Genius Doctor Black Belly Miss 1296-1302
ตอนที่ 1296 ชำระแค้น (6)
ด้ายสีเลือดนั่นพุ่งเข้าไปและชอนไชเข้าไปในหน้าอกของชายชุดเขียวอย่างรวดเร็ว ชายชุดเขียวดิ้นรนขณะที่ดวงตาเบิกโพลง ร่างกายเริ่มชักกระตุก!
ผิวหนังที่ไม่ได้อยู่ใต้เสื้อผ้าแสดงให้เห็นถึงเส้นที่ปรากฏขึ้นตามด้ายสีเลือดที่เริ่มปกคลุมไปทั่ว เส้นพวกนั้นเปล่งประกายสีแดงจางๆ ดูเหมือนใยแมงมุมหนาทึบที่ติดแน่นทั่วทั้งร่างกายของเขา
ทันใดนั้น นิ้วก้อยมือขวาของเขาก็เริ่มกลายเป็นเลือด กระดูกและเนื้อของเขาถูกละลายอย่างช้าๆ กลายเป็นเลือดเหนียวข้นหยดลงบนพื้นทีละหยด
“อ๊ากกกกกกกกกก!!!”
เสียงร้องโหยหวนดังก้อง เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่เนื้อและกระดูกของเขาละลายไปอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ทำให้เขาเกือบหมดสติ แต่เขาก็พบว่าเขากลับมีสติรู้ตัวอย่างชัดเจน
ความเจ็บปวดทรมานทุกๆอย่างกระหน่ำผ่านเส้นประสาททั่วร่างกายของเขา!
“อสูรโลหิต……อสูรโลหิต……” ผู้อาวุโสฮุยจ้องมอง ขณะที่นิ้วของชายชุดเขียวค่อยๆละลายเป็นเลือด ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างไม่รู้ตัว
อสูรโลหิต……
ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของจักรพรรดิแห่งความมืด ที่สามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นเลือดได้ในทันที แต่เขาสามารถควบคุมและจัดการกับความเร็วของการละลายได้ ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดทรมานทุกๆวินาทีที่ร่างกายค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆทีละนิด ขณะที่ความหวาดกลัวก็ทำลายสภาพจิตใจของคนผู้นั้น
นั่นคือความทรมานที่ไม่มีใครสามารถทนได้
มีตำนานที่เล่าถึงชายคนหนึ่งที่อยู่จุดสูงสุดของพลังอำนาจในอาณาจักรกลาง ตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดรวบรวมอาณาจักรกลางให้เป็นหนึ่งเดียว ชายคนนั้นคิดว่าเขาสามารถท้าทายอำนาจของจักรพรรดิแห่งความมืดได้ และจากนั้นชายคนนั้นก็ได้รับ ‘มอบรางวัล’ ด้วยการลิ้มรสชาติของอสูรโลหิต
เมื่ออสูรโลหิตแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย คนผู้นั้นก็ประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ชายคนนั้นถูกทรมานตลอด 3 วัน 3 คืน เริ่มต้นจากปลายนิ้วของเขาแล้วกระจายไปอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกก็เป็นนิ้ว จากนั้นก็ฝ่ามือ เคลื่อนไปที่แขน ไหล่ แล้วก็ต่ำลงมาจากหน้าอกไปถึงขา สุดท้ายก็เหลือแค่หัวของเขา และสิ่งที่ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ จนถึงตอนสุดท้ายที่ชายคนนั้นเหลือแค่หัว เขาก็ยังมีชีวิตอยู่……
ความน่ากลัวของอสูรโลหิตทำให้ผู้คนในอาณาจักรกลางหวาดกลัวกันมาก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าทำให้จักรพรรดิแห่งความมืดโกรธอีก
พวกเขาทุกคนต่างหวาดกลัวและสยดสยอง……
แต่ผู้อาวุโสฮุยไม่เคยนึกฝันเลยว่า วันนึงเขาจะได้สัมผัสกับความน่าสะพรึงกลัวของอสูรโลหิต
อุณหภูมิทั้งหมดดูเหมือนจะออกจากร่างกายของเขาในทันที หูของเขาได้ยินแต่เสียงร้องโหยหวนของชายชุดเขียวที่ดังอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเสียงกรีดร้องที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง ยังไม่ทันที่เขาจะได้สัมผัสกับความทรมานนั้น เขาก็กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อหมดแล้ว
กล่าวกันว่า คนที่โดนอสูรโลหิตจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้นได้อย่างชัดเจน ขณะที่อวัยวะภายในของตัวเองค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ
แค่คิดก็ทำให้เขาขนหัวลุกแล้ว
ผู้อาวุโสฮุยมองอย่างตกตะลึง แล้วทันใดนั้น เขาก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่!
เขารวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ แล้วยกแขนขึ้นเพื่อจะซัดฝ่ามือเข้าใส่หัวของตัวเอง!
เขาแน่ใจว่าเขาต้องตายแน่ แต่เขาไม่กล้าลิ้มรสความเจ็บปวดที่อสูรโลหิตจะนำมาให้เขา
แต่ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะแตะหัว ทันใดนั้นเขาก็ชาไปทั้งร่าง เขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนตรึงร่างเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว
“ข้าอนุญาตให้เจ้าตายแล้วหรือ?” เสียงของจวินอู๋เหยาดังขึ้น เสียงที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงนั้นเป็นเหมือนกับฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดซึ่งก้องอยู่ในหูของเขา
เขาอยากอ้อนวอน แต่ก็ไม่สามารถขยับปากได้ ทำได้แค่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองไปที่จวินอู๋เหยา
“ดูสภาพก่อนตายของเขาให้ดีๆ เดี๋ยวก็ถึงตาเจ้าแล้ว” จวินอู๋เหยาพูด มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจกระหายเลือด
ตอนที่ 1297 ชำระแค้น (7)
ดวงตาสีม่วงปีศาจคู่นั้นไม่มีความรื่นเริงอยู่อีกแล้ว แต่สายตาเต็มไปด้วยความเลือดเย็นอำมหิต
ตอนที่จวินอู๋เหยาเจอจวินอู๋เสียตอนนั้น เขาไม่ได้พูดอะไร และไม่ถามอะไรมากด้วย แต่เหตุการณ์นั้นไม่ได้ลบเลือนไปจากความทรงจำของเขาเลย
นั่นเป็นครั้งที่เขาเกือบเสียนางไป
มันทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนก เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน และเขาก็รู้สึกมันได้อย่างชัดเจน
เขาไม่ยอมให้พวกมันตายง่ายๆหรอก ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดที่จวินอู๋เสียได้รับ หรือความตื่นตระหนกตกใจที่เขารู้สึก เขาจะไม่ปล่อยให้พวกมันตายง่ายๆแน่
มีแค่การทรมานพวกมันเท่านั้น เขาถึงจะระงับความตื่นตระหนกที่เกือบเสียจวินอู๋เสียไปได้
เสียงร้องโหยหวนที่น่าสมเพชและโศกเศร้า สำหรับจวินอู๋เหยามันฟังเหมือนเสียงร้องเพลงสรรเสริญ
กลิ่นเลือดคาวคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ราวกับจะดึงเขากลับไปสู่อดีตที่ทุ่งสังหารหมู่อันโหดร้าย!
ผู้อาวุโสฮุยอยากอ้อนวอนขอความตาย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เขาทำได้แค่มองดูร่างของชายชุดเขียวค่อยๆสลายไปด้วยอสูรโลหิต เสียงกรีดร้องโหยหวนของชายชุดเขียวดังแสบแก้วหู ลำคอของเขาแทบพังจากการกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้มันจบสิ้นได้
ความเจ็บปวดนั้นเป็นเหมือนก้นเหวลึก จิตใจของชายชุดเขียวแทบจะพังทลายจากความทรมานที่ไม่อาจทนรับได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของอสูรโลหิตก็คือการทำให้เขามีสติรู้ตัวอย่างชัดเจนตลอดเวลา
มีแค่การมีสติรู้ตัวเท่านั้นที่นำความทรมานมาให้ได้มากที่สุด!
เย่ฉาและเย่เหม่ยยืนเงียบๆอยู่ข้างหลังจวินอู๋เหยา แววตาของทั้งคู่เปล่งประกายลุกโชน
การติดตามจวินอู๋เหยาอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานาน ทำให้ชายทั้งสองรู้สึกถึงเจตนาฆ่าฟันของจวินอู๋เหยาได้อย่างชัดเจนว่ารุนแรงเพียงใด พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงแบบนี้จากตัวนายท่านของพวกเขามานานแล้ว ดูเหมือนมันจะนำพวกเขาย้อนกลับไปในตอนที่พวกเขายืนอยู่กับจวินอู๋เหยาตอนที่พวกเขาสังหารหมู่ไปทั่วทุกแห่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เลือดที่เย็นมานานก็เดือดพล่านขึ้นใหม่อีกครั้งในตอนนี้เอง
นี่คือเจ้านายที่พวกเขาสาบานว่าจะจงรักภักดี และเป็นพระเจ้าผู้สร้างพวกเขาขึ้นมา!
ในกองทัพราตรี ไม่มีถูกหรือผิด ไม่มีความจริงหรือโกหก
กองทัพราตรีรู้แค่ว่าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านเจว๋
ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งอะไรก็ตาม!
ตั้งแต่ต้นจนจบ ใบหน้าของจวินอู๋เหยามีรอยยิ้มปีศาจแบบเดิมตลอด เหมือนทั้งหมดนี้ไม่ใช่การฆ่าที่โหดร้ายเลยสักนิด ไม่ใช่การทรมาน แต่เป็นแค่เกมที่น่าสนใจเท่านั้น เสียงร้องที่น่าสงสารของชายชุดเขียวและความหวาดกลัวของผู้อาวุโสฮุย เป็นแค่ของเล่นที่สร้างความบันเทิงให้เขา
…………………………..
ในป่าทึบ พวกคนที่รออยู่ที่เดิมได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง เสียงนั่นทำให้พวกเขาเย็นวาบไปทั่วร่าง
กลิ่นคาวเลือดที่โชยเข้ามาในป่าทึบหลังจากนั้นก็รุนแรงจนทำให้พวกเขาคลื่นไส้
“พี่ใหญ่อู๋เหยา……เขาทำอะไรลงไป?” เฉียวฉู่กลืนน้ำลายเสียงดังและถามขึ้น เขามองไปยังทิศทางนั้น และได้ยินแต่เสียงที่ดังมาถึงหูของเขากับกลิ่นที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งทำให้เขาหนาวเย็นไปถึงกระดูก
“ข้าขอแนะนำให้เจ้าเก็บความอยากรู้อยากเห็นนั่นซะ มันจะดีกับตัวเจ้าเอง” ฟ่านจั๋วพูดพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับหัวใจที่เต้นแรง เขารู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรงมากจนทำให้เขาหายใจไม่ออก มันค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วผืนป่าอย่างช้าๆ
ถ้าเขาเดาไม่ผิด เจตนาฆ่าที่รุนแรงนี้ต้องมาจากจวินอู๋เหยา
เจตนาฆ่านั้นรุนแรงมาก ขนาดมาจากระยะไกลแบบนี้ยังทำให้เขารู้สึกอึดอัดได้ ถ้าพวกเขาเข้าไปใกล้ เกรงว่าพวกเขาทุกคนคงไม่สามารถต้านทานรังสีกดดันแบบนั้นได้
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไรเลยสักคำ นางแค่นั่งเงียบๆอยู่ด้านหนึ่ง และอุ้มเจ้าแมวดำเอาไว้ในอ้อมแขน
การฆ่าครั้งนี้เป็นการเต้นรำที่เขาออกแบบท่าเต้นให้กับนาง
นางจะไม่หยุดมัน และไม่ต้องการหยุดมันด้วย
ขณะที่ทุกคนกำลังจมอยู่กับบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว เสี่ยวเจว๋ที่นั่งยองๆอยู่เงียบๆมาตลอดเวลาก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น และก้าวขาสั้นๆ เดินตรงไปยังทิศทางของผาสุดสวรรค์
ตอนที่ 1298 ชำระแค้น (8)
ที่ด้านบนของผาสุดสวรรค์ ชายชุดเขียวไม่ส่งเสียงร้องอีกแล้ว ร่างกายส่วนใหญ่ของเขากลายเป็นแอ่งเลือดไปแล้ว มีเพียงแค่หัวที่ยังเหลืออยู่ หัวเปื้อนเลือดนั้นลอยอยู่กลางอากาศ รูจมูกของเขาขยับเล็กน้อย……
เขายังไม่ตาย เขายังมีชีวิตอยู่……
ในตอนนี้เขาไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าความตาย จะได้ไม่ต้องทนทรมานไม่รู้จบเช่นนี้อีก
ร่างกายของเขาค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ ทีละเล็กละน้อย เจ็บปวดทรมานเกินกว่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทนได้
ให้เขาตายซะดีกว่าจะต้องทนต่อฝันร้ายที่น่ากลัวเช่นนี้
จวินอู๋เหยาเฝ้ามองด้วยรอยยิ้ม ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียกับสหายของนางกำลังรีบลงไปที่ด้านล่างของผาสุดสวรรค์ ด้วยความสามารถในการควบคุมความเร็วของอสูรโลหิต เขาจะทำให้มันเจอกับความตายที่เจ็บปวดทรมานมากกว่านี้
หนึ่งเดือน หรืออาจจะหนึ่งปี……
บดขยี้กระดูกแล้วโปรยขี้เถ้ามัน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ความเกลียดชังในใจของเขาสงบลงได้
ผู้อาวุโสฮุยมองหัวของชายชุดเขียวละลายกลายเป็นเลือด ในช่วงเวลาสุดท้าย ใบหน้าของชายชุดเขียวไม่ได้หวาดกลัว แต่เป็นโล่งใจ……
สำหรับเขา ความตายคือความสุขที่สุดแล้ว
ผู้อาวุโสที่ถูกทำให้มองดูกระบวนการทั้งหมดกับตาตัวเอง ตอนนี้ในใจสั่นไหวไปหมด หลังจากชายชุดเขียวตาย ก็จะเป็นตาของเขา
ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากตายตอนนี้เลย ต่อให้เป็นการตายด้วยการถูกหั่นเป็นพันชิ้น มันก็ยังเป็นการตายที่รวดเร็วกว่าการทรมานที่อสูรโลหิตจะทำกับเขา!
สายตาของจวินอู๋เหยาค่อยๆหันไปมองที่ร่างของผู้อาวุโสฮุย แล้วเสียงที่เหมือนเสียงเคาะระฆังแห่งความตายก็ดังขึ้น
“ตาเจ้าแล้ว”
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสฮุยก็ถูกยกขึ้นลอยไปหยุดอยู่กลางอากาศ ภายใต้รังสีกดดันของจวินอู๋เหยา เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย แม้แต่ส่งเสียงอู้อี้ก็ยังไม่ได้
แม้จะเป็นผู้อาวุโสแห่งวิหารปีศาจเพลิง แต่ตอนนี้เขาสั่นไปทั้งร่าง ริมฝีปากซีดขาว
จวินอู๋เหยาปล่อยอสูรโลหิตออกมาอีกครั้ง มันตรงเข้าไปในร่างของผู้อาวุโสฮุยทันที!
ทันใดนั้น ร่างสีแดงเพลิงก็พุ่งเข้าใส่เขา!
เย่ฉาและเย่เหม่ยรู้สึกประหลาดใจ พวกเขากำลังจะขยับ จวินอู๋เหยาก็ยกมือห้ามพวกเขาเอาไว้
บนร่างของผู้อาวุโสฮุย มีร่างเล็กๆร่างหนึ่งกำลังเจาะหน้าอกของเขา!
มือขาวนุ่มที่มีเล็บแหลมคมงอกออกมา เจาะลงไปบนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุย!
เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผลที่เปิดกว้าง เปื้อนร่างเล็กๆที่เกาะอยู่บนหน้าอกของเขา
นั่นเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีใบหน้าไร้เดียงสา แต่มีดวงตาสีแดงและผมสีแดงเพลิง!
“เสี่ยวเจว๋” เย่เหม่ยจำเด็กน้อยได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
มุมปากของจวินอู๋เหยายกขึ้นเล็กน้อยขณะมองดูเสี่ยวเจว๋
ในตอนนี้ดวงตาของเสี่ยวเจว๋ไม่มีความไร้เดียงสาอย่างที่เคยมี แต่กลับเต็มไปด้วยความอยากฆ่าที่บริสุทธิ์เหมือนกับสัตว์ร้าย ลูกนัยน์ตาของเขาเปลี่ยนเป็นแนวตั้งเหมือนตางู เขี้ยวเล็กๆน่ารัก 2 เขี้ยวในปากก็ยื่นยาวออกมาและแหลมคมมาก
เขามองผู้อาวุโสฮุยที่หน้าซีด แล้วอ้าปากฝังเขี้ยวลงไปบนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุย!
วินาทีต่อมา เนื้อที่หน้าอกของผู้อาวุโสฮุยก็ถูกฉีกออกมาเป็นก้อนอย่างไร้ความปรานี!
บนบาดแผลที่เปิดกว้างนั้น เมื่อเนื้อถูกฉีกออกไปมากขึ้น เลือดก็ไหลออกมา ซี่โครงในอกก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน! ใต้ซี่โครงเหล่านั้นสามารถมองเห็นหัวใจดวงหนึ่งที่กำลังเต้นแรงได้!
“นายท่านเจว๋……” เย่ฉาพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น
จวินอู๋เหยายังคงกอดอกมองเสี่ยวเจว๋ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ใช่คนเดียวที่อยากแก้แค้นให้เสี่ยวเสียเอ๋อร์”
ตอนที่ 1299 ชำระแค้น (9)
กรอบ กรอบ……
เสียงฟันเคี้ยวบดขยี้กระดูกดังขึ้นที่ด้านบนผาสุดสวรรค์ ขณะที่เสี่ยวเจว๋กัดผ่านซี่โครงของผู้อาวุโสฮุยเข้าไป
ผู้อาวุโสฮุยไม่สามารถส่งเสียงได้ แต่ความเจ็บปวดแล่นผ่านเส้นประสาททุกเส้นในร่างของเขาอย่างชัดเจน ความเจ็บปวดได้ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวราวแผ่นกระดาษ ดวงตาของเขาแดงก่ำทันที
กระดูกซี่โครงถูกฟันกัดไปทีละท่อน หัวใจที่สูญเสียแนวป้องกันสุดท้ายไปก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างไร้การป้องกันใดๆ
‘หมับ!’
มือเล็กๆของเสี่ยวเจว๋คว้าหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ และด้วยกรงเล็บที่เหมือนใบมีดแหลม เขากระชากมันออกมาทันที!
เล็บตัดผ่านหลอดเลือดแดงทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับหัวใจสีแดงสด และในขณะที่มันยังเต้นเป็นจังหวะอยู่นั้นเอง เขาก็กระชากมันออกจากอก!
บนหน้าอกของผู้อาวุโสฮุยมีรูขนาดใหญ่เปิดกว้าง เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด มันไหลไปตามร่างกายของเขาและหยดจากปลายเท้าของเขาลงบนพื้น
จากนั้นร่างเล็กๆของเสี่ยวเจว๋ก็ตีลังกากลับหลังลงไปที่พื้นอย่างคล่องแคล่ว เขากำหัวใจของผู้อาวุโสฮุยเอาไว้ในมือ ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของสัตว์ร้าย
บนใบหน้าเล็กๆนั่น มีหยดเลือดกระเซ็นเปื้อนอยู่ ทำให้ใบหน้าไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยดูเหมือนสัตว์ที่ดุร้าย
เขาไม่ได้มองผู้อาวุโสฮุยอีก แต่ถือหัวใจเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง แล้วเดินไปที่ป่าทึบ
“นายท่านเจว๋ ให้ข้าตามไปไหมขอรับ?” เย่ฉาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ขณะที่เฝ้าสังเกตการกระทำของเสี่ยวเจว๋
จวินอู๋เหยาส่ายหน้าและพูดว่า “ปล่อยเขาไป ถึงยังไง……” สายตาของเขามองกลับไปที่ร่างโชกเลือดของผู้อาวุโสฮุย “ชายคนนี้ก็ยังไม่ตายไปอีกสักพัก”
หัวใจของเขาถูกกระชากออกไปอย่างไร้ความปรานี แต่ผู้อาวุโสฮุยก็ยังคงหายใจอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ความทรมานจากอสูรโลหิตยังคงเล่นงานเขาอยู่ ตราบใดที่จวินอู๋เหยาต้องการ เขาก็จะไม่ตาย แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เช่นกัน!
จวินอู๋เสียกับสหายของนางยังคงรออยู่ในป่า และแม้ว่าเฉียวฉู่จะสงสัยมากว่าจวินอู๋เหยาทำอะไร แต่ความรู้สึกของเขาบอกว่าความอยากรู้อยากเห็นคืออันตราย ถ้าเขายังดื้อด้านอยากรู้ เรื่องคงจบไม่สวยแน่ เขาจึงนั่งลงก่อกองไฟ แล้วพวกเพื่อนๆก็พากันมารวมตัวรอบกองไฟเพื่อจัดการข้าวของที่พวกเขาจะใช้ปีนลงไปที่ด้านล่างของผาสุดสวรรค์
จวินอู๋เสียเริ่มแจกจ่ายยาที่นางเก็บไว้ในกระเป๋ามิติให้กับเพื่อนๆ ก่อนที่จะออกเดินทาง นางได้ปรุงยาเอาไว้หลายชนิดตามสถานการณ์ต่างๆที่เคยเห็นที่ผาสุดสวรรค์ก่อนหน้านี้
“พี่ชายตัวน้อย……”
ทันใดนั้น เสียงของเสี่ยวเจว๋ก็ดังขึ้นจากด้านหลังของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไป และแข็งทื่อทันที
เด็กน้อยไร้เดียงสายืนนิ่งอยู่ข้างหลังนาง แต่บนร่างกาย ใบหน้า และมือของเขา ล้วนเปื้อนเลือดสีแดงสด ใบหน้าที่เปื้อนเลือดนั่นมีรอยยิ้มสดใสไร้เดียงสา เขายืนถือหัวใจสดๆสีแดงเอาไว้ในมือ พลางมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาคาดหวัง
จวินอู๋เสียมองเสี่ยวเจว๋ด้วยความประหลาดใจ นางจ้องมองร่างเล็กๆที่เปื้อนเลือดเต็มไปตัวไปหมด ตรงข้ามกับภาพของจักรพรรดิน้อยที่ขี้กลัวซึ่งอยู่ในความทรงจำของนาง แต่รอยยิ้มบนใบหน้านั้นยังคงเป็นรอยยิ้มที่นางคุ้นเคย
จวินอู๋เสียตะลึงค้าง ขณะที่เฉียวฉู่กับคนอื่นๆก็ตกตะลึงไม่ต่างกันเมื่อเห็นสภาพของเสี่ยวเจว๋
ใครจะคิดว่าเด็กน้อยที่มักจะวิ่งหนีไปร้องไห้เมื่อโดนเฟยเหยียนจ้องเอาทีเดียว จู่ๆจะปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาด้วยสภาพแบบนั้น
เลือดบนตัวเขายังเปียกอยู่เลย ของเหลวข้นเหนียวนั่นไหลผ่านนิ้วของเขาและหยดลงบนพื้น
ในช่วงเวลาแห่งความเงียบ เสียงจะดังชัดเจนเป็นพิเศษ
รู้สึกเหมือนเสียงจากเลือดทุกหยดกระทบลงบนหัวใจของพวกเขา
“พี่ชายตัวน้อย นี่…..ให้ท่าน……” เสี่ยวเจว๋พูดขึ้นด้วยดวงตาไร้เดียงสาเป็นประกาย มือที่ถือหัวใจสดๆยื่นมาให้ตรงหน้าจวินอู๋เสีย รอยยิ้มของเขาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่เป็นความไร้เดียงสาที่ชุ่มไปด้วยเลือด
ตอนที่ 1300 หัวใจที่บริสุทธิ์ (1)
จวินอู๋เสียไม่เคยรู้สึกว่าเลือดเป็นภาพที่โหดร้ายสำหรับนางมาก่อน นางมองรอยยิ้มของเสี่ยวเจว๋ แล้วก็ขมวดคิ้ว
“นี่……” เฉียวฉู่กับคนอื่นๆไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ภาพเสี่ยวเจว๋ที่มีเลือดเปื้อนทั้งตัวไม่เหมือนกับภาพของเด็กน้อยไร้เดียงสาและขี้ขลาดที่อยู่ในใจของพวกเขา
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปหาเขาเงียบๆ ขณะมองเสี่ยวเจว๋ที่มีสีหน้าคาดหวัง นางใช้แขนเสื้อของตัวเองเช็ดเลือดออกจากใบหน้าเล็กๆนั้น เสี่ยวเจว๋กระพริบตาปริบๆ วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของเขาทำให้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงมีปฏิกิริยาแปลกๆแบบนี้
จวินอู๋เสียยังคงเช็ดเลือดออกอย่างระมัดระวัง และเอาหัวใจที่เย็นแล้วจากมือของเด็กชายโยนลงไปบนพื้น
เสี่ยวเจว๋มีสีหน้าเป็นกังวล แต่จวินอู๋เสียยังคงไม่พูดอะไร นางเช็ดเลือดที่มือเล็กๆของเขาต่อ
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
เสี่ยวเจว๋ไหล่ห่อคอตก ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เขาได้แต่มองจวินอู๋เสียด้วยแววตาเศร้าสร้อย ก่อนจะปีนขึ้นไปบนรถม้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด
พอเสี่ยวเจว๋เข้าไปในรถม้า เฉียวฉู่กับคนอื่นๆก็เอ่ยปากพูด
“เสี่ยวเสีย เสี่ยวเจว๋……ยังเด็กมาก เจ้าอย่าโหดกับเขานักเลย” เฉียวฉู่พูดอย่างระมัดระวัง การอยู่กับจวินอู๋เสียมานาน ทำให้เขาเข้าใจความชอบและไม่ชอบของจวินอู๋เสียได้ดี
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าตอนนี้จวินอู๋เสียอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากดวงตาของนางเย็นชากว่าปกติเล็กน้อย
“อะแฮ่ม……ข้าว่าเขาต้องไปล้างแค้นให้เจ้าแน่ๆ เขาคงได้ยินที่พวกเราคุยกันเมื่อกี้” เฟยเหยียนรีบพูดแทรกขึ้นมา พยายามจะขอร้องแทนเสี่ยวเจว๋ พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติของเสี่ยวเจว๋ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเด็กคนนั้นแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง และจำนวนคำศัพท์ที่เขารู้ทั้งหมดก็ใช้นิ้วนับได้ ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยที่ยังไม่ได้สติคืนมาทั้งหมดจะออกไปทำเรื่องนองเลือดแบบนี้?
พวกผู้เยาว์ไม่ได้โง่ พวกเขาเชื่อมโยงการกระทำของเสี่ยวเจว๋กับสิ่งที่พวกเขาคุยกันเมื่อครู่และรู้ถึงเหตุผลในการกระทำนั้นได้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาจึงรู้สึกสงสารเห็นใจเด็กน้อยคนนั้นมาก
จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูดเบาๆว่า
“ข้าพาเขามาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อให้เขาทำเรื่องแบบนี้”
นางยังจำตอนที่เจอกับจักรพรรดิน้อยเป็นครั้งแรกได้ เขาขี้อายได้น่ารัก เจอเรื่องตกใจนิดเดียวก็ตัวสั่นแล้ว แต่ตอนนี้เสี่ยวเจว๋ที่ตัวอาบเลือดคนนั้นแตกต่างจากจักรพรรดิน้อยที่นางจำได้อย่างสิ้นเชิง นิสัยของเขาไม่เคยชอบเลือดแบบนี้เลย และนางไม่ต้องการให้มือของเด็กน้อยเปื้อนเลือด
เขาจะต้องมีชีวิตที่ไร้เดียงสาต่อไป หลังจากที่วิญญาณของเขาได้รับการรักษาจนหายแล้ว เขาก็จะได้เป็นจักรพรรดิน้อยที่แสนสบายอีกครั้ง ไม่ต้องเจอกับการนองเลือดและการหลอกลวง ไม่ต้องทำให้มือของเขาแปดเปื้อน
จักรพรรดิน้อยเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่สุดที่จวินอู๋เสียเคยเจอมา แม้ว่าจะเกิดในราชวงศ์ ก็ยังคงความใสซื่อไร้มารยาเอาไว้ได้
หัวใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นสิ่งที่หายากที่สุด จวินอู๋เสียไม่อยากให้จักรพรรดิน้อยต้องแปดเปื้อน
“คนที่โลหิตแดงสร้างขึ้นมา จะมีความกระหายเลือดรุนแรง ปกติเสี่ยวเจว๋เป็นเด็กดี เชื่อฟังและน่ารักมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ คงเพราะมันเกี่ยวข้องกับเจ้า ถึงได้กระตุ้นผลของโลหิตแดงในตัวเขา อย่าใส่ใจเลย รอจนเขาหายดี แล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็จะจางหายไปเอง” หรงรั่วพูดพร้อมกับถอนใจ นางสามารถเข้าใจได้ว่าจวินอู๋เสียรู้สึกอย่างไรในตอนนี้
จวินอู๋เสียกับจักรพรรดิน้อยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แต่นางก็ช่วยเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แค่เพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นสิ่งที่หายากและล้ำค่ามาก
ตอนที่ 1301 หัวใจที่บริสุทธิ์ (2)
แม้แต่จวินอู๋เสียเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมนางถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงเมื่อเห็นเสี่ยวเจว๋ที่มีเลือดอยู่เต็มตัว นางยอมรับแล้วว่าเป็นปกติของโลกนี้ที่ดำเนินไปตามกฎปลาใหญ่กินปลาเล็ก และตัวนางเองก็เล่นตามกฎเดียวกันนี้มาตลอด
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย
คนอ่อนแอมักจะเป็นเหยื่อมาตลอดในประวัติศาสตร์
แม้ว่านางจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกว่าภาพเสี่ยวเจว๋ที่เปื้อนเลือดเต็มตัวนั้น นางทนดูไม่ได้จริงๆ
เด็กคนนั้นควรมีชีวิตที่ปราศจากความกังวล
เพราะเขาเป็นคนที่หายาก จึงทำให้คนยิ่งรักและห่วงใยเขามาก
แต่ตอนนี้ มีคำถามสำคัญค้างคาอยู่ในใจของจวินอู๋เสีย
เสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ ยังเป็นคนเดียวกับจักรพรรดิน้อยที่นางรู้จักในตอนแรกอยู่หรือเปล่า?
เด็กที่อ่อนโยนอย่างนั้น จะไปอาละวาดฆ่าคนจากผลของโลหิตแดงได้จริงๆหรือ?
จวินอู๋เสียไม่อาจแน่ใจได้ว่าเสี่ยวเจว๋ในตอนนี้ได้สูญเสียความทรงจำก่อนหน้าของเขาไปทั้งหมด แม้ว่าการกระทำและการพูดของเขาจะถูกจำกัดเอาไว้แค่รูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด และไม่สามารถเข้าใจคำที่ซับซ้อนเกินไปได้ การกระทำส่วนใหญ่ของเขาเป็นไปโดยสัญชาตญาณ
แต่สัญชาตญาณนั้นมาจากจิตสำนึกของจักรพรรดิน้อยเอง หรือว่ามาจากหยกกล่อมวิญญาณกันแน่?
จวินอู๋เสียพยายามที่จะรักษาจิตวิญญาณของเด็กน้อยที่ทำให้ผู้คนใจละลายคนนั้น ไม่ใช่วิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้
เมื่อจวินอู๋เสียไม่พูดอะไร ฟ่านจั๋วกับคนอื่นๆก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ควรพูดอะไรอีก ทุกคนจึงพากันนั่งเงียบ
ข้างในรถม้า เสี่ยวเจว๋ถอดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออกเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ออกจากรถม้าทันที เขานั่งกอดเข่าซ่อนตัวอยู่ตรงมุมด้านในรถม้า ดวงตาของเขาดูเศร้าและเสียใจมาก
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง แต่เขาก็ยังรู้สึกได้
[พี่ชายตัวน้อยไม่ชอบ]
เสี่ยวเจว๋ไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่กล้ามองตาจวินอู๋เสีย เขากลัว แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตากลมโตอย่างเงียบๆ ไหลลงมาตามใบหน้าและหยดลงบนคอเสื้อของเขาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ในป่าเงียบสนิท ไม่มีใครพูดเลยสักคน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จวินอู๋เหยาก็กลับมาพร้อมเย่ฉาและเย่เหม่ยที่ตามหลังเขามา ไม่มีร่องรอยเลือดอยู่บนตัวพวกเขาเลยสักนิด แต่กลิ่นคาวเลือดที่ยังลอยอยู่ในอากาศทำให้ทุกคนรู้ว่าพวกเขาออกไปทำอะไรมา
“ข้าทำให้พวกเจ้าต้องรอแล้ว” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับหยุดอยู่ห่างจากจวินอู๋เสีย 3 ก้าว เขาอยากเข้าไปกอดนาง แต่จำได้ว่าเด็กน้อยของเขาไม่ชอบกลิ่นเลือดที่ยังติดอยู่บนเสื้อผ้าของเขา
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เหยาและพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าเล็กๆนั้นดูเหมือนอย่างที่เคยเป็นตามปกติ แต่จวินอู๋เหยาก็ยังจับได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สายตาของจวินอู๋เหยากวาดมองไปที่หัวใจซึ่งถูกโยนทิ้งไว้บนหญ้าและเห็นรอยเท้าเล็กๆที่ทิ้งไว้บนพื้นหญ้า มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เกิดอะไรขึ้น? เด็กนั่นทำอะไรให้เจ้าโกรธงั้นหรือ?”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า แต่ครู่ต่อมานางก็พูดว่า “เขาเจตนาดี แต่ข้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้”
จวินอู๋เหยาหัวเราะเบาๆและพูดว่า “เจ้าไม่อยากให้มือเด็กนั่นเปื้อนเลือดใช่ไหมล่ะ?”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ เจ้านี่น่าสนใจจริงๆ……เจ้ากังวลอะไรอยู่? กังวลว่าเด็กนั่นจะไม่ใช่จักรพรรดิน้อยที่เจ้าเคยรู้จัก? กังวลว่าการชอบฆ่าแบบนี้มาจากวิญญาณที่ไม่คุ้นเคยใช่ไหม?” เสียงของจวินอู๋เหยาเต็มไปด้วยความรื่นเริง แต่เขาเดาความคิดของจวินอู๋เสียในขณะนั้นได้ถูกต้องทั้งหมด
ตอนที่ 1302 หัวใจที่บริสุทธิ์ (3)
ความเงียบของจวินอู๋เสียทำให้จวินอู๋เหยายิ่งแน่ใจว่าตัวเองเดาถูก หายากที่จะได้เห็นจวินอู๋เสียแสดงสีหน้าท่าทางเช่นนี้เพื่อคนอื่น เขารู้ได้ในทันทีว่าเสี่ยวเจว๋มีความสำคัญกับจวินอู๋เสีย ที่นางพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะนางจะเห็นเด็กน้อยนั่นเป็น ‘น้องชาย’ ของนางจริงๆ
“โลหิตแดงถูกสร้างขึ้นตามแบบมารแดงของจักรพรรดิแห่งความมืด มารแดงเป็นสิ่งที่สร้างราชอาณาจักรแห่งความมืด ทั่วทั้งอาณาจักรกลาง ไม่มีใครกล้าหาเรื่องกองทัพราตรี เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?” จวินอู๋เหยาถาม
“เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขา” จวินอู๋เสียตอบ
จวินอู๋เหยายิ้มและพูดว่า “ใช่ และไม่ใช่”
เขานั่งลงข้างๆจวินอู๋เสีย และตอนนี้จวินอู๋เสียก็ไม่ได้สนใจเรื่องกลิ่นเลือดที่ติดเสื้อผ้าเขา
“แม้ว่ากองทัพราตรีจะแข็งแกร่งมาก แต่คนไม่ได้กลัวพวกเขาแค่เพราะความแข็งแกร่งอย่างเดียว แต่เป็นสัญชาตญาณกระหายเลือดในตัวพวกเขาต่างหาก ปกติพวกเขาจะเป็นแค่กลุ่มนักสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิแห่งความมืด ความกระหายเลือดในตัวพวกเขาก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันมาจากความจงรักภักดีที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเขา และเมื่อมันเกิดขึ้น ผลของมารแดงในร่างพวกเขาก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นฝูงปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก”
กองทัพราตรีภักดีต่อจักรพรรดิแห่งความมืดเพียงคนเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่สนใจความขัดแย้งในอาณาจักรกลาง พวกเขาอยู่เพื่อปกป้องคนเพียงคนเดียว
“โลหิตแดงไม่ใช่ของที่สมบูรณ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็เหมือนกับมารแดงมาก ถึงจะเป็นความจริงที่ว่าวิญญาณของจักรพรรดิน้อยถูกสังเวยไป แต่หยกกล่อมวิญญาณก็สามารถใช้แก่นวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขาได้ พร้อมๆกับพยายามหาวิญญาณที่หายไปของเขาเพื่อซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม เจ้าไม่ต้องกังวลว่าวิญญาณในตัวเด็กคนนั้นจะเป็นคนอื่น เพราะเขายังคงเป็นเขา ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เนื่องจากวิญญาณของเขาเสียหายหนักมาก เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรคือความจริงหรือโกหก เขาตอบสนองไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น และถ้าข้าเดาไม่ผิด การที่เจ้าช่วยเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งความประทับใจเอาไว้ให้เขาอย่างลึกซึ้ง”
“ถึงตอนนั้นวิญญาณของเขาจะเสียหายหนักมาก แต่สิ่งที่เขาเห็นยังคงทิ้งร่องรอยจางๆเอาไว้ ตอนนี้คนเดียวที่เด็กนั่นเชื่อใจก็คือเจ้า เจ้าในสายตาเขา ก็เหมือนกับจักรพรรดิแห่งความมืดในสายตาของกองทัพราตรี” จวินอู๋เหยาหันหน้าไปและเห็นคิ้วที่ขมวดกันของจวินอู๋เสียค่อยๆคลายลง ในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เย่ฉากับเย่เหม่ยนิ่งเงียบ ทั้งสองก้มหน้าลง
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของคำพูดจวินอู๋เหยาได้ดีไปกว่าพวกเขา สัญชาตญาณที่มาจากส่วนลึกในจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ และคนอื่นก็ทำให้พวกเขาระเบิดพลังออกมาแบบนี้ไม่ได้ มีเพียงจักรพรรดิแห่งความมืดคนเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจงรักภักดี
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเสี่ยวเจว๋มีปฏิกิริยาอย่างไร พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเจว๋ จวินอู๋เหยาให้เลือดของเขากับเสี่ยวเจว๋ แต่เขาไม่ได้ฝังตราของเขาเอาไว้ในจิตวิญญาณของเด็กน้อย นายท่านเจว๋คงเดาว่าจักรพรรดิน้อยรู้สึกสำนึกในบุญคุณของจวินอู๋เสีย จึงได้ส่งเด็กน้อยให้มาอยู่ข้างกายจวินอู๋เสีย
มารแดงไม่เคยนำมาใช้กับเด็ก เนื่องจากจิตใจของเด็กนั้นอ่อนแอ ยากที่จะควบคุมสัญชาตญาณที่มารแดงกระตุ้นขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีเสี่ยวเจว๋ก็ไม่ได้โดนมารแดง แต่เป็นโลหิตแดง……
โลหิตแดงเป็นของเลียนแบบ ยังไงก็ไม่เสถียรเหมือนมารแดงที่เป็นต้นฉบับ
แม้ว่าจวินอู๋เหยาจะให้เลือดของเขากับเสี่ยวเจว๋หลังโดนโลหิตแดงไปแล้วก็ตาม แต่โลหิตแดงก็ยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์เหมือนมารแดงได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น