Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ 1780-1794.2

ตอนที่ 1780


 รอจนหลินเฟิงได้เห็นคุณตาพ่อบ้านตามที่ป๋อจิ่วเรียก ถึงได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีคนย่างแพะทั้งตัวในบ้านได้จริงๆ


ตอนแรกพวกเขากดออด พอเห็นก็ถึงกับผงะ โดยเฉพาะเหราหรงที่อยู่หน้าสุดและออกจะดูเท่ในตอนแรก แต่เมื่อได้เห็นหน้าของคนตรงหน้า กลับชะงักก่อนจะกล่าวคำขอโทษขอโพยเป็นภาษาอังกฤษต่อคุณตา แล้วหันไปถามหลินเฟิง “แน่ใจนะว่าไม่ได้มาผิดบ้าน”


“109 ก็ที่นี่นี่แหละ” หลินเฟิงสงสัยเช่นกัน ทำไมคนที่มาเปิดประตูกลับเป็นคุณตาชาวอังกฤษสุดเท่ งั้นเขาส่งข้อความเสียงไปถามเจ้าแบล็กแล้วกัน


ในขณะที่เขากำลังจะหยิบมือถือ คุณตาที่สวมสูทก็เอ่ยปากอย่างมีมารยาทครบถ้วน ประหนึ่งเป็นราชนิกุล “นายน้อยกำลังปรับระบบอินเทอร์เน็ตอยู่ครับ เชิญทุกท่านเข้าไปข้างในก่อนนะครับ”


ภาษาจีนสำเนียงมาตรฐานที่คุณตาเอ่ยออกมา ทำให้เหราหรงคลำจมูก ส่วนหลินเฟิงถึงกับตาโต “นายน้อย?”


นี่สมัยไหนกันแล้ววะ? แต่ถ้าบอกว่ากำลังปรับระบบอินเทอร์เน็ตอยู่ ก็ต้องเป็นเจ้าแบล็กจริงๆ นั่นแหละ


สีหน้าของพวกเขาประหนึ่งอยู่ในมิติมหัศจรรย์ กระทั่งเฮียเย่าที่เตรียมบุหรี่มาสูบถึงกับวางลง สิ่งที่เกิดขึ้นดูจะเหนือความคาดคิด โดยเฉพาะคุณตาชาวอังกฤษคนนี้ยังสวมผ้ากันเปื้อนสีดำรอบเอว เอ่ยเสียงไพเราะ “วันนี้เตรียมแพะย่างให้ทุกคนตัวหนึ่ง นายน้อยบอกว่า พวกคุณชอบทานเนื้อ”


พวกเขาชอบกินเนื้อนั้นไม่ผิดหรอก แต่ตะแกรงเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า รวมถึงคุณพ่อบ้านชาวอังกฤษที่ยืนถือมีดและส้อมอย่างชำนาญอยู่ด้านหลังนี่สิ ทำให้พวกเขางง


กลิ่นหอมลอยเต็มห้อง หลินเฟิงเห็นแพะที่ถูกแขวนบนตะแกรงเหล็กทั้งตัว โดยผิวนอกเกรียมเหลือง ราดน้ำมันรดลงสู่กองไฟอย่างหอมไปทั่ว


คุณตาดูราวกับเป็นเชฟชั้นเยี่ยม ถือมีดโค้งมากรีดบนตัวแพะอย่างคล่องมือและสุภาพ ราวกับเป็นการแสดง


โคโค่เห็นแล้วลูบคาง “ฝีมือเอ่อ…”


“หืม?” เหยาเย่าโผล่หน้าเข้าไปหมายจะถามว่าทำไมเหรอ


โคโค่ก็งับหูกระต่ายในมือเสีย “โคตรเทพเลย ตอนที่ฉันไปงานปาร์ตี้ของคิงประเทศดูไบกับพ่อ ก็เคยเห็นแบบนี้แหละ”


“แสดงว่ามื้อนี้เราจะกินมื้อพระราชา” หลินเฟิงใจลอย


โคโค่ไม่พูด ด้วยกำลังดมกลิ่น เพราะหอมมาก ๆ


การย่างแพะทั้งตัวต่างจากเนื้อย่างซาวข่าว กลิ่นไม้ที่ใช้เป็นฟืนจะเข้าไปหลอมรวมกับยี่หร่าที่ใช้ย่างจนกลายเป็นกลิ่นหอม ทำให้ท้องร้องกันใหญ่


น้อยคนที่จะทำแบบนี้ นอกจากพวกที่อยู่ในทุ่งหญ้ามองโกลเลีย


เวลานี้เหราหรงไม่แปลใจเหมือนเมื่อครู่ เพราะก่อนหน้านั้นเขาเคยได้สัมผัสกับคนคนนั้นในบางด้าน หากอีกฝ่ายเป็นแค่คุณชายตระกูลฟู่ ย่อมไม่มีวันทำได้ถึงขั้นนี้ แต่นั่นคือ Z ผู้เป็นแฮกเกอร์มือโปรระดับโลก


ช่วงที่เขาอยู่ในโลกแห่งความมืดมน ก็พอจะได้ยินเรื่องราวของเธอมาบ้าง เช่น เกิดจากครอบครัวที่มีพื้นฐานเป็นแฮกเกอร์ซึ่งมีที่มาไม่ธรรมดา บ้างก็ว่า Z เป็นพวกไฮโซที่มีสายเลือดผสมระหว่างคนตะวันตกและตะวันออกในศตวรรษที่ 19 แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ได้รับการพิสูจน์ จะว่าไปก่อนหน้านั้นพวกเขายังไม่รู้เลยว่าเธอเป็นชายหรือหญิงกันแน่


หากไม่เพราะเคยติดต่อกับเจ้าแบล็กมาบ้าง เขาก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอคือ Z เวลานี้พอจะเห็นได้ว่า เธอรวยมากๆ  แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ทำไมข้อมูลที่พวกเขาเคยตรวจสอบเจอ ระบุว่า Z อยู่ที่ The Fifth Avenue เสมอมา ทว่าเจ้าแบล็กกลับอยู่เจียงเฉิง


แต่เวลานี้สิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญอีกแล้ว สำคัญที่คนที่เคยเป็นคู่ต่อสู้ของเขาอย่างฉินมั่วเป็นยังไงบ้างต่างหาก


………………………………………


ตอนที่ 1781


“ใช่ แผนลึกมาก” โคโค่พูดขึ้นบ้าง “หัวหน้าไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นแบล็กพิมพ์ข้อความอ่อยพวกเราเสร็จ ก็นัดเจอหน้ากัน เพราะจะได้ทายใจว่าหัวหน้าคิดยังไง จะว่าไปมันก็เป็นแค่การแสดง บอกตรงๆ นะ ถ้ามีผู้หญิงมาจีบฉันแบบนี้ ฉันก็ยอม”


ฉินมั่วจับประเด็นเด็ดได้ “แสดงว่าจริงๆ แล้วเขาไล่จีบฉัน”


“แหงดิ” คนอย่างหัวหน้าน่ะหรือ จะไปไล่จีบใคร ต่อให้สนใจเจ้าแบล็ก ก็มีแต่ล่อเด็กให้มาจีบตัวเองเสียมากกว่า


 “แต่หัวหน้า ก็เหมือนอย่างที่ดาวประจำทีมอย่างหลินเฟิงว่านั่นแหละ หัวหน้าชอบเจ้าแบล็กมากจริงๆ อ่อ ชอบมากๆ เลย หัวหน้าไม่รู้หรือว่า ตอนที่พวกเราเห็นหัวหน้ากับเจ้าแบล็กคุยกันในเวยป๋อนะ แทบช็อกเลยล่ะ พวกเราขอแอดเฟรนด์กับหัวหน้าตั้งหลายครั้ง แต่หัวหน้าก็ไม่เคยตอบพวกเราเลย” พูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของโคโค่ก็เปลี่ยนไปขุ่นเคืองหน่อยๆ ทว่าฉินมั่วไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดอีกแล้ว บวกับสิ่งที่หลินเฟิงพูดเมื่อกี้นี้


หลินเฟิงเห็นหัวหน้ามองตัวเองอีกครั้ง รีบพูดต่อทันที “หัวหน้า แล้วพวกเราจะรวมทีมเล่นต่อไหม?”


“รอเดี๋ยว” ฉินมั่วเอียงศีรษะ กำมือของคนบางคนที่เพิ่งจะนั่งลงไว้ในอุ้งมือ โดยไม่มองเจ้าตัว แต่มองคนอื่นแทน “เราขอเวลาส่วนตัวหน่อย” พูดจบก็ดึงตัวไปเลย


สมาชิกทีมไดมอนด์ที่อยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ล้วนแต่มองตากัน แล้วหันไปมองหลินเฟิง โดยวันนี้หลินเฟิงได้รับสายตาของทุกคนชนิดเกินความพอเพียง คนบื้อแบ๊วอย่างเขาไม่เข้าใจ ถึงกับเกาศีรษะ “พวกนายมองฉันทำไมวะ?”


“เปล่า…” ว่าแล้วก็มองบน ต่อไปเวลาพวกเขามีแฟน จะต้องหยุดปากดาวประจำทีมให้ได้ พาเพื่อนล่มจมจริง ๆ


คุณตาพ่อบ้านเห็นเหตุการณ์อยู่ด้านข้าง ถึงกับมือกุมขมับ ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ท่าทีของคุณตาสง่ามาก


ในฐานะที่เป็นคุณพ่อบ้านมืออาชีพ จะไม่ต้องรับแขกในภาวะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ได้ยังไง? ดังนั้นในระหว่างที่ทุกคนต่างแอบมองว่าหัวหน้าจะคุยอะไรกับเจ้าแบล็ก คุณตาก็นำขนมที่กินกับน้ำชามาเสิร์ฟให้อย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งยังสกัดเส้นทางทุกคน โดยยิ้มให้ “ผมคิดว่า ตอนนี้พวกคุณคงอยากทานของหวาน”


อินอู๋เย่าไม่สนใจขนมพวกนั้น แต่โคโค่ต่างออกไป เมื่อเห็นขนม เขาถึงกับตาลุกวาว ก่อนจะยัดเข้าปากอันหนึ่ง กินหมดก็ชวนเฮียเย่าให้กินด้วย “เฮีย พลาดอันนี้ไม่ได้นะ สุดยอด จริงๆ นะ”


เฮียเย่ายังไม่พูด หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามา “อุว้าว น่ากินจัง หู่ มากินเร็ว”


อวิ๋นหู่และอินอู๋เย่า “…”


ขนมหวานไม่กี่ชิ้น ทำให้ทั้งสองลืมไปแล้วว่ามีอะไรสนุกๆ รออยู่ นั่นไงพวกเพื่อนพาล่มจมมักมีบางอย่างที่เข้าถึงกันเสมอ ชนิดที่โดนซื้อแล้วยังอุตส่าห์ช่วยนับเงินอีกต่างหาก


คุณตายิ้มสุภาพ บางครั้งการรักษาภาพพจน์ให้นายน้อย ก็ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อบ้านมืออาชีพเขาทำกัน แต่หนนี้คุณตากลับรู้สึกประหลาด เพราะปกติแล้วนายน้อยไม่เคยทำให้เขาเป็นห่วง แต่ตอนนี้กลับมีคนรื้อเรื่องน่าขายหน้าในอดีต


คุณตาประคองล็อกเก็ตนาฬิกาสีเงินขึ้นมาดู อืม ได้เวลาเตรียมอาหารค่ำแล้ว ไม่รู้ว่านายน้อยจะพูดอะไรอีกหรือเปล่า


เฮ้อ ไล่จีบคนมาเยอะ ช่างไม่สมกับที่เขาเคยอบรมบทเรียนว่าด้วยความเป็นกุลสตรีให้เลย


…………………………………….


ตอนที่ 1782-1 การลงโทษที่แสนหวาน


ป๋อจิ่วที่ถูกท่านเทพพามาที่ห้องรู้ดี ท่านเทพจะชำระบัญชีกับเธอ เจ้าดาวประจำทีมที่เป็นเพื่อนพาล่มจมทำร้ายเธอเข้าให้จริงๆ แต่หากรอให้โดนเล่นงาน สู้เป็นฝ่ายรุกเองก่อนดีกว่า อันเป็นสไตล์ของป๋อจิ่วมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเข้าห้อง เธอก็เอ่ยขึ้นก่อนด้วยสีหน้าจริงใจ “ฉันอธิบายได้”


“อ้อ?” ฉินมั่วมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง พลิกไพ่ในมือ พอได้ยินก็โยนไพ่บนโต๊ะกาแฟ ก่อนจะเอนหลังอย่างไม่รีบร้อน


ป๋อจิ่วยิ้ม “พี่ดูสิ ฉันเป็นผู้หญิงใช่ไหมล่ะ”


“อื้ม?” ฉินมั่วเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ทำท่าแบบเธอเริ่มแสดงได้เลย


ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเขาทำแบบนี้ เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอเลย จึงยื่นมือไปประคองหน้าชายหนุ่ม เอ่ยต่อ “คุณตาสอนฉันให้เป็นกุลสตรีมาตั้งแต่เด็ก บอกว่าทำอะไรก็ต้องเรียบร้อย”


ฉินมั่วถึงกับหัวเราะในทันทีที่ได้ยิน


“หัวเราะอะไร?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว


ฉินมั่วดึงมือเธอออกไป เอ่ยช้าๆ “งั้นเธอก็คือเคสความล้มเหลวทางการศึกษา”


ป๋อจิ่วหัวเราะอย่างไม่แคร์ “ยังไงในฐานะของกุลสตรี ฉันก็ต้องรักษาหน้าตัวเอง ถูกไหม พี่อุตส่าห์ลืมประวัติที่น่าอายของฉันไปแล้ว ฉันย่อมบอกว่าพี่จีบฉันดิ ไม่เห็นจะแปลกเลย พี่มั่ว”


“ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ดูเหมือนเธอจะดีใจที่ฉันเสียความทรงจำเลยนะ” ฉินมั่วดีดมือเธอให้หลุดจากตัวเขา “อยู่ห่าง ๆ”


ป๋อจิ่ว…อะไรอ่ะ แค่แต๊ะอั๋งก็ไม่ยอมแล้วเหรอ?


“ท่าทางสายเปย์ของฉันจะจับประเด็นสำคัญไม่ได้” ฉินมั่วยิ้ม มุมปากหยักนิดหนึ่ง “ขอเปลี่ยนวิธีถามนะ พอเห็นหน้าตาดีๆ ก็เที่ยวไปสารภาพรักกับเขาหมด อันนี้เป็นความชอบของเธองั้นเหรอ?”


ป๋อจิ่วรีบปฏิเสธ “ไม่อยู่แล้ว แค่เข้าใจผิดกันน่ะ”


“เหรอ? งั้นลองมาคุยกันหน่อยซิว่า ฉันเป็นคนที่เท่าไรที่เธอสารภาพรักด้วย” ท่าทางยิ้มบางๆ ของฉินมั่ว ทำให้คนรู้สึกกลัว


ป๋อจิ่วเงยหน้า “คนแรก แล้วก็เป็นคนเดียวด้วย”


ฉินมั่วมองดูนัยน์ตาดำขลับที่ช่างสดใสราวกับจะสะท้อนเงาเขาออกมาได้ เขาไม่คิดว่าจะได้คำตอบเช่นนี้ เพราะพวกคำพูดชวนอ้วกเหล่านี้ไม่น่าจะปลอมแปลงชนิดหามูลไม่เจอ


ป๋อจิ่วพูดถึงเรื่องนี้ เรียวปากบางเม้มนิดๆ “พูดตรงๆ พี่มั่ว พี่หน้าตาดีขนาดนี้ นอกจากพี่แล้ว ฉันจะต้องไปสารภาพรักกับใครอีกล่ะ”


อ้อ พูดเพื่อเอาใจเขา คิดน่ะคิดได้ แต่ฉินมั่วในเวลานี้ หันไปอีกทาง มุมปากยิ้มกระจ่าง


ท่าทางจะมุขนี้ได้ผลแฮะ


ป๋อจิ่วไม่เห็นรอยยิ้มนั่น ยังเจื้อยแจ้วต่อ “ตอนนี้พี่ลืมไปแล้ว พี่น่ะจีบยากจะตาย ตอนเด็กๆ ที่ฉันเพิ่งรู้จักพี่อ่ะ พี่เหมือนตุ๊กตาเลยนะ ก็เพราะพี่หน้าสวยมาก ฉันเกือบจะพูดเสียงดังใส่ พี่ไม่รู้หรอกว่าตอนเล็กๆ ฉันดุแค่ไหน แต่ฉันก็อ่อนโยนกับพี่นะ น่าเสียดายที่พี่ไม่เห็นคุณค่า ชอบหาว่าฉันว่าสกปรก แถมมาล้างมือให้ฉัน ก่อนกินข้าวก็ต้องล้าง ก่อนนอนก็ต้องล้าง ทำเหมือนรำคาญฉันตลอดเวลา แต่คนเขาว่าสายตาเราเห็นคนรักดีเลิศเหมือนซีซือ[1]เสมอ ถึงพี่จะเป็นแบบนั้น ฉันก็เห็นว่าพี่น่ารักอยู่ดี”


ไม่งั้นจะคิดว่าพี่เป็นเด็กผู้หญิงทำไม…แน่ล่ะ ประโยคหลัง เธอย่อมไม่พูดอยู่แล้ว


“ตอนนั้นฉันก็รู้แล้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับพี่ อุตส่าห์หอบกระปุกออมสินไปหาสารภาพรักกับพี่แบบเขินๆ” พูดมาถึงตรงนี้ ป๋อจิ่วก็เม้มปากอีก “แต่ ก็ยังไม่สำเร็จ”


ฉินมั่วได้ยินแล้ว กวาดตามองเธอ “เขิน? แน่ใจนะว่าจะใช้คำนี้” เขานึกภาพอ่อนโยนอย่างนั้นไม่ถูกเลยว่า คนอย่างเธอจะทำได้


[1] สายตาเราเห็นคนรักดีเลิศเหมือนซีซือ เป็นสำนวนที่อธิบายว่าเวลามีคนรักเราจะเห็นคนรักเหมือนซีซือ ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดสาวงามในวรรณคดีจีน


ตอนที่ 1782-2 การลงโทษที่แสนหวาน


“ตอนเด็กๆ ฉันบริสุทธิ์ใจมาก” อยากซื้อตัวพี่อย่างบริสุทธิ์ใจ น่าเสียดายที่พี่แพงหูดับ


ฉินมั่วเลิกคิ้วอย่างไม่รู้สึกรู้สา “เหรอ? ป๋าสายเปย์ที่บริสุทธิ์ใจของฉัน เกิดรักแรกพบกับฉันตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก?”


“อื้ม ตอนนั้นฉันแค่สามขวบครึ่ง” ป๋อจิ่วฉวยโอกาสจับมือชายหนุ่ม “พี่เข้าใจความรู้สึกที่หัวใจถูกช็อตไหม?”


ฉินมั่วยอมให้เธอทำแบบนั้นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แล้วยิ้มตามมา “เด็กสามขวบครึ่งเข้าใจความรู้สึกที่หัวใจถูกช็อตแล้วเหรอ ฉันไม่เข้าใจเท่าไรหรอก” ยัยนี่เวิ่นเว้อได้เก่งจริงๆ หัวใจถูกช็อต


ป๋อจิ่วทำหน้าขรึม “นั่นไง ตอนนั้นฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่พอมาคิดตอนนี้ ก็รู้แล้วว่าเป็นเพราะชอบพี่มากนั่นเอง”


ฉินมั่วฟังแล้ว ก็กดร่างเธอไว้บนโซฟาอย่างยั้งไม่อยู่ ก่อนจะมองหยิ่งๆ เบือนหน้านิดๆ โน้มตัวเข้าไปหา ลมหายใจรดริมหูเธอ “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวของสายเปย์ ฉันขอแค่อย่างเดียว ในเมื่อเลือกฉันแล้ว ก็ต้องเลือกฉันคนเดียวตลอดไป เข้าใจไหม? ถ้าสายเปย์ยังเจ้าชู้หลายใจอีก ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าจะทำอะไรขึ้นมาได้…”


ป๋อจิ่วอยากจะเถียง แต่ถูกเขาระดมจูบจนลมหายใจวุ่นวายไปหมด ไม่ใช่แค่จูบ ยังรวมถึงมือของเขาที่เลิกชายเสื้อเธอแล้วไต่นิ้วขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยสภาพดังกล่าว


ป๋อจิ่วร้อนรุ่มไปทั้งตัว แต่สลัดความหวิวไหวออกไปไม่ได้ เสื้อผ้าและเส้นผมยุ่งเหยิงกรุ่นไปด้วยไอรัก รวมถึงใบหน้าที่แดงเรื่อ จูบรุ่มร้อนบนใบหน้า ทำเธอขาอ่อนปวกเปียกไปหมด เสียงพลอยขาดๆ หายๆ ตามจังหวะมือของเขา “ข้างนอก ยัง ต้อง เล่นเกมต่อ…”


“เล่นแน่” ฉินมั่วว่าแล้วก็ก้มลงจูบบนด้านข้างลำคอ “แต่ สายเปย์ของฉัน เวลาที่ฉันจะสนุกกับเธอ เธอก็น่าจะตั้งใจหน่อยนะ หืม?”


สนุกที่ไหน เป็นการลงโทษที่ทั้งหวานที่ทรมานชัด ๆ


เขาแทบจะไล้เธอไปทั่วตัว แต่ไม่ยอมกินสักที ร้ายกาจเสมือนจอมมารที่ถนัดด้านการอ่อย เสียงแผ่วต่ำที่ถามข้างหูเธอแหบเครือมาก “ยังจะไปสารภาพรักกับคนอื่นอีกไหม?”


“ไม่ ไม่เคยทำมาก่อน” เสียงเสื้อผ้าที่เสียดสีบนตัวทำให้เธอถอนตัวยาก จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายรุกเสียเองด้วยการใช้ขาโอบรัดตัวเขา ก่อนจะยิ้มให้ แล้วจูบที่คอหอย ปล่อยเสน่ห์ไปทั่วร่าง ราวกับเป็นนางเงือกแสนสวยใต้ท้องทะเล “จะว่าไป พี่มั่วก็อดทนเก่งเนอะ”


แววตาของชายหนุ่มขรึมทันทีต่อกิริยาของเธอ คนในอ้อมกอดเขารู้ดีว่าจะทำให้สติเขาหลุดลอยได้อย่างไร


ที่ว่าผู้หญิงสวยต้องสวยลึกถึงกระดูกนั้นไม่ผิดเลย ผิวเนียนลื่นเหมือนเนื้อหยก ยิ่งตอนที่เธอพูด มุมปากและไฝเสน่ห์บริเวณหางตาที่ทำให้เธอเหมือนปีศาจแสนสวย เอาไว้ยั่วยวนพวกบัณฑิตหนุ่มแสนซื่อโดยเฉพาะ ดูเหมือนเธอจะเตรียมตัวไว้พร้อม รอให้คนเก็บเกี่ยว


เสื้อผ้าที่ยู่ยี่ แอ่งชีพจรสวยได้รูป ทรวงอกเว้าโค้งนุ่มนิ่มเผยโฉมออกมา หลังจากที่เขาเลิกเสื้อขึ้น มันมากพอจะทำให้เขาขาดสติ ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจากน้ำมือของเขาเอง รวมถึงแรงเสน่หาจากตัวเธอในเวลานี้


———————————–


 ตอนที่ 1782-3 การลงโทษที่แสนหวาน


ฉินมั่วดึงมือกลับมา ยิ้มช้าๆ “เธออยากอยู่บนเตียงทั้งวันเหรอ? ไม่เล่นเกมแล้ว? ถ้าใช่ งั้นก็อ่อยฉันต่อไป”


ป๋อจิ่วเปลี่ยนท่าทีทันทีที่ได้ยินอย่างเป็นคนเจ้าชู้ “น่าเสียดายที่เวลากับสถานที่ไม่อำนวยให้”


“ไม่ต้องเสียดายหรอก ถ้าอยากได้ก็ต่อเลย” ว่าแล้วฉินมั่วก้มตัวลง รอยยิ้มที่มุมบนเรียวปากชัดขึ้น


กว่าจะหยุดชายหนุ่มได้อย่างไม่ง่าย ป๋อจิ่วย่อมไม่โง่พอจะโดนเขาทรมานต่อ “ไม่ล่ะ งานสำคัญกว่า พี่ต้องรู้นะว่าฉันเป็นแฟนที่เข้าใจจิตใจคนอื่น”


ฉินมั่วเลิกคิ้ว แล้วปล่อยตัวเธอ


ป๋อจิ่วจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จูงท่านเทพจะออกไป แต่เขากลับไม่ขยับ เอียงคอมองเธอ ปล่อยให้เธอพยายามลากตัวเขา ค้ำมือข้างหนึ่งไว้ที่ใต้คาง พลางเอ่ยเสียงแหบเครือ “เธอจะให้ฉันออกไปทั้งอย่างนี้?”


