Genius Doctor Black Belly Miss 1296-1302

 ตอนที่ 1296  ชำระแค้น (6)


 


ด้ายสีเลือดนั่นพุ่งเข้าไปและชอนไชเข้าไปในหน้าอกของชายชุดเขียวอย่างรวดเร็ว  ชายชุดเขียวดิ้นรนขณะที่ดวงตาเบิกโพลง  ร่างกายเริ่มชักกระตุก!


ผิวหนังที่ไม่ได้อยู่ใต้เสื้อผ้าแสดงให้เห็นถึงเส้นที่ปรากฏขึ้นตามด้ายสีเลือดที่เริ่มปกคลุมไปทั่ว  เส้นพวกนั้นเปล่งประกายสีแดงจางๆ  ดูเหมือนใยแมงมุมหนาทึบที่ติดแน่นทั่วทั้งร่างกายของเขา


ทันใดนั้น  นิ้วก้อยมือขวาของเขาก็เริ่มกลายเป็นเลือด  กระดูกและเนื้อของเขาถูกละลายอย่างช้าๆ  กลายเป็นเลือดเหนียวข้นหยดลงบนพื้นทีละหยด


“อ๊ากกกกกกกกกก!!!”


เสียงร้องโหยหวนดังก้อง  เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่เนื้อและกระดูกของเขาละลายไปอย่างช้าๆ  ความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ทำให้เขาเกือบหมดสติ  แต่เขาก็พบว่าเขากลับมีสติรู้ตัวอย่างชัดเจน


ความเจ็บปวดทรมานทุกๆอย่างกระหน่ำผ่านเส้นประสาททั่วร่างกายของเขา!


“อสูรโลหิต……อสูรโลหิต……”  ผู้อาวุโสฮุยจ้องมอง  ขณะที่นิ้วของชายชุดเขียวค่อยๆละลายเป็นเลือด  ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างไม่รู้ตัว


อสูรโลหิต……


ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของจักรพรรดิแห่งความมืด  ที่สามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นเลือดได้ในทันที  แต่เขาสามารถควบคุมและจัดการกับความเร็วของการละลายได้  ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดทรมานทุกๆวินาทีที่ร่างกายค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆทีละนิด  ขณะที่ความหวาดกลัวก็ทำลายสภาพจิตใจของคนผู้นั้น


นั่นคือความทรมานที่ไม่มีใครสามารถทนได้


มีตำนานที่เล่าถึงชายคนหนึ่งที่อยู่จุดสูงสุดของพลังอำนาจในอาณาจักรกลาง  ตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดรวบรวมอาณาจักรกลางให้เป็นหนึ่งเดียว  ชายคนนั้นคิดว่าเขาสามารถท้าทายอำนาจของจักรพรรดิแห่งความมืดได้  และจากนั้นชายคนนั้นก็ได้รับ ‘มอบรางวัล’ ด้วยการลิ้มรสชาติของอสูรโลหิต


เมื่ออสูรโลหิตแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย  คนผู้นั้นก็ประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย  ชายคนนั้นถูกทรมานตลอด 3 วัน 3 คืน  เริ่มต้นจากปลายนิ้วของเขาแล้วกระจายไปอย่างต่อเนื่อง  ตอนแรกก็เป็นนิ้ว  จากนั้นก็ฝ่ามือ  เคลื่อนไปที่แขน  ไหล่  แล้วก็ต่ำลงมาจากหน้าอกไปถึงขา  สุดท้ายก็เหลือแค่หัวของเขา  และสิ่งที่ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ  จนถึงตอนสุดท้ายที่ชายคนนั้นเหลือแค่หัว  เขาก็ยังมีชีวิตอยู่……


ความน่ากลัวของอสูรโลหิตทำให้ผู้คนในอาณาจักรกลางหวาดกลัวกันมาก  ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าทำให้จักรพรรดิแห่งความมืดโกรธอีก


พวกเขาทุกคนต่างหวาดกลัวและสยดสยอง……


แต่ผู้อาวุโสฮุยไม่เคยนึกฝันเลยว่า  วันนึงเขาจะได้สัมผัสกับความน่าสะพรึงกลัวของอสูรโลหิต


อุณหภูมิทั้งหมดดูเหมือนจะออกจากร่างกายของเขาในทันที  หูของเขาได้ยินแต่เสียงร้องโหยหวนของชายชุดเขียวที่ดังอย่างต่อเนื่อง  มันเป็นเสียงกรีดร้องที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง  ยังไม่ทันที่เขาจะได้สัมผัสกับความทรมานนั้น  เขาก็กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อหมดแล้ว


กล่าวกันว่า  คนที่โดนอสูรโลหิตจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้นได้อย่างชัดเจน  ขณะที่อวัยวะภายในของตัวเองค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ


แค่คิดก็ทำให้เขาขนหัวลุกแล้ว


ผู้อาวุโสฮุยมองอย่างตกตะลึง  แล้วทันใดนั้น  เขาก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่!


เขารวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ  แล้วยกแขนขึ้นเพื่อจะซัดฝ่ามือเข้าใส่หัวของตัวเอง!


เขาแน่ใจว่าเขาต้องตายแน่  แต่เขาไม่กล้าลิ้มรสความเจ็บปวดที่อสูรโลหิตจะนำมาให้เขา


แต่ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะแตะหัว  ทันใดนั้นเขาก็ชาไปทั้งร่าง  เขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนตรึงร่างเขาเอาไว้  ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว


“ข้าอนุญาตให้เจ้าตายแล้วหรือ?”  เสียงของจวินอู๋เหยาดังขึ้น  เสียงที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงนั้นเป็นเหมือนกับฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดซึ่งก้องอยู่ในหูของเขา


เขาอยากอ้อนวอน  แต่ก็ไม่สามารถขยับปากได้  ทำได้แค่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองไปที่จวินอู๋เหยา


“ดูสภาพก่อนตายของเขาให้ดีๆ  เดี๋ยวก็ถึงตาเจ้าแล้ว”  จวินอู๋เหยาพูด  มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจกระหายเลือด


ตอนที่ 1297  ชำระแค้น (7)


 


ดวงตาสีม่วงปีศาจคู่นั้นไม่มีความรื่นเริงอยู่อีกแล้ว  แต่สายตาเต็มไปด้วยความเลือดเย็นอำมหิต


ตอนที่จวินอู๋เหยาเจอจวินอู๋เสียตอนนั้น  เขาไม่ได้พูดอะไร  และไม่ถามอะไรมากด้วย  แต่เหตุการณ์นั้นไม่ได้ลบเลือนไปจากความทรงจำของเขาเลย


นั่นเป็นครั้งที่เขาเกือบเสียนางไป


มันทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนก  เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน  และเขาก็รู้สึกมันได้อย่างชัดเจน


เขาไม่ยอมให้พวกมันตายง่ายๆหรอก  ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดที่จวินอู๋เสียได้รับ  หรือความตื่นตระหนกตกใจที่เขารู้สึก  เขาจะไม่ปล่อยให้พวกมันตายง่ายๆแน่


มีแค่การทรมานพวกมันเท่านั้น  เขาถึงจะระงับความตื่นตระหนกที่เกือบเสียจวินอู๋เสียไปได้


เสียงร้องโหยหวนที่น่าสมเพชและโศกเศร้า  สำหรับจวินอู๋เหยามันฟังเหมือนเสียงร้องเพลงสรรเสริญ


กลิ่นเลือดคาวคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ  ราวกับจะดึงเขากลับไปสู่อดีตที่ทุ่งสังหารหมู่อันโหดร้าย!


ผู้อาวุโสฮุยอยากอ้อนวอนขอความตาย  แต่ก็ไม่สามารถทำได้  เขาทำได้แค่มองดูร่างของชายชุดเขียวค่อยๆสลายไปด้วยอสูรโลหิต  เสียงกรีดร้องโหยหวนของชายชุดเขียวดังแสบแก้วหู  ลำคอของเขาแทบพังจากการกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง  แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้มันจบสิ้นได้


ความเจ็บปวดนั้นเป็นเหมือนก้นเหวลึก  จิตใจของชายชุดเขียวแทบจะพังทลายจากความทรมานที่ไม่อาจทนรับได้  แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของอสูรโลหิตก็คือการทำให้เขามีสติรู้ตัวอย่างชัดเจนตลอดเวลา


มีแค่การมีสติรู้ตัวเท่านั้นที่นำความทรมานมาให้ได้มากที่สุด!


เย่ฉาและเย่เหม่ยยืนเงียบๆอยู่ข้างหลังจวินอู๋เหยา  แววตาของทั้งคู่เปล่งประกายลุกโชน


การติดตามจวินอู๋เหยาอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานาน  ทำให้ชายทั้งสองรู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟันของจวินอู๋เหยาได้อย่างชัดเจนว่ารุนแรงเพียงใด  พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงแบบนี้จากตัวนายท่านของพวกเขามานานแล้ว  ดูเหมือนมันจะนำพวกเขาย้อนกลับไปในตอนที่พวกเขายืนอยู่กับจวินอู๋เหยาตอนที่พวกเขาสังหารหมู่ไปทั่วทุกแห่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา


เลือดที่เย็นมานานก็เดือดพล่านขึ้นใหม่อีกครั้งในตอนนี้เอง


นี่คือเจ้านายที่พวกเขาสาบานว่าจะจงรักภักดี  และเป็นพระเจ้าผู้สร้างพวกเขาขึ้นมา!


ในกองทัพราตรี  ไม่มีถูกหรือผิด  ไม่มีความจริงหรือโกหก


กองทัพราตรีรู้แค่ว่าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านเจว๋


ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งอะไรก็ตาม!


ตั้งแต่ต้นจนจบ  ใบหน้าของจวินอู๋เหยามีรอยยิ้มปีศาจแบบเดิมตลอด  เหมือนทั้งหมดนี้ไม่ใช่การฆ่าที่โหดร้ายเลยสักนิด  ไม่ใช่การทรมาน  แต่เป็นแค่เกมที่น่าสนใจเท่านั้น  เสียงร้องที่น่าสงสารของชายชุดเขียวและความหวาดกลัวของผู้อาวุโสฮุย  เป็นแค่ของเล่นที่สร้างความบันเทิงให้เขา


…………………………..


ในป่าทึบ  พวกคนที่รออยู่ที่เดิมได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง  เสียงนั่นทำให้พวกเขาเย็นวาบไปทั่วร่าง


กลิ่นคาวเลือดที่โชยเข้ามาในป่าทึบหลังจากนั้นก็รุนแรงจนทำให้พวกเขาคลื่นไส้


“พี่ใหญ่อู๋เหยา……เขาทำอะไรลงไป?”  เฉียวฉู่กลืนน้ำลายเสียงดังและถามขึ้น  เขามองไปยังทิศทางนั้น  และได้ยินแต่เสียงที่ดังมาถึงหูของเขากับกลิ่นที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งทำให้เขาหนาวเย็นไปถึงกระดูก


“ข้าขอแนะนำให้เจ้าเก็บความอยากรู้อยากเห็นนั่นซะ  มันจะดีกับตัวเจ้าเอง”  ฟ่านจั๋วพูดพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ  พยายามระงับหัวใจที่เต้นแรง  เขารู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรงมากจนทำให้เขาหายใจไม่ออก  มันค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วผืนป่าอย่างช้าๆ


ถ้าเขาเดาไม่ผิด  เจตนาฆ่าที่รุนแรงนี้ต้องมาจากจวินอู๋เหยา


เจตนาฆ่านั้นรุนแรงมาก  ขนาดมาจากระยะไกลแบบนี้ยังทำให้เขารู้สึกอึดอัดได้  ถ้าพวกเขาเข้าไปใกล้  เกรงว่าพวกเขาทุกคนคงไม่สามารถต้านทานรังสีกดดันแบบนั้นได้


จวินอู๋เสียไม่พูดอะไรเลยสักคำ  นางแค่นั่งเงียบๆอยู่ด้านหนึ่ง  และอุ้มเจ้าแมวดำเอาไว้ในอ้อมแขน


การฆ่าครั้งนี้เป็นการเต้นรำที่เขาออกแบบท่าเต้นให้กับนาง


นางจะไม่หยุดมัน  และไม่ต้องการหยุดมันด้วย


ขณะที่ทุกคนกำลังจมอยู่กับบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว  เสี่ยวเจว๋ที่นั่งยองๆอยู่เงียบๆมาตลอดเวลาก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น  และก้าวขาสั้นๆ เดินตรงไปยังทิศทางของผาสุดสวรรค์


ตอนที่ 1298  ชำระแค้น (8)


 


ที่ด้านบนของผาสุดสวรรค์  ชายชุดเขียวไม่ส่งเสียงร้องอีกแล้ว  ร่างกายส่วนใหญ่ของเขากลายเป็นแอ่งเลือดไปแล้ว  มีเพียงแค่หัวที่ยังเหลืออยู่  หัวเปื้อนเลือดนั้นลอยอยู่กลางอากาศ  รูจมูกของเขาขยับเล็กน้อย……


เขายังไม่ตาย  เขายังมีชีวิตอยู่……


ในตอนนี้เขาไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าความตาย  จะได้ไม่ต้องทนทรมานไม่รู้จบเช่นนี้อีก


ร่างกายของเขาค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ ทีละเล็กละน้อย  เจ็บปวดทรมานเกินกว่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทนได้


ให้เขาตายซะดีกว่าจะต้องทนต่อฝันร้ายที่น่ากลัวเช่นนี้


จวินอู๋เหยาเฝ้ามองด้วยรอยยิ้ม  ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียกับสหายของนางกำลังรีบลงไปที่ด้านล่างของผาสุดสวรรค์  ด้วยความสามารถในการควบคุมความเร็วของอสูรโลหิต  เขาจะทำให้มันเจอกับความตายที่เจ็บปวดทรมานมากกว่านี้


หนึ่งเดือน  หรืออาจจะหนึ่งปี……


บดขยี้กระดูกแล้วโปรยขี้เถ้ามัน  ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ความเกลียดชังในใจของเขาสงบลงได้


ผู้อาวุโสฮุยมองหัวของชายชุดเขียวละลายกลายเป็นเลือด  ในช่วงเวลาสุดท้าย  ใบหน้าของชายชุดเขียวไม่ได้หวาดกลัว  แต่เป็นโล่งใจ……


สำหรับเขา  ความตายคือความสุขที่สุดแล้ว


ผู้อาวุโสที่ถูกทำให้มองดูกระบวนการทั้งหมดกับตาตัวเอง  ตอนนี้ในใจสั่นไหวไปหมด  หลังจากชายชุดเขียวตาย  ก็จะเป็นตาของเขา


ถ้าเป็นไปได้  เขาอยากตายตอนนี้เลย  ต่อให้เป็นการตายด้วยการถูกหั่นเป็นพันชิ้น  มันก็ยังเป็นการตายที่รวดเร็วกว่าการทรมานที่อสูรโลหิตจะทำกับเขา!


สายตาของจวินอู๋เหยาค่อยๆหันไปมองที่ร่างของผู้อาวุโสฮุย  แล้วเสียงที่เหมือนเสียงเคาะระฆังแห่งความตายก็ดังขึ้น


“ตาเจ้าแล้ว”


ทันใดนั้น  ผู้อาวุโสฮุยก็ถูกยกขึ้นลอยไปหยุดอยู่กลางอากาศ  ภายใต้รังสีกดดันของจวินอู๋เหยา  เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย  แม้แต่ส่งเสียงอู้อี้ก็ยังไม่ได้


แม้จะเป็นผู้อาวุโสแห่งวิหารปีศาจเพลิง  แต่ตอนนี้เขาสั่นไปทั้งร่าง  ริมฝีปากซีดขาว


จวินอู๋เหยาปล่อยอสูรโลหิตออกมาอีกครั้ง  มันตรงเข้าไปในร่างของผู้อาวุโสฮุยทันที!


ทันใดนั้น  ร่างสีแดงเพลิงก็พุ่งเข้าใส่เขา!


เย่ฉาและเย่เหม่ยรู้สึกประหลาดใจ  พวกเขากำลังจะขยับ  จวินอู๋เหยาก็ยกมือห้ามพวกเขาเอาไว้


บนร่างของผู้อาวุโสฮุย  มีร่างเล็กๆร่างหนึ่งกำลังเจาะหน้าอกของเขา!


มือขาวนุ่มที่มีเล็บแหลมคมงอกออกมา  เจาะลงไปบนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุย!


เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผลที่เปิดกว้าง  เปื้อนร่างเล็กๆที่เกาะอยู่บนหน้าอกของเขา


นั่นเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีใบหน้าไร้เดียงสา  แต่มีดวงตาสีแดงและผมสีแดงเพลิง!


“เสี่ยวเจว๋”  เย่เหม่ยจำเด็กน้อยได้อย่างรวดเร็ว  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ


มุมปากของจวินอู๋เหยายกขึ้นเล็กน้อยขณะมองดูเสี่ยวเจว๋


ในตอนนี้ดวงตาของเสี่ยวเจว๋ไม่มีความไร้เดียงสาอย่างที่เคยมี  แต่กลับเต็มไปด้วยความอยากฆ่าที่บริสุทธิ์เหมือนกับสัตว์ร้าย  ลูกนัยน์ตาของเขาเปลี่ยนเป็นแนวตั้งเหมือนตางู  เขี้ยวเล็กๆน่ารัก 2 เขี้ยวในปากก็ยื่นยาวออกมาและแหลมคมมาก


เขามองผู้อาวุโสฮุยที่หน้าซีด  แล้วอ้าปากฝังเขี้ยวลงไปบนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุย!


วินาทีต่อมา  เนื้อที่หน้าอกของผู้อาวุโสฮุยก็ถูกฉีกออกมาเป็นก้อนอย่างไร้ความปรานี!


บนบาดแผลที่เปิดกว้างนั้น  เมื่อเนื้อถูกฉีกออกไปมากขึ้น  เลือดก็ไหลออกมา  ซี่โครงในอกก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน!  ใต้ซี่โครงเหล่านั้นสามารถมองเห็นหัวใจดวงหนึ่งที่กำลังเต้นแรงได้!


“นายท่านเจว๋……”  เย่ฉาพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น


จวินอู๋เหยายังคงกอดอกมองเสี่ยวเจว๋ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างไม่สะทกสะท้าน


“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ใช่คนเดียวที่อยากแก้แค้นให้เสี่ยวเสียเอ๋อร์”


ตอนที่ 1299  ชำระแค้น (9)


 


กรอบ  กรอบ……


เสียงฟันเคี้ยวบดขยี้กระดูกดังขึ้นที่ด้านบนผาสุดสวรรค์  ขณะที่เสี่ยวเจว๋กัดผ่านซี่โครงของผู้อาวุโสฮุยเข้าไป


ผู้อาวุโสฮุยไม่สามารถส่งเสียงได้  แต่ความเจ็บปวดแล่นผ่านเส้นประสาททุกเส้นในร่างของเขาอย่างชัดเจน  ความเจ็บปวดได้ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวราวแผ่นกระดาษ  ดวงตาของเขาแดงก่ำทันที


กระดูกซี่โครงถูกฟันกัดไปทีละท่อน  หัวใจที่สูญเสียแนวป้องกันสุดท้ายไปก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างไร้การป้องกันใดๆ


‘หมับ!’


มือเล็กๆของเสี่ยวเจว๋คว้าหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่  และด้วยกรงเล็บที่เหมือนใบมีดแหลม  เขากระชากมันออกมาทันที!


เล็บตัดผ่านหลอดเลือดแดงทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับหัวใจสีแดงสด  และในขณะที่มันยังเต้นเป็นจังหวะอยู่นั้นเอง  เขาก็กระชากมันออกจากอก!


บนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุยมีรูขนาดใหญ่เปิดกว้าง  เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด  มันไหลไปตามร่างกายของเขาและหยดจากปลายเท้าของเขาลงบนพื้น


จากนั้นร่างเล็กๆของเสี่ยวเจว๋ก็ตีลังกากลับหลังลงไปที่พื้นอย่างคล่องแคล่ว  เขากำหัวใจของผู้อาวุโสฮุยเอาไว้ในมือ  ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของสัตว์ร้าย


บนใบหน้าเล็กๆนั่น  มีหยดเลือดกระเซ็นเปื้อนอยู่  ทำให้ใบหน้าไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยดูเหมือนสัตว์ที่ดุร้าย


เขาไม่ได้มองผู้อาวุโสฮุยอีก  แต่ถือหัวใจเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง  แล้วเดินไปที่ป่าทึบ


“นายท่านเจว๋  ให้ข้าตามไปไหมขอรับ?”  เย่ฉาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม  ขณะที่เฝ้าสังเกตการกระทำของเสี่ยวเจว๋


จวินอู๋เหยาส่ายหน้าและพูดว่า  “ปล่อยเขาไป  ถึงยังไง……”  สายตาของเขามองกลับไปที่ร่างโชกเลือดของผู้อาวุโสฮุย  “ชายคนนี้ก็ยังไม่ตายไปอีกสักพัก”


หัวใจของเขาถูกกระชากออกไปอย่างไร้ความปรานี  แต่ผู้อาวุโสฮุยก็ยังคงหายใจอยู่อย่างน่าอัศจรรย์  แต่ความทรมานจากอสูรโลหิตยังคงเล่นงานเขาอยู่  ตราบใดที่จวินอู๋เหยาต้องการ  เขาก็จะไม่ตาย  แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เช่นกัน!


จวินอู๋เสียกับสหายของนางยังคงรออยู่ในป่า  และแม้ว่าเฉียวฉู่จะสงสัยมากว่าจวินอู๋เหยาทำอะไร  แต่ความรู้สึกของเขาบอกว่าความอยากรู้อยากเห็นคืออันตราย  ถ้าเขายังดื้อด้านอยากรู้  เรื่องคงจบไม่สวยแน่  เขาจึงนั่งลงก่อกองไฟ  แล้วพวกเพื่อนๆก็พากันมารวมตัวรอบกองไฟเพื่อจัดการข้าวของที่พวกเขาจะใช้ปีนลงไปที่ด้านล่างของผาสุดสวรรค์


จวินอู๋เสียเริ่มแจกจ่ายยาที่นางเก็บไว้ในกระเป๋ามิติให้กับเพื่อนๆ  ก่อนที่จะออกเดินทาง  นางได้ปรุงยาเอาไว้หลายชนิดตามสถานการณ์ต่างๆที่เคยเห็นที่ผาสุดสวรรค์ก่อนหน้านี้


“พี่ชายตัวน้อย……”


ทันใดนั้น  เสียงของเสี่ยวเจว๋ก็ดังขึ้นจากด้านหลังของจวินอู๋เสีย


จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไป  และแข็งทื่อทันที


เด็กน้อยไร้เดียงสายืนนิ่งอยู่ข้างหลังนาง  แต่บนร่างกาย ใบหน้า และมือของเขา ล้วนเปื้อนเลือดสีแดงสด  ใบหน้าที่เปื้อนเลือดนั่นมีรอยยิ้มสดใสไร้เดียงสา  เขายืนถือหัวใจสดๆสีแดงเอาไว้ในมือ  พลางมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาคาดหวัง


จวินอู๋เสียมองเสี่ยวเจว๋ด้วยความประหลาดใจ  นางจ้องมองร่างเล็กๆที่เปื้อนเลือดเต็มไปตัวไปหมด  ตรงข้ามกับภาพของจักรพรรดิน้อยที่ขี้กลัวซึ่งอยู่ในความทรงจำของนาง  แต่รอยยิ้มบนใบหน้านั้นยังคงเป็นรอยยิ้มที่นางคุ้นเคย


จวินอู๋เสียตะลึงค้าง  ขณะที่เฉียวฉู่กับคนอื่นๆก็ตกตะลึงไม่ต่างกันเมื่อเห็นสภาพของเสี่ยวเจว๋


ใครจะคิดว่าเด็กน้อยที่มักจะวิ่งหนีไปร้องไห้เมื่อโดนเฟยเหยียนจ้องเอาทีเดียว  จู่ๆจะปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาด้วยสภาพแบบนั้น


เลือดบนตัวเขายังเปียกอยู่เลย  ของเหลวข้นเหนียวนั่นไหลผ่านนิ้วของเขาและหยดลงบนพื้น


ในช่วงเวลาแห่งความเงียบ  เสียงจะดังชัดเจนเป็นพิเศษ


รู้สึกเหมือนเสียงจากเลือดทุกหยดกระทบลงบนหัวใจของพวกเขา


“พี่ชายตัวน้อย  นี่…..ให้ท่าน……”  เสี่ยวเจว๋พูดขึ้นด้วยดวงตาไร้เดียงสาเป็นประกาย  มือที่ถือหัวใจสดๆยื่นมาให้ตรงหน้าจวินอู๋เสีย  รอยยิ้มของเขาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา  แต่เป็นความไร้เดียงสาที่ชุ่มไปด้วยเลือด


ตอนที่ 1300  หัวใจที่บริสุทธิ์ (1)


 


จวินอู๋เสียไม่เคยรู้สึกว่าเลือดเป็นภาพที่โหดร้ายสำหรับนางมาก่อน  นางมองรอยยิ้มของเสี่ยวเจว๋  แล้วก็ขมวดคิ้ว


“นี่……”  เฉียวฉู่กับคนอื่นๆไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี  ภาพเสี่ยวเจว๋ที่มีเลือดเปื้อนทั้งตัวไม่เหมือนกับภาพของเด็กน้อยไร้เดียงสาและขี้ขลาดที่อยู่ในใจของพวกเขา


จวินอู๋เสียเดินเข้าไปหาเขาเงียบๆ  ขณะมองเสี่ยวเจว๋ที่มีสีหน้าคาดหวัง  นางใช้แขนเสื้อของตัวเองเช็ดเลือดออกจากใบหน้าเล็กๆนั้น  เสี่ยวเจว๋กระพริบตาปริบๆ  วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของเขาทำให้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงมีปฏิกิริยาแปลกๆแบบนี้


จวินอู๋เสียยังคงเช็ดเลือดออกอย่างระมัดระวัง  และเอาหัวใจที่เย็นแล้วจากมือของเด็กชายโยนลงไปบนพื้น


เสี่ยวเจว๋มีสีหน้าเป็นกังวล  แต่จวินอู๋เสียยังคงไม่พูดอะไร  นางเช็ดเลือดที่มือเล็กๆของเขาต่อ


“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”  จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา


เสี่ยวเจว๋ไหล่ห่อคอตก  ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ  เขาได้แต่มองจวินอู๋เสียด้วยแววตาเศร้าสร้อย  ก่อนจะปีนขึ้นไปบนรถม้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด


พอเสี่ยวเจว๋เข้าไปในรถม้า  เฉียวฉู่กับคนอื่นๆก็เอ่ยปากพูด


“เสี่ยวเสีย  เสี่ยวเจว๋……ยังเด็กมาก  เจ้าอย่าโหดกับเขานักเลย”  เฉียวฉู่พูดอย่างระมัดระวัง  การอยู่กับจวินอู๋เสียมานาน  ทำให้เขาเข้าใจความชอบและไม่ชอบของจวินอู๋เสียได้ดี


เขาสามารถรู้สึกได้ว่าตอนนี้จวินอู๋เสียอารมณ์ไม่ดี  เนื่องจากดวงตาของนางเย็นชากว่าปกติเล็กน้อย


“อะแฮ่ม……ข้าว่าเขาต้องไปล้างแค้นให้เจ้าแน่ๆ  เขาคงได้ยินที่พวกเราคุยกันเมื่อกี้”  เฟยเหยียนรีบพูดแทรกขึ้นมา  พยายามจะขอร้องแทนเสี่ยวเจว๋  พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติของเสี่ยวเจว๋ก่อนหน้านี้  เนื่องจากเด็กคนนั้นแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง  และจำนวนคำศัพท์ที่เขารู้ทั้งหมดก็ใช้นิ้วนับได้  ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยที่ยังไม่ได้สติคืนมาทั้งหมดจะออกไปทำเรื่องนองเลือดแบบนี้?


พวกผู้เยาว์ไม่ได้โง่  พวกเขาเชื่อมโยงการกระทำของเสี่ยวเจว๋กับสิ่งที่พวกเขาคุยกันเมื่อครู่และรู้ถึงเหตุผลในการกระทำนั้นได้อย่างรวดเร็ว


พวกเขาจึงรู้สึกสงสารเห็นใจเด็กน้อยคนนั้นมาก


จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะเอ่ยปากพูดเบาๆว่า


“ข้าพาเขามาที่นี่  ไม่ใช่เพื่อให้เขาทำเรื่องแบบนี้”


นางยังจำตอนที่เจอกับจักรพรรดิน้อยเป็นครั้งแรกได้  เขาขี้อายได้น่ารัก  เจอเรื่องตกใจนิดเดียวก็ตัวสั่นแล้ว  แต่ตอนนี้เสี่ยวเจว๋ที่ตัวอาบเลือดคนนั้นแตกต่างจากจักรพรรดิน้อยที่นางจำได้อย่างสิ้นเชิง  นิสัยของเขาไม่เคยชอบเลือดแบบนี้เลย  และนางไม่ต้องการให้มือของเด็กน้อยเปื้อนเลือด


เขาจะต้องมีชีวิตที่ไร้เดียงสาต่อไป  หลังจากที่วิญญาณของเขาได้รับการรักษาจนหายแล้ว  เขาก็จะได้เป็นจักรพรรดิน้อยที่แสนสบายอีกครั้ง  ไม่ต้องเจอกับการนองเลือดและการหลอกลวง  ไม่ต้องทำให้มือของเขาแปดเปื้อน


จักรพรรดิน้อยเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่สุดที่จวินอู๋เสียเคยเจอมา  แม้ว่าจะเกิดในราชวงศ์  ก็ยังคงความใสซื่อไร้มารยาเอาไว้ได้


หัวใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นสิ่งที่หายากที่สุด  จวินอู๋เสียไม่อยากให้จักรพรรดิน้อยต้องแปดเปื้อน


“คนที่โลหิตแดงสร้างขึ้นมา  จะมีความกระหายเลือดรุนแรง  ปกติเสี่ยวเจว๋เป็นเด็กดี เชื่อฟังและน่ารักมาก  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้  คงเพราะมันเกี่ยวข้องกับเจ้า  ถึงได้กระตุ้นผลของโลหิตแดงในตัวเขา  อย่าใส่ใจเลย  รอจนเขาหายดี  แล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็จะจางหายไปเอง”  หรงรั่วพูดพร้อมกับถอนใจ  นางสามารถเข้าใจได้ว่าจวินอู๋เสียรู้สึกอย่างไรในตอนนี้


จวินอู๋เสียกับจักรพรรดิน้อยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย  แต่นางก็ช่วยเด็กน้อยอย่างเต็มที่  แค่เพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นสิ่งที่หายากและล้ำค่ามาก


ตอนที่ 1301  หัวใจที่บริสุทธิ์ (2)


แม้แต่จวินอู๋เสียเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมนางถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงเมื่อเห็นเสี่ยวเจว๋ที่มีเลือดอยู่เต็มตัว  นางยอมรับแล้วว่าเป็นปกติของโลกนี้ที่ดำเนินไปตามกฎปลาใหญ่กินปลาเล็ก  และตัวนางเองก็เล่นตามกฎเดียวกันนี้มาตลอด


ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร  ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน  มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย


คนอ่อนแอมักจะเป็นเหยื่อมาตลอดในประวัติศาสตร์


แม้ว่านางจะรู้ดีอยู่แล้ว  แต่นางก็ยังรู้สึกว่าภาพเสี่ยวเจว๋ที่เปื้อนเลือดเต็มตัวนั้น  นางทนดูไม่ได้จริงๆ


เด็กคนนั้นควรมีชีวิตที่ปราศจากความกังวล


เพราะเขาเป็นคนที่หายาก  จึงทำให้คนยิ่งรักและห่วงใยเขามาก


แต่ตอนนี้  มีคำถามสำคัญค้างคาอยู่ในใจของจวินอู๋เสีย


เสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ ยังเป็นคนเดียวกับจักรพรรดิน้อยที่นางรู้จักในตอนแรกอยู่หรือเปล่า?


เด็กที่อ่อนโยนอย่างนั้น  จะไปอาละวาดฆ่าคนจากผลของโลหิตแดงได้จริงๆหรือ?


จวินอู๋เสียไม่อาจแน่ใจได้ว่าเสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ได้สูญเสียความทรงจำก่อนหน้าของเขาไปทั้งหมด  แม้ว่าการกระทำและการพูดของเขาจะถูกจำกัดเอาไว้แค่รูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด  และไม่สามารถเข้าใจคำที่ซับซ้อนเกินไปได้  การกระทำส่วนใหญ่ของเขาเป็นไปโดยสัญชาตญาณ


แต่สัญชาตญาณนั้นมาจากจิตสำนึกของจักรพรรดิน้อยเอง  หรือว่ามาจากหยกกล่อมวิญญาณกันแน่?


จวินอู๋เสียพยายามที่จะรักษาจิตวิญญาณของเด็กน้อยที่ทำให้ผู้คนใจละลายคนนั้น  ไม่ใช่วิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้


เมื่อจวินอู๋เสียไม่พูดอะไร  ฟ่านจั๋วกับคนอื่นๆก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ควรพูดอะไรอีก  ทุกคนจึงพากันนั่งเงียบ


ข้างในรถม้า  เสี่ยวเจว๋ถอดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออกเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว  แต่เขาก็ไม่ได้ออกจากรถม้าทันที  เขานั่งกอดเข่าซ่อนตัวอยู่ตรงมุมด้านในรถม้า  ดวงตาของเขาดูเศร้าและเสียใจมาก


แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง  แต่เขาก็ยังรู้สึกได้


[พี่ชายตัวน้อยไม่ชอบ]


เสี่ยวเจว๋ไม่กล้าออกไปข้างนอก  ไม่กล้ามองตาจวินอู๋เสีย  เขากลัว  แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร  น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตากลมโตอย่างเงียบๆ  ไหลลงมาตามใบหน้าและหยดลงบนคอเสื้อของเขาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น


ในป่าเงียบสนิท  ไม่มีใครพูดเลยสักคน


หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง  จวินอู๋เหยาก็กลับมาพร้อมเย่ฉาและเย่เหม่ยที่ตามหลังเขามา  ไม่มีร่องรอยเลือดอยู่บนตัวพวกเขาเลยสักนิด  แต่กลิ่นคาวเลือดที่ยังลอยอยู่ในอากาศทำให้ทุกคนรู้ว่าพวกเขาออกไปทำอะไรมา


“ข้าทำให้พวกเจ้าต้องรอแล้ว”  จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับหยุดอยู่ห่างจากจวินอู๋เสีย 3 ก้าว  เขาอยากเข้าไปกอดนาง  แต่จำได้ว่าเด็กน้อยของเขาไม่ชอบกลิ่นเลือดที่ยังติดอยู่บนเสื้อผ้าของเขา


จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เหยาและพยักหน้าเล็กน้อย  ใบหน้าเล็กๆนั้นดูเหมือนอย่างที่เคยเป็นตามปกติ  แต่จวินอู๋เหยาก็ยังจับได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ


สายตาของจวินอู๋เหยากวาดมองไปที่หัวใจซึ่งถูกโยนทิ้งไว้บนหญ้าและเห็นรอยเท้าเล็กๆที่ทิ้งไว้บนพื้นหญ้า  มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ


“เกิดอะไรขึ้น?  เด็กนั่นทำอะไรให้เจ้าโกรธงั้นหรือ?”


จวินอู๋เสียส่ายหน้า  แต่ครู่ต่อมานางก็พูดว่า  “เขาเจตนาดี  แต่ข้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้”


จวินอู๋เหยาหัวเราะเบาๆและพูดว่า  “เจ้าไม่อยากให้มือเด็กนั่นเปื้อนเลือดใช่ไหมล่ะ?”


จวินอู๋เสียพยักหน้า


“เสี่ยวเสียเอ๋อร์  เจ้านี่น่าสนใจจริงๆ……เจ้ากังวลอะไรอยู่?  กังวลว่าเด็กนั่นจะไม่ใช่จักรพรรดิน้อยที่เจ้าเคยรู้จัก?  กังวลว่าการชอบฆ่าแบบนี้มาจากวิญญาณที่ไม่คุ้นเคยใช่ไหม?”  เสียงของจวินอู๋เหยาเต็มไปด้วยความรื่นเริง  แต่เขาเดาความคิดของจวินอู๋เสียในขณะนั้นได้ถูกต้องทั้งหมด


ตอนที่ 1302  หัวใจที่บริสุทธิ์ (3)


ความเงียบของจวินอู๋เสียทำให้จวินอู๋เหยายิ่งแน่ใจว่าตัวเองเดาถูก  หายากที่จะได้เห็นจวินอู๋เสียแสดงสีหน้าท่าทางเช่นนี้เพื่อคนอื่น  เขารู้ได้ในทันทีว่าเสี่ยวเจว๋มีความสำคัญกับจวินอู๋เสีย  ที่นางพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้  เกรงว่าจะนางจะเห็นเด็กน้อยนั่นเป็น ‘น้องชาย’ ของนางจริงๆ


“โลหิตแดงถูกสร้างขึ้นตามแบบมารแดงของจักรพรรดิแห่งความมืด  มารแดงเป็นสิ่งที่สร้างราชอาณาจักรแห่งความมืด  ทั่วทั้งอาณาจักรกลาง  ไม่มีใครกล้าหาเรื่องกองทัพราตรี  เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?”  จวินอู๋เหยาถาม


“เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขา”  จวินอู๋เสียตอบ


จวินอู๋เหยายิ้มและพูดว่า  “ใช่  และไม่ใช่”


เขานั่งลงข้างๆจวินอู๋เสีย  และตอนนี้จวินอู๋เสียก็ไม่ได้สนใจเรื่องกลิ่นเลือดที่ติดเสื้อผ้าเขา


“แม้ว่ากองทัพราตรีจะแข็งแกร่งมาก  แต่คนไม่ได้กลัวพวกเขาแค่เพราะความแข็งแกร่งอย่างเดียว  แต่เป็นสัญชาตญาณกระหายเลือดในตัวพวกเขาต่างหาก  ปกติพวกเขาจะเป็นแค่กลุ่มนักสู้ที่แข็งแกร่ง  แต่เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิแห่งความมืด  ความกระหายเลือดในตัวพวกเขาก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้  มันมาจากความจงรักภักดีที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเขา  และเมื่อมันเกิดขึ้น  ผลของมารแดงในร่างพวกเขาก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นฝูงปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก”


กองทัพราตรีภักดีต่อจักรพรรดิแห่งความมืดเพียงคนเดียวเท่านั้น  พวกเขาไม่สนใจความขัดแย้งในอาณาจักรกลาง  พวกเขาอยู่เพื่อปกป้องคนเพียงคนเดียว


“โลหิตแดงไม่ใช่ของที่สมบูรณ์  แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เหมือนกับมารแดงมาก  ถึงจะเป็นความจริงที่ว่าวิญญาณของจักรพรรดิน้อยถูกสังเวยไป  แต่หยกกล่อมวิญญาณก็สามารถใช้แก่นวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขาได้  พร้อมๆกับพยายามหาวิญญาณที่หายไปของเขาเพื่อซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม  เจ้าไม่ต้องกังวลว่าวิญญาณในตัวเด็กคนนั้นจะเป็นคนอื่น  เพราะเขายังคงเป็นเขา  ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง  แต่เนื่องจากวิญญาณของเขาเสียหายหนักมาก  เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด  อะไรคือความจริงหรือโกหก  เขาตอบสนองไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น  และถ้าข้าเดาไม่ผิด  การที่เจ้าช่วยเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งความประทับใจเอาไว้ให้เขาอย่างลึกซึ้ง”


“ถึงตอนนั้นวิญญาณของเขาจะเสียหายหนักมาก  แต่สิ่งที่เขาเห็นยังคงทิ้งร่องรอยจางๆเอาไว้  ตอนนี้คนเดียวที่เด็กนั่นเชื่อใจก็คือเจ้า  เจ้าในสายตาเขา  ก็เหมือนกับจักรพรรดิแห่งความมืดในสายตาของกองทัพราตรี”  จวินอู๋เหยาหันหน้าไปและเห็นคิ้วที่ขมวดกันของจวินอู๋เสียค่อยๆคลายลง  ในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม


เย่ฉากับเย่เหม่ยนิ่งเงียบ  ทั้งสองก้มหน้าลง


ไม่มีใครเข้าใจความหมายของคำพูดจวินอู๋เหยาได้ดีไปกว่าพวกเขา  สัญชาตญาณที่มาจากส่วนลึกในจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้  และคนอื่นก็ทำให้พวกเขาระเบิดพลังออกมาแบบนี้ไม่ได้  มีเพียงจักรพรรดิแห่งความมืดคนเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจงรักภักดี


มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมได้


เมื่อพวกเขาเห็นว่าเสี่ยวเจว๋มีปฏิกิริยาอย่างไร  พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเจว๋  จวินอู๋เหยาให้เลือดของเขากับเสี่ยวเจว๋  แต่เขาไม่ได้ฝังตราของเขาเอาไว้ในจิตวิญญาณของเด็กน้อย  นายท่านเจว๋คงเดาว่าจักรพรรดิน้อยรู้สึกสำนึกในบุญคุณของจวินอู๋เสีย  จึงได้ส่งเด็กน้อยให้มาอยู่ข้างกายจวินอู๋เสีย


มารแดงไม่เคยนำมาใช้กับเด็ก  เนื่องจากจิตใจของเด็กนั้นอ่อนแอ  ยากที่จะควบคุมสัญชาตญาณที่มารแดงกระตุ้นขึ้นมา  ยิ่งไปกว่านั้น  เดิมทีเสี่ยวเจว๋ก็ไม่ได้โดนมารแดง  แต่เป็นโลหิตแดง……


โลหิตแดงเป็นของเลียนแบบ  ยังไงก็ไม่เสถียรเหมือนมารแดงที่เป็นต้นฉบับ


แม้ว่าจวินอู๋เหยาจะให้เลือดของเขากับเสี่ยวเจว๋หลังโดนโลหิตแดงไปแล้วก็ตาม  แต่โลหิตแดงก็ยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์เหมือนมารแดงได้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม