Don’t Heal the Others 76-100
76
“เธอต้องการอะไร? อยากจะสู้กับฉันหรอ?”
เสี่ยวเฟิง ค้อนไปที่เธอและ ไนท์คูเออร์ ก็ดูงุดงิดกับท่าทางของเขา
“เปล่า”
เสี่ยวเฟิงกำลังเดินอยู่บนทางที่เงียบสงบและไม่มีผู้เล่นคนใดอยู่รอบๆ เขา เพราะฉนั้น ไนท์คูเออร์ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดตัวตนของเธออีกต่อไป เธอตอบเสี่ยวเฟิง และเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาของเธอก็อู้อี้อยู่ในผ้าคลุมหน้าของเธอ
“แล้วเธอจะตามฉันมาทำไม?” ฉันยังอยู่ในรายชื่อผู้เล่นที่ต้องกำจัดของ มิดซัมเมอร์กิลด์นะ ”
เสี่ยวเฟิง เมินเธอและเดินต่อไปตามทางโดยไม่พูดอะไรออกมา
“ฉันไม่ได้ทำงานร่วมกับกิลด์นั้น”
ไนท์คูเออร์ พูดออกมาตรงๆ เสี่ยวเฟิงนึกขึ้นมาได้ว่าเธอนั้นพูดถูก เธอเป็นมือสังหาร นักรบ พระ และอาชีพ DPS ที่มีการโจมตีระยะไกล เป็นส่วนสำคัญของปฎิบัติการขนานใหญ่ของกิลด์ ในขณะที่ มือสังหารนั้น นั้นมีเพียงหน้าที่เฝ้าระวังและไม่มีความสำคัญ
เพราะถึงอย่างไร ผู้เล่นอาชีพนักฆ่าก็ตั้งใจที่จะทำงานตัวเดียว แทนการทำงานร่วมกับคนอื่น
“แล้วเธอต้องการอะไร?” เสี่ยวเฟิงถามอีกครั้ง เขากำลังจะไปทำภารกิจ และ ไนท์คูเออร์ ก็ไม่ควรจะตามเขาไปตลอดเวลา
นอกจากนั้น เขาก็ไม่สามารถที่จะโจมตีหรือไล่เธอไปได้ หากเธอเป็น Midsummer Rose เสี่ยวก็จะฆ่าเธอด้วยค้อนของเขาทันทีโดยไม่ลังเล แต่ ไนท์คูเออร์ นั้นต่างจากอีกหลายคน
เสี่ยวเฟิง กังวลว่าเธอจะมาที่บ้านของเขาอีก เพราะถึงอย่างไร เธอก็เคยแวะมาที่บ้านเขาตั้งหลายครั้ง
“ฉันอยากจะอัพเลเวลไปกับนาย ” เพราะฉันเป็นนักฆ่า ฉันก็เลยไม่เก่งในการสังหารมอนเสตอร์ นายเป็นพระ และนายก็ต้องช้ากว่าฉัน ดังนั้นเราจะสามารถร่วมมือกันสังหารมอนเสตอร์ได้ นายสามารถเพิ่ม HP และเพิ่มสมรรถภาพการต่อสู้ของฉันได้ มันมีประสิทธิภาพกว่าการไล่ฆ่ามอนเสตอร์คนเดี้ยวนะ”
ไนท์คูเออร์ เดินอยุ่ด้านหลังเสี่ยวเฟิงและพูดขึ้นอย่างแผว่เบา เธอยังส่วมใส่ชุดสีดำอยู่(night clothes)แต่เธอนั้น ไม่หยิ่งพยอง เหมือนครั้งก่อนๆ
เรื่อนร่างของเธอก็ถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติเช่นกัน หลังจากที่เธอได้ทำการเปลี่ยนอาชีพ เธอดูตัวเล็กในตอนที่เธออยู่ที่หมู่บ้านฝึกหัด แต่ตอนนี้ เธอก็สูงขึ้ามา ในขณะที่ หน้าอกของเธอยังคงแฟบเหมือนเดืม
“ฉันต้องทำภารกิจนี้ก่อนที่ฉันจะอัพเลเวล”
“ฉันก็อยากจะทำภารกิจนั้นด้วย มาสร้างทีมกับฉันเถอะ ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นภารกิจที่ลุยเดี่ยวได้นะ”
“เปล่า มันไม่ใช้ภารกิจที่ลุยเดี่ยวได้”
“รีบๆ มาร่วมทีมกับฉันสิ! ฉันจะไม่เอาของรางวัลของภารกิจของนาย”
เสี่ยวเฟิงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งคำเชิญชวนเข้าร่วมทีมไปให้เธอ
“เฮ้! แด็ด ส่งคำเชิญชวนเข้าร่วมทีมให้กับคุณ คุณจะรับหรือไม่?”
เห็นได้ชัดว่า ร่างของ ไนท์คูเออร์ นั้นแข็งถื่อก่อนที่เธอจะตกลงรับคำเชิญชวน
“ชื่อของนายแปลกจัง ไม่น่าเชื่อว่าระบบจะยอมรับชื่อนี้”
“นี้! ชื่อของฉันสมบรูณ์แบบ! บอกฉันสิว่าเธอคิดยังไงตอนที่เธอเห็นชื่อฉัน”
“หุบปาก!”
ไนท์คูเออร์ รู้สึกได้ว่ามันเสียเวลาที่จะคุยกับ เสี่ยวเฟิง โชคดีที่เธอส่วมหน้ากากอยู่และเสี่ยวเฟิง ก็ไม่สามารถมองสีหน้าของเธอออก
“นี้! นายมาทำอะไรที่สถานีส่งสาร? มันเป็นภารกิจขี่ม้าหรอ?”
เสี่ยวเฟิงเดินเข้าไปในสถานีส่งสาร หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เก็บความอยากรู้ของเธอไม่อยู่แล้วถามเขา
“เปล่า สถานที่ในภารกิจนี้ อยู่ค้อนข้างไกล ฉันต้องซื้อม้าที่ดีกว่านี้”
เสี่ยวเฟิง ยังคงจำได้ ว่าเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะม้าขาวของ ซื๋ออี้ ฉนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อม้าที่ดีกว่านี้ ถึงเข้าจะมีม้าดำอยู่แล้วก็ตาม
เขาเปิดหน้าร้านค้าของ NPC หัวหน้าของสถานีส่งสาร และมองเห็นม้าหนึ่งแถว
ม้าที่เข้าเคยซื้อมาก่อนหน้านี้คือ ม้าดำ ราคา เท่ากับหนึ่งเหรียญทองและความเร็วของมันอยู่ในระดับปานกลาง
ม้าขาว มีความเร็วที่สูงกว่าและราคาของมันเท่ากับ สิบเหรียญทอง
ม้าแดง มีความเร็วที่อยู่ในระดับสูง และราคาของมันเท่ากับ 20 เหรียญทอง
เสี่ยวเฟิง กัดฟันของเขา และซื้อม้าแดงมา เขาอาจสามารถจะอยู่ห่างจากเธอได้แล้ว เมื่อเขาพบกับเธอในครั้งต่อไป เขารู้สึกโล่งอกแลมั่นใจในความคิดนั้น
ยังมีม้า เฟอร์กานา อยู่อีกตัวที่มีราคา 50 เหรียญทอง แต่เสี่ยวเฟิงยังไม่มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้
“ม้าของเธอ อยู่ในระดับไหนนะ?”
เสี่ยวเฟิงถาม ไนท์คูเออร์ เพื่อไว้ก่อน เขาแกรงว่าม่าของเธออาจจะมีระดับสูงกว่า
“ม้าแดง มีอะไรหรอ?” ไนท์คูเออร์ ถามอย่างประหลาดใจ
“เปล่าไม่มีอะไร ฉันแค่อยากรู้หน่ะ” ม้าของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกันและเสี่ยวเฟิงก็โล่งใจ
เสี่ยวเฟิง ขึ้นขี่ม้าตัวใหม่ของเขา และรีบเดินทางไปยัง สถานที่ในภารกิจ มันเป็นเทือกเขาและระยะห่างของมันจากเมืองเตียนหลงก็คล้ายๆ กับระยะห่างระหว่าง ภูเขาเจิดจรัสกับเมือง เชียงชุย
ไนท์คูเออร์ ก็ตามหลังเสี่ยวเฟิงเช่นกัน แต่เธอนั้นดูมีประสบปารณ์กว่า ซื๋ออี้ พวกเขาร่วมมือกันและผ่าน อาณาเขตของเหล่ามอนเสตอร์อน่างง่ายด่ายและโดนไม่หยุดตลอดทาง
“นี้! ไอ้กร๊วก! แก บล๊อก ฉันอีกแล้วหรอ? รีบๆ ยกเลิกมันซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะแวะไปบ้านแก แล้ว ขโมยแกกินอีกนะ”
แน่นอนว่า พวกเขาก็ทะเลาะกันอีกครั้ง เสี่ยวเฟิงทนอยู่กับเธอไม่ไหวและปิดหน้าจอนั้นลง
“มีบางอย่างผิดแปลกไปในสถานที่แห่งนี้ มีมอนเสตอร์ผีดิบดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามทาง นายแน่ใจนะว่าเรามาถูกทาง ฉันมองไม่เห็นเลเวลของ มอนเสตอร์ พวกนี้ด้วน สกิลการสอดแนมระดับกลาง ของฉันเลยนะ “
ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงพวกก็เข้าใกล้ เชิงเทือกเขา ได้อย่างรวดเร็ว มอนเสตอร์ซอมบี้และโครงกระดูกเลเวลสูงก็ปรากฏตัวขึ้นมาแทนที่สัตว์ประหลาดทั่วๆ ไป
เมื่อมองไปยังภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำหลาบก้อน และซึ้มเยิ้มไปด้วยบรรยากาศอันมืดมน ไนท์คูเออร์ ก็ อดไม่ไ่ด้ที่จะถามเขา
“ไม่! เรามาถูกที่แล้ว! ที่นี้มันสุดยอดมาก!”
แต่เสี่ยวกลับ ดีใจ แน่นอนว่า เทือกเขานี้เกี่ยวพันกับเผ่าพันธ์แห่งความมืด นี้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการอัพเลเวลอย่างมาก!
เป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่ และเขาจะฆ่ามอนเสตอร์มากเท่าไรก็ได้ตามใจของเขา
มี มอนเสตอร์และผีดิบจากเผ่าพันธ์แห่งความมืด จำนวนมากในเทือกเขาแห่งนี้ และเขาจะสามารถฆ่ามันได้ทั้งหมด เสี่ยวเฟิงสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นจากความคิดของเขาและเร่งฝีเท้าของม้าเขา
“เฮ้! แผนที่ระดับสูง! โปรดระวังตัว!”
ไนท์คูเออร์ นั้นมีความรู้สึกตรงกันข้ามกับ เสี่ยวเฟิง อย่างสิ้นเฉิง เธอระมัดระวังตัวอย่างมาก
ตรงทางเข้าสู่เทือกเขาคือหุบเขากว้าง หลังจากที่วิ่งผ่าน มอนเสตอร์โครงกระดูกที่อยู่กันกระจัดกระจาย พวกเขาก็เก็บม้าและแอบเข้าไป พวกเขาเดินทางผ่านปากทางเข้าของหุบเขา เสี่ยวเฟิงดีใจหลังจากที่เขาได้เห็นฉากที่อยู่ภายใน
มีมอนเสตอร์โครงกระดูกสีขาวอยู่ในหุบเขานี้! เสี่ยวเฟิงสามารถเห็นทะเลแห่งโครงกระดูกแห่งความตาย ได้ และมันมีมากกว่าพันตน
“ฮาฮ่า! เราจะสร้างกำไรได้มหาศาล! ไปกันเถอะ! อย่างน้อยพวกเราก็เลเวลอัพขึ้นมาหนึ่งเลเวลหลังจากที่เราฆ่า มอนเสตอร์พวกนี้!”
เสี่ยวเฟิงยิ้มด้วยความตื่นเต้นและวิ่งเข้าไปในหุบเขา
เสี่ยวเฟิง ถูกค่าประสบการณ์จำนวนมากทำให้หลงไหล และลืมภารกิจของเจ้าเมืองเตียนหลงไปอย่างสิ้นเชิง ถึงอย่างไรก็ตาม มันไม่ใช้ภารกิจที่มีการจำกัดเวลา เขาสามารถที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จทีหลังได้และการอัพเลเวลก็เป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้
“นายอยากจะฆ่ามอนเสตอร์พวกนี้หรอ? พวกนั้นคือทหารโครงกระดูก เลเวล 20 มันมี HP 1200 แต้ม และพลังป้องกันระดับพื้นฐาน แต่พวกมันมีกันหลายตนและจะเป็นสถานทีที่ดีในการอัพเลเวล”
ไนท์คูเออร์ เดินอยู่ข้างหลังเสี่ยวเฟิงแลพพูดออกมาหลังจากที่เธอเห็น เลเวลของ มอนเตอร์โครงกระดูกจำนวนมาก จากนั้นเธอก็เดินออกและโบกมือ ไก่อ้อเอ้ที่สง่าราศี ตัวหนึง ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของเธอ
“เราเริ่มกันเถอะ เราจะฆ่ามอนเสตอร์ที่อยู่ท้างซ้ายเป็นอันดับแรก พวกมันอยู่กันกระจัดกระจาย ช่วยเพิ่ม บัฟ ให้กับฉันด้วย สัตว์เลี้ยงของนายอยู่ไหน? นายน่าจะเรียกมันออกมาได้แล้ว เอ่อ..แล้วอีกอย่างนะ สัตว์เลี้ยงระดับทองที่อยู่ในอันดับหนึ่งของรายชื่อสัตว์เลี้ยงเป็นของนายใช้ไหม? เจ้าของของมันซ่อนชื่อตัวละครของเขาและฉันคิดว่านั้นน่าจะเป็นนาย ”
ไนท์คูเออร์ จับ มีดสั้นทั้งสองเล่ม และพูดกับเสี่ยเฟิงโดยไม่หันหัวของเธอมาด้วนซ้ำ เธอกำลังรอ การ บัฟของเสี่ยวเฟิง และกำลังจะวิ่งเข้าไปฆ่ามอนเสตอร์เหล่านั้น
“เธอทำอะไรของเธอ?”
แต่เสี่ยวเฟิงก็มองมาที่เธออย่างประหลาดและถามเธอด้วยความฉงน เขาหยิบ คทารักษา ออกมาและกระโดดไปบนก้อนหิน เขาเหวี่ยวคทานั้นและทหารโครงกระดูกทั้งหมดก็ถูก ปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิืธิ์
“-195!”
“-195!”
“-195!”
“-195!”
…
ตัวเลขความเสียหายจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้นบนหัวของทหารโครงกระดูกทุกตัวพร้อมกัน เลขความเสียหายก่อตัวเป็นเมฆสีแดงและลอยขึ้นจากหุบเขานั้น!
สกิล โฮลี่ ไลท์ ของเสี่ยวเฟิงนั้นอยู่ที่เลเวล 1 และผลรักษาของมันก็คือ 10 เปอร์เซ็นของ HP ของเป้าหมายของเข้า บวกกับ ค่าพลัง ปราณ ของเขา ความเสียหายของมันก็จะเท่ากันเช่นกัน 10 เปอร์เซ็น ของ HP ของ ทหารโครงกระดูก เท่ากับ 120 แต้ม ในขณะที่ฆ่า พลังปราณของเขา เท่ากับ 75 ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างความเสียหาย 195 แต้ม ให้กับเหล่ามอนเสตอร์ได้สำเร็จ!
ไนท์คูเออร์ กำลังจะเร่งเสี่ยวเฟิงให้เพิ่ม บัฟ ให้กับเธอ แต่ทันใดนั้นเธอก็ต้องตะลึงไปกับเมฆสีแดงในหุบเขาทันที!
มี มอนเสตอร์ อยู่ที่นี้กว่าพันๆ ตัว! แต้มดาเมจอันมหาศาลปรากฏขึ้นบนหัวของพวกมันพร้อมกัน ทะเลแห่งกระดูก นั้นตื่นขึ้นในทันที และ HP ของทหารโครงกระดูก
“หนีเร็ว!”
เสี่ยวเฟิงมองไปที่พวกมันด้วยความพอใจ แต่ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีในทันทีในเวลาต่อมา เขาได้ดึงดูดค่าความเกลียดชังของทหารโครงกระดูกทุกตัวแล้ว เสียงคำรามและกรีดร้องของพวกมันก้องกังวานไปทั่วหุบเขา และเหล่าทหารโครงกระดูกก็วิ่งเข้าหาเขาเหมือนกับคลื่นทะเล!
เสี่ยวเฟิงหันหลังวิ่งหนีอย่างไม่ลังเล นอกจากนั้นเขายังตะโกนไปหา ไนท์คูเออร์ ที่กำลังเหม่อลอยอยู่ เพื่อปลุกเธอ
ไนท์คูเออร์ ได้สติกลับมาและใบหน้าของเธอก็ดำคล้ำเช่นกัน เธอตะลึงไปกับสิ่งที่เธอเห็น ทหารโครงกระดูกเป็นพันตัวรวมตัวกันเป็นมหาสมุทรและวิ่งเข้ามาพวกเขา เธอไม่รู้ถึงสิ่งที่เสี่ยวเฟิงได้ทำลงไปและทำไม HP ของทหารโครงกระดูกพวกนี้ลดลงพร้อมๆ กัน แต่เธอก็ปัดความสงสัยพวกนี้ทิ้งไปและหันหลังและวิ่งหนีตามเสี่ยวเฟิงไป
77
นี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเสี่ยวเฟิงจำเป็นต้องเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาสามารถทำได้ เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกมันวิ่งมาตามใจชอบได้เพราะเขาต้องการที่จะฆ่าทหารโครงกระดูกพวกนี้ ทางออกที่ดีที่ปล่อยให้พวกมันวิ่งไปรอบๆ หุบเขานี้
แต่มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว ในการที่เขาจะถูกมอนเสตอร์เป็นพันตันไล่ล่าในเวลาเดียวกัน เป็นเพราะทางเดินที่คับแคบของหุบเขา เขาจึงไม่ต้องเผิชญหน้ากับมอนเสตอร์หลายตัวพร้อมๆ กัน แต่มันก็ยังเป็นงานที่มีความยุ่งยากอยู่ดีและผู้เล่นทั่วไปก็ไม่กล้าที่จะลองดีกับงานแบบนี้เช่นกัน
แน่นอนว่า เสี่ยวเฟิงไม่ได้กลัวพวกมัน แต่เขาไม่มั่นใจว่า ไนท์คูเออร์ จะรอดจาก ทะเลโครงกระดูกแห่งความตายนี้ ได้หรือไม่ แค่เขาก็ต้องโกรธและพูดไม่ออกหลังจากที่เขาหันกลับไปมองเธอ
ไนท์คูเออร์ ใช้ สกิลซ่อนตัว และไม่มีทหารกระดูกตัวใดสังเกตุเห็นเธอเพราะเธอไม่ได้ดึงดูดค่าความเกลียดใดๆเข้ามา
กล่าวคือ ทหารโครงกระดูกทุกตน กำลังวิ่งเข้าหาเสี่ยวเฟิง และเธอเพียงเฝ้ามองโดยไม่ต้องทำอะไร
เสี่ยวเฟิง พูดไม่ออก แต่นี้ไม่ใช้เวลาที่จะโต้เถียงกับเธอ ทะเลโครงกระดูกจะถึงตัวเขาในไม่ช้าและเขาทำได้เพียงหันหลังและวิ่งหนีไปเท่านั้น
นี้คือหนึงในการป้องกัน ที่น่าตื่นเต้นที่สุดอย่างแน่นอน เสี่ยวเฟิงเปรียบเสมือนกับใบไม้ในทะเลแห่งโครงกระดูกนึก เขากระโดดขึ้น-ลง ในคลื่นกระดูก โดยไล่รอยขีดขวน มันดูน่าระทึกขวัญ แต่เสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เพราะเขาต้องต่อสู้กับทหารโครงกระดูก อย่างมากที่สุดเพียงหนึ่งกลุ่มเท่านั้นในเวลเาเดี่ยวกัน
หลังจากที่วิ่งไป-มาอยู่ในหุบเขาพร้อมกับทหารโครงกระดูกทั้งหลาย เสี่ยวเฟิงก็พบว่าระยะเวลา คูลดาวน์ ของ สกิล โฮลี่ไลท์ ของเขา ในได้ผ่านไปแล้ว คทารักษาสามารถลดระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิล โฮลี่ไลท์ ไปสามวินาที ดังนั้นเขาต้องการเพียงแค่รอเป็นเวลา 27 วินาที ก่อนที่เขาจะใช้สกิลนั้นได้อีกครั้ง
เสี่ยวเฟิงหันหลังกลับมาและเหวี่ยงคทารักษาของเขาในทันที ทันใดนั้น เมฆสีแดงก็ลอยขึ้นมาในหุบเขาอีกครั้ง
“-195!”
“-195!”
“-195!”
…
ตัวเลขความเสียหายจำนวนมาก ปรากฏขึ้น และ HP ของทหารโครงกระดูกทั้งหมดก็ลดลงอีกครั้ง เสี่ยวเฟิงวิ่งหนีทันทีหลังจากที่เขาใช้สกิลและพวกทหารโครงกระดูกก็ไม่มีโอกาสที่จะจับเขาได้
ไนท์คูเออร์,ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ และกำลังเฝ้ามองเขา ก็ตัวแข็งขึ้นมาในทันที ก่อนหน้านี้เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เสี่ยวเฟิงกำลังทำอยู่ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจมันกระจ่างแล้ว!
เขากำลังฆ่ามอนเสตอร์พวกนี้อยู่ แต่ต่างจากผู้เล่นทั่วไปเสี่ยวเฟิงกำลัง ฆ่ามอนเสตอร์ ร้อยๆ ตัวในเวลาเดี้ยวกัน!
ไนท์คูเออร์ มองเห็นมันด้วยตาทั้งสองข้างเอง ถ้าไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่เชื่อว่าผู้เล่นเพียงหนึ่งคนจะสามารถฆ่ามอนเสตอร์เป็นร้อยตัวได้ในเวลาเดี่ยวกัน!
เวลาคูลดาวน์ 27 วินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วและเสี่ยวเฟิงก็เอาตัวรอดจากทหารโครงกระดูก ได้อย่างไร้ลอบขีดขวน เขาเหวี่ยงคทารักษานั้นอีกครั้ง และ เมฆสีแดงก้อนที่สามก็ปรากฏขึ้น HP ของ ทหารโครงกระดูกทั้งหมดได้ถูกลดลงไปครึ่งหนึง
เสี่ยวเฟิงกำลังเหวี่ยงคทาของเขาต่อไปเรื่อยๆ และ ไนท์คูเออร์ ก็ตกลงไปในวังวนและมองไปที่เขาด้วยความว่างเปล่า หลังจากเกิดเมฆสีแดงติดต่อกันหกครั้ง หลอด HP ของทหารโครงกระดูกทั้งหมดในหุบเขานี้ก็เกือบจะหมดเกลี้ยงและเหลือ เพียงไม่กี่สิบแต้มเท่านั้น ระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิลโฮลี่ ไลท์ ของเสี่ยวเฟิง ผ่านไปแล้ว และเมฆสีแดงก้อนที่เจ็ดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“-195!”
“-195!”
“-195!”
…
“เฮ้! ทีมของคุณได้สังหาร ทหารโครงกระดูก ระดับ 20 และได้รับค่าประสบการณ์ 300 แต้ม”
“เฮ้! ทีมของคุณได้สังหาร ทหารโครงกระดูก ระดับ 20 และได้รับค่าประสบการณ์ 300 แต้ม”
“เฮ้! ทีมของคุณได้สังหาร ทหารโครงกระดูก ระดับ 20 และได้รับค่าประสบการณ์ 300 แต้ม”
…
“เฮ้! ขอแสดงความยินดี! คุณถึงเลเวล 13 และได้รับแต้มค่าสถานะฟรี 1 แต้ม”
…
“เฮ้! ขอแสดงความยินดี! คุณถึงเลเวล 12 และได้รับแต้มค่าสถานะฟรี 1 แต้ม”
…
ไนท์คูเออร์ ถูกถล่มไปด้วยเสียงเตือนอย่างฉับพลันของระบบ ทหารโครงกระดูแต่ละตัวสามารถมอบ ค่าประสบการณ์กับพวกเขาได้ 300 แต้ม และมีทหารโครงกระดูกเกือบ 10,000 ตนที่ถูกฆ่าในหุบเขานี้ พร้อมกัน!
พวกเขาได้รับค่าประสบการณ์เกือบถึง 3 ล้านแต้ม!
นี้เป็นตัวเลขค่าประสบการณ์อันมหาศาล แสงไฟของการเลเวลอัพ ปรากฏขึ้นบนศรีษะของพวกเขาทั้งสอง
แต่เสี่ยเวฟิงใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาทีในการฆ่าพวกมัน!
โครงกระดูกแห่งความตาย ถล่มลงในพลิบตา และหุบเขานี้ก็ถูกท่มไปด้วยโครงกระดูกจำนวนมาก ซึ่งนั้นเป็น ภาพที่น่าพึงพอใจ
ในขณะเดียวกัน เหรียญทอง อุปกรณ์ และ ยา ต่างๆ มากมายก็ปรากฏขึ้นในหุบเขาที่เต็มไปด้วยกระดูก มีไอเทมอยู่เยอะมากจนพวกเขามองไม่เห็นทางออก
เสี่ยวเฟิงรีบวิ่งเข้าไปเก็บไอเทมเหล่านั้นทันทีอย่างไม่รอช้า มีไอเทมดรอปออกมาเยอะเกินไปในขณะที่เขาไม่มีเวลาพอที่จะเก็บมันทั้งหมด
นี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ที่ยากกว่าการจมอยู่ในทะเลโครงกระดูกเสียอีก มีผ้าสีเขียวหลายชิ้นอยู่บนพื้น ในขณะที่เขาไม่สามารถที่จะหยิบพวกมันขึ้นมาได้ หัวใจของเสี่ยวเฟิงปวดร้าว แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาโศรกเศร้ากับสิ่งเขาเสียไป เขาสามารถทำได้เพียงตัดสินใจที่ จะข้ามชิ้นอุปกรณ์พวกนี้ไปและมองหาชิ้นที่ดีกว่า
“นาย…นายฆ่ามอนเสตอร์แบบนี้ตอลดเลยหรอ? นี้คือเหตุผลที่นายอยู่ในอันดับแรกในรายชื่อเลเวลตลอดเวลาสินะ?”
ไนท์คูเออร์ ยังคงตะลึงอยู่ เธอมอง เสี่ยวเฟิงที่กำลังง้วนอยู่กับการเก็บไอเทม ด้วยความว่างเปล่า
แต่เสี่ยวเฟิง เมินเธอ ไนท์คูเออร์ ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมองไปที่ไอเทมที่ดรอปอยู่อย่างมากมายและมีไม่รู้จบ เธอก็วิ่งเข้าเก็บไอเทมพวกนั้นอย่างบ้าคลั่งด้วยความตะลึง
ใน มิท ผู้เล่นจะมีเวลาเพียง สิบนาทีในการเก็บของที่ตกจากมอนเสตอร์ ระบบจะกำจัดพวกมันทิ้งหลังจากที่ผ่านไปสิบนาที
เสี่ยวเฟิงนั้นรวดเร็ว แต่เขาก็ล้มเหลวในการเก็บไอเทมให้ได้ทั้งหมดภายในเวลาสิบนาที ไอเทมทั้งหมดที่ตกอยู่บนพื้นหายไปในทันทีหลังจากผ่านไปสิบนาทื
อุปกรณ์ทั้งหมดในหุบเขานี้ถูกพัดออกไปโดยระบบและเสี่ยวเฟิงก็ต้องหยุด หัวใจของเขาปวดร้าว
“ว้า! เสียดายจัง!”
ไนท์คูเออร์ ก็พูดขึ้นด้วยความเสียดายเช่นกัน “นายมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าพวกสัตว์ประหลาด แต่ของที่ตกส่วนใหญ่ จะเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เว่นแต่ว่านายจะสามารถนำกลุ่มผู่เล่นกลุ่มใหญ่มาเพื่อเก็บไอเทมพวกนี้ได้้”
“ถ้ากิลด์ที่มีประสิทธิภาพนาดนี้ พวกเขาก็จะก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิมและจะแข็งแกร่งกว่า กิลด์อื่นๆ !”
ไนท์คูเออร์ มองไปที่เสี่ยวเฟิงอย่างลึกซึ้ง เธอรู้ถึงความสำคัญของประสิทธิภาพที่มีต่อกิลด์อย่างกระจ่างชัด ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการฆ่ามอนเสตอร์แบบนี้ จะสามารถทำให้พวกเธอ? สามารถได้รับ ค่าประสบการณ์อันมหาศาล และอุปกรณ์ชิ้นใหม่ จำนวนนับไม่ถ้วน
ถ้าฉากนี้หลุดออกไป กิลด์หลักๆ ในเขต Huaxia จะต่อสู้แย่งชิงตัวเสี่ยวเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตายแน่นอน
เสี่ยวเฟิง เมินเธอ เขาเปิดกระเป๋าของเขาและมองดูเงินที่เขาได้มา
เขาเก็บรวบรวมเหรียญทองมากที่สุด เพราะอย่างไรก็ตาม ทหารโครงกระดูก ก็เป็นเพียง มอนเสตอร์ตัวน้อย และส่วนใหญ่มันก็ดรอปเพียงเหรียญทองแดง มีเหรียญเงินอยู่ไม่กี่เหรียญและเขาก็ได้รับเหรียญทองมาเพียงโหลหนึ่งเท่านั้น
จากนั้นเขาก็ตรวจดูอุปกรณ์ ทั้งหมดนั้น เป็นอุปกรณ์ระดับหายาก ระดับ 20 และมีอยู่ 13 ชิ้น เสี่ยวเฟิงจงใจไม่สนใจอุปรณ์ที่อยู่ตำกว่า ระดับหายาก อุปกรณ์ระดับหายากเป็นอุปกรณ์ที่ดีทีสุดที่มอยเสตอร์ทั่วไปสามารถดรอปได้
กำไรที่ได้มานั้นไม่มั่งคังเหมือนที่เขาจิตนาการเอาไว้ แต่เสี่ยวเฟิงก็พึงพอใจกับกำไรที่หามาได้ เพราะถึงอย่างไร มันก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการมอนเสตอร์เหล่านี้และเขาสามารถฆ่าพวกมันซ้ำแล้วซ้ำอีกได้เพื่อได้ของดรอปมากขึ้น แต่การเก็บอุปกรณ์นั้นเป็นงานที่ยากกว่าการฆ่ามอนเสตอร์
“นี้! ทำไมนายดูประหลาดจัง?”
ดูเหมือนว่า ไนท์คูเออร์ จะได้รับกำไรมาพอสมควรเช่นกัน เธอโยนผ้าเสื้อสีเขียวออกไปหลายตัว แล้วถามพูดกับเสี่ยวเฟิง
“นี้เธอชมฉันหรอ?” เสี่ยวเฟิงพูดด้วยความโกรธ
“โอเค…ไอคุณเทพ ทำไมนายถึงเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพขนาดนี้ละ? นายเป็น ฮีลเลอร์ แล้วทำไมนายถึงฆ่ามอนเสตอร์ได้ดีละ?” ไนท์คูเออร์ กรอกตาของเธอและุถามเสี่ยวเฟิง
“ไม่ใช้เรื่องที่เธอต้องรู้ ไปกันเถอะ”
เสี่ยวเฟิงเมืนเธอ เขาเดินผ่านหุบเขาและเดินเข้าไปไกลกว่าเดิม
“ห่ะ! ฉันได้ที่สองใน อันดับเลเวล! ฉันอยู่ในเลเวลที่สูงกว่า มือดาบ ซะอีก! เดี้ยวนะ? อาชีพของนายคือ นักพืธีการศักดิ์สิทธิ์! นั้นเป็นอาชีพลับหรอ?”
ไนท์คูเออร์ เดินตามเสี่ยวเฟิงและมองดู อันดับเลเวล เธอดีใจอย่างมากหลังจากที่เธอพบว่าเธอได้ที่สอบในอันดับเลเวล แต่เธอก็สังเกตุเห็นอาชีพของเสี่ยวเฟิงที่ได้ที่หนึ่งในทันที เธอถามเขาด้วยความสงสัย
“ถูกต้อง”
เสี่ยวเฟิงพูดอย่างสบายๆ ผู้เล่น พระ ทั่วไปจะกลายเป็นนักพิธีการหลังจากได้ทำการเปลี่ยนอาชีพของเขา ผู้เล่นที่ฉลาดหลักแหลม จะรู้ในทันทีว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพลับ หลังจากที่เห็นชื่อของมัน
“ว้าว! นายเปลี่ยนอาชีพยังไงหรอ? ทำไมนายถึงเลือกอาชีพลับได้ละ? ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายจะแกข็งแกร่งและเชี่ยวชาญขนาดนี้! นายได้ภารกิจนั้นจากที่ไหนหรอ? ฉันทำไมได้เปล่า? ” ไนท์คูเออร์ ถามด้วยความตื่นเต้น
“พวเราเป็นศัตรูกัน ไม่ใช้หรอ? แล้วฉันจะบอกเธอได้ยังไง?”เสี่ยวเฟิง พูดอย่างหมดความอดทน
“เฮ้! นายใจแคบจัง”
ไนท์คูเออร์ ส่งเสียงไม่พอใจ แต่เธอก็หยุดถามเสี่ยวเฟิงแล้วปล่อยเขาไป อาชีพลับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และผู้เล่นจะไม่บอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมันให้กับคนอื่น
หลังจากที่เดินผ่านหุบเขานั้น พวกเขาก็ได้มาถึงเทือกเขาอย่างเป็นทางการ ทองฟ้านั้นมีสีเทาและพื้นดินเป็นสีขาวซีดและแห้งแล้ง ทิวทัศน์ที่ดู แห้งแล้งและอ้างวาง ก็ปรากฏขึ้นข้างหน้าของพวกเขา
สันเขา ชี้ออกไป และดูเหมือนเสาหินที่แหลมคม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลย และพืชพันธ์ก็เหี่ยวแห้ง
“ที่นี้ ทั้งมืดมนและดูเหมือนหลุมฝังศพ แล้วภารกิจของนายคือ?”
ไนท์คูเออร์ หัวหด เธอลูบหัวไหล่ของเธอด้วยมือทั้งสองข้างแล้วถามเสี่ยวเฟิง
“ภารกิจตรวจสอบ ตำแหน่งของภารกิจน่าจะอยู่ข้างหน้านี้”
เสี่ยวเฟิงอ่านแผนที่ของระบบและมองไปที่ เคล็ดลับ ของภารกิจนี้อีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดกับ ไนท์คูเออร์ ด้วยความลังเล
“้เราไปกันเถอะ เดี้ยวก่อน! มีมอนเสตอร์อยู่!”
ไนท์คูเออร์ ก้าวไปข้างหน้าแต่พื้นดินที่ว่างเปล่าและแห้งแล้วตรงหน้าของเธอก็แตกออกอย่างฉับพลัน และ มอนเสตอร์โครงกระดูกสามตัวก็ปีนขึ้นมาที่ละตัว
“ฉันใช้สกิลสอดแนมขั้นกลาง มองเลเวลของพวกมันไม่ได้! พวกมันจะต้องมีเลเวลสูงกว่าฉันอย่างน้อยสิบเลเวลแน่นอน!
ไนท์คูเออร์ ก้าวถอยหลังมาทันที และพูดอย่างรอบคอบ พร้อมกับถือมีดอยุ่ในมือของเธอ
“พวกมันเป็นมอนสเตอร์ ตัวน้อยเลเวล ระดับ 25”
เสี่ยวเฟิงมองไปที่พวกมันด้วยสกิลสอดแนมขั้นสูงและพูดขึ้น ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นข้อมูลของสัตว์ประหลาดที่มีเลเวลสูงกว่าเขาได้ 15 เลเวล จากการใช้ สกิลสอดแนมชั้นสูง ฉนั้น เสี่ยวเฟิงจึงยังมองเห็นข้อมูลของพวกมันอยู๋
“มอนเสตอร์ตัวน้อยระดับ 25? มันไม่เป็นปัญหา เราจะฆ่าพวกมันหมดก็ได้ถ้ามีเวลาพอ แต่การเกิดใหม่ของพวกนั้นทั้งประหลาดและอันตราย มันจะโพล่ออกมkจากพื้นในทันทีโดยไม่มีการเตือน!”
เสี่ยวเฟิง กับ ไนท์คูเออร์ ดึงดูดค่าความเกลียดชังของมอนสเตอร์โครงกระดูกทั้งสามตัวและ พวกทันกำลังวิ่งเข้าหาพวกเขา ไนท์คูเออร์ มองไปที่พวกมันและพูดอย่างจริงจัง
“เราจะอ้อมไปข้างหลัง”
เสี่ยวเฟิงนั้นไม่มีความกังวลเลย เขาเคยรับมือกับ มอนเสตอร์โครงกระดูกชนิดนี้ที่คลานออกมาจากพื้นดินมาแล้วหลายครั้ง เขาจึงมั่นใจว่าเจาจะสามารถข้ามผ่านจุดเกิดใหม่ของพวกมันไปได้
“ฮึมมม!”
มอนสเตอร์โครงกระดูกสามตัว คำรามและวิ่งเข้าหาพวกเขา ผู้เล่นทั่วไปคงจะทำทุกวิธีทางเพื่อ่ที่จะเลี่ยง มอนเสตอร์ที่มีเลเวล 25 พวกนี้ แต่ เสี่ยวเฟิง กับ ไนท์คูเออร์ นั้นไม่ใช้ผู้เล่นธรรมดา
พวกมันกลายเป็นกองกระดูกที่แตกหักภายในเวลาสองนาที
“ทำไมพลังโจมตีของนายเยอะจัง? ไม่ใช้ว่าอาชีพลับของนายอยู่ในแขนง พระ หรอกหรอ?”
เธอรู้สึกผิดหวังที่เธอฆ่ามอนเสตอร์ได้เพียงตัวเดียว และพบว่าอีกสองตัวได้ถูกเสี่ยวเฟิงฆ่าไปแล้ว เธออยากจะแสดงให้เขาได้เห็นถึง สมถรรมภาพการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 ของอาชีพนักฆ่า เธอรู้สึกประทับในความเร็วของเขาและไม่รู้จะพูดอะไร
—–
78
ที่จริงแล้วผู้เล่นก็เคยพูดถึงเสี่ยวเฟิงใน กระทู้ หลังจากที่เขาเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จและกลายเป็นนักพิธีกรรมศักดิ์กดิ์สิทธิ์ได้ไม่นาน
เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็ได้อันดับหนึ่งในอันดับเลเวลและผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ติดความคืบหน้าของเขาอย่างใกล้ชิด เลเวลที่เปลี่ยนไปของเขาจะนำไปสู่การถกเถียงที่ร้อนแรง ซึ่งยังไม่รวมถึงการเปลี่ยนไปเป็นอาชีพลับของเขา
ในมิท อาชีพลับนั้นเป็น ตัวแทนของพลังและอำนาจอย่างเด่นชัด มันมีความหายากและแข็งแกร่งกว่าอาชีพทั่วๆ ไป ฉนั้น ผู้เล่นจำนวนมากจึงตลั่งไคลกับมันมากและคอยที่จะรับภารกิจจาก NPC
ถว่า มันก็เป็นการยากสำหรับผู้เล่นที่จะหาได้พบ เพราะว่าอาชีพเหล่านั้นถูกซ่อนอยู่ พูดเล่นจำนวนนับไม่ถ้วนพยามอย่างสุดความสามารถ แต่มีเพียงไม่กี่คนจากผู้เล่นเป็นร้อยล้านคนในเขต Huaxia ที่สามารถเปลี่ยนอาชีพของพวกเขาได้สำเร็จ
ถว่า ในฐานะที่เขาเป็นผู้เล่นลึกลับที่ชิ่งที่หนึ่งในอันดับแลเวลของเขต Huaxia เขาจึงเป็นที่สนใจของผู้คนอื่นๆ หลายคน หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนเป็นอาชีพลับสำเร็จ แต่ผู้เล่นส่วนมากก็กำลังคาดเดาตัวตยของผู้เล่นลึกลับผู้นี้อยู่ เพราะถึงอย่างไร เขาก็คือผู้เล่นลึกลับคนนั้นที่ชิงที่หนึ่งในอันดับเลเวล และ มันก็เรื่องเป็นปกติสำหรับเขาที่เปลี่ยนไปเป็นอาชีพลับ
แน่นอนว่า มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ยังคงถามถึง เทพลึกลับผู้นี้ พวกเขาริษยาในความสำเร็จของเขา และต้องการดึงตัวเขาเข้ามา หรือต้องการที่จะรู้วิธีเปลี่ยนไปเป็นอาชีพลับ
แน่นอนอีกว่า เสี่ยวเฟงนั้นไม่สามารถบอกกับ ไนท์คูเออร์ ถึงคุณสมบัติของอาชีพของเขาได้ ดังนั้น ไนท์คูเออร์ จึงแกล้งและทิ้งเขาไว้ตามลำพังโดนไม่ถามคำถามใดต่อ เธอโทษความเงียบของเขา ไว้กับอาชีพที่แข็งแกร่งและมีอำนาจของเขา
หุบเขาทั้งหุบเขานี้นั้นแห้งซีดและมอนเสตอร์โครงกระดูกก็อาจจะเกิดใหม่และคลานกลับขึ้นมาจากพื้นดินอีกครั้ง เสี่ยวเฟิงและไนท์คูเออร์ พยายามที่จะข้ามผ่านจุดเกิดใหม่ แต่พวกเขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับ มอนเสตอร์โครงกระดูก อยู่หลายครั้ง แต่พวกมันมีจำนวนเล็กน้อย และเสี่ยวเฟิงกับ ไนท์คูเออร์ ก็สังหารพวกมันได้อย่างง่านดาย
“ฉันจำได้ว่านายพูดว่านายเล่นเกมออนไลน์เป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่านายจะมีประสบการณ์มากกว่าฉันนะ”
ไนท์คูเออร์ สงสัยว่าทำไม เสี่ยวเฟิงจึงมีความสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมอนเสตอร์ได้
“บางทีอาจเป็นเพราะฉันเป็นอัจฉริยะก็ได้”
เสี่ยวเฟิงคิดอย่างจริงจัง เกี่ยวกับคำถามนี้ซักครู่ แล้วก็ตอบมันอย่างจริงจังเช่นกัน
ไนท์คูเออร์ มองไปที่เสี่ยวเฟิงด้วยความชื่นชมและถาม “แล้วฉันจะไร้อย่างอายแบบนายได้ยังไงละ?”
“…”
“ว้าว! ค่าประสบการณ์! เร็วเข้า! ความประสบการณ์เยอะแยะเลย และอุปกรณ์มากมายกำลังรอเราอยู่!”
ไนท์คูเออร์ อยู่บนภูเขาสูงและร้องออกมาด้วยความตื้นเต้น เธอกลับมาตื่นเต้นและกำลังจะวิ่งเข้าไปหาเสี่ยวเฟิง
เสี่ยวเฟิง ที่เดินอยู่ข้างหลังเธอ เงยหน้าขึ้น และพูดอะไรไม่ออก มีทหารกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ด้านหน้าพวกเขาอย่างแน่ชัด พวกมันอยู่ที่นี้มีเยอะพอๆ กับที่พวกมันอยู่ที่หุบเขา พวกมันก่อตัวกันเป็นทะเลแห่งกระดูกและค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลก็พอที่จะทำให้เสี่ยวเฟิงเลเวลอัพอีกครั้งได้ หากเขาสามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด
แต่ใบหน้าของเสี่ยวเฟิงกลับดำคล้ำหลังจากที่เขาเห็นทะเลแห่งกระดูก ลูกนี้ ชัดเจนยิ่งขึ้น
มันไม่ใช้เพราะเลเวลของพวกมอนเสตอร์พวกนี้มากเกินขีดจำกัดของสกิลสอดแนมของเขา และทำให้เขาไม่สามารถมองเห็น เลเวลของพวกมันได้ เพราะถึงอย่างไร สกิล โฮลี่ไท์ ก็สร้างความเสียหายแบบเปอร์เซ็น และเขาสามารถฆ่ามอนเสอตร์ที่มีเลเวลสูงกว่าเขาหลายเลเวลได้
ใบหน้าของเสี่ยวเฟิง ดำคล้ำก็เพราะ อาชีพของกลุ่มทหารโครงกระดูขนาดใหญ่กพวกนี้ ดูอันตราย พวกมันส่วนใหญ่เป็น มอนเสอตร์ที่โจมตีระยะไกล และรวมถึง นักธนูกระดูก และ นักเวทกระดูก ด้วย
เสี่ยวเฟิง มั่นใจในการป้องกันของเขา แต่เขาต้องการพื้นที่เพียงพอในการหลบหลีก แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีระยะไกลของกระดูกเป็นพันๆ ตัว ลักษณะการโจมตีของพวกไม่จะไม่ถูกจำกัดเพียงแค่ จุด หรือ แถว เท่านั้นแต่มันสามารถ จะรวมเป็นกลุ่มก้อนหรือแผ่นได้ ไม่มีช่องว่างระหว่างการโจมตีที่หนาแน่นแต่ละครั้งเลย และพวกมันก็จะโถมใส่เขาเหมือนกับกำแพง ไม่มีที่ให้หลบและไม่มีที่ให้หนี
นอกจากนั้น เสี่ยวเฟิงยังจำเป็oต้องวิ่งไปกับพวกมันในระว่าง ช่วงระยะเวลเาคุลดาน์ของสกิลของเขา เขาจะต้องโดนมอนเสตอร์พวกนี้ยิงแน่นอน มอนเสอตร์จำนวนมากพวกนี้เป้นพวกที่มีอาชีพโจมตีระยะไกลและจะฆ่าเสี่ยวเฟิงตายในทันทีไม่ว่าพลังโจมตีของพวกมันจะอ่อนแอแค่ไหนก็ตาม แสี่ยวเฟิงไม่สามารถที่จะรอดจากการโจมตีของพวกได้เว้นแต่ว่าศรีษะของเขาจะทำมาจากเหล็ก
“หยุดยืนนิ่งๆ ได้แล้ว! เร็วเข้า รีบไปฆ่าพวกมันซะสิ! มีมอนสเตอร์อยู่ที้นี้มากกว่าในหุบเขานะ! เราอาจจะเลเวลอัพอีกหนก็ได้!”
ไนท์คูเออร์ นั้นตื่นเต้นและเร่งให้เสี่ยวเฟิงเริ่ม เธอรู้สึกดีจากขึ้นกว่าเก่าและมั่นใจว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่เธอตามเสี่ยวเฟิงมาทำภารกิจ เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่จำเป็นต้องโจมตีมอนเสตอร์เหล่านี้ เธอต้องทำเพียงแค่รับ EXP พวกนี้และเก็บไอเทมที่ดรอปหลังจากที่เสี่ยวเฟิงฆ่ามอนเสตอร์ทั้งหมดไปแล้ว!
นอกจากนี้ ยังมัมอนเสตอร์มากมายในสถานที่แห่งนี้และเสี่ยวเฟิงก็มีความสามารถในการฆ่ามอนเสอตร์พวกนี้ พวกเขาได้รับค่าประสบกาณ์อันมหาศาลภายในเวลาไม่นานและสามารถอัพเลเวลได้อย่างรวดเร็วเหมือนจรวดi
เธอไม่เชื่อว่า ผู้เล่นคนหนึ่งจะสามารถเลื่อนเลเวลได้สองถึงขั้นภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง มาจนถึงวันนี้!
“เธอช่วยดึงค่าความเกลียดของมอนเสตอร์พวกนั้นมาหน่อย เธอมีอาชีะเป้นมือสังหารและฉันเชื้อว่าเธอเก่งในเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะทำ DPS พอตราบใดที่เธอดึงมอนเตอร์ทั้งหมดเอาไว้ เสี่ยวเฟงจ้องเข้าไปในตาของ ไนท์คูเออร์
“มีมอนเสตอร์โจมตีระยะไกลอยู่มากเกินไป และฉันก็คงดึงพวกมันมาทั้งหมดไม่ได้ การดจมตีของพวกมันนั้นหนาแน่นและไม่มีทีให้หลบ ฉันจะต้องถูกฆ่าตายในทันทีอย่างแน่นอน” ไนท์คูเออร์ มองไปยังทะเลของมอนเสตอร์โครงกระดูก และพูดออกมาด้วยความไ่ม่มั่นใจ
“ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ เธอจะถูก ฆ่าตายในทันที และ ฉันก็ไม่สามาร5ที่จะเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของพวกมันได้” เสี่ยวเฟิงพูดด้วยความโกรธ
“นายเป็น เทพ ไม่ใช้หรอ? ” ไนท์คูเออร์ พูดด้วยเสี่ยงที่แผวสเบา
“เทพ ถูกฆ่าได้เหมือนกัน! หัวของฉันไม่ได้ทำมาจากเหล็กนะ!”
”ฉันไม่ได้บังคังให้นายโจมตีพวกมันนิ ทำไมนายถึงมาสติแตกใส่ฉันละ?” ไนท์คูเออร์ บ่นด้วยเสียที่แผว่เบา เธอส่งเสียงทางจมูก และพูดต่อด้วยความไม่พอใจ “นายยังไม่แข็งแกร่งพอ ฉันมั่นใจว่า ไอดอล(Idol) ของฉันจะไม่กลัวมอนสเตอร์พวกนี้ ”
“แล้ว ไอดอล ของเธอเป็นใคร? ไอรอนแมน(Iron Man) หน่ะหรอ?” เสี่ยวเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ
“นี้ ไอดอลของฉันเป็นตำนานเดียวในเกมนี้ และชื่อของเขาคือ ออลเรเลีย! นายรู้จักเขาไหม? เขาเป็นตัวอย่างที่โดดเด่น บนโลกของเกมนี้ และวีดีโอทุกชิ้นก็เป็นสื่อการสอนเขาสร้าง ออลเรเลียเสต็ป ขึ้นและผู้เล่นทุกคนก็ใฝ่ฝันที่จะเรียนรู้ทักษะนี้อย่างช่ำช่อง ฉันเคยดูการเล่นของเขาครั้งหนึ่งโดยบังเอิญและฉันก็ถูกการกระทำของเขาทำให้ฉันหลงไหล นั้นคือเหตุผลที่ฉันเริ่มเล่นเกมออนไลน์” ไนท์คูเออร์ พูดและเธอก็หลงอยู่ในความทรงจำ ซึ่งมีให้เห็นไม่บ่อยนัก
“อย่างนั้นเธอก็จะผิดหวังเอานะ ไอดอลอขงเธอก็จะถูกฆ่าเช่นกันถ้าเขาต่อสู้กับมอนเสตอร์พวกนี้” เสี่ยวเฟิงหันและเดินไปข้างหน้าต่อ
“นายไม่ได้รับอนุญาติให้หลบหลู่เขานะ! ออลเรเลีย ไม่ได้เป็นของฉัน! เขาเป็น ไอดอล ของผู้เล่นทุกคนในเขต Huaxia! เขาชนะรางวัลและเกียรติยศมากมายให้กับเขต Huaxia! เขาคือวีรบุรุษของประเทศนี้!” ไนท์คูเออร์ ไล่ตามเสี่ยวเฟิงจนทันและพูดกับเขาอย่างจริงจัง
“นี้! เธอชอบเขาหรอ? เขาเป็นคนรักในฝันของเธอรึไง? เสี่ยวเฟิงถามโดยไม่หันศรีษะเขากลับมาด้วยซ้ำ”
“หืมม ฉันก็น่าจะสามารถเป็นแฟนสาวของเขาได้ ถ้าเขาไม่อ้วนแบบนั้น” ไนท์คูเออร์ นั้นลังเล ซึ่งมีให้เห็นไม่บ่อยนัก
ออลเรเลีย เป็น ไอดอลของผู้เล่นทุกคนในเขต Huaxia และเป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ้วน เขาหนักกว่า 200 ปอนด์ และเป็นคนที่อ้วนถุถะอย่างแม้จริง มีวีดีโอมากมายเกี่ยวกับตัวเขาบน อินเทอร์เน็ต และทุกคุณก็ทราบถึงความจริงข้อนี้ดี แต่มันก็ไม่ได้ขัดขวางผู้เล่นจากทั่วโลกที่จะให้ความรักและบูชาเขา
ออลเรเลียเป็นคนอ้วนมาก ดังนั้นผู้เล่นทั่วไปจึงไม่อะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา และดูเหมือนว่า เขาก็จะไม่มีแฟนสาว ถึงแม่ว่าเขาจะได้รับรางวัลและเกียรตืยศมากมาย และก็ยังเป็นขายหนุ่มที่ยังมีพลัง
“ฮาฮ่า”
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฟิงจะหัวเราะออกมา ในฐานะที่เขาเป็น ชายหนุ่มที่ซื่อบริสุทธิ์ เขาจำเป็นต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบและต่อสู้เพื่อ เกียรติยศของประเทศ แต่ไม่มีใครที่สนับสนุนเขาเมื่อเขาเหนื่อยอ่อนและแพ้พ่าย
มันเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา
“เดี้ยวนะ..”
ไนท์คูเออร์ หยุดอย่างฉับพลันและปิดหูของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง เธอพูดอะไรบ้างอย่างด้วยเสียงที่แผว่เบาเหมือนกับว่ากำลังคุยกับใครบ้างครในโทรศัพท์
เสี่ยวเฟิงก็หยุดและรอคอยเธอเช่นกัน แต่เขาไม่สนใจในบทนทนาของเธอ เขาเดินออกไปเพื่อสำรวจ ภูมิทัศน์ของเทือกเขาแห่งนี้
“ฉันต้องไปแล้ว ลูกพี่ลูกน้องฉันขอให้ฉันไปหา นายก็นายจะออกไปกับฉันด้วย”
ไนท์คูเออร์ ภายใจหนึ่งนาที จากนั้นเธอก็เดินมาหาแล้วพูดกับเสี่ยวเฟิง
“เกิดอะไรขึ้น? มันมีอะไรเกี่ยวกับฉันหรอ?” เสี่ยวเฟิงรู้สึกประหลาดหลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด
“ลองดูที่หน้าหลักของกระดานสนทนา ทางการ สิ กระทู้นั้นน่าจะถูกตั้งไว้บนสุดแล้ว” ไนท์คูเออร์ ตอบ
เสี่ยวเฟิงกดไปไปที่เมนูของระบบ และเปิด กระดานสนทนาขึ้นมา เขาถูกดึงดูดโดยหัวข้อแรกบน กระดานสนทนาเป็นทางการแห่งนี้ในทันที
โซนระดับ 15 โซนแรกได้ถูกค้นพบแล้ว กระทู้นี้มีไว้สำหรับผู้เล่นทุกคน ในเขต Huaxia พวกเราต้องการ ผู้เล่นระดับเทพและผู้เล่นระดับสูงหลายคน! กรุณามาที่ทางเข้าโซนและร่วมมือกันทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!
เนื้อหาของกระทู้มีดังนี้: “สถานการณ์นี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและเราจำเป็นต้องสรุปอย่างรวบรัด! ฉันคือ เหลาซวี และภารกิจของโซน นั้นถูกเปิดโดย กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ มันอยู่ในเมือง เชียงชุย และผู้เล่นสามารถเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ ได้ด้วยการใช้วงแหวนเคลื่อนย้ายในเมืองหลักทั้งหมด อย่างที่ทุกคนรู้ โซน ในแต่ละระดับ จะมีสนามรบชิ่งดินแดนแบบจัดอันดับ (ฺbattlefield land reclamation ranking ) และฝั่งแรกที่เสร็จสิ้นภารกิจของโซน จะได้รับแต้มเกียรติยศเป็นรางวัล เพื่อเกียรติยศแห่งเขต Huaxia ท่านผู้เล่นระดับเทพและผู้เล่นระดับสูง โปรดรีบและมาร่วมมือกัน เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ! ว่ากันว่าเขต อเมริกาเหนือก็ได้พบ โซนนี้ แล้วเช่นกัน ตอนนี้พวกเขากำลังแข่งกับพวกเรา ผู้เล่นระดับเทพที่มีเกียรติยศ! โปรดรีบมาที่เมือง เชียงชุย!”
กระทู้ปรากฎขึ้นเมื่อสิบนาทีที่แล้ว มันบอกพวกเขาถึงจุดรวมตัวและบอกอย่างชัดเจนว่าต้องการเพียงผู้เล่นระดับสูง ผู้เล่นทั่วไปต้องปฎิบัติตามความสามารถของพวกเขาและหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เสียเวลาอันมีค่าของเขต Huaxia
ผู้โพส คือ เหลาซวี และเสี่ยวเฟิงก็รู้จักผู้เล่นคนนี้ เขาเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นของเขต Huaxia เขาไม่มีความสามารถในการต่อสู่ที่แข็งแกร่ง แต่เขาเก่งในเรื่องรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ ดังนั้นการวิเคราะห์ของเขาถึงดูน่าเชื้อถือในสายตาผู้เล่น
“ฉันต้องกลับไปแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของฉันอยากให้ฉันเข้าร่วมทีมบุกเบิก ในนามของ มิดซัมเมอร์กิลด์ ฉันสามารถนำ ผู้เล่นคนหนึ่งจาก มิดซัมเมอร์กิลด์ มากับฉันได้เป็นกรณีพิเศษ!” ไนท์คูเออร์ พูด เธอหยิบ คัมภัร์ย้อนกลับออกมาและจากไปในแสงสีขาว จากนั้นก็พูดขึ้น “ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถทำภารกิจนี้กับนายได้วันหลัง แต่นายอู่ในอันดับแรกของอันดับเลเวล และฉันเชื่อว่านายจะมาร่วมทีมนี้ด้วย”
โซนของแท้ จะต้องยากกว่า ภารกิจทดสอบของหมู่บ้านฝึกหัดอย่างแน่นอน
ผู้เล่นสามารถสร้างทีม 20 คนได้ และจะมีการจัดอันดับ เวลาที่ทำได้ และการแนะนำทีมต่างๆ ด้านนอก โซน
แผนที่ของ โซน นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เล่นทุกคน หากพวกเขาสามารถทิ้งชื่อของพวกเขาไว้นอกโซน พวกเขาจะมีชื่อเสียอย่างงมากขึ้นในเขต Huaxia อย่างแน่นอน นี่เก็ยังเป็นโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิลด์ของพวกเขา
มันก็ยังเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิลด์หลักอีกด้วย หากชื่อของกิลด์ของพวกเขาสามารถอยู่ในอันดับสูงในหมู่ทีมบุกเบิก พวกเขาจะโด่งดังขึ้นและผู้เล่นก็จะรับรู้ความแข็งแกร่งของพวกเขาได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้เล่นในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ก็กำลังแข่งขันกันและพยายามที่จะเป็นคนแรกที่ทำภารกิจของโซน ได้สำเร็จ!
ไนท์คูเออร์ เป็นผู้เล่นระดับเทพใน หอเกียรติยศ และเธอยังได้อันดับสองในรายการระดับเลเวลของเขต Huaxia ดังนั้นเธอจึงสามารถนำผู้เล่นระดับเทพอีกคนของ มิดซัมเมอร์กิลด์ มาเข้าร่วมทีมบุกเบิกได้ มิดซัมเมอร์ โรส จะไม่มีทางพลาดโอกาสแบบนี้
“เฮ้! เพื่อน วอร์สปิริต ไนฟ กำลังโทรหาคุณ คุณจะยอมรับหรือไม่?”
เสี่ยวเฟิงได้รับสายจากไนฟ หลังจากที่ ไนท์คูเออร์ จากไป
“พระเทพ พวกเรา…”
ไนฟ พูดอย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสี่ยวเฟิงรับโทรศัพท์ แต่เซี่ยวเฟิงก็ขัดจังหวะเขาทันทีก่อนที่ ไนฟ จะพูดจบ
“โซน ระดับ 15 ใช้ไหม?”
“โอ้! พระเทพคุณรู้เรื่องนี้แล้ว!” วอร์สปิริตฮอล์ คือกิลด์ที่ค้นพบ โซนแห่งนี้ และพวกเราสามคนก็สามารถร่วมทีมกันได้ ท่านประทานต้องการที่จะชวนท่านมาเข้าร่วมทีมของพวกเรา แน่นอนว่า พวกเราจะไม่บังคับคุณ หากคุณไม่เต็มใจที่จะร่วมงานกับเรา”
79
เสี่ยวเฟิงวางสายและลังเลอยู่ครู่หนึง แต่ในที่สุดเขาก็ตัวสินใจกลับไปจากเทือกเขานี้ แทนที่เขาจะใช้คัมภีร์ย้ายกลับและบินกลับไปในทันที เขากลับขี้ม้าของเขาไปที่บริเวณใกล้เคียงกับเทือกเขา
เทือกเขานี้ เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการฝึกทักษะของเสี่ยวเฟิงแและ เสี่ยวเฟิงจะไม่ทิ้งที่นี้ไปง่ายๆ แต่มันก็อยู่ห่างไกลจากเมืองหลัก และ เสี่ยวเฟิงไม่อยากจะเดินทางกลับมาที่นี้ในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
เขาจำได้ว่า เขาเคยผ่านสถานที่ใกล้กับเมืองขนาดย่อมตอนที่เขาเดินทางมาที่นี้ เขาเดินเข้าไปในเมืองอย่างไม่รอช้า โดยปกติแล้ว เมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลัก สามารถจัดหา ยาโพชั่นมาขายได้เช่นเดี่ยวกันกับ คัมภีร์ย้ายกลับ เพราะว่ามีภารกิจมากมายที่นี้ที่เหมาะกับการอัพเกรดของผู้เล่น
คัมภีร์ย้ายกลับชนิดนี้ ไม่ใช้ชนิดที่สามารถส่งผู้เล่นไปยังเมืองหลักที่กำหนดไว้ได้ การทำงานของมันนั้นจะค่อนข้างจำกัด ตัวอย่างเข่น เขาเคยไปเยื่อน หมู่บ้านหิมะ มาครั้งหนึ่งกับ ซื๋ออี้ คีมภีร์ย้ายกลับที่มีขสยอยู่ที่นั้นจะสามารถส่งผู้เล่นไปยัง หมู่บ้านหิมะได้เท่านั้น และมันจะได้รับอนุมัติก็ต่อเมื่อใช้งานมันในเมือง เชียงชุย เท่านั้น
ไม่นานนัก ในเวลาประมาณสิบนาที เสี่ยวเฟิงก็ได้ค้นพบ เมืองขนาดย่อมที่ตามที่เขาได้คาดเอาไว้ และเมืองขนาดย่อมเมืองนี้ก็มีชื่อเรียกว่า เมืองเถื่อน เขาจากไปในทันทีหลังจากที่เขาไดซื้อคััมภีร์ย้ายกลับ เขาขยำคัมภีร์ย้ายกลับใบนั้นและกลับไปสู่เมืองเตียนหลง
แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะเคยไปที่เมือง เชียงชุย แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อ คัมภีร์ย้ายกลับของเมือง เชียงชุย แต่เขามีอีกใบที่ย้ายกลับไปที่เมือง เตียนหลง เขาสามารถกลับไปยังเมืองเตียนหลงและใช้วงแหวนเคลื่อนย้ายที่นั้นได้
การเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองหลักนั้นจะสามารถทำได้สำเร็จก็ต่อเมื่อผู้เล่นรู้ถึงชื่อของสถานที่ ที่เขาต้องการจะเดินทางไป แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้นั้นจะคำนวณจากระยะทางและค่าธรรมเนียมการเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองทั้งสองที่อยู่ใกล้เคียงอาจเท่ากับหนึงเหรียญทอง
ถึงแม่ว่า เสี่ยวเฟิง จะไม่ทรายถึงระยะทางระหว่างเมือง เชียงชุย และเมืองเตียนหลง ราคาสิบเหรียญทองนั้นทำให้เขาปวดใจ หากเขาไม่ได้กำจัดคลื่นทหารโครงกระดูกพวกนั้น เงินของเขาก็จะต้องไม่พอสำหรับการเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน
เสียงจมน้ำ
หลังจากที่เขาเดินออกไปจากวงแหวเคลื่อนย้ายจากเมือง เชียงชุย เสี่ยวเฟิงก็ตะลึงไปกับฉากหลังที่ยุ่งวุ่นวายและคึกคัก เขาคิดอยู่เป็นเวลานานว่าเขาได้กลับมายังหมู่บ้านฝึกหัด ที่มีฉากหลังเหมือนกันกับฝูงชนที่คึกคักเหล่านี้
“พระเทพ! ในที่สุดคุณก็มาถึง พวกเราอยู่ในร้านค้าขายอาวุธ! โปรดรีบมาที่นี้!”
เสี่ยวเฟิง ส่งข้อความไปหา ไนฟ และ ไนฟก็ตอบกลับทันทีอย่างกระตือรือร้น เสี่ยวเฟิงมองไปที่แผนที่ เพื่อยืนยันตำแหน่งของร้านขายอาวุธ จากนั้นเขาก็เดินฝ่าฝูงชนไปยังร้านขายอาวุธ
เสี่ยวเฟิง เพิ่งจะมาที่เมือง เชียงชุย เมื่อคืนนี้ และฉากหลังก็ไม่แย่ขนาดนี้ในเวลานั้น แน่นอนว่าพวกผู้เล่นทุกคนถูกดึงดูดมาด้วยข่าวของโซนใหม่
“ทำไมคนจาก วอร์สปิริตฮอล์ ถึงยังไม่มาละ?” นี้เราต้องรออีกนานเท่าไรกัน? แกจะรับผิดชอบอย่างไรกับเวลาที่เสี่ยไปแทนที่จะใช้เวลานั้นไปกับ กลยุทธ์ของเกม?”
ในเมือง เชียงชุย มีห้องขนาดใหญ่อยู่ในบ้านอาวุธ ที่เป็นห้องขั่วคราวเอาไว้สำหรับเปิดเช่า ในเวลานี้ มีผู้เล่นที่รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมากประมาณ 20 หรือ 30 คน พวกเขาทุกคนส่วมใส่ปุกรณ์ที่ดีอย่างที่ที่คุณคาดไม่ถึง พวกเขาเป็นผู้เล่นระดับสูงอย่างแน่นอน
มีผู้เล่นชายคนหนึ่งที่มี “ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา” อยู่บนหัวของเขา กำลังจ้องมอง สกาย อย่างไม่พอใจ
มีผู้เล่น สามคน อยู่บนหน้าจอของ วอร์สปิริตฮอล์ ก็คือ สกาย ไนฟ และ ซื๋ออี้ เขามีกันหลายคนเมื่อไปเทียบกับกิลด์ฺอื่นๆ ที่มีเพียงคนเดียว
“เราทำให้เสียเวลาตรงไหน? ถ้าไม่ใช้เพราะว่า กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ค้นพบ โซนนี้ พวกเขต อเมริกาเหนือ ก็จะไม่มีทางรู้ถึงประตูทางเข้าหรอกนะ”
ซื๋ออี้ ด้วยแขนที่โอบหน้าอกของเธออยู่ และหน้าอกที่ส่ายไปมา ดึงดูดความสนใจอย่างมาก ผู้เชายเกือบทุกคนที่อยู่ที่นี้ ทั้งที่มีเจตนา หรือ ไม่มีเจตนา พร้อมกันมองไปที่หน้าอกของเธอ
“โอ้ อย่าทะเลาะกันเลยเพื่อนพ้องของฉัน พวกคุณ เป็น ผู้เล่นระดับเทพ ที่มาอยู่ที่นี้เพื่อการบุกเบิกดินแดนใหม่ มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับคนอื่นที่จะหยอกล้อ การกระทำของคนอีกคน หากการภายในของเราไม่มีความสามัคคี และพวกเราปล่อยให้เขตอเมริกาเหนือชิงการเปิดตัวครั้งแรกไปได้ เมื่อนั้นเราก็จะไม่สามารถรับผิดชอบผลที่ตามมาได้ ”
ภายในกลุ่มของผู้เล่นนี้ กลุ่มนี้ ผู้เล่นที่เป็นผู้ชายวัยกลางคน นั้นดูโดดเด่นมากๆ เขาส่วมเสื้อผ้าที่เรียบง่ายเหมือนกับผู้เล่นมือใหม่และไม่มีอุปกรณ์ส่วมใส่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ถว่า เมื่อเขาเปิดปากพูด ทุกคนก็ไม่แย้งเขา เขาคนนี้คือ เหลาซวี.อย่างแน่นอน
“เขาต้องเป็นผู้เล่นระดับสูงที่สามารที่ถึงแม้จะเป็นพวกเรา ผู้เล่นทั้ง 19 คน รอเป็นเวลานานได้ และเข้ามาแทนที่ประธาน ของกิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ฉันไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่ ท่านประธานของกิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ได้เชิญมา เพราะว่าฉันเองก็ไม่ได้รับข้อความใดๆ เลยด้วยซ้ำ” เหลาซวี ยิ้มอย่างสุภาพ
ที่จริงแล้ว แรกเริ่มนั้น วอร์สปิริตฮอล์ มีที่ตำแหน่งอยู่สามตำแหน่ง นั้นคือ ประธาน สกาย, ไนฟ ผู้ที่เป็นนักรบโล่ที่เก่งที่สุด และ ซื๋ออี้ พระที่เก่งที่สุด
เมื่อ สกาย เสนอเปลี่ยนตำแหน่งในตอนแรก และขอให้คนอื่นมาเป็นตัวแทนของเขา ผู้เล่นบางคนก็แสดงความแปลกใจออกมา เมื่อคนที่มาแทนที่นั้น ไม่ใช้สมาชิกของ วอร์สปิริตฮอล์
ตำแหน่งทั้งสาม นั้นมีสำคัญมาก หากเขตฮวาเซีย สามารถได้รับการเข้าชิ่งดินแดนได้เป็นกลุ่มแรก จะต้องมีผู้เล่นสามคนที่มีชื่อนำหน้า วอร์สปิริตฮอล์ อยู่ในรายชื่อของทีมบุกเบิก นี่เป็นการโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับชื่อเสียงของ วอร์สปิริตฮอล์
ไนฟ ควรจะเสนอมอบตำแหน่งของเขาให้กับคนอื่น ได้แล้ว ผู้เล่นคนอื่นจะไม่รู้สึกประหลาดใจได้อย่างไรในเมื่อการตัดสินใจนั้นเกิดจากตัวเขาเองที่เป็น ประธานของกิลด์ กิลด์นี้
“ฉันทำสิ่งนี้ก็เพื่อจะทำให้เขตฮวาเซีย คว้าเกียรติยศแรกเป็นกลุ่มแรก ฉันจะทำสิ่งนี้ถึงแม้ว่าฉันต้องรออีกครึ่งชั่วโมงก็ตาม อย่าว่าแต่การยอมสละเพียงแค่ตำแหน่งเลย” สกายพูดออกมาทั้งๆ อย่างงั้น
“นี้! ฉันอยากรู้ว่าพระเจ้าองค์ไหนที่ต้องบูชาถึงขนาดนั้น เราหลายคนรอเขาอยู่เพียงคนเดียว มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ ท่านมือดาบ จะออกมากเป็นการส่วนตัว?”
พาลาดินแห่งการรักษา เป็นชายหนุ่มหน้าเย่อหยิ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นที่สะดุดตา แต่เขาก็ยังมีพละกำลังแข็งแกร่งมากพอ
ด้วยความที่เป็น หนึ่งในอดีตผู้เล่นสิบอันอันดับแรก ในหอเกียรติยศ และหนึ่งในผู้เล่นสิบอันดับแรกของเขตฮวาเซีย มันน่าแปลกที่ไม่มีความเย่อหยิ่งใดๆ ออกมากจาก ชายผู้นี้ที่มีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“ดูเหมือนว่าชายคนนี้ จะมีความแข็งแแกรงอยู่พอที่จะยอมให้ประธานของ วอร์สปิริตฮอล์ เริ่มหาคนมาเข้าแทนที่ตำแหน่งเขา ถ้าเขาทำได้ไม่ดีในภายหลังมันจะเป็นสิ่งน่าสนใจแน่นอน “
พาลาดินแห่งการรักษา นั้นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขามองไปที่ร่องลึกบนหน้าอกของ ซื๋ออี้ มีการประเมินว่ามีเพียง ท่านมือดาบ ใน เขตฮวาเซีย เท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่เขายอมรอ
มีผู้เล่นมากกว่า 20 คนอยู่ในฉากนี้ แต่บางคนก็อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญเหมือนกับ สกาย ตัวอย่างเช่น สกายจะออกมา ถ้าเสี่ยวเฟิงไม่ปรากฏตัวขึ้น มีคนอื่นอีกหลายคนที่เป็นผู้เล่นตัวแทนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
มีผู้เล่นเพียง 19 คนที่นั้นที่จะได้รวมทีมกัน ในขณะที่มีผู้เล่น 15 คนมาจากกิลโืหลัก ผู้เล่นเหล่านี้มีชื่อนำของหน้ากิลด์หลักอยู่ มันเป็นโอากาสที่ดีมากในจะแสดง ศักด์ศรีของพวกเขา และไม่มีกิลด์หลักใดๆ อยากที่จะพลาดโอกาสแบบนี้
ถว่าผู้เล่นที่สามารถเข้าร่วมทีมชิงดินแดนได้นั้นเป็นผู้เล่นระดับสูงและผู้แทนของกิลด์หลักทั้งนั้น พวกเขาหลายคนเป็นถึง ประธานและรองประธานของกิลด์แต่ละที่ แต่ละคนก็มีความแข็งแกร่งระดับหนึง และทีมชิงดินแดนนั้น ไม่สามารถนำผู้เล่นที่มีไว้ผ่านๆ เข้าไปได้ เว้นแต่ว่าพวกนั้นจะเป็น ไนท์คูเออร์ หรือ พาลาดินแห่งการรักษา เมื่อนั้นคุณจะสามารถนำพวกเขาเข้าร่วมทีมได้ เพราะว่าพวกเขามีความแข็งแกรงพอ
ทีมทีมนี้ยังสะถ้อนถึงความสัมพันธู์ระหว่างกิลด์หลักๆ ทั้งหลายอีกด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมทีมถ้าผู้เล่นนั้นมีความขัดแย้งกับ วอร์สปิริตฮอล์.
ถว่าทีมชนิดนี้ที่รวมกิลด์หลักเข้าด้วยกันแบบนี้ มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เพราะว่าทุกคนเป็นแกนหลักของกิลด์ และเคยเข้าการต่อสู้แบบทีมมาหลายครั้ง การร่วมมือกันทุกรูปแบบจึงเป็นไปได้ง่านกว่าเดิม แต่ผู้เล่นระดับเทพที่กระจายตัวกันไป อย่าง ไนท์คูเออร์ และ พาลาดินแห่งการรักษา นั้นมีบุคลิกเป้นของตนเอง ซึ่งทำให้พวกเขายากที่จะการควบคุม
เว้นจากผู้เล่น 15 คนจากกิลดฺ์หลัก ยังมีผู้เล่นอีกเพียง 4 คนที่ไม่มีชื่อนำหน้าของกิลด์ พวกเขาคือ พาลาดินแห่งการรักษา เหลาซวี ไนท์คูเออร์ และ วัยรุ่นคนหนึ่งที่หลบอยู่ในมุมและแอบมองไปที่ ซื๋ออี้ เขาคือ นักธนูหนุ่ม
นักธนูหนุ่มคนนั้นไม่แสดงของเขาให้เห็น แต่ถ้าเสี่ยวเฟิงอยู่บนหน้าจอ เสี่ยวเฟิงก็อาจจะจำเขาได้ ชายหนุ่มคนนี้เป็นนักธนูที่ ‘มีความสุขมาก’ กับเสี่ยวเฟิงในตอนที่เขาทำภารกิจสัตว์เลี้ยง
“เทพองค์ที่สิบเจ็ด ยังไงคุณก็ยังเป็นผู้ชาย ถ้าคุณอยากมองคุณก็มองไปที่มันตรงๆ คุณแค่มองไปด้านบนของกระดานและมองมันชัดๆ ไปเลยสิ คุณจะมาแอบมองอยู่ตรงนี้เทำไม?”
ชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความทุเรศ และมีชื่อ ซอด ออฟ ไดนาสตี้ อยู่บนศรีษะของเขา เดินเข้าไปหาผู้เล่นนักธนูและจับไหล่ของเขาแล้วพูดขึ้น
“ฉันไม่ได้แอบมอง บ้าเอ้ย!! ”
ผู้เล่นนักธนูหนุ่มพูดขึ้น เมื่อเขาตกใจและผลักมือของลุงชั่วคนนั้นออกไป
ดูเหมือนว่า ซื๋ออี้ จะได้ยินมาจากด้านหลัง เธอหันหลังมายิ้มให้กับนักธนูหนุ่ม และเสน่ห์ที่เหย่าหยวยใจก็เผยออกมาตามธรรมชาติ แต่เธอก็หันกลับไป
ใบหน้าของ นักธนูหนุ่มแดงก่ำในทันที และเขาก็รีบหันหน้าหลบธอ
“โอ้ ฉันไม่คิดว่า เทพเจ้าอายุ 17 ปี จะใช้ชื่อจาก นักธนูหนุ่มอายุ 17 ปีที่อยากนอนกับพระ เขาควรจะเป็นเด็กหนุ่มที่บริสุทธ์ โอ้”
ลุงที่ชั่วช้า ซอด ออฟ ไดนาสตี้ นั้นประหลาดใจอย่างมาก แล้วก็มีเสียงดูดน้ำลายออกมาจากปากของเขา
นักธนูหนุ่มคนนี้ ก็น่าจะเป็น เทพที่อยู่ใน หอเกียติยศเช่นกัน! ก็คือ นักธนูอายุ 17 ที่อยากนอนกับพระคนนั้น! แต่คนอื่นๆ ทุกคนกลับเรียกเขาว่า เทพเจ้าเองค์ที่สิบเจ็ด
สิบเจ็ด นั้นกลัว ซอด ออฟ ไดนาสตี้ ชายผู้ชั่วช้า อย่างเห็นได้ชัด เขาย้ายไปนั้งอีกที่หนึ่ง และเลิกสนใจ
ไนท์คูเออร์ ก็กำลังหลบอยู่ในมุมเช่นกัน เธอเป็น มือสังหารชาวจีนคนแรกในสายตาของผู้เล่นทั่วไป เธอไม่ได้ขยับ ถ้าเธอขยับมันจะเป็นการโจมตีที่อันตรายที่สุด
ความจริงแล้ว ไนท์คูเออร์ จะเป็นแบบนี้เมื่อเธออยู่ต่อหน้าคนแปลกหน้า เธอซ่อนอยู่เงียบๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังมองไปรอบๆ และคอยมองดู จนเธอรู้ว่าทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว ยกเว้น เสี่ยวเฟิง เธอรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
แม้ว่าเธออยากจะส่งข้อความไปหา เสี่ยวเฟิง เธอก็ไม่ได้ส่งมันออกไปเพราะเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของเขาดี ทีมทีมนี้ ไม่ได้เข้าร่วมแบบอิสระเท่าที่เธอรู้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะรู้
แม้ว่าเธอจะมีที่สำหรับผู้เล่นที่มีไว้ผ่านๆ มันก็ได้ถูกมอบให้กับ โรสที่อยู่ใกล้กับเธอ ไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามาถนำคนอื่นมาเข้ามาได้อีก
โรส คลุมตัวเธอไว้ด้วยชุดไหมพรมหิมะและยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรออกมาเลย เหมือนกับว่าเธอได้เจนโลกไปแล้ว และให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วนควันฝุ่นและความสละสลวยออกมา
ด้วยความที่เธอเป็นหนึ่งในผู้เล่นหญิง ในทีม โรสก็ดึงดูดความสนใจมาพอควร แต่เธอไม่สนใจมันเท่าไรนัก ท่าทางที่ดูเย็นชาของเธอก็ทำหน้าที่เป็นกำแพงขวางความคิดที่จะเข้ามาทักทายเธอของผู้เล่นคนอื่น อย่างมากที่สุดก็พวกเขาแค่กล่าวคำทักทายกับเธอ ถึงจะเป็นแบบนี้ ไนท์คูเออร์ ผู้ที่ได่งดัง ก็มาที่นี่ พร้อมกันกับเธอ ไนท์คูเออร์ ตอนนี้อยู่ในอันดับสองของเขตฮวาเซีย และแซงหน้า ท่านมือดาบ ไปแล้ว ผู้คนจึงประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของเธอมาก
ความจริงแล้ว เหตุที่ทำไม โรส ถึงไม่ทำตามฝูงชน ที่นอกเหนือจากบุคลิกที่ดูเย็นชาของเธอ นั้นอีกสิ่งหนึ่ง เธอเป็นผู้เล่นที่มีไว้เฉยๆ ที่ถูก ไนท์คูเออร์ พามาด้วย ไม่ใช้เพราะว่าความแข็งแกร่งของเธอที่ทำให้ ไนท์คูเออร์ พาเธอมา แต่เพราะเธอรู้สึกได้ว่า ตัวตนนี้นั้นดูต่ำต้อยกว่า ดังนั้นเธอจึงดูจริงใจและวง่า เมื่อเธอได้เป็นส่วนร่วมของทีมบุกเบิก แม้ว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นผู้เล่นแกนหลักจากกิลด์หลัก พวกเขาก็ยังมีประโยชนต่อ มิดซัมเมอร์กิลด์ ในการพัฒนาต่อไปในอนาคต
80
“เขากำลังมา”
สกาย พูดขี้นมาอย่างกะทันหันและขัดบทสทนาในห้องนี้ ทุกคนนึกได้ในทันทีว่า หัวหน้าของ วอร์สปิริตฮอล์ ได้รอคอยบ้างสิ่งที่กำลังจะมาถึง ผู้เล่นกว่า 20 คนมองไปที่ประตูพร้อมๆ กัน
จากนั้น ชายที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเริ่มต้นก็พลักประตูออกและเดินเข้ามา เขาเป็นคนที่ตัวสูงและสมส่วน ผู้เล่นคนอื่นเห็นในทันที่ว่าเขาคือ เสี่ยวเฟิง
ทุกคน จ้องไปที่ใบหน้าของเขา พร้อมๆ กัน พวกเขามองไปที่ชื่อบนศรีษะของเขา หลังจากที่นึกได้ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นเขามาก่อน ทุกคนต่างตกใจไปกับชื่อของเขา ที่ชื่อ อาชบิชอป ออกมาแทนที่ เขาไม่ใช้ผู้เล่นระดับเทพที่พวกเขาคุ้นเคย
ชายคนนี้คือใครกัน?
บางที่ผู้เล่นส่วนใหญ่อาจมีคำถามแบบนี้ พวกเขามองไปยังเสี่ยวเฟิง และ กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ด้วยความสงสัย
เขาเข้ามาผิดห้องรึ? อาจเป็นไปได้ที่ กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ส่งคำเชิญไปให้ผิดคน
“เฮ้! มีคนอยู่ที่นี้เยอะจัง!”
ทุกคนมองไปที่เขาอย่างว่างเปล่า และ เสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้คาดว่าจะมีผู้เล่นมากขนาดนี้อยู่ในห้องเช่นกัน มีผู้เล่นอยู่มากกว่า 20 คน และจะสามารถรวมทีมกันได้มากกว่าหนึ่งทีม เสี่ยวเฟิงทักทานพวกเขาอย่างเป็นมิตร
“ฉันคิดว่านายจะไม่มาแล้วสะอีก”
ไนท์คูเออร์ ถือโอกาสทักกับเสี่ยวเฟิงก่อนใคร แต่เธอพิมพ์แทนที่จะพูดกับเขา เธอมองเสี่ยวเฟิง และมันดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการจะเปิดเผยเพศของเธอ
“เขาคือ ผู้ชายลามก! นายมาที่นี้ทำไม?”
นักธนูอายุ 17 ผู้ที่หลบอยู่ในมุม ก็จ้องเสี่ยวเฟิงแล้วพูดขึ้น เขายังจำวันนั้นได้ตอนที่เขาถูกเสี่ยวเฟิงยั่วโมโห ที่ ฟาร์ม และทำให้เขาต้องล้มเลิกภารกิจของเขา
กลุ่มของผู้เล่นระดับสูงที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง จริงจังขึ้นมาในทนัที พวกเขามองเสี่ยวเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้เล่นระดับเทพสองคนพูดคุยกับเขาทีละคน และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เข้ามาผิดห้อง เขาต้องเป็นคนคนนั้นที่ วอร์สปิริตฮอล์ กำลังรออยู่ เขายังเป็นผู้เล่นระดับสูงอีกด้วยเนื่องจากเขารู้จักกับผู้เล่นระดับเทพทั้งสองคนนั้น
แต่ไม่มีใครเคยพบหรือได้ยิน ชื่อ อาชบิชอป ของเขามาก่อนแลย พวกเขามองไปที่เสี่ยวเฟิงอย่างรอบคอบ แต่ก็ยังล้มเหลวที่จะเทียบเคียงเขาเข้ากับผู้เล่นระดับเทพคนอื่นได้
“โอ้ เดี้ยวนะ! ชื่อของเขาฟังดูคุ้นๆ นายคือคนที่เอาชนะพวกผู้เล่นจาก ดูมส์เดย์ลีค เมื่อวานนี้ใช้ไหม? ”
“ใช้แล้ว ดูเหมือนเขาคือ ชายผู้นั้น เป็นที่พูดกันว่า ดูมส์เดย์ก็อด และ พวกผู้จัดการระดับสูงหลายคน ของกิลด์ ดูมส์เดย์ลีค ถูก NPC นำตัวไปขังคุก สมาชิกทั้งหมดของ ดูมส์เดย์ลีค กำลังช่วยพยายามเหลือพวกเขาอยู่ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่มาก”
“ใช้ ฉันก็ได้ยินเรื่องของพวกเขามาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าชื่อของผู้เล่นที่หลอกล่อ ดูมส์เดย์ก็อด ให้มาติดกับดับคือ อาชบิชอป ผู้เล่นหลายได้ยินข่าวนี้ และ กิลด์ ดูมส์เดย์ลีค ก็กลายเป็น ตัวตลก ของโลกในเกมไปแล้ว เราไม่คิดว่าจะมี ใครบ้างคนแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บเพื่อที่จะรีดไถ่เงินในเกมนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
แม่ว่าจะมีหลายคนที่ไม่รู้จัก เสี่ยวเฟิง แต่พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อ อาชบิชอบ ของเขา
กิลด์ ดูมส์เดย์ลีค ได้รับ ความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายขายขี้หน้าเมื่อว่านนี้ และ ฝ่ายบริหารระดับสูง หลายคนของกิลด์นั้นก็ถูก NPC นำไว้ในคุก เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความอื้อฉาว ในกระดานสนทนาของกิลด์ และพวกเขาก็นึกว่า สมาชิกของกิลด์ ดูมส์เดย์ลีค ใจกล้าเกินไป พวกเขากล้าดียังไงต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นในเมืองหลัก? แค่หลังจากที่ได้รับรุ้ความจริง ผู้เล่นหลายคนก็ประหลาดใจและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ผู้เล่นจากกิลด์หลักทั้งหลาย กระซิบกระซาบและจ้องเสี่ยวเฟิง อย่างประหลาด
แต่ก็ยังมีผู้เล่นบ้างคนที่ไม่ได้ดูข้อมูลจากกระดานสนทนาของกิลด์ และ ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาก็เป็น หนึ่งในนั้น เขาเมินเฉยต่อเสียงกระซิบกระซาบข้างหลังเขาและมองไปที่เสี่ยวเฟิงอย่างหัวจรดเท้าด้วยดูหมิ่น
“วอร์สปิริตฮอล์ รอเขาอยู่ใช้ไหม? เขาดูเหมือนกับคนเถื่อนเลย! เหลาซวี นายเคยได้ยินชื่อเขาไหม?”
ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา ถูกขึ้นชื่ออยู่ใน หอเกียรติยศมาเป็นเวลานาน และเขาก็เชื่อว่า เขานั้รู้จักผู้เล่นระดับเทพทุกคน ใน เขตฮวาเซีย พวกเขาได้รอเสี่ยวเฟิงมาเป็นเวลานาน แต่เขาก็นึกได้ว่าเขาไม่เคยเห็นชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขามาก่อน
ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา พูดด้วยความดูถูก เขารังเกียจที่จะพูดคุยกับเสี่ยวเฟิง และจงใจยิงคำถามไปที่ เหลาซวี แทน
ทุกคนทราบดีว่า เหลาซวี นั้นมีประสบการณ์และ เฉลียวฉลาด ถ้า เหลาซวี ไม่รู้จักเขา เขาก็ต้องเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักแน่นอน
ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา คิดว่า เหลาซวี อาจรู้จักชายคนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้เล่นระดับเทพที่ กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ เชิญเขามา แต่เขามันใจว่าอย่างมากชายคนนี้ก็เป็นเพียง ผู้เล่นระดับกลางๆ และพวกเขาก็ไม่ควรรอเขาเป็นเวลานานขนาดนี้
ดังนั้น ไม่ว่า เหลาซวี จะพูดอะไรออกมา ผู้เล่น ฉันคือ พาลาดินแห่งการรักษาก็ตั้งใจที่จะแกล้งชายคนนี้ต่อไป เพื่อให้เกียรตืกับ กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ เขาจะไม่ไล่ชายผู้นี้ออกไปขากทีมของพวกเขา แต่เขาก็จำเป็นต้องสั่งสอนชายคนนี้ให้หลาบจำ
ถว่า เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อ เหลาซวี ไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับ มองไปที่เสี่ยวเฟิง อย่างครุ่นคิด
เหลาซวี ส่วมชุดฝึกหัดอยู่และเขาก็มีเลเวล 10 เท่านั้น เขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้ใดๆ เลย แต่ไม่มีใครตั้งตำถามกับอิทธิผลที่เขามี มันเห็นได้ชัดว่าเขาพูดมาเพียงพอแล้ว
ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนผู้นี้กำลังมองไปที่รายเอียดของเสี่ยวเฟิง และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายไปด้วยความเฉลียวและประหลาดใจ
ชุดแฟนชั่น สามารถปกปิด รูปร่างของอุปกรณ์ด้ อย่างแท้จริง แต่มันก็ไม่สามารถปกปิด รุปร่างของ เครื่องประดับและอาวุธได้
แต่ ช่องเครื่องประดับของเขานั้นมีการส่วมใส่อยู่ทั้งหมด!
มี ตุ้มหู อยู่บนหู ทั้งสองข้างของเขา และสร้อยคอ ร้อยอยู่รอบคอของเขา นอกจากนี้ ก็มี แหวนสองวงอยู่บนนิิวของเขาอีกด้วย!
ผู้แล้วสามารถเลือกที่จะปกปิด เอ็ฟเฟค เรืองแสง ของอุปกรณ์ได้ แต่ก็คุณจะสามารถดูระดับของมันได้โดยการสังเกตุอย่างรอบคอบ เหลาซวี นั้นตาไวและสามารถมองเห็นแสงสีเงินจางๆ เปล่งจากอาวุธและแหวนวงหนึ่งของเสี่ยวเฟิง สิ่งนี้หมายความว่าสองสิ่งที่เสี่ยวเฟิงส่วมใส่อยู่นั้นเป็นระดับ เงิน แต่เสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้ส่วมของสีเงินไว้หมดทั้งตัว
เหลาซวี กำลังจ้องไปที่ ต่างหูทั้งสอง ของเสี่ยวเฟิง เพราะว่ามันเปล่งแสงสีขาวอ่อนๆอยู่!
อุปกรณ์กระดานดำ? (Whiteboard equipment) ไม่สามารถที่จะเปล่งแสงได้ และมีเฉพาะ อุปกรณ์ระดับ อิมมอทอล เท่านั้นที่มีแสงสีขาว!
มี อุปกรณ์ระดับ อิมมอทอล อยู่เพียงชิ้นเดี่ยวเท่านั้น ในรายการอาวุธของเขตฮวาเซีย มันคือ ต่างหูอันหนึ่ง และเจ้าของนั้นก็เป็นผู้เล่นลึกลับผู้ที่แย่งอันดับหนึ่งของรายการจัดอันดับทุกรายการ ของเขตฮวาเซีย !
ฉนั้น เหลาซวี ก็ยืนยันตัวตนของเสีย่วเฟิงได้ในทันที เขาเป็นนักวิเคราะห์เกมออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเขตฮวาเซีย อย่างแน่นอน
“ฉันไม่คิดเลนว่า วอร์สปิริตฮอล์ จะสามารถขอให้ผู้เล่นระดับเทพ คนนี้ ช่วยพวกเขา ฮาฮ่า ดูเหมือนว่า พวกเรา นั้น มีโอกาสที่จะทำภารกิจของโซนพิเศษให้สำเร็จไ ด้ง่ายขึ้นแล้วละ ”
เหลาซวี พูดออกมาในทันทีพร้อมกับรอยยิ้มอันลึกลับ ผู้เลนคนอื่น มองไปที่เขาด้วยความสับสน และไม่ทราบถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่
มีเพียง สกาย เท่านั้น ที่เข้าใจสิ่ง เหลาซวี หมายถึง เหลาซวี เดาตัวตนของเสี่ยวงเฟิงได้ถูกต้องในพริบต่ และสกาย ก็ประทับใจอย่างล้ำลึกกับทักษะการวิเคราะห์ของเขา
มีครั้งหนึ่งที่ ซื๋ออี้ เห็นเสี่ยวเฟิงโจมตีมอนเสตอร์และรู้อย่างแน่ชัดว่า เขานั้นทั้งแข็งแกร่งและมีความเชี่ยวชาญ แต่เธอไม่ทราบถึงชื่อตัวละคนของเขา และแทบไม่มีโอากาสที่จะรู้ถึงเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขา โรสก็เข้าใจ สิ่งที่ เหลาซวี ต้องการสื่อเช่นกัน เธอรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวเฟิงนั้นได้ที่หนึ่งในรายการจัดอันดับเลเวลของเขตฮวาเซีย แต่เสี่ยวเฟิงก็ยังเป้นศัตรูของ มิดซัมเมอร์กิลด์ ดังนั้น เธอจึงหันไปทางอื่นเมื่อเขาได้มาถึง เธอไม่อยากจะยุ่งกับชายผู้นี้
“เหลาซวี คุณหมายความว่าอย่างไร?”
ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา ขมวดคิ้วแล้วถามเข้า ทุกคนที่อยู่นี้ก็ ต้องการถามคำถามเดียวกัน
“ฮาฮ่า ทุกคนมาอยู่ที่นี้แล้ว และได้เวลาจะร่วมทีมกันและออกเดินทางแล้ว เราไม่ควระจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ อย่าได้ห่วงไปเลย เขาเป็นผู้เล่นระดับเทพจริงๆ ”
เหลาซวี ตอบด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดแจนกับพวกเขา
แต่ เหลาซวี นั้นได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่น และ การวิเคราะห์ และ คำตอบ ของเขานั้นดูน่าเชือ่ถือสำหรับพวกเขา อคติของผู้เล่นคนอื่นที่มีต้อเสี่ยวเฟิง จางหายไปในทันทีหลังจากที่พวกเขาได้ฟังคำพูดของ เหลาซวี ผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา ก็หยุดพูดเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมีความไม่พอใจกับ เสี่ยวเฟิง
หัวหน้าของทีมบุกเบิดคือ ไนฟ วอร์สปิริตฮอล์ ยังไม่ได้บอกพวกเขาถึงตำแหน่งของโซนพิเศษ และผู้เล่นคนอื่นจึงจำเป็นต้องทำตาม ไนฟ สกาย ได้ออกจากทีมไปแล้ว ดังนั้น ไนฟ จึงกลายเป็นหัวหน้าของทีม
ไนฟ ส่ง คำรับสมัครเข้าร่วมทีมไปหาเสี่ยวเฟิง และพวเขาก็ได้ยินเสียงเตือนของระบบ หลังจากที่เสี่ยวเฟิงได้เข้าร่วมทีมของพวกเขา แค่ใบหน้าของทุกคนนั้นแข็งถื่อหลังจากที่พวกเขาได้ยินเสี่ยงเตือนนั้น
“เฮ้! แด็ดได้เข้าร่วมทีม”
ผู้เล่นคนอื่นทั้งหมดที่กำลังจะออกเดินทาง กลับทั้งตกใจและงุนงง พวกเขาจ้องเสี่ยวเฟิงด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนกัน ผู้เล่นคนอื่นทั้งหมดได้เข้าร่วมอยู่ในทีมแล้ว เสี่ยวเฟิงเป็นคนเดียวที่เพิ่งจะเข้าร่วมทีมกับพวกเขา
ผู้เล่นคนอื่นทั้งหมดที่อยู่ที่นี้ เป็นผู้เล่นระดับสูง พวกเขามองไปบนศรีษะของเสี่ยวเฟิงและทราบในทันทีว่า อาชบิชอป เป็นเพียงแค่ฉายา ในขณะที่ ชื่อที่แท้จริงของตัวละครของเสี่ยวเฟิง นั้นแปลกประหลาดยิ่งกว่าชื่อนั้น
“โอ้ย! เขามีเลเวล 13! อาชีพของเขาคือ นักพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์”
เสี่ยวเฟิงเข้ามาในทีมและผู้เล่นคนอื่นที่ง 19 คน ก็สามารถมองเห็น หน้าจอของเสี่ยวเฟิงในทีม ได้พร้อมๆ กัน พวกเขากลับมางุนงงอีกครั้ง
“เขาคือ ผู้เล่นลึกลับที่ได้อันดับหนึ่งในรายการจัดอันดับทึกรายการของเขตฮวาเซีย !”
“บัดซบ! นายพูดถูก! เขาเป็นผู้เล่นระดับสุดยอดเทพ! เขาเป็นผู้เล่นหนึ่งเดียวในเขตฮวาเซีย และในเซิฟเวอร์ทั้งหมด ที่มีเลเวล 13! นอกจากนั้น เขายังได้อันดับหนึ่งในรายการอาวุธ รายการสัตว์เลี้ยง และรายการชื่อเสียง อีกด้วย! เขายังเป็นผู้เล่นคนแรกในเซริฟเวอร์ทั้งหมดที่ได้เปลี่ยนไปเป็นอาชีพลับด้วย!”
“ฉันไม่ได้คาดว่า เขาจะสามารถมาเข้าร่วม ทีมบุกเบิกของพวกเรา! ดีเลย! ฉันตัดสินใจถูกแล้ว! ”
“เขามี HP 289 แต้ม! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! ฉันเป็นถึง นักรบโล่ ในขณะที่ HP ของเขานั้นมากกว่าของฉันซะอีก”
…
พวกเขา อ้าปากค้างและอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งมองไปที่ข้อมูลของเขาในหน้าต่างของทัม แล้วมองไปที่เสี่ยวเฟิงด้วยความไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาอีกต่อไป
สมาชิกแกนหลักของกิลด์หลัก รู้ทันทีว่า เสี่ยวเฟิงเป็นคนที่หลอกล่อ ให้ผู้เล่นระดับหัวหน้าผู้จัดการของ ดูมส์เดย์ลีค.ให้มาติดกับดัก พวกเขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่สับซ้อนและคิดว่า ดูมส์เดย์ลีค ได้รับสิ่งที่สาสม พวกเขากล้าดีออย่างไรมาสร้างปัญหาให้กับ สุดยอดเทพ คนนี้
ผู้เล่น พาลาดินแห่งการรักษาก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่า เสี่ยวเฟิงจะเป้นผู้เล่นลึกลับคนนั้นที่ได้อันดับหนึ่งในรายการจัดอันดับทุกรายการของเขตฮวาเซีย แต่หลังจากนั้นเขาก็พูดเหยียดหยาม และดวงตาของเขาก็ถูกเคลือบไปด้วยความเกลียดชัง
“เลเวลสูงๆ ของมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับพวกเรา มันเป็นแค่ พระ และจะไม่สามารถทนต่อการโจมตี หรือ ทำ DPS ได้”
ทันใดนั้น ผู้เล่นที่อ้าปากค้างและร้องตะโกน ก็เงียบลง ขณะนี้ พวกเขาจ้องไปที่เสี่ยวเฟิงและผู้เล่น ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาโดยไม่พูดอะไรออกมา
ทุกคนรู้สึกได้ถึง ความไ่ม่พอใจ ในน้ำเสียงของเขา แต่เสี่ยวเฟิงก็เมินผู้เล่น พาลาดิน โดยไม่แวดงความคิดเห็นใดๆ กับเขา
“เอาละ เราไปกันเถอะ เราจะมาเสียเวลาอยู่ไม่ได้”
เหลาซวี ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อที่จะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ เขากลัวว่าผู้เล่นระดับเทพทั้งสองคนอาจเกิดความขัดแย้งต้อกัน ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะไปถึงที่หมาย แต่ผู้เล่นกลุ่มนี้ทราบเป็นอย่างดีว่า นี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ และพวกเขาก็จะไม่สามารถเสียเวลาไปได้แม้แต่นาทีเดียว การทำภารกิจของโซนพิเศษให้สำเร็จเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่ง และพวกเขาก็ไม่ควรจะสนใจเรื่องอื่นๆ ในตอนนี้
“ออกเดินทางกันเถอะ พวกเรา!”
มีผู้เล่นระดับสูง 30 คน รวมถึงผู้เล่นสำรอง พวกเขาไม่สามารถเดินไปผ่านในเมือง Shengshui ในที่สาธาณะได้ มีผู้เล่นอยู่ที่นั้นเต็มไปหมดที่ต้องการค้นหาทางเข้าโซนพิเศษ ผู้เล่นคนอื่นจะรู้ในทันทีว่าพวกเขาเป็น ทีมบุกเบิก และจะตามพวกเขาไปยัง โซนพิเศษ
วอร์สปิริตฮอล์ ไม่ประกาศถึงตำแหน่งของทางเข้าโซนพิเศษ ความจริงล้ว พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อเก็บความลับไว้กับตัวเอง เหตุผลหนึ่งก็เพราะ เกียรติยศของการได้เป็นกลุ่มแรกทำภารกิจได้สำเร็จนั้นเกี่ยวพันกัยผลประโยชน์ของกิลด์หลักๆ และผู้เล่นทั่วไปก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามามาก้าวก่าย อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะ ทีมบุกเบิกของพวกเขานั้นประกอบผู้เล่นที่ดีที่สุดในเขตฮวาเซีย พวกเขานั้นเก่งกว่าผู้เล่นธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่ว่า พวกก็ต้องพิจารณาถึงเกียรติยศของเขตฮวาเซีย ทั้งเขตด้วย และก็ต้องปกปิดตำแหน่งของทางเข้าโซนพิเศษ ไม่อย่างนั้น มันก็จะถูกผู้เล่นคนเองเข้าใช้อย่างบ้าคลั่ง ดังนั้น พวกเขาจะประกาศตำแหน่งทางเข้าตามธรรมเนียม ภายในเวลา หนึ่งชั่วโมง ซึ่งนั้นหมายความว่า ทีมบุกเบิกนี้จะสามารถไปถึงสถานที่นั้นได้เป็นเวลาล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง
81
ไนฟให้ใบวาร์ปกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วทุกคนก็เคลื่อนย้ายออกมาด้านนอกของ หุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะใกล้เมืองเฉิงเฉิ่ย หรือเรียกอีกอย่างว่าด่านหน้า
ชื่อสถานที่แสดงให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับการทหารของจักรวรรดิ พวกเขาที่ปรากฏออกมาพร้อมกับลำแสงพบว่ามีทหารเดินไปเดินมาบริเวณนั้น
“ทางเข้าพื้นที่พิเศษอยู่ที่ด้านหลังค่าย เราต้องตามหา npc เพื่อที่จะรับภารกิจ”
ทุกคนทำตามคำแนะนำของไนฟ ในการตามหา npc แล้วรับภารกิจมาในทันทีโดยไม่ต้องรอ
พื้นที่ในแต่ละระดับจะให้ภารกิจพิเศษกับแต่ละคน โดยจะมีโอกาสทำแค่วันละครั้งเท่านั้น โดยจะไม่เกี่ยวเลยว่าภารกิจจะอยู่ในระดับไหน
“อ่า กลุ่มนักเดินทางมาถึงกันแล้ว ทหารของพวกเราพบกับรังของสลามันเดอร์โดยบังเอิญจากการขุดสนามเพลาะ เจ้าพวกนั้นสร้างความเสียหายให้กับค่ายของเราเป็นอย่างมาก คนของเราไม่เยอะมากพอที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ ถ้าช่วยจัดการรพวกสลามันเดอร์ได้ล่ะก็จะมีของตอบแทนสำหรับการจัดการให้”
ทุกคนได้รับภารกิจนี้รวมทั้งพวกตัวสำรองด้วย ส่วยรางวัลของภารกิจคือ 50 เหรียยเงินและ 10 ค่าชื่อเสียง
สำหรับมิทแล้วรางวัลที่ได้จากการทำภารกิจในพื้นที่พิเศษนั้นนับว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก หลังจากที่ระบบแลกเปลี่ยนเงินใช้ได้ เงิน 50 เหรียญเงินสามารถแลกเป็นเงินจริงได้ประมาณ 50 พวกผู้เล่นธรรมดาสามารถอยู่ได้ด้วยการทำภารกิจพิเศษ เพราะสามารถทำได้วันละครั้ง แล้วหลังจากที่พอจะหาของดีๆได้หรือมีเลเวลสูง พวกเขาสามารถทำภารกิจที่มีเลเวลต่ำๆได้ง่ายขึ้น
แต่ตอนนี้แค่ภารกิเลเวล 15 ก็ยากแล้วสำหรับการทำให้สำเร็จในครั้ง ถึงทีมนี้จะรวบรวมหัวกะทิของเขตหัวเซียเอาไว้ก็ไม่ได้การันตีว่าจะสำเร็จ
“ทางเข้ามีทั้งหมด 2 ทางแต่อย่าเพิ่งเข้าไปนะ เพื่อประหยัดเวลาเราจะแยกเป็น 2 ทีมแล้วบุกเข้าไปพร้อมๆกันจากทั้ง 2 ทาง แต่ถ้าเพื่อความปลอดภัยตอนอยู่ข้างในก็ช่วยๆกันดีๆด้วย”
สกายพูดกับทีมที่เข้าโจมตีจากทางด้านหลัง ถึงเขาจะเป็นผู้เล่นสำรองของกิลด์แต่ว่าเขามีข้อมูลของสถานที่นี้เยอะมาก เพราะวอร์สปิริตเป็นกลุ่มที่เจอกับพื้นที่ภารกิจนี้
“แน่นอน เราจะแบ่งเป็น 2 ทีมเพื่อประหยัดเวลา ภรกิจนี้เลเวล 15 ไม่น่าจะตึงมือซักเท่าไหร่ ยกเว้นพ่อหนุ่มนักบวชตรงนั้นอาจจะมีปัญหาก็ได้นะหรือว่ายังไง?”
พาลาดินแห่งการรักษาเปล่งเสียงทางจมูกแล้วมองไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยความดูถูก
มันก็เป็นเรื่องจริงประมาณนึง พวกเขายังไปไม่ถึงเลเวล 15 เลย แต่ว่าพวกเขาก็เป็นผู้เล่นระดับแถวหน้าของเซิร์ฟเวอร์ เพราะฉะนั้นการจัดการมอนสเตอร์ที่เกินเลเวลก็เป็นเรื่องปกติ สำหรับพวกมอนสเตอร์เลเวล 15 ก็ยังนับว่าจิ๊บจ๊อย
แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามของเขา ที่เขาพูดก็ถูกแต่คนที่อยู่รอบๆก็เป็นมือเก๋ากันประมาณนึงแล้ว พวกเขาเข้าใจว่าการทำภารกิจที่ยากๆในครั้งแรกนั้น พวกเขาควรจะร่วมมือกันมากกว่าที่จะมาหาเรื่องกันแบบนี้
“ฉันว่าเราควรจะทำตามเหลาฉีเรื่องนี้เขาไว้ใจได้ ฉันเชื่อว่าเขาน่าจะจัดการเรื่องแบ่งทีมให้เราไว้แล้ว”
ศาสตราสงครามว่าขึ้นซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยในทันทีเหลาฉีไม่มีความสามารถในการต่อสู้เพราะฉะนั้นการที่เขาไปกับทีมสำรววจก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
“ฉันเห็นด้วย เราต้องแยกออกเป็น 2 ทีม ถึงจะเสี่ยงแต่มันก็เป็นแผนที่ประหยัดเวลาแล้วได้ผลมากที่สุด”
เหลาฉีไม่รีรอแล้วเริ่มการแบ่งทีมในทันที
ทีมแรกจะเข้าไปทางด้านหน้าตรงๆ ฉันว่า… อืม…”
เหลาฉีจะพูดชื่อของเสี่ยวฟง แต่หลังจากที่เห็นชื่องของอีกฝ่ายแล้วมองสมาชิกอื่นๆในทีมแล้ว เขาก็ลำบากใจที่จะพูด
“ยอดฝีมือแห่งการรักษา…” ไนฟ์เตือนเขาเสียงเบาอีกครั้ง
“…. ฉัน, ยอดฝีมือแห่งการรักษา, วอร์สปิริตไนฟ, วอร์สปิริตซื๋ออี้, นักธนูอายุ 17, ศาสตราสงคราม, ไนท์คูเออร์, หัวหน้าของกิลด์มิตซัมเมอร์, อิมเมอทัล เฟลม, กลอรี่แอโร่ว จะอยู่กับทีมแรก และทีมที่สองให้เข้าไปอีกทาง ทางทั้ง 2 จะมาบรรจบกันที่รังของบอส”
ศาสตราสงครามเดาถูกเหลาฉีได้แบ่งทีมเอาไว้แล่ว ทุกๆคนตรงนั้นต่างแยกกันตามที่จัดไว้โดยไม่ถามอะไร
การแบ่งอาชีพให้กับทีมแรกนั้นสมเหตุสมผล โดยมีให้ครบทุกตำแหน่งของปาร์ตี้เลย อีกอยา่งที่ทีมแรกต้องใช้ผู้เล่นระดับสูงเพราะจำเป็นที่จะต้องจัดการกับพวกมอนสเตอร์
“ลุยกันเลย!”
พาลาดินแห่งการรักษาจากไปพร้อมกับทีม 2 ด้วยท่าทีที่ไม่สบอารมณ์นัก อาจจะเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถเลือกทีมที่จะไปได้ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเหลาฉี
“ไปกันเถอะ”
เหลาฉีส่ายหัวก่อนจะนำทีมของเขาไปที่ทางเข้าโดยไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้
ทาบงเข้ารังของสลามันเดอร์ไม่ไกลจากค่ายมากนัก มันอยู่ด้านหลังค่ายตรงทางขึ้นเขาที่มีดินถล่มอยู่มีทางเข้าชั่วคราวที่พวกทหารสร้างเอาไว้ให้แล้วมีทหารอีก 2 คนยืนตุ้มกันทางเข้าอยู่อยู่ พวกเขาปล่อยให้กลุ่มเดินผ่านไปในทันที หลังจากที่รู้ว่าอีกฝ่ายรับภารกิจบุกรังของสลามันเดอร์มาจากหัวหน้าของพวกเขาแล้ว
“คุณพบพื้นที่พิเศษ – รังของสลามันเดอร์”
หลังจากที่เข้ามาในเขตถ้ำแล้ว กลุ่มของเสี่ยวเฟิงก็ได้รับข้อความประกาศจากระบบ
“มันไม่อยู่ที่นี่แหะ นักธนูอายุ 17คิดว่ายังไง?”
รังของพวกสลามันเดอร์มีลักษณะคล้ายๆถ้ำใต้ดิน โดยพวกหินข้างในจะมีสีแดงสดพวกเขามองไปรอบๆแล้ว ศาสตราสงครามก็หันไปคุยกับนักธนูอายุ 17
“ไร้สาระน่า ข้างนอกมันภูเขาน้ำแข็งนะ พวกสลามันเดอร์ออกไปไหนไม่ได้หรอก”
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อยากที่จะคุยกับคนน่ารังเกียจตรงหน้า เขาสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฮ่าฮ่า ก็นั่นสินะ แต่พื้นที่ของเมืองเฉิงเฉิ่ยมันก็อากาศหนาวไม่ใช่รึไง? ฉันไม่คิดว่ามันจะมีเขตที่ร้อนอย่างกับยืนอยู่ในเตาอบแบบนี้อยู่ได้นะ”
ศาสตราสงครามลูบหัวตัวเองแล้วแสยะออกมา แล้วคนอื่นๆก็ต่างพากันใช้ความคิด
เขาพูดถูก สภาพอากาศภายในเกมนี้ไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาแบบมั่วๆมันจะสัมพันธ์กับพื้นที่รอบๆและภารกิจด้วย แล้วในตอนที่พวกเขามาถึงก็รู้ทันทีว่าเมืองนี้มันเขตหนาวชัดๆ
ด่านหน้านี้ไม่ได้ไกลออกมาจากเมืองเฉิงเฉิ่ยมากนัก หุบเขาใกล้ๆนี้ถึงหิมะที่ตกจะไม่มากเท่าไหร่ นอกจากนี้รังของสลามันเดอร์ยังร้อนมากๆ แถมนี่ยังไม่ได้ลงไปลึกอะไรเลยด้วยซ้ำ
พวกเขามองออกทันทีว่านี่มันผิดปกติมาก ตามชื่อพวกสลามันเดอร์จะมีคุณสมบัติธาตุไฟ แล้วทำไมมันถึงมาอยู่บนหุบเขาที่หนาวขนาดนี้? แถมข้างนอกยังมีค่ายทหารอีก
“ตอนนี้เราต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน ก่อนที่จะไปจัดการเรื่องปัญหาหยุมหยิมแบบนั้นนะ?”
คำถามของทำให้นักธนูอายุ 17ไขว้เขว เขาสานกลับไปอย่างไม่พอใจนัก
“ใช่ นั่นก็ถูก เห็นด้วยเลยแหละ ทำภารกิจให้สำเร็จนั่นล่ะสำคัญที่สุด คงไม่ต้องสนใจอะไรหยุมหยิมแบบนั้น”
ศาสตราสงครามรีบเสริมคำพูดของอีกฝ่ายทันทีนักธนูอายุ 17เลิกสนใจเขาแล้วเบือนหน้าหนี
“เอาล่ะ เวลามีน้อย ไนฟกับศาสตราสงครามไปเปิดทางส่วนคนอื่นๆให้ติดตามพวกเขาไป ท่านไนท์คูเออร์ กรุณาระวังหลังให้กับทีมด้วยนะครับ ท่านหัวหน้ามิตซัมเมอร์คุณเป็นนักบวชใช้ฮิลในกรณีที่ฉุกเฉินเท่านั้นนะครับ”
“ไม่มีปัญหา”
เหลาฉีถอนหายใจก่อนที่จะขัดพวกเขาแล้วแจกงานให้พวกเขาทำ ศาสตราสงครามหยุดพูดมากแล้วเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังในทันที เขากับไนฟเดินนำหน้าไปเพื่อจัดการทาง
ไนท์คูเออร์กับโรสพยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไร
ในทีมของเสี่ยวฟง มีแค่ไนฟกับศาสตราสงครามที่เป็นแนวหน้า ไนฟเป็นคลาสนักรบใช้โล่เขาจึงรับหน้าที่รับการโจมตีที่เข้ามา ศาสตราสงครามเป็นนักรบสายโจมตีที่เน้นการสร้างความเสียหายมากกว่า
นี่เป็นแสดงความสามารถของแต่ละคลาสในทีมสำรวจ 1 คนรับความเสียหายจากการโจมตีของบอส ส่วนคนอื่นก็ทำการโจมตีใส่บอสโดยมีการสนับสนุนจากนักบวชในกรณีที่บาดเจ็บ ทำให้พวกเขาสามารถจัดการบอสได้เร็วเท่าที่พวกเขาต้องการ
“โห! สมแล้วที่เป็นผู้เล่นที่สามารถขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ในตอนนี้ได้! เจ๋งไปเลยนะนายน่ะ!”
ในกลุ่มนักบวชเสี่ยวเฟิงนั้นเดินรั้งท้ายอยู่กับซื๋ออี้และโรส ไนท์คูเออร์ที่ต้องช่วยแนวหน้าตอนนี้นั้นกำลังเดินอยู่ข้างหลังพวกเขา
ซื๋ออี้วิ่งมาหาเสี่ยวฟงแล้วจ้องมองมาด้วยดวงตากระจ่างใจแล้วถามด้วยความสนใจ
“มีอะไรรึไง? หยุดวิ่งไปๆมาๆได้แล้ว หน้าอกเธอมันเด้งไปๆมาๆมันทำให้ฉันเวียนหัว”
เขาชำเลืองมองมาที่ซื๋ออี้ หน้าอกของเธอกำลังเด้งไปมาอย่างที่ว่าเพราะเธอวิ่งตามเขามาเร็วมาก
“หยาบคาย!”
ซื๋ออี้ตะโกนสวนกลับมาแล้วปิดหน้าอกของเธอไว้ แต่การทำแบบนั้นกลับทำให้กลายเป็นจุดสนใจมากกว่าเดิม
แม้แต่โรสยังหัยมามองหน้าเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิดจากคำพูดหยาบคายของเสี่ยวเฟิง
ส่วนไนท์คูเออร์ที่เดินอยู่ข้างหลังก็ดัดนิ้วจนมีเสียงกระดูกลั่นกร็อบแกร๊บ เธอมองอย่างทิ่มแทมไปทางเสี่ยวเฟิงกะจะชกเขาซักหมัด
แต่ก่อนที่จะทำอย่างงั้นก็มีเสียงดังมาจากทางด้านหน้าพอดี
ถ้ำนั้นทั้งยาวและกว้างผนังถ้ำอัดแน่นไปด้วยหินสีแดงสดมันยีงสะท้อนแสงทำให้เห็นรอบข้างได้ชัดเจน และมันเป็นเพียงทางเดียวที่จะลงไปด้านล่างได้ หลังจากเดินมานานกลุ่มก็เริ่มได้ยินเสียงคล้ายๆสัตว์เลื้อยคลานดังขึ้น
“ระวังตัวด้วย”
พวกเขาเดินอย่างระมัดระวังแล้วปลายทางก็เผยให้เห็นถ้ำขนาดใหญ่
แผล่บๆๆ
ที่มีกลุ่มของสลามันเดอร์ขนาดยาว 2 เมตรที่มีลำตัวสีแดงสด แต่ละตัวนั้นใหญ่มากผิวของมันแดงจนราวกับเป็นเปลวเพลิง พวกมันเดินไปเดินมาอยู่ในถ้ำระหว่างนั้นก็แลบลิ้นสีแดงของมันออกมาตลอดเวลาจนมีเสียงดังแผล่บๆ
สลามันเดอร์โตเต็มวัย
เลเวล: 15
ระดับ: หัวหน้า
พลังชีวิต: 1000/1000
พลังโจมตี: 65-70
พลังเวทมนตร์: 60-65
พลังป้องกัน: 55-60
พลังป้องกันเวทย์: 60-65
สกิล: เกราะสะท้อนกลับ, พ่นไฟ, น้ำลายเปลวเพลิง
คำอธิบาย: สลามันเดอร์โตเต็มวัยที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ ผิวหน้งของมันต้านทานเวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี การโจมตีของมันจะทำความเสียหายเป็นธาตุไฟ
“เลเวล 15 เป็นระดับหัวหน้า แถมจำนวนยังเยอะขนาดนี้ เราคงผ่านไปไม่ได้แน่ๆ”
ศาสตราสงครามขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา ทางเข้าถ้ำมันนำมาที่ทางนี้และทางออกก็มีอยู่แค่ทางเดียว พวกเขาไม่มีทางไปต่อได้นอกจากต้องจัดการพวกสลามันเดอร์เท่านั้น แต่พวกมันก็ไม่ได้จัดการง่ายๆ และมีพวกมันอยู่ตั้ง 10 ตัว
82
“ดึงความสนใจของพวกมันให้แตกกลุ่มกันได้ไหม?”
ศาสตราสงครามขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา มอนสเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่พิเศษนั้นจะมีความสามารถที่สูงกว่ามอนสเตอร์ระดับเดียวกันแบบปกติ อีกอย่างพวกมันโจมตีแล้วทำให้เกิดสถานะเผาไหม้แถมแนวหน้าของทีมยังมีกันแค่ 2 คนอีกต่างหาก แบบนี้มันยากเกินไป
“มีแต่ต้องลองเท่านั้น เราไม่รู้ระยะการโจมตีของพวกมันแต่มันอยู่กันค่อนข้างกระจาย เราอาจจะสามารถแยกพวกมันออกจากกันได้นักธนูอายุ 17 ขวบช่วยโจมตีใส่พวกมันไนฟจะดึงพวกมันออกไปตอนที่มันเข้ามา แล้วถ้าเกิดว่าพลาดล่ะก็ศาสตราสงครามให้ลากพวกมันออกไป 2 ตัว ท่านไนท์คูเออร์จัดการพวกมันตัวนึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แนวหลังจะคอยสนับสนุนเอง” เหลาฉีวางแผนให้อย่างรวดเร็ว
“ได้”
“ไม่มีปัญหา”
“งั้นช่วยเสริมพลังให้กับเขาทียอดฝีมือแห่งการรักษาใช้พรแห่งชีวิตให้กับไนฟที ซื๋ออี้ก็คอยช่วยศาสตราสงครามแล้วกัน”เหลาฉีพูดแล้วก็พยักหน้า
“เขาใช้สกิลนั้นไม่ได้เดี๋ยวฉันจัดการเอง ท่านหัวหน้าของมิตซัมเมอร์รบกวนส่วนของศาสตราสงครามด้วย” ซื๋ออี้พูดทันทีที่ได้ยินคำแนะนำของเหลาฉี
“อะไรนะ? ยอดฝีมือแห่งการรักษาใช้พรแห่งชีวิตไม่เป็น?” คนอื่นๆนอกจากไนฟกับซื๋ออี๋ต่างพากันตกใจ
“พอดียังเรียนไม่ได้น่ะ”เสี่ยวเฟิงพูดออกมาอย่างราบเรียบ
“จากการที่เขาไปถึงอันดับสูงๆได้ด้วยตัวเอง สกิลที่เขาเลือกเลยค่อนข้างต่างจากทั่วๆไปน่ะ…”
“น่าเสียดาย! ยอดฝีมือแห่งการรักษาเป็นนักบวชที่อยู่อันดับบนสุดของเกมเลยนะ แถมยังสามารถปลดคลาสลับได้ ถ้ามีพวกแนวหน้าจะสามารถทำงานได้ดีมากขึ้น”
“…. ท่านหัวหน้าของมิตซัมเมอร์ รบกวนด้วยครับ”เหลาฉีขออีกฝ่ายอย่างจำใจ โชคดีที่โรสก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอทำตามที่ฝ่ายตรงข้ามร้องขออย่างง่ายๆ
ทั้งไนฟและศาสตราสงครามได้รับเสริมพลังเรียบร้อยตอนนี่พลังชีวิตของไนฟอยู่ที่ 240 ส่วนของศาสตราสงครามอยู่ที่ 200 ต้องขอบคุณอุปกรณ์ชั้นเยี่ยมของโรส
“ยอดฝีมือแห่งการรักษาได้เรียนสกิลเสริมแกร่งอาวุธกับพรแห่งความกล้ามารึเปล่า?”เหลาฉีถามเสี่ยวเฟิงอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ไม่ต้องห่วง นี่ฉันยังเป็นคลาสนักบวชอยู่นะ” เสี่ยวเฟิงยิ้มให้ เหลาฉีเลยโล่งใจในทันที
“ยอดฝีมือแห่งการรักษา ช่วยเสริมแกร่งอาวุธให้กับไนทคูเออร์ แล้วก็พรแห่งความกล้าให้อิมมอทัล เฟลมที ซืออี๋คอยช่วยนักธนูอายุ 17 ขวบส่วนหัวหน้าของมิตซัมเมอร์ฝากทางกลอรี่แอโร่ว แล้วหลังจากนี้ช่วยจัดการเรื่องสนับสนุนด้วย นักบวชต้องคอยจัดการเวลาของบัฟด้วย ถ้าเกิดว่าบัฟหายไปก็เพิ่มใหม่ให้เร็ว”
เหลาฉีสั่งงานให้ทุกๆคนทันที นี่เป็นแผนการที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับทีม ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย
ซื๋ออี้กับโรสพยักหน้าแล้วโบกไม้เท้าเพื่อบัฟให้กับคนที่ได้รับหน้าที่
เสี่ยวเฟิงวาดคทาแห่งการรักษาด้วย แล้วก็เสริมอาวุธให้กับไนท์คูเออร์ แล้วเธอก็วิ่งไปยังแนวหน้าทัันที แต่เธอก็เดินโซเซอล้วก็ล้มลงกับพื้น เธอหันกลับไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยความประหลาดใจ เหมือนกับกำลังมองพวกมอนสเตอร์อยู่
เขาร่ายเสริมอาวุธครั้งที่ 2 ให้กับอิมมอทัลเฟรมททันที เขาเป็นคลาสนักเวทย์อยู่คนเดียวในปาร์ตี้ เขาได้เปลี่ยนคลาสเป็นจอมเวทย์ธาตุไฟแล้ว
“ว้าว!”
อิมมอทัล เฟลมร้องออกด้วยความประทับใจ แต่เสียงตะโกนของเขาดังสะท้อนไปทั่วทั้งถ้ำทำให้พวกสลามันเดอร์ที่อยู่ตรงนั้นหันมาสนใจทางนี้ทันที
“จะตะโกนทำไมเนี่ย? ฉันตกใจหมดไอ้โง่!” ศาสตราสงครามที่กำลังจะลอบโจมตีพวกสลามันเดอร์โพล่งขึ้นมาทันทีเพราะเขาตกใจเสียงตะโกน เขามองกลับไปทางคนตะโกนด้วยความไม่พอใจ
“มีอะไร?” เหลาฉีถามขึ้นมา
“ฉัน… อ่อ…” อิมมอทัล เฟลมพูดอย่างตะกุกตะกักต่อการกระทำของเขาแล้วมองไปที่หน้าต่างค่าสถานะของตัวเอง แล้วมองไปทางเสี่ยวเฟิงแล้วกลืนน้ำลายแล้วพูดออกมา “ยอดฝีมือแห่งการรักษา… เพิ่มพลังเวทย์ให้ได้ตั้ง 110 หน่วยแน่ะ!”
“พูดอะไรของนายน่ะ? 110 หน่วย? ตาฝาดรึไง?”
หลังจากที่ได้ยินทุกก็ตะลึงงันไป ทุกคนจ้องไปทางเสี่ยวฟงด้วยสายตาประหลาดใจ
“นี่แน่ใจป่ะเนี่ย ขอดูหน่อย”
แน่นอว่าอิมมอทัลเฟลมก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ระบบไม่มีทางที่จะผิดพลาดได้ เขาส่งหน้าต่างสถานะของเขาให้คนอื่นดู
“เห้ย! ค่าพลังเวทย์มากกว่า 170 หน่วย! เจ๋งสุดๆเลย! ระดับนี้สามารถจัดการมอนสเตอร์ได้ในครั้งเดียวเลยนะ!”
“พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นมามากกว่า 100 หน่วย! ยอดฝีมือแห่งการรักษา เพิ่มค่าสถานะเน้นค่าสติปัญญาใช่ไหม?”
พวกเขาจ้องมาทางเสี่ยวเฟิงแล้วก็มองไปที่ค่าสถานะของอิมมอทัล เฟลมแล้วก็ทำหน้าไม่น่าเชื่อ
“อ่า แบบนั้นแหละ”
เสี่ยวฟงพูดออกมาตรงๆ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นซะทีเดียว ในตอนแรกเขาเพิ่มค่าพละกำลังเพื่อใช้ในการโจมตี แล้วต่อมาเขาก็เพิ่มค่าพลังปราณเพื่อให้ใช้สกิลแสงศักดิ์สิทธิ์ได้ถี่ยิ่งขึ้น
แล้วหลังจากที่เปลี่ยนคลาสเป็น’ผู้กอปพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์’พลังในการรักษาและเสริมพลังก็เพิ่มมากขึ้น ด้วยผลจากพรแห่งเทพ ตอนนี้เขาน่าจะเก่งกว่าพวกเอลฟ์อีก
แล้วอุปกรณ์ของเขาก็มีอนุภาพที่สุดในเขตหัวเซียด้วย
ไนท์คูเออร์ที่ยืนอยู่ฏ้เหมือนอนากจะพูดอะไรซักอย่าง แต่พอมองไปทางคนอื่นที่ต่างอุทานและตะโกนออกมา เธอก็เงียบปากของเธอแล้วยืนดูค่าสถานะของตัวเองอย่างเงียบๆ
“จากผลของสกิลเสริมแกร่งอาวุธ พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 150 หน่วยเป็นระยะเวลา 60 วินาที”
เธอก็เกือบจะอุทานออกมาเหมือนกัน ตอนที่ได้รู้เรื่องของสกิลแต่เสี่ยวเฟิงที่ช่วยเหลือเธอในตอนนี้ และคนอื่นๆไมา่ได้เป็นพวกเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงเงียบเอาไว้
“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย พลังของยอดฝีมือแห่งการรักษาเจ๋งอย่างไม่ต้องสงสัย และฉันเชื่อว่าพวกเราจะสามารถจัดการภารกิจนี้ให้สำเร็จได้”
แล้วพวกเขาก็เริ่มทำตามแผนทันทีนักธนูอายุ 17 ขวบยิงธนูออกไปหาพวกมอนสเตอร์ ลูกธนูทั้งหมดเข้าที่หัวของพวกสลามันเดอร์ทำให้พวกมันพากันมาทางนี้ทันที
“-57!”
“ดึงความสนใจมาได้แค่ 6 ตัว! ดีมาก! อีก 4 ตัวฝากด้วย! ที่เหลือฉันเอง!”
ดวงตาของไนฟเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น แล้วเขาก็รับมือกับสลามันเดอร์อีก 6 ตัวที่พุ่งเข้ามาหาเขาทันที
“เดี๋ยวทางฉันจัดการให้ 1 ตัว ส่วนอีกตัวทางท่านไนท์คูเออร์จะรับมือเอง”
ศาสตราสงครามก็ใช้สกิลดึงความสนใจของสลามันเดอร์มาทางเขา 1 ตัว
ไนท์คูเออร์นำออกมาเพื่อจัดการตัวที่เหลือ เธอกำมีดในมือแน่นแล้วจัดการกับมันแบบตาต่อตา เธอพุ่งหลบทันทีที่สลามันเดอร์เข้าโจมตีมา มีดสั้นนั้นพุ่งใส่หลังของสลามันเดอร์ราวกับลำแสงสีเงิน
“-201!”
“-137!”
ในตอนนั้นตัวเลขความเสียหานจำนวนมหาศาลก็โผล่ขึ้นมาเหนือหัวของสลามันเดอร์
“โห! นั่นเจ๋งเลย! ไนท์คูเออร์ลดเลือดมันไปได้ 1 ใน 3 ในครั้งเดียวเลย!”
“สมกับที่เป็นไนท์คูเออร์… เขาเจ๋งจริงๆ!”
อิมมอทัล เฟลมกับกลอรี่แอโร่วที่กำลังจะมาช่วยไนท์คูเออร์จัดการสลามันเดอร์จังงังไปแล้วมองไปที่สลามันเดอร์ที่ลดลงไป 1 ใน 3 ในชั่วพริบตา
“ความเสียหายสูงมาก! มากกว่า 200 หน่วยอีก!”
นักธนูอายุ 17 ขวบก็ตกใจไปเหมือนกัน ทั้งนักธนูและมือสังหารต่างก็เน้นค่าสถานะของตัวเองไปที่ค่าพละกำลังและค่าความว่องไว เพราะฉะนั้นพลังโจมตีก็จะไม่แตกต่างกันมาก ไนท์คูเออร์น่าจะมีอุปกรณ์ สถานะ และเลเวลที่ไม่ต่างกับพวกเขามากนัก
แต่เขาสามารถลดพลังชีวิตของมอนสเตอร์ลงไปได้ 1 ใน 3 ในดาบเดียว!
ถึงจะใช้สกิลแต่ความเสียหายก็ไม่ควรที่จะมากขนาดนั้น!
แต่พวกเขาไม่ได้รู้ว่าเจ้าตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน กับตัวเลขความเสียที่ปรากฎขึ้นมาเพราะมันเป็นอะไรที่เธอไม่สามารถทำได้ เธอมองไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แล้วหลบการโจมตีสวนกลับของพวกสลามันเดอร์
“ไนท์คูเออร์นี่เก่งจริงแหะ ดูท่าว่าจะเข้าท่ามากเลยนะเนี่ย ในยุคใหม่นี่เธอคงจะไม่หายไปแล้วล่ะมั้ง ยิ่งกว่านั้นนี่จะทำให้เธอยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก”
เหลาฉีก็ตะลึงเหมือนกัน เขาลอบมองเสี่ยวเฟิงแล้วหันไปมองทางโรสพร้อมกับรอยยิ้ม
“เคยได้ยินมาว่าไนท์คูเออร์เข้าร่วมกับมิตซัมเมอร์ แล้วตอนนี้พวกเธอก็มาอยู่ตรงนี้ดูแล้วก็ทำงานได้เข้าขากันดี”
เขารู้สึกตื่นเต้นกับข่าวใหญ่ครั้งนี้
โรสพยักหน้ายอมรับเรื่องที่ไนท์คูเออร์เข้าร่วมกิลด์ อันที่จริงไนท์คูเออร์เป็นระดับไพ่ตายด้วยซ้ำ
“ฮ่าฮ่า ยินดีด้วย! ท่านไนท์คูเออร์ได้เข้าร่วมกับมิตซัมเมอร์ แล้วยังมีเธอเป็นมือทองของกิลด์ด้วย ฉันหวังว่ามันจะเป็นก้าวใหญ่ของวงการณ์เลยล่ะนะ”
ตาของเหลาฉีเปล่งประกายไปด้วยความฉลาด แล้วก็โค้งให้กับโรส ซึ่งเป็นการกระทำตั้งแต่สมัยโบราณเลย
“คุณเหลาฉี สุภาพเกินไปแล้ว ครั้งหน้าเราคงจะต้องขอความช่วยเหลือเหมือนกัน”
โรสพูดตอบกลับอย่างสุภาพ บรรยากาศเย็นชาน่าอึดอัดหายไปในทันทีแล้วคุยกับเหลาฉีอย่างสุภาพ
ตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่สลามันเดอร์ตัวแรกก็ตายจนได้ ไนท์คูเออร์นั้นสร้างความเสียหายได้อย่างดุเดือด ลดพลังชีวิตไปได้ครึ่งนึงแล้ว
ไนท์คูเออร์พุ่งไปจัดการตัวที่ 2 จากไนฟในทันทีนักธนูอายุ 17 ขวบรู้สึกประทับใจในการโจมตีของเธอ เขาปล่อยเธอไว้คนเดียวแล้วหันไปช่วยศาสตราสงครามแทน
เธอมาช่วยไนฟก่อนที่เขาจะทำการโจมตีอีก โดยที่เขายังไม่ได้ใช้ยาเลยซักขวด
สลามันเดอร์ทั้ง 6 ตัวทุกจัดการอย่างรวดเร็ว ยังเหลือพวกมันอีก 4 ตัว พวกมันถูกจัดการทีละตัวๆ และพวกเสี่ยวเฟิงก็เดินลงไปชั้นต่อไป
นอกจากพวกสลามันเดอร์ก็ยังมีมอนสเตอร์ขนาดเล็กๆอีก 2 กลุ่ม แต่ด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงมากพวกมันก็ตายอย่างรวดเร็วส่วนมากเป็นฝีมือของไนท์คูเออร์กับอิมมอทัล เฟลม
หลังจากที่จัดการพวกมอนสเตอร์ไปได้ 3 กลุ่ม พวกเขามองไปทางห้องบอส พวกเขาติดต่อกับอีกทีมถึงความคืบหน้าของทีม แต่พวกเขากำลังจัดการมอนสเตอร์อยู่ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาจะจัดการบอสโดยไม่รอความช่วยเหลือด้วย
“พวกเราไม่ต้องรอพวกเขาหรอก ลุยกันเลย”
พวกเขาอยู่ที่ด้านล่างของถ้ำ มันเป็นโพรงขนาดใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่าถ้ำของพวกสลามันเดอร์อีก พวกเขาสามารถเห็นร่างของบอสได้อย่างชัดเจน
83
พวกเเขาพบกับสลามันเดอร์ตัวใหญ่ยักษ์ราวกับรถไฟ มันกำลังนอนหลับอย่างสบายอารมณ์ลมหานใจของมันมีไอร้อนพ่นออกมาด้วย ทำให้บรรยากาศในห้องอึดอัดมาก
สลามันเดอร์บรรพกาล
เลเวล: 15
ระดับ: บอสระดับหัวหน้า
พลังชีวิต: 10000/10000
พลังโจมตี: 94-102
พลังเวทย์: 99-105
พลังป้องกัน: 88-90
พลังป้องกันเวทย์: 90-92
สกิล: กระทืบทำลาย, เพลิงอัดกระแทก, ฟาดหางคลั่ง, เพลิงคลั่ง, พ่นไฟ
คำอธิบาย: จุดสูงสุดของวงศ์วานสลามันเดอร์ โหดร้ายและบ้าคลั่ง พวกมันมีหน้าที่ปกป้องรังจากผู้บุกรุก
คุณสมบัติ: มันเป็นบอสระดับหัวหน้า มีพลังโจมตีและพลังเวทย์ที่สูงมากๆ และทนทานต่อพลังโจมตีทางเวทมนตร์เป็นอย่างมาก
“พลังชีวิต 10,000 แถมพลังป้องกันยังมากกว่า 100! นี่มันจะตึงมือเกินไปหน่อยมั้ง! เราคงจะต้องรออีกทีมเพื่อที่จะจัดการมันหรือคิดว่ายังไง?”
หลังจากที่เห็นค่าพลังของบอสแล้วไนฟไม่คิดว่าพวกเขาจะรับมือไหว โจมตีปกติก็รุนแรงแถมยังยิงเวทมนตร์ได้ด้วย พลังป้องกันเวทมนตร์ของเขาก็ไม่ได้สูงด้วย ถ้าโดนสกิลจังๆคงตายในทันทีแน่ๆ
“พวกเขายังจัดการมอนสเตอร์ในห้องที่ 3 อยู่รอพวกเขาจะเสียเวลามากเกินไป เราคงต้องลงมือแล้ว เราน่าจะสามารถจัดการกับสกิลของมันได้ หรือไม่งั้นก็คงตายแหละ” เหลาฉีส่ายหัวแล้วตอบ
“อืม งั้นลงมือกันเลย”
ไนฟพยักหน้าแล้วค่อยๆย่องเข้าไปโจมตี ด้วยการทุบโล่ของเขาลงบนหัวของสลามันเดอร์ยักษ์
“ฮุ่มมมมม!”
สลามันเดอร์ที่หลับอยู่นั้นตื่นทันที มันพ่นลมหายใจร้อนระอุออกมาแล้วคลานออกมาด้านหน้า ร่างกายขนาดใหญ่ของมันทำให้ไนฟรู้สึกกดดันมาก
“ขอการเสริมพลังที! จะลุยแล้ว!”
ไนฟต่อกรกับสลามันเดอร์แบบตัวต่อตัว เขาถึงโล่ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ชักดาบออกมา เขาฟันเข้าไปที่กรามล่างของมันเพื่อใช้สกิลยั่วยุมัน
ผู้เล่นคนอื่นนั้นไม่ได้เข้าโจมตีทันทีแต่ค่อยๆบัฟรอเวลา พวกเขาจะไม่โจมตีจนกว่าไนฟจะเรียกความสนใจจากบอสได้อย่างสมบูรณ์
“สำเร็จแล้ว! ตอนนี้ได้เวลาโจมตีแล้ว!”
ไนฟใช้สกิลยั่วยุบอสอีกครั้ง แล้วหลบหลีกการโจมตีของบอสไปด้วย แล้วพอเขาดึงความสนใจได้จึงตะโกนให้เพื่อนร่วมทีมจัดการได้
ทันทีที่สั่งนักธนูอายุ 17 กลอรี่แอโร่ว และอิมมอทัลเฟลม ทำการโจมตีออกไปพร้อมๆกัน ไนท์คูเออร์และศาสตราสงครามลอบเข้าไปหาบอส ด้วยความที่เป็นการโจมตีระยะใกล้พวกเขาจึงบต้องหาจังหวะโจมตีด้วย และเวลาที่บอสโจมตีสวนพวกเขาต้องหลบหลีกกันเอง
“-23!”
“-37!”
“-24!”
“-110! คริติคอล!”
“-47!”
…
เลขความเสียกหายจำนวนมากปรากฎบนตัวของบอส แต่ความเสียหายนั้นต่ำมากเพราะพลังป้องกันนั้นสูงเกินไป มีแต่ไนท์คูเออร์ที่ทำความเสียหายเกิน 100 แค่บางครั้งเพราะคริติคอล ส่วนคนอื่นๆทำความเสียหายได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ถึงอิมมอทัลเฟลมจะได้พลังโจมตีจากบัฟของเสี่ยวเฟิงเยอะมากแต่บอสมีพลังป้องกันเวทมนตร์สูงกว่าพลังป้องกันปกติและยังต้านทานธาตุไฟด้วย ทำให้ความเสียหายที่ทำได้นั้นน้อยยิ่งกว่ากลอรี่แอโร่วซะอีก
“ไนท์คูเออร์เพลาๆมือลงหน่อย! ถ้ามากกว่านี้จะดึงดูดการโจมตีของบอสนะ!”
ไนฟตะโกนบอกเธอ ถึงเขาจะมั่นใจในการต่อสู้ตัวต่อตัวมาก แต่การโจมตีของไนท์คูเออร์เกือบจะดึงการโจมตีของบอสไปหาเธอแล้ว ทำให้ไนฟพูดแทบไม่ออก
ไนท์คูเออร์ยั้งมือเอาไว้ทันทีที่เธอได้ยินคำเตือน มันเป็นจุดอ่อนของคลาสมือสังหาร ถึงพวกเขาจะโจมตีได้รุนแรงมากด้วยตัวคนเดียว แต่มักจะมีปัญหาในการทำงานเป็นทีมทำให้ใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่
ไนฟใช้สกิลยั่วยุอีกครั้ง แล้วก็สำเร็จบอสสลามันเดอร์กลับมาโจมตีเขาอีกครั้งแล้ว
“ฮูมมมมมม!”
พลังชีวิตของบอสลดลงไปไม่ทันถึงไหนมันก็ชูคอแล้วพ่นลมหายใจออกมา ร่างของมันพุ่งไปยังพวกผู้เล่นที่อยู่แนวหลังทันที แขนหนาๆของมันตบลงผู้นจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเหมือนแผ่นดินไหว
“ระวังตัวด้วย! ถอยออกมาก่อน!”
เหลาฉีตะโกนไปหาพวกเขา แต่พวกเขาก็หลบบออกมาได้ก่อนเสียงเตือนเสียอีก โดยมีเสี่ยงเฟิงกระโดดออกมาก่อนแล้วคนอื่นๆก็ทยอยตามออกมา
“ตูมมมมมมม!”
บอสสลามันเดอร์พุ่งอย่างรวดเร็วไปยังอีกฝั่งของห้อง หัวกระแทกก็ผนังของถ้ำจนเป็นรูทำให้บอสเกิดสถานะมึนงง
ไนฟมองว่านี่เป็นโอกาสจึงตามเข้าประชิดบอส พวกผู้เล่นคนอื่นๆจึงโจมตีตามเข้าไปทันที พวกเขามองว่านี่เป็นโอกาสที่จะจัดชุดใหญ่ใส่บอส พลังชีวิตของบอสลดลงรวดเร็วมาก
“ยืนห่างๆกันเอาไว้ ระวังสกิลด้วย”
พวกแนวหลังถอยออกมาตามที่เหลาฉีพูด
เสี่ยวเฟิงซ่อนอยู่ที่มุมห้องเฉยๆ เขามีหน้าที่แค่คอยสนับสนุนเท่านั้น ระหว่างที่คนอื่นๆสู้อยู่กับบอสเขาก็ถอยออกมา
เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปช่วยอะไรเป็นพิเศษ ส่วนตัวเขาชอบที่จะหลบอยู่แล้วแอบทำอะไรคนเดัยวมากกว่า ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่อยากที่จะแสดงอะไรให้ใครเห็นมากนัก
อีกอย่างเขาต้องการเวลาที่จะติดต่อกับเฉียนโตวโตวแล้วระหว่างนั้นเขาก็ลอบสังเกตพลังชีวิตของไนฟไปด้วย
เฉียนโตวโตวบอกไปว่าการลงทุนของเธอไปได้สวย มีผู้เข้าร่วมจากหมู่บ้านต่างๆเป็นจำนวนมาก พวกเขากลับมายังเมืองเริ่มต้นแล้วขายน้ำยาเพิ่มพลังให้กับพวกมือใหม่ ทำให้เธอทำกำไรได้มากเลยทีเดียว
2 พี่น้องนิโคลัสก็ช่วยเหลือได้เป็นอย่างดี พวกเขาชักชวนคนใกล้ตัวมาให้เข้าร่วมการลงทุนของพวกเขาด้วย
แต่เฉียนโตวโตวบอกเขาอีกว่าวิธีนี้ใช้ได้ไม่นานนัก ตอนนี้ผู้เล่นที่ยังอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นนั้นมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นวิธีการนี้ไม่สามารถผูกขาดตลาดไว้ได้อีกต่อไป
แต่เสี่ยงเฟิงไม่ได้กังวลสักนิด ยังไงก็ได้กำไรมากโขอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังหาทางออกอย่างอื่นอย่างการเช่าย่านใดย่านหนึ่งไว้แล้วด้วย
“อะไรนะ? ลูกพี่เสี่ยวได้ที่ดินในเมืองหลักแล้วเหรอ! ฉันรักลูกพี่จังเลย!” แน่นอนว่าเฉียนโตวโตวตื่นเต้นทันทีที่ได้ยินข่าวนี้
“ยัง ยังไม่ได้ ต้องหลังจากภารกิจนี้สำเร็จก่อน”
“ว้าว! ฉันว่าแล้วว่าลูกพี่จะต้องเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลก! ลูกพี่ต้องทำสำเร็วอยู่แล้ว! แล้วที่ก็จะเป็นของเรา!” เฉียนโตวโตวพูดอน่างตื่นเต้น เธอพูดเสียงมันจนเสี่ยวเฟิงต้องหรี่เสียงการสื่อสารลงมาเยอะมาก
“แต่เราก็ไม่ได้ฟรีๆนะ ต้องเช่าน่ะ” เสี่ยวเฟงิพูดอย่างเหนื่อยใจ
“ได้เช่าก็ดีพอแล้ว! ถ้าเราสามารถเดินหน้าไปต่อได้เราก็ทิ้งให้คนอื่นต่อโดยไม่ต้องเสียดายไง! ฮ่าฮ่าฮ่า! เราสามารถหาเหรียญทองได้มากพอแล้วตอนระบบแลกเปลี่ยนใช้ได้ก็ขายทิ้งซะ! ลูกพี่นี่เจ๋งไปเลย!”เฉียนโตวโตวมีความคิดที่ใกล้เคียงกับเสี่ยวเฟิง อันที่จริงไม่ว่ากิลด์ไหนๆก็อยากได้ที่ในย่านร้านค้ากันนทั้งนั้น แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีเงินมากพอ พวกเขาทำได้แค่หาโอกาสในการเช่าเท่านั้น
“ฉันจะส่งรูปของเขตย่านการค้าของเมืองเทียนหลงไปให้นะ เลือกเองได้เลยแล้วตอนจบภารกิจเดี๋ยวจะจัดการเรื่องเช่าเอง” เขาเก็บรูปมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เขาไม่ได้มีความรู้ด้านนี้มากนัก เลยปล่อยให้เฉียนโตวโตวจัดการทั้งหมด
“ที่ตรงกลางนี่แหละเหมาะที่สุด! มีแค่แผนที่ของเทียนหลงเหรอ? มีของเมืองอื่นอีกไหม?” เฉียนโตวโตวเลือกืั้ได้แล้วแต่ก็ถามเสี่ยวเฟิงออกไป
เสี่ยวเฟิงอึ้งแล้วพูดออกไปอย่างจำใจ “นี่ฉันไม่ใช่คนสร้างเกมนะ! แต่จะลองหาแล้วกัน แล้วสามารถเปิดร้านได้เลยใช่ไหม?”
“ไม่ได้อยู่แล้ว เราต้องจัดการร้านซะก่อน เราสามารถใช้เหรียญทองจ้าง npc มาช่วยได้ อีกอย่างต้องรีบทำให้เสร็จก่อนที่ระบบแลกเปลี่ยนจะเปิดใช้งาน ถ้าเราต้องการที่จะนำคนอื่น เราจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่านี้ หลายวันมานี้ฉันหาเงินได้เยอะก็จริง แต่คิดว่ายังไม่น่าจะพอด้วยซ้ำ” เฉียนโตวโตวพูดอย่างตั้งใจ
“งั้นต้องทำยังไง? ทำยังไงถึงจะหาเงินได้มากกว่านี้?” เสี่ยวเฟิงถามกลับ
“อันที่จริงมีวิธีอยู่อีกอย่างแล้วมันก็ดูเหมาะกับลูกพี่มากด้วย แต่ลูกพี่คงไม่เต็มใจที่จะทำนักหรอก” เฉียนโตวโตว พูดอย่างมีลับลมคมใน ซึ่งหาได้ยากมาก
“ทำอะไรล่ะ? จะให้ไปแสดงเปิดหมวกหรือขายตัวรึไง?” เสี่ยวเฟิงรู้สึกแปลกๆแต่ก็พูดออกไปเล่นๆ
“ใช่ นั่นแหละ!” เฉียนโตวโตวพูดออกมาตรงๆ เสี่ยวเฟิงไม่คิดว่าเธอจะล้อเล่นด้วย
“นี่เอาอะไรคิดเนี่ย?” เสี่ยวเฟิงแทบจะตวาดใส่เธอ
“ลูกพี่เสี่ยว เคยได้ยินเรื่องวิดีโอถ่ายทอดสดไหม? ด้วยความสามารถของพี่แล้ว ถ้าดังขึ้นมาจะมีแฟนคลับมากมายเลยนะพี่ ตอนนั้นพี่จะได้เงินมหาศาลเลยนะ” เฉียนโตวโตวพูดต่อไปเรื่อยๆเธอน่าจะวางแผนมานานแล้ว
“แน่ใจเหรอ? ว่าจะทำเงินได้ขนาดนั้น?”
เขาเคยได้ยินมาเหมือนกัน เขาเคยดูบางครั้งด้วยซ้ำ เสี่ยวหลิงชอบดูโดยเฉพาะตอนเวลากินข้าวมากและการถ่ายทอดเกมใหญ่ๆนั้นยาวนานทั้งวันทั้งคืนเลย เหมือนอย่างเหลาฉีที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“ได้! ต้องได้ดิ! พี่เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเขตหัวเซียเลยนะ! นอกจากเลเวลจะเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ทั้งไอเทมและสัตว์เลี้ยงด้วย ถ้าแสดงตัวออกไปจะต้องเป็นที่สนใจมากๆแน่! แถมยังโฆษณาให้การลงทุนด้วยนะ!” เฉียนโตวโตวพยักหน้าไปมา เธอวางแผนมานานแล้วจริงๆด้วย
“ได้ๆ หลังภารกิจเสร็จแล้วจะลองดู”
เสี่ยวเฟิงเห็นด้วยจนได้ เขาคิดว่าไม่น่าจะยากมากนัก เขาเลยสัญญษออกไปแบบนั้น
เฉียนโตวโตวรู้สึกตื่นเต้นอีกรอบ แต่เสี่ยวเฟิงวางสายไปซะก่อน แล้วก็หันไปสนใจบอสต่อ
ตอนนี้พวกเขาลดพลังงชีวิตของบอสสลามันเดอร์ไปได้กว่า 20 เปอร์เซ็นแล้ว บอสใช้ท่าฟาดหางในตอนที่พลังชีวิตลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์ หางขนาดใหญ่ราวกับรถไฟสะบัดไปมาอย่างบ้างคลั่งราวกับแส้ใส่คนที่อยู่ในแนวหน้า โชคดีที่พวกเขาสามารถหลบออกมาได้อย่างทันเวลาและได้รับการช่วยเหลือจากนักบวช ตอนนี้พลังชีวิตมันลดไปมากกว่า 1 ใน 5 มันก็เริ่มใช้สกิลอื่นบ้างแล้ว
“ฮูววววววววว!”
สลามันเดอร์ยักษ์เริ่มหายใจเข้าแล้วพ่นไฟออกมาในทันที มันหันไปหันมาแล้วๆฟก็ลุกท่วมไปทั่วทันที!
“ระวัง! รีบถอยออกมาเร็ว! มันเป็นพลังเวทมนตร์!”
ไนฟและคนอื่นๆในแนวหน้าถอยออกมาอย่างรวดเร็ว คลื่นไฟขนาดยักษ์แผ่ออกมาอย่างรวดเร็วเปลี่ยนที่ๆมันผ่านให้กลายเป็นทะเลเพลิง
เลขความเสียหายขนาดใหญ่เลยขึ้นมา พวกนักบวชรีบฟื้นพลังให้กับคนรอบๆแล้วใช้ยาเพิ่มพลังชีวิตแต่ก็ยังไม่ปลอดภัย พวกเขาตกอยู่ในทะเลเพลิงทำให้ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และพลังโจมตีเวทย์ของสลามันเดอร์นั้นสูงกว่าพลังโจมตีปกติทำให้ความเสียหายนั้นเยอะจนน่ากลัว
ไนท์คูเออร์นั้นเสี่ยงตายมากที่สุดเพราะไนฟ์และศาสตราสงครามเป็นนักรบแต่ไนท์คูเออร์ป็นมือสังหาร. พลังชีวิตย่อมน้อยกว่าพลังป้องกันก็ด้วย แถมยังไม่ได้รับพรแห่งชีวิตจากนักบวชด้วย พลังชีวิตของเธอแทบจะหมดทันทีแถมเธอยังไม่สามารถหนีออกไปด้านนอกได้ทันอีกด้วย.
84
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจทุกคนไนท์คูเออร์ลดลงอย่างรวดเร็วแถมไม่มีที่ให้หนีด้วยเพราะข้างในถ้ำกว่าครึ่งกลายเป็นทะเลเพลิงไปหมดแล้ว
ซื๋ออี๋ใช้สกิลรักษาให้กับไนฟไปหมดแล้ว เพราะตามหน้าที่เขาเป็นคนที่เธอต้องช่วยเป็นหลัก ไม่ใช่เพราะว่าแค่เป็นสมาชิกเดียวกัน
โรสที่เห็นอย่างงั้น เธอรีบที่จะรักษาตัวเองในทันที แต่อัตราการฟื้นฟูนั้นช้ามาก และไนท์คูเออร์กำลังจะตายแล้ว
ถึงศาสตราสงครามจะไม่มีนักบวชคอยสนับสนุน แต่เขายังมียาเพิ่มพลังชีวิตอยู่และพลังชีวิตของเจ้าตัวก็สูงมาก เขาคงไม่จชตายในเร็วๆนี้แน่.
ในกลุ่มนักบวชตอนนี้มีแค่เสี่ยวเฟิงที่ยังไม่ได้ใช้สกิลรักษาใคร เพราะงั้นทุกคนถึงได้จ้องมาทางเขาเป็นตาเดียวด้วยความกัลวล
“ยอดฝีมือแห่งการรักษา เรียนสกิลแสงศักดิ์สิทธิ์มารึเปล่า?”
แล้วถ้าเขาไม่ได้เรียนมาจริงๆล่ะก็ เป็นไปได้ว่าความสามารถด้านการรักษาคงไม่มีแล้วล่ะนะ.
“ไอ้หอกหัก! รีบๆสิวะจะตายอยู่แล้ว!”
ไนท์คูเออร์ที่กำลังหาทางหนีจากไฟ จ้องมาทางเสี่ยวเฟิงอย่างตื่นตระหนก
เสี่ยวฟงไม่ประทับใจกับวิธีขอของเธอเอาซะเลย แต่ชีวิตเธอตอนนี้อยู่บนเส้นด้าย เขาเลยต้องช่วยเธออย่างไม่เต็มใจนัก เขาวาดคทาแล้วตัวเลขแสดงการรักษาก็ลอยขึ้นมา
“+154!”
จากพลังชีวิตที่ใกล้หมดกลับมาเต็มในทันที ทำให้เธอหนีรอดออกมาได้อย่างสบาย คนรอบๆที่กำลังเป็นห่วงเธอนั้นต่างเปลี่ยนท่าทีเป็นอึ้งกิมกี่
“พลังรักษาของเขาสุดยอดมาก!”
“สมแล้วที่เป็นยอดฝีมือแห่งการรักษา!”
ทุกคนมองไปทางเสี่นวเฟิงแต่ทางซื๋ออี๋นั้นกลับผิดหวังเธอขบฟันแล้วจ้องเสี่ยวเฟิงด้วยความไม่พอใจ ในฐานะนักบวชที่เก่งที่สุดของวอร์สปิริตฮอล์ เธอเพิ่มพลังชีวิตได้แค่ครั้งละ 60 หน่วยเท่านั้น ทั้งๆที่เธอได้รับการยอมรับในฐานะผู้เล่นระดับสูงแต่ความสามารถของเธอในตอนนี้ไม่สามารถสู้เสี่ยวเฟิงได้
“บอสหยุดใช้สกิลแล้ว ได้เวลาลงมือต่อแล้วล่ะ”
ในที่สุดสลามันเดอร์ก็หยุดพ่นไฟ ไฟก็ค่อยๆมอดลงแต่จุดที่ไหม้นั้นก็เกรียมไปแล้วเรียบร้อย
ไนฟพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว คราวนี้ไนท์คูเออร์รอบคอบยิ่งกว่าเดิม ถ้ามีบอสจะโจมตีมาอีกเธอจะได้หลบทัน
“ดูท่าว่าคลาสลับของยอดฝีมือแห่งการรักษาจะสุดยอดกว่าที่คิดแหะ”
การสร้างความเสียหายนั้นเป็นไปอย่างมีระเบียบ ในฐานะผู้สังเกตการณ์แล้ว เหลาฉีก็เดินมาหาเสี่ยวเฟิงที่กำลังพักอยู่แล้วยิ้มให้
“แน่นอนคลาสลับนั้นทรงพลังมาก ไม่งั้นผู้เล่นก็คงไม่เปลี่ยนคลาสแล้วแหละ”เสี่ยวเฟิงพูดออกมาอย่างง่ายๆ แน่นอน คลาสผู้กอปพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังกว่าคลาสทั่วๆไปอย่างมาก
“อย่างไรก็ตามยอดฝีมือแห่งการรักษา ฉันเอาเรื่องของนายไปพูดตอนถ่ายทอดสดได้ไหมอ่ะ? รู้ไหมงานอดิเรกของฉันคือการบรรยายความรู้สึกให้คนอื่นรับรู้ นายเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเขตหัวเซียแถมยังอยู่หัวตารางอีก คนอื่นดูที่จะสนใจในตัวนายอยู่นะ แน่นอนถ้านายไม่อนุญาตฉันก็จะไม่บอกใครหรอก ฉันสนใจว่าทำไมนายถึงปกปิดชื่อของตัวเองในตารางจัดอันดับ ฉันคิดว่านายคงจะไม่สะดวกใจใช่ไหมล่ะ” เหลาฉีพูดออกมาทันที
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าจะถ่ายทอดสดก็ต้องเปิดเผยตัวเองอยู่แล้วแหละ แล้วถึงตอนนั้น ฉันจะเปิดเผยชื่อของฉันเอง” เสี่ยวเฟิงพูดออกมา
“ยอดฝีมือแห่งการรักษาต้องการที่จะถ่ายทดสดอย่างงั้น? จะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ?” เหลาฉีถามกลับทันทีที่ได้ยินอย่างงั้น
“ใช่ ฉันต้องการที่หาเงินนิดหน่อยน่ะ น่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนเช้าหลังจากที่ทำภารกิจเสร็วแล้วเลยล่ะนะ”
เสี่ยวเฟิงตอบหลังจากคิดอยู่นาน แล้วนี่มันจะเช้าแล้วคงต้องเร่งมือหน่อยไม่งั้นเขาคงจะทำอาหารเช้าให้เสี่ยวหลิงไม่ทัน
“งั้นฉันก็จะขอสนันสนุนแล้วกันนะคุณยอดฝีมือแห่งการรักษางั้นฉันจะให้นายเปิดเผยตัวเองเลยไปแล้วกันนะ ฮ่าฮ่า” เหลาฉีตอบพร้อมรอยยิ้ม
เสี่ยวเฟิงยิ้มตอบ “ยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น” เขาน่าจะเป็นที่รู้จักได้ไม่ยากจากการสนับสนุนของเหลาฉี
หลังจากคุยกันมานาน พลังชีวิตของบอสก็เหลืออยู่ 70% แล้ว แล้วมันก็เริ่มใช้สกิลอีกอย่างทันที
สลามันเดอร์พุ่งชาร์จเข้ามาราวกับหัวรถจักร ร่างของมันพุ่งออกมาแล้วร่วงลงบนพื้น แล้วพวกผู้เล่นทุกคนรวมทั้งที่อยู่ในแนวหลังก็ถูกพัดกระเด็นออกไป
ถึงพวกผู้เล่นที่ยืนอยู่ที่แนวหลังจะไม่ได้รับความเสียหายตรงๆก็ตาม ทันทีที่ถึงผู้พวกเขาก็พอที่จะตั้งหลักได้ แต่พวกแนวหน้านั้นโดนพัดลอยค้างอยู่กลางอากาศ
ในเวลาเดียวกันทุกคนก็ดูเหมือนจะได้รับความเสียหาย โดยพวกแนวหน้านั้นโดนตวามเสียหายที่หนักกว่าแนวหลังเป็นอย่างมาก
“ระวังตัวด้วย!”
ถึงความเสียหายจะไม่รุนแรงเท่ากับโดนไฟเผาก่อนหน้านี้ แต่พลังชีวิตของพวกอนวหน้าลดลงไปกว่าครึ่งแล้วโดยเฉพาะไนท์คูเออร์
แล้วการลอยอยู่กลางอากาศทำให้ขยับตัวลำบากมาก แล้วพวกเขาก็เริ่มร่วงลงพื้น แต่พวกเขากำลังจะตกไปบนตัวของสลามันเดอร์ยักษ์ ถ้าปล่อยไปพวกเขาต้องตายแน่ๆ
แต่ไนท์คูเออร์ก็ไม่ได้ปล่อยตัวไปเฉยๆ เธอจัดการท่าของเธอบนอากาศแล้วก็ตกลงบนหัวของสลามันเดอร์ เธออาศัยจังหวะที่สลามันเดอร์คำรามกระโดดหลบออกมา แล้วตีหลังกา 2 ตลบลงพื้นได้อย่างงดงาม
“ยอดเยี่ยม!”
หลายๆคนชมเธอรสมทั้งโรสที่ยิ้มพร้อมดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความพึงพอใจ
ตอนนี้พลังชีวิตของเธอเหลือแค่ครึ่งเดียว เสี่ยวเฟิงรีบเพิ่มพลังชีวิตให้กับเธอทันที ซื๋ออี๋กับโรสยังคงเพิ่มพลังชีวิตให้กับไนฟและศาสตราสงครามอยู่ ทำให้พวกเขาลุยได้อย่างไม่มีปัญหา
ด้วยความที่ตัวสลามันเดอร์ใหญ่มากกรงเล็บของมันใหญ่พอๆกับรถคันนึง แต่ถึงพลังโจมตีจะสูงมากแต่ก็ยากที่จะโจมตีโดนเป้าหมายได้ ขนาดใหญ่ของมันตอนนี้เริ่มกลายเป็นจุดอ่อน
ยิ่งกว่านั้นการร่วมมือของเขาสมบูรณ์แบบมาก และพลังชีวิตของบอสก็ยิ่งลดลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ไนท์คูเออร์ยังคงโจมตีต่อไปแต่เธอก็ยังคงอยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลาจนเสี่ยวเฟิงนั้นต้องคอยประกบตลอด แต่คนอื่นก็พยายามเล่นแบบระวังๆต่อไป หลังจากผ่านไปนานจนโรสเริ่มสงสัยเธอมองไปทางเสี่ยวเฟิงและไนท์คูเออร์พร้อมขมวดติ้ว
“นี่มัวลีลาอยู่ที่ไหนเนี่ย? พวกเราอยู่ในห้องของบอสตัวแรกแล้ว รีบๆเข้ามาด่วนเลยย…”
“หะ? เราก็อยู่ที่ห้องบอสตัวแรกแล้วนะ? ไม่เห็นพวกเราเหรอ? ไม่เหรอ…งั้นพวกนายคงไปผิดทางจนไปถึงห้องบอสตัวที่ 2 แล้วล่ะ”
เหลาฉีได้รับการติดต่อจากทีม 2 ที่ขาดการติดต่อไปนานเสียที
“พวกเราน่าจะพอจัดการบอสตัวแรกกันเองได้ ไปจัดการกับบอสตัวที่ 2 ไปพลางๆได้เลย.เดี๋ยวพวกเราจะตามไปสมทบ”
เหลาฉีวางสายแล้วก็ไปบอกคนอื่น “อีกทีมจะเข้าโจมตีบอสอีกตัวแล้ว ต้องรีบจัดการบอสตัวนี้ให้เร็ซเท่าที่จะเร็วได้แล้วล่ะ”
ที่เขาพูดมานั้นมีเหตุผลมาก พวกเขาเลยรีบเร่งมือจนตอนนี้พลังชีวิตของบอสลดลงไปต่ำกว่า 50% แล้ว
ด้วยความสามารถบัฟของเสี่ยวเฟิง ไนท์คูเออร์ทำความเสียหายได้สูงมากกว่าครึ่งของทั้งหมดนั้นก็มาจากเธอ ยิ่งกว่านั้นเสี่ยวเฟิงคอยตามประกบเธอด้วยเพราะฉะนั้นเธอไม่มีความจำเป็นต้องยั้งมืออีก ความเสียหายที่เธอทำได้นั้นลดพพลังชีวิตของบอสลงอย่างบ้าคลั่ง
“ระวังด้วย! สกิลมันมาอีกแล้ว!”
แล้วสลามันเดอร์ยักษ์ก็เรื่มที่จะใช้สกิลแบบอื่นบ้างแล้ว
“ฮูมมมมมมม!”
สลามันเดอร์ชูคอขึ้นแล้วคำรามอีกครั้ง ก้อนหินเหนือหัวของมันเริ่มละลายแล้วก็ตกลงมาใส่กลุ่มคนข้างล่าง
“ถอยออกมาเร็ว!”
ระยะของสกิลนี้กว้างจนเท่ากับห้องทั้งหมดของบอส ลูกไฟขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลกำลังจะตกลงมาใส่พวกเขา
ทุกคนต่างวิ่งหนีอย่างอลหม่านโชคดีที่ลูกไฟนั้นตกลงมาค่อนข้างช้า ทุกๆคนนั้นสามารถลบมันได้อย่างสบายๆ มีแค่เหลาฉีกับโรสที่หลบเกือบจะไม่ทัน
“เดี๋ยวก่อนๆ! ลูกไฟพวกนั้นมีบางอย่างผิดปกติ!”
เหลาฉีกรีดร้องออกมา หลังจากตกลงพื้นนั้นลูกไฟพวกนั้นไม่ได้หายไปแต่หยุดนิ่งอยู่บนพื้นแทน
“พวกแนวหลังทั้งหมด! รีบถอยออกมาเร็ว!”
เหลาฉีรู้สึกไม่ชอบมาพากล ตามประสบการณ์ของเขาพวกผู้เล่นโจมตีระยะไกลจะตีบอลลูกไฟพวกนั้นตามสัญชาติญาณ
หนึ่งในนั้นตกลงไปใกล้ๆกับไนท์คูเออร์ เธอจึงแทงลงไปกะว่าจะทำลายมัน แต่ในวินาทีนั้นมันก็ระเบิดออกส่งเสียงดังลั่น
“ตูมมมมมมมมม!”
“-150!”
แรงระเบิดนั้นอัดไนท์คูเออร์จนกระเด็นออกมาก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวซะอีก เธอเกือบจะตายในพริบตานั้นแล้วด้วยซ้ำ
เสี่ยวเฟิงรีบรักษาเธอทันที แต่ไนท์คูเออร์ยังคงยืนตัวสั่นอยู่ด้วยความหวาดกลัว
คนอื่นๆเห็นอย่างงั้นจึงอยู่ห่างๆลูกไฟพวกนั้นเอาไว้ ผู้เล่นที่โจมตีระยะไกลค่อยๆจัดการพวกมันทีละลูกจนเสียงระเบิดดังไปทั่วทั้งถ้ำ
ตอนนี้บอสใช้สกิลไปทั้งหมดแล้ว พวกเขาจึงถล่มบอสด้วยความรวดเร็ว พลังชีวิตที่เหลืออยู่ลดลงจนหมดแล้วร่างยักษ์ก็ล้มลงเสียงดังสนั่นพร้อมดรอปไอเทมจำนวนมากอยู่บนพื้น
ทุกคนต่างเข้าไปที่ของพวกนั้น มันเป็นบอสในเขตพิเศษตัวแรกที่พวกเขาจัดการเพราะฉะนั้นมันต้องให้ของที่ล้ำค่ามากแน่ๆ
“มาดูของที่ดรอปจากบอสเร็ว!”
ไม่มีใครอยากได้เหรียญทองเลยซักคน ทุกคมนที่นี้มีเงินกันหมดยกเว้นเสี่ยวเฟิงแต่เขาก็ไม่ได้อยากได้เหรียญทองอยู่ดี แต่อย่างงั้นเขาก็รับเหรียญทองมาอยู่ดี เพราะยังไงก็ต้องใช้
“มีของระดับสีทองและสีเงินอย่างละ 1 ชิ้น! ของระดับหายากอีก 2 ชิ้น! นี่เจ๋งไปเลยนะเนี่ย!”
แล้วก็มีเสียงอุทานด้วยความตกตะลึงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
“โหว! อุปกรณ์ระดับทอง! เป็นของหายากมากๆเลยนะเนี่ย!”
ดวงตาของทุกคนจ้องไปยังอุปกรณ์สีทองด้วยดวงตาเป็นประกาย
“มาแบ่งของกันเลยดีกว่า”
เหลาฉีนั้นยังอับจนหนทางอยู่ เขาไม่คิดว่าบอสจะดรอปอุปกรณ์ระดับสีทองแบบนี้ ของระดับสีทองทุกชิ้นนั้นมีราคาและเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ทำให้การแบ่งของนั้นยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม Iเขาเลยต้องแบ่งของตามคลาสของแต่ละคน แล้วถ้ามีมากกว่า 1 คนที่จะได้ไป ก็ใช้เสียงส่วนมากเลือกเอา
—-.
85
เท้าสลามันเดอร์ทองคำ
ระดับ: ระดับทองคำ
ประเภทอุปกรณ์: รองเท้าเกราะหนัก
เลเวลอุปกรณ์: 15
ความต้องการอุปกรณ์: ค่าพลังปราณมากกว่า 75
คุณสมบัติ:
ความเร็วในการเคลื่อนที่ +15%
ค่าพละกำลัง +18
ค่าความว่องไว +18
ค่าความทนทาน +18
ค่าพลังปราณ +23
ค่าปัญญา +18
คุณสมบัติเฉพาะ:
ต้านทานความร้อน: ลดความเสียหายจากการโจมตีประเภทไฟ 10%
ย่างก้าวอัคคี: หลังจากใช้งานสกิลจะปรากฎไฟตามรอยเท้าที่เดินผ่าน หากเดินผ่านจะโดนความเสียหายต่อเนื่องทุกวินาทีจาก 50% ของค่าพลังเวทย์ โดยคงอยู่ 30 วินาทีแล้วใช้ค่ามานา 10 หน่วยต่อวินาที
ทุกคนต่างฮือฮาด้วยความทึ่ง สมแล้วที่เป็นไอเทมระดับทองคำ!
มีคุณสมบัติพื้นฐาน 5 อย่าง แถมสกิลเสริมยังดีอีกต่างหาก ถ้าด้วยความสามารถนี้แม้แต่นักบวชก็สามารถที่จะจัดการมอนสเตอร์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
“เป็นรองเท้าเกราะเบา คงจะต้องให้นักบวชไป”
เหลาฉีพูดออกมาอย่างลังเล พวกเกราะเบาจะให้ค่าพลังปราณมากกว่าของชิ้นอื่นๆให้นักบวชก็เหมาะสมแล้ว
“ขอบคุณมาก ซาบซึ้งจริงๆ”
เสี่ยวเฟิงถูมือไปมา แล้วเดินออกมาข้างหน้า เขาแสดงความอยากได้ออกมาโดยไม่ปิดบัง
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นนายล่ะ? ฉันก็เป็นนักบวชนะ”
ซื๋ออี๋ก็ก้าวออกมาเหมือนกัน เธอกอดอกแล้วพูดด้วยความไม่พอใจ แล้วเสี่ยวเฟิงก็เงียบไป
“ฉันก็เป็นนักบวชนะลืมรึเปล่า”
นอกจากซื๋ออี็แล้วก็มีโรสที่เดินออกมาด้วย ทำให้เสี่ยวเฟิงไม่พอใจ เธอแค่บังเอิญผ่านมาเข้าร่วมภารกิจเองนะน่าอัปยศสิ้นดี!
“แล้วทำไมต้องเป็นพวกเธอด้วยล่ะในเมื่อใครก็ใช้ได้เหมือนกัน?”
“เขาก็พูดถูกนะ นักเวทย์ก็จำเป็นต้องใช้มันนะ”
นักธนูอายุ 17และอิมมอทัลเฟลมต่างพูดให้กันและกัน พวกเขาจ้องไปทางรองเท้าตาไม่กระพริบ
“ฉันก็อยากจะได้มันนะ”
ไนฟพูดเสียงต่ำ เขาเป็นคนที่จะมีสิทธิเลือกของได้ก่อนใครเพื่อนเพราะนี่เป็นภารกิจของวอร์สปิริตฮอล์ แต่เขาก็ไม่ได้จงใจพูดอะไรมากนัก
เหลาฉีมองด้วยความเหนื่อยใจ ดูท่าครั้งนี้การแบ่งของจะไม่ง่ายซะแล้ว
“เงียบก่อน! ใช้เสียงส่วนมากก็แล้วกัน!”
เสี่ยวเฟิงยักใหญ่เห็นด้วยโดยไม่ท้วงอะไร เขาก็ไม่ได้อยากจะได้มันอะไรขนาดนั้นแค่สนใจสกิลของรองเท้านั้นซะมากกว่า มันจะทำให้เขาสร้างความเสียหายด้วยตัวเองได้มากขึ้นเป็นกอง
“งั้นก็เริ่มกันเลยนะ”
ตามปกติแล้วถ้าใครเจอคนนั้นก็จะเป็นคนได้ไป แม้แต่ในเขตพิเศษก็ไม่เว้น แต่ส่วนมากผู้เล่นมักจะเข้ามาเป็นทีม เพราะฉะนั้นคนที่ต้องการของเหมือนกันย่อมต้องแย่งกันเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นนี่เป็นทางที่แฟร์ที่สุดแล้ว แต่ละคนจะเลือกตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 แล้วคนที่มีเลขมากที่สุดก็จะได้ของไป
เหลาฉีเองก็ไม่ได้อยากได้ของ เพราะฉะนั้นคนจึงเหลืออยู่ทั้งหมด 9 คน ด้วยความที่เป็นของที่มีราคาไม่ว่าใครก็อยากจะได้มันทั้งนั้น
“แกมีของดีๆที่ติด 5 อันดับอยู่แล้วนี่! แล้วทำไมถึงต้องมาแย่งของเราด้วยล่ะ?” ซื๋ออี๋มองเสี่ยวเฟิงอย่างดูถูก
“มันขัดก็สไตล์ของฉันแถมยังเป็นเป้าสายตาอีก บางครั้งเลยต้องใช้ของธรรมดาๆบ้าง” เสี่ยวเฟิงพูดออกมา
“ใช่ แกก็มีของดีๆอยู่แล้ว จะมาแย่งของพวกเราทำไมอีก?”
“แล้วทำไมคนเราต้องกินข้างเที่ยงล่ะ ในเมื่อก็กินข้าวเช้าแล้ว?”
“ห่าเอ๊ย!” ไนท์คูเออร์สบถออกมา
“เอาเถอะ หยุดถากถางกันเองเถอะ รีบๆแบ่งของกันแล้วกัน เราต้องรีบไปสมทบก็ทีมสองนะ” เหลาฉีเริ่มเบื่อที่จะพูดเรื่องเดิมๆแล้ว
“งั้นฉันก่อน!” เสี่ยวเฟิงพูดออกมาก่อน เขาเปิดระบบการสุ่มตัวเลขแล้วก็มีลูกเต๋าหมุนไปมาอย่างบ้างคลั่งด้านหน้าเขา แล้วก็หยุดลงปรากฎเลขสองหลักต่อหน้าทุกคน
99!
ทุกคนจ้องเลขตัวนั้นอย่างไม่เชื่อราวกับเห็นผี
“ฮ่าฮ่า!”
เสี่ยวเฟิงก็อึ้งไปด้วยแต่เขาก็รู้สึกดีสุดๆต่อผลของมัน “ดูท่าว่าไม่ต้องทอยเต๋ากันต่อแล้วล่ะนะ ผลมันชัดเจนสุดๆเลยล่ะนะ”
“ไม่! ฉันจะทอยได้ 100 แน่ๆ!” ซื๋ออี๋กลั้นหายใจแล้วทอยเต๋า ลูกเต๋าหมุนแล้วก็หยุดปรากฎตัวเลขอย่างเดียว
9!
“ฮ่าฮ่า อุตส่าห์พูดซะดี” เสี่ยวเฟิงขำออกมาแล้วพูดอย่างเยาะเย้ย
ซื๋ออี๋หน้าชาไปในทันทีร่างของเธอนั้นฮึดฮัดและเต็มไปด้วยโทสะ
คนอื่นมองตัวเลขด้วยความประหลาดใจ แล้วนักธนูอายุ 17เดินออกมาด้วยสีน้าที่ไม่พอใจแบบสุดๆ.
“ตาฉันแล้ว!”
ลูกเต๋าหยุดลงพร้อมกับตัวเลขชวนช็อก
13!
“ฮ่าฮ่า อ่อนชะมัด” เสี่ยวเฟิงกอดอกแล้วมองด้วยความสนใจ
ไนท์คูเออร์เดินออกมาทอยเต๋าแบบเงียบๆ ตัวเลขปรากฎออกมาอย่างรวดเร็ว
11!
น้อยยิ่งกว่านักธนูอายุ 17อีก
“อ่อน.”
เสี่ยวเฟิงยิ่งพึงพอใจมากขึ้นไปอีกมือของไนท์คูเออร์กำมีดอย่างสั่นระริก เธอนึกอยากจะเลาะหนังของเขาออกมาทั้งเป็น
“ตาฉันแล้ว…”
…
“กาก!”
“ตาฉัน!”
…
“กาก!”
…
ตอนนี้ทอยไปทั้งหมด 7 คนแล้วเสี่ยวเฟิงอยู่ที่ 99 ส่วนคนอื่นๆยังไม่มีใครเกินกว่า 30 แม้แต่คนเดียว พวกเขาต่างมองหน้าเสี่ยวเฟิงที่กำลังร่าเริงอยู่ด้วยความโกรธ
คนสุดท้ายคือโรส แต่เธอมองมาทางเสี่ยวเฟิงแล้วเธอก็เลือกที่จะละทิ้งโอกาสนี้ไป
99 เป็นเลขที่เยอะมากแล้วเธอก็ไม่คิดว่าจะทอยได้ 100 ด้วย แล้วถ้าเธอเกิดพลาดขึ้นมาเสี่ยวเฟิงน่าจะเอามาล้อเลียนเธอไปตลอดชาติแน่ๆ เธอนั้นมีเกียรติและย่อหยิ่งและไม่เคยมีรอยด่างพร้อยมาก่อน เธอจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆต่อไป
“งั้นเป็นเอกฉันท์แล้ว ของชิ้นนี้เป็นของยอดฝีมือแห่งการรักษา”
เสี่ยวเฟิงรับของมาจากเหลาฉีด้วยสีหน้าที่กระหยิ่มยิ้มย่อง คนอื่นๆนั้นต่างพากันหน้าดำคร่ำเครียดแต่ก็ตอบโต้อะไรไม่ได้
“ของอย่างอื่นเอาไปได้เลยนะ นี่ฉันใจบุญมากเลยนะเนี่ย!”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็ส่ายหัวแล้วพูดออกมา ส่วนคนอื่นๆได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธ
ของที่ดีที่สุดตกเป็นของเสี่ยวเฟิง ส่วนของอีก 3 ชิ้นที่เหลือก็แบ่งให้กับคนอื่นๆ
อุปกรณ์ระดับเงินนั้นเป็นคทาแล้วก็สามารถโจมตีเป็นธาตุไฟ อิมมอทัลเฟลมจึงได้มันไป อีก 2 ชิ้นที่เหลือเป็นเกราะหนักจึงต้องเป็นผู้เล่นที่ใช้ค่าพละกำลังเท่านั้น ไนฟและศาสตราสงครามจึงได้ไป
“ไปเถอะเราต้องไปสมทบกับอีกทีม พวกเขากำลังสู้กับบอสตัวที่ 2 อยู่”
เหลาฉีอ่านแผนที่และสามารถคาดเดาตำแหน่งของอีกทีมได้แล้วพวกเขาจึงรีบเร่งไปสมทบให้ไวยิ่งขึ้น
โรสที่ตอนนี้อยู่รั้งท้ายแถว เธอนั้นเลือกที่จะทิ้งโอกาสเองและเรียกร้องอะไรไม่ได้อีก เธอมาแอบทอยเต๋าอย่างลับๆ ตัวเลขแสดงออกมาอย่างรวดเร็วแต่มันกลับปรากฎเป็นเลข 3 หลัก
100!
…
“พวกเราจัดการบอสได้ในครั้งเดียว! แต่พวกนายแพ้ราบคาบเนี่ยนะ! นี่เล่นอะไรกันรึไง!”
ทีม 2 เดินกลับมาจากทางเข้าของพท้นที่หลังจากตายกันทั้งทีม ตอนที่ทีมของเสี่ยวเฟิงตามมาสมทบนั้นพวกเขากำลังจัดการมอนสเตอร์ข้างทางอยู๋ ศาสตรสาครามว่าออกมา
“เฉยเหอะ! บอสตัวที่ 2 มันต้องจัดการยากกว่าบอสตัวแรกอยู่แล้วแหละ”
หัวหน้าของทีม 2 คือพลาดินแหล่งการรักษาเขาทำหน้าเครียดทันทีที่ได้ยินอย่างงั้น
“ไปกันเถอะ ท่านพลาดินแห่งการรักษาพอที่จะบอกสกิลของบอสได้ไหม” เหลาฉีรีบขัดคอพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะฆ่ากันเองซะก่อน
20 รวมกันแล้วเดินเข้าไปในห้องบอส ถ้ำของมันเล็กกว่าถ้ำของสลามันเดอร์บรรพกาล มันไม่ราบเรียบและเหมือนจะไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ.
ในเวลาเดียวกันพลาดินแห่งการรักษาก็พูดออกมา “บอสตัวที่สองเป็นรากของต้นไม้ พวกเราลดพลังชีวิตของมันไปได้แค่ 20% สกิลแรกของมันนั้นพอที่จะหลบหลีกมาได้ แต่สกิลที่ 2 นี่สิปัญหา ถ้าโดนเข้าไปจะติดสถานะพิษอัคคีแล้วมันจะระเบิดทำความเสียหายภายหลัง ฉันแบ่งทีมออกเป็น 2 แถว แถวแรกให้รับมือกับพิษอัคคี แล้วแถวสองให้รับมือกับดาเมจ แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังตึงมืออยู่ดี”
“หมายความว่าพวกแถวหน้าต้องได้รับความกดดันอย่างมากเลยน่ะสิ? แถวห้นาคงต้องการผู้เล่นจำนวนมากกว่านี้” เหลาฉีพูดออกมาหลังจากคิดอยู่นาน
“ไม่ความเสียหายจากพิษอัคคีนั้นรุนแรงมาก และยังสามารถติดได้มากกว่า 1 ครั้งด้วย และถ้าไม่มีสกิลล้างดีบัฟจากนักบวชก็คงจะไม่รอดอยู่ดี” พลาดินแห่งการรักษษพูดพลางส่ายหัว
“สกิลชำระล้างต้องเป็นนักบวชที่มีเลเวล 15 เท่านั้น ในตอนนี้เรายังคงไม่สามารถหาคนที่มีสกิลนี้ได้หรอก คงต้องลองเสี่ยงทำอะไรซักอยา่งกันเองแล้วล่ะ”
เหลาฉีพูดออกมา ภารกิจนี้มีเลเวลสูงกว่าพวกเขาการเข้ามานั้นก็ยากมากอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นระดับแถวหน้าก็ตาม
ตอนที่คุยกันอยู่เสี่ยวเฟิงก็สำรวจบอสอยู่ มันเหมือนรากที่งอกออกมาจากผาหิน ถึงจะไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ชวนสยองมากอยู่ดี มันดูน่าขนลุกมากกว่าสลามันเดอร์ยักษ์เมื่อกี้นี้อีก ขนาดของมันใหญ่มากและยังมีผิวสีแดงราวกับเลือด
รยางค์ต้นไม้เวทย์เพลิง
เลเวล: 15
ระดับ: บอสหายาก
พลังชีวิต: 19000/19000
พลังโจมตี: 104-128
พลังป้องกัน: 95-108
พลังป้องกันเวทมนตร์: 90-100
สกิล:
รากรัดตึง, ฟาดคลุ้มคลั่ง, รากทิ่มแทง, พิษพฤกษาเพลิง, บ้าคลั่ง, เมล็ดพฤกษาเพลิง, สูบชีวิต
คำอธิบาย: หนวดของสิ่งมีชีวิตไม่ทราบชนิดและเติบโตโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่มันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับสลามันเดอร์
คุณสมบัติ: บอสหายากที่มีความแข็งแกร่งมาก! มันแทบจะไร้เทียมทานต่อการโจมตีด้วยธาตุไฟ และยังมีอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตที่น่าหวาดหวั่น ยากต่อการรับมือ!
“บอสระดับหายาก! พลังชีวิตเกือบจะถึง 20,000 แล้ว! แถมยังแกร่งกว่าสลามันเดอร์บรรพกาลอีก!”
“พลังโจมตีและป้องกันเหลือเชื่อมาก! แทบจะทะลุ 100 แล้ว!”
“รู้รึยังว่าทำไมพวกเราถึงตายน่ะ? มันแกร่งขนาดนี้!”
อันที่จริงทีม 2 ก็ไม่ได้อ่อนแออะไรมากมายแต่ทีม 1 ต่างหากที่แข็งแกร่งมากๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมทีม 2 ถึงได้ถูกจัดการโดยที่พลังชีวิตของบอสยังเหลืออยู่ถึง 80% แบบนี้ หลังจากที่ได้เห็นคุณสมบัติของบอสก็ต้องยอมรับแต่โดยดีว่ามันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
86
“ถ้าเจ้าตัวนี้ยังโหดขนาดนี้! ตัวสุดท้ายนี่ไม่โจมตีเราครั้งเดียวตายเลยรึไงเนี่ย” แม้แต่ไนฟที่มีการป้งอกันที่แข็งแกร่งก็ยังพูดดอกมาด้วยความไม่มั่นใจ
“เรามีกันตั้ง 20 คนก็คงชิลๆแหละมั้ง” ศาสตราสงครามแตะไหล่ของไนฟแล้วพูดให้กำลังใจ
ถึงไนฟจะยังอึ้งอยู่แต่ไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว พวกเขาจึงรีบเข้าโจมตีทันที
“ให้บัฟแลัวรีบโจมตีบอสเร็ว!”
“ระยะการโจมตีของบอสยังไม่ชัดเจนเพราะมันขยับไม่ได้ มันคงจะโจมตีใส่คนที่อยู่ใกล้ที่สุด เพราะฉะนั้นระวังด้วย”
“ระยะไม่แน่นอนงั้นเหรอ? งั้นพวกแนวหน้าให้เข้าโจมตีพร้อมๆกัน แล้วพยายามยืนอยู่ห่างๆกันไว้” เหลาฉีพูดออกมา
ทั้งไนท์คูเออร์ ศาสตราสงคราม ไนฟและลูกน้องอขงเขาพยัหหน้ารับแล้วเข้าโจมตีอย่างระมัดระวัง ผู้ลเ่นทั้ง 6 ต่างล้อมรอบตัวบอสเอาไว้แล้วเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง
แล้วเวลาเดียวกันพวกเสี่ยวเฟิลและคนที่เหลือต่างจับตาดูการโจมตีของบอส
ร่างของมันนั้นเหมือนกับรากของต้นไม้ที่แตกแขนงออกมาเหมือนเส้นเลือด แล้วในตอนนั้นร่างของมันก็เริ่มขยับแล้วฟาดใส่เหล่าผู้เล่นที่พุ่งเข้าไปโจมตีราวกับแส้
พวกแนวหน้านั้นล่าถอยออกมาเพื่อหลบการโจมตีทันที การโจมตีนั้นรุนแรงเกินไปพวกเขาคงจะไม่สามารถสู้ตรงๆได้ แม้แต่ไนท์คูเออร์ก็ต้องมีสมาธิกับการหลบหลีกจนแทบไม่ได้โจมตีเลย แต่เธอก็ยังทำความเสียหายได้สูงอยู่ดี
“โหว! ความเสียหายยังน่าทึ่งเหมือนเดิมเลย!”
“สมแล้วที่เป็นผู้เล่นระดับสูง!”
พลังป้องกันของรากไม้นั้นสูงมากจนความเสียปกติอยู่ที่ 10 หรือ 20 เท่านั้นพวกนักรบสายป้องกันไม่สามารถทำความเสียหายได้เลย แม้แต่ศาสตราสงครามที่เป็นนักรบสายโจมตีก็ยังทำความเสียหายได้ลำบาก อิมมอทัลเฟลมก็ทำความเสียหายได้แค่ 30 แม้ว่าจะได้รับบัฟจากเสี่ยวเฟิงแล้ว เป็นเพราะพลังป้องกันธาตุไฟของบอส
พวกเขาเลยฮึกเหิมที่จะทำภารกิจให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น
พาลาดินแห่งการรักษามองไนท์คูเออร์ด้วยความประทับใจ เดิมทีเขาเป็นคลาสนักบวชแล้วเปลี่ยนคลาสของตัวเองมาเป็นพาลาดิน ทำให้เขามีพลังโจมตีที่สูงและการป้องกันที่ดีมากพอสมควร
เขาเลยแปลกใจมากที่ไนท์คูเออร์ทำความเสียหายได้เกินกว่า 100 หน่วย หมายความว่าเขาจะต้องมีพลังโจมตีมากกว่า 250 เท่านั้น ถึงจะบอกว่าได้บัฟจากนักบวชมาแล้วก็ตาม แต่พลังโจมตีส่วนตัวของเธอก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน!
เสี่ยวเฟิงยังคงแอบอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ เขาเลยมีเวลาที่จะหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของเกม
“นี่! ช่วยจริงจังกว่านี้ได้ไหมเนี่ย?”
ซื๋ออี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆ กังวลเกี่ยวกับคนที่อยู่ในแนวหน้า เธอนั้นใช้เสริมอาวุธและพรแห่งชีวิตทันทีที่เห็นว่ามันสามารถใช้งานได้ แต่พอเธอหันมาเห็นเสี่ยวเฟิงที่นั่งชิลๆอยู่ด้านหลังเธอก็เตือนเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“พวกเขายังไหวอยู่น่าไม่ต้องห่วงหรอก…หือ อะไรน่ะ?”
เสี่ยวเฟิลพูดอย่างสบายๆแต่ทันทีที่จบประโยคเขาก็สังเกตอะไรบางอย่างใต้เท้าและกระโดดหลบในทันที
“กร็อบ!”
รากไม้พุ่งทะลุพื้นดินที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ทันที ดีที่ว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
ซื๋ออี๋นิ่งข้างไปทันที ขนาดว่าเป็นการโจมตีแบบทีเผลอแต่เขาก็ยังคงหลบไปได้ เธอนั้นรู้ได้ทันทีว่าเธอกับเขาฝีมือคนละระดับกัน เธอเลยเลือกที่จะไปโฟกัสกับงานของเธอแทน
“นายนี่จะเก่งเกินไปหน่อยไหมเนี่ย” ซื๋ออี๋พูดออกมาอย่างขมขื่นเมื่อเธอเห็นความสามารถของอีกฝ่ายแบบเต็มสองตา
“ปราชคนหนึ่งกล่าวไว้ว่าพ่อค้าเนื้อจะกลับกลายเป็นผู้บรรลุในตอนที่เขาวางมีดลง” เสี่ยวเฟิงพูดปรัชญาออกมาโดยยังมองพื้นอยู่
รากที่พุ่งทะลุขึ้นมานั้นใหญ่อย่างกับท่อนแขน มันแกว่งซ้ายขวาอยู่ซักพักก่อนจะหายกลับลงไปในดิน
“มองอะไรอยู่น่ะ?” ซื๋ออี๋ถามด้วยความสงสัย
“ฉันอยากรู้ว่ารากพวกนี้มันมาจากไหน” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างราบเรียบ
“มันอยู่ใต้พื้นนะ จะไปหาเจอได้ยังไง?” ซื๋อยี๋ถามด้วยความสงสัย
“แน่นอน ก็หาด้วยสัญชาตญาณไง” เสี่ยวเฟิงยังคงมองตามพื้นต่อไป
“อย่ามาอวดเก่งหน่อยเลย จะเจอจริงๆเหรอ?” เธอก็ยังคงไม่เชื่อ
“ก็อยู่ใต้เท้านี่ไง” เสี่ยวเฟิงชี้ไปข้างหน้าใต้เท้าของเหลาฉี
“เหลาฉี? ฉันไม่เชื่อ…”ยังไม่ทันขาดคำรากไม้ก็พุ่งขึ้นจากพื้นแล้วหวดใส่เหลาฉีที่ไม่ทันระวังจนกระเด็นไป
“-113!”
เลขความเสียหายอันน่าเหลือเชื่อทำให้ตาของพวกเขาเบิกกว้าง เหลาฉีร่วงลงพื้นแล้วเสียชีวิตทันทีก่อนที่จะรู้ตัวซะอีก
เหลาฉีนั้นไม่ได้สวมชุดดีๆแบบที่เสี่ยวเฟิงมี พลังป้องกันและพลังชีวิตนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นเริ่มต้นเลย
ซื๋ออี๋จ้องไปทางเหลาฉีอยู่นานกว่าจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตะโกนใส่เสี่ยวเฟิงด้วยความตกใจ “ทำไมถึงไม่เตือนเขาล่ะ?”
“ฉันนึกว่าเขาจะรู้ตัวซะอีก” แม้แต่เสี่ยวเฟิงก็ยังตกใจมาก
“เขาไม่ใช่ผู้เล่นสายต่อสู้ เขาคงไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้หรอก!” ซื๋ออี๋พูดอย่างจงใจ
“เฮ้ย! เหลาฉีตายแล้ว!”
พวกผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆนั้นเริ่มสังเกตเห็ฯสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ตะโกนออกมา
“ไม่ต้องห่วง ฉันยังให้คำแนะนำได้อยู่ พวกที่อยู่แถวหลังให้ระวังตัวมากกว่าเดิมด้วย เห็นชัดว่าแนวหน้ารอบนี้ไม่สามารถช่วยพวกนายได้เลย”
แต่เหลาฉีนั้นไม่ได้เลือกที่จะไปเกิดใหม่ที่ทางเข้าแต่ยังคงให้คำแนะนำกับคนอื่นๆต่อไปในสภาพที่เป็นศพอยู่อย่างงั้น
ผู้เล่นส่วนใหญ่ในนี้เป็นผู้เล่นแนวหลัง พวกเขาถึงระวังการโจมตีรอบข้างยิ่งกว่าเดิม พวกผู้เล่นที่โจมตีระยะไกลนั้นไม่เท่าไหร่ แต่พวกนักบวชยกเว้นเสี่ยวเฟิงต่างพากันตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วทำไมมองแบบนั้น?”
นักธนูอายุ 17นั้นโจมตีใส่บอสแล้วระวังรอบๆตัวไปด้วย แต่เขาสังเกตได้ว่าเสี่ยวเฟิงนั้นมองเขาอยู่ เขาเลยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
แต่เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้วกระโดดถอยออกมาตามสัญชาตญาณ แล้วรากไม้ก็พุ่งขึ้นจากพื้นมาโจมตีพวกเขา
นักธนูอายุ 17ยังช็อกแต่ด้วยประสบการณ์ในการเล่น ทำให้เขารอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด
นักธนูอายุ 17ยังตงช็อกจากเหตุการที่เกิดขึ้น เขาโกรธมากคิดว่าที่เสี่ยวเฟิงจ้องเป็นการรบกวนสมาธิเขา แต่พวกเขาหันมาเสี่ยวเฟิงก็หันไปทางอื่นแล้ว
ปลายสายตามีนักเวทย์ของทีม 2 ที่ใช้พลังเวทย์น้ำแข็ง เขาก็สงสัยว่าเสี่ยวเฟิงจะจ้องเขาทำไม
“อะไรหะ?”
แล้วเขาก็ไม่แปลกใจเมื่อรากไม้พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาในจุดที่เขายืนอยู่
แต่นักเวทย์คนนั้นก็หัวไวไม่ใช่ย่อย เขาพยายามถอยหลบออกมาแต่ก็ยังหลบไม่พ้นพลังชีวิตของเขาแทบจะหมดในทันที แต่เสี่ยวเฟิงนั้นยังช่วยเขาไว้ได้ทัน
แต่ตอนนั้นทุกคนกลับอึ้งไปกับจำนวนเลขที่ฮิล 3 หลักที่เห็นไม่มีใครในที่นั้นทำได้ขนาดนั้นมาก่อน
ผู้เล่นแถวหลังทุกคนนั้นอยู่ติดๆกันเพื่อที่จะระวังการโจมตีของบอส ทุกคนอยู่ในสายตาของเสี่ยวเฟิงตลอดเวลาที่ถูกโจมตี นี่ไม่ใช่เรื่องที่บังเอิญ
โรสนั้นรู้สึกตัวทันทีว่าเสี่ยวเฟิงกำลังจ้องเธออยู่ เธอขมวดคิ้วรู้ทันทีว่าบอสกำลังโจมตีเธอ จึงถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม จากการที่เธอก้าวถอยหลังออกมาแบบทันทีทำให้เธอเสียหลักจนล้มลง แต่เธอก็สามารถหลบการโจมตีทีเผลอมาได้แบบหวุดหวิด
แล้วทุกคนก็มองมาทางเสี่ยวเฟิงด้วยสีหน้าแปลกๆ เหล่าคนที่เขาจ้องนั้นโดนบอสโจมตีทุกคนเขานี่มันตัวซวยชัดๆ
“อย่ามองมาทางนี้นะ!”
พวกนักบวชหญิงมองเสี่ยวเฟิงด้วยความหวาดกลัว
แต่เขาไม่ได้สังเกตแล้วก็ละสายตามาทางซื๋ออี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“ทำไม? จ้องมาทางฉันทำไมเนี่ย…” ซื๋ออี๋รู้ตัวทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอเลยถอยออกมาทันทีที่โดนจ้องแบบนั้น
“กร็อบ!”
ไม่แปลกใจซักนิดรากไม้พุ่งขึ้นมาหาซื๋ออี๋ที่กำลังถอยอยู่
แต่รอบนี้เสี่ยวเฟิงอยู่ใกล้ๆกับรากนั้นเขาเลยใช้ไม่คทาในมือฟาดลงไปบนรากนั้น
“-105!”
เลขความเสียหายที่แรงจนไม่น่าเชื่อปรากฎขึ้นรากนั้นยู่ยี่ราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออก แล้วมันก็กลับเข้าไปในดินโดยไม่ขยับอีก
“อะไรน่ะ?”
เสี่ยวเฟิงเห็นอย่างงั้นจึงหันกลับไปมองบอสเลขความเสียหายเลขเดียวกันนั้นปรากฎที่ตัวของพฤกษาอัคคี
“ทุกคน จัดการราก รากไม่มีพลังป้องกัน”
การโจมตีของเขานั้นไม่ได้ผ่านการบัฟและเขาใช้คทาโจมตีด้วยซ้ำ แต่เจายังทำความเสียหายได้ถึงหลักร้อยด้วยซ้ำ
“หะ? แน่ใจนะ?”
ผู้นเล่นทั้งหมดต่างตกใจแล้วก็พูดกับเสี่ยวเฟิงด้วยความดีใจ พวกเขาไม่ทันได้ฉุกคิดว่าการโจมตีที่รากของมันจะได้ผลมากกว่านี้ ถ้าใช้วิธีนี้แปลว่าพวกเขาสามารถจัดการบอสได้รวดเร็วมากขึ้น
“ยอดฝีมือแห่งการรักษาสุดยอดเลย!”
“รากต่อไปอยู่ที่ไหนอ่ะ?”
พวกแนวหลังทั้งหมดต่างมองเสี่ยวเฟิงด้วยความฮึกเหิม
ส่วนพวกแนวหน้าที่ไม่มีส่วนร่วมนั้นรู้สึกเคืองมาก
“ทำห่าอะไรของพวกเอ็งวะ? ตายกันหมดแล้วรึไง?”
พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนอันโกรธเกรี้ยวของพาลาดินแห่งการรักษา เพราะตอนนี้บอสก็ยังคงจู่โจมใส่พวกเขาอย่างบ้างคลั่ง แต่พวกแนวหลังกลับหยุดสนับสนุนพวกเขาไปซะดื้อๆ
87
“อย่าเสียเวลากับแนวหลังมากนักน่า พวกนักบวชช่วยเหลือแนวหน้าต่อไป ยอดฝีมือแห่งการรักษาฝากจัดการพวกรากด้วย คุณไนท์คูเออร์กลับมาช่วยแนวหลังแล้วกันครับ”
เหลาซวีที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นรีบขัดคอ ต้องขอบคุณที่มุมที่เขาตายนั้นยังสามารถเห็นสถานการณ์ต่างๆได้ชัดเจน ทำให้เขาทราบว่าเสี่ยวเฟิงนั้นสามารถหาจุดอ่อนของบอสได้แล้ว
นักบวชจึงหันไปสนับสนุนแนวหน้าต่อทันที รอบนี้เสี่ยวเฟิงช่วยรักษาให้กับไนฟด้วยเป็นเวลาเดียวกับที่ไนท์คูเออร์ถอยลงมาตามคำสั่ง
“?”
ไนท์คูเออร์ไม่เข้าใจว่าทำให้เหลาฉีถึงสั่งให้เธอถอยกลับมา
ท่านไนท์คูเออร์บอสจะทำการโจมตีด้วยรากใส่คนที่อยู่แนวหลังแต่มันไม่มีพลังป้องกันเลย ทำให้ยังคงสร้างความเสียหายได้เหมือนเดิมเพราะงั้น ช่วยจัดการพวกรากและคุ้มกันคนที่อยู่แนวหลังที” เหลาซวีรีบอธิบายทันที
เพราะเธอใส่หน้ากากเลยมองไม่เห็นสีหน้าแต่เธอก็ตอบรับด้วยการพยักหน้า แต่อยู่ๆเธอก็ถอยไปด้านหลัง แล้วรากก็พุ่งขึ้นมาโจมตีเธอในจุดที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่
ไนท์คูเออร์ฟันมีดลงไปอย่างไม่ลังเล
“-344! คริติคอล!”
ความเสียหายนั้นมหาศาลมากรากนั้นสลายในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นมันเหมือนเป็นการดึงดูดความสนใจของบอส
“มันได้ผล!”
ดวงตาของผู้เล่นทุกคนเบิกกว้างทันที
“ระวังด้วย! บอสมันจะใช้สกิลพิษอัคคีแล้ว!”
จากการโจมตีก่อนหน้าทำให้พลังชีวิตของบอสลดลงไปเกือบๆ 10% ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากกว่าเดิมทำให้ความเสัยหายที่ทำได้นั้นมากขึ้นอย่างมาก แต่ผู้เล่นแนวหน้าก็ตะฏกนเตือนมาในทันที
ทันทีที่พลังชีวิตของมันลดลงไปเหลือ 90% ก็มีสัฐลักษณ์รูปไฟสีดำปรากฎบนหัวของไนฟที่กำลังต้านการโจมตีของบอสอยู่ แล้วตัวของเขาก็ถูกหมอกสีแดงเข้าปกคลุมทันที
“ถอยออกมาเร็ว! ถ้าโดนสกิลนั้นเข้าไปนายจะถูกบอสโจมตีแรงขึ้น! นายจะตายภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียวเลยนะ!”
อันที่จริงนั้นไนฟรู้ตัวมาซักพักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกกติ พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่ชวนผวา
“ชิบหายแล้ว!”
ไนฟรีบถอยมาที่แนวหลังทันที เสี่ยวเฟิงใช้สกิลชำระล้างให้กับไนฟ แล้วสัญลักษณ์รูปไฟบนหัวของเขาก็หายไปในทันที
“ชำระล้าง!”
“อะไรนะ? สกิลชำระล้าง?”
“ยอดฝีมือแห่งการรักษามีสกิลชำระล้าง!”
คนตรงนั้นรวมทั้งเหลาซวีก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าเสี่ยวเฟิงจะมีสกิลแบบนี้ด้วย
“คงต้องเป็นผู้เล่นระดับสูงสินะ! ขอบใจมาก!”
ไนฟพบว่าพลังชีวิตของตัวเองฟื้นขึ้นมาแล้วก็เอามือทาบอก อีกด้านซื๋ออี๋กำลังช่วยเพิ่มบัฟให้อยู่ แล้วเขาก็พุ่งเข้าโจมตีบอสต่อด้วยกำลังใจที่หึกเหิม
“ตั้งแต่ที่มีสกิลชำระล้างบอสตัวนี้ก็ง่ายขึ้นเป็นกองเลยแหะ!”
เหลาซวีพูดขึ้นมา คนอื่นๆก็หึกเหิมด้วยพลังโจมตีอันมหาศาลของไนท์คูเออร์และการสนับสนุนของเสี่ยวเฟิง พลังโจมตีของพวกเขาเริ่มที่จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเมื่อสกิลที่อันตรายที่สุดนั้นไร้พิษสงไปแล้ว และบอสไม่สามารถขยับได้ ทำให้พวกเขามีจังหวะในการหลบสกิลอื่นๆเยอะมาก ระหว่างนั้นเสี่ยวเฟิงและไนท์คูเออร์ก็เคยประคองทุกคนในแนวหลังไว้ พลังชีวิตของบอสหายไปครึ่งนึงแล้ว.
ด้วยพลังโจมตีและอัตราคริติคอลที่สูงมากๆของไนท์คูเออร์เธอสามารถลดพลังชีวิตของบอสได้ครั้งละ 15% เลยทีเดียว
“ระวังตัวด้วยนะ”
เหลาฉีเตือนพวกเขา เพราะตอนที่บอสพลังชีวิตลดลงถึง 50% ก็มีท่าทาบงที่ประหลาดๆ ร่างยักษ์ใหญ่ของมันปกคลุมด้วยหมอกสีแดงราวกับว่าจะลุกไหม้ได้ เหมือนกับว่ามันกำลังจะมีชีวิตขึ้นมา
หินจากเพดานของถ้พเริ่มถล่มลงมาเป็นลางที่ไม่ค่อยดีแล้ว
ทุกๆคนต่างหยุดมือแล้วก็มองไปทางพฤกษาเวทย์อัคคีโดยไม่วางตา
แล้วร่างใหญ่ยักษ์ของพฤกษาเวทย์อัคคีเคลื่อนที่ออกมาราวกับกำลังว่ายน้ำแล้วก็ค่อยๆหายไปในพื้นดิน
แล้วพื้นรอบข้างก็เริ่มแตกออกมารากไม้จำนวนมากก็แทรกพื้นดินราวกับเส้นเลือด
“ถอยออกมาเร็ว!”
ทุกๆคนต่างช็อคไปโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในแนวหลัง พวกเขาไม่คิดว่าจะเจอการโจมตีรอบทิศทางขนาดนี้แล้วทุกคนก็โดนโจมตีพร้อมๆกัน
คอนนี้ได้เวลาแสดงความสามารถส่วนตัวออกมาแล้ว เสี่ยวเฟิงถอยออกมาอย่างรวดเร็วเลยรอดออกไปได้อย่างชิวๆ แต่ทันทีนั้นเขาก็ขนวดคิ้วแล้วถอยออกมาอีกปรากฎว่ายังคงมีรากชุดที่ 2 ชุดที่ 3 พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาต่อ โดยไม่ให้เขาได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย
รากนั้นเพิ่มการโจมตีเป็น 3 ชุด พวกนักบวชที่รับมือไม่ทันก็ค่อยๆตายไปทีละคนๆ จากการที่โดนรากนั้นพันธนาการไว้ทำให้หนีไปไหนไม่ได้แล้วก็โดนความเสียหายที่รุนแรงถึงตายในครั้งเดียว
ซื๋ออี๋และโรสนั้นโชคดีที่อุปกรณ์ของทั้งคู่ดีพอสมควรทำให้รวดมาได้ แต่นักบวชหญิงคนอื่นๆนั้นตายหมดแล้วในชั่วพริบตา
แต่ว่าการโจมตีชุดที่ 2 นั้นก็ตามมาต่อทันที ทั้งซื๋ออี๋และโรสที่เพิ่งรอดมาได้ก็ตายตามไป รวมทั้งพวกนักธนูและนักเวทย์ที่อยู่แนวหลังด้วยพวกเขาถูกรากพันธนาการไว้ทำให้ตายในทันที
แล้วการโจมตีรอบที่ 3 ก็ยังคงตามมาอีก คนที่รอดมาจากรอบที่ 2 ได้ก็ตายตามคนอื่นๆไป
หลังจากการโจมตีสามระลอก รวมเสี่ยวเฟิงแล้วมีคนรอดกลับมาไม่ถึง 10 คนซะอีก
เสี่ยวเฟิงและนักธนูอายุ 17 เป็น 2 คนสุดท้ายของแนวหลังที่ยังรอดอยู่ ส่วนแนวหน้านั้นเหลือเพียงไนท์คูเออร์ พาลาดินแห่งการรักษา ไนฟ และนักรบที่เป็นสายป้องกันแค่ 2 คนเท่านั้น
การโจมตีที่บอสใช้นั้นนอกจากจะไม่มีความแน่นอนแล้ว ความเสียหายแต่ละครั้งนั้นเกินกว่า 100 หน่วย ไม่มีใครที่สามารถยืนรับการโจมตีระดับนั้นแล้วยังคงรอดได้แบบชิวๆหรอก นอกจากจะมีพลังป้องกันมากพอ
“ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 7 คนเท่านั้น”
ตอนนี้บอสหยุดการโจมตีแล้ว พาลาดินแห่งการรักษามองศพที่กองกันเกลื่อนกลาดก่อนจะพูดออกมา
ไนฟเลยถามขึ้น “เราถอยไปก่อนไหม? คนของเรารวมทั้งนักบวชตายกันไปเกือบหมดแล้วนะ”
ไนฟจ้องไปทางบอสแล้วเริ่มท้อแท้
“แต่เราก็ยังอยู่ถูกไหม? ตอนนี้เราถอยไม่ได้หรอก! เริ่มการโจมตีต่อไป!” พาลาดินแห่งการรักษาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
“นายผิดแล้วล่ะ! นักบวชยังตายไม่หมดซะหน่อย!” นักธนูอายุ 17 พูดตอนที่พบว่าเสี่ยวเฟิงยังรอดอยู่
“ยังสู้ไหวอยู่ตอนนี้เรายังยอมแพ้ไม่ได้! ถ่วงเวลาบอสไว้ก่อนแล้วคนอื่นๆจะรีบตามมาสมทบ”
เหลาซวีที่ยังไม่เกิดใหม่ซะทีเห็นด้วยกับพาลาดินแห่งการรักษา แล้วร่างของเขาก็กลายเป็นแสงไปเกิดใหม่ที่หน้าทางเข้าทันทีพร้อมกับคนอื่นๆที่ตายไป
“ถ่วงเวลาบอสไว้ให้นานที่สุด! รอให้คนอื่นกลับมาให้ได้!”
“เราต้องชิงลงมือก่อน ตอนนี้เรามีนักบวชอยู่ไม่โดนจัดการง่ายๆหรอก”
นักธนูอายุ 17 ส่ายหัวปฏิเสธแล้วโจมตีบอสต่อไป ตามกฎการคืนชีพของเกมนี้การตายในเขตพิเศษนั้นจะต้องไปเกิดใหม่ที่ด้านหน้าทางเข้าถ้าพวกเขายังสามารถถ่วงเวลาไว้ได้จนทุกคนกลับมาพวกเขาก็จะสามารถสู้ต่อได้ในทันที
แตา่มันก็ไม่ได้ง่ายๆเลย พวกเขาอาจจะตายก่อนก็เป็นได้ อย่างแรกเลยพลังโจมตีของบอสนั้นสูงมากๆ ด้วยจำนวนคนที่เหลืออยู่ 7 คนทำให้ตึงมือยิ่งกว่าเดิม อย่างที่ 2 เขตนี้นั้นค่อนข้างที่จะใหญ่ทำให้การมาสมทบนั้นใช้เวลานานมาก แถมอาจจะโดนมอนสเอตร์ที่อยู่ตามทางฆ่าเอาอีก ดังนั้นพวกเขาอีก 7 คนที่เหลือยิ่งต้องถ่วงเวลาออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วถ้าพวกเขาถูกฆ่าหมดทุกคนพลังชีวิตของบอสก็จะกลับมาเต็มอีกครั้งแล้วจะต้อบงเริ่มทุกกอย่างใหม่หมดตั้งแต่แรก
แล้วพวกเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ
แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะสำเร็จอยู่ เพราะพวกเขาอีก 7 คนที่เหลือคือผู้เล่นแนวหน้าของเกมนี้ทุกคน
พวกเขาเริ่มเ้ขาโจมตีอีดครั้งแต่ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้า เพราะตอนนี้พวกเขาเหลือนักบวชคอยช่วยเหลือแค่คนเดียวเท่านั้นและคนๆเดียวไม่สามารถใช้บัฟหรือเพิ่มพลังชีวิตให้กับทุกคนพร้อมๆกันได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาห้ามโดนโจมตีเป็นอันขาดจึงต้องทุ่มกำลังไปกับการเลี่ยงความเสียหายมากกว่าที่จะโจมตี
เสี่ยวเฟิงนั้นหลบอยู่ด้านหลังแล้วคอยดูทุกคนในแนวหน้าหากใครต้องการความช่วยเหลือ หลังจากลังเลอยู่ซักพัก เขาก็ไม่ได้บัฟพรแห่งชีวิตให้กับคนอื่นๆ แต่เลือกที่จะหยิบโทเทมกระทิงทองขึ้นมาใช้บัฟเสริมอาวุธให้กับตัวเอง
เสี่ยวเฟิงตอนนี้มีเลเวล 13 หลังจากใช้บัฟแล้วพลังโจมตีจาก 98 ขึ้นมา 110 และด้วยพลจากพรกายาศักดิ์สิทธิ์ผลของมันก็เพิ่มเป็น 2 เท่าขึ้นมาอีก 220!
ตอนนี้พลังโจมตีของเขาเองอยู่ที่ 330 เป็นตัวเลขที่ชวนผวามาก!
“โครม!”
ตอนนั้นรากไม้ก็พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาพอดี เขาถอยหลังหลบแล้วใช้จังหวะนั้นฟาดสวนลงไปที่รากไม้นั้น
“-660! คริติคอล!”
เลขความเสียหายอันมหาศาลนั้นปรากฎขึ้นบนตัวของบอส แต่ไม่มีใครสนใจเพราะมันแต่มีสมาธิกับการต่อสู้ของตัวเอง
หลังจากฟาดไป 1 ครั้งเขารีบเปลี่ยนอาวุธกลับมาเป็นคทาแห่งการรักษาแล้วใช้สกิลเพิ่มพัลงชีวิตให้กับไนฟ แล้วก็กลับมาสวมโทเทมกระทิงทองแล้วมองไปที่พื้น้พื่อโจมตีรากไม้อันต่อไป.
“เกิดอะไรขึ้น? พลังชีวิตของบอสลดลงไปอยู่ที่ 60%! นี่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”
88
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? พลังชีวิตของมันลดเร็ซกว่าตอนที่มี 20 คนอีก!”
“สงสัยเราคงจะแกร่งมากๆล่ะมั้ง!”
พวกเขามองพลังชีวิตของบอสแล้วก็ต่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“บอสไม่ได้อ่อนแอลงแหะ ความเสียหายของฉันยังไม่เปลี่ยนเลย”
แล้สไนท์คูเออร์ก็สังเกตบางอย่างได้ว่าบัฟเสริมอาวุธของเธอนั้นหมดลงไปแล้ว
ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ของเสี่ยวเฟิงที่จะบัฟให้ บัฟนั้นคงอยู่เป็นเวลา 60 วินาทีและมีคูลดาวน์อยู่ที่ 30 วินาที ถ้าตามปกติแล้วถ้าคูลดาวน์ของสกิลหมดลงเสี่ยวเฟิงก็จะรีบเติมให้เลย
แต่เสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้ทำจนบัฟมันหมดลงไปเอง
แปลว่าเวี่ยวเฟิงได้ใช้บัฟเสริใอาวุธให้ใครซักคนในนี้
ไนท์คูเออร์มั่นใจว่าไม่มีใครในนั้นได้รับบัฟจากเสี่ยวเฟิงแน่ๆ ไม่งั้นพวกเขาก็ต้องรู้ตัวกันตั้งนานแล้ว
หมายความว่าเขาใช้บัฟนั้นให้กับตัวเอง ไนท์คูเออร์รู้ดีว่าพลังโจมตีของตวัเสี่ยวเฟิงนั้นน่าหวาดหวั่นจนไม่สามารถอธิบบายออกมาได้ แล้วตอนนี้ยังมีบัฟเสริมอาวุธเข้าไปเพิ่มอีก
ตอนที่พวกเธอโจมตีนั้นเสี่ยวเฟิงคงแอบช่วยพวกเธออยู่อย่างเงียบๆ แล้วเธอก็รู้อย่างชัดเจนแล้วว่าทำไมพลังชีวิตของบอสถึงได้ลดลงรวดเร็วขนาดนี้
“งั้นเราควรทำยังไงดี? ถ้าเราโจมตีไปจนพลังชีวิตมันเหลือ 40% มันฝช้สกิลอีกแน่ๆ ถ้ายังมีคนตายมากกว่านี้อีก พวกเราคงจะต้านต่อไม่ไหวแน่ๆ”
พวกเขาตอนนี้นั้นไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ไนฟเลยถามออกมาด้วยความลังเล
“โจมตีต่อไป!เราโจมตีได้แรงจนไม่ต้องพึ่งพานักบวชไม่เอาถ่านนั่นก็ได้! โจมตีต่ออย่าหยุด!”
เสียงของพาลาดินแห่งการรักษานั้นเต็มไปด้วยการดูถูก
“แน่นอนว่าต้องแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ระวังสกิลของบอสหน่อยก็ดีนะ”
นักธนูอายุ 17ก็เห็นด้วยกับเขา คนอื่นๆก็โจมตีต่อไปตามนั้นโดยไม่ได้ขัดอะไรอีก
“ระวังด้วย!”
ตอนนี้พลังชีวิตของพฤกษษอัคคีลดลงไปถึง 40% แล้ว ลำต้นหนานั้นจมหายลงไปในดำอีกครั้งแล้วกลุ่มของรากจำนวนมากก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นทันที
ไนท์คูเออร์ที่กำลงัจะโจมตีต่อนั้นถอยออกมาทันทีเพราะเป้าหมายหนีออกไปแล้ว รากพวกนี้ไม่ได้หวดใส่พวกเขาแต่แทงขึ้นมาตรงๆราวกับหลาวไม้ไผ่
ไนท์คูเออร์นั้นพยายามที่จะฟันไปที่รากนั้นในตอนที่กระโดดหลบออกมาแต่ก็พลาด แต่เธอก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเลยถอยออกมาอีกแทนที่จะตามไปต่อ
มีเสียงปริแตกดังออกมา
รากที่พวกผู้นเล่นมองมานั้นเริ่มที่จะเผยร่างจริงของพวกมันออกมา มันคือมนุษย์ต้นไม้ขนาดเล็กกระโดดออกมาจากรากที่แทงขึ้นมาจากพื้น
พวกมันมีความสูงประมาณ 1 เมตรมีทั้งหมด 7 ตัว ทันทีที่พ้นจากพื้นพวกมันก็พุ่งจู่โจมใส่ผู้เล่นทั้งหมดทันที
“มันเรียกลูกน้องออกมา! ระดับหัวหน้าทุกตัวเลเวล 15 พลังงชีวิต 1800 พลังโจมตี 80! มันเข้ามาแล้ว!”
จัดการพวกมันก่อน! พวกนักรบโล่ต้านพวกมันเอาไว้ให้ได้! ส่วนคนอื่นๆจัดการพวกมันให้เร็วที่สุด!”
“ดูท่าเจ้าพวกนี้จะมีจำนวนเท่ากับผู้เล่นที่มีในนี้ โชคดีที่ไม่นับคนที่ตายไปแล้ว แต่นี่ก็มากพอที่จะถ่วงการทำงานของพวกเราได้แล้ว” พาลาดินแห่งการรักษาว่า ไนฟขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะซื๋ออี๋ที่อยู่กลิด์ของเขานั้นตายไป
ถึงพวกมันจะต่อกรได้ยากแต่ผู้เล่นที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดสามารถสู้ได้อย่างทัดเทียมพวกนักรบที่สร้างคววามเสียหายได้น้อยก็จัดการได้ด้วยตัวเอง ส่วนพวกที่มีพลังโจมตีสูงนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แถมยังไม่ต้องใช้สกิลอะไรเลยด้วยซ้ำ
ไนท์คูเออร์จัดการได้ก่อนเป็นคนแรกแล้วเธอก็รีบมาช่วยไนฟแล้วคนอื่นๆจัดการพวกมนุษย์ต้นไม้
นักธนูอายุ 17และเสี่ยวเฟิงอยู่ในแนวหลังนักธนูอายุ17แสดงความสามารถกับเทคนิตฮิตแอนรันในการจัดการมอนสเตอร์ แล้วเขาก็หันกลับมาช่วยเสี่ยวเฟิงแต่คู่ต่อสู้ของเสี่ยวเฟิงนั้นนอนแห้งอยู่บนพื้นแล้ว ทำให้นักธนูอายุ 17แปลกใจและทึ่งมาก
“โจมตีบอสต่อได้เลย!”
ที่พวกเขาจัดการได้ง่ายขนาดนี้ต้องขอบคุณที่พวกมันมีจำนวนไม่มากเท่าไหร่ และผู้เล่นตรงนี้ก็มีฝีมือกันทุกคน ถ้้าคนยังเป็น 20 เหมือนก่อนหน้านี้คงจะอลหม่านกันมากกว่านี้แน่ๆ
พวกเขาโจมตีบอสต่อ พวกเขาต่างแปลกใจที่พลังชีวิตของบอสนั้นยังคงลดลงอย่างบ้าคลั่งต่อไปทั้งๆที่พวกเขาเองพลังโจมตีก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนแรกเลย
พวกเขานิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกแต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธสิ่งที่เห็นได้ พวกเขาเลยเลิกที่จะสงสัยแล้วรีบจัดการบอสให้รวดเร็วที่สุด
ตอนนี้ทางด้านเหลาซวีกับคนอื่นๆนั้นเพิ่งจัดการกับมอนสเตอร์กลุ่มแรกได้จกาตรงนี้นั้นยังคงอยู่ไกลอีกมาก
“พลังชีวิตลดลงไปถึง 30% แล้ว!”
ใครซักคนในนั้นอุทานขึ้นมา พลังชีวิตของพฤกษาเวทย์อัคคีลดลงไปถึง 30% ตอนนี้เหมือนกับว่ามันจะเริ่มเปลี่ยนร่างไปอีก
“มันใใช้รากพันธนาการอีกแล้ว! รีบถอยออกมาเร็ว!”
ในตอนนั้นรากจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นมาหมายจะคว้าตัวทุกคนตรงนั้น พวกเขาบางคนในนั้นในที่สุดก็โดนจับได้
“ช่วยฉันด้วย!”
คนที่โดนจับเป็นนักรบทำให้เขาไม่ว่องไวพอที่จะหนีออกมาได้ทัน ตอนที่รากพุ่งขึ้นมาโจมตีใส่พวกที่อยู่แนวหน้านั้นเขาก็สามารถหลบรากที่มาข้างหน้าได้ แต่ลืมที่จะระวังด้านหลังเลยโดนจับได้ในที่สุด
เสี่ยวเฟิงงรีบใช้สกิลเพิ่มพลังชีวิตในทันทีแต่เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่าแปลกไป เพราะพลังชีวิตที่ฟื้นฟูให้นั้นฟื้นช้ามากๆ
“-10!”
“-10!”
“-10!”
…
“ดูนั่น! พลังชีวิตของบอส…กำลังเพิ่มขึ้น!”
ไนฟตะโกนออกมาแล้วทุกคนก็มองตามเขาในทันที ตัวเลขสีเขียวปรากฏบนตัวของบอสพลังชีวิตของมันค่อยๆเพิ่มขึ้นและพลังชีวิตของนักรบที่โดนจับก็ค่อยๆลดลง
“+70!”
“+70!”
“+70!”
…
“รีบตัดรากพวกนั้นเร็ว! บอสสามารถดูดพลังชีวิตจากรากได้!”
พาลาดินแห่งการรักษาตะโกนขึ้นมาแล้วรีบพุ่งไปช่วยทันที
ไนท์คูเออร์ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดนั้นชิงลงมือก่อน เธอใช้มีดในมือนั้นลงมือโจมตีใส่รากที่พันธนาการนักรบทันที.
“-177!”
แต่ความเสียหายที่ทำใส่รากนั้นกลับไปตกอยู่กับนักรบที่โดนจับแทน
ไนท์คูเออร์รีบหยุดมือทันทีด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วย
“ฆ่าเขาซะ! ไม่งั้นบอสก็จะดูดพลังชีวิตจากเขาไปเรื่อยๆ!”
พาลาดินแห่งการรักษาที่ตามมาทีหลังนั้นฟาดค้อนใส่คนที่โดนจับอย่างไม่ลังเล คนโดนจับที่โดนความเสียหายจากรากและไนท์คูเออร์นั้นสิ้นใจในทันที ร่างของเขาร่วงลงพื้นทันทีแล้วพลังชีวิตของบอสก็หยุดเพิ่มขึ้นอย่างที่คิด
พาลาดินแห่งการรักษามองไปที่บอสอย่างไร้อารมณ์ “โจมตีต่อไป!”
คนที่กลายเป็ฯศพนั้นยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็กลายเป็ฯแสงแล้วไปเกิดใหม่ที่ทางเข้าของเขตพิเศษ
“บอสสามารถดูดพลังชีวิตจากคนที่โดนโจมตีได้ โชคดีที่ตอนนี้ทุกคนป้อแป้กันหมดแล้ว ไม่งั้นมันคงจะดูดพลังชีวิตจนเต็มอีกรอบแน่ๆ!” เขาส่งเสียงขึ้นจมูก
คนอื่นๆต่างพูดอะไรกันไม่ออกแล้วโจมตีบอสต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีคนตายไป 1 แล้วแต่ความเสียหายไม่ได้ลดลงมากเท่าไหร่เพราะคนที่ตายไปเป็นแค่นักรบสายป้องกัน
ตอนนี้เหลาซวีกับคนอื่นๆอยู่ห้องที่ 2 แล้ว พลังชีวิตของพฤกษาเวทย์อัคคีก็ลดลงมาเหลือ 20%
“พวกมนุษย์ต้นไม้จะออกมาอีกไหมเนี่ย?”
ไนฟมองไปทางด้านยอดไม้แล้วก็พูดออกมา.
แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาทองโลกในแง่ดีเกินไป
บอสใช้สกิล 2 อย่างในเวลาเดียวกัน คือการเรียกมนุษย์ต้นไม้ออกมาและกลุ่มของรากนั้นพุ่งขึ้นจากพิ้นอีกครั้ง พวกเขาถูกล้อมจากทุกทิศทางแล้ว ตอนนี้จะต้านทานการโจมตีของมนุษย์ต้นไม้ก็ตึงมือแล้ว ยังมีรากไม้มาโจมตีอีก
ไนท์คูเออร์นั้นรับมือการโจมตีทั้ง 2 แบบในเวลาเดียวกัน เธอยังรู้สึกว่ามันลำบากมากๆ คนอื่นคงจะลำบากกว่าเธออีกแน่ๆ
พวกไนฟและแนวหน้าคนอื่นๆต่างโดนจับกันจนได้เพราะพวกเขาไม่มีความรวดเร็วนัก แล้วพวกเขายังโดนมนุษย์ต้นไม้โจมตีไปด้วย
ถึงเสี่ยวเฟิงจะมีสกิลฮิล 2 แบบแต่พลังชีวิตของพวกเขาลดลงเร็วเกินไป รากไม้ 3 ชุดจะทำความเสียหาย 300 หน่วยเขาช่วยได้แค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากคิดแล้วคิดอีกเขาเลือกช่วยๆนฟแล้วอีก 2 คนที่เหลือนั้นก็กลายเป็นศพไป
“บัดซบ!”
ตอนนี้เหลือแค่ 5 คนแล้วพาลาดินแห่งการรักษามองไปทางบอสที่พลังชีวิตเหลือแค่ 20% ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เสี่ยวเฟิงนั้นไม่ได้เครียดเท่าไหร่แต่คนที่เหลือทั้ง ไนท์คูเออร์ นักธนูอายุ 17 และไนฟ ดูสิ้นหวังมาก บอสนั้นพลังชีวิตเหลือแค่ 20% ก็จริงแต่กลับอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ!
“เข้าโจมตีต่อ!”
ตอนนี้จะลังเลหรือคิดถอยก็ไม่ทันแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากสู้ต่อไปเท่านั้น
โชคยังดีที่พลังโจมตีโดยรวมนั้นยังคงไม่ตกไปไหนมากนัก ตอนนี้พลังชีวิตของบอสเหลืออยู่แค่ 10% ส่วนพวกเหลาซวีนั้นใกล้จะมาสมทบกับพวกเขาแล้ว!
“ตอนนี้เราควรที่จะรอคนอื่นได้แล้วนะ บอสยังมีสกิลแรงๆอยู่อีกแน่ มากกว่าเราอาจจะพลาดได้นะ” ไนฟถามออกมาอีกครั้ง
“รอคนอื่นๆ? ทำไมล่ะ? ยิ่งคนมากเท่าไหร่ยิ่งยากมากเท่านั้น เราสามารถจัดการได้โดยที่ไม่ต้องให้ไอ้พวกที่ตายไปมาช่วยพวกเราด้วยซ้ำ!”พาลาดินแ่งการรักษาพ่นลมออกทางจมูกแล้วพูดต่อ “พวกเราจัดการกันเองได้ โจมตีต่อไป!”
ถึงจะฟังดูหยิ่งและโหดร้ายไปบ้างแต่จาากที่ผ่านๆมาแล้วที่เขาพูดมาก็มีส่วนถูก ไนฟมองมาทางเสี่ยวเฟิงที่ยังคงสงบอยู่ก็โล่งใจรีบตั้งสติแล้วเข้าโจมตีบอสต่อไป
มีเสียงปริแตกอีกครั้ง
พลังชีวิตของบอสลดลงอย่างรวดเร็วจนมาถึง 10% สุดท้าย พวกมนุษย์ต้นไม้กรูกันเข้ามาอีกครั้ง แต่รอบนี้พวกเขาจะไม่พลาดอีก แทนที่จะสู้กลับพวกเขาจับตาดูรากที่กำลังจะพุ่งขึ้นมาจู่โจมพวกเขา แต่พวกเขาก็คิดผิด รากไม้นั้นพุ่งเข้าใส่มนุษย์ต้นไม้แล้วพันธนาการพวกมันเอาไว้ พวกเสี่ยวเฟิงไม่เข้าใจภาพที่เห็นตรงหน้าแต่คำตอยก็ออกมาในทันทีเมื่อพลังชีวิตของบอสนั้นเริ่มฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว
“+50!”
“+50!”
“+50!”
“+50!”
89
“เฮ้ย!”
“สัส! ประมาทไป!”
“จัดการพวกลูกน้องก่อน! ไม่งั้นพวกเราก็จัดการบอสไม่ได้แน่ๆ!”
พาลาดินแห่งการรักษาตะโกนบอกทุกคนให้เลี่ยงไปจัดการพวกมนุษย์ต้นไม้ก่อน
แต่พวกมันมีพลังชีวิตมากกว่า 1000 หน่วยการจัดการอย่างรวดเร็วนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ พลังชีวิตของบอสนั้นก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่รีรอเลยแม้แต่น้อย
“ห่าเอ๊ย!”
“เราทำความเสียหายได้ไม่มากพอ! พลังชีวิตมันกลับมาที่ 20% แล้ว!”
ไนฟตะโกนออกมา เขาเลยทำความเสียหายออกไปได้น้อยมากๆ
“เรามาช่วยแล้ว! อดทนไว้!”
แต่ในตอนนั้นเสี่ยงฝีเท้าจำนวนมากก็มุ่งมาทางนี้ และกลุ่มคนที่ตายไปก่อนหน้าทั้ง 14 คนตอนนี้ตามมาสมทบแล้ว
“มาได้จังหวะพอดี! จัดการพวกมมนุษย์ต้นไม้ก่อนเร็ว!”
ไนฟตะโกนออกมาด้วยความยินดี
พวกเขาลงมือทันทีโดยไม่ได้รีรอ แล้วก็มีแสงและสีของสกิลต่างๆวูบวาบกันเต็มไปหมด
ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้น มนุษย์ต้นไม้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้และถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว
“พลังชีวิตของบอสหยุดเพิ่มแล้ว! จัดการมันได้เลย!”
แต่อน่างไรก็ตามพลังชีวิตของบอสก็เพิ่มขึ้นไปกว่า 15% โชคยังดีที่ตอนนี้มันไม่มีสกิลอื่นๆอีกแล้ว และยังถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากกลุ่มคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะที่พร้อมสุดๆ
“เร็วเข้า! ใกล้ความเป็นจริงแล้ว!”
ในที่สุดพลังชีวิตของบอสก็หมดลงม้นสลายไปในที่สุดพร้อมกับดรอปไอเทมจำนวนนับไม่ถ้วนมาให้
เหลาซวีรับหน้าที่เก็บไอเทมทั้งหมด เพราะเขาไม่ได้ต้องการไอเทมพวกนั้น คนอื่นๆจึงไว้ใจให้เขาทำงานนี้
“5 เหรียญทอง ของระดับเทพ 1 ชิ้น ของระดับสูง 2 ชิ้น ของระดับหายากอีก 3 ชิ้น”
ไม่แปลกใจ ที่พฤกษาเวทย์อัคคีจะให้ของระดับสีทองกับพวกเขา ดวงตาทุกคู่จ้องไปทางไม้เท้าสีทองในมือของเหลาซวี
รากพฤกษาอัคคี
ระดับ: เทพ
ประเภทอุปกรณ์: ไม้เท้า 2 มือ
เลเวลอุปกรณ์: 15
ความต้องการอุปกรณ์: ค่าปัญญามากกว่า 75
คุณสมบัติ:
พลังโจมตีเวทมนตร์ + 20
อัตราคริติคอลเวทมนตร์ +5%
ค่าพละกำลัง +17
ค่าความว่องไว +17
ค่าความทนทาน +17
ค่าพลังปราณ +23
ค่าปัญญา +23
ความสามารถเฉพาะ:
เชื้อเพลิงผลาญ: ตีตราสัญลักษณ์เพลิงบนเป้าหมาย 10 วินาที แล้วเป้าหมายจะเสียพลังชีวิต 1% ทุกๆวินาที หลังจากหมดระยะเวลาสัญลักษณ์จะระเบิดสร้างความเสียหายอีกครั้งตามจำนวนความเสียหายที่ทำได้ระหว่างที่ติดสัญลักษณ์
“โห! นี่มันสุดยอดเลยนะเนี่ย!”
ทุกคนมองอาวุธชิ้นนั้นด้วยความปิติ ถึงจะมีสกิลแค่อย่างเดียวแต่ก็เป็นสกิลที่สมกับระดับของอาวุธแล้ว
มันสามารถสร้างความเสียหายได้ 10% ของพลังชีวิตเป้าหมายแถมยังทำความเสียหายเพิ่มเติมด้วย เป็นอาวุธที่ดีมากในการจัดการกับบอส!
อิมมอทัลเฟลมจ้องมองมันด้วยความกระตือรือร้นเพราะเขาเป็นนักเวทย์สายไฟ ไม้เท้าอันนี้จึงเหมาะกับเขามาก
“งั้นแบ่งเหรียญทองกันก่อน ส่วนไม้เท้นอันนี้ก็ใช้วิธีทอยเต๋าหาคนที่แต้มสูงสุดที่จะได้ไป เอาแบบนี้นะ?” เหลาฉีบอกออกมา
“แต่พวกเราเป็นคนที่ออกแรงมากกว่าคนที่ตายไป 14 คนนั่นนะ ไม่คิดว่ามันลำเอียงไปหน่อยรึไง”
พวกคนที่มองไม้เท้าอยู่ย้ายสายตาอันเคร่งเครียดมาทางพาลาดินแห่งการรักษาที่พูดอย่างเย็นชา
เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าด้วยกันทั้งนั้น ทำให้ไม่มีใครพอใจในสิ่งที่พาลาดินแห่งการรักษาพูด
“ถ้าแกมีสิทธิที่จะพูดแบบนั้น แกคงคิดว่าตัวเองจัดการบอสด้วยตัวคนเดียวได้สินะ” ศาสตราสงครามเป็ฯคนแรกที่ตอบโต้เขา
“ใช่แล้ว! ทุกคนในนี้ก็ช่วยกันทั้งนั้น ถึงนายจะทำผลงานที่มากกว่าคนอื่นๆก็จริง แต่เรื่องไอเทมนายไม่ใช่คนที่สิทธิตัดสินใจคนเดียว เราไม่ใช่ทาสใชั้นเลวนะ”
นักเวทย์อีกคนพูดเสริม เพราะเขาเป็นถึงรองหัวหน้ากิลด์เขาไม่ได้เกรงพาลาดินแห่งการรักษาเลยแม้แต่น้อย
ได้ยินดังนั้นพาลาดินแห่งการรักษาทำหน้าเหี้ยมเกรียมในทันที จนเหลาซวีต้องขึ้นมาห้ามทัพ
“ท่านพาลาดินแห่งการรักษา การแบ่งของแบบนี้เป็นวิธีที่แฟร์ที่สุดและทุกคนก็ทำตาม ทุกคนจะได้ของจากการสุ่มเท่านั้น อย่างเช่นในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่อย่างงั้นมันก็จะไม่แฟร์กับ ไนท์คูเออร์กับนักธนูอายุ 17ที่ทำผลงานได้เยอะเหมือนกัน”
เพราะสิ่งที่เหลาฉีพูดถูกต้องและพาลาดินแห่งการรักษาก็ไม่สามารถทำอะไรเหลาซวีในที่สาธารณะได้ เขาเลยต้องยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างเงียบๆ
“งั้น ทุกคนก็ยอมรับข้อเสนอ ผู้เล่นที่เป็นนักบวชและนักเวทย์ทอยเต๋าตัดสินได้เลย ใครจะเป็นคนเริ่ม?” เหลาซวีพูดแล้วมองไปรอบๆ
“งั้นฉันเริ่มก่อน!”
เสี่ยวเฟิงว่าแล้วก็ทอยเต๋าในทันที
98!
หลังจากลูกเต๋าหยุด เสี่ยวเฟิงมองผลลัพธืที่ออกมาด้วยความพึงพอใจ
คนอื่นๆที่เห็นอย่างงั้นก็มองไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยใบหน้าคร่ำเครียด.
“งั้นตาฉันแล้ว!”
อิมมอทัลเฟลมถอยเต๋าออกไปด้วยความกังวล แล้วพอลูกเต๋าหยุดเขาก็ช็อกทันที
23!
“Rubbish!” เสี่ยวเฟิงโผล่งออกมาแล้วยืนกอดอกด้วยความสบายใจ
“ตาฉัน!”
ซื๋ออี๋ทอยออกไปด้วยท่าทางที่ท้าทาย แล้วพอผลลัพธ์ออกมาหน้าสวยๆนั้นก็ค้างไปในทันที
9!
“ฮ่า โครตกาก” เสี่ยวเฟิงพูดออกมาโดยไม่ได้มองผลลัพธ์ด้วยซ้ำ
พาลาดินแห่งการรักษาทอยเต๋าออกไปเงียบๆ ถึงเขาจะเป็นพาลาดินที่ใช้ค้อนแล้วไม้คทา แต่เขาก็สามารถใส่ไม้เท้า 2 มือได้ด้วยถึงจะไม่ค่อยเข้ากันก็ตาม คนอื่นๆต่างมองตามโดยไม่ได้พูดอะไร
แต่ดวงของเขาก็ยังไม่ดีพอ หน้าเต๋านั้นออกมาเป็น 27.
“กากๆน่า”
เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันหน้ามามอง พาลาดินแห่งการรักษานั้นนิ่งค้างไป แล้วชายตามองมาทางเสี่ยวเฟิงด้วยความเคืองแล้วก็ถอยไปโดยไม่ได้พูดอะไร
“ตาฉันแล้ว!”
“กาก!”
…
“กากว่ะ!”
…
ตอนนี้ทุกคนต่างทอยเต๋าไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่โรส เสี่ยวเฟิงก็ยังคงเยาะเย้ยทุกคนที่แพ้เขา
“ดูท่าไม้เท้าอันนี้จะเป็นของยอดฝีมือแห่งการรักษาสินะ”
เหลาซวีพูดอย่างจนใจ รอบแรกเสี่ยวเฟิงทอยได้ 99 รอบนี้ก็ 98 ดวงคนอื่นๆสู้เขาไม่ได้เลย เขาเลยต้องใช้ไม้เท้ากับเสี่ยวเฟิงไป
“ยังก่อน! ฉันยังไม่ได้ทอย”
ตอนแรกเฟลาซวีคิดว่าโรสจะยอมแพ้อีกรอบ แต่รอบนี้เธอขัดเขาซะก่อน แม้แต่ผ้าคลุมหน้าสีขาวนั้นไม่สามารถปิดบังความสง่างามนั้นได้
ตอนนี้เหลาซวีให้ไม้เท้าไปแล้ว ถึงเขาก็อึดอัดที่โดนเตือนแต่เขาก็ยังอนุญาตให้เธอทอยเต๋าได้
เสี่ยวเฟิงนั้นไม่ได้สนใจการกระทำของโรสเลยแม้แต่น้อย
“ก…”
เสี่ยวเฟิงกะจะเยาะเย้ยเหมือนเดิมแต่ก็เงียบปากในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองไปที่ตัวเลขของโรสที่ทอยออกมาได้
99!
ทุกคนในนั้นต่างเงียบกันหมด โรสนั้นยังคงไม่พูดอะไรเธอเดินออกมาแล้วฉวยไม้เท้าทองคำในมือของเสี่ยวเฟิงไปแล้วภายใใต้ผ้าคลุมหน้านั้นเธอก็พูดใส่หน้าเสี่ยวเฟิงว่า
“กากอ่ะ”
เสียงเย็นเยียบแต่ไพเราะ แต่เสี่ยวเฟิงจับลำเนียงเยาะเย้ยของอีกฝ่ายที่แฝงภายในเสียงอันไพเราะราวกับดนตรีนั้น
“คิก…”
ใครบางคนในนั้นกลั้นไม่ไหวแล้วหลุดเสียงหัวเราะออกมา แต่เจ้าตัวก็ปิดปากในทันทีแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
แต่ก็ไม่ใช่คนเดียว หลายคนตรงนั้นต่างกลั้นหายใจ และตัวสั่นเล็กน้อยที่ต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ
เสี่ยวเฟิงทำหน้าเครียด เขามองอย่างทิ่มแทงไปทางด้านโรสที่เอาไม้เท้าไปจากเขา
หลังจากได้ไม้เท้าไป เธอก็เดินถอยกลับไปอย่างสง่างาม แม้ว่าคนอื่นๆจะมองด้วยสายตาแปลกๆ
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้ลวนแต่สังกัดกิลด์ใหญ่ๆ แล้วรู้เรื่องเกิดขึ้นระหว่างดูมส์เดย์ลีคและมิตซัมเมอร์ดี has issued the Must Kill order แล้วพวกเขาก็เห็นท่าทีที่เกลียดชังของเธอที่มีต่อเสี่ยวเฟิงตอนที่เขามาเขาเข้าร่วมทีม พวกเขาจึงพยายามที่จะไม่แสดงท่าทีใดๆออกไปในตอนนี้
“ฉันต้องขอโทษด้วย ในตอนแรกเราไม่ได้เชิญให้มิตซัมเมอร์มาเข้าร่วม แจ่ไนท์คูเออร์ดื้อดึงที่จะให้เธอเข้าร่วมให้ได้ เราเลย…”
ไนฟแอบส่งข้อความให้กับเสี่ยวเฟิงอย่างลับๆ เขารู้ดีถึงความบาดหมางระหว่างเสี่ยวเฟิงกับกลุ่มของมิตซัมเมอร์
“ไม่เป็นไร หลังจากนี้ค่อยเอาคืนก็ยังได้” คำพูดอันเย็นชาของเสี่ยวเฟิง ทำให้ไนฟสั่นกลัวมาก
ส่วนของชิ้นอื่นๆนั้นก็ยังมีคนแบ่งกันอยู่ แต่ของที่ระดับต่ำกว่าระดับเทพไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเฟิงต้องการ.
“ไปกันเถอะ ยังมีบอสตัวสุดท้ายอยู่อีก”
พวกเขาเข้าไปยังเขตที่ลึกมากกว่านี้ พวกเขาต่างเร่งรีบเดินทางต่อจนในที่สุดก็มาถึงห้องบอสตัวสุดท้ายแล้ว
ผนังรอบข้างนั้นเริ่มกลายเป็นสีแดงสด และอุณหภูมิในที่นี้นั้นก็พุ่งสูงขึ้น ทุกๆคนต่างเริ่มรู้สึกร้อนกันมาก
“ที่นี่มันร้อนเกินไปไหมเนี่ย จากทางเข้าน่าจะลงมาลึกกว่า 100 เมตรได้แล้วมั้ง”
“ดีที่ในเกมไม่มีการเหงื่อออก ไม่งั้นป่านนี้พวกเราคงเหงื่อท่วมตัวไปแล้ว”
“หุบปากน่า! หยุดคุยกันเรื่องเหงื่อๆไคลๆซะที! ขยะแขยงว้อย!”
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะหมดเวลาทำภารกิจกันก่อน”
“ไม่ต้องห่วงน่าเราเร็ซกว่าพวกเขตอเมริกาเหนืออยู่แล้ว พวกนั้นแค่บอสตัวที่ 2 ก็ไม่ไหวแล้วมั้ง”
…
ในตอนที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น พวกเขาก็มาถึงห้องของบอสตัวสุดท้ายแล้ว
“นั่นแมกม่า อย่าเข้าไปใกล้ล่ะ มันไม่ใช่ฉากหลังธรรมดา ถ้าตกลงไปก็ตายแน่ๆ”
สิ่งแรกที่เห็นนั้นคือสะพานสีแดงสดที่มีแม่น้ำแมกม่าอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างงั้นทุกคนก็รู้ทันทีว่าทำไมที่นี่ถึงได้ร้อนนัก
แม่น้ำแมกมาก่อตัวเป็นวงกลมและล้อมรอบแท่นหินกลมขนาดใหญ่มีสีแดงสดและมีพื้นราบอยู่บนนั้น รวมทั้งบอสตัวสุดท้ายที่พวกเขาต้องสู้ก็อยู่บนนั้นเช่นกัน
90
เจ้าแห่งสลามันเดอร์
เลเวล: 15
ระดับ: บอสระดับราชา
พลังชีวิต: 32000
พลังโจมตี: 164-182
พลังเวทมนตร์: 169-185
พลังป้องกัน: 108-120
พลังป้องกันเวทย์: 110-122
สกิล:
คุ้มคลั่ง, กระทืบพสุธา, อัคคีคลั่ง, หมุนตัว, สายฟ้าฟาด, ลาวาพิโรธ, แก่นแห่งลาวา
คำอธิบาย: เจ้าแห่งสลามันเดอร์ มันอันตรายมาก มันจะอาศัยอยู่ในเขตที่ร้อนไปด้วยลาวาเท่านั้นและหากใครไปรบกวนมัน มันจะจัดการกับผู้บุกรุกอย่างบ้าคลั่ง
คุณสมบัติ:บอสระดับราชาที่อันตรายมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการมันด้วยตัวคนเดียว ในอาณาเขตที่เป็นธาตุไฟนั้นมันกลายเป็ฯสิ่งที่ไร้ทางต่อกรอย่างแท้จริง
ทุกๆคนข้ามสะพานมาแล้วยืนอยู่ที่ขอบของพื้นที่นั้นโดยไม่ได้พูดอะไร
ร่างของเจ้าแห่งสลามันเดอร์ใหญ่พอๆกับภูเขาขนาดเล็กๆ พวกเขายืนนิ่งโดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ถ้ายึดตามคำอธิบายเจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นต่อกรด้วยยากสุดๆยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อมันขนาดนี้.
“พลังโจมตีถึง 180.. ไม่มีใครต้านการโจมตีนั้นได้แน่… ต่อให้ที่นี่ไม่ใช่เขตพิเศษ ก็คงต้องใช้คนมากกว่านี้ซักเกือบๆหมื่นคนได้มั้ง…”
มันเป็นปกติของบอสที่อยู่ในเขตพิเศษ ความสามารถของบอสจะเพิ่มขึ้นตามความแข็งแกร่งของคนที่เข้ามาในเขตพิเศษ มันเลยทำให้ยากกว่าบอสข้างนอกเป็นปกติ
ตามปกติแล้ว ผู้เล่นที่เข้ามาในเขตพิเศษจะมีเลเวลมากกว่าเลเวลของเขตพิเศษ อุปกรณ์ก็จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าปกติ แต่ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ที่เลเวลต่ำและอุปกรณ์ก็ยังไม่แข็งพอทั้งนั้นยกเว้นเสี่ยวเฟิง ทำให้ความสามารถห่างชั้นกับบอสมาก
ถึงเจ้าแห่งสลามันเดอร์จะตัวเล็กกว่าสลามันเดอร์บรรพกาล แต่ตัวมันก็ยังใหญ่เท่าๆกับภูเขา ผิวหนังของมันนั้นปริแตกออกทุกครั้งที่มันหายใจ แล้วเนื้อภายในของมันที่เห็นตามรอบปริแตกต่างๆนั้นแดงฉานราวกับแมกม่า
“เตรียมตัวจัดการมันอย่างสุดกำลัง ถ้าพวกเรายังทำไม่ได้อีก พวกอเมริกาเหนือก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้เรายังคงเลเวลน้อยและอุปกรณ์ก็ยังไม่พร้อมมากนัก”
เหลาซวีนั้นถอนหายใจออกมา คนอื่นๆก็รู้สึกไม่ต่างกับเขามากนัก
“เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาแล้วรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้กันก่อน ถึงปล่อยไว้พวกสัตว์เลี่ยงก็โจมตีได้เองอยู่ดี”
สิ้นเสียงของเหลาซวี แสงสว่างจำนวนมากก็ปรากฑในกลุ่มผู้เล่น หลังจากที่แสงหายไปก็ปรากฎเหล่าสัตว์เลี้ยงเต็มไปหมด
สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยโจมตีบอสได้ก็จริง แต่ถ้าเกิดว่าตายไปจะใช้เวลา 24 ชั่วโมงในการฟื้นคืนชีพ ดังนั้นพวกผู้เล่นจึงไม่นิยมเรียกสัตว์เลี้ยงออกมาช่วยสู้ ยกเว้นว่าจะเป็นบอสตัวสุดท้ายที่พวกเขาต้องสู้
“ยอดฝีมือแห่งการรักษษ ไม่เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาเหรอ? ผมจำได้ว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงระดับเทพอยู่ในการครอบครองไม่ใช่เหรอ”
สัตว์เลี่ยงที่พวกเขาแนวหน้าใช้นั้นไม่ใช่พวกไก่โง่ๆที่ระบบให้มา กว่าครึ่งนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงระดับดีเยี่ยมอีก 2 ตวันั้นเป็นระดับหายาก
ตอนนี้พวกเขาทุกคนเรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมากันแล้วตามคำเตือนของเหลาซวี ยกเว้นเสี่ยวเฟิงที่ยังคงยืนนิ่ง คนอื่นๆต่างถามเขาด้วยความแปลกใจ
“ฉันมีเหตุผลบางอย่างที่จะไม่ใช้มันน่ะ” เสี่ยวเฟิงยอมรับออกมาตรง
“ทำไมไม่เรียกออกมาล่ะ? หรือว่าทำตายไปก่อนหน้านี้? นอกจากว่าจะเข้าไปในโซนเลเวลสูงแล้วสู้จนสัตว์เลี้ยงของตัวเองตาย ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมนายเก็บเลเวลได้เร็วขนาดนี้” พาลาดินแห่งการรักษาพูดถากถางเขา
“ก็แบบนั้นแหละนะ” เสี่ยวเฟิงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของอีกฝ่าย มันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเพราะเขตของเมืองศักดิ์สิทธินั้นเป็นโซนเลเวลสูงจริงๆน่ะแหละ
“น่าเสียดายนะ สัวต์เลี้ยงระดับเทพนั้นมีพลังชีวิตตั้งกว่า 1000 หนวยแท้ๆ ถ้ามีมันล่ะก็ งานน่าจะง่ายกว่านี้แน่ๆ” เหลาซวีส่ายหัวอย่างเสียดายแล้วพูดต่อไป “งั้นมาเริ่มกันเลย ใช้สัตว์เลี้ยงคอยช่วยต้านรับความเสียหายจังหวะนั้นให้นักรบสายป้องกันคอยโจมตีกลับไปด้วย อย่ายืนรับความเสียหายพร้อมๆกันเด็ดขาด! ให้ใช้บัฟด้วย และยืนห่างๆกันเอาไว้!”
เหลาซวีแจกงานให้กับทุกคนตามความสามาารถแล้วทุกคนก็ทำตามที่เขาสั่งไว้ทันที ผู้เล่นแนวหลังแบ่งออกเป็น 2 แถวยืนขนาบข้าง พวกเขาได้รับบัฟทั้งหมด
“ลุยได้เลย!”
ทันทีที่ได้รับคำสั่งไนฟและสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัวของเขาเข้าโจมตีบอสพร้อมๆกัน เขาแข็งแกร่งที่สุดทุกคนที่รับหน้าที่เป็นแนวหน้า
“ฮูววววววว!”
ดวงตาของเจ้าแห่งสลามันเดอร์สลามันเดอร์เบิกกว้างแล้วมันก็ตื่นขึ้นมาในทันที มันกวาดสายตาไปแล้วคำรามขึ้นไปข้างบน
ร่างยักราวกับภูเขานั้นยกตัวขึ้น มันหันหัวกลับมา แล้วเตะขาหน้าของมันใส่ไนฟและสัตว์เลี้ยงทั้ง 2
“โครม!”
ไนฟก้มหัวหลบการโจมตีนั้น โดยยังคงพุ่งเข้าใส่บอสต่อไป แต่สัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ไม่ได้โชคดีแบบเขา กระต่ายฟันยักษ์ที่โดนเตะพุ่งตามแรงเข้าใส่ผนังถ้ำราวกับโดนรถชนร่วงลงกับแม๊กม่าแล้วสลายหายไป
“พวกมันตายแล้ว! อย่าตกลงไปในแม่น้ำแม๊กม่าเด็ดขาดเลยนะ!” เจ้านายของสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งตายไปตะโกนขึ้นมาทันที
สัตว์เลี้ยงอีกตวัคือหมียักษ์ของเหลาซวี เพราะมันตัวใหญ่และแข็งแรงมากจึงไม่ตกไปที่แม่น้ำแม๊กม่าแค่กระเด็นกลับมาเท่านั้น แต่พลังชีวิตของมันก็เหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว
“ความเสียหายจากท่าแบบนั้นแรงถึง 200 หน่วยเชียวเหรอ! ไนฟจะต้านได้ไหม?”
พลังชีวิตของหมียักษ์นั้นมีอยู่แค่ 300 เหลาซวีเห็นอย่างงั้นจึงถอยออกมาทันทีแล้วหันไปถามไนฟ
“ไม่ลองไม่รู้!”
ไนฟพูดออกมาอย่างไม่มั่นใจ ตอนนี้เป้าหมายในการโจมตีของบอสนั้นมาอยู่ที่เขาแล้ว มันยกขาหน้าขึ้นมาแล้วกระทืบใส่ไนฟทันที
ไนฟกลิ้งตัวถอยออกมาจากการโจมตี ทำให้การโจมตีของบอสพลาดเป้า แต่พื้นที่ถูกกระทืบสั่นไหวราวกับมีแผ่นดินไหว ไนฟที่ยืนอยู่ใกล้นั้นกระเด็นจนตัวลอย ตอนที่ลอยอยู่อากาศนั้นบอสก็ถีบใส่เขา จนเขาลอยออกมาอย่างไร้ทางต่อต้าน
แต่โชคดีที่ไนฟเตรียมตัวไว้แล้ว เขายกโล่ขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีของบอสแต่ก็ยังคงรับความเสียหายอันหนักหน่วงอยู่ดี
“-113!”
“ชิ! นี่แค่สะกิดยังเจ็บหนักขนาดนี้! คงต้องให้ทุกคนช่วยแล้วล่ะ!”
ไนฟยอมแพ้ในทันที หลังจากที่ฟื้นฟูพลังชีวิตเสร็จก็ตะโกนออกมา
แต่ว่าไม่ต้องรอให้เขาพูดแบบนั้น ตอนที่เขานั้นกระเด็นจากการโจมตีก็มีนักรบอีกคนเข้าโจมตีทันที
“ฮูวววววววว!”
ตอนนี้เจ้าแห่งสลามันเดอร์เริ่มที่จะโกรธแล้ว มันอ้าปากกว้างแล้วพ่นๆฟออกมา ร่างของเขาก็โดนไฟคลอกในทันที
“บัดซบ!”
พลังชีวิตของนักรบคนนั้นแทบจะหมดในทันที
“ระวังด้วย! บอสตัวนี้โจมตีได้ทั้งกายภาพและเวทมนตร์พร้อมๆกัน!”
พลังชีวิตของไนฟที่ใกล้จะหมดนั้นกลับมาเต็มในทันที เขารีบใช้สกิลยั่วยุเพื่อดึงดูดการโจมตีของบอสในทันที. แล้วเขาก็ตะโกนสั่งแนวหลังโดยไม่ได้หันมามอง
“บอสพุ่งเป้ามาที่ฉันแล้ว! จัดการได้เลย!”
สิ้นเสียงทุกคนต่างโจมตีใส่บอสด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามี
“-14!”
“-24!”
“-32! คริติคอล!”
“-19!”
…
“พลังป้องกันมันสูงเกินไป!”
ความเสียหายที่ทำได้นั้นต่ำมาก พวกผู้เล่นแนวหลังต่างมีสีหน้าคร่ำเครียด
“-109!”
“-88!”
“-20!”
“-18!”
…
ไนท์คูเออร์และแนวหน้าคนอื่นๆลอบเข้าโจมตีบอส ทั้งที่ไนท์คูเออร์ทำความเสียหายได้รุนแรงมาก แต่คนอื่นนั้นกลับทำได้เบาอย่างน่าใจหาย
ถึงเลขความเสียหายจำนวนนับไม่ถ้วนจะปรากฎขึ้นแต่พลังชีวิตของบอสแทบไม่ลดลงเลย
“โชคดีที่ยังสร้างความเสียหายได้บ้าง! ถึงจะช้าก็ตาม! อย่าลืมที่จะระวังการโจมตีของบอสด้วย!”
ถึงเหลาซวีจะกระวนกระวาย แต่สิ่งที่เขาทำต่อไปก็คือการให้กำลังใจอยู่ดี
“เราต้องการคนมากกว่านี้! ตอนนี้แทบจะต้านไม่อยู่แล้ว!”
ไนฟรีบตะโกนขึ้นมาตอนนี้พลังชีวิตของเขาเหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว หลังจากใช้สกิลยั่วยุจนดึงการโจมตีของบอสมาได้แล้ว บอสนั้นทั้งตีทั้งพนไฟใส่ เขาหลบการโจมตีไปมาราวกับลิง แต่การโจมตีนั้นต่อเนื่องเกินไปจนในที่สุดเขาก็หลบไม่พ้นจนได้ ร่างของเขาโดนระเบิดแทบจะตายในพริบตาที่โดน
“ฉันมาแล้ว!”
นักรบอีกคนรีบเข้ามาช่วยเขาทันที เขาช่วยใช้สกิลดึงการโจมตีของบอสไปที่ตัวเอง ตอนนี้นักรบ 3 คนยืนล้อมรอบบอสอยู่ พวกเขาต่างพลัดกันรับการโจมตี
พวกเขาทั้ง 3 คนนั้นรุมเข้าโจมตีบอสพร้อมๆกัน พวกเขาผลัดกันต้านการโจมตีคนละ 10 วินาที พวกเขาสามารถรับมือได้ตราบใดที่ยังไม่มีใครโดนจัดการไปซะก่อน
“ฮูวววววว!”
แต่ตอนนี้สลามันเดอร์เริ่มที่จะคลั่งแล้วจากการที่โดนพลัดกันรับการโจมตี ทันได้นั้นมันก็ลุกขึ้นมายืน 2 ขา มันขดตัวเข้าไปราวกับว่าเป็นลูกบอล แล้วมันก็กลิ้งมาทางกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว
“ถอยออกมาเร็ว!”
พวกแนวหน้าต่างหลบกันอุตหลุดแต่การโจมตีของมันก็พุ่งไปต่อที่แนวหลัง
เจ้าแห่งสลามันเดอร์พุ่งเข้าโจมตีแนวหลังที่ตอนนี้ตื่นตระหนกกันจนหน้าซีด พวกเขารีบหนีในทันที แต่พวกเขาลืมไปว่าข้างหลังเป็นแม๊กม่า มีคนหนึ่งในนั้นกระโดดลงไปแล้วตายทันที มองไม่เห็นแม้แต่กระทั่งศพด้วยซ้ำ
“ไอ้สัส! นี่โง่รึเปล่าเนี่ย?”
พาลาดินแห่งการรักษาสบถขึ้นมา แล้วคนในกลุ่มนั้นต่างทำหน้าสิ้นหวัง พวกเขาเพิ่งเริ่มโจมตีบอสในขณะที่หนึ่งในนั้นก็กลัวจนตาย ดูแล้วน่าขำมาก
“รีบกลับมาเกิดใหม่เร็ว! ระหว่างทางที่กลับมาอย่าไปสู้กับมอนสเตอร์เชียว!”
เหลาซวีตะโกนบอกคนอื่นๆ “ถ้าเกิดตายระหว่างทางให้รีบกลับมาพยายามอย่าต่อสู้กับมอนสเอตร์ระหว่างทางเชียว!”
“นักรบโล่! รีบช่วยเหลือพวกเขาเร็ว! บอสจะใช้สกิลแล้ว!”
ตอนนั้นสลามันเดอร์ก็หยุดกลิ้ง โดยที่หยุดอยู่ที่ขอบของที่ราบโดยไม่ได้ตกลงไปในแม๊กม่า ไนฟและแนวหน้าคนอื่นๆรีบติดตามไปในทันทีขณะเดียวกันพวกที่โจมตีระยะไกลต่างใช้โอกาสนี้ตั้งขบวนใหม่อยู่อีกด้านของพื้นที่ราบ
91
“-22!”
“-19!”
“-38! คริติคอล!”
“-7!”
…
พวกเขาโจมตีต่ออย่างไม่ยั้ง คลาสที่รับหน้าที่โจมตีต่างโจมตีใส่บอสอย่างบ้าคลั่ง สัตว์เลี้ยงของพวกเขาก็เข้าโจมตีด้วยเหมือนกัน ถึงพวกเขาจะไม่รู้ว่าจะลดพลังชีวิตไปได้เท่าไหร่ ตอนนี้ความหวังของพวกเขาฝากไว้กับผู้เล่นแนวหน้า ถ้าเกิดว่าแถวหน้านั้นตายไป พวกแนวหลังก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน
“ช่วยสนันสนุนพวกแนวหน้าด้วย! นักบวช! ช่วยฮิลพวกเขาที!”
พวกแนวหน้านั้นรู้ว่าหน้าที่ของพวกเขาสำคัญมาก พวกเขาจึงพยายามโฟกัสกับการสู้กับบอสเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด.
“ดูนั่น! บอสกำลังจะใช้สกิลแล้ว!”
ภายใต้การสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง พลังชีวิตก็ลดลงไป 10% แล้ว ทุกคนต่างพากันเกร็งหลังจากที่เห็นอย่างงั้น
“ฮุ่มมมมม!”
ร่างของสลามันเดอร์ยืนขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ยื่นขาออกมาทิ้งตัวลงพื้นเสียงดังสนั่น
“โครม!”
ร่างนั้นกระทืบลงพื้นอย่างแรง แรงสั่นสะเทือนพร้อมกับเปลวไฟสีแดงกระจายออกไปทุกทิศทางโดยมีตัวของบอสเป็นจุดศูนย์กลาง
พวกแนวหน้าพยายามที่จะหนีหลังจากเห็นอย่างงั้น แต่คลื่นนั้นกระจายไปทั่วทิศทางจนไม่มีช่องให้หนี พวกแถวหน้านั้นถูกกวาดไปกับแรงสั่นสะเทือนนั้น
“-200!”
“-200!”
“-200!”
…
หลังจากที่เลขความเสียหายนั้นปรากฎขึ้นมานักรบทั้ง 3 คนนั้นก็พลังชีวิตหมดลงในทันที.
ไนท์คูเออร์ยังคงถอยออกมาอย่างต่อเนื่อง คลื่นกระแทกนั้นไล่ตามหลังของเธอมาแล้ว ถึงเธอจะยังไม่โดนแต่ทางคลื่นนั้นไม่มีท่าทีที่จะเบาลงเลยแม้แต่น้อย
เธอเลยคิดว่าคงจะหนีไม่พ้นแน่ๆเธอกระโดดแล้วโผออกทางด้านข้าง แล้วมองกลับไปทางที่เธอหนีมา เธอรอดไปได้โดยไม่บาดเจ็บอะไร
แต่คลื่นกระแทกก็ยังไม่หยุดคราวนี้มันไปถึงแนวหลังที่รวมตัวกันอยู่อีกด้านของพื้นที่ราบแล้ว
พวกเขายังมีความสามารถด้านนี้ไม่เท่ากับไนท์คูเออร์ พวกเขาทำได้แค่ถอยออกมาให้ไกลที่สุด ร่างท่อนบนของเขากำลังจะตกลงไปในแม๊กม่าอยู่แล้ว แต่ละคนต่างภาวนาให้การโจมตีนี้สิ้นสุดลงซะที
แต่ก็ไร้ผล การโจมตีนั้นยังคงดำเนินต่อไปแล้วก็เข้ามาถึงตัวพวกเขาในที่สุด
“-200!”
“-200!”
“-200!”
…
มีแค่เสี่ยวเฟิงเท่านั้นที่รอดมาจากการโจมตีนั้นได้
นักธนูอายุ 17 ต้องการที่จะเลียนแบบไนท์คูเออร์ในการหลบสกิล โชคร้ายที่ว่าตัวเขาจนมุมแล้ว เขาถูกคลื่นกระแทกนั้นผลักลงไปในแม๊กม่าแล้วเสียชีวิตทันที
แม้แต่พวกนักรบแนวหน้าก็ตายในชั่วพริชตาเพราะพลังชีวิตเหลืออยู่น้อยเกินไป และสกิลโฮลี่ไลท์ของเสี่ยวเฟิงนั้นอยู่ในช่วงคูลดาวน์ทำให้ช่วยพวกเขาไม่ทันซักคน
ในที่นั้นเหลือผู้รอดชีวิตแค่ 2 คนสุดท้ายคือ เสี่ยวเฟิงกับไนท์คูเออร์
เสี่ยวเฟิงขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบๆ พลังชีวิตของบอสลดลงไปแค่ 10% แต่คนตายไปเป็นเบือขนาดนี้ พวกเขาคงไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จได้แน่ๆ
แล้วเสี่ยวเฟิงก็เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เขาใช้เวลามากเกินไปแล้ว ตอนนี้ 6 โมงเช้าเสี่ยวหลิงน่าจะใกล้ตื่นแล้ว เขาต้องไปเตรียมอาหารเช้าให้เธอ ตอนนี้เขาควรจะต้องเร่งมือแล้ว
“ฮู่มมมมมม!”
เจ้าแห่งสลามันเดอร์คำรามออกมาอย่างทรงพลัง แล้วพุ่งเข้าใส่ไนท์คูเออร์ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดราวกับรถบรรทุกเบรกแตก
ไนท์คูเออร์หันซ้ายขวาแล้วก็วิ่งหนีมาทางเสี่ยวเฟิง บอสก็เลยวิ่งตามเธอมาหาเขาด้วย
“ยอดฝีมือแห่งการรักษากับท่านไนท์คูเออร์ออกมาจากห้องนั้นก่อนที่จะถูกฆ่าเร็ว ตอนนี้ทุกคนกำลังจะรีบตามเข้าไปเราต้องรีบกลับมารวมทีมกันก่อน”
เหลาซวีพูดในสภาพที่เป็นศพแล้วก็กลายเป็นแสงไปเกิดใหม่ที่ทางเข้าพร้อมกับคนอื่นๆ
“ห่าเอ๊ย! ช่วยฉันที!”
ตอนนั้นไนท์คูเออร์นั้นก็หยุดความคิดชั่วร้ายแล้วขอให้เสี่ยวเฟิงช่วยเธอ
“ล่อบอสไปทางด้านแม๊กม่าที มันน่าจะช่วยพวกเราได้”
เขาปฎิเสธคำขอของเธอ แต่กลับบอกออกไปแบบนั้นแทน
“ฉันจะลองดู”
หลังจากคิดอยู่นานเธอว่าก็ไม่เลวเหมือนกัน เธอรีบวิ่งออกจากเสี่ยวเฟิงไปทางด้านขอบข้างๆแทน
สลามันเดอร์นั้นยังคงวิ่งไล่เธออยู่ ร่างใหญ่ยักษ์ของมันทำให้พื้นสั่นสะเทือนไปหมด
ไนท์คูเออร์พยายามรักษาระยะห่าง สลามันเดอร์นั้นกำลังจะพุ่งลงไปยังแม๊กม่าที่อยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่าไนท์คูเออร์ไม่ได้จะฆ่าตัวตาย เธอนั้นเกาะขอบหน้าผาไว้เหนือแม่น้ำแม๊กม่าด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แล้วเธอก็ต้องกรีดร้องออกมาเพราะความร้อนจกาแม๊กม่าเบื้องล่าง
เจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นยังคงไล่ตามเธออยู่ แล้วก็หยุดลงก่อนที่จะตกลงไปในแม๊กม่าแต่เสี่ยวเฟิงหยิบโทเทมทองคำขึ้นมาแล้วฟาดลงไปที่บอส ร่างของมันไม่สามารถรักษาสมดุลได้อีกแล้วก็ตกลงไปในแม๊กม่า เกิดคลื่นแม๊กม่ากระจายไปทั่วทุกทิศทาง ไนท์คูเออร์นั้นเกือบจะโดนย่างสดไปด้วย เธอรีบตะเกียดตะกายปีนขึ้นมาด้านบน
“ฮู่มมมมมม!”
แต่ร่างยักษ์ที่ตกลงไปในแม๊กม่านั้นไม่เป็นอะไรเลย มันสลัดแม๊กม่าบนตัวออกแล้วคำรามใส่ทั้ง 2
“มันไม่ได้ผล”
ไนท์คูเออร์ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะท่าวิธีนี้ใช้ได้ผลภารกิจก็คงจะง่ายกว่านี้ไปแล้ว
“งั้นถอยเถอะ รอคนอื่นๆตามมมาสมทบกันดีกว่า” ไนท์ูเออร์ว่ากับเสี่ยวเฟิงขณะที่บอสนั้นกำลังวิ่งมาทางทั้ง 2 เธอเดินกลับมาทางสะพานแล้วออกไปจากห้องบอส
“พวกนั้นคงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะกลับมาถึง”
เสี่ยวเฟิงขมวดคิ้วเขายังไม่คิดที่จะยอมแพ้
“ยังอยากจสู้อยู่เหรอ? แค่เราสองคนฉันว่าเราต้านมันไม่ไหวหรอก” ไนท์คูเออร์พูดออกมาอย่างลังเลถึงจะรู้ว่าเสี่ยวเฟิงนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม
“มีแต่ต้องลองเท่านั้น”
เสี่ยวเฟิงก็ไม่มั่นใจแต่เขาก็ไม่อยากรอเฉยๆแบบนี้ เขาหยิบโทเทมกระทิงทองออกมาแล้วใช้บัฟกับตัวเอง แล้วก็เผชิญหน้ากับบอสที่กำลังพุ่งเข้ามาหา
“ฮู่มมมมมม!”
เจ้าแห่งสลามันเดอร์คำรามแล้วก็ยกขาหน้าของมันกระทืบลงมาทางเสี่ยวเฟิง
เสี่ยวเฟิงหลบฉากออกมาได้ แล้วค้อนยักษ์สีทองโปร่งแสงก็ปรากฎในมือของเขา แล้วก็ฟาดลงไปที่กรามล่างของบอสทันที
“ฮู่มมมมมม!”
“-210!”
ค้อนยักษ์กระแทกกรามล่างและลำคอของสลามันเดอร์ แล้วเลขความเสียหายนั้นก็ปรากฎบนตัวของบอส
เสี่ยวเฟิงเห็นอย่างงั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ สกิลทั้งหมดของเขานั้นไม่ผ่านการอัพเลเวลมา มันเลยสร้างความเสียหายได้น้อยแบบนั้น
เขาหลบการโจมตีของบอสอีกครั้ง โทเทมกระทิงทองนั้นมีประกายไฟ นั่นคือสกิลของอาวุธ แล้วเขาก็ฟาดลงไปบนตัวของสลามันเดอร์อีกครั้ง
“-447!”
สกิลนั้นสร้างความเสียหายได้ 180% ของตอนแรก นั่นพอๆกับความเสียหายของผู้เล่น 20 คนก่อนหน้านี้
“ให้ฉันช่วยนายเถอะ ขอบัฟให้ฉันด้วย”
จากการสร้างความเสียหายอย่างหนัก บอสนั้นหันความสนใจไปทางเสี่ยวเฟิงทันที ไนท์คูเออร์ที่ยืนรออยู่แล้วนั้นแทงมีดสั้นในมือของเธอใส่ขาหลังของสลามันเดอร์ทั้ง 2 ครั้ง
“-14!”
“-27!”
แต่ความเสียหายที่ทำได้นั้นเบามากถ้าไม่มีบัฟจากเสี่ยวเฟิง
“มันยังคูลดาวน์อยู่ รอแป๊ปนึง”
เสริมอาวุธมีคูลดาวน์อยู่ที่ 30 วินาทีโดยมีผล 60 วินาที ดังนั้นถ้าจะใช้ 2 คนก็ต้องสลับกันใช้ เสี่ยวเฟิงนั้นใช้บัฟให้กับไนท์คูเออร์ พลังโจมตีของเธอก็สูงขึ้นทันที
เพราะทางเสี่ยวเฟิงล่อบอสไปแล้ว ไนท์ูเออร์จึงโจมตีได้อย่างเต็มกำลัง อันที่จริงเป็นเพราะเธอเชื่อมั่นในความสามารถของเสี่ยวเฟิง เธอมองไปทางเสี่ยวเฟิงที่รับมือกับเจ้าแห่งสลามันเดอร์แบบตัวต่อตัว เธอเชื่อว่าเขาสามารถรับมือมันได้อย่างสบายๆแน่นอน
“-222! คริติคอล!”
“-112!”
“-107!”
“-213!”
“-422! คริติคอล!”
…
อยา่งที่ไนท์คูเออร์คิด พวกเขาสามารถลดพลังชีวิตได้เร็วกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก เธอสามารถโจมตีใส่บอสได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
เสี่ยวเฟิงนั้นล่อบอสเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยที่บอสไม่สามารถทำอะไรเขา หรือแม้แต่ไนท์คูเออร์ได้เลย พลังโจมตีของเสี่ยวเฟิงนั้นสูงมาก ถึงความต่อเนื่องจะต่ำเพราะเขาเป็นนักบวช แต่ด้วยความร่วมมือของทั้ง 2 พวกเขาสามารถลดพลังชีวิตของบอสได้อย่างรวดเร็ว
ไนท์คูเออร์นั้นพอใจเป็นอย่างมาก เธอได้โจมตีและใช้สกิลอย่างเต็มกำลัง เธอมองไปทางด้านเสี่ยวเฟิงที่กำลังล่อการโจมตีไปทางนั้นทีทางนู้นทีด้วยอารมณ์อันหลากหลาย
การโจมตีนั้นดำเนินไปยู่ราวๆเกือบครึ่งชั่วโมง พลังงชีวิตของบอสก็เหลือ 60% แล้ว!
ในตอนที่โจมตีนั้นไนท์คูเออร์ไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อยว่าควรจะทำยังไงเธอแค่โจมตีอย่างสุดฝีมือเท่านั้น โดยที่การโจมตีของบอสไม่เข้ามาที่เธอเลย และยังมีบัฟที่เสี่ยวเฟิงใช้ให้เธออย่างไม่ขาดสาย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการโจมตีของเธอนั้นถึงได้รุนแรงมากขนาดนี้
ไนท์คูเออร์จ้องไปทางสลามันเดอร์เธอไม่คิดว่าด้วยคนแค่ 2 คนจะมาได้ไกลมากขนาดนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันรวดเร็วยิ่งกว่าการใช้คนสู้ 20 คนซะอีก! นี่มันปฏิหาริย์ชัดๆ!
พอมองไปที่เสี่ยวเฟิงที่ยังคงสงบอยู่ เธอก็พลันพูดไม่ออก
“เร็วเข้า! เข้ามาเร็ว!”
“ตามหายอดฝีมือแห่งการรักษากับท่านไนท์คูเออร์เร็ว? หาเจอไหม?”
“ไม่ พวกเขาไม่ได้ตายจากการโจมตีของบอส”
“แต่พวกเขาก็ไม่ได้รออยู่ที่ด้านนอกของห้องบอสเหมือนกัน!”
“พวกเขายังอยู่ข้างใน”
“ก็เป็นไปได้ งั้นเรายิ่งต้องรีบ ว้าว! ทั้ง 2 คนนั้นเจ๋งชะมัด! พวกเขารอดจากการโจมตีทั้งฉากของบอสได้ด้วย”
“อะไรนะ…”
92
กลุ่มของผู้เ่ลนที่เข้าห้องบอสมาทางสะพานหิน ต่างช็อคในสิ่งที่ตาพวกเขาเห็น
บอสที่พวกเขาคิดว่าจะนอนอยู่อย่างสบายอารมณ์ด้วยพลังชีวิตที่เต็ม กลับมีพลังชีวิิตอยู่เกินครึ่งมาแค่เล็กน้อยเท่านั้น!
พวกเขาที่คิดว่าเสี่ยวเฟิงเป็นนักบวชธรรมดา กับยืนถือค้อนลูกตุ้มทองคำเผชิญหน้ากับบอสแบบตาต่อตา เขาสามารถปัดป้องการโจมตีของบอสได้แล้วสวนกลับด้วยลูกตุ้มในมือ ความเสียหายที่ทำได้แต่ละครั้งมากกว่า 200 หน่วยอีก!
“ทำไมบอสพลังชีวิตเหลือแค่นั้น?”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย! ยอดฝีมือแห่งการรักษาคอยรับมือบอสแล้วให้ท่านไนท์คูเออร์ทำความเสียหาย! แค่นั้นพลังชีวิตของบอสก็หายไปเกือบครึ่งแล้ว!”
“โห! ได้เห็นความสามารถของพวกยอดฝีมือซะที! ทีแรกคิดว่าน่าจะเก่งกว่าพวกเราแค่นิดๆหน่อยๆ! แต่ดูท่าจะคิดผิดแหะ นี่มันเจ๋งสุดๆเลย!”
…
พวกเขาทุกคนยังยืนนิ่งและมองไปทางทั้ง 2 คนที่รับมือบอสได้อย่างสบายๆโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา
“ดูท่าว่าพวกเราจะกลายเป็นภาระแหะ… ฉันเชื่อว่าต่อให้มีพวกเขาแค่ 2 คนก็จัดการบอสได้อย่างง่ายดายแน่ๆ!”
ในขณะที่ทุกคนยังนิ่งพาลลาดินแห่งการรักษากลับมีสีหน้าที่เครียดเกร็ง เพราะเขาเป็นถึง 20 คนหัวตารางของหอเกียรติยศ ถึงไนท์คูเออร์จะมีตำแหน่งสูงกว่าแต่ความเก่งกาจคงงจะไม่ต่างกับเขามากนัก
แต่ตอนนี้ขณะที่เขาถูกฆ่าในชั่วพริบตา แต่อีกฝ่ายกับเสี่ยวเฟิงนั้นรับมือกับบอสได้อย่างง่ายดาย เขารู้สึกถึงความห่างชั้นของฝีมือระหว่างเขากับทั้ง 2 คนนั้น
“นี่มีนอะไรกันเนี่ย…”
เหลาซวีก็ยังจ้องมาทางนี้ เขาได้เตรียมแผนการเอาไว้มากมาย อย่างให้นักเวทย์ตัวสำรองมาแทนที่อิมมอทัลเฟลมที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้แผนการของเขาเป็นหมันไปหมด
“อย่ามันแต่ยืนใจลอยสิ! รีบๆมาช่วยได้แล้ว! ตอนนี้ฉันกำลังรีบนะ”
เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่หันกลับมามอง เขาเอี้ยวตัวหลบขาหน้าของสลามันเดอร์แล้วสวนกลับด้วยโทเทมทองคำในมือใส่ขาอีกข้างของสลามันเดอร์
“-441!”
พวกเขาต่างตกใจในตัวเลขความเสียหายที่มากกว่า 400 ทั้งๆที่บอสมีพลังป้องกันที่สูงมากหมายความว่าถ้าสู้กับคนธรรมดาความเสียหายที่ทำได้นั้นต้องมากกว่า 500 แน่ๆ! หมายความว่าคนที่โดนไปจะตายทันทีในชั่วพริบตา!
แล้วพวกเขาก็นึกออกจนได้ว่าบอสจะให้สมุดสกิลกับผู้เล่นที่เปลี่ยนคลาสมาแล้ว พวหเขานั้นต่างเริ่มตื่นเต้นกันแล้ว
“นักบวชลให้บัฟกับคนอื่นๆ! พวกที่ทำความเสียหายเตรียมตัวกันได้เลย! นักรบโล่รับมือกับการโจมตีของบอส!” เหลาซวีนั้นพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าแล้วออกคำสั่งในทันที
“ไม่ต้องเรื่องล่อบอสเดี๋ยวฉันรับหน้าที่เอง Tตอนนี้บอสกำลังคลั่งคงไม่มีใครสามารถต้านทานได้แน่ๆ” เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่หันกลับมามอง ทำเอาไนฟและนักรบอีก 2 คนนั้นมองหน้ากันเองด้วยความมึนงง
แล้วพวกเขาก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้ตัวของเจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นดูจะมีสีแดงที่สดขึ้น พวกเขาไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกและพลังโจมตีกับความรวดเร็วที่ดูจะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ถึงมันจะรวดเร็วมาก แต่เสี่ยวเฟิงก็หลบการโจมตีของมันได้รวบกับอ่านความเคลื่อนไหวออก คนอื่นๆต่างสนใจกับการหลบหลีกและการปัดป้องอขงเขา
“นั่นมัน… ออเลเรียสเต็ป! นี่เขาสามารถใช้มันได้ด้วยเหรอ!”
เหลาซวีมองไปทางด้านเสี่ยวเฟิงแล้วพยายามที่จะใจเย็นก่อนที่จะถามออกไปว่า
“ท่านยอดฝีมือแห่งการรักษา มีอะไรที่พวกเราพอจะทำได้บ้าง?”
แต่อันที่จริงเสี่ยวเฟิงได้บอกเขาไปแล้วว่าให้ทำการโจมตีใส่บอสเพียงอย่างเดียว
“โจมตีใส่บอสให้หนักที่สุด แล้วระวังอย่าให้ตาย ตอนนี้ฉันกำลังรีบอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะต้องไปแล้วไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม”
เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันมามองเหมือนเดิมตอนนี้เขาต้องรีบทำเวลาให้เร็วที่สุด
“ได้! ทำตามคำแนะนำของเขา ทุกคนยกเว้นนักบวช โจมตีใส่บอสอย่างเต็มกำลัง!”
เหลาซวีทำถามคำแนะนำของเสี่ยวเฟิงโดยไม่รอช้าอีกต่อไป นักรบโล่ต่างวางโล่แล้วถือดาบ 2 มือเข้าร่วมโจมตีบอสพร้อมกับคนอื่นๆ
“ฮู่มมมมมมม!”
ถึงเจ้าแห่งสลามันเดอร์จะยังไม่มีท่าทีเพลี่ยงพล้ำ ยังคงจู่โจมใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขากลับพบว่าสามารถโจมตีมันได้ง่ายมากกว่าที่คิด
พวกเขาแค่ทำความเสียหายลงไปโดยไม่ลังเล แล้วก็มองไปทางเสี่ยวเฟิงแล้วก็ตกใจมากที่เขาสามารถรับมืิกับการโจมตีของบอสได้โดยแทบไม่มีรอยขีดข่วนเลย
พวกเขาคงไม่เชื่อว่าเสี่ยวเฟิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้มาเห็นกับตา
“ฮู่มมมมมมม!”
ตอนนั้นเจ้าแห่งสลามันเดอร์ชูหัวแล้วคำรามออกมาถึงจะมีเพียงลมมากระแทกโดยไม่มีความเสียหาย แต่บอสกลับยืนนิ่งอยู่ราวกับว่ากำลังรวบรวมพลังในการทำอะไรบางอย่าง.
“ระวังด้วย สกิลกำลังจะมาแล้ว!”
ทุกคนต่างตื่นตระหนก พวกเขาต่างหวั่นใจถึงท่าโจมตีทั่วทั้งฉากก่อนหน้านี้ในตอนที่บอสเสียพลังชีวิตไป 10%
“บัดซบ! เหมือนกับก่อนหน้านี้เลย มันจะใช้สกิลเดิมสินะ?”
ตอนนี้บอสกำลังจะทิ้งตัวลงกับพื้นแล้ว ทุกๆคนต่างกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแม้แต่เสี่ยวเฟิงเองก็ตาม
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้มากนัก
เจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นกลับไม่ได้ทิ้งตัวลงมาที่พื้นเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่กับชูคอแล้วคำรามออกมา แล้วผิวหนังของสลามันเดอร์ก็เริ่มมีเปลวไฟสีแดงเข้มผุดขึ้นมาจากทั่วทั้งร่างแล้วร่างของสลามันเดอร์นั้นก็ระเบิดคลื่นไฟออกมารอบทิศทาง!
“ตูมมมมมม!”
หลังจากที่เปลวไฟระเบิดออกมาพื้นที่นั้นก็ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง แล้วตอนที่มันทิ้งตัวลงมานั้นก็เกิดความเสียหายอีกรอบนึง ทุกคนพยายามหาที่หลบแต่บนพื้นที่นั้นไม่มีที่ว่างให้หลบอีกแล้ว!
“-138!”
“-119!”
“-108!”
“-87!”
“-73!”
…
ตัวเลขความเสียหายจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎบนหัวของทุกๆคนรวมทั้งเสี่ยวเฟิงด้วย พลังชีวิตของเขาลดลงมาเหลือครึ่งนึงในพริบตา!
“ท่าที่ลดพลังชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์! พลังชีวิตของพวกเราหายไปครึ่งนึง 50%! ทุกคนรีบรักษาตัวเองก่อนเร็ว! มันจะมีท่าอื่นๆตามมาแน่ๆ! นักบวช! รีบเพิ่มพลังชีวิตให้กับคนอื่นๆด้วย!”
เหลาซวีมีประสบการณ์ในการเล่นเกมมากเขารู้ว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ๆ
เสี่ยวเฟิงก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ตอนนี้พลังชีวิตของเขาลดลงมาเหลือ 138 จาก 277 พลังชีวิตของเขานั้นมากว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้
โชคดีที่ตอนนี้บอสยังคงเล็งเป้ามาที่เสี่ยวเฟิงโดยไม่ได้สนใจคนอื่นเลย คนอื่นๆต่างรีบใช้ยาเพิ่มพลังชีวิตทันทีที่ใช้ได้
“+20!”
“+20!”
“+20!”
…
ยาระดับกลางจะเพิ่มพลังชีวิตได้ 20 ถึงจะยังไม่เพียงพอกับความเสียหายที่ได้รับแต่ก็ทำให้พวกเขาสามารถต้านการโจมตีรอบที่ 2 ได้
“ตูมมมมมม!”
เปลวไฟจากสลามันเดอร์ระเบิดออกมาอีกครั้งโดยไม่มีที่ให้หลบเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เปลวไฟหายไปทุกคนเหลือพลังชีวิตอยู่น้อยมากๆแต่ก็รอดผ่านมาได้ทุกคน
แต่เหลาซวีนั้นยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียดแล้วก็ตะโกนออกมา
“พวกเราแย่แล้ว! รอบที่ 3 กำลังจะมาแล้ว!”
เปลวไฟบนตัวของสลามันเดอร์ยังไม่หายไป แล้วเปลวไฟก็ระเบิดออกมาอีกรอบ
“ตูมมมมมม!”
ตอนนี้พวกเขาเหลือพลังชีวิตกันแค่ 20 หน่วยถ้าไฟเข้ามาปะทะก็ตายแน่ๆ พวกนักบวชวางไม้เท้าของพวกเขาลงอย่างจำยอม
เสี่ยวเฟิงยังคงลังเล เพราะว่าเขาไม่ได้ยาไปในการระเบิดรอบที่ 2 ทำให้เขายังคงมียาเหลืออยู่ ต้องขอบคุณต่างหูอมตะและสกิลวัฎจักรชีวิตทำให้เขายังรอดมาได้
แต่ตอนนี้คนอื่นๆกำลังจะตายกับการโจมตีของบอส เขาอ่านจังหวะแล้วหยิบคทาแห่งการรักษาออกมาแล้วใช้สกิล ตัวเลขการรักษษสีเขียวปรากฎขึ้นบนหัวของทุกๆคน
“+177!”
“+161!”
“+154!”
“+170!”
…
ทุกคนที่ต่างยอดแพ้แล้วเห็นพลังชีวิตของตัวเองกลับมาเต็มอีกครั้ง พวกเขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
แล้วพวกเขาก็ปะทะกับคลื่นเปลวไฟในที่สุด
“-138!”
“-119!”
“-108!”
“-87!”
“-73!”
…
พวกเขาทุกคนรอดออกมาจากสกิลของบอสจนได้ แล้วบอสที่ใช้สกิลเสร็จแล้วก็พุ่งเข้าโจมตีเสี่ยวเฟิงที่เป็นเป้าหมายต่อทันที
ทุกคนตอนนี้ปลอดภัยหมดแล้วยกเว้นเสี่ยวเฟิงที่เหลือพลังชีวิตแค่ 1 หน่วยเท่านั้น นี่เป็นผลค้างเคียงของสกิลฟากฟ้าแห่งพระเจ้า เพราะระยะสายตานั้นมีจำกัด ถ้าเสี่ยวเฟิงต้องการช่วยทุกคนในระยะสายตาเขาจะไม่สามารถช่วยตัวเองได้
แต่ถ้าเขาเลือกที่จะเอาตัวเองให้รอด ก็จะช่วยคนอื่นๆไม่ทันเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามด้วยผลของสกิลวัฎจักรชีวิตเขาสามารถใช้ค่ามานาให้การรับความเสียหายได้ เขาถึงได้รอดมาได้ แต่พลังชีวิตก็เหลืออยู่แค่ 1 หน่วยเท่านั้น แล้วถึงตายไปสกิลซาเครดบอดี้ก็จะทำงานเขาก็มีโอกาสที่จะรอดอยู่เหมือนกัน
ดังนั้นเขาเลยรอดออกมาได้ ถึงจะดูสาหัสสุดๆแต่เขาก็ยังปลอดภัย
“นี่มัน… สกิลฮิลแบบกลุ่ม!”
พวกเขามองไปทางเสี่ยวเฟิงที่ยังถือคทาแห่งการรักษาเอาไว้ในมือ
ถึงเสี่ยวเฟิงจะทำให้ใครต่อใครตกใจมามากแต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่มากที่สุดแล้วล่ะ!
93
“นี่มัน… สกิลฮิลแบบกลุ่ม!”
พวกผู้เล่นที่สังกัดกิลด์ใหญ่ๆหรือมีประสบการณ์สูงๆจะเข้าใจความสำคัญของมันได้ในทันที
คลาสนักบวชนั้นเป็นคลาสที่มีความสำคัญมากๆ ในการต่อสู้คลาสนี้มักเป็นเป้าหมายแรกๆในการกำจัด ดังนั้นพวกกิลด์จึงให้ความสำคัญกับกลุ่มของคลาสนี้มากที่สุด!
ทั้งหมดมาจากความสามารถในการฮิล!
การต่อสู้จะเป็นไปอย่างราบรื่นได้ง่ายที่สุดถ้าหากว่ามีผู้เล่นแนวหน้าและการสนับสนุนจากนักบวช!
มันเป็นกลยุทธ์แบบพื้นๆที่มีในทุกเกม
และการที่ทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิมคือการใช้นักบวชเป็นกลุ่ม!
และสิ่งที่เสี่ยวเฟิงทำในตอนนี้นั้นไม่ได้ต่างกันเลย!
ทุกคนต่างเห็นตรงว่าการประคองทีมไปสู่ชัยชนะนั้นคือความสามารถในการฮิล!
เสี่ยวเฟิงนั้นมีสกิลฮิลแบบกลุ่ม และยังเป็นอันดับ 1 ของเขตหัวเซียในขณะนี้ด้วย!
พวกเขามองไปรอบๆแล้วก็เห็นว่าทั้ง 19 คนนั้นถูกช่วยเอาไว้ทั้งหมด!แถมยังน่าหวดหวั่นตรงที่ฮิลให้จนเต็มซะด้วย!
ตอนนี้ทุกคนต่างยืนนิ่งโดยที่พูดอะไรไม่ออก พวกเขาได้ยินเพียงเสียงของสลามันเดอร์ที่กำลังคำราม!
พวกเขาต่างกลั้นใจแล้วมองไปที่เสี่ยวเฟิง ความสามรถระดับนี้ถ้าเข้าร่วมกลิด์ใดกิลด์หนึ่งล่ะก็กิลด์นั้นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาลแน่นอน!
แม้แต่บอสระดับสูงถ้าได้เขาช่วยคงไม่ต่างอะไรกับการล่ามอนสเตอร์ธรรมดา! และยิ่งจะทำให้การจัดการบอสตัวต่างๆไปด้วยความรวดเร็วอย่างแน่นอน!
ตอนนี้พลังชีวิตที่ใกล้หมดของเสี่ยวเฟิงนั้นยังคงไม่ได้รักษาเพราะเขาต้องรับมือการโจมตีของบอสไปด้วย ผู้เล่นคนอื่นจ้องมองเขาอย่างเงียบๆ พลังชีวิตของเสี่ยวเฟิงนั้นสามารถหมดลงได้ตลอดเวลา พวกเขากังวลมากขึ้นเกี่ยวกับศักยภาพที่น่าตกใจของเขา ความสามารถของเขานั้นเป้นที่ยอมรับในโลกใบนี้อย่างแน่นอน!
โรสมองร่างของเสี่ยวเฟิงด้วยอารมณ์อันหลากหลายแต่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความจนใจ
เธอไม่สามารถที่จะกำหนดอะไรให้กับชายคนนี้ได้ และเธอคิดว่าคงจะไม่มีใครทำได้ด้วย
คูลดาวน์ 30 วินาทีนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็ใช้ความสามารถของคทาแห่งการรักษาทันที แล้วเขาก็ใช้โฮลี่ไลท์กับตัวเองด้วยความสามารถของดีไวน์พาวเวอร์พลังของการฮิลนั้นก็เพิ่มเป็น 2 เท่า และคทาแห่งการรักษาก็เพิ่มพลังแห่งการฮิลอีก 10% พลังชีวิตของเขาเต็มในทันที
ตอนนี้การรุมโจมตีเปลี่ยนเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับบอสของเสี่ยวเฟิงในทันที
ตอนนี้บอสเล็งเป้าการโจมตีมาที่เสี่ยวเฟิง คนอื่นๆแค่ต้องโจมตีบอสโดยไม่ต้องสนอะไรทั้งสิ้น เพราะตอนนี้เสี่ยวเฟิงแย่งความสนใจจากบอสไปได้อย่างสมบูรณ์ และเอาตัวรอดด้วยการหลบหลีกและปัดป้องต่อไป
ตอนนี้พวกนักบวชที่ไม่มีงานทำเริ่มหันมาคุยซุบซิบกันเองแล้ว หน้าที่ของพวกเธอตอนนี้มีแค่เพิ่มบัฟพลังโจมตีให้กับคนอื่นๆเท่านั้น ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวเฟิงพวกเธอเลยไม่จำเป็นต้องคอยระวังแนวหน้าเลยแม้แต่น้อย
“นี่! ยอดฝีมือแห่งการรักษานี่เก่งเกินไปรึเปล่า! นี่คือพลังที่แท้จริงของพวกยอดฝีมือเหรอ! ฉันว่าเขาน่าจะเก่งที่สุดในเขตหัวเซียนี่เลยล่ะมั้ง!”
“นี่! ซื๋ออี๋ฉันได้ยินมาว่ากิลด์ของเธอเป็นคนเชิญเขามา เขาเข้าร่วมกับวอร์สปิริตฮอล์อย่างงั้นเหรอ?” นักบวชหญิงที่ถามซื๋ออี๋ เธอเป็นคนของกิลด์ใหญ่เหมือนกัน
“อ้อ เปล่าหรอก แค่รู้จักกันเฉยๆ เขาไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมกิลด์ไหนๆเลยน่ะนะ” ซื๋ออี๋ส่ายหัวอย่างจนใจ
“เขาก็เก่งออกนะ ทำไมไม่ลงบังคับให้เขาเข้ากิลด์ดูล่ะ?ฉันว่าด้วยสเน่ห์ของเธอน่ะ เขาคงจะไม่ปฎิเสธหรอกมั้ง” เธอยังคงพูดต่อไปแล้วชายตามองไปทางหน้าอกของซื๋ออี๋ด้วยสายตาอิจฉา
“ก็ ฉันไม่สนใจที่จะทำแบบนั้น เขาไม่คู่ควรน่ะ” ซื๋ออี๋นั้นถอนหายใจ เธอยังจำตอนที่เขาทิ้งเธอไว้ที่หุบเขาอยู่เลย นอกจากเขาจะเมินเธอแล้วยังก่อปัญหาให้เธออีก
“โหว! เขาก็อินดี้ดีแหะ! ดูท่าเขาจจะไม่ใช่คนธรรมดาๆจริงๆน่ะแหละ แต่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนเลย ถ้าเป็นพวกเราที่รู้จักกับคนของหอเกียรติยศดี ก็ต้องเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้างสิ”
“ฉันว่าท่านหัวหน้ามิตซัมเมอร์คงรู้เรื่องนี้มากกว่าพวกเราล่ะนะ” ซื๋ออี๋ว่าแล้ว ก็โยนบทสนทนาไปให้กับโรส
“แต่ว่า เขาอยู่ในบัญชีดำของเธอนี่นะ? แปลว่ากิลด์ของเธอก็ไม่ถูกกับเขาอย่างงั้นสิ งั้นท่านมิตซัมเมอร์ก็น่าจะรู้จักตัวตนของเขาสินะ?” คนอื่นๆต่างมองโรสด้วยความฉงน
ในฐานะของผู้เล่นอาวุโสเธอน่าจะรู้อะไรมากกว่าที่พวกเธอรู้ ซึ่งเรื่องที่พวกเธอเอามาพูดกันก็มีที่มาจากพวกข่าวลือต่างๆ.
“ฉันไม่รู้จักเขาหรอก” โรสตอบบเสียงเย็นใบหน้าของเธอเรียบนิ่งดวงตาก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ไม่รู้จักเขา? ฉันคิดว่านั่นน่าจะเป็นศัตรูเก่าของเธอซะอีก แถมเรื่องในหมู่บ้านนั่นด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่อยู่ในบัญชีดำของเธอน่ะสิ”
“ฉันกำจัดทุกคนที่เข้ามาขวางทางมิตซัมเมอร์ก็เท่านั้น” ท่าทีของโรสนั้นยังคงเหมือนเดิมแม้ว่าประโยคจะฟังดูรุนแรงก็ตาม
“กล้าหาญ มุ่งมั่นดีนี่นา สมแล้วที่เป็ฯถึงหัวหน้าของมิตซัมเมอร์”
ผู้เล่นเพศหญิงเหล่านี้เคยอิจฉาทัศนคติที่หยิ่งผยองของเธอ และพวกเธอไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับแนวคิดที่ชั่วร้ายแบบนี้ แต่ในขณะนี้ผู้เล่นสาวเหล่านี้ทั้งหมดเชื่อมั่นในมิตซัมเมอร์จากมุมมองของผู้หญิงด้วยกัน
พวกเธอก็มองไปทางพลังชีวิตของสลามันเดอร์ที่ใกล้จะหมดเข้าไปทุกที พลังชีวิตของมันลดลงอย่างรวดเร็วจาก 50% ถึงพวกเขาจะเจอปัญหาในการใช้พลังธาตุไฟจากแม๊กม่าก็ตาม แต่พวกเขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้และทำการโจมตีต่อไป
ถ้าก่อนหน้านี้มีใครบอกพวกเขาว่านักบวชสามารถรับความเสียหายได้สูสีกับนักรบล่ะก็พวกเขาต้องโดนหาว่าบ้าแน่นอน แต่ตอนนี้พวกเขาเห็นว่านักบวชที่ว่านั้นกำลังยืนต้านรับความเสียหายจากบอสมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาคนนั้นไร้เทียมทานในการต่อสู้ระยะประชิดมาก แต่ระยะไกลนั้นก็ยังรับมือไม่ค่อยได้
แถมเขายังสามารถฮิลตัวเองได้ในตอนที่ได้รับบาดเจ็บด้วย เรียกว่าเป็นนักบวชที่หนังเหนียวน่าดู
ด้วยความสามารถของการฮิลแบบกลุ่มทำให้พวกเขาเล่นได้โดยไม่มีความกดดันใดๆเลย พลังชีวิตของบอสในที่สุดก็หมดลงเสียที
“ทีมของคุณสำเร็จในการสังหารบอสตัวสุดท้าย – เจ้าแห่งสลามันเดอร์! คุณสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 – ถ้ำสลามันเดอร์!”
“ทีมของคุณสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 ได้รับค่าชื่อเสียงสำหรับเขตของคุณ! จะทำการประกาศให้ผู้เล่นในเขตหัวเซียทุกคนได้รับทราบ!”
“ทีมของคุณสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 ได้รับค่าชื่อเสียงสำหรับเขตของคุณ! จะทำการประกาศให้ผู้เล่นในเขตหัวเซียทุกคนได้รับทราบ! กรุณาประกาศชื่อของทีมคุณด้วย!”
…
“ประกาศถึงเซิร์ฟเวอร์! เขตหัวเซียสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 ได้รับค่าชื่อเสียงสำหรับเขตของคุณ 10 หน่วย!”
“ประกาศถึงเซิร์ฟเวอร์! เขตหัวเซียสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 ได้รับค่าชื่อเสียงสำหรับเขตของคุณ 10 หน่วย!”
“ประกาศถึงเซิร์ฟเวอร์! เขตหัวเซีย…”
“ประกาศถึงเซิร์ฟเวอร์! เขตหัวเซีย…”
“ประกาศถึงเซิร์ฟเวอร์! เขตหัวเซีย…”
…
ประกาศนั้นดังอยู่ 5 ครั้งผู้เล่นในเขตอื่นๆต่างตกใจในสิ่งที่ได้ยิน พวกคนในเขตหัวเซียต่างปิติกับการประกาศครั้งนี้
“ยอดฝีมือแห่งการรักษา ผมให้คุณตั้งชื่อทีมแล้วกัน”
การประกาศของระบบยังไม่จบเพราะพวกเขายังไม่ได้ใส่ชื่อทีม เหลาซวีให้เสี่ยวเฟิงเป็นคนตั้งชื่อทีม
ชื่อของทีมนั้นจะถูกประกาศให้คนในเขตรับรู้ จึงเป็นโอกาสดีในการที่จะประกาศชื่อของกิลด์ที่ทำสำเร็จ ทุกคนต่างมองเสี่ยวเฟิงด้วยความอิจฉา ส่วนโรสเธอหวังว่าจะได้ประกาศชื่อกลิด์ของเธอ เพื่อให้คนในเขตหัวเซียนั้นมาเข้าร่วมกิลด์ของเธอ
แต่ครั้งนี้พวกเขาก็ยกให้เสี่ยวเฟิงเป็นคนจัดการโดยไม่ได้แย้งอะไร
โรสยังคงมองเสี่ยวเฟิงด้วยอารมณ์อันหลากหลายแต่ก็ตัดใจในที่สุด
“อ่อ ให้ฉันเป็นคนตั้งสินะ… งั้นเดี๋ยว! ขอเวลาแป๊ปนึง!”
เสี่ยวเฟิงนิ่งไปเพราะไม่ได้คิดเอาไว้ แต่ก็นึกอะไรบางอย่างได้แล้วโทรหาเฉียนโตวโตว
“นี่!อยากโฆษณาธุรกิจของเราไหม?”
“หา? ลูกพี่เสี่ยว? แน่นอน! เอาอยู่แล้ว! นั่นดีกว่าอะไรทั้งหมดเลย!”
เฉียนโตวโตวยังคงอยู่ที่จัตรัสของเมืองเริ่มต้น ตอนนี้ทั่วทั้งหมู่บ้านเริ่มต้น 9191 นั้นส่วนใหญ่เป็นคนที่ให้ความร่วมมือกันเธอทั้งนั้น ดูท่าว่าสำหรับที่นี่เธอจะกลายเป็นเจ้าแม่ไปซะแล้ว
เธอครองตลาดด้วยการขายยาเพิ่มพลังชีวตขนาดกลาง ทำให้ธุรกิจของเธอนั้นเป้นที่รู้จักขึ้นมาก แล้วยังมีคนจำนวนมากที่มาติดต่อซื้อขายกับเธอ
ตอนนี้เธอนั่งว่างในระหว่างที่หาโอกาสทำธุรกิจอยู่ ดวงตาของเธอนั้นเป็นประกายในทันที แล้วเธอก็บอกเสี่ยวเฟิงไปแบบนั้นทันทีที่เขาถาม
“โอเค เข้าใจแล้ว”
เสี่ยวเฟิงวางสายไปทำให้เสี่ยวเฟิงนั้นประหลาดใจ เธอบ่นพึมพำก่อนที่จะหาโอกาสในการทำงานต่อไป เธอกำลังหาข้อมูลเกียวหับคลาสรองอยู่
“เลือกได้ตามใจเลยนะ เลือกได้รึยัง?”
เหลาซวีให้ตำแหน่งหัวหน้ากับเสี่ยวเฟิงเพราะคนที่ตั้งชื่อทีมต้องเป็นหัวหน้าเท่านั้น
“เรียบร้อยแล้ว พอดีอยากโฆษณาอะไรนิดหน่อย”
เสี่ยวเฟิงพยักหน้าแล้วพูดที่จริงแล้วทุกคนได้ยินเรื่องที่เขาคุยผ่านโทรศัพท์หมดแล้ว แล้วระบบก็ประกาศออกไปให้กับคนกว่าร้อยล้านคนในเขตหัวเซีย
“ประกาศถึงทุกคนในเขตหัวเซีย! ภายใต้การนำของ XXX ทีม(ร้านของเขาจะเปิดในเมืองเทียนหลงในอีก 2 ถึง 3 วัน ช่วยมาแล้วสนับสนุนเราด้ว!) สำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 สมาชิกทีมได้แก่ เหลาซวี, วอร์สปิริตไนฟ ไนท์คูเออร์…”
“ประกาศถึงทุกคนในเขตหัวเซีย! ภายใต้การนำของ XXX…”
“ประกาศถึงทุกคนในเขตหัวเซีย! ภายใต้การนำของ XXX…”
เฉียนโตวโตวที่กำลังคำนวณราคาวัตถุดิบอยู่นั้นจ้องมาทางบนฟ้า ดวงตาของเธอเบิกกว้างตัวเธอก็นิ่งค้างไป กับประกาศที่เธอได้ยิน
แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างเงียบๆ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งดวงตาของเธอก็แวบวาบด้วยความมุ่งมั่น เธอนั้นออกไปจากเกมอย่างเงียบๆ
94
ทั่วทั้งเขตหัวเซียนั้นเต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันเป็ฯเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับการสำเร็จพื้นที่เขตพิเศษเลเวล 15 ได้เป็นเขตแรก!
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วทั้งเขต ในฐานะของผู้นำทีมชื่อของเสี่ยวเฟิงนั้นเป้นที่รู้จักไปทั่ว เป็นที่จับตาของของคนต่างๆมากมาย
“หัวหน้าทีมที่ทำได้นี่น่าจะเป็นอันดับ 1 ของเขตสินะ?”
“ต้องใช่อยู่แล้ว! เขามีทั้งอุปกรณ์และเลเวลที่เหนือกว่าทั่วๆไป! แล้วน่าจะมีแค่เขาด้วยมั้งที่สามารถจบภารกิจเลเวล 15 ได้ในเวลานี้!”
“ไม่แปลกใจเลยที่เขตของเราจะสามารถทำได้เป็นเขตแรก! นี่เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่เลยนะเนี่ย! แต่ฉันสงสัยที่เขาปิดบังชื่อของตัวเองเนี่ยสิ? หรือเขาจะใช้ชื่อจริงเล่นเกมนะ”
“ฉันว่าเป็นไปได้นะที่เขาจะเก่งที่สุดในเขตหัวเซียแล้ว… “
“แน่ใจนะ? ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะเก่งไปกว่าเบลดมาสเตอร์นะ”
“ก็เราอยู่กันคนละยุคน่ะนะ ถึงเบลดมาสเตอร์จะเก่งจริงก็เถอะ แต่ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของเขาอีกแล้วล่ะ แล้วอันที่จริงพวกผู้เล่นหอเกียรติยศส่วนหนึ่งก็ไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว แล้วเขาคนนั้นก็เป็นที่รู้จักจากการฆ่าบอสตัวแรกของเกมด้วย…”
“ชื่อทีมของเขาประหลาดดีนะ เห็นบอกว่าเป็นชื่อของร้านค้า? เขาบอกว่าจะเปิดที่เหมืองเทียนหลงแต่ระบบแกลเปลี่ยนยังใช้ไม่ได้เลยนะ”
“ผู้เล่นคนนั้นให้ความช่วยเหลือในการโฆษณา Treasure Pavilion สินะ ฉันมั่นใจแล้วว่าน่าจะไม่ธรรมดาแน่ๆ!”
At the same time, the Treasure Pavilion in the team name also attracted widespread attention and many players deliberately came to Tianlong City to visit this Treasure Pavilion.
“Master Healer, is this Treasure Pavilion the player’s chamber?”
ต่างคนต่างมองมาทาางเสี่ยวเฟิงด้วยความสงสัย
“ใช่แล้ว ฉันอยู่กับเพื่อนฉันน่ะ รีบแบ่งของกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องรีบไปแล้ว” เสียวเฟิงเร่งคนอื่นๆ
“ฮ่าฮ่า ได้เลยๆดูท่าทางรีบน่าดู มีงานต้องทำสินะ? ความสามารถของนายตอนนี้เนี่ยเป็ฯผู้เล่นระดับโปรได้เลยนะเนี่ย!” เหลาซวีที่กำลังเดินมาเก็บของนั้นถามอย่างสบายอารมณ์
แต่ก่อนที่เสี่ยวเฟิงจะตอบคำถามนั้นเขาก็ถูกขัดขึ้นมาซะก่อน
“เห้ย! ไข่ของสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เหรอนั่น? บอสดรอปไข่ของสัตว์เลี้ยง!”
“สมุดสกิล! สกิลระดับหายากด้วย!”
ในตอนที่ทุกคนเห็นของทุกอย่างที่เหลาซวีเก็บมาได้นั้นก็ต่างตกใจกันเป็นแถว
ตอนแรกนั้นพวกเขาเห็นแค่อุปกรณ์ระดับเทพและเหรียญทองอีกนิดหน่อย ซึ่งมันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ของอย่างหลังทั้ง 2 คือไข่สัตว์เลี้ยงและสมุดสกิลนั้นเป็นของล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
อุปหรณ์นั้นถึงดีแค่ไหนก็มีข้อจำกัดมากมาย แต่กับสัตว์เลี้ยงและตำราสกิลนั้นไม่ใช่ มันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และไม่มีทางหาได้ตามตลาดแน่นอน
ไข่สัตว์เลี้ยง (เจ้าแห่งสลามันเดอร์)
ระดับ: ราชา
Effect: หลังจากที่ฟักออกมาจะใช้เป็นสัตว์เลี้ยงได้
Particularity: ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว มันจะหายไปในตอนที่ฟักออกมา
Skill book: ลาวาพิโรธ
Quality: หายาก
ความต้องการอุปกรณ์: คลาสนักเวทย์
Effect: เรียกวิญญาณแห่งลาวา สามารถยิงลูกไฟระเบิดออกไปสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรู 2 เป้า
(ค่าพลังเวทย์ x 50% x เลเวลของสกิล) ศัตรูที่โดนโจมตีจะติดสถานะมึนงง 2 วินาที คูลดาวน์ 1 ชั่วโมงและจะยิงได้ทุกๆ 10 วินาที
สายตาทุกคู่จ้องไปที่ไข่ของสัตว์เลี้ยง มันเป็นของที่อยู่อันดับ 2 ของเขตอย่างแน่นอน!
นักเวทน์ทุกคนตรงนั้นต้องการตำราสกิลกันทุกคน มันเป็นสกิลเดียวกันกับที่บอสใช้ใส่พวกเขา แต่เป็นรูปแบบที่อ่อนลงมาหน่อย ความเสียหายก็ไม่ใช่ 50% ของพลังชีวิต และยังยิงได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น แต่มันก็ยังเป็นสกิลที่ดีอยู่ดี!
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าของที่ดีที่สุดคือไข่สัตว์เลี้ยงนี่ล่ะ เอาล่ะใครจะได้ไปนะ”
เหลาซวีว่า เขาก็แอบอยากได้สัตว์เลี้ยงเหมือนกัน แต่มันอยู่นอกเหนือข้อตกลงเพราะฉะนั้นเขาเลยถอดใจไปอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันขอเริ่มก่อนเลย!”
เสี่ยวเฟิงเดินออกมาพร้อมถูมือไปด้วย ไข่สัตว์เลี้ยงนี่มีมุลค่ามากกว่าของชิ้นไหนๆทั้งนั้น
“ฉันจำได้ว่านายมีสัตว์เลี้ยงระดับเทพอยู่แล้วนี่ แล้วจะเอาสัตว์เลี้ยงระดับราชาไปทำไมอีก?” War Spirit Ziyi came forward and expressed her dissatisfaction and other players also stared at Xiaofeng strangely.
“ฮ่าฮ่า! พอดีว่ามีเรื่องให้ต้องใช้เงินน่ะ แถมก็ไม่ได้ผิดจากข้อตกลงที่ทำไว้นี่”
เสี่ยวเฟิงพูดอย่างคลุมเครือ คนอื่นๆก็ได้แต่มองเขาอย่างไม่มีทางเลือก
“ยอดฝีมือแห่งการรักษาพูดถูกแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถเอามันได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเขาได้ไปล่ะก็ผมจะให้ยืมซัก 10000 เหรียญเพื่อซื้อคืนแล้วกัน”
เหลาซวีพูดขึ้นมาแล้วคนอื่นๆที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก เขาสามารถจัดการเรื่องวุ่ยวายได้ด้วยตัวเอง ทำให้เสี่ยวเฟิงรู้สึกนับถือเขาอยู่ไม่น้อย.
อันที่จริงด้วยผลงานของเสี่ยวเฟิงเขาก็มีสิทธิที่จะพูดแบบนั้นได้ รอบนี้เขารับหน้าที่สำคัญในการจัดการกับบอส ดังนั้นคนอื่นๆก็เลยไม่ว่าอะไรอีก
“งั้นเริ่มกันเลย…”
เหลาซวียังไม่ทันที่จะพูดจบเสี่ยวเฟิงก็ทอยเต๋าออกไปแล้ว แต่ตอนนี้นั้นไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้นแต่โรสนั้นทอยเต๋าออกไปเร็วกว่าเขาซะอีก
ลูกเต๋านั้นหยุดอย่างรวดเร็ว เสี่ยวเฟิงมองอย่างไม่ค่อยพอใจนักที่เขาโดนชิงลงมือก่อน แต่พอเขาเห็นแต้มที่ออกมาเขาก็พูดอะไรไม่ออก
100!
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นคนอื่นๆต่างจ้องแต้มที่ออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ
“นี่? ยอดฝีมือแห่งการรักษา ตาท่านแล้ว”
เหลาซวีต้องเรียกอยู่หลายรอบมากกว่าที่เขาจะรู้ตัวเขาแสร้งปั้นหน้ายิ้มแล้วเก็บลูกเต๋ากลับไปเงียบๆ
“อ่ะฮ่าฮ่า ก็มีของระดับเทพอยู่แล้วของระดับราชาก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วล่ะมั้ง เอาให้คนอื่นๆไปก็แล้วกัน”
เธอได้แต้มสูงสุดไปแล้ว เขาจะเสียเวลาไปแข่งกับเธอทำไมกันเล่า
คนรอบๆต่างจนใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบกระทันหันของเสี่ยวเฟิง
ประกายตาแห่งความพึงพอใจปรากฎบนหน้าของโรส
“ฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก”
คนอื่นๆก็ยอมแพ้ไปด้วยเพราะไม่อยากมาเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ไข่ของสลามันเดอร์จึงตกไปเป็นของโรสอย่างง่ายดาย
โรสมองไปทางไนท์คูเออร์ที่ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรบางอย่างคนถูกมองเห็นอย่างงั้นก็เบือนสายตาไปทางอื่น ว่าแล้วโรสก็เตรียมการที่จะให้ไข่สัตว์เลี้ยวฟักในทันที
รายชื่อของสัตว์เลี้ยงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทันที ตอนนี้ราชาสลามันเดอร์นั้นถูกเพิ่มไปยังอันดับ 2 ของรายชื่อ
ชื่อของโรสนั้นปรากฎเข้ามาในรายชื่อด้วยและไนท์คูเออร์ที่อยู่อันดับ 10 นั้นก็ตกตารางไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาทันทีเพื่อที่จะสร้างชื่อให้กิลด์นั่นเอง
โรสนั้นเรียกสัตว์เลี้ยงออกมาทันทีที่มาฟัก มันยังมีเลเวลที่ 1 โรสอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมแขน ตัวมันเล็กมากและดูน่ารักต่างจากเจ้าตัวที่พวกเขาสู้ด้วยอย่างสิ้นเชิง
เธอไม่ได้เปิดเผยความสามารถใดๆของสัตว์เลี้ยงให้คนอื่นรู้ พวกเขาเลยเลิกที่จะจ้องสลามันเดอร์ตัวนั้นแล้วไปสนใจของอย่างอื่นที่ตกอยู่บนพื้น
“ตำราสกิลนั้นเป็นของนักเวทย์ ส่วนดาบมือเดียวใช้ได้ทั้งนักรบและพาลาดิน ใครที่เข้าเงื่อนไขทอยเต๋าได้เลย”
ทั้ง 3 ชิ้นนั้นเป็นของที่ดีที่สุดที่ดรอปมาได้ 2 ชิ้นนั้นเสี่ยวเฟิงไม่สามารถแย่งได้ เขาเลยให้ความสำคัญกับการแย่งไข่สัตว์เลี้ยงมาก
นักบวชเปลี่ยนคลาสได้ 2 แบบคือพาลลาดินกับผู้กล่าวพิธีกรรม พาลาดินนั้นจะใช้โล่และดาบ ส่วนคลาสของเสี่ยวเฟิงนั้นใช้ไม้เท้าสองมือ เพราะฉะนั้นตามข้อตกลงเสี่ยวเฟิงจึงไม่มีส่วนร่วม
แล้วดาบมือเดียวก็ตกไปอยู่ในมือของพาลาดินแห่งการรักษา ส่วนตำราสกิลอยู่ในมือของนักเวทย์จากกิลด์อื่น
“ต้องขออภัยด้ายท่านยอดฝีมือแห่งการรักษา ของที่เหลือนี้เป็นของท่านแล้วกัน”
เหลาซวีมองไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยความลำบากใจ
เสี่ยวเฟิงนั้นเป็นกำลังหลักในการสู้แต่ค่าตอบแทนของเขานั้นดูไม่คุ้มเท่าไหร่เลย คนอื่นๆก็เห็นด้วยกับเหลาซวีจึงยกของที่เหลือที่พอจะมีค่าบ้างให้เสี่ยวเฟิงไปทั้งหมด
เพราะเสี่ยวเฟิงต้องการเงินเขาเลยรับของระดับราชาไปโดยไม่ได้ว่าอะไร ส่วนของระดับหายากคนอื่นๆก็ต่างเอาไปแบ่งกัน
“ไปกันต่อเถอะตอนนี้ฉันกำลังรีบ.”
เสี่ยวเฟิงเร่งอีกครั้ง พวกเขาจึงรีบออกจากพื้นที่พิเศษโดยไม่รีรอ
“คุณสำเร็จภารกิจพื้นที่พิเศษเลเวล 15 – ถ้ำสลามันเดอร์ ได้รับค่าประสบการณ์ 150000 หน่วย”
ทั้ง 20 คนได้ค่าประสบการ์เท่าๆกัน แต่ยังไม่เพียงพอกับเสี่ยวเฟิงที่ต้องการทั้งหมด 4000,000 เพื่ออัพเลเวล เขาน่าจะเก่งกว่านี้ถ้าเขาทำภารกิจได้ด้วยตัวคนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
เขารีบออกมาจากเกมทันทีหลังจากที่กล่าวอำลาคนอื่นๆ โดยไม่ได้กลับไปที่เมืองหลักด้วยซ้ำ
95
เสี่ยวเฟิงลืมตอนขึ้นมาแล้วก็พบว่าฟ้าสว่างแล้ว
เสี่ยวเฟิงกำลังจะลุกขึ้น แต่ก็ได้ยินอะไรบางอย่างมาจากประตูห้องของตัวเอง ประตูห้องของเขาก็ค่อยๆเปิดออกมาเผยให้เห็นร่างของใครบางคน
ตอนแรกนั้นเธอไม่ได้เดินเข้ามาทันที แต่ชะโงกหน้าเข้ามาดูโผล่มาแค่ดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่งเท่านั้น ทันทีที่เจ้าของดวงตาเห็นว่างเสี่ยวเฟิงเหมือนยังหลับอยู่ เธอจึงเปิดประตูเข้ามาด้วยความโกรธ
“คนใช้ไร้ประโยชน์! ไอ้พี่จอมซกมก! ยังไม่มาทำมื้อเช้าให้อีก! หนูเกลียดพี่!”
เสี่ยวหลิงเพิ่งลุกออกจากเตียงก่อนหน้านี้ ผมสีทองของเธอฟูฟ่องชุดนอนของเธอยุ่งไปหมด เธอขยี้ตาแล้วก็ขึ้นมายืนบนเตียงของเสี่ยวเฟิงแล้วก็เตะใส่ท้องของเขา
“สัญญาไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะดูแลฉันตลอดไปน่ะ! ผู้ชายตอแหล! ไปตายซะ!”
โชคร้ายที่เธอแรงน้อยเกินไป เตะแรงแค่ไหนเสี่ยวเฟิงก็ไม่รู้สึกเจ็บ
“ไอ้พี่งี่เง่า! เห็นเกมสำคัญกว่าหนูสินะ?!”
“ชอบหนีไปกับผู้หญิงอื่นตลอดเลย! หน้าไม่อาย! ทิ้งหนูแล้วสินะ?”
“หนูก็น่ารักนะ! แล้วทำไมยังจะหนีไปหาคนอื่นอีก? พี่มันแย่ที่สุด!”
“ทั้งๆที่อยู่กับหนูก็น่าจะดีที่สุดแล้วแท้ๆ! ถ้าอย่างงั้นล่ะก็…หนู… หนูทำได้ทุกอย่างที่พี่ขอให้ผู้หญิงคนอื่นทำได้นะ!”
เสี่ยวหลิงที่กำลังโกรธจัดทิ้วตัวใส่เสี่ยวเฟิงอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะพบว่าตาของเสี่ยวเฟิงภายใต้หมวกนั้นลืมอยู่
“อะ…! ตื่นมาตอนไหนเนี่ย?”
เสี่ยวหลิงตกใจจนเสียงสั่นแล้วมองไปที่พี่ชายของเธอ
“ก็…ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องเลย”
เสี่ยวเฟิงพูดอย่างจนใจแล้วก็ถอดหมวกออก
“โรคจิต! นี่แอบฟังที่หนูพูดสินะ! ไอ้แมลงโซโครก!”
ใบหน้าของเสี่ยวหลิงแดงก่ำแล้วก็โวยวายออกมา เธอยังคงเตะเสี่ยวเฟิงด้วยแรงน้อยๆของตัวเอง
แต่ที่เดินเหยียบอยู่นั้นมันคือตัวของพี่ชายเธอ ในที่สุดเธอก็เสียสมดุลแล้วล้มลงจนได้ ร่างเล็กร่วงลงจากเตียงหน้าฟาดพื้น
“ว้ายยยยย!”
เสี่ยวหลิงร้องออกมาแล้วหลับตาปี๋
แต่เสี่ยวเฟิงไม่ยอมให้เธอเจ็บแน่ๆร่างของเขาขยับอย่างรวดเร็วลงไปอยู่กับพื้นแล้วรับร่างเล็กๆนั้นมาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง
เสี่ยวหลิงค่อยๆลืมตาแล้วก็พบว่าเธออยู่ในอ้อมแขนของพี่แทนที่จะอยู่บนพื้น เธอไม่ได้ออกจากอ้อมแขนของผู้เป็นพี่กลับกันเธอซุกตัวลงไปในอ้อมแขนของเขาต่อไป
“นี่! ไอ้พี่โง่! ก่อนหน้านี้แกแค่หูแว่ว ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ฉันแค่เข้ามาปลุกแกเฉยๆ เข้าใจไหม?”
“คร้าบๆๆ เช้านี้อยากกินอะไร?” เสี่ยวเฟิงถอนหายใจก่อนจะปล่อยน้องสาวของตัวเอง
“นม ขนมปังงปิ้งกับไข่ลวก”
“นี่ วันที่ต้องกินวิตามินนะ เดี๋ยวเปลี่ยนนมเป็นน้ำมะเขือเทศแล้วกัน”
“หนูเกลียดน้ำมะเขือเทศ…”
“กินไปเถอะน่า”
…
หลังจากมื้อเช้า เสี่ยวหลิงยังคงนั่งดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างเชื่องช้า และเสี่ยวเฟิงก็กลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
เขากลับมาที่พื้นที่พิเศษอีกครั้ง แต่ตอนนี้มีคนยืนอยู่เต็มไปหมดเขาแทบจะกลืนหายไปกับฝูงชน
ตามหุบเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คนรวมทั้งบริเวณหน้าด่านด้วย เต็มไปด้วยคนขายของและนักธุรกิจอยู่เต็มไปหมด แผงขายของเต็มไปด้วยของอย่างยาเพิ่มพลังและใบวาร์ป ถึงจะสามารถซื้อจาก npc ได้เหมือนกันแต่ตอนนี้ร้่นก็แออัดสุดๆ หลายๆคนจึงเลือกที่จะซื้อจากผู้เล่นด้วยกัน เสี่ยวเฟิงนับถือในความหัวใสของพวกพ่อค้าจริงๆ
พวกเขามาที่นี่เพื่อที่จะทำภารกิจพิเศษ – ถ้ำสลามันเดอร์ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นเป้นสมาชิกของกลิด์ใหญ่ๆมากมาย เพื่อนร่วมทีมของเสี่ยวเฟิงนั้นคงมีกลยุทธ์อีกหลายอย่างหลังจากที่พวกเขาทำภารกิจสำเร็จหลังจากที่พวกเขาทำได้สำเร็จแล้ว
แต่เสี่ยวเฟิงรู้สึกเสียใจที่โรสไม่ได้รอเขาที่ทางเข้าของพื้นที่พิเศษ เขาคาดเดาไว้ว่าตอนนี่เขาออกจากเกมตรงนี้แล้วจะถูกลอบโจมตีจากคนของมิตซัมเมอร์ เขาจะได้สวนคืนเธอได้
น่าเสียดายที่โรสไม่ได้ทำเช่นนั้น เป็นไปได้ว่าที่นี่มีคนอยู่เยอะเกินไปหรือไม่ก็ที่นี่ไม่ใช่เขตขอองมิตซัมเมอร์
แต่อันที่จริงโรสก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะเล่นงานเขาในตอนที่เขากลับเข้ามาในเกม แต่ไนท์คูเออร์ห้ามเอาไว้. แล้วก็มิตซัมเมอร์ไม่มีคนมากพอที่จะปิดสถานที่นี้ได้ และคยส่วนมากที่มาอยู่ที่นี่ก็เป็นสมาชิกของกิลด์ใหญ่ๆทั้งนั้นมิตซัมเมอร์ก็คงไม่อยากที่จะสร้างปัญหา
“เสี่ยวจิง คิดว่าหมอนั่นจะสามารถเทียบพวกเราได้ไหม?”
“นี่พูดอะไรเพ้อเจ้อออกมาเนี่ย? ถ้าก่อนหน้านี้ก็คงตอบว่าไม่แหละ แต่ตอนนี้ก็ไม่มั่นใจแล้วล่ะ”
โรสนั้นนิ่งไปส่วนไนท์คูเออร์ก็พูดต่อ
“ในเขตหัวเซียนี่คงไม่มีใครเก่งไปกว่าเขาแล้วล่ะ ฉันเชื่อว่าเขาน่าจะเก่งพอๆกับเบลดมาสเตอร์เลยล่ะมั้ง เขามีเลเวลสูงที่สุดในเขต อาจจะในเซิร์ฟเวอร์ด้วย รู้ไหมว่าเขาเก็บเลเวลยังไง? เขาจัดการมอนสเตอร์เป็นพันตัวในเวลาเดียวกัน!”
“พันตัวในเวลาเดียวกัน? ด้วยตัวเองเลยเหรอ? มอนสเตอร์เลเวลเท่าไหร่? ใช้เวลาไปขนาดไหน?” โรสถามด้วยความประหลาดใจ
“ก็น่าจะจัดการด้วยตัวเองแหละ เขาจัดการพวกมอนสเตอร์เลเวล 20 ใน 5 นาที คงรู้นะว่าหมายความว่าอะไร เลเวลและอุปกรณ์ของเขานั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้ แต่ยังมีอีกอย่างที่สำคัญมาก” ไนท์คูเออร์ว่า
“มันคืออะไร?” โรสทำใจตัวเองให้เย็นลงแล้วพูดต่อ
“เขาจะมีอิทธิพลมากน่ะสิ! ถ้าตามปกติแล้วการที่เราจะไปทำภารกิจในเขตพิเศษ ก็ต้องให้เขามาช่วยเพราะเขาเป็นนักบวช แต่ตามประสบการณ์ในการเล่นเกมของฉันแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาระดับนั้นจะทำให้กิลด์ต่างๆหาทางที่จะเอาเขามาเข้าร่วมภารกิจให้ได้แม้แต่กิลด์ที่เก่งที่สุดอย่างไดย์นาสตี้ก็ตามถ้าเป็นอย่างงั้นถึงมิตซัมเมอร์จะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ความต่างชั้นของเราก็ไดนาสตี้ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆแล้วในวันหนึ่งเราก็คงจะไม่สามารถเทียบได้ และก็ไม่มีเหตุผลให้พวกนั้นไม่ทำแบบนี้ด้วย”
โรสนั้นนิ่งไปโดยไม่พูดอะไรอยู่นาน
“นี่ ฉันเคยถามไปแล้วนะว่า ระหว่างเธอกับไอ้หอกหักนั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วจะจบได้ไหม? ฉันรู้นะว่ามิตซัมเมอร์น่ะมีความหมายกับเธอมากขนาดไหน แต่ถ้าเธอคิดจะไปเป็นศัตรูกับเขา เขาจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เธอไม่มีทางที่จะจัดการได้แน่ๆ แล้วมันก็จะจบลงแบบแย่ๆเหมือนกัน” ไนท์คูเออร์จ้องมาทางโรสแล้วว่าอย่างงั้นเธอต้องการที่จะให้ความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 จบลง แต่เธอไม่รู้สาเหตุของมัน
“ปัญหานี้คงจะไม่มีทางจบลงได้”
โรสพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเธอนั้นแสดงความไร้ชีวิตชีวาอย่างชัดเจน อันที่จริงถ้าเธอยอมรับมันได้ปัญหาก็จบไปตั้งนานแล้ว แต่ด้วยเธอไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้เพราะความทรนงตนของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีวันให้อภัยเสี่ยวเฟิงแน่ๆ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ไนท์คูเออร์ถามด้วยความสงสัย ก่อนที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ แล้วก็ถามต่อด้วยความสงสัยที่พุ่งสุดขีด “ทำไมต้องโกรธเขาขนาดนั้น? ไอ้หอกหักนั่นข่มขื…”
“หุบปากซะ!” โรสนั้นโกรธแล้วก็เบือนหน้าหนีไป
…
เสี่ยวเฟิงดูรายชื่อเพื่อนแล้วพอว่าเฉียนโตวโตวนั้นไม่ได้อยู่ในเกมแล้ว เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็มีข้อความจำนวนมากถูกส่งมาจากเหลาซวีและคนอื่นๆในทีมสำรวจ แต่หลังจะคิดอยู่นานเขาก็เลือกที่จะไม่อ่านมัน
ตอนนี้เขายังทำตามแผนในการหาเงินต่อไป เขาเลือกที่จะเข้าไปยังเมืองเทียนหลงก่อน แล้วก็ไปต่อที่เมืองรกร้างผ่านระบบเคลื่อนย้าย ลึกเข้าไปยังหุบเขากระดูกเพื่อทำภารกิจต่อ
ตอนนั้นเองที่เหลาซวีนั้นเข้าเกมมา เสี่ยวเฟิงจึงข้อความไปหาเพื่อถามวิธีในการเป็นสตรีมเมอร์ เพราะในหมู่คนที่เขารู้จักเหลาซวีดูพึ่งพาเรื่องนี้ได้มากที่สุดแล้ว
“อย่างแรกเลยต้องไปสมัครเป็นสตรีมเมอร์ที่เว็บไซต์หลักก่อนตามขั้นตอน ฉันมีคนรู้จักที่รับทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวติดต่อให้แล้วคุยกับเขาเองเลยนะ นายไม่ใช่คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าหมอนั่นคงจะบริการให้อย่างดีเลยล่ะนะ” เหลาซวีนั้นตอบข้อความทันทีที่เห็น
“ขอบใจมากๆ” เสี่ยวเฟิงตอบแบบง่ายๆ
ไม่เกิน 1 นาที ก็มีข้อความเข้าจากชายที่ชื่อว่าบัตเตอร์ฟลายเขาเป็นนักรบเลเวล 8 เขาเลยได้พูดคุยกันทันที
เจ้าหน้าที่ของเว็บไซต์ทางการรับผิดชอบเฉพาะเนื้อหาของเว็บไซต์หลักเท่านั้น ส่วนการพัฒนาหรือซ่อมแซมระบบนั้นพวกเขาไม่ต้องทำ ไม่แปลกใจที่เจ้าหน้าที่นั้นจะเข้ามาเป็นผู้เล่นด้วย
“คุณยอดฝีมือแห่งการรักษา เดี๋ยวผมจะคอยช่วยเหลือเอง ก่อนอื่นเลยก็ล็อคอินเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของเกม…”
ดูท่าเหลาซวีจะบอกเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อบแล้ว ไม่นานนัก เขาก็มีไอดีและอุปกรณ์สำหรับถ่ายทอดสดของตัวเองแล้ว บัตเตอร์ฟลายช่วยลดขั้นตอนในการยืนยันตัวตนออกไปให้
“หมดแล้วเหรอ?”
เสี่ยวเฟิงดูฟังก์ชั่นการถ่ายทอดสดด้วยความสงสัย เขาสามารถเห็นผ่านหน้าจอได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่แบบทันที ผู้ชมสามารถให้เหรียญทอง แสดงความเห็นได้ แล้วความเห็นนั้นจะปรากฎขึ้นในจอ แล้วยังสามารถดูจำนวนผู้ติดตามฟีดแบ๊คจากสตรีมเมอร์คนอื่นๆได้ด้วย
96
ชูเมิ๋งหยิงมีรูปร่างและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบและทุกคนจะต้องตกอยู่ในเสน่ห์ของเธอ ในช่วงอายุ 20 ปี เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ระดับบประเทศไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอนั้นทั้งงดงามและมีสเน่ห์มากขนาดไหน
ตอนนี้เมิ่งหยิงกำลังเดินไปตามแม่น้ำ แม่น้ำนั้นใสและใบหน้าที่สมส่วนของเธอนั้นสวยเหมือนเทพธิดาที่สะท้อนบนผิวน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สดใสเธอดูเหมือนจะเปล่งประกาย ผู้คนจะตื่นตากับความงามของเธอ
แน่นอนว่านี่เป็นโลกในเกมของมิท
เมิ๋งหยิงชอบโลกใบนี้มาก มันสมแล้วกับการที่เป็นโลกใบที่สองของมนุษย์ ทุกสิ่งนั้นดูสมจริงไปหมดทั้ง แสงแดด ต้นไม้ใบหญ้า แต่ผู้คนไม่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้ได้ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ซึ่งทรัพยากรขาดแคลน
มันช่วยทำให้เธอลืมโลกที่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับดินแดนอันรกร้าง
ตอนนี้การดื่มด่ำกับธรรมชาติยามเช้าเป็นกิจกรรมหลักของเธอไปแล้ว ส่วนการถ่ายทอดสดนั้นเป็นแค่งานอดิเรกธรรมดาๆ
เธอสนุกกับการถูกชื่นชมและปลื้มจากคนอื่น ๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเหนือกว่าคนทั่วไป ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเป็นดาราและกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศติด้วยใบหน้าที่สวยงามเสียงที่น่ารักและรอยยิ้มอันแสนหวานที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก
อย่างไรก็ตามด้วยอิทธิพลของมิททำให้ดาราคนดังไม่ได้รับความนิยมเหมือนเมื่อก่อนมากนัก
แต่เธอนั้นก็ยังโชคดีอยู่บ้างเพราะการถ่ายทอดสดนี่แหละ
นอกจากเธอจะเป็นคนดังแล้วที่มีเสน่ห์และเป็นโฆษกหญิงด้วยของมิทของเขตหัวเซียด้วย ข้อแตกต่างนี้ทำให้เธอเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ตอนนี้เธอมีแฟนๆอยู่เกือบ 60 ล้านคนนับเป็นจุดสูงสุดของเกมนี้แล้วเธอถ่ายทอดสดวันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เช่นเดินเล่นหรือไม่ก็ร้องเพลงนิดๆหน่อยๆเท่านั้นแต่ก็มีผู้ชมมากกว่า 70 ล้านคนเข้าไปแล้ว
การที่เธอเลือกที่จะถ่ายทอดสดตอนนี้เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่ดูเธอจะมีเวลาว่างมากนัก เพราะส่วนมากก็เป็นวัยทำงานไม่ก็นักศึกษากันทั้งนั้น แล้วเหล่าคนที่ไม่ได้เล่นเกมนั้นก็จะดูการถ่ายทอดสดของเธอนั่นเอง
ดังนั้นตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายทอดสดเพราะว่ามีคนดูเยอะนั่นเอง คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะถ่ายทอดสดเวลานี้กันทั้งนั้น
แต่เมิ่งหยิงนั้นไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมาแย่ผู้ชมของเธอไปหรือเปล่า เธอกลับชื่นชมด้วยซ้ำที่พวกเขาไม่ได้สนใจว่าการถ่ายทอดสมพร้อมๆกับเธอที่เป็นถึงอันดับ 2 ของหัวเซียนั้นจะมีผลต่อผู้ชมของพวกเขามากขนาดไหน!
อันที่จริงการที่เธอเป็นที่ 2 นั้นทำให้เธอไม่พอใจอยู่นิดหน่อย เธอไม่สามารถก้าวข้ามอันดับ 1 อย่างเหลาซวีที่มียอดแฟนคลับถึง 80 ล้านได้
เมิ่งหยิงเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นนักวิเคราะห์และนักวางแผนที่มีชื่อเสียงมากในแวดวงของเกม เธอไม่คิดว่าอะไรที่ฟังดูเหมือนพวกข่าวสารของเกมจะมีความน่าสนใจมากกว่าตัวของเธอ
เพราะเหลาซวีกับเมิ่งหยิงนั้นถ่ายทอดสดในเวลาเดียวกันทำให้เธอพลาดโอกาสที่จะเป็นที่ 1 อยู่เสมอๆ ทุกครั้งที่เธอทำการถ่ายทอดสดเธอนั้นหวังอยู่ลึกๆว่าซักวันหนึ่งเธอจะสามารถเอาชนะเหลาซวีแล้วขึ้นเป็นที่ 1 ได้
เหมือนอย่างเคยวันนี้เธอก็ตรวจสอบผู้ถ่ายทอดสด แต่ก็พบความผิดปกติเมื่อเหลาซวีที่ควรจะถ่ายทอดสดทุกๆวันนั้นไม่อยู่ นั่นเป็นเรื่องที่ดีที่คราวนี้เธอจะได้ไปอยู่ที่ 1 บ้าง
แต่เธอเห็นว่าเธอยังอยู่ที่ 2 อยู่ดี ทำให้เธอประหลาดใจมาก
ด้วยความสงสัยเธอจึงเปิดการถ่ายทอดสดที่เธอเห็นอยู่ในอันดับแรก ซึ่งมีชื่อประหลาดมากว่า สตูดิโอไลฟ์ของ xxx
แถมยังต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นผู้ชมมากเป็นประวัติกาลถึง 140 ล้านคน!
มีแฟนคลับถึง 110 ล้าน? ผู้ชมอีกกว่า 140 ล้าน? นี่มันเรื่องอะไรกัน? ระบบผิดพลาดรึยังไงกัน?
…
“นี่เหลาซวี! ช่วยรีบๆเริ่มซะทีเถอะ! เราอยากรู้เรื่องราวที่คุณสามารถพิชิตถ้ำสลามันเดอร์ได้!”
เมื่อชั่วโมงก่อน เหลาซวีที่เป็นคนวางแผนในการโจมตีถ้ำสลามันเดอร์ได้เข้ามาหาทุกคน เขาถูกผู้ชมทุกคนรัวคำถามใส่อย่างไม่ยั้งถึงเหตุการณ์ในการต่อสู้ที่ถ้ำสลามันเดอร์ ทีมที่เขาเข้าร่วมนั้นสามารถทำภารกิจได้สำเร็จเป็ฯที่แรกในเขตหัวเซีย พวกเขาเชื่อว่าอัตราความสำเร็จของผู้เล่นในเขตหัวเซียจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนหากได้รู้กลยุทธ์ที่เหลาซวีใช้
ดังนั้นการถ่ายทอดสดนี้จึงมีผู้ชมมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ฮ่าฮ่า อันที่จริงก็อยากจะพูดอยู่อ่ะนะ แต่ว่าวันนี้ไม่ได้หรอก วันนี้แค่มาแนะนำยอดฝีมือหัดสตรีมน่ะนะอย่าลืมซัพพอร์ตเขาด้วยล่ะ” เหลาซวีส่ายหัวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“หะ? งั้นทำไมวันนี้ไม่สตรีมเองล่ะ? แล้วเราจะรู้วิธีการของนายได้ไง?”
“ใช่ๆ! ทีมฉันตายเรียบไป 3 รอบแล้วนะ! แม้แต่บอสตัวแรกยังฆ่าไม่ได้เลย!”
“เราอยากจะรู้มากกว่าว่าคนที่นายแนะนำเป็นใครถึงขนาดว่านายต้องหยุดสตรีมเพื่อที่จะมาแนะนำให้พวกเรารู้จักเนี่ย ถ้าพูดถึงยอดฝีมือล่ะก็ งั้นเบลดมาสเตอร์สินะ?”
“ฮ่าฮ่า ถ้าเป้นเขาคงไม่ต้องแนะนำหรอกมั้ง ก็ดังจะตายอยู่แล้วนี่นา คนที่แนะนำเนี่ยเป็นหนึ่งในทีมของฉันเองแถมยังทำผลงานที่โครตจะเจ๋งเอาไว้ด้วยอีกอย่างเขาก็เป็นคนที่จัดการทุกอย่างเองคงพูดได้ดีกว่าที่ฉันจะพูดน่ะนะ” เหลาซวีจงใจทำให้พวกเขาคาดเดากันเอง
“งั้นเป็นใครล่ะ? พาลาดินแห่งการรักษาก็เป็นสตรีมเมอร์มานานแล้ว งั้นคงเป็นไนท์คูเออร์ไม่ก็นักธนูอายุ 17 ล่ะมั้ง?” ตอนนี้ผู้คนต่างอยากรู้คำตอบแล้ว
“งั้นใบ้เพิ่มให้ก็แล้วกนนะ ตอนนี้เขาติดอันดับ 1 ในทุกๆตารางของเขตหัวเซียไปแล้ว ฉันเชื่อว่าพวกนายคงจะเคยได้ยินกันมาแล้ว” เขาว่าต่อด้วยรอยยิ้ม
“งั้นก็เป็นเขาจริงๆงั้นเหรอ! ยอดฝีมือนิรนาม! ผู้เล่นที่เก่งที่สุดของเขตหัวเซีย! แล้วเป็นกัปตันทีมสำรวจด้วย!”
“ใช่ๆ ตอนนี้ทุกคนต่างอยากรู้ว่าตัวจริงของผู้เล่นปริศนาคนนั้นสินะ? วันนี้เขาจะมาบอกพวกนายด้วยตัวเอง เอาไว้ตอนนั้นก็ค่อยยิงคำถามใส่เขาไปในครั้งเดียวเลยก็แล้วกันนะ แล้วตอนนี้เขาก็พร้อมแล้ว งั้นไปก่อนล่ะเจอกันในฐานะผู้ชมนะ” เหลาซวีว่าเสร็จก็ปิดการถ่ายทอดสดไปเลย
“เห้ยเดี๋ยวดิ! แล้วเราจะไปดูเขาได้ที่ไหนล่ะเห้ย? พวกเราก็อยากดูนะ!”
ด้วยชื่อเสียงที่มากล้นของเหลาซวี ทำให้ผู้คนจำนวนมากติดตามมาที่การถ่ายทอดสดที่เตรียมไว้ จากการบอกแบบปากต่อปาก อีกอยา่งชื่อของผู้เล่นนิรนามคนนั้นอยู่ในประกาศของเซิร์ฟเวอร์แทบจะทุกครั้ง เสี่ยวเฟิงที่เพิ่งจะถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรกมียอดผู้ชมและการแสดงความคิดเห็นที่มากอย่างมหาศาล
“ว๊าว! นี่คือการถ่ายทอดสดของยอดฝีมือนิรนามสินะ! เขาหล่อเหมือนกันนะเนี่ย!”
“ทำไมถึงเลือกใช้ชื่อ xxx ล่ะ? ฉันจำได้ว่าในเกมนี้ใช้ชื่อเป็นสัญลักษณ์ไม่ได้นี่นา”
“เจ๋งสุดๆเลย! บอกข้อมูลของอุปกรณ์และสัตว์เลี้ยงได้ไหม! ฉันอยากจะเห็นน่ะ!”
“ใช้ไอดีใหม่ใช่ไหม? คงจะเป็นผู้เล่นของหอเกียรติยศในเกมก่อนหน้าสินะ!”
“เจ๋งสุดๆไปเลยพวก! จัดการบอสตัวแรกของเกม! เปิดโซนพิเศษและเปลี่ยนคลาสคนแรก แถมยังสำเร็จโซนพิเศษเลเวล 15 ได้ด้วย! ค่าชื่อเสียงของพวกเรานำขาดเขตอื่นๆก็เพราะนายเลยนะเนี่ย!”
“ไปเปลี่ยนคลาสและคลาสลับที่ไหนน่ะ?แล้สสามารถรับภารกิจได้อีกไหม?”
“ใช้คลาสนักบวชเก็บเลเวลได้ไงน่ะ? คลาสนี้ลำบากในการสู้กับบอสมากเลย!”
“รับลูกศิษย์ไหม? ฉันรับรองว่าจะไม่เป็นตัวถ่วงเลย! แค่ช่วยตอบคำถามนิดๆหน่อยๆก็พอ! ฉันช่วยคุรได้แน่ๆ!”
“ต้องการเข้าร่วมกิลด์ของเราไหม? ฉันเป็นหัวหน้านายสามารถเป็นรองหัวหน้าได้เลยนะ!”
“มีแฟนรึยังจ๊ะเธอ? ฉันว่าพวกเราดูเข้าขากันดีนะ! ช่วยตอบรับด้วยนะ!”
…
ตอนนี้เสี่ยวเฟิงมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากข้อความจำนวนมากที่ลอยขึ้นมาไม่ขาดสาย
ดูท่าว่าเสี่ยวเฟิงนั้นจะสบประมาทชื่อเสียงที่ตัวเองมีในเขตหัวเซียมากเกินไปหน่อย ถ้าตอนนี้เขาไปเปิดเว็บไซต์ของเเกมล่ะก็เรื่องกว่าครึ่งของทั้งหมดคงจะมีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน
อีกอย่างตอนนี้เหลาซวีนั้นไม่ได้สตรีมอยู่ เพราะฉะนั้นแล้วคนจำนวนมากย่อมไหลเข้ามาหาห้องของเสี่ยวเฟิง แถมยังมีข่าวที่เล่ากันเกี่ยวกับตัวเขาอีกทุกอย่างนั้นมันลงตัวไปหมด
ตอนนี้หัวข้อข่าวที่ดังที่สุดก็คือหัวข้อข่าวเกี่ยวกับตัวเขาเอง ว่าตอนนี้เขากำลังทำการถ่ายทอดสดอยู่ซึ่งเกือบทุกคนนั้นก็มีไอดีอยู่เว็บไซต์หลักก็ต้องรู้ข่าวครั้งนี้อยู่แล้ว
“รอแป๊ปนึงนะ พอดีว่ายังใช้ฟังก์ชั่นไม่ค่อยเป็น”
เสี่ยวเฟิงก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นที่รู้จักขนาดนี้ เขาเคยปิดระบบข้อความเพื่อที่จะได้มองเห็นตัวเองอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่สามารถอ่านคอมเม้นได้เหมือนกัน เพราะว่ามันเยอะมากจริงๆ
ตามปกติแล้วเขตหัวเซียมีคนมากกว่า 500 ล้านคน และกว่า 80 ล้านคนนั้นเลือกที่จะติดตามเสี่ยวเฟิงในทันที และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเกือบจะถึง 100 ล้านแล้ว!
และต้องขอบคุณทางโทรทัศน์ของเกมที่ทำให้เขามีคนดูเพิ่มอีกกว่า 10 ล้านคน
“ผู้กำกับครับ! นี่มันปรากฎการณ์ของโลกเกมเลยล่ะครับ!”
มิทมีสถานีโทรทัศน์พิเศษและมันแสดงให้เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับเกมนี้รวมถึงโฆษณาชวนเชื่อในเกมวิดีโอข้อมูลปล่อยเครื่องเล่นเกมและบทสัมภาษณ์คนดังต่างๆ ผู้เล่นดูช่องนี้อยู่เสมอ แต่ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาประตูของสำนักงานผู้อำนวยการในอาคารของสถานีนี้ถูกผลักโดยคนในความตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมดูรีบร้อนขนาดนั้น? ในฐานะที่เป็นคนคุมที่นี่เจออะไรก็อย่างทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ไหม อยากจะพูดอะไรกันแน่? มีปัญหาอะไรกับระบบรึไง? โนอาไม่เคยมีปัญหานี่”
ผู้กำกับที่ศีรษะล้านมีประสบการณ์และมีความรู้มากกว่า เขาหยิบถ้วยน้ำชาและจิบ
“ไม่ๆ! คุณบอกให้ผมจับตาดูผู้เล่นปริศนาคนนั้นไว้ไม่ใช่เหรอครับ? ตอนนี้เขาเริ่มการสตรีมแล้วครับ! ใน 1 ชั่วโมงมีผู้ชมกว่า 90 ล้านคนไปแล้วครับ!”
ชาของผู้กำกับในปากของเขาถูกพ่นออกมาบนโต๊ะและเขาก็ตัวเด้งขึ้นมาจากเก้าอี้
“เร็วเข้า! รีบทำการแพร่ภาพออกไปเร็ว! นี่เป็นโอกาสดีที่จะเพิ่มเรตติ้งแล้ว!”
ผู้กำกับรู้ดีกว่าการที่มีผู้ชมจำนวนมากขนาดนั้นหมายความว่าอะไร! เขาจะต้องมีแฟน ๆ มากกว่า 90 ล้านคน! หากสตรีมมีแฟน 90 ล้านคนมันน่าอัศจรรย์ ที่แฟน ๆ ครึ่งหนึ่งของเขาซึ่งเป็นผู้เล่น 45 ล้านคนสามารถดูสตรีมสดของเขาได้ในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นลึกลับคนนี้ต้องสร้างจุดสูงสุดใหม่!
ผู้เล่น 90 ล้านคนกำลังดูการถ่ายทอดสดในเวลาเดียวกัน! สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ในหัวเซียมีเพียงงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นที่สามารถดึงดูดผู้คนได้มากมายขนาดนี้!
สิ่งนี้บ่งชี้จากอีกแง่มุมหนึ่งว่ามิทซึ่งเป็นโลกที่สองได้ค่อยๆเพิ่มผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริง
บางทีคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ที่กำลังดูการถ่ายทอดสดเป็นเพียงแค่ดูความสนุกและพวกเขาอาจไม่สนใจในเกมแต่ผู้กำกับไม่สนใจประเด็นนี้และสิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือการตัดสินใจของเขาต่อไปนี้จะสร้างสถานีโทรทัศน์อันดับสูงสุดใหม่!
97
ภายใต้ผลรวมของหลายๆอย่างเมิ่งหยิงเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นบุคคลที่น่ากลัวเมื่อเธอเข้าไปดูการถ่ายทอดสดของเสี่ยวเฟิง
เขามีคนติดตามมากกว่า 100 ล้าน เลยคนที่ดูอยู่ยังมากกว่านั้นอีก!
เกมนี้อยู่ภายใต้การดูแลของโนอา ซึ่งหมายความว่าตัวเลขที่น่าหวาดหวั่นนี้ไม่ได้เกินจริง
เมิ่งหยิงนั้นก็ตะลึงไป ถึงเธอมีแฟน ๆ มากกว่า 60 ล้านคน แต่มีผู้เล่นราวๆ 30 ล้านคนเท่านั้นที่ดูการถ่ายทอดสดของเธอในเวลาเดียวกัน แต่เสี่ยวเฟิงนั้นกลับมีผู้ชมมากกว่าเธอกว่า 4 เท่า!
นอกจากนี้เมิ่งหยิงก็มั่นใจว่านี้เป็นสตูดิโอใหม่ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะรู้จักมันดีแล้ว มันเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นและทำได้ง่ายกว่าสตูดิโอสดของเธอ แต่เธอไม่เคยได้ยินชื่อของมันจนกระทั่งวันนี้!
ดังนั้นใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของเมิ่งหยิงก็แข็งค้างแล้วพอเธอมองไปยังเจ้าของการถ่ายทอดสดก็พบว่าเป็นชายหนุ่มธรรมดาๆ เธอก็ช็อกอีกรอบจนต้องกลั้นหายใจ
“เหลาซวีให้ 1000 เหรียญทองเพื่อสนับสนุนคุณ เขาหวังว่ายอดฝีมือแห่งการรักษาจะสามารถถ่ายทอดสดได้อย่างราบรื่น!”
“คราวน์ปริ้นซ์ให้ 2000 เหรียญทอง! กิลด์ไดนาสตี้เชื่อว่ายอดฝีมือแห่งการรักษาจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นทั่วโลก!”
“วอร์สปิริตไนฟให้ 2000 เหรียญทอง! วอร์สปิริตฮอล์ขอแสดงความยินดีให้กับการถ่ายถอดสดครั้งแรก!”
“บราเทอร์ไนล์ออฟกลอรี่ให้ 1500 เหรียญทอง! ในนามของกิลด์กลอรี่ ขอให้ท่านยอดฝีมือแห่งการรักษาประสบความสำเร็จในการทำงาน! ทุกคนที่สร้างความเดือดร้อนจะเป็นศัตรูของกิลด์กลอรี่ของเรา!”
“เฟิงหยุ่นฉีชาให้ gives 800 เหรียญทอง! กิลด์เฟิงหยุ่น…”
“อิมมอทัลก็อตให้ 1000 เหรียญทอง!อิมมอทัลไดนาสตี้…”
“ทอจ์ทไอซ์ซอร์ตให้ 500 เหรียญทอง! ทอจ์ทแมนอาลิแอล์ซ…”
…
หากผู้เล่นส่งของขวัญให้สตรีมเมอร์ที่มีมุลค่าสูงกว่าหนึ่งเหรียญทอง ข้อความจะปรากฎขึ้นบนสตรีม โดยข้อความแบบนี้ไม่สามารถบล็อกได้
ในตอนนี้ หน้าการถ่ายทอดสดของเสี่ยวเฟิงเต็มไปด้วยข้อความการให้เหรียญทองจำนวนมากราวกับว่าพวกเขานัดกันเอาไว้
ดวงตาอันงดงามของเมิ่งหยิงเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อเธอจ้องมองที่ตัวเลขสีแดงและเหล่าผู้ที่ให้เหรียญทองกับเสี่ยวเฟิง
โดยเงินที่เขาได้นั้นมีค่าสูงมากๆ ค่าแลกเปลี่ยนของเหรียญทองไปเป็นเงินจริงนั้นจะอยู่ที่ 1 ถึง 100 หมายความว่าการให้เงินสตรีมเมอร์ 1000 เหรียญทองนั้น เท่ากับการให้เงิน 100000 หยวน!
ยิ่งกว่านั้นถ้าระบบแลกเปลี่ยนใช้งานได้เมื่อไหร่ ค่าของเหรียญทองก็จะสูงขึ้นอีก!
เมิ่งหยิงเหลือบมองไปที่รายชื่อแฟนของเธอ ในฐานะสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียง เธอมีรายชื่อแฟนๆที่น่าประทับใจ ระดับท็อป 10 ของแฟนๆทุกคนให้เธอมากกว่า 100 เหรียญทอง อันดับ 1 คือบราเทอร์ไนน์ออฟกลอรี่ที่ให้เธอมากกว่า 1,000 เหรียญทอง นี่เป็นผลงานที่ดีที่สุดของเธอตั้งแต่เธอเริ่มสตรีมสดในมิทแล้ว
แต่สำหรับเสี่ยวเฟิงแล้วคนที่มีอันดับต่ำสุดก็ให้มามากกว่า 1000 เหรียญทองแล้ว ในทางตรงกันข้ามรายชื่อแฟน ๆ ของเธอดูด้อยลงไปเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งหยิงรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งกับชื่อเสียงของแต่ละคนที่ดูการสตรีมนี้ เธอจ้องไปที่หน้าจอที่มีข้อความนับไม่ถ้วนแล้วก็พูดไม่ออก
การที่เธออยู่ในเกมนี้เธอย่อมรู้จักเหล่าคนดังของเขตหัวเซียเป็นอย่างดี อย่างบราเทอร์ไนน์ออฟกลอรี่ หัวหน้ากิลด์กลอรี่ ที่เป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดทางใต้และยังเป็นแอดมินของเธอด้วย
เพราะว่ารู้ดีด้วย เธอถึงได้รู้สึกตะลึงมาก ชื่อของคนจำนวนมากที่ปรากฎขึ้นมาเป็นสมาชิกของกิลด์ใหญ่ของเขตหัวเซียกันทั้งนั้น!
อย่างไดนาสตี้ที่เป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดของเขตหัวเซีย หรือกลอรี่ยิ่งกว่านั้นแอดมินของเธอยังให้เงินกับสตรีมเมอร์มือใหม่นั่นกว่า 1500 เหรียญทองด้วย ซึ่งเยอะกว่าที่เขาให้เธอซะอีก
เหรียญของนั้นเป็นของที่สำคัญมากในการจัดการเรื่องต่างๆของกิลด์ เมิ่งหยิง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะเอาเงินของกิลด์มามอบให้กับสตรีมเมอร์หน้าใหม่แบบนี้!
เมิ่งหยิงจึงสงสัยว่าสตรีมเมอร์คนนั้นเป็นใครกันแน่? ทำไมเขาถึงได้รับความสนใจจากคนในเขตหัวเซียมากขนาดนี้?
เมิ่งหยิงจึงตั้งใจดูการสตรีมของเสี่ยวเฟิงอย่างไม่วางตา
แน่นอนหนึ่งในเหตุผลคือเธอก็ได้รับผลกระทบจากการสตรีมของเสี่ยวเฟิง แฟน ๆ ของเธอส่วนใหญ่สนใจเสี่ยวเฟิงมากทำให้มีผู้ชมสตรีมของเธอแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น
แต่เสี่ยวเฟิงรู้สึกกังวลและร้อนใจมากในเวลานี้ เขาไม่คาดคิดว่าคนจะเยอะมากขนาดนี้ ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด แม้แต่ข้อคววามยังซ้อนทับกันเยอะมากจนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีข้อความอะไรบ้าง.
“สตรีมไม่สะดวกเลยแหะ”เสี่ยวเฟิงพูดพึมพำ แต่เขากำลังสตรีมอยู่ในขณะนี้ดังนั้นทุกคนได้ยินสิ่งที่เขาพูดทันที
“อย่าเพิ่งยอมแพ้เซ่!”
“ใช่ๆ! ใหม่ๆก็ลำบากแบบนี้แหละ! อย่าเพิ่งยอมแพ้!”
เหล่าคนที่กำลังรอเสี่ยวเฟิงพูดนั้นต่างรู้สึกตื่นตระหนก ถึงจะมีคนอยู่เป็นจำนวนมากแต่กว่าครึ่งถูกดึงดูดด้วยชื่อของผู้เล่นปริศนา อย่างไรก็ตามพวกผู้เล่นต่างสนใจเสี่ยวเฟงมากและพวกเขากำลังรอให้เขาเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ ท้ายที่สุดแล้วเสี่ยวเฟิงต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องที่จะต้องพูดวันนี้อยู่ซักพัก
“เอาหล่ะ พวกนายอยากรู้อะไรบ้าง?”
เสี่ยวเฟิงยอมแพ้แล้วถอนหายใจออกมา เขาเดินออกมาด้านหน้าแล้วพูดกับผู้เล่นทุกคนในที่สุด
เสี่ยวเฟิงมีความสุขหลังจากพบว่ามีเหรียญทองคำมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาคิดถูกที่ไม่ละทิ้งโอกาสในการหารายได้นี้
“ท่านยอดฝีมือเป็นอดีตผู้เล่นของหอเกียรติยศใช่ไหม? แล้วมีเลขของไอดีก่อนหน้าไหม?”
มีผู้ชมจำนวนมากเกินไปและเสี่ยวเฟิงไม่สามารถแม้แต่จะเห็นคำถามทั้งหมด เขาจึงตอบคำถามที่คนส่วนมากให้ความสนใจกับมัน
“หอเกียรติยศ? เคยได้ยินมาอยู่บ้างแต่ขอโทษด้วย ผมเป็นมือใหม่ที่เล่นเกมนี้เป็นเกมแรกเลยน่ะนะ” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างง่ายๆ
แต่หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำตอบนั้นก็อึ้งไป
มือใหม่?
ผู้คนที่กำลังดูสตรีมอยู่นั้นต่างพากันพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทำปากพะงาบๆโดยไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมา
“ได้คลาสลับมาได้ยังไง? แล้วทำสำเร็จได้ยังไง? จะไปรับภารกิจได้ที่ไหน?”
คำถามที่สองนั้นเป้นคำถามเกี่ยวกับที่มาของคลาสลับของเสี่ยวเฟิง
“มันไม่ใช่ภารกิจลับอะไรหรออก มะนเป็นเหมือนภารกิจเนื้อเรื่องซะมากกว่า” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างไม่มั่นใจ “ตอนนี้สามารถรับภารกิจได้ที่วิหารแห่งแสงที่อยู่ในเมืองหลักของทุกเมือง แต่ตอ้งทำภารกิจให้ npc พอใจก่อนน่ะนะ ถึงจะสามารถรับคลาสลับได้”
ทุกๆคนต่างตกใจกันอีกรอบ! ภารกิจเนื้อเรื่อง! ไม่แลกใจเลยที่คนตรงหน้าจะนำคนอื่นไปหลายก้าว!
แต่หลังงจากที่ได้ยินเช่นนั้นกลับทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีก นี่เป็นข้อมูลที่มีค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาแน่ๆ
“ช่วยบอกคุณสมบัติของคลาสลับให้พวกเราได้ไหม? แล้วเรายังสงสัยกับอุปกรณ์และสัตว์เลี้ยงด้วย!”
คำถามที่สามไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แต่คนส่วนใหญ่ก็สงสัย ผู้เล่นบางคนต้องการซื้ออุปกรณ์และสัตว์เลี้ยงระดับสูง แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้
“โทษทีนะ บอกไม่ได้” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างไม่ลังเล
ต่างคนต่างพูดไม่ออกแต่พวกเขาก็รับได้ในคำตอบ เลยไม่มีใครจี้ให้เสี่ยวเฟิงตอบคำถามนี้อีก
เสี่ยวเฟิงถูกถล่มโดยคำถามจำนวนมาก ขอเป็นศิษย์บ้าง ขอเป็นแฟนบ้าง บ้างก็ขอให้เข้าร่วมกิลด์ก็มี
ในที่สุดเสี่ยวเฟิงก็สะสางคำถามที่มาจากกิลด์ใหญ่ๆหรือผู้เล่นระดับสูงจนหมด
“ถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีมสำรวจแล้วสามารถทำภารกิจของถ้ำสลามันเดอร์ได้ งั้นคุณก็วางแผนด้วยตัวเองใช่ไหม”
ถึงบางคนจะไม่สามารถเข้าไปยังเขตเลเวล 15 ได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยากจะลองท้าทาย ถึงจะไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จได้ แต่ก็หวังรางวัลจากการจัดการบอสซักตัว 2 ตัว
“ก็มีแผนการอยู่บ้าง ผมสามารถบอกสกิลของบอสและวิธีรับมือให้ได้ ส่วนพวกมอนสเตอร์ลูกน้องคงจัดการกันเองได้นะ”
แผนการพวกนั้นไม่จพเป็นต้องปกปิดอยู่แล้ว เสี่ยวเฟิงกระแอมอยู่ 2 – 3 ทีก่อนจะสาธยายออกมาอย่างละเอียด
และการสตรีมก็เงียบในเวลานี้ ทุกคนฟังอย่างตั้งใจและผู้เล่นบางคนบันทึกเสียงไว้เลยด้วยซ้ำ
“บอสตัวแรกคือสลามันเดอร์บรรพกาล สู้ด้วยไม่ยากเท่าไหร่แต่จะตึงมือกับแนวหน้าอย่างมาก เพราะการโจมตีส่วนใหญ่ของบอสรวมทั้งสกิลต่างๆเป็นการโจมตีในระยะใกล้ ถ้าสามารถต้านไว้ได้ ก็สามารถจัดการได้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งรับความเสียหายมากเกินไปนะเดี๋ยวจะตายซะก่อน”
“ผู้เล่นแถวหลังจะต้องยืนห่างๆกันเอาไว้ บอสนั้นจะพุ่งโจมตีใส่ผู้เล่นในแนวหลังด้วย ถ้ายืนห่างๆกันจะหลบได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตามจะมีท่าระเบิดลูกไฟด้วย ผู้เล่นระยะไกลห้ามเข้าใกล้มันเด็ดขาดระวังให้ดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นแรงมากเลย”
ผู้เล่นเกือบทั้งหมดที่ดูการถ่ายทอดสดกำลังทำบันทึกเพื่อไม่ให้พวกเขาพลาดรายละเอียดใด ๆ
“ตัวที่สองคือพฤกษาเวทย์เพลิง บอสจะไม่เคลื่อนไหวเลย โดยจะโจมตีใส่ทุกคนที่อยู่ในระยะ ถ้าถอยออกมาห่างก็จะไม่โดนโจมตี แต่บอสก็มีการโจมตีระยะไกลใส่ผู้เล่นแนวหลังด้วย เพราะงั้นให้ระหัวพวกรากไม้ที่จะพุ่งขึ้นมาโจมตีจากพื้นให้แนวหน้าคอยปกป้องผู้เล่นแนวหลังที่คอยทำความเสียหาย พวกรากนั้นมีพลังป้องกันที่ต่ำมากเพราะฉะนั้นให้โจมตีตรงนั้นเป็นหลัก”
“แล้วบอสมีท่ามากมายอย่างดีบัฟที่ทำให้พลังชีวิตลดลงเรื่อยๆในตอนที่โดนโจมตี ต้องใช้สกิลชำระล้างในการแก้เท่านั้นไม่งั้นอาจจะตายได้เลย”
“แล้วบอสจะโจมตีหมู่ในตอนที่พลังชีวิตเหลือ 50% โดยโจมตีด้วยรากพันธนาการ 3 รอบถ้าโดนโจมตีแล้วครั้งหนึ่งจะไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งต่อๆไปได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้โดนจับได้เด็ดขาด”
“หรือจะบังคับให้บอสใช้ท่าแล้วทุกคนก็หนีออกไปจากห้องนั้นก็ได้ แล้วทิ้งคนที่มีพลังป้องกันสูงๆคอยถ่วงเวลาเอาไว้พอการโจมตีจบก็ค่อยกลับเข้ามา แน่นอนถ้าทำงานร่วมกันได้ดีพอก็ไม่ยากเท่าไหร่”
“บอสยังมีสกิลอีก 2 อย่างคือการเรียกลูกน้องออกมาช่วยสู้ มันจัดการไม่ยากเท่าไหร่ แต่อีกอย่างคือการดูดพลังชีวิตของผู้เล่นจากการโจมตี”
“ร่างสุดท้ายจะมี 3 สกิลคือการเรียกลูกน้องที่บอกไปก่อนหน้านี้ การโจมตีด้วยรากตอนนี้จะสามารถดูดพลังชีวิตได้ และที่สำคัญที่สุดบอสสามารถดูดพลังชีวิตจากลูกน้องที่มันเรียกออกมาได้ด้วย”
“โดยลูกน้องที่ถูกเรียกออกมาจากเยอะตามจพนวนของคนที่สู้ด้วย ดังนั้นถ้าบอสจะใช้สกิลนั้นควรจะเหลือผู้เล่นเอาไว้น้อยๆจะดีกว่า บอสจะใช้สกิลนี้ตอนพลังชีวิตเหลือราว 20% และ 10%”
และบอสตัวสุดท้ายนั้นยากที่สุด มีท่าโจมตีทั้งฉากที่สามารถฆ่าคนที่โดนเข้าไปได้ในชั่วพริบตา…”
98
การสตรีมครั้งแรกของเสี่ยวเฟิงนั้นกินเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเพราะเขาคิดว่ามันซับซ้อน
แต่กลับเป็นที่แพร่หลายในอินเตอร์เน็ตอย่างมาก
ในเวลานั้นผู้เล่นทุกคนไปที่เมืองเฉิงฉุยจนเต็มเมืองทันที ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่รังของซาลาแมนเดอร์ ด่านหน้านั้นตอนนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
เนื่องมาจจากที่อยู่ของโซนพิเศษนั้นถูกเปิดเผยโดยเสี่ยวเฟิงไปแล้ว ซึ่งผู้เล่นทุกคนของเขตหัวเซียนั้นสนใจเป็นอย่างมาก
ดังนั้นแม้ว่าจะยังคงอยู่ในตอนเช้า แต่การเคลื่อนย้ายทางไกลของเมืองเฉิงฉุยไม่เคยหยุดแม้แต่วินาทีเดียว ผู้เล่นนับไม่ถ้วนมาที่เมืองเพื่อรับอินสแตนซ์โซนและเมืองก็เต็มไปด้วยผู้คนในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ในขณะเดียวกันการสตรีมเพียงหนึ่งชั่วโมงของเสี่ยวเฟิงก็เป็นที่พูดถึงไปในเว็บไซต์ทางการอย่างกว้างขวาง ในเวลานั้นผู้เล่นระดับสูงลึกลับในชุดแฟชั่นเป็นที่รู้จักของผู้เล่นทุกคนของเขตหัวเซีย
ในการสตรีมสดของเสี่ยวเฟิงได้อันดับที่หนึ่งของรายการ แม้ว่าเขาจะออกจากระบบไปแล้ว แต่จำนวนลูกศิษย์ของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีจำนวนมากกว่า 12 ล้านคนซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของเหลาซวีซึ่งเป็นอันดับต้น ๆ ของรายการ
วอร์สปิริตฮอล์น่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นฉากที่สร้างโดยเสี่ยวเฟิงเนื่องจากเมืองเฉิงฉุยเป็นดินแดนของพวกเขา
วอร์สปิริตสกายหัวเราะออกมาอย่างหนักและดูเหมือนว่าเขาจะคาดการณ์ได้ว่าการพัฒนาวอร์ฮอล์ ครั้งต่อไปจะราบรื่นเพียงใดโดยการดูเมืองเฉิงฉุยที่รู้จักกันดีและสายตาอันยิ่งใหญ่ที่ผู้คนต่างเต็มไปด้วยถนนทุกสาย
แต่ความขัดแย้งนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้หากมีผู้เล่นมากเกินไปในเกมและสมาชิกของกิลด์บางคนก็เริ่มสร้างสภาพแวดล้อมของเมืองเฉิงฉุย มันก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนใจเมืองที่อยู่ในใจกลางของโลกในชั่วข้ามคืน
แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการจัดการโดยวอร์สปิริตฮอล์ดังนั้น สกายจึงทั้งตื่นเต้นและสับสน จากนั้นเขาก็หายไปหลังจากทักทายเซี่ยวเฟิงในการสตรีมสดเพราะเขาจะไม่มีเวลาติดต่อกับเขาอีก
และตอนนี้เสี่ยวเฟิงก็กำลังเดินทางไปยังภูเขาอีกครั้งและทำภารกิจของเมืองเทียนหลงให้สำเร็จ มิฉะนั้นเขาจะรู้สึกแย่ถ้าเขาไม่สามารถหาที่ตั้งร้านได้เพราะเขาลงทุนไปกับการโฆษณามาก
ไนท์คูเออร์ก็หยุดที่จะไปไหนมาไหนกับเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เสี่ยวเฟิงต้องการเพราะเธอชอบมีปัญหากับเขาและมันจะสะดวกกว่าที่จะเดินทางคนเดียว
“ทำไมการเกิดใหม่ใช้เวลานานจัง”
ในหุบเขาเดียวกันเสี่ยวเฟิงพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นทหารโครงกระดูกที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ยอมเสียสละผลประโยชน์เล็กน้อยและยังคงทำการจัดการทหารโครงกระดูก
เดินต่อไปผ่านกองทัพโครงกระดูกที่เขาเห็นกับ ไนท์คูเออร์ครั้งที่แล้ว เสี่ยวเฟิงได้ค้นหาบนภูเขาสีขาวและในที่สุดก็พบบางสิ่งที่ด้านหลังของสันเขา.
มันเป็นร่างของคนที่ตายเมื่อไม่กี่วันก่อน เขายังไม่ได้ไปเกิดใหม่ ดูแล้วเขาน่าจะมาทำภารกิจแถวๆนี้
แล้วเขาก็ยิ่งมั่นใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นชื่อของอีกฝ่าย—— นักรบนำทาง
เขาเป็นเป้าหมายสำคัญของปรมาจารย์แห่งเมืองเทียนอัน แต่โชคไม่ดีที่เขาตายไปแล้ว
เสี่ยวเฟิงตรวจค้นร่างกายของนักรบและพบว่าเขาเสียชีวิตระหว่างทางหนีและถูกฆ่า ดังนั้นเสี่ยวเฟิงจึงไปตามเส้นทางของเขาและพบทางเข้าใต้ดินที่ซ่อนอยู่ในเชิงเขา
มันเป็นเพียงกองหินและมีประตูหินลึกลงไปบนพื้นดินซึ่งวางอยู่บนพื้นดินซึ่งเปิดอยู่และมีบันไดทอดไปสู่ที่ใดที่หนึ่งที่ลึกกว่า
“คุณค้นพบสุสานใต้ดิน ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 10 หน่วย”
ในขณะที่เสี่ยวเฟิงก้าวเข้ามาทางประตูระบบเตือนก็จะดังทันที
มันมืดมากภายในประตูหิน เสี่ยวเฟิงจึงตื่นตระหนกมากขึ้นในขณะที่ลึกลงไป รู้สึกหดหู่และเย็นยะเยือกมาก แต่มันถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์โดยการเห็นสไตล์ของมัน
“กร๊อบ แกร๊บ!”
บันไดหมุนวนลงลึกและเขาเริ่มได้ยินบางสิ่งบางอย่างในขณะที่ลงไปมันเป็นเสียงกระทบกันของโครงกระดูก
มีวังปรากฏในสายตาของเซี่ยวเฟิงและมันก็เป็นคุกใต้ดินที่ไม่มีที่สิ้นสุด! แต่มองออกไปมีแต่มอนสเตอร์โครงกระดูกและไม่มีมอนสเตอร์ธรรมดาเหมือนพวกทหารโครงกระดูก แล้วพวกมันเป็นมอนสเตอร์ระดับสูงทั้งหมดเช่นโครงกระดูกนักสู้หรือโครงกระดูกนักเวทย์และยังมีเจ้านายของพวกมันเดินไปรอบ ๆ
เสี่ยวเฟิงมองไปที่แผนที่ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ที่ชั้นแรกของดันเจี้ยนดูเหมือนว่าจะเป็นแผนที่ระดับสูง
แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะถูกล่อลวงโดยสัตว์ประหลาดโครงกระดูกเหล่านี้ แต่เขารู้ว่าเขาจะตายหากเขาสู้กับโครงกระดูกทุกตัวตรงหน้า ดังนั้นเขาได้แต่มองแล้วหวังว่าตอนที่เก่งพอจะมาจัดการพวกมันได้ทั้งหมด
“หืม? ลิชงั้นเหรอ?”
ทันใดนั้นเซี่ยวเฟิงมองไปรอบๆที่อีกด้านหนึ่งของดันเจี้ยนเห็นลิชลอยไปลอยมาดูคล้ายกับที่เขาเคยเห็นในป่า
มูกว๋าง
แต่เขาเห็นไม่ชัดเจนเพราะลิชหายไปอย่างรวดเร็ว เสี่ยวเฟิงเปิดแผนที่และพบทางเข้าสู่ชั้นสองของดันเจี้ยน
เนื่องจากมอนสเตอร์ที่ชั้นแรกมีเยอะ และเขาไม่สามารถเข้าไปได้เพราะเขาไม่ใช่นักฆ่าและเขาไม่รู้วิธีซ่อนตัว นอกจากเขาจะเคลียร์มอนสเตอร์ทั้งหมดซะก่อน
เสี่ยวเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเลือกที่จะถอยเพราะเขาพบศพผู้พิทักษ์เมืองเทียนหลงที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดโครงกระดูกในชั้นแรกของคุกใต้ดินแล้ว ถึงเวลาต้องกลับมารายงานภารกิจแล้ว
เสี่ยวเฟิงจดจำสถานที่ของแผนที่นี้แล้ว จากนั้นเขาก็วาร์ปกลับเมืองเทียนหลงทันที
“อะไรนะ? มีพวกผีดิบอยู่ในสุสานใต้ดิน?”
ที่คฤหาสน์ของเมืองเทียนหลงอาจารย์ก็ยืนขึ้นและเดินไปมา
“รู้อะไรเกี่ยวกับสุสานใต้ดินนั้นบ้าง?”
เสี่ยวเฟิงถามและเขาบอกทุกตำแหน่งของผู้พิทักษ์และนักรบชั้นนำของเมืองเทียนหลง ดังนั้นเจ้าเมืองจึงบอกเขาเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสุสานด้วยความโศกเศร้า
“ใช่ มันเคยเป็นหลุมฝังศพของเหล่าวีรบุรุษ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเผ่าพันธุ์มืดสกปรกได้เข้ามาแทนที่”
เจ้าเมืองพูดแล้วถอนหายใจ
“วีรบุรุษ!” เสี่ยวเฟิงสนใจทันที
“ใช่เขาเป็นวีรบุรุษของมนุษย์เรา เมื่อสัตว์ประหลาดบุกดินแดนแห่งพระเจ้า กองทัพมรณะได้ทำลายทุกอย่างและจ้าวดินแดนแห่งพระเจ้าต่อสู้กับพวกมัน วีรบุรุษในตำนานที่พวกเราเรียกเขาว่าอัศวินมังกรทองคำได้เขาต่อสู้เคียงข้างมนุษย์ พวกเขาเสียชีวิตทั้งคู่ในการต่อสู้ ณ สถานที่ซึ่งตอนนี้เป็นสุสานใต้ดิน เมื่ออยู่ที่นั่นจะต้องเห็นร่างของมังกรทองคำเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีมังกรทองก็กลายเป็นภูเขาในทุกวันนี้” อัศวินมังกรทองกล่าว
“เดี๋ยวๆ! จะบอกว่าภูเขานั้นคือร่างของมังกรอย่างงั้นเหรอ?”
เสี่ยวเฟิงยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก
“ใช่มังกรได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงถึง และพวกเขาไม่สามารถรักษาร่างของมังกรและร่างที่วางอยู่ตรงนั้นเพื่อปกป้องอัศวินมังกรทอง”
หลังจากได้ยินสิ่งที่เจ้าเมืองเทียนหลงกล่าวว่าเสี่ยวเฟิงพูดไม่ออก และเขาก็พบว่าภูเขาสีขาวและสันเขาสูงชันเป็นกระดูกของมังกร
แปลว่าไซส์ของมันนั้นใหญ่สุดๆ…
เสี่ยวเฟิงสันนิษฐานว่ามังกรทองคำตัวใหญ่นั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับอัศวินมังกรทองในตำนานแน่ๆ
“สำเร็จภารกิจ—— อันตราย! ได้ค่าชื่อเสียง 50 ได้รับค่าประสบการณ์ 10000 และโฉนดที่ดินเป็นรางวัล”
“สถานที่ชุมนุมอีกแห่งสำหรับเผ่าพันธุ์มืดดูเหมือนว่ากองทัพมรณะจะกลับมาอีกครั้งฉันต้องไปรายงานตัวต่อท่านท่านเจ้าแห่งวิหารแห่งแสงก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเช่นกัน”
เจ้าเมืองเทียนหลงส่งมอบโฉนดให้เสี่ยวเฟิงและพูดด้วยท่าทางที่จริงจัง
“แน่นอนว่าวิหารแห่งแสงเตรียมพร้อมไว้สำหรับมัน เราเพิ่งทำลายระบบเคลื่อนย้ายในป่ามูกว๋างเมื่อวันก่อน” เสี่ยวเฟิงว่า
“นี่มันกระทันหันเกินไปนะ!” เจ้านายของเมืองเทียนหลงกังวล แต่เขาก็สงบลงเมื่อได้ยินคำของเสี่ยวเฟิงต่อ
“It’s certainly your responsibility that the Temple of Light had enjoyed so many rights in the Land of God.”
…
ออกจากคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เสี่ยวเฟิงสังเกตว่าเฉียนโตวโตวไม่ได้เข้าสู่ระบบดังนั้นเขาจึงไปที่ร้านขายเสื้อผ้าในเมืองเพราะเขาพบปัญหาหลังจากการสตรีมสดเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วมีชื่อเสียง ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและซ่อนชื่อของเขา จากนั้นเขาต้องเปลี่ยนชุดแฟชั่นทั้งหมดสำหรับผู้เล่นใหม่ซึ่งเป็นไอคอนของตัวเองแล้ว เขาต้องซื้อหน้ากากที่ร้านขายเสื้อผ้าด้วย
เมืองเทียนหลงมีคนเยอะมาก และเสี่ยวเฟิงประสบความสำเร็จในการซ่อนและเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของเขาแม้ว่าจะเป็นเพียงหน้ากาก เขาสวมชุดแฟชั่นของและไม่มีใครเห็นชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้
แม้ว่าการสตรีมสดจะทำให้เขาเดือดร้อนมากมายเสี่ยวเฟงรู้สึกพึงพอใจมากเมื่อเห็นเหรียญที่เขาเก็บในกระเป๋าเป้สะพายหลัง
แค่หนึ่งชั่วโมงเขาหาเหรียญทองได้ทั้งหมด 15000 เหรียญ!
ส่วนมากจะมาจากกิลด์ใหญ่ๆ!
มันทำให้เขาตื่นเต้นและสิ่งที่เฉียนโตวโตวพูดนั้นเป็นความจริงว่ามันเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว แต่เซี่ยวเฟงคิดว่ามันเกี่ยวกับเขาที่มีเสน่ห์มาก
เซี่ยวเฟิงไปที่ร้านขายของชำและร้านขายขนม หลังจากออกจากร้านขายเสื้อผ้า ตั้งแต่ตอนนี้เขามีเงินซื้อของเยอะมาก และพร้อมที่จะไปเจอเสี่ยวไบที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ เขาแค่เป็นห่วงเธอและเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ
99
“ท่านอาร์คบิชอป”
ความยับยั้งชั่งใจในการถ่ายโอนใน Bright Mountain ได้รับการบรรเทาดังนั้น เสี่ยวเฟิงจึงสามารถไปยังไบรท์เมาเทนผ่านการวาร์ปในวังย่อยของเมืองเทียนหลงแต่เมื่อเขาอยู่ที่นั่นนักทำพิธีทางศาสนาคนหนึ่งบอกเขาว่าอาร์คบิชอปไกเซอร์กำลังตามหาเขา
เสี่ยวเฟิงสันนิษฐานว่าอาจมีงานใหม่เข้ามา เพราะเขาทำภารกิจหลักอยู่ และเขาไม่สามารถทำมันได้ในตอนนี้ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาถูกเรียก
เขาอัพเกรดและวางแผนที่จะทำในภายหลังเมื่อเขากลับไป แต่เขาควรรอจนกว่าเขาจะเห็นเสี่ยวไบดังนั้นเขาจึงบอก npc เพื่อรายงานและไปที่ภูเขาไบรต์ข้างหน้า
ในฐานะที่เป็นสำนักงานใหญ่ของวิหารแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ยังคงบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ เสี่ยวเฟิงเดินอย่างอิสระเมื่อเขาบอกว่าเขากำลังแสดงภายใต้คำสั่งของบาทหลวงดังนั้นเขาจึงมาที่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวไบ”
หญิงสาวที่มีปีกสีขาวดูเหมือนจะนอนหลับอยู่ในเปลือกไข่แสงศักดิ์สิทธิ์จากฟากฟ้าหล่นลงบนเสี่ยวไบ ซึ่งทำให้เธอดูศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง
สิ่งที่เสี่ยวเฟิงใส่ใจคือไก่ที่เคลือบผิวเขาส่งให้เธอกำลังว่ายน้ำในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์เหมือนเป็ดและมันก็ดูยินดีมาก
“นา…ยท่า…”
การมาถึงของเสี่ยวเฟิงทำให้เสี่ยวไบตื่นขึ้นและเธอลืมตาขึ้นมาซึ่งรูม่านตาเป็นสีเงิน เธอเงยหน้าขึ้นและไม่แสดงออกบนใบหน้า
“เสี่ยวไบ กินขนมหน่อยไหม”
เสี่ยวเฟิงนั่งถัดจากสระน้ำศักดิ์สิทธิ์และหยิบของว่างและนำอาหารออกจากกระเป๋าเป้สะพายหลังแล้วโบกมือไปที่เสี่ยวไบ
“ขนมเหรอ?”
จากนั้นเธอก็ออกจากเปลือกไข่ของเธอหลังจากที่เขาโบกมือให้เธอและนั่งบนขาของเขาตามธรรมชาติ เธอพูดอย่างสับสนราวกับว่าเธอไม่รู้ความหมายของคำว่าขนม
“อ้าปากสิ”
เซี่ยวเฟิงไม่รู้วิธีที่จะอธิบายให้เธอฟังดังนั้นเขาจึงถือร่างเล็กและผอมเพรียวของเธอแล้วหยิบเค้กครีมใส่ปากเซี่ยวไบ
เสี่ยวไบเงยหน้า เธอดูสับสนอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนว่าเธอไม่ได้เรียนรู้ที่จะแสดงความรู้สึกของเธอ แต่เธอยังคงเปิดปากของเธออย่างช้า ๆ ซึ่งริมฝีปากของเธอมีสีชมพูดูชุ่มชื้น
ถึงเค้กจะไม่ใหญมากแต่เธอก็ยังกินไม่หมดในคำเดียว
“อร่อยไหม?”
เสี่ยวเฟิงว่าหลังกจากที่เธอกลืนเค้กลงไป
“นี่คือ… ขนมอย่างงั้นเหรอ?”
ดวงตาของเสี่ยวไบดูสดใสขึ้นและเธอเลียครีมบนริมฝีปากของเธอด้วยลิ้นอันนุ่มนวล เธอพูดด้วยเสียงที่ฟังดูน่ายินดี
แล้วเธอพบว่านิ้วของเสี่ยวเฟิงยังคงเลอะครีมอยู่บ้างจากนั้นเธอก็จับมือของเขาตามธรรมชาติแล้วก็เลียครีมด้วยลิ้นนุ่มของเธอ หลังจากที่เธอดูดมันสะอาดเธอก็ปล่อยมันไป
“อยากกินอีกไหม?”
เสี่ยวเฟิงตกใจเล็กน้อยและพูดกับเสี่ยวไบ เขารู้สึกผ่อนคลายที่ปลายนิ้วของเขา
“อา…”
เสี่ยวไบดูเหมือนจะเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรดังนั้นเธอพยักหน้าให้เสี่ยวเฟิงและพูดด้วยความคาดหวัง.
เสี่ยวเฟิงขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่แล้วก็ส่งเค้กอีกชิ้นเข้าปากของเธอ
เธอกระพริบตาอย่างสนใจ ก่อนจะกินเค้กเข้าไปทั้งหมดในคำเดียว
เสี่ยวไบมีครีมเลอะเยอะมาก ใบหน้าของเธอดูน่ารักน่าชัง ซึ่งทำให้เสี่ยวเฟิงหัวเราะอีกครั้ง เขาเช็ดครีมด้วยมือของเขาและดูเธอกินเค้กอย่างมีความสุข
“ค่าความพึงพอใจของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 10 หน่วย”
ระบบเตือนก็พูดทันทีดูเหมือนว่าระบบดังกล่าวระหว่างผู้เล่นและสัตว์เลี้ยง จะมีรายละเอียดมากกว่าของ npc
สัตว์เลี้ยงที่ชื่นชอบในระดับเริ่มต้นคือ 70 แต้ม พวกเขาจะทำตามคำสั่งของผู้เล่นเพื่อต่อสู้หรือทำอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้เล่นจะทำร้ายสัตว์เลี้ยงของพวกเขาหรือปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตายก็จะลดระดับความโปรดปรานลง แต่ตราบใดที่ยังเกิน 60 แต้มก็จะไม่มีปัญหาใหญ่
เมื่อมันลดลงต่ำกว่า 60 สัตว์เลี้ยงจะไม่ทำตามคำสั่งของผู้เล่นอย่างเต็มที่
50 คะแนนเป็นจุดที่เป็นกลางโดยทั่วไปผู้เล่นไม่สามารถสั่งอะไรได้ พวกเขาไม่เพีย แต่จะไม่ช่วยในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังอาจวิ่งหนีได้เร็วกว่าผู้เล่นอีก
อย่างไรก็ตามหากจำนวนลดลงต่ำกว่า 50 ถึง 40 พวกเขาอาจหักหลัง หากจำนวนลดลงเหลือ 30 หรือต่ำกว่าพวกเขาจะเกลียดคุณ
ถ้าชื่อสัตว์เลี้ยงกลายเป็นสีแดงพวกเขาจะโจมตีผู้เล่น ไม่ต่างอะไรกับมอนสเตอร์
เพราะฉะนั้นควรจะดูแลพวกเขาไว้ให้ดี
ระดับที่น่าพอใจเริ่มต้นของเสี่ยวไบคือ 70 คะแนนดังนั้นเธอจึงอยู่ใกล้ชิดกับเสี่ยวเฟิงมาก แต่หลังจากให้อาหารเขาเพิ่มขึ้น 10 คะแนนโดยตรงและถึง 80 คะแนนซึ่งหมายความว่าภักดี
นั่นหมายความว่าเสี่ยวไบจะเชื่อฟังคำสั่งของเสี่ยวเฟิงอย่างภักดี ในเวลาเดียวกันพวกเขาจะช่วยต่อสู้โดยอัตโนมัติเมื่อมีอันตราย โดยเธอจะไม่ต่อต้านเขาอย่างแน่นอน
เสี่ยวเฟงไม่คิดว่าการให้อาหารจะช่วยพัฒนาความไว้ใจได้ ในตอนแรกเขาแค่รู้สึกว่าเาี่ยวไบจะรู้สึกเหงาดังนั้นเขาจึงมาหาเธอ แต่ตอนนี้เขาพบว่าการให้อาหารมันสนุกมาก มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาดูแลสัตว์เลี้ยงจริงๆ
“เฉียนโตวโตวกำลังเรียกหาคุณ”
เสี่ยวไบนั่งบนขาและพึงอยู่บนอกของเสี่ยวเฟิง เขาคอยให้อาหารเธออยู่ตลอดและเธอดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกอิ่มไม่ว่าเขาจะให้เธอกินมากแค่ไหน
แต่เฉียนโตวโตวก็เรียกเขา โดยไม่รู้ว่าตัวเลยว่าเธอเข้าเกมมาตอนไหน
“อยู่ไหนเนี่ยลูกพี่เสี่ยว? ได้โฉนดมาแล้วใช่ไหม?”
“ตอนนี้อยู่ในเขตระดับสูง ตอนนี้อยู่ไหนแล้วล่ะ เดี๋ยวจะไปหา”
เสี่ยวเฟิงตอบระหว่างให้อาหารเสี่ยวไบ เนื่องจากมีอาหารเหลืออยู่ไม่มากแล้ว เขาจึงรีบให้มากยิ่งขึ้น
“โอเค ฉันอยู่ที่ย่านการค้าของเมืองเทียนหลง นิคโคลัสกับคนอื่นๆก็อยู่ด้วย” เฉียนโตวโตวพูดและวางสายอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวไบกินอาหารที่เสี่ยวเฟงนำมาจนหมด ซึ่งทำให้เซี่ยวเฟิงตกตะลึงเพราะมันเยอะมากและเขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะกินมันจนหมดด้วย
ดังนั้นเขาจึงต้องรีบไป หลังจากที่เช็ดปากของเสี่ยวไบเรียบร้อยแล้ว
“ฉันต้องไปก่อนแล้ว ไว้เจอกันวันหลังนะ”
เสี่ยวไบเหมือนไม่ต้องการให้เขาไป แต่เมื่อรู้ว่าเธอยังคงจ้องมองกล่องใส่เค้กเสี่ยวเฟิงเข้าใจว่าเธออยากกินเค้กมากกว่าที่จะให้เขาอยู่ด้วย
แต่เธอกินอาหารที่เสี่ยวเฟิงเอามาทั้งหมดแล้ว เธอจึงต้องลุกขึ้นจากขาของเขาแล้วปล่อยให้เขากลับไปที่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์
เสี่ยวเฟิงโบกมือให้เธอและเตะไก่ที่ขันอยู่ที่เท้ามันทำให้เขารู้สึกรำคาญ
“กุ๊กๆๆๆ!”
ไก่ซึ่งเติบโตขึ้นจนมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือกำลังเล่นในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์และซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเซียวไบ มันจ้องเสี่ยวเฟิงที่จากไปแล้วกลับอย่างรุนแรง
เสี่ยวเฟิงปรากฏตัวขึ้นที่เมืองเทียนหลงและสวมหน้ากากจากนั้นเขาก็เดินไปที่ย่านการค้า แน่นอนว่าผู้เล่นคนอื่นจำเขาไม่ได้ตั้งแต่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมหน้ากากนอกจากนี้ชื่อของเขาก็ถูกซ่อนไว้ด้วย
“เอ๋? ทำไมต้องแต่งตัวแบบนั้นด้วยล่ะลูกพี่เสี่ยว?”
แม้แต่พี่น้องนิโคลัสก็เพิ่งจะจำเสี่ยวเฟิงได้ในตอนที่เขาถอดหน้ากากออกมา
“ถามอะไรแปลกๆ? ตอนนี้เขาเป็นคนดังแล้วนะ! ก็เลยต้องปกปิดตัวตนแบบนี้ใช่ไหมลูกพี่?”
เฉียนโตวโตวไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะสัมผัสที่หกของผู้หญิงหรือไม่ เธอรู้ว่าเป็นเสี่ยวเฟิงตั้วแต่ตอนที่เขาเดินเข้ามาอีกฝ่ายยังไม่ทันถอดหน้ากากด้วยซ้ำ
แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเสี่ยวเฟิงแต่งตัวแบบนี้
พี่น้องนิโคลัสนั้นดูสบายดีและพวกเขาแทบไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย พวกเขาแค่ดูอายุน้อยกว่าที่เคยเห็น เหมือนนักศึกษา
แต่เสี่ยวเฟิงรู้สึกตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเฉียนโตวโตว เขาไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงธรรมดาคนนี้ช่างงดงามจริง ๆ หลังจากที่เห็นตัวจริงๆของเธอ
เธอดูอายุไม่เกิน 18 ปี รูปร่างผอมเพรีย น่ารัก ทำให้เธอดูสง่างามมาก
“ไม่คิดว่าลูกพี่จะดูเด็กขนาดนั้นนะ ดูท่าอายุคงไม่ห่างจากพวกเรามากใช่ไหมครับ?”
พวกเขายังตกใจกับรูปลักษณ์ตามปกติของเสี่ยวเฟิงที่เห็นผ่านการสตรีม เตียจูพูดขึ้นมา
“โว้ว พี่เสี่ยวเป็นไอดอลเลยนะเนี่ย! ได้ยินมาว่าพี่มีแฟนๆอยู่ทั่วเขตหัวเซียเลยนะเนี่ย เมื่อไหร่ฉันจะเป็นแบบนั้นได้มั่งน้า!”
เจ๋าซือคุยกับเสี่ยวเฟิงอย่างตรงไปตรงมา
“สตรีมสดนี่ลำบากมากๆนะ คงไม่ได้ทำบ่อยๆล่ะมั้ง” เซี่ยวเฟิงส่ายหัวแล้วพูด ทำให้เจ๋าซือโผล่งออกมา
“พี่เสี่ยวคงได้เงินมาเยอะน่าดูใช่ไหม? ฉันเห็นลูกพี่ในทีวีด้วยนะ!”
เฉียนโตวโตวละสายตาจากพี่น้องนิโคลัสแล้วหันมาถามเสี่ยวเฟิงด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย.
“ก็ไม่มาก ได้มาซัก 15000 ได้” เสี่ยวเฟิงว่าออกมาอย่างง่ายๆแต่ทำคนรอบๆอึ้งกันไปหมด
“พระเจ้า หมื่นห้า? นี่ไม่คิดว่ามันมากเลยเหรอ! นี่ระบบแลกเปลี่ยนยังไม่เปิดให้ใช้งานเลยนะ! นี่พวกในเขตหัวเซียมีแต่เศรษฐีรึไงเนี่ย!”
“พระเจ้าพวกเราวิ่งไปๆมาๆยังได้มาแค่นิดหน่อย นี่หายไปแค่ชั่วโมงนึงได้มาตั้งหมื่นเลยเหรอ!”
“คราวหน้าให้ฉันไปด้วยสิ ลูกพี่!”
“ถ้าพวกนายเก่งเท่าพี่เสี่ยว พวกนายก็ทำได้เองแหละ” เฉียนโตวโตวมองดูพี่น้องนิโคลัสด้วยความดูถูกเนื่องจากพวกเขาเพิ่งชมเธอที่ช่วยให้พวกเขาได้รับเงินสำหรับเดือนนี้มาได้หบกๆ แต่ตอนนี้ดันหักหลังกันเฉย
“ฮ่าฮ่า พวกเราคงไม่ไหวหรอกมั้ง”
แต่ 2 ตัวกวนนั้นแค่ส่งยิ้มมาให้เธอ
“นี่โฉนด เลือกที่ได้เองเลยนะ ฉันว่าเธอเลือกได้ดีกว่าฉันแน่ๆ”
เสี่ยวเฟิงยื่นโฉนดพร้อมกับเงินอีก 15000 ให้เฉียนโตวโตว
เฉียนโตวโตววเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังในทันที
ทุกคนรู้ว่ากระดาษชิ้นนี้มีความหมายอย่างไร แม้แต่พี่น้องนิโคลัสก็หยุดพูด
มีผู้เล่นหลายคนที่อยู่นอกเหนือจากเฉียนโตวโตวและพี่น้องนิโคลัส พวกเขาเป็นหุ้นส่วนกันมีทั้งชายและหญิงและบางคนก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของพี่น้องนิโคลัส
เฉียนโตวโตวกำลังใช้ความคิด ในขณะเดียวกันพี่ชายของนิโคลัสก็แนะนำเสี่ยวเฟิงกับคนอื่นๆ ทุกคนต่างท่าทีเคารพเขา
100
“ลูกพี่เสี่ยว ฉันอยากได้พื้นที่ในเมืองเฉิงฉุย ถ้าพี่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ในเมืองเทียนหลง เมืองเฉิงฉุยก็ดูที่จะมีความเป็นไปได้มากกว่า”
เฉียนโตวโตวว่า
“เราสามารถขยายสาขาได้ เมื่อเราได้รับเงินมากพอนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ภารกิจทุกเมืองดังนั้นเมื่อพื้นที่ภารกิจของเมืองเทียนหลงเปิดขึ้นมันก็จะได้รับความนิยมด้วย” เสี่ยวเฟิงส่ายหัวแล้วว่า
“ใช่ เราแค่ต้องการเนื้อหาของภารกิจพิเศษในเมืองเทียนหลงเท่านั้น แค่นี้เราก็มีโอกาสมากขึ้นแล้ว”
“ดูจากวามสามารถแล้ว แค่โซนเลเวล 15 ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่หรอกมั้ง?”
พี่น้องนิโคลัสเสริม
“ไม่เป็นไรเรื่องโฆษณาไม่ต้องเป็นห่วง เราต้องการเวลาสำหรับการทำงานของ npc ซักวัน และเราเลือกสถานที่แห่งนี้ต่อหน้าเราซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของพื้นที่การค้าของเมืองเทียนหลง แต่ตอนนี้มีปัญหาสองอย่าง” เฉียนโตวโตวพยักหน้าแล้วพูดกับเสี่ยวเฟิง
“ปัญหาอะไร?” เสี่ยวเฟิงถามทันที
“อย่างแรกเลย เราต้องรีบทำการขสยสินค้าด่วนๆเลย และปริมาณก็มากพอสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเช่นน้ำยาเพิ่มพลังระดับสูง เมืองหลักขายแค่ยาเพิ่มพลังชีวิตระดับกลางที่ฟื้นฟูครั้ง 20 เท่านั้น เท่าที่ฉันรู้กิลด์ขนาดใหญ่จำนวนมากหรือพวกผู้เล่นบางคนก็สามารถทำยาฟื้นฟูพลังชีวิตครั้งละ 30 ได้ ยาพลังชีวิตระดับสูง ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ร้านค้าพวกเขาเริ่มขายยาชีวิตระดับสูงมันเป็นการขายระยะสั้น แต่เราก็ไม่มีข้อมูลนี้ ทำให้เราไม่สามารถเทียบพวกพ่อค้ารายใหญ่ๆได้เลย” เฉียนโตวโตวพูดอย่างจนหนทาง
“อ่า นั่นก็เป็นปัญหา?” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า เขาคิดว่าเฉียนโตวโตวมีประสบการณืทางธุรกิจอย่างมาก
“อีกอย่างถ้าเราต้องการที่จะมีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน เราต้องการงานประมูลที่จะทำให้ทั่วทั้งหัวเซียต้องสั่นสะเทือนด้วย ถึงแม้ว่าการที่พี่โฆษณานั้นจะดีอยู่แล้ว มันก็ยังไม่มากพอ หอการค้าต้องแสดงพลังให้กับในหมู่ผู้เล่นดังนั้นการประมูลจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ”
“อืม มีเหตุผลดีเหมือนกัน” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า
“ลูกพี่เสี่ยว เพื่อความคึกคักของการประมูลครั้งนี้ เราต้องการผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์บางอย่างเช่นอุปกรณ์อมตะที่อยู่กับพี่” เฉียนโตวโตวเหลือบมองไปที่หูของเซี่ยวเฟิงและพบต่างหูสีดำและสีขาว
เสี่ยวเฟิงเปลี่ยนสีหน้าทันที ส่วนพี่น้องนิโคลัสก็ตกใจกับสิ่งที่เธอพูด
“อีผู้หญิงหน้าเงิน นี่หน้ามืดตามัวไปหมดแล้วรึไงและตอนนี้ยังจะเอาของล้ำค่าของพี่เสี่ยวไปอีก ถ้ามีมากกว่านี้ไม่ขายพี่เขาไปเลยล่ะ”
“ท่าเป็นชื่อเสียงของพี่เสี่ยวก็น่าสนอยู่นะ” เฉียนโตวโตวบ่นกับตัวเอง แต่ทำให้สีหน้าของเสี่ยวเฟิงดุดันยิ่งกว่าเดิมอีก
“แน่นอนว่าไม่เอาไปขายหรอกแค่ทำให้คนทึ่งก็พอแล้ว ลองคิดดูถ้ามีอุปกรณ์ระดับอมตะเพียงชิ้นเดียวในการประมูล จะมีคนที่สนใจการประมูลครั้งนี้มากขนาดไหน” เฉียนโตวโตวว่าทันที
“ถึงจะฟังสมเหตุสมผล แต่สำหรับพี่เสี่ยวนี่ไม่ขำเลยนะ” เจ๋าซือพูดอย่างสับสน
“โอ้พระเจ้าทำไมถึงได้โง่แบบนี้เนี่ย มันก็แค่การแสดงน่า มันจำเป็นนะ แค่แกล้งทำเป็นปั้นราคานิดๆหน่อยๆก็ไม่ต้องจ่ายจริงๆก็ได้ จะเอาราคาเท่าไหร่ก็ได้ยังกลัวว่าจะกลายไปเป็นของคนอื่นอีกเหรอ?” เฉียนโตวโตวพูดด้วยความผิดหวัง
“นั่นก็สมเหตุสมผลอยู่นะ แต่มันอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของการประมูล เพราะจะไม่มีใครได้มันอยู่ดีนะ” เสี่ยวเฟิงลองคิดในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
“หรืออีกอย่างถ้าจะไม่เอาแบบนั้น ก็แค่หาอุปกรณ์ระดับอมตะมาอีกอันก็พอแล้ว” เฉียนโตวโตวว่าแล้วก็ยักไหล่.
“คิดว่ามันหาได้ง่ายๆรีไง?” เสี่ยวเฟิงอดไม่ได้ที่จะแขวะเธอ
“โอเค ฉันจะเก็บไปคิดให้ ไปจัดการเรื่องต่างๆได้เลย เจอกันวันพรุ่งนี้นะ” เสี่ยวเฟิงโบกมือลาราวกับบอกว่าหมดธุระแล้ว จากนั้นเขาก็เดินออกจากย่านการค้าไปทางวิหารแห่งแสง เนื่องจากอาร์คบิชอปไคเซอร์กำลังรอเขาอยู่
“ตอนนี้ท่านอาร์คบิชอปกำลังรออยู่ที่วิหารหลักแล้ว”
อาจเป็นเพราะเสี่ยวเฟิงบอกกัยคนในสตรีมของเขาว่าจะมีภารกิจในวิหารแห่งแสง ตอนนี้ผู้เล่นหลายคนกำลังอยู่ในพระวิหารและมีอาชีพอื่นนอกเหนือจากนักบวชด้วย
เสี่ยวเฟิงปลอมตัวอยู่ทำให้ไม่มีใครทักเขาซักคน และพบผู้นำทางที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องโถงและถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เล่นจำนวนมาก
ผู้นำทางมองมาทางเสี่ยวเฟิงแล้วก็พูดกับเขาโดยไม่ได้เดินเข้ามาเพราะตอนนี้เขายุ่งมาก
เสี่ยวเฟิงโบกมือ เขารู้สถานการณ์แล้วก็รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน เขาเลยไม่ยุ่งกับอีกฝ่ายอีก
“นั่นใครน่ะ? ทำไมผู้นำทางต้องสุภาพกับเขาด้วย?”
“ฉันก็ไม่รู้ npc ล่ะมั้ง เขาเข้ามาที่วิหารหลัก ที่ๆผู้เล่นไม่สามารถเข้ามาได้”
….
ไคเซอร์เดินไปมาอยู่ในวิหารด้วยความกังวล ทันทีที่เขาเห็นเสี่ยวเฟิงเดินเข้ามาหา เขาก็ทักฝ่ายตรงข้ามก่อนทันที
“ท่านอาร์คบิชอป อยู่ที่นี่เอง”
“ทำไมถึงดูกังวลนักครับ?” เสี่ยวเฟิงถามด้วยความสงสัย
“กัปตันโบลตันไม่กลับมาหลังจากที่ทำภารกิจไล่ล่าลิชในเขตป่า Muguang ซะที และฉันได้รับข้อความแสดงความช่วยเหลือจากใครบางคนที่ส่งมาเมื่อวาน ฉันกังวลว่าอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา” ไคเซอร์พูดด้วยความกังวลอย่างชัดเจน
“งั้นทำไมถึงไม่ส่งความช่วยเหลือไปล่ะ?” เสี่ยวเฟิงถาม
“คนที่กัปตันส่งมาเป็นนักผจญภัย ข้อความของสถานที่ส่งโดยเขายังไม่ชัดเจน และอัศวินทั้งหมดถูกส่งไปโดยกัปตันโบลตัน นั้นก็ยังหาไม่เจอเลย” ไคเซอร์นั้นดูเครียดมาก
“ชื่อของเขาคืออะไรพอจะรู้ไหม”
เสี่ยวเฟิงมั่นใจมากว่าไม่มีทางที่จะจำชื่อคนไม่ได้แน่ๆ เขาเลยถามออกไป มันอาจจะเป็นเหตุที่ไคเซอร์กำลังประสบปัญหาก็ได้ เพราะด้วยความที่เป็น npc พวกเขาไม่สามารถติดตามผู้เล่นที่เฉพาะเจาะจงได้
“ชื่อของเขาคือเฉียงกวนเอาเฉินตอนนี้เราต้องออกไปตามหาเขาให้เร็วที่สุด” อาร์คบิชอปไคเซอร์ว่า
“เฉียงกวนเอาเฉิน?”
เสี่ยวเฟิงรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้มาก เขาค่อยๆนึกหน้าแต่ละคนที่เขารู้จัก ในตอนที่เขาพาเฉียนโตวโตวและสองนิโคลัสไปทำภารกิจในเขตพิเศษ
เสี่ยวเฟิงเปิดรายชื่อเพื่อนแล้วค้นหาชื่อที่เขาได้ยินมาในทันที
“ไม่สามารถติดต่อคนที่ระบุได้”
นั่นทำให้เสี่ยวเฟิงนั้นหัวเสียมาก ไอ้เด็กเวรนั่นมันน่าเตะจริงๆ
หลังจากออกมาจาากวิหารแห่งแสง เสี่ยวเฟิงจึงเรียกพี่น้องนิโคลัสมาคุยเรื่องของเพื่อนที่พวกเขาชวนมาเล่นเกมด้วยกัน
“ไอ้หมอนั่น่ะเหรอ? ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ มีอะไรอยากคุยรึไง?” เจ๋าซือถามออกมาอย่างแปลกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสนใจคนรู้จักของเขา
“มีธุระนิดหน่อยแต่ติดต่อเองไม่ได้” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างอับจนหนทาง
“ก็ติดต่อไปทางระบบเพื่อนสิ อ้อ ไอ้หอกหักนั่นมันปิดระบบนี้สินะ ดูท่าต้องไปสั่งสอนซะหน่อยแล้ว” เจ๋าซือนั้นสาปส่งคนที่สร้างปัญหาให้เขาอยู่แป๊บนึง
“แนใจนะว่าเขาอยู่ในเมืองเทียนหลง? หรือจะใช้วิธีเรียกในเมืองล่ะ?” เตียจูแนะนำ
“เรียกจากภายในเมือง?” เสี่ยวเฟิงไม่เคยได้ยินฟังก์ชั่นนั้นมาก่อน มันเหมือนการเป่าแตรเรียกอย่างงั้นน่ะเหรอ?
“ใช่จะมี npc อยู่ที่หน้าทางเข้าของเมือง พี่สามารถฝากให้เขาประกาศอะไรให้ก็ได้ แต่ค่าบริการนี่ก็สูงเอาเรื่องอยู่ คนที่อยู่ในเมืองนี้จะได้ยินคำประกาศ แต่ท้าเขาออกไปด้านนอกเมืองก็จะไม่ได้ยินอยู่ดี you need ten and only those near the main city could hear you. If they go out to do the task or run away, they can’t hear you. And there is a similar function at the bulletin of the main city, you can make one written notice with one coin, and the affected area is still near the main city.” เตียจูว่า
“ไม่ยักกะรู้แหะว่ามีระบบแบบนั้นอยู่ด้วย งั้นคงต้องใช้แล้วล่ะ” เสี่ยวเฟิงคิดอยู่นานแต่ก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ เพราะเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่แล้ว
“โอเค พวกเราจะรออยู่ที่ประตูทางด้านตะวันออก พอดีว่ายัยหน้าเงินนั้นไม่ต้องการให้พวกเราช่วยเหลือ” เตียจูพูดทันที
“งั้นเจอกัน”
เสี่ยวเฟิงวางสายแล้วก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของเมือง
พวกนิโคลัสมาถึงประตูตะวันออกก่อน เสี่ยวเฟิงแปลกใจที่เฉียนโตวโตวไม่ได้ตามมทั้ง 2 คนมาด้วย
“เงินไม่ต้องหรอก ยินดีทำให้ฟรีๆอยู่แล้ว!”
เขาพบกับ npc อย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่เก็บเงินเสี่ยวเฟิงซักเหรียญทำให้นิโคลัสทั้ง 2 นั้นอิจฉามาก
เสี่ยวเฟิงตกลงในทันที เขารู้สึกดีมากที่ไม่ต้องเสียเงิน ตั้งแต่ที่ราคาของ 10 เหรียญเท่ากับ 1,000 หยวนดังนั้นผู้เล่นที่รวยๆเท่านั้นจึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้
“ประกาศถึงคนในเมือง: เฉียงกวนเอาเฉินไปพบกับ xxx ที่ประตูตะวันออกของเมืองเทียนหลงด้วย”
คำประกาศถูกบอกออกไปในทันที ถึงระบบประกาศจากเมืองหลักซึ่งสะดวกมาก แต่ชื่อของเสี่ยวเฟิงก็ยังโดนปิดอยู่ดี
“โหว ระบบประกาศงั้นเหรอ! ใครมันรวยขนาดนั้นนะ!”
“ได้ยินชื่อนั้นไหมล่ะ? นั่นต้องเป็นยอดฝีมือแห่งการรักษาแน่ๆ! เขาคงมีเงินใช้แบบไม่จำกัดเลยล่ะมั้ง?”
“ใครคือเฉียงกวนเอาเฉินที่ทำให้ยอดฝีมือแห่งการรักษาต้องเรียตัวเขากันนะ?”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน ยอดฝีมือเหมือนกันรึเปล่า? ชื่อก็เหมือนผู้หญิงด้วยนะ”
เหล่าคนที่ได้ยินการประกาศนั้นต่างพูดกันด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประตูตะวันออก
แต่ผ่านไป 10 นาทีแล้วคนที่พวกเขาอยากเจอนั้นก็ไม่ปรากฎตัวเสียที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น