อย่างนี้มันยังไงเหรอ?


ตอนแรกป๋อจิ่วไม่เข้าใจ จนเมื่อหลุบตา เรียวขาเธอสัมผัส ‘บางส่วน’ ของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไป ถึงกับหน้าร้อนฉ่าเลยทีเดียว แต่ท่าทางเขาในเวลานี้ กลับดูสูงส่งต้องห้ามจนอยากละเมิด


ชายหนุ่มในสภาพเต็มไปด้วยแรงเสน่หาอันยวนใจคน คงมีท่านเทพแค่คนเดียว


ผ่านไปครึ่งนาที บรรยากาศในที่นั้นไม่มีท่าทีจะเย็นลง ป๋อจิ่วยังอยู่ในท่าเดิม “ให้ช่วยไหม?”


“ช่วยยังไง” ฉินมั่วหันมามอง


ป๋อจิ่วตอบเสียงเบาๆ


ฉินมั่วหัวเราะ “ใช้มือเหรอ?”


ป๋อจิ่วส่งเสียงยืนยัน แววตาเธอสวยเหลือเกิน “ทำไม? พี่ไม่ชอบ?”


ยัยนี่ช่างกล้า แถมยังตรงไปตรงมาเสียจนรับมือไม่ไหว แต่เมื่อฉินมั่วมองเห็นเธอจะลงมืออย่างปากว่า ก็หลุดคราบที่ปลอมขึ้น ยั้งมือเธอไว้ “ทำแบบนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้น ฉันจะคลั่งเอา”


เป็นครั้งที่แรกที่ป๋อจิ่วได้ยินท่านเทพพูดแบบนี้ แววตาเธออึ้ง แล้วโดนลากเข้าห้องน้ำไปเลย


น้ำเย็นถูกเปิดออก เขาให้เธอยืนอยู่นอกกระจกฝ้า แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็ยังรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจของเขา


เวลาห้านาที เร็วกว่าที่เธอช่วยเขาเสียอีก และเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย มือหนึ่งกดบนผ้าขนหนูที่อยู่บนศีรษะ เส้นผมสีดำยังมีน้ำเกาะอยู่ กลิ่นสะอาดสะอ้านกรุ่นทั่วตัว


ทั้งสองจึงเดินออกจากห้องไปยังห้องคอมพิวเตอร์ด้วยสภาพเช่นนี้ ส่วนหลินเฟิงที่นั่งกินอยู่ เอ่ยขึ้นในทันทีที่เห็นทั้งสอง “เจ้าแบล็ก พวกนายไปคุยอะไรกันวะ ทำไมนานจัง? แล้วทำไมหัวหน้าถึงอาบน้ำ? นี่พวกเรากินขนมที่คุณตาพ่อบ้านเตรียมให้จนหมดแล้วนะ”


ป๋อจิ่วได้ยินแล้วก็หยิบคุ้กกี้ชอร์ตเบรดมากินเข้าปากอย่างสง่า ก่อนจะยิ้มให้ “พี่หลิน วันนี้พี่อย่าพูดอีกเลยจะดีกว่า”


หลินเฟิงตาโตอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงไม่ให้เขาพูดล่ะ?


ป๋อจิ่วเห็นแล้วก็เอียงคอถามท่านเทพ “พี่มั่ว เมื่อกี้มีตั้งหลายคนกลับไม่ถาม ทำไมถึงไปถามพี่หลินล่ะ” ถ้าถามคนอื่น ประวัติอันมืดมนของเธอคงจะไม่ถูกรื้อ


“มีอะไรต้องอธิบาย ก็เพราะหัวหน้าเชื่อใจฉันไง” หลินเฟิงกินหมด กำลังยืดอกด้วยความภูมิใจ แต่ถูกหัวหน้าขัดจังหวะอย่างเรียบเรื่อย “เพราะเขามีคุณสมบัติเด่นของการเป็นเพื่อนพาล่มจมชัดมาก”


ห้วงเวลานั้น หลินเฟิงตัวแข็งทื่อ หัวหน้าเสียความทรงจำจริงๆ เหรอ? ทำไมความปากเป็นพิษถึงไม่ลดน้อยถอยลงเลยล่ะ!


น่ากลัวจริงๆ


ถึงจะเสียความทรงจำไปแล้ว แต่ก็ยังเจ้าแผนการอยู่ดี? เขาควรจะร้องได้ที่เมื่อกี้ตกหลุมพรางดี หรือควรจะดีใจที่ได้เห็นโอกาสที่หัวหน้าจะหายดี…


 —————————————–


ตอนที่ 1783-1


“เริ่มเถอะ เหลือเวลาไม่มากแล้วไม่ใช่เหรอ?”


ฉินมั่วนั่งลงเอง ค้ำคางด้วยมือข้างหนึ่ง พยักเพยิดไปยังที่นั่งข้างตัว แล้วกวาดตามองป๋อจิ่วด้วยนัยยะที่ชัดเจนว่าให้เธอนั่งข้างกาย


ป๋อจิ่วรู้ดี แต่กลับเลิกคิ้วถาม “ให้ฉันนั่งเหรอ?”


“ทำไม? หรือเธออยากนั่งตักฉันจริง ๆ” ฉินมั่วว่าพลางกดเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เอียงศีรษะอย่างขบขัน


ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเธอไม่มีวันสู้ท่านเทพในเรื่องการพูดได้เลย จึงตัดสินใจเปิดเข้าสู่ห้องแข่ง เลือกประเภทแข่งเดียว โดยสู้กับท่านเทพตัวต่อตัว ซึ่งในแต่ละเกม เธอจะเปลี่ยนตัวละครสู้กับเขาไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เธอเล่นพลางแนะนำความสามารถของตัวละครแต่ละตัวให้กับเขา


หลินเฟิงฟังจนตะลึง ส่วนเหราหรงเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ดีดเถ้าบุหรี่ เพราะไม่มีใครคิดหรอกว่า แบล็กพีชจะใช้วิธีที่เพื่อทำให้หัวหน้าจำคุณสมบัติของตัวละคร


แต่ต้องขอบอกว่าวิธีนี้ถือว่าดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้จำแม่น สิ่งสำคัญยิ่งกว่าก็คือความเร็วมือและเซนส์ของแบล็กพีชถือว่าหาตัวจับได้ยากในวงการนี้


เมื่อได้คนแบบนี้มาช่วยซ้อมมือ ก็หมายความว่าขอแค่หัวหน้ารู้คุณสมบัติของตัวละครในเกม พวกคนที่มีฝีมือธรรมดาๆ หรือไม่ธรรมดา ย่อมทำฉุดท่านเทพไว้ไม่อยู่ ถือว่าพอจะมีความหวังก็ว่าได้ ทุกคนต่างเห็นท่านเทพเบือนหน้านิดๆ พร้อมคุมเมาส์เล่นเกม ล้วนแต่มีบางอย่างที่ลุกโชนในดวงตา


สมาชิกคนอื่นๆ ของทีมก็ไม่ปล่อยตัวให้ว่าง ต่างลงทะเบียนเข้าหน้าเกม เริ่มฝึกซ้อมความเร็วมือตามปกติ กระทั่งเซวียเหยาเย่าและเฟิงซ่างที่เป็นตัวสำรอง ยังไม่ผ่อนคลายลงสักนิด


อากาศในห้องคอมพิวเตอร์ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว เพราะพวกผู้ชายชอบสูบบุหรี่ในระหว่างเล่นเกม แต่วันนี้พวกเขากลับเลิกสูบ กระทั่งความถี่ในการเข้าห้องน้ำยังลดลง และทุกครั้งที่เล่นจบนัดหนึ่ง ต่างยื่นมือไปนวดต้นคอ ก่อนจะเอนหลัง งับบุหรี่รอเกมนัดต่อไป


เวลาพักผ่อนสั้นๆ แค่นี้ เป็นแค่ช่วงว่างที่เตรียมเล่นเกมในนัดถัดไป


คงเพราะอยากชนะมาก ทุกคนที่เล่นเกมต่างมีความฝันในใจ ล้วนหวังว่า ในวันหนึ่งจะได้ยืนเด่นอยู่ตรงกลาง คลุมธงชาติไว้บนร่าง ดังนั้นต้องบากบั่นทุ่มเทแค่ไหน ยังรู้สึกว่าหอมหวาน เพราะพวกเขารู้ดีว่า พวกเขาไม่เคยอยู่คนเดียว ยังมีเพื่อนร่วมทีมที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย


เวลาผ่านไปเรื่อยๆ กระทั่งคุณตาพ่อบ้านที่ผลักประตูเพราะอยากเชิญแขกทุกคนไปทานอาหารเย็น ยังถึงกับอึ้งที่เห็นภาพตรงหน้า ด้วยไม่ว่าจะเป็นที่ปราสาทหรือที่อื่นๆ ก็ไม่เคยเห็นห้องที่มีอากาศย่ำแย่เท่านี้มาก่อน ทว่ากลับรู้สึกยินดีชนิดเหนือความคาดหมาย


ตั้งแต่เป็นเด็ก นายน้อยเป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างอยากเข้าหา แต่มีเพื่อนแค่ไม่กี่คน การที่มีคนมาหาเป็นกลุ่มแบบในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


จะว่าไปนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ช่วยนายน้อยต้อนรับแขก บางทีการได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมก็นับว่าไม่เลว หากไม่เพราะวาสนา นายน้อยอาจจะไม่มีวันได้รู้จักคนพวกนี้ ตอนนี้เขาเห็นแล้วว่า เพราะคนเหล่านี้ ทำให้นายน้อยถึงได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง


 —————————————


ตอนที่ 1783-2


ความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันยากจะบรรยาย ตอนที่เขาได้รู้จักนายน้อย เธอยังเด็กมาก พอเกิดมาก็ไม่มีแม่เสียแล้ว ทุกหัวข้อการพูดคุย ล้วนแต่จะวนเวียนอยู่กับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยคนนั้น


ต่อมาเมื่อนายใหญ่เสียชีวิต นายน้อยก็กลายเป็นคนไม่ค่อยพูด ถึงขั้นที่เอ่ยถึงสัตว์เลี้ยงตัวน้อยลดลงไปเรื่อยๆ จนแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีคนแบบนี้ในชีวิตตนเอง


เมื่ออยู่ใน The Fifth Avenue นายน้อยใช้ชีวิตตามอำเภอใจและอยู่อย่างลึกลับ ซึ่งไม่มีใครจับตัวเธอได้


เส้นทางการดำรงชีวิตของเธอไม่แน่นอน ชอบไปไหนมาไหนตัวคนเดียว มักจะเห็นเธอที่สวมชุดนักบิดสีดำอยู่ในคลับกลางคืนที่ครึกครื้น ซึ่งชีวิตแบบนี้สบายก็จริง แต่ไม่มีใครรู้ว่า เมื่อกลับไปถึงปราสาท นายน้อยมักกอดคีย์บอร์ดในอดีต นั่งดื่มเหล้าบนพื้นที่มีเครื่องทำความร้อน ทั้งงามสง่าและอ้างว้าง เธอชอบดูหนังเก่าๆ ตอนที่ดูเรื่อง The Interview of vampire แล้วเห็นเขาเข้ามา ก็เอ่ยพลางยิ้ม “ฉันยังไม่ได้กลายเป็นแวมไพร์ในตอนเช้า ฉันจำทุกอย่างเมื่อครั้งที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย แต่ลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นสู่ฟ้า ทิวทัศน์แสนอลังการที่ได้ชมเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนกับที่เห็นเป็นครั้งแรก จากนั้นฉันก็ลาจากแสงอาทิตย์ตลอดกาล จนกลายเป็นฉันในเวลานี้”


“คุณตาขา หนูก็เหมือนกัน หนูลาขาดจากแสงอาทิตย์ กลายเป็นหนูในเวลานี้” ซึ่งตอนนั้นคุณตาถึงกับสาบานว่าจะต้องอยู่เป็นเพื่อนนายน้อยไปชั่วชีวิต


เวลานี้ ช่างดีเสียจริง ไม่เพียงแค่คุณตา ยังมีคนอีกมากมายที่อยู่เป็นเพื่อนเธอ นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด


มุมปากคุณตาแยกยิ้มบางๆ ไม่ได้รบกวนพวกเขาที่เตรียมเข้าแข่งขันอีสปอร์ตลีกส์อาชีพอีกต่อไป เขานำอาหารที่เตรียมพร้อมมาบรรจุใส่กล่อง แล้วนำไปไว้ข้างมือของทุกคน ในฐานะที่เป็นพ่อบ้านมืออาชีพ คุณตาจะละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปได้อย่างไร แต่พวกเด็กๆ ก็สู้ตายกันเหลือเกิน หลังจากที่เห็นกล่องอาหาร ต่างเอ่ยแค่ขอบคุณ หลังจากนั้นก็กินพลางเล่นต่อไป พวกเขาเล่นกันสองนัด ถึงจะทานอาหารมื้อนี้จบ ลำบากกันจริงๆ


นาฬิกาที่อยู่บนผนังเคลื่อนที่ไปถึงสามตัวเลข เมื่ออวิ๋นหูลุกขึ้นยืนเพื่อจะสูบบุหรี่ ร่างข้างๆ ก็โงนเงนเอนศีรษะมาซบที่ไหล่ซ้ายพอดี


หลินเฟิงนั่นเอง คงเพราะช่วงสองวันนี้ฝึกกันจนเหนื่อย จนถึงกับหลับคาอากาศ


อวิ๋นหู่ชะงัก คีบบุหรี่ค้างไว้อย่างนั้นโดยไม่จุด ใช้มือข้างเดียวมาคุมเมาส์เพื่อฝึกความคล่องตัว


ท้องฟ้าด้านนอกมืดขึ้นเรื่อยๆ ทว่าภายในห้องคอมพิวเตอร์กลับอบอุ่นทุกที่ เซวียเหยาเย่านอนซบคีย์บอร์ด โดยมีเสื้อขนเป็ดของโคโค่คลุมบนร่าง รวมถึงความสว่างของหน้าจอที่เขาปรับให้ลดลง


ป๋อจิ่วยังคงอธิบายสกิลของตัวละครแต่ละตัวด้วยเสียงเบามาก เสมือนเป็นเสียงทรายล่องลอยเบาๆ ในห้องแห่งนี้ ส่งผลให้รู้สึกถึงความอบอุ่นเป็นพิเศษ ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ฉินมั่วก็ยังรับรู้ถึงความเหนื่อยล้าผ่านน้ำเสียงเธอ จึงหันไปออกปาก “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว”


“ยิ่งพูด ก็จะยิ่งจำได้เร็ว” ป๋อจิ่วดื่มน้ำให้คอชุ่ม


ฉินมั่วละมือข้างหนึ่งมาเชยคางเธอ “อ้าปาก”


“เอ๋?” ท่านเทพจะจุ๊บเธอเหรอ ไม่ ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าจะจุ๊บ ต้องไม่ให้เธออ้าปากสิ แต่เป็นหลับตาต่างหาก แต่ครั้งที่แล้วที่ท่านเทพให้เธอหลับตา ก็บอกว่าให้เธอฝันไปเถอะนี่นา ช่างไม่มีชีวิตจิตใจเอาเสียเลย แฟนคู่อื่นก็หวานกันทั้งนั้น ส่วนของเธอคงจะฝึกสกิลการต่อต้านแรงยั่วล่ะมั้ง


“คิดอะไรอีกแล้ว” นั่นไง หน้าตาที่หล่อเหลาเหลือเกินก็ปรากฎรอยยิ้มที่เหมือนเมื่อก่อน ชอบแฝงแววเย้าๆ


ป๋อจิ่วกำลังอ้าปากบอกว่า เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะเชยคางจุ๊บเธอเสียหน่อย แต่เหมือนมีอะไรมาชนกลีบปาก ความนุ่มที่แฝงเย็นนิดๆ ราวกับไอศกรีมบางๆ ที่คลี่กระจายตามแนวฟัน


 ————————————


ตอนที่ 1784-1


ปลายนิ้วที่ควบคุมตัวละครของป๋อจิ่วถึงกับชะงัก เธอหันไปเห็นหน้าชายหนุ่ม ขนตาของเขาช่างยาวน่าหลงใหล กิริยาของชายหนุ่มกระทบบนใบหน้าเธอ ดูไม่เหมือนอยู่ในโลกความจริง


จูบในครั้งนี้ใช้เวลาไม่นาน ยังดีที่เพื่อนร่วมทีมต่างทุ่มเทความสนใจต่อการเล่นเกม จึงไม่มีใครเห็น อันที่จริงมีคนเห็น เพราะเหราหรงที่นั่งตรงข้ามเพิ่งเล่นเสร็จเงยหน้าขึ้นดูเวลา จึงบังเอิญเห็นฉากนี้พอดี แต่เขาไม่ใช่หลินเฟิง พอเห็นแล้วก็เบือนสายตาไปแอบยิ้ม ก่อนจะงับบุหรี่เริ่มเล่นนัดต่อมา


หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงคิดไม่ถึงว่าฉินมั่วที่สูงส่งยโส ความเย็นชาขจายทั่วร่างจะมีความรัก เพราะตอนที่ได้รู้จักชายหนุ่ม ฝ่ายนั้นเป็นเพียงหนุ่มน้อยที่ชอบทำอะไรตามความปรารถนาของตัวเอง ทั้งยังชืดชาจนทำให้คนปวดหัว จึงย่อมไม่มีความอดทน ไม่เคยแม้แต่จะแล ต่อเหล่าพิธีกรสาวไลฟ์สดหน้าตาดีที่ไม่ว่าจะยั่วเย้าแค่ไหน ถึงขั้นที่จะเปลือยร่างต่อหน้าเขา ชายหนุ่มก็ยังแค่หยักมุมปากเย้ยหยัน ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม


เห็นทีในตอนนี้ พอมีความรักก็อ่อนโยนขึ้น


เหราหรงคลิกเมาส์เบาๆ เริ่มสู้อย่างจริงจัง ส่วนป๋อจิ่วได้ยินเสียงพิมพ์คีย์บอร์ด แล้วหันไปมองริมฝีปากของชายหนุ่มที่เปียกชื้นหลังจากที่จุ๊บเธอ หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ


ทว่าท่านเทพก็สมกับที่เป็นท่านเทพ เวลาไม่พูดอะไรก็หล่อสง่าเหมือนเซียนบนสวรรค์ แต่พออ้าปาก ความร้ายกาจพลันปรากฏขึ้นทันที “วัดจากปฏิกิริยาของเธอ จุ๊บก็จุ๊บแล้ว งั้นตอนนี้ก็อ้าปากให้ดูหน่อย”


“ดูอะไร” แม้จะพูดอย่างนี้ แต่ป๋อจิ่วก็ยังทำตาม เธอมองดูสีหน้าชายหนุ่มที่สื่อว่า หากเธอไม่เชื่อฟังเขาจะโยนเธอลงจากหน้าต่าง


ฉินมั่วมองดูเธอ เห็นว่ากลางลำคอแดงก็หรี่ตาลง นั่นไง!


“พี่มั่ว?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว ตอนแรกไม่เข้าใจว่าเขาดูอะไร จนเมื่อเขาเดินดุ่มๆ ออกไป ไม่รู้ว่าไปขอลูกอมรสมินต์มาจากใคร เอามายัดเข้าปากเธอ เอ่ยเสียงคร้านๆ “ถ้ายังพูดอีก ฉันจะเลิกเล่นเกม”


ป๋อจิ่วถึงได้รู้สึกตัวว่า เขาเป็นห่วงลำคอเธอ มุมปากจึงยกยิ้มอย่างอดไม่อยู่ แต่จะให้แจ่มแจ้งเกินไปไม่ได้ ไม่งั้นท่านเทพจะหาว่าเธอได้ใจ จึงนั่งลง แล้วขยับเข้าไปกระซิบจุ๊บริมหูชายหนุ่ม “พี่มั่ว ขอบคุณนะ ลูกอมอร่อยมาก”


มือข้างที่เล่นเกมของฉินมั่วถึงกับชะงัก ลืมว่าจะต้องทำความเสียหาย จึงถูกบอสราชาฟาดจนตาย รอจนเมื่อกลิ่นไอของเธอถอยห่างออกไป หน้าจอก็มีจุดเป็นแถว


“นักฆ่าทีมฉันกำลังฝันอยู่หรือไง? โดนบอสราชาฆ่าเสียแล้ว”


“เป็นถึงนักฆ่า แต่กลับล่ามอนสเตอร์ไม่ได้ รู้สึกว่าเกมนัดนี้แพ้อีกแน่”


“เอาเหอะ ฉันหมดใจแล้ว จะเล่นกันยังไงต่อ?”


เมื่อรู้สึกได้ว่าทางนี้กำลังฆ่าอะไรอยู่ ป๋อจิ่วที่ยังไม่เข้าหน้าเกมก็หันมามอง แต่ฉินมั่วกลับยกมือกันไม่ให้เธอเอนตัวเข้ามา เอ่ยช้าๆ “เธอไปเอาน้ำมาให้ฉันที”


“ตรงนี้มีแล้วไม่ใช่เหรอ” ป๋อจิ่วชี้ไปยังแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างมือเขา


 —————————————-


ตอนที่ 1784-2


นักฆ่าอันดับหนึ่งของเซิร์ฟประเทศกลับถูกบอสราชาฆ่าตาย กลับไม่แสดงสีหน้าแต่อย่างใด “เย็นแล้ว ฉันอยากได้ชาร้อนสักแก้ว จะได้ตื่นเสียหน่อย”


“ได้ ฉันจะไปหาคุณตา” หลังจากที่ป๋อจิ่วเดินออกไป ฉินมั่วฟื้นคืนชีพที่ข้างน้ำก็เหาะไปยังโซนป่าอีกครั้ง โดยเขาไม่เพียงฆ่าแค่บอสราชา แถมด้วยตัว ADC ของฝ่ายตรงข้ามไปด้วย


ห้วงเวลาดังกล่าว เกมพลิกฟอร์มเลยทีเดียว พวกเพื่อนร่วมทีมที่เอาชนะสบายๆ มาตลอดถึงกับงง ในเมื่อนักล่ามอนสเตอร์ของฝ่ายตนเก่งขนาดนี้ แล้วเมื่อกี้โดนบอสราชาฟาดเข้าไปได้ยังไง? ซึ่งไม่เพียงแต่คนทางนี้ กระทั่งฝ่ายตรงข้ามยังถาม


ฉินมั่วขยับนิ้วเล็กน้อย ตอบเพียง “เน็ตค้าง” ถึงได้บอกว่าคนเล่นเกมน่ะเหลี่ยมจัด ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น ก็หาข้ออ้างมาใช้เสมอแหละ อันได้แก่ เน็ตค้าง


แต่ฉินมั่วรู้ตัวดีว่า เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น เหยื่อส่งผลต่อเขามากขนาดนี้เชียวเหรอ? ฉินมั่วนัยน์ตาหนักอึ้ง แต่ไม่พูดอะไร จากนั้นเขาไม่ให้โอกาสใครบางคนได้พูดอีกต่อไป พอเจ้าหล่อนอ้าปาก ก็ป้อนลูกอมให้ทันที


พอเห็นแววตาเธอหวั่นไหว เขาก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูก อีกฝ่ายอยากให้เขาป้อนตัวเองชัดๆ


เมื่อมีคนอยู่เป็นเพื่อน ย่อมไม่เหนื่อยเอาง่ายๆ พอมาถึงรุ่งสาง ไหล่ก็เริ่มล้าจนทนไม่ไหวแล้ว อากาศด้านนอกหนาวมาก ป๋อจิ่วเงยหน้ามองแวบหนึ่ง เอ่ยต่ออินอู๋เย่า “มีห้องนอนนะ ให้ทุกคนไปพักเถอะ?”


“นอนมันที่นี่แหละ” อินอู๋เย่าดีดเถ้าบุหรี่ “นั่งหน้าคอมแล้วรู้สึกว่าโอกาสชนะมีสูง ทุกคนคงคิดอย่างนี้ ฉันก็เหมือนกัน” พูดมาถึงตรงนี้ อินอู๋เย่าก็เอนหลัง “ดีจัง รู้สึกมั่นใจ”


ป๋อจิ่วเข้าใจความรู้สึกของเขา จึงแยกมุมปากยิ้มนิด ๆ


อินอู๋เย่าเอ่ยปากอีกครั้ง “หัวหน้าตัวเล็ก”


“หืม?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว


อินอู๋เย่ารู้ว่าเวลานี้คงจะนอนกันหมดแล้ว แต่ต่อให้ไม่นอนก็ไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูดกันหรอก “เล่นต่อเถอะ ถ้าไม่ไหว ก็แค่ใส่ชุดผู้หญิง ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย? จะเปลี่ยนกลับมาก็ได้”


“ฉันตกลงกับเฮ่อ เอ่อ ฉันจะบอกว่าฉันรับปากแม่ไว้ว่าจะไม่เล่นอีก” ป๋อจิ่วเอียงศีรษะ “แถมตอนนี้ก็ยังมีเหราหรง ถึงไม่มีฉัน ขอแค่ท่านเทพหาย ทีมไดมอนด์ก็คว้าแชมป์ได้อยู่ดี ส่วนเรื่องที่คนเค้าว่ากันในอินเทอร์เน็ต ฉันเห็นแล้ว ไม่ใช่ว่ามันจะส่งผลอะไรกับฉันหรอก แค่ไม่อยากพวกเราที่พยายามสู้เพื่อจะได้ชนะ ต้องมาทนดูคนต่อว่าเรื่องที่ฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ มันไม่ยุติธรรมกับคนแข่ง แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฉันไม่อยากให้ประวัติความสำเร็จของเขามีข้อด่างพร้อย เฮียเย่ารู้ไหมว่า เขาควรอยู่บนแท่นเทพอย่างขาวสะอาด”


ไม่ใช่แบบนี้ แบบที่คนไลฟ์สดตัวเล็กๆ ก็ออกมาดิสเครดิตเขา ชนิดที่พอเข้าสนามแข่งก็โดนกล่าวหาเขาเพราะคนโน้นคนนี้ก็แข่งไม่ไหวแล้ว แถมถูกคนทางฝั่งโน้นถือว่าเป็นบุคคลอันตรายสูงสุด


สิ่งเหล่านี้ เขาไม่ควรจะพบเจอ เขาควรถูกถนอมไว้ในอุ้งมือของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม


ป๋อจิ่วพูดจบ เสมองข้างนอกหน้าต่าง แสงไฟฟ้าของทั้งเมืองสะท้อนในดวงตา


ไม่มีใครรู้ว่าความสำเร็จมาได้อย่างไร บางทีอาจไม่มีใครสนใจว่า คนกลุ่มนี้เหนื่อยจนฟุบคาคีย์บอร์ด แค่หรี่ตาก็หลับ พวกเขาทำแบบนี้เพราะอะไร?


อยากจะชนะไง


อยากชนะมาก


อยากพิสูจน์ตัวเอง เพื่อนร่วมทีมและทีม แล้วเธอจะกลายเป็นหินถ่วงขาของทุกคนได้อย่างไร


 ———————————–


ตอนที่ 1785


ท่ามกลางความมืดที่มาเยือน มีคนยังมุ่งมั่นพยายาม และยังมีคนที่ไม่เข้าใจ


ภายในห้องคอมพิวเตอร์ ในระหว่างที่ทุกคนต่างคิดจะสู้เพื่อความหวังอันน้อยนิด เว็บบอร์ดในโลกออนไลน์ก็ปรากฎข่าวหนึ่งขึ้นมาด้วยหัวข้อที่สะดุดตา “ท่านเทพคนนี้สูญเสียความทรงจำไปแล้ว จะเข้าแข่งในนามประเทศได้อีกหรือไม่!”


สูญเสียความทรงจำ? ชาวเน็ตติเซ่นเห็นคำๆ นี้ ย่อมต้อคลิกเข้าไปดูอัตโนมัติ จึงได้เห็นข้อความบรรยายดังต่อไปนี้


“นักล่ามอสเตอร์อันดับหนึ่งของเซิร์ฟ นักเล่น MVP ที่โด่งดัง ท่านเทพคนนี้ได้รับการการันตีจากแฟนคลับมากมาย ในฐานะที่เป็นคนที่ชอบเขาคนหนึ่ง ฉันขอยอมรับว่าถึงในตอนนี้ก็ไม่มีใครมีเซนส์ในเกมได้มากเท่าเขา แต่ตอนนี้เขาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ทุกคนเองก็ได้เห็นการแข่งขันก่อนหน้านี้ที่มีการรวมกลุ่มเล่นแบบอยู่คนละที่ เขาถูกคนไลฟ์สดฆ่าเอาเฟิร์สบลัดมาได้ ตอนแรกฉันก็ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเขา แต่พอเห็นคลิปนั่น ฉันก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ฝีมือการเล่นของเขาอย่างแท้จริง ถ้าเขาอยู่ในภาวะปกติจะไม่มีวันเล่นได้แย่อย่างนี้ พวกแฟนคลับอย่าเพิ่งอ้างเรื่องเจ็บมือนะ เพราะเขาไม่ได้เพิ่งมาเจ็บ ทุกคนก็เห็นที่เขาเคยแข่งมากับตา ถึงจะเป็นการแข่งระดับประเทศที่ต้องสู้กับทีมเซียงหนานที่เป็นแชมป์ประเทศ ความเก่งของเขายังไม่ลดลงแม้แต่นิดเดียว แต่ดูการรวมทีมแข่งแบบอยู่คนละที่ครั้งล่าสุดสิ เห็นชัดๆ เลยว่าเขาลืมกระทั่งไม่มีเซนต์ของเกม เขาในสภาพนี้ยังจะแข่งในชื่อประเทศได้อีกหรือ? ฉันรู้ว่าทุกคนไม่อยากเห็นทีมนี้ในสภาพที่แตกสลาย แต่ขอพูดความจริงเถอะ เขาแก่แล้วจริงๆ แถมตอนนี้ยังเสียความทรงจำอีก ในฐานะที่เป็นแฟนคลับ ทำไมเราถึงไม่คำนึงด้วยหลักการเหตุผลล่ะว่า เขาเหมาะที่จะแข่งต่ออีกไหม? ฉันเชื่อว่าคณะกรรมการมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชื่อเสียงของประเทศ”


โพสต์นี้สามารถสร้างกระแสได้ร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ลงโพสต์ หรือสิ่งที่เขาเหนี่ยวกระแส ล้วนแต่ทำให้คนรับมือไม่ทัน แม้ว่าทั้งบทความจะไม่ได้ระบุว่าเป็นท่านเทพคนไหน แต่จากรายละเอียดที่บรรยาย ทุกคนก็เดาชื่อออกว่าเป็น…


ฉินมั่ว เทพในหัวใจทุกคน


ห้วงเวลานั้น โลกออนไลน์ลุกเป็นไฟ แฟนคลับทุกคนร้อนอกร้อนใจ ท่านเทพของพวกเขาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว เป็นไปได้หรือ? หลายๆ คนตอบกลับโพสต์นั่น ต่างถามกันไม่หยุดหย่อน “ไปรู้ข่าวมาจากไหน? เทพฉินของฉันเสียความทรงจำไปได้ยังไง?” ทำนองนี้


ด้วยเวลาไม่ถึงสิบนาที โพสต์นั่นก็กลายเป็นประเด็นร้อน ผู้คนมากมายมาร่วมแจม ไม่ว่าจะเป็นพวกที่รักอีสปอร์ตหรือไม่เคยดูอีสปอร์ตเลยก็ตาม รับสถานการณ์ไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว


หนึ่งเดียวที่พอจะช่วยได้คือ เฟิงอี้เฝ้าระวังมาโพสต์นั่นมาตั้งแต่แรก เพราะเขาพักอาศัยในบริษัท เพราะดูแลข่าวประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ เพียงแต่เขาอุตส่าห์ประเมินว่าต้องมีหลากหลายเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีคนเอาข่าวคุณชายฉินมั่วเสียความทรงจำมาเปิดเผย เพราะมีเพียงแต่คนในทีมที่รู้ข่าวนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งจะบอกข่าวนี้ต่อหลินเฟิงเอง…


ตามปกติแล้ว นักธุรกิจที่โลดแล่นในสนามการค้ามานานอย่างเฟิงอี้ ควรจะต้องสงสัยหลินเฟิงทันที เพราะเจ้านี่มันช่างพูด แต่เขารู้จักลูกทีมไดมอนด์เป็นอย่างดี คนพวกนั้นอาจจะชอบเพ้อเจ้อ แต่มักจะตั้งอยู่บนหลักการที่เป็นห่วงผลกระทบต่อคนอื่น จึงไม่เคยซี้ซั้วพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด


 —————————————-


ตอนที่ 1786-1


 ยิ่งการจะเค้นเอาในตอนนี้ให้ได้ว่าใครจะเผยความลับนี้ออกไปก็ยิ่งเสียเวลา สิ่งที่เขาต้องทำมากที่สุดในเวลานี้คือ จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร


เฟิงอี้กุมเมาส์เลื่อนอ่านข้อความดังกล่าวสามรอบ นับตั้งแต่ข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปจนถึงตอนนี้ มันมีปัญหาทุกจุด เริ่มที่คนๆ นี้เลือกเวลาที่จะเผยแพร่ออกไป อันเป็นตอนรุ่งเช้า เวลาแบบนี้ จะมีก็แต่พวกเน็ตติเซ่นเท่านั้นที่ยังออนไลน์อยู่ พวกคนในบริษัทล้วนแต่หลับใหลกันทั้งนั้น ถ้าไม่เป็นเพราะเขาเตรียมป้องกันไว้ล่วงหน้า ก็คงไม่เห็นโพสต์ที่ว่าแน่นอน


จากนั้นก็มาดูที่เนื้อหา หากจะโพสต์ที่ว่าจะบรรยายเพียงแค่เรื่องคุณชายฉินเสียความทรงจำอย่างบริสุทธิ์ใจ มันก็พอจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้แล้ว ซึ่งหากไม่มีข้อความยุแยงในตอนท้าย เขายังพอจะมีวิธีจัดการ เพราะทีมไดมอนด์ไม่เคยหาข้ออ้างมาเบี่ยงเบนสถานการ หากแฟนคลับอยากรู้อะไร ก็ถามเว็บออฟฟิเชียลตรงๆ ได้


แต่คนโพสต์กลับไม่ได้คิดจะโพล่งเรื่องที่คุณชายฉินเสียความทรงจำเท่านั้น ใจความสำคัญอยู่ตรงที่ข้อความทิ้งท้าย ที่อ้างว่าจะส่งผลต่อชื่อเสียงประเทศ อันทำให้ทุกคนรู้สึกว่าจะต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน


แฟนคลับต้องไม่ใช่คนโพสต์แน่นอน พวกเขาไม่มีวันทำอย่างนั้น


เฟิงคิ้วย่นหัวคิ้วหนัก ไม่ต้องคาดหวังว่าคนจากคณะกรรมการจะแคร์เรื่องนี้หรือไม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่สนใจ แต่ตอนนี้เกิดผลกระทบในโลกออนไลน์แล้ว ทางคณะกรรมการย่อมพิจารณาแน่


เฟิงอี้ลุกขึ้นยืน เรียกใช้เส้นสายทั้งหมดของตนเป็นลำดับแรก เขาโทรออกไปโดยไม่สนใจแล้วว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมง “ฮัลโหล ประธานหลี่หรือครับ คืออย่างนี้ มีเรื่องอยากจะ…” ใครจะคิดล่ะว่า วันหนึ่งคนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นจิ้งจอกหน้ายิ้มจะพูดโทรศัพท์ขอร้องคนด้วยน้ำเสียงเช่นนี้


แต่ไม่ทันได้พูดจบ คนจากปลายสายเอ่ยแทรกขึ้นทันที “เฟิง เรื่องของทีมไดมอนด์น่ะ ผมเห็นแล้ว คุณชายฉินเสียความทรงจำ ถือเป็นเรื่องใหญ่มากนะ คุณกล้าปกปิดได้ยังไง ผมไม่ได้จะด่าว่า ทำไมคุณถอยหลังลงเรื่อยๆ ข่าวแบบนี้จะไม่ให้ผมเผยแพร่ออกไปได้ยังง ผมอุตส่าห์ให้เกียรติคุณนะ แล้วคุณน่ะ อย่าโทรหาผมอีก” ไม่ได้เรียกขานว่าผอ.เฟิงอย่างกระตือรือร้น แต่เรียกเฟิงเฉยๆ


เฟิงอี้ฟังเสียงสัญญาณไม่ว่าง นิ้วมือเกร็งทื่อไปหมด ผู้ช่วยได้สติ มองดูข้างๆ ด้วยนัยน์ตาที่แดงก่ำ แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มที่ยืนหน้าโต๊ะกลับไม่หยุกชะงักด้วยการโทรไปหาอีกคน แล้วก็ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังถูกเหยียดหยัน จนในที่สุดก็มีคนรับปากว่าจะคุยกับคณะกรรมการให้ แต่แค่คุยนะ


ผู้ช่วยมองดูผอ.เฟิงที่กระชากคอเสื้อ รู้สึกแค่ว่ามันยากมาก แม้จะยากขนาดนี้ เขายังคงยิ้มได้ “ขอบคุณประธานจางมาก วันหลังผมขอเลี้ยงเหล้าคุณนะครับ” รอจนเฟิงอี้วางหู ผู้ช่วยก็เดินเข้ามาหา มองดูเขาเอียงศีรษะจุดบุหรี่ขึ้นสูบ แล้วเอ่ยเรียก “ผอ.เฟิง” เฟิงอี้เหมือนไม่ได้ยิน เขากำลังครุ่นคิดเรื่องอื่นอย่างเห็นได้ชัด


ผู้ช่วยพูดเสียงดังขึ้น “คุณทำได้ยังไงคะ?”


“อะไร?”


“อดทนต่อทุกอย่างเหมือนในวันนี้ไงคะ”


เฟิงอี้ได้ยินแล้ว ชะงักครู่หนึ่ง เรียวปากแยกยิ้ม “ตอนที่สร้างทีมไดมอนด์ขึ้น ก็เจอเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย พวกเราเป็นบริษัทด้านอีสปอร์ต ต้องมีปฏิสัมพันธ์กันในโลกออนไลน์ ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อว่าทีมไดมอนด์จะดัง ได้แต่อาศัยหน้าตาของประธานฉินเรียกแขก ซึ่งถ้าเทียบกับตอนนี้ ถือว่าง่ายกว่า”


“นี่หรือคะที่เรียกว่าง่ายกว่า” ผู้ช่วยไม่เข้าใจ


————————————-


ตอนที่ 1786-2


 เฟิงอี้หัวเราะ “ง่ายกว่าอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราแค่เป็นกองทัพที่พร้อมรบแบบไม่ให้ใครเสียหน้า สามปีแล้ว พวกเรายังมีแฟนคลับที่ติดตามพวกเราถึงสามปีแล้ว”


“แต่แฟนคลับพวกนั้น” ผู้ช่วยตื้นตันใจ “ถ้าพวกเขาออนไลน์ล่ะก็ แล้วถ้าพวกนั้นไม่…”


ไม่รอให้ผู้ช่วยพูดจบ เฟิงอี้ก็ขัดจังหวะขึ้น “เธอเข้าใจแฟนคลับผิดหรือเปล่า พวกที่หาเรื่องน่ะ เราไม่นับนะ แฟนคลับที่ฉันพูดถึง คือพวกที่รอให้คุณชายฉินกับเจ้าแบล็กกลับมาต่างหาก พวกเขามีความปรารถนาดี จะว่าไปความปรารถนาดีมันก็น่าพิศวงนะ แต่ทุกคนมักคิดกันว่า ในช่วงกลางคืนจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่แม้ว่าจะบาดเจ็บไปทั้งตัว ร่างแทบแหลกสลาย ไม่มีวันสมบูรณ์เหมือนเดิม แต่พวกแฟนคลับก็ยังอยากเห็นคนกลุ่มนี้ กลุ่มที่ไม่มีใครขาดหายไป”


ผู้ช่วยเห็นคอมเมนต์ตอบกลับมากมายจนเศร้าใจ “ยังมีแฟนคลับแบบนั้นหลงเหลืออยู่หรือคะ”


“มีสิ” เฟิงอี้หันไปมอง นัยน์ตาเรืองโรจน์ “มีบางอย่างที่พวกเธอต้องเชื่อ ทีมไดมอนด์เป็นยังไง ก็ย่อมรักษาคนแบบเดียวกันได้ตลอดไป”


ผู้ช่วยตะลึง นี่หรือคือนักธุรกิจที่แสนจะเจ้าเล่ห์ ทว่าเมื่อนักธุรกิจเกิดความปรารถนาดี ย่อมจะดูเด่นกว่าคนทั่วไป


เฟิงอี้ไม่เสียเวลาวิเคราะห์ปัญหานี้นาน เขายกข้อมือขึ้นมาดู “ตอนนี้ตีหนึ่งแล้ว เธอไปเตรียมตัว พรุ่งนี้เราต้องเลือกสมาชิกมาสัมภาษณ์คนหนึ่ง ทีมไดมอนด์จะเป็นยังไง ก็ให้พวกเขาพูดด้วยการแข่งขันถึงจะเหมาะสมที่สุด ฉันจะไปพบคณะกรรมการ”


“ผอ.คะ ลบโพสต์ไหมคะ” ผู้ช่วยตะลึง เพราะโพสต์นั่นอยู่ในออฟฟิเชียลเวยป๋อนะ


เฟิงอี้ช้อนตามอง “ไม่มีประโยชน์” ส่งผลให้ผู้ช่วยอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคำว่าไม่มีประโยชน์จากผู้ชายคนนี้


ท้องฟ้าข้างนอกมืดมิด มืดเสมือนมองไม่เห็นแสง


เวลาตีหนึ่งครึ่ง เฉวี่ยนนั่งพิมพ์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ “ที่สอนให้ฉันพูดไปน่ะ แรงมากจริงๆ ตอนนี้เขาวุ่นวายในอินเทอร์เน็ตกันใหญ่ ไอ้เทพฉินมั่วเก่งแต่ไหน ก็ต้องยอมสละสิทธิ์แน่”


“อย่าเพิ่งด่วนสรุป นี่เป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น” อีกฝ่ายตอบกลับมา


เฉวี่ยนสะเทือน “แค่ก้าวแรกเองเหรอ”


“ไม่ผิดหรอก ฉันจะสอนนายเองว่าก้าวที่สองต้องทำยังไง…”


เฉวี่ยนเห็นข้อความดังกล่าว แววตาถึงกับเป็นประกาย มองดูอีกฝ่ายที่เหมือนกำลังพิมพ์อยู่ด้วยสีหน้าอยากลองดีเต็มแก่


ภายในห้องคอมพิวเตอร์ของอะพาร์ตเมนต์ อวิ๋นหู่มองดูมือถือตัวเองที่กำลังส่งเสียงดัง หลังจากที่กดปิดเสียง ก็ออกมารับสายด้านนอก จากนั้นแววตาถึงกับเบิกกว้าง เสียงตึงเครียดไม่น้อย “รู้แล้ว ฉันจะบอกพวกเขา พวกเขาเหรอ? บางคนก็ฝึกหนักจนหลับไปแล้ว หัวหน้ากำลังฝึกเล่นตัวละครให้ชินอยู่ ทุกอย่างโอเค อื้อ ครั้งนี้ห้ามทุกคนโต้ตอบ แค่ให้รับรู้สถานการก็พอ”


หลังจากที่วางหู อวิ๋นหู่ผลักประตูกลับเข้าไป เขามองดูป๋อจิ่วก่อน ก่อนจะเขย่าตัวปลุกคนอื่นแล้วเอ่ยขึ้น “จิ้งจอกเฟิงแจ้งข่าวว่าเรื่องหัวหน้าความทรงจำเสื่อมถูกคนแฉออกมาแล้ว ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตยุ่งกันใหญ่เชียว พวกเราต้องทำความเข้าใจก่อน เวลานักข่าวถาม จะได้เตรียมใจไว้


หลินเฟิงที่กำลังหาว ถึงกับตื่นสนิททุกคนเปลี่ยนไป!


ไม่สบายใจ ไม่สบายใจอย่างแรง เพราะทุกคนรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก! นอกจากพระเอกของเรื่องอย่างฉินมั่วที่มีสีหน้าดังเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แค่หันไปมองคนที่นั่งข้างตัว


————————————–


ตอนที่ 1786-3


ดูเหมือนยัยนี่จะนิ้วแข็งเกร็งเชียว ฉินมั่วแววตาหนักอึ้ง ไม่พูดอะไร ทางด้านหลินเฟิงเปิดดูโพสต์ข่าวก่อนเพื่อน


อันที่จริงไม่ต้องเสิร์จหาหรอก เพราะฮือฮามากในเว็บออฟฟิเชียล แค่เปิดหน้าเพจก็เห็น มีคอมเมนต์โต้ตอบถึงหนึ่งหมื่นทั้งยังเพิ่มไม่หยุด


สมาชิกในทีมต่างล้อมวงกันดู พออ่านจบ ต่างก็เดือดดาลจนแทบจะทุ่มคีย์บอร์ดลงพื้น


คนพวกนั้นเข้าใจอะไรบ้างไหม พวกเขาแค่อยากแข่งร่วมกันอย่างเต็มที่ สักนัดก็ยังดี แค่อยากแข่งจนใจจะขาด


แม้ว่าหัวหน้าจะเสียความทรงจำไป ก็ยังอุตส่าห์นั่งฝึกถึงสิบชั่วโมงเพื่อจำสกิลของตัวละครในเกมให้ได้ เพื่ออะไร? คนพวกนี้เข้าใจบ้างหรือเปล่า?


แต่มันดันไม่ได้มีแค่โพสต์เดียวนี่สิ เพราะนอกจากโพสต์นี้แล้ว ยังมีอีกโพสต์ที่ร้อนแรงแบบคลื่นใต้น้ำ จนเริ่มจะคุมกระแสไม่ไหว ยังรวมถึงอารมณ์ของเหล่าแฟนคลับ “เกิดเรื่องใหญ่อย่างนี้ ในฐานะที่เป็นแฟนคลับเก่าแก่ของทีมไดมอนด์ ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นคนแฉเรื่องนี้ออกมา เรื่องแบบนี้มีแต่คนในทีมทั้งนั้นแหละที่รู้ ยังมีหน้ามาพูดว่าสนิทยังกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ตั้งแต่แบล็กพีช Z เข้ามา ทีมก็ไม่เคยสงบ เรื่องแบบนี้ใครกันที่น่าจะรู้เป็นคนแรก ยังอุตส่าห์เปิดเผยออกมาอีก ฉันรู้สึกว่าพวกเราควรจะต้องหาตัวต้นตอให้เจอ!”


โพสต์แบบนี้มีชั้นเชิงเรียกทัวร์มาลง แต่แฟนคลับบางคนไม่เข้าใจ ก็ตอบตรงๆ ว่า นอกจากแบล็กพีช Z แล้ว คำตอบส่วนมากโน้มเอียงไปที่หลินเฟิง พวกเขาให้เหตุผลง่ายๆ ว่า เพราะชายหนุ่มเป็นคนช่างพูด คงไม่บอกใครง่ายๆ แต่โดนแฟนคลับนั่นแหละที่เปิดเผยออกมา”


หลินเฟิงเห็นโพสต์ที่ว่า ก็รีบมองสีหน้าของเพื่อนร่วมทีม “เปล่านะ ถึงฉันจะปากเร็ว แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีวันซี้ซั้วพูดแน่ ฉัน…” ยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงของกระแทกพลันดังขึ้น! โดยโคโคที่นิ่งมาตลอดคว่ำคีย์บอร์ด “ฉันทนไม่ไหวแล้วเว้ย!”


คนที่อารมณ์ดีและน่ารัก เวลาโมโหที ยิ่งทำให้คนแทบหัวใจช็อก โคโค่ยืนขึ้นราวกับใช้กำลังกับการคว่ำคีย์บอร์ดจนหมดสิ้น “เล่นเกม เราเล่นเกมไปทำไม มันเป็นอาชีพบ้าอะไรวะ จะต้องเจอกับคนมากตั้งเท่าไร ความชอบแบบนี้ แม่งพวกมันเรียกว่าชอบหรือไงวะ? คนที่รู้จักคำว่าชอบ เขาไม่ทำแบบนี้กันหรอก ฉันเหลือทนกับคำว่าชอบแล้วนะเว้ย แทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว ออกจากวงการดีกว่า ช่างหัวการแข่งแม่งมันไปเลย ใครอยากแข่งก็แข่งไป ถ้าฉันยังแตะมันอีกนะ ฉัน…”


“โคโค่!” ป๋อจิ่วรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้ ก่อนจะกระชากตัวหนุ่มน้อยแสนน่ารักมาไว้ในอ้อมกอด หางตาเลิกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเสียงเครือ “อย่าพูดว่าเสียใจ แล้วอย่าสาบานอะไรบ้าๆ แบบนี้ นายเป็นนักกีฬาลีกส์อาชีพ สิ่งที่คนเล่นลีกส์อาชีพต้องทำคือ ไม่ว่าจะได้ยินอะไร เจออะไร ก็ต้องทำใจกับมันให้ได้ เพราะไม่มีวันที่จะไม่มีด้านร้าย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้านายลาออก พวกคนที่รักนายสนับสนุนนาย ยึดนายเป็นไอดอลนายในการฝ่าฟันอุปสรรค อยากเห็นนายทุกวัน แม้จะสักนิดก็ยังดี ต่อให้จะไม่ได้พูดด้วยก็ตาม นายจะให้เขาทำยังไง?”


 ————————————


ตอนที่ 1787-1


โคโค่ได้รับการปลอบโยนเช่นนี้ รู้สึกซาบซึ้งมาก! แต่พอจะหันกอดเจ้าแบล็กคืน กลับเงยหน้าเห็นรอยยิ้มของหัวหน้าเสียก่อน รอยยิ้มนั่นสื่อความหมายสั้นง่ายว่าลองกอดกลับดูสิ ฉันจะหักมือนายให้ดู


โคโค่ช็อกในทันใด เอ่ยในใจว่าเจ้าแบล็กเอ๊ย นายจะปลอบฉันก็ปลอบไปดิ กอดฉันทำไม อยากให้หัวหน้าจับฉันให้ม้าแยกร่างใช่ไหม


เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โคโค่ก็หดมือกลับ รีบควบคุมอารมณ์ให้นิ่ง นั่นไง หากเทียบกับการโดนก่นด่าทางอินเทอร์เน็ตแล้ว เขากลัวสายตาของหัวหน้าเสียยิ่งกว่า!


ป๋อจิ่วเสียใจ เวลาอย่างนี้ น้องโคโค่ฝ่ายรับควรจะต้องซาบซึ้งใจในตัวเธอให้มากเป็นทวีคูณไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้กลัวถึงขนาดนี้? เธอยังคงขมวดคิ้ว


บรรยากาศในทีมเปลี่ยนไปจนหมดสิ้น เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่ว่า ทุกคนต่างรู้ดีว่าทำไมโคโค่ถึงได้มีท่าทีแบนั้น ต่างกลั้นหัวเราะกันใหญ่ หลินเฟิงเหมือนได้ระบายออกมา “แก้ไขปัญหากันเถอะ”


ใช่ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ต้องแก้ไข นี่แหละเป็นสไตล์ของพวกเขา หากแก้ไขไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยว่ากันใหม่ พวกเขาเชื่อว่าเฟิงอี้เริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนจะดำเนินการอะไรยังไง คงต้องรอจนฟ้าสว่างถึงจะรู้


ช่วงเวลาตั้งแต่ตีสามจนถึงแปดโมงเช้า เป็นอะไรที่ทรมานมากที่สุด ป๋อจิ่วจึงเสนอความเห็น “ไปพักกันก่อนเถอะ พักการซ้อมไว้ก่อน ยิ่งเป็นแบบนี้ จะต้องแจ่มใสเต็มที่เวลาเจอนักข่าว ฉันเดาว่าจิ้งจอกเฟิงต้องมีแผนการรองรับไว้แล้ว พวกเรารอสายจากเขากันดีกว่า”


“ได้” อินอู๋เย่าลุกขึ้นเป็นคนแรก ยกมือนวดต้นคอตัวเอง “ผ่อนคลายสักนิดก่อนแข่งเป็นเรื่องสำคัญ ถ้านอนไม่หลับก็เล่นไพ่กัน”


“เล่น เล่นไพ่ได้” เฟิงซ่างหน้าแดง “ฉันละ เล่น เล่นไพ่เก่งนะ”


ป๋อจิ่วหัวเราะ “งั้นก็เล่นไพ่ ฉันจับคู่กับพี่มั่ว”


ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “แน่ใจนะว่าฉันเล่นเป็น”


“พี่มั่ว สบายใจได้ ต่อให้พี่เสียความทรงจำไปแล้ว แต่เรื่องคำนวณตัวเลข ไม่มีใครชนะพี่ได้” ป๋อจิ่วพูดเสียงเบา


ฉินมั่วหยักยิ้มมุมปาก “นี่เธอชมฉันใช่ไหม?”


“แหงสิ” ป๋อจิ่วจัดคอเสื้อตัวเองให้เรียบร้อย “เดี๋ยวฉันช่วยพี่เลือกไพ่ ไม่ได้โม้นะ ฉันมือทองเชียวล่ะ”


10 นาทีหลังจากนั้น ฉินมั่วดูใครบางคนเลือกไพ่ คิ้วขมวดมุ่น “นี่เหรอที่บอกว่ามือทอง” โดยป๋อจิ่วที่เลือกไพ่ห่วยๆ มาได้สามครั้งติดก็เซ็งเหมือนกัน ทำไมไพ่นกกระจอกถึงไม่ไว้หน้าเธอบ้างเลย


“พี่มั่ว อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก เลือกไพ่บ่อยๆ เดี๋ยวก็เรียงเป็นรูปแบบสือซานยาว[1]ได้” ป๋อจิ่วพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเอง


ฉินมั่วหัวเราะอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “รอจนเธอเลือกจนสือซานยาว คนอื่นก็ชนะไปแล้ว”


ป๋อจิ่วบ่นในใจ…เรื่องที่คนอื่นรู้กันทั่วหน้า ยังต้องพูดออกมาอีกทำไม


“พี่มั่ว ไหนพี่บอกว่าพี่เล่นไพ่ไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?”


ฉินมั่วเลิกคิ้ว กวาดตามองไพ่นกกระจอกที่ถูกโยนลงบนโต๊ะอย่างคร้านๆ เอ่ยเสียงเรียบ “เกมง่ายๆ แบบนี้ ฝึกรอบเดียวก็คุ้นแล้ว” ว่าแล้วก็กำข้อมือเธอ ส่วนมืออีกข้างเลือกไพ่ จากนั้นก็ดันไปข้างหน้า “เลือกตรงพอดี ไพ่ตัวเลขประเภทเดียวกันล้วน[2]”


ทุกคนตะลึงงัน หลินเฟิงรู้สึกเหมือนถูกทำร้าย “ตาเมื่อกี้ฉันโยนไพ่นี้ออกมาไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนั้นหัวหน้าถึงไม่กินรวบละ?”


“เรอะ” ฉินมั่วเฉยๆ “คงเพราะฉันเล่นไม่ค่อยเก่ง”


ฉันเชื่อก็บ้าแล้ว ตัวเองเลือกไพ่เอง จะได้ชนะ โอเคป่ะ


หลินเฟิงเกาศีรษะ หันไปหาหนุ่มน้อยเฟิงซ่างที่บอกว่าตัวเองเล่นไพ่เก่ง ซึ่งตอนนี้กำลังจัดเรียงไพ่อยู่!


อายบ้างไหม นี่เรอะที่เรียกว่าเล่นเก่ง? ท่าทางเจ้าเด็กเฟิงซ่างเองก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าเล่นเก่ง ส่งผลให้ป๋อจิ่วแฮปปี้ไปเลย เธอเริ่มเก็บเงิน


[1] สือซานยาวเป็นวิธีการเรียงไพ่นกกระจอกรูปแบบหนึ่ง โดยไพ่นกกระจอกจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ไพ่ตัวเลข (3 แบบย่อย) และไพ่ตัวอักษร (2 แบบย่อย) ปกติแล้วผู้เล่นจะต้องมีไพ่ 13 ใบ จะเปลี่ยนตัวไพ่ไปตามลำดับ การเรียงแบบไพ่สือซานยาวจะต้องมีไพ่ตัวเลข 1 และ 9 ครบทั้งสามแบบ และมีไพ่ตัวอักษรที่ไม่เหมือนกันอีก 7 ใบ เมื่อมีการดึงใบที่ 14 จะต้องได้เหมือนกับหนึ่งในไพ่ทั้ง 13 หากทำได้ผู้เล่นจะชนะเกม


[2] ไพ่ตัวเลขประเภทเดียวกันล้วน ผู้ที่ไพ่ตัวเลขประเภทเดียวกันล้วนจะถือเป็นผู้ชนะ แต่ต้องได้แต้มตามที่หลักการกำหนดไว้


ตอนที่ 1787-2


หลินเฟิงม้วนแขนเสื้อ เตรียมเอาคืนในนัดที่สาม แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเพิ่งจะตั้งไพ่เอง ก็ได้ยินคนที่นั่งตรงข้ามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมดาเหลือเกิน “รู้ไหมว่าทำไมเธอถึงเลือกไพ่ได้ห่วย”


ป๋อจิ่วหันไปมอง “ทำไม?”


“เพราะเธอไปกอดคนที่ไม่ควรจะกอดไง” ฉินมั่วยกไพ่ตัวหนึ่ง


ทุกคน “…”


ก็ว่าอยู่ว่า ทำไมเมื่อกี้หัวหน้าไม่พูดอะไร? ที่แท้ก็รอเอาคืนอยู่นี่เอง


คนที่ไม่ควรโดนกอดได้แต่ห่อไหล่ กัดหูกระต่ายในอ้อมแขน เขาสังหรณ์ใจว่าหัวหน้าจะจำเขาได้นานแสนนานเพราะเรื่องนี้


เห็นไหมล่ะ หลังจากที่โคโค่ถูกผู้เล่นคนก่อนหน้าซึ่งก็คือฉินมั่วเอาชนะได้เป็นครั้งที่สาม เขาก็รู้เลยว่าหัวหน้าไม่ได้ทำเพราะเงิน แต่เพราะต้องการเอาชนะเขา


คนที่เล่นไพ่นกกระจอกล้วนเข้าใจดีว่า ตอนที่เราจะผลักไพ่ประกาศชัยชนะ แล้วจู่ๆ ก็มีคนตัดหน้าคว้าชัยไปก่อน ต่อหน้าเราแท้ๆ อีกต่างหาก เราจะรู้สึกว่าชีวิตของเราหม่นหมองแค่ไหน? แถมไม่ได้ตัดหน้าแค่ครั้งเดียวนะ สามครั้ง! สามครั้งเลยทีเดียว!


น้องโคโค่เริ่มคิดถึงแฟนคลับแล้วล่ะ หากเทียบกับของเล่นน่ารักๆ แล้ว หัวหน้าเขาไม่ใช่คนอ่ะ โดยเพื่อนร่วมทีมต่างกลั้นหัวเราะจนกระเทือนซาง บรรยากาศครื้นเครงมาก


อินอู๋เย่าพูดไม่ผิดหรอก เราควรต้องผ่อนคลายอย่างเหมาะสมก่อนการแข่งถึงจะถูก อย่างน้อยหากเทียบกับเมื่อก่อน ความห่างเหินก็ไม่มีอีกแล้ว


เมื่อถูกฉินมั่วเอาชนะแบบนี้ บางคนยังคิดเลยว่า หัวหน้าไม่ได้สูญเสียความทรงจำสักหน่อย


ห้วงเวลาดังกล่าว หัวใจช่างปกติสุข แม้ว่าโลกนี้จะมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันและการด่าทอมากแค่ไหน แต่จะมีอยู่คนหนึ่งที่นับตั้งแต่ตั้งทีมไดมอนด์ขึ้นมาก็ไม่เคยถอดใจ เขาเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของคุณ แม้จะไม่เคยพูดออกมาเลยก็ตาม เขาทำตัวเป็นผู้ค้ำจุนทีม แม้จะเป็นเวลานี้ คนพวกนั้นยังเรียกร้องให้เขาออกไป


พวกเราบอกว่าสิ่งที่ทุ่มเท ต้องได้รับการตอบแทน อันที่จริง ผิดนะ ไม่แน่ว่าความทุ่มเทจะได้รับผลตอบแทนกลับมา แต่จะต้องไม่ผิดต่อสิ่งที่เราต่อสู้เพื่อให้ได้มา


การเล่นไพ่นัดใหม่เริ่มขึ้น ราวกับกวาดล้างอารมณ์ทั้งหมด คุณตาถึงกับเตรียมเบียร์ไว้ให้ ทุกคนต่างดื่มกัน พลางแกะเปลือกถั่วลิสงเข้าปาก เล่นไพ่กันต่อ สนุกจะตาย


ป๋อจิ่วเห็นภาพตรงหน้าก็อ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งคุณตาไม่ได้ว่าอะไร แต่พอเธอเดินออกมา ก็เอ่ยขึ้น “เตรียมโน้ตบุ๊กในห้องคุณไว้ให้แล้ว”


ในเมื่อตัดสินใจเจาะระบบอินเทอร์เน็ต ก็ต้องไม่ให้ใครเห็น ป๋อจิ่วเอี้ยวตัว เสียบทรัมป์ไดร์ฟลงกับคีย์บอร์ดตัวดำ เสียงพิมพ์ดังรัวเร็วจนฟังไม่ออกว่าเธอกำลังทำอะไรกันแน่ เห็นเพียงตัวอักษรสว่างแวบบนหน้าจอ


Z


จากนั้นก็เป็นการใช้งานโค้ด


โพสต์สองโพสต์นั่น ใช้ IP เดียวกันจริงๆ ด้วย ป๋อจิ่วมองดูผลที่หามาได้ ก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา ตามมาด้วยการขยายเครือข่ายจาก IP นั่น จนในที่สุดก็ไปหยุดตรงที่ เจียงเฉิง อพาทเมนต์ซิ่งหง ยูนิตที่ 8 ตึกหมายเลข 6 ห้อง 603 หลังจากคลำเส้นทาง IP ไปจนเจอสถานที่ เธอก็เริ่มแฮกคอมพิวเตอร์ของอีกฝ่าย


———————————-


ตอนที่ 1787-3


เฉวี่ยนในเวลานั้นยังไม่รู้เรื่อง เขากำลังสั่งอาหารเดลิเวอร์ลี่ กะจะกินพลางเล่นเกม ตอนนี้โลกอินเทอร์เน็ตกำลังทะเลาะกันใหญ่ การจะรวมทีมเดิมเล่น พวกแฟนคลับก็ใช่ว่าจะชอบทุกคนในทีมนี่นา เฮอะ!


สถานการณ์จะเป็นยังไงก็ช่างมันดิ


เฉวี่ยนหัวเราะ ตัดสินใจจะลงโพสต์อีก แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่ใช่ปัญหาที่แอคเคาท์ เพราะอาจห้ามแอคเคาท์ไม่ให้ออกความเห็นได้ แต่แอคเคาท์สำรองที่ใช้มีเยอะแยะ แต่กลับใช้ไม่ได้สักอัน? ไม่เพียงแต่จะทำอะไรไม่ได้ ขนาดจะลงทะเบียนเข้าใช้ ยังทำไม่ได้เลย หน้าจอปรากฏข้อความว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น อะไรของมันวะ?


เฉวี่ยนคิดแต่ว่ามันผิดปกติชัดมาก แต่ไม่รู้ว่ากล้องของคอมพิวเตอร์ถูกเปิดใช้ตั้งแต่เมื่อไร อยู่ๆ ก็เข้าไปในห้องไลฟ์สดของเขาอัตโนมัติ และห้องที่ว่ามีข้อความหนึ่งที่เขาคุยกับคนแปลกหน้า โดยบันทึกการสนทนาถูกสกรีนช็อต แล้วเปิดเผยในโลกออนไลน์!


ทุกคนต่างตะลึงงัน นี่เท่ากับหาเรื่องทีมไดมอนด์ชัดๆ! แถมเป็นแผนที่วางมาเป็นอย่างดี กระทั่งจะกระพือเรื่องนี้ ก็ยังทำได้ลงคอ!


พวกแฟนคลับที่โต้เถียงกันต่างสงบใจกันได้ คิดดูสิ เวลาอย่างนี้ พวกเขายังมีหน้ามาก่อเรื่องถึงในเว็บออฟฟิเชียล เท่ากับช่วยพวกแอนตี้แฟนกระพือไฟนี่นา


คนที่คิดได้ ก็ตกใจตะลึงจนเหงื่อเย็นไหลทั้งตัว ส่วนคนที่ยังคิดไม่ได้ ก็ยังโชคดีที่ความจริงของเรื่องนี้ถูกเปิดเผยแล้ว โดยพวกแฟนคลับที่ละเอียดลออ พอจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง


“ฉันว่าทำไมเขาถึงได้กัดเทพฉินไม่ปล่อย ที่แท้ก็เพราะแค้นนี่เอง”


“แค้นเหรอ? ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ”


“ก็ภาพนี้น่ะ ทุกคนเห็นปุ๊บก็ต้องสงสัยว่าสองคนนี้คุยอะไรกันใช่ไหมล่ะ แต่หนึ่งในนั้นน่าจะมีเพื่อนๆ ชาวเน็ตรู้จัก ก็คนที่เพิ่งแข่งกับเทพฉินแล้วบังเอิญชนะได้ไงล่ะ เสร็จแล้วก็ออกจากห้องไลฟ์สด แล้วถูกเทพฉินเล่นงานแบบพอออกจากบ้านปุ๊บก็โดนฆ่าปั๊บ! ประสบการณ์ห่างกันตั้งเยอะนี่นา มิน่าล่ะถึงได้พยายามนำฟอร์มให้ได้ ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่นก่อนนะ หวังว่าคนที่ชอบทีมไดมอนด์จะลองพิจารณาดู พวกเราควรจะทำอะไรสักอย่าง เทพฉินเสียความทรงจำจริงๆ ทางคณะกรรมการต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง พวกเราทรมานก็จริง แต่คนในทีมไดมอนด์ทรมานยิ่งกว่า ฉันเล่นบาสในโรงเรียน ถึงจะไม่เหมือนกับอีสปอร์ต แต่การแข่งขันทุกอย่าง ถ้าพวกเขาขาดจิตวิญญาณที่ชี้นำทางจิตใจ แล้วจะแข่งกันยังไง? ฉันเข้าใจเลยนะว่าตอนนี้พวกเขาต้องรับแรงกดดันเยอะมาก พวกนายคิดว่าเทพฉินยังมีหวังลงแข่งอีกเหรอ พอคิดถึงตรงนี้ ฉันยิ่งทรมานใจเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ยังจะซื้อตั๋วเข้าไปดูสนามจริง เพราะฉันเข้าใจดีว่า การรอคอยพวกเขาถึงจะเป็นการสนับสนุนอย่างแท้จริง”


คนที่โพสต์ไม่คิดเลยว่า โพสต์ของตัวเองจะโน้มน้าวแฟนคลับได้มากมาย สิ่งที่เฟิงอี้พูดไว้ก่อนหน้านี้ถูกต้องว่า มีคนแบบนั้นด้วย แต่คนแบบนั้น จำต้องได้รับการสนับสนุน


หลายๆ คนทยอยออกมา ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ แม้ว่าจะทำให้โพสต์เดิมของเฉวี่ยนหมดความนิยมไม่ได้ แต่…สะเก็ดไฟก็สามารถนำไปสู่เพลิงไหม้ได้ และเฉวี่ยนที่ก่อเรื่องนี้ขึ้น กว่าจะรู้ตัวว่าถูกเปิดเผยตัวตนก็เมื่อผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง เขาลนลานอยากอธิบาย แต่กลับพบว่าห้องไลฟ์สดในโลกออนไลน์ของตนถูกเปิดออก จำนวนคนเข้ามาดูสูงมาถล่มทลาย ล้วนเก็บสีหน้าของเขาไว้ในสายตาอย่างครบถ้วน


ห้วงเวลาดังกล่าว เขารู้ทันทีว่าตัวเองจบเห่แล้ว บางทีในวงการของพวกเขาอาจจะมีระดับคุณธรรมต่ำแต่ขอเพียงเป็นมนุษย์ด้วยกัน ย่อมต้องรังเกียจการใช้เล่ห์กล ซึ่งเน็ตติเซ่นทุกคนต่างไม่ยอมให้อภัยยิ่งเขาใส่ร้ายทีมลีกส์อาชีพที่พยายามสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ไม่มีใครให้อภัยสักคน


———————————-


ตอนที่ 1787-4


นับแต่ขโมยเทคนิคฉินมั่วแล้วไม่ยอมรับ จนมาถึงเจตนาร้ายในเรื่องดังกล่าว เรียกได้ว่าท้าทายขีดความอดทนของทุกคนในเวลานี้เลยทีเดียว


ชั่วเวลานั้น เฉวี่ยนโดนด่าจนไม่กล้าไลฟ์สด ตอนแรกเขายังร่ำร้องว่าตัวเองไม่ผิด อ้างว่าตัวเองแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีคนมาบอกก็เลยทำตาม มาคิดๆ ดูในตอนนี้ก็รู้สึกว่าถูกหลอกใช้!


คนอย่างป๋อจิ่วน่ะหรือจะหลงกล ตลกร้ายเลยล่ะ!


จริงล่ะที่ตัวการเป็นอีกคน แต่ผู้ช่วยก็ถือเป็นคนร้ายอีกประเภทหนึ่ง ก็ร่วมมือด้วยกันทั้งนั้น ยังมีหน้าบอกว่าตัวเองไม่ผิด?


เธอไม่ใช่ท่านเทพที่ต้องคำนึงอะไรหลายอย่าง เพียงแค่ ทุกคนในทีมกำลังเตรียมตัวแข่งอย่างเต็มกำลังแต่พวกนายกลับก่อนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ยังจะมาบอกว่าตัวเองถูกใส่ร้าย เข้าใจประโยคนี้ไหม? คนก่อเรื่องถือว่าชั่ว


หลังจากที่เล่นงานเฉวี่ยนเสร็จ ป๋อจิ่วก็ไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ แต่ขุดค้นต่อไป กะจะกระชากคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา แต่เพราะเรื่องนี้มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว


ฝานเจียย่อมเตรียมรับมือไว้ หลังจากที่สั่งงานเฉวี่ยน เธอรีบลบร่องรอยทันที เธอใช้คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตเล็กๆ ในซอย การจะลบร่องรอยจึงเป็นเรื่องไม่ยาก


แม้ป๋อจิ่วตามหาสถานที่เจอ แต่รู้ดีว่าคอมพิวเตอร์ของฝ่ายนั้นปิดเครื่องเรียบร้อย แถมก่อนปิดเครื่องยังกำจัดร่องรอยจนไม่เหลืออะไร


คนที่เตรียมการไว้เป็นอย่างดี แถมชอบใช้วิธีนี้ก่อนจะหนีหายไปอย่างลอยนวลอีก มีเพียงคนเดียว ก็ฝานเจียไงล่ะ


ป๋อจิ่วดูหน้าจอ งอนิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ เมื่อตอนที่อยู่สามเหลี่ยมทองคำ เธอทุ่มเทความสนใจไปที่ตัวท่านเทพคนเดียว รวมถึงหาทางที่จะทำให้เขายุติความคิดที่จะเลิกเชื่อมั่นในตัวเธอและล้มเลิกความอยากฆ่าคน จนต้องทำตัวติดกัน แต่ไม่ได้สังเกตว่าคดีดังกล่าวจะดำเนินต่อไปอย่างไร เพราะยังไงเสียคิงก็ตายแล้ว ขบวนการนั่นถูกสลาย น่าจะมีหลายๆ คนถูกนำตัวกลับมาที่จีน ขนาดแหล่งเพาะปลูกฝิ่นนั่นก็ถูกไฟเผาจนเรียบไม่เหลือ เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมอีก


ฝานเจียยังไม่ถูกจับได้อีกเหรอ?


เรื่องนี้ทำให้ป๋อจิ่วย่นหัวคิ้วขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วยความไม่สบายใจ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร เธอลุกขึ้นกะจะสูบบุหรี่ ไม่คิดว่ายังไม่ทันได้จับต้อง ก็มีคนผลักประตูเข้ามาเจอ


“สายเปย์ของฉันเก่งอีกแล้ว เรียนอะไรดีๆ ทั้งนั้น ริจะสูบบุหรี่?” น้ำเสียงเย็นๆ ที่แยกไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน มันช่างคุ้นเคยจนเธอชะงัก เวลานี้เธอรู้แล้วว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร อันที่จริงในโลกนี้ นอกจากเธอและเจ้าหญิงน้อยแล้ว ยังมีอะไรที่ทำให้เธอไม่สบายใจได้อีก


“เป็นอะไรไป?” ฉินมั่วรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองไม่ได้มีอะไร แต่พอเห็นสีหน้าเธอ นิ้วมือของเขาก็ถึงกับเกร็ง


ยัยนี่ไม่แฮบปี้เหรอ? ปกติเขาพูดแรงกว่านี้อีก ก็ไม่เห็นว่าเธอจะมีสีหน้าในแบบที่ว่า เกิดอะไรขึ้น? นี่คือฉินมั่วคิดเป็นสิ่งแรก จนกระทั่งพยายามตามหาสาเหตุ


ป๋อจิ่วกลับรู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่แฝงในคำพูดของเขา จึงแย้มยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก แค่จู่ๆ ก็อยากกินอมยิ้ม แต่หาไม่เจอเลยจะสูบบุหรี่แทน”


ฉินมั่วมองเธอ เอ่ยเสียงเรียบดังเดิม “มานี่ซิ”


“หืม?”


 ———————————-


ตอนที่ 1788-1


ป๋อจิ่วเพิ่งจะเดินไปหา กลับถูกเขาดึงตัวเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน พอจะกลิ่นมินต์บุหรี่อ่อนๆ ราวกับแม้จะไม่ได้นอนมาทั้งคืน แต่ก็ยังสดชื่นทั้งร่างเหมือนไม่ได้มาจากโต๊ะเล่นไพ่


“ครั้งนี้ไม่มีลูกอม แต่มีเครื่องทำความร้อนจากตัวคนแทน เอาไหม?” ฉินมั่วเอ่ยเสียงเรียบมาก


ป๋อจิ่วกลับยิ้ม “แถมจูบด้วยได้ป่ะ?”


“ฝันหวานไปแล้ว” ฉินมั่วรัดร่างเธอไว้ในอ้อมแขน พอปฏิเสธก็หลุบตาลง ประทับกลีบปากไว้บนศีรษะเธอ


ป๋อจิ่วถึงกับอึ้ง ก่อนจะกอดเขาแน่น มุมปากแยกยิ้มบางๆ ราวกับอากาศที่สูดเข้าไปก็ยังหวาน


ส่วนคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไพ่ ล้วนแต่ไม่ถามว่าหัวหน้าไปไหนอย่างเหมาะเหม็ง ตอนแรกๆ ยังคิดว่าจะมีการทะเลาะกันในโลกออนไลน์อย่างรุนแรง เรื่องนี้ยังอยู่ในใจของทุกคน แม้จะนอนก็ย่อมนอนไม่หลับ จนเกือบจะตี 4 เฟิงอี้ก็โทรเข้ามาแจ้งว่า คำวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตเริ่มเปลี่ยนทิศทาง สั่งให้พวกเขาพักผ่อนให้เต็มที่


หลินเฟิงแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะปกติแล้ว หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสองวัน ความรุนแรงจึงจะลดทอนลง เขาไม่คิดเลยว่าหนนี้จะเร็วมาก แถมทิศทางคำวิจารณ์ยังเปลี่ยนไปอีกต่างหาก


เฟิงอี้ไม่คิดจะปิดบังเขา “มีคนช่วยพวกเราไว้ เขาหาต้นตอโพสต์ได้ เลยรู้ว่าโพสต์ทั้งสองมาจาก IP เดียวกัน แถมคนโพสต์ก็ยังเป็นเจ้าของไลฟ์สดที่มาท้าดวลพวกนาย”


หลินเฟิงได้ยินแล้วถึงกับตาโต “ต้องบอกว่าพวกเน็ตติเซ่นเก่งมากใช่ไหม?”


“ไม่ใช่ชาวเน็ต” เหราหรงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมากะทันหัน หันไปมองชั้นบนแวบหนึ่ง ยิ้มให้เหมือนไม่ได้ยิ้ม “อาจจะเป็นแฮกเกอร์ที่ทนเห็นความไม่เป็นธรรมไม่ไหว” ซึ่งเฟิงอี้หัวเราะ “น่าจะใช่”


เมื่อได้ยินว่าคำวิจารณ์ในโลกออนไลน์เปลี่ยนทิศทาง ทุกคนต่างก็สบายใจขึ้นไม่น้อย เฟิงซ่างถามพี่ตัวเองติดๆ ขัดๆ “งะ งั้น หะ หัวหน้า จะ จะแข่งได้ใช่ไหม?”


“ตอนนี้ยังไม่รู้หรอก ต้องดูการตัดสินใจของทางคณะกรรมการ” เฟิงอี้มีเหตุผล อันเป็นผลมาจากการที่เจ้าตัวเป็นนักธุรกิจ ผลกระทบบางอย่างอาจขจัดทิ้งได้ แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อไปถึงมือคณะกรรมการแล้วจะตัดสินใจอย่างไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มั่นใจได้อย่างเดียวคือ เมื่อไม่มีข่าวก็คือข่าวดีที่สุด


ทางคณะกรรมการยังพิจารณากันอยู่ โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ ทีมไดมอนด์ยังคงมีโอกาส ซึ่งเฟิงอี้คิดเช่นนี้ เจ้าตัวนวดหัวคิ้ว เอ่ยต่อ “เอ้อ เหยาเย่ายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”


“อยู่”


“ส่งโทรศัพท์ให้เขาหน่อย”


“ได้”


เหยาเย่ารับโทรศัพท์มาอย่างสงสัย


เฟิงอี้พูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “จะแข่งแล้ว นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายของทีม เป็นการสัมภาษณ์เดี่ยว เราต้องโดนถามถึงเรื่องนี้แน่ พรุ่งนี้เธอเตรียมตัวหน่อยนะ สัมภาษณ์ตอนเก้าโมงเช้า ถึงเวลานั้นฉันจะไปรับเธอเอง”


เหยาเย่างงๆ “ฉันเหรอคะ? แล้วเฮียเย่า เทพเหราก็อยู่ด้วยนี่นา เป็นฉันไปเหรอคะ?”


เธอเหมาะสมอยู่หรือ? ประสบการณ์ก็ไม่มี ฝีมือก็ไม่ได้เก่งสุดในทีม เธอ…


“นอกจากเจ้าแบล็กแล้ว เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีม เขาไม่สะดวกที่จะออกมา คุณชายฉินเองก็ให้สัมภาษณ์ไม่ได้” เฟิงอี้พูดแค่นี้ เขาอยู่ในชุดสูทเต็มยศ “สบายใจได้ เวลาสัมภาษณ์ ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ”


เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ผู้จัดการเฟิง คุณสบายใจได้ พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมตัวให้ดี”


ครั้งสุดท้าย เธออยากจะพูดเพื่อฝ่าบาทจิ่ว เพื่อหัวหน้าและเพื่อทีมให้เต็มที่ แต่ละคนที่นั่งบนโต๊ะไพ่ล้วนรู้แก่ใจว่า หัวหน้าอาจลงแข่งไม่ได้ เพราะเขาสูญเสียความทรงจำจริงๆ กระทั่งป๋อจิ่วยังหลับไม่สนิท แม้ฉินมั่วจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม


เธอย่นหัวคิ้วขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ฝันถึงตอนที่เธอต้องจากเขาไปเมื่อตอนเป็นเด็ก เธอเกาะหน้าต่างรถ ด้วยอยากเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่เธอดันลืมไปว่าคืนก่อนเธอและเขาทะเลาะกันจนอารมณ์เสีย


อีกสองวันก็จะได้เวลาฉลองวันเทศกาลของจีน เขาย่อมเตรียมกลับประเทศ กำลังเก็บข้าวของอยู่ในห้อง แล้วจะรอเธอที่ลานบ้านได้อย่างไร


 ————————————-


ตอนที่ 1788-2


วันนั้นเธอจึงเศร้าซึมมากเป็นพิเศษ เพราะเธอและเขาทะเลาะจะเลิกคบกัน ตอนนั้นป๋อจิ่วก็คิดว่าถ้าได้จากกันดีๆ บางทีพวกเธออาจจะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ต่อมาเธอแอบกลับมาดูก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว


สภาพในความฝันทำให้ป๋อจิ่วกำมือฉินมั่วแน่นอย่างอัตโนมัติ ทำให้ฉินมั่วที่มองดูอยู่ถึงกับนัยน์ตาหนักอึ้ง เจ้านี่ฝันถึงอะไร? น่าเศร้ามากเลยหรือ?


ฉินมั่วยื่นมือเชยคางอีกฝ่าย ก่อนจะนวดเบาๆ แล้วโน้มตัวจูบที่เรียวปากเธอ ก็ยังจอมเจ้าชู้ชอบแบบนี้


แต่เธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ชายหนุ่มมองดูอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่เหมือนถูกก้อนหินถ่วงอกจนหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด


พอเถอะ เธอก็เป็นแค่เหยื่อ นายจะทุ่มเทความสนใจให้มากไปทำไม พอได้แล้ว


แม้จะคิดอย่างนี้ แต่กับรั้งร่างอีกฝ่ายมาไว้ในอ้อมกอด จูบด้วยแรงที่หนักขึ้น เพื่อจะปลุกเธอให้ตื่น


ซึ่งป๋อจิ่วก็ตื่นจริงๆ หลังจากที่รู้ตัวว่าโดนเขาจูบ เธอก็ชะงัก คิดจะเอาคืน


ฉินมั่วกลับยื่นมือห้ามไว้ “บอกมาก่อนว่าเมื่อกี้เธอฝันว่าอะไร”


“ตอนที่อยู่ที่อเมริกา พวกเรายังเด็กมาก แถมทะเลาะแล้วแยกจากกัน จากนั้นฉันก็แอบกลับมาหาพี่ แต่น่าเสียดายที่พี่กลับจีนไปแล้ว” ป๋อจิ่วนึกถึงเรื่องนี้ ก็เม้มปาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าเธอทั้งเรียวเล็กและใสกระจ่างมากหรือเปล่า ทำให้คนอย่างฉินมั่วยังพลอยปลอบโยนไปด้วย “ก็แค่ฝัน”


“ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นความจริง” ป๋อจิ่วมองตาเขา “มันเกิดขึ้นจริงๆ ฉะนั้นพี่มั่ว พี่ต้องรับปากฉัน อย่าไปจากฉัน พี่ดูสิ ฉันหน้าตาดี แถมยังรวยมาก แล้วยังช่วยแก้แค้นในเกมให้พี่อีก พี่จะไปหาสายเปย์ที่ดีขนาดนี้จากที่ไหนได้?”


ฉินมั่วเอ่ยช้าๆ “ข้อดีที่เธอพูดมา ไปหาจากที่ไหนก็ได้ แต่หนังหน้าที่หนาอย่างนี้ หายากจริงๆ”


ป๋อจิ่ว…นึกว่าอุตส่าห์เป็นคนจูบเธอก่อนแล้วจะอ่อนโยนขึ้น เฮ้อ คำว่าอ่อนโยน ไม่ควรใช้กับท่านเทพจริงๆ


“ฉันถึงไม่อยากเรื่องมากไง” ฉินมั่วบีบหน้าเธอ “แล้วก็ชอบหนาๆ พอดี”


ป๋อจิ่วยิ้ม ยื่นมือไปโอบเอวอีกฝ่าย เธออยากบอกว่า ถึงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร แค่อยู่กับเธอเป็นพอ แต่เกรงว่า จากนิสัยของท่านเทพในตอนนี้ เดาว่าคงไม่อยากจะฟื้นความทรงจำหรอก แต่ก็ช่างเถอะ อยู่ด้วยกันอย่างดีก็ดีจะตาย


เธอไม่ฝันร้ายอีกแล้ว เขาโอบเธอไว้ ดันศีรษะเธอไว้ซบไหล่เขาอย่างไม่คิดจะปล่อยมือ ด้วยทั้งสองหน้าตาดีอยู่เป็นเดิมทุน แถมท่าทางในเวลานี้ รวมถึงแสงอ่อนยามเช้าที่ส่องเข้ามา ทำให้ดูงดงามมาก


เขาสวมสเวตเตอร์สีขาว เธอแนบตัวติดกับเขา เสี้ยวหน้าของทั้งสอง โชว์แค่หนึ่งในนั้นก็เรียกเสียงกรีดร้องได้เลยทีเดียว แต่ดูเหมือนพวกเขาจะให้ความรู้สึกว่า ทั้งสองเป็นแค่ของกันและกันเท่านั้น


วันต่อมา แสงอาทิตย์กำลังดี ส่วนเรื่องฉินมั่วจะร่วมแข่งได้หรือไม่ ยังคงรอผลอยู่ ซึ่งไม่มีใครเดาได้ แต่เฟิงอี้ยังอยากพยายามอีกสักหน่อย ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนเลย นอกจากร่างหนึ่งที่ตามหลังเขามา หากเป็นเวลาปกติ เฟิงอี้อาจจะสังเกตเห็นร่างที่ว่า แต่เวลานี้เขาคิดแค่ว่าจะบอกสถานการณ์จริงต่อคณะกรรมการและพวกแฟนคลับที่ไม่เชื่อใจฉินมั่วอย่างไรดี


เขาอยากบอกคนเหล่านี้ว่า แม้ชายหนุ่มจะเสียความทรงจำไป แต่ความสามารถยังคงเหมือนเดิม เขาถือเป็นเสาหลักที่สำคัญกว่าทีมเสียยิ่งกว่าใคร ดังนั้นเฟิงอี้ต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูลอย่างละเอียดถึงสามชั่วโมง ไม่ได้โอดครวญเกินจริง เพียงเสนอบันทึกผลคะแนนของฉินมั่วในวันที่ผ่านมา


หลังจากที่เตรียมเสร็จ เขาก็ติดต่อนักข่าวโดยไม่หยุดพักสักนิด จนเมื่อขับรถไปรับเซวียเหยาเย่าที่อพาทเมนต์ของแบล็กพีช


ฝานเจียก็รู้ทันทีว่า โอกาสมาถึงมือเธอแล้ว


———————————–


ตอนที่ 1788-3


ไม่ผิดหรอก เธอจับตาความเคลื่อนไหวของเฟิงอี้มาตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อจะหาว่าฉินมั่วอยู่ที่ไหนกันแน่ เธอวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เธอลงเครื่องมาเมื่อตอนบ่ายของวันนั้น สมาชิกทั้งหมดของทีมไดมอนด์ก็ออกจากคลับ แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน


การแข่งระดับเอเชียกระชั้นเข้ามาแล้ว พวกเขาไม่มีวันออกไปเที่ยวเล่นในเวลาอย่างนี้แน่ แถมยังออกไปเป็นทีมอีก นอกเสียจากจะไปพบคนสำคัญมากๆ นั่นก็น่าจะเป็นฉินมั่ว แต่น่าเสียดายที่เธอพลาดโอกาสไล่ตามในครั้งแรก ซึ่งหลังจากที่พลาดในครั้งนั้น เธอก็จับตามองเฟิงอี้มาโดยตลอด แต่ผู้ชายคนนี้ฉลาดเกินไป ฉลาดจนเธอเกือบพลาดเผยโฉมหน้าถึงสองครั้ง ยังดีที่ช่วงนี้เขายุ่งมากจนหัวหมุน แถมเธอยังก่อเรื่องนั้นขึ้นมา ทำให้เขาไม่แกร่งเมื่อเดิม เธอติดตามเขามาตั้งนาน กว่าจะสบโอกาสในวันนี้


ฝานเจียยืนอยู่ใต้ตึก เหยียดยิ้มที่มุมปาก มองดูตัวเลขชั้นที่ลิฟต์ขึ้นไปถึง แล้วจดจำมันไว้ด้วยแววตาตึงเครียด ก่อนจะซ่อนตัวไว้


ไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไร จะต้องไม่ให้ใครเห็นเธอเด็ดขาด อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้


ฝานเจียกดปีกหมวกให้ต่ำลงแล้วยิ้มขึ้น ในที่สุดเธอก็หาเจอแล้ว ขอแค่แย่งผู้ชายคนนั้นให้กลับมาอยู่ข้างตัวเธอ เธอก็จะไม่เป็นแบบนี้อีกต่อไป


เธอควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยชุดที่สวมอยู่เริ่มเหม็นบูดเปรี้ยว จากนั้นก็แต่งหน้า ยังอีกนานกว่าฟ้าจะมืด เธอมีเวลามากพอ


ในหัวใจของฝานเจีย เธอไม่รู้สึกการทำลายสิทธิ์เข้าแข่งขันของฉินมั่วเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง คนแบบนั้นเหมาะที่จะทำเรื่องใหญ่กว่านี้ เธอทำเช่นนี้เพราะเธอชอบเขา เขาไม่มีวันโทษเธอหรอก


ทว่าฝานเจียไม่คิดมาก่อนว่า การทำลายสิ่งสำคัญที่สุดของเขา มันไม่คู่ควรกับคำว่า ‘ชอบ’ เลยสักนิด?


ชั้นบน เฟิงอี้มองดูหลายๆ คนที่ขยี้ตา จากนั้นก็ยิ้ม “ทำไมตื่นเช้ากันจัง?”


“เพิ่งนอนต่างหาก” พูดจบ เหราหรงก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกผิด จึงเอ่ยเพิ่ม “พวกเราเล่นไพ่กันจนถึงตีสี่ ส่วนสองคนนั้นอยู่ชั้นสอง คงยังไม่ตื่น หลินเฟิงนอนหลับจนถีบหมอนตกข้างเตียงไปแล้ว”


เฟิงอี้เงยหน้าดูนาฬิกา “เรื่องที่พวกนายเป็นห่วง จะรู้ผลก็ตอนบ่าย ตอนนี้ฉันมารับเหยาเย่าไปสัมภาษณ์ก่อน”


“อ้อ” เหราหรงอ้าปากราวกับอยากพูดขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ยิ้มแค่ “สู้ๆ นะ”


เฟิงอี้เกี่ยวเสื้อสูท “แน่อยู่แล้ว” ดูจากการที่เฟิงอี้มารับด้วยตัวเองย่อมรู้ดีว่าการสัมภาษณ์ในครั้งนี้สำคัญแค่ไหน ซึ่งแต่ละคนต่างรู้ดีแก่ใจ ทีมไดมอนด์ถูกไล่บี้จนตกต่ำ


เมื่อมีเสียงสนับสนุนในโลกออนไลน์ ก็ย่อมมีเสียงต่อต้าน แต่ในเวลานี้ แค่เสียงสนับสนุนมีเพิ่ม โอกาสชนะก็สูงขึ้น


ฝ่ายคณะกรรมการจะทำการตัดสินในตอนบ่ายนี้ เฟิงอี้ใช้สายสัมพันธ์ทั้งหมดที่สั่งสมในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อแลกกับการที่ให้พวกเขาได้พูดในสิ่งที่อยากพูดก่อนวันแข่งหนึ่งวัน โดยไม่ให้โอกาสให้ใครมาก่อความวุ่นวาย ซึ่งมันยากมาก ยิ่งคนที่อยู่ในวงการนี้มานาน ย่อมรู้ซึ้งว่ามันหมายถึงอะไร


 ——————————–


ตอนที่ 1788-4


วันนี้เซวียเหยาเย่าก็เปลี่ยนไป คนเรียบง่ายอย่างเธอก็หันมาแต่งหน้า ทั้งยังตัดผมปะบ่า เธอสวมชุดทีมที่ป๋อจิ่วให้เธอในวันนั้น ทั้งยังเขียนคำว่า “ฝ่าบาทจิ่ว” และสัญลักษณ์แฟนคลับไว้บนนั้นอย่างเด่นหลา


เธอในรูปแบบนี้ ต้องการจะบอกทุกคนว่า ทีมไดมอนด์ไม่มีวันล้ม! ส่งผลให้เฟิงอี้ตะลึงในทันทีที่เห็นเซวียเหยาเย่า จากนั้นก็ยื่นมือมาลูบศีรษะเธอ “เด็กดี”


เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลข 8 คุณตาพ่อบ้านที่รักษามารยาทมาอย่างดีเยี่ยมก็ไม่ได้รั้งทั้งสองไว้ทางข้าวเช้า เพราะรู้ดีว่า พวกเขามีเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องไปจัดการ


เก้าโมงครึ่ง


ห้องสัมภาษณ์ของแพลตฟอร์มไลฟ์สดแห่งหนึ่งถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย หลังจากที่เชิญเซวียเหยาเย่าเข้าไปนั่ง พิธีกรก็เอ่ยขึ้น “ทางเราได้ชมการแข่งเดี่ยวของคุณแล้ว มันส์มากเลยทีเดียว”


“ขอบคุณค่ะ” เซวียเหยาเย่ารู้ดีว่าพิธีกรต้องเริ่มพูดเป็นพิธี


พิธีกรหัวเราะ “พอจะบอกได้ว่าไหมว่าทำไมคุณถึงมาถึงจุดๆ นี้ได้ ? พัฒนาการของคุณทำให้หลายๆ คนถึงกับช็อกเลยทีเดียว”


“หนึ่งเป็นเพราะความชอบค่ะ สองเป็นเพราะมีเพื่อนร่วมทีมของฉันอยู่ด้วยกัน” เซวียเหยาเย่าไม่ได้บอกหมด “พวกเขาช่วยฉันไว้เยอะมากเลยล่ะค่ะ”


ผู้สัมภาษณ์ฟังจบก็เปลี่ยนเรื่องมาพูดถึงประเด็นที่ถกเถียงกันร้อนแรงที่สุดในวันนี้ “ช่วงนี้ทีมไดมอนด์เกิดปัญหาที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วเป็นประเด็นจากตัวรองหัวหน้าทีม แบล็กพีช Z แต่ตอนนี้กลับมาเป็นหัวหน้าทีม ฉินมั่ว ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกสับสนเหรือเปล่า?”


