Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ 1723.2-1731
ตอนที่ 1723-2 พี่มั่วอาบน้ำกับน้องจิ่ว
คุณตายืนอยู่ข้างๆ ความเป็นผู้ดีอังกฤษมานาน จึงทำให้ได้แต่ไอเล็กน้อย “ผมไปจัดห้องให้อีกห้องหนึ่งนะครับ”
“ยุ่งยากจังค่ะ” ป๋อจิ่วยิ้มแฝงเจ้าเล่ห์ “ห้องไม่พอใช้ หนูกับพี่มั่วนอนห้องเดียวกันก็ได้”
ฉินมั่วมองดูห้องที่มีมากมายในอะพาร์ตเมนต์สองชั้นแห่งนี้ นิ้วมือยังรับรสสัมผัสได้ถึงผิวเนียนละมุนของคนบางคน ไม่แฉความจริงออกไป
ทว่าคุณตาได้แต่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ท่าทางห้องใหญ่ที่เขาเตรียมให้นายน้อยจะมีประโยชน์มากเกินไปแล้ว มีตั้งแปดห้อง จะบอกว่าไม่พอได้ยังไง
แต่คุณตาก็รู้ดีว่าตอนนี้นายน้อยคิดอะไรอยู่ มือที่สวมถุงมือขาวจึงยกกาน้ำชาขึ้น “ผมจะเอาไปส่งให้ที่ห้องนายน้อยนะครับ จะได้เตรียมชุดนอนอีกชุดให้คุณชายฉินด้วย”
“ค่ะ” ป๋อจิ่วส่งเสียงตอบในสภาพที่หน้าไม่แดง หัวใจไม่เต้นรัว
ฉินมั่วค้ำคางอยู่ข้างๆ เรียวปากยกโค้งอย่างไร้ร่องรอย ไม่คิดว่าจะได้เห็นเหยื่อสายรุก เธอนี่มหัศจรรย์จริงๆ
คุณตายังคงสำรวจชายหนุ่ม เดิมคิดจะคุยกับเขาสักหน่อย แต่พอเห็นฉินมั่วถอดเสื้อ โชว์ต้นคอให้เห็น มือของคุณตาก็ถึงกับชะงักแล้วจ้องมองป๋อจิ่ว
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเขาจำได้ว่า ตอนเด็กๆ นายน้อยร้องขอฮู้ป้องกันภัยเช่นนี้หลายครั้ง ตอนนั้นเธอเหมือนเป็นเณรน้อย ทั้งๆ ที่อยู่ใน The Fifth Avenue แท้ๆ แต่กลับเข้าหาหลวงจีน เพราะฮู้ของหลวงจีนผู้นั้นนั้น เห็นได้ไม่บ่อย เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ คุณตาจำต่อดึงสายตากลับมา ไม่อ้อยอิ่งอีกต่อไป
แม้ถึงจะเป็นเช่นนั้น ฉินมั่วก็สังเกตเห็น รอจนเมื่อเปลี่ยนชุดนอน นัยน์ตาดำขลับก็วาววับ
ยังไม่ทันได้ดื่มชา ทางฝ่ายป๋อจิ่วมองออกว่าคุณตาเรียกเธอเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย จึงผลักท่านเทพเข้าไปในห้องน้ำ “พี่มั่วอาบน้ำก่อน อาบเสร็จแล้วค่อยมาคุยกัน”
หลังจากที่ได้ยิน ฉินมั่วก็ยิ้มให้อย่างน่าหลงใหล ทว่าแววตากลับคล้ายมีหมอกสุมอยู่ “น่าเสียดายจัง”
“เสียดายอะไร?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว
ฉินมั่วก้มตัว ลมหายใจของเขาเป่ารดหูเธอ “ฉันคิดว่าเราจะได้อาบน้ำด้วยกัน ก็เป็นแฟนกันนี่นะ จริงไหม?”
น่าเสียดายที่เธอก็ปิดบังบางอย่างกับฉัน ให้เหยื่อแบบนี้อยู่ข้างตัว แล้วจะวางใจได้ไง? เมื่อคิดได้เช่นนี้ แววตาของฉินมั่วก็ตึงเครียด แต่จากจุดที่ป๋อจิ่วอยู่ทำให้เธอไม่เห็น จึงได้แต่เกาะเอวชายหนุ่มพลางกระเซ้า “เปล่าน่า แต่ทำไมช่วงนี้พี่ชอบอ่อยฉันจัง”
อยู่ๆ ก็ถูกเธอกอดเสียแบบนี้ ฉินมั่วคาดไม่ถึงจริงๆ เมื่อคิดให้ดีก็เย้ยในใจว่า เริ่มโอ๋เขาอีกแล้วสิ รู้ใจเหลือเกินนะ
“อยากอาบด้วยกันอยู่” ป๋อจิ่วยังยิ้มไม่เลิกรา “แต่ต้องคุยกับคุณตาก่อน อย่างน้อยต้องบอกเขาว่า ไม่ว่าพี่จะเปลี่ยนไปมาแค่ไหน พี่ก็ยังเป็นเจ้าหญิงน้อยของฉันอยู่ดี”
ฉินมั่วมองเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา “เจ้าหญิงน้อยเหรอ” ไปเอาคำเรียกแบบนี้มาจากไหน
“พี่มั่ว เมื่อก่อนพี่ชอบให้ฉันเรียกแบบนี้นี่นา” ป๋อจิ่วพูดด้วยสีหน้าเศร้า “พี่ลืมเรื่องนี้ด้วยเหรอ เฮ้อ”
พอได้ยินเสียงทอดถอนหายใจเของเธอ ฉินมั่วพลันยิ้มมุมปาก ทั้งยังทำสีหน้าที่ใครๆ ก็ปรารถนา แล้วรั้งเอวเธอเพื่ออ่อย “สบายใจได้ ต่อให้ลืมยังไง ก็ไม่ลืมว่าอยากได้เธอ”
ยัยนี่ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่ชอบถูกเรียกว่าเจ้าหญิง จะโกหกทั้งทีก็น่าจะเตรียมสคริปต์ไว้หน่อยไหม ยัยจอมเจ้าชู้เอ๊ย
ฉินมั่วได้ยินแล้วรู้สึกขำ จึงจูบอย่างแฝงแววลงโทษ ชายหนุ่มก้มตัวลง กัดเบาๆ ที่ต้นคอเธอ ลมหายใจร้อนระอุแนบบนผิวขาวผ่อง ทำให้คนรู้สึกจั๊กกะจี้อย่างต้านทานไม่ไหว
ป๋อจิ่วถูกอ่อยจนไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหน จนต้องโก่งหลังในที่สุด “พี่มั่ว…”
“หืม?” ฉินมั่วจึงเลยหน้าจากต้นคอเธอ ใบหน้าหล่อเหลาดูยั่วยวน “ถ้าจะคุยกันก็ได้ แต่รีบหน่อย ฉันจะรอเธอที่อ่าง ไหนว่าจะอาบน้ำด้วยกันไง?”
………………………………………….
ตอนที่ 1724 เอาแต่อ่อยอยู่ได้
ป๋อจิ่ผลักอีกฝ่ายออกไป แล้วยกมือถูกหน้า เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของท่านเทพได้ ก็หัวเราะเบาๆ คิดว่าเธอไม่กล้าใช่ไหม? เดี๋ยวรอคุยกับคุณตาเสร็จก่อนเถอะ แล้วจะเข้าไปหาในห้องน้ำ เธอจะฉวยจังหวะนี้อัดเสียงเขาด้วย ไว้เอามาให้เขาฟังตอนที่ฟื้นความจำแล้ว ถือเป็นประวัติดำมืดเหมือนกันนะเนี่ย ป๋อจิ่วกดนิ้วบนเรียวปาก หัวเราะออกมาอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
คุณตาพ่อบ้านกับนายน้อยรู้ใจกันดี จึงยืนรอที่ห้องรับแขกเรียบร้อย มือยังคงถือร็อกเก็ตนาฬิกาดังเดิม
ป๋อจิ่วเดินไปหา พลางออกปาก “อย่าเป็นห่วงไปเลย” ซึ่งคำพูดสั้นๆ นี้ ทำให้คุณตาถอนใจยาว “ตอนนี้สภาพของเขายังไม่ปกติ ไม่ ไม่สิ ต้องบอกว่าสภาพเขาปกติมากๆ รู้จักปิดบังความเหี้ยมตัวเองไว้มิดเม้น นายน้อยน่าจะรู้ดีนะว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน”
“เขาไม่ได้ทำร้ายใครนะคะ” ป๋อจิ่วพูดจบก็รู้ดีว่าตัวเองกำลังเฉไฉ เพราะใช่ว่าท่านเทพจะไม่คิดสะกดจิตใคร เพียงแต่ถูกเธอขัดขวางทางอ้อมไว้ทัน
คุณตากวาดตามองใบหน้าใสสะอาดที่อมยิ้มอยู่ “เพราะคุณอยู่ด้วยนี่นา แล้วเขาอยากได้คุณ ก็ต้องเก็บอาการไว้ให้ดี”
ใครจะคิดล่ะว่า พอนายน้อยได้ยิน ก็ยิ้มร่าอย่างเหลิง “ฮ่าๆๆ คุณตาขา หนูถึงบอกไงคะว่าเขาแคร์หนูมาก เมื่อก่อนเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น”
คุณตาได้แต่บ่นในใจ…นี่ต่างหากที่สำคัญที่สุดใช่ไหม?
ตอนที่อยู่ในค่ายทหาร ป๋อจิ่วเซ็งจะแย่อยู่แล้ว ได้แต่อวดแฟนให้เสี่ยวเฮยฟัง ซึ่งมันยังไม่พอ ตอนนี้อุตส่าห์ได้เจอคุณตาแล้ว จึงฉวยหมอนอิงมากอด ยันคาง ยิ้มมุมปากที่ทั้งเท่และหวาน “ถึงปากจะไม่พูด แต่การกระทำเขาแสดงออกชัดนะคะ นี่ยังจะหึงตัวเองอีก น่ารักจะตาย”
คุณตารักษาความเป็นผู้ดีอังกฤษเอาไว้ “ตอนนี้ผมเข้าใจสำนวนจีนที่ เลี้ยงลูกสาวให้คนอื่นอีกครั้งแล้วล่ะครับ”
“คุณตาล่ะก็ ถ้าคุณตาเป็นห่วงเรื่องนี้นะคะ ก็สบายใจได้เลย หนูจะอยู่แต่ในบ้าน ต้อนให้พี่เค้าแต่งเขาตระกูลเราก็แล้วกัน” ป๋อจิ่วยิ้มเสนอความเห็น
คุณตาได้แต่นวดหัวคิ้ว รู้ดีว่านายน้อยยึดมั่นไว้เช่นนี้แน่ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ตระกูลฉินจะยอมให้ลูกหัวแก้วหัวแหวนแต่งเข้าสกุลนายน้อยเรอะ ถ้าเป็นอย่างนั้น มีหวังตระกูลอานมีหวังได้บ้าแน่ๆ นายน้อยปักใจกับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว “คุณต้องรู้นะครับว่าที่เขาทำดีกับคุณ เป็นการเสแสร้ง ใครก็ตามที่ถูกกระตุ้นคำสั่งที่ฝังทางจิตแล้ว นิสัยจะเปลี่ยนไปหมด เขาก็เหมือนกัน ตอนนี้เกรงว่าเขาแค่สนใจคุณ แต่นายน้อย ถ้าเขาเบื่อขึ้นมาเมื่อไร คุณจะทำยังไง?”
คุณตาพูดตรงประเด็น ส่งผลให้รอยยิ้มของเธอจืดจางลงไม่น้อย ก่อนจะลุกขึ้นมองดูรถราที่วิ่งผ่านอยู่นอกหน้าต่างบานยาวละพื้น จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้น “คุณตาทราบไหมคะว่าเขาเสียความทรงจำที่ทะเลสาบ ตอนนั้นมือเขามีแต่เลือด แถมเลือดยังเต็มทะเลสาบไปหมด ขนาดเขาถูกฝังคำสั่งทางจิต ก็ยังไม่ถูกคิงควบคุมเลยค่ะ แถมยังปกป้องคนทั้งหมดที่อยู่บนบกอัตโนมัติ แต่พอเขาลืมตาขึ้น ระแวงต่อทุกสิ่งบนโลก สปีดโบ้ททุกลำกลับเล็งปากกระบอกปืนไปที่เขากันหมด แถมยังมองเขาด้วยความระแวง ตอนนั้นหนูเห็นเขาจะลงมือแล้ว เขากำสร้อยฮู้บนคอ เอ่อ ตอนแรกหนูก็นึกว่าเป็นแค่สร้อย ตอนหลังถึงได้รู้ว่าเป็นฮู้ที่หนูให้เขาเพื่อป้องกันตัว”
…………………………………………….
ตอนที่ 1725
“ฉะนั้นคุณตา ดูสิคะว่าขนาดเขาจำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ยังรักษาของที่หนูให้ไว้ มันไม่ใช่ความสนใจหรอกค่ะ” ป๋อจิ่วหันกลับมามอง ก้นบึ้งนัยน์ตาฉายแววมุ่งมั่นจริงจัง “ยิ่งหนูเองก็ไม่เบาเหมือนกัน ต่อให้เขาแค่สนใจหนูจริง แค่ในเมื่อหนูเคยทำให้เขาชอบหนูเป็นครั้งแรกแล้วก็ครั้งที่สองได้ ก็ต้องมีครั้งที่สาม”
คุณตาพ่อบ้านชะงักไปพักหนึ่ง พลันหัวเราะขึ้น “นายน้อยน่าจะรู้ว่า ผมสนับสนุนทุกการตัดสินใจของคุณ แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกคุณเช่นกัน” รวมถึงเจ้าน้ำแข็งจากบ้านตระกูลฉินด้วย ให้ผู้หญิงรุกฝ่ายเดียวทุกครั้ง ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย
ป๋อจิ่วพูดในใจ ตอนนี้เขาไม่รังแกหนูแล้ว มีแต่หนูนี่แหละที่อยากรังแกเขา
เมื่อคิดแล้วคิดอีก เธอก็เอาเครื่องประดับที่ใช้สำรับการแปลงโฉมจากห้องข้างๆ ขึ้นชั้นบน เดี๋ยวกะจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อย
คุณพ่อบ้านเข้าใจดีว่า นายน้อยรอชายหนุ่มมาตั้งแต่เล็กจนโต ความดีของชายหนุ่ม เธอจะถนอมไว้ดั่งสมบัติล้ำค่า เมื่อตอนเป็นเด็ก ตากลมโตของเธอมองเด็กคนหนึ่งก็ตัดสินทันที “คุณตาขา เขาหล่อสู่สัตว์เลี้ยงของหนูไม่ได้สักกะผีก ของหนูนะคะ ไม่ว่าจะยืนที่ไหน ถึงไม่ต้องพูดอะไรก็ทำให้คนชอบได้แล้ว จริงๆ นะคะ เขาน่ารักมาก แถมยังเคยผูกเชือกรองเท้าให้หนูด้วย เวลาเชือกหลุดทีไร เขาต้องผูกให้หนูทุกที”
เล่นชมเสียเลิศเลอแบบไม่มีอีกแล้วในปฐพีนี้ แสดงว่าคิดถึงในใจลึกๆ เสมอ ตอนนี้เจ้าตัวมาอยู่ด้วยแล้ว นายน้อยจึงยิ้มมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ก็ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปก่อนละกัน
คุณตาพ่อบ้านคิดเช่นนี้ ยังหาวิธีที่จะทำให้เจ้าน้ำแข็งตระกูลฉินฟื้นความจำได้ในเร็ววัน
ฉินมั่วรู้ดีว่าตัวเองมีจุดอ่อนตรงที่สูญเสียความทรงจำ แต่สำหรับเขาแล้ว ความทรงจำพวกนั้นไม่มีประโยชน์ ก่อนที่จะมาที่นี่ เขาคิดจะให้เหยื่อพูดอะไรขึ้นมาบ้าง ส่วนคุณตาพ่อบ้านของเธอจะพูดอะไร ไม่ต้องคิดวิเคราะห์ เขาก็เข้าใจ ต้องสั่งให้เธอระวังเขาไง
เฮอะ ฉินมั่วหัวเราะขึ้น ก่อนจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังราวกับเป็นจอมปีศาจที่ปรากฎตัวอย่างไร้เสียง ทั้งยังจากไปอย่างเงียบๆ
คำพูดของยัยนั่นวนเวียนข้างหูเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะซึมเข้าหัวทีละนิดๆ มุมปากหยัดยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาได้ยินคำพูดของเธอ จึงไปเตรียมน้ำในห้องน้ำล่วงหน้า มือถือที่เธอให้เขาก่อนเดินออกไปยังคงวางไว้ในห้อง
ยัยนี่โง่สิ้นดี ขนาดมือถือยังซี้ซั้วให้เขาอีก เมื่อเปิดดูหน้าจอมือถือก็เห็นรูปแอพลิเคชันที่มีไม่เยอะ ที่เปิดเล่นบ่อยก็จะเป็นเกมเกมหนึ่ง
ฉินมั่วกวาดตามอง โดยไม่เปิดออกมา แต่ลากหน้าบราวเซอร์ออกมาค้นอะไรบางอย่าง เหมือนอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ หลังจากที่ได้ยินคำสนทนาในห้องรับแขก ฉินมั่วก็นั่งรอเธอในอ่างอาบน้ำ เอนหลังเล็กน้อย ฟองขาวๆ ผุดขึ้นเต็มอ่าง ตามมาด้วยไอร้อนๆ ของน้ำ ทำให้เขาดูสูงส่งต้องห้ามมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เหมือนเดิม กระทั่งเขาเองยังไม่รู้ตัวว่ากำลังอมยิ้มอยู่
ป๋อจิ่วหยิบของเข้ามาก็เห็นฉากที่ว่าเข้าพอดี
ท่านเทพนั่งแช่อ่างอย่างเซ็กซี่ ชายหนุ่มไขว่ห้างไว้ ภายใต้แสงไฟที่สาดลงมา สะท้อนบนผนังขาวสะอาดจนมึนศีรษะ หน้าตาหล่อเหลาจนแทบตาลาย
ใบหน้าชายหนุ่มท่ามกลางแสงไฟดูหล่อเหลาจนตาลาย ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่ ถึงทำให้เขายิ้มคร้านๆ ไม่ระแวดระวังตัวสักนิด แถมยังภูมิใจหน่อยๆ
หือ?
ท่านเทพภูมิใจเรื่องอะไร?
………………………………….
ตอนที่ 1726
ราวกับรับรู้ได้ว่าเธอเข้ามาแล้ว ท่านเทพที่สไลด์จอมือถือจึงเงยหน้าขึ้น ความหยิ่งสลายไปทันที ราวกับกำลังปิดบังไว้ จากนั้นก็ละมือข้างหนึ่งมากระดิกนิ้วเรียกเธอ
ข้อกระดูกของมือข้างนั้นชัด นิ้วก็เรียวยาว ดูขาวจนโปร่งแสงท่ามกลางแสงไฟ
ป๋อจิ่วพูดในใจว่า เมื่อกี้คุณตาอบรมอยู่ข้างล่างมากตั้งมากมาย แต่ไม่ได้เตือนเลยว่า เธอจะต้องทำยังไงในเวลาท่านเทพใช้กลหนุ่มงาม แต่หากคิดดูอีกที ก็ไม่เห็นต้องทำอะไร พอเขาอ่อยที เธอก็กระโจนเข้าใส่ไปเลย
ประโยคหนึ่งว่าไว้ดี ท่านเทพอยากอ่อย คนอื่นไม่เกี่ยว
ป๋อจิ่วเดินเข้าไปหาด้วยความอยากรู้ “กำลังดูอะไรอยู่” ถ้าท่านเทพเห็นแอพลิเคชันที่เธอดาวน์โหลดมา แล้วเกิดอยากเล่นเกมสักเกมขึ้นมา ก็คงดีที่สุด จะได้รู้ว่าพวกเราสนิทกันมากแค่ไหนในเกม แต่ใครจะรู้ว่า เขาแค่หัวเราะแผ่วเบา “อยากรู้เหรอ?”
เมื่อป๋อจิ่วพยักหน้า ฉินมั่วก็เอ่ยเสียงเรียบ “เข้ามาใกล้อีกนิดสิ จะได้ให้ดู”
ลึกลับปานนั้น?
ป๋อจิ่วเดินเข้าไปใกล้อ่างอาบน้ำอีกก้าว กำลังจะก้มดู ทว่าชายหนุ่มกลับคว้าข้อมือเธอไว้ ‘ตู้ม!’ เธอถลาเข้าไปอยู่ในอ่างจนเปียกทั่วตัว รวมถึงเส้นผมด้วย ยิ่งเธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวขาวอีกต่างหาก จึงเห็นทะลุไปจนถึงผ้าพันอกสีขาว รวมถึงทรวงอกนุ่มนั่นที่ทั้งขาวและโค้งเว้า โดยส่วนอื่นๆ ยิ่งทำให้อารมณ์วุ่นวายอลหม่านกันหมด
เขากลับคว้าเอวเธอเข้าหมับ ให้นั่งลงในอ้อมกอดตัวเอง ไอร้อนเริ่มกระจาย อุณหภูมิน้ำสูงไปหน่อย ทำให้ป๋อจิ่วเข้ามาแล้วตัวสั่นเล็กน้อย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่ากอดของชายหนุ่ม ทำให้เธอสูงกว่าเขาครึ่งศีรษะ ลมที่พ่นออกมาเวลาที่เขาพูดจึงรดบนทรวงอกของเธอ ตามจังหวะที่ควันร้อนลอยขึ้นในห้องน้ำ ยากจะทำให้คนหลบเลี่ยงได้
“ป๋าลืมไปหมดแล้วเหรอว่า ฉันเคยพูดอะไรไว้บนเครื่องบิน”
บนเครื่องบินเหรอ? ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว
ฉินมั่วคลึงเอวเธอ เอ่ยด้วยเสียงอมยิ้ม “รอให้ไม่มีใครอยู่ด้วยก่อนเถอะ ฉันจะเอาหนังสือที่ป๋าให้มาศึกษาสักหน่อย สงสัยไม่ใช่เหรอว่าฉันกำลังดูอะไร? อะ”
ป๋อจิ่วถูกยัดมือถือมาไว้ในมือ จึงดูโดยอัตโนมัติ แค่แวบเดียวเธอก็ตะลึง
ท่านเทพดูอะไรของเขาวะเนี่ย? โคตรไม่มาดของเทพเลย? ประธานจอมโหดรักฉัน? หนังสือประเภทที่เธอไม่มีวันแตะลิงก์เปิดอ่าน แต่เวลานี้ชื่อหนังสือกลับไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะท่านเทพเปิดอ่านหน้าที่พระเอกกับนางเอกกำลังเข้าพระเข้านางกัน นิยายเรื่องนี้บรรยายได้ถึงใจ โดยใช้ห้องทำงานเป็นฉาก
เมื่อเห็นเธอเม้มปาก ฉินมั่วก็หยัดยิ้มที่มุมปาก พลิกร่างทั้งๆ ที่กอดเธอไว้ ความร้อนจากร่างกายแนบใบหูเธอ หัวเราะให้ด้วยเสียงต่ำแสนน่าฟัง “แต่น่าเสียดาย หนังสือเล่มนี้ไม่มีฉากอย่างว่าในห้องน้ำ แต่ไม่เป็นไร ฉันถนัดเรื่องนี้มากกว่าที่เขาบรรยายไร้สาระอีก”
ป๋อจิ่วไม่ทันทำอะไร เขาก็จูบบนทรวงอกเธอทั้งๆ ถูกเสื้อเชิ้ตที่เปียกนิดๆ ของเธอกางกั้น กระดุมบนเสื้อถูกเขากัดจนขาด แค่จูบเบาๆ แต่ทำให้มือของเธอสั่น
ท่านเทพรับมือถือที่ร่วงลงมาอย่างทันกาล แล้วโน้มตัวลง วางไว้ในอุ้งมือของเธอ “ถือไว้ดีๆ จะเอาไว้เลือกส่วนที่มีประโยชน์มาลองดู
……………………………………..
ตอนที่ 1727
ลองอะไร? ที่นิยายบรรยายไว้เหรอ? จอมเจ้าชู้อย่างป๋อจิ่วนึกภาพเหล่านั้นได้ หน้าพลันแดงซ่านอย่างระงับไม่อยู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมือของท่านเทพที่เกาะเอวเธอชนิดไม่คิดจะปล่อย เขาปลดเสื้อเชิ้ตของเธอเอาเสียเลย แล้วลากจูบไปทั่วแผ่นหลัง
ตอนนี้มองสิ่งที่อยู่รอบด้านไม่ชัดแล้ว แม้จะอยู่ในอ่างอาบน้ำก็เห็นเพียงฟองขาว ไอร้อนเหล่านั้นวิ่งเข้านัยน์ตาเธอ แม้จะถูกขวางกั้นด้วยไอน้ำก็ตามที
ภาพที่อยู่ใต้แสงไฟช่างสวยเหลือเกิน และคงเพราะทั้งหน้าสองต่างหน้าตาดี จึงทำให้บรรยากาศในห้องลอยฟูฟ่อง
ฉินมั่วในเวลานี้เป็นเหมือนพวกแวมไพร์ตระกูลสูงที่อยู่มุมมืดในนิยาย พวกชอบดูหนังของอังกฤษคงจะรู้ พวกแวมไพร์ที่หน้าตาหล่อเหลาชอบลากสาวน้อยลงอ่างอาบน้ำที่สุด จากนั้นก็มอบความหฤหรรษ์ให้พวกเธออย่างที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ซึ่งชายหนุ่มกำลังทำเรื่องเดียวกัน แต่เขาไม่กัดลำคอของเธอ ทว่าแค่ประทับรอยจูบซ้ำๆ กันบนแอ่งชีพจร ก่อนจะเลื่อนต่ำลงๆ จนคนที่ถูกล่อลุ่มหลง ถึงกับตัวสั่นขึ้นมา
ป๋อจิ่วไม่รู้ตัวว่ากางยีนส์หลุดออกจากร่างตั้งแต่เมื่อไร จนเมื่อเสื้อเชิ้ตตัวยาวร่นไปกองอยู่ที่ขา คลี่ตัวกระจายราวดอกไม้แย้มบานบนผืนน้ำ ไหล่ที่ขาวสว่างดูขาวราวหิมะภายใต้แสงไฟครอบครองสติของอีกคนได้
ฉินมั่วกอดเอวเธอแน่นชนิดไม่ยอมปล่อย ทำให้เธอไม่รอดพ้นจากฝ่ามือเขา เมื่อได้เห็นภาพที่ว่าแววตาของชายหนุ่มถึงกับขรึมลง ก่อนจะงับไหล่เธอเข้าให้ ลมหายใจดูจะไม่ปกติ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเสียงที่หลุดรอดจากลำคอเธอ ยิ่งทำให้ทนแทบไม่ไหว หากไม่ใช่เพราะมีเสียงเตือนขึ้นมาก่อนว่าอย่าให้เลยเถิด ปล่อยให้เหยื่อชักนำอารมณ์ไปได้ยังไง ในฐานะที่เป็นผู้ออกคำสั่ง คนที่ถูกควบคุมต้องเป็นเหยื่อต่างหาก
แต่เสียงร้องเบาๆ จากปากเธอ รวมถึงนัยน์ตาเหม่อลอยที่เธอใช้มองเขา ก็ยังทำให้เขาเหมือนได้ครอบครองเธอ
ฉินมั่วรู้สึกหงุดหงิดพิลึก พยายามสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดึงมือกลับคืนมา แล้วฉวยเอาผ้าผืนหนาพันรอบตัวเธอ เขาจะไม่แตะต้องเธอชั่วคราว ไม่งั้นคงอดไม่อยู่ นี่เป็นเพราะรสสัมผัสจากผิวเธอดีเกินไป หรือว่าเธอเป็นเหมือนนางปีศาจจากท้องทะเล เธอที่ขาวผ่องเหลือเกิน กลับทำให้คนอยากทำให้แปดเปื้อน
ป๋อจิ่วไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ชายหนุ่มพลันลุกขึ้น
เสียงน้ำไหวดังขึ้น จนเมื่อเธอรู้ตัว ผ้าขนหนูสีขาวก็คลุมเหนือศีรษะเสียแล้ว จากนั้นเขาจึงเอ่ยด้วยเสียงกระหยิ่มยิ้มย่อง “เธออาบต่อเองละกัน ฉันจะไปเอานมมาให้ ป๋าของฉันจะต้องบำรุงในบางจุดเสียหน่อย อ้วนขึ้นสักนิดจะได้จับมันส์ดี”
ป๋อจิ่ว “…”
คุณตาบอกว่าเขาเสแสร้งอบอุ่นได้ดีมาก อบอุ่นที่ตรงไหนไม่ทราบ? ปากร้ายกันทั้งนั้น เดาว่าวันไหนที่ไม่ปากเป็นพิษ วันนั้นเขาคงไม่สบาย โดยเฉาะเวลาที่พ่นพิษใส่เธอ
ป๋อจิ่วกดผ้าขนหนูบนศีรษะ หัวเราะขึ้น มุมปากหยักโค้งเล็กน้อย เขาคิดว่าเธอมองไม่ออก กะจะล่อให้เธอตกบ่วงเสน่ห์จนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วหยุดลงเสียอย่างนั้น ท่าทางไม่อยากได้เธอ
ป๋อจิ่วหัวเราะร้ายอีกครั้ง มีเรื่องหนึ่งที่เขาเข้าใจผิด เรื่องที่เขาอยากได้เธอหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่เขาตัดสินได้
พรืด! ป๋อจิ่วลุกขึ้นจากอ่าบอาบน้ำ ช่วงขาของเธอเรียวงาม หลังจากที่เช็ดคราบที่แปลงโฉมไว้ ก็ดูขาวผ่องเหมือนโปร่งแสงเลยทีเดียว
…………………………………………….
ตอนที่ 1728-1
หยดน้ำเกาะอยู่ที่ข้อเท้าขาวผ่องราวเนื้อหยก แผ่นหลังถูกหุ้มด้วยผ้าขนหนู ไอน้ำปกคลุมทั่วร่างสะท้อนแสงจนเปล่งประกาย
ทว่านัยน์ตาคู่นั้นกลับทะมึนคลุมเครือ เหมือนเป็นนางปีศาจแห่งท้องทะเล โดยเฉพาะเวลายิ้มที่มุมปากหยักน้อยๆ นั่งเหยียดตรง ให้ความรู้สึกงดงาม ราวกับเพราะอยู่ในท่าทีดังกล่าว จึงดูเขินอาย
ป๋อจิ่วหงุดหน้าลงอย่างเท่ เธอกะจะปล้ำชายหนุ่มสักหน่อย ใครจะรู้ว่ายังไม่ทำอะไรเลย ชายหนุ่มก็ลากเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเสียแล้ว
ร่างเธอมีเพียงผ้าขนหนูแห้งสนิทติดตัว กระทั่งนัยน์ตาของเธอพลอยถูกคลุมในผ้านั่นด้วย “พี่มั่ว” เธอรู้สึกว่าเขาชนะเกมนี้ด้วยเล่ห์ ก็เธอมองอะไรไม่เห็นสักอย่าง แล้วจะลงมืออย่างไร
ฉินมั่วมองดูคนที่เปียกน้ำจะแสดงความเจ้าชู้ เหมือนเจ้าเหมียวน้อยที่ใจร้อนอย่างแรง จนยื่นกรงเล็บออกมากะจะออดอ้อนออเซาะ “หืม?” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว กดศีรษะอีกฝ่ายให้ซบไหล่ตนเอง ส่งผลให้ป๋อจิ่วสงบได้ในที่สุด เพราะเธอเห็นแล้วว่าตัวเองไม่ได้ถูกผ้าขนหนูคลุมเพียงคนเดียว แต่เป็นสองคนต่างหาก เพราะท่านเทพก็ถูกคลุมด้วยเช่นกัน เธอสัมผัสได้ถึงผิวของเขาตรงๆ อืม ก็ควรจะเป็นแบบนี้แหละ จะลีลาทำตัวห่างเหินจากเธอไปทำไม
นัยน์ตาของเธอถึงกับยิ้ม กำลังจะลงมือ
“คิดจะทำอะไร” ฉินมั่วละมือข้างหนึ่งมารั้งมือที่ซุกซนของอีกฝ่ายไว้ ยักคิ้วให้ ทั้งรู้สึกขำ “ท่าทางสายเปย์ของฉันจะชอบฉันมากเป็นพิเศษ”
ป๋อจิ่วเงยหน้ามองอีกฝ่าย ยิ้มอย่างโหดนิดๆ “ใช่สิ ใช่สิ”
“ถึงชอบก็อย่าลูบมั่ว” ฉินมั่วจัดแจงอีกฝ่ายราวกับดูแลเหยื่อที่เลี้ยงไว้ในบ้าน “หันไปดูกระจกสิ”
ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว “ทำอะไร?”
“เป่าผมไง” ยังไงก็ต้องหาทางเบี่ยงความสนใจ เพื่อไม่ให้คิดเหลวไหล ดังนั้นท่านเทพจึงหยิบไดร์เป่าผมมา แล้วยกมือขึ้นสูงด้วยออร่าแรงจัด
ป๋อจิ่วคิดดูแล้ว เธอไม่อาจฝืนใจใครได้ มันคงไม่ดีนักถ้าจะฉวยโอกาสรังแกท่านเทพในระหว่างที่ชายหนุ่มสูญเสียความทรงจำอยู่ “เอาสิ เป่าผมเลย”
เมื่อหันหน้าไปก็เห็นแผ่นอกที่เธอพิงหลังไว้ ทั้งสองถูกห่ออยู่นผ้าขนหนูผืนเดียวกันที่ไม่ใหญ่และไม่เล็ก กำลังดี อยู่กันแบบนี้ เธอแต๊ะอั๋งเขาไม่ได้เลย
ฉินมั่วกลับหัวเราะขึ้นหลังจากที่ได้ยินเสียงถอนหายใจ “ทำไม? ผิดหวังที่เป่าผมให้เหรอ? วันๆ เอาแต่คิดเรื่องเจ้าชู้นะเรา?”
“ก็อยากปล้ำพี่อ่ะ” ป๋อจิ่วรู้สึกได้ถึงลมอ่อนๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากไดร์ ยิ้มอย่างแช่มชื่น “ชัดขนาดนี้ พี่มั่วมองไม่ออกเหรอ”
…………………………………..
ตอนที่ 1728-2
ฉินมั่วมองดูใบหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นมือไปบีบหน้าอย่างยั้งใจไม่อยู่ “ฉันแพงออก เป่าขนสีเงินของเธอให้แห้งก่อน”
“ขนสีเงิน” ป๋อจิ่วหันหน้าไปอีกทาง “สีเงินแบบรุ่นคุณย่าสุดเฟี๊ยสเชียวนะ เท่จะตาย หรือไม่จริง?”
ฉินมั่วมองดูนัยน์ตาดำขลับ ไฝเสน่ห์เด่นชัด จมูก ปาก กระทั่งแอ่งชีพจรยังสวยเหลือเกิน เขาก้มลงไปจูบเรียวปากของเธอด้วยกินบึ้งนัยน์ตาที่ลึกซึ้ง “สวยจริงๆ” เธอยังคงเป็นเหยื่อที่เขาโปรดปรานมาจนถึงเวลานี้
“แต่ไม่สวยเท่าพี่หรอก” เจ้าหญิงน้อยดูดีมาตั้งแต่เด็กแล้ว
ฉินมั่วลากนิ้วสางเส้นผมเธอ ไดร์เป่าผมยังคงเป่าลมอ่อนออกมา “เธอแน่ใจนะว่าจะชมฉันว่าสวย? ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่ชอบคำชมแบบนี้”
“สวยเลิศเป็นหนึ่ง?” ป๋อจิ่วนึกถึงสุภาษิตที่เคยเรียนมา
ฉินมั่วเลิกคิ้วอีก
“งามล่มเมือง?” เหมาะที่สุดเลยล่ะ
ฉินมั่วหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยอย่างช้าๆ “ทำไมไม่บอกว่าฉันเป็นต๋าจี[1]ล่มเมืองล่ะ?”
“จะเอาพี่ไปเปรียบกับสนมต่านจีได้อย่างไร?” ป๋อจิ่วหัวเราะ “พี่สวยกว่าต๋าจีเยอะ”
เห็นแก่ที่กอดเธอแล้วรู้สึกสบาย ฉันจะไม่โยนเธอออกจากนอกหน้าต่างละกัน ฉินมั่วเพิ่งคิดได้เช่นนี้ ก็ได้ยินเธอเอ่ยต่อ “พี่มั่ว ถ้าฉันอยู่ในสมัยโบราณก็คงเป็นผู้ครองนครที่มัวเมาในอำนาจ แล้วถ้าพี่เป็นต๋าจีน อยากจะล่มเมืองขึ้นมา ฉันก็คงตามใจพี่ พี่ว่าฉันวู่วามไปไหม ถ้าใครหาว่าพี่ไม่ดี ฉันก็จะอัดมัน มิน่าล่ะตอนเด็กๆ พี่ถึงได้บอกว่าฉันวู่วาม อื้ม ก็วุ่นวายจริงนะแหละ”
ฉินมั่วได้ยินก็กดปิดไดร์เป่าผม เคาะนิ้วบนหน้าเธออย่างเป็นจังหวะ “ฉันว่าเธอไม่ได้วู่วามหรอก”
พูดเสียเหมือนนั่งอยู่ในใจเลยทีเดียว เจ้าเล่ห์จริง
“ก็ยังวู่วามอยู่ดี เช่น อยากปล้ำพี่” ป๋อจิ่วหันไปอีกด้าน เอ่ยเสียงเอื่อยๆ “ฉะนั้น พี่มั่ว ถ้าฉันแตะๆ อะไรพี่ พี่ก็ต้องห้ามฉันนะ ฉันทนกลหนุ่มงามไม่ไหว พี่จะลองใช้กับฉันดูบ่อยๆ ก็ได้”
ฉินมั่วหัวเราะเสียงต่ำ ไม่ได้เสแสร้งอีกแล้ว เขาวางไดร์ลง ทั้งยังทำท่าห่างเหิน “รู้ด้วยว่าฉันใช้กลหนุ่มงาม?”
“แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช้ให้ถึงที่สุด” ป๋อจิ่วยิ้มบางๆ พลางจาม ก่อนจะพูด “ไม่ยอมให้ฉันได้แอ้มสักที”
ฉินมั่วกวาดตามองคนตรงหน้า ย่นหัวคิ้ว ก่อนจะอุ้มเธอแล้วพาเดินเข้าห้อง เอาตัวไปวางไว้ใต้ผ้าห่ม
ป๋อจิ่วร้องออกมา “ทำไมต้องห่มหลายชั้น หนักจะแย่” มีแค่ผ้าห่มกางกั้นแค่ผืนเดียว ยังพอจะเลิกออกมาลวนลามเขาได้ เขาไม่ยอมให้เธอแต๊ะอั๋งล่ะสิ
“ยาล่ะ?” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง
เธอถูกกดร่างไว้ ขยับไม่ได้ “ยาอะไร?”
“ยาแก้หวัดไง” ฉินมั่วว่าพลางก็กดศีรษะที่โผล่ออกมาลงในผ้าห่มอีกครั้ง
ป๋อจิ่วจึงถึงบางอ้อ ท่านเทพเป็นห่วงที่เธอจามเมื่อกี้นี้ คงคิดว่าเธอป่วยอีกแล้ว ถึงเรียกหายาใช่ไหม? สุดท้ายก็ยังให้เธอได้หวานนิดหนึ่งอยู่ดี
ป๋อจิ่วโผล่แค่นัยน์ตาออกมา มุมปากที่ซุกในผ้าห่มหยักยิ้ม
ฉินมั่วหันเอียงศีรษะเห็นภาพที่ว่า จึงรู้ว่าเขาแสดงออกชัดเกินไป ถึงกับชะงักนิ้วมือ นั่งลงข้างเตียง ยิ้มอย่างเรียบเรื่อย “ท่าทางจะสมใจเธอนะ”
“เปล่า คือฉันก็หนาวๆ อยู่ ไม่ค่อยสบาย สงสัยเป็นเพราะแช่น้ำในอ่างเมื่อกี้” เธอยกมือกดศีรษะตัวเอง เพื่อให้ดูสมจริง
ฉินมั่วยิ้มหนัก “หนาวเหรอ? เอาผ้าห่มมาเพิ่มละกัน”
ท่านเทพพูดได้ทำได้ ดึงประตูตู้ออกมา แล้วเอาผ้าห่มบางๆ มาคลุมบนร่างเธอ “ตอนนี้อุ่นขึ้นมากไหม?”
“อึ้ม” ป๋อจิ่วจะพูดอะไรได้อีก เธออุตส่าห์สร้างเรื่องขึ้น ฉะนั้นต่อให้ร้อนยังไงก็ต้องแสดงต่อให้จบ “แค่คอแห้งนิดหน่อย” ดื่มน้ำแล้วจะช่วยลดอุณหภูมิได้
ฉินมั่วเลิกคิ้ว “คอแห้งเหรอ? งั้นฉันไปรินน้ำร้อนมาให้เธอแก้วหนึ่ง ดีไหม?”
น้ำร้อน? ป๋อจิ่วโบกมือ “ช่างเถอะ ไม่หิวขนาดนั้น” ท่านเทพโหดหน้ายิ้มจะตาย สู้ปล่อยให้เขาใช้กลหนุ่มงามกับเธอต่อดีกว่า
ฉินมั่วมองดูใบหน้าที่แดงของเธอ โน้มตัวลง ลมหายใจกระชั้น “ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย เอาเย็นหรือร้อน?”
……………………………………………………….
ตอนที่ 1729
ท่านเทพพูดด้วยมุมปากที่หยักยิ้ม ลมหายใจรดริมหูเธออย่างเย้ายวนใจ
ป๋อจิ่วเบือนศีรษะไปอีกทาง “ต้องมาเจอน้ำแข็งกับไฟพร้อมๆ กัน ทั้งหนาวทั้งร้อน เกิดโดนอ่อยต่อไป คงไม่ดีต่อร่างกายฉัน”
ฉินมั่วชะงัก คิดไม่ถึงว่าจะได้คำตอบเช่นนี้ ประทับเรียวปากบางบนหน้าผากเธอ “ตอนนี้ล่ะ?”
“ร้อนแล้ว” ป๋อจิ่วพูดยิ้มๆ “พี่มั่ว ฉันเพิ่งกินอมยิ้ม ถ้าจูบอีกครั้ง รับรองว่าหวานแน่”
หลังจากที่ได้ยินเธอพูด ฉินมั่วดึงผ้าห่มออกไปชั้นหนึ่ง เลิกคิ้วอย่างคร้านๆ “ฝันหวานไปละ ยัยจอมเจ้าชู้”
“นอนบนเตียงเดียวกัน แต่จูบไม่ได้ ก็ต้องเจ้าชู้บ้างล่ะ” ป๋อจิ่วผ่อนลมหายใจ หน้าขาวใสออกจะแดงเล็กน้อย เธอยังอยากถีบผ้าห่มอยู่ดี แต่พอจะกระดุกกระดิก ท่านเทพก็กดขาเธอไว้ เอ่ยเสียงบึ้งตึง “อยากเป็นหวัดอีกใช่ไหม?”
“ผ้าห่มหนาออก” ป๋อจิ่วไม่อยากกอดชายหนุ่มผ่านผ้าห่ม เพราะมันห่างเหินไป
ฉินมั่วมองดูกิริยานักเลงโตของเธอ “รู้ทันกลหนุ่มงานของฉันแล้วเสียใจไหม?”
“เสียใจดิ” ป๋อจิ่วมองดูชายหนุ่มรั้งเธอเข้าใกล้ ก่อนเปลี่ยนผ้าห่ม ความหนักบนร่างจะคลายลง ทว่าอุณหภูมิกลับพอเหมาะ เธอเอ่ยพลางกอดเอวชายหนุ่มไปตามครรลอง
ฉินมั่วไม่ปฏิเสธ แต่จิ้มไปยังเหยื่อ “อย่าซี้ซั้วใช้มือสิ”
“ยากอ่ะ” ป๋อจิ่วพูดอย่างจริงจัง “ไม่งั้นให้ฉันเล่นเกมสักนิด พอใช้มือทั้งสองข้างแล้ว จะได้มีแรงควบคุมหน่อย”
ฉินมั่วพูดในลำคอ ดูไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
ป๋อจิ่วรู้ว่าเขารู้ทันที่เธอทดสอบเขา หลังจากที่หยิบมือถือออกก็ครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “พี่มั่ว”
“อะไร?” ชายหนุ่มพิงหัวเตียง หมุนไพ่ในมือเล่น
ป๋อจิ่วเอียงศีรษะ “พี่อยากดูแอคเคาท์เวยป๋อของตัวเองไหม?”
“อยากให้ฉันดูเหรอ?” นัยน์ตาของเขาหนักอึ้งในระหว่างที่พูด
ป๋อจิ่วพยักหน้า “อยากให้พี่รู้ด้วยว่ามีคนรอพี่เยอะแยะเลย”
ฉินมั่วไม่พูดอีก ละมือข้างหนึ่งมาด้วยสีหน้าเป็นปกติ เขาจะดูหรือไม่ ไม่น่าสนใจหรอก เขาไม่สนใจเรื่องในอดีตสักเท่าไร แค่เห็นท่าทีของเธอที่อยากให้เขาไปดู ทำให้กลิ่นไอของชายหนุ่มเย็นยะเยือก ใช่ เดาว่าคงไม่มีใครชอบเขาในสภาพนี้ รวมถึงเธอด้วย
ป๋อจิ่วแตะนิ้ว ทำให้หน้าจอดับ “ช่างเถอะ”
ฉินมั่วยังคงหล่อไฮโซ “หือ?”
“ถ้าไม่ชอบก็อย่าดู” ป๋อจิ่วพูดยิ้มๆ “ไม่ว่าจะสูญเสียความทรงจำหรือไม่ ก็ไม่ต่างกันหรอก เป็นแบบนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ จะได้ไม่มีใครมาแย่งกับฉัน”
แววตาชายหนุ่มสตัน ก่อนจะกลับสู่ปกติอย่างเร็ว เอ่ยขึ้นช้าๆ “งั้นเธอต้องดูฉันให้ดีๆ นะ”
“แน่นอน” ป๋อจิ่วพูดพลางกำมือถือไว้ในมือ
ฉินมั่วมองดูแวบหนึ่ง “ไหนว่าจะเล่นเกม?”
“พี่ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ? ไม่เล่นแล้ว” ป๋อจิ่วใช้ลิ้นดุนแก้ม
ฉินมั่วสไลด์จอมือถือของเธอ “ถ้าเธอชอบ ฉันจะดูเธอเล่น เธอจะไม่ได้เอาเวลาไปคิดเรื่องเจ้าชู้”
ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว “พี่มั่ว ถ้าไม่พูดประโยคท้ายนะ จะทำให้ป๋าสายเปย์อย่างฉันยิ่งชอบเข้าไปใหญ่”
“งั้นก็น่าเสียดาย ประโยคหลังดันเป็นคำพูดอย่าจริงใจของฉันเสียด้วย” ฉินมั่วตบเบาๆ บนหน้าเธอ น้ำเสียงของเขาเอื่อยๆ น่าฟัง “เริ่มเถอะ ให้ฉันดูว่าเธอเล่นยังไง”
ป๋อจิ่วยิ้มมุมปาก “ดูฉันเล่นเกมแล้วพี่จะหลงรักฉัน เพราะเวลาอยูในเกมฉันจะหล่อเป็นพิเศษ”
………………………………………….
[1] สนมต๋าจีเป็นสนมในพระเจ้าโจ้วหวังแห่งราชวงศ์ซาง ได้รับความโปรดปรานมากจนได้รับแต่งตั้งเป็นพระมเหสีในที่สุด พระเจ้าโจวหวังหลงรักและเชื่อฟังนางมาก ถึงขั้นไม่สนใจกิจการบ้านเมือง ต่อมาเมื่อราชวงศ์นี้สิ้นสุดลง นางถูกมองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย
ตอนที่ 1730
เสียงเอฟเฟกต์ของเกมดังขึ้น ถือเป็นครั้งแรกที่ฉินมั่วได้เห็นคนที่หน้าหนาแล้วยังทำให้คนเอ็นดูได้อีก แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เหยื่อที่เลี้ยงในบ้าน ย่อมต้องเป็นที่ชอบมากขึ้นทุกวัน ๆ
เวลานี้ป๋อจิ่วเข้าสู่หน้าเพจเกม ตรงเข้าไปเลือกตัวละคร ทั้งนี้เธอใช้ชื่อแอคเคาท์สำรองที่ไม่เป็นที่รู้จัก และเลเวลที่ไม่สะดุดตา แต่ชื่อไอดี… ทำให้ฉินมั่วเห็นแล้วเลิกคิ้ว “กิ๊กแซ่ฉินเป็นของฉัน?”
ป๋อจิ่วสะดุ้ง “พี่มั่ว อย่าไปสนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สิ”
“จะทำยังงั้นได้ไง ก็เธอเป็นสายเปย์ของฉันนี่นา” ฉินมั่วว่าแล้วก็โน้มตัวไปงับหูเธอ เล่นเอาป๋อจิ่วสะดุ้ง ติ่งหูแดงจัด
ฉินมั่วมองดูด้วยความพอใจ สายตาจับจ้องที่หน้าจออีกครั้ง “มีคนคุยกันด้วย”
ป๋อจิ่วเห็นเช่นกัน เป็นคนที่มาแย่งตำแหน่งล่ามอนสเตอร์ แต่เธอไม่ยอม อีกฝ่ายย่อมไม่พอใจ แต่ไม่ยอมเปลี่ยน จะเอาให้ได้ ซึ่งการใช้อารมณ์เล่นเกมแบบนี้ ย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตในเกม
ป๋อจิ่วรู้ดีแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอสร้างฐานะก่อนแล้วค่อยไล่ฆ่าคน อันเป็นหลักการปกติ แต่เพื่อนร่วมทีมเอาแต่บ่นว่า “คนที่เล่นเป็นนักฆ่าอ่ะ ช่วยดูเวลฉันก่อน แล้วหันมาดูของตัวเอง ดูไม่ออกเหรอว่าฉันสูงกว่าสองเลเวล ยังจะมาแย่งฉันอีก ขอบอกนะ อย่าพาทีมพังก็แล้วกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะร้องเรียนนาย”
ฉินมั่วได้ยินเสียงที่ดังออกจากมือถือ นัยน์ตาเครียดทันที จากตอนแรกที่ไม่สนใจจนสายตามาจับจ้องที่คนๆ หนึ่ง “เขากำลังทำอะไรร?”
ป๋อจิ่วรู้ตัวว่าชายหนุ่มสูญเสียความทรงจำอย่างแท้จริง ก็หลังจากที่ได้ยินนี่แหละ ราวกับเป็นคนใหม่เลยทีเดียว
“กำลังล่ามอนสเตอร์ นักฆ่าต้องล่ามอนสเตอร์มาเพิ่มฐานะ ไม่งั้นจะเติบโตต่อไปไม่ได้ นักฆ่าทุกคนอยากจะถึงเลเวลสี่ให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งวิธีที่ได้ผลคือต้องล่ามอนสเตอร์”
ฉินมั่วหัวเราะทันทีที่ได้ยิน เขาหัวเราะแล้วยื่นมือให้เธอเปลี่ยนเส้นทาง
“ทำไม?” ป๋อจิ่วงงหน่อยๆ ท่านเทพจะทำอะไร?
ชายหนุ่มจิ้มที่หน้าจอ “ฉันจะเล่น”
“พี่เล่นเป็นแล้วเหรอ?” แววตาของป๋อจิ่วเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ “ไม่ ฉันเห็นเธอเล่นแล้ว มันมีปุ่มหนึ่งที่ล่ามอนสเตอร์ได้เลย”
ใช่ แต่ ป๋อจิ่วมองดูท่านเทพที่ยืนอยู่ในพุ่มหญ้าของบลูมอนสเตอร์โดยไม่ขยับ ทั้งยังรอให้คนอื่นล่ามอนสเตอร์ อะไรกันนี่?
แต่ไม่นาน ป๋อจิ่วก็เข้าใจเจตนาของเขา เพราะคนในทีมเดียวกันที่ล่ามอนสเตอร์ส่งเสียงอีกแล้ว “เฮ้ย ฉันอุตส่าห์ล่าบลูมาตั้งนาน”
จากนั้นอีกฝ่ายก็พบว่าไม่ว่าจะเป็นบลูหรือเรด รวมถึงตัวเล็กตัวน้อย ก็ล้วนแต่ถูกแย่งไปอย่างแม่นยำในวินาทีสุดท้ายทั้งนั้น จึงทำให้ฝ่ายโน้นเริ่มด่ามา
ป๋อจิ่วเห็นเพียงท่านเทพขยับนิ้วเล็กน้อย ปิดปุ่มเสียงบนเพจ แล้วแย่งมอนสเตอร์ต่อไปเรื่อย ๆ
“ฉันไม่เล่นแล้วเว้ย! โธ่เว้ย!” ครั้งนี้เป็นการพิมพ์ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้แต่ระอา อยากให้ท่านคนนั้นเล่นดีๆ หน่อย แต่เจ้านั่นกลับหัวเราะหยัน ส่งข้อมูลมาสามระลอก “ให้ไอ้เจ้ากิ๊กแซ่ฉินอะไรนั่นอย่ามาแย่งมอนสเตอร์ของฉันดิ แล้วฉันนะเล่นต่อ เดินตำแหน่งแบบนี้ นอกจากมาแย่งมอนสเตอร์ของฉัน แล้วไม่เห็นทำอะไรเป็นสักอย่าง มาเลยพวก เอามันให้ตาย”
ป๋อจิ่วกวาดตามองแวบหนึ่ง หยิบมือถือมากดพิมพ์ออกไป “ไม่ออกมาใช่ไหม? งั้นก็อย่าออกมาเลย” พูดจบ เธอก็บังคับตัวละครเหาะไปยังโซนป่าของฝ่ายตรงข้ามละล่องดั่งสายลมคมกริบ ชายเสื้อสะบัด ดาบสะท้อนแสงขาว
“หาเรื่องตายชัด ๆ” นักฆ่าคนนั้นเพิ่งพูดจบ เสียงเอฟเฟกต์ประจำเกมดังก็ขึ้น
………………………………….
ตอนที่ 1731
ดับเบิ้ลคิล ฆ่าได้สองชีวิต สองชีวิต? ทำไมถึงฆ่าได้ตั้งสองชีวิต? นักฆ่าที่อาละวาดเมื่อครู่ ถึงกับเงียบกริบในทันใด เมื่อหันมาดูหน้าจออีกที ก็เห็นร่างที่ชายเสื้อสะบัด เปิดใช้สกิลหลักกระโดดกลับไปยังที่เดิม โดยหลังจากที่ฆ่าได้ meให้นักเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามไล่ฆ่าไม่ลดละ
แต่คนๆ นั้นยังไม่กลับป้อม โดยเข้าไปซ่อนตัวในพุ่มหญ้าหลังจากที่ล่าทีมมินเนี่ยม เวลานี้ เดิมเธอเสียเลือดจนเกือบหมด ได้ฟื้นมามีเลือดครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากดูจากแผนที่ คนๆ นั้นข้ามมา นักเวทก็ซัดพลังใส่ในทันทีที่เห็นความเร็ว ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบสกิลจับตัวแข็งได้ด้วยการเดินตำแหน่งในรูปตัว Z อย่างคล่องแคล่ว จนท้ายที่สุดก็ได้ยินเสียงเงื้อดาบขั้นเทพอย่างได้จังหวะ
ครั้งหนึ่ง สองครั้ง สามครั้ง ปลายดาบซัดเป็นครั้งที่สี่
ทริปเปิ้ลคิล! ฆ่าได้สามชีวิตติดๆ อย่างไม่ขาดตอน ชนิดที่ยากจะคำนวณเวลา เพราะเร็วมาก ซึ่งในขณะที่คนในทีมกำลังฟื้นคืนชีพอยู่ในบ่อน้ำ แล้วได้มาเห็นแผนที่ ทุกคนต่างตะลึง โดยนักเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามที่ตายไป กลับพิมพ์ข้อความแค่ “…”
คงเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะโดนฆ่ากลับ เพราะเจ้าตัวยังมีเลือดเต็มอยู่เลย ส่วนฝ่ายตรงข้ามแทบไม่เหลือเลือดแล้ว!
“ดาบดูดเลือด เขาใช้ดาบดูดเลือดหรือเปล่า?” เล่นใช้ดาบดูเลือดตั้งแต่แรกแบบนี้ เกมเมอร์คนนี้จะต้องเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองแค่ไหนกัน?
เพื่อนร่วมทีมต่างสบตากัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงเอฟเฟกต์ก็ดังขึ้นอีก “บอสราชาถูกฆ่า ได้ประสบการณ์เพิj,ขึ้นเป็นเท่าตัวทั้งทีม”
คนที่แสดงปฏิกิริยาออกมาก่อนเพื่อนกลับไม่ใช่เพื่อนร่วมทีม แต่เป็นนักฆ่าของฝ่ายตรงข้าม “อ๊า บอสราชาที่ฉันอุตส่าห์ฆ่ามาตั้งนมนาน!”
ทว่าในระหว่างที่พิมพ์อยู่ สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือร่างในชุดขาวที่เพิ่งฆ่ามอนสเตอร์ได้สองตัวก็ข้ามกลับมา ซัดพลังสายฟ้าฟาดใส่ด้านหลัง แถมด้วยพลังชุดใหญ่ เล่นเอาเขาตกใจจนต้องถอยหนีกลับเมืองในสภาพเลือดแทบหมดตัว “น้องตกใจหมดเลยอ่ะ เกือบตายแล้ว เกือบตายแล้วไหมล่ะ”
“ฉันจำได้ว่าคนที่ฆ่ามอนสเตอร์มีเลเวลไม่สูงนี่ คนที่เลเวลสูงเป็นอีกคน แต่ทำไมถึงโหดอย่างนี้? ฉันไม่กล้าออกจากป้อมเลยอ่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน เล่นยังไงเนี่ย โคตรเหนือนรกเลย”
หากเทียบกับฝ่ายตรงข้ามที่ประหวั่น นักฆ่าในทีมเดียวกันที่โวยวายว่าจะไม่ออกมาเล่น ถ้าไม่ยอมให้มอนสเตอร์แก่ตัวเอง ก็ได้แต่หน้าแดงสลับซีด กดมือถือส่งข้อความเสียง “หาคนมาเล่นแทนหรือเปล่า?”
ป๋อจิ่วไม่ใส่ใจ กวาดต้อนโซนป่าตัวเองจนเรียบ ซึ่งไม่เพียงเท่านี้ ยังเหาะไปโซนป่าของคู่แข่ง กะจะต้องล่าหมูป่ามาสักหน่อย แล้วประกาศว่า ‘โซนป่าของนายก็คือบ้านของฉัน’ อะไรทำนองนี้
คิดดูละกันว่าฉายา ‘ประมุขฆ่าหมูป่า’ ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ จะต้องมีฐานะสูงที่สุด ทุกที่ที่เหาะผ่าน จะต้องได้ชีวิตมาหนึ่งชีวิตหรืออาจจะได้มอนสเตอร์แทน
ใช่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ไล่ล่าป๋อจิ่ว ทว่าตัวละครที่เธอเลือกคล่องตัวเหลือเกิน แถมเร็วมากหากตามไล่คนเดียว มีหวังโดนฆ่าแน่ เมื่อมาล่ากันสามคน เจ้านั่นก็ทำเหมือนหนีไป โดยล่อให้พวกเขาไล่ตามเป็นรอบ แล้วลอบฆ่าจากด้านหลัง อันเป็นแผนที่ล่อพวกเขาอย่างโหด เพียงแค่กระพริบตา ตัวยิงไกลของพวกเขาหรือตัว ADC ก็ถูกเล่นงานจนอยู่หมัด
คะแนน 0 ต่อ 6 ถือเป็นการพลิกสถานการณ์อย่างเก่ง
เมื่อเล่นกันมาถึงช่วงกลางเกม ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นร่างของป๋อจิ่วบนจอก็ไม่กล้าที่จะออกมา สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือ หากไม่ระวังให้ดี บางครั้งการอยู่ใต้ป้อมเพียงคนเดียวก็ไม่ปลอดภัยหรอก
ร่างในชุดขาวสามารถข้ามป้อมฆ่าได้ แถมยังได้เลือดกลับมาอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ รู้สึกว่าเล่นเกมไม่สนุกแล้ว
เขาเป็นใครกันนะ?
………………………………..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น