Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ 1795.1-1801.3
ตอนที่ 1795-1
ไม่นาน ฝานเจียก็พบว่าเรื่องไม่ได้ดำเนินตามไปอย่างที่เธอคิด เพราะฉินมั่วไม่ได้รู้สึกอะไรต่อเธอ ฝานเจียไม่ยอมแพ้ แสร้งทำตัวน่าสงสาร ให้เขาใส่ใจเธอสักนิด ทว่าเขากลับเอ่ยขึ้นมาก่อน “เดินมั่วๆ แบบนี้ คนอื่นจะเห็นง่าย ไปร้านบะหมี่ทางซ้ายดีกว่า”
ฉินมั่วพูดด้วยเสียงเรียบ ทว่าฝานเจียยังกังวลใจ “ตำแหน่งนั่นมันเด่นไปไหม เพราะมันอยู่ใกล้ถนนใหญ่นะ”
“ยิ่งอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ทัศนวิสัยยิ่งดี” ฉินมั่วดูเหมือนจะไม่ชอบอธิบาย พอพูดจบ ไม่ว่าฝานเจียจะพูดอย่างไรต่อ เขาก็ไม่ปริปากอีก
เมื่อเดินเข้าใกล้ร้านบะหมี่ เขาเลือกนั่งตรงริมหน้าต่าง มุมนี้ทำเลดีเพราะมีของประดับบนโต๊ะ ดังนั้นหากมองจากด้านนอก จะไม่เห็นหน้าตาของคนนั่งข้างใน ทว่าคนที่นั่งข้างใน จะเห็นความเป็นไปภายนอกอย่างชัดเจน บวกกับทำเลของร้านที่ตั้งอยู่มุมทางเลี้ยวสามเหลี่ยม หมายความว่าพวกเขาไม่เพียงจะเห็นคนที่เดินไปมาอยู่ด้านหน้า ยังเห็นถึงความเป็นไปของด้านซ้ายและขวาด้วย
ฉินมั่วนั่งลง แต่ไม่ยอมสั่งบะหมี่ นอกจากชาร้อนแก้วเดียว ส่วนฝานเจียมองดูเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่เดินผ่านนอกหน้าต่าง จึงเข้าใจทันทีว่าทำไมชายหนุ่มถึงเลือกนั่งตรงนี้ ความสามารถในด้านป้องกันการตรวจสอบของเธอเป็นเลิศ ทำให้ตำรวจธรรมดาจับเธอไม่ได้ ทว่าเธอรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบในครั้งนี้ต่างไปจากเมื่อก่อน ดูมาดดุจนทำให้เธอต้องหดหัวอยู่ในที่ที่ซอมซ่อ เพราะมันมีข้อดีตรงที่ไม่มีกล้องวงจรปิด
การที่พวกเขาจะหาเธอเจอ ย่อมไม่ง่าย แต่หากฝ่ายโน้นพลิกแผ่นดินหา เธอย่อมไม่รอด ฝานเจียกลัวที่สุดว่า พวกนั้นจะรู้ว่าเธออยู่ตึกไหน โชคดีที่เธอลงมือก่อนด้วยการใช้กุญแจปลุกคำสั่งที่ฝังทางจิต
นั่นไง ขอแค่มีฉินมั่วอยู่ด้วย ทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะเมื่อมีเขาก็เท่ากับมีอาวุธวิเศษ ไม่ว่าจะเอาเป็นโล่ป้องกันตัวหรือฆ่าคน เขาถือเป็นบุคคลที่มีคุณค่าสูง เวลานี้ฝานเจียเห็นคุณค่าที่ว่า เขาสามารถดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ต่อหน้าตำรวจนอกเครื่องแบบโดยไม่มีใครค้นพบ
นี่คืออาชญากรที่สวรรค์ส่งมาเกิดเลยล่ะ ฝานเจียยิ้ม ต่อไปเขากับเธอก็ถือเป็นคนโลกเดียวกันแล้ว!
ส่วนตำรวจนอกเครื่องแบบเดินอยู่ด้านนอกพลันมีท่าทีร้อนรนราวกับเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ โดยคนที่แฝงอยู่ในห้องพักรู้ถึงความผิดปกติ “คุณชายถัง เมื่อกี้เจ้าของห้องบอกว่าฝานเจียกลับมาแล้ว แต่ไม่ได้เข้าห้อง พวกเราไม่เจอเขาที่ชั้นอื่นๆ ของตึกด้วย จะทำยังไงดีครับ?”
“ถอนตัวออกจากห้องนั้นก่อน”
“ถอนตัวออกมาเหรอครับ?”
“อืม เฝ้าเป้าหมายอยู่อย่างนั้น ไม่มีประโยชน์หรอก”
หากคนที่อยู่กับฝานเจียเป็นฉินมั่ว วิธีแฝงตัวเช่นนี้ย่อมถือเป็นของเด็กเล่นของชายหนุ่ม
“งั้น…เดี๋ยว นายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่?” ตำรวจนอกเครื่องแบบยังพูดไม่จบ ก็เห็นร่างหนึ่งปรากฏอยู่ที่หน้าประตู ร่างนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นอายุประมาณสิบแปดปี กำลังก้มดูกุญแจประตู จากนั้นหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
———————————
ตอนที่ 1795-2
ตำรวจกำลังจะเดินไปล็อคตัวเพื่อสอบปากคำ ไม่คิดว่าเพิ่งจะยื่นมือไปแตะบ่า อีกฝ่ายก็หักข้อมือผลักกลับไป ก่อนจะเอ่ยเสียงใสตามมา “พวกเขามาที่นี่แล้ว แต่พวกไคุณไม่เห็นเอง”
“อะไรนะ?” ตำรวจตกตะลึง กำลังจะถามเพิ่ม ทว่าป๋อจิ่วคลายมือปแล้ว เธอหมุนตัวเดินไปอีกทางหนึ่ง มองดูกองขยะที่ถูกเหยียบ “พวกเขาลงไปจากตรงนี้ พวกคุณมากกว่าครึ่งเอาแต่เฝ้าอยู่ที่เดิม ก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ”
“นายเป็นใครกันแน่” ตำรวจนอกเครื่องแบบขมวดคิ้วอย่างทนไม่ได้ “เป็นนักเรียนแถวนี้เหรอ? เป็นเด็กเป็นเล็ก นี่ ไอ้หนู ฉันขอบอกนะ อย่าเอาแต่อ่านการ์ตูน ทำเป็นการ์ตูนโคนันสืบคดีไปได้ พวกเรายังต้องค้นหาหลักฐานอีก นาย…”
ตำรวจคนดังกล่าวคิดไม่ถึงว่า ตัวเองยังพูดไม่จบ เสียงมือถือที่ดังขึ้นก็ขัดจังหวะ “คนที่คุยกันนายอยู่ อายุประมาณเท่าไร?”
“สิบเอ่อ น่าจะสิบแปดครับ” เจ้าหน้าที่อึกอักเล็กน้อย เพราะคิดไม่ถึงว่าคุณชายถังจะถามคำถามนี้ขึ้นมา และสิ่งที่เหลือเชื่อก็คือฝ่ายโน้นกลับพูดต่อ “หน้าตาหล่อ ผมสั้นสีเงินด้วยใช่ไหม?”
“อื้ม ใช่ครับ”
“งั้นก็เขานั่นแหละ ฉันต้องใช้เวลาสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อยกว่าจะไปถึงที่นั่น ภายในสองชั่วโมงนี้ ให้ทุกคนฟังคำสั่งเขา”
ถึงจะช็อกอย่างไร แต่คำสั่งจากเบื้องบนพวกเขาตอบรับได้เพียงอย่างเดียว แต่ตำรวจนอกเครื่องแบบคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ป๋อจิ่วเป็นใครที่ไหนกัน คุณชายถังถึงได้เชื่อมั่นในความสามารถมากขนาดนั้น? ดูแล้วยังเป็นแค่เด็กม.ปลายเอง!
ด้วยเหตุที่อยู่ใกล้มาก ป๋อจิ่วย่อมได้ยินคำสนทนาที่เกิดขึ้น เธอมองดูสีหน้าตกตะลึงของตำรวจนายนั้นโดยไม่พูดอะไร ทั้งยังไม่อยากเป็นหัวหน้าทีมด้วย เธออยากหาตัวเขาให้เร็วที่สุด แต่โทรศัพท์สายนั้นมีประโยชน์เช่นกัน
หนึ่ง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่แถวนี้ ตำรวจนอกเครื่องแบบจะไม่จับเธอแน่
สอง เธอได้รับข้อมูลว่าเขามาที่นี่แน่ แต่ไม่ได้เข้าไป หมายความว่าตอนแรกตำรวจทำสำเร็จ แต่ตอนหลังถูกลับถูกคนรู้ทัน
ป๋อจิ่วไม่คิดว่าคนที่รู้ทันจะเป็นฝานเจีย โซ่เหล็กที่เล็กแบบนี้ยังอุตส่าห์รู้ทัน คงมีแค่ท่านเทพคนเดียว แถมภาพในกล้องวงจรปิดที่ร้านก่อนหน้านั้น ป๋อจิ่วก็รู้แล้วว่ากุญแจที่กระตุ้นคำสั่งที่แฝงทางจิตคืออะไร และรู้ด้วยว่าท่านเทพเข้าใจผิด คิดว่าฝานเจียเป็นเธอ
อิทธิพลของคำสั่งที่แฝงทางจิตมีอานุภาพแค่ไหน เธอไม่รู้ แต่เข้าใจเพียงอย่างเดียวว่าหากท่านเทพต้องการหลบตำรวจ เขาจะไม่มีวันหลบๆ ซ่อนๆ อย่างฝานเจียแน่ เขาจะเดินด้วยมาดนิ่งลอยชายต่อหน้าคนที่จะมาจับ และเข้ายึดพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยดีก่อนคนอื่นโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ป๋อจิ่วหลับตา นึกเหตุการณ์ที่เธอปะทะกับเขา เช่นเดียวกัน เธอก็นึกขึ้นถึงทุกครั้งที่เธอหลุดรอดได้อย่างสบายๆ แต่กลับโดนท่านเทพตามจับ
ทันใดนั้น เธอลืมตาขึ้น นัยน์ตาสว่างไสวเหมือนดวงดาว
จุดทัศนวิสัย! ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน จุดทัศนวิสัยสำคัญที่สุด!
ป๋อจิ่วกวาดตามองกองขยะด้านล่างแล้วสาวเท้าเข้าไปหา แววตาจ้องมองคนที่เดินไปมา ที่นี่สิ่งแวดล้อมใช้ได้ ตรอกซอกซอยสกปรกไร้ระเบียบ ขนาดตึกก็ยังได้เวลารื้อแล้ว เล่นอยู่ในซอยแบบนี้ ต่อให้เป็นสถานที่ซอมซ่อ แต่ยังมีประโยชน์ประจำตัวมัน
ป๋อจิ่วมองดูถนนซ้ายขวาหน้าหลัง ภาพแผนผังพลันปรากฏในสมองเธอ นี่คือที่ที่ใช้อยู่อาศัย นี่เป็นตลาด นั่นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับชุมชน เมื่อหันไปจะเป็นสามแยก แล้วก็ร้านบะหมี่!
…………………………………….
ตอนที่ 1796
ร้านบะหมี่นั่นมีขนาดเล็ก ไม่สะดุดตาสักเท่าไร พูดตรงๆ หากไม่ใช่เพราะป๋อจิ่วพยายามวิเคราะห์ รับรองว่านึกไม่ออกหรอก แต่เพราะเธอรู้ดีเช่นกันว่าสถานที่แบบนี้แหละที่ทำให้คนมองข้ามได้ง่าย ด้วยมันดูปกติธรรมดามาก ทว่าตำแหน่งของมันและทัศนวิสัยถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว เหมือนเธอในอดีตที่ชอบนั่งกินกวนตงจู่ที่ร้านสะดวกซื้อ คอยมองดูรถตำรวจเปิดเสียงไซเรนวิ่งผ่านไป
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอจึงเงยหน้าขึ้นทันที ปลายลิ้นดันเพดานบน ครั้งนี้กลายเป็นเธอไล่จับเขาใช่ไหม
ป๋อจิ่วฉลาด เธอไม่ให้ตำรวจนอกเครื่องแบบตามเธอมา กระทั่งไม่เข้าไปทางด้านซ้ายขวาและด้านหน้า แต่เลือกเดินเข้าทางด้านหลัง โดยถอดเสื้อกันลมตัวดำออกมามัดไว้ที่ข้อมือตัวเอง แล้วยึดกำแพงเอาไว้ จากนั้นจึงเดินเข้ามาจากห้องครัวด้านหลัง
พ่อครัวที่ทำอาหารอยู่เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งบุกเข้ามากะทันหัน มือที่กำลังคลุกเส้นบะหมี่ถึงกับชะงัก อะ อะไรกันเนี่ย? สำคัญที่สุดตรงที่เด็กคนนี้ถือถ้วยบะหมี่เนื้อที่เขาผัดไปเฉยเลย? เอาไปแล้ว!
ป๋อจิ่วแบกถาดใส่ถ้วยบะหมี่ไปจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ท่านเทพอุตส่าห์ลงจากอะพาร์ตเมนต์ไปเพื่อซื้อลูกอมให้เธอ โดยที่ตัวเขายังไม่ได้กินอาหารมื้อเย็น แน่ล่ะเธอเตรียมใจไว้แล้วว่า เดี๋ยวจะต้องเผชิญหน้ากับสองคนนั้น
ป๋อจิ่วยกถาดอาหารด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเธอซุกลงกระเป๋า แล้วเดินไปยังที่นั่งริมหน้าต่าง ฝานเจียนั่งหันหลังให้เธอ จึงไม่เห็นว่ามีคนเดินเข้าไปใกล้ แต่ฉินมั่วต่างออกไป เขาทำเหมือนเฉื่อยชา แต่หากเกิดความเคลื่อนไหวแม้เพียงนิดเดียว เขาจะรู้สึกทันที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่เดินถือถาดอาหารมาทางพวกเขาไม่เหมือนพนักงานเสิร์ฟสักนิด
ฉินมั่วรู้สึกแค่ว่าคุ้นตา แต่สิ่งที่ไม่ทำให้เขาเบี่ยงสายตาออกไป กลับไม่ใช่เพราะความคุ้นตา เป็นรอยยิ้มมุมปากต่างหาก
น่าสนใจแฮะ เหมือนจะบอกว่า ดูสิ ฉันรู้นะว่าพี่อยู่ตรงนี้ ฉินมั่วเลิกคิ้วขึ้น ทว่าฝานเจียไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ รอจนเมื่อเธอหันหลังกลับไป ถึงกับหน้าถอดสีทันที ความชั่วร้ายเอ่อล้นนัยน์ตาเธออย่างไม่มีอะไรปิดบังได้!
นังคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฝานเจียผุดลุกขึ้นทันที หยิบเอามีดที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าชี้ไปที่ป๋อจิ่ว!
ป๋อจิ่วทำเหมือนมองไม่เห็นเจ้าหล่อน ปล่อยให้อีกฝ่ายชี้ปลายมีดมาที่ตัวเอง ก่อนจะย่อตัวเล็กน้อย ส่งบะหมี่ผัดเนื้อมาวางตรงหน้าเขา เอ่ยด้วยเสียงที่ไม่พอใจ “พี่มั่ว ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ากะอีแค่ซื้อลูกอม พี่จะโดนคนหลอกเอาตัวไปเสียแล้ว บะหมี่เพิ่งผัดเสร็จ พี่รีบกินตอนที่มันร้อนอยู่เถอะ ฉันรู้ รู้ว่าพี่จำฉันไม่ได้แล้ว อันที่จริงฉันยังคิดว่าถ้าไม่เล่นเกมแล้ว ฉันจะเขียนหนังสือสักเล่ม ให้ชื่อว่าแฟนฉันสูญเสียความจำเป็นช่วงๆ”
ฉินมั่วไม่ได้พูดอะไร เขากำลังสำรวจเด็กคนนี้ ฝ่ายฝานเจียมองดูอยู่ด้านข้าง ความชั่วร้ายในแววตาทวี มากขึ้นทุกที จนทนไม่ไหวต้องงุดหน้าหัวเราะ เอ่ยเสียงงูพิษ “พี่มั่ว คนนี้นี่แหละที่จะทำร้ายฉัน พี่ช่วยฉันฆ่าเขาที”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้ว นิ้วมือเกร็งขึ้นทันที ด้วยรู้ว่าหากถูกกุญแจกระตุ้นคำสั่งทางจิต ผลจะเป็นอย่างไร เธอวู่วามเกินไป เพราะอยากจะพาตัวเขากลับไปถึงได้เข้ามาแบบนี้ กลับลืมความชั่วร้ายของฝานเจียไป
ทางด้านฝานเจียเหมือนกำลังลิ้มรสความสุขกับความรู้สึกแบบนี้ มุมปากฉายรอยยิ้มอย่างสาแก่ใจ แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า…
…………………………………..
ตอนที่ 1797-1
ฉินมั่วกลับไม่ลงมือ!
ทำไมถึงไม่ฆ่ามัน? ฝานเจียหันไปมองเขา เห็นเพียงเขากำฮู้นั่นแน่น แววตาไร้อารมณ์พิสูจน์ทุกสิ่งคำสั่งที่แฝงทางจิตไม่มีอิทธิพลพอที่จะให้เขาฆ่า Z ทั้งๆ ที่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น มันกลับได้ผล แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อนหน้านังนั่น กลับไร้ประสิทธิภาพ
ฝานเจียกำมือแน่น ความไม่ยอมแพ้เต็มนัยน์ตา แต่ไม่นาน เธอก็รับรู้สิ่งหนึ่งได้! หากการจะให้เขาฆ่าผู้หญิงคนนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำร้ายเธอ เขาต้องช่วยเธอแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น แววตาที่เขามองยัยนั่น เต็มไปด้วยความแปลกหน้า หมายความว่า Z จะโอหังได้เพียงเท่านี้แหละ! เธอเกิดความคิดใหม่ขึ้น เก็บมีดพลางทำท่าอ่อนแอไปเกาะชายหนุ่ม “พี่มั่ว เขาจะเอาตัวฉันไป เขาต้องเอาตัวฉันไปแน่ เขากับพวกที่อยู่ข้างนอกเป็นพวกเดียวกัน พี่ช่วยฉันนะ”
นั่นไง ฉินมั่วยื่นมือออกมากันไว้ข้างหน้าฝานเจีย แววตาไร้แสง เสียงที่เอ่ยเหมือนไม่ได้ตอบฝานเจีย ราวกับจะบอกตัวเองมากกว่า “ฉันจะไม่ยอมให้ใครพาตัวเธอไป”
เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น เท้าของป๋อจิ่วถึงกับหยุดชะงัก ช้อนสายตามองฝานเจีย ส่วนฝานเจียโผล่หน้าออกมานิดหนึ่ง แววตาแฝงแววเจ้าเล่ห์ ราวกับจะบอกว่า ‘แน่จริงก็เข้ามาเลย’
ป๋อจิ่วหรี่ตาลง เธอไม่ชอบภาพตรงหน้าแบบนี้ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม
ฝานเจียยังคงแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ปากก็ร้องว่า “พี่มั่ว” อันที่จริงหล่อนต้องการยั่วโมโหป๋อจิ่วต่างหาก เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้ ขอแค่ Z ลงมือทำร้ายเธอ ฉินมั่วย่อมไม่มีวันเมินคำสั่งเธอเหมือนเมื่อครู่ ใครที่ทำร้ายเธอ มันต้องตายแน่ นี่แหละคือคำสั่งที่แฝงทางจิตอย่างแท้จริง
ยิ่งคิด รอยยิ้มของฝานเจียก็ยิ่งชัดขึ้น เธออยากเห็น Z ที่เก่งกล้าถูกฉินมั่วทำร้าย ดูสิว่ามันจะสิ้นหวังหัวใจสลายแค่ไหน! เธอเดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง เพื่อจะให้ป๋อจิ่วลงมือกับตัวเองได้ง่ายๆ
ใครจะรู้ว่านังนั่นกลับยิ้มบางๆ ดึงเก้าอี้ไม้ตรงโต๊ะข้างผนังออกมา แล้วแยกขาทั้งสองนั่งคร่อมลงไปอย่างสบายอารมณ์ “ฉันไม่สนใจพวกหนูโสโครกที่เอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ อย่างเธอหรอก เรื่องจับเธอเป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าจะพาตัวคนไป ฉันย่อมต้องเอาตัวแฟนฉันต่างหาก อีกอย่าง พี่มั่ว เป็นคำที่เธอจะเรียกได้งั้นเหรอ? คำเรียกระหว่างเราสองคน ยังกล้าเอามาใช้เนอะ คุณหนูฝาน ตลกป่ะ คิดจะก๊อปปี้คนอื่นชั่วชีวิตเหรอ แต่ก็อปปี้มานานก็ต้องได้รู้ว่าของปลอมก็เป็นของปลอมอยู่ดี มันกลายเป็นของจริงไม่ได้หรอก”
ประโยคสุดท้ายเล่นเอาสีหน้าของฝานเจียเปลี่ยนไปทันที! เธอต้องข่มอารมณ์สุดแรงเกิดเพื่อไม่ให้ตัวเองวิ่งเข้าไปกระซวกนังนี่ เธอรู้ดีว่า ยิ่งเป็นเวลาแบบนี้ ยิ่งจะหลุดสถานะที่แท้จริงออกไปไม่ได้เด็ดขาด จึงทำตาแดง “เธอมาดูหมิ่นฉันแบบนี้ หมายความว่าไง? ไล่ฆ่าฉันจนหมดทางหนี ยังกล้าไม่ยอมรับอีก? ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพี่มั่ว ใช่ว่าแยกจากกันเพราะคำพูดนิดเดียวได้ จะจับตัวฉันก็จับไป อย่ายุแยงให้เราแตกกันแบบนี้!”
……………………………………….
ตอนที่ 1797-2
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วไม่พูดอะไร แต่หันไปมองฉินมั่ว ใบหน้าของชายหนุ่มยังหล่อเหล่านิ่งสงบเหมือนเดิม หากว่ากันตามเหตุผล ด้วยความฉลาดของเขา ไม่น่าจะแยกแยะสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลไม่ออก ต่อให้สูญเสียความทรงจำไปแล้วก็เถอะ แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดจะปกป้องฝานเจียเลย จะว่าไปมันต้องเกี่ยวข้องกับ ‘กุญแจ’ ที่ปลุกคำสั่งที่แฝงทางจิตแน่ เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังเช็คเจ้าของ ดังเช่นเมื่อตอนที่ติดตั้ง เราสร้างความทรงจำให้มันว่าลายมืออันนี้นี่แหละที่เป็นเจ้าของของมัน ให้มันจำลายมือเอาไว้
เวลานี้ฝานเจียเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าเขา นี่แหละที่เรียกว่าผลของ ‘กุญแจ’ การทำให้สภาพจิตใจของคนคนหนึ่งใกล้จะแหลกสลาย จากนั้นจึงล่อคำสั่งทางจิตที่ใช้ปกป้องตนเองในส่วนลึกหัวใจออกมา ก่อการสร้างภาพสมมติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเสียจากจะหาช่องโหว่เจอ แต่อะไรที่เป็นจุดอ่อนในหัวใจของเขาล่ะ ป๋อจิ่วไม่รู้สักนิด เดิมทีเธอนึกว่าแค่เขาได้เจอเธอก็จะรู้ว่าฝานเจียคือตัวปลอม แต่เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมดูจะไม่สำคัญอีกต่อไป มันขึ้นอยู่กับภาพสมมติที่ร่างเอาไว้ต่างหาก คงมีแค่การฟื้นความทรงจำเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่นเลย หรือเธออาจต้องติดตามเขาไปทุกที่
ป๋อจิ่วเงยหน้าขึ้น เห็นเขากำลังมองตัวเองอยู่ แววตาคู่นั้นลุ่มลึกมาก จากนั้นเขาก็เอ่ยว่า “เธอชอบสกปรกอย่างนี้เหรอ?”
ป๋อจิ่ว “สกปรกเหรอ? ตรงไหน?”
“เสื้อเปื้อน” น้ำเสียงของฉินมั่วเหมือนจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว แถมยังเหมือนสอนสั่งอีกต่างหาก “ที่บ้านเธอไม่ได้บอกเหรอว่า อย่าเที่ยวไปกระโดดกำแพงครัวด้านหลัง”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วได้แต่เบะปาก “เมื่อก่อนแฟนฉันก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาเสียความทรงจำหมดแล้ว ไม่สนใจฉันสักนิด ฉันเลยกลายเป็นเด็กถูกทิ้งไปแล้ว”
ฉินมั่วมองดูอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้า นิ้วมือเกร็งทื่อ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไมได้ยินแล้วกลับอยากยื่นมือไปลูบเส้นผมยุ่งๆ นั่น ความคิดที่ว่าทำให้ทรวงอกของเขาสะเทือนจนเจ็บไปหมด เหมือนกำลังหักหลังใครสักคน
ป๋อจิ่วจับความผิดปกติของชายหนุ่มได้ เพราะว่ามันชัดมาก เขากุมหน้าอกด้วยมือข้างหนึ่ง หัวคิ้วขมวดมุ่น กระทั่งเรียวปากยังซีดขาวอย่างน่ากลัว จะต้องเจ็บขนาดไหน ถึงได้อยู่ในสภาพอย่างนั้น?
ป๋อจิ่วอยากยื่นมือไปพยุงเขา แต่อีกฝ่ายกลับก้าวถอยหลัง ยื่นมือออกไปปกป้องฝานเจีย
“ฉันเข้าใจแล้ว” เข้าใจว่าคำสั่งทางจิตที่มีไว้ปกป้องตัวเองของพี่คืออะไร เพราะพี่เอาแต่คิดว่าพี่ปกป้องฉันไม่ได้ ถึงกลายเป็นแบบนี้
ป๋อจิ่วหายใจเข้าลึกๆ มองดูเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่เข้ามา รีบส่งสัญญาณมือห้ามเอาไว้ เธอเข้าใจท่านเทพเป็นอย่างดี บางทีเธอเข้าใกล้อาจไม่เป็นปัญหาอะไร แต่หากฝ่ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปใกล้เสียเอง เขาจะต้องรู้สึกถึงอันตราย และทุกอย่างที่รู้สึกว่าอันตราย เขาย่อมเด็ดหัวมันเสีย “ปล่อยพวกเขาไป”
นี่เป็นสิ่งแรกที่ป๋อจิ่วพูด หลังจากที่เดินออกมา ส่งผลให้พวกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบต่างตาโต หนึ่งในนั้นถึงกับหัวเราะเสียงหยัน “รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา?”
หากไม่เป็นเพราะคุณชายถังออกคำสั่งทางโทรศัพท์ เขาจะรู้สึกว่าเด็กนี่ไม่ได้ช่วยเขา แต่ช่วยคนร้ายต่างหาก ถึงเจ้าหนูนั่นจะเป็นคนหาเจอ แต่ก็ไม่ควรจะทำบ้าบอแบบนี้
“ฉันรู้ดีว่าตัวเองพูดอะไร ปล่อยให้พวกเขาไป” ป๋อจิ่วหันไปมอง “ฉันรู้ว่าพวกคุณสั่งพลยิงไกลซุ่มอยู่แถวนี้ แต่บอกคุณได้อย่างเดียว ไม่มีใครยิงแม่นเท่าคนที่อยู่ในร้านบะหมี่นั่น ถ้าเขาอยากไป พวกคุณไม่น่าจะห้ามเขาได้ ยิ่งตอนนี้เจ้าของร้านกับลูกจ้างเป็นตัวประกันพวกเขาอยู่ ถ้าเขาจะยึดตัวประกันไว้ก็ทำได้ทุกเมื่อ ถึงเวลานั้นเราจะคุมสถานการณ์ยาก คุณคิดว่าปล่อยพวกเขาดี หรือให้พวกเขาเอาตัวคนบริสุทธิ์เป็นตัวประกันไปด้วยดีล่ะ?”
………………………………………………………
ตอนที่ 1798-1
เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอยากพูดอีก ทว่าป๋อจิ่วกลับหัวเราะเบาๆ ขัดจังหวะ “ไม่เชื่อในการตัดสินใจฉัน ก็โทรไปหาคุณชายถังของพวกคุณได้เลย”
เจ้าหน้าที่โดนขัดจนว้าวุ่น เอ่ยหน้าดุ “ฉันต้องรายงานเบื้องบนก่อน” ป๋อจิ่วจึงผายมือเชิญ จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจึงรีบโทรออกไป เดิมเขาคิดว่าคุณชายถังจะครุ่นคิดอยู่นานก่อนให้คำตอบ แต่ไม่คิดว่าพอฝ่ายนั้นรับสายก็ทำเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วทันที “พวกนายฟังคำสั่งเขานั่นแหละ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาหลอกนาย ไม่ว่านายจะบุกเข้าไปหรือไม่ ฉินมั่วต้องจับตัวประกันไว้แน่ การปล่อยตัวเขาไปจะไม่เกิดปัญหาขึ้น แต่ถ้าไม่ปล่อยจะเกิดผลอยู่สองอย่างคือ คนที่บริสุทธิ์จะพลอยซวยไปด้วย เขตนั้นจะเกิดความวุ่นวาย ตอนนี้พวกนายไม่ได้เจอกับผู้ร้ายธรรมดา จริงๆ แล้วเขายังไม่ถึงขั้นที่เป็นผู้ร้าย เพราะยังไม่ได้ทำความผิด แต่เหมือนอย่างที่นายพูดนั่นแหละ เขายังไม่ได้จับตัวประกัน ถ้าไม่ใช่เพราะมีเจ้าเด็กนั่นที่อยู่ข้างนาย จนป่านนี้พวกนายก็ยังหาเขาไม่เจอ แล้วเขาก็จะไม่จับตัวประกันด้วย ไม่งั้นนายลองถามเจ้าเด็กที่อยู่ข้างนายสิว่า ถ้าฉินมั่วจะจับตัวประกันขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำยังไง?”
ป๋อจิ่วยิ้ม “อุตส่าห์เปิดลำโพง จงใจให้ฉันได้ยิน? ก็แค่จับตัวประกันไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเป็นตัวประกันให้พี่มั่วของฉัน จะให้ฉันทนเห็นแฟนตัวเองหนีไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง ฉันก็โมโหเป็นนะ”
“นิสัยอย่างคุณเนี่ยนะจะไปเป็นตัวประกัน” คุณชายถังหัวเราะ “อุตส่าห์ช่วยไม่ให้ฉินมั่วมีประวัติเลวร้ายติดตัวแบบสุดขาดใจขนาดนี้ ให้ผมเดาไหมล่ะว่าอะไรที่คำสั่งที่แฝงทางจิตของเขา คุณไม่ยอมให้ทุกคนลงมือ ก็เพราะถ้าใครทำร้ายฝานเจียเข้า ฉินมั่วจะต้องฆ่าคนนั้นใช่ไหม แต่ในทางกลับกัน ถ้าฝานเจียปลอดภัย มือของเขาก็จะไม่เปื้อนเลือดใคร สถานการณ์แบบนี้ทำให้คนไม่สบายใจจริงๆ Z มีคนชอบคุณตั้งเยอะ ผมว่าโฮชิโนะก็ไม่เลวนะ ทำไมจะต้องอยู่ตัวคนเดียวไปจนตายด้วย เราเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้ พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันดีไหม คุณยกภาระเกี่ยวกับฉินมั่วให้ผม ไม่ต้องถามอะไรอีก แล้วไม่ว่าคุณอยากได้อะไร ตระกูลถังจะให้ทุกอย่าง ผมรับประกันว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เอาไหม?”
ป๋อจิ่วเคาะนิ้ว “ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่เลว แต่คุณชายถัง ดูเหมือนคุณจะเข้าใจผิด สิ่งที่ฉันอยากได้ในโลกนี้ มีแค่คนที่แซ่ฉินชื่อมั่วเท่านั้น”
“งั้นก็น่าเสียดาย” เสียงของคุณชายถังไม่ได้ฉายแววเสียดายออกมาสักเท่าไร เหมือนจะไม่แปลกใจที่เธอตัดสินใจแบบนี้ “ไม่อยากเชื่อเลยว่า เวลา Z จะรักใครสักคน ก็รักได้มากปานนี้”
ป๋อจิ่วชะงักครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำ “เมื่อกี้ฝานเจียสั่งให้เขาฆ่าฉัน แต่เขากลับกำฮู้ป้องกันตัวที่ฉันให้เขาเมื่อตอนเป็นเด็กไว้แน่น คุณไม่มีวันเข้าใจหรอก อันที่จริงเขา…”
“อันที่จริงเขารักคุณมากกว่าที่คุณรักเขาเยอะ” คุณชายถังเหมือนจะหัวเราะขึ้นมา “Z ผมเคยบอกคุณหรือเปล่าว่า ผมกับฉินมั่วเป็นคนประเภทเดียวกัน เวลาที่เรารักใคร เรายอมทิ้งแม้แต่ชีวิตตัวเอง”
ป๋อจิ่วไม่ทุกข์ทรมานมากมาย “ต้องบอกว่าเรื่องราวความรักของคุณนี่ บางครั้งก็ปลอบใจคนได้ดี ถึงตอนนี้คุณยังโสด เพราะไล่จีบคนที่ตัวเองชอบไม่สำเร็จก็ตาม แต่มันไม่เป็นอุปสรรคในการเล่าสู่กันฟังดี”
คุณชายถัง…นี่ขอบคุณผมเรอะ
……………………………………….
ตอนที่ 1798-2
ป๋อจิ่วไม่คิดว่าความปากร้ายของตนจะมีปัญหา ใครก็ตามที่จะทำให้เธอกับพี่มั่วต้องเลิกกัน ควรจะต้องโดนกระแทกเสียบ้าง จากนั้นเธอจึงก้าวเท้า หมุนตัว แล้วกลับเข้าไปในร้านบะหมี่
การพูดคุยกันระหว่างเธอกับเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ล้วนแต่อยู่ในสายตาของฉินมั่ว ทว่าสิ่งที่เธอเอ่ยขึ้นมา กลับทำให้ชายหนุ่มถึงกับเงยหน้ามอง
“พวกนั้นจะไม่ทำอะไรพี่ แต่ถ้าให้ฉันเดา พี่คงไม่ไว้วางใจ เอาอย่างนี้ ฉันจะเป็นตัวประกันให้พี่เอง ถ้ามีตัวประกันแล้ว ต่อให้พวกเขามีพลยิงไกล ก็จะไม่ยิงใครง่ายๆ”
เป็นครั้งแรกที่ฉินมั่วเห็นคนเสนอตัวเป็นตัวประกัน สายตากวาดมองใบหน้าของอีกฝ่าย ผิวขาวเนียนละไมจนเห็นไรขนอ่อนๆ เขาดูอย่างละเอียด
เธอกำลังยิ้ม ปลายจมูกยังเปื้อนอยู่ เส้นผมสั้นเซอร์จะเป็นกระจุก ดูไร้พิษสงเหมือนลูกแมวไร้พิษสง แต่กลับแฝงไปด้วยความอันตรายอย่างเป็นธรรมชาติ คนที่ฉลาดเสียหน่อย ย่อมไม่เลือกเจ้าเด็กนี่เป็นตัวประกันแน่นอน…
ป๋อจิ่วรู้ดีว่าชายหนุ่มกำลังครุ่นคิด จึงยืนให้เขาสำรวจเต็มมี่ กระทั่งยังก้มตัวถามอีกต่างหาก “รู้สึกว่าฉันหล่อเป็นพิเศษเลยใช่ไหมล่ะ? จะลักพาตัวไปดูสักหน่อย ก็ไม่เห็นจะเสียหายนี่?”
ฉินมั่วเลิกคิ้ว อย่างแรกด้วยระยะที่ใกล้ชิด อย่างที่สอง เพราะอีกฝ่ายหน้าตาดีมาก
ฝานเจียเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว กัดฟันจนเจ็บไปหมด “พวกเราไม่ต้องการตัวประกัน!” จากนั้นก็เดินนำไปยังหน้าร้าน ฉินมั่งเห็นหล่อนอยู่ห่างจากตัวเองได้ห้าก้าว พลันก้าวขาตามไป
ป๋อจิ่วมองดูอย่างเงียบๆ ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอดูแผ่นหลังเขา หากคิดให้ดี เพราะเขาจะเป็นฝ่ายมองดูเธอจากไปทุกครั้ง เมื่อก่อนเธอคิดว่า เวลาที่เดินจากไป เธอเป็นฝ่ายที่ทุกข์ทรมานมากที่สุด แต่ตอนนี้เธอกลับเข้าใจอะไรบางอย่าง ที่แท้แล้ว เขาที่รออยู่ที่เดิมเสมอต่างหากที่ทุกข์ทรมานที่สุด
ป๋อจิ่วนึกถึงคำสัมภาษณ์หนึ่งขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด มีคนถามเขาว่าทำไมถึงเล่นลีกส์อาชีพ เขาตอบว่า ‘เพราะคนที่ผมตามหาชอบเล่นเกม’
ไม่เพียงแต่ตอนเป็นเด็ก กระทั่งโตขึ้นเขาก็ยังรอเธอมาตลอด
ป๋อจิ่วมองตามเงาของร่างของชายหนุ่มหยุดลง ห้าก้าวเหรอ? คำสั่งที่แฝงทางจิตยังรวมถึงการอยู่ห่างจากฝานเจียไม่เกินระยะทางหนึ่งๆ ด้วยงั้นเหรอ? ป๋อจิ่ววิ่งตามไป ในเมื่อไม่ต้องการตัวประกัน งั้นเธอจะตามไปเป็นเพื่อนบ้านเขาเอง
ฝานเจียเดาออกว่าคนพวกนั้นไม่ลงมือแน่ เพราะจากสีหน้าของคนนั้น น่าจะเดาอะไรบางอย่างได้ เดิมเธอกะจะฉวยโอกาสให้ฉินมั่วฆ่าสักคนสองคน เพราะมีแต่การทำแบบนี้ จะทำให้เธอวางใจ ด้วยหลังจากที่มือเปื้อนเลือดของผู้บริสุทธิ์ เขาจะไม่มีวันกลับไปเป็นฉินมั่วคนเดิม และนิสัยของเขาจะเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ แต่นัง Z กลับมาทำลายแผนเธอครั้งแล้วครั้งเล่า!
ฝานเจียแค้นขีดสุด แต่รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ทว่า…แล้วจะยังไง คนที่เขาเดินตามหลังชนิดไม่คลาดสายตาคือเธอ ฝานเจีย ไม่ใช่นังนั่น อยากตามมาใช่ไหม เชิญตามสบาย เธอจะให้นังนั่นเห็นกับตาตัวเองว่า ฉินมั่วดีต่อเธอยังไง! ถ้ามันมองไม่เห็น เธอก็จะเล่าให้มันฟังเอง
ก้นบึ้งนัยน์ตาของฝานเจียเป็นประกาย รอจนเลี้ยวที่มุม ก็หยุดชะงัก “พี่มั่ว พี่รอตรงนี้ ฉันไปคุยกับเขาสักหน่อย สบายใจได้ ฉันจะไม่อยู่ห่างจากพี่เกินห้าก้าว”
ฉินมั่วไม่พูดอะไร แต่ฝานเจียรู้ว่าคำพูดของเธอถือเป็นการกระตุ้นคำสั่งที่ฝังทางจิต เจ้าหล่อนยิ้มพลางเดินมาหาป๋อจิ่ว…
…………………………..…………..………..
ตอนที่ 1799-1
ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว แต่ไม่ถอยหลัง แค่ซุกมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋า มองดูฝานเจียที่อยู่ข้างหน้า ทางด้านฝานเจียยิ้ม เอ่ยเสียงต่ำ “ฉันขอเตือนว่าอย่าเสียแรงเปล่าเลย พรุ่งนี้แกจะแข่งระดับเอเชียแล้วนี่ ตอนนี้เย็นมากแล้ว พอถึงตอนค่ำพวกเราก็เข้าห้อง แกทำอะไรไม่ได้หรอก ฉันรู้ว่าแกอยากพาเขาไปแข่ง แต่น่าเสียดายจริงๆ เขาในตอนนี้อยู่ห่างจากฉันไม่ได้อีกแล้ว ใครก็ตามที่เข้ามา ต้องลงเอยแบบเดียวกันหมด
ป๋อจิ่วมองดูหล่อน ย้อนถามอย่างเอื่อยเฉื่อย “แผนของเธอสำเร็จแล้ว ปลอมตัวเป็นฉัน แถมยังสร้างภาพสมมติลงในสมองเขาได้เรียบร้อย แต่ถ้าว่ากันตามเหตุผล เขาน่าจะสนิทกับเธอไม่ใช่เหรอ แต่เขายังไม่ยอมให้เธอแตะต้องเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เธอรู้ไหมว่าทำไม?”
ฝานเจียแววตาหนักอึ้งทันทีที่ได้ยิน “Z แกนี่มันไม่เห็นแม่น้ำฮวงโหแล้วไม่ยอมแพ้[1]สินะ”
“ฉันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว” ป๋อจิ่วเอียงศีรษะ ยิ้มรับเต็มปากเต็มคำ “เธอต้องขอบคุณในโชคชะตาที่มีเขาอยู่ด้วย ไม่งั้นล่ะก็ ฉันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะเอาตัวเธอไปโยนทิ้งเป็นอาหารที่ทะเลไหนดี”
ฝานเจียกำมือแน่น “แกอย่าโอหังให้มากนัก ถึงวันนี้เขาจะไม่ยอมฆ่าแกตามคำสั่งของฉัน แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่ฆ่า แกฉลาดขนาดนี้น่าจะรู้ว่าคำสั่งที่แฝงทางจิตจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเรื่องอื่น ยังต้องให้ฉันเตือนแกอีกไหม? สักวันหนึ่งเขาต้องรู้ว่าฉันเป็นคนเดียวที่เขาควรจะเลือกมากที่สุด ฉันอุตส่าห์ทำทุกอย่างแทบตายก็เพื่อเขา แล้วแกจะหมดความหมายต่อเขาตลอดไป”
“ไอ้ความคิดที่ว่าฉันรักเธอแล้วเธอจะต้องรักฉันเนี่ย ไม่จำเป็นต้องพูดหรอก ถ้าการทำลายของรักของเขา แล้วเรียกว่า ‘รัก’ ล่ะก็ เดาว่าคนทั้งโลกคงไม่ต้องการความรักแบบนั้น” แววตาของป๋อจิ่วเย็นยะเยือก ไม่เหลือความอบอุ่นสักนิด
ฝานเจียแพ้อีกฝ่ายราบราบ จึงกำมือแน่นขึ้น “แล้วจะยังไง เพราะในท้ายที่สุดคนที่อยู่ข้างเขาก็คือฉัน แต่แกสิ ถ้าเอาตัวเขากลับไปแข่งไม่ได้ ตัวเองก็เล่นไม่ได้เหมือนกัน เฮอะๆ ต้องลำบากกันแล้วล่ะนะ Z คนที่เป็นศัตรูกับฉัน จุดจบไม่สวยกันทั้งนั้นแหละ แกนี่มันใสซื่อดีนะ ทำให้พวกเรามีโอกาสจู่โจมเขา แกคิดว่าเป็นนักกู้โลกหรือไง ช่วยไปเสียทุกคน แน่เหลือเกินนี่ แต่กลับเป็นแค่คนธรรมดาที่สู้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันไม่ได้ คนอย่างแกไม่คู่ควรที่จะอยู่ข้างเขา” พูดจบ เจ้าหล่อนก็เดินกลับไปอยู่ข้างตัวฉินมั่ว ยิ้มให้ “พี่มั่ว พวกเราไปกันเถอะ”
ป๋อจิ่วไม่พูดอะไร ได้แต่ซุกมือไว้ในกระเป๋า พลางเดินตามหลังไป อันที่จริงเธอไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้นักหรอก แต่เทียบกันแล้ว เธอไม่ชอบที่จะไม่เห็นเขามากกว่า
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง จนแสงสุดท้ายจางหายไปตามการมาเยือนของยามค่ำคืน มือถือของป๋อจิ่วส่งเสียงอยู่นั่น แต่เธอไม่คิดจะรับสาย เพราะถ้ารับสายก็ไม่รู้จะบอกพวกหลินเฟิงอย่างไรดีว่าเธอทำท่านเทพหายอีกแล้ว ฝานเจียพูดถูกอย่างหนึ่ง เธอทระนงว่าตัวเองเก่งเกินไป ฉะนั้นของที่ควรคว้าได้กลับจับไว้ไม่อยู่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป้าหมายในการมาเจียงเฉิงของฝานเจียอยู่ที่เขา เธอควรต้องเฝ้าเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่เพราะเธอพยายามจะจับฝานเจียให้ได้ ทำให้เสียสมาธิ
บรรยากาศในโลกออนไลน์กำลังดุเดือดเลยทีเดียว เธออุตส่าห์สู้จนเฮือกสุดท้าย แต่กลับทำเขาหลุดลอยไปอีก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ป๋อจิ่วขยับนิ้ว มองด้านบน ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปยังรถแลมโบกินี่ที่จอดในซอย จากนั้นจึงเหยียบคันเร่ง เคลื่อนรถมาถึงใต้ตึกแห่งนั้น
ฉินมั่วยืนอยู่บนตึก ต่อให้ไม่ต้องก้มหน้าก็เห็นความเคลื่อนไหวข้างล่างตึก
ตึกแห่งนี้แม้จะเก่า แต่มีทัศนวิสัยดีเยี่ยม เมื่อยืนตรงริมหน้าต่าง ก็จะเห็นความเป็นไปข้างนอกจนหมด
ตอนแรกเขาเห็นแค่ยัยนั่นคอตก ไม่รู้ว่าคิดอะไร แต่ไม่เท่เหมือนตอนที่ยกบะหมี่มาเสิร์ฟให้เขา ดูน่าเวทนาเหลือเกิน
…………………………………….
ตอนที่ 1799-2
ฉินมั่วขยับตัวอัตโนมัติ ไม่อยากมองดูต่อไป ไม่รู้ว่าทำไม แต่เห็นเธอคนนั้น ทรวงอกเขาพลันเจ็บร้าวไปหมด จนแทบจะแบกรับความเจ็บดังกล่าวไว้ไม่ได้ แต่พอเขาเพิ่งผละมาจากริมหน้าต่าง กลับวิ่งไปดูต่ออย่างทนไม่ไหว ทว่าเมื่อกลับไปดูใหม่อีกครั้งเธอก็ไม่อยู่แล้ว
ฉินมั่วบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ทรวงอกไม่เจ็บแล้วก็จริง แต่มันวูบโหวง ทำให้ทรมานยิ่งกว่าเก่า ราวกับถูกขุดบางส่วนไปจากหัวใจ กระทั่งมีเสียงแผ่วเบาที่บอกว่า ‘ดูเอาเถอะ ยัยนั่นรอไม่ไหวจนเดินจากไปแล้ว’
ฉินมั่วยื่นมือกำฮู้เอาไว้ ราวกับทำแบบนี้ เสียงนั่นจะหายไป
ฝานเจียยืนอยู่ข้างๆ เก็บทุกรายละเอียดไว้ในสายตา ก้นบึ้งนัยน์ตาฉายแววแค้นเคือง ทำไม ทั้งๆ ที่อยู่ในห้องเดียวกันแท้ๆ แต่สายตาเขากลับไม่เคยหยุดมองที่ตัวเธอเลย! “พี่มั่ว” เธอเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแฝงแววร้องไห้ “ฉันกลัว กลัวว่าพี่จะทิ้งฉันไปอีก” ส่งผลให้แววตาของฉินมั่วหวั่นไหว กำมือแน่นขึ้น
ฝานเจียรู้ว่าเสียงตัวเองมีผลต่อตัวเขา จึงเดินไปหมายจะฉวยโอกาสกอดเอวชายหนุ่ม แต่กลับเห็นเขาช้อนสายตามอง เดินไปที่ริมหน้าต่างอีกครั้ง เหลือเพียงความว่างเปล่าให้เธอ
ฝานเจียโมโหสุดๆ มองตามสายตาของชายหนุ่ม จึงเห็นนังตัวดีที่ทำลายแผนการของเธออีกแล้ว! และสิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้มากที่สุดก็คือ สายตาของฉินมั่ว! ทำไมสายตาของเขาถึงจ้องนังนั่นอยู่ร่ำไป
ฉินมั่วกำลังมองป๋อจิ่วจริงๆ ไม่ใช่ว่าเจตนามอง แต่ยัยคนที่ยืนอยู่ด้านล่างตึกโดดเด่นจับสายตาเหลือเกิน ไม่รู้ว่าไปเองลูกโป่งมาจากไหนเป็นพวงเลย แถมยังเป็นลูกใหญ่ด้วย ด้านในมีดวงไฟสีสันสวยงาม และดูเหมือนเธอจะรู้ตัวว่าเขากำลังมองอยู่ จึงซุกมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋า ส่งยิ้มให้เขาก่อนจะปล่อยลูกโป่ง
เมื่อลูกโป่งลอยขึ้นสู่ด้านบน ฉินมั่วจึงเห็นตัวอักษรที่เขียนไว้บนนั้น “แฟนของฉันจ๋า พี่หิวแล้วหรือยัง?” ลูกโป่งทั้งเก้าปรากฏตัวอักษรอันละตัว
ฉินมั่วเลิกคิ้วทันทีที่เห็น กระทั่งเขายังไม่รู้ตัวว่า มุมปากหยักยิ้มนิดๆ ทว่าเมื่อฝานเจียเห็นยิ้มดังกล่าว แววตาเต็มด้วยความริษยาทันที!
ป๋อจิ่วไม่สนหรอกว่าฝานเจียจะคิดยังไง พอรู้ว่าฉินมั่วได้รับสารที่เธอสื่อถึง ก็เรียกพนักงานส่งเดลิเวอร์รี่ที่ใช้บริการให้เดินมาหา ก่อนจะงับฝาปากกา แล้วเขียนตัวอักษรบนเมนู เอ่ยเบาๆ “เอาของนี่ไปส่งให้เจ้าของห้องนั้น รบกวนเอากระดาษนี่ส่งให้พี่รูปหล่อที่ยืนริมหน้าต่างตรงนั้นด้วย”
พนักงานเพิ่งเคยเจอะเจอกับเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก มองดูลูกโป่งที่ลอยขึ้นด้านบน “เขาเป็นแฟนคุณจริงเหรอครับ?”
ป๋อจิ่วส่งเสียงยอมรับ ก่อนจะเขียนข้อความเพิ่มในเมนูนั่น ทว่าพนักงานยังคงสงสัย “แล้วทำไมเขาถึงอยู่กับผู้หญิงคนอื่น”
“เพราะเขาเสียความทรงจำ” ป๋อจิ่วชะงัก ก่อนจะยิ้มออกมา “แฟนฉันดีทุกอย่าง แต่เสียความทรงจำ เวลางอนฉัน ปกติแล้วเขาไม่เป็นแบบนี้หรอก ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ เขาเป็นต้องทำเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นเป็นแบคทีเรียเลยล่ะ”
พนักงานฟังแล้วงง ทำหน้าแบบผมไม่เข้าใจจริงๆ ครับ แต่เดี๋ยวนี้มีเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้นมากมาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงข้อความที่เติมในเมนูเลย
ปกติแล้วคนที่สั่งอาหารเดลิเวอร์รี่บางคน จะเขียนเงื่อนไขเพิ่มบนเมนูว่า ขอให้เจ้าของร้านช่วยส่งหนุ่มหล่อมาส่งอาหารให้ฉันด้วย
……………………………………
[1] ไม่เห็นแม่น้ำฮวงโหแล้วไม่ยอมแพ้ หมายความว่า หากไม่เจอทางตันที่ไม่มีวันผ่านไปได้ ก็จะมุ่งมั่นต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
ตอนที่ 1799-3
พนักงานคนนี้เดินขึ้นตึกอย่างรู้สึกชินกับความประหลาดที่ว่า โดยก่อนขึ้นไปยังมองลูกโป่งเหล่านั้นแล้วบอกตัวเองในใจ ต่อไปเวลาที่แฟนเขางอน เขาก็จะโอ๋อย่างนี้นี่แหละ โรแมนติกดีออก
ฉินมั่วยืนอยู่ข้างบน เห็นป๋อจิ่วไม่อยู่อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรกับพนักงานเดลิเวอร์รี่ เช่นเดียวกับฝานเจียที่ไม่รู้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อมีคนเคาะประตู ฝานเจียจึงถามขึ้น “ใคร”
เสียงดังจากข้างนอกตอบว่า “เอาอาหารเดลิเวอร์รี่มาส่งครับ”
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออก เธอรู้ดีว่า Z เป็นคนสั่งมา ในเมื่อส่งมาให้เธอก็จะรับล่ะ แล้วไม่เพียงจะรับ ยังจะกินร่วมกับฉินมั่วด้วย นังนั่นจะได้รู้เสียทีว่าเวลาที่มองเธอกับเขากินข้าวด้วยกันจะรู้สึกอย่างไร! แต่ฝานเจียกลับคิดไม่ถึง หลังจากที่เปิดประตูออกไป พนักงานคนนั้นกลับพูดเพียง “สวัสดีครับ” แล้วเอ่ยต่อ “พี่รูปหล่อครับ มีโน้ตถึงพี่ครับ”
ฝานเจียห้ามไม่ทัน เพราะฉินมั่วเดินมารับกระดาษนั่นไปแล้ว โดยมีข้อความเขียนว่า “ชอบลูกโป่งที่ส่งให้ไหม? แฟนจ๋า”
ฝานเจียโมโหสุดขีด ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึงว่า การกระทำของตัวเองจะทำให้นังนั่นสื่อสารกับเขาได้ แต่กระนั้นก็ยังไม่จบ “สำหรับอาหาร ฉันสั่งมาสองชุด ชุดหนึ่งฉันเก็บไว้กินเอง อีกชุดหนึ่งให้พนักงานส่งมาให้ ว่ากันว่าคนคู่กันถึงจะอยู่ห่างไกล แต่พี่มั่วลองก้มดูก็จะเห็นฉันกิน”
ฉินมั่วไม่สนใจหรอกว่าคนอื่นจะกินยังไง เขาสงสัยแค่ว่ายัยนั่นยังทำอะไรได้อีก จึงเดินไปดูที่ริมหน้าต่าง
ฝานเจียผิดแผน จึงหมดความอดทน ไม่อยากให้นังนั่นเห็นอะไรอีกด้วย! “พี่มั่ว ดึกแล้ว พวกเรานอนกันเถอะ” ว่าแล้วก็เดินไปปิดไฟที่ห้องรับแขก ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนอน เธอรู้ดีว่าต่อให้ฉินมั่วไม่สนิทชิดเชื้อกับเธอ แต่ยังคงปกป้องเธออยู่ใกล้ตัวแน่นอน
ฝานเจียยิ้มพลางมองดูฉินมั่วเดินมาหาเธอ ไม่ไปที่ริมหน้าต่างอีก มุมปากแอบหยัดยิ้มขึ้น เธอบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า มันไม่มีประโยชน์หรอก ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอคนเดียว! รอจนถึงบ่ายวันพรุ่งนี้เถอะ คำสั่งที่แฝงทางจิตจะถูกเปิดใช้งานครบ 24 ชั่วโมงแล้ว
และเมื่อ 24 ชั่วโมงผ่านไป เธอจะสั่งให้เขาฆ่าคน ถึงเวลานั้นมือเขาต้องเปื้อนเลือดแน่ เธออดทนได้และไม่แคร์ที่จะต้องรอ แต่เธอค้นพบบางสิ่ง ฮู้นั่นมันบาดตาเป็นบ้า มันจะรบกวนคำสั่งของเธอทุกครั้งเลยสิน่ะ รออีกหน่อยเถอะ รอจนผ่านคืนนี้ไป เธอจะกำจัดมันทิ้ง!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ รอยยิ้มบนมุมปากของฝานเจียก็หยักลึกขึ้น ทว่าตอนแรกเธอคิดว่าฉินมั่วจะเดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับเธอ ไม่คิดเลยว่าเขาจะหยุดอยู่หน้าห้องนอน ทิ้งระยะห่างไว้เพียงห้าก้าว ไม่มากหรือน้อยกว่านี้ ทั้งยังไม่คิดจะเข้ามาด้วย! ฝานเจียร้อนใจทันที “พี่มั่ว พี่ไม่นอนเหรอ? จะยืนตรงนั้นทั้งคืนหรือไง?”
………………………………………
ตอนที่ 1799-4
เขาตอบด้วยการพิงกำแพง ยืนพิงเอียงๆ ซุกมือทั้งสองเข้ากระเป๋ากางเกง หลับตาลง สื่อความหมายชัดเจน
ฝานเจียอยากจะกินข้าวกับเขา แต่ใครจะคิดล่ะว่า เขาไม่ยอมพูดอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาหารสักคำ
ชายหนุ่มที่ไม่ยืนที่ริมหน้าต่าง ดูเหมือนเป็นจอมมารที่ไม่สนใจต่อบรรยากาศรอบด้านอีก ความมืดเข้าปกคลุมตัวเขา
ฝานเจียคิดจะออกคำสั่งกับชายหนุ่ม แต่เกรงว่าจะได้ผลในทางกลับกัน รออีกสักคืนเถอะ คงไม่เป็นไร อย่างไรเสียเขาก็อยู่ในห้องเดียวกับเธอ และนัง Z ก็คงได้แต่วิตกจริตมากมายต่อไป เธอไม่เชื่อหรอกว่านังนั่นจะใจเย็นอยู่ได้!
ป๋อจิ่วไม่ได้ใจเย็นจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นดวงไฟในห้องดับลง ยิ้มที่มุมปากของเธอสลายไป กระทั่งอาหารชุดในส่วนของเธอ ยังถูกโยนทิ้งลงถังขยะ เธอบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่กลับจุดบุหรี่สูบอย่างทนไม่ไหว
อากาศข้างนอกหนาวมาก เธอไม่รู้ว่าอุณหภูมิในห้องที่เขาอยู่เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกแค่ว่าตัวเองหนาวไปทั้งตัว ยังดีที่ในรถมีเครื่องทำความร้อน แต่เธอไม่อยากอยู่ในรถ ด้วยอยากให้เขาเห็นเธอ จึงยืนสูบบุหรี่ถึง 7-8 มวนอยู่ใต้ตึก จนทนความหนาวเหน็บไม่ไหว เปิดประตูรถออก
ป๋อจิ่วรู้เช่นกันว่าฝานเจียย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้เธอกับชายหนุ่มได้ติดต่อกันแน่ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มเห็นของที่เธอให้แล้ว จะหวั่นไหวบ้างหรือเปล่า นี่เป็นครั้งแรกที่ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก กลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุด แต่หากจะลงมือจับฝานเจียในเวลานี้ขึ้นมาจริงๆ มีหวังตกหลุมพรางของอีกฝ่ายแน่
ป๋อจิ่วช้อนสายตาดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ 5 ทุ่มแล้ว เหลืออีกไม่ถึง 12 ชั่วโมงก็จะได้เวลาแข่ง
ด้วยเวลาจำกัดเพียง 12 ชั่วโมง จะทำอย่างไรให้ชายหนุ่มฟื้นความทรงจำ? ป๋อจิ่วคิดหาวิธีมากมาย แต่ไม่มีวิธีไหนที่จะเป็นไปได้เลย
รอจนถึงตี 2 เธอพยายามบังคับตัวเองให้พักผ่อน เพราะฝานเจียต้องมีแผนต่อแน่ และหากคำสั่งที่ฝังทางจิตถูกเปิดออกนานเข้า จะยิ่งแก้ไขยาก เธอรู้ดีว่าฝานเจียลากเวลาให้มันยืดเยื้อ เพื่อฆ่าเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ป๋อจิ่วก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร เธอยื่นมือนวดหัวคิ้ว มองดูเศษบุหรี่ที่ร่วงลงพื้น แล้วมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง พบว่าเวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมงแล้ว
โลกออนไลน์ยังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ คงเพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งทางออฟฟิเชียลเว็บไซด์ได้เริ่มตั้งเวลาถอยหลังแล้ว กระทั่งในตอนนี้ ก็ยังมีคนต่อต้านไม่เห็นด้วยที่ฉินมั่วกับแบล็กพีช Z จะลงแข่งขัน
ป๋อจิ่วสไลด์นิ้วบนมือถือ รู้สึกว่ามันหนาวมาก มันก็หนาวจริงๆ แต่วางมือไม่ได้ เธอกดต่อสายถึงเฮ่อหงฮัว
คนเป็นแม่รับสาย ก็ได้สติทันที “จิ่ว ลูกจิ่วใช่ไหม?”
“หนูเองค่ะ” ป๋อจิ่วยิ้มออกมา เงยหน้ามองดูความมืดนอกหน้าต่าง ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเช้าแล้ว เหลืออีกไม่ถึง 4 ชั่วโมงก็จะได้เวลาแข่ง
ภายใน 4 ชั่วโมงนี้ เธอพอจะดาดเดาผลออก จะรั้งรอเวลาต่อไปไม่ไหว ยังไงก็ต้องรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดให้เขาให้ได้
ป๋อจิ่วถอยหลังก้าวหนึ่ง สวมฮู้ดบนศีรษะ ร่างสูงระหงเอ่ยปากขึ้น ควันก็ลอยออกมา “เรื่องที่หนูเคยสัญญาไว้ กลัวว่าต้องผิดคำพูดกับแม่แล้วล่ะค่ะ”
…………………………………………
ตอนที่ 1800-1
เฮ่อหงฮัวได้ยินเสียงนั่นแล้ว ถึงกับกุมขมับ “ลูกจิ่ว จะลำบากไปทำไม ลูกทุ่มเทไปก็เสียแรงเปล่า เสียงก่นด่าในโลกออนไลน์ไม่มีวันจบสิ้นหรอก”
ป๋อจิ่วเงยหน้าขึ้น สายตามองที่จุดหนึ่ง หัวเราะแผ่วเบา “หนูไม่แคร์”
เฮ่อหงฮัวอึ้ง จากนั้นเสียงตัดสายก็ดังขึ้น เธอรู้ดีว่าลูกเธอตัดสินใจแล้ว อันที่จริง เฮ่อหงฮัวก็ไม่เข้าใจนักว่า ลูกสาวเธอพูดว่าไม่แคร์นั้นเป็นความจริง ลูกเธอกับสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมไดมอนด์ไม่เหมือนกัน ใช่ว่าจะต้องเล่นเกมออนไลน์ให้ได้ แต่เป็นเพราะต้องทำเพื่อชายหนุ่มต่างหาก
ป๋อจิ่วหยุดเพื่อชัยชนะของเขาบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่มีคาดเดาได้ถึงคำพูดจาที่ไร้ความรับผิดชอบของคนบางกลุ่มหรอก เพื่อจะได้ไม่ต้องทนรำคาญ และเพื่อไม่ให้เฮ่อหงฮัวต้องกังวลมาก จะให้เธอทิ้งการเล่นเกมก็ได้ เพียงแต่วันหนึ่ง หากเขาฟื้นความทรงจำได้แล้วจะรู้สึกเสียดายหรือไม่? แล้วพวกเหยาเย่า หลินเฟิง เฮียเย่าและคนอื่นๆ ล่ะ ความตั้งใจของพวกเขาต่างหากที่เป็นเหตุให้เธอตัดสินใจเล่นต่อไป
ป๋อจิ่วยัดมือถือลงในกระเป๋ากางเกง เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าก็จะสว่างแล้ว เธอหันไปคว้าถุงมือหนังสีดำจากในรถ รวมถึงไม้เบสบอล โดยหิ้วมันไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นตึก แล้วฟาดมันไปที่หน้าต่างบานเล็กที่เก่าแก่
เพล้ง! เศษกระจกแตกกระจายเต็มพื้น ป๋อจิ่วสวมถุงมือจึงไม่กลัว เธอค้ำมือทั้งสองแล้วสอดตัวเข้ามา ก่อนกระโดดลงพื้นอย่างรวดเร็ว ฉินมั่วที่อิงกำแพง ลืมตาทันทีที่ได้ยินเสียง แล้วจ้องมองเธอ
ฝานเจียวิ่งออกมจากห้องนอน จ้องภาพตรงหน้าตาโต เธอคิดไม่ถึงเลยว่านังนั่นจะบุกเข้ามาด้วยวิธีนี้! ทว่าป๋อจิ่วทำเหมือนไม่เห็นเธอ สองตาจับจ้องฉินมั่วเพียงคนเดียว เธอหัวเราะแผ่วเบา “เดี๋ยวฉันต้องไปธุระนานหน่อย ก่อนจะไป ฉันอยากบอกพี่นิดหนึ่งว่า คนที่สำคัญที่สุดของพี่ อยู่กับพี่มาโดยตลอด เขาเสียใจมากที่สุดก็ตอนที่พี่ตามหาเขา แล้วเขาไม่รู้ตัว ทำให้นังตัวร้ายบางคนฉวยโอกาสจับจุดอ่อนของพี่ พี่เคยบอกว่า พี่จะยืนอยู่ในที่ที่สว่างไสวที่สุด รอให้เขาหาพี่จนเจอ เพราะเขาชอบเล่นเกม พี่ถึงได้เล่นลีกส์อาชีพ ตอนนี้กลายมาเป็นตัวเขาที่รอพี่ แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร พี่มั่ว มันเป็นการแข่งขันที่พี่อยากเข้าร่วมมากที่สุด พี่ควรจะมานะ”
ฉินมั่วขยับนิ้ว แผ่นอกเหมือนถูกหินก้อนใหญ่ทันไว้ โดยเฉพาะเมื่อยัยนั่นพูดประโยคสุดท้าย แล้วหันหลังไป ความรู้สึกที่เหมือนหายใจไม่ออกกลายเป็นโล่ง
ฝานเจียกังวลว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จึงเอ่ยปากอยู่ข้างๆ “พี่มั่ว พี่จะทิ้งฉันไปทำอย่างอื่นอีกแล้วเหรอ?”
ประโยคดังกล่าวเหมือนคำสั่งที่ทิ่มแทงเข้าไปในโสตประสาทของฉินมั่ว “ไม่มีวัน” ใช่ ไม่มีวันอีกต่อไปที่จะทิ้งเธอคนนั้นแล้วไปทำเรื่องอื่น เขาจะไม่มีวันทำเรื่องอื่นๆ อีก
ฝานเจียรู้ดีว่าการพูดเช่นนั้นจะสามารถควบคุมเขาได้ จึงแอบยิ้มขึ้นมา เธอรู้ดีว่า Z ต้องการทำอะไร ยังฝันอยู่ได้ ไม่มีใครที่แก้คำสั่งที่ฝังทางจิตได้หรอก ฉินมั่วไม่มีวันฟื้นความทรงจำ เว้นแต่เวลาจะย้อนกลับได้
ฝานเจียมองดูนาฬิกาบนกำแพง แววยิ้มเยาะในดวงตาชัดมากขึ้น ต้องขอบคุณคนพวกนั้น พวกซาแซงแฟนที่ชอบร่ำร้องขัดแย้งกับออฟฟิเชียลเว็ป ถ้าไม่เพราะความชอบของพวกมัน เอาเอ่ยแต่เรื่องด้านลบจนทำให้ทีมไดมอนด์ประสบปัญหาอยู่เรื่อยมา เกรงว่าจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่สมความหวังเลยด้วยซ้ำ เพราะมีแต่คนพวกนี้นี่แหละที่จะก่อเรื่องให้เฟิงอี้ได้
หากไม่จัดการปัญหาดังกล่าว ข่าวลือจะยิ่งแพร่เร็วกว่าเดิมอีก แต่หากจัดการก็จะทำให้เกิดข่าวลือที่รุนแรงกว่า เช่น ทีมไดมอนด์ไม่แคร์ความรู้สึกของแฟนคลับ
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เฟิงอี้จึงได้แต่วิ่งสองทาง ทำให้เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด ส่งผลให้เธอเจาะช่องโหว่ได้
…………………………………..
ตอนที่ 1800-2
เวลานี้ทีมไดมอนด์สลัดปัญหาที่ร้อนระอุไม่สำเร็จ เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก มีพวกซาแซงแฟนอยู่ด้วย จะทำให้ทีมดังกล่าวย่ำแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับนัง Z ก็ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฝานเจียหันไปมอง เห็นมือของฉินมั่วที่ทาบทับบนตำแหน่งหัวใจพอดี เธอไม่เคยเห็นเขาในสภาพนี้มาก่อน จึงยื่นมือไปพยุง ทว่าเขากลับกำฮู้เอาไว้
หลายครั้งแล้วนะ เธอกลับสู้ไอ้ฮู้คุ้มครองตนนั่นไม่ได้!
ข้างนอกตัวตึก มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาสมทบอีกกลุ่ม ส่วนป๋อจิ่วเปิดไฟท้ายรถแลมโบกินี่ แต่ไม่ได้ขับรถออกไป แค่กำชับว่า “ถ้าพี่มั่วหายไปเหมือนเมื่อครั้งที่อยู่ในกองทัพแบบไม่รู้ตัวอีกล่ะก็ ฉันจะรื้อนายไปทำเป็นหุ่นยนตร์ทำความสะอาด”
เสี่ยวเฮยได้ยินคำข่มขู่ที่แสนจะหน้าไม่อายอย่างนี้เป็นครั้งแรก “เจ้านายครับ คุณใจร้ายกับรถที่คุณรักได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“รถที่ดูแลคนแค่คนเดียวไม่ได้เนี่ยนะ?” ป๋อจิ่วตบไฟท้ายของมัน “นายชอบบ่นว่าเป็นรถที่มีชีวิตมิติเดียวไม่ใช่เหรอ ดีเลย จะได้ปลูกฝังนิสัยรักการปัดฝุ่นเสียที”
ในฐานะที่เป็นรถอัจฉริยะ ย่อมมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบ สุดยอดรถอย่างมันจะยอมปล่อยให้ตัวเองตกต่ำจนกลายเป็นไม้กวาดได้อย่างไร ต่อให้เป็นแบบอัจฉริยะก็ไม่ได้ “ครั้งที่แล้วเป็นเหตุสุดวิสัยครับ ผมนอนหลับเลยทำอะไรไม่ได้ แล้วใครจะไปรู้ว่าจอมมารจะหนีไปในตอนกลางคืน!”
ป๋อจิ่วถึงกับหัวเราะเมื่อได้ยิน ก่อนจะเอ่ยอย่างเป็นปกติ “ฉันถึงได้อาบน้ำให้นายอย่างอ่อนโยนไงล่ะ ไม่ได้รื้อชิ้นส่วนของนายสักหน่อย”
เสี่ยวเฮยรู้ว่าวันนี้เจ้านายจะดูอันตรายเป็นพิเศษ กลัวว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตรอด จึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดึงดูดหัวใจสุดชีวิต “เจ้านายครับ วางใจได้ ผมจะไม่ปล่อยใครมาทำให้นังปีศาจของคุณแปดปื้อน เขาอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่นด้วย รับรองว่าจะไม่ปล่อยให้หายไปเด็ดขาด!”
ป๋อจิ่วไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ตบตัวมัน ส่งผลให้เสี่ยวเฮยตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเปิดไฟรถให้สว่าง
ส่วนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเห็นแล้ว ต่างคิดว่าตัวเองเจอเรื่องเหนือธรรมชาติ ต่างสบตากัน ก่อนจะยืนนิ่งกันทั้งกลุ่ม ส่วนเจ้าเด็กนั่นก็เออแฮะ ไม่ฝากพวกเขา แต่ดันไปฝานรถ
ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกสว่างขึ้นมาจริงจัง ไม่มีวันที่ท่านเสธฉินจะไม่ได้รับข่าวของลูกชาย ในระหว่างที่ผู้ช่วยจางกำลังรายงาน ราชินีจอเงินตื่นขึ้นก่อนเวลามานานแล้ว เพื่อจะได้ยินอะไรบางอย่าง
คนอย่างท่านเสธฉินไม่มีวันหรอกที่จะไม่รู้ถึงลมหายใจที่อยู่ใกล้ ดังนั้นหลังจากที่ผู้ช่วยจางจากไป ท่านจึงเดินมาที่มุมหนึ่ง เห็นชายกระโปรงชุดนอนที่ลาดอยู่บนพื้น จากนั้นท่านเสธก็ทรุดตัวลง ดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด ท่านที่อยู่ในชุดทหารเต็มยศ “ต่อให้คุณไม่เชื่อผมก็ต้องเชื่อลูก เขาจะไม่มีวันเป็นอะไร”
“ฉันน่าจะรู้ตั้งแรก ตอนนั้นพวกเราเห็นแก่ตัวเองจนเกินไป พอยุ่งขึ้นมาก็ส่งเขาไปเมืองนอก พอว่างก็คิดจะเอาตัวเขากลับ ไม่ถามสักคำว่าเขายินดีไหม” คนสวยอยู่ในอ้อมกอดของท่านเสธในสภาพเหมือนเด็กน้อยเลยทีเดียว น้ำตาคลอตา “ตอนเขารักฮู้นั่นมากมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปในนั้น ฉันเคยไปถามคุณพ่อ คุณพ่อก็บอกแค่ว่าเป็นความหลังที่เขาไม่อยากลืม หลายปีที่ผ่านมาพวกเราคิดว่าเขาจำไม่ได้แล้ว ถึงเป็นการดีต่อเขา เพราะเขาจะได้ใช้ชีวิตในเจียงเฉิงได้อย่างเป็นปกติต่อไป แต่ไม่รู้ว่าในใจเขารู้สึกยังไงกันแน่”
ท่านเสธกอดเธอแน่น “ต้องโทษผม จะโทษก็ต้องโทษผม”
“ฉันน่าจะโทษคุณ ฉันบอกตรงๆ ถ้าลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เราก็หย่ากัน” คนสวยพูดอย่างนั้นก็จริง แต่มือกลับไม่ปล่อย “คุณว่าฮู้นั่นจะปกป้องลูกเราได้ไหม?”
ท่านเสธที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนั้น เอ่ยเสียงต่ำ “แน่นอน”
…………………………………..
ตอนที่ 1800-3
ถ้าเด็กผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ด้วย จะต้องปกป้องเขาได้แน่นอน เพราะเด็กสองคนนั้นเคยรักกันมาก ทั้งนี้เพื่อรักษาชื่อเสียงให้ Z ลูกชายของท่านได้ลงมือหลายต่อหลายเรื่องโดยไม่มีใครรู้ และไม่สนอีกด้วยว่าจะมีคนรู้หรือเปล่า
ตอนที่ลูกเป็นเด็กก็เคยบอกท่านว่าอย่าจับคนที่เก่งด้านคอมพิวเตอร์ ตอนนั้นท่านนึกว่าเป็นเรื่องเด็กน้อย จึงไม่ได้สนใจ พอมาคิดได้ในตอนนี้กก็รู้ว่าคงเพราะรักมาก ดังนั้นจึงพกติดตัวเพื่อจะได้ระลึกถึงในภายหลัง
ใช่ เพราะรักมาก ฉะนั้นปฏิกิริยาแรกคือการปกป้อง ไม่เพียงฉินมั่วจะคิดเช่นนี้ ป๋อจิ่วก็เช่นกัน เธอไม่เคยเข้าใจดีเท่าในเวลานี้มาก่อน เธอไม่อยากได้อะไร นอกจากปกป้องผู้ชายคนนั้นแล้ว ยังต้องปกป้องความฝันของเขาอีกด้วย
ในเมื่อเป็นความฝัน ก็ต้องยืนอยู่ที่หนึ่งอย่างใสสะอาด!
ติ๊ง… เสียงประตูเปิดของห้างสรรพสินค้าดังขึ้น เวลา 8 โมงเช้าเช่นนี้ บางแห่งยังไม่เปิดให้ทำการ แน่ล่ะ ย่อมมีคนมาทำงานแล้ว
เวลา 8:30 น. ผู้คนเริ่มเดินสวนเข้ามา ป๋อจิ่วเดินเข้าไป ฝ่ายพนักงานขายสาวยิ้มให้ “สวัสดีค่ะ ต้องการคำแนะนำไหมคะ แต่เสื้อผ้าคุณผู้ชายไม่ได้อยู่ในชั้นนี้นะคะ”
“รู้แล้ว” ป๋อจิ่วซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋า ดึงผ้าปิดหน้าออก หันหน้าไปยิ้มให้ “แต่ ฉันไม่ได้มาผิดที่แน่”
เมื่อเห็นใบหน้าที่โผล่ออกมา พนักงานสาวถึงกับหัวใจเต้นสับสน เพราะ หล่อ หล่อเอามากๆ!
ในเวลานี้นี่เอง ที่สนามกีฬารังนกแห่งเมืองเจียงเฉิงซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่โปร่งแสง ด้วยพื้นที่ 258,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับที่ต่อแถวตรวจตั๋วเข้าสนามแข่ง ลูกโป่งลอยขึ้นด้านบนและคอสเพลย์แบบ 3D หากถ่ายรูปจากที่สูง ย่อมเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ
ทุกกล้องเตรียมพร้อมตามเวลาที่ผ่านไป ผู้กำกับหลักที่รับผิดชอบการไลฟ์สดได้ทำการทดสอบเสียงและสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งที่ 3 ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ
9:00 น. ทุกทีมเข้าสู่สนาม
ทีมที่จะทำการแข่งขันในครั้งนี้มีอยู่ 4 ทีมด้วยกัน เมื่อผ่านการแข่งกันรอบแรก ผู้ชนะจะได้เข้าสู่การแข่งรอบตัดสิน ซึ่งการจับสายการแข่งขันได้ดำเนินมานานแล้ว หลายๆ คนบอกว่า เป็นบุญของทีมไดมอนด์ที่ไม่ได้เจอทีมอาทิตย์อุทัยตั้งแต่รอบแรก ไม่งั้นการแข่งต้องจบเห่ตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว
จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิดหรอก แต่การแข่งระดับเอเชีย ไม่ได้มีทีมอาทิตย์อุทัยที่เก่งกาจ ทุกทีมที่เข้ามาในรอบนี้ได้ ล้วนแต่มีฝีมือระดับโลกกันทั้งนั้น พวกแฟนคลับที่มีประสบการณ์ต่างคิดว่า ด้วยระดับความสามารถของทีมไดมอนด์ในเวลานี้น่าจะสู้ไม่ไหว
9:15 น. ห้องพักผ่อนของทีมไดมอนด์ หลินเฟิงช้อนสายตาขึ้น “ยังไม่ได้ข่าวอีกเหรอ?”
“อื้ม” อวิ๋นหู่เป็นคนตอบ
พวกเขาไม่เคยเงียบเชียบแบบนี้มาก่อน แต่บรรดาซาแซงแฟนต่างเหมาเอาเองว่าพวกตนอุตส่าห์ช่วยไอดอลกำจัดสมาชิกที่ไม่ดีออกไปจนหมดสิ้น
เซวียเหยาเย่าและโคโค่ต่างมองเหม่อไปที่มุมหนึ่ง ราวกับขาดจิตวิญญาณที่จะแข่งอย่างสิ้นเชิง
…………………………………..
ตอนที่ 1800-4
เวลานี้ประตูถูกเปิดออกมา เฟิงอี้เป็นคนเปิดนั่นเอง เขายังคงเหมือนเดิมทุกอย่างด้วยการสวมสูทสุดเนี๊ยบ กวาดตามองทั้งห้อง ก่อนจะหัวเราะขึ้น “พวกนายยังไม่เริ่มแข่งก็แพ้แล้ว กระทั่งโอกาสที่เจ้าแบล็กกับคุณชายฉินจะกลับมาไม่มีแล้วรึไง?”
“มะ ไม่ใช่อยู่แล้ว!” เฟิงซ่างลุกขึ้นมา หน้าแดงก่ำ!
เฟิงอี้มองดูน้องชายตัวเอง ยกมือขึ้นด้วยกิริยาเดียวกันกับฉินมั่วที่มักทำเวลาอยู่หลังเวที “ในเมื่อไม่ใช่ ก็สู้ให้มันเต็มที่ อย่าบอกฉันนะว่าพวกนายไม่ไหว?”
“ใครบอกว่าพวกเราไม่ไหว”
พรึ่บ! ทุกคนต่างยกมือวางลง
เฟิงอี้หัวเราะ “รู้ไหมว่าแค่พวกนายลงแข่ง ก็จะทำให้คนที่นี่รู้จักพวกนายในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าคุณชายฉินหรือเจ้าแบล็ก วันนี้ตอนที่ออฟฟิเชียลเว็บแนะนำพวกนาย จะมีของขวัญให้ เดี๋ยวเข้าสนามแล้วก็จะเห็นเอง มาเถอะ ทีมไดมอนด์…”
“ต้องชนะ!” เสียงกู่ก้องที่เคล้าน้ำตา ราวกับไม่มีใครที่ได้ยิน เพราะคนกลุ่มนี้มักจะเป็นเช่นนี้แหละ เวลาที่พวกเขามักจะเช็ดน้ำตาจนแห้ง ก่อนเข้าสนามแข่ง
9:30 น. พนักงานจำนวนมากมายต่างติดวิทยุสื่อสารและป้ายพนักงาน ธงชาติจีนและออสเตรเลียลอยขึ้นมาช้าๆ ผู้กำกับหลักยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้พิธีกร
10 9 8 7 6
เสียงประโคมดังขึ้น
3!
2!
1!
“สวบ!”
แสงสว่างขึ้น หน้าจอยักษ์สว่างเช่นกัน โดยมีตัวอักษรตรงแนะนำอยู่ตรงกลาง พวกเขาเคยตกสู่หลุมลึกแห่งความมืด เวลานี้ฟื้นกลับมาใหม่ สัญญาว่าจะเป็นผู้ชนะให้ได้ ชื่อของพวกเขาคือ ทีมไดมอนด์!
ไม่รอให้เสียงเชียร์ดังออกมา ภาพหน้าจอก็เปลี่ยนไปเป็นกลุ่มคนที่สวมแบบฟอร์มเดียวกัน เสียงจึงดังตามกันมา
“สวัสดีครับ ทุกคน อินอู๋เย่าคุมเลนบน จากทีมไดมอนด์”
“สวัสดีครับ ทุกคน เหราหรงคุมเลนกลาง จากทีมไดมอนด์”
“สวัสดีครับ ทุกคน อวิ๋นหู่ ADC จากทีมไดมอนด์”
“สวัสดีครับ ทุกคน…”
ระหว่างที่คลิปแนะนำตัวปรากฏออกมา สนามแข่งต่างเงียบกริบ คนมากมายขนาดนั้นต่างเงยหน้ามองดูจอยักษ์ ฟังเสียงคนที่พวกคนชื่อชอบ จนเมื่อคนสุดท้ายออกมาก็เหมือนเลือดจะไหลพล่านทั่วตัว “สวัสดีครับ ทุกคน ฉินมั่ว หัวหน้าทีมไดมอนด์ครับ”
เสียงอึกทึกดังไปทั่ว!ทุกคนทั้งสนามต่างยืนขึ้น ร้องออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
และในเวลานี้นี่เอง คลิปดังกล่าวเหมือนถูกทำให้แตกเป็นเศษเสี้ยวแล้วมาประกอบใหม่ เปล่งประกายพราวระยับ กลายเป็นคลิปภาพการแข่งระดับมณฑล มีนักฆ่าชุดดำตะลุยฆ่าไปจนถึงบ่อเลือดของอีกฝ่ายโดยไม่มีใครช่วย
ดับเบิ้ลคิล!
ทริปเปิ้ลคิล!
ควอดคิล!
เพนตาคิล!
ฆ่าห้ารวด แบล็กพีช Z!
ผู้บรรยายร้องตะโกนจนหมดเสียง แต่ผู้คนต่างไม่ได้ยินเสียงเขา เพราะเมื่อเห็นไอดีดังกล่าว เหล่าแฟนคลับสาวๆ ต่างยกมืออุดปาก นั่นคือความซาบซึ้ง ความซาบซึ้งที่พวกแอนตี้แฟนไม่มีวันเข้าใจ ไม่ว่าคุณจะเคยพูดอะไรยังไงคุณก็จะไม่มีวันหวั่นไหว เด็กคนนี้ยืนอยู่ด้านหน้าจอยักษ์ ก้มศีรษะลง ทุกคนที่เขาโจมตีติดๆ กันอย่างรุนแรง นิ้วมือคุมเมาส์อย่างเท่ แล้วเราจะปฏิเสธเพียงเพราะเขาเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ
ไม่ ไม่มีวัน!
เด็กที่งับอมยิ้ม เดินออกมาจากที่มืด สวมหูฟังแล้วฆ่ากระหน่ำคนนี้ เทพของพวกเขาตลอดกาล แบล็กพีช Z!
…………………………………………
ตอนที่ 1801-1
เวลานี้ดูเหมือนจะเข้ากับบรรยากาศมาก ผู้บรรยายในชุดสูทหยิบไมโครโฟน ประกาศออกมา “การแข่งเกมเลเจนด์ชิงแชมป์เอเชียเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!”
“สวบ!” แสงสาดส่องลงมา เสียงและภาพทั้งหมดหยุดนิ่ง ก่อนจะได้รวมตัวกันที่ทางฝั่งซ้ายและขวา โดยทางซ้ายเป็นทีมไดมอนด์ ส่วนทางขวาเป็นทีมธีโอ!
ทุกคนต่างกู่ร้องชื่อทีมที่ตัวเองเชียร์! ลมพัดขึ้น ชุดที่สีดำสลับแดงสะบัดจนเกิดเสียง ผู้คนที่สวมชุดเดียวกันต่างเดินออกมาจากด้านใน แววตาของพวกเขาลุ่มลึก เหมือนมีไฟกำลังลุกโชน
มีคนบอกว่า ร่างของพวกเขามีความเยาว์วัยสถิตอยู่
คุณกับเพื่อนซี้ในหอพัก ส่งเสียงเอะอะกันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเฝ้าดูการแข่งขัน
แฟนคุณเคยกอดคุณ แล้วบอกว่าดูสิ ดิ นั่นเป็นทีมที่ฉันชอบ
คุณกับเพื่อนสาวคลุมผ้าห่มผืนเดียวกัน คุยกันเรื่องพวกเขาจนถึงรุ่งสาง
คุณคิดว่าชีวิตตัวเองจะเป็นแบบนี้ พอเงยหน้าขึ้นอีกที ก็เห็นว่าทีมหนึ่งไม่เคยแก่เลย
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พวกเขาก็ไม่มีวันลืม ทว่าทีมไดมอนด์ในสภาพดังกล่าว กลับหายไปสองคน คนสองคนที่ควรอยู่ด้านหน้าสุดของทีมกลับไม่ปรากฏตัวออกมา แม้บางคนจะทำใจไว้แล้ว ทว่าเมื่อดูฟอร์มของทีมนี้ สีหน้าถึงกับซีดขาวไปชั่วอึดใจ
ผู้ชมที่ลุกขึ้นยืน บ้างก็นั่งลงไป สีหน้าผิดหวังเผยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย บางคนถึงกับสุมหัวซุบซิบกัน
ทำไมถึงไม่มีเทพฉิน?”
“ฉันคิดว่าแบล็กพีชกับเทพฉินของฉันจะมาด้วย”
“ถึงจะมีข่าวลือพวกเขาอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ไม่น่าจะถึงขั้นที่แบกรับความกดดันไม่ได้”
“จริงด้วย จ่ายตังส์ค่าบัตรฟรีเลย”
บางครั้งนักกีฬาอีสปอร์ตต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ คนที่หาว่าฉินมั่วไม่เก่งก็คือพวกเขา พอฉินมั่วไม่มาจริงๆ ก็หาว่าชายหนุ่มแบกรับความกดดันไม่ได้
ใช่ว่าสมาชิกในทีมไดมอนด์จะไม่ได้ยินเสียงเหล่านี้ กระทั่งทีมธีโอยังได้ยินกันหมด แม้ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร แต่มองดูจากความเคลื่อนไหวก็หันไปถามล่ามข้างตัว
บรรยากาศในเวลานี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่ว่าสถานการณ์นี่จะเป็นอย่างไร พิธีกรย่อมดึงความสนใจของผู้ชมกลับมา “ทุกท่านคงกำลังรอคอยว่าทั้งสองทีมจะนำความสนุกสนานให้เราอย่างไร งั้นผมคงไม่พูดมากล่ะครับ มาดูลำดับการเข้าแข่งขันก่อนเลยดีกว่า!”
เพราะนี่เป็นทีมระดับนานาชาติ ย่อมไม่พกท่าทีเป็นอริคู่แค้นมาลงแข่ง เพียงแต่ข่าวที่ฉินมั่วไม่ได้แข่งด้วย ทำให้ทีมธีโอยินดีอย่างคาดไม่ถึง อันที่จริงตอนที่พวกเขาลงจากเครื่องบินเมื่อวานก็ได้ทราบข่าวว่า ฉินมั่วสูญเสียความทรงจำ อาจจะเข้าร่วมการแข่งไม่ได้ แต่พวกเขานึกว่ามันเป็นข่าวปลอมที่มาหลอกพวกเขาให้ตายใจ ทว่าตอนนี้ท่าทางน่าจะเป็นจริง พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลมากแล้ว เพราะการแข่งระดับนานาชาติแบบนี้ ทีมจากประเทศจีนล้วนแต่เป็นฐานให้คนอื่นเหยียบเสมอ ตอนแรกพวกเขากังวลก็ตรงที่ฉินมั่วผู้ซึ่งเคยเล่นงานพวกเขาเสียหนัก ถึงกับต้องฝึกโหดถึงหนึ่งเดือนเพื่อสู้กับเขา ทว่าตอนนี้ทีมธีโอมีอาวุธเด็ดแล้ว ทีมไดมอนด์ไม่ใช่คู่แข่งพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด
“รายชื่อของทีมไดมอนด์ออกมาแล้ว!”
………………………………………….
ตอนที่ 1801-2
ประเภทเดี่ยว เหราหรง
ประเภทคู่ อินอู๋เย่าและหลินเฟิง
“ถ้าเป็นผม ผมก็จะเลือกลำดับการเล่นแบบนี้แหละ” ผู้บรรยายเอ่ยขึ้น ทว่าผู้บรรยายอีกคนกลับถาม “เอ๋? ทำไม?”
“ทีมธีโอไม่ได้มีดีแค่ทีมเวิร์คเยี่ยม แต่ประเภทเดี่ยวก็ถือว่าสุดยอดเช่นกัน ทีมไดมอนด์ต้องกัดฟันเอาชนะหนึ่งในสองประเภทนี้ให้ได้ ถึงจะลอยเข้าไปแข่งในระดับทีม ถ้าเกมนี้ชนะไม่ได้อีก ก็แสดงว่าทีมไดมอนด์แพ้แล้ว”
“คุณคิดว่าการแข่งในครั้งนี้ เป็นงานยากของทีมไดมอนด์”
“นี่เป็นการแข่งชิงแชมป์เอเชีย แต่ผมเชื่อในศักยภาพของทุกทีม”
ผู้บรรยายมาจากประเทศต่างๆ เมื่อให้พวกเขามาอธิบาย ทุกคนจะเห็นปัญหารอบด้าน
“เหราหรงลงสนามแล้ว ผมจำได้ว่าเขาเล่นตัว CC ตลอด พอมาเล่นประเภทเดี่ยวแล้วจะไหวเหรอ?”
“งั้นคุณคงไม่ทราบล่ะสิว่า อันที่จริง ตอนที่เหราหรงอยู่อีกทีมหนึ่ง ถึงเขาจะเป็นตัว CC แต่เขาสร้างความเสียหายต่อคู่แข่งเยอะที่สุดในทีม ทำให้เห็นว่าเขาเล่นเดี่ยวได้เก่งแค่ไหน ในฐานะที่เป็นตัวเปิดโรง เขาจะต้องแบกรับความกดดันสูงมาก ถ้าจะบอกว่าการแข่งประเภทดูกันที่เทคนิค ย่อมไม่สู้จะบอกว่า ยิ่งเป็นการแข่งระดับใหญ่ ก็ยิ่งต้องดูความสามารถในการรับกดดันของนักกีฬามากกว่า”
“ผู้เล่นประเภทเดี่ยวของทีมธีโอเหมือนจะไม่กดดันอะไร”
“เรื่องนี้ทั้งสองทีมต่างกันจริงๆ ฟอร์มของทีมธีโอไม่เคยเปลี่ยน คนแรกที่ลงสนามจะคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ ถึงเขาจะแพ้ในสนามนี้ แต่ด้วยศักยภาพของทีมธีโอ เขาเชื่อว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะเอาชนะคืนมาได้ แต่สถานการณ์ของเหราหรงต่างออกไป ก่อนหน้านี้เขาประสบกับปัญหามามากมาย แถมเพิ่งจะเข้าทีมไดมอนด์อีกด้วย บางทีอาจจะกดดันมากก็ได้”
แต่กระนั่นไม่นาน ผู้บรรยายก็ได้เห็นร่างของชายหนุ่มผ่านหน้าจอ แล้วหัวเราะออกมาในทันใด “ท่าทางผมจะวิเคราะห์พลาดไป เหราหรงเดินตำแหน่งแม่นมาก มันจะเป็นการแข่งประเภทเดี่ยวที่มันส์สะเด็ดแน่นอน”
จริงๆ ด้วย เวลาที่เหราหรงสวมหูฟัง เขาก็เหมือนกลายเป็นคนละคน สมกับที่เป็นผู้เล่น CC ที่เป็นจิตวิญญาณของทีมในอดีต คงเพราะเหตุนี้ ผู้จัดการเฟิงถึงได้เลือกให้เหราหรงเป็นผู้เล่นคนแรก เพราะชายหนุ่มไม่เคยหวั่นไหวเพราะอิทธิพลจากโลกภายนอก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์การแข่งแบบไหนก็ตาม!
เวลาผ่านไป การแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้ทุกคนต่างตึงเครียด เพราะไม่นานทีมไดมอนด์ต่างค้นพบว่าผู้เล่นประเภทเดี่ยวของทีมธีโอไม่ธรรมดา เขาคาดเดาตำแหน่งของเหราหรงได้ทุกครั้ง แถมยังสร้างความเสียหายได้อีกต่างหาก ความรู้สึกกดดันจึงทะลวงเข้าในหัวใจของทุกคน
การต่อสู้ถึง 10 นาทีผ่านไป แต่ละครั้งทั้งสองต่างกับเมืองในสภาพเลือดเหลือน้อย แต่ไม่นานทุกคนก็ทราบปัญหา
“เล่นแบบนี้ต่อไป ทีมไดมอนด์ต้องแพ้แน่เลย”
“เอ๊ะ? ทำไมเหรอ?”
“เพราะจะว่าไปเหราหรงเหมาะกับการเล่นเป็นตัว CC มากที่สุด เพราะตัว CC จะเหมาะต่อการเล่นเป็นตัวทำดาเมจให้เพื่อนในทีม ถึงจะทำให้เขาเล่นได้สุดฝีมือ ตอนนี้เอาเขามาเล่นเดี่ยว แสดงว่าทีมไดมอนด์ต้องการเอาชนะในเกมนี้ให้ได้ ไม่สิ ต้องบอกว่าทีมไดมอนด์ต้องการเอาชนะทั้งสองเกมแรกให้ได้ แบบไม่ต้องเล่นประเภททีมกับทีมธีโอเลยล่ะ เพราะพวกเขารู้ดีว่า ถ้าเล่นประเภททีมล่ะก็ ด้วยฟอร์มของทีมไดมอนด์ในตอนนี้ ไม่น่าจะชนะคู่แข่งได้ ดังนั้นพวกเขาเลยส่งเหราหรงออกมา เพราะไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เทคนิคการเล่น รวมถึงฟอร์มประจำตัว เหราหรงโดดเด่นแบบไม่ต้องสงสัย เพราะเขาเคยเป็นสามเสาหลักร่วมกับฉินมั่วและเซียวจิ่ง แต่การทำความเสียหายของตัวCCในเกมเลเจนด์ไม่สูงมากนัก ถ้ายื้อต่อจนถึงช่วงท้ายเกม เหราหรงอาจแพ้ได้” พอพิธีกรพูดประโยคนี้จบ คนทางโน้นก็เหาะไปทางเหราหรง
………………………………………….
ตอนที่ 1801-3
สายตาของทุกคนต่างตะลึง และในระหว่างที่ทุกคนคิดว่าเหราหรงจะถูกไล่ตามจนทัน ใครจะไปรู้ว่าเขาฆ่ากลับด้วยตำแหน่งที่หลักแหลม ส่งผลให้ทีมไดมอนด์ชนะประเภทเดี่ยว
เซวียเหยาเย่าที่อยู่ด้านข้างถึงกับตะลึงงันไปทั้งตัว ก่อนจะหันไปกอดโคโค่ที่กำลังกัดหูกระต่ายในอ้อมแขนอยู่!
อารมณ์ดีใจเหมือนโรคติดต่อนั่นแหละ!
“เยี่ยม!”
เหราหรงเดินกลับมา ทุกคนต่างตบบ่าเขา เขายิ้มให้ มองออกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน แต่ไม่นานพวกเขาก็รู้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะสีหน้าของทีมคู่แข่งกลับดูเนือยเนิบ ราวกับหากแพ้การแข่งประเภทนี้ก็ไม่เป็นไร
“พวกเราคงเข้าใจฝีมือการเล่นของทีมไดมอนด์แล้วนะ” หัวหน้าทีมธีโอเป็นคนพูดเอง
สองคนจากฝั่งโน้นอมยิ้มพลางลุกขึ้นมา “การแข่งประเภทเดียวเก่งมาก แต่ถ้าเขาเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในทีมล่ะก็ การแข่งในประเภทคู่จะทำให้ทีมไดมอนด์รู้สักทีว่าอะไรคือความแตกต่าง”
“อย่าดูถูกทีมคู่แข่ง” หัวหน้าทีมธีโอเป็นคนพูด แต่ไม่ปฏิเสธในสิ่งที่ลูกทีมตัวเองพูด ส่วนผู้บรรยายที่มีประสบการณ์สูงเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว หันไปพูดต่อไมโครโฟน “ผมเดาว่า ผู้เล่นประเภทคู่จะต้องแสดงฝีมือที่แท้จริง ของตัวเองออกมาแน่”
“ถ้าดูจากสไตล์การเล่นของทีมธีโอ พวกเขาจะเอาคนเล่นประเภทเดี่ยวมาทดสอบฝีมือการเล่นของทีมคู่แข่ง พวกเขามักจะเอาผู้เล่นที่เก่งที่สุดมาไว้ในประเภทท้ายๆ งานนี้ทีมไดมอนด์ต้องระวังแล้วล่ะ”
ทีมไดมอนด์ไม่ได้ระวังมาก แต่ยากจะคิดนะว่า ประเภทคู่ของทีมตรงข้ามจะเป็นแบบนี้ การเข้าคู่ที่รู้ใจกันมาก การเล่นและตำแหน่งการเดินที่เด็ดดวง แค่เปิดเกมก็เหาะไปยังทรัพยากรในโซนป่าของพวกเขาแล้ว
อินอู๋เย่าและหลินเฟิงยังไม่ทันเล่นได้เข้าคู่กัน ทรัพยากรในโซนป่าของตัวเองก็หมดแล้ว ฐานะย่อมต่างกันมาก ทำให้คนรู้สึกความมาคุของทีมธีโอ แตกต่างไปจากการขับเคี่ยวในประเภทแข่งเดี่ยวที่ใช้เวลาเกือบ 40 นาทีแล้ว พวกเขาเริ่มโชว์ฝีมือสุดยอดออกมา!
“เฮ้ย!” หลินเฟิงรู้สึกแล้วว่าวิธีเล่นของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป เริ่มเกาะกลุ่มกับอินอู๋เย่า เตรียมถล่มเลนบน ทว่าตัวทำดาเมจของฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ตกหลุมพราง ซึ่งไม่ตกหลุมพรางก็ว่าไปเถอะ แต่หน้าจอกลับประกาศว่าอีกฝ่ายฆ่าบอสราชาเรียบร้อยแล้ว! ดึงเอาฐานะลากห่างไปถึงหนึ่งเท่าตัว!
สีหน้าของหลินเฟิงเปลี่ยนไป และรู้สึกทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามโผล่หน้ามาให้เขาถล่ม ก็เพื่อจะเบี่ยงสายตาของเขาไป เพื่อให้คนที่เลนล่างฆ่าบอสราชาอย่างตั้งใจ!
หลุมพรางแบบนี้ เป็นหลุมพรางที่ง่ายดายที่สุด แต่เขากลับมองไม่ออก! อันที่จริงจะโทษหลินเฟิงไม่ได้ เพราะฝ่ายคู่แข่งไปดึงบอสราชามาตั้งแต่แรก โดยให้ตัวสนับสนุนกึ่งแทงค์ไปสู้ ซึ่งมันอยู่เหนือความคาดคิด ทว่าเมื่อดูไอเทมที่ฝ่ายตรงข้ามใช้ จึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนลวง
ดาบฆ่ามอนสเตอร์เป็นอาวุธที่ใช้มาล่ามอนสเตอร์โดยเฉพาะ ทั้งหมดถูกวางแผนไว้ดีแล้ว!
ผู้ชมในสนามต่างเห็นกับตาว่าทีมไดมอนด์เล่นประเภทคู่ได้ลำบากขนาดไหน เพราะฐานะที่แต่งต่างกันมากเหลือเกิน แต่เคราะห์ดีที่หลินเฟิงฉลาดมากกว่าเดิมเยอะ ไม่พะวงต่อความผิดพลาดมากเกินไป จึงทำในสิ่งที่ตัวเองควรจะทำ
………………………………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น