เซวียเหยาเย่าได้ยินชื่นดังกล่าวก็เชิดหน้า มองตรงไปที่กล้อง “ก็สับสนอยู่มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ถ้าไม่มีเขาสองคน ทีมไดมอนด์ก็คงมาไม่ถึงก้าวนี้ ฉันเห็นโพสต์หลายๆ โพสต์ ทราบว่าคนบางกลุ่มอยากให้สองคนนี้ออกจากทีม ฉันขอไม่พูดถึงเรื่องของการแข่งก่อนนะคะ แค่อยากจะพูดบ้างว่า คนๆ หนึ่งที่เจ็บมือก็ยังพาทีมบุกสู้วงล้อมคู่แข่ง สู้แต่ละสนามก็แสดงฝีมือจนน่าตะลึง แล้วก็ยังมีคนๆ หนึ่งที่เขาทุ่มสุดตัวเพื่อจะให้ทีมไดมอนด์ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่าพอที่จะให้พวกเขาอยู่ในทีมต่อไปงั้นเหรอคะ? ก่อนหน้านี้พี่หลินเคยพูดไว้ว้า ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าคนที่อยู่ข้างเราในสภาวะที่เรากำลังลำบากที่สุด จนคิดว่าจะไม่รอดหรอกค่ะ เพราะพวกเราเคยล้มมาก่อน ถึงได้รู้ซึ้งว่าใคร ตอนที่ใครๆ ก็บอกว่าทีมไดมอนด์อาจไปต่อไม่ไหวแล้ว กลุ่มคนที่เป็นห่วงผลคะแนนของทีมไดมอนด์ยิ่งกว่าเรา กลุ่มคนที่แม้จะต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อจะได้ดูเราแข่งขัน กลุ่มคนที่ยอมทุ่มเงินค่าขนมทั้งหมดเพื่อซื้อตั๋วสักใบ พวกเขาเหล่านั้นบอกพวกเราว่า แม้ทีมไดมอนด์จะไม่ได้ชนะคู่แข่งจนราบคาบเหมือนเมื่อก่อน พวกเขาก็ไม่มีวันหนีจากเราไปไหน ขอบคุณพวกคุณ ฉันก็เหมือนกับพวกคุณนั่นแหละค่ะที่คิดว่า ทีมไดมอนด์จะขาดใครไปไม่ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ทีมเราต้องการพวกคุณ และฉันหวังว่าพวกคุณยังคงลุกขึ้นพูดเพื่อพวกเราเหมือนเมื่อก่อนนะคะ”


 ———————————-


ตอนที่ 1789-1


เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกัน มันจะกลายเป็นคบเพลิงยักษ์


หลังจากที่คลิปให้สัมภาษณ์ถูกเผยแพร่ออกไป ราวกับจะได้รับการตอบรับทันที ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ต่อ ให้ความเห็น และแชร์ต่อเรื่อยๆ จากโลกออนไลน์มาถึงชีวิตจริง ทุกคนเริ่มช่วยป่าวประกาศให้ทีม ขนาดแฟนคลับที่มีฐานะยังจ้างขบวนรถวิ่งเชียร์จนกลายเป็นสีสันของเมืองเจียงเฉิง


หลายๆ คนบอกว่าการแข่งชิงแชมป์เอเชียในปี 2018 ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง เพราะหนึ่ง จีนถูกเลือกให้เป็นที่จัดได้อย่างไม่ง่าย สอง เพราะทีมไดมอนด์สร้างกระแส ซึ่งไม่ธรรมดาแน่นอน


ณ สถานที่จัด ตั๋วที่เกี่ยวกับทีมไดมอนด์ล้วนขายออกหมดจนไม่เหลือ หลายๆ คนมาถึงเมืองเจียงเฉิงตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งขัน ทั้งนี้พวกเขาไม่ได้บังคับให้ใครต่อใครมาชอบทีมนี้


หากเมื่อนักข่าวยื่นไมโครโฟนถามพวกเขา “ทำไมถึงมาล่วงหน้าล่ะ? ตอนนี้อุณหภูมิในเมืองเจียงเฉิงต่ำมาก ไม่หนาวหรือ?”


“หนาวจะตาย แต่คุ้ม” หญิงสาวคนหนึ่งยิ้มร่าพลางสะบัดตั๋วเข้าสนามของตัวเอง “แฟนฉันให้มาค่ะ เพราะทีมไดมอนด์ เราถึงได้รู้จักกันค่ะ”


นักข่าวตะลึง “รู้จักกันเพราะทีมไดมอนด์?”


“ใช่ค่ะ ตอนนั้นเขายังเล่นเป็นนักฆ่าเลียนแบบเทพฉินอยู่เลยค่ะ แถมยังเอาแต่หึงเพราะฉันชอบแบล็กพีช Z ค่ะ พอแบล็กพีชกับเทพฉินอยู่ด้วยกัน เขาก็พูดกับฉันว่า เธอดูสิ เทพไอดอลของเธออยู่ด้วยกันกับเทพไอดอลของฉันแล้ว งั้นพวกเราก็อยู่ด้วยกันเถอะ” เธอยิ้ม “ฉันเล่นเกมห่วยมากค่ะ ตอนเล่นเป็นตัวยิงไกลก็เล็งไม่แม่นสักครั้ง วิ่งก็ช้า ยิ่งไม่รู้ว่าจะเดินตำแหน่งยังไง เอาแต่ถูกคนฆ่าอยู่นั่นแหละ แล้วเขาชอบวิ่งออกมาแก้แค้นแทนฉันในเวลาที่ฉันตาย ถึงฉันจะเล่นไม่เอาไหน แต่คุณพอจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ไหม แบบคนที่ชอบทีมไดมอนด์เสมอมา หัวใจเขาไม่ชั่วร้ายอะไรหรอกค่ะ แถมยังเป็นผู้ใหญ่กว่าคนอื่นอีกต่างหาก เวลาอยู่ด้วยกัน ถึงจะไม่ค่อยคุยกันก็ยังรู้สึกว่าได้รับการดูแล อย่างตอนที่แบล็กพีชใช้อีกไอดีหนึ่งบอกว่า แฟนฉันกำลังหึง ฉันต้องไปโอ๋เขาก่อน ตอนนั้นฉันถึงนึกได้ว่า มีแต่เขาโอ๋ฉัน ฉันไม่เคยโอ๋เขาเลย ตอนนี้เราใกล้จบมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันกังวลอยู่นั่นแหละว่าต่อไปเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหม ไม่คิดว่าวันนั้นเขาจะขอฉันแต่งงานค่ะ เขาบอกว่า เทพ Z ยังโอ๋แฟนตัวเองให้แฮปปี้ได้ เขาก็โอ๋ฉันให้แฮบปี้ได้เหมือนกัน ไม่ถึงกับจะไม่เคยทะเลาะกันหรอกนะคะ แต่บางครั้งเราทะเลาะกันก็หันไปดูคนกลุ่มนั้น แล้วหวนถึงตอนที่เราหวานกัน”


นักข่าวไม่คิดเลยว่าจะได้สัมภาษณ์คนแบบนี้ แต่ด้วยความกลัวว่าจะเป็นการโอ้อวด จึงไม่ได้พูดอะไรมาก ถึงจะรู้ว่าหากคลิปนี้ถูกถ่ายทอดออกไป ยอดวิวก็ไม่น่าจะย่ำแย่ แต่เพื่อป้องกันคำครหา จึงย้ายไมโครโฟนไปให้คนต่อไป แต่แล้วก็ถึงกับตะลึง เพราะคนต่อไปกลับเป็นคุณป้าที่อุ้มถาดขายของโดยมัดไว้กับสายสะพายบนไหล่ เธอเริ่มจะมีผมหงอก หลังโก้งโค้ง แต่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ราวกับรอคอยวันนี้มาโดยเฉพาะ ทว่าเธอยังคงต้องดำรงชีวิตต่อไป ดังนั้นจึงหอบของเข้ามาขายด้วย เป็นบุหรี่นิดหน่อยและขวดน้ำจำนวนหนึ่ง เธอถือตั๋วไว้ในมือ ถามคนแถวๆ นั้น “อันนี้เป็นตั๋วแข่งของทีมไดมอนด์ใช่ไหม? ถึงเวลาก็เข้าไปดูในนี้ใช่รึเปล่า?”


————————————–


ตอนที่ 1789-2


นักข่าวเห็นภาพตรงหน้า แววตาช็อกหน่อยๆ เพราะคนอายุปาเข้าไปปูนนี้แล้ว ไม่น่าจะมาดูการแข่งอีสปอร์ต และการที่มีคนรุ่นป้าเข้ามาชม ยิ่งดูไม่เข้ากันเอาเสียเลย


เมื่อกล้องแพนไปจับภาพเธอ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหรือช่างกล้อง ก็ล้วนแต่รู้สึกว่านีคือประเด็นร้อน จึงยื่นไมโครโฟนให้ “คุณป้า รบกวนนิดหนึ่ง พวกเราอยากรู้มากๆ เลยว่า คนที่มาดูการแข่งขันกีฬาแบบนี้ ถ้าไม่เป็นพวกสาวๆ ก็ต้องเป็นผู้ชายที่ชอบเล่นเกม แต่นี่กลับมีคนค่อนข้างมีอายุอย่างคุณป้าตั้งหนึ่งคน ถ้าสะดวกล่ะก็ พอจะบอกพวกเราได้ไหมว่า ทำไมคุณป้าถึงได้ซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันล่ะ หรือว่าซื้อให้ลูกหลานที่บ้าน?”


ไม่คิดว่าคุณป้ารีบโบกมือปฏิเสธ “เปล่า ป้าซื้อมาดูของป้าเอง รอมาตั้งนานแล้ว จะได้เชียร์ลูกๆ ในทีมนี้สักที ป้าดีใจมาก”


“ซื้อให้ตัวเองเหรอ? เอ่อ แล้วคุณป้า…” พูดมาถึงตรงนี้ นักข่าวก็สะดุด “รู้จักใครในทีมหรือเปล่า?” เพราะเรียก ‘ลูก’ เสียเต็มปาก


คุณป้าตื่นตระหนกเล็กน้อย เพราะกล้องแพนมาจับภาพเธอ แต่จากนั้นดูเหมือนเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหยุดนิ่ง “ไม่ได้รู้จักหรอกค่ะ แต่พวกเขาช่วยป้าไว้เยอะ ป้าอยากมาขอบคุณพวกเขาที่ช่วยหาทนายมาว่าความเรื่องคดีลูกสาวป้า” พูดมาถึงตรงนี้ เธอก็ชะงัก “คุณพิธีกร ป้าขอยืมช่องทางของคุณคุยกับพวกเขาหน่อยได้ไหม”


นักข่าวถึงกับนิ้วเกร็ง “เชิญเลย คุณป้า” เพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าทีมไดมอนด์จะเห็นหรือเปล่า


“ป้าเห็นการแข่งของพวกลูกบนทีวีแล้วนะ ป้าแก่แล้วดูไม่รู้เรื่องหรอก แต่พอเห็นพวกลูกชนะก็รู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ มาคราวนี้ ป้าขายของได้เงินมาไม่น้อยก็เลยซื้อตั๋วเพื่อจะได้มาดูลูกแข่ง”


นักว่าไม่รู้ว่าจะไปต่ออย่างไร เพราะไม่ว่าจะเลือกสัมภาษณ์ใคร ก็ล้วนแต่มีซึ้งใจต่อทีมดังกล่าว


เขารู้ดีว่า ทำไมพวกเขาถึงมายืนตรงนี้ ยิ้มซื้อบัตร ไม่บังคับให้คุณชอบทีมที่พวกเขาสนับสนุน แต่พอถามถึง ก็ล้วนแต่พูดสบายๆ หรือยิ้มให้อย่างเขินอาย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ไหน พวกเขาไม่แม้แต่จากเดินจากไป ราวกับทุ่มพลังทั้งหมดมาพูด คุณคิดว่าพวกเราเป็นเพียงแสงจากหิ่งห้อยที่ไม่ประจักษ์ตา แต่เมื่อพวกเรารวมตัวกัน มันจะกลายเป็นคบเพลิง คบเพลิงที่คอยพิทักษ์ทีมนี้


“พวกเราจะไปสัมภาษณ์อีกไหม?” ช่างกล้องถามอยู่ข้างๆ เดิมพวกเขาอยากจะขยายปัญหาร้อนแรงในปัจจุบันให้เป็นประเด็น แต่ เห็นได้ชัดว่า พวกเขาดูจะล้มเหลว


นักข่าวก็เล่นเกมเหมือนกัน เล่นมานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีทีมไดมอนด์ พวกเขาไม่ได้ชอบมาก มันก็แค่เกมที่โผล่เข้ามาในชีวิตเรา ตั้งแต่เกม The King of Fighters Super Mario Audition Online Crossfire World of Warcraft Zhuxian Online จนมาถึงเกมเลเจนด์ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นชื่อที่คุ้นหูคุณ ราวกับจะทำให้คุณระลึกถึงอดีตว่าเราเป็นยังไง มีเพื่อนแบบไหนอยู่ข้างตัวที่สนิทเสียยิ่งกว่าคนรักเสียอีก


พวกคุณไม่มีอะไรที่พูดกันไม่ได้ กระทั่งยังไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน เสมือนเป็นความลับระหว่างเพื่อนหญิง พวกเราปีนกำแพงด้วยกัน เรียนรู้ที่จะสูบบุหรี่ แล้วกลัวพ่อแม่จะรู้เข้า จึงเปิดพัดลมแล้วสูบกันไม่หยุด จนสูบกันไม่เรียบร้อย ก็ทะเลาะกันขึ้นมา อ้างว่าเป็นการสู้กันระหว่างลูกผู้ชาย ทั้งที่จริงตอนนั้นพวกเราจะโตกันไม่เต็มที่เลย


นักข่าวก้มหน้า มองดูกระดาษพับที่คนมอบไว้ให้ตั้งแต่แรก ก่อนจะยกขึ้นฉีกเป็นชิ้นๆ “ก็ต้องสัมภาษณ์ต่อสิ แต่ต้องว่ากันตามจริง”


“แต่เบื้องบน…”


“ฉันรับผิดชอบเอง” คำตอบสั้นๆ จบทุกอย่าง ไม่มีใครคิดว่า พวกเขาจะเปลี่ยนแนวทางการสัมภาษณ์…


 ————————————-


ตอนที่ 1790-1


 ฝานเจียเห็นข่าวนี้แล้ว ถึงกับกำมือแน่น เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าตัวเองควบคุมอะไรไม่ได้ เดิมคิดว่าต่อให้ Z อยู่ด้วยก็ควบคุมจิตใจคนไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าพวกเขาว่าคนเหล่านั้นคิดอย่างไร ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าลุกขึ้นมายืนหยัดช่วยเหลือ ทำให้แววตาของเธอถึงกับหนักอึ้ง แต่ก็จนปัญญา ตอนแรกคิดจะเข้าใกล้กับคนเหล่านั้นจากมุมของแฟนคลับ เข้าไปใกล้ชิดเขา แล้วค่อยแยกพวกมันมาเป็นของตน ไม่คิดว่าจนในที่สุด เธอกลับแย่งได้ไม่กี่คน ซึ่งคนที่เธอแย่งมาได้ก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี แถมเฟิงอี้ก็เก่งใช่ย่อย ย่อมควบคุมด้านประชาสัมพันธ์ได้ยอดเยี่ยม


ฝานเจียรู้ตัวว่าแผนตัวเองอาจล้มเหลว จึงร้อนรนจนถึงขีดสุด


ทางด้านป๋อจิ่วในเวลานี้ก็เริ่มลงมือ เมื่อถึงเวลาที่ควรติดต่อคุณชายถัง เธอย่อมไม่ออมมือ แน่ล่ะ การคุยโทรศัพท์ในครั้งนี้ไม่อาจทำต่อหน้าคนอื่น


เธอหาข้ออ้างเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู จากนั้นเมื่อโทรติด ก็เอ่ยทันทีโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา “ฝานเจียอยู่ที่เจียงเฉิง ครั้งล่าสุดที่ปรากฏตัว เขาอยู่ที่ซอยเก่าแก่ติดถนนเส้นใหญ่ของเมือง ที่นั่นมีโรงแรมกับร้านอินเทอร์เน็ตเล็กๆ เยอะมาก แล้วกล้องวงจรปิดก็เยอะเหมือนกัน”


ปลายสายหัวเราะ “แค่จะบอกตำแหน่งฝานเจียให้ผมรู้เหรอ? แล้วไม่บอกให้รู้ด้วยล่ะว่าคุณอยู่ที่ไหน? หรือพูดอีกทีก็คือคุณเอาฉินมั่วไปซ่อนไว้ที่ไหน? พวกเราจะได้ตามหาเขาง่ายหน่อย แล้วพวกคุณยังต้องแข่งนี่นา?”


“พูดถูก ไม่งั้นคุณชายถังลองทำอะไรสักอย่างกับคณะกรรมการให้ท่านเทพลงแข่งสิ พวกคุณจะได้มาจับเขาไปไง ดีไหม?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้วเล็กน้อย เคาะนิ้วลงบนตัวเครื่องเป็นพัก ราวกับกำลังตอรองเงื่อนไข


“Z คุณคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณมีเจตนาอะไรงั้นเหรอ คุณเดาได้แต่แรกว่าพวกเราไม่กล้าจับเขาในสถานที่สาธารณะแน่ ถึงได้พาเขามาที่เจียงเฉิง ไม่ใช่เหรอ? การจะจับตัวเขาน่ะยุ่งยากจริงๆ ต้องหาข้ออ้าง แต่จะหาข้ออ้างยังไง ประชาชนทั่วไปไม่ยอมรับหรอก” คุณชายถังพูดถึงเรื่องนี้ก็ขยับเนคไท “ส่วนเรื่องหลัง ผมจะพูดในที่ประชุม มันยากเหมือนกันนะที่จะกล่อมพวกเขา”


ป๋อจิ่วได้ยินแล้ว มีท่าทีสบายๆ “คุณชายถังก็ถ่อมตัวเกินไป แค่กล่อมคนระดับนี้ สำหรับคุณแล้ว มันง่ายจะตายไป”


ปลายสายไม่รับลูกต่อ แต่เปลี่ยนไปเอ่ยเนิบๆ “ขอแค่คุณรับประกันได้ว่าฉินมั่วจะไม่ทำอะไร พวกเราก็จะไม่ลงมือ แต่ถ้าเขามีท่าที คุณต้องเตรียมใจไว้นะ”


“วันๆ แฟนฉันก็ยุ่งแต่จะหวานกับฉันเท่านั้นแหละ จะว่างไปทำอะไรได้” ป๋อจิ่วพูดไปเรื่อย อันที่จริงเธอรู้สถานการณ์ดี “ส่วนพวกคุณ ถ้าจับตัวยัยนั่นไม่ได้ ฉันไม่รังเกียจที่จับเองนะ”


“คุณจะจับเอง? หาเรื่องใส่ตัวเหรอ? Z ที่นี่คือประเทศจีนนะ ไม่ใช่ The Fifth Avenue คุณจะจับเขาหรือฆ่าเขากันแน่? คุณไปแข่งเถอะ ส่วนเรื่องอื่น ทางนี้จะจัดการให้เรียบร้อย อยู่ให้มันสงบเสงี่ยมบ้าง มันจะดีต่อคุณแล้วก็ดีต่อผู้ชายของคุณด้วย ผมพูดแค่นี้ คุณคงเข้าใจนะ”


ป๋อจิ่วเข้าใจอยู่แล้ว และเพราะเข้าใจ ถึงไม่ได้แฮกเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขนานใหญ่เพื่อตามหาร่องรอยของฝานเจียอย่างไรล่ะ เพราะหากเธอทำอะไรลงไป ในระหว่างที่คุมความประพฤติ มันจะกลายเป็นความผิดของเขา ดังนั้นเธอจะทำไม่ได้


“ถ้าไม่เหนือความคาดหมาย คืนนี้คงหาเขาเจอ” นี่คือคำพูดท้ายที่สุดของชายหนุ่ม เขาคนนั้นพูดได้ทำได้เสมอมา ในเมื่อบอกว่าคืนนี้ ย่อมไม่มีเลยเที่ยงคืน ป๋อจิ่วจึงสงบใจขึ้นมา หลังจากที่วางสาย ก็มีอีกสายโทรเข้ามา เป็นสายจากเฟิงอี้นั่นเอง


ป๋อจิ่วกดปุ่มรับสาย เสียงจากปลายสายดังขึ้น ราวอยู่อยู่ที่ไหนสักแห่งที่มีเสียงดังวุ่นวาย “บอกให้เจ้าพวกนั้นสบายใจได้”


———————————


ตอนที่ 1790-2


 คำพูดสั้นๆ นั้น ทำให้มุมปากของป๋อจิ่วแยกยิ้ม “ทางคณะกรรมการตกลงใช่ไหม?”


“ใช่” แม้จะเหนื่อยมาก แต่กลับยินดีมากที่อยากแบ่งปันให้คนอื่นรับรู้ “แต่ คนจากคณะกรรมการอยากดูฝีมือของเขาว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้ายังเก่งเหมือนเดิม รายชื่อผู้เข้าแข่งก็จะไม่เปลี่ยน”


ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว “จะดูยังไง? จะแข่งตอนนี้ก็ไม่ทัน?”


“ฉันส่งคลิปที่พวกเราฝึกเมื่อวานให้ทางคณะกรรมการดู พวกเขากำลังหาคนมาวิเคราะห์” เฟิงอี้พูดมาถึงตรงนี้ก็นิ่งไป “รอนิดหนึ่ง เดี๋ยวผลก็ออกมาแล้ว มีโอกาสก็ยังดีกว่าไม่มีนะ”


“โอเค” แววตาของป๋อจิ่วเป็นประกาย เฟิ่งอี้พูดไม่ผิดหรอก อย่างน้อยพวกเธอยังมีโอกาส…


ในเวลาเดียวกัน ภายในการประชุมภายในกลุ่มคณะกรรมการ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพาท่านเทพจากทีมเซียงหนานถึงสามคนเข้ามา โดยคนเดินนำเป็นหัวหน้าทีมเซียงหนาน ซึ่งก็คือเซียวจิ่งนั่นเอง ส่วนลั่วลั่วยืนด้านซ้ายและจ้าวซานพั่งยืนด้านขวา


บอกตรงๆ ถูกคณะกรรมการเรียกตัวมาในช่วงเวลาที่อ่อนไหวอย่างนี้ จ้าวซานพั่งกลัวอยู่เหมือนกัน


ผู้ที่นั่งอยู่กลางห้องประชุมยิ้มให้ “นั่งลงเถอะ อย่ายืนอยู่เลย ที่เรียกพวกคุณมาในครั้งนี้ เพราะอยากให้พวกคุณช่วยจนทำงานชิ้นนี้ให้หน่อย”


“งาน?” หน้าบานๆ ของจ้าวซานพั่งเป็นงง หันไปมองหัวหน้าทีมของตัวเอง แต่เห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง พอได้เห็นการเปรียบเทียบเช่นนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตื่นตูมไปหรือเปล่า


จ้าวซานพั่งบอกตัวเองให้นิ่งสุขุมเสียหน่อย ไม่งั้นจะเสียภาพลักษณ์ของการเป็นท่านเทพ แต่เขายังไม่ทันได้ปรับท่านั่งให้ดูดี คลิปหนึ่งก็ปรากฏอยู่นหน้าจอใหญ่ ชื่อไอดีที่ปรากฏในเกมเป็นชื่อที่พวกเขาได้ยินบ่อยครั้งมาก เพราะเจ้าของชื่อนี้ชอบอวดหวานกับแฟน กวนโมโหเป็นบ้า!


“ไอดีที่เห็นเป็นไอดีที่ฉินมั่วกำลังใช้เล่นอยู่” ชายคนดังกล่าวพูดพลางจับจ้องพวกเขา “เชื่อว่าพวกเธอคงได้ยินข่าวที่หลุดออกมาทางโลกออนไลน์แล้ว เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉินมั่วเป็นผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นมาก แต่ตอนนี้เขาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว คนที่จำอะไรไม่ได้อย่างเขาจะเหมาะต่อการแข่งระดับเอเชียหรือไม่ พวกเราไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ คลิปนี้เอามาจากอินเทอร์เน็ต ข้อมูลเชื่อถือได้ พวกคุณลองดูหน่อยซิว่า ถ้าดูจากเทคนิคการเล่น ระดับฝีมือของเขาในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”


จ้าวซานพั่งตาโต เรื่องทุ่มเทสุดแรงแต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรแบบนี้ ทำไมถึงให้ทีมเซียงหนานมาทำ! ซึ่งยังไม่รอให้เขาได้พูดออกมา ก็ถูกคนคว้าข้อมือไว้ เจ้ลั่วคนสวยยิ้มสื่อให้เขาหันหน้าไปมองอีกทาง จ้าวซานพั่งจึงได้เห็นว่า หัวหน้าของพวกเขาเริ่มวิเคราะห์การเดินตำแหนงกับสกิลการเล่นของตัวละครดังกล่าว


คนอื่นๆ ในคณะกรรมการก็ดูอยู่เช่นกัน เพราะล้วนแต่อยู่ในวงการ จะมากจะน้อยย่อมเข้าใจอยู่บ้าง


ในกลุ้มคณะกรรมการดังกล่าว ยังมีนักกีฬาเก่าที่อำลาวงการมาแล้ว แต่ที่เข้าใจดีที่สุด ยังเป็นทีมเซียงหนาน เพราะพวกเขาเป็นแชมป์ประเทศมาสามปีซ้อน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังเคยได้รองแชมป์ของระดับเอเชียอีกด้วย การได้พวกเขามาให้ความเห็นด้านสกิลการเล่น จึงเหมาะสมที่สุด


คลิปดังกล่าวไม่สั้น เพราะไม่ใช่แค่เกมเดียว แต่เป็นสามเกมติด หลังจากที่สิ้นสุด ชายคนนนั้นยกมือปิดหน้าจอ สายตากวาดมองรอบโต๊ะประชุม “เราจะใช้วิธีโหวดมาตัดสิน ตอนนี้มีคนอยู่ทั้งหมดสิบเอ็ดคน ทุกคนห้ามงดออกเสียง ถ้ายอดเห็นด้วยมีหกเสียง ทีมไดมอนด์จะถูกใช้ครบทีม ถ้าเป็นผลในทางตรงกันข้าม จะต้องถอดสิทธิ์ของฉินมั่ว ซึ่งก่อนที่จะลงโหวต เราสามารถออกความเห็นได้”


 ———————————–


ตอนที่ 1791-1


“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมขอพูดก่อนเป็นคนแรก ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่จุดยืนผมชัดเจน ผมไม่คิดว่าฉินมั่วยังเหมาะที่จะแข่งชิงแชมป์เอเชีย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาเสียความทรงจำไป แค่อาการบาดเจ็บที่มือก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งได้ แถมในสนามแข่งยังมีเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นมากมาย ความสามารถของเขาในตอนที่สูญเสียความทรงจำต้องสู้เมื่อก่อนไม่ได้ เขาย่อมสร้างความมหัศจรรย์อะไรไม่ได้หรอก ถึงจะน่าเสียดายแค่ไหน ผมก็ยังชื่นชมนักกีฬาอย่างฉินมั่ว แต่เราต้องพิจารณาถึงส่วนรวม ผมขอโหวตไม่เห็นด้วย” คนคนนั้นช้อนสายตาขึ้นมอง พูดอย่างเด็ดขาด


คนที่นั่งข้างๆ ยังคงปรึกษากันอยู่ ดูเหมือนจะพิจารณาข้อเสนอของเขา


เซียวจิ่งจึงเอ่ยขึ้นมา “คุณหลี่พูดไม่ผิดหรอกครับ ความสามารถของฉินมั่วในตอนนี้สู้เมื่อก่อนไม่ได้จริงๆ แต่เขาสามารถพัฒนาได้เร็วกว่าทุกคน จากคนที่ไม่รู้เรื่องเกมเลยมาสู้เดี่ยว แค่ใช้เวลาในการแข่งเกมเดียวก็ไม่เคยแพ้ใครอีกในเกมอื่น แถมยังใช้ตัวละครที่ไม่เหมือนกันด้วย ทุกครั้งที่เปิดเกมเล่น เขาจะทำความเข้าใจในสกิลของตัวละคร หลังจากนั้น 3 นาทีก็เรียนรู้จนเป็นหมด กระทั่งยังฆ่าคืนได้ ตอนอยู่เลนกลาง เขาเล่นเป็นนักฆ่าที่ดูเหมือนจะงั้นๆ แต่กลับคำนวณไว้ทุกย่างก้าว ไม่งั้นเขาคงไม่เคยถูกนักฆ่าฝ่ายคู่แข่งจับได้สักที ถ้าสังเกตคะแนนของเขา เราจะรู้ว่าถึงจะไม่ได้คะแนนสูงที่สุด แต่จำนวนครั้งที่รวมทีมสู้กลับเต็มร้อย การแข่งพวกนี้ดูเหมือนว่านักฆ่าจะเป็นคนนำฟอร์ม แต่อันที่จริง ไม่ว่าเขาจะเล่นเป็นตัวไหนก็นำฟอร์มได้หมด แถมยังชนะทุกเกมด้วย สำหรับเกมเมอร์ลีกส์อาชีพแล้ว เกมแบบนี้อาจไม่ยาก แต่ถ้าจะมั่นใจเอาชนะให้ได้ทุกเกม ก็ใช่ว่าเกมเมอร์ลีกส์อาชีพจะทำได้ทุกคน เพราะนอกจากตัวเองแล้ว เกมเมอร์อีกสี่คนก็ใช่ว่าจะควบคุมได้  ถ้าอยากจะชนะ ก็ต้องคุมทุกปัจจัยทั้งหมดไว้ให้ได้ แล้วยังต้องนำฟอร์มแบบไม่ให้รู้ตัว ไม่เพียงแต่จะต้องรู้จุดเด่นจุดด้อยของเพื่อนร่วมทีม ยังต้องเดาได้ว่าคนของฝ่ายตรงข้ามอยู่ที่ตำแหน่งไหน อย่างน้อยที่สุดเขาก็ต้องคุมเงื่อนไขสองข้อนี้ให้ได้ คะแนนการแข่งแบบนี้ ผมคงไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งการเดิน เพราะคนที่อยู่ที่นี่บางคนก็ไม่เล่นเกม ผมแค่อยากถามว่า มีใครทำได้บ้าง?”


น้ำเสียงของชายหนุ่มราบเรียบ แต่กลับทำให้คนที่ยึดมั่นเมื่อครู่ ลังเลใจขึ้นมา


เซียวจิ่งจ้องมองอีกฝ่าย “ในเรื่องการเล่นเกมออนไลน์ ไม่มีใครที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าฉินมั่ว แม้หลายปีที่ผ่านมา ผมไม่อยากยอมรับปัญหานี้ แต่มันมีจริงๆ ยิ่งไปว่านั้น ถึงแม้เขาจะลืมบางอย่างไป แต่ร่างกายเขายังจำได้ อีกเรื่อง ผมคิดไม่เหมือนกับคุณหลี่ เพราะเขาเป็นคู่แข่งของผม ผมรู้สึกทุกครั้งเลยว่า ถ้ามองอย่างเป็นกลาง ทีมเซียงหนานของพวกเราแกร่งกว่าทีมไดมอนด์เยอะ แต่พวกเขามักจะมาเหนือเมฆเกินกว่าที่พวกเราคาดคิด เราจะประเมินเขาด้วยระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้ เพราะพวกเขาเป็นประเภทยิ่งเจอแข็งก็ยิ่งแกร่ง หัวหน้าทีมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน คุณหลี่พูดว่าเขาสร้างความมหัศจรรย์อะไรไม่ได้หรอก แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะปีนั้นหลายคนเห็นกันหมดว่าเขาไม่น่าจะสกัดผม ซานพั่งกับลั่วลั่วได้หรอก แต่เขาเล่นสู่ 1:3 ล้มป้อมคริสตัลได้ในพริบตา เรียกว่าจุดไฟให้กับวงการอีสปอร์ตของจีนเลยทีเดียว ในตอนนั้นไม่มีใครเห็นความเก่งของเขา ซึ่งก็เหมือนในตอนนี้นี่แหละ”


 ————————————


ตอนที่ 1791-2


คุณหลี่ไม่พูดอะไรอีก กลืนคำพูดทั้งหมดกลับไป ก่อนจะนวดหัวคิ้ว วางปากกาลงเหมือนกำลังครุ่นคิด


บรรยากาศในห้องประชุมเงียบกริบ เมื่อเห็นเป็นดังนั้น คนที่นั่งตรงกลางจึงมองรอบห้อง เอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้พวกคุณต่างมีความเห็นเป็นของตัวเอง งั้นก็โหวตเถอะ คนที่เห็นด้วยยกมือขึ้น”


เซียวจิ่งเป็นคนแรกที่ยกมือ ส่วนซานพั่งและลั่วลั่วยกตามมา ส่วนที่เหลือไม่ว่าเซียวจิ่งจะพูดอย่างไร ต่างสงวนท่าทีอย่างเดียว ยึดตำแหน่งตัวเองไว้โดยไม่หวังผลงาน แต่พวกเขาจะต้องไม่ผิดพลาด หากฉินมั่วลงแข่งแล้วเกิดปัญหาขึ้นในระหว่างการแข่งขัน พวกเขายังต้องรับผิดชอบอีก แต่ในทางกลับกันหากฉินมั่วไม่ลงแข่ง อย่างน้อยก็ไม่เกิดปัญหาขึ้น


ซางพั่งเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า รู้สึกหายใจลำบากเป็นครั้งแรก เขาไม่เข้าใจว่าการมาของพวกเขามีความหมายอย่างไร ในเมื่อมีพวกเขาแค่สามคนที่ยกมือ ส่วนคนอื่นกลับไม่คิดจะเห็นด้วยตั้งแต่แรก


ในขณะที่เซียวจิ่งยังคิดจะปล่อยมือลงแล้วเดินออกไป คุณหลี่เหมือนจะตัดสินใจได้ และยกมือขึ้นในที่สุด คนที่นั่งขนาบซ้ายและขวาของเขาพลอยยกมือไปด้วย แววตาของซานพั่งหวั่นไหวเพราะไม่อยากเชื่อ “คุณ…”


“การแข่งขันที่เซียวจิ่งพูดถึง ผมก็อยู่ด้วย” คุณหลี่พูดพลางยิ้ม “ตอนนั้นทุกคนลุกขึ้นปรบมือให้เขา ชนิดทุ่มเทจนสุดกำลัง เขาอุตส่าห์รอดมาได้ในสถานการณ์วิกฤต ขึ้นสู่ความเป็นสุดยอด ถ้าผู้เข้าแข่งขันอย่างฉินมั่วต้องถูกสกัดไว้จริงๆ ก็น่าเสียดาย”


เซียวจิ่งได้ยินแล้ว แววตาวาววับ เอ่ยเพียงว่า “ขอบคุณครับ”


ด้วยเหตุนี้ จากสามเสียงที่มีจึงกลายเป็นหกเสียง พวกเขารักษาสิทธิ์ให้ฉินมั่วสำเร็จแล้ว แต่รอจนจะเดินจากไป  กลับมีคนเรียกเซียวจิ่งเอาไว้ “หัวหน้าเซียว คุณฉลาดจะตาย ทำไมถึงมองไม่ออกถึงเจตนาในการประชุมครั้งนี้ แถมยังช่วยฉินมั่วอีก? ถ้าคุณไม่พูดอะไร ก็จะมีข้อเสนอออกมาให้คุณเข้าไปอยู่ในทีมไดมอนด์ชั่วคราว รอจนแข่งระดับเอเชียจบก็ค่อยกลับทีมตัวเองไป มันย่อมเป็นไปได้ เพราะเราต้องพิจารณาถึงส่วนรวม”


“ดูเหมือนคุณจางจะเข้าใจผิด” เสียงของเซียวจิ่งนิ่งเหมือนเดิม “ผมแค่วิเคราะห์ด้านเทคนิคการเล่น ถ้าฉินมั่วเล่นแย่มาก ผมจะโหวตไม่ให้เขาผ่าน อีกอย่างทีมหนึ่งๆ จะดีหรือไม่ ต้องดูว่าลูกทีมศรัทธาหัวหน้าทีมหรือเปล่า ทีมอย่างทีมไดมอนด์ พวกเขาไม่คิดว่าผมจะแทนที่ฉินมั่วได้หรอก เช่นเดียวกัน ทีมเซียงหนานของผมก็ไม่ยอมให้ผมไปแน่นอน ถ้าพิจารณาเพื่อคนส่วนรวมจริงๆ ก็ให้ลูกทีมที่จะแข่งเป็นคนตัดสินดีกว่า เพราะหากอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา อาจจะแข่งไม่ได้ผลดี”


เซียวจิ่งพูดจบก็เดินนำซานพั่งและลั่วลั่วตรงไปที่ลิฟต์ ส่วนคุณจางแค่นยิ้มออกมาด้วยความโมโห  ไอ้พวกเด็กบ้าเกมงี่เง่านี่มันยังไงกัน คิดว่าดังในวงการนี้แล้ว ตัวเองจะเท่าเทียมกับการแข่งขันกีฬาอย่างอื่นงั้นสิ? มันก็แค่ของเล่นนั่นแหละ ถือดีว่ามีแฟนคลับเยอะเลยโอหัง ระวังเถอะ จะร่วงลงมาสักวัน!


คำพูดของเขาไม่น่าฟัง พอจะหลุดลอยเข้ามาในตัวลิฟต์ จ้าวซานพั่งได้ยินเข้าก็กดลิฟต์เปิด พุ่งจะไปเอาเรื่องกับคนพูดทันที


 ———————————


ตอนที่ 1791-3


เซียวจิ่งจับตัวห้ามไว้ “จำเป็นเหรอ?”


จ้าวซานพั่งโมโหมาก “เขาพูดบ้าอะไร เขา…”


“มีคนหลายคนพูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ แถมยังมีคนบอกว่าจะชนะหรือแพ้ มันก็ไม่สำคัญ เพราะมันเป็นแค่เกม แพ้แล้วจะเป็นไรไป” เซียวจิ่งหันไปมองอีกด้าน “เวลานี้ ขอแต่ชนะเป็นพอ”


ไม่ต้องพูดอะไร ขอแค่ชนะ เอาเกียรติยศมาให้ประเทศ ถึงจะได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น คนพวกนั้นคิดเช่นนี้เสมอมา


เซียวจิ่งมองดูผนังขาวที่แปะป้ายโฆษณาของทีมไดมอนด์ เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่ง ทุกคนจะเข้าใจว่า พวกเขาไม่ได้เล่นเกมบ้าบอ แต่กำลังเล่นลีกส์อาชีพต่างหาก ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต


เฟิงอี้กำลังรอข่าวอยู่นอกตึก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาไม่หยุดชะงักสักนิด และพอรู้ผลก็รีบโทรหาป๋อจิ่วทันที


ป๋อจิ่วได้ยินแล้ว มุมปากแยกยิ้มอย่างเห็นได้ชัด แค่ในห้องนี้ขาดคนคนหนึ่งที่เธออยากให้เขารู้มากที่สุด ส่วนสมาชิกคนอื่นยังอยู่ครบ


เมื่อหลินเฟิงทราบผลการตัดสินของทางคณะกรรมการ ถึงกับกระโดดตัวลอยจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ หันไปกอดป๋อจิ่วสุดตัว ถามอย่างดีใจว่า “จริงเหรอ? เจ้าแบล็ก นายพูดจริงใช่ไหม?”


“นายลองเปิดมือถืออ่านสิ จิ้งจอกเฟิงส่งข่าวมาในวีแชทแล้ว”


นั่นไง ส่งข้อความมาทางกรุ๊ปวีแชทจริงด้วย หลินเฟิงดีใจเอามาก ดีจังเลยๆ แต่พอดีใจเสร็จก็พลันนึกอะไรออก สันหลังเย็นวาบในทันใด หันไปมองตำแหน่งที่ฉินมั่วนั่งเมื่อครู่ทันที เมื่อพบว่าเจ้าตัวไม่อยู่ก็โล่งใจ โชคดีนะที่หัวหน้าไม่เห็นสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่นี้


ทุกคนต่างดีใจ แค่วิธีการแสดงออกไม่เหมือนกัน ป๋อจิ่วไปหาเหราหรงที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้วเอ่ยถาม “พี่มั่วไปไหน?”


“น่าจะไปห้องน้ำนะ” เหราหรงไม่รู้เหมือนกัน


ห้องน้ำเหรอ? ตอนที่เธอมา ที่นั่นไม่มีใครนี่


เฟิงซ่างพูดขึ้น “หา หัวหน้า มะ เหมือนจะอะ…ออกไป ซื้อลูกอม”


ลูกอม? ทุกคนไม่อยากเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะขึ้นได้ คนอย่างหัวหน้าเนี่ยนะจะไปซื้อลูกอมได้ยังไง? นิ้วมือของป๋อจิ่วดูเหมือนจะแข็งทื่อ ก่อนจะสาวเท้าลงตึกไป


แต่กระนั้นเมื่อ 3 นาทีที่แล้ว ณ ร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงตรงหน้าเขตที่พักซึ่งอยู่ข้างนอกอะพาร์ตเมนต์


ฝานเจียคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ เธอยังวางแผนจะลงมือตอนค่ำ ไม่คิดว่าจะได้เห็นคนที่คาดไม่ถึง เธอถึงกับเบิกตากว้าง เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินซุกมือในกระเป๋าข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างไล่สินค้าไปตามชั้นวางสินค้า ราวกับจะเลือกอะไรสักอย่าง ใบหน้านั่นไม่ต่างจากที่เธอฝันถึงแม้แต่น้อย แค่ตอนนี้ดูเหมือนจอมมารที่ถูกปลดปล่อย เธอยังรู้สึกได้ถึงความร้ายกาจที่ไม่เหมือนเดิมจากเรียวปากบางที่แย้มยิ้มนิดๆ อีกด้วย


ไม่นาน ฝานเจียก็ระลึกได้ว่านี่เป็นโอกาสทองที่จะลงมือ! เพราะนอกจากตัวเขาแล้ว ไม่มีใครติดตามมาด้วย บวกกับการยืนเลือกของในชั้นวางสินค้าอันเดียวกัน ย่อมไม่ทำให้ใครสงสัย


หลังจากที่ตัดสินใจ ฝานเจียข่มอารมณ์ไว้ เดินสาวเท้าตามร่างสูงสง่าไป และพอจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดอยู่บ้าง “ปกติยัยนั่นน่าจะชอบยี่ห้อนี้”


เมื่อเห็นปลายนิ้วของชายหนุ่มสัมผัสลูกอมชิ้นหนึ่ง ส่งผลให้ฝานเจียไม่คิดเลยว่าเขาจะมาซื้อขนมหวานไม่ต้องเดาเลยว่า ‘ยัยนั่น’ จากคำพูดของเขาจะหมายถึงใคร?


ความริษยาอย่างสุดแสน ทำให้ฝานเจียกำมือแน่น จนปลายเล็บจิกเข้าเนื้อ!


ในขณะที่เธอจะอ้าปาก เสียง ‘ฟึ่บ!’ ดังขึ้น ไพ่ใบหนึ่งบินผ่านหน้าเธอไป ฝานเจียรีบหลบทันที มองดูไพ่ที่บินเหมือนมีดไปปักขนมปังด้านหลังเธอ สีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงระโหยโรงแรง “พี่มั่ว พี่จำฉันไม่ได้แล้วเหรอคะ?”


 ————————————-


ตอนที่ 1791-4


พี่มั่ว? ฉินมั่วได้ยินชื่อดังกล่าวถูกเรียกออกจากปากเธอ รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าเขาไม่ชอบใจ


เดิมทีฝานเจียคิดจะฉวยจังหวะที่ชายหนุ่มสูญเสียความทรงจ เข้าไปใกล้ชิดเขา แต่ไม่คิดว่าแค่เธอพูดจบ เขาก็ดึงเอาลูกอมมาถุงหนึ่งแล้วเดินไปจ่ายเงิน เหมือนไม่อยากจะมองหน้าเธอสักนิด


ฝานเจียหรี่ตาลง หันไปบังทางของฉินมั่ว “พี่มั่ว พี่คิดว่านังนั่นชอบพี่จริงๆ เหรอคะ เขาแค่อยากให้พี่ลงแข่งการแข่งชิงแชมป์เอเชียเท่านั้น ถึงได้เชื่อฟังพี่ทุกอย่าง ถ้าไม่เชื่อฉันมีรูปให้พี่ดู เขากับโฮชิโนะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ไม่ได้แค่ชื่นชมกันตามปกติ พวกเขาเป็นคู่หูที่สนิทกันมาก ตอนแรกเขาช่วยโฮชิโนะล้างข้อหาทั้งหมด จนใช้เล่ห์กลมาหลอกพี่ พี่ลืมเรื่องพวกนี้หมดแล้วเหรอคะ?”


ฝานเจียคิดว่าเธอพูดขนาดนี้แล้ว เขาน่าจะฟังเธอบ้างสักนิด ไม่คิดว่าเขาแค่ตอบเธออย่างเย็นชาที่ก่อตัวมาจากความเหนื่อยหน่าย “ไสหัวไป”


ฝานเจียนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เพราะแววตาที่เขามองเธอ ไม่มีความอ่อนโยนสักนิด ราวกับว่าหากเธอพูดมากอีกนิดเขาจะฆ่าเธอเสีย ดูท่าแล้วเธอไม่น่าใช้วิธีนี้เลย


แต่ในเมื่อเธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวัง! นัยน์ตาฝานเจียตึงเครียด “ฉินมั่ว อย่าโกหกตัวเองเลย คนที่สำคัญที่สุดของพี่น่ะตายไปแล้ว เพราะพี่จับตัวเขาไม่ได้ พี่คงจำได้ว่าน้ำนั่นมันลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง…”


ฉินมั่วไม่คิดจะฟังจนจบ ทว่าเมื่อตัวอักษรเหล่านั้นผ่านเข้ากระดูกหู ก็เหมือนจะซึมเข้าสมองเขาทันที เขารู้ทันทีว่ามันคือคำสั่งที่แฝงทางจิต คิดจะหนีไป แต่พอประโยคที่ว่า ‘คนที่สำคัญที่สุดของพี่ตายไปแล้ว เพราะพี่จับตัวเขาไม่ได้….’ ก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรงทันที จนเขาต้องกุมศีรษะตัวเอง


ฝานเจียยังคงพูดต่อ ทั้งยังเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าวๆ เหมือนงูที่แลบลิ้นออกมา “เขาจมลึกลงไปเรื่อยๆ  ลึกลงไปเรื่อยๆ กว่าพี่จะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะตอนที่เขาต้องการพี่ พี่กลับไปช่วยคนอื่น”


เสียง ‘ผัวะ’ ดังขึ้น สมองเขาเหมือนถูกกรีดออก แววตาของฉินมั่วไม่เคยคมกล้าเหมือนเดิม แถมสีนัยน์ตาก็อ่อนลงเรื่องๆ เหมือนเห็นสิ่งของบางอย่าง แต่ก็เหมือนไม่เห็น เขายื่นมือออกไปคว้า กลับได้แต่ความว่างเปล่า


ฝานเจียจงใจเดินหนีมายืนมองเขาอยู่ด้านข้างแล้วเอ่ยต่อ “พี่รู้ดีกว่าใคร คนที่ผิดมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตัวพี่นั่นแหละ ถ้าพี่เชื่อเขา ไม่แคร์คนอื่น ยอมทิ้งความรับผิดชอบทั้งหมด เขาก็ไม่ตายแล้ว  โถ Z ที่น่าสงสาร คนทั้งโลกไม่ยอมรับ แถมยังต้องจมอยู่ใต้น้ำตลอดกาล พี่ก็เห็นตอนที่เขาดิ้นรนเอาชีวิตรอดในน้ำนี่ ตอนเด็กๆ พี่รับปากเขาไว้ พอโตแล้วไม่ว่าจะทำอะไรพี่จะนึกถึงเขาก่อน พี่นั่นแหละที่เป็นคนผิดคำพูด พี่เป็นคนทำให้เขาตาย”


เมื่อฝานเจียพูดประโยคสุดท้าย นัยน์ตาของฉินมั่วก็แข็งกร้าว เมื่อเขายกมือขึ้นอีกครั้งกลับรุนแรงมาก มากจนข้อนิ้วซีดขาว ทั้งอ่อนแอและแข็งแกร่ง เพราะความแข็งแกร่งนี่แหละที่ทำให้พี่ชายเธอไม่ประสบความสำเร็จในตอนนั้น


ฝานเจียกำมือแน่น เป็นครั้งแรกที่เธอไม่หลบ แต่เป็นฝ่ายยื่นมือไปจับมือเขาเอง เมื่อฉินมั่วมีของบางอย่างในมือก็ยึดเอาไว้แน่น…


………………………………………………


 ตอนที่ 1792


 ยิ้มที่ติดมุมปากของฝานเจียถึงกับแข็งทื่อ! เพราะเธอคิดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มไม่จับมือเธอ แต่กลับกำด้ายแดงที่คล้องบนคอเขา เส้นด้ายนั้นบางมาก หากไม่ดูให้ดีก็จะไม่เห็น ปลายเชือกเส้นนี้มัดฮู้เอาไว้


ฝานเจียเห็นแล้ว กัดฟันแน่น รับไม่ได้ว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว หัวใจของเขายังจำนัง Z ที่ตายไปนานแล้วได้อีก แต่กุญแจกระตุ้นคำสั่งที่แฝงทางจิตไม่มีวันไร้ผลแน่


เมื่อครั้งที่อยู่สามเหลี่ยมทองคำ เขาได้ดูคลิปที่พวกเธอจงใจสร้างขึ้นมา บวกกับสิ่งแวดล้อมที่ทะเลสาบนั่น และการสูญเสียความทรงจำของเขาในตอนนี้ มันล้วนแต่อธิบายได้ว่าเขาได้รับผลกระทบ ไม่งั้นคงไม่เสียความทรงจำอีกครั้งหรอก พอเธอมากระตุ้นอย่างหนักในครั้งนี้ สภาพจิตใจของเขาต้องพังทลายสิ!


ฝานเจียมองดูแววตาที่สับสนของเขา เอ่ยเสียงต่ำ “พี่มั่ว ฉันเอง”


“เธอ?” ฉินมั่วค่อยๆ มองต่ำลง


ฝานเจียเหมือนเห็นความหวัง แววตาเธอสว่างโรจน์ “ไม่ผิดหรอก ฉันเอง Z พี่ลืมไปแล้วเหรอ พี่ตามหาฉันตลอดเวลาไง”


“ไม่ลืม” ฉินมั่วคลายฮู้ในมือลง หันไปยิ้มให้ “ฉันหาเธอมาโดยตลอด”


ฝานเจียจึงรู้ว่าสำเร็จแล้ว ภายใต้จิตสำนึกของเขา เขาถือว่าเธอคือ Z เมื่อครั้งแรกาสุดที่เธอเข้าไปใกล้ชิดเขา ก็หวังจะอาศัยสถานะของ Z นี่แหละ เพราะพวกเธอค้นพบว่า ฉินมั่วใส่ใจต่อปัญหาของ Z มาก อันไม่เหมือนสไตล์เขาในยามปกติ


ทว่าเวลานั้น เขาไม่มีช่องว่างให้พวกเธอโจมตี แม้ว่าจะมีข้อมูลในมือมากมายแค่ไหน เธอแค่ปรากฏตัวได้เพียง 3 วัน ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ถูกเขาฉีกหน้ากากเรียบร้อย แถมยังล้วงข้อมูลของขบวนการจากเธอได้อีกต่างหาก


ฝานเจียไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย เธอคิดว่าอุตส่าห์ได้โอกาสที่จะเป็นคนรักของเขาแล้ว แต่กลับไม่สำเร็จ ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เขามีจุดอ่อนให้เธอโจมตี แถมยังเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุด ในเมื่อไม่อยากยอมรับว่าคนคนนั้นได้จากไปแล้ว เธอจะสวมรอยแทนแล้วกัน


ฝานเจียไม่สนหรอก เพราะเธอในเวลานี้ได้กลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของเขาแล้ว “พวกเราไปกันเถอะ พี่มั่ว?” เธอยิ้มบางๆ


ฉินมั่วเลิกคิ้ว “ไปไหน?”


“ไปที่ที่ไม่มีคนอื่น” ฝานเจียงลอบมองด้านข้าง “ที่นี่เสียงดังเกินไป”


ฉินมั่วไม่ปฏิเสธ ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีเสียงบอกตนเองว่า ผู้หญิงคนนี้สำคัญมาก เชื่อเธอไว้ไม่ผิดหรอก


เมื่อเห็นฉินมั่วพยักหน้า ยิ้มที่ติดมุมปากของฝานเจียยิ่งลึกซึ้งเข้าไปใหญ่ เธอยื่นมือจะจับข้อมือชายหนุ่มไว้ แต่กลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า เธอขมวดคิ้ว “พี่มั่ว”


ฉินมั่วไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้หลีกหนีเธอ ราวกับเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติทางร่างกาย ฝานเจียจึงทดลองอีกครั้ง โดยหวังจะยึดเขาให้ได้ แต่ผลก็ออกมาเช่นเดียวกัน เธอสูดลมหายใจเข้าลึก  ราวกับเข้าใจอีกฝ่ายดี “ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าตอนนี้พี่ยังไม่ชินกับการที่มีคนอื่นอยู่ใกล้ รวมถึงฉันด้วย เอาอย่างนี้ พวกเรากลับไปด้วยกันก่อน แล้ววันพรุ่งนี้หรือไม่ก็มะรืนนี้ เราค่อยออกนอกประเทศ”


“ได้” คำตอบรับจากฉินมั่ว ทำให้ฝานเจียมั่นใจยิ่งขึ้น เหลือแค่เวลา รอให้ผ่านไปนานเข้า เขาจะไม่รังเกียจเธอเหมือนในเวลานี้ “งั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะ หลายคนอยากให้เราแยกจากกัน ถึงขั้นเอาตำรวจมาจับฉันเชียวนะ พี่มั่ว พี่จะคุ้นครองฉันใช่ไหม?”


……………………………………


ตอนที่ 1793


 “อื้ม” แม้ว่าคำตอบที่ได้จะเย็นชา ทว่ามันทำให้ฝานเจียเห็นถึงยันต์รักษาชีวิตตน ขอเพียงมีเขาอยู่ด้วย ทางตำรวจย่อมหาพวกเธอได้ยาก


ฝานเจียไม่กล้าอยู่ตรงนี้นานๆ  จึงเร่งให้ฉินมั่วไปด้วยกัน ทว่าชายหนุ่มกลับหยุดนิ่ง เธอมองตามสายตาเขาไปหยุดที่กล่องลูกอม ทำให้ความริษยาท่วมนัยน์ตา “พี่มั่ว ถ้าไม่ไปด้วยกันอีก ฉันจะเป็นอันตรายนะ พี่อยากเห็นฉันตายอีกครั้งใช่ไหม?”


คำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนเข็มที่ทิ่มเข้าสมองฉินมั่ว เขาถึงกับหันหน้าทันที ก่อนจะติดตามเธอออกจากร้านสะดวกซื้อไป


ฝานเจียอยากจะออกไปจากที่นี่ท่าเดียว เธอเรียกรถแท็กซี่อย่างร้อนรน หลังจากที่ดึงประตูเปิด ก็เอ่ยถึงสถานที่ปลายทาง แล้วดึงหน้าต่างปิดให้เรียบร้อย ราวกับไม่อยากให้ฉินมั่วเห็นบรรยากาศด้านนอก


และในเวลานี้นี่เอง ป๋อจิ่วเดินออกจากเขตที่พักมายังร้านสะดวกซื้อ ไม่เห็นรถแท็กซี่ที่ขับพรวดออกไปบนถนนฝั่งตรงข้าม แน่ล่ะ คนในรถแท็กซี่ย่อมไม่เห็นคนจากที่ไกลๆ


ป๋อจิ่วเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ มองถึงสองรอบ แต่หาตัวท่านเทพไม่เจอ เขาน่าจะยังไม่กลับ หากกลับไปแล้ว เธอต้องเจอเขาสิ งั้นเขาไปที่ไหน?


ป๋อจิ่วย่นหัวคิ้ว คิดดูแล้วก็เดินไปยังตรงหน้าพนักงานในร้าน ยื่นมือไปช่วยอีกฝ่ายพยุงกล่องสินค้า เรียวปากบางแย้มนิดๆ “สวัสดีฮะ ผมขอถามนิดหนึ่ง”


“เอ่อ? ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ” พนักงานเอ่ยขอบคุณหน้าแดง มองดูใบหน้าอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น คิดในใจว่าเธอโชคดีอะไรอย่างนี้ ถึงได้เจอแต่คนรูปหล่อ


ป๋อจิ่วเห็นอีกฝ่ายหวั่นไหวก็ย้ำอีกครั้ง “ผมขอถามนิดหนึ่งว่า เมื่อกี้คุณเห็นผู้ชายคนหนึ่งไหม เขาตัวสูงมาก ใส่เสื้อกันลมสีดำ ไม่ค่อยพูด หน้าตาหล่อมาก เขามาซื้อลูกอมน่ะฮะ”


“หน้าตาหล่อมาก” ข้อมูลนี้ทำให้พนักงานตอบไปทันทีโดยไม่ต้องนึก “เห็นค่ะ เมื่อกี้เขายืนตรงนี้นี่แหละค่ะ แล้วมีผู้หญิงท่าทางลับๆ ล่อๆ คนหนึ่งมาคุยกับเขา จากนั้นเขาก็ตามผู้หญิงคนนั้นไป”


ผู้หญิงเหรอ? นัยน์ตาของป๋อจิ่วถึงกับอึ้ง ท่านเทพไม่น่าจะรู้จักผู้หญิงที่ไหน เธอครุ่นคิด แล้วถามเพิ่ม “คุณแน่ใจนะว่าเขาเป็นคนเดียวกันกับคนที่ผมพูด”


“แน่ใจสิคะ!” พนักงานตาเป็นประกาย “ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก ขนาดที่คนลืมยาก พวกเรายังสงสัยอยู่เลยว่าเขาเป็นดาราหรือเปล่า”


ท่านเทพจริงๆ ด้วย แต่ ทำไมเขาไปกับผู้หญิง!


ทันใดนั้น ข้อมูลบางอย่างก็ผุดขึ้นในสมอง แววตาเธอช็อก นิ้วมือถึงกับสั่น เธอคว้าไหล่พนักงานคนดังกล่าว “ที่นี่ต้องมีกล้องวงจรปิดแน่? ขอผมดูหน่อยได้ไหม?”


“เอ่อ…” พนักงานลำบากใจ “ต้องถามผู้จัดการก่อนนะคะ”


เสี้ยวหน้าหล่อๆ ของป๋อจิ่วฉายแววตื่นตระหนกเป็นครั้งแรก “ผู้จัดการของพวกคุณอยู่ที่ไหน?”


“ดูเหมือนเขาจะอยู่ร้านข้างๆ นะคะ เอาอย่างนี้ละกัน ฉันจะโทรหาเขา” พนักงานคนนี้ถือเป็นคนมีน้ำใจ ด้วยเห็นหนุ่มน้อยท่าทางกระวนกระวาย หันหน้าไปสไลด์มือถือ


ทว่าเธอกลับคิดไม่ถึงว่า ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ให้เวลาเธอ ในระหว่างที่เธอหันหน้าไป หนุ่มหล่อก็ค้ำมือข้างหนึ่ง ส่งตัวเข้าไปด้านในเคาน์เตอร์เก็บเงิน โดนมืออีกข้างกดบนไหล่ของพนักงานคนดังกล่าว “ขอโทษนะฮะ ผมขอใช้คอมพิวเตอร์หน่อย”


………………………………….


 ตอนที่ 1794-1


 “คุณคะ คุณจะทำอะไรคะ! นี่เป็นเคาน์เตอร์ของร้านเรานะคะ จะเข้าไปตามอำเภอใจอย่างนี้ไม่ได้” สาวแคชเชียร์ตกใจหนัก ก็จะให้คนอื่นที่ไม่ใช่พนักงานร้านเข้ามายุ่งกับคอมพิวเตอร์ของทางร้านได้ยังไง!


ทว่าแรงที่กดบนไหล่เธอหนักมากจนสะบัดไม่หลุด เด็กผมสีเงินหล่อเหลาได้แต่เอ่ย “ขอโทษด้วย” ส่วนมืออีกข้างของเขาก็กำเมาส์เอาไว้


เธอเห็นมือข้างนั้นจับเมาส์เสร็จ ก็วางบนคีย์บอร์ดทันที ทั้งๆ ที่เป็นมือแค่ข้างเดียว แต่กลับพิมพ์ได้เร็วกว่าตอนที่เธอพิมพ์ทั้งสองข้างเสียอีก เห็นเพียงเอกสารบนหน้าจอถูกเปิดออกมาอย่างรวดเร็ว ทว่าในระหว่างที่ยังเห็นไม่ทันว่าหนุ่มน้อยคนนี้กำลังทำอะไร ระบบของคอมพิวเตอร์ก็เปลี่ยนไป จึงทำได้แค่เอียงศีรษะสื่อให้พนักงานคนอื่นโทรแจ้งตำรวจ ขยับรูปปากว่า “รีบโทรหา 110!”


พนักงานคนอื่นพลอยตื่นตระหนกด้วยเช่นกัน เขากดมือถือด้วยกลัวว่าลูกค้าหนุ่มหล่อจะสติแตกมากไปกว่านี้ พลางป้องมือที่ปาก “ฮัลโหล…”


ในเวลานี้เอง ภาพปรากฏออกมาทางหน้าจอ ป๋อจิ่วคำนวณเวลา ก่อนจะย้อนภาพในกล้องวงจรปิดให้กลับไปฉายภาพเมื่อสามนาทีที่แล้ว! จึงได้เห็นแผ่นหลังของสองคนนั้นที่เดินออกไปจากร้าน เธอย้อนภาพไปดูช่วงก่อนหน้านี้อีก แม้กล้องจับภาพใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ทว่าบันทึกเสียงได้ ไม่ว่าเจ้าหล่อนจะพูดอะไร ป๋อจิ่วได้ยินทุกคำอย่างชัดแจ้ง


ฝานเจีย! ป๋อจิ่วถึงกับนิ้วมือแข็งทื่อ พอได้ยินว่า ‘พี่รู้ดีกว่าใคร คนที่ผิดมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตัวพี่นั่นแหละ ถ้าพี่เชื่อเขา ไม่แคร์คนอื่น ยอมทิ้งความรับผิดชอบทั้งหมด เขาก็ไม่ตายแล้ว  โถ Z ที่น่าสงสาร คนทั้งโลกไม่ยอมรับ แถมยังต้องจมอยู่ใต้น้ำตลอดกาล พี่ก็เห็นตอนที่เขาดิ้นรนเอาชีวิตรอดในน้ำนี่ ตอนเด็กๆ พี่รับปากเขาไว้ พอโตแล้วไม่ว่าจะทำอะไรพี่จะนึกถึงเขาก่อน พี่นั่นแหละที่เป็นคนผิดคำพูด พี่เป็นคนทำให้เขาตาย’  ปลายนิ้วของป๋อจิ่วเย็นขึ้นมา เธอน่าจะคิดออกตั้งนานแล้วว่าทำไมเขาถึงได้ต่อต้านอดีตของตัวเอง แต่เธอดันโง่เง่า ไม่เคยรู้เลย ปมของเขาคือตัวเธอเอง เขารู้สึกผิดต่อเธอ ถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้


ที่แท้เขารู้มาตั้งนานแล้วว่า Z ก็คือเธอ ป๋อเสียวจิ่วที่เขารู้จักเมื่อตอนเป็นเด็ก จึงได้พูดกับผู้กำกับหวงไว้เช่นนั้น เขาตามหาเธอ แต่ไม่อยากจับตัวเธอ แค่อยากตามหาเธอเท่านั้น


ห้วงเวลาดังกล่าว ป๋อจิ่วบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ออกเลย เมื่อได้ดูภาพที่เขาตามฝานเจียไป แววตาของเธอฉายรังสีฆ่าฟันที่เข้มข้นและยากจะปิดบัง


เธอจะอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้ เมื่อได้ภาพที่ต้องการ เธอก็ค้ำมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ ส่งตัวกระโดดออกไป แล้วสไลด์มือถือต่อสายโทรออก “ตอนนี้คุณต้องให้คำตอบฉันแล้วล่ะ ตำแหน่งของฝานเจียที่คุณตามไล่จับ อยู่ที่ตรงไหน?”


คุณชายถังรู้สึกถึงความผิดปกติของน้ำเสียงเธอ “ทำไมเหรอ?”


“ฝานเจียมีกุญแจกระตุ้นคำสั่งที่ฝังทางจิต ตอนนี้ท่านเทพไปกับเขาแล้ว” ป๋อจิ่วพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วต่ำ


คุณชายถังถึงกับอึ้ง รู้ดีว่าเหตุการณ์นี้รุนแรงแค่ไหน จึงบอกที่อยู่แก่เธอ ก่อนจะหันมาออกคำสั่งกับคนของตนเอง “เพิ่มตำรวจนอกเครื่องแบบ เรียกสุนัขตำรวจมาใช้ ปฏิบัติการณ์เริ่มเร็วกว่าเดิมสองชั่วโมง”


“ครับ!” แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังเร็วไม่เท่าป๋อจิ่ว


วันนี้ทั้งวัน คนที่อยู่ในเขตเป่ยซื่อล้วนแต่เห็นรถแลมโบกินี่ มูร์เซียราโกคันดำแล่นปราดเปรียวเหมือนรถแข่งในหนังภาพยนตร์ จากถนนลาดยางมะตอย เบี่ยงเข้าสู่ซอยยาวด้านข้าง ล้อซ้ายเบียดกำแพง ตัวรถเอียงกว่าครึ่ง ทะยานออกไปจนเกิดเสียงราวกับสายฟ้าดำแลบออกมา


———————————–


ตอนที่ 1794-2


ป๋อจิ่วที่ขับรถอยู่ กำพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างพาดเอาไว้ เธอมองด้านหลัง จากนั้นจึงสะบัดท้ายหลบรถตำรวจที่ไล่ตามมาตลอดทาง โดยรถตำรวจคันดังกล่าวเป็นคันที่ได้รับการแจ้งความจากพนักงานในร้านนั่นเอง


เดิมพวกเขาคิดว่าป๋อจิ่วขโมยเงิน แต่เมื่อเห็นรถที่ขับ ทั้งยังไล่ตามมาตลอดทาง พวกเขาจึงถามพนักงานที่โทรแจ้ง ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแค่เปิดดูกล้องวงจรปิดในร้านเท่านั้น


ชั่วเวลาดังกล่าว พวกเขาไม่รู้เช่นกันว่าจะไล่ตามต่อดีไหม อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดถึงปัญหานี้หรอก เพราะไม่มีใครไล่ตาม Z ทัน โดยเฉพาะ Z ในเวลาแบบนี้


รถแลมโบกินี่แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว จนแทบจะก่อให้เกิดสายลม


เวลานี้ รถแท็กซี่ก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ฝานเจียมองฉินมั่วพลางส่งยิ้มหวานให้ “พี่ต้องไม่ชอบที่นี่แน่ๆ ฉันก็เหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ ฉันถูกบีบให้อยู่ที่นี่ได้แค่ที่เดียว แต่เดี๋ยวจะดีขึ้น  รอจนพวกเราออกต่างประเทศสำเร็จ ก็จะไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้ ถึงเวลานั้นฉันจะทำทึกอย่างได้เป็นอิสระ”


ฉินมั่วไม่พูดอะไร ดูเหมือนเขาจะเป็นเช่นนี้มาตลอดทาง สิ่งที่เธอพูดไป เขาจะได้ยินหรือไม่ก็ไม่รู้ นิ้วมือของเธอแข็งทื่อด้วยความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ แต่รู้ดีเช่นเดียวกันว่า บางเรื่องจะใจร้อนไม่ได้


ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยแล้วขึ้นตึกไป แล้วพลันมาหยุดชะงักอยู่หน้าประตู


ฉินมั่วเป็นคนหยุด ฝานเจียจึงหันมาถาม “ทำไมเหรอ?”


คงไม่เป็นเพราะไม่เชื่อใจเธอหรอกนะ เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เธอน่าจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของเขา แม้ว่าตอนนี้ดูจากพฤติกรรมว่าเขายังไม่ยอมรับ แต่คำสั่งที่ฝังทางจิตตอกย้ำเขาในเรื่องนี้!


ซึ่งเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ฉินมั่วเหมือนถูกบางอย่างห้ามเอาไว้ สามัญสำนึกบอกให้เขาปกป้องคนๆ หนึ่งให้ได้ “แถวนี้มีปัญหา”


บางอย่าง ฝานเจียก็พูดไม่ผิดหรอก เมื่อมีฉินมั่วอยู่ด้วย คนจากทางการจะตามหาพวกเธอย่อมยากแสนยาก


“ห้องนี้เป็นของเธอเหรอ?” น้ำเสียงของฉินมั่วไม่บ่งบอกอารมณ์ใดใด ฝ่ายฝานเจียส่งเสียงยอมรับ “พี่มั่วรู้สึกว่ามันซอมซ่อใช่ไหม พี่สบายใจได้ เดี๋ยวสถานการณ์จะดีขึ้น ฉัน…”


ฉินมั่วได้ยินเธอเรียกตัวเองเช่นนั้นแล้ว รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่รู้สาเหตุ “ไม่ใช่เรื่องซอมซ่อหรอก แต่ประตูบานนี้มีคนแตะล็อคของมันมาก่อน ไม่ต้องเข้าไป ข้างในอาจมีคนอยู่ เดินตรงต่อไปเถอะ แล้วค่อยลงไปตามทานั้น”


ฝานเจียได้ยินแล้ว ตกใจจนเหงื่อเย็นผุดออกมา ห้องราคาถูกแบบนี้ ไม่น่าจะมีโจรมาเยี่ยมเยือนเลยนะ


ยามปกติ การที่มารอในห้องมักจะเป็นหนึ่งในวิธีจับคนร้ายอันเยี่ยมยอดของทางตำรวจ รอจนคนร้ายเข้ามาติดกับดักด้วยตัวเอง ก็ลงมือทันที


โชคดีที่ชายหนุ่มรู้ทัน และโชคยังดีที่เธอปิดหน้าทัน


“เห็นคนที่ยืนสูบบุหรี่ตรงหน้าร้านนั่นไหม เขาน่าจะเป็นสายตำรวจ เธออย่าทำท่าทางลับๆ ล่อๆ จะได้ไม่เป็นที่ต้องสงสัย” เสียงของฉินมั่วยังคงไร้อารมณ์เหมือนเดิม กระทั่งยังแฝงแววรำคาญชนิดที่มองออกได้ยาก ซึ่งฝานเจียย่อมฟังออก แต่จะยังไง ทั้งหมดที่เขาพูดล้วนแต่เพื่อปกป้องเธอไม่ใช่เหรอ นังนั่นถือดีที่ว่าตัวเองเป็นเหมยเขียวและม้าไม้กับเขา ต่อให้เป็นคนร้ายก็ยังพิเศษที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี?


ฮึ!นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะมอบความรักทั้งหมดให้เธอคนเดียวเท่านั้น


………………………………

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม