Crazy Leveling System 317-323

 CLS ตอนที่ 317: มังกรดิน


 


อี้เทียนหยุนไม่พูดอะไรอีก หลังจากรอให้ผู้ฝึกตนที่นี่ถูกช่วยออกมาจนหมด เขาก็นำกลุ่มคนพุ่งออกไปด้านนอก ดีที่ก่อนพวกเขาจะโผล่ออกมานั้น ผู้คุมชุดนี้ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบอะไรผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่ได้ขยี้แผ่นหยกขอความช่วยเหลือออกไป


 


ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าการช่วยเหลือนี้จะไม่ไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้เข้า แต่ถ้าผู้คุมภายในคุกใต้พิภพนี้สังเกตเห็น ถ้างั้นสถานการณ์คงต้องกลายเป็นบ้าคลั่งอย่างแน่นอน


 


แต่ถึงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่เกินไปกว่าระดับผันแปรวิญญาณ ไม่ได้คณามือเขา


 


“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมพวกมันถึงออกมาได้?”


 


ที่ด้านนอกโถงหลักของคุกใต้พิภพ ผู้คุมหลายคนสังเกตเห็นผู้ฝึกตนจำนวนมากโถมมายังที่นี่ ก็ไม่ทันตอบสนอง ภาพนี้พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อน ว่าจะมีคนโถมเข้ามาแบบนี้!


 


“จับพวกมัน อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!”


 


“ใครต่อต้านตาย ใต้บังอาจต่อต้านต้องตาย!”


 


“รีบไปรายงานท่านขุนพลเร็ว ตอนนี้คุกใต้พิภพเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”


 


ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณอยู่ มีผู้จัดการระดับต้าเฉินคนหนึ่งทำการขยี้แผ่นหยกขอความช่วยเหลือ ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปทันที เห็นได้ชัดว่าขุนพลมังกรไม่ได้อยู่ที่นี่ ปกติถ้าไม่มีเรื่องอะไร เป็นธรรมดาที่ระดับขุนพลมังกรจะต้องอยู่โยง


 


ตอนนี้นอกจากเรื่องของเผ่าภูตแล้ว ยังมีเรื่องอีกมากให้ต้องจัดการ หลายเรื่องต้องตีเหล็กตอนที่ยังร้อน ดังนั้นจึงมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถใส่ใจ


 


จากนั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณสามคนก็พุ่งเข้ามา แต่ละคนต่างก็เรียกอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ทำการโจมตีมายังที่นี่อย่างโหดเหี้ยม ระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา พร้อมกับจิตสังหารที่ตลบทั่วทั้งโถงใหญ่ ทำให้ผู้ฝึกตนจำนวนมากพากันหน้าเปลี่ยนสี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ พวกเขารู้สึกว่าตัวเองนั้นอ่อนแอมาก


 


ถ้าต่อต้านมีแต่ถูกสังหารทิ้งอย่างเดียว! แต่ในขณะที่ผู้คนกำลังใจสั่นกับจิตสังหารที่อีกฝั่งระเบิดออกมานั้น ก็ได้มีศรสามดอกพุ่งผ่านร่างของพวกเขา ก่อนจะปักเข้าที่ร่างของผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณทั้งสาม ทำให้ร่างทั้งสามปลิวกระเด็น ขณะที่มีสองร่างถูกตรึงเข้าที่กำแพงพร้อมกับร่างกายที่กำลังถูกความเย็นกัดกร่อนไม่หยุด ส่วนอีกร่างถูกทำให้เป็นประติมากรรมน้ำแข็ง ไม่มีทางขยับได้!


 


เพราะมีคนสวมใส่เกราะหนัก ทำให้ลูกศรไม่สามารถทะลุร่างของเขาออกไปได้ แต่แรงปะทะก็ได้ส่งให้ร่างของอีกฝ่ายปลิวกระเด็นไป พร้อมกับกระอักเลือดออกมา พร้อมกันนั้น ร่างของเขาก็ได้ถูกความเย็นรุกรานเข้าไปข้างในร่าง ทำให้ความเร็วของเขาตกลงช่วงใหญ่


 


โดยที่ไม่รอให้เขาได้ลุกขึ้น ศรน้ำแข็งก็ได้ทะลุร่างของเขา จัดการตรึงร่างเขาไว้กับกำแพงอย่างแน่นหนา


 


เขาถลึงตาปูดโปนไปทางอี้เทียนหยุน ไม่คิดว่าการโจมตีนี้จะร้ายกาจขนาดนี้ จะดีจะร้ายบนตัวเขาก็สวมใส่ชุดเกราะระดับจิตวิญญาณขั้นสูง ทั้งยังมีการสลักอาคมที่แข็งแกร่งมากเอาไว้ แต่กลับถูกศรน้ำแข็งของอีกฝ่ายยิงทะลุ สายตาที่เขามองไปยังอี้เทียนหยุนในตอนนี้เริ่มพร่าเลือนทีละน้อย ก่อนที่จะสิ้นสติสมประดีไป


 


อี้เทียนหยุนมองไปยังพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา ถ้าดอกเดียวไม่จอด งั้นก็ต้องซ้ำด้วยดอกที่สอง! คันศรน้ำค้างแข็งเทวะหลังจากที่ได้อาคมเพิ่มพลังโจมตีเข้าไป พลังโจมตีของมันก็กลายเป็น 4 เท่า เขาไม่จำเป็นต้องเปิดโหมดคลั่งหมวดพลังโจมตีด้วยซ้ำ ก็สามารถสังหารทั้งหมดได้ในพริบตา


 


ยิงลูกศรออกไปได้ตามใจ สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับสูงโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถป้องกันได้


 


สิ่งนี้สร้างความตกใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนมีความสามารถในการสังหารระดับหลอมรวม หรือผู้แข็งแกร่งที่สุดอย่างระดับก่อแกนวิญญาณได้ในพริบตา ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่นี่ขนาดผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณก็ยังถูกลูกศรของเขาสังหารจนตายโดยไม่ต่างจากการสังหารเมื่อก่อนหน้าแม้แต่น้อย


 


นี่ทำให้พวกเขาต่างก็จ้องมองด้วยสายตาตกตะลึง เจอเทพสังหารเทพ เจอพุทธะสังหารพุทธะ


 


“เป็นพลังที่น่ากลัวมาก มีเขาอยู่ ทำไมพวกเขาจะหนีออกไปไม่ได้?”


 


“ใช่แล้ว มีผู้กล้าท่านนี้อยู่ พวกเราจะต้องหนีออกไปได้อย่างแน่นอน!”


 


พวกเขาพากันตื่นเต้น ในใจต่างพากันลุกไหม้ด้วยความหวัง คิดว่าพวกเขาจะต้องสามารถออกไปจากสถานที่บ้าๆ นี้ได้อย่างแน่นอน


 


สิ่งที่พวกเขาคิดกับสิ่งที่อี้เทียนหยุนคิดนั้นเหมือนกัน ตอนนี้เขามีพลังที่เหนือมาก ขอแค่ผู้มาไม่ใช่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ เขาสามารถสังหารอีกฝ่ายได้อย่างสบาย!


 


ภายใต้การสังหารอย่างบ้าคลั่งของอี้เทียนหยุน เจอผู้คุมที่ไหน เป็นต้องถูกศรน้ำแข็งยิงทะลุร่างในทันที พร้อมกับนอนกองลงกับพื้นด้วยสภาพน่าสมเพช เขาทำการปล้นอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ริบแหวนเก็บของของพวกเขามาจนหมด


 


นี่ทำให้เย่ชิงเสวียนที่คอยคุ้มกันด้านหลังต้องมองมาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าหมอนี่ยังไม่ลืมเก็บเงินอีก…..”


 


“ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณล้วนแต่ร่ำรวย แล้วแบบนี้จะให้พลาดได้ยังไง?” บรรพชนเผ่าภูตที่อยู่ใกล้ๆ ยิ้มออกมา การกระทำนี้ทำให้เขาชื่นชมอย่างมาก “ถ้าเป็นข้า ข้าก็จะทำเช่นกัน การฝึกตนต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล แล้วจะปล่อยให้สูญเปล่าได้ยังไง?”


 


“อืม…..” เย่ชิงเสวียนแน่นอนว่าไม่มีความเห็นอื่น เพียงแต่นี่เป็นเรื่องด่วน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะรวบรวมเงินอีก


 


อี้เทียนหยุนอยากจะทำอย่างนี้ที่ไหนกัน แต่ว่าเขาจนจริงๆ การดูแลสำนักจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก เขาไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะได้รับทรัพยากรไปอย่างแน่นอน ยิ่งผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณที่เปรียบได้ดั่งหมูอ้วนแล้วล่ะก็ เขายิ่งไม่มีทางพลาดเด็ดขาด


 


ภายใต้การสังหารอย่างบ้าคลั่งด้วยพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้ อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็เข่นฆ่าจนมาถึงทางออก ผู้คุมที่ดูแลที่นี่ไม่มากนัก เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นอี้เทียนหยุนนำนักโทษบุกออกมา สีหน้าก็พากันเปลี่ยนไป พร้อมกับเตรียมตัวต้านรับการโจมตีจากพวกเขาอย่างรวดเร็ว


 


แต่พวกเขานั้นอ่อนแอมาก ภายใต้ศรไม่กี่ดอกก็สามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย พริบตา ที่นี่ก็ไร้ซึ่งผู้คุม


 


“ตรงหน้านี้คือทางออก เพียงเปิดประตูก็สามารถออกไปได้แล้ว!” อี้เทียนหยุนตะโกนออกมา พร้อมกับนำออกไป เมื่อไปถึงประตู เขาก็ทำการเปิดประตูน้ำ จากนั้น ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก


 


“แอ๊ดดด…..”


 


บานประตูส่งเสียงดังออกมา พร้อมกับเริ่มเปิดออกทีละน้อย สามารถพูดได้ว่าประตูบานนี้หนักมาก จำเป็นต้องเปิดประตูน้ำเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดออกได้


 


“พวกเรารีบไปช่วยผู้กล้าเปิดประตูเร็วเข้า!”


 


พวกเขาร้องคำรามออกมา จากนั้นก็พากันวิ่งเข้าไป พร้อมกับช่วยกันดันประตูจากด้านข้าง ด้วยความช่วยเหลือจากคนจำนวนมาก ทำให้ความเร็วในการเปิดประตูเพิ่มขึ้นมาก เมื่อช่องว่างเผยออกมา ผู้ฝึกตนทุกคนก็ราวกับเห็นแสงแห่งความหวัง พากันพุ่งออกไปยังด้านนอกอย่างรวดเร็ว


 


“พวกเราออกมาแล้ว! ในที่สุดก็ออกมาแล้ว!”


 


หลังจากออกมา พวกเขาก็พากันโห่ร้องเสียงดัง พากันสูดอากาศข้างนอกอย่างตะกละตะกลาม พากันแสดงสีหน้ามีความสุขออกมา ต้องพูดว่าการมีชีวิตอยู่นี่แหละคือความสุข……


 


ขณะที่ทุกคนกำลังดีใจอยู่นั้น ทันใดนั้นด้านในก็พลันได้ยินเสียงคำรามออกมา


 


“คำราม คำราม คำราม!”


 


เสียงราวกับมังกรคำราม เคลื่อนผ่านอากาศโถมเข้าไปข้างในพวกเขา อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็ได้ยินเสียงแผ่นดินไหวดังมา ราวกับมียักษ์กำลังพุ่งออกมาจากด้านใน


 


“เร็ว รีบไปเร็ว!” เย่ชิงเสวียนบอกให้คนในเผ่าที่อยู่ด้านในรีบออกไป ที่นี่ยังมีคนที่ยังไม่ได้ออกไปจำนวนมาก นับได้หลายพันจนเกือบหมื่น พริบตา ทุกคนต่างก็พากันรีบออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว


 


และตอนนี้เอง ที่ด้านหลังก็พลันปรากฏสัตว์ประหลาดตัวใหญ่วิ่งมา รูปร่างของมันคล้ายกับมังกร แต่ว่าไม่มีปีก ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร ดูแล้วท่าทางจะแข็งมาก ทำการวิ่งตะบึงตรงมายังที่นี่อย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนกับภูเขาลูกเล็กๆ ที่กำลังตรงมาที่นี่อย่างดุร้าย


 


“มังกรดิน มันก็คือมังกรดิน!”


 


บางคนร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าในคุกแห่งนี้จะมีมังกรดินอยู่ด้วย!


CLS ตอนที่ 318: จับ!


 


มังกรดินเป็นสัตว์อสูรที่มีสายเลือดเผ่ามังกร แต่ไม่สามารถบินได้ และสิ่งที่มีชื่อเสียงของมันก็คือพลังป้องกันที่ทรงพลัง ด้วยพลังป้องกันที่ทรงพลังรวมกับพลังกายที่มหาศาล ทำให้การที่จะสังหารมันนั้นเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก และยิ่งกว่านั้น ระดับของมันยังไม่ต่ำเลย เป็นสัตว์อสูรที่มีพลังระดับก่อแกนวิญญาณ แต่ถึงอย่างนั้น กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณยังไม่สามารถจัดการกับมันได้ ทำได้เพียงแค่สูสี และสู้ถ่วงเวลาจนกว่าพลังจะหมดเท่านั้น!


 


มังกรดินทั้งสามตัวนี้วิ่งตรงมาที่นี่อย่างดุร้าย พร้อมกับคำรามออกมาอย่างเดือดดาล เห็นได้ชัดว่ามันไม่สนใจสิ่งปลูกสร้างรอบๆ เลยแม้แต่น้อย มันเข่นฆ่าเข้ามาโดยการทำลายสิ่งกีดขวาง เพียงเพื่อที่จะสังหารพวกเขา ไม่ว่าจะมีอะไรขวางทาง มันก็จะทำลายสิ้น


 


“เร็วเข้า!”


 


เย่ชิงเสวียนที่รับหน้าที่ระวังหลังหน้าเปลี่ยนสี รีบบอกให้คนในเผ่าด้านหน้ารีบออกไป แม้จะเห็นว่าคนในเผ่าออกไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกส่วนน้อยที่ยังเดินได้ช้า ถ้ามังกรดินมาถึงแล้วล่ะก็ พวกเขาคงไม่สามารถหลบการโจมตีที่รวดเร็วนี้ได้อย่างแน่นอน


 


ในตอนนี้เอง ในมือของเธอก็พลันปรากฏยันต์ระเบิดเพลิงหลายอัน พร้อมกับปาเข้าใส่มังกรดินที่โถมเข้ามา ยันต์ถูกปาออกไป ก่อนจะแตกตัวที่กลางอากาศ พร้อมกับแปะลงที่ร่างของมัน


 


“ตูมมมมม!”


 


เปลวเพลิงระเบิดออกมา พร้อมกับชิ้นส่วนร่างกายดำๆ กระเด็นออกมา แต่นี่ไม่สามารถสังหารมันได้ ทำได้แค่เพียงระเบิดเกล็ดส่วนเล็กๆ เท่านั้น พร้อมกับเรียกเลือดของมันได้เพียงเล็กน้อย!


 


พลังป้องกันอันน่าสะพรึงของมันก็ได้ปรากฏขึ้นมาในตอนนี้เอง เห็นได้ชัดว่าพลังป้องกันของมันนั้นท้าทายสวรรค์ขนาดไหน เป็นเหมือนกับโล่ที่เคลื่อนไหวได้! พลังของยันต์ระเบิดเพลิงนี้ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย ทั้งยังปาออกไปพร้อมกันถึง 7 ชิ้นอีก อย่างน้อยผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 2 โดนเข้าไป คงไม่แค่เกิดบาดแผลแค่ผิวหนังภายนอกอย่างแน่นอน


 


“ฮ่าๆ คิดว่ายันต์ระเบิดเพลิงนี้จะทำร้ายมังกรดินได้อย่างงั้นเหรอ คิดง่ายไปแล้ว…. จัดการพวกมันซะ!” ที่ด้านหลัง คนสามคนที่สวมชุดเกราะมังกรซึ่งมีระดับก่อแกนวิญญาณทำการสั่งมังกรดินให้กระโจนเข้าใส่พวกเขา


 


“ทหารมังกร!” เมื่อคนทั้งหลายเห็นผู้ฝึกตนในชุดเกราะมังกรก็พากันร้องอุทานออกมา


 


ทหารมังกรนี้เป็นกองทหารใต้บังคับบัญชาของขุนพลมังกร เป็นทหารกองหนึ่งที่ควบคุมมังกรดินโดยเฉพาะ ยามใดที่พวกเขาออกศึก ล้วนแต่เป็นสงครามที่ไม่อาจต้าน ทหารมังกรแต่ละคนต่างก็มีมังกรดินเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าย่อมเป็นกองทัพที่ไร้ผู้ต้าน!


 


แม้ว่ามังกรดำจะไม่ใช่สัตว์เทวะที่แท้จริง แต่มันก็มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง เทียบได้กับเผ่ามังกรที่แท้จริงเลย ทั้งจำนวนของพวกมันยังมีมาก ถ้ารวมตัวกันแล้วล่ะก็ พวกมันกระทั่งแข็งแกร่งกว่าเผ่ามังกรที่แท้จริงด้วยซ้ำ ดังนั้น ด้วยจำนวนที่มาก ทำให้มันไม่ได้หายากอะไร เพียงแต่ราคานั้นออกจะสูงเสียดฟ้า


 


มีเพียงแต่อาณาจักรใต้พิภพเท่านั้นที่สามารถสร้างกองทัพมังกรออกมาได้หนึ่งกองทัพ ภายใต้การควบคุมของทหารมังกร ทำให้พวกเขาสามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง!


 


ทหารมังกรที่มานี้ไม่ได้มากอะไร เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น แต่แค่นี้ก็นับว่าน่าสะพรึงมากพอแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องทรงพลังมาก เพียงแค่วิ่งใส่คนก็พอแล้ว ไม่คิดเลยว่าในคุกใต้พิภพนี้จะมีทหารมังกรดูแลอยู่ถึง 3 คน


 


“คำราม!”


 


มังกรดินที่ได้รับบาดเจ็บกลับแสดงความดุร้ายออกมาตามธรรมชาติ มันคำรามอย่างเดือดดาล พร้อมกับใช้ร่างกายที่ใหญ่โตของมันพุ่งเข้าใส่เย่ชิงเสวียน ไม่ว่าจะความดุร้าย ความเร็ว หรือพลัง ล้วนแต่แข็งแกร่งเป็นที่สุด


 


ในมือเย่ชิงเสวียนปรากฏยันต์ระเบิดเพลิงอีกหลายใบ เตรียมโจมตีออกไป เธอไม่สามารถหลบได้ เพราะด้านหลังของเธอยังมีคนในเผ่าอยู่เล็กน้อยที่ยังไม่สามารถหนีได้ ดังนั้นเธอจึงต้องปกป้องพวกเขา


 


“เสิ้งหนี่ ไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว รีบหนีไปก่อนเร็ว!” บรรพชนเผ่าภูตบอกให้เธอรีบหนีไป เขาก็อยากจะช่วย แต่ตอนนี้เขาไม่มีพลัง แค่เดินได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว อย่าว่าแต่ต้องสู้เลย


 


“ให้พวกเขาไปก่อน!” เย่ชิงเสวียนกัดริมฝีปาก พร้อมกับปล่อยยันต์ระเบิดเพลิงออกไปอย่างต่อเนื่อง ระเบิดใส่ร่างมังกรดินไม่หยุด เพื่อที่จะหยุดมันไว้


 


“เปรี้ยง!”


 


เสียงระเบิดดังออกมาอีกครั้ง ความเร็วของมังกรดินไม่ได้ลดลงเลย ทำได้เพียงทำให้มังกรดินชะงักเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ร่างมหึมาของมันจะกระโจนเข้ามา หวังจะทับเธอจนตาย


 


เย่ชิงเสวียนหน้าเปลี่ยนสี รีบหลบอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วที่กระโจนของมังกรดินกลับเร็วกว่าความเร็วที่ใช้หลบของเธอไปขั้นหนึ่ง! ในขณะที่เธอเตรียมจะหยิบยันต์ออกมานั้น ก็ได้มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้าของเธอ พร้อมกับโจมตีเข้าใส่มังกรดินอย่างโหดเหี้ยม


 


“เปรี้ยง!”


 


มังกรดินถูกต่อยกระเด็น พร้อมกับหน้าอกที่ยุบเป็นโพลง ทำให้มังกรดินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ดูท่าจะทรมานมาก และคนที่ปรากฏตัวนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นอี้เทียนหยุนนั่นเอง!


 


ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกร ปะทุสายเลือดเทพมังกรออกมา ทำการประหมัดกับมังกรดินด้วยพลังกายอย่างเดียว จนทำให้มังกรดินที่ได้ชื่อว่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดต้องกระเด็นออกไป


 


“มีความแข็งเพียงแค่นี้ยังกล้าเสนอหน้าอีก!” อี้เทียนหยุนแค่นเสียงออกมา จากนั้นก็เดินไปข้างๆ เย่ชิงเสวียนแล้วรีบพูดว่า “เจ้ารีบพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ให้เร็วขึ้นอีก ด้านนอกไม่มีผู้คุม!”


 


เขาเป็นคนพุ่งนำออกไปด้านนอกเป็นคนแรก เมื่อเห็นว่าด้านนอกปลอดภัย เขาจึงกลับเข้ามาช่วย แต่เพิ่งจะเข้ามาก็เห็นว่ามังกรดินกำลังกระโจนมายังที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบบินมาอย่างรวดเร็ว พร้อมยังระเบิดความเร็วที่ได้จากปีกฟีนิกส์อีก ก่อนที่จะโจมตีใส่มังกรที่กระโจนเข้ามา


 


เย่ชิงเสวียนพยักหน้าพร้อมกับนำเผ่าภูตหลบออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้อี้เทียนหยุนทำการคุ้มกันด้านหลังแทน


 


“เจ้าเด็กนี่มาจากไหนกัน ทำไมถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?” ทหารมังกรเมื่อเห็นว่าอี้เทียนหยุนต่อยมังกรดินจนกระเด็นก็พากันตกใจ การที่จะเห็นคนวัดพลังกายภาพกับมังกรดินตรงๆ เป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้วหนึ่ง


 


“จัดการมัน เข้าไปจัดการมันให้ข้า!” แต่ทหารมังกรก็ไม่คิดมาก ยิ่งเห็นผู้ฝึกตนหนีออกไปข้างนอกได้มากเท่าไหร่ ในใจของพวกเขาก็ยิ่งกังวล ถ้าขุนพลมังกรกลับมา พวกเขาต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน


 


“คำราม!”


 


มังกรดินที่ถูกต่อยหลังจากลุกขึ้นมาก็กระโจนเข้าใส่เขาอีกครั้ง มันคำรามอย่างเดือดดาล ด้วยสายเลือดมังกรในร่าง ทำให้มันหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นกัน ปะทะกับมนุษย์ตัวกระจ้อย แต่ตัวมันกลับแพ้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มันโกรธได้ยังไง?


 


ทันใดนั้น ร่างของมันก็มีแสงสีเหลืองจางๆ เปล่งออกมา ช่วยเพิ่มความแข็งให้กับเกล็ดมังกร 1 ชั้น เคลือบพลังธาตุดินไว้รอบๆ กาย ดูแล้วท่าทางจะแข็งยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังกรงเล็บยังดูเหมือนจะคมขึ้นด้วย


 


ทั้งพลังรบยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นทรงพลังยิ่งกว่าเก่า นี่ก็เหมือนกับการผลาญแกนโลหิตของผู้ฝึกตน มันสามารถเพิ่มพลังให้กับตัวเองขั้นใหญ่


 


“คำราม!”


 


มังกรดินกระโจนเข้ามาอย่างไม่ลังเล ขณะที่มังกรดินอีกสองตัวทำการล้อมเขาเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายหลบหนี ในตอนนี้มีคนหลุดไปข้างนอกหลายคนแล้ว ยิ่งเห็น ในใจของพวกเขาก็ยิ่งสั่น รู้สึกกังวลอย่างมาก


 


“น่าสนใจ สัตว์อสูรพวกนี้เยี่ยมจริงๆ….” อี้เทียนหยุนอยากจะเรียกมังกรดำออกมาจัดการพวกมัน แต่เมื่อเห็นมังกรดินพวกนี้ ในใจเขาก็พลันปรากฏความคิดหนึ่งขึ้น


 


จากนั้นเขาก็ทำการกระทืบพื้นอย่างแรง ก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่มังกรดิน และทันใดนั้นเขาก็กระโดดขึ้นบนหัวของมังกรดิน จากนั้นก็ทำการถีบเข้าใส่มันอย่างแรง


 


“เปรี้ยง!”


 


ร่างขนาดใหญ่ของมังกรดินพลันถูกถีบล้มลงกับพื้นเสียงดัง จนพื้นดินแตกออกเป็นหลายเส้น พร้อมกับคลื่นอัดอากาศที่กระจายตัวออกไป กระทั่งเกล็ดมังกรที่แข็งยังถูกลูกถีบนี้จนเกล็ดแตกออกไปหลายชิ้น ส่วนตัวมังกรดินนั้นถูกลูกถีบนี้จนหน้าทิ่มดิน


 


พลังที่กดขี่นี้ กระทั่งมังกรดินที่ระเบิดพลังออกมาก็ยังไม่สามารถต้านทานได้อยู่ดี!


 


จากนั้น อี้เทยีนหยุนก็ตกลงบนหัวของมัน ขณะที่มือของเขาเปล่งแสงออกมา พร้อมกับวางลงบนร่างของมังกรดินนี้ ขณะที่ปากกำลังพึมพำเสียงเบา “จับ!”


CLS ตอนที่ 319: สวนกลับ


 


หลังจากอี้เทียนหยุนเอ่ยคำว่า “จับ” ออกไป เขาก็พลันเปิดความสามารถจับสัตว์ในทันที พร้อมกับทำการจับมังกรดินตัวนี้ มังกรดินตัวนี้ถือว่าเป็นสัตว์อสูรที่ดีมาก สามารถใช้เป็นสัตว์อสูรสำหรับป้องกันสำนัก ในเมื่อส่งมันมาถึงมือเขาทั้งที เขาก็จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอน


 


นี่เป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในหมวดหายาก แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางพลาด ดังนั้นจึงได้ลองใช้ความสามารถจับสัตว์ออกมา


 


หลังจากเปิดใช้งาน ขณะที่เขาเหยียบอยู่บนร่างของมังกรดินตัวนี้ ก็ได้มีลำแสงเข้าปกคลุมทั่วทั้งร่างมังกรดินใต้เท้าของเขา มังกรดินตัวนี้ดิ้นรนเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถหนีไปได้ ราวกับว่ากำลังถูกสะกดอยู่


 


“คำราม!” มังกรดินยังคงดิ้นรน แต่มันจะไปสู้กับอี้เทียนหยุนที่มีพลังเหนือกว่าได้ยังไง ถึงทำได้เพียงถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้


 


“นี่มันอะไรกัน ท่าไม่ดีแล้ว รีบให้มังกรดินตัวอื่นโจมตีมันเร็วเข้า! ไม่ต้องสนใจมังกรดินของข้า กำจัดมันได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง!” ทหารมังกรคนนั้นคิดว่าท่าไม่ดี เขาจึงรีบบอกให้สหายของตนโจมตีเข้าไป


 


“ได้ โจมตีมัน!” ทหารมังกรออกคำสั่งให้มังกรดินของตนโจมตีใส่อี้เทียนหยุนทันที มังกรดินสองตัวที่โอบล้อมไว้เมื่อครู่พลันคำสั่งเจ้านาย กระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุน โดยไม่สนว่าสหายของมันจะยังนอนกองอยู่บนพื้นก็ตาม พวกมันสนใจเพียงคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์เดียวกัน มันก็ไม่สน!


 


“ติ๊ง ท่านจับสัตว์อสูรมังกรดินสำเร็จ มังกรดินระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 8 ศักยภาพระดับ 3!”


 


“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้ทำการจับมังกรดินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100,000, ค่าความชำนาญในการจับสัตว์เพิ่มขึ้น 100!”


 


เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ขอเพียงใช้ความสามารถออกมา ไม่เพียงแต่จะได้ค่าความชำนาญเท่านั้น แม้แต่ค่าประสบการณ์ก็ได้ด้วย


 


หลังจากการจับสำเร็จ มังกรดินตัวนี้ก็ไม่ดื้อกับเขาอีก ทั้งยังแสดงท่าทางเป็นมิตรอย่างสมบูรณ์


 


“ดีมาก ขวางพวกมันไว้!” อี้เทียนหยุนออกคำสั่งกับมังกรดินที่อยู่ใต้เท้า


 


มังกรดินตัวนี้พลันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกระโจนเข้าใส่มังกรดินสองตัวอย่างกราดเกรี้ยว พร้อมกับหยุดพวกมันเอาไว้


 


“ปัง ปัง!”


 


ภายใต้การควบคุมของอี้เทียนหยุน พลังของมังกรดินตัวนี้ก็เพิ่มขึ้นมาก มันทำการชนมังกรดินทั้งสองอย่างแรงจนอีกฝ่ายปลิวกระเด็น!


 


สิ่งนี้ทำให้พวกเขาพากันตกใจ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นมังกรดินของทหารมังกร แล้วทำไมถึงได้ทำร้ายฝ่ายเดียวกันล่ะ?


 


“นี่มันอะไรกัน ทำไมมังกรดินของข้าถึงได้โจมตีตามใจล่ะ? หยุด หยุดให้ข้าเดี๋ยวนี้ แล้วจัดการเจ้าหนูนั่นซะ!” ทหารมังกรคนนั้นร้องตะโกนอยู่อีกด้านไม่หยุด แต่ก็ไม่มีความหมาย มังกรดินตัวนี้ไม่รับฟังคำสั่งของทหารมังกรคนนี้อีก ทั้งยังคงทำการโจมตีเข้าใส่มังกรดินอีกสองตัวต่อ


 


อี้เทียนหยุนใช้โอกาสนี้บินขึ้นไป พร้อมกับทิ้งดิ่งลงมา “ปัง” ทำการกระทืบเท้าเข้าใส่มังกรดินจนหน้าทิ่มพื้น พร้อมกับใช้ความสามารถในการจับสัตว์ ทำการจับมังกรดินตัวนี้ต่อ


 


มังกรดินอีกตัวคิดจะกระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุน แต่ก็ถูกมังกรดินที่อี้เทียนหยุนควบคุมอยู่ตอบโต้อย่างรวดเร็ว กระโจนเข้าใส่มังกรดินตัวนั้น พร้อมกับเริ่มทำการต่อสู้กันจนทั่วทั้งเขตนี้เกิดการสั่นสะเทือน


 


“ติ๊ง ท่านทำการจับสัตว์อสูรมังกรดินสำเร็จ ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 9 ศักยภาพระดับ 3!”


 


“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้ทำการจับมังกรดินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 130,000, ค่าความชำนาญในการจับสัตว์เพิ่มขึ้น 100!”


 


และก็เป็นอีกครั้งที่เขาจับมังกรดินได้สำเร็จ มังกรดินตัวนี้ได้ตกเป็นของเขาแล้ว ฟิ้วววว ด้วยการควบคุมของอี้เทียนหยุน มังกรดินตัวนี้ก็ได้กระโจนเข้าไปช่วยมังกรดินอีกตัวทำการสะกดมังกรดินของอีกฝั่งเอาไว้อย่างรวดเร็ว


 


“ปัง!”


 


ภายใต้การโจมตีของมังกรดินทั้งสอง ทำให้มังกรดินอีกตัวถูกกดลงกับพื้นจนขยับไม่ได้ อี้เทียนหยุนก็ทำการกระโจนเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใช้ความสามารถในการจับสัตว์ ทำการจับมังกรดินตัวนี้มาเป็นของตนอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์ และค่าความชำนาญมาเช่นก่อนหน้า


 


“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าถึงไม่สามารถควบคุมมังกรดินได้เหมือนเมื่อก่อน นี่มันทำอะไรกัน?”


 


“หรือว่ามันจะเป็นนักฝึกสัตว์?”


 


“เป็นไปไม่ได้ มันจะเป็นนักฝึกสัตว์ไปได้ยังไง!?”


 


ทหารมังกรทั้งสามคนนี้พากันตะลึง มังกรดินของตนถูกปราบ แล้วอย่างนี้พวกเขายังจะเรียกตัวเองว่าทหารมังกรได้อีกอย่างงั้นเหรอ? ตอนนี้พวกเขาก็เป็นได้เพียงผู้เชี่ยวชาญระดับก่อแกนวิญญาณธรรมดาเท่านั้น


 


จากนั้น พวกเขาต่างก็พากันมองหน้ากัน พวกเขาต่างก็เห็นความเดือนดาลในสายตาของอีกฝ่าย พร้อมกับพากันเรียกหอกยาวออกมา แล้วกระโจนเข้าใส่อี้เทียนหยุนพร้อมกัน


 


“เอามังกรดินของพวกข้าคืนมา!”


 


พวกเขาคำรามอย่างเดือดดาล พร้อมกับพุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน คิดจะใช้มังกรดินเข้าสยบอี้เทียนหยุน แต่ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายกลับสยบสัตว์เลี้ยงของพวกเขาแทน นี่ทำให้พวกเขารู้สึกแค้นจนแทบกระอัก


 


“อยากได้คืนอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็เอาไปเลย ข้าคืนให้!”


 


พร้อมกันนั้นเขาก็ทำการชี้นิ้ว แล้วก็ออกคำสั่งกับมังกรดินทั้งสาม ให้กระโจนเข้าใส่ทหารมังกรทั้งสามคน ร่างมหึมาของมังกรดินทั้งสามตัวบดบังจนแทบเต็มพื้นที่ พวกมันทำการกระโจนเข้าใส่ทหารมังกรทั้งสาม


 


“ไม่ อย่าเข้ามา…..”


 


ทหารมังกรพากันหน้าซีดเผือด พวกเขามีพลังระดับเดียวกันกับมังกรดิน ภายใต้เขาที่แหลมคมของพวกเขา หอกของพวกเขาไม่มีทางสู้ได้แม้แต่น้อย จากนั้น ร่างมหึมาของมังกรดินทั้งสามก็ทำการบดทับสามทหารมังกรจนบี้แบน


 


“ติ๊ง ท่านสังหารทหารมังกรสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 280,000, ค่าความคลั่ง 3,700, ค่าความชั่ว 150 ได้รับวิชายุทธ์ หนามเมฆาทรราช, สะท้านเมฆาสะบั้น ได้รับไอเทม หอกมังกรดิน(ระดับจิตวิญญาณขั้นกลาง), ชุดเกราะมังกรดิน(ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ)”


 


“ติ๊ง ท่านสังหารทหารมังกรดินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 270,000, ค่าความคลั่ง 3,600, ค่าความชั่ว 150…..”


 


……


 


 


สามทหารมังกรไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้าน ทำให้ถูกเท้าขยี้จนตาย ผู้ฝึกตนที่มีระดับเดียวกันกับสัตว์อสูร ตราบใดที่ไม่ใช่พวกที่มีความสามารถเกินระดับ ไม่มีทางหลีกหนีความตายได้ ฉากนี้ปรากฏต่อสายตาผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่ด้านหลัง พวกเขาต่างมีท่าทางตกตะลึง กระทั่งเย่ชิงเสวียนก็เช่นกัน


 


เพียงแค่เผชิญหน้าช่วงสั้นๆ มังกรดินทั้งสามก็ถูกปราบพิชิต ทั้งยังสามารถควบคุมมังกรดินให้สังหารเจ้านายเดินได้ด้วย นี้มันจะกะทันหันเกินไปแล้ว


 


“ดีมาก กลับมาได้แล้ว!”


 


อี้เทียนหยุนพามังกรดินทั้งสามเดินออกไปด้านนอก เดินกระแทกประตูที่ยังเปิดไม่สุดออกไป เมื่อออกมาด้านนอก ผู้ฝึกตนทั้งหลายที่อยู่ด้านนอกในตอนนี้ต่างพากันรีบหนีกันให้วุ่น


 


อีกไม่นานขุนพลมังกรจะกลับมา ดังนั้นการรีบหนีไปจากที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด


 


“พวกเจ้าทุกคนขึ้นมา นั่งมังกรดินนี้หนีไป!” อี้เทียนหยุนบอกให้คนของเผ่าภูตขึ้นมานั่งบนตัวมังกรดิน พวกเขาไม่ลังเล รีบพากันปีนขึ้นมาบนตัวมังกรดินในทันที


 


มังกรดินพวกนี้ตัวใหญ่มาก สามารถให้คนหลายสิบคนนั่งได้ในเวลาเดียวกัน คนปกติไม่ให้นั่ง แต่จะให้คนส่วนใหญ่ที่บาดเจ็บหนักนั่งก่อน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะยังไงพวกที่เหลือก็สามารถวิ่งตามไปได้อยู่ดี


 


“ชิงเสวียน เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะให้พวกมันฟังคำสั่งของเจ้า!” อี้เทียนหยุนบอกให้เย่ชิงเสวียนรีบพาคนกลับไปก่อน


 


“แล้วเจ้าล่ะ?” เย่ชิงเสวียนหันกลับมาถามเขา


 


“ข้าจะอยู่ทำลายที่นี่ก่อน!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา


 


ภารกิจของเขายังไม่จบ แล้วเขาจะไปได้ยังไง? คุกใต้พิภพยังไม่ถูกทำลาย ยังสามารถจับคนมาขังได้อยู่ ดังนั้น จำเป็นต้องทำลายที่นี่ให้สิ้นซากเสียก่อน!


CLS ตอนที่ 320: เหมืองใต้ดิน


 


“ไปก่อนแล้วค่อยมาทำลายที่หลังไม่ได้เหรอ?” เย่ชิงเสวียนรีบพูดออกมา “คุกใต้พิภพนี้ทำลายยากมาก เพราะว่ามีค่ายกลวางไว้ ถ้าไม่ทำลายค่ายกลก่อน ก็ไม่สามารถทำลายคุกใต้พิภพนี้ได้ อีกไม่นานขุนพลมังกรก็จะมา เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะยังทำอะไรได้?”


 


สายตาเย่ชิงเสวียนเต็มไปด้วยความกังวล คิดว่าอี้เทียนหยุนกำลังหาที่ตาย เธอรู้ว่าระดับของอี้เทียนหยุนไม่ต่ำ แต่คิดจะคุยคนเดียวแบบนี้ นี่ไม่ต่างไปจากการรนหาที่ตายเลยสักนิด? ถ้าถูกล้อมไว้ข้างในล่ะก็ ต่อให้มีปีกก็ไม่สามารถหนีออกมาได้


 


“เจ้าคิดว่าข้าจะไม่สามารถหนีออกมาได้อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “ถ้าคุกใต้พิภพยังอยู่ ก็จะมีผู้ฝึกตนอีกมากที่ต้องถูกจับมาขังไว้ที่นี่ ข้ารู้ว่าวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการทำลายอาณาจักรใต้พิภพ แต่สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนก็คือการทำลายคุกใต้พิภพแห่งนี้ เมื่อคุกใต้พิภพถูกทำลาย มันจะเป็นการสั่นคลอนจิตวิญญาณของอาณาจักรใต้พิภพอย่างแรง!”


 


“ส่วนเรื่องค่ายกลเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสามารถทำลายพวกมันได้ เรื่องนี้ข้ารู้ว่าเจ้าก็รู้ดี”


 


เขาเป็นนักสลักอาคมระดับต้าซือ ทั้งยังได้รับความทรงจำจากเย่ชิงเสวียนอีก สำหรับค่ายกลที่ถูกสร้างอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแม้แต่น้อย


 


“แต่ว่า….” เย่ชิงเสวียนยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของเขา เธอกลัวว่าเขาจะไม่ได้กลับมาอีก


 


“ในเมื่อสหายน้อยอยากจะไปก็ให้เขาไปเถอะ…..” บรรพชนเผ่าภูตยื่นนิ้วมาทางเขา และนิ้วนั้นก็ยิงลำแสงออกมา พร้อมกับทะลวงเข้าไปในหัวของอี้เทียนหยุน “นี่คือความทรงจำด้านค่ายกลของข้า มันสามารถทำลายค่ายกลที่นี่ได้อย่างง่ายดาย หวังว่ามันจะสามารถช่วยเจ้าได้”


 


“ขอบคุณท่านบรรพชนมาก!”


 


หลังจากอี้เทียนหยุนทำความเข้าใจความทรงจำนี้ เขาก็พบว่ามันได้ต่างไปจากความทรงจำที่เย่ชิงเสวียนมอบให้ นี่เป็นความรู้เกี่ยวกับการทำลายค่ายกล ซึ่งไม่เหมือนกับของเย่ชิงเสวียนที่เป็นการสร้างค่ายกล


 


พูดจบ อี้เทียนหยุนก็พยักหน้าให้เย่ชิงเสวียน จากนั้นก็หมุนตัวแยกออกไป


 


“ข้าและคนอื่นจะรอเจ้ากลับมา!” เย่ชิงเสวียนตะโกนไล่หลัง


 


ร่างของอี้เทียนหยุนถึงกับสั่น ฉากนี้เตือนให้เขานึกไปถึงชิเสวี่ยอวิ๋น เธอก็มักจะพูดแบบนี้กับเขาอยู่เป็นประจำ จากนั้นเขาก็หันไปยิ้มให้กับเธอแล้วพูดว่า “รอข้า ข้าจะกลับไปอย่างแน่นอน!”


 


พูดจบ เขาก็บินไปข้างหน้าในทันที เย่ชิงเสวียนก็ไม่ลังเล ทำการควบคุมมังกรดินทั้งสามนำผู้คนอพยพไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ อีกไม่นานจะต้องถูกพบอย่างแน่นอน ภายใต้การวิ่งนำของมังกรดินพวกนี้ ทำให้พวกเขามาถึงเขตชายแดนอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามังกรดินพวกนี้จะไม่สามารถบินได้ แต่ความเร็วในการวิ่งบนพื้นของพวกมันกลับไม่ช้าเลย


 


อี้เทียนหยุนกลับเข้าไปยังคุกใต้พิภพ ในมือของเขากุมคันศรน้ำค้างแข็งเทวะแน่น พร้อมกับเปิดฉากสังหารอีกครั้ง ยามใดที่พบเห็นผู้คุม อี้เทียนหยุนก็จะทำการสังหารพวกเขา ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนขวัญกระเจิง


 


“นี่มันอะไรกัน ยมทูตตนนี้กลับมาทำไม!?” ผู้คุมที่หนีไปหากำลังสนับสนุนเมื่อเห็นอี้เทียนหยุนก็รีบวิ่งไปปิดประตู แต่ประตูนี้พูดจริงๆ แล้ว มันไม่สามารถปิดได้ง่ายนัก


 


ขณะที่ประตูยังไม่ปิดดี มือของอี้เทียนหยุนก็ควบกลั่นเป็นศรน้ำแข็งเย็นเยียบออกมา ขณะที่นัยน์ตาทั้งสองข้างเป็นประกายสีฟ้าจางๆ “น้ำค้างแข็งพิโรธ!”


 


เขาเล็งไปยังห้องโถงหลัก ลำแสงสีฟ้าจางแหวกทะลุอากาศ จนสุดท้ายก็ระเบิดห้องโถงหลักจนกระจุย!”


 


“ตูมมม!”


 


ราวกับมีพายุหิมะที่บ้าคลั่งระเบิดออกที่ด้านใน ทำให้ผู้คุมที่อยู่ด้านในถูกแช่แข็ง พริบตาก็กลายมาเป็นประติมากรรมน้ำแข็งจนหมด กระทั่งช่วงที่เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งพวกเขายังไม่รู้สึก ทำให้คนที่อยู่ในนั้นถูกแช่แข็งจนเข้าไปลึกถึงไขกระดูก ตายจนไม่สามารถตายได้อีก


 


“ติ๊ง ท่านสังหารผู้คุมสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 170,000, ค่าความคลั่ง 2,300, ค่าความชั่ว 100 ได้รับวิชายุทธ์ ฝ่ามือเทียนหยุน, ท่าเท้าเทียนหยุน, ได้รับไอเทม กระบี่เหล็กปราณ, เม็ดยาฟื้นฟู”


 


“ติ๊ง ท่านสังหารผู้คุมสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์……”


 


“ติ๊ง…..”


 


ภายใต้ศรดอกนี้ ผู้คุมพวกนี้ล้วนถูกสังหารสิ้น กลายเป็นค่าประสบการณ์และแต้มความชั่วให้กับเขา ซึ่งค่าความชั่วของพวกเขานี้ถือว่าสูงมาก เทียบได้กับระดับผู้อาวุโสที่เขาสังหารมาก่อนหน้า สามารถจินตนาการได้เลยว่าผู้คุมพวกนี้ทำเรื่องชั่วร้ายมากขนาดไหน แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องที่อาณาจักรใต้พิภพสั่งให้พวกเขาทำ แต่ยังไงความชั่วก็ย่อมต้องติดตัวพวกเขาไม่มากก็น้อย


 


ทันใดนั้น อี้เทียนหยุนก็ได้เข้ามาในคุกใต้พิภพสำเร็จ ที่นี่ตอนนี้ได้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ เขากระทั่งมองยังไม่มอง ทำการพุ่งเข้าไปด้านใน พร้อมกับส่ายตามองค่ายกลที่สลักไว้บนกำแพง ขณะที่ในมือปรากฏลำแสงเจิดจ้า ก่อนที่จะถูกปล่อยออกไปใส่ค่ายกลที่สลักไว้ตามกำแพง พร้อมกับทำลายพวกมันทิ้งไป


 


ภายใต้การโจมตีหลายร้อยครั้ง ค่ายกลบนกำแพงก็พลันสลายไป นี่เป็นไปตามความทรงจำที่บรรพชนเผ่าภูตมอบให้ ค่ายกลที่นี่เขาเป็นคนสร้าง แล้วเขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าต้องทำลายยังไง? ดังนั้น การทำลายมันจึงไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งระดับของเขายังไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้น ต่อให้ได้ความทรงจำนี้ก็มาก็คงไม่สามารถทำลายค่ายกลพวกนี้ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้


 


หลังจากทำลายค่ายกลที่นี่เสร็จ เขาก็เปลี่ยนไปที่อีกฝั่งอย่างรวดเร็ว หลังจากส่งพลังทำลายออกไปหลายร้อยครั้ง ค่ายกลบนกำแพงอีกฝั่งก็สลายไป ด้วยพลังระดับนี้ การส่งพลังทำลายเข้าไปหลายร้อยครั้งไม่ได้เสียเวลานานนัก อย่างมากก็ไม่เกินสามวินาที ก็สามารถทำลายค่ายกลพวกนี้ได้แล้ว


 


ดังนั้น ความเร็วที่ใช้จึงเร็วมาก ถ้ามีคนของเผ่าภูตอยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องตกใจอย่างแน่นอน การลงมือที่น่าอัศจรรย์เยี่ยงนี้ ยากที่จะเห็นจริงๆ


 


“ไป!”


 


หลังจากอี้เทียนหยุนลงมา เขาก็ทำการเรียกคันศรน้ำค้างแข็งเทวะออกมา พร้อมกับเล็งเข้าใส่กำแพงที่ค่ายกลถูกทำลายทิ้งแล้ว จากนั้นก็ยิงศรน้ำแข็งสามดอกออกไป ยิงทะลุกำแพงจนเป็นรูขนาดใหญ่ พร้อมกับพังลงมา!


 


“เปรี้ยง!”


 


ทางเข้าจากด้านนอกถูกเขาทำลายจนเหลือไม่ถึงครึ่ง ทำให้เขารู้สึกพอใจมาก


 


“ดีมาก ขอแค่ไม่มีค่ายกลสลักอยู่ กำแพงที่นี่ก็ไม่ต่างไปจากเนยเหลว!”


 


อี้เทียนหยุนไม่ได้ทำลายต่อ แต่ทำการเข่นฆ่าเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำลายค่ายกลที่สลักไว้ไปตลอดทางอย่างบ้าคลั่ง เขาทำการทำลายค่ายกลทุกครั้งที่เจอด้วยความง่ายดาย ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงนักสลักอาคมระดับต้าซือ ทั้งยังได้วิธีการทำลายมาอีก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้การทำลายเป็นเรื่องง่ายได้ยังไง


 


ขณะที่เขาบุกเข้าไป ก็ได้มีผู้คุมโผล่ออกมาไม่หยุด ดูเหมือนว่าคุกใต้พิภพแห่งนี้จะมีชั้นใต้ดินด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุกใต้พิภพแห่งนี้มีชั้นใต้ดินอยู่จริงๆ! ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เย่ชิงเสวียนกับพวกไม่รู้ ดูเหมือนว่าจะสร้างขึ้นมาทีหลัง ไม่อย่างนั้นพวกเธอจะต้องรู้อย่างแน่นอน


 


“ด้านนอกมีเรื่องอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


 


พวกผู้คุมโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ที่คอยพวกเขาอยู่กลับเป็นศรน้ำแข็งเย็นเยียบ พร้อมกับจัดการทำให้พวกเขากลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งชั้นเยี่ยม อี้เทียนหยุนทำการสังหารพวกเขา พร้อมกับเดินลงไปยังชั้นใต้ดิน แล้วไปโผล่ยังพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่


 


“ที่นี่มีชั้นใต้ดินอยู่จริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ ไม่รู้ว่าที่นี่ใช้ทำอะไร…..”


 


อี้เทียนหยุนบุกเข้าไปอย่างไม่ลังเล อย่างรวดเร็วก็ทะลวงเข้าไปถึงส่วนลึก ซึ่งสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเขาคือเหมืองขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างมาก!


 


“ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะเป็นเหมือง…..” อี้เทียนหยุนนึกขึ้นได้ก่อนที่จะใช้ความสามารถล่องหนออกมา พร้อมกับแอบตามผู้ฝึกตนเข้าไปในเหมือง ได้ยินพวกเขาพูดว่าเหมือนนี้เป็นเหมืองใต้ดิน ไม่ใช่เหมืองภายนอก!


CLS ตอนที่ 321: ของตอบแทน


 


ในเหมืองยักษ์แห่งนี้มีผู้ฝึกตนจำนวนมากกำลังขุดหาแร่ พวกเขาทำการขุดแร่ทั้งวันทั้งคืน บนตัวทุกคนต่างก็มีโซ่ตรวนล่ามไว้ ด้วยสภาพนี้ ทำให้พวกเขาต้องทำเหมืองอย่างหัก ระดับของพวกเขาก็ไม่ใช่ต่ำๆ ในนั้นส่วนใหญ่เป็นระดับหลอมรวม ที่ต่ำสุดเห็นจะเป็นระดับปรับแต่งวิญญาณ การที่ให้พวกเขามาทำเหมืองอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพสูง


 


ที่นี่ยังมีผู้ฝึกตนที่ไม่ถูกล่ามอยู่ จำนวนผู้คนเมื่อเทียบกับขนาดของเหมืองแล้วถือว่าน้อย แต่ก็มากกว่าพันคน ไม่คิดว่าที่นี่จะซ่อนผู้ฝึกตนจำนวนมากขนาดนี้ไว้! ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ช่วยคนออกมาหลายคน บ้างก็ถูกขังอยู่ในห้องกลั่นโอสถ ไม่ก็ห้องหลอมศาสตรา มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่ยังไม่ถูกช่วย


 


คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าที่นี่มีเหมืองอยู่ ไม่คิดว่าใต้ดินของคุกใต้พิภพจะซ่อนเหมืองขนาดใหญ่อย่างนี้ไว้


 


อี้เทียนหยุนกวาดสายตามอง ทรัพยากรที่นี่นับว่าร่ำรวยนัก หลังจากเลื่อนระดับให้กับดวงตาประเมินแล้ว การวิเคราะห์เรื่องวัตถุดิบก็สะดวกสบายขึ้นมาก ถ้าไม่รู้ว่าวัตถุดิบชิ้นนั้นเป็นอะไร เพียงกวาดตามองก็สามารถรู้ได้อย่างง่ายดาย


 


หินวิญญาณหยก : น้ำหนักมากกว่า 50 จิน, ยังมีทรัพยากรมากกว่า 1 ล้านจินที่รอให้ขุดค้น


 


แร่เหล็กปราณ : วัตถุดิบสำหรับหลอมอุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณ, ยังมีทรัพยากรมากกว่าพันจินที่รอให้ขุดค้น


 


แร่ผลึกม่วง : วัตถุดิบสำหรับหลอมศาสตราระดับสวรรค์, ยังมีทรัพยากรมากกว่าร้อยจินรอให้ขุดค้น


 


ละอองเมฆทอง : วัตถุดิบสำหรับเพิ่มระดับเม็ดยาชั้น 5, สามารถเพิ่มอัตราสำเร็จให้กับการกลั่นโอสถ, ยังมีทรัพยากรมากกว่าพันจินรอให้ขุดค้น


 


เพียงแค่มองกวาดอย่างรวดเร็ว ชื่อของวัตถุดิบทุกชิ้นก็แสดงออกมา กระทั่งยังบอกปริมาณคร่าวๆ ที่ยังเหลืออยู่อีก ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีก แม้ว่าจะไม่ค่อยแม่นยำนัก แต่แค่จำนวนคร่าวๆ ก็ถือว่าดีแล้ว ทั้งแร่ผลึกม่วงกับละอองเมฆทองยังถือว่าเป็นของล้ำค่าที่สุด ทั้งจำนวนที่เหลืออยู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ


 


ไม่คิดเลยว่าเหมืองนี้จะให้ทรัพยากรที่หลากหลายขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะต้องจำตัวผู้ฝึกตนจำนวนมากมา นอกจากขุดเหมืองแล้ว พวกเขายังใช้วัตถุดิบจากนี้ แปรสภาพเป็นอาวุธ หรือไม่ เม็ดยา ทั้งหินวิญญาณหยกยังมีจำนวนมาก ถ้าสามารถขุดเองได้ เขาคงเข้าไปขุดเองแล้ว!


 


ยังไงก็ตาม ของพวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะขุดได้ง่ายๆ มันค่อนข้างแข็ง ทำให้ยากที่จะขุด ดังนั้น คนขุดเหมืองจึงไม่สามารถใช้คนธรรมดาได้ จำเป็นต้องมีผู้ที่มีพลังอยู่ในระดับค่อนข้างดี ดังนั้นอาณาจักรใต้พิภพจึงได้จับพวกเขามา จากนั้นก็ใช้พวกเขาขุดเหมือง โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนแม้แต่น้อย


 


“เร็วเข้า ขุดเร็วๆ อย่าอู้!”


 


“เหมือนว่าข้างบนจะมีเรืองอะไรเกิดขึ้น? พวกเราจะไม่ไปดูหน่อยเหรอ?”


 


“มันจะมีเรื่องอะไรได้ ให้คนขึ้นไปดูสักหน่อยก็ดี ใครมันจะกล้าบุกเข้ามาในคุกใต้พิภพของพวกเรา?”


 


พวกเขาพากันส่ายหัว พร้อมกับไม่คิดจะใส่ใจ ทั้งยังเงื้อแส่ฟาดใส่ผู้ฝึกตนที่กำลังอู้อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ต่อให้อู้ ขอแค่ขัดตาพวกเขาก็จะฟาด แค่พูดไม่เข้าหูก็จะถูกเล่นงาน ไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย


 


ผู้ฝึกตนพวกนี้เข้ามากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า โดยที่ไม่คิดจะไปสนใจเรื่องของคนอื่น


 


“ขอยาถอนพิษให้ข้า ขอยาถอนพิษให้ข้าด้วย!” ในตอนนี้เอง ก็ได้มีผู้ฝึกตนที่พิษกำเริบ กำลังนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น ขณะที่ยื่นมือออกมาทางพวกเขาด้วยท่าทางเจ็บปวด ร้องขอยาถอนพิษกับพวกเขา


 


แต่ยังไงก็ตาม ผู้คุมพวกนี้กลับไม่สนใจ ยังคงยืนมองเฉย กระทั่งมองยังขี้เกียจ


 


“ยาพิษกำเริบอีกแล้ว นี่เจ้าไม่ได้ให้ยาถอนพิษกับมันอย่างงั้นเหรอ?”


 


“ไม่รู้สิ ให้มันดิ้นอยู่อย่างนั้นล่ะ ใครใช้ให้มันกินยาพิษเข้าไปล่ะ”


 


ผู้คุมยักไหล่ พูดอย่างไม่แยแส ราวกับว่าคนที่มอบยาพิษให้อีกฝ่ายไม่ใช่พวกตน


 


“ใช่แล้ว งั้นทำไมเจ้าไม่ลองกินมันเข้าไปล่ะ?” อยู่ๆ ก็มีเสียงที่ราวกับภูตผีดังขึ้น ทำให้พวกเขาต้องหันไปมองด้วยความโกรธ พร้อมกับฟาดแส้ออกไป แต่อยู่ๆ ก็มีศรน้ำแข็งสองดอกทะลุร่างพวกเขา กระทั่งใบหน้าของอี้เทียนหยุนพวกมันยังไม่ทันเห็น ก็พลันสิ้นสติโดยสมบูรณ์


 


อี้เทียนหยุนหยิบยาถอนพิษจากศพพวกมัน จากนั้นก็โยนไปให้กับผู้ฝึกตนพวกนี้ มอบยาถอนพิษให้กับพวกเขา


 


ผู้ฝึกตนคนนั้นลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก พร้อมกับหยิบยาถอนพิษขึ้นมาด้วยร่างกายที่สั่นเทา ก่อนจะยัดมันเข้าปาก หลังจากกินลงไป อาการพิษกำเริบของเขาก็ดีขึ้นมาก ไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนก่อนหน้า


 


อี้เทียนหยุนส่ายหัว ยาถอนพิษนี้ก็แค่ชะลออาการเท่านั้น มันมีรอบของมันอยู่ การกำเริบแต่ละครั้งของพิษจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ต้องถูกพิษกำเริบตาย


 


“เจ้าเป็นใครกัน!”


 


ผู้คุมที่อยู่ใกล้ๆ ฟาดแส้มาอย่างโหดเหี้ยม แต่ศรน้ำแข็งก็ทะลุร่างของพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่สามารถพูดได้อีกตลอดกาล


 


เมื่อผู้ฝึกตนทั้งหมดเห็นฉากนี้ พวกเขาก็พากันหยุดมือ มองมาที่เขา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี


 


“ตอนนี้พวกเจ้าเป็นอิสระแล้ว ส่วนกุญแจปลดโซ่ก็ไปค้นเอาจากผู้คุมพวกนี้เอา เตรียมตัวสังหารเปิดทางหนีไปด้วยกันกับข้า!” อี้เทียนหยุนตะโกนเสียงดัง เสียงของเขาดังกระจายไปทั่วทั้งเหมือง


 


หลังจากพวกเขาได้สติก็ราวกับคนบ้า ทำการกระโจนเข้าใส่ผู้คนพวกนี้อย่างรวดเร็ว ทำการค้นหากุญแจจากพวกเขา แต่มีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ไม่คิดจะหลบหนี ในตาของพวกเขายังเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง


 


“พวกเจ้าจะยืนนิ่งทำอะไร ไม่หนีอย่างงั้นเหรอ?”


 


“หนีอะไรกัน? เจ้าคิดว่าพวกเราหนีไปแล้วจะมีชีวิตอยู่อย่างงั้นเหรอ? ยาถอนพิษก็ไม่มี หนีออกไปไม่เท่ากับตายหรอกเหรอ……”


 


พวกเขาพากันตกใจ แม้จะไขโซ่ตรวนที่ล่ามออกไป แต่ก็ไม่สามารถกำจัดพิษที่อยู่ในร่างไปได้ แล้วอย่างนี้จะไปมีความหมายอะไร? ยาถอนพิษที่พวกผู้คุมมีไม่ใช่ยาถอนพิษจริงๆ เป็นเพียงแค่ยาระงับอาการเท่านั้น มันยังมีขีดจำกัดอยู่ หากว่าพิษกำเริบขึ้นอีก พวกเขาคงไม่สามารถต้านทานได้


 


ตอนนี้คนทั้งหลายรู้สึกเหมือนเรือกำลังล่มขณะที่มองเห็นฝั่ง แสงแห่งความหวังในสายตาของพวกเขาพลันหม่นลง


 


“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ข้าสามารถทำยาถอนพิษได้ มันสามารถกำจัดพิษทั้งหมดในร่างกายพวกเจ้าได้!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ตอนนี้ที่พวกเจ้าต้องทำก็คือรีบปลดโซ่ตรวนออก แล้วหนีไปจากที่นี่ด้วยกัน!”


 


คำพูดนี้เป็นคำพูดที่พวกเขาต้องการฟังที่สุด เมื่อเสียงนี้กระจายเข้าหูพวกเขา ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นขึ้นมาทันที


 


“เขา เขาบอกว่าสามารถทำยาถอนพิษได้!”


 


“จริงเหรอ พวกเราปลอดภัยแล้ว พวกเราปลอดภัยแล้ว!”


 


พวกเขาพากันโห่ร้อง พร้อมกับรีบไขโซ่ที่ล่ามออก อี้เทียนหยุนทำการวิเคราะห์พิษในร่างพวกเขา พิษนี้เทียบกับพิษที่ใช้กับบรรพชนเผ่าภูตแล้ว ถือว่าอ่อนกว่ากันมาก มันเหมือนกับพิษที่ใช้กับบรรพชนเผ่าภูต แต่เหมือนกับเป็นระดับที่อ่อนแอกว่า ดังนั้นการจะถอนพิษของมันแน่นอนว่าย่อมง่ายกว่ามาก เทียบได้กับการทำยาเม็ดชั้น 2 เท่านั้น เห็นได้ว่าความยากของมันนั้นต่ำมาก


 


“โชคดีที่เป็นแค่เม็ดยาชั้น 2 ไม่อย่างนั้นด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ คงจะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน…..”


 


อี้เทียนหยุนสำรวจสมุนไพรกองใหญ่ในแหวนเก็บของ นี่เป็นของที่เขาปล้นมาได้เมื่อก่อนหน้า หลังจากช่วยเหลือผู้ฝึกตนที่ถูกขังอยู่ในห้องกลั่นโอสถ เขาก็ทำการปล้นสมุนไพรทั้งหมดในห้องโดยไม่สนว่าจะเป็นสมุนไพรชั้นอะไร ปล้นมันให้หมดแล้วค่อยว่ากันทีหลัง เพราะเขารู้ว่ามีสมุนไพรบางชนิดที่สามารถกลั่นเป็นยาถอนพิษได้ แต่ไม่คิดว่าจะมีผู้ฝึกตนที่ถูกพิษมากขนาดนี้


 


ในขณะที่เขากำลังกลั่นโอสถอยู่นั้น ผู้ฝึกตนจำนวนมากก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่พวกเขากลับยกจอบขึ้นมา พร้อมกับเริ่มขุด! ทั้งยังเหมือนจะขันแข็งกว่าก่อนหน้าด้วย เหมือนกับกำลังเจอของที่ล้ำค่าที่สุดอย่างไงอย่างงั้น


 


ยังไงก็ตาม ที่พวกเขาขุดก็ไม่ใช่ขุดเพื่อตัวเอง ที่ผู้ฝึกตนจำนวนมากกำลังขุดอยู่นี้ ก็เพื่อที่จะมอบให้กับอี้เทียนหยุน ถือเป็นรางวัลในการช่วยชีวิตพวกเขา!


 


อี้เทียนหยุนเบิ่งตามอง เขาไม่คิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นอย่างนี้ เขาช่วยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะขุดแร่มอบให้กับเขาจริงๆ ในช่วงที่เขากำลังกลั่นโอสถอยู่นี้ พวกเขาต้องการขุดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้


 


เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่พวกเนรคุณ ไม่คิดจะรับยาแล้วเดินจากไปเฉยๆ ก่อนหน้านั้น พวกเขาจำเป็นต้องตอบแทนอะไรสักอย่างก่อน


CLS ตอนที่ 322: ฉายาเลื่อนระดับ!


 


เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นการกระทำของพวกเขาก็ได้พูดแนะนำว่า “แร่ที่เหลือพวกนี้พวกเจ้าไม่ต้องขุดแล้ว ข้าไม่ต้องการ พวกเจ้าไม่ต้องทำแบบนี้ พวกเจ้าพักผ่อนร่างกายดีกว่า หลังจากนี้เวลาหนีออกไปจะได้มีแรง”


 


แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขากลับไม่ฟัง ยังคงขุดแร่ออกมาให้เขาตามเดิม


 


“พวกเราไม่มีของอะไรจะให้ มีแต่ของพวกนี้เท่านั้น ท่านช่วยพวกเราไว้ นี่จึงเป็นของรางวัลที่ท่านควรจะได้รับ”


 


“ใช่แล้ว พวกเราไม่มีของตอบแทนอะไรจะให้ จึงได้แต่ยืมดอกไม้ถวายพุทธะ ขุดแร่พวกนี้มอบให้ท่าน”


 


“ข้ายินดีติดตามผู้มีพระคุณ จะเชื่อฟังคำสั่งของท่าน!”


 


“ข้าด้วย ข้าก็ยินดีจะติดตามท่าน! ถ้าท่านผู้มีพระคุณมีความแค้นกับอาณาจักรใต้พิภพ ชั่วชีวิตนี้ของข้าจะเป็นของท่านผู้มีพระคุณ ยินดีบุกตะลุยอาณาจักรใต้พิภพด้วยกันกับท่าน!”


 


“ใช่แล้ว สังหารสุนัขรับใช้อาณาจักรใต้พิภพ กำจัดพวกสารเลวอาณาจักรใต้พิภพ!”


 


พวกเขาโกรธมาก ต้องได้รับความทรมานมานาน จนหัวใจตายด้าน มาตอนนี้ได้มีความหวังเล็กๆ ทำให้ในใจเต็มไปด้วยความต้องการแก้แค้น ยอมทุ่มทุกอย่าง อยู่ที่นี่มีชีวิตไม่ต่างกับตาย ทุกวันต้องอดทนกับความเจ็บปวดจากพิษร้าย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้ยังไง


 


การที่อี้เทียนหยุนเข้ามาช่วยพวกเขา ทำให้พวกเขาเห็นความหวัง ทำให้ในใจพวกเขารู้สึกตื้นตัน รู้สึกอยากตอบแทน แต่ว่านอกจากชีวิตนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่มีอะไรอื่นจะให้อีก


 


“อาณาจักรใต้พิภพจะต้องถูกทำลายแน่ แต่ก็ต้องดูว่าตัวเองทำอะไรได้ การเข้าไปพลีชีพโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้ช่วยอะไร!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “เป้าหมายหลักของเราในตอนนี้คือหนี จากนั้นก็มีชีวิตอยู่ต่อไป! หลังจากที่มีพลังเพียงพอแล้ว ตอนนั้นจะเป็นวันที่อาณาจักรใต้พิภพต้องได้รับผลกรรมกับสิ่งที่พวกมันทำไว้!”


 


หลังพูดจบ เขาก็ทำการกลั่นโอสถด้วยความรวดเร็ว อย่างรวดเร็ว เขาก็กลั่นยาออกมาได้ชุดหนึ่งแล้ว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าร้อยเม็ด!


 


เขาทำการแจกจ่ายเม็ดยาที่ทำออกมา พวกเขาก็ไม่ได้วุ่นวาน ทำการต่อแถวเข้ามารับยาอย่างดี หลังจากกินเข้าไป สีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้น ไม่หลงเหลือความรู้สึกเจ็บปวดที่มีมาตลอดวันเลย


 


“ข้ารู้สึกว่าพิษในร่างของข้าไม่เหลือแล้ว ไม่เหลือแล้วจริงๆ!”


 


“ไม่เหลือแล้วจริงๆ ด้วย….. ข้าก็คิดว่าต้องทรมานเพราะพิษนี้ไปจนกว่าจะตายด้วยซ้ำ…..”


 


พวกเขาพากันน้ำตาไหลนองหน้า แสดงความรู้สึกดีใจออกมา ก่อนหน้านี้ที่อี้เทียนหยุนบอกว่าสามารถปรุงยาถอนพิษออกมาได้ พวกเขานั้นไม่เชื่อจริงๆ แต่เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ออกมานี้แล้ว จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้


 


ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความหวัง ต้องการอยากจะเข้าไปรับยานี้เป็นคนแรก อยากจะเข้าไปขโมยมัน กลัวว่ายาจะมีไม่พอ ในนี้มีผู้ฝึกตนอยู่เกินพัน มีหลายคนที่รักชีวิต หวาดกลัวความตาย ทั้งมีหลายคนในนี้ที่ก่อนหน้าเป็นคนค่อนข้างมีอำนาจ ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่อยากตาย


 


การที่พวกเขาต้องมาถูกจัดการอย่างนี้ จะไม่ให้ในใจพวกเขาโกรธเกลียดอาณาจักรใต้พิภพได้ยังไง


 


“เข้ามาทีละคน อย่าแย่งกัน!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ บอกพวกเขาอย่าวุ่นวาย


 


พวกเขาพากันหยุด หดหัวกลับอย่างกระอักกระอ่วน ไม่กล้ายื่นหน้าออกไปอีก


 


“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากังวล อยากจะถอนพิษเร็วๆ แต่พวกเจ้าไม่ต้องกังวล พวกเจ้าจะได้ถอนพิษกันทุกคน ข้าจะรีบทำออกมาให้เสร็จ”


 


เมื่อพูดจบ อี้เทียนหยุนก็ทำการกลั่นโอสถอีกชุด เพื่อแจกจ่ายให้กับคนที่เหลือ แล้วก็ใช้เวลาไม่นาน เขาก็ปรุงยาอีกชุดออกมาสำเร็จ


 


ในช่วงระหว่างที่ปรุงยา ก็ได้มีผู้คุมบุกเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาได้ พวกเขาต่างก็ถูกศรจากอี้เทียนหยุนสังหารจนตาย ซึ่งกระบวนการพวกนี้ไม่ได้รบกวนการปรุงยาของเขาแต่อย่างใด เขาสามารถปรุงยาด้วยมือเดียวได้โดยที่ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย


 


เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพนี้ ก็พลันร้องอุทานออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้


 


อย่างรวดเร็ว เม็ดยามากกว่าพันก็ได้ปรุงออกมาสำเร็จ แถมยังมอบให้พวกผู้ฝึกตนทั้งหมด ช่วยกำจัดพิษในร่างพวกเขา พวกเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ในสายตาไม่เหลือความสิ้นหวังเหมือนก่อนหน้าอีก


 


พวกเขาพากันมอบแร่ที่ขุดได้ให้กับอี้เทียนหยุน บอกให้เขารับมันไป อี้เทียนหยุนเห็นพวกเขาทำอย่างนี้ก็ไม่ปฏิเสธ ยอมรับแร่พวกนี้เอาไว้


 


“ขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต!”


 


“ขอบคุณผู้มีพระคุณ!”


 


“ตราบเท่าที่ผู้มีพระคุณมีคำสั่ง ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ พวกเราก็จะทำตามที่ท่านผู้มีพระคุณต้องการ!”


 


“ชั่วชีวิตนี้ข้าจะติดตามผู้มีพระคุณ จะติดตามผู้มีพระคุณไปทุกที่!”


 


พวกเขาพากันคุกเข่าคารวะ พร้อมกับโขกคำนับให้กับเขาสามที เพื่อแสดงความขอบคุณที่มีต่อเขา


 


“รีบลุกขึ้นเร็ว อย่าทำอย่างนี้ ตอนนี้ทุกคนเตรียมตัวได้แล้ว พวกเราจะออกไปจากที่นี่กัน ด้านนอกยังมีผู้คุมเหลืออยู่ แต่ก็เหลือแค่ส่วนน้อย เพราะถูกข้ากำจัดไปก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอันตรายอยู่ดี พวกเจ้าตามหลังข้ามาให้ดี อย่าแตกแถวเด็ดขาด!”


 


อี้เทียนหยุนนำพวกเขาพุ่งออกไปข้างนอก พวกเขาก็ไล่ตามหลังไปอย่างเปี่ยมด้วยพลัง ทำการเข่นฆ่าออกไปข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าข้างนอกย่อมเต็มไปด้วยศพมากมาย ศพพวกเขาเขาเป็นคนฆ่า เพราะฆ่าคนหนึ่งไปก็จะมีผู้คุมอีกกลุ่มโถมเข้ามา คุกใต้พิภพแห่งนี้ใหญ่มาก ผู้คุมบางคนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ดูแลเขตอื่น เมื่อได้ยินว่าที่นี่เกิดเรื่อง ดังนั้นจึงได้มารวมตัวกัน


 


ยังไงก็ตาม ต่อให้จะมีจำนวนมาก ผลลัพธ์ก็ไม่ต่าง ล้วนแต่ถูกเขากำจัดไป โดยที่ไม่มีความยากอะไร


 


ขณะที่เขานำกลุ่มคนนับพันหนีออกจากคุกใต้พิภพอย่างรวดเร็วด้วยความราบรื่นนั้น เมื่อออกมาด้านนอก ภาพภายนอกที่ได้เห็นก็ทำให้พวกเขาต้องร้องอุทานออกมา นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้โลกภายนอก ทำให้พวกเขาต้องน้ำตาไหลออกมา


 


“รีบไปเร็วเข้า ตอนนี้กำลังสนับสนุนยังไม่มา รีบไปจากที่นี่เร็ว!” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขาหนีไปจากที่นี่


 


“แล้วท่านผู้มีพระคุณล่ะ?”


 


พวกเขาพากันมองอี้เทียนหยุน พวกเขาอยากจะติดตามอี้เทียนหยุนอย่างมาก


 


“ข้าต้องทำลายคุกใต้พิภพนี้ก่อน พวกเจ้าไปกันก่อนเลย” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขารีบจากไป


 


“แต่ว่า…..”


 


“ถ้าอยากจะตอบแทนข้าจริงๆ ก็ให้รีบไปจากที่นี่ซะ นี่เป็นวิธีที่จะตอบแทนข้าได้ดีที่สุด! พวกเจ้าไม่ต้องมาติดตามข้าหรือทำอะไรให้ ขอแค่พวกเจ้ามีชีวิตต่อไปและแข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นศัตรูกับอาณาจักรใต้พิภพแค่นี้ก็พอแล้ว!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง


 


“ชั่วชีวิตนี้ของข้า อาณาจักรใต้พิภพก็คือศัตรู ตราบเท่าที่มีโอกาส ข้าจะต้องสังหารพวกมันให้สิ้น!”


 


“ใช่แล้ว ต่อให้ไม่สามารถสังหารพวกมันได้ แต่แค่สามารถทำให้พวกมันฉิบหายย่อมไม่มีปัญหา!”


 


“ถ้างั้นก็ขอทำตามคำสั่งของผู้มีพระคุณ พวกเราขอไปจากที่นี่ก่อนแล้ว!”


 


พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของอี้เทียนหยุน ไม่หยุดอยู่ที่นี่ ทำการกระจายตัวกันหนีทั่วทุกทิศทาง พร้อมกับหายไปจากเส้นสายตา


 


อี้เทียนหยุนยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาก็แค่ไม่ชอบหน้าอาณาจักรใต้พิภพ เขาทำการปล่อยผู้ฝึกตนที่พวกมันจับมา ถือว่าเป็นการกรีดเลือดพวกมันแล้ว จากนั้นไป เมื่อผู้ฝึกตนพวกนี้แข็งแกร่งขึ้น พวกเขาจะต้องเป็นตัวปัญหาใหญ่ให้กับอาณาจักรใต้พิภพอย่างแน่นอน!


 


“ติ๊ง ท่านทำภารกิจ “ช่วยชีวิตคนดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น” ขั้นที่สอง สำเร็จ ยกระดับฉายา “ผู้กอบกู้” เปลี่ยนเป็น “ยื่นดาบสร้างไมตรี” มีผลช่วยเพิ่มค่าความดี 1,000!”


 


อยู่ๆ ก็เพิ่มค่าความดีขึ้นอีก 800 ปกติแล้ว ฉายาผู้กอบกู้จะมอบค่าความดีให้ 200 แต้ม มาตอนนี้เปลี่ยนเป็น 1,000 แต้ม เท่ากับว่าได้ความดีเพิ่มขึ้นมา 800 แต้ม!


CLS ตอนที่ 323: ปะทะ!


 


ค่าความดีที่อยู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนนี้ ทำให้เขารู้สึกตกใจจริงๆ


 


อี้เทียนหยุนไม่คิดว่าจะจะมีการยกระดับฉายามาก่อน ก่อนหน้านี้เขาแค่คิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นจะทำให้ได้รับฉายามา แต่ไม่คิดว่าการช่วยเหลือคนมากๆ ในคราวเดียวจะทำให้เกิดการยกระดับฉายาด้วย ถ้าฉายายังยกระดับต่อไปล่ะก็ ค่าความดีของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นราวกับพลุระเบิดอย่างแน่นอน


 


ค่าความดีนี้สำคัญมาก มันมีผลต่อหลายสิ่ง ยกตัวอย่างเช่นการสุ่มลอตเตอรี่, การหลอมกลั่น และต่างๆ อีกมากมาย ทั้งยังไม่ได้ส่งผลแค่เล็กน้อยด้วย ถือเป็นค่าที่มีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี


 


“ดีจริงๆ อย่างนี้ก็เท่ากับเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง” อี้เทียนหยุนยิ้ม คิดด้วยความรู้สึกพึงพอใจ


 


แต่ในขณะที่เขากำลังจะทำลายคุกใต้พิภพนี้นั้น เขาก็พลันสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ส่งมาจากที่ไกลๆ ราวกับฟ้าจะถล่มลงมา ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤต!


 


“หรือว่าขุนพลมังกรจะมาแล้ว?”


 


อี้เทียนหยุนไม่เพียงไม่กลัว แต่เขากลับยิ้มออกมาแทน ที่นี่เกิดเรื่องวุ่นวายตั้งนาน ในที่สุดขุนพลมังกรนี้ก็มาได้สักที ยังไงก็ตาม นี่ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ ตำแหน่งนี้ในอาณาจักรใต้พิภพถือว่าสูงมาก ดังนั้นงานย่อมต้องยุ่งตามไปด้วย ต่อให้จะได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถปลีกตัวมาได้ในทันที


 


แล้วก็จริง อึดใจต่อมา เขาก็เห็นมังกรสีแดงตัวใหญ่กำลังบินมาที่นี่ ตัวของมังกรนั้นเมื่อเทียบกับมังกรดำของเขาแล้วใหญ่กว่า ทั้งระดับยังแข็งแกร่งกว่ากันไปขั้นใหญ่ อยู่ในระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 8!


 


และที่ยืนอยู่บนนั้นก็คือชายในชุดเกราะมังกรแดง ในมือของเขาถือหอกยาวสีโลหิต พร้อมกับจ้องมาที่นี่อย่างเย็นชา ขนาดยังมาไม่ถึง เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีหนามแหลมคมกำลังทิ่มแทงเข้ามาในร่างของเขาผ่านทางสายตาที่จ้องมองมา


 


อี้เทียนหยุนไม่แม้แต่จะกระพริบตา ทั้งยังแสดงรอยยิ้มแสยะ “เป็นสายตาที่ดุร้ายจริงๆ ไม่เสียทีที่มีพลังถึงระดับนั้น มีสายตาที่ดุดันขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนยอมจำนนได้”


 


ภายใต้สายตาประเมินของเขา พริบตา ข้อมูลของอีกฝ่ายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า


 


มังกรแดงยักษ์ : ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 8, มีเพลิงสวรรค์ที่ร้อนแรงเป็นอย่างมาก, ผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุดไม่สามารถต้านรับตรงๆ, ศักยภาพขั้น 5! พลังรบ 4.1 ล้าน(ในสภาพปกติ)


 


ขุนพลมังกร : ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 1, สวมใช่ชุดศึกมังกรแดง(ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ), หอกมังกรแดง(ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ), พลังรบ 14 ล้าน(ในสภาพปกติ)! ฝึกเคล็ดวิชามังกรสวรรค์, เพลงหอกป้าหุน, จุดอ่อน : ไม่มีจุดอ่อน, เมื่อสังหารมีโอกาสได้รับ ชุดศึกมังกรแดง, หอกมังกรแดง, เคล็ดวิชามังกรสวรรค์, สายเลือดเทพมังกร…….


 


พลังรบ 14 ล้าน ทั้งนี่ยังเป็นในสภาวะปกติที่ยังไม่ระเบิดพลังอีก! หลังจากใช้ดวงตาประเมินตรวจสอบ ก็ได้มีข้อมูลหลายอย่างปรากฏออกมา แต่ก็ยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่ไม่ปรากฏ แต่ที่น่าเหลือเชื่อก็คือพลังรบในสภาวะปกติ ทั้งที่ยังไม่ได้ระเบิดพลังออกมาด้วยซ้ำ แต่พลังรบของอีกฝ่ายกลับน่าสะพรึงขึ้นขั้นนี้แล้ว


 


ถ้ารวมพลังรบที่เกิดจากวิชายุทธ์, อาวุธ หรือไม่ก็เม็ดยา และอื่นๆ อีกล่ะก็ พลังรบของเขามันจะไม่น่าตะลึงยิ่งกว่านี้อย่างงั้นเหรอ


 


นี่ก็เหมือนกับบรรพชนของวังเสินเหวินเมื่อก่อนหน้า ในตอนแรกพลังรบของเขายังอยู่ที่ประมาณ 4-5 ล้านเท่านั้น แต่ว่าหลังจากที่ระเบิดพลังออกมา พลังรบของเขาก็พุ่งขึ้นเป็น 12 ล้าน พลังรบเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่ก็ยังไม่เท่ากับโหมดคลั่ง มีเพียงแค่โหมดคลั่งเท่านั้นที่มีพลังพอที่จะท้าทายสวรรค์


 


“พลังรบ 14 ล้าน, อาวุธระดับสวรรค์, ชุดเกราะระดับสวรรค์, ข้าเห็นแล้วไม่แปลกใจเลย…..”


 


เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นขุนพลมังกรคนนี้ เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายยากจะจัดการ เขาเชื่อว่าเมื่อขุนพลมังกรระเบิดพลังทั้งหมดออกมา พลังรบของเขาจะต้องมากกว่า 30 ล้านอย่างแน่นอน นี่ล้อกันเล่นหรือไง? ระดับวิญญาณเที่ยงแท้นี้ช่างสุดยอดจริงๆ น่าสะพรึงโดยแท้


 


ยิ่งรวมกับอาวุธระดับสวรรค์ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้น่าสะพรึงกลัวขึ้นไปอีก


 


ทันใดนั้น เขาก็ยกคันศรน้ำค้างแข็งเทวะขึ้น พร้อมกับเล็งไปยังขุนพลมังกรคนนี้ พร้อมกับทำการผลาญค่าความคลั่ง 5,000 แต้มในทันที ก่อให้เกิดศรน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้น ก่อให้เกิดความเย็นกระจายออกทุกทิศทาง ขณะเดียวกัน เขาก็เปิดใช้งานโหมดคลั่งหมวดพลังโจมตี เพิ่มพลังของมันขึ้นไปอีก 8 เท่า ก่อให้เกิดเป็นพลังโจมตีขั้นใหม่ในทันที!


 


10 ล้าน!


 


13 ล้าน!


 


16 ล้าน!


 


……


 


21 ล้าน!


 


25 ล้าน!


 


……


 


29 ล้าน!


 


31 ล้าน!


 


34 ล้าน!


 


 


ในที่สุด เขาก็รวบรวมเป็นพลังรบ 34 ล้าน และก็ไม่เพิ่มมากไปกว่านี้ นี่เป็นพลังที่รวมกับท่าน้ำค้างแข็งพิโรธ ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นพรวดพราด ซึ่งทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้กับค่ายกลที่เขาติดลงไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้พลังรบที่มีจำนวนน่าตกใจขนาดนี้


 


พลังของเขาอยู่ที่ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 4 ดังนั้นพลังรบของเขาจึงมีจำกัด มีเพียงแต่รวมหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน จึงทำให้พลังรบของเขาระเบิดออกมารได้ขนาดนี้ นี่เทียบได้กับพลังโจมตีของเขาที่เพิ่มขึ้นอีก 12 เท่า!


 


“เปิดใช้งานสายเลือดเทพมังกร!”


 


ร่างของเขาพลันปรากฏเกล็ดมังกรขึ้นปกคลุม พร้อมกับระเบิดพลังขึ้นอีกขั้น พร้อมกับรวมเข้ากับค่าพลังโจมตี 12 เท่านี้ด้วย


 


“ปัง!”


 


35 ล้าน!


 


36 ล้าน!


 


37 ล้าน!!


 


 


พลังของเขาระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง พลังรบทั้งหมดของเขากลายเป็น 37 ล้าน เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเขา ยามที่กำลังรวบรวมพลังนั้น พื้นที่รอบๆ ได้ถูกแช่แข็งเป็นบริเวณกว้าง


 


ขุนพลมังกรที่อยู่ไกลๆ รู้สึกเหมือนไม่ถูกต้อง เมื่อมองเห็นสถานการณ์ที่นี่ สีหน้าของเขาก็จมลง ศรน้ำแข็งที่น่าสะพรึงทำให้เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤต


 


“น้ำค้างแข็งพิโรธ!”


 


นัยน์ตาทั้งสองข้างของอี้เทียนหยุนเป็นประกายเย็นชา ลำแสงสีฟ้าอ่อนถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเย็นที่สามารถแช่แข็งพื้นที่ต่างๆ ได้กระจายออกไป! ความเร็วของมันยิ่งน่าตระหนก พริบตาก็ไปปรากฏอยู่ไม่ไกลจากตัวขุนพลมังกรแล้ว


 


“เคล็ดวิชามังกรสวรรค์!”


 


ขุนพลมังกรพลันระเบิดพลังของตนออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดเป็นลมปราณรูปมังกรยิงขึ้นฟ้า พร้อมกันนั้น ก็ปรากฏมังกรสีเลือดขึ้นด้านหลัง พร้อมกับเลื้อยพันบนร่างของเขา พริบตา พลังรบของเขากระโดดขึ้นไปเป็น 35 ล้าน!


 


ช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตะลึงยิ่งนัก ยามเมื่อระดับวิญญาณเที่ยงแท้ระเบิดพลังออกมา กระทั่งคลื่นพลังยังถูกบีบอัดเป็นรูปร่าง เพิ่มพลังขึ้นอีกช่วงใหญ่


 


นี่คือพลังระดับวิญญาณเที่ยงแท้ มันสามารถเพิ่มพลังให้ทั้งกับร่างกายและก็วิญญาณ ซึ่งแต่ละคนก็จะปลุกพลังวิญญาณที่ต่างกัน ของขุนพลมังกรนี้เป็นพลังของมังกรแดง ทำให้ก่อให้เกิดเป็นเกล็ดของมังกรขึ้นคลุมร่าง


 


ทั้งมังกรแดงและเขารวมเป็นหนึ่ง ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอีกขั้น


 


พลังรบ 38 ล้าน!(สภาพเต็มพลัง!)


 


“ป้าหุน!”


 


ขุนพลมังกรคำรามออกมา พร้อมกันนั้น ก่อให้เกิดเป็นมังกรยักษ์สองตัวคำรามออกมา เป็นร่างของเขารวมกับภาพเงามังกร ทำการขบกัดน้ำค้างแข็งพิโรธที่ยิงเข้ามา!


 


“เปรี้ยง!”


 


เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ก็ก่อให้เกิดแรงระเบิดมหาศาล พร้อมกับคลื่นอัดอากาศที่เย็นเสียดกระดูกกระจายออกทุกทิศทาง แต่ว่ามีแต่ทางฝั่งของขุนพลมังกรเท่านั้นที่เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นอะไร


 


และเมื่อเขาใช้ดวงตาประเมินตรวจสอบดู เขาก็พบว่าพลังรบของอีกฝ่ายได้เพิ่มเป็น 40 ล้าน บดขยี้น้ำค้างแข็งพิโรธของเขาไปอย่างท่วมท้น!


 


นี่ไม่ได้เหนือไปจากที่อี้เทียนหยุนคาด ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ย่อมมีความสามารถท้าทายสวรรค์เป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเพลงอาวุธ หรือวิชายุทธ์ทั่วไป นี่ก็คือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง และคนที่สามารถนั่งในตำแหน่งขุนพลมังกรนี้ได้ ก็ย่อมไม่ใช่หมูๆ อย่างแน่นอน!


 


“ร้ายกาจจริงๆ แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ…..” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา ร่างกายต้องการปะทะ


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม