ตามใจรัก สาวนักแฮก 744-751

 ตอนที่ 744 ความคิดของเขา


 


 


“เราพบว่าเขาทำตัวดูน่าสงสัยเพราะเขาดูเหมือนจะมีตั้งใจมาหาเรื่องพวกเรา ฉันไม่รู้ว่าท่านประธานาธิบดีชุยจะช่วยตรวจสอบให้ได้ไหมคะว่าเขามีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือเปล่า” ซิงเหอแสดงความต้องการออกมาอย่างตรงไปตรงมา


 


 


ท่าทีของชุยเชี่ยนมืดหม่นลงหลายเท่าก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับปากอย่างง่ายดาย “แน่นอน เรื่องนั่นไม่ใช่ปัญหา! ในเมื่อเขาเป็นคนที่น่าสงสัย เราก็จะสอบสวนเขาโดยละเอียดและจะรายงานกลับมาให้พวกคุณทุกคนทราบเมื่อเราได้ข้อสรุปที่แน่ชัด”


 


 


“ขอบคุณท่านประธานาธิบดีอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้คุณได้ช่วยพวกเราไว้ ดังนั้นหากคุณต้องการความช่วยเหลือจากเราในอนาคต เราจะตอบแทนน้ำใจโดยไม่ลังเล” ซิงเหอเสนอพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงความหมาย ชุยอิงชะงักและวิธีที่เขาใช้มองพวกเธอเปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย


 


 



 


 


หลังจากเลี้ยงรับรองเสร็จสิ้น ซิงเหอและมู่ไป๋ก็ปฏิเสธคำเชิญให้พักที่คฤหาสน์ที่ชุยเชี่ยนจัดเตรียมไว้ให้และเลือกที่จะพักที่โรงแรมแทน เมื่อพวกเธอมาถึงที่โรงแรม ซิงเหอเห็นว่าอีเฉินและทุกคนที่เหลืออยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว


 


 


ตอนที่เครื่องบินลงจอด อาลิได้ติดต่อไปยังกลุ่มของอีเฉินเพื่อขอให้พวกเขามารวมตัวกันที่โรงแรม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา กลุ่มของอีเฉินง่วนอยู่กับการเฝ้าสังเกตการณ์ตระกูลเฮ่อหลานในประเทศ R


 


 


ซิงเหอถามพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา “ทุกอย่างเป็นยังไงบ้าง”


 


 


อีเฉินตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลถูกระงับ พวกตระกูลเฮ่อหลานก็หาแพะมารับผิดแทน มีการรายงานเรื่องนี้ผ่านสื่อแค่ไม่กี่ที่ เรื่องนี้เลยถูกลืมไปหมดแล้ว”


 


 


แซมบ่นด้วยความไม่พอใข “เหตุการณ์นั้นแทบไม่สร้างความเสียหายอะไรให้พวกมันเลย”


 


 


“และไม่มีใครกล้าออกมาท้าทายพวกมันจริงๆ จังๆ ด้วย” แคร์นเสริม


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “ฉันเดาไว้แล้ว เหตุการณ์เล็กน้อยแบบนี้ไม่ส่งผลกระทบอะไรรุนแรงให้พวกเขาหรอก แต่ไม่จริงที่ไม่มีใครกล้าเอาหัวตัวเองมาเล็งเป้าตระกูลเฮ่อหลาน”


 


 


“คุณหมายความว่ายังไง” อีเฮินถามด้วยความสับสน


 


 


ซิงเหอไม่ได้ตอบแต่ดึงแล็ปท็อปของตัวเองขึ้นมา ในเวลาชั่วครู่ เธอจัดการแฮ็กเข้าไปในระบบของสำนักข่าวกรองของประเทศ R และดึงเอาข้อมูลที่ถูกรวบรวมไว้เกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานออกมา มีเอกสารเกี่ยวกับเฮ่อหลานชางและเฮ่อหลานฉีอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงข้อมูลส่วนน้อยของพวกเขา ส่วนมากเป็นข้อมูลที่หาได้ทั่วไปจากอินเทอร์เน็ตและไม่มีความสำคัญอะไร


 


 


แต่กระนั้นก็มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิล กลุ่มของอีเฉินรู้สึกสับสนเมื่อเห็นสิ่งนี้


 


 


มีเพียงอาลิที่เข้าใจ “ซิงเหอ ดูเหมือนประธานาธิบดีของประเทศ R จะจงใจจัดการกับพวกมันนะ!”


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “ใช่ ในที่สุดตอนนี้เราก็สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้”


 


 


ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่บันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฮ่อหลาน เขากำลังรออยู่อย่างแน่นอน รอโอกาสที่จะกำจัดอีกฝ่าย


 


 


“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกคุณสรุปได้ยังไงว่าประธานาธิบดีของประเทศ R มีเจตนาที่จะจัดการกับตระกูลเฮ่อหลาน” อีเฉินถามพร้อมคิ้วที่ขมวดย่นด้วยความงุนงง ซิงเหออธิบายทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบให้พวกเขาฟัง พวกเขาอึ้งพอสมครเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด


 


 


พวกเขาไม่คาดคิดว่าความคิดของซิงเหอจะน่ากลัวถึงขนาดนี้ เธอลงมือตรวจสอบแค่ชุยอิงแต่สามารถขุดคุ้ยความลับออกมาได้มากมาย ถึงแม้นี่อาจจะดูเป็นเรื่องง่ายที่จะทำทั้งหมดนี้ แต่ถ้าซิงเหอไม่เริ่มการตรวจสอบชุยอิง พวกเขาคงไม่มาถึงจุดนี้ได้ จุดที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครคิดจะใช้ชุยอิงเป็นตัวเปิดฉากและพวกเขาไม่มีทางค้นพบข้อมูลที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างแน่นหนาแบบนั้นได้


 


 


ซิงเหอไม่เพียงแค่มีความสามารถในการประติดประต่อทุกอย่างแต่ยังเฉลียวฉลาดมีความสามารถอีกด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีความคืบหน้ามากเช่นนี้


 


 


แม้แต่การจับกุมตัวเฮ่อปินยังไม่ใช่เรื่องที่ใครจะสามารถทำได้ แผนการของเธอนั้นช่างแยบยลและเธอไม่เคยปล่อยให้โอกาสใดๆ หลุดลอยไป เธอไม่เคยเหลิงหรือประมาทและนั่นคือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เธอสามารถเปิดโปงความลับมากมายออกมาได้


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 745 ลงมือโจมตี


 


 


อีเฉินรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างใช้การไม่ได้ เขาลงมือตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ในประเทศ R อยู่เป็นเวลานานแต่ไม่พบอะไรเลย เมื่อเทียบกับซิงเหอที่พบข้อมูลมากมายในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ เขารู้สึกดีใจที่เขาได้ขอติดตามเป็นลูกศิษย์ของซิงเหอ


 


 


ในเวลาเดียวกัน อีเฉินก็รู้สึกมีความสุข “ในเมื่อตระกูลชุยตั้งใจที่จะจัดการกับตระกูลเฮ่อหลาน งั้นก็หมายความ่วาเราสามารถขอความร่วมมือจากพวกเขาได้ถูกไหม”


 


 


ถ้าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีชุย หลายอย่างจะง่ายขึ้นเยอะ


 


 


ซิงเหอส่ายหัว “ยังก่อน ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่รู้ว่าท่านประธานาธิบดีชุยคิดแบบนั้น แต่ฉันบอกไม่ได้ว่าคนที่เหลือในตระกูลชุยจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า”


 


 


“พูดง่ายๆ คือท่านประธานาธิบดีชุยอาจจะไม่ได้คิดเหมือนกับคนทั้งตระกูลชุยงั้นเหรอ” แซมเอ่ยถาม


 


 


“เป็นไปได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนัก ไม่ว่ายังไงฉันก็จะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป พวกคุณคงเหนื่อยกันมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”


 


 


“โอเค งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะ พวกเธอสองคนก็ควรจะรีบพักผ่อนด้วยละ” อาลิพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอเดินนำคนที่เหลือออกไปจากห้องเหลือไว้เพียงซิงเหอและมู่ไป๋


 


 


“คุณวางแผนจะติดต่อกับชุนเชี่ยนงั้นเหรอ” มู่ไป๋ถามซิงเหอด้วยน้ำเสียงต่ำ


 


 


เขารู้จักหญิงสาวเป็นอย่างดีและนี่คือความคิดที่อยู่ในหัวของเธอ ซิงเหอพยักหน้า “ใช่ ฉันวางแผนจะลงมือก่อนสักครั้งเพื่อดูว่าเขาจะมีปฏกิริยายังไง จะดีมากถ้าเขาแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับพวกเรา”


 


 


มู่ไป๋สนับสนุน “เป็นความคิดที่ไม่เลว ในเวลาแบบนี้ ฝ่ายที่ลงมือก่อนจะได้เปรียบ ติดต่อเขาได้เลย แต่ระวังอย่าให้โจ่งแจ้งเกินไปนักละ”


 


 


“ฉันรู้ค่ะ” ซิงเหอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อติดต่อไปยังเลขานุการของประธานาธิบดีชุย โดยที่เธอไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่าชุนเชี่ยนเองก็กำลังตัดสินใจในเรื่องเดียวกันอยู่ ถ้อยคำที่ซิงเหอกล่าวระหว่างอยู่ในงานเลี้ยงยังคงติดอยู่ในหัวของเขส ชุยเชี่ยนนั่นฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายที่ซิงเหอแฝงเอาไว้ นี่จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ซิงเหอกำลังบอกเขาเกี่ยวกับปัญหาของตระกูลเฮ่อหลาน


 


 


ชั่วขณะที่ชุยเชี่ยนกำลังคิดเรื่องนี้ เลนานุการของเขาเคาะประตูอย่างสุภาพและเปิดเข้ามาเพื่อรายงาน “ท่านประธานาธิบดีครับ มีสายถึงท่านจากคุณเซี่ย ประเทศจีนครับ”


 


 


ชุยเชี่ยนชะงัก เขารีบสั่งให้เลขานุการของเขาโอนสายเข้ามาทันที “สวัสดี คุณเซี่ย”


 


 


“ท่านประธานาธิบดี ฉันต้องขออภัยด้วยนะคะที่โทรเข้ามารบกวนในเวลาดึกแบบนี้ แต่ไม่ทราบว่าฉันจะขอเวลาคุณสักสองสามนาทีได้ไหมคะ ฉันมีเรื่องสำคัญบางอย่าง” ซิงเหอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ


 


 


ชุยเชี่ยนเข้าใจในทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการจะปรึกษาเรื่องสำคัญ ดังนั้นเขาจึงโบกมือไล่เลขานุการของเขาออกไป จากนั้นเขาจึงกล่าวตอบไปยังปลายสายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณเซี่ย พูดต่อได้เลย”


 


 


ซิงเหอไม่ลีลาและพูดเข้าประเด็น “ท่านประธานาธิบดี เราพบกับปัญหาบางอย่างระหว่างการค้นหาคุณแม่ของฉันและมันเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน ฉันแค่สงสัยว่าคุณคิดยังไงกับครอบครัวนี้”


 


 


“ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องธรรมดาที่ตระกูลใหญ่ทุกตระกูลจะมีด้านที่ซ่อนเอาไว้จากสายตาคนภายนอก” ชุยเชี่ยนตอบด้วยท่าทีกำกวม แต่คำตอบของเขายังคงแฝงไว้ซึ่งอะไรบางอย่าง


 


 


ซิงเหอจับใจความสิ่งที่ถูกละเอาไว้ได้ เธอจึงกล่าวต่อ “หากคุณเองก็รู้สึกไม่พอใจคนพวกนี้อยู่ พวกเราสามารถเสนอโอกาสในความร่วมมือให้คุณได้ แน่นอนว่าเงื่อนไขในการร่วมมือนั้นขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเพราะพวกเราเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ไม่เหมือนกับอีกฝ่าย”


 


 


ครั้งนี้ชุยเชี่ยนตกตะลึงอย่างจริงจัง!


 


 


คนพวกนี้มีปัญหากับตระกูลเฮ่อหลานแถมยังรู้ว่าตัวเองกำลังถูกหมายหัว แต่พวกเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน!


 


 


ชุยเชี่ยนหรี่ตาของเขา “คุณเซี่ยดูเหมือนจะรู้จักผมดีทีเดียวนะ”


 


 


“ไม่ดีเท่าที่คุณคิดหรอกค่ะท่านประธานาธิบดี เราได้ยินบางอย่างและรู้สึกสงสัยและต้องการที่จะตรวจสอบให้มากขึ้น” ซิงเหอพูดอย่างใจเย็น โดยไม่เผยความจริงที่ว่าเธอได้จัดการแฮ็กเข้าไปในสำนักข่าวกรองเรียบร้อยแล้ว


 


 


แต่กระนั้นชุยเชี่ยนก็ยังระวังตัว “คุณกลัวว่าข้อสงสัยของคุณจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ”


ตอนที่ 746 การเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด


 


 


“ในเมื่อเราไม่มีทางเรื่องอื่น ทำไมถึงไม่ลองเดิมพันครั้งใหญ่ดูล่ะคะ แน่นอนว่าถ้าข้อสงสัยของเราเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราก็ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น” ซิงเหอกล่าวอย่างมุ่งมั่นและชนะประธานาธิบดีชุยได้อย่างราบคาบ


 


 


หากชุยเชี่ยนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเธอมาก่อน เขาคงรู้สึกประทับใจในตัวเธอก็ตอนนี้ นี่เป็นเพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กล้าแสดงออกด้วยความมั่นใจอย่างเปิดเผยเช่นนี้ต่อหน้าเขามาก่อน แนวทางที่เธอวางตัวนั้นเพียงพอที่จะทำให้ใครก็ตามรู้สึกประทับใจได้


 


 


“คุณเซี่ยนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ แต่คุณวางแผนที่จะทำให้ผมเชื่อคุณได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่สามารถรับปากอะไรคุณได้เลยนะ แล้วคุณจะเชื่อผมได้ยังไงครับ”


 


 


ซิงเหอหัวเราะเบาๆ “ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องสงสัยความร่วมมือจากท่านนี่คะ อีกอย่าง ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่กลัวความล้มเหลว ไม่ว่าคุณจะให้ความไว้วางใจพวกเราหรือไม่ เชิญคุณดูการกระทำของพวกเราได้เลย คุณสามารถใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้มากกว่านี้แล้วค่อยเลือกที่จะร่วมมือกับพวกเราต่อไปหรือไม่ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ”


 


 


ซิงเหอวางสายหลังจากพูดจบ เธอหันไปเห็นท่าทีสงสัยของมู่ไป๋ เขาดูเหมือนจะมีบางอย่างที่อยากจะพูด


 


 


“อะไร” ซิงเหอเอ่ยถามด้วยความข้องใจ “มีอะไรเหรอคะ”


 


 


มู่ไป๋หัวเราะลั่น “ผมแค่อยากจะบอกว่าคุณนี่กล้าหาญสุดๆ ไปเลย คุณไม่กลัวเลยเหรอว่าชุยเชี่ยนกับตระกูลเฮ่อหลานอาจจะกำลังรวมหัวกันแล้วคุณอาจจะเพิ่งเผยไต๋ของตัวเองให้อีกฝ่ายรู้ คุณไม่กลัวเลยเหรอว่าตระกูลเฮ่อหลานนั่นจะส่งคนมาลอบสังหารคุณ”


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “เอาจริงๆ ฉันก็กลัว”


 


 


ชายหนุ่มโก่งคิ้วขึ้น “งั้นคุณกล้าทำเรื่องตรงไปตรงมาแบบนี้ได้ยังไง”


 


 


แววตาใสสะอาดของซิงเหอจ้องมองมาที่เขาและกล่าว “แล้วจะมีวิธีอื่นที่ทำให้ฉันได้โอกาสนี้อีกไหมถ้าไม่พุ่งเข้าไปตรงๆ แบบนี้ ฉันรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ตราบใดที่มันมีความคืบหน้า ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือสำเร็จ ฉันก็พอใจเพราะการเปิดโอกาสในเกมนี้ทำให้เราสามารถพบทางใหม่ๆ และเดินก้าวต่อไปได้”


 


 


มู่ไป๋พูดต่อ “แล้วถ้าไม่มีทางใหม่เกิดขึ้นล่ะ”


 


 


ซิงเหอหัวเราะ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ต่อให้ไม่มีทางใหม่เกิดขึ้น ตราบใดที่ฉันยังไม่ตายในประเทศนี้ก็ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ฉันสามารถทำได้หลังจากที่เรากลับไปประเทศจีน”


 


 


มู่ไป๋อดหัวเราะไปพร้อมกับอีกฝ่ายไม่ได้ เขาลูบไล้เรือนผมของอีกฝ่ายและลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา “ถูกของคุณ เรายังมีทางหนีทีไล่อีกเยอะ ดังนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณทั้งนั้น ทำสิ่งที่คุณอยากทำเถอะ สร้างพายุใหญ่เท่าที่คุณต้องการได้เลย”


 


 


ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ยอมให้มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับหญิงสาว ซิงเหออ่านความคิดของมู่ไป๋ออกแต่เธอไม่บอกเขาว่าตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะไม่ยอมให้มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขาเช่นกัน


 


 


ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มสงครามที่เธอไม่มีทางชนะ เธอกล้าที่จะทำตัวเปิดเผยและตรงไปตรงมามากเช่นนี้เพราะเธอเตรียมตัวมามาก หนึ่งในไพ่ตายของเธอคือเฮ่อปิน


 


 


แต่กระนั้น มันก็เป็นความเสี่ยงที่มากที่สุดเพราะเฮ่อปินยังคงเป็นตัวแปรที่เธอไม่อาจควบคุมได้ ซิงเหอไม่มีเวลารีรออีกแล้ว หลังจากที่เธอติดต่อชุยเชี่ยน เธอก็รีบติดตามความเคลื่อนไหวของเฮ่อปินทันที


 


 


หลังจากที่พวกเธอเดินทางมาถึงสนามบิน เฮ่อปินก็ถูกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศ R พาตัวไป แต่หลังจากสอบสวนบางอย่าง เธอก็ตระหนักได้ว่าเขาถูกปล่อยตัวไปอย่างลึกลับและถูกกลุ่มคนปริศนาพาตัวออกไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากลุ่มคนปริศนาพวกนั้นเป็นคนของตระกูลเฮ่อหลาน


 


 


จังหวะที่เฮ่อปินถูกพาตัวขึ้นรถ คนขับรถกระซิบถามเขาอย่างแผ่วเบา “นายเป็นอะไรหรือเปล่า”


 


 


“ผมไม่เป็นไร” เฮ่อปินตอบอย่างนุ่มนวล


 


 


คนขับรถกล่าวต่อ “นายท่านเป็นห่วงนาย ท่านถึงส่งฉันมารับนายด้วยตัวเอง ท่านต้องการให้ฉันบอกนายว่าไม่ต้องเป็นห่วง ท่านจะจัดการทุกอย่างเอง”


 


 


เฮ่อปินประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเฮ่อหลานชาง เขาคิดว่าพ่อจะไม่สนใจว่ามีเขาอยู่ในชีวิต…


 


 


ทันใดนั้น เฮ่อปินถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ตนเองได้เลือกทางที่ถูก เขาเลือกที่จะอยู่ข้างตระกูลเฮ่อหลานและไม่ขายพวกเดียวกันเอง


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 747 เลือกที่จะซื่อสัตย์


 


 


“พาฉันไปหานายท่านเดี๋ยวนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขู่ในลำคอ เขาทนรอที่จะบอกทุกอย่างกับพ่อของเขาไม่ไหวแล้ว


 


 


“นายท่านเองก็บังเอิญอยากเจอนายอยู่เหมือนกัน ฉันจะพานายไปหาท่านเดี๋ยวนี้แหละ”


 


 


หลังจากที่คนขับรถตอบเสร๋จ เขาสตาร์ตรถทันที เฮ่อปินถูกพามายังคฤหาสน์ของตระกูลเฮ่อหลานอย่างรวดเร็ว


 


 


เฮ่อหลานชางรอเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เฮ่อปินเริ่มกล่าวขอโทษทันทีที่เห็นอีกฝ่าย “ผมขออภัยที่ทำภารกิจล้มเหลวครับ ผมทำให้ท่านผิดหวัง”


 


 


นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำภารกิจล้มเหลว และเป็นการล้มเหลวครั้งใหญ่เสียด้วย เขาไม่มีความกล้าใดที่จะสู้หน้าผู้เป็นพ่อของเขา


 


 


เฮ่อหลานชางไม่ได้โกรธ เขาพยักหน้าและกล่าวอย่างใจดี “นั่งก่อนสิแล้วเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง อย่าให้พลาดไปสักรายละเอียด”


 


 


“ครับ” เฮ่อปินนั่งลงตรงข้ามกับพ่อของเขาและสาวรับใช้คนหนึ่งนำชาดำซึ่งเป็นเครื่องดื่มโปรดของเขามาเสิร์ฟทันที ทุกครั้งที่เฮ่อปินกลับมาจากการทำภารกิจและกำลังจะรายงานทุกอย่างให้เฮ่อหลานชางฟัง พ่อของเขาจะต้องให้ใครบางคนเตรียมชาดำไว้ให้เฮ่อปินหนึ่งแก้วเสมอ ความจริงที่มีเครื่องดื่มถูกเตรียมไว้รอเขาแม้ว่าเขาจะทำภารกิจล้มเหลวกลับมานั้นสร้างความประทับใจให้แก่เฮ่อปิน


 


 


นั่นทำลายกำแพงที่เขาสร้างขึ้นและเขาวางแผนที่จะบอกพ่อของเขาทุกอย่าง


 


 


“ภารกิจล้มเหลวเพราะอีกฝ่ายรู้ตั้งแต่แรกว่าเราจะสะกดรอยตามเธอ ผู้หญิงคนนั้นเลยจัดเตรียมการตั้งรับเอาไว้รอพวกเราลงมือ ดังนั้นเมื่อผมไปถึง ผมจึงถูกพบ ไม่อย่างนั้นภารกิจนี้คงไม่ล้มเหลวอย่างรวดเร็วแบบนี้ครับ” เฮ่อปินรายงานด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด


 


 


เฮ่อหลานชางหรี่ตาของเขาลง “กำลังจะบอกว่าพวกมันรู้ว่าพวกเราเป็นคนส่งแกไปหาพวกมันงั้นเรอะ”


 


 


เฮ่อปินพยักหน้าหลังจากมีท่าทีลังเลเล็กน้อย “ครับ พวกมันพูดเหมือนกับว่ารู้ทุกอย่าง…”


 


 


“อะไรคือทุกอย่างที่แกกำลังพูดถึง” น้ำเสียงของเฮ่อหลานชางเย็นลงเล็กน้อย และมีความกดดันเพิ่มขึ้น


 


 


“พวกมันรู้ว่าเรากำลังสะกดรอยตามผู้หญิงคนนั้นและรู้เกี่ยวกับ… ตัวตนของผม”


 


 


“พวกมันรู้ว่าแกเป็นลูกชายของฉัน” เฮ่อหลานชางถามอย่างตรงไปตรงมา


 


 


เฮ่อปินพยักหน้าอย่างอ่อนแรง ความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในแววตาของเฮ่อหลานชาง แต่เขายังคงถามต่ออย่างใจเย็น “พวกมันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”


 


 


เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าความจริงเรื่องที่เขามีลูกนอกสมรส เรื่องนี้ไม่มีทางบอกได้ด้วยการสำรวจจากภายนอกเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสงสัยว่าเซี่ยซิงเหอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร


 


 


เฮ่อปินต้องการจะอธิบายแต่ทันใดนั้นเขาจำเรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับการตายของผู้เป็นแม่ที่ถูกบันทึกอยู่ในข้อมูลของสำนักข่าวกรองขึ้นได้ เฮ่อปินแอบมองไปที่เฮ่อหลานชางและอยากจะถามว่าพ่อเป็นคนฆ่าแม่ของเขาจริงหรือไม่


 


 


แต่กระนั้นเขาไม่อาจทำใจถามเรื่องนี้ได้ เขาเลือกที่จะซื่อสัตย์กับผู้เป็นพ่อของตัวเอง “ผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องนี้จากสำนักข่าวกรองของประเทศ ซึ่งบันทึกไว้ว่าผมเป็นลูกชายของท่านครับ”


 


 


คราวนี้เฮ่อหลานชางกลายเป็นคนที่ชะงัก “แกพูดสำนักข่าวกรองงั้นเรอะ”


 


 


“ครับ สำนักข่าวกรองของประเทศ R ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมที่นั่นถึงได้มีข้อมูลพวกนี้ แต่พวกมันไปพบเข้า”


 


 


สีหน้าของเฮ่อหลานชางดำมืดขึ้นทันที “เป็นไปได้ไหมว่าประธานาธิบดีของสองประเทศกำลังแอบร่วมมือกัน!”


 


 


เฮ่อปินอึ้งเพราะพบว่าข้อสันนิษฐานนี้มีความเป็นไปได้เช่นกัน เขากำลังสงสัยว่าทำไมเซี่ยซิงเหอคนนั้นถึงได้มีความสามารถนัก และถ้าประธานาธิบดีของประเทศ R เป็นคนให้ข้อมูลพวกนี้กับผู้หญิงคนนั้น ทุกอย่างก็สมเหตุสมผล บางทีทั้งสองประเทศอาจกำลังสร้างความร่วมมือกันเพื่อจัดการกับพวกเขาอยู่ก็เป็นได้


 


 


เฮ่อปินเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย “พวกมันเริ่มร่วมมือกันแล้วจริงเหรอครับ แต่ตระกูลชุยอยู่ข้างพวกเราไม่ใช่เหรอ”


 


 


“พวกมันรู้อะไรอีก” เฮ่อหลานชางไม่ตอบแต่เลือกที่จะยิงคำถามของตัวเอง ดวงตาของเขาฉายแววจริงจัง


ตอนที่ 748 ต้องสงสัย


 


 


เฮ่อปินเลือกที่จะส่ายหัว ด้วยจิตใต้สำนึกที่กำลังบีบบังคับเขาอยู่ภายใน “หมดแล้วครับ…”


 


 


เขาได้พูดทุกอย่างที่เขาควรพูดออกไปหมดแล้ว ส่วนสิ่งที่เขาไม่ควรพูดเขาก็ไม่กล้าพูด


 


 


เฮ่อหลานชางจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาทิ่มแทงและพูดกดดัน “หมดแล้วจริงเรอะ ลองนึกให้ดีๆ สิ”


 


 


“หมดแล้วจริงๆ ครับ!”


 


 


“ในเมื่อพวกมันรู้ตัวตนที่แท้จริงของแกแล้ว ทำไมพวกมันถึงยังปล่อยแกกลับมาแบบนี้ และนั่นไม่ได้ระบุอยู่ในหนังสือส่งตัวกลับอย่างเป็นทางการของแกด้วยซ้ำ”


 


 


เฮ่อปินอ้าปาก ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ผมไม่อาจเปิดเผยเรื่องข้อมูลที่ว่าพ่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ได้ ผมจะไม่มีวันพูดเรื่องนี้เพราะแผนของเซี่ยซิงเหอคือการชัดจูงให้ผมไปอยู่ข้างเธอ ดังนั้นเธอถึงปล่อยผมออกมาง่ายๆ แบบนี้


 


 


ปฏิกิริยาแรกของเฮ่อปินคือการบ่ายเบี่ยง เขากลัวว่าหากเขาเปิดเผยทุกอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและครอบครัวจะขุ่นเคืองได้


 


 


“ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงตัดสินใจทำแบบนั้น อาจเป็นเพราะพวกมันไม่ต้องการให้ผมบอกความจริงกับท่านเรื่องที่พวกมันเจอคนตัวเล็กไร้ประโยชน์อย่างผมและปล่อยผมออกมา พวกมันคิดว่าผมจะกลัวว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองจะถูกเปิดโปงและทำให้ผมไม่กล้าบอกความจริงกับท่าน” เฮ่อปินลดสายตาของตัวเองลงและกล่าวเหตุผลอันยากที่จะเชื่อถือได้ออกมา


 


 


แต่เขาต้องประหลาดใจเพราะเฮ่อหลานชางเชื่อสิ่งที่เขาพูด “เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าพวกมันจะตั้งใจทำอะไร การที่แกกลับมาได้โดยปลอดภัยก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว แกคงเหนื่อยแล้วสินะ ไปพักไป ปล่อยที่เหลือให้ฉันจัดการเอง”


 


 


“ครับ!” เฮ่อปินลุกขึ้นและเตรียมตัวที่จะเดินออกไป


 


 


เฮ่อหลานชางส่งเสียงเรียกเขากลับมา “ดื่มชาให้หมดสิ ฉันตั้งใจชงมันให้แกเชียวนะ”


 


 


“ครับ” เฮ่อปินหยิบแก้วขึ้นและกระดกชาในแก้วขึ้นดื่มหมดในรวดเดียว ชานั้นอุ่นไปทั้งกายและใจของเขา เขาถึงกับกระโดดตัวลอยออกจากห้อง ก่อนกลับมาถึง เขากลัวว่าตัวเองจะต้องถูกต่อว่าเพราะเขาทำภารกิจล้มเหลว แต่นั้นกลับไม่เกิดขึ้น พ่อของเขาไม่กล่าวโทษเขาเลยและนั่นทำให้เฮ่อปินตื้นตันมาก


 


 


พ่อขอเขานั้นเย็นชาและเป็นคนที่ไม่อาจเอื้อมสำหรับเฮ่อปินมาโดยตลอด แต่ข้อพิสูจน์ในวันนี้ทำให้ความประทับที่เขามีต่อผู้เป็นพ่อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก บางทีเฮ่อหลานชางอาจจะปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกชายคนหนึ่งก็ได้ แต่เขาแค่แสดงท่าทีที่แตกต่างออกไปเท่านั้น…


 


 


หลังจากที่เฮ่อปินเดินออกไปพร้อมกับความคิดอันแสนสุขใจ เฮ่อหลานฉีก็เดินเข้ามา


 


 


เฮ่อหลานชางได้ยินเสียงฝีเท้าของลูกชายและถามอย่างจี้จุด “ลูกคิดยังไงกับสิ่งที่มันพูด”


 


 


“ท่านพ่อ ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!” เฮ่อหลานฉีกล่าวพร้อมคิ้วที่ขมวดย่นแต่น้ำเสียงของเขามีความเชื่อมั่นอยู่ลึกๆ


 


 


เฮ่อหลานชางถาม “ปัญหาอยู่ตรงไหน”


 


 


เฮ่อหลานฉีนั่งลงและหัวเราะในลำคอ “เห็นได้ชัดว่ามันกำลังโกหกพวกเรา เป็นไปไม่ได้ที่ความจริงเรื่องที่ว่ามันเป็นลูกชู้ของพ่อจะถูกบันทึกอยู่ในข้อมูลของสำนักข่าวกรอง ตระกูลชุยเป็นคนของเรา ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางทำอะไรแบบนี้แน่ ดังนั้นมันต้องเป็นคนเปิดเผยความลับนี้ด้วยตัวของมันเอง”


 


 


เฮ่อหลานชางหรี่ตาลงอย่างอันตราย “ฉันก็สงสัยแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันจะทำแบบนั้นไปทำไม”


 


 


“จะทำไมอีกล่ะครับ มันกำลังวางแผนที่จะหักหลังพวกเราไงละ บางทีมันอาจจะกำลังสร้างความร่วมมือกับพวกตระกูลเฉินแล้วก็ได้ ไม่งั้นคนพวกนั้นจะปล่อยมันกลับมาง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกมันรู้เรื่องตัวตนของหมอนี่แล้ว ทำไมพวกมันไม่มาเรียกร้องให้เราอธิบายเรื่องนี้ตรงๆ ล่ะ ท่านพ่อไม่คิดว่ามันน่าสงสัยเกินไปอย่างงั้นหรือครับ แล้วอย่าให้พูดถึงข้อแก้ตัวน่าสมเพศของมันด้วยเลย ถ้าพวกตระกูลเฉินกลัวว่ามันจะปากเปราะบอกทุกอย่างกับเราจริงๆ พวกมันก็ควรจะขังมันไว้ ไม่ว่ายังไงทุกอย่างก็ดูน่าสงสัยเกินไปที่มันกลับมาอย่างปลอดภัยและง่ายดายทั้งที่เพิ่งถูกจับได้”


 


 


เฮ่อหลานชางค่อยๆ ถูกการวิเคราะห์ของเฮ่อหลานฉีชักจูงไปอย่างช้าๆ ต้องเป็นเพราะเฮ่อปินกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเซี่ยซิงเหออยู่เท่านั้น มันถึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาง่ายๆ แบบนี้


 


 


“งั้นเหตุผลที่มันกลับมาแก้ต่างกับเราก็เพื่อซื้อความเชื่อใจของพวกเราสินะ” เฮ่อหลานชางถามเจตนาอาฆาต


 


 


เฮ่อหลานฉีพยักหน้าและด้วยพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ชวนขนลุก “ต้องเป็นแบบนั้นแน่ บางทีมันอาจจะเชื่อว่าแค่บอกความจริงกับเราบางอย่างจะทำให้มันสามารถหลอกพวกเราได้ และผมบอกได้เลยนะว่าเหตุผลที่มันกลับมาเพราะมันวางแผนที่จะทำลายพวกเราจากข้างใน ในขณะที่ตระกูลเฉินโจมตีเราจากข้างนอก”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 749 หมาตัวหนึ่ง


 


 


“บ้าจริง! มันเป็นลูกฉัน มันกล้าหักหลังเราได้ยังไง!” เฮ่อหลานชางแผดเสียงด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาเชื่อคำวิเคราะห์ของเฮ่อหลานฉีเกือบหมดใจ


 


 


เฮ่อหลานฉียิ้มอย่างเยือกเย็น “พ่อับ ผมเคยเตือนเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เราไม่เคยปฏิบัติกับมันอย่างดีและไม่เคยยอมรับมันว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล แล้วมันจะไม่เอาคืนพวกเราได้ยังไง อย่าลืมสิครับว่ามันเป็นมือสังหารนะ ท่านพ่อคาดหวังความซื่อสัตย์จากคนอย่างมันจริงๆ งั้นเหรอ การฆ่าพวกเราแล้วฮุบเอาทุกอย่างไว้เองก็ไม่อยู่นอกเหนือขอบเขตความเป็นไปได้”


 


 


ใบหน้าของเฮ่อหลานชางดำมืด แววตากระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “มันอยากจะยึดเอาทั้งตระกูลเลยงั้นเรอะ มันคิดสำคัญตัวเองมากไปหรือเปล่า เป็นมือสังหารแล้วยังไง สุดท้ายมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมาที่ฉันตัดสินใจเมตตาไว้ชีวิตมันเอาไว้! ถ้าหมาตัวนั้นมันกัดมือคนที่คอยให้ข้าวให้น้ำมันแล้วละก็ ต้องถึงเวลากำจัดมันทิ้งซะ! เจ้าคนทรยศนี่ มันจะต้องถูกลงโทษ”


 


 


“ท่านพ่ออยากให้ผมจับมันมาสารภาพความผิดไหมครับ” เฮ่อหลานฉีรีบเสนอแนะทันที


 


 


เฮ่อหลานชางพยักหน้าโดยแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย “ตกลง พ่อจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของลูกแล้วกัน”


 


 


“โอเคครับ!” เฮ่อหลานฉีรับปากอย่างแข็งขัน ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างชัดเจน เฮ่อปิน ในที่สุดแกก็ตกอยู่ในกำมือของฉัน ฉันจะทำให้แกต้องสำนึกที่เกิดมาบนโลกนี้! แกวางแผนจะมาประชันสิทธิ์ในบ้านนี้กับฉันงั้นเรอะ แย่หน่อยนะที่แกจะไม่มีชีวิตอยู่ได้ทำแบบนั้นหรอก!


 


 


เฮ่อหลานฉีนั้นคอยระแวงเฮ่อปินมาโดยตลอด ด้วยกลัวว่าวันหนึ่งอีกฝ่ายจะลงมือเพื่ออ้างสิทธิ์ทุกสิ่งที่ควรจะเป็นของตนเอง ดังนั้นเมื่อสบโอกาส มีหรือที่เฮ่อหลานฉีจะปล่อยให้หลุดมือไป


 


 


เขาพาคนของตัวเองไปจัดการเฮ่อปินแทบจะในทันที


 


 


เฮ่อปินเพิ่งจะกลับมาถึงห้องของตัวเองและแอนตัวลงนอนในขณะที่เขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเคาะประตูห้องของเขา เขาเดินหน้านิ่วไปเปิดประตู่และสิ่งที่ต้อนรับเขาอยู่คือปากกระบอกปืนอันเย็นเฉียบ!


 


 


มันเล็งตรงมายังกระโหลกของเขา!


 


 


โชคดีที่เขาผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เฮ่อปินกลิ้งตัวออกจากวิถีกระสุนโดยอัตโนมัติแต่ฝ่ายตรงข้ามก็ขยับตัวอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน!


 


 


เสียงปืนถูกทำให้เงียบลงด้วยกระบอกเก็บเสียงปืน แรงกระสุนส่งผลให้เฮ่อปินปลิวไปก่อนกระแทกลงกับพื้น ไหล่ของเขาเป็นรูโชกด้วยเลือด เฮ่อปินบีบกุมไหล่ของตัวเองด้วยความเจ็บปวดแต่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความอกสั่นขวัญหนี


 


 


ในขณะที่จ้องมองเฮ่อหลานฉีที่กำลังเดินทอดน่องเข้ามาใกล้พร้อมกับปืนพกในมือ เฮ่อปินก็ร้องถาม “ทำอะไรเนี่ย!”


 


 


เฮ่อหลานฉีเล็งปืนไปยังพี่น้องต่างมารดาของตัวเองและยิ้มอย่างชั่วร้าย “ฉันทำอะไรงั้นเหรอ แน่นอน ฉันกำลังทำตามคำสั่งของพ่อที่ให้มาลงโทษแกไง”


 


 


“ลงโทษฉัน” เฮ่อปินอึ้ง ทำโทษอะไรกัน ภารกิจล้มเหลวอย่างนั้นหรือ


 


 


“แกร่วมมือกับพวกตระกูลเฉิน ใช่ไหมล่ะ เฮ่อปิน แกหักหลังตระกูลเฮ่อหลาน แกคิดว่าแกจะสามารถรอดพ้นการสืบค้นของพวกเราไปได้งั้นเรอะ โชคร้ายหน่อยนะที่พวกเรามองการโกหกของแกออกได้อย่างง่ายดายเลยละ เพราะฉะนั้น ถึงเวลาที่แกจะต้องชดใช้! เด็กๆ จับมันไว้แล้วโยนมันไปไว้ที่คุกใต้ดิน!”


 


 


“ครับท่าน!” พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเข้าไปจับกุมตัวเฮ่อปินทันที


 


 


เฮ่อปินดิ้นรนด้วยความโกรธเกรี้ยว “ฉันไม่ได้หักหลังท่านพ่อ ฉันไม่มีทางหักหลังท่าน! ฉันต้องการพบท่านพ่อ ฉันไม่เคยหักหลัง…”


 


 


เฮ่อปินต้องกลืนคำพูดที่เหลือเพราะถูกต่อยเข้าที่หน้าท้องอย่างแรงโดยฝีมือของคนที่ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเฮ่อหลานฉี เฮ่อปินถึงกับงอตัวไปด้านหลังจากแรงที่เข้าประทะ มันเกือบทำเอาชาดำที่เฮ่อปินเพิ่งดื่มเข้าไปไหลย้อนกลับออกมา


 


 


เฮ่อหลานปิงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาราวกับแมงป่องชั่วร้ายและทำให้แน่ใจว่าทุกคำพูดที่เขาจะพูดนั่นกระแทกใบหน้าอีกฝ่าย “แกเรียกใครว่าพ่อ เข้าใจไว้เสียด้วยว่าแกมันมีค่าไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่งที่พวกเราเลี้ยงเอาไว้เท่านั้นแหละ!”


ตอนที่ 750 สายเกินกว่าจะเสียใจ


 


 


“แกคิดว่าคนอย่างแกจะได้เป็นนายน้อยของตระกูลเฮ่อหลานงั้นเรอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ พ่อไม่เคยปฏิบัติกับแกว่าแกเป็นลูกชายท่านมาก่อน แกมันไม่ต่างอะไรกับหมาที่ท่านเลี้ยงไว้เพราะความเห็นใจเท่านั้นแหละ! และตอนนี้ท่านก็ต้องการให้ฉันกำจัดแกทิ้ง ดังนั้นแกไม่สิทธิ์อะไรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป! นี่คือผลที่แกได้รับจากการหักหลังพวกเรา!”


 


 


เฮ่อปินตาเบิกโพลงด้วยความช็อก “ว่าไงนะ ท่านเป็นคนสั่งให้…”


 


 


“ถูกแล้ว นี่เป็นคำสั่งตายจากพ่อเพราะการทรยศหักหลังที่แกทำ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะฉันจะปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไป จะได้รู้ซึ้งว่าการถูกทรมานมันเป็นยังไง…” เฮ่อหลานฉีหัวเราะอย่างมีความสุขและชั่วช้าแต่สีหน้าของเฮ่อปินนั้นซีดเป็นกระดาษ โลกของเขากำลังพังพินาศ เขาไม่คาดคิดว่าพ่อผู้ที่เขาเชื่ออย่างหมดหัวใจ ผู้ที่เขาปรารถนาจะเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ จะทำกับเขาเช่นนี้


 


 


เขาบอกทุกสิ่งอย่างสัตย์ซื่อแต่พวกเขากับสงสัยในตัวเขา พวกเขาไม่แม้แต่จะให้โอกาสเข้าได้อธิบาย พวกเขาตัดสินโทษของเขาอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องการฟังความจากฝ่ายเขาเลยสักนิด


 


 


ถ้างั้นฉันก็ไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าหมาตัวหนึ่งสำหรับพ่อสินะ… ถ้างั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ฉันทำงานหนักเยี่ยงทาสเพื่อเอาชนะใจท่านและท่านคิดแค่ว่าฉันเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งที่เห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ


 


 


เฮ่อปินเกลียดตัวเองในเวลานั้น เกลียดตัวเองที่เลินเล่อต่อคำแนะนำของซิงเหอ เธอบอกเขาว่านี่อาจเป็นจุดจบของเขา แต่เขากลับดื้อดึงปิดตัวเองจากความจริง เฮ่อหลานชางเป็นพ่อแท้ๆ ของเขา ดังนั้นต้องไม่มีทางทำกับเขาอย่างโหดร้ายแน่ แต่กระนั้นความจริงกลับกำลังตบหน้าเขาอย่างจัง


 


 


เฮ่อปินทำงานมานานนับปีภายใต้คำสั่งของเฮ่อหลานชาง เขาควรรู้ดีถึงความไร้หัวใจที่พ่อของเขามี แล้วทำไมเขาถึงมองไม่เห็นความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้ากันนะ


 


 


แม้แต่คนนอกอย่างซิงเหอยังมองออกตั้งแต่ตอนที่เจอหน้าพ่อของเขา เฮ่อปินนั้นตามืดบอดด้วยความซื่อสัตย์และความศรัทธาดังนั้นเขาจึงไม่อาจโทษใครอื่นนอกจากตัวเองได้ที่ทำให้เขาต้องพบจุดจบเช่นนี้ แต่มันก็สายเกินกว่าจะเสียใจ…


 


 


เพราะเฮ่อหลานฉีไม่มีวันปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆ เขาจะทรมานอีกฝ่ายจนกว่าจะตาย เฮ่อปินยอมจำนนต่อชะตากรรมของตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันได้เห็นแสงตะวันอีกต่อไป


 


 



 


 


ซิงเหอเฝ้าติดตามสถานการณ์ของเฮ่อปินอยู่ตลอด นับตั้งแต่ที่เขาออกจากสนามบินไป เธอสะกดรอยตามเขาโดยภาพจากกล้องบันทึกภาพตามท้องถนน แม้ว่าเขาจะถูกพาตัวไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลานแล้วการสะกดรอยตามของเธอก็ยังคงไม่หยุด


 


 


ตระกูลเฮ่อหลานนั้นไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดไว้มากนักแต่ก็ครอบคลุม พวกมันมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกแอบลักลอบเข้ามาภายในอาณาเขตของพวกเขา ถึงแม้ซิงเหอจะไม่ได้เข้าไปภายในคฤหาสน์ด้วยตัวเอง แต่เธอก็สามารถมองเห็นทุกซอกทุกมุมของคฤหาสน์ได้อย่างชัดเจนผ่านกล้องพวกนั้น


 


 


ดังนั้นเมื่อครู่ที่แล้ว เธอจึงเห็นเฮ่อปินเดินออกมาจากคฤหาสน์หลักและเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็กกว่าที่ตั้งอยู่ด้านข้างของพื้นที่ จากนั้นเธอเห็นเฮ่อหลานฉีพาคนกลุ่มหนึ่งตรงไปยังห้องของเฮ่อปิน…


 


 


ท้ายที่สุดเธอเห็นร่างกายอันโชกเลือดของเฮ่อปินถูกลากออกมาจากห้องของเขาและถูกเหวี่ยงไปยังชั้นใต้ดินของอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งถูกซ่อนไม่ให้เห็น


 


 


“เฮ่อหลานชางลงมือจัดการเขาจริงๆ” มู่ไป๋ที่ยืนอยู่ข้างซิงเหอกล่าวออกความเห็น


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “เป็นไปตามที่คาด การที่ฉันปล่อยเขากลับไปโดยไร้รอยขีดข่วนย่อมต้องสร้างความหวาดระแวงให้เฮ่อหลานชางอยู่แล้ว แต่ฉันคิดว่าเขาจะค่อยๆ สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่คิดว่าเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้”


 


 


“พวกเฮ่อหลานเป็นครอบครัวขี้ระแวงครอบครัวหนึ่ง แม้แต่ชุยเชี่ยนเองยังหาทางจับผิดพวกเขาไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความระแวดระวังและความไม่ชอบมาพากลของพวกเขา เพราะความหวาดระแวงแบบนี้เท่านั้นพวกเขาถึงได้สามารถรักษาภาพลักษณ์อันบริสุทธิ์ผ่องใสต่อหน้าสาธารณชนเอาไว้ได้” มู่ไป๋วิเคราะห์ได้อย่างปรุโปร่ง


 


 


ซิงเหอพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะส่วนตัวเธอเองก็มีบุคลิกแบบนั้นอยู่ในตัวเช่นกัน เธอระแวดระวังอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจเฮ่อหลานชางในบางจุด แต่กระนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่ เพราะซิงเหอไม่เคยทำตัวเ**้ยมโหดโดยไร้เหตุผลซึ่งต่างจากเฮ่อหลานชาง


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 751 ช่วยผู้ชายคนนั้น


 


 


เขาต้องเลือดเย็นเป็นพิเศษถึงจะสามารถทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้ลงคอ ซิงเหอเห็นด้านนั้นในตัวของเฮ่อหลานชาง เธอจึงคาดการณ์ว่าเฮ่อปินอาจต้องพบกับจุดจบที่เลวร้าย


 


 


น่าเสียดายที่เฮ่อปินไม่ยอมฟังคำเตือนของเธอ อย่างไรก็ตามซิงเหอ เธอสงสัยจริงๆ ว่าเฮ่อปินรายงานอะไรกับเฮ่อหลานชาง ถึงได้กระตุ้นความหวาดระแวงของเขาได้รวดเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นปุบปับจนซิงเหอไม่กล้ายืนยันว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่


 


 


ซิงเหอไม่สามารถปล่อยให้เขาตายได้ เพราะเธอจะสูญเสียหมากตัวสำคัญที่จะช่วยให้เธอโค่นล้มตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นซิงเหอจึงรีบปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอย่างรวดเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่


 


 


“พวกเราจะเริ่มปฏิบัติภารกิจกันภายในคืนนี้!” อยู่ดีๆ ซิงเหอก็ประกาศออกมา


 


 


อย่างไรก็ตามมู่ไป๋เข้าใจเธอทันที “คุณวางแผนที่จะช่วยเขา”


 


 


“ใช่ มันยังไม่ถึงเวลาตายของเขา การตายของเขาจะทำให้พวกเราสูญเสียโอกาสมากมาย ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็ต้องช่วยเขาให้ได้”


 


 


“แล้วถ้าเขายังไม่เต็มใจร่วมมือกับเราหลังจากที่เราช่วยเขาแล้วล่ะ”


 


 


ซิงเหอยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถ้าเขาตัดสินใจที่จะกตัญญูอย่างโง่เขลาแบบนั้น ฉันก็คงได้แต่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองที่มองคนผิดไป แน่นอนว่าถ้าเป็นกรณีนั้น ก็ไม่มีเหตุผลให้เราต้องเก็บเขาไว้อีกต่อไป!”


 


 


มู่ไป๋ชอบด้านนี้ของซิงเหอ ด้านที่ไร้ความปรานี ไม่ตาบอดเพราะความใจบุญและความเมตตา


 


 


“โอเค พวกเราจะเริ่มดำเนินการกันคืนนี้” เขาสนับสนุน จริงๆ แล้วแผนการช่วยชีวิตของซิงเหอนั้นง่ายมากและไม่เสี่ยงมากนักเพราะเธอสามารถแก้ไขกล้องวงจรปิดในบ้านของตระกูลเฮ่อหลานตามที่เธอต้องการ นอกจากนี้นี่ก็ไม่ใช่ภารกิจช่วยชีวิตครั้งแรกสำหรับกลุ่มของแซม คฤหาสน์ของตระกูลเฮ่อหลานเป็นแค่เรื่องง่ายๆ เมื่อเปรียบเทียบกับคุกที่มีการคุ้มกันอย่างแน่หนาตอนที่พวกเขาไปช่วยชาร์ลีออกมา


 


 


ด้วยการร่วมมือกันอย่างไร้ที่ติจากทั้งสองฝ่าย พวกเขาก็ช่วยเฮ่อปินออกมาได้สำเร็จ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่มันประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายแบบนี้ก็เพราะตระกูลเฮ่อหลานไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยเฮ่อปิน ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยในคุกที่ขังเขาไว้เลยไม่เข้มงวด ทุกคนยังคงหลับอยู่เลยตอนที่พวกเขาช่วยเฮ่อปินออกมาจากคฤหาสน์


 


 


ซิงเหอคาดว่าเขาน่าจะได้รับบาดเจ็บมาเหมือนกันแต่เธอไม่คิดเลยว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ นอกจากบาดแผลจากกระสุนปืนบนร่างกายของเขาแล้ว ขาของเขาก็หักทั้งสองข้าง และยังมีรอยแส้มากมายอยู่บนร่างกายของเขา


 


 


เฮ่อหลานฉีไม่ออมมือเลยจริงๆ ความจริงที่ว่าเฮ่อปินรอดพ้นจากการซักถามแบบนั้นมาได้ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามันจะไม่ทำให้เขาถึงตาย


 


 


กลุ่มแพทย์ที่มู่ไป๋พามาด้วยเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นมีประโยชน์มาด พวกเขาพันแผลให้เฮ่อปินในขั้นเบื้องต้นเพื่อไม่ให้อาการของเขาเลวร้ายลงชั่วคราว แต่เขาจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของชายหนุ่ม


 


 


ซิงเหอเชื่อว่าเฮ่อปินจะรอดตายเพราะว่ามันคงน่าเสียดายมากจริงๆ ถ้าเขาจะตายไปแบบนั้น


 


 


หลังผ่านพ้นคืนปฏิการฉุกเฉิน ในที่สุดเฮ่อปินก็ได้สติในเช้าวันถัดมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นและเห็นเพดานสีขาว เฮ่อปินก็คิดว่าเขากำลังหลับอยู่ เกิดอะไรขึ้น ฉันตายแล้วหรอ


 


 


ทันใดนั้นน้ำเสียงชัดเจนและไพเราะของผู้หญิงก็ดังขึ้นข้างๆ เขา


 


 


“คุณตื่นแล้วหรอ”


 


 


เฮ่อปินหันศีรษะของเขาด้วยความพยายามอย่างมากจึงได้เห็นซิงเหอ มู่ไป๋ และคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเขา ตาของเขามีน้ำตาคลอเล็กน้อย เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “พวกคุณ… ช่วยผมไว้”


 


 


“ใช่แล้ว คุณยังมีชีวิตอยู่ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริงๆ” ซิงเหอพูดอย่างไม่ใส่ใจ


 


 


แซมจงใจพูดเสริมเพื่อหลอกให้เขากลัว “แต่นายก็เกือบจะตายไปแล้วจริงๆ นะ นี่ก็ทำให้พวกเราประหลาดใจเหมือนกัน พวกเราไม่คิดว่านายจะบาดเจ็บสาหัสแบบนี้เฮ่อหลานชางเป็นพ่อของนายไม่ใช่หรอ ทำไมเขาถึงได้โหดร้ายกับนายนัก”


 


 


การพูดถึงเฮ่อหลานชางทำให้เฮ่อปินเกร็งร่างกายของของเขา และความเกลียดชังอย่างรุนแรงก็ปะทุขึ้นมาในดวงตาของเขา ในระหว่างการทรมานเมื่อวานนี้ เขาได้รับการยืนยันจากเฮ่อหลานฉีแล้วว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าแม่ของเขา


 


 


พวกเขาตระหนักว่าการมีอยู่ของเธอในฐานะคนนอกจะทำลายชื่อเสียงของตระกูล ดังนั้นเธอจึงต้องถูกกำจัด!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม