Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น 694-700

 EG บทที่ 694 คนโง่ที่ร่ำรวย 1


 


เฝิงหยู่กลับมาที่ปักกิ่งหลังจากที่เขาจัดการเรื่องลงทุนทั้งหมดแล้วเพราะว่าเขาต้องเข้าสอบ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของเขาแล้วเพราะตระกูลฟู่จะช่วยคอยติดตามและตรวจสอบตลาดให้เขา เมื่อถึงราคาที่เหมาะสม ทุกคนจะขายหุ้นทิ้งพร้อมกันหมด


 


ตระกูลที่มีอิทธิพลของฮ่องกงหลายตระกูลร่วมมือกันทำเงินจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เป้าหมายของพวกเขาคือบริษัทญี่ปุ่นพวกนั้นและนี่ก็เป็นความคิดของเฝิงหยู่


 


เฝิงหยู่อยากเห็นว่าตระกูลพวกนี้มีอำนาจมากขนาดไหนเมื่อมารวมพลังกัน นอกจากนี้ เขายังอยากรู้ว่าตระกูลพวกนี้เต็มใจที่จะลดความแค้นของพวกเขาที่มีต่อกันเพื่อผลกำไรหรือไม่ เขาไม่ต้องการให้ตระกูลพวกนี้สร้างปัญหาในช่วงที่ฮ่องกงกลับคืนสู่ประเทศจีนในอีก 2 ปีข้างหน้า


 


จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกอย่างดูเหมือนจะดี อาจเป็นเพราะตระกูลฟู่หรือตระกูลหลี่เข้าร่วมในการดำเนินการครั้งนี้ก็ได้ หรือบางทีทุกคนสนใจที่จะทำเงินและกำลังอารมณ์ดีกัน โดยรวมแล้วทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้


 


ตอนนี้เฝิงหยู่มีเป้าหมายใหม่ เขากำลังจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!


……


 


วิกเตอร์ ผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของไฟเซอร์ในประเทศจีนอยู่ในเขตวิลล่าแห่งใหม่ในเมืองเหลียนกัง เขากำลังรอเจ้านายใหญ่อยู่ คนที่มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศจีน เจ้านายใหญ่คนนี้มาพร้อมกับการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง


 


วิกเตอร์เคยได้ยินชื่อของเจ้านายใหญ่คนนี้ แต่เขาไม่เคยเจอเขามาก่อน เขาได้ยินมาว่าเจ้านายใหญ่คนนี้มีไม่ค่อยทำตัวให้เป็นที่รู้จักมากนัก และไม่เคยปรากฏตัวทางโทรทัศน์หรือมีภาพที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์มาก่อน มีข่าวลือว่าภาพของบุคคลนี้เคยปรากฏในนิตยสารฮ่องกงสองสามฉบับ แต่ข่าวนี้ก็อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้


 


ไฟเซอร์เข้าสู่ประเทศจีนมาสักระยะหนึ่งแล้ว จากจุดเริ่มต้นของยุค 80 ไฟเซอร์เริ่มขายยาในประเทศจีน ประมาณปลายยุค 80 พวกเขาจัดตั้งโรงงานเภสัชกรรมที่ทันสมัยในเมืองเหลียนกัง ประเทศจีน และที่นี่ก็เป็นสำนักงานใหญ่ของไฟเซอร์ในประเทศจีนด้วย


 


สองปีต่อมา ไฟเซอร์จัดตั้งโรงงานอีกแห่งในซูโจว โรงงานแห่งใหม่นี้ผลิตยาประเภทเสริมโภชนาการด้วย


 


หลังจากที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมถูกระงับในช่วงสองปีที่ผ่านมา ยาประเภทเสริมโภชนาการก็ขายดี ยาเสริมโภชนาการที่ “นำเข้า” ของไฟเซอร์ก็ขายดีเช่นกัน วิกเตอร์ได้ยินมาว่าเจ้านายใหญ่คนนี้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด


 


คนที่มีอิทธิพลต่อทั้งประเทศได้ แม้แต่ไฟเซอร์ก็ไม่สามารถทำได้! มีข่าวลือว่าในประเทศจีนมี “ตระกูลนักการเมือง” จำนวนมาก บุคคลนี้อาจมาจากหนึ่งในครอบครัวนั้นหรือเปล่า?


 


เมื่อวิกเตอร์เริ่มทนไม่ไหวที่จะรอ เขาก็เห็นรถยนต์สองสามคันกำลังแล่นเข้ามาใกล้วิลล่าของเขา รถพวกนี้คือรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศจีน ซึ่งก็คือรถยนต์ซงเจียง แต่รถยนต์คันที่อยู่ตรงกลางเป็นรุ่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประเทศจีน


 


รถจอดนิ่งและผู้ชายหลายสิบคนในชุดสูทสีดำก็ลงจากรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พวกเขามองไปรอบๆ และหนึ่งในนั้นก็หยิบวิทยุสื่อสารออกมาและตะโกนออกมาว่า “ปลอดภัย!”


 


คนขับรถคันกลางลงจากรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เขาใช้มือของเขากันหลังคารถให้และก็มีขาก้าวลงมาจากรถพร้อมกับรองเท้าหนังเงาวับ


 


การแต่งตัวของบุคคลนี้เป็นเหมือนเจ้านายใหญ่จริงๆ ไม่มีรอยย่นแม้แต่นิดเดียวบนกางเกงของเขาเลย


 


แต่เมื่อวิกเตอร์เห็นใบหน้าของบุคคลนั้น เขาก็ตกตะลึง ทำไมคนนี้ถึงยังดูเด็กมาก เจ้านายใหญ่คนนี้ควรเป็นชายชราไม่ใช่หรอ? แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขาก็ควรเป็นชายวัยกลางคน คนๆ นี้เดินลงจากรถคันกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ด ดูเหมือนว่าเขาจะอายุประมาณ 20 ปี


 


บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังเฝิงหยู่ช่วยสวมเสื้อคลุมตัวยาวให้เขา และเฝิงหยู่ค่อยเดินตรงไปหาวิกเตอร์


 


วิกเตอร์รีบเดินไปหาเฝิงหยู่ทันทีพร้อมกับยืดมือทั้งสองออกไป เขากลัวว่าถ้าเขาเข้าไปหาช้าเฝิงหยู่ช้า เฝิงหยู่อาจจะคิดว่าเขาหยาบคายก็ได้ เขาเคยได้ยินว่าคนจีนพูดมาเยอะเกี่ยวกับเรื่องของการ “มีหน้ามีตา” และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดในประเทศจีนต้องการที่จะ “มีหน้ามีตา” แต่นี่เป็นการนัดเจอทั่วไปครั้งแรกเท่านั้น จำเป็นต้องแสดงท่าทางโก้หรูขนาดนี้เลยหรอ?


วิกเตอร์เคยได้ยินมาว่าบริเวณวิลล่าแห่งนี้เป็นของเจ้านายใหญ่คนนี้ ในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องปกติที่คนร่ำรวยจะซื้อวิลล่า แต่เขาไม่เคยเห็นใครซื้อพื้นที่วิลล่าทั้งหมดแบบนี้ พื้นที่วิลล่าทั้งหมดใหญ่กว่าอสังหาริมทรัพย์ที่นักธุรกิจร่ำรวยและมีอำนาจมากหลายรายเป็นเจ้าของเสียอีก


 


คนประเภทนี้จะต้องได้รับความเคารพในระดับหนึ่ง นี่คือสิ่งที่วิกเตอร์ได้เรียนรู้ในช่วงปีที่ผ่านมาในประเทศจีน หากเขาทำให้อีกฝ่าย “มีหน้ามีตา” พวกเขาก็จะสามารถเข้ากันได้ดีและการเจรจาจะราบรื่นขึ้น


 


“สวัสดีครับคุณเฝิง ฉันวิกเตอร์ครับ” วิกเตอร์พูดภาษาจีนกลางที่มีสำเนียงแปลกๆ


 


“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณวิกเตอร์ ข้างนอกนี่หนาวนะครับ คุณไม่จำเป็นต้องออกมารับผมข้างนอกก็ได้ เราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะครับ” เฝิงหยู่หัวเราะและตอบเป็นภาษาจีนกลาง


 


ใช่แล้ว ตัวตนของเฝิงหยู่ในตอนนี้คือคนที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย


 


เมื่อเห็นว่าเฝิงหยู่พูดอย่างสุภาพกับเขา วิกเตอร์ก็โล่งใจ เขาน่าจะเข้ากับคนๆ นี้ได้ง่าย


 


“คุณเฝิงครับ ผมได้ยินมาว่าคุณขอให้ผมมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทางธุรกิจใช่มั้ยครับ?” วิกเตอร์ถาม หลังจากดินเข้ามาในวิลล่า พนักงานของคุณเฝิงติดต่อเขามาและบอกว่าคุณเฝิงสนใจที่จะพูดคุยเรื่องข้อตกลงทางธุรกิจกับเขา หากเขาสามารถเป็นตัวแทนของไฟเซอร์และตกลงตามข้อตกลงนี้ เขาอาจถูกส่งตัวกลับไปยังสหรัฐอเมริกาและไม่จำเป็นต้องอยู่ไกลบ้านอีกต่อไป


 


มาตรฐานความเป็นอยู่ในประเทศจีนตอนนี้ยังห่างไกลจากสหรัฐอเมริกาอยู่มาก นอกจากนี้ ครอบครัวของวิกเตอร์ก็ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาและเขาก็คิดถึงภรรยาและลูกๆ ของเขามากๆ


 


เฝิงหยู่เลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “ถูกต้องแล้วครับ ผมมีข้อตกลงทางธุรกิจมาพูดคุยกับคุณ ซึ่งน่าจะเป็นข้อตกลงทางธุรกิจสำหรับไฟเซอร์”


 


วิกเตอร์ตื่นเต้นมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด หากข้อตกลงนี้เกี่ยวข้องกับไฟเซอร์ นั่นหมายความว่าก็น่าจะเป็นข้อตกลงที่คุ้มค่ามาก ดูจากวิธีการพูดและท่าทางของเฝิงเหยู่ เขาบอกได้ว่าเฝิงหยู่เป็นคนที่มีอิทธิพลและพลังมากอย่างแน่นอน


 


“ข้อตกลงอะไรหรอครับ? คุณคิดจะจัดตั้งโรงงานเภสัชกรรมร่วมทุนกับเราหรือเปล่า?” ไฟเซอร์ได้ตั้งโรงงานในประเทศจีนแล้ว และพวกเขาจำเป็นต้องกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ของเขา เฝิงหยู่น่าจะรู้ว่าการฝากขายสินค้าของไฟเซอร์นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และการหารือนี้น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงงานร่วมทุน


 


มีนักธุรกิจหลายคนในประเทศจีนที่ร่ำรวย แต่ไม่มีเทคโนโลยี ส่วนใหญ่ชอบลงทุนในกิจการร่วมค้ากับบริษัทต่างประเทศ นักธุรกิจหลายคนเข้าหาวิกเตอร์ก่อน แต่ก็ถูกปฏิเสธหมด เป็นเพราะนักธุรกิจพวกนั้นไม่มีอำนาจมากพอ ไฟเซอร์จะไม่ร่วมงานกับนักธุรกิจธรรมดา หากพวกเขากำลังมองหาคู่ค้าทางธุรกิจ และคู่ค้าคนนั้นก็ต้องเป็นบริษัทที่โดดเด่นที่สุดของจีนด้วย!


 


จากสิ่งที่วิกเตอร์รับทราบมา เฝิงหยู่คนนี้เป็นนักธุรกิจที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาและสอดคล้องกับข้อกำหนดที่กำหนดโดยสำนักงานใหญ่ของบริษัท คงจะดีมากถ้าเฝิงหยู่ยังมีผู้หนุนหลังทางการเมืองอยู่บ้างด้วย


 


เฝิงหยู่ส่ายหน้า “โรงงานร่วมทุนหรอ? ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ผมมีโรงงานเภสัชกรรมของตัวเองอยู่แล้วและก็ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนด้วย ผมไม่ได้ร้อนเงินและไม่จำเป็นที่ผมจะต้องจัดตั้งกิจการร่วมค้ากับคนอื่น”


 


ดวงตาของวิกเตอร์เบิกกว้าง คนนี้เป็นเจ้าของโรงงานเภสัชกรรมาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนด้วยหรอ? เป็นบริษัทเภสัชกรรมเซี่ยงไฮ้หรือว่าบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงกันนะ?


 


“คุณเฝิงครับ โรงงานของคุณคือโรงงานไหนครับ?”


 


“บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง ผมเข้าซื้อกิจการและปรับโครงสร้างโรงงานแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว ยอดขายก็ยังคงไปได้สวยในตอนนี้ ผลิตภัณฑ์ของเราจะถูกส่งออกไปยังประเทศตะวันตก เราจะเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมของจีนเร็วๆ นี้อย่งแน่นอนครับ” เฝิงหยู่ตอบกลับด้วยความภาคภูมิใจ


 


“ในเมื่อคุณเฝิงไม่สนใจที่จะจัดตั้งโรงงานร่วมทุนกับเรา แล้วเราจะร่วมมือกันเรื่องอะไรครับ?” วิกเตอร์ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังบนใบหน้าของเขาได้ พวกเขาจะคุยเรื่องอื่นนอกเหนือจากเรื่องกิจการร่วมทุนได้อย่างไร?


 


“ผมไม่ได้บอกว่าเราจะร่วมมือกันซะหน่อย ผมแค่อยากจะถามเกี่ยวกับสูตรยาที่ได้รับสิทธิบัตรของไฟเซอร์ ผมได้ยินมาว่าไฟเซอร์มีสิทธิบัตรยาจำนวนมาก คุณช่วยขายบางส่วนให้เราได้ไหม? ผมยินดีจ่ายราคาแพงให้เลย!” เฝิงหยู่กล่าวและโบกมือของเขา เขาพยายามแสดงให้เห็นว่าเขาร่ำรวยมาก


 


อะไรนะ? คุณเฝิงคนนี้ต้องการซื้อสิทธิบัตรของไฟเซอร์งั้นหรอ?


EG บทที่ 695 คนโง่ที่ร่ำรวย 2


 


ไฟเซอร์เป็นหนึ่งในบริษัทเภสัชกรรมชั้นนำของโลก แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็เหมือนกับ บริษัทเภสัชกรรมชั้นนำรายอื่นๆ โดยก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ผ่านมา ซี่งเริ่มต้นจากโรงงานเคมีขนาดเล็กและจากนั้นก็เข้าร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม ในระหว่างช่วงสงครามกลางเมือง พวกเขาเจริญรุ่งเรืองมากและกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเภสัชกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา


 


ต่อมา มีการค้นพบยาปฏิชีวนะและไฟเซอร์ก็เริ่มทำการวิจัย ไฟเซอร์ค่อยๆ เติบโตขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในบริษัท ชั้นนำด้านยาปฏิชีวนะ


 


นี่เป็นช่วงเวลาประมาณสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น ไฟเซอร์เริ่มจัดหายาเพนิซิลลินในราคาต่ำให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกา และต่อมาก็กลายเป็นซัพพลายเออร์เพนิซิลลินรายใหญ่ที่สุดในช่วงสงคราม ซึ่งส่งผลให้บริษัทยิ่งเติบโตมากขึ้น


 


หลังจากนั้นไฟเซอร์ก็พัฒนาออกซิเตตราไซคลีน เตตราไซคลีน และไพร็อกซิแคมได้สำเร็จ ยาทั้งหมดนี้นำผลกำไรสูงมาสู่บริษัท


 


ปัจจุบันนี้ยาออกซิเตตราไซคลีน เตตราไซคลีน และอื่นๆ ของประเทศจีนส่วนใหญ่ผลิตโดยไฟเซอร์ เตตราไซคลีน มีราคาถูกและมีประสิทธิภาพ และกลายเป็นยาที่ใช้กันทั่วไปในประเทศจีน สิ่งนี้ยังส่งผลให้คนที่ได้รับยานี้มีฟันสีเหลืองดำด้วย


 


ไฟเซอร์เห็นผลประโยชน์ของการพัฒนายา จึงใช้เงินทุนในการวิจัยและพัฒนายามากขึ้น พวกเขามุ่งเน้นยาที่จำเป็นจะต้องใช้ในปริมาณมากทั่วโลก


 


ตัวอย่างเช่น ยารักษาความดันโลหิต ยาลดคลอเลสเตอรอล ยาแก้ปวด และยาแก้อักเสบ พวกเขายังผลิตยาปฏิชีวนะและยาต้านมะเร็งที่ทันสมัยที่สุดด้วย


 


ไฟเซอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดี พวกเขาพัฒนายาใหม่อย่างต่อเนื่องและยาใหม่ทุกตัวก็สร้างผลกำไรจำนวนมากให้กับ บริษัท


 


ที่ไฟเซอร์สามารถกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเภสัชกรรมชั้นนำได้นั้นก็เพราะว่าพวกเขามียาที่จดสิทธิบัตรจำนวนมาก ความคุ้มครองสำหรับยาและยารักษาโรคคือ 20 ปี ภายใน 20 ปีนี้ ไฟเซอร์สามารถได้รับผลตอบแทนสูงจากการขายยาพวกนี้ได้ แม้ว่าจะผ่านปีที่ได้รับความคุ้มครองมาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำกำไรได้สูงเนื่องจากพวกเขาผลิตยาพวกนี้อย่างสมบูรณ์แบบและสามารถผลิตได้ในปริมาณมาก


 


ประกอบกับแบรนด์และชื่อเสียงของไฟเซอร์ จึงทำให้ยาของพวกเขาขายดีมาก


 


ตอนนี้ คุณเฝิงต้องการซื้อสิทธิบัตรของพวกเขางั้นหรอ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าไฟเซอร์ยอมขายสิทธิบัตรของพวกเขา เว้นแต่ว่าความคุ้มครองสิทธิบัตรใกล้จะหมดอายุแล้ว


 


“คุณเฝิงครับ ผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้เพราะสิทธิบัตรเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเรา” วิกเตอร์ตอบ


 


เฝิงหยู่แสดงท่าทีไม่พอใจ “สินทรัพย์ควรถูกขายเพื่อสร้างผลกำไร คุณยังไม่ได้ฟังข้อเสนอของผมเลย คุณรู้ได้ยังไงว่าบริษัทของคุณจะไม่เห็นด้วย? อีกอย่าง พวกคุณก็ยังไม่ได้ขายสูตรยาที่จดสิทธิบัตรมาก่อนไม่ชาหรอ?”


 


สิ่งที่เฝิงหยู่พูดนั้นเป็นความจริง การพัฒนายาและการยื่นขอสิทธิบัตรนั้นเป็นการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอ้างว่ายานั้นเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติเลย หากพวกเขาสามารถขายสิทธิบัตรได้ในราคาที่สูง พวกเขาก็จะทำ


 


แต่ยาของไฟเซอร์นั้นทำกำไรได้มากและเป็นที่ต้องการทั่วโลก ทำไมพวกเขาจะต้องขายสูตรยาพวกนี้ที่จดสิทธิบัตรแล้วให้คนอื่นด้วยล่ะ?


 


อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถขายการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรพวกนี้ได้ หากวิกเตอร์สามารถต่อรองค่าธรรมเนียมในการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรพวกนี้ได้ บริษัทอาจให้รางวัลกับเขาบ้าง เขาไม่ต้องการผลตอบแทนที่เป็นตัวเงิน เขาแค่อยากถูกส่งตัวกลับไปยังสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เขาอยากกลับไปอยู่กับครอบครัวของเขา


 


“เรายังไม่เคยขายสูตรยาที่จดสิทธิบัตรของเรามาก่อน แต่เมื่อก่อนเราเคยอนุญาตให้บริษัทอื่นผลิตยาของเรา หากคุณเฝิงต้องการสิทธิ์อนุญาตแบบนั้น เราก็สามารถคุยกันได้ครับ” วิกเตอร์ตอบ


 


สิทธิ์อนุญาตหรอ? ทำแบบนั้นไปไม่มีผลกำไรสักหน่อย ผลกำไรส่วนใหญ่จะถูกไฟเซอร์เอาไปหมด บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงก็มีแผนกวิจัยและพัฒนาของตัวเองและมีนักวิจัยชั้นแนวหน้าหลายคน ไม่จำเป็นต้องซื้อสิทธิ์อนุญาตจากไฟเซอร์เลย


 


เฝิงหยู่สนใจยาชนิดหนึ่งที่ไฟเซอร์กำลังพัฒนาอยู่ ยานี้มี “ผลข้างเคียง” ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ายาซิลเดนาฟิล!


 


นี่เป็นยาตัวใหม่ที่ไฟเซอร์ยังคงพัฒนาอยู่ ซึ่งควรจะนำไปใช้รักษาอาการเจ็บหน้าอก การแข็งตัวของเลือดและความดันโลหิตต่ำ แต่หลังจากที่มีการพัฒนายานี้แล้ว ผลลัพธ์จากการทดลองทางคลินิกกลับน่าผิดหวัง


 


สรุปแล้วยานี้ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะใช้ไม่ได้ผลและจะไม่มีการวางจำหน่ายด้วย


 


แต่นักวิจัยค้นพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกหลายคนแอบเก็บยานี้เอาไว้ นักวิจัยสองสามคนพยายามใช้ยานี้ด้วยตนเองและพบว่า “ผลข้างเคียง” ของยานี้สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้


 


ดังนั้นนักวิจัยจึงเปลี่ยนทิศทางของการวิจัยและทำให้ยานี้กลายเป็นยารักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ  มีการรายงานเรื่องนี้แก่หัวหน้าระดับสูงของไฟเซอร์ และไฟเซอร์ทำการวิจัยตลาดสำหรับยานี้มากกว่า 3 ปี


 


จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ตอนที่เริ่มมีการทดลองทางคลินิก ผลลัพธ์ของการทดลองนั้นยอดเยี่ยมมาก ผู้เข้าร่วมมากกว่า 80% มีสมรรถภาพที่ดีขึ้นหลังจากทานยานี้


 


มียาที่คล้ายกันหลายตัวในตลาด แต่ยาพวกนั้นต้องถูกฉีดเข้าไปในร่างกายและก็ไม่ได้ผลมากขนาดนั้น ใครเขาจะอยากเจ็บตัวด้วยการฉีดยาก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน? แค่ฟังก็หมดอารมณ์แล้ว


 


เฝิงหยู่ได้ส่งลูกน้องของเขาไปติดต่อไฟเซอร์และถามว่าเขาสามารถซื้อสูตรสำหรับยานี้ได้หรือไม่ แต่เขาพบว่าไฟเซอร์เริ่มทำการทดลองยานี้แล้ว นั่นหมายความว่ามันสายเกินไปแล้วที่เขาจะซื้อสูตรยานี้


 


ไฟเซอร์เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อสูตรด้วยเงิน แม้ว่าเฝิงหยู่จะเสนอข้อเสนอราคาสูง แต่ไฟเซอร์ก็ปฏิเสธเขา ไฟเซอร์สามารถขายสิทธิ์อนุญาตให้ได้ แต่ไม่ใช่สิทธิบัตร


 


เฝิงหยู่ไม่พอใจกับการได้เพียงแค่สิทธิ์อนุญาต เขาต้องการมากกว่านั้น เขาอยากเป็นเจ้าของสิทธิบัตรของยานี้ แต่มันก็เป็นเรื่องยาก เขาทำได้เพียงแค่วางกับดักเท่านั้น


“วิกเตอร์ คุณคิดว่าผมเป็นคนที่จะยอมจ่ายค่าสิทธิ์อนุญาตหรอ? สิ่งที่ผมต้องการคือการซื้อสูตร สูตรยาที่สามารถรักษาโรคบางอย่างได้ ซึ่งไม่สำคัญว่าจะเป็นโรคอะไร จะเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปก็ได้ ผมไม่ใช่คนเลือกมาก ผมมั่นใจว่าบริษัทของคุณจะพึงพอใจกับข้อเสนอของผม” เฝิงหยู่พูด


 


เฝิงหยู่รู้เพียงแค่ว่าซิลเดนาฟิลเป็นสารต้านฟอสโฟไอเอสเทอเรส (ต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ) เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ มีซิลเดนาฟิลมากกว่าหนึ่งประเภท มียาที่คล้ายกันอย่างน้อยสองประเภท เฝิงหยู่เพียงแค่ต้องซื้อสูตรสำหรับสารต้านฟอสโฟไอเอสเทอเรสเท่านั้น จากนั้นส่วนที่เหลือของการวิจัยก็จะเป็นเรื่องง่ายเมื่อเขาได้สูตรนี้มา


 


ถ้ามีสูตรสำหรับสารต้านฟอสโฟไอเอสเทอเรส เฝิงหยู่มั่นใจว่าบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงจะสามารถเปิดตัวซิลเดนาฟิลได้เร็วกว่าไฟเซอร์ นั่นเป็นเพราะจีนไม่เข้มงวดเท่ากับสหรัฐอเมริกา เมื่อบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงกลายเป็นเจ้าแรกในโลกที่ผลิตยามหัศจรรย์นี้ ยอดขายของยานี้จะดีกว่าบริษัทอื่นๆ อย่างแน่นอน


 


เมื่อวิกเตอร์ได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปหรอ? นั่นหมายความว่าไฟเซอร์สามารถขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ของพวกเขาให้เฝิงหยู่ได้อย่างนั้นหรอ?


 


คุณเฝิงร่ำรวยมาก แต่เขาก็เป็นคนโง่ หากเขาซื้อสูตรกึ่งสำเร็จทั้งหมดจริงๆ ต้นทุนของบริษัทจะลดลง วิกเตอร์จะช่วยไฟเซอร์ได้มาก


 


วิกเตอร์น่าจะสามารถทำเรื่องขอย้ายกลับไปยังสหรัฐอเมริกาได้ด้วยความดีความชอบครั้งนี้


 


“คุณเฝิงครับ ถ้าคุณสนใจในผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปของเรา ผมสามารถช่วยคุณถามสำนักงานใหญ่ให้ได้ครับ”


EG บทที่ 696 วิกเตอร์ผู้กระตือรือร้น 1


 


คืนนั้นเฝิงหยู่ให้วิกเตอร์พักที่วิลล่าของเขาและบอกเขาว่าถ้าเขาชอบที่นี่ เขาสามารถเลือกวิลล่ามาหนึ่งหลังได้ และเฝิงหยู่จะมอบวิลล่าให้เขาฟรีๆ


 


วิกเตอร์ถึงกับตะลึง ถ้าเขาสามารถเป็นเจ้าของวิลล่าได้ที่นี่ มันจะยอดเยี่ยมมาก พื้นที่ของวิลล่าแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเล และยังอยู่ในเมืองเหลียนกังด้วย สำนักงานใหญ่ในประเทศจีนของไฟเซอร์ก็อยู่ในเมืองเหลียนกังเช่นกัน


 


ชาวจีนหลายคนจะรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างไกล แต่สำหรับชาวอเมริกัน พวกเขาเคยชินกับการอยู่อาศัยในแถบชานเมืองที่มีคนน้อยกว่า พวกเขาชอบบริเวณที่เงียบสงบมากกว่า แถมยังมีทัศนียภาพที่ดีด้วย พวกเขาไม่ชอบที่จะถูกคนอื่นรบกวน


 


อย่างไรก็ตาม วิกเตอร์มีรถยนต์หนึ่งคัน แม้ว่าเขาจะต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเดินทางไปที่สำนักงานของเขา แต่เขาก็โอเคกับเรื่องนี้ หากเขาสามารถอยู่ในวิลล่าแห่งนี้ได้ เขาก็สามารถขอให้ครอบครัวของเขามาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ได้ ลูกๆ ของเขาชอบเล่นหิมะในฤดูหนาว


 


นอกจากนี้ ถ้าวิกเตอร์สามารถยืนยันข้อตกลงนี้ได้ เขาจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าวิลล่าแห่งนี้เสียอีก แม้ว่าวิลล่าในจีนแห่งนี้ยอดเยี่ยมก็จริง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับบ้านของเขาในสหรัฐอเมริกา เขาจะได้รับรางวัลอย่างงามและย้ายไปที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา เขายังสามารถเปลี่ยนไปใช้รถที่ดีกว่านี้สำหรับครอบครัวของเขาได้ด้วย


 


ในตอนกลางคืน เฝิงหยู่เตรียมงานเลี้ยงสำหรับวิกเตอร์ วิกเตอร์ไม่เคยเห็นเมนูอาหารที่เสิร์ฟในงานเลี้ยงนี้มาก่อน เขาได้ยินมาว่าอาหารพวกนี้เป็นสิ่งที่จักรพรรดิเสวยเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขาชอบรสชาติของอาหารส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ไวน์ที่พวกเขาดื่มก็ถูกกลั่นมาโดยใช้เทคนิคที่สืบทอดมาหลายพันปีเช่นกัน


 


คืนนั้นวิกเตอร์นอนไม่หลับและพลิกตัวไปมาทั้งคืน เขาตื่นเต้น ไม่ใช่เพราะว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือเป็นรางวัล แต่เป็นเพราะหลังจากดื่มไวน์ น้องชายเขาก็แข็งตัวทั้งคืน!


 


มีอะไรอยู่ในไวน์นั่นกันแน่? ทำไมมันถึงมีฤทธิ์แบบนี้? วิกเตอร์ไม่ได้ถูกกระตุ้น แต่เขากลับมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้ยังไง?


 


ไวน์ในช่วงงานเลี้ยงเป็นไฮไลต์ เฝิงหยู่ต้องการให้วิกเตอร์คิดว่ายาวิเศษของพวกเขานั้นแทบไม่มีความหมายในประเทศจีนเลย ชาวจีนได้คิดค้นยานี้มาหลายพันปีก่อนหน้านี้แล้ว


 


วิกเตอร์ได้นั่งรถซงเจียงรุ่นล่าสุดของเฝิงหยู่กลับไปที่สำนักงานของเขา เขาประทับใจมาก รถคันนี้สบายสุดๆ สามารถเล่นภาพยนตร์ในรถได้ด้วย! รถคันนี้ราคาเท่าไหร่กัน?


 


ปัจจุบันนี้ จอแสดงผล LCD นำไปใช้เฉพาะในแล็ปท็อปเท่านั้น และแล็ปท็อปส่วนใหญ่จะติดตั้งไดรฟ์ซีดีรอม เฝิงหยู่ใช้ไดรฟ์ดีวีดีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการติดตั้งในรถยนต์เท่านั้น


 


รถยนต์ทั่วไปส่วนใหญ่จะติดตั้งวิทยุ รถยนต์ราคาแพงขึ้นมาจะมีการติดตั้งเครื่องเล่นเทป รถที่เฝิงหยู่มอบให้กับนายท่านลู่นั้นก็ได้รับการติดตั้งเครื่องเล่นเทป


 


รถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่นี้มีการติดตั้งไดรฟ์ดีวีดีและหน้าจอ LCD แม้ว่าต้นทุนการผลิตของอุปกรณ์พวกนี้จะสูงมาก แต่ก็ช่วยเพิ่มมูลค่าของรถยนต์นี้ได้เป็นอย่างดี รถคันนี้จัดอยู่ในประเภทของรถยนต์หรูหรา


 


รถยนต์ต้นแบบเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด แต่ก็จะไม่ได้มีการผลิตเป็นจำนวนมากและการตกแต่งภายในก็สามารถติดตั้งอุปกรณ์หรูหราทุกประเภทได้ นอกจากนี้ รถยนต์ยังสามารถติดตั้งตู้เย็นได้ด้วย แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นขนาดนั้น


 


หน้าต่างของรถยนต์นั้นใช้กระจกที่เปลี่ยนสีได้ และระบบกันเสียงก็ยอดเยี่ยมมาก ภายในเงียบและกว้างขวาง ที่นั่งผู้โดยสารก็รู้สึกสะดวกสบายมาก


 


หลังจากที่วิกเตอร์ลงจากรถแล้ว เขาก็ยังคิดถึงรถคันนั้นอยู่ เขาสงสัยเมื่อไหร่เขาจะมีโอกาสได้นั่งรถคันนี้อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะขึ้นรถ เฝิงหยู่ก็เล่าว่ารถคันนี้ผลิตโดยบริษัทของเขาและจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รุ่นนี้มีไว้สำหรับตลาดที่มีมูลค่าสุทธิสูงเท่านั้น


 


วิกเตอร์จำคำพูดของเฝิงหยู่ไม่ได้ทั้งหมด เขารู้เพียงว่าเฝิงหยู่รวยมาก เขาไม่เคยเห็นรถประเภทนี้มาก่อนในสหรัฐอเมริกา บางทีเฉพาะรถของประธานาธิบดีเท่นั้นที่สามารถเทียบกับรถคันนี้ได้


 


ถ้าบริษัทของเฝิงหยู่สามารถผลิตรถคันนี้ได้จำนวนมาก บริษัทของเขาจะมีอำนาจมากแค่ไหนกัน? ความสามารถทางเทคนิคของจีนสูงถึงระดับนี้แล้วหรอ? ถ้าเฝิงหยู่เป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีอำนาจขนาดนี้และบริษัทเภสัชกรรมที่ใหญ่ที่สุดของจีน มูลค่าสุทธิทั้งหมดของเขาจะมีจำนวนเท่าไหร่กัน?


 


สูตรยาที่จดสิทธิบัตรพวกนั้นหรือที่เรียกว่าสูตรกึ่งพัฒนาน่าจะทำราคาได้สูงถ้าพวกเขาขายให้กับเฝิงหยู่!


 


วิกเตอร์กลับไปที่สำนักงานของเขาและรีบโทรหาสำนักงานใหญ่ของเขาทันที เขาต้องรายงานเรื่องนี้กับคุณจอร์จ ซึ่งเป็น CEO ของไฟเซอร์


 


“คุณจอร์จครับ ผมวิกเตอร์นะครับ ผมมีเรื่องที่ต้องรายงานให้คุณทราบครับ”


 


“วิกเตอร์ คุณมีข่าวดีอะไรหรอ? รายงานยอดขายของจีนในปีนี้พร้อมหรือยัง?” ดูเหมือนว่าจอร์จจะกำลังอารมณ์ดีอยู่


 


“ผมขอเวลาอีก 3 วันนะครับ แต่ยอดขายของปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วมาก สิ่งที่ผมต้องการบอกคุณก็คือผมไปพบเจ้านายชาวจีนผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งมา ซึ่งเขาสนใจจะซื้อสูตรยาของเรา”


 


วิกเตอร์ไม่ได้บอกจอร์จว่าเป็นเฝิงหยู่ที่เข้าหาเขาก่อน เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่พบเฝิงหยู่เอง แบบนี้เขาจะได้รับความดีความชอบมากขึ้น การดัดแปลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แสดงให้เห็นว่าวิกเตอร์ฉลาดแค่ไหน


 


“เจ้านายชาวจีนผู้มีอิทธิพลหรอ? ประเทศจีนมีเจ้านายใหญ่อะไรกัน? อีกอย่าง คุณบอกว่าเขาต้องการซื้อสูตรยาของเราหรอ? คุณตอบตกลงไปหรือเปล่า? พวกเราไฟเซอร์ไม่ขายสูตรและสิทธิบัตรของเราหรอกนะ” จอร์จตอบ เขาโกรธเล็กน้อย


 


วิกเตอร์อยู่ที่ประเทศจีนนานเกินไปหรือเปล่า? เขาลืมกฎของไฟเซอร์ไปแล้วหรอ!


 


“คุณจอร์จครับ ผมไม่เห็นด้วยที่จะขายสูตรยาที่พัฒนาแล้วให้เขา ผมตกลงขายเฉพาะผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปของเราเท่านั้น” วิกเตอร์อธิบายอย่างรวดเร็ว


 


“ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป? คุณหมายถึงอะไร?” จอร์จยังคงอารมณ์เสีย


 


“ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปก็คือสินค้าของเราที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทดลองทางคลินิกหรือได้รับการพัฒนา แต่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้” วิกเตอร์พูด


 


“อ่ะ? ใครอยากจะซื้อสูตรพวกนี้กัน?”


 


“ใช่ครับ นักธุรกิจชาวจีนคนนี้สนใจที่จะซื้อสูตรพวกนี้ เขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยาแห่งนึ่งและเป็นหนึ่งในโรงงานเภสัชกรรมที่ใหญ่ที่สุดของจีน แม้ว่าโรงงานของพวกเขาจะใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพัฒนายาของตัวเองได้ พวกเขาต้องการยาใหม่เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างเร่งด่วน เราก็แค่แสดงรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปให้ประสบความสำเร็จให้พวกเขาดูเท่านั้น เราน่าจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงนะครับ” วิกเตอร์พูดอย่างตื่นเต้น


 


“นี่…….คุณแน่ใจหรอ?” นี่เหมือนเป็นการโกงชัดๆ แต่จอร์จก็เริ่มลังเลเพราะผลกำไร


 


“ผมมั่นใจมากครับ คนจีนคนนั้นรวยมาก เขายังเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ด้วย บริษัทนั้นเป็นหนึ่งใน บริษัทชั้นนำในประเทศจีน จากการสังเกตการณ์ของผม คนๆ นี้เป็นคนที่ใจกว้างครับ ถ้าเราสามารถขายสูตรผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปบางส่วนของเราได้ เราก็ช่วยทำกำไรให้บริษัทได้! ข้อตกลงนี้ยังช่วยเพิ่มทุนวิจัยของเราด้วยนะครับ”


 


จอร์จดีใจมาก “วิกเตอร์ คุณต้องยอมรับข้อเสนอนี้ให้ได้นะ หากคุณสามารถขายสูตรพวกนั้นได้ในราคา 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ผมจะโอนเงินให้คุณและเลื่อนตำแหน่งให้คุณ!”


 


“ขอบคุณครับคุณจอร์จ เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการให้เอง!”


EG บทที่ 697 วิกเตอร์ผู้กระตือรือร้น 2


 


วิกเตอร์โทรหาหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของไฟเซอร์ที่ชื่อมาร์ค มาร์คได้รับคำสั่งจากจอร์จให้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เขารวบรวมข้อมูลทั้งหมดและส่งไปให้วิกเตอร์ทางอีเมล


 


วิกเตอร์เปิดอีเมลและอ่านข้อมูลคร่าวๆ อย่างรวดเร็ว


 


ยาสำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูงอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลงกว่าปกติ แม้ว่ายาตัวนี้จะมีประสิทธิภาพ แต่ผลจากการทดลองทางคลินิกแสดงให้เห็นว่ายาตัวนี้ไม่เหมาะที่จะเปิดตัวในตลาด


 


ยาต้านมะเร็งต่อมน้ำเหลืองช่วยทำลายต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ดีได้อย่างง่ายดายและทำให้อาการของผู้ป่วยแย่ลง นอกจากนี้ ยังลดภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยด้วย ยานี้ไม่ผ่านการทดลองครั้งแรก


 


ยาแก้อักเสบสำหรับรักษาต่อมลูกหมากอักเสบทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ยานี้อาจช่วยรักษาต่อมลูกหมากอักเสบได้ แต่ก็จะทำให้ไตล้มเหลว การทดลองหยุดลงหลังจากช่วงแรก


 


ยาสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด ไม่มีผลข้างเคียงที่ชัดเจน แต่ประสิทธิภาพของยานี้ไม่เห็นผล หลังจากการทดลองครั้งแรก พบว่ายานี้กำลังมุ่งไปในทิศทางที่ผิด


 


เบื้องหลังยาทุกรายการนี้ ไม่เพียงแต่มีเหตุผลสำหรับความล้มเหลวระบุไว้อยู่เท่านั้น แต่ยังมีระบุคต้นทุนการวิจัยและพัฒนาของยาพวกนี้ด้วย ยาที่พัฒนาแล้วบางตัวไม่ได้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง และไม่ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของยาที่ได้พัฒนาขึ้น ยาพวกนี้ยังคงคุ้มค่าเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากที่ปรับเปลี่ยนทิศทางการวิจัยและพัฒนาแล้ว


 


ยาบางรายการที่ระบุไว้มีผลข้างเคียงและไม่ผ่านข้อกำหนดขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา นักวิจัยที่ไฟเซอร์ไม่สามารถหาวิธีลดผลข้างเคียงลงได้และความพยายามทั้งหมดในการพัฒนายานี้ก็ไร้ประโยชน์


 


ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาสำหรับยาพวกนี้มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ มาร์คบอกกับวิกเตอร์ว่ารายการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของยาที่ถือว่าเป็นความล้มเหลวอย่างแท้จริง หากพวกเขารวบรวมยาทั้งหมดอีกครึ่งที่พัฒนาแล้ว ค่าใช้จ่ายจะมากกว่านี้อีก


ยาที่อยู่ในรายการนี้ส่วนใหญ่ถูกใช้โดยนักวิจัยใหม่เพื่อเป็นการฝึกทดลอง


 


นี่เป็นเรื่องปกติในการวิจัยและพัฒนา บางครั้งความพยายามและทรัพยากรก็สูญเปล่าไปเมื่อผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ แต่หากผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนก็อาจมากกว่าต้นทุน100 เท่า


 


ต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จในอดีตไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ แต่วันนี้วิกเตอร์บอกว่านักธุรกิจชาวจีนต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จพวกนี้ แถมนักธุรกิจชาวจีนที่โง่เขลาคนนี้ยินดีซื้อสูตรของผลิตภัณฑ์พวกนี้ในราคาที่สูงด้วย!


 


แม้ว่ามาร์คจะยังไม่ค่อยคล้อยตาม แต่เขาก็ยังทำตามคำสั่งของจอร์จในการรวบรวมรายชื่อยาพวกนั้นให้วิกเตอร์ หากวิกเตอร์สามารถขายสูตรผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จพวกนี้ได้ พวกเขาจะมีเงินทุนวิจัยเพิ่มเติมสำหรับโครงการใหม่มากขึ้น


 


เงินเดือนนักวิจัยทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการวิจัยและพัฒนาของพวกเขาที่ไฟเซอร์


 


วิกเตอร์อ่านรายการและจัดเรียงใหม่ก่อนที่จะโทรหาเฝิงหยู่


 


“คุณเฝิง ผมวิกเตอร์นะครับ ผมพยายามโน้มน้าว CEO ของผมเพื่อให้เขาขายการวิจัยส่วนหนึ่งให้คุณ คุณพอจะว่างมาเจอผมเพื่อพูดคุยรายละเอียดกันมั้ยครับ?”


 


เฝิงหยู่ทำให้วิกเตอร์รู้สึกประทับใจ เขาเห็นเฝิงหยู่เดินทางไปทั่วพร้อมกับรถคุ้มกันและมีบอดี้การ์ดนับสิบที่อยู่รายล้อมเขา ในประเทศจีน อาวุธปืนถูกต้องห้าม แต่สูทของบอดี้การ์ดพวกนั้นกลับปูดออกมาและดูเหมือนว่ากำลังพกอาวุธอยู่ข้างใต้


 


เฝิงหยู่ดีใจมากเมื่อเขารับสายของวิกเตอร์ ขั้นตอนแรกของเขาถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว


 


เฝิงหยู่รีบโทรหาคนของเขาพร้อมกับเขาเพื่อให้พาเขาไปพบวิกเตอร์ เขายังจ้างล่ามด้วยแม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องใช้ล่ามก็ตาม


……


“คุณเฝิงครับ ผมยังอยู่ในที่ทำงานและไม่สามารถออกจากที่ทำงานได้ ขอบคุณที่มาที่สำนักงานของผมนะครับ” วิกเตอร์กล่าวอย่างสุภาพ นี่เป็นเพียงแค่การเดินทางไปยังสำนักงานของเขาที่ไฟเซอร์ จำเป็นต้องพาคนมามากขนาดนี้เลยหรอ?


 


เฝิงหยูเลิกคิ้ว วิกเตอร์คนนี้สุภาพมาก


 


“ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณสามารถออกจากที่ทำงานเมื่อใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ คุณคงจะไม่ถูกส่งมาที่ประเทศจีนเพื่อดูแลการดำเนินการที่นี่ สิ่งที่ผมต้องการพร้อมหรือยังครับ?” เฝิงหยู่ถามอย่างกระตือรือร้น


 


“คุณเฝิงไม่ต้องกังวลครับ นี่คือรายการที่บริษัทของผมทำมาให้ ลองตรวจดูก่อนครับว่ายาตัวไหนที่คุณสนใจ” วิกเตอร์ส่งกระดาษขนาด A4 ไปให้เฝิงหยู่


 


เฝิงหยู่อ่านรายการคร่าวๆ และก็พบคำว่ายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่เขาเห็นว่าซิลเดนาฟิลไม่ได้รวมอยู่ในรายการนี้


 


เฝิงหยู่แกล้งทำเป็นว่าเขาไม่เข้าใจรายการนี้ และส่งต่อไปให้ล่ามของเขาที่อยู่ข้างๆ “ช่วยผมดูหน่อยสิ เอกสารนี้เขียนอะไรบ้าง?”


 


ล่ามอ่านรายการในขณะที่เลขาของวิกเตอร์รินกาแฟให้เฝิงหยู่ วิกเตอร์เชิญเฝิงหยู่ให้ลองชิมกาแฟของเขา เฝิงหยู่จิบกาแฟ น้ำตาลและนมถูกเติมลงในกาแฟมากเกินไป เลขาของวิกเตอร์กลัวว่าเฝิงหยูจะไม่คุ้นเคยกับรสชาติของกาแฟ เธอเลยเติมน้ำตาลและนมมากขึ้น แต่ถ้าไม่ใส่น้ำตาลและนมมากขึ้น กาแฟนี้ก็จะมีรสชาติแปลกๆ


 


เฝิงหยู่และวิกเตอร์พูดคุยกันซักพักและระหว่างการสนทนา เฝิงหยู่ “ตั้งใจ” พูดถึงความร่ำรวยของเขา วิกเตอร์ได้แต่ยิ้มตลอด


 


“คุณเฝิงครับ มียา 3 ชนิดในรายการนี้ ยาที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ยาพวกนี้ยังไม่พัฒนาสำเร็จก็ต้องหยุดกลางคัน” ล่ามกระซิบข้างหูของเฝิงหยู่


 


เฝิงหยู่ แกล้งทำเป็นขมวดคิ้ว “ผลิตภัณฑ์ที่ยังพัฒนาไม่เสร็จหรอ? ทั้งหมดนี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาเพียงครึ่งนึงใช่ไหมครับ? มีการทดลองทางคลินิกเริ่มขึ้นแล้วหรือยัง?”


 


“เรื่องนั้นไม่ได้ระบุไว้ในรายการครับ”


 


เฝิงหยู่หันไปหาวิกเตอร์ “คุณวิกเตอร์ครับ ยาพวกนี้ผ่านการทดลองทางคลินิกแล้วหรือยังครับ?”


 


วิกเตอร์ส่ายหน้า “บริษัทของผมจะไม่ยอมขายสูตรให้ถ้ายาพวกนี้เข้าสู่การทดลองทางคลินิกแล้ว ยาพวกนี้ยังอยู่ในช่วงการพัฒนา เนื่องจากทรัพยากรที่มีจำกัดและการเปลี่ยนแปลงทิศทางของบริษัทเรา ทำให้การพัฒนายาพวกนี้ต้องหยุดชะงักลง นี่คือเหตุผลที่เรายินดีขายให้คุณ”


 


ทรัพยากรที่มีจำกัดงั้นหรอ? การเปลี่ยนทิศทางของบริษัทงั้นหรอ? โกหกทั้งเพ!


 


ยาพวกนี้น่าจะผ่านการทดลองทางคลินิกมาแล้ว และพบว่าไม่มีประสิทธิภาพหรือมีผลข้างเคียงมากเกินไป ไฟเซอร์เป็นบริษัทเภสัชกรรมรายใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะต้องหยุดการวิจัยและพัฒนายาพวกนี้ พวกเขาก็ยังสามารถขายงานวิจัยนี้ให้กับโรงงานผลิตยาหรือห้องปฏิบัติการอื่นๆ ได้ วิกเตอร์ไม่จำเป็นต้องขายยาพวกนี้ให้แก่ประเทศจีน ไฟเซอร์สามารถขายงานวิจัยนี้ให้กับบริษัทในสหรัฐอเมริกาได้อย่างง่ายดาย


 


“คุณวิกเตอร์ครับ มียาเพียงแค่ 3 ชนิดเองหรอครับ? เราไม่สนใจยาต้านมะเร็ง ปัจจุบันนี้ยังไม่มียาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ได้ผลในโลก หากการวิจัยยานี้ของบริษัทคุณไม่มีปัญหาอะไร พวกคุณทุกคนคงจะไม่หยุดพัฒนายานี้หรอก สำหรับยาอีกสองตัวที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจและหลอดเลือด ผมต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัยครับ ผมจะขอให้นักวิจัยของผมอ่านข้อมูลก่อนที่ผมจะตัดสินใจ” เฝิงหยู่พูดหลังจากที่เขาแกล้งพูดคุยกับคนที่อยู่ข้างเขา


 


“เอิ่ม….. ตกลงครับ แต่ผมไม่สามารถนำข้อมูลออกจากโรงงานของเราได้ ผมสามารถพานักวิจัยของคุณไปที่ห้องปฏิบัติการของเราเพื่อตรวจดูได้ พวกเขาจะเข้าใจเองว่ายาตัวนี้มีมูลค่าเท่าไหร่เมื่อพวกเขาเห็นข้อมูลการวิจัย” วิกเตอร์ตอบ หากเขาให้ข้อมูลแก่เฝิงหยู่ นักวิจัยของเฝิงหยู่อาจจะรู้ได้ว่ายาพวกนี้จะไม่สามารถพัฒนาให้สำเร็จได้


 


เฝิงหยู่แกล้งทำเป็นมีปัญหา “เรายังต้องไปที่ห้องปฏิบัติการของคุณอีกหรอครับ? โอเคครับ แต่คุณช่วยเตรียมยาเพิ่มเติมอีกได้ไหมครับ? มันเสียเวลาไปที่ห้องปฏิบัติการของคุณเพียงเพื่อซื้อยาแค่สองชนิด!”


 


ฮ่าๆๆๆ……. เฝิงหยู่รู้ว่าวิกเตอร์ไม่มีทางยอมให้ข้อมูลการวิจัยแก่เขาอยู่แล้ว สิ่งที่เฝิงหยู่ต้องการคือการไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของไฟเซอร์ ในที่สุดวิกเตอร์ก็เชิญเขาไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของเขา การพูดคุยกับนักวิจัยอัจฉริยะพวกนั้นยังง่ายกว่าพวกนักธุรกิจเสียอีก!


EG บทที่ 698 เครื่องบินเช่าเหมาลำ


 


เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขารวยมากขนาดไหน เฝิงหยู่ต้องใส่ใจรายละเอียดมากมาย ตัวอย่างเช่น นักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากจะไม่นั่งเครื่องบินร่วมกับผู้อื่น


 


นักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอำนาจหลายคนในสหรัฐอเมริกามีเครื่องบินส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ในประเทศจีน ตระกูลฟู่และตระกูลกลี่ก็มีเครื่องบินส่วนตัวเหมือนกัน แต่เครื่องบินของพวกเขาไม่เหมาะที่จะบินระยะทางไกล


 


ดังนั้น เฝิงหยู่จึงตัดสินใจเช่าเครื่องบินเหมาลำ!


……


 


“คุณกำลังคิดบ้าอะไรอยู่? แม้ว่าคุณจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาก็ตาม แต่คุณจำเป็นต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำด้วยหรอ? คุณมีเงินมากเกินไปจนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรแล้วหรือไง?” โฮ่วไห่ถาวบ่น


 


“แค่บอกผมมาว่าคุณช่วยผมได้หรือเปล่า เรื่องนี้สำคัญมาก ผมจะไปพบลูกค้าคนสำคัญ ในสหรัฐอเมริกาภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่ผมทำไปก็เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเราด้วย” เฝิงหยู่ตอบ


 


“งั้นก็เช่าเครื่องบินเหมาลำเองสิ ทำไมต้องมาหาผมด้วย? คุณจะขอให้ผมช่วยให้คุณได้รับส่วนลดงั้นหรอ?” โฮ่วไห่ถาวมองหน้าเฝิงหยู่ คุณจะพาคนไปที่สหรัฐอเมริกากี่คนกัน? คุณจะเช่าเครื่องบินเหมาลำจริงๆ เหรอ?


 


“คุณรู้ได้ยังไงเนี่ย? ผมต้องการเครื่องบินที่มีบริเวณระดับเฟิร์สคลาสที่ใหญ่ที่สุด แล้วผมก็ต้องการเจอลูกเรือทั้งหมดก่อนด้วย ผมต้องสั่งบางอย่างกับพวกเขาไว้ก่อน”


 


โฮ่วไห่ถาวมองเฝิงหยู่อย่างระมัดระวัง “คุณคิดจะทำอะไรที่ไม่ดีหรือเปล่า? คุณจะสั่งอะไรพวกเขา? เครื่องบินขับยังไงคุณยังไม่รู้เลย!”


 


“มันเป็นเรื่องของธุรกิจ ผมไม่สามารถบอกคุณได้ทุกอย่าง ชาวต่างชาติพวกนั้นก็หยิ่งยโสกันทุกคน พวกเขาอาจพบข้อผิดพลาดในรายละเอียดเล็กน้อยมากและเรียกร้องเงื่อนไขที่ร้ายแรงก็ได้ หรือบางทีการสนทนาของเราบนเครื่องบินนั้นอาจจะรั่วไหลออกไปโดยลูกเรือก็ได้จริงมั้ยครับ?” เฝิงหยู่เริ่มพูดไร้สาระไปเรื่อย เขาเพียงต้องการขอให้ลูกเรือช่วยเป็นแสดงเป็นหน้าม้าให้เขาก็เท่านั้นเอง


“คุณมีเหตุผลทุกอย่างอยู่เสมอนั่นแหละ ผมจะช่วยถามให้คุณละกัน”


 


“ไม่ใช่แค่ถามเพียงอย่างเดียวสิครับ คุณต้องแน่ใจว่าเรื่องนี้ได้รับการจัดการเรียบร้อย นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมมากนะครับ! มันเกี่ยวกับการ “มีหน้ามีตา” ของผมด้วย”


 


โฮ่วไห่ถาวจ้องหน้าเฝิงหยู่อย่างโมโห “ผมรู้ สิ่งที่คุณพูดทั้งหมดมันไร้สาระสิ้นดี! คุณต้องการที่จะดูดีต่อหน้าคนอื่นก็แค่นั้น!”


 


“รีบหน่อยนะครับ ผมรออยู่ จะดีมากเลยครับถ้ามีเที่ยวบินพรุ่งนี้เช้าเลย”


 


โฮ่วไห่ถาวติดต่อผู้นำของสายการบินปักกิ่งแคปิตอลและบอกเขาเกี่ยวกับความต้องการของเฝิงหยู่ เฝิงหยู่ต้องการเช่าเหมาลำเครื่องบินที่มีที่นั่งระดับเฟิร์สคลาสจำนวนมากโดยบินจากปักกิ่งไปยังนิวยอร์ก  และก็ต้องการเที่ยวบินที่บินพรุ่งนี้เช้าเลย


 


ห้ะ? เหมาเที่ยวบินหรอ?


 


ผู้นำของสายการบินปักกิ่งแคปิตอลถึงกับอึ้ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนมีเครื่องบินส่วนตัวเมื่อพวกเขาปฏิบัติหน้าที่ราชการ บริษัททัวร์บางแห่งทำการจองที่นั่งชั้นประหยัดทั้งหมดให้ลูกค้าของพวกเขา แต่เขาไม่เคยได้ยินใครเหมาเที่ยวบินทั้งลำสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจมาก่อนเลย! และเขายังขอเครื่องบินที่มีที่นั่งระดับเฟิร์สคลาสจำนวนมากที่สุดด้วย!


 


“ตาเฒ่าเฮา ถ้าต้องการเหมาทั้งลำ เราต้องรวมราคาตั๋วสำหรับทุกที่นั่งบนเครื่องบินเลยนะ ยอดรวมจะมหาศาลมาก”


 


โฮ่วไห่ถาวเหลือบมองไปที่เฝิงหยู่แล้วพูดว่า “เลิกโม้ได้ล่ะ ทำยังกับว่าตั๋วเครื่องบินจากปักกิ่งไปนิวยอร์กของคุณขายดีมากอย่างนั้นแหละ? ลดให้ผมหน่อยสิ ผมจะได้บอกให้เขาใช้สายการบินของคุณเวลาที่พนักงานจากบริษัทของเขาต้องเดินทางไปทำธุรกิจ”


 


ตอนนี้บริษัทสายการบินได้ดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทเอกชนแล้ว ตั๋วถูกลดราคาไปแล้วเนื่องจากที่นั่งบนเครื่องบินมักจะไม่เต็ม แม้ว่าโฮ่วไห่ถาวจะคอยบอกเฝิงหยู่ว่าเขากำลังใช้เงินเปลืองโดยใช่เหตุ แต่เขาก็ยังพยายามช่วยให้เฝิงหยู่ได้รับส่วนลด


 


“โอเค ถ้างั้นผมจะให้ส่วนลดคุณ 15% ว่าแต่นี่มันบริษัทอะไรหรอ? ทำไมเขาต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำด้วย?”


 


“บริษัทของเฝิงหยู่”


 


“เฝิงหยู่? เฝิงหยู่ไหนอ่ะ?”


 


“คุณซื้อเครื่องบินของสหภาพโซเวียตมาจากใครล่ะ?” โฮ่วไห่ถาวพูดให้เขานึกได้


 


“เฝิงหยู่คนนั้นจากบริษัทการค้าไท่หัวนะหรอ?”


 


“ก็ใช่นะสิ นอกจากเฝิงหยู่แล้ว จะมีใครกล้าสั่งให้ผมโทรหาคุณได้ล่ะ? โอเคนะ ผมจะฝากเรื่องนี้ให้คุณจัดการทั้งหมดล่ะกัน เรามาเจอกันบ่ายนี้นะ ผมยังมีเรื่องอื่นที่จะต้องคุยกับคุณ”


……


 


“คุณเฝิงว่าไงนะครับ? คุณเช่าเครื่องบินเหมาลำไปนิวยอร์กหรอ?” วิกเตอร์ตกใจมาก เฝิงหยู่รวยมากแค่ไหนเนี่ย? จำเป็นต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำเวลาที่ไปต่างประเทศด้วยหรอ?


 


“การรักษาความปลอดภัยในการบินของเราที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดครับ ผมต้องการซื้อเครื่องบินส่วนตัวเพราะผมไม่ชอบเดินทางกับคนแปลกหน้า นี่คือเหตุผลที่ผมเช่าเครื่องบินเหมาลำทุกครั้งที่ผมเดินทาง อีกอย่างมันก็ไม่ได้แพงมากเท่าไหร่” เฝิงหยู่จงใจตอบแบบนี้


 


เช่าเครื่องบินเหมาลำเนี่ยนะไม่แพง? แม้ว่าค่าครองชีพในประเทศจีนจะต่ำกว่าสหรัฐอเมริกามาก แต่ตั๋วเครื่องบินก็แพงกว่ามากเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ช่างเป็นพฤติกรรมที่ฟุ่มเฟือยจริงๆ และแถมยังเป็นเที่ยวบินระยะไกลด้วย!


 


“คุณเฝิงค่ะ กรุณาใช้ทางเข้าพิเศษตรงนี้ได้เลยค่ะ” แอร์โฮสเตสสาวพาพวกเขาไปยังทางเข้าพิเศษที่สนามบิน


 


บอดี้การ์ดเดินมาเป็นแถวและขึ้นเครื่องบินไปก่อนเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนที่จะให้เฝิงหยู่และวิกเตอร์เข้าไปในเครื่องบิน คนอีกกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นเครื่องและไปนั่งที่ด้านหลัง


 


“คุณวิกเตอร์ครับ มีทั้งกาแฟ ซิการ์ ไวน์ และบุหรี่อยู่บนเครื่อง ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็แจ้งแอร์โอสเตสได้เลยนะครับ”


 


“โอ้ โอเคครับ” วิกเตอร์พยักหน้า


 


“คุณเฝิงครับ ทุกคนขึ้นมาบนเครื่องหมดแล้ว และเราพร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อครับ” ชายในชุดนักบินเดินมาแจ้งเฝิงหยู่


 


“งั้นออกเดินทางเลยครับ” เฝิงหยู่พยักหน้า เขาแกล้งทำเป็นคุ้นเคยกับขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดนี้


 


เครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและแอร์โฮสเตสก็เดินมา “คุณเฝิงค่ะ เหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ?”


 


เฝิงหยู่พยักหน้า แอร์โฮสเตสรินชาหนึ่งถ้วยสำหรับเฝิงหยู่แล้วหันไปหาวิกเตอร์ “รับอะไรดีคะ?”


 


“ขอกาแฟครับ”


 


เรื่องนี้ทำให้วิกเตอร์ได้เปิดหูเปิดตามาก นี่คือนักธุรกิจร่ำรวยและมีอิทธิพลอย่างแท้จริง เฝิงหยู่ต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำทุกครั้งที่เขาเดินทางแน่ๆ ขนาดแอร์โฮสเตสก็ไม่จำเป็นต้องถามและรู้ว่าเขาต้องการอะไร นอกจากนี้ เฝิงหยู่ก็สามารถจัดการเรื่องหนังสือเดินทางให้คนจำนวนมากได้ภายในระยะเวลาอันสั้น นี่แสดงให้เห็นว่าเฝิงหยู่มีอิทธิพลมากขนาดไหน


 


เป็นเวลาหลายปีที่วิกเตอร์รู้สึกภาคภูมิใจเวลาที่อยู่ในประเทศจีนเพราะเขาเป็นชาวอเมริกัน ประเทศของเขาแข็งแกร่งและเขาร่ำรวย แต่หลังจากวันนี้ไป เขาไม่กล้าหยิ่งและภูมิใจเวลาที่อยู่ในประเทศจีนอีกแล้ว จีนเป็นประเทศที่ลึกลับ ใครจะไปรู้ว่ามีบางคนที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากขนาดนี้ในประเทศจีน


 


“คุณวิกเตอร์ครับ น่าเบื่อจังเลย เราจะเล่นโป๊กเกอร์กันดีมั้ยครับ?” เฝิงหยู่ถาม


“เล่นโป๊กเกอร์หรอครับ? กติกาของเราน่าจะแตกต่างจากประเทศจีนนะครับ” วิกเตอร์ลังเล แต่เที่ยวบินนั้นใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงและเขาก็ไม่มีอะไรทำด้วย


 


“แล้วแบล็กแจ็กล่ะครับ? กติกาน่าจะเหมือนกันนะ” เฝิงหยู่หัวเราะและโบกมือ ชายคนหนึ่งสวมเครื่องแบบของผู้แจกไพ่เดินเข้ามา คุณสมบัติของชุดผู้แจกไพ่คือต้องไม่มีกระเป๋า


 


วิกเตอร์ขมวดคิ้ว ใครที่ไหนกันพาผู้แจกไพ่ร่วมเดินทางไปด้วย? เฝิงหยู่คนนี้ชอบเล่นการพนันหรอ?


 


“คุณวิกเตอร์ครับ มันน่าเบื่อนะถ้าเราเล่นแบล็กแจ็กโดยที่ไม่มีการเดิมพัน” เฝิงหยู่ยิ้มและมองไปที่วิกเตอร์


 


วิกเตอร์เคยไปที่ลาสเวกัสสองสามครั้งและชอบเล่นการพนัน แต่เขารู้ว่าการเดิมพันของเขานั้นแทบไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับเฝิงหยู่


 


“คุณเฝิงครับ ผมพกเงินมาไม่เยอะนะครับ”


 


“ไม่เป็นไรครับ เราแค่เล่นกันสนุกๆ เท่านั้น งั้นเรามาพนันกันที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐดีมั้ยครับ? ผมจะเป็นเจ้ามือเอง ถ้าลูกน้องคุณสนใจ ให้พวกเขามาเล่นด้วยกันก็ได้นะครับ” เฝิงหยู่พูด ที่เขาแนะนำจำนวนเงิน 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อการเดิมพันหนึ่งครั้งก็เพราะว่าจ่ายเงินของแบล็กแจ็กมีแบบ 1.25 เท่า 1.5 เท่าและ 2 เท่า ซึ่งจะง่ายกว่าถ้าคำนวณด้วยเงิน 400 ดอลลาร์สหรัฐ


 


400 ดอลลาร์สหรัฐ? เป็นจำนวนเงินที่ไม่ถือว่าเยอะมากนักและวิกเตอร์ก็จ่ายไหว เขาพยักหน้า แต่เขาไม่ได้บอกให้ผู้ช่วยของเขามาร่วมเล่นด้วย เขารู้สึกว่าที่เฝิงหยู่พูดแบบนั้นเพราะเชิญตามมารยาทเท่านั้น เขาไม่ได้หมายความว่าจะให้ชวนผู้ช่วยของวิกเตอร์เข้าร่วมเล่นด้วยจริงๆ หรอก


 


“ตกลงครับ งั้นเรามาเล่นสนุกๆ กันสักสองสามตาก็ได้ครับ”


EG บทที่ 699 วิกเตอร์ผู้โชคดี


 


เฝิงหยู่เคาะโต๊ะเบาๆ เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้แจกไพ่เริ่มเกมได้


 


ผู้แจกไพ่เปิดไพ่สำรับใหม่และหยิบไพ่โจ๊กเกอร์ออกไป จากนั้นเขาก็กางไพ่หงายขึ้นเพื่อให้เฝิงหยู่และวิกเตอร์ตรวจสอบ วิกเตอร์มองและพยักหน้า ส่วนเฝิงหยู่นั้นไม่ได้ดูไพ่เลยแม้แต่นิดเดียว


 


ผู้แจกไพ่สับไพ่สักครู่ก่อนแจกไพ่


 


ไพ่ใบแรกที่เฝิงหยู่ได้รับคือเอซโพดำและไพ่ใบที่สองคือคิงข้าวหลามตัด เขาได้แบล็กแจ็กในเกมแรกเลย วิกเตอร์ได้แค่ 13 แต้มเท่านั้น ตามกติกาแล้ว เฝิงหยู่ชนะสองเท่า


 


เฝิงหยู่หัวเราะ “วันนี้ผมโชคดีล่ะ”


 


วิกเตอร์หยิบเงิน 800 ดอลลาร์สหรัฐออกมาและให้เฝิงหยู่อย่างไม่ค่อยไม่เต็มใจ เขาส่งสัญญาณให้ผู้แจกไพ่ดำเนินการต่อ


 


รอบที่สองเฝิงหยู่ได้ควีน และ 10 และเขาโบกมือส่งสัญญาณให้ผู้แจกไพ่รู้ว่าเขาพอใจกับไพ่ที่อยู่ในมือแล้ว


 


วิกเตอร์ขมวดคิ้ว เฝิงหยู่ได้ 20 แต้ม ทำไมเฝิงหยู่โชคดีขนาดนี้ เขามองดูไพ่ของเขา ซึ่งเป็นแจ็กคู่ เขาได้แค่ 20 แต้มเอง


 


ตอนนี้วิกเตอร์มีตัวเลือกไม่มากนัก ตัวเลือกแรกคือเขาสามารถหยุดจั่วไพ่เพิ่มได้และรอบนี้จะจบลงด้วยการเสมอกัน แต่ถ้าเสมอกัน ก็จะถือว่าเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะ อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือจั่วไพ่เพิ่มมาอีกหนึ่งใบและหวังว่าจะได้เอซ แต่ความเป็นไปได้น่าก็น้อยมากเหลือเกิน


 


แต่วิกเตอร์ยังคงมีตัวเลือกที่สาม เขาได้ไพ่สองใบเหมือนกัน และเขาสามารถเลือกแบ่งไพ่ออกเป็นสองชุดได้ แต่เงินเดิมพันของเขาจะเพิ่มขึ้น


 


วิกเตอร์เลือกที่จะแบ่งไพ่และเดิมพันเพิ่มอีก 400 ดอลลาร์สหรัฐ


 


หลังจากที่แบ่งไพ่แล้ว วิกเตอร์ก็ได้แจ็กอีก 2 ใบ! เขารู้สึกประหลาดใจมาก เขาได้รับทั้งไพ่แจ็กทั้ง 4 ใบจากสำรับไพ่เลย ซวยละ เขาอาจจะแบ่งไพ่ต่อไปหรือยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้


 


“อ้า……คุณวิกเตอร์ครับ คุณโชคดีจริงๆ คุณได้แจ็กทั้งหมดจากสำรับเลย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากเลยนะครับ” เฝิงหยู่จงใจพูด


 


โชคดีงั้นหรอ? วิกเตอร์คิดกับตัวเอง ใช่แล้ว ฉันได้แจ็ก 4 ใบเลยนิหน่า นั่นหมายความว่าวันนี้โชคดีเข้าข้างฉันละ บางทีครั้งต่อไปฉันอาจจะได้เอซก็ได้


 


วิกเตอร์เลือกที่จะแบ่งไพ่และเพิ่มเงินเดิมพันของเขาอีก 800 ดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้เขาเล่นไพ่ทั้งหมด 4 มือ


 


ผู้แจกไพ่เริ่มจัดการกับไพ่ ไพ่ใบแรกของวิกเตอร์คือ 4 แต้ม และเขาจะต้องรับไพ่เพิ่มไม่งั้นเขาจะแพ้ ไพ่ใบต่อไปสำหรับมือที่สองคือ 8 แต้ม ส่วนไพ่สำหรับมือที่สามคือ 6 แต้มและมือที่สี่คือ 2 แต้ม


 


ไพ่ในมือทั้งหมดมีค่าน้อยกว่า 21 และวิกเตอร์ต้องจั่วไพ่เพิ่มสำหรับไพ่ทั้ง 4 มือ


 


วิกเตอร์เคาะโต๊ะ “ต่อเลยครับ!”


 


มือแรกเขาได้ 7 แต้มและรวมเป็น 21 แต้ม! วิกเตอร์เกือบจะกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น แต่ตามกติกาแล้ว การจ่ายเงินจะแค่ 1.25 เท่าเท่านั้น


 


มือที่สองเขาได้ 3 แต้มและรวมเป็น 21 แต้มอีกครั้ง! วันนี้ฉันโชคดีจริงๆ ใช่มั้ย?


 


มือที่สามเขาได้ 5 แต้มและรวมเป็น 21 แต้ม!


 


เขาได้ 9 สำหรับมือที่สี่และรวมเป็น 21 แต้ม!


 


วิกเตอร์ได้ 21 แต้มสำหรับไพ่ทั้ง 4 มือเลย และการจ่ายเงินสำหรับทั้ง 4 มือคือ 1.25 เท่า เฝิงหยู่เสียเงินไป 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ!


 


“ฮ่าๆๆๆ ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะโชคดีนะครับ” วิกเตอร์กำลังจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ก็ต้องหยุดทันที เขากลัวว่าเขาอาจทำให้นักธุรกิจจีนคนนี้โกรธได้


 


เฝิงหยู่จงใจพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเห็นไพ่แบบนี้ คุณโชคดีจริงๆ  2,000 ดอลลาร์สหรัฐใช่มั้ยครับ นี่ครับ”


 


วิกเตอร์เก็บเงินอย่างมีความสุขและพยายามปกปิดรอยยิ้มบนใบหน้า


 


หลังจากสองรอบผ่านไป ผู้แจกไพ่ก็หยิบไพ่สำรับใหม่ออกมา และหนึ่งในนักวิจัยของเฝิงหยู่เดินเข้ามาและพูดว่า “ผมขอเล่นด้วยได้มั้ยครับ? ผมมีเงินติดมาด้วยไม่กี่พันหยวน ผมคงเล่นได้แค่สองสามเกม”


 


เฝิงหยู่พยักหน้า “เล่นหลายคนสนุกดีออก เอาสิ ถ้าใครอยากเล่น ก็มาได้เลยนะ” เฝิงหยู่พูดกับคนอื่นๆที่เหลือ


 


วิกเตอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็โบกมือเรียกผู้ช่วยของเขาให้มาร่วมเล่นด้วย ตอนนี้มีทั้งหมด 6 คนที่ร่วมเล่นในเกมนี้


 


เนื่องจากวิกเตอร์ได้ 21 แต้มในเกมก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงได้เป็นเจ้ามือตามกติกา


 


เกมต่อไป วิกเตอร์ได้แบล็คแจ็คและชนะ ทุกคนต้องจ่ายให้เขาเป็นสองเท่า


 


วิกเตอร์หัวเราะอย่างตื่นเต้น


 


เกมต่อๆ ไป วิกเตอร์ชนะบ้างแล้วก็แพ้บ้างสลับกันไป แต่เขาชนะมากกว่าแพ้ ภายในหนึ่งชั่วโมง ล่าม นักวิจัย และบอดี้การ์ดของ เฝิงหยู่ เสียเงินเกือบทั้งหมด


 


นักวิจัยมองหน้าเฝิงหยู่ และถามว่า “เจ้านายครับ ผมขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้ไหมครับ?”


 


เฝิงหยู่หยิบเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐออกจากกระเป๋า แล้วส่งให้นักวิจัยคนนั้น “เงินเดือนล่วงหน้าอะไรกัน? ผมขอให้พวกคุณมาเล่นไพ่กับผมเพื่อฆ่าเวลา แม้ว่าผมจะชนะ ผมจะได้เงินจากพวกคุณทุกคนเท่าไหร่กันเชียว?”


 


หลังจากนั้นอีกไม่กี่เกม หัวหน้าบอดี้การ์ดก็หมดตัวเช่นกัน และเฝิงหยู่ก็ให้เงินเขา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเหมือนกัน จานั้น ล่ามของ เฝิงหยู่ก็เสียเงินหมดตัวเช่นกัน เฝิงหยู่ก็ให้เงินเขา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐด้วย


 


วิกเตอร์และผู้ช่วยของเขายังคงชนะต่อเรื่อยๆ วิกเตอร์ได้ 21 แต้มอีกสองสามครั้งและชนะค่อนข้างเยอะมาก


 


ในตอนเที่ยง หลังจากเล่นแบล็คแจ็คไป 2 ชั่วโมง วิกเตอร์ชนะและได้เงิน 70,000 ถึง 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ


 


แอร์โฮสเตสเดินเข้ามาถามว่าพวกเขาต้องการรับประทานอาหารกลางวันหรือยัง วิกเตอร์ไม่รู้สึกหิว เขากำลังมือขึ้นและอยากที่จะชนะมากกว่านี้อีก


 


ภายใน 2 ชั่วโมงวิกเตอร์ได้เงินมากกว่าเงินเดือนตัวเอง 2 เดือนอีก!


 


แต่เมื่อวิกเตอร์เห็นเฝิงหยู่และคนอื่นๆ ดูเหนื่อย เขาไม่ได้ขอให้พวกนั้นเล่นต่อ


 


แอร์โฮสเตสเสิร์ฟอาหารกลางวัน อาหารกลางวันนี้หรูหราเกินไป อาหารทุกจานปรุงโดยพ่อครัวจากโรงแรมระดับ 5 ดาว วิกเตอร์รู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่ได้เดินทางร่วมกับเฝิงหยู่


 


ช่วงสองสามวันมานี้เป็นวันที่โชคดีที่สุดในชีวิตของวิกเตอร์เลย เขาชนะและได้เงินค่อนข้างมากจากแบล็คแจ็คในตอนเช้า หากเขาสามารถตกลงกับเฝิงหยู่ในวันพรุ่งนี้และขายสูตรที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นให้เขาได้ เขาก็จะได้ย้ายกลับไปที่อเมริกาและแถมยังได้เลื่อนตำแหน่งด้วย!


 


ดูเหมือนว่าโชคของวิกเตอร์เปลี่ยนไปหลังจากพบกับเฝิงหยู่ เขาหวังว่าความโชคดีของเขาจะยังคงอยู่แบบนี้ตลอดไป


 


หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว นักวิจัยและล่ามก็ไปห้องน้ำ ล่ามพูดกับนักวิจัยในห้องน้ำว่า“ศาสตราจารย์วังดูเงียบไปนะครับ คุณเสียเงินไปค่อนข้างเยอะ ทำไมคุณถึงยังนิ่งแบบนี้ได้ล่ะครับ?”


 


“ผู้จัดการเฝิงบอกเองไม่ใช่หรอว่าเขาจะออกเงินที่เสียไปให้พวกเราหมดเลย?” ศาสตราจารย์หวังตอบอย่างไม่พอใจ ล่ามถามคำถามกับเขาแบบนี้ได้อย่างไร?


 


“ผู้จัดการเฝิงไม่ได้บอกคุณหรอว่าคุณสามารถเก็บเงินที่ชนะไปทั้งหมดได้เช่นกัน? นั่นมันเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งหมดเลยนะครับ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันคือ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 8 หยวน คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเสียเงินไปมากแค่ไหน?”


 


ใบหน้าของศาสตราจารย์หวังเปลี่ยนสี ห้ะ? เราสามารถเอาเงินที่ชนะทั้งหมดไปได้หรอ? ทำไมไม่มีใครบอกผมก่อนหน้านี้ล่ะ? ตอนนี้ผมเสียเงินไป 30,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว นั่นเท่ากับเงินมากกว่า 200,000 หยวนเลยนะ!


 


เมื่อล่ามเห็นสีหน้าของศาสตราจารย์หวังเปลี่ยนไป เขาก็โล่งใจ แบบนี้วิกเตอร์จะได้ไม่สงสัยอะไร วิธีนี้วิกเตอร์จะไม่คิดว่าศาสตราจารย์หวังเป็นคนร่ำรวยและไม่ร้อนเงิน ถ้าเขารู้สึกแบบนี้จริงๆ คงไม่มีใครเข้าหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือในวันพรุ่งนี้


 


“ศาสตราจารย์หวังครับ อย่าลืมเรื่องแผนของเรานะครับ ถ้าเราประสบความสำเร็จ บริษัทของเราจะสนับสนุนเงินทุนวิจัยของคุณทั้งหมดและยังให้รางวัลแก่คุณด้วย นอกจากนี้ เรายังจะช่วยส่งลูกชายของคุณไปเรียนที่ต่างประเทศด้วย อย่าลืมสิ่งที่คุณควรต้องทำนะครับ!”


EG บทที่ 700 แผนการ


 


หลังรับประทานอาหารกลางวัน วิกเตอร์ยังไม่ทันจะพูดอะไร ศาสตราจารย์หวังก็เสนอแนะให้เล่นไพ่ต่อ นี่คือสิ่งที่วิกเตอร์คิดอยู่ในใจ แต่เขาก็อายที่จะพูดออกมา


 


ศาสตราจารย์หวังอยากชนะและได้เงินคืน เขาโชคไม่ดีในตอนเช้า และโชคของเขาอาจจะดีขึ้นในตอนบ่ายก็ได้ แต่น่าแปลกที่ตอนเช้าเขาไม่ได้ไพ่ดีๆ บ้างเลย แม้ว่าเขาจะได้ 20 แต้มแต่เจ้ามือก็ได้ 21 แต้ม โชคไม่เข้าข้างเขาจริงๆ


 


ล่ามและหัวหน้าบอดี้การ์ดก็โชคร้ายมากเช่นกัน โชคของเฝิงหยู่ก็อยู่ในระดับกลางๆ แม้ว่าเขาจะเสียเงินไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงเล่นต่อได้อย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยกับการเสียเงินไปหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐ


 


วิกเตอร์เป็นผู้ชนะในตอนเช้า และผู้ช่วยของเขาก็ชนะบ้าง


 


เมื่อศาสตราจารย์หวังกับคนอื่นๆ ที่เหลือเสียเงินไปกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เฝิงหยู่ก็รู้สึกว่าควรจะพอแล้ว แถมไม่มีไพ่สำรับใหม่บนกระดานอีกแล้วด้วย


 


“ทุกคนดูเหนื่อยแล้วนะครับ เราพักกันก่อนดีกว่า มีแล็ปท็อปอยู่บนโต๊ะ พวกคุณจะเล่นวิดีโอเกม ดูทีวี หรืองีบหลับก็ได้นะครับ ลูกเรือจะโทรหาคุณเมื่ออาหารเย็นพร้อมเสิร์ฟ”


 


วิกเตอร์เห็นด้วย เขาชนะมามากพอแล้วและอยากเลิกเล่น หลังจากที่ชนะมามากขนาดนี้ เขากลัวที่จะเสียเงินที่ชนะมาได้ไปหมด ผู้ช่วยของวิกเตอร์ไม่ได้โชคดีเท่าวิกเตอร์ เขาชนะเพียงเล็กน้อย ได้เงินมาแค่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ วิกเตอร์ชนะเงินมากกว่า 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ!


 


เขาชนะได้มากขนาดนี้จากการเดิมพันแค่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อเกมเท่านั้น แค่นี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวิกเตอร์โชคดีขนาดไหน!


 


แต่วิกเตอร์โชคดีจริงๆเหรอ? ไม่ใช่แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้แจกไพ่ต่างหาก


 


ผู้แจกไพ่คนนี้ไม่ได้เป็นผู้แจกไพ่จริงๆ เขาเป็นนักมายากลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการเล่นไพ่ เฝิงหยู่บอกเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าปล่อยให้วิกเตอร์ชนะไปและให้ศาสตราจารย์หวัง ล่ามและหัวหน้าบอดี้การ์ดแพ้ รวมถึงตัวเขาเองก็ต้องแพ้ด้วยเหมือนกัน


 


ทั้งหมดนี้คือแผนการ ซึ่งเป็นกับดักสำหรับวิกเตอร์


 


วิกเตอร์ชมภาพยนตร์บนแล็ปท็อปยี่ห้อเลอโนโวรุ่นล่าสุดอย่างมีความสุข นี่เป็นแล็ปท็อปที่ผลิตโดยคนจีนหรอ? ประเทศจีนก้าวหน้าไปมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? วิกเตอร์นึกว่านี่เป็นแล็ปท็อปของ IBM เสียอีก! ประเทศจีนกำลังพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ


 


ใบหน้าของศาสตราจารย์หวังกระตุก เขาไม่คิดว่าโชคของเขาจะแย่ขนาดนี้ในตอนบ่าย แม้ว่าเฝิงหยู่จะบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินคืนเฝิงหยู่ แต่ถ้าเขาชนะได้ เขาก็สามารถเก็บเงินที่ชนะไว้ได้ ทำไมเขาถึงโชคร้ายแบบนี้? แบล็คแจ็คนี้ควรเป็นเกมที่เกี่ยวกับความน่าจะเป็นและโชค แม้ว่าเขาจะผ่านการฝึกฝนในวิชาเคมี แต่เขาก็เก่งในเรื่องคณิตศาสตร์มากกว่าคนทั่วไป


 


ล่ามและบอดี้การ์ดยังคงแสดงสีหน้าผิดหวังในขณะที่ดูภาพยนตร์ ล่ามถึงขนาดต้องหลบไปสูบบุหรี่ที่มุมห้องก่อนที่จะงีบหลับ


 


วิกเตอร์แอบสังเกตพวกเขา ดูเหมือนว่าผู้คนรอบๆ ตัวเฝิงหยู่ก็ชื่นชอบเงิน


 


แต่เฝิงหยู่ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี จากน้ำเสียงของเฝิงหยู่ เขาไม่ได้ดูเหมือนว่าจะขอให้คนพวกนั้นจ่ายเงินคืนให้เขา แต่พวกเขาทั้งหมดจะเป็นหนี้บุญคุณเฝิงหยู่ แต่ละคนเสียเงินไปมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย


 


บางทีผมอาจใช้ประโยชน์จากพวกเขาเพื่อทำให้รู้ว่าคุณเฝิงต้องการอะไรกันแน่ก็ได้


 


วิกเตอร์ยิ้ม


 


หลังอาหารเย็น ทุกคนกลับไปนั่งพักประจำที่นั่งของตัวเอง แอร์โฮสเตสปลุกพวกเขาเมื่อเครื่องกำลังจะลงจอด


กว่าพวกเขาจะออกจากสนามบินก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี แม้ว่า เฝิงหยู่จะไม่ได้มีบริษัทในนิวยอร์ก แต่ตระกูลฟู่มีบริษัทอยู่ที่นั่น นี่คือเหตุผลที่ทำให้มีคนมารับเขาที่นั่น พนักงานในนิวยอร์กดำเนินการจัดแจงทุกอย่างตามความต้องการของเฝิงหยู่ เฝิงหยู่ต้องการดูแลที่ดีที่สุด


 


วิกเตอร์คิดว่าเฝิงหยู่มีเส้นสายกับพวกมาเฟียในสหรัฐอเมริกา มีคนมารอรับเขาที่สนามบินจำนวนมาก ขนาดซีอีโอของไฟเซอร์ก็ยังไม่ได้รับการดูแลแบบนี้เลย


 


“ผมจะไปพักที่โรงแรมฮิลตัน ผมหวังว่าจะได้พบกับผู้รับผิดชอบฝ่ายวิจัยและพัฒนาของคุณในบ่ายวันพรุ่งนี้นะครับ” เฝิงหยู่พูดกับวิกเตอร์


 


“ไม่มีปัญหาครับ ถ้าซีอีโอของเราไม่ได้ไปประจำการที่ไหน เขาจะต้องมาพบคุณอย่างแน่นอน ผมจะติดต่อคุณอีกทีพรุ่งนี้เช้านะครับ” ซีอีโอไม่ได้อยู่ต่างประเทศ เขาแค่เพียงรู้สึกไม่ค่อยอยากเจอเฝิงหยู่สักเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาพวกเขาพยายามที่จะโกงเฝิงหยู่


 


หากลูกน้องของเขาสามารถจัดการทุกเรื่องได้ และเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะปล่อยให้ลูกน้องเป็นคนรับผิดไป แต่ถ้าซีอีโอพบกับเฝิงหยู่เอง ทุกอย่างจะแตกต่างกันเลย เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ราคาหุ้นจะลดลงและชื่อเสียงของบริษัทจะได้รับผลกระทบ


 


ที่โรงแรมฮิลตัน เฝิงหยู่เรียกศาสตราจารย์หวัง ล่าม และหัวหน้าบอดี้การ์ดให้มาหาเพื่อเตือนพวกเขาถึงสิ่งที่ต้องระวัง


 


การเดินทางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อสูตรยา เรื่องอื่นๆ ไม่สำคัญเลย ตราบใดที่พวกเขาได้สูตรนี้ไป มันคือความสำเร็จ พวกเขาทุกคนจะได้รับรางวัล แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้สูตรยากลับไปด้วย เฝิงหยู่จะโมโหมาก พวกเขาจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์!


 


ทุกคนรับทราบและบอกว่าพวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเฝิงหยู่ แต่ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมเฝิงหยู่จึงต้องการให้พวกเขาเตรียมตัว แต่เฝิงหยู่บอกพวกเขาว่าอาจมีใครบางคนเข้าหาพวกเขาเพื่อมาติดสินบน เขาขอให้พวกเขายอมรับสินบนพวกนั้นและมาบอกให้เขารู้ เฝิงหยู่จะมีคำแนะนำให้พวกเขาว่าต้องทำอย่างไรต่อไป


 


สำหรับสาเหตุที่จะมีคนอยากมาติดสินบนพวกเขานั้น บางคนก็รู้เหตุผล แต่บางคนก็ไม่เข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีคนมาติดสินบนเขานั้นก็คือศาสตราจารย์หวัง


……


 


8 โมงเช้า วิกเตอร์ไปที่บริษัทของเขาเพื่อพบกับซีอีโอ ตั้งแต่กลับมาเขาไม่ได้มีเวลากอดกับภรรยาของเขาเลย


 


หากข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จ เขาจะมีเวลากอดภรรยาได้อย่างเต็มที่ทั้งวันเลย


 


“คุณจอร์จครับ คุณเฝิงและทีมของเขามาถึงแล้ว แต่น่าแปลกที่คุณเฝิงพามาแต่ทีมบอดี้การ์ด ทีมนักวิจัยทางการแพทย์ และทีมล่าม เขาไม่ได้พาทีมเจรจาต่อรองมาด้วย” วิกเตอร์รายงาน


 


แบบนี้มันดูไม่ปกติสำหรับการเจรจาตกลงทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก โดยปกติแล้ว ทีมเจรจาต่อรองต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 4 ถึง 5 คน หรือว่าคุณเฝิงต้องการเจรจาต่อรองข้อตกลงด้วยตัวเอง?


 


เป็นไปได้อยู่ เฝิงหยู่ไม่ได้มีทีท่าเหมือนคนร้อนเงิน และก็มีความเป็นไปได้ที่ล่ามของเขาและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมเจรจาของเขาด้วย


 


“ความเป็นไปได้ที่เขาจะซื้อสูตรของเราจากการเดินทางมาครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง?” จอร์จถาม


 


“สูงมากครับ เขาถึงขนาดเช่าเครื่องบินเหมาลำและพาคนจำนวนมากมาด้วย หากเขาไม่อยากซื้อ เขาคงไม่เสียเวลามาถึงนิวยอร์กหรอกครับ ผมมั่นใจว่าเขาจะซื้อข้อมูลการวิจัยของเราแน่นอนและเราสามารถขายข้อมูลพวกนั้นได้ในราคาสูงด้วย!” วิกเตอร์ตอบด้วยความมั่นใจ


 


“ดี ผมจะบอกให้คนที่เหลือปฏิบัติตามคำสั่งคุณ แต่คุณต้องแน่ใจว่านะว่าข้อตกลงครั้งนี้จะสำเร็จ ชื่อเสียงของเราจะได้รับผลกระทบหากคนอื่นรู้ว่าเราขายผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวของเราให้คนอื่น” จอร์จตอบ


 


วิกเตอร์ก็รู้ว่าถ้าเฝิงหยู่รู้ความจริง เขาจะต้องเป็นคนรับความผิดนี้เอง แต่เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เมื่อขายสูตรแล้ว เขาจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น


 


ตอนนี้วิกเตอร์ต้องการเพียงแค่ให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด และเมื่อเฝิงหยู่นำข้อมูลการวิจัยและสูตรกลับมาที่จีน ไฟเซอร์สามารถปฏิเสธที่จะยอมรับทุกเรื่องได้ มันเป็นปัญหาของคุณหากยาที่คุณผลิตจากข้อมูลของเรานั้นไร้ประโยชน์ ตอนที่เราขายสูตรพวกนี้ให้กับคุณ เราได้บอกคุณแล้วว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป


“คุณจอร์จวางใจได้เลยครับ ผมแน่ใจว่าข้อตกลงนี้จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ผมมั่นใจครับ!” วิกเตอร์ยังจำสีหน้าของศาสตราจารย์หวังและคนอื่นๆ ที่เหลือตอนที่พวกเขาเสียเงินบนเครื่องบินได้อยู่เลย หากทุกอย่างล้มเหลว เขาสามารถติดสินใครสักคนหนึ่งหรือทั้งสองคนก็ได้!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม