Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น 722-728

 EG บทที่ 722 ควบรวมกิจการ


 


จางรุ่ยเฉียงนึกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนที่ตัดสินใจได้เด็ดเดี่ยวกว่าเลขาซวี่ แต่เป็นเพราะประชากรของเมืองปิงมีเพียงแค่ประมาณ 26% ของทั้งจังหวัดหลงเจียงเท่านั้น แต่รายได้ภาษีมากกว่า 43% ของทั้งจังหวัด!


 


ซึ่งหมายความว่าเมืองต่างๆ ที่เหลือในจังหวัดไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกับสิ่งที่เมืองปิงทำได้ นอกจากนี้ เมืองปิงยังเป็นเมืองแม่แบบตามแผนที่กำหนดไว้และมีความเป็นอิสระมากกว่าเมืองอื่นๆ พวกเขาสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้มากมายโดยที่ไม่ถูกแทรกแซงจากรัฐบาลระดับจังหวัดหรือไม่ต้องปรึกษาผู้นำระดับสูง


 


เฝิงหยู่บอกว่าให้บริษัทเพิ่มเงินเดือนของพนักงานเพื่อลดการต่อต้านนโยบายการประกันสังคม วิธีนี้จะทำให้สามารถใช้นโยบายนี้ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมืองปิงก็สามารถใช้วิธีนี้ได้


 


เมืองปิงยังสามารถใช้ทั้งวิธีการประกันภัยของบริษัทและการประกันสังคมร่วมกันได้ด้วย ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมของเมืองปิ ก็เติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ พวกเขาล้ำหน้ากว่าเมืองอื่นๆ ที่เหลือในประเทศจีน


 


บริษัทเครื่องจักรของเมืองปิง บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง โรงงานการบินเมืองปิง และแม้แต่โรงงานทอผ้าก็ยังบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม


 


เมืองปิงกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและรัฐบาลท้องถิ่นมีเงินทุนมากเกินพอ


 


แต่เลขาซวี่ไม่สามารถตัดสินใจได้ มีหลายภูมิภาคในจังหวัดหลงเจียงที่ยังคงยากจนอยู่ หลายบริษัทยังคงมีผลประกอบที่ไม่ดีและกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด


 


ภาษีที่เก็บได้จากบริษัทที่ดิ้นรนพวกนี้ก็มีจำนวนน้อยมาก หากเลขาซวี่ปฏิบัติตามวิธีการของเฝิงหยู่เพื่อปลอบใจคนงานและแนะนำนโยบายประกันสังคมนี้ จะต้องเกิดปัญหามากขึ้นแน่นอน ภาษีที่จ่ายโดยบริษัท พวกนั้นจะต่ำกว่ามากกว่าเดิมอีก แล้วรัฐบาลระดับจังหวัดจะไม่มีเงินทุนเพียงพอสำหรับโครงการอื่นๆ เลย


การใช้นโยบายหนึ่งโดยใช้ค่าใช้จ่ายของโครงการอื่นงั้นหรอ? แบบนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จได้ด้วยหรอ?


 


ทางออกที่ดีที่สุดคือการเพิ่มเศรษฐกิจของทั้งจังหวัดโดยรวม หากทุกคนสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่านี้ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เรื่องนี้พูดง่ายกว่าทำ


 


เมื่อทั้งจางรุ่ยเฉียงและเลขาซวี่กำลังครุ่นคิดอย่างละเอียด เฝิงหยู่ก็นั่งจิบชาอย่างสบายใจ เขาพูดมากเกินไปจนหิวน้ำ


 


จางรุ่ยเฉียงบอกได้เลยว่าเลขาซวี่มีปัญหาแน่ๆ ถ้าเขาทำตามคำแนะนำของเฝิงหยู่ เขาอยากจะปลอบเลขาซวี่ เมื่อเขาเห็นเฝิงหยู่กำลังดื่มน้ำชาอย่างมีความสุข เขาจำได้ว่าเฝิงหยู่เคยพูดเรื่องนี้แล้วและเขาน่าจะมีทางแก้ปัญหาให้เลขาซวี่ได้แล้วใช่มั้ย?


 


คุณมีทางออก แต่ไม่ต้องการบอกเรางั้นหรอ? คุณอยากเห็นเราเดือดร้อนจริงๆ หรอ?


 


จางรุ่ยเฉียงกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ เขากำลังบอกใบ้ให้เฝิงหยู่รีบบอกทางแก้ปัญหาให้พวกเขาโดยเร็ว


 


“เฝิงหยู่ ในเมื่อคุณพูดถึงเรื่องนี้แล้ว แสดงว่าคุณน่าจะมีทางออกใช่ไหม?”


 


“ใช่ ก็แค่เพิ่มรายได้ของบริษัทพวกนั้นและพวกเขาก็จะสามารถเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานของพวกเขาได้”


 


ให้ตายสิ เลิกพูดตรงไปตรงมาแบบนี้ได้แล้ว สิ่งที่ผมอยากรู้คือคุณจะเพิ่มรายได้ของบริษัทพวกนั้นได้ยังไง!


 


เฝิงหยู่เห็นสีหน้าโมโหของจางรุ่ยเฉียง และพูดช้าๆ “มีทางออกที่ง่ายๆ อยู่วิธีหนึ่งครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเลขาซวี่จะไหวหรือเปล่า วิธีนี้จะทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจ โดยเฉพาะเมืองอื่นๆ”


 


เลขาซวี่ขมวดคิ้วและมองหน้าเฝิงหยู่ “ผมไม่กลัวที่จะทำให้คนอื่นไม่พอใจ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หมด ตราบใดที่ทางออกนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้คน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว แต่คุณหมายความว่ายังไงที่เมืองอื่นๆ จะไม่พอใจ?”


 


เมืองอื่นน่าจะมีความสุขหากรายได้ของบริษัทพวกนั้นเพิ่มขึ้น พวกเขาจะได้รับภาษีเพิ่มมากขึ้นจากบริษัท พวกนั้นและจะสามารถใช้ภาษีพวกนั้นสำหรับโครงการต่างๆ เพิ่มเติมได้ นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเมืองของพวกเขา แล้วทำไมพวกเขาต้องไม่พอใจด้วยล่ะ?


 


เฝิงหยู่ไม่ได้ตอบเลขาซวี่ตรงๆ เขาถามเลขาซวี่กลับว่า “เลขาซวี่ครับ คุณคิดยังไงกับสินค้าของบริษัทผม? ทำไมสินค้าผมทำกำไรได้สูงและผู้บริโภคก็ยังคงชอบอยู่?”


 


เลขาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เป็นเพราะคุณภาพของสินค้าคุณหรือไม่ก็การออกแบบของคุณหรือเปล่า? หรืออาจจะเป็นเพราะโฆษณา?”


 


“สิ่งที่คุณพูดถึงล้วนเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เครื่องทำความชื้นและพัดลมไร้ใบพัดของเรา การออกแบบภายนอกนั้นไม่ถือว่าใหม่และแบรนด์อื่นๆ ก็เริ่มพัฒนาตามทันคุณภาพสินค้าของเราแล้ว สินค้าของเรายังคงขายดีหลังจากเราลดความถี่ในการโฆษณาของเราลง ราคาขายของเรานั้นก็ยังสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ทำไมล่ะครับ?” เฝิงหยู่ถามต่อ


 


จางรุ่ยเฉียงโพล่งคำพูดออกมา “การสร้างแบรนด์!”


 


เฝิงหยู่แสดงสีหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของจางรุ่ยเฉียง “ถูกต้องแล้วครับ มันคือผลจากการสร้างแบรนด์! ผมจะอธิบายให้ฟังว่าผลของการสร้างแบรนด์คืออะไร สิ่งนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดจากมูลค่าของบริษัท ซึ่งก็คือแบรนด์จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้านั่นเอง”


 


เมื่อเห็นเลขาซวี่ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด เฝิงหยู่คิดอยู่พักหนึ่งและลองยกตัวอย่าง “ถ้ามีสินค้าอย่างนึงและผมพิมพ์ฉลากว่าเป็นสินค้านำเข้า คนจำนวนมากยินดีที่จะซื้อสินค้านี้แม้ว่าผมจะเพิ่มราคาอีก 10%, 20% หรือมากกว่านั้นก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าความประทับใจของผู้คนต่อสินค้านำเข้านั้นดีกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ นอกจากนี้ ในประเทศจีนมีโรงงานจำนวนมากที่ผลิตเครื่องจักรการเกษตรนอกเหนือจากบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง แต่สำหรับรถแทรคเตอร์แบบเดียวกัน ทำไมบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงยังสามารถตั้งราคาให้สูงกว่าบริษัทอื่นได้ และยังสามารถทำยอดขายได้ดีกว่าพวกเขาด้วย? ทั้งๆ ที่ถ้าคุณเปรียบเทียบรถแทรกเตอร์ทั้งสองคัน คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก”


 


“นี่คือผลจากการสร้างแบรนด์ ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ของเรา พวกเขารู้ว่าเราเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศจีน พวกเขายังรู้เรื่องบริการหลังการขายของเราด้วย ถ้าคุณดูจากร้านอาหารเป็ดย่าง ทำไมฉวนจวี้เต๋อถึงมีราคาแพงกว่าร้านอาหารเป็ดย่างเปี้ยนอี้ฝัง? เปี้ยนอี้ฝังมีประวัติยาวนานกว่าฉวนจวี้เต๋อ แต่เนื่องจากเป็ดย่างของฉวนจวี้เต๋อเคยเป็นเมนูที่อยู่ในงานเลี้ยงระดับประเทศ หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปี้ยนอี้ฝังเริ่มขายเป็ดย่าง ขนาดตอนที่ลูกค้าเห็นเป็ดย่างในเมนูของเปี้ยนอี้ฝัง พวกเขาก็จะไม่สั่งเมนูนี้ แต่เมื่อลูกค้าก้าวเท้าเข้าสู่ร้านฉวนจวี้เต๋อ พวกเขาจะสั่งเป็ดย่างอย่างแน่นอน พูดง่ายๆ ตามภาษาการบัญชีก็คือ การสร้างแบรนด์ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัทที่ไม่สามารถจับต้องได้”


 


โชคดีที่เฝิงหยู่เคยเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน มิเช่นนั้น คงเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้เลขาซวี่เข้าใจ เฝิงหยู่ยกตัวอย่างและใช้ศัพท์เฉพาะทางเศรษฐกิจบางอย่างซึ่งทำให้เลขาซวี่รู้สึกงง ด้วยวัยของเลขาซวี่ตอนนี้ เขาไม่เคยเรียนรู้เรื่อพวกนี้ในโรงเรียนมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจคำศัพท์ที่เฝิงหยู่ใช้ แต่เขาก็เข้าใจตัวอย่างที่ถูกยกขึ้นมา


 


เลขาซวี่ถอนหายใจในใจ เฝิงหยู่สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่ด้วยโชคเลย เขามีความรู้จริงๆ เลขาซวี่ ไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน มีนักเศรษฐศาสตร์ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาและที่ปรึกษาของเขาและพวกเขาก็รู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ พวกเขาสามารถให้คำอธิบายในเชิงลึกได้มากขึ้น


 


แต่พวกเขารู้ว่าเลขาซวี่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ทั้งหมด เขาเลยไม่พูดถึงข้อมูลความรู้นี้ นี่คือเหตุผลที่เลขาซวี่ประทับใจในสิ่งที่เฝิงหยู่พูด


 


“คุณกำลังจะบอกว่าเราควรขอให้บริษัทพวกนั้นสร้างแบรนด์ของตัวเองงั้นหรอ? พวกเขาควรเริ่มต้นยังไงดี? เริ่มจากโฆษณาหรอ?” เลขาซวี่ถาม


 


“สร้างแบรนด์ของพวกเขาหรอครับ? มันลำบากเกินไปและมีเวลาไม่มากพอ เรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วทำไมเราไม่ใช้มันล่ะครับ?”


 


“เรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วหรอ? คุณหมายความว่าไง?”


 


เฝิงหยู่หัวเราะและพูดคำที่ทั้งเลขาซวี่และจางรุ่ยเฉียงคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ควบรวมกิจการยังไงล่ะครับ!”


EG บทที่ 723 ตัดสินใจ


 


จางรุ่ยเฉียงและเลขาซวี่มองหน้ากัน ควบรวมกิจการหรอ? ควบรวมกิจการคืออะไร?


 


จางรุ่ยเฉียงพูดไม่ออกในขณะที่เขามองหน้าเฝิงหยู่ เจ้าเด็กบ้านี่หยุดพูดกลางคันอีกแล้ว ทำไมเขาถึงไม่พูดให้มันจบๆ ทีเดียว?


 


“คุณน่าจะคิดถึงวิธีการควบรวมกิจการไว้แล้ว ไหนบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้สิ”


 


เฝิงหยู่หยิบถ้วยน้ำชาของเขาแล้ววางลงบนโต๊ะ เขาดื่มชาจนหมดแล้ว จางรุ่ยเฉียงกลัวว่าเฝิงหยู่จะเรียกเลขาของเลขาซวี่เข้ามาเทน้ำชาให้เขา เขาเลยรีบผลักถ้วยน้ำชาของเขาไปหาเฝิงหยู่ทันที “ผมยังไม่ได้ดื่มชาถ้วยนี้เลย”


 


เฝิงหยู่หยิบขึ้นมาและดื่มชาจนหมดถ้วย หลังจากนั้น เขาก็มองถ้วยของเลขาซวี่


 


นี่คือห้องทำงานของเลขาซวี่และเขาใช้ถ้วยชาส่วนตัวของเขา เขาจะมอบให้กับเฝิงหยู่ได้ยังไงกัน? เลขาซวี่รีบเรียกให้เลขาของเขาชงชามาอีกสองถ้วยทันที


 


เฝิงหยู่พอใจแล้วพูดว่า “การควบรวมกิจการมีสองรูปแบบครับ แบบแรกเป็นการควบรวมบริษัทเล็กๆ ทั้งหมดที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและมารวมเข้ากับบริษัทใหญ่ วิธีนี้ทำให้สินทรัพย์ ขนาดธุรกิจ และอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อแนะนำแบรนด์ใหม่ บริษัทนี้จะใหญ่ขึ้นและจะง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาในการทำการตลาดให้แบรนด์ของพวกเขา หากบริษัทกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน บริษัทจะเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อแบรนด์ดังกล่าว แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นภายในข้ามคืนและต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลจากการสร้างแบรนด์”


 


“ทางออกที่สองคือการใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง บริษัทขนาดเล็กกว่าทั้งหมดในอุตสาหกรรมเดียวกันจะรวมเข้ากับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้วและกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัทนั้น สินค้าของพวกเขาจะใช้ชื่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนั้น บริษัททั้งหมดจะเห็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นและเร็วกว่าวิธีแรก คุณจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาอันสั้น”


 


จางรุ่ยเฉียงขมวดคิ้ว “คุณกำลังพยายามบอกให้เราเลือกวิธีที่สองงั้นหรอ? คุณคิดที่จะรวมบริษัทเครื่องจักร บริษัทเภสัชกรรม และบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเข้ากับบริษัทของคุณใช่มั้ย?”


 


เฝิงหยู่ตอบด้วยน้ำเสียงภูมิใจ “คุณอยากให้บริษัทที่เกือบจะล้มละลายพวกนั้นรวมตัวกันเองและกลายเป็น บริษัทย่อยของบริษัทผมงั้นหรอ? คุณต้องถามพนักงานของบริษัทผมก่อนนะและดูว่าพวกเขาเต็มใจหรือเปล่า!”


 


ให้ตายสิ! ตาเฒ่าจางเริ่มฉลาดขึ้นแล้ว เขาเดาออกว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอ?


 


เฝิงหยู่วางแผนที่จะให้โรงงานขนาดเล็กพวกนั้นรับงานรับจ้างให้เพื่อบริษัทของเขา โรงงานเครื่องจักรขนาดเล็กพวกนั้นอาจจะไม่สามารถผลิตเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่ดีได้ แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับโรงงานหลัก


 


อย่างไรก็ตาม บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงก็ยังต้องซื้ออะไหล่จำนวนมาก กำไรจากการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน ถ้ารถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์เป็นแบรนด์ของซงเจียงแล้วล่ะก็ ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยต์นซงเจียงจะเลือกใช้อะไหล่ซงเจียง คนส่วนใหญ่ยังคงชอบอะไหล่ของแท้อยู่


 


สิ่งนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และเพิ่มผลกำไรได้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยแก้ปัญหาปวดหัวของรัฐบาลท้องถิ่นด้วย


 


เหมือนกันสำหรับโรงงานอิเล็กทรอนิกส์และเภสัชกรรม สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ บริษัทขนาดเล็กพวกนั้นสามารถรวมเข้ากับแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะรวมทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาเพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์เพียงแบรนด์เดียว ซึ่งจะง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการที่บริษัทเล็กๆ พวกนั้นต้องพยายามต่อสู้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด


 


ดูจากผู้ที่ใช้เงินมากที่สุดในการประมูลช่วงเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็คือโรงกลั่นสุราคอนฟิวเชียส บริษัทนี้ได้รวมทรัพยากรของบริษัทขนาดเล็กจำนวนมากและตลาดภายใต้แบรนด์เดียว ซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากและยอดขายของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วก็ยอดเยี่ยมมาก


 


ในปีนี้โรงกลั่นสุราคอนฟิวเชียสได้เปิดตัวไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสในท้องถิ่น และพวกเขาก็เป็นผู้ประมูลช่วงเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV สูงสุด ไวน์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์


 


ตอนนี้ไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสได้ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว ลูกค้าหลายคนจะสั่งเหล้าขาวยี่ห้อนี้ที่ร้านอาหารเป็นตัวเลือกแรกก่อนเลย ผู้บังคับบัญชาที่ไม่ได้เรียนมาสูงก็มีแนวโน้มที่จะชอบแบรนด์นี้เพราะสโลแกนจากโฆษณาที่บอกว่า ดื่มไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสและเขียนเรียงความที่ดีที่สุด!


 


ผู้บังคับบัญชาพวกนั้นอาจจะไม่เคยเขียนเรียงความได้ตอนสมัยอยู่โรงเรียนประถม!


 


ไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวหลังจากที่มีการควบรวมโรงกลั่นขนาดเล็กบางแห่งเข้าด้วยกันแล้ว พวกเขาควบรวมและบริหารจัดการแบรนด์เดียว เมื่อแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ได้รับความนิยม โรงกลั่นทุกแห่งก็สามารถทำเงินได้ แบบนี้ดีกว่าที่แต่ละคนต้องพยายามทำการตลาดให้แบรนด์ของตนเอง


 


เลขาซวี่กำลังลังเล สิ่งที่เฝิงหยู่พูดนั้นดูเหมือนจะเป็นจริง แต่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจังหวัดหลงเจียง ได้แก่ บริษัทเครื่องจักรเมืองปิง  และบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง ทั้งสองเป็นบริษัทของเฝิงหยู่ นอกเหนือจากสองบริษัทนี้แล้ว ไม่มีแบรนด์ของบริษัทอื่นที่มีชื่อเสียงเลย ยังมีอีกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือหมูเทียนเผิง ซึ่งไม่ใช่บริษัทของเฝิงหยู่ ……. แต่ก็เป็นบริษัทของพ่อเฝิงหยู่!


 


นั่นหมายความว่าหากเฝิงหยู่หรือบริษัทของเขาไม่เข้าร่วมในการควบรวมกิจการครั้งนี้ รัฐบาลระดับจังหวัดจะต้องใช้วิธีแรกตามที่เฝิงหยู่ได้กล่าวไว้งั้นหรอ? รวมบริษัทขนาดเล็กเข้าด้วยกันเพื่อจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่และเปิดตัวแบรนด์ใหม่หรอ?


 


อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นเหมือนที่เฝิงหยู่กล่าวไว้ มันจะประสบความสำเร็จ แต่จะใช้เวลานาน เลขาซวี่ทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว


 


เลขาซวี่ต้องการผลงาน หากเขาไม่สามารถทำผลงานที่โดดเด่นได้ในเร็วๆ นี้ เขาจะต้องถูกขอให้เกษียณและกลับไปอยู่เบื้องหลังแน่ๆ


 


นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นอีก การดำเนินการตามแผนนี้จะใช้เวลาพอสมควร หากเขาเลือกวิธีแรกเขาจะถูกย้ายออกไปก่อนที่เขาจะเห็นผลลัพธ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับแผนนี้หลังจากเขาถูกย้ายไปแล้ว?


 


นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องอยู่ในตำแหน่งอย่างน้อยหนึ่งวาระ ระยะเวลาที่สั้นที่สุดของการดำรงตำแหน่งคือ 2 ปีและสูงสุดคือ 5 ปี ที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีเวลาในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ตามแผนที่พวกเขาเสนอ


 


แต่ไม่ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะเห็นผลได้ในทันที


 


“ผู้จัดการเฝิงครับ ผมคิดว่าบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสามารถควบรวมกับโรงงานเครื่องจักรขนาดเล็กบางแห่งได้หรือคุณสามารถเข้าซื้อกิจการเลยก็ได้นะครับถ้าคุณต้องการ” เลขาซวี่กล่าว


 


เฝิงหยู่ส่ายหน้า “อุปกรณ์ส่วนใหญ่ของโรงงานเครื่องจักรพวกนั้นเก่ามาก แถมยังไม่มีเทคโนโลยีอีก คนงานและผู้นำก็ไม่ค่อยเก่งมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย มันไม่คุ้มที่จะเข้าซื้อกิจการ อีกอย่าง รัฐบาลท้องถิ่นก็ไม่เต็มใจที่จะขายด้วย”


 


“พวกเขายินดีที่จะขายโรงงานพวกนั้น ผมรับปากกับคุณได้เลย” เลขาซวี่ไต่เต้ามาถึงตำแหน่งปัจจุบันนี้ได้ก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจเหนือกว่า หากเขาไม่สามารถควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ป่านนี้เขาคงถูกขอให้เกษียณนานแล้ว


 


เลขาซวี่ต้องการให้บริษัทขนาดเล็กพวกนั้นควบรวมเข้ากับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แม้ว่าบริษัทพวกนั้นจะต้องถูกเข้าซื้อกิจการ แต่ก็ไม่เป็นไร สำหรับเขามันก็เหมือนกัน เขาอยากจะขายบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของที่ต้องต่อสู้ในธุรกิจเพื่อความอยู่รอดมากกว่าที่จะเห็นพวกเขาแค่พยายามเอาตัวรอดไปในแต่ละเดือน บริษัทพวกนั้นจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นและผลกำไรที่สูงขึ้นหากบริษัทที่มีชื่อเสียงเข้าซื้อกิจการของพวกนั้น รัฐบาลระดับจังหวัดก็จะสามารถเพิ่มรายได้ภาษีได้ด้วย


 


สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลระดับจังหวัดจะสามารถใช้นโยบายประกันสังคมได้!


 


ในที่สุดเลขาซวี่ก็เข้าใจว่าทำไมเฝิงหยู่จึงเสนอเรื่องประกันสังคม นโยบายนี้กำหนดโดยรัฐบาลกลางและจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ในระยะต่อไป หากเลขาซวี่สามารถแนะนำและใช้นโยบายนี้ในจังหวัดหลงเจียงได้สำเร็จก่อนคนอื่น เขาจะได้รับโอกาสเข้าสู่รัฐบาลกลางเพื่อดูแลนโยบายนี้


 


เลขาซวี่อาจจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่เขาจะได้ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีและจังหวัด แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว


 


สิ่งที่เฝิงหยู่บอกมาทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงกัน ไม่ว่าแรงจูงใจของเฝิงหยู่จะเป็นอะไรก็ตาม แต่คำแนะนำของเขาก็สร้างความหวังให้กับเลขาซวี่ เขาเริ่มมองเห็นความก้าวหน้าในอาชีพของเขาในอนาคตแล้ว!


EG บทที่ 724 เงื่อนไข


 


แม้ว่าซวี่ฉางโหยว (เลขาซวี่) จะให้สัญญากับเฝิงหยู่ว่าเขาจะช่วยจัดการกับบริษัทเล็กๆ พวกนั้นเอง แต่เฝิงหยู่ก็ยังส่ายหน้า “มันไม่คุ้มค่าครับ จุดประสงค์ของการลงทุนคือการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น นายกเทศมนตรีจางครับ ถ้าผมไม่ได้ถือหุ้นของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงเลยสักหุ้นเดียว และบริษัทยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ คุณจะยินยอมให้โรงงานขนาดเล็กพวกนั้นควบรวมกับบริษัทหรือเปล่าครับ?”


 


จางรุ่ยเฉียงแสดงท่าทีลำบากใจ เขาจะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน มันก็เหมือนกับที่เฝิงหยู่พูดไว้ หากบริษัท เครื่องจักรเมืองปิงต้องการขยายตัว ก็ควรจะขยายไปสู่ภาคใต้ นอกจากนี้ บริษัทเครื่องจักรยังได้จัดตั้งโรงงานสาขาหลายแห่งในเมืองต่างๆ แล้ว ดังนั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดหากจะกระจายทรัพยากรของพวกเขาไปในจังหวัดเดียวกัน


 


แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐเ ขาต้องสนับสนุนข้อเสนอนี้ โรงงานขนาดเล็กพวกนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ บริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของพวกเขาจะจำหน่ายภายใต้แบรนด์ซงเจียง หรือแบรนด์ เมืองปิง (เครื่องจักรทางการเกษตร) กำไรจะต้องมากขึ้นกว่าก่อนแน่นอน


 


รัฐบาลท้องถิ่นจะสามารถเพิ่มรายได้ภาษีของพวกเขาได้ และเงินเดือนของคนงานทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น แต่มันจะยากกว่าสำหรับบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงที่จะบริหารจัดการโรงงานพวกนั้น


 


เฝิงหยู่ยังสามารถให้ความช่วยเหลือในอุตสาหกรรมการเกษตรและเภสัชกรรมได้ด้วย แต่จากทัศนคติของ เฝิงหยู่ เขาจะไม่เห็นด้วย เว้นแต่ว่าเขาจะได้อะไรจากเรื่องนี้


 


“เฝิงหยู่ ถ้าคุณปล่อยให้บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการกับโรงงานเครื่องจักรหรือโรงงานโลหะ เราจะยอมให้คุณได้รับการลดหย่อนภาษีในปีนี้ด้วย นอกจากนี้ หากคุณต้องการขยายโรงงานของคุณ ผมจะช่วยคุณเรื่องที่ดินด้วย คุณยินดีที่จะยอมรับข้อเสนอนี้หรือเปล่า?”


 


จางรุ่ยเฉียงรู้สึกว่าเฝิงหยู่กำลังรอให้เขาเสนอผลประโยชน์บางอย่างอยู่ ไม่งั้นเฝิงหยู่ก็คงจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ นี่เป็นนิสัยปกติของเฝิงหยู่ที่ชอบพาคนไปติดกับดักของเขา


 


แต่ตอนนี้จางรุ่ยเฉียงต้องเลือกจุดยืน นอกจากนี้ วิธีนี้จะช่วยซวี่ฉางโหย่วได้ และจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทั้งจังหวัด


 


เฝิงหยู่มองไปที่แผนที่ของจังหวัดและเมืองปิงบนผนัง เขาเดินไปและใช้นิ้วของเขาวาดเป็นวงกลมสองวง “ที่ดินทั้งสองแปลงนี้จะถูกประมูลในเดือนหน้าใช่มั้ยครับ? ผมคิดว่าเราควรแก้ปัญหาด้วยการขายให้กับบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวนะครับ”


 


จางรุ่ยเฉียงขมวดคิ้ว เฝิงหยู่ต้องการที่ดินทั้งสองแปลงนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่เนื่องจากความล่าช้าในการรื้อถอนและย้ายถิ่นฐานของผู้อยู่อาศัย ทำให้การประมูลที่ดินล่าช้าออกไปถึงเดือนหน้า แสดงว่าเฝิงหยู่จับจ้องที่จะเอาที่ดินพวกนี้ตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรอ?


 


ซวี่ฉางโหยวมองหน้าจางรุ่ยเฉียง ที่ดินแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองปิง แล จางรุ่ยเฉียงก็คุ้นเคยกับพื้นที่นั้นมากกว่า


 


“ที่ดินทั้งสองแปลงนี้เป็นที่ตั้งที่สำคัญในเมืองปิง เรากำลังจะเปลี่ยนให้กลายเป็นเขตการค้า”


 


เฝิงหยู่ยักไหล่ “คุณเห็นมั้ยว่าซูเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวของเราประสบความสำเร็จมากขนาดไหน? ถ้ามีซูเปอร์มาร์เก็ตของเราอยู่ที่นั่น การจราจรจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังให้ความช่วยเหลืออย่างมากแก่เมือง หลายเมืองเชิญให้เราจัดตั้งซูเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นไฮเปอร์มาร์เก็ตของเราไม่ถือว่าเป็นอาคารพาณิชย์หรอครับ?”


 


“ที่ดินทั้งสองแปลงนั้นมีมูลค่า 40 ล้านหยวน!” จางรุ่ยเฉียงขึ้นราคาทันที พื้นที่ของที่ดินทั้งสองแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก และการประเมินมูลค่าเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านหยวน หากที่ดินถูกนำไปขายทอดตลาด ก็น่าจะได้ราคาประมาณ 30 กว่าล้าน จางรุ่ยเฉียงไม่คิดว่าราคาจะดีดสูงถึง 40 ล้านหยวนในการประมูลแน่นอน เขารู้ว่าเฝิงหยู่เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย เขาเลยจงใจขึ้นราคา


 


เฝิงหยู่ตบหน้าผากของเขา “โอ้…ผมเกือบลืมไปแล้วว่าบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวไม่ได้อยากจัดตั้งซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองปิงและเมืองใกล้เคียงอีกต่อไปแล้วครับ ผมคิดว่าเมืองน่าจะยังคงนำที่ดินพวกนั้นออกไปขายทอดตลาดเพื่อการประมูลต่อไปได้ ผมมีเที่ยวบินต่อ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”


 


จางรุ่ยเฉียงถึกับเหวอ หากไม่เห็นแก่หน้าซวี่ฉางโหยว ป่านนี้เขาคงตะคอกใส่เฝิงหยู่ไปแล้ว เที่ยวบินบ้าบออะไรกัน? หากคุณคิดว่าราคานั้นแพงเกินไป ก็แค่พูดมาตรงๆ!


 


“แล้วคุณคิดว่าราคาไหนถึงจะเหมาะสม?” จางรุ่ยเฉียงถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ


 


“ตามราคาตลาดน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ ลูกน้องผมประเมินพื้นที่พวกนั้นแล้ว พื้นที่ของที่ดินแปลงนั้นไม่ได้ใหญ่มาก และเรายินดีที่จะจ่ายในราคา 32 ล้านหยวน” เฝิงหยู่มองหน้าจางรุ่ยเฉียงและพูด


 


“35 ล้านหยวน! นี่น่าจะเป็นราคาในการประมูล!” จางรุ่ยเฉียงกัดฟันตอบ


 


“โอเค โอเคครับ……ผมตกลงก็ได้แม้ว่ามันจะแพงไปหน่อยก็ตาม ยังไงเมืองปิงก็คือบ้านเกิดของผม” เฝิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงประมาณว่า “ผมยอมให้คุณเอาเปรียบผมก็ได้”


 


อันที่จริง ตอนที่จางรุ่ยเฉียงพูดว่า 40 ล้าน เฝิงหยู่เกือบตอบตกลงไปแล้ว ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวตั้งใจที่จะประมูลที่ดินสองแปลงนี้ในการประมูลอยู่แล้ว และพวกเขารู้ว่ามีบริษัทอื่นอีกสองแห่งก็สนใจเช่นกัน ราคาสุดท้ายของที่ดินทั้งสองแปลงนี้จะมากกว่าราคาประเมินแน่นอน


 


นอกจากนี้ 40 ล้านหยวนถือเป็นราคาที่ถูกตามมาตรฐานของเฝิงหยู่ ที่ตั้งของที่ดินนี้จัดอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดใน เมืองปิง เมื่อชาติที่แล้วของเขา คาร์ฟูร์และวอลมาร์ทเป็นเจ้าของทำเลนี้ ธุรกิจของพวกเขายอดเยี่ยมมาก บริเวณโดยรอบมีห้างสรรพสินค้าอื่นๆ และที่อยู่อาศัยมากมาย


 


“ผมเห็นด้วยกับเงื่อนไขของคุณ คุณไม่คิดจะพูดอะไรเกี่ยวกับเงื่อนไขของเราหน่อยหรอ?” จางรุ่ยเฉียงถาม


 


“เมื่อกี้นี้คุณบอกว่าบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงจะได้รับการยกเว้นภาษี”


 


“ลดหย่อนภาษีต่างหาก!” จางรุ่ยเฉียงรีบพูดแก้คำของเฝิงหยู่ มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการยกเว้นภาษีและการลดหย่อนภาษี


 


“ก็เหมือนกันนั่นแหละครับ” เฝิงหยู่ตอบ “คุณจะช่วยลดหย่อนภาษีให้เราเท่าไหร่ครับ?”


 


จางรุ่ยเฉียงมองหน้าซวี่ฉางโหยวแล้วพูดว่า “ในปีนี้จะมีการลดหย่อนภาษี 10% จากทุกโรงงาน”


 


“ผมนึกขึ้นมาได้ว่าเราไม่สามารถซื้อโรงงานจำนวนมากได้ แต่เมื่อคุณพูดถึงเรื่องนี้ ผมจะหารือกับผู้ถือหุ้นรายอื่นและซื้อโรงงานสองแห่งครับ”


 


“20%! นั่นคือสูงสุดแล้ว! คุณต้องไม่ได้ลงทุนในโรงงานใหม่ด้วย โรงงานพวกนั้นสามารถเริ่มทำงานได้ทันทีหลังจากที่คุณเข้าครอบครองกิจการ เราไม่สามารถหักภาษีให้คุณมากเกินไปได้!” จางรุ่ยเฉียงตอบอย่างโมโห


 


เฝิงหยู่พยักหน้า “โอเค ตกลงตามนั้นครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”


 


“เรายังคุยไม่จบเลย คุณจะไปไหน? บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงต้องเข้าซื้อกิจการของโรงงานเภสัชกรรมขนาดเล็กพวกนั้นด้วย คุณโอเคกับเรื่องนี้หรอ?” จางรุ่ยเฉียงคว้าตัวเฝิงหยู่เอาไว้ เราขายที่ดินให้คุณตั้งสองแปลง แต่คุณกลับตอบตกลงเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเองหรอ?


 


“คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารทรัพย์สินรัฐวิสาหกิจเมืองปิงของสภารัฐกิจเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง ผมโอเคกับเรื่องนี้” มีโรงงานเภสัชกรรมขนาดเล็กเพียง 3 ถึง 4 แห่งในจังหวัดและมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงที่จะเข้าซื้อกิจการพวกนั้น โรงงานขนาดเล็กพวกนี้สามารถผลิตยาง่ายๆ ได้ ตราบใดที่ยาพวกนั้นถูกขายภายใต้บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง ยอดขายของพวกเขาจะไม่แย่แน่นอน


 


“แล้วบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวล่ะ? พวกเขาสามารถเข้าซื้อกิจการฟาร์มหมูและโรงงานแปรรูปอาหารขนาดเล็กได้หรือเปล่า?”


 


“เราจะไม่เข้าซื้อกิจการของฟาร์มหมูอีกแล้วครับ เราได้เริ่มร่วมมือกับฟาร์มหมูขนาดเล็กพวกนั้นแล้ว และก็กำลังไปได้สวย สำหรับโรงงานแปรรูปอาหารขนาดเล็กพวกนั้น เรายังพอคุยกันได้ครับ แต่จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะต้องเช้าซื้อกิจการพวกนั้นด้วย? จังหวัดหลงเจียงของเรามีแบรนด์นมผงของเราอยู่แล้ว คำแนะนำของผมคือการควบรวมโรงงานทั้งหมดพวกนั้นและขายนมผงภายใต้แบรนด์นี้หรอครับ?”


 


“พวกคุณสามารถปรับโครงสร้างและจัดระเบียบโรงงานแปรรูปอาหารพวกนั้นได้ ตัวอย่างเช่น โรงงานแป้ง สุรา เป็นต้น โรงงานพวกนี้สามารถควบรวมเข้าด้วยกันเพื่อกลายเป็นองค์กรที่ใหญ่ขึ้นได้ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ผมแน่ใจว่าพวกคุณมีแผนของตัวเองอยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมสามารถช่วยได้ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการสร้างแบรนด์ของคุณ”


 


เฝิงหยู่พูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จจากเมื่อชาติที่แล้วของเขา เขาไม่มีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้เลย และจะเป็นการดีกว่าที่ปล่อยให้รัฐบาลจังหวัดจัดการเรื่องนี้เอง ยังมีข้าราชการบางคนคนที่มีความสามารถอยู่


EG บทที่ 725 ซวี่ฉางโหย่วจอมเด็จการ


 


เฝิงหยู่บอกฟู่กวางเจิ้งเกี่ยวกับเรื่องการเข้าซื้อกิจการโรงงานเครื่องจักรขนาดเล็กในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัด ฟู่กวางเจิ้งสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างมาก


 


เขายังได้เห็นรายงานทางการเงินของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และรู้ว่าชิ้นส่วนอะไหล่มีต้นทุนการดำเนินงานเป็นจำนวนมาก เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนพวกนั้นไม่สูงและไม่ต้องการวัสดุหรือเทคนิคพิเศษอะไร แต่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากเท่านั้น


 


หากมีการเข้าซื้อกิจการของโรงงานขนาดเล็กพวกนั้น พวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลระดับจังหวัดและได้รับผลประโยชน์บางอย่างได้ นอกจากนี้ ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวยังสามารถซื้อที่ดินสองแปลงที่พวกเขาต้องการได้ พวกเขาสามารถสร้างอาคารพาณิชย์สองแห่งที่นั่นและรักษาตลาดเมืองปิงเอาไว้ได้ แม้ว่าวอลทาร์ทและคาร์ฟูร์จะเข้าสู่เมืองปิงได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวได้


 


มันเป็นความฝันของบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวที่จะผูกขาดอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตของจีน บริษัทยังไม่มีทำเลเชิงกลยุทธ์หรือเงินทุนทั้งหมด แม้ว่ายอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวจะดีมาก แต่ก็ต้องมีกระแสเงินสดในปริมาณสูง พวกเขาสามารถกู้เงินจำนวนมากจากธนาคารได้ แต่พวกเขาไม่กล้าอ้างว่าพวกเขาได้ผูกขาดตลาดจีนแล้ว


 


หากซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวบางแห่งขาดทุน ผลกระทบต่อแบรนด์ของพวกเขาจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผู้บริโภคจะสูญเสียความมั่นใจในบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว


 


นี่คือสาเหตุที่เป้าหมายของบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็คือการผูกขาดในเมืองระดับที่ 2 และระดับที่สูงกว่านั้น พวกเขาต้องการป้องกันคาร์ฟูร์และวอลมาร์ทไม่ให้เข้าถึงทำเลสำคัญ


 


สิ่งที่เฝิงหยู่ทำนั้นช่วยให้บริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวสามารถควบคุมตลาดเมืองปิงได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงให้ฟู่กวางเจิ้งเห็นว่าเขาสามารถใช้วิธีการร่วมมือแบบอื่นเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นได้


 


ตราบใดที่มันเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ อีกฝ่ายจะไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน


 


หลังจากเฝิงหยู่กลับออกจากรัฐบาลระดับจังหวัดแล้ว ซวี่ฉางโหย่วก็ได้เรียกประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ อุตสาหกรรมอื่นๆ อาจรอได้ แต่บริษัทเครื่องจักรต้องได้รับการจัดการก่อน


 


หลังจากการควบรวมกิจการโรงงานขนาดเล็ก พนักงานของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงก็ประสบความสำเร็จ พนักงานทั้งหมดของพวกเขามีมากกว่า 20,000 คน บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงจะเป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของจีนในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล


 


โรงงานผลิตขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น FAW, SAIC, บริษัทเครือ YTO เป็นต้น มีพนักงานมากกว่า 10,000 คนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน


 


ซวี่ฉางโหย่วสามารถอ้างความดีความชอบจากผู้นำระดับสูงของเขาได้จากข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว แน่นอนว่าเขาต้องอยากประสบความสำเร็จก่อน


 


ในวันถัดไป ซวี่ฉางโหย่วเรียกประชุมกับหัวหน้าโรงงานเครื่องจักรของทั้งจังหวัด เขาต้องการประกาศการตัดสินใจของเขา


 


ในระหว่างการประชุมกับผู้นำรัฐบาลระดับจังหวัดเมื่อวาน มีบางส่วนที่คัดค้าน พวกเขารู้สึกว่าข้อเสนอในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจครั้งนี้ก็เหมือนกับกับการขายทรัพย์สินของรัฐ!


 


โรงงานเครื่องจักรพวกนี้หลายแห่งยังคงทำเงินได้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือแค่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้นและทุกอย่างจะดีเอง ทำไมพวกเขาต้องขายโรงงานเครื่องจักรทั้งหมดให้กับบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง? ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทนั้นเป็นแค่บุคคลธรรมดา


 


การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นปัญหาที่รัฐบาลกลางได้มีการหารือกันแล้ว หลายคนวิจารณ์ว่านี่เป็นการแจกทรัพย์สินของชาติให้คนอื่นฟรีๆ


 


ซวี่ฉางโหย่วถามเจ้าหน้าที่ที่คัดค้าน ทำไมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงจะทำให้รัฐบาลขาดทุน? ดูอย่างบริษัท เครื่องจักรเมืองปิงสิ หากไม่มีผู้ถือหุ้นรายอื่น เทคโนโลยีใหม่พวกเขาจะสามารถเติบโตมาถึงจุดนี้ในปัจจุบันได้หรอ? ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรทางการเกษตรของพวกเขาทันสมัยที่สุดในประเทศจีน รถจักรยานยนต์ของพวกเขาก็ขายดีมาก หลังจากรถมอเตอร์ไซค์ บริษัทก็เปิดตัวถยนต์ พวกเขาสามารถตามทันพวกบริษัท FAW และ SAIC แถมยังใกล้จะแซงพวกนั้นในไม่ช้าด้วย


 


ภาษีที่บริษัทนี้จ่ายก็มากกว่าโรงงานเครื่องจักรเมืองปิงเดิมหลายเท่า บริษัทยังจัดหางานให้คนงานมากขึ้นด้วย สัดส่วนการถือหุ้นของเมืองปิงในบริษัทอาจน้อยลง แต่เงินปันผลจากหุ้นของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า


 


นอกจากนี้ รัฐบาลกลางต้องการใช้นโยบายประกันสังคม รัฐบาลระดับจังหวัดจะสามารถนำระบบประกันสังคมนี้มาใช้ได้ยังไงในเมื่อบริษัทจำนวนมากไม่มีปัญญาที่จะจ่ายได้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้?


 


การขายรัฐวิสาหกิจพวกนั้นไม่ได้เป็นการขายแรงงานด้วยสักหน่อย บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงยังไม่ได้เป็น บริษัทเอกชนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมทุน รัฐบาลกลางยังสนับสนุนให้มีบริษัทร่วมทุนมากขึ้นด้วย วิธีนี้ทำให้ทุกบริษัทสามารถจ่ายเงินประกันสังคมและพัฒนาได้เร็วขึ้น พนักงานก็จะได้รับค่าแรงที่สูงขึ้นด้วย แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงไม่ดีล่ะ?


 


คนงานทุกคนมีความสำคัญต่อประเทศ คนงานพวกนั้นจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหากบริษัทพวกนั้นถูกขาย พวกเขาจะมีความปลอดภัยมากขึ้นในอนาคต แล้วข้อเสนอนี้มันไม่ดีตรงไหน?


 


เมื่อมีการหยิบยกปัญหาเรื่องการประกันสังคมขึ้นมา คนที่คัดค้านก็ไม่มีอะไรเถียง ข้อเสนอของซวี่ฉางโหย่ว สามารถแก้ปัญหาเรื่องการประกันสังคมของรัฐวิสาหกิจพวกนั้นได้จริงๆ


 


หากรัฐวิสาหกิจพวกนี้จ่ายเงินประกันสังคม รัฐบาลระดับจังหวัดจะสามารถบังคับให้บริษั อื่นจ่ายเงินได้ ดูสิบริษัทพวกนั้นสามารถจ่ายเงินประกันสังคมได้ แล้วทำไมโรงงานของคุณถึงไม่จ่ายเงินล่ะ?


 


ตอนนี้หลายบริษัทได้รวมกลุ่มกันเพื่อคัดค้านการจ่ายเงินประกันสังคม พวกเขาต้องการให้รัฐบาลดูแลคนงานที่เกษียณอายุและไม่ต้องการจ่ายเงินสักแดงเดียว นี่เป็นปัญหาที่ปวดหัวที่สุดของรัฐบาลท้องถิ่น


 


ข้อเสนอนี้จะทำให้กลุ่มพวกนั้นเลิกรวมตัวกัน และรัฐบาลจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ หากรัฐบาลสามารถเรียกเก็บเงินสมทบประกันสังคมได้มากขึ้น ก็จะเป็นความสำเร็จ และพวกเขาจะได้รับความดีความชอบเพิ่มขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นจะได้ความดีความชอบสำหรับผลงานที่ยอดเยี่ยมในนโยบายการคุมกำเนิดด้วย ส่วนนโยบายนี้ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินจากบริษัทนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง


 


ซวี่ฉางโหย่วเป็นคนเผด็จการ เขาอนุมัติข้อเสนอนี้ทันทีและหยุดการคัดค้านทั้งหมด เขาต้องการให้ข้อเสนอนี้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว รัฐบาลระดับจังหวัดต้องจัดทำแผนในการจัดระเบียบอุตสาหกรรมหลายแห่งทั่วทั้งจังหวัด จังหวัดจะต้องจัดตั้งบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสองสามแห่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


 


รัฐบาลระดับจังหวัดหมายเลข 2 ไม่พอใจ ซวี่ฉางโหย่วเข้ามาแทรกแซงงานของเขา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะซวี่ฉางโหย่วเป็นผู้นำของจังหวัดหลงเจียงทั้งจังหวัด! นอกจากนี้ เขาก็นึกไม่ถึงความคิดนี้มาก่อนด้วย


 


มีไม่กี่คนที่คัดค้านเรื่องการควบรวมกิจการของโรงงานเภสัชกรรมเนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงนั้นคือคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์รัฐวิสาหกิจเมืองปิงของสภารัฐกิจ


 


แต่ผู้นำทุกคนไม่เคยคิดมาก่อนว่าซวี่ฉางโหย่วจะทำตามแผนของเขาอย่างรวดเร็ว เขาเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อประกาศการตัดสินใจของรัฐบาล


 


ผู้นำของรัฐบาลท้องถิ่นและโรงงานคัดค้านข้อเสนอนี้ รัฐบาลเมืองรู้สึกว่าพวกเขาจะได้รับภาษีน้อยลงและผู้นำของโรงงานกังวลว่าพวกเขาจะสูญเสียตำแหน่ง หากโรงงานถูกเข้าซื้อกิจการ พวกเขาจะยังคงได้เป็นหัวหน้าโรงงานอยู่อีกหรือเปล่า? พวกเขายังคงมีอำนาจเหมือนเดิมมั้ย?


 


“ทำไมคุณยังคัดค้านข้อเสนอนี้อีกหลังจากที่ผมชี้แจงผลประโยชน์ทั้งหมดแล้ว? พวกคุณคัดค้านเพื่อประโยชน์ของตัวเองงั้นหรอ? ผมชี้แจงชัดเจนแล้วนะเรื่องภาษีของรัฐบาลท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง รายได้ของโรงงานจะสูงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ภาษีจะลดลง แต่มันก็แค่ปีเดียวเท่านั้นเอง รายได้ภาษีจะมากขึ้นกว่าเก่า นอกจากนี้ เงินเดือนของพนักงานจะเพิ่มขึ้นและปัญหาเรื่องการประกันสังคมจะหมดไป รัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดจะได้รับความดีความชอบที่สามารถนำนโยบายนี้มาใช้ได้สำเร็จ ทุกคนจะสามารถใช้ตัวอย่างนี้เพื่อกดดันบริษัทที่เหลือให้ใช้นโยบายนี้ตามด้วย ยังมีปัญหาอะไรกันอยู่อีกห๊ะ?” ซวี่ฉางโหย่วตบโต๊ะและถาม


 


ซวี่ฉางโหย่วรู้ว่าการขายรัฐวิสาหกิจพวกนี้จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลท้องถิ่นพวกนี้ ที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจพวกนี้เป็นแหล่งรายได้ให้กับรัฐบาลเหล่านี้ รัฐบาลพวกนี้บางแห่งใช้ประโยชน์จากรัฐวิสาหกิจพวกนี้ในการ “เคลียร์” บัญชีของตัวเอง


 


แต่การควบรวมโรงงานพวกนี้เข้ากับบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งจังหวัดโดยรวม แม้ว่า ซวี่ฉางโหย่วจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากการควบรวมกิจการนี้ แต่เขาก็ได้ทำบางสิ่งที่ช่วยทุกคนในภูมิภาคนี้


 


“ผมจะบอกพวกคุณทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย เราไม่ได้จะมาหารือกับพวกคุณ แต่นี่คือคำสั่ง รัฐบาลระดับจังหวัดได้ตกลงกับบริษัทเครื่องจักรแล้ว เอกสารจะถูกส่งไปยังรัฐบาลท้องถิ่นหลังจากการประชุมครั้งนี้ อย่ามาหาว่าผมใจร้ายนะถ้าผมจะลงโทษใครก็ตามที่พยายามคัดค้านเรื่องนี้!”


EG บทที่ 726 แผนการอุตสาหกรรมการเกษตร 


 


คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่ได้เต็มใจที่จะทำแบบนี้เลย แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก ซวี่ฉางโหย่วทำตัวเอาแต่ใจมากเกินไปแล้ว แต่เนื่องด้วยบุคลิกที่เผด็จการของซวี่ฉางโหย่ว จึงทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น


 


หลี่หมิงเต๋อรับผิดชอบเรื่องการเจรจากับโรงงานขนาดเล็ก เขารู้จักหัวหน้าส่วนใหญ่จากโรงงานพวกนั้น เขารู้ว่าคนไหนมีความสามารถและใครที่ไร้ประโยชน์


 


หลี่หมิงเต๋อโน้มน้าวคนที่มีความสามารถให้อยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุมโรงงานสาขานี้ต่อไป พวกเขาอาจมีโอกาสที่จะถูกย้ายไปยังเมืองปิงในอนาคต พวกเขายังอาจได้รับส่วนแบ่งของบริษัทเป็นรางวัลตอบแทนด้วย สำหรับผู้นำที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น หลี่หมิงเต๋อโน้มน้าวให้พวกเขาย้ายออกไปโดยใช้เส้นสายของพวกเขา มิเช่นนั้นพวกเขาอาจถูกไล่ออกได้หลังจากที่โรงงานถูกเข้าซื้อกิจการแล้ว


 


บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสัญญาว่าพวกเขาจะไม่ไล่ใครออกโดยที่ไม่มีเหตุผล แต่โรงงานขนาดเล็กพวกนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรในช่วงปีที่ผ่านมานี้ในฐานะรัฐวิสาหกิจงั้นหรอ? ถ้ บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงต้องการตรวจสอบโรงงานพวกนี้จริงๆ คนพวกนี้อาจไม่เพียงถูกไล่ออก แต่พวกเขาอาจถูกจับกุมในข้อหาทุจริตด้วย!


 


ในขณะที่การเจรจากำลังดำเนินอยู่นั้น รัฐบาลระดับจังหวัดก็กำลังหารือกันเกี่ยวกับวิธีการจัดระเบียบทรัพยากรของจังหวัดเพื่อจัดตั้งบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน และจะทำยังไงให้บริษัทพวกนี้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้


……


 


“จังหวัดหลงเจียงของเราเป็นจังหวัดเกษตรกรรมและเราควรรวมทรัพยากรการเกษตรทั้งหมดของเราเพื่อจัดตั้งบริษัทอาหารการเกษตร ซึ่งจะกลายเป็นประโยชน์ของเรา” หนิวคุน ผู้อำนวยการกรมวิชาการเกษตรประจำจังหวัดกล่าว


 


มีคนคัดค้านทันที “บริษัทอาหารเกษตร? คุณล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย? อย่าคิดว่ามันจะได้ผลเพียงเพราะว่ามีคนแนะนำมาเท่านั้น แม้ว่าเราจะเป็นจังหวัดเกษตรกรรม แต่อย่าลืมว่ายังมีกระทรวงเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดินอยู่นะ บริษัทนี้ควรอยู่ภายใต้อำนาจของกระทรวงเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดิน”


“เราควรจัดตั้งบริษัทในลักษณะนี้ แต่บริษัทนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลระดับจังหวัด”


 


คนที่คัดค้านครุ่นคิดอย่างหนัก หากบริษัทนี้ตกอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลระดับจังหวัด ฟาร์มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลระดับจังหวัดแทนกรมวิชาการเกษตร แบบนี้รายได้ของจังหวัดจะเพิ่มขึ้น!


 


นี่เป็นความคิดที่ดี มันจะเป็นการควบคุมฟาร์มโดยกรมวิชาการเกษตรทางอ้อม แต่ผู้นำระดับสูงจะเห็นด้วยหรือเปล่า?


 


“บอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนสำหรับบริษัทนี้ให้ผมฟังหน่อย จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไรและจะจัดการยังไง?” ซวี่ฉางโหย่วสนใจมาก นี่น่าจะเป็นความคิดที่ดี


 


“ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย จะมีบริษัทสินค้าทางการเกษตรแบบนี้ ตอนที่ผมไปสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วเพื่อดูงาน ผมได้เรียนรู้รูปแบบการดำเนินงานของพวกเขา หลังจากกลับมา ผมก็คิดรูปแบบการปฏิบัติการที่เหมาะสมกับฟาร์มของเราออก”


 


“เราสามารถเซ็นสัญญากับฟาร์มและขอให้พวกเขาปลูกพืชที่เราต้องการได้ ตัวอย่างเช่น เราสามารถซื้อข้าวโพดและข้าวสาลีจากเกษตรกรและแปรรูปก่อนที่จะส่งออกไปยังรัสเซีย แม้ว่ากระบวนการตากแห้งพืชผลจะเป็นเรื่องง่าย แต่เราก็จะได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรด้วย เราสามารถแปรรูปพืชผลให้เป็นน้ำมันหรือแป้ง และเราสามารถส่งออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่เหลือในประเทศจีนได้ด้วย”


 


“จังหวัดของเรามีโรงงานแปรรูปอาหารขนาดใหญ่ แต่สินค้าของพวกเขามีจำกัด พวกเขาเก่งเรื่องสินค้าหมูและเป็นหนึ่งในโรงงานที่ดีที่สุดในประเทศจีน แต่พวกเขาไม่เก่งเรื่องสินค้าตัวอื่น”


 


ซวี่ฉางโหย่วถาม “คุณหมายถึงบริษัทแปรรูปอาหารหัวหรือเปล่า?”


 


“ใช่ครับ หมูเทียนเผิงและอาหารสัตว์ของพวกเขาดีที่สุดในประเทศจีน ตอนนี้พวกเขากำลังผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู เช่น แฮมและหมูกระป๋อง ซึ่งเป็นสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศจีน แต่ยังมีสินค้าแปรรูปอื่นๆ อีกมากมายจากอุตสาหกรรมการเกษตร ตัวอย่างเช่น เราสามารถผลิตเนื้อสัตว์ประเภทอื่น เช่น สินค้าจากเนื้อวัวหรือไก่ เรามีข้อได้เปรียบเหนือกว่าพวกเขาเพราะเราสามารถสั่งซื้อโดยตรงจากเกษตรกรของรัฐหรือสร้างฟาร์มไก่หรือฟาร์มวัวได้ สินค้าเนื้อสัตว์พวกนี้เป็นที่นิยมในตลาดมาก”


 


“จังหวัดของเรามีโรงงานผลิตนมมากกว่าหนึ่งแห่ง เราสามารถควบรวมโรงงานพวกนี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างโรงงานผลิตนมขนาดใหญ่ จังหวัดของเรา มีป่าขนาดใหญ่ แถมยังมีวัตถุดิบที่มีค่ามากมายจากป่า เช่น เมล็ดสน ถั่วเฮเซลนัท เป็นต้น เราสามารถซื้อของพวกนี้เป็นจำนวนมากจากเกษตรกรและนำไปขายที่อื่นได้”


 


“ผมถึงขนาดมีความคิดว่าเราควรรอดูผลลัพธ์ก่อน แต่นั่นก็อาจจะขัดกับกฎข้อบังคับเล็กน้อย เราสามารถเพาะปลูกบนที่ดินรกร้างและสร้างฟาร์มขนาดมหึมาขึ้นมาเองได้”


 


“อย่าพูดถึงสิ่งที่ผิดกฎหมาย” ซวี่ฉางโหย่วโบกมือ “สิ่งที่คุณพูดมานั้นดีมาก ทำไมคุณไม่เสนอข้อเสนอแบบนี้ตั้งนานแล้ว?”


 


“นี่เป็นเพียงความคิดเท่านั้นครับ แต่มีปัญหาใหญ่มากที่จะทำให้แผนนี้ได้ผล”


 


“ปัญหาอะไร? บอกผมมา ผมจะแก้ปัญหาให้คุณเอง!” ซวี่ฉางโหย่วตื่นเต้น พวกเขาจะสามารถหาทางออกให้กับปัญหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน ทำไมผมถึงไม่ได้สังเกตเห็นหนิวคุนคนนี้มาก่อน? เขาเป็นคนมีความสามารถมาก


 


อุตสาหกรรมการเกษตรของจังหวัดหลงเจียงมีศักยภาพมหาศาล และยังไม่มีบริษัทการเกษตรขนาดใหญ่ในประเทศจีน หากพวกเขาสามารถจัดตั้งบริษัทนี้ได้ จังหวัดหลงเจียงจะก้าวหน้ามากกว่าจังหวัดอื่นๆ!


 


นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับจังหวัด ปัญหางั้นหรอ? เราต้องเอาชนะปัญหาทั้งหมดเพื่อทำให้แผนนี้ได้ผล!


 


“เงินครับ! ในการจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่ เราต้องการเงินจำนวนมาก แม้แต่รัฐบาลระดับจังหวัดก็ยังไม่มีเงินมากพอที่จะจัดตั้งบริษัทระดับนี้ได้” หนิวคุนตอบ


 


หนิวคุนมีความคิดนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะนำไปใช้ เขาเสนอแนะในระหว่างการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้นั่งทำงานอยู่ในสำนักงานไปวันๆ และหวังว่าซวี่ฉางโหย่วจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้


 


“จำนวนเงินนั้นมากถึงขนาดที่รัฐบาลระดับจังหวัดก็ไม่ไหวหรอ? แผนนี้จำเป็นต้องใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว?” ซวี่ฉางโหย่ว ขมวดคิ้วและถาม


 


“อย่างน้อยก็สองสามพันล้านครับ แต่ถ้าเรามีถึงหมื่นล้านก็น่าจะดีกว่า เราต้องการเงินทุนเพื่อจัดซื้อพืชผลหรือผลผลิตจากเกษตรกร เรายังต้องการเงินทุนเพื่อสร้างโรงงานแปรรูป และยังต้องการเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับเหตุฉุกเฉิน การทำตลาด เครื่องจักร และอื่นๆ รัฐบาลระดับจังหวัดสามารถจัดการเรื่องนี้ได้หรือเปล่าครับ?”


 


หนิวคุนมองหน้าซวี่ฉางโหย่วอย่างกระตือรือร้น หากรัฐบาลระดับจังหวัดสามารถแก้ไขปัญหาพวกนี้ได้ เขาก็จะได้รับความดีความชอบทั้งหมด


 


อย่างน้อยสองสามพันล้านหยวนหรอ? รัฐบาลจังหวัดจะไปมีปัญญาหาเงินมาจ่ายได้ยังไง?


 


ถ้าใช้เงินแค่ไม่กี่ร้อยล้าน รัฐบาลระดับจังหวัดอาจจะยังพอมีทางออกบ้าง พวกเขาสามารถขอเงินทุนจากผู้นำระดับสูง เพิ่มจำนวนเงินจากเมือง และวิธีอื่นๆ ได้ พวกเขาอาจขอเงินกู้จากธนาคารก็ได้


 


แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลระดับจังหวัดจะระดมทุนเงินสองสามพันล้าน


 


ความตื่นเต้นของหนิวคุนในดวงตาของเขาเริ่มหายไปเมื่อเขาเห็นซวี่ฉางหยวก้มหน้าลง เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย? ถ้าขนาดรัฐบาลระดับจังหวัดยังไม่สามารถหาทางออกได้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดตั้งบริษัทนี้


 


ดูเหมือนว่าความคิดนี้คงยังต้องเป็นความคิดต่อไป


……


 


ซวี่ฉางโหย่ว กลับไปที่สำนักงานของเขา เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วโทรเรียกจางรุ่ยเฉียงให้มาหาที่สำนักงานของเขา เขาอยากถามดูว่าจางรุ่ยเฉียงจะมีวิธีแก้ปัญหานี้หรือไม่


 


เมื่อจางรุ่ยเฉียงได้ยินว่ารัฐบาลระดับจังหวัดจำเป็นต้องระดมทุนสองสามพันล้าน เขาก็จนปัญญาเช่นกัน หากขนาดรัฐบาลระดับจังหวัดไม่มีเงิน แล้วนับประสาอะไรกับเมืองปิง


 


แต่ทันใดนั้นจางรุ่ยเฉียงก็นึกถึงใครบางคนได้ บางทีคนนี้อาจมีทางออกให้ก็ได้


 


ฮืม…… เมื่อใดก็ตามที่จางรุ่ยเฉียงเจอปัญหาและต้องการทางออก คนๆ นี้จะสามารถหาทางออกให้เขาได้เสมอ คนๆ สามารถตอบได้ทุกเรื่อง


EG บทที่ 727 ห้ะ? เป่ยต้าฉาง?


 


เฝิงหยู่กลับมาที่ปักกิ่งสองสามวัน เขาทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้วและส่งอาจารย์ของเขาเพื่อทำการตรวจสอบรอบแรก หลังจากส่งวิทยานิพนธ์แล้ว เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจางรุ่ยเฉียง ซึ่งเรียกให้เขากลับไปที่เมืองปิง ทันที รัฐบาลระดับจังหวัดต้องการปรึกษาเฝิงหยู่เพื่อขอความคิดเห็นจากเขา


 


เฝิงหยู่กำลังว่างอยู่พอดีและอยากเห็นความคืบหน้าของการเข้าซื้อกิจการของโรงงานพวกนั้นด้วย ดังนั้นเขาจึงบินกลับไปที่เมืองปิง


 


เฝิงหยู่เดินเข้าไปในห้องทำงานของจางรุ่ยเฉียงและนั่งบนโซฟาเหมือนบ้านของเขาเอง ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร เลขาหลิวก็ยกชาที่ชงมาใหม่หนึ่งถ้วยเข้ามา


 


“เสี่ยวหลิวเข้ามานั่งกับผมสิ”


 


เลขาหลิวรู้สึกประหลาดใจ เขาควบคุมความตื่นเต้นและนั่งข้างๆ เฝิงหยู่ แต่ท่าทางของเขาเหมือนกับทหาร หลังของเขาเหยียดตรงและวางมือของเขาไว้บนเข่า


 


เฝิงหยู่ถามด้วยความสงสัย “การนั่งคือการพักผ่อน คุณนั่งท่านั้นไม่เมื่อยหรอ?”


 


เลขาหลิวสับสน นี่มันคำถามอะไรกัน? แล้วเขาต้องตอบยังไง?


 


ถ้าเลขาหลิวตอบว่าท่านี้ไม่เมื่อย เฝิงหยู่จะบอกว่าเขาโกหกแน่นอน แต่เขาจะตอบว่าเมื่อยต่อหน้าผู้นำของเขาได้ยังไง?!


 


จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเฝิงหยู่ และบอกกับเลขาของเขาว่า “ไม่ต้องไปสนใจเขา ทำตัวตามสบาย ที่นี่ไม่ได้มีกฎอะไรมากมาย”


 


เลขาหลิวรู้สึกโล่งใจ แต่เขาก็ยังเคร่ขรึมและนั่งอย่างถูกต้อง เขาไม่กล้าที่จะนั่งแบบที่เฝิงหยู่ที่ทั้งเอนหลังและไขว้หาง


 


“เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้คุณมีปัญหาอะไรหรอ?” เฝิงหยู่ถาม


 


ในช่วงสองปีที่ผ่านมา จางรุ่ยเฉียงไม่ค่อยได้ปรึกษาเฝิงหยู่แล้ว แต่ปัญหาก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะว่าจางรุ่ยเฉียงก้าวหน้าขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะตำแหน่งของเขาตอนนี้สูงขึ้น ระดับความยากของปัญหาที่เขาเจอก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน


 


เฝิงหยู่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเมืองมากนักและเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะช่วยจางรุ่ยเฉียงในเรื่องนี้


 


“คุณแนะนำให้ควบรวมทรัพยากรของเราเพื่อจัดตั้งบริษัทที่ใหญ่กว่าและมุ่งเน้นที่แบรนด์เดียว รัฐบาลระดับจังหวัดได้พิจารณาข้อเสนอแนะของคุณและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมเกษตร”


 


เฝิงหยู่พยักหน้า “จังหวัดของเราเป็นจังหวัดเกษตรกรรมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรามีพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำฟาร์ม การทำฟาร์มสมัยใหม่ของเรานั้นก็ทันสมัยที่สุดในประเทศจีน นี่เป็นความคิดที่ดีครับ แล้วมีปัญหาอะไรหรอ?”


 


“เรากำลังคิดที่จะเริ่มจากปศุสัตว์และอุตสาหกรรมแปรรูปธัญพืช คุณคิดยังไงกับทิศทางนี้? มันจะได้ผลหรือเปล่า?” จางรุ่ยเฉียงถาม


 


“ไม่มีปัญหาครับ หากการเลี้ยงปศุสัตว์มีขนาดใหญ่และมีการสร้างแบรนด์ขึ้นมา มันจะมีประสิทธิภาพมากเลยครับ ดูอย่างหมูเทียนเผิงของเราสิ ผมไม่กล้าพูดว่าคนจีนทั้งประเทศรู้จักหมูของเรา แต่เกือบทุกคนในเมืองรู้จักหมูของเรา นอกจากนี้ ถ้าคุณทำการเลี้ยงปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ต้นทุนจะลดลงและจะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค โรงงานแปรรูปธัญพืชก็เป็นแนวคิดที่ดีเช่นกัน คุณยังสามารถสร้างแบรนด์ได้ด้วย ผมสามารถช่วยคุณได้ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการขาย”


 


ผมจะเป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของคุณและไม่ว่าคุณจะผลิตสินค้าอะไรก็ตาม ผมก็สามารถนำมาขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวได้ ดีเลย ผมจะได้เปิดตัวแผนกอาหารเพื่อสุขภาพในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย สินค้านี้จะแตกต่างจากสินค้าอื่นและเพิ่มผลกำไรได้


 


สินค้าพวกนี้ยังสามารถส่งออกได้ด้วย พี่จีต้องดีใจมากแน่ๆ


 


“นั่นหมายความว่าคุณก็คิดว่าความคิดนี้จะได้ผลใช่มั้ย? จะมีปัญหากับการขายหรือเปล่า?” จางรุ่ยเฉียงถาม


 


“ถ้าคุณภาพของสินค้าดี คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการขายเลยครับ บริษัทของผมสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายและมีคู่ค้าในทุกจังหวัด หากคุณกังวล คุณสามารถร่วมงานกับบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวและขายภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารไท่หัวได้นะครับ”


 


“ใช้แบรนด์ของคุณงั้นหรอ? ฝันไปเถอะ! เราต้องการสร้างแบรนด์ของเราเอง คุณจะมาเอาทุกอย่างไปเป็นของตัวเองหมดไม่ได้!” จางรุ่ยเฉียงด่าเฝิงหยู่


 


เฝิงหยู่ยิ้ม มันกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้วที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมทุกครั้งที่เขาเห็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ ธุรกิจนี้จะทำเงินได้อย่างมาก


 


“งั้นคุณมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผมฟังทำไม? คุณต้องการความคิดเห็นจากผมงั้นหรอ? นี่เป็นธุรกิจที่ดีและทุกคนก็น่าจะรู้” เฝิงหยู่สงสัย จำเป็นต้องปรึกษาเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรอ? ผู้นำที่รัฐบาลระดับจังหวัดไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้หรอ?


“ผมต้องการรู้ว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่าที่จะนำความคิดทั้งหมดของเราไปใช้ในคราวเดียว ซึ่งรวมถึงการทำฟาร์มวัว แพะ และสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ธัญพืชแปรรูป เราจะผลิตเมล็ดสน ถั่วเฮเซลนัท และอื่นๆ จากป่าด้วย แบบนี้มันจะหลากหลายเกินไปหรือเปล่า? เราควรตั้งหลายบริษัทให้มาจัดการกับสินค้าแต่ละประเภทหรือขายสินค้าทั้งหมดภายใต้บริษัทเดียวดี?”


 


“บริษัทเดียวดีกว่าครับ และคุณสามารถจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้บริษัทหลักได้ ประโยชน์ของการจัดตั้ง บริษัทเดียวก็คือการบริหารแบรนด์ได้ดีกว่า การบริหารแบรนด์เดียวนั้นคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าการบริหารหลายแบรนด์ ดูอย่างบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสิครับ รถยนต์ของเราก็ใช้แบรนด์ซงเจียงเหมือนกัน ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในแบรนด์นี้และรถยนต์ของเราก็ขายดี แบรนด์นี้ยังช่วยเพิ่มยอดขายรถจักรยานยนต์ของเราอีกด้วย”


 


“คุณกำลังจะบอกว่าเราควรจัดตั้งบริษัทหลักและสร้างแบรนด์หลักก่อน จากนั้นเราค่อยสร้างแบรนด์ย่อยหรือหมวดหมู่สินค้าที่แตกต่างกันให้อยู่ภายใต้แบรนด์นั้นหรอ?”


 


“ถูกต้องครับ” เฝิงหยู่ทำสีหน้ารำคาญ มันช่างเหมือนครูที่กำลังสอนนักเรียนจริงๆ


 


จางรุ่ยเฉียงไม่สนใจเขาและถามต่อไป “นั่นหมายความว่าคุณคิดว่ามันโอเคใช่มั้ยที่เราที่จะทำทุกอย่างพร้อมกันและจะไม่มีปัญหาอะไร?”


 


“ทำไมจะต้องมีปัญหาด้วยล่ะครับ? ฟังนะครับ เราสามารถแยกธัญพืชที่มีคุณภาพดีกว่าจากพืชผลอื่นๆ และนำมาขายเป็นธัญพืชระดับพรีเมี่ยมได้ ส่วนที่เหลือก็เอาไปแปรรูปเพื่อผลิตอาหารสัตว์สำหรับวัว แพะ ไก่ เป็นต้น แบบนี้คุณสามารถลดต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ได้ด้วย”


 


“สัตว์ที่คุณเลี้ยงก็สามารถเอามาขายได้เป็นเนื้อสัตว์ และคุณจะได้รับไข่จากไก่และเป็ด ซึ่งสามารถนำไปขายได้เช่นกัน คุณสามารถแปรรูปไข่เป็นไข่เค็มหรือไข่เยี่ยวม้าได้ มูลสัตว์ก็สามารถแปรรูปเป็นปุ๋ยสำหรับพืชของคุณได้อีก คุณยังสามารถใช้เรื่องนี้เป็นจุดขาย พวกนี้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารของคุณที่ใช้ปุ๋ยธรรมชาติและไม่ใช้ยาฆ่าแมลงใดๆ เลย ปศุสัตว์ก็ถูกเลี้ยงด้วยธัญพืชธรรมชาติ คุณยังสามารถใช้วิธีการเลี้ยงปล่อยสำหรับไก่และเป็ดได้ด้วย สัตว์ปีกที่ได้รับการเลี้ยงปล่อยและไข่จะสามารถดึงราคาให้สูงขึ้นได้”


 


“คุณสามารถเลี้ยงโคนมและแพะมากขึ้น และขายนมวัวและนมแพะได้ นมแพะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่านมวัว หากคุณสามารถผลิตนมผงแพะได้ กำไรของคุณก็จะยิ่งสูง คุณยังสามารถผลิตผลิตภัณฑ์นมได้อีก ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์นม ผมสามารถชวนให้เลอฮ่าฮามาจัดตั้งโรงงานในเมืองปิงเพื่อผลิตโยเกิร์ตได้ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการขายนมของคุณเลย”


 


“การผลิตทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกัน หากคุณทำสิ่งพวกนี้พร้อมกัน ค่าใช้จ่ายของคุณจะลดลงและได้รับผลกำไรที่สูงขึ้น เรายังสามารถทำการตลาดให้บริษัทกลายเป็นฟาร์มเกษตรกรรมระบบนิเวศ เราจะใช้เกษตรกรรมเป็นพื้นฐานและพัฒนาอุตสาหกรรมระดับที่สองและสาม เราจะสามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้และในขณะเดียวกันก็ได้รับผลิตภัณฑ์ตามที่เราต้องการ นี่จะเป็นครั้งแรกในประเทศจีน แค่แนวคิดนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับจังหวัดที่จะได้รับเงินทุนจากผู้นำระดับสูง โอ้ บริษัทใหม่นี้จะใช้ชื่อว่าอะไรหรอครับ?”


 


“กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง” เลขาหลิวตอบ


 


ห้ะ? กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง? เป็นเพราะผมที่ทำให้แบรนด์นี้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมงั้นหรอ?


EG บทที่ 728 ให้ฟาร์มร่วมลงทุน


 


เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ จีนกำลังพยายามเลียนแบบรูปแบบการจัดการบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น พวกเขารู้สึกว่าบริษัทขนาดใหญ่จะสามารถแข่งขันในระดับสากลได้มากขึ้น แน่นอนว่าบริษัทในโครงการนำร่องล้วนได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ ต่อมา บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างให้เป็นรูปแบบการถือหุ้นเพื่อให้รัฐบาลได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด


 


กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางถือว่าเป็นกลุ่มของทุกหน่วยงานภายใต้สำนักงานเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดิน พวกเขารวมฟาร์มทั้งหมดที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของตนเพื่อจัดตั้งบริษัทนี้ สำนักงานสาขาภายใต้สำนักงานเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดินจัดตั้งบริษัทสาขาภายใต้พวกเขาอีกที บริษัทนี้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเป็นส่วนใหญ่


 


จีนลงทุนเงินจำนวนมากในบริษัทนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อบริษัทนี้สูงมาก แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทนี้เพิ่มรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ โดยเป็นบริษัทการเกษตรที่โดดเด่นที่สุดในประเทศจีนและเพิ่มการส่งออกของจีน


 


แต่การก่อตั้งของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางนั้นเกิดขึ้นหลังจากปี 1998 และเสร็จสมบูรณ์หลังจากปี 2000 ในระหว่างนั้น บริษัทได้ทำผิดพลาดหลายครั้ง เฝิงหยู่ค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นการก่อตั้งของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมมาก


 


นี่คือสิ่งที่แตกต่างออกไปจากเส้นทางเดิม ประวัติศาสตร์จะยังสามารถกลับไปสู่เส้นทางเดิมได้หรือเปล่า?


 


“ใครเป็นคนคิดชื่อนี้ครับ?” เฝิงหยู่ถาม


 


จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเลขาหลิว เลขาหลิวตอบอย่างอายๆ “ผมเป็นคนคิดเองครับ ผู้นำก็รู้สึกว่าชื่อนี้โอเค ผมคิดว่าจังหวัดหลงเจียงของเราจะเป็นยุ้งฉางขนาดใหญ่ที่สุดของจีนในอนาคต”


 


เฝิงหยู่ยกนิ้วให้เขา “ถูกต้องแล้วครับ เราจะประสบความสำเร็จ”


 


หลังจากนั้น เฝิงหยู่มองหน้าจางรุ่ยเฉียง จางรุ่ยเฉียงจะไม่โทรหาเฝิงหยู่เพื่อมาถามแค่คำถามพวกนี้ จะต้องมีอะไรอย่างอื่นแน่ๆ เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเขาต้องการร่วมงานกับบริษัทอาหารแปรรูปไท่หัว?


 


มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับรัฐบาล เฝิงหยู่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ที่สำคัญที่สุดคือใครจะเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินสูงสุดในกิจการร่วมค้านี้ ผู้มีอำนาจตัดสินใจที่ดีสามารถช่วยให้บริษัท หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นและเพิ่มผลกำไรได้ แต่ผู้นำที่ไม่มีความสามารถก็สามารถทำให้บริษัท ล้มละลายได้ในเวลาไม่นาน!


 


จางรุ่ยเฉียงเห็นเฝิงหยู่ไม่พูดอะไร เขาก็เลยพูดต่อ “เรากำลังคิดที่จะจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่ อย่างที่คุณบอกไว้ เราต้องการลงทุนในการเกษตรทุกด้าน เรายังมีแบรนด์ที่ดี เช่น เหล้าขาวเป่ยต้าฉางในจังหวัดของเรา ซึ่งมีประวัติอันยาวนาน นอกจากนี้ เรายังมีถั่วตราเปา แบรนด์นี้มีประวัติอันยาวนานหลายทศวรรษ และยังมีโรงงานนมผงอีกสองสามแห่งที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 10 ปี สำหรับผลิตภัณฑ์ข้าว เราก็มีข้าวอู่ฉาง ข้าวชนิดนี้ปลูกขึ้นเป็นพิเศษสำหรับจักรพรรดิในสมัยโบราณ ยังมีอีกสองสามแบรนด์ที่เราสามารถพัฒนาได้”


 


เฝิงหยู่พยักหน้า “แล้วไงต่อครับ?”


 


“แล้วก็……เราไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินการตามแผนนี้” จางรุ่ยเฉียงกล่าว


 


เฝิงหยู่มีความคิดเกี่ยวกับเงินทุนที่จำเป็นเอาไว้แล้วเมื่อจางรุ่ยเฉียงพูดถึงเรื่องแผนของรัฐบาล หากรัฐบาลระดับจังหวัดมุ่งเน้นไปที่แนวความคิดเดียว พวกเขาก็จะมีเงินทุนเพียงพอ แต่ถ้าจะดำเนินการทุกอย่างพร้อมกัน เงิน 10,000 ล้านหยวนอาจจะยังไม่พอเลยก็ได้


 


เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเริ่มต้นขึ้นได้ยังไง? พวกเขาปล่อยให้ฟาร์มเข้ามาร่วมลงทุนด้วยและให้หน่วยงานและสำนักงานต่างๆ เป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท ทั้งหมดนี้ทำให้สามารถต่อกั้งบริษัทมูลค่าหลายพันล้านหยวนได้ ซึ่งมียอดขายมากกว่าแสนล้านหยวนต่อปี


 


สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของฟาร์มของรัฐคืออะไร? ที่ดิน เกษตรกร และพืชผล นั่นหมายความว่ากลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางมีวัตถุดิบเป็นของตัวเอง นี่คือสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัท


 


หากไม่มีฟาร์ม บริษัทอาจไม่สามารถเติบโตได้ การลงทุนเงิน 10,000 ล้านหยวนอาจไม่เพียงพอในการจัดตั้ง บริษัทนี้ในขณะนี้ แม้ว่าเงินนี้จะเพียงพอ แต่การเติบโตก็จะไม่เหมือนกับเมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เพราะจะมีความเสี่ยงสูงมากเกินไป และเฝิงหยู่ก็ไม่อยากลงทุนด้วย


 


“คุณโทรหาผมเพื่อขอให้ผมลงทุนในบริษัทนี้งั้นหรอ? คุณพูดถึงหลายอุตสาหกรรมก่อนหน้านี้ หากคุณอยากดำเนินการทุกอย่างพร้อมกัน เงิน 10,000 ล้านอาจไม่พอ คุณวางแผนที่จะใช้ขนาดของธุรกิจเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัท แต่ถ้าคุณเพิ่มขนาดธุรกิจ คุณจะต้องเพิ่มเงินลงทุนของคุณด้วย นอกจากนี้ พวกคุณวางแผนที่จะใช้แผนทั้งหมดนี้พร้อมกัน ความเสี่ยงมันจะสูงเกินไป ผมจะไม่ลงทุนใน บริษัทนี้แน่นอน” เฝิงหยู่ส่ายหน้า


 


จางรุ่ยเฉียงตกใจ “คุณเป็นคนแนะนำเรื่องนี้เอง แล้วทำไมคุณถึงบอกว่ามีความเสี่ยงสูงเกินไปล่ะ? คุณกำลังโกหกเราตอนที่เสนอแนะเรื่องนี้งั้นหรอ?”


 


เลขาหลิวพูดเสริม “ผู้จัดการเฝิงครับ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับผู้นำ คุณไม่ควรล้อเล่นนะครับ”


 


เฝิงหยู่พยายามกลั้นหัวเราะ “ทำไมพวกคุณถึงวิตกกังวลมากขนาดนั้นล่ะครับ? ผมบอกว่าผมจะไม่ลงทุน แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่มีทางออกให้คุณสักหน่อย ที่จริงแล้วทางออกก็อยู่ตรงหน้าคุณนั่นแหละ”


 


จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเลขาหลิว ทางออกอยู่ตรงหน้าพวกเขางั้นหรอ? แล้วทำไมพวกเขาถึงยังไม่เห็นคำตอบเลยล่ะ?


 


เฝิงหยู่ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่แผนที่บนผนัง เขาชี้ไปที่แผนที่ของหลงเจียงและโบกมือให้พวกเขา “มาดูนี่สิครับ อะไรคือความแตกต่างระหว่างตรงนี้ที่เราอยู่กับจังหวัดอื่นๆ?”


 


จางรุ่ยเฉียงถาม “ที่ดินของเรามีการปรับยกระดับมากกว่าและมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าจังหวัดอื่นงั้นหรอ?”


 


เฝิงหยู่ส่ายหน้าแล้วมองไปที่เลขาหลิว เลขาหลิวมองดูแผนที่และพูดว่า “เป็นเพราะประวัติของเราและเรามีฟาร์มมากกว่าจังหวัดอื่นๆ หรอครับ?”


 


“ถูกต้องครับ! ความแตกต่างอย่างมากที่สุดระหว่างจังหวัดของเรากับที่อื่นๆ ก็คือฟาร์ม”


 


“แล้วฟาร์มมีประโยชน์อะไร? ฟาร์มอยู่ภายใต้เขตอำนาจของสองแผนก และผลกำไรส่วนใหญ่ก็จะถูกส่งมอบให้กับผู้นำระดับสูง รัฐบาลระดับจังหวัดได้รับเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แทบจะไม่ถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดของเราเลยด้วยซ้ำ” จางรุ่ยเฉียงตอบด้วยความโกรธ


 


“พวกคุณอยากจัดตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเพื่อให้จังหวัดรักษาผลกำไรจากฟาร์มไม่ใช่หรอ? งั้นผมจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ให้คุณ พวกคุณไม่เพียงแต่จะรักษาผลกำไรส่วนใหญ่ภายในจังหวัดได้เท่านั้น แต่ยังจะได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับสูงด้วย” เฝิงหยู่ตอบอย่างมั่นใจ


 


ดวงตาของจางรุ่ยเฉียงเบิกโต เป้าหมายของพวกเขาดูออกได้อย่างชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ? แต่พวกเขาทุกคนรวมหัวกันตั้งนาน แต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้ ทำไมเฝิงหยู่จึงมีความมั่นใจขนาดนั้น? คำตอบของเขาจะได้ผลอย่างแน่นอนจริงหรอ?


 


“ฟาร์มมีคุณค่าอะไรมากที่สุด? นอกเหนือจากผลผลิตเก็บเกี่ยวและพืชผล ฟาร์มไม่มีคุณค่าอื่นใดเลย ฟาร์มเป็นเพียงสถานที่ผลิตวัตถุดิบ ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าผลกำไรจากการผลิตวัตถุดิบนั้นต่ำกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุแปรรูป ดูอย่างน้ำมันระดับพรีเมี่ยมไท่หัวสิครับ ส่วนผสมหลักคือถั่วเหลืองและกากที่เหลือก็ถูกนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้อย่างมาก และน้ำมันปรุงอาหารของเราก็ขายในราคาที่สูงขึ้นได้ ยอดขายของเราทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น”


 


“ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะทำ” จางรุ่ยเฉียงตอบ เฝิงหยู่พูดแบบนี้ต้องการหมายถึงอะไร?


 


“ปัญหาของคุณคือเงินทุน พวกคุณมีเงินทุนที่จะจัดตั้งโรงงานแปรรูปอยู่แล้ว แต่มีเงินไม่พอที่จะซื้อวัตถุดิบงั้นหรอ? ในอีกมุมหนึ่ง เกษตรกรในฟาร์มของรัฐต้องส่งมอบผลผลิตเก็บเกี่ยวส่วนหนึ่งให้กับรัฐบาล และพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้พวกคุณทุกคนเอาผลผลิตเก็บเกี่ยวที่เหลือไปใช้ประโยชน์หรอก พวกเขาไม่ไว้ใจรัฐบาลท้องถิ่น”


 


แม้ว่าจางรุ่ยเฉียงไม่อยากจะยอมรับเรื่องนี้ แต่เกษตรกรพวกนั้นจะยอมรับเงื่อนไขสินเชื่อจากนักธุรกิจมากกว่ารัฐบาลแน่นอน


 


“ทางออกง่ายๆ เลยก็คือให้เกษตรกรพวกนั้นมาร่วมลงทุนในบริษัทด้วย!”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม