Genius Doctor Black Belly Miss 1362-1368
ตอนที่ 1362 เผ่าวิญญาณ (4)
จวินอู๋เสียกลับคืนสู่ร่างของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมองทุกอย่างภายในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดผ่านสายตาของแมวดำอีกต่อไป
จวินอู๋เหยายกมือขึ้นลูบหัวจวินอู๋เสีย แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอาอกเอาใจ เขากวาดสายตามองจวินอู๋เสียทั่วทั้งร่างเพื่อให้แน่ใจว่านางปลอดภัยดี
สำหรับท่าทางเอาอกเอาใจของจวินอู๋เหยานั้น เย่ฉากับเย่เหม่ยเห็นจนชินแล้ว แต่เย่กูนั้น……
แน่นอนว่า……
อึ้งจนพูดไม่ออกเลย
[ชิบ***!]
[นายท่านเจว๋ของพวกเขาเป็นอะไรไปแล้ว!?]
เย่กูเริ่มสงสัยว่าความทรงจำของเขาสับสนหรือเปล่า ทำไมนายท่านเจว๋ในความทรงจำของเขาถึงแตกต่างกับนายท่านเจว๋ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้?
บนหน้าของนายท่านเจว๋ เริ่มมีรอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?
“เดี๋ยวเจ้าก็ชิน” เสียงของเย่เหม่ยดังขึ้นที่ข้างหูของเย่กู
“พอชินแล้ว ก็จะรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้เห็น” เย่ฉาพยักหน้าเห็นด้วย
เย่กูมองคนทั้งสองที่เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขาด้วยสายตาสยดสยอง เหมือนทั้งสองคนเป็นคนทรยศขายชาติ
[นี่เขาตัดขาดจากโลกนานเกินไป หรือว่าเขายังไม่ตื่นกันแน่?]
จวินอู๋เสียพูดคุยกับจวินอู๋เหยาสักพัก แล้วก็มองมาที่เย่กู นางเดินมายืนตรงหน้าเย่กูและจ้องมองใบหน้าที่ดูซีดและอ่อนแอเล็กน้อยนั่น
สิ่งที่หรงรั่วและฟ่านจั๋วพูดเมื่อครู่ นางได้ยินทั้งหมด จาก “เด็กหญิง” ที่นางเจอก่อนหน้านี้และเด็กชายที่อยู่ตรงหน้านางตอนนี้ นางคิดว่าหรงรั่วกับฟ่านจั๋วน่าจะเดาบางอย่างได้ถูกต้อง คนตรงหน้านางคือคนเผ่าวิญญาณ ลักษณะพิเศษของเผ่านี้ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกสนใจมาก
จากภาพรวม จวินอู๋เสียกับแมวดำก็เป็นสองวิญญาณในร่างเดียว แต่ต่างจากเผ่าวิญญาณตรงที่พวกเขาจะไม่ทำให้วิญญาณอีกดวงหายไปเมื่ออายุมากขึ้น
สายตาของจวินอู๋เสียทำให้เย่ฉากับเย่เหม่ยกระวนกระวายใจขึ้นมา
ทั้งสองคนเข้าใจคุณหนูคนนี้พอสมควร พวกเขารู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นคนที่ตัดสินใจฆ่าได้อย่างเด็ดขาด จากสถานการณ์ปัจจุบัน เย่กูที่เป็นผู้พิทักษ์สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดคือศัตรูที่ขวางทางพวกเขา
พวกเขากังวลมากว่าจวินอู๋เสียจะอยากกำจัดเย่กู
“คุณหนู เรายังไม่คุ้นเคยกับสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ควรเก็บคนคนนี้เอาไว้เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนดีไหมขอรับ?” เย่เหม่ยเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
จวินอู๋เสียยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็มีร่างสีทองพุ่งเข้ามาขวางระหว่างนางกับเย่กู
เสือเขี้ยวดาบที่แปลงร่างมาจากหนูนรกยืนอยู่ตรงหน้าเย่กูเหมือนเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องเขา ท่าทางเหมือนกลัวว่าจะมีคนทำร้ายเจ้านายของมัน
เด็กหญิงเปลี่ยนเป็นเย่กู หนูนรกเปลี่ยนเป็นเสือเขี้ยวดาบที่ดุร้าย ดวงตาของเสือเขี้ยวดาบนั้นตื่นตัวระวังภัย แตกต่างกับหนูนรกที่ใสซื่อน่ารักตัวนั้นอย่างสิ้นเชิง
มันกำลังปกป้องเจ้านายของมัน
“ข้าไม่ได้พูดว่าจะฆ่าเขาสักคำ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเงยหน้ามองเย่ฉากับเย่เหม่ย
เย่ฉากับเย่เหม่ยชะงักไปเล็กน้อย
จวินอู๋เสียไม่เคยคิดจะฆ่าเย่กูเลย ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์สุสานจักรพรรดิแห่งความมืด มันเป็นหน้าที่ของเย่กูที่ต้องป้องกันผู้บุกรุกไม่ให้เข้ามาได้อยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนชั่วร้ายอย่างที่ไม่อาจให้อภัยได้ อย่างน้อยตอนที่จวินอู๋เสียอยู่ในร่างของแมวดำ ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นหรือเย่กู ทั้งคู่ไม่ได้ทำร้ายนางเลย
นอกจากนั้น เย่กูก็ถูกเย่ฉากับเย่เหม่ยกำราบได้แล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเด็กหญิงที่ถูกปิดผนึกอยู่ที่นี่มานาน หรืออาจจะเป็นเพราะหนูนรกที่ใสซื่อไร้เดียงสา จวินอู๋เสียจึงไม่รู้สึกเป็นศัตรูกับเย่กู
“เก็บเขาไว้” จวินอู๋เสียทิ้งคำพูดประโยคนั้นไว้ แล้วหันหลังจากไป นางไม่อยากทำร้ายวิญญาณอีกดวงที่อยู่ในร่างของเย่กู
สาวน้อยโง่เขลาที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องคนนั้น
ตอนที่ 1363 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (1)
เย่ฉากับเย่เหม่ยแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขาแกล้งทำหน้าเคร่งขรึมดุดันเตือนเย่กูไม่ให้เล่นลูกไม้อะไร
ในใจเย่กูยิ่งหดหู่มากขึ้น
[ทำไมเจ้าสองคนนี้ทำตัวนอบน้อมต่อเด็กสาวคนนั้นขนาดนี้?] เชื่อฟังมากซะจนเขาเองก็แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
พอพยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านเจว๋ของเขากับเด็กสาวคนนั้น ก็ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆขึ้นบนหัวของเขา
ก็ถือว่าทุกคนได้เข้ามาในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดอย่างเป็นทางการแล้ว ประตูถูกเปิดออกทีละบาน เงินทองของมีค่าต่างๆนับไม่ถ้วนกองเป็นภูเขา สมบัติที่กองในห้องหนึ่งห้องยังมากกว่าสมบัติในท้องพระคลังของประเทศอีก
สมบัติมหาศาลในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ทำให้เฉียวฉู่น้ำลายหกไปตลอดทาง เขามองไปทุกที่ที่เหยียบย่างเข้าไป ทั้งสัมผัสและลูบคลำ ยังไม่ทันเห็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ เขาก็เกือบจะเสียสติไปแล้ว
“ไม่แปลกใจเลยที่พูดกันว่าจักรพรรดิแห่งความมืดเคยปกครองทั่วทั้งอาณาจักรกลาง สมบัติมากมายขนาดนี้ ใช้ไปอีกหลายชาติก็ใช้ไม่หมด” เฉียวฉู่กลืนน้ำลายเสียงดัง ทำไมคนเราถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้?
เฟยเหยียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนที่พวกเขาจะพบจวินอู๋เสีย ชีวิตของพวกเขาแย่ยิ่งกว่าขอทาน ยกเว้นฟ่านจั๋วที่มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับภูเขาเงินภูเขาทองที่อยู่ตรงหน้า
“ตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดนำราชอาณาจักรแห่งความมืดปกครองอาณาจักรกลาง พวกเราไม่มีโอกาสได้เห็น แต่สิ่งที่ฝังอยู่ในสุสานนี่ก็มากพอจะบอกได้แล้วว่าจักรพรรดิแห่งความมืดมีอำนาจมากขนาดไหน ไม่งั้นจากนิสัยของพวกสิบสองวิหาร ไม่มีทางที่จะยอมให้คนอื่นครอบครองทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนี้หรอก” เฟยเหยียนถอนใจ
ความแค้นที่พวกเขามีต่อสิบสองวิหาร ทำให้พวกเขาถือว่าคนของสิบสองวิหารคือศัตรูคู่อาฆาตของพวกเขา
ตรงกันข้ามกับราชอาณาจักรแห่งความมืดกับจักรพรรดิแห่งความมืดที่กลายเป็นไอดอลที่ทุกคนเคารพบูชา เนื่องจากเคยกำราบสิบสองวิหาร ทำให้สิบสองวิหารต้องก้มหัวให้พวกเขาอย่างไม่มีทางเลือก พวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับราชอาณาจักรแห่งความมืด แต่ตอนที่พวกเขาเกิด ราชอาณาจักรแห่งความมืดได้แยกตัวออกไปไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก สิ่งที่พวกเขาได้ยินมาเกี่ยวกับจักรพรรดิแห่งความมืดและราชอาณาจักรแห่งความมืดล้วนมาจากเรื่องราวและตำนานต่างๆเท่านั้น
แข็งแกร่ง, ลึกลับ, ไร้เทียมทาน
ในใจของผู้เยาว์ทุกคนเต็มไปด้วยความยกย่องชื่นชมและเคารพบูชา
การที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นจักรพรรดิแห่งความมืดรวบรวมอาณาจักรกลางให้เป็นหนึ่งเดียวและขึ้นปกครองนั้น เป็นเรื่องที่พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างมาก
บางครั้งพวกเขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าราชอาณาจักรแห่งความมืดยังคงอยู่ สิบสองวิหารคงไม่สามารถทำเรื่องอุกอาจชั่วร้ายได้ถึงขนาดนี้
ตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดยังอยู่ในอาณาจักรกลาง เขาห้ามทุกคนลงมาก่อเรื่องที่อาณาจักรล่างอย่างเข้มงวด การมีอยู่ของเขาเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แยกอาณาจักรกลางออกจากอาณาจักรล่าง ตัดการติดต่อทั้งหมดระหว่างสองอาณาจักร ซึ่งได้หยุดผู้คนจากอาณาจักรกลางจากการใช้ความสามารถพิเศษของตนไปสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายที่ก่อให้เกิดอันตรายในอาณาจักรล่าง
ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกของเฉียวฉู่ก็มีใจเอนเอียงไปทางราชอาณาจักรแห่งความมืดแล้ว
ถ้าพวกเขามีทางเลือกอื่นล่ะก็ พวกเขาก็ไม่อยากมารบกวนการพักผ่อนอันสงบสุขของจักรพรรดิแห่งความมืดหรอก แต่น่าเสียดาย นี่คือทางเลือกเดียวที่พวกเขามี
“จักรพรรดิแห่งความมืดแข็งแกร่งมาก แล้วทำไมเขาถึงได้……” เฉียวฉู่ถามคำถามที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัว
เขานึกไม่ออกเลยว่า ใครในอาณาจักรกลางที่สามารถส่งจักรพรรดิแห่งความมืดไปสู่ความตายได้
“ไม่มีใครรู้ ในบรรดาข่าวลือทั้งหมด การตายของจักรพรรดิแห่งความมืดยังคงเป็นคำถามมาตลอด ขนาดคนของราชอาณาจักรแห่งความมืดก็ยังไม่เคยมีใครพูดถึงเหตุผลเลยสักครั้ง” ฟ่านจั๋วส่ายหัว
การตายของจักรพรรดิแห่งความมืดเป็นปริศนาที่ยังไขไม่ออกในอาณาจักรกลางมาโดยตลอด
ตอนที่ 1364 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (2)
จักรพรรดิแห่งความมืดตายได้ยังไง? ใครเป็นคนฆ่าเขา?
ไม่มีใครมีคำตอบที่แน่ชัดให้กับคำถามพวกนั้น
ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวลือในอาณาจักรกลางว่า กลุ่มอำนาจส่วนหนึ่งในอาณาจักรกลางไม่พอใจการปกครองของจักรพรรดิแห่งความมืด พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันใช้วิธีการที่ชั่วร้ายบางอย่างสังหารจักรพรรดิแห่งความมืด
แต่ข่าวลือนั้นก็ไม่ได้รับการเชื่ออย่างกว้างขวาง
เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ด้วยความจงรักภักดีที่กองทัพราตรีมีต่อจักรพรรดิแห่งความมืด เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสืบไม่ได้ว่าใครคือคนร้าย ถ้ากลุ่มอำนาจในอาณาจักรกลางเป็นผู้สังหารจักรพรรดิแห่งความมืดจริงๆ ไม่ใช่แค่กองทัพราตรีหรอก แต่ราชอาณาจักรแห่งความมืดทั้งหมดก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่ และจะเกิดการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา
แต่หลังจากที่จักรพรรดิแห่งความมืดตายไป ราชอาณาจักรแห่งความมืดกลับแยกตัวออกมา และไม่ได้ทำการแก้แค้นใดๆเลย
ยากที่ผู้คนจะจินตนาการว่า คนของราชอาณาจักรแห่งความมืดจะสามารถทนต่อการกระทำดังกล่าวได้หากมันเป็นความจริง ขนาดตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดตายไปแล้ว คนที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับจักรพรรดิแห่งความมืดยังถูกกำจัดจนสิ้นซากเลย นับประสาอะไรกับคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรม
การที่ราชอาณาจักรแห่งความมืดไม่ได้ทำอะไรเลย ทำให้เรื่องทั้งหมดน่าสงสัยมากขึ้น
ภายในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด สามารถพบเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังได้ทั่วทุกหนแห่ง กลุ่มผู้เยาว์ที่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับจักรพรรดิแห่งความมืดมามาก จึงอดไม่ได้ที่จะถูกภาพเหล่านั้นดึงดูดแบบที่ไม่อาจต้านทานได้ ราวกับพวกเขาจะสามารถมองเห็นชายที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของอาณาจักรกลางเมื่อนานแสนนานมาแล้ว
จวินอู๋เสียกับจวินอู๋เหยาเดินเคียงข้างกันไปในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ประตูหินที่หนักจนเกินจินตนาการนั้นดูเหมือนเบาราวกับขนนกภายใต้มือของจวินอู๋เหยา
ดวงตาของจวินอู๋เหยาไม่ได้มองของตกแต่งในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดมากนัก แต่กลับมองจวินอู๋เสียแทบตลอดเวลา ราวกับว่าของแวววาวระยิบระยับที่อยู่รอบตัวเขานั้น ไม่ได้คู่ควรให้เขาสนใจเท่าเส้นผมเส้นเดียวของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เหยาที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า นางคุ้นเคยกับใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ตินั้นมาก มีเขาอยู่ข้างๆ ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องง่าย
“ที่นี่ใหญ่จัง” จู่ๆจวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
พวกเขาเดินอยู่ในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกจากห้องโถงจำนวนมากที่เชื่อมต่อถึงกันได้ ทางเดินพวกนี้เชื่อมต่อถึงกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร และห้องโถงทุกห้องที่เชื่อมต่อกับทางเดินล้วนเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล แววระยิบระยับจนตาพร่าไปหมด
ถ้าพวกเขาเลือกห้องโถงสักห้องจากห้องพวกนี้ และนำเอาสมบัติทุกอย่างในนั้นออกมา จะสามารถเปลี่ยนประเทศเล็กๆยากจนให้กลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งได้ในพริบตา
แค่ส่วนปลายยอดภูเขาน้ำแข็งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ก็มีสมบัติมากมายมหาศาลขนาดนี้แล้ว
ทำให้จินตนาการได้เลยว่า คุณค่าของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดทั้งหมดนั้น น่ากลัวมากขนาดไหน
แม้ว่าจะไม่มีของวิเศษทั้งหลายมาล่อ แค่ความร่ำรวยอย่างเดียวก็มากพอจะปลุกปั่นผู้คนในอาณาจักรกลางได้แล้ว
ที่อยู่ที่นี่แทบจะเป็นสมบัติทั้งหมดของอาณาจักรกลางเลย การได้ครอบครองสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ไม่เพียงแค่จะได้พลังอำนาจเท่านั้น แต่ยังได้ความร่ำรวยมั่งคั่งอย่างที่ไม่อาจเปรียบเทียบได้!
มากพอจะติดอาวุธชุดเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้าให้กองทัพใหญ่ขนาดไหนก็ได้!
“ใช่” จวินอู๋เหยาหัวเราะเบาๆ และพยักหน้า
จวินอู๋เสียมองเขา แล้วก็เข้าใจว่าทุกอย่างที่นี่ไม่อาจหลุดรอดสายตาเขาไปได้
แต่พอคิดดูแล้ว พวกเขาผ่านห้องโถงมาเป็นร้อยห้อง และทุกห้องก็เต็มไปด้วยสมบัติกองเป็นภูเขา แต่ไม่เห็นของวิเศษที่สามารถเพิ่มพลังพวกเขาได้เลยสักชิ้นเดียว ห้องพวกนี้ แทนที่จะบอกว่าเป็นสิ่งของที่ถูกฝังในสุสานไปพร้อมกับจักรพรรดิแห่งความมืด บอกว่าเป็นที่เก็บเงินทองทั้งหมดของจักรพรรดิแห่งความมืดหลังเขาตายไปจะถูกต้องกว่า
แม้ว่าจำนวนของมันจะน่าเหลือเชื่อ แต่มูลค่าของมันก็ยังจำกัดอยู่แค่เงินทองเท่านั้น
ตอนที่ 1365 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (3)
ของพวกนี้ไม่ใช่จุดประสงค์หลักในการเดินทางของพวกจวินอู๋เสีย
เมื่อเทียบกับเงินทองของมีค่าจำนวนนับไม่ถ้วนพวกนั้น ภาพแกะสลักหินบนกำแพงดึงดูดความสนใจของพวกจวินอู๋เสียได้มากกว่าเล็กน้อย
หลังจากได้เห็นภาพแกะสลักหินมากขึ้น จวินอู๋เสียก็ได้รู้เรื่องของจักรพรรดิแห่งความมืดมากขึ้นด้วย ติดอยู่แค่ว่าจักรพรรดิแห่งความมืดจะสวมหน้ากากอยู่บนภาพบนผนังทุกภาพ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดิแห่งความมืด แต่ในภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรพรรดิแห่งความมืดได้เป็นอย่างดี
จวินอู๋เสียกวาดมองภาพบนผนังทั้งหมด ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของจวินอู๋เหยา
บนใบหน้าที่หล่อเหลาไร้กาลเวลานั้น มีรอยยิ้มแบบเดียวกับที่นางคุ้นเคย
ขนตาของจวินอู๋เสียกระพือเล็กน้อย นางลดสายตาลงทันที แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เดินต่อไปแบบนี้ไม่ได้เรื่องแน่ สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดใหญ่เกินไปแล้ว ข้าว่าถ้าเรายังเดินไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมายเช่นนี้ กว่าจะหาเจอก็คงชาติหน้าโน่นล่ะมั้ง?” เฉียวฉู่ดึงตัวเองออกจากสมบัติมหาศาลที่ล่อตาล่อใจได้แล้ว จึงได้สติขึ้นมาเล็กน้อย
สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดใหญ่เกินไป พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อหาของวิเศษที่ถูกฝังไว้ในสุสานพร้อมกับจักรพรรดิแห่งความมืด เพื่อจะใช้มันเพิ่มพลังของพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงเงินทองและอัญมณีเท่านั้น ของที่พวกเขาจะเอาไปใช้ได้มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายในการเดินทางแล้ว แต่กลับทำได้เพียงวนไปรอบๆเหมือนแมลงวันไร้หัว ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก
“เจ้าทึ่มเฉียวพูดถูก เดินหาไปเรื่อยๆแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างนี้ มีแต่จะเสียเวลาเปล่า สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดสลับซับซ้อนและใหญ่กว่าที่เราคิดมาก คนที่ไม่รู้ทางไม่มีวันหาทางไปได้แน่” ฮัวเหยาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แผนที่ที่พวกเขามีอยู่นั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเมื่อพวกเขาเข้ามาในนี้
ปลายทางสุดท้ายที่ระบุไว้บนแผนที่เป็นแค่ที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับภายในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเลย
อาจเป็นไปได้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาแค่หาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเจอ แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน หรือไม่ก็พวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะบันทึกเกี่ยวกับด้านในสุสาน
เมื่อพวกจวินอู๋เสียเจอสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด คำถามหนึ่งก็ได้ติดอยู่ในใจของพวกเขา
สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดล้อมรอบด้วยบาเรียกั้นเขตแดนตลอดเวลา ถ้าจวินอู๋เสียไม่ได้ค้นพบบาเรียนั้นโดยบังเอิญ และจวินอู๋เหยาไม่ได้ทำลายบาเรียนั้นล่ะก็ ต่อให้พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด พวกเขาก็คงไม่สามารถพบเบาะแสใดๆได้เลย
แต่การที่พ่อแม่ของพวกเขาสามารถระบุตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดได้อย่างชัดเจน คือสิ่งที่พวกเขายังคงสงสัยมาโดยตลอด
ในตอนนั้นพ่อแม่ของพวกเขาหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเจอได้ยังไง?
พวกเขานึกหาเหตุผลที่เป็นไปได้ไม่ออกเลย
“ข้ากำลังคิดว่า ทำไมเราไม่ถามเจ้าหนูตัวเล็กนี่ดูล่ะ?” เฉียวฉู่เดินมาตรงหน้าเย่กู มองดู “เจ้าหนูตัวเล็ก” ที่มีหน้ากากปิดหน้าครึ่งหนึ่ง
เย่กูหรี่ตา เสียงกัดฟันทำให้เย่ฉากับเย่เหม่ยที่จับเขาอยู่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“เจ้าหนู ช่วยพาเราดูรอบๆที่นี่หน่อยได้ไหม?” เฉียวฉู่ไม่รู้ตัวเลยว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา ยังคงพูดจารนหาที่ตาย
เย่ฉากับเย่เหม่ยจุดเทียนอธิษฐานภาวนาให้เฉียวฉู่อยู่ในใจ โชคดีที่มีจวินอู๋เหยาอยู่ด้วย ถ้าจวินอู๋เหยาไม่อยู่ล่ะก็……
พวกเขาแทบจินตนาการภาพเฉียวฉู่เลือดสาดกระจายไปไกลถึงสามฟุตได้เลย
เย่กูหรี่ตามองเฉียวฉู่ ยิ้มแต่ดูไม่เหมือนยิ้ม พลางพูดว่า “ได้”
[แม่งเอ๊ย รอนายท่านเจว๋อนุญาตก่อนเถอะ พ่อจะบิดหัวไอ้เศษสวะนี่ให้หมุนเป็นเกลียวเลย!!]
ตอนที่ 1366 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (4)
เฉียวฉู่คิดอย่างไม่ใส่ใจว่า เย่กูตอบตกลงเพราะ “ไม่มีทางเลือก” เฉียวฉู่จึงยิ้มกว้างออกมาอย่างสดใส
เย่กูกัดกรามแน่น มือสองข้างทั้งซ้ายและขวา แอบคว้าจี้หยกที่เอวของเย่ฉาและเย่เหม่ย แล้วบดขยี้หยกทั้งสองชิ้นจนกลายเป็นผงอย่างเงียบๆ
เย่ฉาและเย่เหม่ยกลืนน้ำลาย ทำได้เพียงแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเย่กูเป็นผู้นำทาง พวกเขาก็ไม่ต้องเดินไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเหมือนแมลงวันไร้หัวในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด
แต่จวินอู๋เสียเดินออกไปได้ไม่เท่าไร นางก็หยุดอย่างกระทันหัน
“หืม?” จวินอู๋เหยาหันมามองจวินอู๋เสียด้วยแววตาสงสัย
จวินอู๋เสียหันกลับมามองกลุ่มเพื่อนของนาง นางกวาดสายตามองพวกเขาแล้วก็ตัวแข็งทื่อทันที!
“เสี่ยวเจว๋อยู่ไหน?” จวินอู๋เสียมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของเสี่ยวเจว๋ในกลุ่มเพื่อนๆเลย ตอนที่พวกจวินอู๋เหยาปรากฏตัวบนหลังคาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด นางเห็นเด็กน้อยอยู่ที่ด้านหลังของกลุ่มเพื่อนๆอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ แค่ครู่เดียวเท่านั้น เขาก็หายไปไหนไม่รู้แล้ว
พอจวินอู๋เสียถามขึ้นมา พวกเฉียวฉู่ถึงได้สังเกตเห็นว่าเสี่ยวเจว๋หายตัวไปแล้ว!
“ข้า……ข้าชักสังหรณ์ไม่ดีแล้ว……” เฉียวฉู่กลืนน้ำลายเสียงดัง
“เอ่อ ข้าเห็นห้องที่เราผ่านมาเมื่อกี้ มีพวกเครื่องหยกอยู่เยอะแยะเลย……” เฉียวฉู่ยกมือขึ้นชี้อย่างลังเล ประตูหลายบานที่พวกเขาเดินผ่านล้วนถูกจวินอู๋เหยาเปิดออกทั้งหมด ตอนแรกพวกเขาก็ตื่นเต้นสนใจ แต่พอเห็นมากๆเข้า พวกเขาก็เริ่มหมดความสนใจ เพียงแค่เหลือบตามองสมบัติแบบผ่านๆเท่านั้น
เครื่องหยก!
เฉียวฉู่พูดยังไม่ทันขาดคำ จวินอู๋เสียก็หันหลังเดินกลับไปตามทางที่พวกเขามาทันที
จวินอู๋เหยาอดยิ้มออกมาไม่ได้ขณะที่เดินตามนางไป
ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่เปิดประตูเอาไว้ นอกจากพวกทองแท่งแวววาวแล้ว ก็มีอัญมณีล้ำค่ามากมายกระจายอยู่ทั่วเหมือนดวงดาวที่ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้น นอกจากสมบัติที่ส่องแสงระยิบระยับพวกนั้นแล้ว ก็มีเครื่องหยกจำนวนหนึ่งถูกโยนเอาไว้ท่ามกลางกองสมบัติพวกนั้นด้วย
และร่างเล็กๆร่างหนึ่งกำลังนั่งกอดแจกันหยกอยู่บนกองสมบัติ ปากก็เคี้ยว “กร้วม กร้วม” อย่างมีความสุข
จวินอู๋เสียมองไปที่ร่างเล็กๆที่กำลังกินอย่างมีความสุขแบบพูดอะไรไม่ออก ในใจรู้สึกจนปัญญาอย่างมาก
เสี่ยวเจว๋ดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่ามีคนมา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง ปากยังคงเคี้ยวก้อนหยกที่เพิ่งกัดออกไป ดวงตาสีแดงสดกลมโตของเขากระพริบปริบๆอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นจวินอู๋เสียยืนอยู่ตรงนั้น
จากนั้นเขาก็หยิบแหวนนิ้วหัวแม่มือหยกที่อยู่ข้างๆขึ้นมาและยื่นส่งให้จวินอู๋เสียพร้อมกับพูดว่า “พี่ชาย จิน!”
จวินอู๋เสียมุมปากกระตุก นางกินได้ที่ไหนเล่า
ไม่ต้องพูดเลยว่าฟันนางจะกัดหยกเข้ารึเปล่า ท้องของนางไม่สามารถย่อย “อาหาร” ชนิดนี้ได้อยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเครื่องหยกพวกนี้ดึงดูดความสนใจของเสี่ยวเจว๋ได้มากเมื่อเทียบกับคุณภาพหยกข้างนอก หยกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะใส่ไว้ในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดย่อมถูกคัดมาอย่างดีจากคนของราชอาณาจักรแห่งความมืด ดังนั้นพลังวิญญาณในเครื่องหยกพวกนั้นจึงมีคุณภาพดีกว่ามาก สำหรับเสี่ยวเจว๋แล้ว เขารู้สึกเหมือนเป็นหนูที่ปีนเข้าไปในถังข้าวได้ ไม่มีอะไรจะสุขมากไปกว่านี้แล้ว
แม้ว่าเหตุผลที่จวินอู๋เสียพาเสี่ยวเจว๋เดินทางมาที่นี่ด้วย ก็เพื่อหาของที่สามารถเติมพลังให้หยกกล่อมวิญญาณได้ แต่……นางไม่ได้จะให้เขานั่งกินอยู่ที่นี่ตอนนี้!
พวกเขายังไม่รู้สภาพที่แท้จริงทั้งหมดของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเลย นางไม่อาจวางใจปล่อยให้เสี่ยวเจว๋อยู่ที่นี่คนเดียวได้
ตอนที่ 1367 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (5)
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น จวินอู๋เสียก็ทำได้แค่ให้ฟ่านจั๋วลากเสี่ยวเจว๋ออกมาจากกองเครื่องหยกพวกนั้น
เสี่ยวเจว๋ถูกลากตัวออกมาด้วยสีหน้าสิ้นหวัง มือสองข้างยื่นออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์เหมือนไม่อยากไปจาก “อาหารดีๆ”
จวินอู๋เสียกุมขมับ “เดี๋ยวค่อยกินทีหลัง”
เสี่ยวเจว๋มองจวินอู๋เสีย แล้วหันไปมองกองเครื่องหยกอีกครั้งก่อนจะเงียบลง
จวินอู๋เสียกำลังจะเดินออกไป แต่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงสั่งว่า “ให้เขาเอาติดตัวไปด้วย 2-3 ชิ้น”
เพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยวเจว๋ถูกล่อไปหาของกินอีก จวินอู๋เสียจึงสั่งให้พวกฟ่านจั๋วเอาเครื่องหยกติดตัวไปคนละ 2-3 ชิ้น เสี่ยวเจว๋จะได้ไม่ว่างไปหาของกินระหว่างทาง
สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดใหญ่จนน่าตกใจ เย่กูนำทางทุกคนเดินในสุสานอยู่นาน แต่ขนาดมีเขานำทางแล้ว พวกเขายังต้องเดินกันอีกไกล
จากเงินทองของมีค่าที่กองเป็นภูเขา ไปจนถึงเครื่องประดับหรูหราฟุ่มเฟือยขนาดใหญ่ การเดินอยู่ในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตามากทีเดียว
“โห จักรพรรดิแห่งความมืดนี่รวยจริงๆ รวยมากๆ” เฉียวฉู่กุมหัวใจที่เต้นรัว เกือบจะรับความตื่นเต้นทั้งหมดไม่ไหวแล้ว
แม้แต่จวินอู๋เสียที่สงบนิ่งยังต้องยอมรับ หลังจากได้เห็นสมบัติส่วนหนึ่งของจักรพรรดิแห่งความมืด
“ของทั้งหมดนี่ จักรพรรดิแห่งความมืดใช้หมดเหรอ?” จู่ๆจวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยาที่อยู่ข้างๆนาง
จวินอู๋เหยาพูดพร้อมหัวเราะ “ทำไมต้องใช้? ของสวยๆงามๆก็เก็บไว้ดู ของไม่มีประโยชน์ก็เก็บสะสมไว้เล่นๆ ใครจะกล้าเอาไป?”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คำพูดของจวินอู๋เหยาทำให้นางรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกนั้นสอดคล้องกับสิ่งที่นางคาดเดาเอาไว้
“ใช่ซิ ใครจะกล้าแตะต้องสิ่งของของจักรพรรดิแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่? แต่ถ้าเขารู้ว่า วันนี้สมบัติของเขากำลังถูกเด็กน้อยอย่างพวกเราจ้องจะเอาไป ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธไหม” จวินอู๋เสียพูดเบาๆ
“ไม่โกรธหรอก” จวินอู๋เหยายิ้ม
“ท่านรู้ได้ยังไง?” จวินอู๋เสียจ้องจวินอู๋เหยา
จวินอู๋เหยาตอบว่า “เป็นถึงจักรพรรดิแห่งความมืด ของพวกนี้จะคู่ควรให้สนใจได้ยังไง?”
“ดูเหมือนท่านจะรู้ดีจังนะ” จวินอู๋เสียพูด
จวินอู๋เหยาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
กลับเป็นเย่ฉาและเย่เหม่ยที่แอบเหงื่อแตกแทนนายท่านเจว๋ของพวกเขา
ไม่รู้ทำไม พวกเขารู้สึกว่าคำถามเมื่อกี้ของคุณหนูฟังดูแปลกๆ และนายท่านเจว๋……
นายท่านตอบเร็วไปหน่อยแล้ว!
คำพูดของเขาเหมือนจะบอกว่า “อยากได้อะไรเอาไปเลย ข้าไม่ว่า ยังไงของทั้งหมดนี้ก็เป็นของข้าอยู่แล้ว เอาไปได้เท่าที่เจ้าต้องการเลย” ตอบแบบนี้จะไม่มีปัญหาแน่หรือ?
ทั้งสองรู้สึกกลัวขึ้นมา ดูเหมือนคุณหนูจะรู้อะไรบางอย่างแล้ว แต่ยังไม่กล้าชี้ชัดลงไป
เย่กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมีจวินอู๋เหยาอยู่ด้วย เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมทำตัวเป็นนักโทษอย่างเชื่อฟัง ขณะที่ในใจของเขาคิดวิธีฆ่าเฉียวฉู่เอาไว้เป็นร้อยวิธีแล้ว
หลังจากเดินอยู่นานพอสมควร ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าประตูขนาดใหญ่ที่ทำจากหยก
ประตูนั้นใหญ่โตมหึมามากกว่าประตูอื่นๆที่พวกเขาเคยเห็น ประตูนั้นประกอบด้วยสองบาน ทำขึ้นจากหยกขนาดใหญ่ก้อนเดียว ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง ก็คงไม่มีใครจินตนาการได้ว่า ในโลกนี้จะมีหยกขนาดใหญ่แบบนี้อยู่ ประตูหยกฝังด้วยทองคำเป็นรูปตราสีทองพร้อมด้วยอัญมณีล้ำค่าขนาดเท่าไข่ไก่ฝังอยู่ ดูหรูหรางดงามมาก
“นี่คือตราฉิวเสอ” ฟ่านจั๋วมองไปที่ประตูหยกสองบาน มีรูปงูขนาดใหญ่ฝังด้วยทองคำวาดเอาไว้
ตอนที่ 1368 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (6)
งูตัวใหญ่ทะยานขึ้นท่ามกลางหมู่เมฆ ด้านหลังมีปีกสองข้าง เขี้ยวแหลมคมสองอันที่สามารถเจาะทะลุการป้องกันทุกรูปแบบยื่นออกมาจากปากของมัน
“ฉิวเสอเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรแห่งความมืดที่แสดงถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา จักรพรรดิแห่งความมืดชอบพวกงูมาก ทั่วทั้งอาณาจักรกลางมีฉิวเสออยู่ 2 ตัว และทั้ง 2 ตัวก็อยู่ในมือของจักรพรรดิแห่งความมืด กล่าวกันว่าฉิวเสอนั้น นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แล้ว ยังมีความพิเศษอีกอย่างด้วย มันไม่ใช่ทั้งสัตว์อสูรและร่างวิญญาณ แต่สามารถเดินทางระหว่างสองโลกได้ สามารถแปลงร่างเป็นรูปแบบกายเนื้อ หรือจะอยู่ในร่างวิญญาณก็ได้” ฟ่านจั๋วพูดช้าๆ
“คนจากราชอาณาจักรแห่งความมืดคงใช้ฉิวเสอ 2 ตัวนั้นเป็นแบบทำประตูบานนี้ ให้พวกมันเป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้องการพักผ่อนอันสงบสุขของจักรพรรดิแห่งความมืด”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของฟ่านจั๋ว เย่กูก็อดชำเลืองมองเด็กหนุ่มไม่ได้ สิ่งที่เขาพูดค่อนข้างใกล้เคียงความจริงทีเดียว
จวินอู๋เหยาเลิกคิ้ว แล้วยกมือขึ้นผลักประตูหยกให้เปิดออก!
ประตูหยกขนาดมหึมาถูกผลักเปิดออก มันส่งเสียงดังพร้อมเผยให้เห็นด้านใน
ทุกอย่างที่อยู่ด้านหลังประตูปรากฏขึ้นต่อสายตาของพวกจวินอู๋เสีย
มันเป็นวังขนาดมหึมาที่มีเพดานสูงจนน่าตกใจ โซ่หนา 18 เส้นห้อยลงมาจากทุกด้านของห้องโถง ปลายอีกด้านหนึ่งมาบรรจบกันที่ตรงกลาง โลงศพสีดำขนาดใหญ่ถูกโซ่พวกนั้นดึงให้ลอยอยู่กลางอากาศ!
ภายในห้องโถงใหญ่ มีสมบัติมากมายวางเอาไว้ แพรวพราวระยิบระยับไปหมด ของวิเศษพวกนั้นส่องประกายราวกับดวงดาวในห้องโถงที่มืดสลัว
ทุกคนที่ได้เห็นภาพนั้นพากันยืนตะลึง พวกเขาเคยจินตนาการว่าสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดจะมีสมบัติมากมายขนาดไหน แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว พวกเขาก็ได้รู้ว่า สิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้นั้นน่าขำสิ้นดี
ของวิเศษมากมายนับไม่ถ้วนวางเรียงเป็นแถวบนชั้นโครงกระดูกสีขาวที่เรียงแถวกันเป็นร้อยๆชั้น ส่องแสงแวววาวเผยให้เห็นพลังที่บรรจุอยู่ภายใน
เมื่อมองเข้าไปข้างใน พวกเขาไม่สามารถมองเห็นห้องโถงขนาดมหึมาทั้งหมดได้ เนื่องจากแถวชั้นวางโครงกระดูกยื่นออกมาเต็มแน่นห้องไปหมด ตอนแรกดูเหมือนจะวางไว้มั่วๆ แต่มันก็มีรูปแบบของมันอยู่ จริงๆแล้วพวกเขาสร้างรูปแบบแปลกๆขึ้นตรงกลางห้องโถงที่ชี้ไปยังจุดที่โลงศพถูกแขวนอยู่
โลงศพที่แขวนลอยอยู่กลางอากาศนั้นมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่ามันจะเป็นสีดำทั้งหมด แต่เมื่อมองดูดีๆแล้ว จะเห็นว่ามีตราสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนซ่อนอยู่ภายในสีดำทั้งหมดนั้น ถักทอเข้าหากันอย่างแน่นหนา
“นั่นคงเป็น……โลงศพ……ของจักรพรรดิแห่งความมืด” หรงรั่วเงยหน้าขึ้นมองโลงศพที่ถูกแขวนเอาไว้กลางอากาศ หัวใจเหมือนถูกก้อนหินขนาดใหญ่กดทับ รู้สึกกดดันจนแทบหายใจไม่ออก
ทุกคนเดาได้ว่าใครเป็นเจ้าของโลงศพนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้ที่ของวิเศษทั้งหมดที่พวกเขาแสวงหามาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกดีใจเลย สายตาของทุกคนเอาแต่จ้องมองไปที่โลงศพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
ผู้ที่พักผ่อนอย่างสงบอยู่ตรงนั้นคือ จักรพรรดิแห่งความมืด ผู้ที่รวมอาณาจักรกลางให้เป็นหนึ่งเดียว……ผู้นำแห่งราชอาณาจักรแห่งความมืด!
ข่าวลือและเรื่องราวเกี่ยวกับจักรพรรดิแห่งความมืดทั้งหมดที่พวกเขาเคยได้ฟัง ในตอนนี้ได้เข้าเกาะกุมหัวใจพวกเขา สร้างความกดดันที่หนักหน่วง พวกเขาไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด แต่กลับพบว่าตัวเองกำลังหายใจไม่ออกภายใต้ความกดดันจากคำว่า ‘จักรพรรดิแห่งความมืด’
ตอนที่พวกเขาตระหนักว่าจักรพรรดิแห่งความมืด ผู้ที่เคยทำให้ทั้งอาณาจักรกลางต้องสั่นสะเทือน อยู่เหนือหัวของพวกเขา พวกผู้เยาว์ทั้งกลุ่มก็ไม่อาจทำเป็นเล่นได้อีกต่อไป
เฉียวฉู่ประสานมือก้มหัวลงคารวะไปทางโลงศพครั้งแล้วครั้งเล่า
ปากของเขาพึมพำไม่หยุด
“ท่านจักรพรรดิแห่งความมืด พวกเราทุกคนมาที่นี่วันนี้เพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ขอพวกเรายืมของของท่านหน่อยนะขอรับ หวังว่าท่านจะไม่รังเกียจนะขอรับ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น