Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น 743-749

 EG บทที่ 743 เสียดายมั้ย?


 


“ประธานคาเมดะ โอ้ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมควรเรียกคุณในฐานะท่านประธานบริษัทคาเมดะ ท่านประธานคาเมดะครับ ก่อนหน้านี้ไม่มีบริษัทเซ็กส์ทอยบริษัทไหนเลยที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq เป็นเรื่องจริงหรอครับ?” นักข่าวรายหนึ่งยกไมโครโฟนขึ้นและถามเขา


 


กลุ่มผู้สื่อข่าวได้เข้าห้อมล้อมคาเมดะ มาซาโอะตรงทางเข้าบริษัทซิกส์เซนส์ ทุกคนต้องการสัมภาษณ์เขา


 


“นี่เป็นเรื่องจริงครับ คุณยังสามารถเรียกผมว่าประธานคาเมดะได้เหมือนเดิมนะครับ เพราะยังไงผมก็ยังคงเป็นประธานของบริษัทซิกส์เซนส์ คาบูชิกิ ไคชา อยู่ดี” คาเมดะ มาซาโอะยิ้มอย่างมีความสุขต่อหน้าผู้สื่อข่าว


 


เมื่อเฝิงหยู่ขอให้เขาเป็นประธานบริษัทซิกส์เซนส์  เขารู้สึกดีใจมาก เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแบรนด์แบล็คดราก้อนก่อนหน้าให้กลายเป็นแบรนด์ซิกส์เซนส์ที่ใหม่กว่า ความนิยมของแบรนด์ใหม่นี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก


 


หลังจากนั้น คาเมดะ มาซาโอะเห็นบริษัทหลายแห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แม้ว่าพวกนั้นจะทำกำไรไม่ได้ก็ตาม หลังจากที่บริษัทพวกนั้นได้รับการจดทะเบียน มูลค่าตลาดของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น


 


การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการโปรโมทบริษัทและแบรนด์ บริษัทสามารถระดมทุนจากประชาชนเพื่อการพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้นคาเมดะ มาซาโอะจึงไปพบเฝิงหยู่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องการในจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทซิกซ์เซ้นส์


 


เฝิงหยู่เห็นด้วยและให้คำแนะนำบางอย่าง เช่น การให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq แทนโตเกียว


 


คาเมดะ มาซาโอะประสบปัญหาในขั้นตอนการยื่นคำขอ แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับการอนุมัติโดยใช้ผลประกอบการและรายงานทางการเงินที่ดีของบริษัท


 


สิ่งที่คาเมดะมาซาโอ่ไม่ได้คาดหวังไว้ก็คือเฝิงหยู่ขอให้เขาเป็นประธานของบริษัทซิกซ์เซ้นส์ เขารู้สึกว่าเฝิงหยู่ไว้ใจเขามากจริงๆ!


 


คาเมดะ มาซาโอะไม่เคยเห็นหรือได้ยินผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนไหนในญี่ปุ่นที่ไม่อยากเป็นประธาน แถมยังเสนอตำแหน่งนี้ให้คนอื่นอีกด้วย เฝิงหยู่เป็นคนแรกที่ทำแบบนี้


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกซาบซึ้งต่อเฝิงหยู่มาก หากเขาไม่ได้พบกับเฝิงหยู่ เขาคงจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนในตอนนี้ เขาจะไม่สามารถสร้างตระกูลคาเมดะได้อีกครั้ง!


 


ตระกูลคาเมดะอาจจะไม่ใช่ครอบครัวระดับสูงในญี่ปุ่น ไม่มีรากฐานที่แข็งแกร่งหรือมีอิทธิพลต่อการเมืองใดๆ แต่ตระกูลคาเมดะนั้นไม่ใช่ครอบครัวที่อ่อนแอซึ่งทุกคนสามารถเหยียบย่ำพวกเขาได้อีกต่อไป อย่างน้อยในจังหวัดของพวกเขา ตระกูลคาเมดะก็ได้กลายเป็นตระกูลที่น่านับถือ!


 


คาเมดะ มาซาโอะปรากฏตัวในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์บ่อยครั้ง หลายคนเรียกเขาว่าราชาแห่งอุตสาหกรรมเซ็กส์ทอย และบางแห่งก็เรียกเขาว่าราชาแห่งอุตสาหกรรมสื่อลามก แต่คาเมดะ มาซาโอะก็ไม่ได้แคร์ ตอนนี้เขาเป็นคนที่น่านับถือในชนชั้นสูง!


 


เฝิงหยู่เห็นด้วยกับคาเมดะ มาซาโอะเมื่อเขาเสนอให้พนักงานของบริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัทได้ เฝิงหยู่ไม่ได้ถามถึงรายละเอียดและบอกให้เขาทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากทำ


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกว่าเขาโชคดีที่ได้พบกับเจ้านายคนหนึ่งที่เชื่อใจเขามากขนาดนี้


 


“ประธานคาเมดะครับ หุ้นมีทั้งหมดเท่าไหร่ครับ และจะมีการออกหุ้นกี่หุ้นครับ?” ผู้สื่อข่าวถาม


 


“เราจะออกหุ้น 30% ของหุ้นในบริษัท ซึ่งเป็นจำนวน 30 ล้านหุ้น ราคาหุ้นที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกคือ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นครับ” คาเมดะ มาซาโอะ ตอบกลับ


 


สักพักก็มีคนคำนวณตัวเลข คาเมดะ มาซาโอะ กำลังจะบอกว่าบริษัทซิกส์เซนส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซ็กส์ทอย มีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยหรอ?


 


ตลกละ! บริษัทที่มีหนี้ไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐจะมีมูลค่ามากขนาดนั้นได้ยังไง?


 


“ประธานคาเมดะครับ ราคาหุ้นที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกไม่สูงเกินไปหน่อยหรอครับ? ผมได้ยินมาว่าสินทรัพย์รวมของบริษัทคุณก็ไม่ได้เยอะมาก คุณกำลังตั้งราคาหุ้นสูงเกินไปหรือเปล่าครับ?”


 


คาเมดะ มาซาโอะ จ้องหน้าผู้สื่อข่าวคนนั้น คุณโง่หรือไง? มีบริษัทไหนที่ไม่ออกหุ้นในราคาสูงเป็นพิเศษบ้าง? คุณกำลังจะบอกว่าผมควรขายหุ้นที่มีมูลค่า 10 ดอลลาร์สหรัฐในราคาแค่เพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐงั้นหรอ? สมองของคุณมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?


 


คาเมดะ มาซาโอะไม่ตอบคำถามนั้น


 


ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ก็ผลักนักข่าวงี่เง่าคนนั้นออกไปทันที มีคนถามว่า “ประธานคาเมดะคะ ทำไมคุณถึงเลือกที่จะจดทะเบียนบริษัทของคุณในตลาด Nasdaq แทนที่จะเป็นตลาดโตเกียวล่ะคะ? ประเทศของเราเปิดกว้างมากและผลิตภัณฑ์ของบริษัทคุณก็ได้รับความนิยมอย่างมากที่นี่ หลายคนต้องการซื้อหุ้นของบริษัทคุณ แต่คุณเลือกที่จะจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา มีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้มั้ยคะ?”


 


คาเมดะ มาซาโอะ มองนักข่าวคนนั้น “มีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq คุณเคยไปถามหาเหตุผลกับพวกเขาบ้างหรือเปล่าครับ?”


 


“ผมไม่แน่ใจเรื่องนั้นและผมไม่อยากรู้ครับ ผมอยากถามเฉพาะในนามของชาวญี่ปุ่น ทำไมคุณไม่จดทะเบียนบริษัทในโตเกียวครับ?” ผู้สื่อข่าวตอบ


 


“โอเคครับ ผมจะบอกเหตุผลให้ก็ได้ ผมขอจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวก่อนแล้ว แต่คำขอของผมถูกปฏิเสธ เหตุผลที่พวกเขาให้ผมมาก็คือบริษัทของผมทำกำไรไมได้และจำนวนผู้ถือหุ้นน้อยเกินไป  ดังนั้นผมก็เลยยื่นคำขอไปที่ Nasdaq แม้ว่าผมจะไม่ได้รับการอนุมัติทันที แต่พวกเขายังคงติดต่อผมมาตลอด”


 


“เหตุผลที่สองคือเรื่องเงินทุน การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คือการระดมทุนเพื่อการเติบโตของบริษัท แน่นอนว่าบริษัทของเราจะต้องเลือกตลาดที่เจริญรุ่งเรืองมากกว่า ตลาดการเงินของโตเกียวเคยเป็นตลาดการเงินอันดับหนึ่งของโลก แต่เนื่องจากตลาดล่มเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เรายังไม่ฟื้นตัว ไม่มีบริษัทไหนที่เป็นแบบบริษัทซิกส์เซนส์ได้รับการจดทะเบียนมาก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากได้ตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเพื่อความปลอดภัยครับ และยังมีนักลงทุนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้นด้วย”


 


“นอกจากนี้ บริษัทซิกส์เซนส์จะใช้เงินของชาวอเมริกันเพื่อพัฒนาบริษัท และจากนั้นเราจะหาเงินจากพวกเขาได้ นี่เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรอครับ?”


 


“ประธานคาเมดะครับ มีข่าวลือว่าคุณไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ?” ผู้สื่อข่าวเบียดตัวมาด้านหน้าและถาม


 


“บริษัทซิกส์เซนส์เป็นของพนักงานทุกคนของเราครับ มันสำคัญด้วยหรอครับว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะเป็นใคร? ผมเป็นประธานของบริษัทและจะยังเป็นผู้นำของบริษัทต่อไปเช่นเดิมครับ” คาเมดะ มาซาโอะไม่ได้ตอบคำถามนั้นโดยตรง เฝิงหยู่สั่งให้คาเมดะ มาซาโอะห้ามพูดอะไรพาดพิงถึงเขาเลย


 


“ประธานคาเมดะ……”


 


“โอเค พอแล้วนะครับ ผมต้องรีบไปขึ้นเครื่อง บริษัทกำลังเข้าจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าพนักงานของผมจะอยู่ที่นั่นเพื่อเตรียมการแล้ว แต่ผมก็ต้องไปที่นั่นในวันจดทะเบียนไม่ใช่หรอครับ? ขอตัวก่อนนะครับ ผมไม่อยากให้ผู้โดยสารคนอื่นต้องมารอผม”


 


บอดี้การ์ดสองคนหลีกทางระหว่างนักข่าวและพาคาเมดะ มาซาโอะไปที่รถซึ่งจอดรออยู่ ผู้สื่อข่าวเห็นคาเมดะ มาซาโอะกลับออกไปแล้ว พวกเขาก็รีบกลับไปเผยแพร่ข่าวนี้ทันที


 


นี่เป็นบริษัทผู้ผลิตเซ็กส์ทอยรายแรกของโลกที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นบริษัท ญี่ปุ่นด้วย บริษัทนี้ทำให้ทั้งประเทศภาคภูมิใจ


 


ระหว่างทางไปสนามบิน คาเมดะ มาซาโอะ ยิ้มไม่หยุด ไม่เคยมีนักข่าวมากมายมารุมล้อมเขาแบบนี้มาก่อนในชีวิตของเขาเลย


 


คาเมดะ มาซาโอะ และบริษัทซิกส์เซนส์ จะกลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ของสื่อทั้งหมดในญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกภาคภูมิใจกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทซิกส์เซนส์ คนที่เคยดูถูกเขาและพวกที่ไม่ยอมลงทุนในบริษัทของเขา ตอนนี้พวกคุณรู้สึกเสียดายหรือยัง?


EG บทที่ 744 แผนการในอนาคต


 


ด้วยความช่วยเหลือของกำปั้นเหล็กจูทำให้เฝิงหยู่ได้รับหนังสือเดินทางฮ่องกงในตอนเช้าหลังจากผ่านไป 3 วัน หนังสือเดินทางจีนของเขาก็ยังสามารถใช้ได้อยู่


 


หลังจากเฝิงหยู่ได้รับหนังสือเดินทางแล้ว เขาก็ติดต่อฝ่ายสหรัฐอเมริกา ละจากนั้นก็บินไปนิวยอร์กพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชาวฮ่องกงของเขา


 


ครั้งสุดท้ายที่เฝิงหยู่ไปสหรัฐอเมริกาก็คือเพื่อหลอกบริษัทไฟเซอร์ แต่คราวนี้เฝิงหยู่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกาสักพัก เศรษฐกิจของอเมิรกากำลังเฟื่องฟูในตอนนี้ แม้ว่าการเติบโตจะไม่เกิน 4% และค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3% แต่ก็ยังน่าตกใจเนื่องจากมีฐานที่แข็งแกร่ง


 


มีโอกาสมากมายในสหรัฐอเมริกาในยุคนี้ นี่เป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาพัฒนาขึ้น การสื่อสารโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ และอื่นๆ จะเข้ามาแทนที่ผู้ผลิตแบบดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกาในฐานะอุตสาหกรรมหลัก


 


สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เฝิงหยู่พุ่งเป้าไปที่ 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และโทรคมนาคม พวกนี้เป็นอุตสาหกรรมที่เขาต้องการเปิดตัวในประเทศจีน


 


สำหรับโทรคมนาคม คงไม่ต้องมีการอธิบายเพิ่มเติมใดๆ โทรศัพท์มือถือจะค่อยๆ เข้ามาแทนที่วิทยุติดตามตัว หลังจากปี 1999 จะมีการนำเทคโนโลยี SMS มาใช้และสามารถจัดการ SMS ได้มากกว่า 500 ครั้งต่อวินาที นี่คือเทคโนโลยีที่ฆ่าวิทยุติดตามตัวให้ตายสิ้นซากไปเลย


 


แผนการของเฝิงหยู่สำหรับไอว่าอิเล็กทรอนิกส์คือการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบรนด์ไอว่าและแบรนด์เฟิงหยู่ ก่อนปี 1997 จากนั้น พวกเขาจะปรับเปลี่ยนสายการผลิตของโรงงาน การผลิตวิทยุติดตามตัวจะถูกยกเลิกภายใน 3 ปีหลังจากที่มีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือในตลาด


 


การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้หลายคนที่ไอว่าอิเล็กทรอนิกส์งงมาก พวกเขารู้สึกว่าวิทยุติดตามตัวน่าจะยังคงอยู่ในตลาดได้อย่างน้อยอีก 10 ปี พวกเขาควรเพิ่มการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ ทำไมพวกเขาถึงถอนตัวออกจากตลาดวิทยุติดตามตัวเร็วขนาดนี้ด้วย?


 


เฝิงหยู่บอกพวกเขาว่าหลังจากโทรศัพท์มือถือมีบริการ SMS วิทยุติดตามตัวจะล้าสมัยทันที พนักงานที่ไอว่าอิเล็กทรอนิกส์ไม่เชื่อ เป็นเพราะว่าตอนนี้ระบบการส่งข้อความสามารถประมวลผลข้อความสั้นๆ ได้เพียง 1 ข้อความต่อวินาทีเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ช้ามาก SMS ในยุคนี้ไม่ได้สะดวกเหมือนวิทยุติดตามตัว


 


ไม่มีใครคิดว่าเทคโนโลยี SMS จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ในอนาคตจะสามารถประมวลผลข้อความ 16,000 ข้อความได้ภายในหนึ่งวินาที และ SMS เป็นคุณสมบัติที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ นั่นเป็นเพราะ SMS มีค่าใช้จ่ายต่ำสุด ซึ่งก็เหมือนกับวิทยุติดตามตัว


เฝิงหยู่บอกพนักงานของเขาที่ไอว่าอิเล็กทรอนิกส์ว่านี่เป็นคำสั่ง ไม่มีการพูดคุยหารือใดๆ ทั้งนั้น เฝิงหยู่เป็นผู้ถือหุ้นหลักและสามารถตัดสินใจโดยรวมได้ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย เขาสามารถยกเลิกการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นรายอื่นได้ด้วย


 


สำหรับอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เฝิงหยู่ จะปล่อยให้เลอโนโวเป็นคนจัดการ เลอโนโวเก่งในการควบคุมต้นทุนการผลิต ภาษีของจีนสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระดับสูงและ เลอโนโวจะเริ่มทำสงครามราคาในปีนี้ พวกเขาต้องการครองตลาดจีนทั้งหมด


 


ในอีกไม่ช้าก็จะกลายเป็นยุคคอมพิวเตอร์เนื่องจากระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 95 จะเปิดตัวเร็วๆ นี้


 


ระบบปฏิบัติการนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คอมพิวเตอร์ได้รับความนิยม เพราะทั้งง่าย สะดวก รวดเร็วและใช้งานง่าย ผู้ใช้งานเพียงแค่คลิกเมาส์เท่านั้นก็สามารถใช้งานได้แล้ว แม้แต่พวกคนแก่และเด็กก็สามารถใช้งานได้ ไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Internet Explorer ด้วย สิ่งนี้จะทำให้อินเตอร์เน็ตพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก


 


นี่เป็นโอกาสที่ดีที่ไม่ควรพลาด อาจจะเป็นไปไม่ได้ที่เลอโนโวจะกลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ระดับโลกในตอนนี้ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับพวกเขาในการควบคุมตลาดจีน


 


เลอโนโวได้ทำสัญญากับหลายบริษัทเพื่อจัดหาชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ของพวกเขา พวกเขายังจะผลิตส่วนประกอบหลักในประเทศจีนด้วย ปีนี้จะเป็นจุดสูงสุดสำหรับคอมพิวเตอร์ของจีน!


 


เฝิงหยู่อยากให้เลอโนโวคว้าโอกาสนี้เอาไว้และหลิวฉวนจื้อก็เห็นด้วย นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มทำสงครามราคา


 


เลอโนโวในชาตินี้ต่างจากชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เมื่อชาติที่แล้ว เขาต้องจดทะเบียนในฮ่องกงเพื่อระดมทุนสำหรับการพัฒนา แต่ในชาตินี้ เฝิงหยู่ลงทุนในเลอโนโวโดยตรง และห้ามไม่ให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์


 


เฝิงหยู่ต้องการให้เลอโนโวรออีกสองสามปี แม้ว่าเลอโนโวจะเข้าจดทะเบียนในตอนนี้ แต่พวกเขาต้องเลือกทำเลที่ดีที่สุดสำหรับการจดทะเบียน ตัวเลือกอันดับแรกในขณะนี้คือสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น NYSE หรือ Nasdaq ทั้งคู่จะดีกว่าฮ่องกงมาก


 


เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เลอโนโวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและถูกเพิกถอนหลังจากนั้นไม่กี่ปี เฝิงหยู่ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก การถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์นั้นจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน


 


เฝิงหยู่คัดค้านเสียงแข็งสำหรับเรื่องการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตอนนี้ของเลอโนโว เขาไม่ต้องการให้หุ้นของเขาถูกลดจำนวนลงตอนนี้ เว้นแต่ว่าเขาสามารถซื้อหุ้นภายในได้มากขึ้นและสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัทของเขาจะไม่ได้รับผลกระทบ เขาจะไม่มีวันยอมให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เด็ดขาด


 


สำหรับซอฟต์แวร์ เลอโนโวยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของพวกเขา เฝิงหยู่ได้ให้คำแนะนำกับหลิวฉวนจื้อ คิงซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์อันดับหนึ่งของจีนเมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ ได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว ในบริษัทนี้มีคนที่มีความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก


 


หากเลอโนโวสามารถเข้าซื้อกิจการของคิงซอฟท์ได้ พวกเขาก็จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในตลาดจีน พวกเขาจะมีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อยู่ในกำมือ


 


หลิวฉวนจื้อชอบพวกนักพัฒนาที่คิงซอฟท์ พวกเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในแวดวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เก่งที่สุดในประเทศจีน


 


บริษัท ซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดของจีนในยุคนี้คือไรซ์ซิ่ง แต่รัฐบาลเป็นเจ้าของและเฝิงหยู่ก็ไม่แนะนำให้เข้าซื้อกิจการที่นี่ หลิวฉวนจื้อต้องการควบรวมกิจการของไรซ์ซิ่งและคิงซอฟท์ แต่ถูกเฝิงหยู่ห้ามเอาไว้


 


ไรซ์ซิ่งเป็นบริษัทที่ดี แต่ถ้าควบรวมกับเลอโนโวแล้ว โครงสร้างการถือหุ้นของ เลอโนโวจะพังพินาศ ไรซ์ซึ่งมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่มีอำนาจมาก ซึ่งมีอิทธิพลมากพอที่จะครอบครองเลอโนโวได้


 


คิงซอฟท์เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า พวกเขาแข็งแกร่งในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยและไม่ได้มีการสนับสนุนจากเบื้องหลังที่มีอำนาจ ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเลอโนโวที่จะเข้าครอบครอง นอกจากนี้ คิงซอฟท์ยังมีความทันสมัยที่สุดในเรื่องของซอฟต์แวร์ภาษาจีน


 


ในยุคนี้ ยังไม่มีบริษัทใดในโลกที่สามารถตามไมโครซอฟท์ทันได้ในเรื่องของระบบปฏิบัติการ เฝิงหยู่ยังไม่ได้คาดหวังให้บริษัทของเขาพัฒนาระบบปฏิบัติการที่ดีกว่า Win95 ในขณะนี้


 


แต่สิ่งสำคัญคือการสร้าง Win95 เวอร์ชั่นภาษาจีน ไมโครซอฟท์ งไม่มีระบบปฏิบัติการในภาษาอื่นๆ ยกเว้นภาษาอังกฤษ


 


หากมีแค่ Win95 เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นเรื่องยากในการเปิดตัวในประเทศจีน เฝิงหยู่จำได้ว่าคินสตันเป็นผู้พัฒนาชุดภาษาจีนสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เมื่อชาติที่แล้วของเขา


 


แต่ต่อมาคิงซอฟท์ใช้โค้ดของระบบไมโครซอฟท์ และสร้างระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นแจกฟรีออกมา พวกเขาถูกไมโครซอฟท์ฟ้องร้อง และนักพัฒนาซอฟท์แวร์แนวหน้าหลายคนลาออกจากบริษัท หลังจากที่คิงซอฟท์ แพ้ คิงซอฟท์ก็เปลี่ยนทิศทางและผันตัวเองเข้าสู่วงการระบบโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเริ่มต้นจากเสียวหมี่และ เหลยจวิน อดีตเจ้าของคิงซอฟท์ก็กลับมาโดดเด่นอีกครั้งหนึ่ง!


 


เฝิงหยู่ตั้งใจที่จะเลียนแบบการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันของสหรัฐอเมริกาในประเทศจีน เขาต้องการให้บริษัทจีนเข้าครอบครองและซื้อกิจการของบริษัทสหรัฐอเมริกา


 


ตอนนี้เฝิงหยู่กำลังไปที่สหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจสอบธุรกิจที่นั่น


EG บทที่ 745 การพัฒนาบริษัทซิกส์เซนส์


 


Nasdaq เป็นตลาดหลักทรัพย์ในนิวยอร์ก แต่ดำเนินการแตกต่างจาก NYSE ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ Nasdaq ใช้การซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ในขณะที่ NYSE ยังต้องทำการซื้อขายผ่านนายหน้า


 


ในช่วงแรก Nasdaq เป็นแพลตฟอร์มสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนและสำหรับคนที่จะซื้อขายหุ้นของบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังเป็นตลาดหุ้นอิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกของโลกด้วย


 


Nasdaq เติบโตในอัตราที่น่าตกใจ ระบบการซื้อขายกันเองโดยตรงของที่นี่ไม่ต้องใช้นายหน้าและตัวแทนจำหน่าย บางคนถึงกับรู้สึกว่า Nasdaq ไม่ใช่ตลาดหุ้นจริงๆ แต่เป็นตลาดหุ้นเสมือนจริง!


 


แต่ Nasdaq จะกลายเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา ดัชนีคอมโพสิต Nasdaq ยังกลายเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์


 


ไมโครซอฟท์ และแอปเปิ้ลได้รับการจดทะเบียนใน Nasdaq


 


แน่นอนว่า การซื้อขายยังสามารถทำได้บนตลาด NYSE ผ่านทางโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต แต่ก็ยังไม่สะดวกเท่า Nasdaq


 


บริษัทซิกส์เซนส์จะเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq เป็นเพราะว่าข้อกำหนดในการจดทะเบียนในตลาดที่นี่มีน้อยมาก ซึ่งเงื่อนไขนั้นน้อยกว่าตลาด NYSE, ตลาดหุ้นโตเกียว ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และอื่นๆ


 


ข้อกำหนดสำหรับการจดทะเบียนในตลาด Nasdaq คือสินทรัพย์ที่มีตัวตนหรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ต้องมีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีกำไรก่อนหักภาษีมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้านี้ มีหุ้นคงเหลือมากกว่า 1.1 ล้านหุ้น มีผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายอย่างน้อยสามราย แต่ละหุ้นจะต้องมีมูลค่าอย่างน้อย 5 ดอลลาร์สหรัฐและมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 400 ราย


 


ตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ทั้งหมดต้องการรายงานทางการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและจะต้องมีผู้ถือหุ้นมากกว่า 2,000 ราย สินทรัพย์ที่มีตัวตนของบริษัทจะต้องมีมูลค่ามากกว่า 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น


 


เนื่องจากข้อกำหนดที่ต่ำกว่าของ Nasdaq จึงทำให้มีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก บริษัทส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและกลาง และบริษัทที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ บริษัทขนาดเล็กพวกนี้สามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว ตลาด Nasdaq ก็เป็นเหมือนตลาดหลักทรัพย์ Growth Enterprise Market


 


บริษัทซิกส์เซนส์มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทั้งในแง่สินทรัพย์และรายได้ แต่พวกเขายังมีผู้ถือหุ้นไม่มากพอเพราะพวกเขามีพนักงานประจำตลอดชีพแค่ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น


 


บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีสัญญาจ้างงานตลอดชีพสำหรับพนักงาน แต่สัญญาพวกนี้มีไว้สำหรับคนญี่ปุ่นเท่านั้น และบริษัทแทบจะไม่ค่อยออกสัญญานี้ให้กับแรงงานต่างชาติ นี่เป็นเรื่องธรรมดาในบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ตราบใดที่พนักงานไม่ได้ทำผิดร้ายแรงหรือก่ออาชญากรรมใดๆ พวกเขาสามารถทำงานที่บริษัท ได้ตลอดชีวิต


 


นอกจากนี้ พนักงานพวกนี้จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามอายุของพวกเขา บางบริษัท เช่น พานาโซนิคจะให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่เหมือนใคร ตัวอย่างเช่น พนักงานชายที่แต่งงานแล้ว บริษัทจะขอให้ภรรยาลาออกและอยู่บ้านเพื่อดูแลบ้าน ในขณะเดียวกันสามีจะได้รับการขึ้นเงินเดือนประมาณ 50% หรือมากกว่านั้น การเพิ่มเงินเดือนจะขึ้นอยู่กับเงินเดือนก่อนหน้านี้ของภรรยา ในญี่ปุ่นโดยทั่วไปค่าแรงของพนักงานหญิงอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพนักงานชายในตำแหน่งที่เทียบเท่ากัน


 


บริษัทญี่ปุ่นดูแลพนักงานเป็นอย่างดี บริษัทซิกส์เซนส์มีพนักงานมากกว่า 5,000 คน แต่มีเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นที่ได้รับสัญญาว่าจ้างตลอดชีพ เนื่องจากพนักงานที่เหลือมาจากประเทศอื่นๆ เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และส่วนอื่นๆ ของเอเชีย คาเมดะ มาซาโอะจะไม่ทำสัญญาว่าจ้างประเภทนี้กับพนักงานพวกนี้


 


หากมีอะไรเกิดขึ้นที่บริษัท และจำเป็นต้องมีการลดจำนวนพนักงาน คาเมดะ มาซาโอะก็สามารถปลดพนักงานธรรมดาพวกนั้นได้ บริษัทไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมในการปลดจำนวนพนักงานจำนวนมาก


 


คาเมดะ มาซาโอะ จะไม่บอกสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากเขาบอกกับสื่อไป ผู้สื่อข่าวจะถามเขาว่าทำไมพนักงานคนอื่นไม่สามารถทำสัญญาว่าจ้างตลอดชีพเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทได้บ้าง?


 


พนักงานคนอื่นๆ ก็ได้รับอนุญาตให้ซื้อหุ้นของบริษัท แต่ถูกจำกัดอยู่ที่พนักงานระดับกลางและระดับสูงเท่านั้น การปฏิบัติเช่นนี้ไม่เหมือนกับญี่ปุ่นที่แม้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการว่าจ้างตลอดชีพก็สามารถซื้อหุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์ได้


 


เฝิงหยู่พูดไม่ออกเมื่อเขารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนได้รับการว่าจ้างภายใต้บริษัทเดียวกัน คุณสามารถกำหนดปีการทำงานขั้นต่ำตามเกณฑ์ได้ แบบนี้จะมีคนยินดีซื้อหุ้นของบริษัทมากขึ้น


 


แต่คาเมดะ มาซาโอะอธิบายว่าพนักงานในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นพนักงานขาย ทุกคนรู้ว่ายอดขายมีอัตราหมุนเวียนสูงสุด เขาไม่สามารถออกสัญญาระยะยาวให้พวกเขาได้เพียงเพราะว่าผลการทำงานของพวกเขาดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา เว้นแต่ว่าพนักงานจะเป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ในบริษัท แต่ถ้าพนักงานเป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ในบริษัท เขาจะได้รับบทบาทในฝ่ายบริหารและอาจเข้าซื้อหุ้นของบริษัทได้ด้วย


 


เฝิงหยู่ไม่สามารถเถียงคาเมดะ มาซาโอะ ได้เนื่องจากคาเมดะ มาซาโอะมีความคุ้นเคยกับบริษัทมากกว่า ขนาดพูดถึงเรื่องการบริหารบริษัท คาเมดะ มาซาโอะก็ยังเก่งกว่าเฝิงหยู่มาก


 


เฝิงหยู่ไม่ได้ใช้สถานะของเขาในฐานะผู้ถือหุ้นหลักเพื่อกดดันคาเมดะ มาซาโอะ เขาปล่อยให้คาเมดะ มาซาโอะทำในสิ่งที่เขาอยากทำ อย่างไรก็ตาม บริษัท ซิกส์เซนส์ กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าที่เฝิงหยู่คาดคิดไว้มาก ตอนนี้บริษัทกลายเป็นผู้ผลิตของเล่นเซ็กส์ทอยที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ผลกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากตุ๊กตายาง ชุดชั้นใน เครื่องสั่น และถุงยางอนามัย


 


จากสินค้าทั้งสี่อย่างนี้ ตุ๊กตายางและชุดชั้นในได้ครองตลาดโลกแล้วในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดและยอดขาย


 


ยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าอีกสองอย่างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกเขากำลังใกล้จะเป็นผู้นำระดับโลกแล้ว


 


เนื่องจากวิดีโอโป๊สำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป คาเมดะ มาซาโอะเชื่อว่ายอดขายเครื่องสั่นจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน การออกแบบสินค้าดังกล่าวของญี่ปุ่นนั้นทันสมัยที่สุดในโลกแล้ว!


 


ถุงยางอนามัยเป็นสินค้าล่าสุดของบริษัทซิกส์เซนส์ แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้แย่ แต่ถุงยางอนามัยของพวกเขาก็ยังไม่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันแบรนด์โอกาโมโตยังคงเป็นถุงยางอนามัยอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น


 


คาเมดะ มาซาโอะวางแผนที่จะใช้เงินทุนที่ระดมได้จากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้เพื่อลงทุนในการวิจัยและพัฒนาถุงยางอนามัย เขาตั้งเป้าที่จะเอาชนะโอกาโมโตในญี่ปุ่นให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยเป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยอันดับต้นในเอเชีย และค่อยตามด้วยระดับโลก


 


เฝิงหยู่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเป้าหมายของคาเมดะ มาซาโอะ แต่ยังคงเป็นคำถามว่าเขาจะเอาชนะโอกาโมโตได้มั้ย แม้ว่าเขาจะเอาชนะโอกาโมโตได้ แต่ก็ยังมีผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่มากมายในโลก


 


แต่เฝิงหยู่เห็นด้วยว่าตลาดถุงยางอนามัยจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเป็นสิ่งจำเป็นที่บริษัทต้องเพิ่มขนาดและลงทุนในการวิจัยและพัฒนามากขึ้นหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์


 


หากไม่ใช่เพราะว่าเฝิงหยู่นำกำไรส่วนหนึ่งของบริษัทซิกส์เซนส์ไป พวกเขาคงจะต้องพึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้เพื่อระดมทุน


 


เฝิงหยู่และคาเมดะ มาซาโอะมั่นใจมากเกี่ยวกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าพวกเขาได้ติดต่อใช้บริการโบรกเกอร์ชั้นนำในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายด้วย!


EG บทที่ 746 รอดู  


 


แม้ว่าข้อกำหนดของ Nasdaq จะต้องการผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายเพียงแค่ 3 รายเท่านั้น แต่เฝิงหยู่ก็ไปหามามากกว่าที่กำหนดไว้


 


นี่เป็นเพราะยิ่งมีผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะมีการแข่งขันมากขึ้นเท่านั้น แบบนี้ช่องว่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาขายจะไม่ใหญ่มากเกินไปและค่านายหน้าจะลดลง ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน


 


นอกจากนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงด้วย หากมีผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายน้อยเกินไป พวกเขาอาจสมรู้ร่วมคิดกันและจงใจปรับราคาหุ้นขึ้น และเฝิงหยู่จะต้องจ่ายส่วนต่างหรือค่านายหน้าเพิ่มเติมให้พวกเขา หลังจากนั้นราคาหุ้นจะลดลง และ เฝิงหยู่ก็จะหมดหนทาง ซึ่งสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว


 


คราวนี้ เฝิงหยู่มีทั้งบาร์เคลย์ส, โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้แบงก์, มอร์เกน สแตนลีย์, เวลส์ฟาร์โก ฯลฯ ให้มาเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขาย สถาบันพวกนี้ทั้งหมดเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของอเมริกา แต่ละรายสามารถขายหุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์ได้ในราคาสูง


 


เฝิงหยู่ยังพบว่าซิตี้แบงก์มีความหวังสูงในการเข้าจดทะเบียนของบริษัทซิกส์เซนส์และทำให้เขามีความมั่นใจ นี่คือเหตุผลที่เขามั่นใจเมื่อเขาติดต่อบาร์เคลย์ส และโกลด์แมน แซคส์


 


มอร์เกน สแตนลีย์, เวลส์ฟาร์โก และอื่นๆ ก็เป็นสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน สถาบันการเงินอื่นๆ บางแห่งถึงขนาดเข้ามาติดต่อหาเฝิงหยู่เองเลย


 


ผู้ที่เข้าหาเฝิงหยู่นั้นไม่ใช่เพราะพวกเขามีความหวังสูงในบริษัทซิกส์เซนส์ หรือพวกเขาได้เห็นรายงานทางการเงินหรือข้อเสนอของบริษัท แต่เป็นเพราะพวกเขาได้ยินมาว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทซิกส์เซนส์ยังถือหุ้นมากกว่า 15% ในไมโครซอฟท์ด้วย!


 


ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ไม่ได้ขายหุ้นไมโครซอฟท์ที่เฝิงหยู่ถืออยู่แก่เขาโดยตรง แต่เขาซื้อจากตลาดเปิดในราคาที่สูงและเขาไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในบริษัท แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา


 


มูลค่าตลาดปัจจุบันไมโครซอฟท์มีมากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ของผู้ถือหุ้นของไมโครซอฟท์ที่ไม่มีใครรู้จักนั้นมีมากกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ!


 


ตัวแทนของสถาบันการเงินทุกคนอยากที่จะรู้จักนักธุรกิจที่ร่ำรวยมากคนนี้ เมื่อบริษัทซิกส์เซนส์กำลังมองหาผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขาย พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ในการเข้าหาเฝิงหยู่


 


สถาบันการเงินรู้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่รายนี้ไม่น่าจะมีบริษัทเพียงแค่บริษัทเดียว เขาต้องมีบริษัทอื่นอีกแน่นอน เมื่อบริษัทอื่นๆ ของเขาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และพวกเขาก็อาจได้เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายให้เขาได้ และอาจทำกำไรได้สูงมาก หากพวกเขาสามารถร่วมมือกับคนๆ นี้ในด้านอื่นๆ ได้ ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย


 


แต่ตัวแทนจากสถาบันการเงินพวกนี้ไม่สามารถเจรจากับเฝิงหยู่ได้ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้แสดงความจริงใจอย่างเพียงพอแล้วโดยการส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายผู้บริหารสูงสุดไป แต่เฝิงหยู่รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจที่มีอำนาจสูงสุดและไม่สนใจที่จะพูดคุยกับพวกเขา


 


หากสถาบันการเงินพวกนี้ต้องการพูดคุยกับเฝิงหยู่ ก็ควรส่งคนที่มีอำนาจตัดสินใจตัวจริงมา คนพวกนี้ทำงานให้สถาบันของพวกเขาเท่านั้น สถานะของพวกเขาในบริษัทของพวกเขาต่ำกว่าคาเมดะ มาซาโอะในบริษัทซิกส์เซนส์เสียอีก พวกเขาอาจตัดสินใจได้ในบางเรื่อง แต่ก็อาจถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อไหร่ก็ได้


 


เฝิงหยู่ต้องการที่จะคุยกับบิลเกตส์เสมอ เพราะถึงยังไงเฝิงหยู่ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามเช่นกัน


 


เฝิงหยู่และบิลเกตส์เคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่งในอดีต ตอนนั้นคือช่วงที่เฝิงหยู่เริ่มที่จะเข้าซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ เฝิงหยู่ ได้ซื้อหุ้นไมโครซอฟท์โดยไม่คำนึงถึงราคา ตราบใดที่มีคนอยากขายหุ้นไมโครซอฟท์ เขาก็จะซื้อโดยที่ไม่คิดเลย นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าราคาหุ้นของไมโครซอฟท์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


 


นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเฝิงหยู่จะจ่ายให้ค่าหุ้นพวกนั้นไปมากแค่ไหนก็ตาม หุ้นไมโครซอฟท์ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้การเติบโตจะเพิ่มเร็วขึ้นและไมโครซอฟท์จะแบ่งหุ้นของพวกเขา


 


นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากเปิดตัว Win95 แล้ว กำไรของไมโครซอฟท์ก็พุ่งสูงขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ผูกขาดอุตสาหกรรมระบบปฏิบัติการอันเนื่องมาจากแอปเปิ้ลและไอบีเอ็ม แต่ระบบปฏิบัติการของพวกเขานั้นใช้งานง่ายที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือไมโครซอฟท์ได้ทำสัญญากับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ลายราย คอมพิวเตอร์ทั้งหมดของพวกเขาจะถูกติดตั้งด้วยซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์!


 


เฝิงหยู่จะไม่ขายหุ้นไมโครซอฟท์ของเขาตอนนี้ ผลกำไรและสินทรัพย์สภาพคล่องของเขาทั้งหมดล้วนเอาไปลงทุนในไมโครซอฟท์ เมื่อราคาหุ้นของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น มูลค่าสุทธิของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน


 


เฝิงหยู่ไม่เคยกังวลว่าหุ้นของไมโครซอฟท์จะดิ่งตัวลง แม้ว่าราคาหุ้นจะลดลง แต่เป็นเพียงแค่ในระยะสั้นๆ เท่านั้น ราคาจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หากคุณพิจารณาราคาหุ้นของพวกเขาเป็นรายเดือน คุณจะพบว่าหุ้น ไมโครซอฟท์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


 


จะมีหุ้นไหนที่เติบโตได้เร็วกว่าไมโครซอฟท์? ใช่ มีอีกเยอะเลย ขนาดในฮ่องกงและจีน ก็มีหุ้นของบริษัท มากกว่าหนึ่งแห่งที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าไมโครซอฟท์ในระยะสั้น แต่หุ้นพวกนั้นเพิ่มขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และเฝิงหยู่ต้องคอยตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันเขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับไมโครซอฟท์เลย


 


นอกจากนี้ หุ้นไมโครซอฟท์เป็นเงินทุนของเฝิงหยู่ในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา เขาจะได้รับสถานะสูงด้วยหุ้นพวกนี้


 


แค่ดูจากเรื่องการหาผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายมาให้กับบริษัทซิกส์เซนส์ก็สามารถบอกได้แล้ว เฝิงหยู่เพียงแค่ปล่อยข่าวบางส่วนและตัวแทนจากสถาบันการเงินก็เชื่อเลยโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข่าว


 


แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับเฝิงหยู่นั้นจะเป็นข่าวปลอม สถาบันการเงินพวกนั้นก็ไม่มีอะไรจะเสีย ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขาย ก็ยังทำกำไรได้มาก หากข่าวเกี่ยวกับเฝิงหยู่เป็นเรื่องจริง พวกเขาก็จะได้รู้จักนักธุรกิจที่ร่ำรวยมากคนหนึ่ง พวกเขาสามารถหากำไรได้มากขึ้นจากเฝิงหยู่


……..


 


คาเมดะ มาซาโอะนั่งอยู่ข้างเฝิงหยู่ เขาประหม่ามาก “ผู้จัดการเฝิงครับ คุณคิดว่าหุ้นของเราจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่เมื่อตลาดเปิดครับ? มันจะพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 10% หรือเปล่าครับ?”


 


เฝิงหยู่เกลือกตามองคาเมดะ มาซาโอะ “10%? คุณดูถูกผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายพวกนั้นหรอ? หุ้นที่พวกเขาขายไม่เคยเติบโตน้อยกว่า 13% ในช่วงระหว่างการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกเลยนะ หุ้นของเราออกโดยสถาบันการเงินหลายแห่ง คุณน่าจะมีความหวังมากกว่านี้นะ”


 


ด้วยการพูดสนับสนุนของเฝิงหยู่ ทำให้คาเมดะ มาซาโอะจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “งั้น 15% หรอครับ?”


 


เฝิงหยู่ส่ายหน้าและคาเมดะ มาซาโอะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคาดหวังมากเกินไป แต่แค่ 13% ก็ดีพอแล้ว เฝิงหยู่พูดต่อ “15% จะไปพอได้ยังไง? ก่อนที่ตลาดจะเปิด ผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายจะต้องหารือกันเรื่องราคาหุ้นแรกเริ่ม ผมประเมินว่าราคาหุ้นของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% เมื่อตลาดเปิด!”


 


คาเมดะ มาซาโอะตกใจมาก “เท่าไหร่นะครับ? เพิ่มขึ้น 20% เมื่อตลาดเปิดเลยหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง? มีเพียงบริษัทเทคโนโลยีเท่านั้นที่จะได้รับการเพิ่มขึ้นสูงแบบนี้ในช่วงระหว่างการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก”


 


เฝิงหยู่ตบคาเมดะ มาซาโอะที่หลังเบาๆ “ผมมักจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้เสมอครับ คุณแค่รอดูก็พอ”


EG บทที่ 747 ตลาดเปิด


 


คาเมดะ มาซาโอะสวมสูทที่ดูภูมิฐาน เขาหวีผมเรียบแปล้แล้วยืนบนเวทีพูดคุยกับนักข่าว


 


นี่คืองานที่จัดขึ้นเมื่อใดก็ตามที่มีบริษัทจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ ตัวแทนของบริษัทจะประกาศแผนการในอนาคตของบริษัทและผลกำไรที่คาดการณ์เอาไว้เพื่อชักชวนให้ผู้คนให้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทมากขึ้น


 


คาเมดะ มาซาโอะพูดภาษาอังกฤษแบบไร้ที่ติ เฝิงหยู่ยืนอยู่ตรงมุมจิบแชมเปญของเขา คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกประทับใจเมื่อเฝิงหยู่บอกให้ไปขึ้นเวทีแทนเขา


 


คาเมดะ มาซาโอะเชื่อในเรื่องโชคลางมา เขาสวมเสื้อสีเขียวพร้อมด้วยเน็คไทสีเขียว และมีผ้าเช็ดหน้าสีเขียวในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา ผู้สื่อข่าวหลายคนก็สวมชุดสีเขียว ถึงขนาดมีนักข่าวคนหนึ่งสวมหมวกสีเขียวด้วย


 


เฝิงหยู่พูดไม่ออกกับการแต่งตัวแบบนี้ของเขา ทั้งตัวของเฝิงหยู่ไม่มีสีเขียวเลย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่อะไรที่เป็นสีแดง


 


ในตลาดสหรัฐอเมริกา สีเขียวหมายถึงราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และสีแดงหมายถึงการลดลง


 


เฝิงหยู่ไม่ได้คิดมาก่อนว่าคนที่นี่จะเชื่อเรื่องโชคลางเช่นกัน คาเมดะ มาซาโอะบอกกับเฝิงหยู่ว่าสีเขียวเป็นสีนำโชคของเขาและเฝิงหยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก


 


แต่เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เขาเคยเห็นตัวแทนจากบริษัทที่สวมใส่สีแดงจากหัวจรดเท้าก่อนที่บริษัทของเขาจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เฝิงหยู่ไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่เขารู้สึกเวียนหัวมากเมื่อเห็นคนพวกนั้น


 


เฝิงหยู่รู้สึกว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงนั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรายงานทางการเงินและแผนการพัฒนาในอนาคต แม้ว่าเจ้าของบริษัทจะสวมชุดสีนำโชคของเขา แต่ถ้าบริษัทไม่มีแผนการพัฒนาหรือการประกาศที่ดี หุ้นก็จะดิ่งลงทันทีหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์


 


และอาจถึงขนาดถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ได้!


 


คาเมดะ มาซาโอะ เป็นผู้พูดที่ดี เขาเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีสำหรับการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานครั้งนี้ เขายังเพิ่มมุกตลกสองสามเรื่องในระหว่างที่พูดด้วย


 


หลังจากที่คาเมดะ มาซาโอะพูดจบ เขาได้รับเชิญให้เป็นผู้เคาะสัญญาณเสียงระฆังเพื่อประกาศการเปิดตลาด


 


ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ตลาด NYSE เริ่มเชิญแขกรับเชิญพิเศษให้มาเป็นผู้เคาะสัญญาณเสียงระฆัง Nasdaq ก็เลียนแบบงานพิธีแบบนี้ด้วย เมื่อก่อนคนที่เคาะสัญญาณเสียงระฆังคือผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และไม่มีอะไรพิเศษ


 


แต่หลังจากแขกพิเศษบางคนมาเคาะสัญญาณเสียงระฆังให้ ก็จะมีการรายงานข่าวลงในหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นรูปแบบของการตลาดอย่างหนึ่ง นับจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าของหลายรายรู้สึกว่ามันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เคาะสัญญาณเสียงระฆัง


 


แขกพิเศษคือใครน่ะหรอ? พวกเขาก็คือตัวแทนของบริษัทที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันนั้น โดยปกติแล้วพวกเขาก็คือกรรมการหรือ CEO ของบริษัทนั่นเอง


 


แขกรับเชิญพิเศษของพิธีเปิดตลาด Nasdaq ที่จะมาเคาะสัญญาณเสียงระฆังในวันนี้คือคาเมดะ มาซาโอะ โดยปกติแล้วเฝิงหยู่ปฏิเสธที่จะทำตัวเป็นจุดเด่นหรือถูกรายงานในสื่ออยู่แล้ว


 


คาเมดะ มาซาโอะยืนอยู่ด้านหน้าระฆัง เขารู้สึกว่านี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ทุกคนที่เคยเคาะสัญญาณเสียงระฆังล้วนเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากทุกคน


 


เขาจะเคาะสัญญาณเสียงระฆังและคนอื่นๆ จะต้องอิจฉาเขา


 


แต๊ง!!!!


 


เสียงระฆังดังขึ้น เฝิงหยู่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน นี่เป็นบริษัทแห่งแรกของเขาในชีวิตนี้ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่สิ ถือเป็นบริษัทแห่งแรกของเขาที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองชาติของเขาเลย บริษัทนี้จะต้องไม่ทำให้เขาผิดหวัง


 


คาเมดะ มาซาโอะถือค้อนอยู่และรู้สึกงุนงงราวกับว่าเวลากำลังหยุดเดิน


 


เสียงปรบมือทำให้เขาดึงสติกลับมาได้ และมีคนมาหยิบค้อนออกไปจากมือของเขา คาเมดะ มาซาโอะสูดหายใจลึก  และรอราคาหุ้นเริ่มต้น


 


การเคาะสัญญาณเสียงระฆังเป็นเพียงประกาศเปิดตลาดเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีการทำธุรกรรมในทันที โดยปกติแล้วจะล่าช้าประมาณ 15 นาที


 


เมื่อมีบริษัทใหญ่บางบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ความล่าช้าก็จะนานขึ้น บางครั้งถึงขนาดล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงก็มี


 


ทำไมถึงเกิดความล่าช้าน่ะหรอ? ก็เป็นเพราะผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายที่กำหนดราคาหุ้น พวกเขาจะหารือและกำหนดราคาเปิด


 


หลายคนให้ความสนใจในบริษัทซิกส์เซนส์เพราะเป็นบริษัทของเล่นเซ็กส์ทอยรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเฝิงหยู่ก็ได้สถาบันการเงินชั้นนำมาเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายให้เขาเพื่อกำหนดมูลค่าของบริษัทนี้


 


แต่ไม่มีบริษัทใดที่เทียบได้กับบริษัทซิกส์เซนส์เลย พวกเขาเป็นบริษัทแรกในประเภทกิจการนี้ที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีมาตรฐานหรือบริษัทใดๆ เป็นข้อมูลอ้างอิงเลย


 


ผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายอาจใช้แค่ผลการดำเนินงานในอดีตของบริษัทและความสามารถในการสร้างรายได้ในอนาคตเป็นตัววัดเท่านั้น แน่นอนว่ามูลค่าของแบรนด์ก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณาด้วย


 


แต่ตลาดให้ความสนใจต่อบริษัทซิกส์เซนส์ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทุกคนตั้งความหวังไว้สูงสำหรับบริษัทนี้และนี่คือเหตุผลที่เฝิงหยู่มั่นใจว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้น 20%!


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกประหม่ามากและพูดคุยกับคนที่อยู่ข้างเขาตลอดเวลา เขาอยากเดินไปหาเฝิงหยู่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น แต่เมื่อเขามองไปที่เฝิงหยู่ เขาเห็นเฝิงหยู่ส่ายหน้า


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้ว่าเฝิงหยู่ไม่ชอบให้ตัวเองตกเป็นที่สนใจของคนอื่น เขาพยายามคุยกับผู้คนรอบข้างตัวเขา เพื่อระงับความกังวลใจของตัวเอง


 


แม้ว่าเฝิงหยู่จะนิ่งกว่าคาเมดะ มาซาโอะ แต่ราคาเปิดของหุ้นบริษัทของพวกเขาก็ยังไม่ประกาศออกมา


……


 


วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ติดต่อกับคนที่โกลด์แมน แซคส์ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่โกลด์แมน แซคส์ เขาบอกว่าเขาอยากซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทซิกส์เซนส์


 


วอร์เรน บัฟเฟตต์คือใคร? เขาคือเทพเจ้าแห่งการลงทุน! หากเขาต้องการซื้อหุ้นทั้งหมด นั่นหมายความว่าหุ้นของบริษัทนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน!


 


มีบริษัทหลายประเภทที่วอร์เรน บัฟเฟตต์จะไม่ลงทุนด้วย ประเภทแรกก็คือบริษัทที่มีผลกำไรสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนจะสงสัยว่าทำไม หากผลกำไรสูงมาก แสดงว่าเงินปันผลก็จะสูงมากด้วยเช่นกัน ทำไมเขาถึงหลีกเลี่ยงบริษัทพวกนี้? คำตอบที่ได้รับจากเขาก็คือผลกำไรสูงจะดึงดูดคู่แข่ง หากบริษัทยังไม่พร้อมสำหรับคู่แข่งรายใหม่ ส่วนแบ่งการตลาดของพวกเขาจะถูกแย่งชิงไปด้วย


 


รายงานทางการเงินของบริษัทพวกนี้ก็แค่ดูดีเมื่อพวกเขามีผลกำไรสูงเท่านั้น แต่ถ้ากำไรลดลง บริษัทนี้จะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลย


 


วอร์เรน บัฟเฟตต์จะหลีกเลี่ยงบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง บริษัทที่ผูกขาดตลาด และหุ้นเทคโนโลยี บริษัทที่เขาชื่นชอบคือบริษัทที่มีโอกาสในระยะยาว


 


ประเภทของหุ้นที่วอร์เรน บัฟเฟตต์จะหลีกเลี่ยงส่วนใหญ่คือหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากเขาไม่เข้าใจการพัฒนาของบริษัทพวกนี้และคู่แข่งของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้วิธีการประเมินบริษัท เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ IBM เป็นเพียงหุ้นเทคโนโลยีเพียงหุ้นเดียวที่เขาซื้อ


 


วันนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ต้องการซื้อบริษัทซิกส์เซนส์ และหลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไปโดยโกลด์แมน แซคส์ หลายคนมีความมั่นใจมากขึ้นกับบริษัทนี้ สิ่งนี้ยังทำให้ผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายไม่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับราคาเปิดได้เนื่องจากมีการเสนอราคาสำหรับหุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!


 


หลังจากผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ก็มีการประกาศราคาหุ้นเปิดของบริษัทซิกส์เซนส์……


EG บทที่ 748 ขาดทุน


 


14.86 ดอลลาร์สหรัฐ!


 


ราคาเปิดของหุ้นมีมูลค่าสูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ 48.6%!


 


คาเมดะ มาซาโอะรู้สึกดีใจมากและเฝิงหยู่ก็ประหลาดใจกับเรื่องนี้ ทั้งคู่ไม่คาดว่าราคาเปิดของหุ้นจะสูงขึ้นมาก!


 


แน่นอนว่า ในอีก 2 วันจะมีหุ้นของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้อีก ราคาหุ้นของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่าในวันที่พวกเขาจดทะเบียน ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการจัดการกับเว็บเบราว์เซอร์ ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีแผน“ทางด่วนข้อมูลสารสนเทศ” และราคาหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรวมถึงไมโครซอฟท์ด้วย


 


แผนทางด่วนข้อมูลสารสนเทศเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกผ่านระบบสื่อสารความเร็วสูง ส่วนใหญ่ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ สายไฟเบอร์ออปติก คอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์ และแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่


 


ตราบใดที่บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับ 4 ส่วนนี้ ราคาหุ้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากปี 1993 นี่คือช่วงเวลาที่บิล เกตส์กลายเป็นมหาเศรษฐี!


 


ในระยะสั้นนี้คือการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ ต่อมาคลินตันรู้สึกว่านี่เป็นแผนที่ดีและจะช่วยเพิ่มเศรษฐกิจและประสิทธิภาพการผลิตของสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญที่สุดคือสามารถเผยแพร่ “ประชาธิปไตย” ไปยังส่วนอื่นๆ ของโลก นี่คือการปิดกั้นผู้คนจากประเทศต่างๆ ไม่ให้มีความคิดของตัวเองและสร้างสหรัฐให้เป็นผู้นำของโลก!


 


คลินตันเลื่อนตำแหน่งคนที่เสนอแผนการนี้ให้เป็นรองประธานาธิบดีและข้อเสนอนี้ก็ถูกนำไปใช้ นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคแห่งข้อมูลข่าวสารและนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของบริษัทจำนวนมากในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง


 


นอกจากนี้ สิ่งนี้ยังทำให้เกิดวิกฤตฟองสบู่ดอทคอมในอนาคตด้วย


 


ในอีกสองปีข้างหน้า ราคาเปิดของหุ้นในบริษัทที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดจะมีราคาสูงกว่าอัตราที่ตั้งไว้มากเมื่อพวกเขาจดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าหุ้นของบริษัทพวกนี้ก็ดิ่งลงในช่วงวิกฤตดอทคอมเหมือนกัน


 


แต่บริษัทซิกส์เซนส์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต การสื่อสาร และเทคโนโลยี และราคาหุ้นของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้น 48.6% เมื่อตลาดเปิด เรื่องนี้น่าตกใจมาก!


 


เมื่อเดือนที่แล้ว มีบริษัทบางแห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  และราคาเปิดของหุ้นก็ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกับบริษัทพวกนั้น นักลงทุนมีความมั่นใจในบริษัทซิกส์เซนส์มากขึ้น


 


คาเมดะ มาซาโอะคิดแต่เพียงเงินที่บริษัทจะได้ ยิ่งมูลค่าทางการตลาดของบริษัทสูงขึ้นมากเท่าใด ตัวเขาและ บริษัทก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น


 


จากราคาเปิดนี้ ราคาหุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในเดือนนี้ และภายในสิ้นปีนี้อาจสูงขึ้นอีกหลายเท่า


 


คาเมดะ มาซาโอะ ยังถือหุ้นของบริษัทด้วย การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาหุ้นของบริษัททำให้มูลค่าสุทธิในสินทรัพย์ของเขาก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าด้วย เขากลายเป็นเศรษฐีอย่างเป็นทางการด้วยมูลค่าสุทธิกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขายังบริหารจัดการบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้าน ซึ่งเป็นบริษัทของเล่นเซ็กส์ทอยอันดับหนึ่งของโลก!


 


หลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ คาเมดะ มาซาโอะจะมีเงินทุนเพื่อจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ ร้านค้าปลีกและทำการตลาด


 


คาเมดะ มาซาโอะ จะกลายเป็นเจ้าสัวในวงการของเล่นเซ็กส์ทอยที่โด่งดังที่สุดของโลกในไม่ช้า ตอนนี้เขายังมีเงินทุนเพื่อลงทุนในนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ หนังผู้ใหญ่ และถึงขนาดจัดตั้งช่องสำหรับผู้ใหญ่เองได้ เขาต้องการที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเรื่องพวกนี้เพื่อเพิ่มผลกำไรให้บริษัท!


 


คาเมดะ มาซาโอะอยากเล่าและแบ่งปันความสุขของเขามาก และคนแรกที่เขานึกถึงก็คือเฝิงหยู่


 


ในขณะที่คาเมดะ มาซาโอะและพนักงานคนอื่นๆ ของบริษัทซิกส์เซนส์กำลังมีความสุขนั้น แต่เฝิงหยู่กลับขมวดคิ้ว


 


เฝิงหยู่รู้สึกปวดใจ นั่นเป็นเพราะเขาขาดทุน ขาดทุนครั้งใหญ่ด้วย!


 


ราคาเปิดของหุ้นนั้นสูงมาก และหุ้นก็ยังคงเพิ่มขึ้น ทำไมเฝิงหยู่ถึงรู้สึกว่าเขาขาดทุน?


 


ตอนนี้เฝิงหยู่รู้สึกเสียดาย เขาไม่ได้เตรียมการมามากพอสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ เขาไม่รู้ว่าบริษัทซิกส์เซนส์จะเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุน


 


หากเฝิงหยู่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาจะตั้งราคาหุ้นให้สูงกว่านี้ แม้ว่าเขาจะตั้งราคาหุ้นไว้ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐ ยังไงเขาก็ขายออกได้หมด


 


ทั้งเฝิงหยู่และคาเมดะ มาซาโอะ ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินบางคน และพวกเขาสรุปว่าราคาหุ้นควรกำหนดไว้ที่ 8 ถึง 9 ดอลลาร์สหรัฐ หากเฝิงหยู่ไม่ได้ยืนกรานตามนั้น ราคาหุ้นที่ตั้งไว้จะน้อยกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐแน่นอน


 


แต่เฝิงหยู่ไม่เคยคิดว่าราคาเปิดของหุ้นจะสูงมากแบบนี้!


 


แม้ว่าพวกเขาจะขายหุ้นที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เฝิงหยู่ก็จะไม่ออกหุ้นจำนวนมากเช่นกัน เขาน่าจะออกหุ้น 25% ทำไมเขาถึงออก 30%?


 


แม้ว่าบริษัทซิกส์เซนส์จะใช้เงินกู้จำนวนมากเพื่อจัดตั้งบริษัทสาขาและโรงงานในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่หนี้สินของบริษัทก็ไม่ได้มีผลอะไร


 


ถึงแม้จะมีหนี้สินสูง แต่บริษัทซิกส์เซนส์ก็ยังสามารถแบ่งหุ้นและขายต่อสาธารณชนได้สองครั้ง หลังจากการขายหุ้นครั้งแรก พวกเขาจะรู้ราคาและจากนั้นก็จะออกหุ้นที่เหลือในอัตราที่สูงขึ้น พวกเขาจะสามารถระดมทุนได้มากขึ้นด้วยวิธีนี้


 


หลายบริษัทเคยทำแบบนี้มาก่อน พวกเขาไม่ได้ออกหุ้นจำนวนมากในช่วงการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน พวกเขารอจนกระทั่งราคาหุ้นสูงขึ้นและค่อยออกหุ้นเพิ่มให้กับประชาชนเป็นครั้งที่สองและสาม พวกเขาใช้ข้ออ้างว่าต้องการเงินทุนเพิ่ม ทุกครั้งที่พวกเขาออกหุ้น ผู้ถือหุ้นหลักจะได้รับสิทธิ์ในการซื้อหุ้นในอัตราที่ต่ำกว่า ซึ่งเทียบเท่ากับการให้โบนัสแก่พวกเขา


 


วิธีการออกหุ้นแบบนี้จะเป็นการสะสมเงินทุนมากกว่าการออกหุ้นทั้งหมดภายในครั้งเดียว แต่ตอนนี้นักลงทุนเอาส่วนต่างนี้ไปแล้ว นี่คือเหตุผลที่เฝิงหยู่รู้สึกว่าเขาขาดทุน


 


เมื่อชาติที่แล้วของเขา เฝิงหยู่ไม่ได้ตามดูบริษัทใดที่ใช้กลยุทธ์แบบนี้และเคยทำผิดพลาดมาแล้ว


 


สำหรับหลาย คน สิ่งที่เฝิงหยู่ทำอาจไม่ถือว่าผิดพลาด แต่สำหรับเฝิงหยู่นี่เป็นความผิดพลาดร้ายแรงเพราะเขาปล่อยให้คนอื่นทำเงินได้มากกว่าจากเขา!


 


“ผู้จัดการเฝิงครับ หุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์ของเรากำลังเพิ่มขึ้นและราคาเปิดของหุ้นเราก็สูงกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้มาก ทำไมคุณถึงดูไม่มีความสุขล่ะครับ?” คาเมดะ มาซาโอะ งงมาก ทุกคนจากบริษัทตื่นเต้นกันหมด แต่เฝิงหยู่กลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มีเรื่องอะไรผิดพลาดงั้นหรอ?


 


ค่าคอมมิชชั่นที่ให้แก่ผู้ดูแลสภาพคล่องอยู่ในระดับต่ำมาก และผู้ดูแลสภาพคล่องยังสามารถขายหุ้นทั้งหมดได้ด้วย หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว บริษัทซิกส์เซนส์ก็ยังทำเงินได้ค่อนข้างมาก


 


ไม่ว่า คาเมดะ มาซาโอะ จะพิจารณายังไง การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ บริษัทจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นและพวกเขาจะสามารถเจรจาต่อรองธุรกิจได้อย่างง่ายดายหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แล้วทำไมผู้จัดการเฟิงยังคงหน้าบึ้งอยู่?


 


เฝิงหยู่กำลังพูดพึมพำกับตัวเองและคำนวณการขาดทุนของเขา เมื่อคาเมดะ มาซาโอะถามเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ถ้าตอนนี้เราออกหุ้นน้อยลงและตั้งราคาสูงขึ้นล่ะ เราจะได้เงินอีกเท่าไหร่?”


 


เฝิงหยู่รู้สึกไม่พอใจ และเขาไม่อยากเห็นคนอื่นรู้สึกดีกว่าเขา!


 


หลังจากได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด คาเมดะ มาซาโอะก็ไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป พวกเขาขาดทุนอย่างมากจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้……


EG บทที่ 749 ความทะเยอทะยาน


 


บริษัทซิกส์เซนส์กลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับการพูดถึงในเมืองหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในที่สุด บริษัทนี้เป็นผู้ผลิตของเล่นเซ็กส์ทอยทรายแรกของโลกที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สื่อจำนวนมากรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และนี่คือโปรโมทแบบไม่ต้องเสียเงินสำหรับบริษัท เมื่อราคาหุ้นของบริษัทซิกส์เซนส์เพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน


 


อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทซิกส์เซนส์นั้นสูงมาก เป็นเพราะว่าเงินกู้ยืมจากธนาคาร เฝิงหยู่สนับสนุนคาเมดะ มาซาโอะเมื่อเขาขอเงินกู้จากธนาคาร


 


เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังอยู่ในภาวะถดถอย และในปีนี้ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์และเคมีของญี่ปุ่นจะประสบปัญหา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิมอีก ส่งผลให้การเติบโตติดลบ


 


โทมิอิชิ มูรายามะตัดสินใจเด็ดขาด เขาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่างๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่มีประเทศไหนทำอย่างที่ญี่ปุ่นทำในปีนี้


 


อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของญี่ปุ่นลดลงเหลือ 0.08% และคนก้เล่นมุกกันว่พวกเขาต้องยอมจ่ายเงินเพื่อนำเงินเข้าธนาคาร เมื่ออัตราการออมลดลง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะลดลงเช่นกัน


 


ดังนั้นจึงเป็นที่น่าเสียดายหากคาเมดะ มาซาโอะไม่ได้กู้เงินจากธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เขาใช้ประโยชน์จากเส้นสายของเขาและกู้เงิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอัตราแลกเปลี่ยนในยุคนี้ ก็เท่ากับ 3.6 พันล้านเยน!


 


อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐและเยนคือ 1:80 คาเมดะ มาซาโอะสามารถแลกเปลี่ยนเงินเยนที่เขามีอยู่ให้กลายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมากขึ้นได้ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือแลกเปลี่ยนเงินเยนให้เป็นดอลลาร์สหรัฐ และเขาจะสามารถทำกำไรได้ นอกจากนี้ เฝิงหยู่ก็ถูกยั่วยวนด้วยผลกำไรที่ได้มาง่ายๆ แบบนี้เช่นกัน เขาโทรหาเฮะทาโร นาคาจิมะเพื่อให้ไปขอเงินกู้เป็นดอลลาร์สหรัฐ และการชำระคืนจะเป็นเงินเยนแทน เขาบอกให้เฮะทาโรกู้เงินมาให้ได้มากที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะใช้เงินเพื่อลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขาก็จะทำกำไรได้มากเช่นกัน


 


นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกาด้วยเงินสดสำรองทั้งหมดของเขา เงินส่วนใหญ่ของเขาอยู่ในไมโครซอฟท์ และแม้ว่าเขาต้องการใช้เงิน เขาก็จะไม่ขายหุ้นไมโครซอฟท์ จะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทของเขาหากเรื่องนี้เกิดขึ้น?


 


ด้วยเงินกู้ของธนาคารที่มีดอกเบี้ยต่ำ ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข! ไอว่าไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเฝิงหยู่เป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม หากเขาต้องการใช้เงิน เขาสามารถโอนเงินจำนวนนี้ออกจากเงินกู้ได้ เฝิงหยู่ได้ใช้เงินส่วนใหญ่ของไอว่าไปกับการลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงหุ้น ไมโครซอฟท์ด้วย


 


นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากได้กู้ยืมเงินจากธนาคารญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ แรงจูงใจของพวกเขาก็เหมือนกับเฝิงหยู่  พวกเขาใช้เงินกู้เพื่อลงทุนในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดสหรัฐอเมริกาด้วย


 


หลายคนรวมถึงเฝิงหยู่รู้สึกว่าตลาดสหรัฐอเมริกาจะอยู่ในช่วงขาขึ้นในปีนี้ เฝิงหยู่ได้วิเคราะห์แผนภูมิและกราฟทุกประเภท ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเมื่อชาติที่แล้วของเขา ยกเว้นความแตกต่างเพียงเล็กน้อย


 


ด้วยเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นจากประมาณ 3,800 ต้นในช่วงต้นปีนี้เป็นมากกว่า 4,000 ในตอนนี้ แม้ว่าหลังจากที่ดัชนีทะลุ 4,000 จุดไปแล้ว แต่ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ


 


เฝิงหยู่คาดการณ์ว่าดัชนีดาวโจนส์จะสูงกว่า 5,000 ในช่วงปลายปี ซึ่งจะเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วของเขา ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาจะกลายเป็นตลาดขาขึ้นและก่อให้เกิดฟองสบู่เศรษฐกิจ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์อธิบายถึงช่วงเวลานี้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความคาดหวังที่สูงเกินไปอย่างไร้เหตุผล!


 


สิ่งที่เฝิงหยู่ต้องการคือการทำกำไรให้ได้จำนวนมากและออกจากตลาดก่อนที่ฟองสบู่จะแตก!


 


ประธานาธิบดีคลินตันจงใจสร้างช่วงเวลานี้ขึ้น ยิ่งเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดีขึ้นมากเท่าไหร่ โอกาสของเขาที่จะได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่งก็มากขึ้นเท่านั้น


 


แน่นอนว่าในปีสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคลินตัน ฟองสบู่ดอทคอมก็แตก แต่วาระของเขาจบลงแล้ว และออกจากตำแหน่งอย่างประสบความสำเร็จพร้อมกับชื่อเสียงและความมั่งคั่ง


……


 


หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว คาเมดะ มาซาโอะ เดินทางไปยุโรป บริษัทซิกส์เซนส์กำลังสร้างโรงงานแห่งใหม่และร้านค้าขายปลีกจำนวนมากในยุโรป เขาต้องการดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองและแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ความผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้หุ้นของบริษัทลดลง


 


บริษัทอื่นๆ ยังสามารถกดขี่และเอาเปรียบบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ หากบริษัทใดในภาคธุรกิจหนึ่งประกาศว่ามีกำไรสูง หุ้นของบริษัทอื่นทั้งหมดในอุตสาหกรรมนั้นก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่บริษัทซิกส์เซนส์ ไม่ได้รับผลประโยชน์เช่นนี้เพราะว่าไม่มีบริษัทที่คล้ายคลึงกันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์!


 


บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่อาจกลายเป็นดัชนีอุตสาหกรรมได้ โดยเฉพาะดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงจากหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก 100 บริษัท นอกจากนี้ S&P ยังเป็นดัชนีวัดประสิทธิภาพของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งด้วย


 


ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะใช้ในดัชนีพวกนี้ คาเมดะ มาซาโอะ รู้สึกว่าบริษัทซิกส์เซนส์ ควรเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้ ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต!


 


เฝิงหยู่ยังสนับสนุนเรื่องนี้ ในอนาคตดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต จะครอบคลุมมากกว่า 5,000 บริษัท ทำไม บริษัทซิกส์เซนส์จะเป็นหนึ่งในนั้นไม่ได้ล่ะ?


 


แม้ว่าบริษัทซิกส์เซนส์ จะไม่ได้อยู่ในภาคธุรกิจเทคโนโลยี การเงินหรือเทคโนโลยีชีวภาพ แต่ก็ควรได้รับการพิจารณาภายใต้ภาคธุรกิจการผลิต


 


ใครบอกว่าการผลิตตุ๊กตายาง ถุงยางอนามัย ซิลิโคนและผลิตภัณฑ์ยางไม่ใช่ภาคธุรกิจการผลิต?


 


แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้อยู่ในหมวดการผลิต แต่ก็ยังสามารถเข้าสู่ดัชนีได้ หลังจากที่บริษัทซิกส์เซนส์ จดทะเบียนแล้ว จะมีบริษัทอีกมากมายในอุตสาหกรรมเดียวกันที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  บริษัทซิกส์เซนส์ เป็นบริษัทของเล่นเซ็กส์ทอยรายแรกและใหญ่ที่สุดที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แล้วทำไมจะเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้ล่ะ?


 


บางทีอาจจะไม่มีนักลงทุนคิดว่าผู้ผลิตของเล่นเซ็กส์ทอยจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ในอนาคตได้


แม้แต่เฝิงหยู่ก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน


 


จนกระทั่งเมื่อคาเมดะ มาซาโอะแนะนำเรื่องนี้กับเฝิงหยู่ แล้วเขาก็เริ่มตั้งตารอคอยเรื่องนี้


 


เฝิงหยู่รู้ว่าคาเมดะ มาซาโอะมีความทะเยอทะยานสูงมากมานานแล้ว มีคนเคยพูดว่าคนที่ไม่ทะเยอทะยานจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องที่สำคัญ คนที่มีชื่อเสียงทุกคนที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มีความทะเยอทะยานกันทุกคน


 


ความทะเยอทะยานมีอยู่ในการเมืองหรือธุรกิจ คนที่อยู่ในวงการการเมืองจะต้องอยากเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของประเทศ และผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจจะอยากประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง ไม่มีคนไหนที่ไม่มีความทะเยอทะยานแล้วจะประสบความสำเร็จ


 


เฝิงหยู่รู้สึกดีใจที่คาเมดะ มาซาโอะมีความทะเยอทะยานสูงมาก นั่นเป็นเพราะเขาจะทำงานหนักเพื่อบรรลุความใฝ่ฝันของเขาและทำให้บริษัทซิกส์เซนส์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เขาจะทำเงินให้เฝิงหยู่ได้อย่างต่อเนื่องด้วย!


 


ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทซิกส์เซนส์ยังคงเป็ เฝิงหยู่หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากการออกหุ้น 30% ของบริษัทแล้ว หุ้นของเฝิงหยู่ก็ยังคงมากกว่า 51% เขายังคงมีสิทธิ์ในการออกเสียงมากกว่า 2 ใน 3


 


นั่นเป็นสาเหตุที่เฝิงหยู่ไม่กลัวว่าคาเมดะ มาซาโอะ จะเข้าครอบครองบริษัทของเขา ตราบใดที่เขายังคงสามารถควบคุมบริษัทซิกส์เซนส์ได้อยู่ เขาก็จะสามารถควบคุมคาเมดะ มาซาโอะได้!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม