Black Tech Internet Cafe System 242-248

ตอนที่ 242

 

“แล้วไง? ทำไมต้องทำเรื่องง่ายให้มันยาก?” ก่อนจะสิ้นประโยคผู้ฝึกฝนใช้มือของเขาซุ่มโจมตีด้วยความเงียบ


หมอกสีดำเคลื่อนไหวอยู่รอบตัวของฟางฉีด้วยความเงียบและพุ่งตัวไปหาซูโมอยู่ยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์! ซูโมรู้สึกกลัวจนแทบอยากร้องไห้ แต่ก่อนที่หมอกสีดำจะทำอะไรไปมากกว่านี้ จู่ๆ ก็เกิดสายฟ้าแลบ!


โชคดีที่ฟางฉีระงับได้ทัน .. เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูงแม้ว่านี่จะเป็นการแอบซุ่มโจมตีก็ตาม นับตั้งแต่ฟางฉีเคยถูกลอบโจมตีเขาจึงเปิดการโจมตีด้วยสายฟ้าไว้ตลอดเวลา เมือใดที่เกิดการขัดแย้ง สิ่งที่เขาต้องคือการจัดการและควบคุมพลังของมันเพื่อไม่ให้คนอื่นโดนลูกหลง


ตั้งแต่สายฟ้าที่ฟางฉีได้เปิดไว้ป้องกันผ่าเข้าที่หมอกสีดำแอบซุ่มโจมตี หมอกดำนั้นไม่สามารถพลางตัวได้อีกสามารถเห็นมันได้จากประกายไฟของพลังงานสายฟ้า มันส่งผลต่อการพลางตัวอย่างรุนแรง


จากนั้นหมอกดำก็ถูกเปิดเผยในทันทีส่งผลให้เห็นผ้าคลุมสีดำ ในเวลาเดียวกันมันถูกตรึงที่กำแพงด้วยพลังดาบของฟางฉี


ผ้าคลุมของหมอกดำค่อยข้างมีคุณภาพมันไม่ถูกเจาะด้วยดาบ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเสียเปรียบให้แก่สายฟ้าอยู่ดี เพราะพลังสายฟ้าทำให้ถูกเปิดเผยตัวตน หลังจากหมอกดำคิดจะหนีมันถูกกดให้ยอมจำนนอีกครั้งด้วยสายฟ้าอันศักดิ์สิทธิ์!


ฟางฉีชูสองนิ้ว นิ้วชี้และกลางของเขาไปที่หมอกดำ ..​ ฉึก! ปลายดาบวิ่งเข้าพุ่งลงกระแทกกับแกนกระดูกสันหลังของหมอกดำ


ขณะเดียวกันดูกั้นที่ยืนมองอยู่ตรงทางเข้าหน้าร้าน เขาดูไม่สนใจอะไรแล้วในเวลานี้ ฟางฉีจึงหันหน้าไปมองแล้วเอ่ยทักว่า “ทำไมคนในเมืองนี้ถึงได้บ้าคลั่งแบบเจ้า? ทุกคนโจมตีทุกครั้งเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ”


“เจ้าทำลายผีหมอกดำของเรา!” ซือซิเอ้อพูดด้วยสีหน้าดุดัน


“แต่ถึงอย่างไรผีแก่แบบนั้นก็คงจะอ่อนแอมากแล้ว” เขาหยิบลูกปัดสีแดงเลือดออกมาและพูดขึ้น “ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสลูกปัดกระหายเลือดของข้า!”


“ออกไปจากที่นี่! มันคืออะไรวะ!?” ฟางฉีเริ่มหัวร้อนเขาบิดมือชูสองนิ้ว พลังงานดาบพุ่งออกมาทันที


“เจ้าจะทำลายลูกปัดกระหายเลือดของข้าหรือ!?” หน้าของซือซิเอ้อตอนนี้กำลังผิดหวังเล็กน้อย แต่ถึงอย่างงั้นตอนนี้พลังงานดาบนับไม่ถ้วนเองก็รุมล้อมรอบตัวเขาราวกับพวกเป็นสัตว์เลื้อยคลาน


“แกร๊ก!” เสียงแตกดังขึ้น ดาบเล่มหนึ่งทำให้ลูกปัดกระหายเลือดของเขาแตก!


ลูกปัดกระหายเลือดระเบิดและกลายเป็นสายหมอกคล้ายเลือดก้อนโต! เมื่อมองไปที่เศษลูกปัดแล้วมันแตกกระจายตัวเต็มไปหมด ฟางฉียืนมองด้วยสายตาเฉยชา “เศษขยะชิ้นนี้ของเจ้าน่ะหรอที่เรียกว่าลูกปัดกระหายเลือด”


“เจ้า ..​ เจ้า” ซือซิเอ้อตกใจอย่างมากสมบัติทางจิตวิญญาณของเขาถูกทำลายอย่างง่ายดาย


ลูกปัดกระหายเลือดนี้เป็นสมบัติที่เขาได้กลั่นกลองออกมาจากเลือดของเขา เนื่องด้วยขุมทรัพย์ทางวิญญาณชิ้นนี้ของเขาถูกทำลายนั้นส่งผลทำให้ซื่อซิเอ้อกระอักเลือดออกมา หน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดราวกับผี!


รวนหนิงอ้าปากค้าง ..​เด็กคนนี้ทำไมเข้าถึงแข็งแกร่งจัง!


“แรงดี” ซากุกระซิบ “แต่ข้าไม่รู้ว่าเข้าใช้เวทย์มนตร์เพื่อทำลายลูกปัดหรือเปล่า มันช่างง่ายดายเหลือกิน”


“ดูเหมือนว่าเขาเก็บซ่อนเร้นพลังของเขาไว้” หวังชานกระซิบ “เขามีพละกำลังที่ดี แต่คงไม่เพียงพอที่เราจะใช้ปกป้องขุมทรัพย์เหล่านี้ได้ เขาต้องมีลูกเล่นเพิ่มอีก” หวังชานเองหวังว่าจะมีผู้มาเยือนร้านนี้น้อยเพื่อที่เขาจะได้อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมีคนมาแย่ง


“มาเลย จัดการเจ้าเด็กนี่กัน!” ดูกั้นตะโกนขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า ตอนนี้มีแต่พวกปัญหาอ่อนเท่านั้นแหละที่จะบอกว่าความแข็งแกร่งในการเพาะปลูกของฟางฉีนั่นต่ำ!


พลังงานดาบพุ่งออกมาหลังจากเสียงผิวปากดังขึ้น ฝ่ายตรงข้ามของฟางฉีไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปกป้องตัวเองจากดาบที่น่ากลัว!


เทคนิคดาบนับไม่ถ้วนนั้นทรงพลังอย่างมา ฟางฉีใช้มันด้วยความเชี่ยวชาญราวกับสายน้ำที่พุ่งพล่าน ตอนนี้ ซือซิเอ้อและดูกั้นเองรู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับคลื่นซึนามิ


คนที่ต้องการโจมตีในเวลานี้ถูกทำลายด้วยพลังดาบ พวกเขาถูกส่งตัวออกไปนอกร้านและถูกตรึงไว้ที่กำแพงฝั่งตรงข้าม


รวนหนิงรู้สึกตาแตกเมื่อเห็นฟางฉีควบคุมเทคนิคดาบอันทรงพลังอย่างง่ายดายหวังชานเองก็เช่นกัน “เทคนิคดาบนี้สุดยอดจริงๆ เจ้าของร้านเป็นฝ่ายไหนกันนะ!?”


“ดูเหมือนเขายังออกแรงไม่เต็มที่เลย” ซากุพึมพำ


ฟางฉีปัดฝุ่นออกจากมือ “รู้สึกดีเหมือนได้ออกกำลังกาย”


“หัวหน้า!” ซูโมชี้นิ้วไปที่หน้าจอ “ตัวละครในเกมของท่านกำลังถูกฆ่า! เด็กน้อยคนนั้นก็เช่นกัน!


“ชิบ!” ฟางฉีสบถ “มีอะไรตกหรือไม่? ไม่มีใครได้ดาบไม้สีดำของข้าไปใช่มั้ย?” เขาเอ่ยถามเนื่องจากได้รับดาบที่มีแรงโจมตีมากเมื่อเทียบกับเวลในเวลานั้น เขาเพิ่งได้มันมา ถ้ามันตกคงมีคนหยิบไปแน่ .. นอกจากดาบแล้วเขายังมีวัสดุและยามากมายในเป้


หวังชานยืนนิ่งเขายังคงสตั้นกับเหตุการณ์ ..


“บ้าเอ้ย! พวกเจ้ากำลังเดินหาที่ตาย” ฟางฉีชูสองนิ้วและชี้ไปที่พวกมันอีกครั้ง เสียงกรีดร้องพร้อมเสียงกระดูกแตกดังขึ้น


จุดแข็งของพวกเขาถูกสะกัดและทำลาย ขาของพวกเขาหัก!


“ออกไปซะ!” ฟางฉีเดินกลับเข้าร้านโดยไม่เหลียวหลัง “โมน้อยทำความสะอาดเลือดที่ประตูด้วย ข้าต้องกลับไปเก็บของของข้า!”


“รับทราบ!”


หวังชานและรวนหนิงยังคงตาแตกกับเสียงและภาพที่เห็น เขาทั้งสองพูดไม่ออก


“ไปกันเถอะ!” หวังชานมองที่ฟางฉีด้วยความระมัดระวัง “อย่ายุ่งกับร้านนี้ถ้าไม่จำเป็น” เขาเอ่ย


รวนหนิงเดินเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าสงสัย “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าแข็งแกร่งเช่นนี้”


“เจ้าไม่ได้ถาม” ฟางฉีตอบอย่างว้าวุ่น ข้างๆ เขาคือซูโมที่กำลังยิ้ม


รวนหนิงกลืนคำพูดของเธอแล้วหันไปหาซูโม “เจ้าขำอะไร? เจ้าจะมายิ้มในเวลาแบบนี้ไม่ได้!”


ซูโมเกาหัวเล็กน้อย “ชายคนนั้นอยู่ในอาณาจักรแม่น้ำจริงใจ ก่อนหน้านี้กลุ่มปีศาจดำก็อยู่ แต่พวกเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากหัวหน้าของข้าได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงดูไม่กังวลเท่าไร”


“ผู้ที่อยู่ในอาณาจักรแม่น้ำจริงใจในระยะแรกไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่แข็งแกร่งแบบนั้นได้”


“อาณาจักรแม่น้ำจริงใจ?” รวนหนิงดูเหมือนกำลังคิดถึงจุดแข็งของฟางฉี “ปีศาจดำคนไหนที่เจ้าฆ่า!?”


“การพูดพล่ามของเจ้าทำให้ข้าสับสน” ฟางฉีบ่นเพราะเขากำลังตั้งใจฆ่าแมงมุม “ข้าโจมตีเขาเพียงครั้งเดียว .. เจ้าจะให้ข้าจำชื่อคนอ่อนแอเช่นนั้นได้อย่างไร”


รวนหนิงขมวดคิ้ว แต่แล้วเธอก็ตระหนักว่าเธอกำลังกังวลกับบางสิ่งที่ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับเธอ!

 

 

 


ตอนที่ 243

 

รวนหนิงรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เธอไม่เคยเห็นใครที่เหมือนเจ้าของร้านนี้มาก่อน เขาเพิ่งทิ้งพวกข้างนอกแล้วกลับมาฆ่าแมงมุมในเกมอย่างหน้าตาเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน


 


“อย่างไรก็ตามพวกเขาเหล่านั้นมาได้อย่างไร?” รวนหนิงชี้ไปที่หวังชานและคนอื่นๆ ที่กำลังเดินออกจากร้าน “เป็นเพราะพวกเขาพบว่าสิ่งของเหล่านี้ของเจ้าไม่น่าประทับใจใช่มั้ย!?”


 


“พี่รวน ..” ซูโมชี้ไปที่กระดานดำเล็กๆ และพูดต่อว่า “ผู้เล่นแต่ละคนสามารถเล่นได้แค่หกชั่วโมงต่อวันเท่านั้นและหัวหน้าบอกให้พวกเขาออกไปเมื่อหมดเวลา .. ”


 


ซูโมกำลังคิดว่าธุรกิจของหัวหน้าเขาทำให้เขาสับสนเล็กน้อย แม้ว่าที่นี่จะมีสิ่งที่ดี แต่การทำแบบนี้อาจทำให้ลูกค้าโกรธ แล้วถ้าหากลูกค้าโกรธละจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า!?


 


รวนหนิง “…” เธอคิดในหัว หึ! หากเจ้าทำธุรกิจต่อไปด้วยวิธีนี้ละก็ข้าว่าลูกค้าคงจะไม่กลับมาเป็นแน่ รวนหนิงมองว่าแม้สิ่งต่างๆ ในร้านจะสามารถทำให้กระบวนการเพาะปลูกดีขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังมีสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน


 


การละทิ้งสิ่งอื่นๆ เพียงมื้ออาหารทางจิตวิญญาณและสมุนไพรทางจิตวิญญาณที่เธอกินในแต่ละวันเองก็สามารถเร่งการฝึกฝนของเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้นการควบแน่นทางจิตวิญญาณและห้องเพาะปลูกที่สร้างขึ้นจากหินวิญญาณก็ถือเป็นตัวช่วย


 


มีวิธีที่ดีกว่าในเมืองชั้นใน! พวกเขามีสิ่งที่แปลกและน่าประหลาดใจเช่นเม็ดยาอายุวัฒนะที่ช่วยในเรื่องความแข็งแรงในการเพาะปลูก หนึ่งเม็ดสามารถทำให้ผู้ปลูกฝังมีการเติบโตพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง แต่เสียอย่างเดียวมันมีผลข้างเคียง!


 


ตอนนี้เธอคิดทบทวนแล้วว่ามีหลายวิธีที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของแต่ละคน ถือว่าวิธีในร้านของฟางฉีนั้นไม่เหมืนอใคร แต่มันก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายซะทีเดียว


 


ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าลูกค้าอาจจะไปที่อื่นเพื่อเพาะปลูกในเวลาที่ฟางฉีปฏิเสธ ขณะที่เธอกำลังหมกมุ่นครุ่นคิดโมน้อยก็กล่าวเสริมโดยที่ไม่รู้ความคิดของเธอ “พี่รวนข้าได้ยินมาว่าลูกค้ากล่าวพวกเขาจะขอยืมคนจากตระกูลเถาเพื่อมาช่วยเล่นเกม!”


 


รวนหนิงเกือบขาทรุด!


 


พวกเขาจะยืมคนมาช่วยเล่นเกม!? คนจากตระกูลเถา!? หัวใจรวนหนิงแทบหล่นลงสู่ตาตุ่ม เมื่อเธอนึกถึงร่างที่ทรงอิทธิพลที่มีคนจำนวนมากเป็นพรรคพวก


 


พวกเขาสามารถเล่นเกมได้เอง เหตุใดพวกเขาจึงต้องขอคนมาเพื่อช่วย เพื่อฆ่าพวกคนเหล่านั้นในเกม!? ทำไมพวกเขาแลดูปัญญาอ่อนกันเสียจริง


 


ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าสถานการณ์นั้นค่อนข้างแปลก เธอหันมองฟางฉีอย่างสงสัย .. ฟางฉีที่มัวแต่เล่นเกมโดยไม่สนใจเธอ เขากำลังยุ่งอยู่กับการล่าแมงมุม


 


“เสี่ยวหยูใช้ฮีล! ล่อแมงมุมตัวนี้อีกตัว ใช่! แบบนั้น ฆ่าตัวนี้ก่อน!”


 


“ข้าจะลองเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพ ข้าอยากจะรู้ว่ามันเป็นยังไงกัน!” รวนหนิงไม่อยากสงสัยมันอีกต่อไป เธอชุดเงินในกระเป๋าขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์


 


“พี่รวน ท่านไม่เฝ้าร้านหรอ!?”


 


“วันนี้ข้าปิดเร็ว” รวนหนิงตะโกนเธอนั่งลงหน้าคอม “ข้าจะมานั่งเล่นที่นี่เพื่อรอดูว่าร้านข้าของเจ้าจะถูกทุบเมื่อไร!”


 


เธอรู้วิธีเล่นเกมเนื่องจากมองดูหวังชานมาสักพัก


 


เธอเลือกอาชีพนักเวทย์ เนื่องจากเคยเห็นหวังชานและคนอื่นๆ เล่นเธอเลือกใช้นามแฝง หลังจากมองนามแฝงของตัวเองก็สังเกตเห็นได้ว่าฟางฉีหันมาจ้องมองหน้าจอของเธอ


 


“อะไร!?”


 


“ข้าว่าท่านเปลี่ยนชื่อมั้ย?”


 


“คืออะไร?” จากนั้นรวนหนิงรีบวิ่งออกจากหมูบ้านเพื่อออกไปล่าเนื้อทันที


 


หลังจากฆ่าไก่ไปบางตัว ตอนนี้เธอเริ่มค้นพบบางอย่าง .. มันเกิดอะไรขึ้น!? กำลังในการเพาะปลูกของข้าเริ่มเพิ่มขึ้น .. โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลยงั้นหรอ?


 


..​ เป็นไปได้อย่างไร? เธอรู้สึกไม่เชื่อ อย่างไรก็ตามวิธีการต่างๆ ในเมืองที่สามารถเร่งการเติมโตของการฝึกฝนต้องปรับแต่งสาระสำคัญเพื่อให้สมดุล แต่นี่การเล่นเกมมันไม่ต้องปรับอะไรเลย


 


เธอเริ่มได้รับพลังทีละนิด มันเป็นพลังภายในที่บริสุทธิ์ .. ที่สำคัญมันเติบโตอย่างรวดเร็ว


 


เป็นไปได้อย่างไร!? เธอรู้สึกประหลาดใจมากจนพูดไม่ออก เหมือนมีสิ่งแปลกๆ มากมายในเมืองนี้ แต่นี่ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเพาะปลูกของเธออย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน


 


แม้แต่ปู่ย่าตายายที่อาศัยอยู่ที่เมืองชั้นในเองก็อาจไม่เคยค้นพบวิธีที่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาก่อนแน่นอน ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย!


 


เพราะอย่างน้อยๆ หากพวกเขาใช้ยาหรือใช้วิธีอื่นพวกเขาก็ต้องมานั่งปรับสาระสำคัญเพื่อความสมดุล ในทางตรงกันข้าม ที่นี่กลับให้พลังภายในอันบริสุทธิ์โดยไม่ต้องปรับสมดุลใดๆ ด้วยตัวเองเผลอๆ มันอาจบริสุทธิ์กว่าที่เธอเคยได้รับมาหลายเท่า!


 


มันช่างเหลือเชื่อ! ด้วยความคิดนี้เองเธอยังคงฆ่าสัตว์ปนะหลาดและตามล่ากวางไก่ต่อไปเพื่อนำมาเป็นรายได้ แม้ในระยะแรกจะยังคงได้เพียงกำไรอันเล็กน้อยก็ตาม


 



 


ณ คาเฟ่ในเมืองจิวหัว หวังเกวียงสมาชิกระดับสูงของกองทัพจิวหัวถูกลากตัวมาที่นี่เพื่อเล่นเกม อย่างไรก็ตามสถานการณ์เงินในเกมของเขาตอนนี้ดูร่อยหรอ


 


“ไปล่ากวางกันมั้ย?” เพื่อนร่วมทีมของเขาบางคนก็ร่อยหรอไม่แพ้กัน


 


ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน กวางตัวหนึ่งก็ผ่านมาทางนี้พอดี แต่ก่อนที่พวกเขาจะสังหารหรือลงมือดันถูกตัดหน้าด้วยผู้หญิงคนหนึ่งเสียก่อน


 


“เอ้ะ!?” พวกเขาบางคนจำได้ว่างมีคนรอบฆ่ารองผู้บังคับบัญชากงและเก็บของที่ตก


 


“หรือเราจะ ..”


 


“มันไม่ดี หวังเกวียงเราเจอคนในร้านทุกวัน ..” มีคนพยายามเกลี้ยกล่อมเขา


 


“ทำไมละ? เธอไม่รู้ว่าข้าเป็นใครซะหน่อย!” หวังเกวียงกล่าว “อย่างไรก็ตามข้าใช้นามแฝงในเกม นางจะหาข้าเจอได้อย่างไร?”


 


“หรือไม่นางอาจจเป็นคนที่มาจากอาณาจักรทะเลดวงดาวก็เป็นได้ รองผู้บังคับกงบอกว่าเราต้องฆ่าพวกเขาให้สิ้นเมื่อไรก็ตามที่เราเจอพวกเขา!” พวกเขาพูดคุยและตัดสินใจก่อนจะรีบลงมือฟันดาบ!


 


“อ๊าาาา!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น


 


รวนหนิงมองดูเนื้อกวางที่หล่นกระจายเต็มพื้น เธอรู้สึกโกรธ “แม่งเอ้ย! พวกมันกล้าที่จะจู่โจมข้า!” เธอทำหน้าบูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์


 


ที่สำคัญกว่านั้นเนื้อกวางที่เธอสะสมมานานนั้นถูกลักไปแล้ว!


 


“เจ้าตะโกนทำไม?” ฟางฉีที่นั่งข้างรวนหนิงเอ่ยถามทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง


 


“ข้าถูกฆ่าตายและข้าสูญเสียเนื้อกวางไปมากมาย!” หลังจากนั้นเธอก็มองพวกเขาด้วยสายตาเกลียดชัง


 


“เกวียงหญิงคนนั้นอยู่ที่นี่” การพูดคุยกันดังขึ้น


 


“อ๊าาา!” เสียงโหยหวนของเธอดังขึ้นอีกครั้ง เธอถูกฆ่าตายและของตกเช่นเคย จากนั้นเธอพบว่าฟางฉีที่ยืนข้างหลังกำลังเฝ้ามอง


 


เขากำลังดู! รวนหนิงทำหน้าบูดเมื่อเห็นว่านอกจากเธอจะโดนฆ่าแล้วเขายังไม่ช่วยอะไร แค้นก็แค้นแถมยังโดนแอบมองอีก!


 


“ท่านไม่คิดจะมาช่วยข้าบ้างหรอ!?”


 


ฟางฉีชี้ไปที่โทเค็นที่ดูคล้ายดาบสังหารมังกรที่หน้าประตูและยิ้มให้เธอ “นี่เจ้า .. สนใจเข้าร่วมสมาคมมั้ย?”

 

 

 


ตอนที่ 244

 

“ไปลงนรก!” รวนหนิงมองด้วยสายตาขุ่นเคือง เจ้าของจะมาเฝ้าดูข้าถูกฆ่าแถมยังมาล่อลวงให้ข้าเข้าสมาคมของเขาอีกเนี่ยนะ!?


 


เธอถูกโจมตีและขโมยของในเกม ถ้าข้าเข้ารวมสมาคมออนไลน์กับเจ้าแล้วข้าจะถูกโจมตีและถูกขโมยของในโลกแห่งความเป้นจริงด้วยหรือเปล่า!? เธอคิดในหัว


 


เธอหยิบหยกสื่อสารออกมา “เจ้าคิดว่าข้าไม่มีคนช่วยหรอ? ข้าจะโทรตามเพื่อน!”


 


“ข้าจะไปที่อื่นเพื่อสะสมเวลแล้วกลับมาจัดการกับคนพวกนี้!”


 


“งั้นเชิญเล่นเกมของเจ้าต่อไป” ฟางฉีทำหน้านิ่งเขาดูเฉยเมยกับการถูกปฏิเสธและกลับมานั่งฆ่าสัตว์ประหลาดต่อไปกับเจียงเสี่ยวหยู ขณะเดียวกันเขาเดินทางมาถึงถ้ำโครงกระดูกทั้งสองสามารถประหยัดและหาเงินได้ในจำนวนหนึ่ง


 


เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่อยู่ในระดับสิบและระดับของฟางฉีนั้นสูงกว่ามากจึงไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในระดับเท่าเขา เขาเลยเวลสบายๆ ยาวไป นอกจากนี้แผนที่ในเกมที่ระบบสร้างขึ้นขนาดใหญ่มาก หากฟางฉีไม่เคยเล่นมาก่อนเขาคงจะไม่ทราบเลยว่ามีถ้ำนี้อยู่ เพราะมันลึกลับมาก แม้ว่าจะทำการขยายแผนที่แล้วก็ตาม


 


หลังจากที่เขาฆ่าสัตว์ประหลาดไปตัวหนึ่งแล้ว รวนหนิงที่อยู่ข้างๆ ก็ร้องอุทาน “โห! ทำไมสัตว์ประหลาดตัวนี้เงินตกเยอะขนานนั้น”


 


รวนหนิงเห็นว่าฟางฉีและเจียงเสี่ยวหยูฆ่าค้างคาวด้วยความง่ายดายแถมยังได้เงินเยอะถึงสี่กอง!


 


มันมีเหรียญหลายพันเหรียญต่อกอง! รวมกันแล้วสี่กองนี้เกือบหมื่นเหรียญ นอกจากนี้ยังมีของตกเพียบซึ่งมันสามารถนำไปขายได้เงินเป็นกำ


 


กล่าวอีกนัยหนึ่งฟางฉีฆ่าสัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมามากกว่ากองเนื้อกวางที่เธอพยายามรวบรวมแทบตาย!


 


“เป็นไปได้ยัง!?” รวนหนิงโวยวาย “เจ้าอยู่ไหน?”


 


“นี่เจ้าต้องหาด้วยตัวเองสิ” ฟางฉีกล่าว “ความสนุกของเกมคือการค้นพบทุกอย่างด้วยตัวเอง!”


 


รวนหนิงรู้สึกหงุดหงิดเธอคิดว่าเพราะเธอไม่เข้าร่วมสมาคมแน่เขาเลยไม่บอกอะไรสักอย่าง! เธอมองจากด้านข้างและเห็นว่ามันไม่ได้มีอะไรมากนอกจากความมืดและโครงกระดูกที่ดูแข็งแกร่งราวกับพวกเขาเป็นนักรบ สัญชาตญาณการต่อสู้ของมันไวมากแม้จะตายไปแล้ว!


 


ฟางฉีและเจี่ยงเสี่ยวหยูเองยังต้องช่วยกันเพื่อจัดการกับมัน หากโชคร้ายพวกมันเข้ามาหลายตัวในเวลาเดียวกัน พวกเขาตอบโต้ไม่ทันก็อาจส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บได้


 


ตามตำนวนของเกมในทวีปนั้นนักรบมีความแข็งแกร่งเทคนิคต่างๆ ของพวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองเพื่อนำไปใช้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด หลังจากใช้งานมานาหลายปีมันได้กลายเป็นเทคนิคดาบขั้นพื้นฐานสำหรับนักรบ


 


เทคนิคดาบพื้นฐานนั้นง่ายต่อการเรียนรู้และเคลื่อนไหวมันไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก อย่างไรก็ตามมันถือว่าเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับนักรบเลยก็ว่าได้


 


ฟางฉีลองใช้แล้วพบว่าเทคนิคดาบนี้ค่อนข้างพิเศษ เขาขาดการปูพื้นฐานในการใช้ดาบ แต่เขาได้เรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบที่ทรงพลังมากมาย ตอนนี้เขากลับมาเรียนรู้เรื่องพื้นฐานมันทำให้เขารู้สึกว่าเปรียบว่าตัวเองกำลังสร้างตึกที่ลงรากฐานที่มั่นคง มันทำให้เทคนิคของเขาดีขึ้นและเข้าใจมากกว่าเดิม


 


มันเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเขาที่ได้เรียนรู้เรื่องราวพื้นฐานอย่างมีระบบ แน่นอนเขาไม่ได้มาที่ถ้ำโครงกระดูกแค่ฝึกฝนเท่านั้น


 


“นั่นอะไร!?” รวนหนิงเห็นฟางฉีหยิบกำไลขึ้นมา บนหน้าจอของฟางฉีตัวละครของเขากำลังตรวจสอบสร้อยข้อมือ


 


สร้อยข้อมือ


 


พลังป้องกัน : 1~3


 


การสร้างความเสียหาย : 0~3


 


“ห้ะ!?” รวนหนิงตัวแข็งทันที เธอเคยเห็นสร้อยข้อมือในร้านของ NPC ในเกมมาก่อนมันมีคุณสมบัติสร้างความเสียหายแค่ 1~1 อย่างเดียวและนอกจากนี้ราคาของมันยังแพงมาก!


 


ทำไมฟางฉีถึงได้สร้อยข้อมือที่มีคุณสมบัติมากขนาดนี้!? ฟางฉีเปลี่ยนสร้อยข้อมือที่มีคุณสมบัติสร้างความเสียหาย 1~1 พร้อมสวมอันใหม่แทน รวนหนิงยืนมองอยู่ทำหน้างง


 


“หืม!?” เธอมองด้วยความตาแตก ทำไมเมื่อใส่ลงไปแล้วชั่งให้ความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


 


ฟางฉีหัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่เห็นความสับสนบนใบหน้าของเธอ “เสี่ยวหยูต่อกันเถอะ!” เขากล่าว


 


ตอนนี้เธอพบว่าในกระเป๋าของฟางฉีมีเงินมากกว่าแสนเหรียญ!


 


“อ่า! มีสมบัติซ่อนอยู่ทุกแห่งเลยที่นี่ ขอข้าไปที่นั่นด้วยสิ!” เธอมองด้วยความอิจฉา


 


“เจ้าอยากมาที่นี่หรอ?” ฟางฉีหันมอง “ดาบสังหารมังการจะมอบให้กับใครก็ตามที่คลิกสิ่งนี้ ไอเทมจะตกทุกวินาที! กดเข้าร่วมสมาคมของเราได้เลยตอนนี้!”


 


รวนหนิงทำหน้าเซง บ้าเอ้ย! แค่ฟังชื่อก็ดูไม่หน้าเชื่อถือละ


 


ในไม่ช้าผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้าน รวนหนิงในตอนนี้ได้ลืมข้อสงสัยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับธุรกิจของร้านค้าไปแล้ว ความคิดที่บอกว่าร้านนี้คงไม่มีลูกค้าได้จางหายไป


 


หญิงสาวสวมชุดสีดำเธอมีรูปร่างสูงหนึ่งคนและร่างใหญ่อวบเดินเข้ามาในร้านพร้อมพี่สาวฝาแฝดที่สวมชุดสีเขียว พวกเธอทั้งสองดูอายุราว 18-19 ปี


 


“ที่นี่ทางนี้!” ทันทีที่เธอสองคนก้าวขาเข้ามา รวนหนิงก็ควักมือเรียกทันที


 


“เกิดอะไรขึ้น? อะไรทำให้หนิงหนิงของเราใจร้อนขนาดนี้!?”


 


“หนิงหนิง ..” ฟางฉีแอบยิ้มเขารู้สึกเหมือนเรียกชื่อสัตว์เลี้ยง


 


ใบหน้าของรวนหนิงกระตุกเล็กน้อยเธอกลอกตาและรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ข้าพบสิ่งที่ดีข้อต้องการแบ่งปันมันให้แก่น้องสาวทั้งสองของข้า!”


 


“ท่าน! เปิดใช้งานเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพให้น้องสาวของข้าที!”


 


“หืม? เจ้ากระบี่ขั้นเทพคืออะไร?” ทุกสามทำหน้างง


 


“มาๆ เจ้าจะได้รู้ในไม่อีกกี่วินาที!” จากนั้นเธอถึงพวกเขาไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์


 


สองชั่วโมงต่อมาหวังเกวียงและเพื่อนร่วมงานของเขาก็ได้พบกับรวนหนิงอีกครั้ง


 


หวังเกวียงและเพื่อนของเขาได้ย้ายธุรกิจการปล้นทรัพย์มาใกล้กับหุบเขาจึงได้พบเข้ากับรวนหนิงและเพื่อนๆ อีกครั้งซึ่งพวกเธอกำลังค้นหาถ้ำโครงกระดูกที่เต็มไปด้วยเงินและสมบัติ


 


ตาของรวนหนิงเปลี่ยนเป็นดุเดือดทันทีเมื่อเธอเห็นศัตรูของเธอ “พวกเจ้านั่นคือคนที่ฆ่าข้า! ตอนนี้เรามีมากกว่าวพวกมันไปฆ่ามันกัน!”


 


รวนหนิงพุ่งเข้าหาพวกเขาทันที


 


“ชิบ!” หวังเกวียงที่มองหาเหยื่อรายต่อไปสะดุ้งทันทีเมื่อร่างกระทบเข้ากับลูกไฟ


 


ก่อนที่เขาจะตอบโต้ ลูกไฟอีกลูกก็ตามมาสมทบ


 


“ใครมันตีข้า!?” เวอร์ชั่นเดิมผู้คนสามารถซ่อนตัวในป่าหรือหลังต้นไม้ได้ แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ทันเขาโดนโจมตีอย่างกระทันหัน


 


“เขาเหลือ HP น้อยมาก ฆ่าเขา!”


 


“แม่ง!” หวังเกวียงเห็นเด็กสาวสี่คนที่ดูดุร้ายพุ่งมาทางเขาและโจมตีเขาอย่างดุเดือด


 


“มีคนกำลังฆ่าหวังเกวียง!”


 


“ฆ่าพวกมัน!”


 


“โจมตีคนที่ HP จะหมด!”


 


ฉากข้างหน้าวุ่นวายและยุ่งเหยิง


 


ตู้ม!


 


ของตกจำนวนมาก ..


 


“พี่น้องข้า ข้าถูกฆ่าตายสิ่งของตกมากมาย!” หวังเกวียงตะโกนในช่อง QQ ของกองทัพจิวหัว


 


“ที่ไหน ที่ไหน!?”


 


“ใกล้กับหุบเขาผู้หญิงสี่คนโจมตีเราอย่างดุเดือด อ๊าก!” สองคนตะโกนอย่างโกรธเคืองใรไม่ช้าพวกเขาก็ล้มลงกับพื้น!


 


หญิงทั้งสีคนหยิบของสะดมปล้นกันอย่างภูมิใจไม่เพียงแต่จะพบเนื้อกวางเท่านั้น แต่พวกเธอยังได้อัญมนีและสิ่งของต่างๆ ติดไม้ติดมือไปอีก


 


“รวยๆ พวกเราจะรวยกันแล้ว!” พวกเธอมองด้วยสายตาแพรวพราว


 


“ไปกันเถอะ! พวกเขาคือกองทัพจิวหัวยังมีอีกหลายคน” เมื่อรวนหนิงนึกถึงเหตุการณ์ที่หวังชานโดนคนของพวกเขาฆ่า เธอจึงรีบวิ่งออกมาทันที


 


ขณะเดียวกันฟางฉีและเจียงเสี่ยวหยูเองก็ยังคงต่อสู้เก็บเวลและล่าสมบัติกันต่อไป พวกเขาได้ของไอเทมที่ยอดเยี่ยมาก มีทั้งแหวนสร้อยคอ

 

 

 


ตอนที่ 245

 

ก่อนที่รวนหนิงและเพื่อนๆ ของเธอจะปิดคอมและออกจากร้าน จู่ๆ คนกลุ่มใหญ่ก็เดินเข้ามาในร้าน ในกลุ่มมีคนในตระกูลหวังเกือบหกสิบคน


 


ข้างหวังชานเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่อยู่ในชุดคลุมสีน้ำตาลเข้มลักษณะท่าทางของเขาดูร่ำรวย


 


ความจริงแล้วหวังชานไม่ได้ต้องการจะพาเถาคุนมาที่นี่ เขาเพียงต้องการไปยังที่ของเถาคุนเพื่อขอยืมผู้คน ซึ่งถือเป็นเรื่องง่ายที่จะหลอกคนธรรมดาๆ แต่มันไม่ง่ายเลยสำหรับการหลอกเถาคุน


 


หวังชานมีทางเลือกไม่มากนักผลที่ตามมาคือต้องพาพวกเขาทั้งหมดมายังที่นี่!


 


“ท่าน! เปิดใช้งานเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพให้พวกเขาที!” ผู้คนมากกว่าห้าสิบเดินเข้ามาในร้าน กลุ่มพวกเขาดูดึงดูดความสนใจจากลูกค้าคนอื่นอย่างมากโดยเฉพาะรวนหนิงและผองเพื่อนของเธอที่เพิ่งหนีมาหลังจากการแก้แค้น


 


ซูโมที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์มองไปที่พวกเขาด้วยสายตาสงสัยว่าจะมีกี่ร้านค้าภายในเมืองกันที่เปิดใช้งานเกมโดยใช้คริสตัลมากขนาดนี้!


 


เอ้อ อย่าคิดเยอะมีไรก็ทำไปสิเจ้าโง่ เขาบอกตัวเอง ในขณะที่หวังชานและเถาคุนโยนถุงก้อนใหญ่ลงหน้าเคาน์เตอร์ เขารีบนับมันอย่างเร่งรีบเพราะกลัวที่จะเกิดความผิดพลาด จะพลาดไม่ได้แม้แต่หนึ่งคริสตัล!


 


รวนหนิงรู้สึกประหลาดใจมาก แต่มันจะน่าแปลกใจกว่านี้หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงมองว่าไม่มีคนโง่ที่ไหนจะมาที่นี่หรอก ตอนนี้เธอรู้สึกสูญเสียคำพูดเมื่อเห็นภาพนี้


 


เถาคุนเป็นอาจารย์คนที่สองของศาลาหยวนเฮงที่นั่นขายสมบัติทางจิตวิญญาณอันล้ำค่าแถมยังมีคาถาที่หายากทุกชนิด ธุรกิจของเขาใหญ่มากนับโดยรวมก็พอๆ กับกองกำลังทั้งนอกเมืองและในเมือง


 


อย่างไรก็ตามเขามาที่นี่กับหวังชานเพื่อสำรวจสถานที่ เขารู้ว่าคงมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่เมื่อหวังชานได้ขอยืมคนจำนวนมากจากเขา หวังชานรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บซ่อนความลับนี้จากเขา เขาจึงเลือกที่จะทุกอย่างเท่าที่เถาคุนอยากรู้ ว่าร้านดังกล่าวปรากฏขึ้นในเมืองครึ่งได้อย่างไร


 


แม้เขาจะมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในโลกของเขา แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินหรือพบเห็นเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวเช่นนี้มาก่อน


 


ที่สำคัญ .. มันเป็นขุมทรัพย์พลังแห่งใหม่!


 


ร้านนี้เหมือนกองกำลังที่เพิ่งจัดตั้งใหญ่ซึ่งเพิ่งมาถึงเมือง โดยไม่ลังเลเจ้าของกล้าจะที่เปิดร้านลงหลักปักฐาน หลายอย่างในใจของหวังชานเขายังคงบอกความจริงไปไม่ทั้งหมด หากเกิดอะไรขึ้นมันอาจเกิดปัญหาแก่ตัวเขาเองได้ เขาจึงคิดรอบครอบอย่างมากในเรื่องนี้


 


เนื่องจากผู้คนในเมืองครึ่งแห่งนี้ส่วนมากล้วนเป็นผู้ปลูกฝังพวกเขาส่วนใหญ่แรกเริ่มจึงเลือกเล่นอาชีพนักเวทย์และเต๋า ในไม่ช้าคนกลุ่มหนึ่งก็ถือกำเนิดจากจุดเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ


 


เถาคุนเบิกตาโพงหลังจากเขาสัมผัสได้ถึงพลังความแข็งแกร่งในการฝึกฝนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย


 


การฆ่าสัตว์ประหลาดสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของข้าได้มากขนาดนี้เลยหรอ? ทั้งหมดนี่ถือเป็นสาระสำคัญทางจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ นี่อาจจะดีกว่าห้องเพาะปลูกที่มีไว้สำหรับอาจารย์ในศาลาหยวนเฮงก็เป็นได้!


 


อย่างไรก็ตามมีผู้เล่นใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมากทั้งที่นี่เองและรวมไปถึงผู้เล่นจากจิวหัวในเกมด้วยเช่นกัน ส่งผลให้มอนเตอร์และสัตว์ประหลาดนอกหมู่บ้านเกิดไม่ทัน แพ้ว่าระบบจะทำการขยายแผนที่ให้กว้างแล้วก็ตาม


 


เห็นได้ชัดว่าเถาคุนนั้นเอาแต่ใจกว่าหวังชานมากเขากำลังออกคำสั่ง “ค้นหาสัตว์ประหลาดเพื่อฆ่า! หากใครกล้าแย่งเหยื่อกำจัดพวกมันให้หมด!”


 


เขาแอบก้าวร้าวและเอาแต่ใจ! อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้รับการผูดขาดในการล่าเป็นไก่ในบริเวณของตน!


 


นอกหมู่บ้านมีมือใหม่และผู้เล่นกลุ่มใหม่ที่กำลังไล่ล่าสัตว์เล็กๆ พวกเขาไล่ล่าคนอื่นและคนแปลกหน้าทั้งหมดอย่างดุเดือด!


 


“อยากเจอพวกเราหรอ?” เถาคุนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ “ศิษย์น้องหวัง กองทัพของจิวหัวที่เจ้าพูดถึงอยู่ที่ไหน? ข้าอยากจะเห็นว่าพวกเขาว่าจะสามารถทำอะไรกับกองทัพของศาลาหยวนเฮงได้หรือเปล่า!”


 


อีกด้านหนึ่ง กงฮี, หวังเกวียงและสมาชิกคนอื่นๆ ของจิวหัวพวกเขาไม่ได้สนใจอะไรในเวลานี้เท่าไรนักเพราะถึงเวลาจำกัดของวันนี้แล้ว


 


อย่างไรก็ตามผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ผ่านมาได้กลายเป็นเหยื่อของพวกเขา คนประมาณหนึ่งโหลถูกฆ่าตายในชั่วพริบตา!


 



 


ณ ร้านขายน้ำอมฤตของฉินฮงหลิน เขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในอันดับสามสิบหก เขาได้มอบหมายให้กับซือเนียนและซือเปาผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาให้ดูแลธุรกิจนี้


 


เขาอยู่ในร้านเพื่อปิดบังธุรกิจลับซึ่งผิดกฏหมาย เขาทำการขายและปลอมยา ก่อนหน้านี้เขาประสบปัญหาเล็กน้อยในการทำธุรกิจแถมก่อนหน้านี้ยังมีคนตายในร้านเขาถึงสองคนโดยที่ยังหาฆาตรกรไม่พบ!


 


ผู้ซื้อบางคนมายังร้านของเขาในวันนี้เพื่อมาทดสอบและทำธุรกิจน้ำอมฤตกับเขา .. บางคนคิดว่าฉินฮงหลินเป็นแค่เสือแก่ธรรมดา แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิด!


 


ขณะเดียวกันหลิวซานดูท่าทางกระตือรือร้นพลางถือกระดาษในมือ “ข้าไม่เห็นใครเคยถือดาบแบบนี้มาก่อนเลย!”


 


มีเสียงตะโกนกลับมา “ข่าวร้าย!”


 


หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่สวมเสื้อคลุมสีดำของเขารายงานด้วยสีหน้าหวาดผวา “ซือซิเอ้อและผีหมอกดดำพร้อมด้วยดูกั้นผู้มีความแข็งแกร่งถูกโจมตี แขนและขาของพวกเขาหัก!”


 


“อะไรนะ!?” ใบหน้าของหลิวซานมืดหม่น “ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!?”


 


“บังเอิญคนข้างข้ากำลังจะไปนำพวกเขากลับมา” ผู้ปลูกฝังเสื้อดำกล่าวต่อ “ท่านหัวหน้า .. ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี!?”


 


“พาข้าไป!” หลิวซานเดินไปถึงห้องโถงใหญ่ด้วยใบหน้าเศร้าสลดและเห็นคนนนอนตายอยู่บนพื้นจำนวนครึ่งโถง เขาพยายามระงับสติและเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น!?”


 


“เทคนิคดาบของเจ้านั้นมันช่างทรงพลังมาก!” ซือซิเอ้อพูดด้วยเสียงแข็ง “เขาทำลายสมบัติทางจิตวิญญาณของข้าด้วยดาบเพียงครั้งเดียว!”


 


“เทคนิคดาบหรอ!?” หลิวซานขมวดคิ้วสีหน้าจริงจัง


 


“เทคนิคดาบคืออะไร?” หลิวซานมองภาพในมือทันที “มีดาบลักษณะเช่นนี้หรือไม่!?”


 


“ใช่!” ซือซิเอ้อคลานกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับเห็นผี “ใช่มันดูเหมือนมาก!”


 


หลิวซานกำหมัดแน่น “ดี! ข้าไม่ได้มองหาเจ้าของดาบแต่ข้ากำลังดาบหาดาบเล่มนี้ ไม่คิดว่าจะอยู่แค่ใต้จมูกของเรา”


 



 


ณ ร้านขายยาและน้ำอมฤตของฉินฮงหลิน เขามองภาพในมือด้วยสีหน้ามืดหมอง ในภาพมีรูปชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีดาบโฉบเฉี่ยวอยู่ข้างกายเขา รายละเอียดของภาพนั้นชัดเจนมา


 


“ข้าประหลาดใจที่ชายคนนี้กล้าแตะต้องร้านยาของเราแถมยังฆ่าลูกน้องของกลุ่มปีศาจดำอีกด้วย!”


 


“เขาทำสิ่งนี้ทั้งหมดและเขาสมควรตาย!” หญิงสาวตุ้งติ้งข้างๆ เขาพูดขึ้น


 


ขณะเดียวกันผู้ปลูกฝังผ้าคลุมสีดำเดินเข้ามาในร้าน


 


“ซือเปา มันคืออะไร?”


 


ซือเปาเดินเข้ามากระซิบบางอย่างกับเขา


 


“อะไรนะ!? เราเจอเขาแล้วหรอ?” ฉินฮงหลินลุกขึ้นยืนทันทีและหัวเราะ “ดูเหมือนว่าคนของเราจะก้าวไปอีกหนึ่งก้าว!”


 


“เขากล้าที่จะฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของกลุ่มปีศาจดำซึ่งนั่นหมายความว่าเขามีพลังอำนาจมาก!” หญิงสาวตุ้งติ้งกล่าว “จะให้ข้าพาคนไปจัดการกับเขามั้ย?”


 


“ช้าก่อน ..” ฉินฮงหลินยิ้มด้วยร้อยยิ้มชั่วร้ายชวนขนลุก “ข้าจะจัดการกับปัญหานี้ด้วยตัวเอง ข้าจะกลั่นเลือดของเขาออกมาเป็นยาแก้โรค!

 

 

 


ตอนที่ 246

 

นี่อาจเป็นเพราะสัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่เคยถูกฆ่ามาก่อน อัตราการตกของไอเทมนั้นจึงสูงอย่างน่าประหลาดใจ


 


เวลาเดียวกันรวนหนิงและเพื่อนของเธอก็มาถึงเวลาจำกัดของวันแล้ว แต่ยังสามารถดูผู้เล่นอื่นเล่นได้อยู่ ซึ่งพวกเธอก็ได้เฝ้าดูการเล่นของฟางฉีอยู่ด้านหลัง เขากำลังฆ่าสัตว์ประหลาดแถมยังได้ไอเทมดีๆ ทั้งนั้น


 


เด็กสาวที่โตเต็มวัยใส่เสื้อผ้าโทนสีดำมีชื่อว่าซียื่อและพี่น้องฝาแฝด แฝดพี่ชื่อว่าซูจิส่วนแฝดน้องชื่อว่าซูเหยา พวกเธอเป็นชาวพื้นเมืองที่นี่


 


“ทำไมเจ้าของร้านถึงเล่นได้นานขนาดนี้!?”


 


“สัตว์ประหลาดที่นี่รวยมาก!”


 


“เจ้าเห็นดาบในมือของเจ้าของหรือไม่ มันสร้างความเสียหายได้ดีเชียวละ”


 


ฟางฉีนั่นสวมชุดเกราะสีฟ้าอ่อนพร้อมกับดาบที่มีชื่อว่าบาหวังในมือเขา ดาบดูมีชีวิตชีวามาก ผู้เล่นใหม่มีแค่ดาบไม้และชุดผ้าฝ้ายธรรมดาแค่นั้น ซึ่งการแต่งตัวของเขาถือเป็นอะไรที่โดดเด่นในหมู่ผู้เล่นกลุ่มใหม่มาก


 


“การสร้างความเสียหายของเจ้าของร้านนั้นสูงมาก! เขาสามารถทำลายกระดูกหลายๆ ชิ้นเพียงการโจมตีแค่ครั้งเดียว”


 


“ทำไมเราหาสถานที่นี่ไม่เจอบ้าง หามาตั้งนาน ดูสิเขามีแต่ของดี!”


 


“นั่น เด็กหญิงคนนั้นก็กำลังสนุกกับสิ่งเหล่านั่นเช่นกัน!”


 


“พวกเจ้าต้องการสิ่งเหล่านี้หรือไม่?” ฟางฉีเอ่ย “เจ้าสามารถเพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์เหล่านี้ทั้งหมด หากพวกเจ้าเข้าร่วมกิลด์ของข้า!”


(ผู้แปล : ขออนุญาตเปลี่ยนคำว่าสมาคมเป็นกิลด์เพื่อความกระชับและเข้าใจง่าย)


 


“หึ! เจ้าหลอกล่อให้พวกเราเข้ากิลด์อีกแล้วหรอ?” รวนหนิงตอบกลับเธอทำหน้าเพลีย “ข้าแนะนำว่าเจ้าต้องระวังต้อง ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งหากมีคนจากกลุ่มปีศาจดำมาหาเจ้า ข้าจะไม่อยู่ดูศพเจ้าแน่!”


 


“เจ้าดูเป็นคนรักสงบ ไหงถึงกล้าไปมีเรื่องกับพวกปีศาจดำได้” ซียื่อเคยได้ยินเกี่ยวกับพฤติกรรมที่กล้าหาญของฟางฉี เธอเหลือบมองรอบๆ ร้านด้วยการจินตนาการว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เธอควรหนีไปกับคอมพิมเตอร์สักเครื่องหากเจ้าของตาย!


 


“เฮ้! ทำไมเจ้าไม่ให้เราเล่นต่อแล้วละ” ซูจีพูดขึ้น “ร้านของเจ้าใหญ่มากมายไม่มีทางเต็ม ทำไมไม่ให้พวกเราเล่นต่อ!”


 


“ใช่!” รวนหนิงมองหน้าจอของฟางฉีและพูดด้วยเสียงขุ่นเคือง “ข้าไม่เคยเห็นเจ้าของร้านแบบเจ้ามาก่อน เจ้าสนุกกับเกมในขณะที่ให้ลูกค้าเฝ้ามองจากข้างหลัง!”


 


“สำหรับเวลาเล่นที่มากขึ้น .. พวกท่านจะได้รับเร็วๆ นี้” ฟางฉีกล่าว “ร้านข้าจะเริ่มให้สมัครสมาชิกเร็วๆ นี้ สมาชิกของร้านจะมีเวลาเล่นเพิ่มสองชั่วโมงหากเทียบกับคนอื่นทั่วไป”


 


อีกไม่นานสมาชิกรุ่นทอดลองจะสามารถอัพเกรดเป็นสมาชิกวีไอพีและสมาชิกเหล่านี้จะได้เวลาเล่นเพิ่มถึงสองชั่วโมง มันเป็นกฏของฟางฉีที่เขายืนยันกับระบบ


 


“เร็วๆ นี้ .. วันนี้เลยไม่ได้หรือ!?” รวนหนิงพูด “ข้าเพิ่งปล้นคนที่เดินผ่านมาและข้าต้องการมันอีก!”


 


“ถ้าเจ้าคิดว่าไม่พอ แม้ข้าจะให้เพิ่มสองชั่วโมงหรือสิบชั่วโมงยังไงมันก็ไม่พอ!” ฟางฉีเริ่มหัวร้อนเล็กน้อย “ไม่ว่าข้าจะให้กี่ชั่วโมงมันก็ไม่มีประโยชน์ ..”


 


ผู้คนที่เดินผ่านมาเอ่ยเสียงดัง “จัดการมัน! พวกมันอยู่ไหน!?”


 


ผู้คนที่ถูกปล้นยังคงตามหาเหล่าโจรอยู่


 


“ให้เราเล่นเพิ่มอีกหลายชั่วโมงสิแล้วข้าจะช่วยเรื่องปัญหาของเจ้ากับกลุ่มปีศาจดำให้ดีหรือไม่?” ซียื่อค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง เพราะพ่อของเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารสำนักงานมังกรม้วน ครอบครัวของเธอถือเป็นกำลังสำคัญ


 


แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างกองกำลังทั้งหมดในเมือง แต่บางคนหรือคนบางกลุ่มก็มีอำนาจพอที่จะเข้าไปแทรกแซงในบางสิ่งหรือบางเรื่องได้


 


เธอเดาว่าเจ้าของร้านมีความแข็งแกร่งและมีภูมิหลังที่ทรงพลัง แต่เขาก็ถือเป็นผู้มาใหม่และเพื่อประโยชน์ของตัวเองเขาไม่ควรจะยุ่งกับคนในท้องถิ่น


 


เธอรอการตอบกลับของฟางฉีอย่างมั่นใจ


 


“เอ่อ .. นี่” ฟางฉีทำหน้าบูด “ข้าบอกพวกเขาว่าใครก็ตามที่กล้ามาท้ายทายกิลด์ข้าก็จะไม่ต้อนรับเช่นกัน มันจะดูไม่ดีนะถ้าข้ากลับคำพูด”


 


“ทำไมละ? เจ้าเห็นชื่อเสียงสำคัญกว่าชีวิตหรอ!?”


 


“บางทีหรือข้าควรจะนำคนไปปล้นกลุ่มนั้น เพื่อจะได้สมกับคำที่ข้าได้เอ่ยไว้” ฟางฉีลอยหน้า


 


“เจ้า ..”


 


“ชั่งมันเถอะ! ศิษย์น้องยื่อปล่อยเค้า!” รวนหนิงจ้องหน้าเขม็งใส่ฟางฉีที่กำลังตีสัตว์ประหลาดโดยไม่สนใจคนรอบข้าง “เขาจะขอความช่วยเหลือเราก็ต่อเมื่อ พวกนั้นมาที่นี่แหละ!”


 


“ข้าจะไม่ช่วยเจ้าหากเจ้าไม่ให้เวลาเราเล่น!”


 


ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มและท้องฟ้านอกร้านนั้นมืดสนิท .. ทันใดนั้นทั้งถนนก็เต็มไปด้วยแสงสีแดง!


 


แสงสีแดงเลือดดูเหมือนจะครอบคลุมทั่วทั้งถนนและร้านของฟางฉีนั้นได้รับผลกระทบมากที่สุด!


 


เสียงหัวเราะดังขึ้น ..


 


เสียงหัวเราะเปล่งออกมาดังสนั่น หมอกสีเลือดจากด้านนอกฟุ้งเต็มไปหมด ตอนนี้ร้านของฟางฉีเหมือนอยู่ในโลกของปีศาจ!


 


หน้าของรวนหนิงซีดเผือด “เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมปีศาจเก่าถึงได้ปรากฏตัวเป็นการส่วนตัว”


 


คนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวหน้าร้านค้าของฟางฉี ผู้นำกลุ่มคือชายชราเสื้อแดงที่มีผิวอมชมพู ฉินฮงหลินนั้นแต่งตัวแต่งต่างจากคนอื่น เขาสวมเสื้อคลุมสีแดงสดท่าทางของเขาดูน่ากลัวชวนขนลุก!


 


ผู้ปลูกฝังวัยกลางคนที่มีลักษณะดุร้ายหัวล้านมีแผลที่น่าเกลียดน่ากลัวบนหัวและหญิงตุ้งติ้งที่แต่งหน้าจัดยืนอยู่ข้างหลังชายชรา


 


หมอกเลือดที่เข้มข้นและรัศมีการสังหารที่ลอยในอากาศชวนให้ทุกคนในร้านใจหาย


 


รวนหนิงและเพื่อนๆ ของเธอดูเกร็ง พวกเขาถามฟางฉีว่า “ทำไมเจ้าถึงได้ไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจเก่าแก่ รู้มั้ยว่าเจ้ากำลังมีปัญหาใหญ่!”


 


“พี่รวน ..” ซูโมเรียกเธอ “ปีศาจเก่านี้มีพลังมากหรือไม่!?”


 


“ด้วยความเคารพผู้คนมักพูดถึงเขาในฐานะราชาน้ำอมฤต แต่หลายสิบปีที่ผ่านมาผู้คนที่นี่ตั้งฉายาให้เขาใหม่ว่าปีศาจยาพิษ!” รวนหนิงกระซิบ “คนที่นินทาหรือพูดเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจเก่านี้ไม่ใช่ของปลอม มันคือเรื่องจริงทั้งหมด!”


 


“ได้ยินมาว่าก่อนที่ปีศาจตนนี้จะเข้าสู้เมืองครึ่งเขาฆ่าครอบครัวใหญ่ที่มีเหล่าของพิษไปมากกว่าสิบตระกูล หลังจากเดินทางมายังเมืองครึ่งแล้ว เขายิ่งกลายเป็นคนเลวและมีอำนาจมากขึ้น เขาสร้างน้ำอมฤตที่มีส่วนสำคัญคือเลือดของเหล่าผู้ฝึกฝน เขาลักพาตัวผู้ปลูกฝังจากนอกเมืองเพื่อนำเลือดมากลั่น!”


 


“มีคนเคยกล่าวว่าเหล่าสมาชิกของปีศาจเก่าได้กลายเป็นยาอายุวัฒนะซึ่งอยู่ในเลือดของเขา .. ”


 


ซูโมฟังไปตัวสั่นไป “หะ หัวหน้าจะไม่เป็นใช่มั้ย?”


 


“เจ้าของร้านอยู่ที่ไหน!? ออกมาพบนายใหญ่ของเราสิ!” หลิวซานเดินเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มเย็นชา


 


“บ้าเอ้ย! ใครกัน!?” ฟางฉียืนขึ้น


 


ในที่นี่เถาคุนไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้อีกต่อไป เขาออกจากเกมและพูดขึ้น “นั่นอาจารย์ฉิน!”


 


“เถากุน เจ้าต้องการมีส่วนร่วมหรือไม่!?” ชายหัวล้านวัยกลางคนเอ่ยถาม “เขากล้าฆ่าคนของเราถึงในร้านต่อหน้านายใหญ่! ไม่มีใครจะมาหยุดการแก้แค้นครั้งนี้ของเราได้!”


 


ดวงตาของเขาดูดุร้าน “ข้าแนะนำให้พี่เถาหลีกเหลี่ยงสิ่งนี้เพื่อมิตรภาพของเรา”


 


ไม่ใช่เพียงเถาคุนเท่านั้น แต่ใบหน้าของคนอื่นๆ ก็บิดตามไปด้วย พวกเขากำลังคิดว่าเจ้าของร้านกำลังทำอะไรอยู่? เจ้าจะฆ่าคนต่อหน้าปีศาจเก่าได้ยังไงกัน!?


 


เป็นไม่ไม่ได้ที่พวกเขาจะพูดเรื่องนี้กับฟางฉีดีๆ และหากฉินฮงหลินไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้เพราะชื่อเสียงของเขาจะถูกทำลายจนหน้าอับอาย!

 

 

 


ตอนที่ 247

 

ขณะพวกเขากำลังพูดคุยกัน ฟางฉีเองก็มัวแต่ยุ่งอยู่


 


“ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังอยู่” ฟางฉีหยิบฮาเก้นดาสออกมาพลางเหลือบมองไปที่รวนหนิงและคนอื่นๆ “พวกเจ้าต้องการมันมั้ย? ห้าคริสตัลต่อหนึ่งถ้วยก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง”


 


ฟางฉีเปิดฝาแล้วตักไอติมเข้าปาก ขณะมองไปที่ปฏิทินเขากล่าวว่า “พวกเจ้ามีโอกาศกินได้แค่อีกหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นเลยฤดูก็อดแล้ว!”


 


เพราะไอติมที่นี่มีแค่เฉพาะฤดูร้อน!


 


รวนหนิงและคนอื่นทำหน้างง เทาคุนและพักพวกก็เช่นกัน พวกเขามองด้วยแววตาชวนสงสัย เจ้าของร้านกำลังทำอะไร!? ศัตรูมาถึงหน้าร้านขนาดนี้แต่ยังมัวขายของอยู่


 


ซูโมที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาหน้ากระตุกเล็กน้อย


 


“เจ้ารู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเขาหรือไม่!?” รวนหนิงเอ่ยถามอย่างกระวนกระวาย “นั่นผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรมหาสมุทร!”


 


ข้างนอกประตูหมอกสังหารยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉินฮงหลินยืนเอามือไขว้หลังด้วยความนิ่ง เขาดูสงบมากแม้ในหัวใจจะแค้นเคือง เขาฝืนยิ้งกว้างๆ บนใบหน้าของเขา “เจ้าหนู เจ้าเป็นคนแรกที่ไม่ตื่นเต้นกับการมาเยี่ยมของข้า!”


 


เขาพูดเย้ยหยันต่อ “ข้าล่ะสงสัยว่าเจ้าจะอยู่นิ่งได้อยู่มั้ยหากข้าดูไขกระดูกออกจากตัวเจ้า!”


 


“เดี๋ยวก่อน!” ฟางฉีจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และหยิบหูฟัง VR ขึ้นมา “เสี่ยวหยูเจ้าจะดึงสัตว์ประหลาดแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเราทั้งสองจะถูกฆ่า ข้าจะสอนวิธีให้ ..”


 


ไม่กี่นาทีต่อมาฟางฉีหันเก้าอี้และตักไอติมเข้าปากก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง “ตกลง เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?”


 


ทุกอ้าปากค้างเมืองได้ยินสิ่งที่ฟางฉีถาม


 


ใบหน้าของฉินฮงหลินตอนนี้กระตุกด้วยความโกรธ “เจ้ากำลังมองหาที่ตาย!”


 


ทุกคนนำสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่ท่วใท้นออกมา เวลาเดียวกันวิญญาณนักฆ่าเองก็แทรกซึมอยู่ในอากาศ


 


ผีที่บิดเบี้ยวและมืดมนนับไม่ถ้วนคลานออกมาจากสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ! สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในร้านโดยรวมดูเหมือนอยู่ในอาณาจักรปีศาจ


 


ซียื่อดึงน้องสาวกลับมาและพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด “ถอยออกมา!” ใจของรวนหนิงตอนนี้เองก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม นี่เขากำลังแสวงหาวิธีตายด้วยวิธีนี้หรือ


 


ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผีและปีศาจที่น่ากลัวนับไม่ถ้วน “บ้าเอ้ย มีคนกำลังสร้างปัญหา!”


 


ฉากที่ปรากฏขึ้นทำให้ทุกคนนั้นจำไม่ลืม!


 


ทันใดนั้นสายฟ้าหลายแฉกก็พุ่งเข้าชนกลุ่มปีศาจเก่าโดยไม่มีเสียงเตือน! มันรวดเร็วฉับพลัน!


 


ช่วงเวลาของสายฟ้าฟาดที่พุ่งเข้าหาผู้ปลูกฝังอันศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรมหาสมุทรอย่างฉินฮงหลินเองก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองและพวกพ้องได้!


 


ฟางฉีดูขุ่นเคือง “มันลำบากนะที่จะมีคนมาขาหักเยอะแยะในร้านข้า”


 


ทั้งร้านยังคงเงียบกริบ .. มีเพียงเสียงลมหายใจ ไม่นานเสียงกึกก้องก็ดังขึ้น!


 


“มันตบแล้ว” เถาคุนกล่าว “พวกร้านยาหายไปกันหมดแล้ว!”


 


เสื้อซับของหวังชานในตอนนี้เปียกโชกไปด้วยเหงื่อชุ่ม โชคดีที่เขาไม่ได้มีปัญหาแบบนั้น มิเช่นนั้นละก็ ..


 


ขณะเดียวกันรวนหนิง, ซียื่อและฝาแฝดอีกสองคนกำลังตั้งสติ “ที่เห็นมันเกิดขึ้นจริงๆ หรือ ..”


 


“พวกเจ้าคิดว่าไงละ!?”


 


“เจ้าคิดว่าข้าเกิดร้านในสถานที่แบบนี้โดยที่ไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือ?” ฟางฉีมองพวกคนจากร้านขายยาที่นอนกองอยู่บนพื้นและบ่นว่า “นี่โมน้อยวันหลังข้าจะสอนเทคนิคดาบแห่งวิญญาณให้เจ้าเพื่อให้เจ้าสามารถทำงานได้อย่างสบายใจหรือสามารถทำลายความแข็งแกร่งของผู้ที่มาก่อปัญหา ..”


 


เขาโบกมือให้คนในร้าน “ลืมมันซะ อย่ากังวลอีก ..”


 


เหลื่อเย็นๆ ยังคงไหลออกจากหน้าผากของเถาคุน เขาคิดในใจว่าเขาไม่ควรยุ่งกับร้านนี้!


 



 


หลังจากที่จัดการกับเหล่าซากศพ “โมน้อย ช่วยทำความสะอาดพื้นทีนะ!”


 


“รับทราบ!” ซูโมพยักหน้า เขายังคงงงงวยและกำลังปรับตัวให้เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น


 


ฟางฉีเองหันหน้าไปหารวนหนิงเอ่ยถามเธอ “เจ้ารู้หรือไม่ร้านขายน้ำยาอมฤตนี่อยู่ที่ไหน!?”


 


“เจ้าจะทำอะไร?” รวนหนิงจ้องหน้าฟางฉี


 


“ข้าอยากจะทุบร้านของพวกเขา” ฟางฉีกล่าว “อยากทำอย่างที่พวกเขาต้องการทุบร้านของคนอื่นๆ ฉันต้องทำตามแนวโน้มหรือความเป็นสากลของที่นี่ไม่งั้นข้าจะดูล้าสมัยและอ่อนแอ ถ้าไม่มีคนเข้าร่วมกิลด์ข้าจะทำยังไง”


 


“ข้า! ข้าจะเข้าร่วมเอง” รวนหนิงตอบ


 


“เข้าร่วม .. กิลด์?” หวังชานยืนนิ่ง


 


“นี่หวังถ้าเจ้าสนใจลองดูสิ!” เถาคุนกระซิบ


 


หวังชานกล่าวว่า “ข้ามีครอบครัวและทำธุรกิจนอกเมือง มันคง ..​ไม่เหมาะเท่าไร”


 


“เราเข้าด้วย!” ซูจิกล่าว “เจ้าจะพาเราไปที่ถ้ำโครงกระดูกเพื่อรับของดีๆ และเพิ่มชั่วโมงให้เราอีกสองชั่วโมงวันนี้มั้ย?”


 


ทั้งสามคนพร้อมจะเข้าร่วมกิลด์ของฟางฉีทันที!


 


“ท่านมีเงื่อนไขใดๆ ในการเข้าร่วมกิลด์หรือไม่ มีบทลงโทษสำหรับการลาออก? กฏของกิลด์คืออะไร?” ซียื่อถามด้วยความระมัดระวัง


 


“อืม ..” ฟางฉียืนคิด “เราจะคุยเรื่องนี้กันภายหลัง”


 


หลังจบประโยคเขาใช้เทคนิคการควบคุมดาบเพิ่มดาบเป็นสี่เล่มเพื่อบินขึ้น ขณะที่ก้าวขาขึ้นดาบ “ในฐานะหัวกิลด์ข้าขอประกาศว่ากิลด์เกมเชื่อมต่อสวรรค์ของเรากำลังจะออกรบ ซึ่งถูกท้าทายจากปีศาจเก่า!”


 


“นี่เจ้า เราบินแบบนี้ได้หรือ” รวนหนิงเหยียบดาบด้วยความระมัดระวัง


 


ซูจิและฝาแฝดเองรู้สึกกลัวเมื่อกำลังก้าวขึ้นดาบ ซียื่อชี้นิ้วไปที่ตัวเอง


 


“ข้าจะไม่พาคนอื่นนอกจากสมาชิกในกิลด์ข้าไป เจ้าจะบินไปเองหรืออยู่ที่นี่ก็ได้!”


 


ซูโมเอ่ย “หัวหน้า ข้า..”


 


“เจ้าเฝ้าร้าน!” ฟางฉีกล่าว “ข้าจะรีบกลับมา”


 


เขาจับฉินฮงหลินขึ้นมาแล้วถามว่า “ร้านยาเจ้าอยู่ที่ไหน!?”


 


รวนหนิงชี้นิ้วไปทางทิศนั้นทันที


 


“อ่าาา!” ด้วยความรวดเร็วดาบบินขึ้นโดยทันที เมื่อมาถึงร้านเขาโยนเจ้าของร้านลงในท่าหน้าแนบพื้น


 


“ใคร!?” ด้วยความตื่นตระหนกลูกค้าจำนวนมากรีบออกจากร้าน เสมียนรียบเดินออกมาด้วยความประหลาดใจ “หะ หัวหน้า!”


 


หน้าตาของพวกเขาดูตื่นตระหนก


 


ฟางฉีหยิบจรวดออกมา “ลุย!”


 


“ฟิ้ว!”


 


ตู้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น!


 


ฟางฉีตะโกนขึ้น “กิลด์ที่พวกเจ้าท้าทายได้มาที่นี่เพื่อทำลายล้างแล้ว ใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถอยออกไป!”


 


ลูกค้าทุกคนงงตาแตก!


 


ฟางฉีหยักไหล่และพูดกับเหล่าสมาชิกว่า “พวกเจ้าได้โปรดช่วยข้าหน่อย ถ้าข้าทำคนเดียวคงใช้เวลานาน!”


 


สามสาวไม่รู้ว่าจะต้องทำไงเช่นกัน เอาไงเอากัน!


 


“ไป!”


 


ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!


 


จรวดพุ่งออกไปนับแทบไม่ทัน!

 

 

 


ตอนที่ 248

 

“เกิดอะไรขึ้น!?”


 


เสียงอุทานดังออกมาจากข้างในร้าน ขณะเดียวกันลำแสงไฟก็พุ่งเข้าไปทำให้เกิดการระเบิดและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก้อนอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างนั้นบอบบางเกินไป นอกจากจรวดแล้วฟางฉียังใช้เทคนิคการควบคุมดาบนับไม่ถ้วนของเขาเพื่อโจมตีซ้ำอีกครั้ง ในไม่าช้าร้านค้าก็ทรุดตัวลง เสมียนที่ติดอยู่ในร้านกรีดร้อง!


 


ลูกค้าจากร้านข้างๆ ต่างวิ่งออกมาดูความวุ่นวายและพูดคุยกันอย่างหนาหู


 


“กิลด์เกมแห่งสวรรค์!? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย”


 


“นี่มันช่างเลวร้ายจริงๆ พวกเขามาที่นี่เพื่อทำลายร้าน!”


 


“เลวร้าย ..” บางคนชี้ไปที่ฉินฮงหลินที่อาการโคม่า “ดูนั่นสิ นั่นหัวหน้าใหญ่ร้านขายยา!”


 


“นั่นเขาใช่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรมหาสมุทรหรือเปล่า .. ทำไมเขาถึงตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้!” ผู้คนมากมายอ้าปากค้างด้วยความตกใจ


 


แม้ว่าเมืองครึ่งจะไม่ได้สุขสงบหรืออาจมีเรื่องใหญ่ในบางครั้ง แต่ถ้าผู้เพาะปลูกผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรมหาสมุทรตายง่ายขนาดนี้ ต่อไม่คงไม่มีใครกล้ามาเหยียบที่นี่อีก


 


ในอดีตหากเกินความขัดแย้งจะมีเพียงผู้คนธรรมดาตัวเล็กๆ มักเสียชีวิตหรือได้รับลูกหลง ผู้ปลูกฝังในระดับสูงไม่แม้แต่จะกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขาเลย


 


แม้ว่าผู้ปลูกฝังผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรมหาสมุทรคนก่อนจะเคยต่อสู้หรือก่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่คนในเมืองครึ่งก็จะออกมาช่วยกันตลอด จนหลายสิบปีที่ผ่านมาเขาเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ


 


และตอนนี้เองปีศาจเก่าแห่งอาณาจักรก็ดันมาเป็นแบบนี้ นี่จึงเกิดความกังวลต่อผู้อื่นที่ใช้ชีวิตที่นี่


 


“ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของกิลด์เกมแห่งสวรรค์กันนะ!?”


 


“ผู้ปลูกฝังแห่งอาณาจักรมหาสมุทรผู้ศักดิ์สิทธิ์ถูกบดขยี้!”


 


“ยิ่งกว่าถูกบดขยี้!” คนเดินผ่านไปมาพูด “เจ้าไม่เห็นการแสดงออกทางสีหน้าของหัวหน้ากิลด์หรอ? พวกเขาดูสบายไร้กังวลราวกับปลอกกล้วยเข้าปากในการกำจัดปีศาจเก่า!”


 


ต้องมีการบันทึกไว้ว่าได้มีการต่อสู้ของผู้ปลูกฝังจากอาณาจักรมหาสมุทรเกิดขึ้นและได้สูยเสียพลังภายในจำนวนมากแถมยังโดนทุบบ้านอีกด้วย ภายใต้การทิ้งระเบิดของฟางฉีในตอนนี้ ร้านค้าทั้งหมดก็พังทลายอย่างสมบูรณ์ นอกจากร้านจะพังแล้วจรวดยังยิงลึกลงไปถึงใต้ดินอีกด้วย


 


เวลานี้ร้านค้าอันหรูหราหมาเห่าได้ดูเหมือนปล่องภูเขาไฟขนาดยักษ์!


 


อย่างไรก็ตามการป้องกันชั้นดินที่แข็งแกร่งกว่าข้างบนนั้นยังคงสภาพอยู่ ฟางฉีได้ยิงจรวดออกมาส่งผลให้กำแพงชั้นใต้ดินชั้นนอกของห้องปล่อยคลื่นแสงออกมา .. มันยังไม่บุบสลาย!


 


“อืม ..” ฝาแฝดมองหน้ากัน “นี่ท่านเราจะทำอย่างไรกันดี!?”


 


ผู้คนที่ยืนมองเหตุการณ์ต้องนั้นซุบซิบกัน “นั่นต้องเป็นความลับของปีศาจเก่าแน่!”


 


“อาจเป็นห้องกลั่นเลือดตามข่าวลือ!”


 


“ข้าสงสัยว่ายาอายุวัฒนะที่ปีศาจเก่าสร้างขึ้นนั้นมีกี่ตัวกันนะ เขาทำอย่างลับๆ และไม่เคยชี้แจ้งหรือได้รับการเปิดเผย”


 


“เป็นไปได้มั้ยว่าจะเป็นที่นี่!?”


 


ตู้ม! เสียงระเบิดดังมาจากใต้ดิน พื้นดิสั่นสะเทือนราวกับค้อนยักษ์ทุบ


 


“เกิดอะไรขึ้น!?”


 


“มีบางอย่างอยู่ใต้พื้นดินหรือ!?”


 


ด้วยเสียงที่คล้ายกับค้อนขนาดยักษ์ที่กำลังทุบเพื่อดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากพื้นดิน!


 


ทันใดนั้นผู้คนที่กำลังสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นหรือนี่อาจเป็นการเปลี่นรแปลงครั้งใหญ่ จึงส่งผลให้ใต้ดินสั่นสะเทีอนราวกับใต้ดินกำลังจะแตก ทุกคนเห็นพร้อมกันว่าเลือดไหลออกจากพื้นดิน พวกเขาถอยหลังออกอย่างรวดเร็ว “นี่มันอะไรกันเนี่ย!?”


 


“ปีศาจเก่าเก็บสัตว์ประหลาดไว้ใต้ดินหรือ!?”


 


พื้นดินแตกละเอียดเลือกยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นกำแพงด้านนอกที่ฟางฉีได้ทำการโจมตีก็พังลง!


 


เลือดเหนียวยังคงไหลออกมามันไหลยาวราวกับงู จากร้านยาพังคล้ายกับปล่องภูเขาไฟในตอนนี้ มันกลับพังพินาศและใหญ่กว่าเดิม แต่นั้นทำให้คนที่ยืนมองรู้สึกเหมือนมีสิ่งมีชีวิตอยู่ ณ ที่ตรงนั้น แม้ว่าจะไม่มีตาแต่ยิงมองก็ยิ่งชวนขนลุก!


 


เวลาเดียวกันฉินฮงหลินที่อาการโคม่าเย้ยหยัน “เจ้าทำลายการเพาะปลูกของข้า แต่ยังไงเจ้าก็ต้องตายเพราะเจ้าได้ปล่อยปีศาจเลือดนรกที่ข้าขังไว้ใต้ดินออกมา!”


 


ขณะเดียวกันเลือดก็พุ่งสูงขึ้นอย่างท่วมท้น! ผู้ปลูกฝังนับไม่ถ้วนที่จับตามองต่างกรีดร้องพลางวิ่งหนีไป


 


“มันคืออะไร!?” ฟางฉีหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องและจุดสูบมันเข้าไป “เฮ้! ข้ารู้สึกว่าเจ้าปด เจ้ากล้าเรียกสิ่งนี้ว่าปีศาจเลือดนรกหรอ!? เจ้าไม่กลัวตายหรือ?”


 


แสงจากดาบที่ยิงขึ้นท้องฟ้าเสียงของมันคมชัดและกึกก้องในพื้นที่ .. ทันใดนั้นลมก็พัดแรงขึ้นพาท้องฟ้ามืดครึ้ม


 


ฟางฉีกระโดดลงจากดาบและยืนอยู่กลางอากาศพลางร่ายคาถาด้วยมือของเขา เวลาเดียวกันท้องฟ้าได้ปรากฏรูปแบบคล้ายกับดาวทั้งเจ็ดดวงก่อตัวเป็นกระบวยขนาดใหญ่


 


เขายังคงร่ายเวทย์ต่อไป “พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่ขอสายฟ้าของพระเจ้าได้โปรดประทานพรตามคำแนะนำของดาบข้า!”


 


ท้องฟ้าปรากฏเมฆดำทะมึนขึ้น ฟ้าร้องดังกึกก้อง สายฟ้าพุ่งเข้าชนกับขอบเมฆ ทุกคนที่เห็นฉากนี้อ้าปากค้างด้วยความกลัว เหตุการณ์ข้างหน้าเหมือนกับพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ในเวลานี้ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้อีก


 


มันเป็นความหวดกลัวที่ไร้ขอบเขต!


 


เมฆดำมืดหม่นค่อยๆ ปรากฏรูปกลายเป็นสายน้ำวน มันดูเหมือนทางเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์และพื้นพิภพใต้ดินสู่นรก เหมือนปีศาจสวรรค์กำลังอ้าปากกลืนกินโลก


 


ภายใต้พลังแห่งสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ เลือดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากใต้ร้านยาตอนนี้ดูเล็กราวกับเม็ดทราย สายฟ้าบนท้องฟ้านับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นศูนย์กลางของกระแสน้ำวน!


 


ในที่สุดพลังงานดาบขั้นสุดท้ายก็ได้เกิดขึ้นในกระแสน้ำวน เหล่าวิญญาณร้ายและปีศาจเลือดผู้โหยหวนได้ถูกกักขัง .. ก่อนที่จะสลายกลายเป็นความว่างเปล่าจากสายฟ้าฟาด


 


ฟางฉีสูบบุหรี่อีกครั้งและมองไปรอบๆ “มีใครอีกมั้ย!?”


 


เมื่อมองไปรอบๆ ร้านที่ถูกทำลายในตอนนี้มีแต่ความเงียบงัน ปีศาจเลือดจากนรกที่ดูน่ากลัวตอนนี้เป็นแค่ฝุ่นละออง ผู้คนต่างถอยห่างไปหลายร้อยเมตร …

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม