


“เช่นนั้นเราควรลองโทรหาธอร์ดูรึไม่?”ปีเตอร์ดึงโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาธอร์


 


“เฮ้,เอ่อ สวัสดี นั่นใคร?”หลังจากเชื่อมต่อกับสาย ธอร์ กล่าวผ่านเสียงโทรศัพท์


 


“สวัสดีฉันเป็นเพื่อนของเเจ็คสัน คุณพอจะรู้ไหมว่าเเจ็คสันไปไหนเมื่อคืน?”


 



 


หลังจากผ่านไปหลายนาทีปีเตอร์ค่อนข้างผิดหวังหลังจากวางสายโทรศัพท์จากธอร์ ดูเหมือนว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นเพื่อนของเเจ็คสันที่เเจ็คสันเคยบอกว่าจะเเนะนำให้รู้จัก เเต่ดูเหมือนธอร์จะไม่รู้ข้อมูลที่เเจ็คสันหายไปเมื่อคืนนี้


 


ฟุ่บ!


 


“เรากลับไปดูทางด้าน เดดพูล กันเถอะ เผื่อทางเขาจะได้ข้อมูลอะไร เพราะฟรานซิสได้ลักพาตัวเเฟนสาวของเขาไป ตราบเท่าที่พวกมันได้รับข่าวการปรากฏตัวของเดดพูล ไม่เเน่พวกมันอาจจะเริ่มเคลื่อนไหว”ไม่ได้ความคืบหน้าจากธอร์ ปีเตอร์ กล่าวคาดหวังในตัวของเดดพูล


 


“อืมไปกันเถอะ!”


 



 


นิวยอร์ก,ควีนส์ อพาร์ทเมนต์ของธอร์


 


“เพื่อนเเจ็คสันมองหาข้าทำไม?หรือว่าเมื่อคืนเขาเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ?”ธอร์ที่ได้รับสายเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ได้


 


เเม้ว่าปีเตอร์จะไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่เเจ็คสันหายตัวไป เเต่ธอร์ก็สามารถคาดเดาได้


 


“ถ้าข้าฟื้นคืนพลังของตัวเองได้….”เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ ธอร์รู้สึกดุด่าตัวเองที่ไร้พลัง


 


“ท่านพ่อ”


 


“เงื่อนไขอันใดกันที่ท่านต้องการให้ข้าทำให้สำเร็จ เพื่อนของข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าในตอนนี้ช่างไร้พลังที่จะต่อกรผู้ใด”เมื่อไม่สามารถปกป้องเพื่อนตัวเองได้ ธอร์รู้สึกตำหนิตัวเองเเละเงยหน้ามองขึ้นบนฟ้าจากทางหน้าต่าง


 


เเจ็คสันได้ประสบกับอันตรายธอร์ที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับการฟื้นคืนพลังนั้นในขณัเดียวกัน ห้องวิจัยค้อนลึกลับที่ตั้งอยู่ในนิวเม็กซิโก ของ S.H.I.E.L.D. นั้นทันใดก็สั่นราวกับได้รับการกระตุ้นหลังจากนั้นไม่นานมันก็เหมือนจะสงบลง


 


“เวรเอ้ย,ฉันกลัวเเทบตาย! สิ่งนี้เเท้จริงเเล้วมีสิ่งใดซ่อนอยู่กันเเน่”มองดูค้อนเทพเจ้าสายฟ้าที่อยู่ ๆ ก็นิ่งสงัดมาตลอด นักวิจัยหลายคนกล่าวอย่างตื่นกลัวเพราะความเปลี่ยนเเปลงนี้


 



 


นิวยอร์ก,บ้านของ วีส


 


“เหี้*เเม่งเอ้ย!”เวด ได้ทำลายข้าวของในบ้านไปหลายอย่าง


 


“เวด,นายช่วยใจเย็น ๆ ก่อนได้มั้ยว่ะเพื่อน!”มองที่ความโกรธของเดดพูล,วีส กล่าวพูดขึ้น เขาไม่ต้องการให้เวดระบายด้วยการทำลายสิ่งของมีค่า


 


“เอาดาบ,เอาปืนมาให้ฉัน”วาเนสซ่าได้ถูกจับตัวไปดังนั้น เวด จึงรู้สึกตำหนิตัวเองที่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลือวาเนสซ่าได้ เขากังวลว่า ฟรานซิสจะทำอะไรกับวาเนสซ่า


 


“เอ้านี่ ดาบ ,กับ ปืนของนาย”วีส ได้เดินไปหยิบของจากในห้องที่ถูกซ่อนไว้พร้อมเอามาให้เดดพูล


 


เเม้เดดพูลกำลังจะระบายอารมณ์เเละต้องการเผชิญหน้ากับฟรานซิส วีสก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับ วาเนสซ่า เเละ เวด ด้วยเหมือนกัน เเต่เดดพูลได้ติดต่อทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปเเล้ว วีสเชื่อว่าบางที พวกเขาอาจสามารถรับมือกับฟรารซิสได้


 


ฟุ่บ!


 


“ฟรานซิส ถ้าเเกกล้าที่จะทำร้ายเเฟนสาวของฉัน! ฉันจะตอนไอนั่นของเเกเเละฆ่าเเกซะ!”เวดยกปืนคู่ขึ้นมากับยิงเล็งไปที่ตรงหน้าต่างด้วยท่าทีชั่วร้าย


 


“ไม่ใช่เเกบอกว่ามิราจไนท์ได้ถูกจัดการโดยอิทธิพลของพวกฟรานซิสไม่ใช่หรอ เเม้เเต่มิราจไนท์ยังพลาดท่าฉันกลัวว่าเเกจะ…”เห็นเวดตกอยู่ในความเกลียดชัง วีส ยังกล่าวเตือนเรื่องนี้


 


เดดพูล เองก็รู้สึกตำหนิตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้มิราจไนท์ถูกจับตัวไป


 


“ฉันรู้ ถ้าฉันรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับมิราจไนท์ละก็ ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะระเบิดหัวมันด้วยตัวฉันเอง”หลังจากเก็บปืนพกพกของตัวเองเสร็จเดดพูลก็กล่าวขึ้น


 


“อืม”


 



 


ในขณะนั้นเองคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของวีสดูเหมือนจะดังขึ้น


 


ฟุ่บ!


 


เวดได้ไปอ่านข้อความนั้นเเละเปิดขึ้นพวกเขาเห็นจดหมายที่เเนบมาเป็นวิดิโอในวิดิโอนั้นคือรูปของฟรานซิส


 


“ไอ้,โครตเวด วิลสัน เเฟนสาวของเเกอยู่กับฉัน หากไม่ต้องการให้เธอมีรูปลักษณะที่ดูหล่อเหลาเหมือนเเกมาหาฉันที่ xxxxxxx เวลา 09.00 โมงเช้า ฉันจะรอเเกอยู่ที่นั่น”เห็นวิดิโอที่ถูกส่งมาจากฟรานซิส เวด กลายเป็นเเสดงออกได้หน้าเกลียดมาก วาเนสซ่าได้ถูกจับอยู่ในตู้หลอดเเก้ว ซึ่งดูเหมือนว่าฟรานซิสต้องการจะทำให้เธอเป็นเหมือนเวด


 


“ฟรานซิส! ฉันรับรองเลยว่าพรุ่งนี้ฉันจะระเบิดตูดเเกด้วยตัวฉันเอง!”เห็นวาเนสซ่าถูกจับในหลอดทดลอง เวด รู้สึกโกรธจนถึงขีดสุด


 


ปั้ง!


 


วินาทีต่อมาเวดได้หยิบปืนของเขายิงเข้าไปที่จอหน้าคอมพิวเตอร์โดยตรง


 


“เวด!”


 


“ติดต่อพวกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์โดยด่วน”หลังจากทำการทำลายหน้าจอคอมพิวเตอร์ เวดได้กล่าวพูดกับ วีส

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม