ตามใจรัก สาวนักแฮก 736-743

 ตอนที่ 736 ผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดรอย


 


 


นี่เป็นการสร้างภาพว่าเธอกำลังมองหาข้อมูลจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและมันทำให้ฟันเฟืองของอีกฝ่ายขยับ ความจริงซิงเหอตั้งใจวางเหยื่อล่อด้วยการสุ่มเยี่ยมเยียนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและมันให้ผลตอบแทนอย่างงาม!


 


 


ซิงเหอและอาลิก้าวออกจากรถและเข้าไปภายในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นไปตามที่พวกเธอคาด รถยนต์คันที่สะกดรอยตามพวกเธอจอดนิ่งเช่นกัน คนที่ออกจากรถคันนั้นเป็นชายร่างใหญ่ในชุดธรรมดาทั่วไปเพื่อหวังให้เขาดูไม่น่าสงสัย เขาคืออาปินซึ่งถูกเฮ่อหลานชางส่งตัวมา


 


 


อาปินไม่ได้เดินตามอีกฝ่ายเข้าไปภายในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่เลือกที่จะเดินไปยังร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่ถัดไป เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดรอย ดังนั้นเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เหยื่อสังเกตถึงการมีตัวตนของเขาเพราะเขาสามารถกลมกลืนไปกับผู้คนได้โดยสมบูรณ์ราวกับเขาเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มาเดินเล่นในวันจันทร์


 


 


หลังจากเขาเข้าไปในร้านอาหาร เขาเลือกที่นั่งบริเวณมุมร้านซึ่งติดกับกระจกและใช้ภาษาจีนในการสั่งอาหารสามรายการอย่างคล่องแคล่ว เขาทำเป็นเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านในขณะที่แท้จริงแล้วเขากำลังจดจ่อไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า


 


 


อาหารต่างๆ ถูกนำมาเสิร์ฟหลังจากนั้นไม่นาน อาปินเริ่มกินอาหารเหล่านั้นเพื่อรักษาภาพที่สร้างขึ้นแต่ดวงตาของเขาไม่เคยละออกจากประตูทางเข้าของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเลย อาลิและซิงเหอหายเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นพักใหญ่แล้ว และพวกเธอยังไม่ออกมาแม้ว่าอาปินจะกินอาหารของเขาเสร็จแล้วก็ตาม


 


 


ในตอนนั้นเกือบถึงเวลาอาหารเที่ยงและลูกค้าที่เข้ามาภายในร้านอาหารเพิ่มขึ้น โต๊ะที่อยู่รอบๆ เขาถูกจับจองทั้งหมด ชายในขุดสูทสองคนนั่งพูดคุยพลางดื่มไปด้วยอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งคู่รักกำลังมีปากเสียงกัน ชายคนนั้นดูเหมือนจะมีความใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นมากกเกินไปและแฟนสาวของเขากำลังจะพ่นไฟใส่เขา ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะพยายามแก้ตัวอย่างไร แฟนสาวของเขาดูเหมือนจะปักใจเชื่อว่าเขานอกใจเธอ การทะเลาะของทั้งคู่ทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ


 


 


ชายคนนั้นดูเหมือนจะรู้สึกอับอายและเอาแต่มองไปรอบๆ ราวกับกลัวว่าจะถูกคนอื่นแอบฟัง เขาถึงขนาดส่งสายตาเสียไม่ได้มายังอาปินหลายครั้ง แต่กระนั้นอาปินไม่ได้สนใจในธุระของทั้งคู่


 


 


ขณะเดียวกัน มีผู้คนบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น เด็กนักเรียนหลายคนกำลังเล่นกันหลังเวลาเลิกเรียนโดยใช้ขวดน้ำที่ว่างเปล่า เด็กคนหนึ่งเผลอเตะขวดน้ำไปอยู่ใต้รถของอาปิน เด็กคนนั้นก้มตัวไปดึงขวดน้ำออกมาและกลับมาเล่นกับเพื่อนๆ ต่อระหว่างที่เดินออกไป


 


 


อาปินวางตะเกียบลงและกำลังตัดสินใจว่าจะละตำแหน่งที่นั่งอยู่ตอนนี้หรือไม่ก่อนที่ซิงเหอและอาลิจะเดินออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในที่สุด อาปินมองให้แน่ใจว่าพวกเธอก้าวกลับขึ้นไปบนรถและขับออกไปแล้วก่อนที่เขาจะออกจากร้านอาหารและเดินตรงเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า


 


 


เขาไม่ได้วางแผนจะสะกดรอยตามพวกเธออีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำคือการหาข้อมูลจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยเฉพาะเรื่องที่ว่าซิงเหอมาทำอะไรที่นั่น


 


 


ผลที่ได้นั้นน่าผิดหวัง เขาตระหนักได้ว่าพวกเธอไม่ได้มาทำอะไรผิดสังเกตที่นั่นเลย พวกเธอมาที่นี่เพื่อบริจาคเงินเท่านั้น


 


 


เมื่ออาปินเดินออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาก็ไม่เห็นรถของซิงเหออีกแล้ว เขาวางแผนที่จะใช้วิธีการอื่นในการตรวจสอบซิงเหอในวันพรุ่งนี้แทน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจยุติภารกิจในวันนี้ไว้เพียงเท่านั้น


 


 


อาปินกลับขึ้นรถและมุ่งหน้าไปยังบ้านพักซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองที่เขาได้เช่าเอาไว้ เมื่อเขาเข้ามาในห้องนั่งเล่น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อทำการรายงานสิ่งที่เขาพบในแต่ละวันให้เฮ่อหลานชางทราบ หลังจากวางสายได้ไม่นาน กริ่งหน้าประตูบ้านก็ดังขึ้น


 


 


อาปินเตรียมปืนพกของเขาขึ้นมาทันทีและเดินเลียบไปที่ประตูอย่างระแวดระวัง เขามองเห็นชายแก่คนหนึ่งกำลังยืนรออยู่ด้านนอกผ่านทางกล้องวงจรปิด อาปินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลดการป้องกันลงแล้วดึงประตูเปิดออก


 


 


“ครับ” ก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยถามว่าชายคนนั้นมาหาใคร สีหน้าของอาปินเปลี่ยนไปทันทีเพราะปืนกระบอกหนึ่งกำลังจ่อประชิดอยู่ที่เอวของเขา


 


 


ชายแก่คนดังกล่าวยืดตัวขึ้น เขาสูงเกือบเท่ากับอาปิน


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 737 ล้มเหลวตั้งแต่แรก


 


 


ดวงตาสีดำเข้มของชายแก่คนนั้นเปลี่ยนเป็นคมกริบและเย็นชา ริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ดูลึกลับ แต่เสียงของเขาที่เปล่งออกมานั้นกลับหนุ่มอย่างน่าประหลาด “อย่าขยับ ไม่งั้นฉันจะยิง”


 


 


จังหวะนั้น อาปินรู้ตัวแล้วว่าเขาเดินมาติดกับดัก!


 


 


เขาพยายามคิดหาทางต่อสู้ก่อนที่ชายอีกสามคนจะวิ่งเข้ามาพร้อมปืนและเล็งมาที่เขา!


 


 


เมื่ออาปินเห็นใบหน้าของคนพวกเขา หัวใจของเขาก็หล่นลงไปกองกับพื้นเพราะเขาเคยเห็นหน้าของคนพวกนี้มาก่อน ที่ร้านอาหารข้างสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น พวกเขาคือพนักงานบริษัทที่อยู่ในชุดสูทและชายที่มีปากเสียงอยู่กับแฟนสาว ทั้งหมดปลอมตัวมา…


 


 


เขาถูกพบมาตั้งแต่แรก!


 


 


เมื่ออาปินถูกกักตัว เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าตัวเองถูกตบได้ทั้งที่เพิ่งเริ่มภารกิจและตอนนี้เขาได้ถูกจับตัวไว้แล้วด้วย!


 


 


“พวกแกเป็นใคร!” อาปินถามด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตกใจและโกรธเคือง


 


 


“คุณกำลังตรวจสอบฉัน แต่คุณไม่รู้งั้นเหรอว่าพวกเราเป็นใคร”


 


 


เสียงคำตอบของผู้หญิงดังมาจากทางประตู


 


 


ซิงเหอและมู่ไป๋เดินเข้ามาภายในห้อง ตามหลังมาด้วยอาลิและคนอื่นๆ อีกหลายคน อาปินรู้สึกสับสนเมื่อเห็นอีกฝ่าย “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังตรวจสอบคุณอยู่”


 


 


เขาอำพลางร่องรอยของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เขาสะกดรอยตามเธอ ดังนั้นเขาจะถูกพบอย่างง่ายดายได้อย่างไร เขาไม่อาจทำใจเชื่อความจริงที่เขาถูกจับได้ง่ายขนาดนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่เขาเดินทางกลับมา เขาไม่เห็นรถคันไหนขับตามเขามาเลยสักคันเดียว แล้วคนพวกนี้หาที่นี่เจอได้ยังไง


 


 


ทั้งหมดนี่น่าเหลือเชื่อเกินไป!


 


 


ซิงเหอยิ้มอย่างเยือกเย็น “เพราะฉันเฝ้ารอคุณมาตลอดน่ะสิ”


 


 


“คุณหมายความว่ายังไง” อาปินตะลึงงัน


 


 


คราวนี้มู่ไป๋เป็นคนตบอคำถามของอีกฝ่าย น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุขุมและหยิ่งทะนงเยี่ยงราชา “หมายความง่ายๆ ว่าทั้งหมดเป็นกับดักที่รอให้พวกคุณเดินเข้ามาติดกับตั้งแต่แรกไงละ”


 


 


“และพวกคุณก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พวกเขาส่งคุณมาติดตามฉัน” ซิงเหอเสริม


 


 


ในที่สุดอาปินก็เข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น คนพวกนี้ตั้งใจล่อให้ตระกูลเฮ่อหลานทำการติดตามพวกตนเอง แต่เขายังคงไม่เข้าใจอยู่สิ่งหนึ่ง คนพวกนี้รู้ตัวเขาและตามเขามาถึงที่ซ่อนได้อย่างไร


 


 


“ใครบอกคุณเรื่องภารกิจของผม” อาปินถามพร้อมใบหน้าที่ขมวดย่น


 


 


ซิงเหออธิบายอย่างช้าๆ “ไม่มี แต่ฉันสังเกตเห็นคุณผ่านกล้องวงจรปิด ดังนั้นเราจึงติดเครื่องติดตามไว้ใต้รถของคุณ”


 


 


“อะไรนะ” อาปินช็อกไปอีกครั้ง แม้แต่เด็กนักเรียนพวกนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของกับดัก…


 


 


อะไรบางอย่างทำให้อาปินรู้สึกอยากจะหัวเราะ เขาคิดว่าเขานั้นเก่งกาจและต้อนเหยื่อของเขาให้จนมุมอย่างเงียบๆ แต่ที่ผ่านมากลับกลายเป็นเขาต่างหากที่เป็นเหยื่อ!


 


 


นี่อาจเป็นภารกิจที่ล้มเหลวมากที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมาในชีวิต แต่มันล้มเหลวมาตั้งแต่แรก! เป็นความล้มเหลวที่ไม่อาจแก้ไขได้


 


 


อาปินพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความจริงนี้และความไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน…


 


 


อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจปฏิเสธความจริงได้โดยเฉพาะเมื่อคนพวกนี้กำลังมัดเขาไว้อย่างแน่นหนา


 


 


“ค้นตัวเขาและค้นทุกมุมห้อง ค้นบ้านหลังนี้ให้ทั่ว ฉันอยากเห็นว่าเราจะได้หลักฐานมัดตัวตระกูลเฮ่อหลานมากแค่ไหน” ซิงเหอออกคำสั่งและกลุ่มชายหนุ่มเริ่มขยับตัวตามทันที


 


 


อาปินเริ่มกระวนกระวาย เพราะเขามีข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานหลายอย่างอยู่กับตัวเขา ทุกอย่างจะจบสิ้นทันทีถ้าคนพวกนี้ค้นพบ!


 


 


แต่เขาไม่อาจทำอะไรได้ขณะที่เขาได้แต่มองโทรศัพท์ของตัวเองถูกเอาไป เขาอยากจะดิ้นรนแต่ปืนหลายกระบอกกำลังเล็งตรงมาที่เขาทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวโดยไม่ระวัง กระเป๋าเดินทางและคอมพิวเตอร์ของเขาถูกน้ำออกมาวางไว้ในที่โล่ง


ตอนที่ 738 ไม่มีความลับ


 


 


“ซิงเหอ นี่พาสปอร์ตของหมอนี่ เขามาจากประเทศ R” อาลิดึงพาสปอร์ตของอาปินออกมาจากกระเป๋าเดินทางของเขาและส่งให้ซิงเหอ


 


 


ซิงเหอมองดูข้อมูลในพาสปอร์ตก่อนที่สายตาของเธอจะตวัดกลับมาที่อาปิน “เฮ่อปิน?”


 


 


เฮ่อปินตอบด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “ใช่ ผมมาจากประเทศ R แต่มันพิสูจน์อะไรได้ล่ะ ผมแค่สะกดรอยตามเพราะคุณรวยแค่นั้นเอง”


 


 


ซิงเหอยิ้มบาง จังหวะนั้นเอง ชายอีกคนเดินเข้ามารายงาน “คุณสี คุณเซี่ย ทั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ถูกตั้งรหัสผ่านไว้ พวกเราเปิดมันไม่ได้ครับ”


 


 


เฮ่อปินรู้สึกได้ความมั่นใจกลับคืนมา โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของเขาได้ตั้งรหัสที่แน่นหนาเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปไม่มีทางปลดล็อกได้แน่ ตราบได้ที่คนพวกนี้ไม่สามารถพิสูจน์ความเกี่ยวโยงระหว่างตัวเขากับตระกูลเฮ่อหลานได้ เขาจะแบกรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงลำพัง


 


 


แต่กระนั้น ไม่ช้าเฮ่อปินพบว่าเขาคิดผิด


 


 


“เอาคอมพิวเตอร์นั่นมาให้ฉัน” ซิงเหอไม่ถามรหัสผ่านจากเฮ่อปินแต่เดินไปยังโซฟาและเริ่มลงมือจัดการกับคอมพิวเตอร์ที่ได้รับมา เฮ่อปินอดกังวลไม่ได้เมื่อเห็นวิธีที่ซิงเหอจัดการคอมพิวเตอร์ของเขาอย่างชำนาญด้วยตาของตัวเอง


 


 


อาลิสังเกตเห็นความกังวลของเฮ่อปินและยิ้มอย่างสบายใจ “นายคิดว่ารหัสพวกนั้นจะช่วยแก้ปัญหาของนายได้งั้นเหรอ ถ่างตาให้กว้างๆ แล้วดูให้ดีๆ รหัสกระจอกๆ ของนายเป็นแค่เสือกระดาษเท่านั้น ไม่ต้องทำอะไรก็ตายแล้ว!”


 


 


“เสร็จแล้ว” ซิงเหอพูดขึ้นหลังจากที่อาลิเพิ่งจะพูดจบประโยค!


 


 


ไม่เพียงแค่เฮ่อปินเท่านั้นที่ช็อค แม้แต่อาลิเองยังประหลาดใจ เธอรีบวิ่งไปอยู่ข้างซิงเหอด้วยความไม่เชื่อ “เธอเจาะได้เร็วเป็นบ้า!”


 


 


“ตามนั้น” ซิงเหอพยักหน้าและเธอเริ่มดูข้อมูลที่อยู่ภายในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น


 


 


อาลิฮึดฮัดด้วยความสับสน “ซิงเหอ เธอนี่เหมือนสัตว์ประหลาดเลยนะเนี่ย! ใช้เวลาเจาะรหัสผ่านแค่ไม่ถึงนาที ทำไมเร็วแบบเนี่ย”


 


 


เฮ่อปินมองไปยังพวกซิงเหอด้วยความไม่เชื่ออย่างเต็มที่ ซิงเหออธิบาย “รหัสผ่านที่เขาตั้งมันแค่ของเด็กเล่น”


 


 


เฮ่อปินพูดไม่ออก รหัสผ่านของเขาเป็นแค่ของเด็กเล่น ฟังดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว


 


 


“ถอยไปจากคอมพิวเตอร์ของผมนะ! ผมจะบอกอะไรคุณให้ นี่มันเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผม ผมจะฟ้องคุณแน่!” เฮ่อปินข่มขู่อีกฝ่ายด้วยความหวาดวิตก อาลิหันไปทางเขาอย่างฉับพลันและปล่อยหมัดดุ้นๆ ใส่ท้องของอีกฝ่าย เขาครางด้วยความเจ็บปวดและชำเลืองตามองอาลิอย่างมุ่งร้าย อาลิไม่ได้ล่าถอยแต่กลับจ้องอีกฝ่ายกลับ เฮ่อปินรู้ได้ทันทีว่าทั้งอาลิและเขาต่างเป็นคนแบบเดียวกัน ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะมีบรรยากาศที่ดำมืดกว่าและอำมหิตกว่าเขาปกคลุมอยู่รอบตัวเธอ


 


 


อาลิยิ้มอย่างชั้วร้าย “นายสะกดรอยตามพวกเราพร้อมทั้งครอบครองอาวุธ แล้วยังมีหน้ามาขู่จะฟ้องพวกเราอีก นายควรจะขอบคุณที่พวกเราไม่ได้ประเคนลูกปืนใส่หัวนาย!”


 


 


“บอกมา ตระกูลเฮ่อหลานส่งคุณมาประเทศจีนทำไม” มู่ไป๋ทวงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา


 


 


เฮ่อปินรู้ดีว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะหนีดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้อีกกลวิธีหนึ่ง เขาทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขายิ้ม “ผมไม่เข้าใจว่าพวกคุณกำลังพูดถึงอะไร อย่าคิดว่าจะล้วงเอาข้อมูลอะไรจากผมได้ ผมยอมตายดีกว่า!”


 


 


มู่ไป๋ยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย “นั่นไม่ใช่ตัวเลือกของคุณอีกแล้ว ในเมื่อคุณตกอยู่ในกำมือของพวกเรา ความลับของคุณจะถูกเปิดเผยทั้งหมด”


 


 


เฮ่อปินยืดตัวตรงและหัวเราะ “งั้นมาดูกันว่าพวกคุณจะทำยังไงให้ผมยอมปริปาก”


 


 


“พวกเราอาจไม่จำเป็นต้องเชื่อข้อมูลที่ออกมาจากปากของคุณก็ได้” เสียงของซิงเหอดังขึ้นอย่างฉับพลัน เธอหยิบคอมพิวเตอร์ของเฮ่อปินขึ้นมาและเดินตรงมาหาเขา เธอชี้ไปที่หน้าจอให้อีกฝ่ายดูและเอ่ยถาม “ดูนี่สิ มันถูกต้องทั้งหมดใช่ไหม”


 


 


เฮ่อปินชำเลืองตามองด้วยความอย่างรู้และสีหน้าของเขาดำมืดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้


 


 


หน้าจอแสดงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขา วันเกิด ข้อมูลเกี่ยวแม่ของเขา วัยเด็กและทุกอย่างที่เขาเคยทำมานับตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่…


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 739 ลูกชายของเฮ่อหลานชาง


 


 


พูดง่ายๆ ว่าทุกอย่างที่สามารถหาได้เกี่ยวกับตัวเขาถูกค้นพบทั้งหมด!


 


 


แม้แต่บันทึกบทสนทนาระหว่างเขากับเฮ่อหลานชางก็ถูกขุดขึ้นมาด้วย ต่อให้เป็นตำรวจก็ยังต้องใช้เวลามากมายในการหาหลักฐานมากมายที่ซิงเหอจัดการหามาได้ แต่เธอกลับใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


 


 


เฮ่อปินอึ้งจนพูดไม่ออก เขามองซิงเหอในขณะที่ปากของตัวเองอ้าค้างไว้ราวกับเขากำลังจ้องมองสัตว์ประหลาดอยู่


 


 


ซิงเหอสังเกตเห็นและถามกลับ “คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเจอข้อมูลของคุณมากมายขนาดนี้ได้อย่างรวดเร็ว”


 


 


นั่นไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนที่เก่งคอมพิวเตอร์จนน่ากลัวหรอกหรือ


 


 


“ทั้งหมดนี้ฉันเอามาจากสำนักข่าวกรองของประเทศ R ฉันแค่ลองเสี่ยงโชคดูแต่ดูเหมือนข้อมูลทั้งหมดของคุณจะอยู่ที่นั้นรอให้ฉันมาเอาไปง่ายๆ”


 


 


“เป็นไปไม่ได้!” เฮ่อปินโต้ตอบโดยอัตโนมัติ สำนักข่าวกรองของประเทศ R จะจับตามองคนที่เป็นอันตรายหรือบรรดาบุคคลสำคัญเท่านั้น ทำไมพวกเขาถึงได้เก็บข้อมูลของคนที่ไม่มีความสำคัญอะไรแบบเขาด้วย


 


 


พวกเขาไม่มีทางรู้ว่าตัวเขาเป็นลูกชายของเฮ่อหลานชางเพราะพ่อของเขาไม่มีทางขายเรื่องนี้ออกมาแน่ เพราะพ่อของเขาซื่อสัตย์กับเขามาโดยตลอดและการเปิดเผยตัวตนของเขาก็เท่ากับพ่อของเขาเปิดโปงตัวเองด้วย


 


 


“ฉันเองก็คิดว่าเรื่องนี้น่าสงสัยมากเหมือนกัน แต่ในเมื่อคุณเป็นลูกชายนอกสมรสของเฮ่อหลานชาง ทั้งหมดก็สมเหตุสมผล” ซิงเหอเปิดดูข้อมูลหน้าต่อไปและมันเผยให้เห็นข้อมูลทั้งหมดของเฮ่อปิน หากข้อมูลหน้าก่อนบรรจุข้อมูลที่เป็นสาธารณะที่สามารถเปิดเผยได้ของเขา งั้นข้อมูลหน้านี้คือด้านมืดทั้งหมดในชีวิตของเฮ่อปิน


 


 


มันไม่ได้มีเพียงข้อมูลประวัติอาชญากรรมที่เขาเคยทำมาในอดีต แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับเฮ่อหลานชาง อย่างไรก็ตาม ส่วนที่น่าสงสัยที่สุดคือข้อมูลการเสียชีวิตของแม่เฮ่อปิน


 


 


แม่ของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอาการป่วยตั้งแต่เฮ่อปินยังเป็นเด็ก ข้อมูลระบุว่าผู้ต้องสงสัยหลังในเวลานั้นคือเฮ่อหลานชาง…


 


 


เฮ่อปินรู้สึกสับสนขณะที่เขากำลังอ่านข้อมูลเหล่านั้น คนที่ลงมือฆ่าแม่ของเขาคือพ่อของเขาเอง มันเป็นไปได้ยังไง


 


 


“อย่าพยายามปลอมของพวกนี้มาใช้ล้วงความลับจากผม!” เฮ่อปินเดือดดาลขึ้นอย่างฉับพลัน “คุณคิดเหรอว่าผมจะหลงกลหลอกเด็กโง่ๆ แบบนี้ อย่าทำให้ผมหัวเราะไปหน่อยเลย!”


 


 


“แต่ทุกอย่างน้อยเหนือจากเรื่องนี้มันถูกต้องทั้งหมดใช่ไหม” ซิงเหอถาม


 


 


เฮ่อปินไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ ทุกสิ่งนอกเหนือจากเรื่องนี้ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นการตายของแม่เขาก็เช่นกัน ใบหน้าของเขามืดหม่นลงเพราะเขาพบว่าตัวเองเริ่มที่จะเชื่อสิ่งที่เห็น ทั้งๆ ที่เขาพยายามจะไม่เป็นเช่นนั้น


 


 


“ทำไมสำนักข่าวกรองถึงบันทึกข้อมูลพวกนี้ไว้…” เขาถามด้วยความเหลือเชื่อ แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่ทันได้สังเกตว่าเขากำลังเอ่ยถามซิงเหอและกำลังขอร้องอ้อนวอนให้เธอช่วย


 


 


“เขาพูดถูก ทำไมสำนักข่าวกรองถึงมีข้อมูลของหมอนี่ แถมยังละเอียดมากด้วย” อาลิเองก็สับสนเช่นกัน


 


 


ดวงตาของซิงเหอส่องประกายและอธิบาย “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด คำอธิบายเดียวคือท่านประธานาธิบดีของประเทศ R เป็นคนรวบรวมข้อมูลพวกนี้เพื่อป้องกันตัวเองจากตระกูลเฮ่อหลาน ความร่วมมือระหว่างพวกเขาเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น เขาเองก็อยากจะสลัดตัวเองออกจากตระกูลเฮ่อหลาน ไม่งั้นเขาคงไม่ให้คนของตัวเองขุดคุ้ยข้อมูลมากมายขนาดนี้ เขาถึงขนาดใช้เครื่องมือเข้ารหัสระดับสูงมากในการเก็บรักษาข้อมูลพวกนี้ แต่น่าสงสัยที่รหัสผ่านที่ใช้เก็บรักษาข้อมูลของคุณเป็นรหัสเดียวกับที่ใช้เก็บข้อมูลของชุยอิง”


 


 


เฮ่อปินอึ้ง แน่นอนว่าเขารู้จักชุยอิง เธอเป็นหลานสาวของท่านประธานาธิบดี แต่การที่ข้อมูลของเขาและชุยอิงถูกเก็บรักษาไว้ด้วยรหัสผ่านเดียวกันมันสื่อถึงอะไรกันแน่


 


 


ซิงเหอมองดูอีกฝ่ายและกล่าว “ทำไมคุณไม่บอกชื่อใครอีกสักคนที่ทำงานให้ตระกูลเฮ่อหลานกับฉันล่ะ แล้วฉันจะแสดงข้อมูลแบบเดียวกับให้คุณดู ข้อมูลของพวกเขาถูกเก็บรักษาไว้ด้วยรหัสผ่านเดียวกันและมันยังมีรายละเอียดมากมายอีกด้วย”


ตอนที่ 740 ไม่ใช่ลูกชายของเขา


 


 


เฮ่อปินมองมายังซิงเหอและเขาไม่อาจหาคำพูดใดมาพูดได้ เขาไม่คิดจริงๆ ว่าท่านประธานาธิบดีของเขาจะตั้งกำแพงป้องกันตัวเองจากตระกูลเฮ่อหลานถึงเพียงนี้ เพราะเขาคิดเองมาโดยตลอดว่าตระกูลเฮ่อหลานและตระกูลชุยลงเรือลำเดียวกัน…


 


 


“ตอนนี้คุณยังเชื่ออยู่ไหมว่าเฮ่อหลานชางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่คุณ” ซิงเหอถามอย่างชัดเจนและมันทำให้สีหน้าของเฮ่อปินเปลี่ยนไปอีกครั้ง


 


 


ดวงตาของซิงเหอที่ดูเหมือนจะสามารถอ่านใจคนได้กำลังจดจ้องไปที่เฮ่อปิน ก่อนที่เธอจะกล่าวขึ้น “นามสกุลของคุณไม่ใช่เฮ่อหลานและคุณมีรังสีอันตรายอยู่รอบตัว ฉันเชื่อว่าวัยเด็กของคุณคงแตกต่างจากเฮ่อหลานฉีราวฟ้ากับเหวเลยสินะ”


 


 


ความตกใจอย่างชัดเจนปรากฏขึ้นในดวงตาของเฮ่อปิน ใช่แล้ว พวกเขาสองคนเติบโตมาต่างกัน เรียกว่าตรงกันข้ามกันเลยก็ว่าได้


 


 


เฮ่อหลานฉีถูกเลี้ยงดูและให้ความสำคัญในฐานะผู้สืบสกุลคนต่อไปของตระกูล เขาได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นเจ้าชายมาตั้งแต่เด็ก เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอและเป็นคุณชายของตระกูลเฮ่อหลานทั้งชื่อและในความเป็นจริง


 


 


แต่กระนั้น เฮ่อปินกลับถูกอบรมมาอย่างตรงกันข้าม เขาถูกเลี้ยงมาให้เป็นมือสังหาร เขาไม่ได้รับการความรู้อื่นใดนอกจากวิธีการฆ่าและการเป็นมือสังหารที่ดี เขาไม่เคยได้หยุดพัก สิ่งเดียวที่เขาจำได้นับตั้งแต่วัยเด็กคือความโหดร้ายและการฝึกฝนที่แสนสาหัส ที่จริงแล้วเฮ่อหลานชางไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นลูกชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว


 


 


เฮ่อหลานชางบอกเขาว่าเขาไม่อาจใช้สกุลเฮ่อหลานได้เพราะมันเสี่ยงต่อตัวตนที่เป็นมือสังหารของเขา วิธีนี้ทำให้ต่อให้เขาถูกจับ เขาจะไม่มีวันเชื่อมโยงไปถึงตระกูลเฮ่อหลาน อย่างไรก็ตามเฮ่อหลานชางไม่เคยลังเลที่จะย้ำเตือนเขาอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนตระกูลเฮ่อหลานและเขาควรให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง


 


 


แต่ก็อีกที่เฮ่อหลานชางไม่เคยยอมรับต่อสาธารณชนว่าเฮ่อปินคือลูกชายของเขา เวลาเดียวที่เฮ่อปิงจะได้พูดคุยกับพ่อของเขาคือตอนที่คุยกันเรื่องภารกิจที่พ่อต้องการส่งเขาไปจัดการ เฮ่อหลานชางเป็นเหมือนเจ้านายของเขามากกว่าจะเป็นพ่อ


 


 


แต่เมื่อเฮ่อหลานชางอยู่กับเฮ่อหลานฉี เขาจะกลายเป็นพ่อที่เต็มไปด้วยความเมตตาและความรัก


 


 


เฮ่อปินเคยทึกทักเอาเองว่าที่เฮ่อหลานชางไม่อาจยอมรับเขาได้นั้นเป็นเพราะเขาเป็นลูกนอกสมรส ดังนั้นเขาจึงพยายามผลักดันตัวเองอย่างหนักเพื่อที่วันหนึ่งเขาสามารถสัมผัสเฮ่อหลานชางและพวกเขาจะได้กลายเป็นครอบครัวที่แท้จริง


 


 


บัดนี้เมื่อเขาคิดเช่นนั้น… บางทีเฮ่อหลานชางอาจไม่เคยปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกชายคนหนึ่งมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ถ้าแม่ของเขาถูกเฮ่อหลานชางฆ่าจริงแล้วเฮ่อหลานชางจะคิดมาสร้างความสัมพันธ์ครอบครัวอะไรกับเขา เฮ่อหลานชางอาจเก็บเขาเอาไว้เพราะเขายังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อยู่


 


 


เฮ่อปินรู้ว่าทั้งหมดนี่คือความจริง แต่เขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่าพ่อของตัวเองจะทำกับแม่ของเขาและตัวเขาเช่นนี้


 


 


“คุณสร้างเรื่องทั้งหมดนี้เพื่อล้วงเอาข้อมูลจากผม ผมจะบอกคุณอีกครั้งว่าผมจะไม่มีวันบอกอะไรทั้งนั้น!” เฮ่อปินตะโกนอีกครั้งแต่บอกได้ยากว่าเขากำลังบอกซิงเหอหรือบอกตัวเองกันแน่


 


 


ซิงเหอมองอีกฝ่ายและกล่าว “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บังคับให้คุณยอมบอกอะไรทั้งนั้น ฉันจะหาข้อมูลเพิ่มด้วยตัวของฉันเอง ทุกคน พาเขาออกไป ขังเขาเอาไว้แล้วรอคำสั่งจากฉัน”


 


 


“ครับคุณเซี่ย” บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้ามาเพื่อพาเฮ่อปินออกไป


 


 


หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว มู่ไป๋ถามซิงเหออย่างฉับพลัน “คุณวางแผนจะทำอะไรกับผู้ชายคนนั้น”


 


 


ซิงเหอพูดพร้อมรอยยิ้ม “ให้เขาคิดเรื่องนี้อีกวันหนึ่งแล้วเราจะปล่อยเขาไป”


 


 


“ทำไมล่ะ” อาลิถามออกมาด้วยความสงสัย


 


 


มู่ไป๋ยักคิ้วขึ้นเพราะเขาอ่านความคิดของซิงเหอออก “แผนของคุณคือปล่อยให้เขายืนยันความถูกต้องของข้อมูลนี้ด้วยตัวเองใช่ไหม”


 


 


“ใช่” ซิงเหอพยักหน้า “แค่มองดูเขา เขาจะไม่มีทางยอมรับความจริงจนกว่ามันจะตบหน้าเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร และดูเหมือนเขาอาจจะเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดของเราด้วย”


 


 


“พันธมิตร” อาลิสับสนอีกครั้ง “แต่เขาเป็นลูกชายของเฮ่อหลานชาง แล้วเขาจะทรยศพ่อของตัวเองงั้นเหรอ”


 


 


“ถ้าเฮ่อหลานชางเป็นคนฆ่าแม่ของเขาจริง คิดว่าเฮ่อปินจะยังทำงานให้ผู้ชายคนนั้นอยู่อีกไหม”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 741 อย่าทิ้งเขาไป


 


 


“ฉันเห็นได้ว่าเฮ่อปินคนนี้ยังควบคุมตัวเองได้ เขายังไม่ได้กลายเป็นเครื่องมือของตระกูลเฮ่อหลานโดยสมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุด เขาดูเหมือนจะยังใส่ใจเรื่องเกี่ยวกับแม่ของเขา และถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง เขาจะทำทุกอย่างเพื่อค้นหาความจริง”


 


 


หลังจากที่เขายืนยันได้ว่าเฮ่อหลานชางมีส่วนเกี่ยวของกับการเสียชีวิตของแม่เขาจริง เขาจะหยุดทำงานให้พวกเฮ่อหลาน เขาอาจจะไม่จบที่การยอมเป็นพันธมิตรกับพวกซิงเหอ แต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่เข้ามาขวางทางพวกเธอ


 


 


ตราบใดที่มันช่วยให้ซิงเหอโค่นตระกูลเฮ่อหลานลงได้ เธอจะไม่มีวันมองข้ามมันเด็ดขาด


 


 


ยิ่งไปกว่านั้น ซิงเหอเข้าใจดีว่าเฮ่อหลานชางจะต้องสงสัยอย่างแน่นอนหากเธอปล่อยเฮ่อปินไปทั้งแบบนี้ ดูจากบุคลิคที่โหดเ**้ยมอำมหิตของคนพวกนั้น ถ้าพวกเขารู้สึกสงสัยในตัวเฮ่อปิน พวกเขาจะต้องลงมือทำอะไรบางอย่างแน่นอน เฮ่อปินจะตกอยู่ในโลกแห่งความเจ็บปวดและซิงเหอหวังว่ามันจะเพียงพอที่จะทำให้เฮ่อปินได้สติและมองเห็นความจริง


 


 


แน่นอนว่าซิงเหอได้ย้ำเตือนเขาว่าเขาอาจจะถูกหักหลัง แต่แน่นอนว่าเฮ่อปินปฏิเสธที่จะเชื่อ แต่ซิงเหอเพียงแค่ตั้งใจที่จะฝังเมล็ดพันธุ์เอาไว้ มันขึ้นอยู่กับเขาจะทำอะไรกับข้อมูลเหล่านั้น


 


 


เฮ่อปินถูกส่งเข้าคุก ซิงเหอทำเช่นนั้นได้เพราะมีท่านประธานาธิบดีคอยหนุนหลังเธออยู่


 


 


คืนนั้น เธอจัดการดึงข้อมูลออกมามากขึ้น อย่างน้อยเธอจัดการยืดยันได้ว่าเป็นความจริงที่ท่านประธานาธิบดีของประเทศ R กำลังวางแผนที่จะต่อการกับตระกูลเฮ่อหลาน ถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น เขาคงไม่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานไว้มากมายขนาดนี้ เขากำลังรอโอกาสเหมาะที่จะกำจัดคนพวกนั้น แต่กระนั้นเขายังไม่กล้าเคลื่อนไหวเพราะตระกูลเฮ่อหลานยังกำจุดอ่อนของเขาไว้ในมือ


 


 


“ฉันเชื่อว่าเราสามารถเข้าถึงประธานาธิบดีคนนี้ได้ ถ้าเป้าหมายของเราเหมือนกัน เราสามารถเลือกที่จะร่วมมือกับเขาได้” ซิงเหอบอกกับมู่ไป๋


 


 


มู่ไป๋พยักหน้า “จะเป็นการดีที่สุดถ้าเราสามารถร่วมมือกับเขาได้ มันจะช่วยให้การจัดการกับตระกูลเฮ่อหลานง่ายขึ้น ผมแค่กลัวว่าเขาจะเชื่อใจไม่ได้”


 


 


“ฉันก็กังวลเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เราสามารถทดสอบเขาก่อนได้”


 


 


“ยังไง”


 


 


“ฉันจะไปติดต่อกับเขาด้วยตัวเอง ถ้าเขามีความประสงค์ที่จะทำงานกับเรา เขาจะต้องเป็นฝ่ายมาหาเรา”


 


 


มู่ไป๋ถอนหายใจ “คุณวางแผนจะกลับไปประเทศ R …”


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “ฉันจำเป็นค่ะ ถ้าฉันไม่ทำก็จะไม่มีอะไรคืบหน้า”


 


 


“คุณวางแผนจะไปเมื่อไหร่” มู่ไป๋ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบและแววตาของเขาเศร้าหมองลง


 


 


ซิงเหอลังเล “อีกสองวัน ฉันจะไปพร้อมกับเฮ่อปิน”


 


 


มู่ไป๋คว้ามือของหญิงสาวและพูดด้วยความหนักแน่น “ผมจะไปกับคุณด้วย ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว คุณอาจเจออันตรายก็ได้”


 


 


ซิงเหอส่ายหัว “แล้วบริษัทของคุณล่ะ อีกอย่างฉันจะมีคนไปคอยปกป้องฉันอยู่แล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”


 


 


“ต่อให้เป็นแบบนั้น ผมก็ต้องไปกับคุณ ถ้าตำแหน่งบอดี้การ์ดของคุณเต็มแล้วผมก็ขอแค่ไปอยู่ข้างๆ คุณ” ริมฝีปากได้รูปของมู่ไป๋เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “หรือคุณไม่อยากเห็นหน้าผม”


 


 


แน่นอนว่าซิงเหอไม่ได้รู้สึกแย่ที่จะมีเขาอยู่ข้างกาย แต่เธอแค่ไม่อยากทำให้เขาเสียเวลา


 


 


“อย่าคิดมากเลย ทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี อีกอย่างถ้าผมไม่ได้อยู่ข้างคุณก็มีแต่จะทำให้ผมเป็นกังวลมากขึ้น” มู่ไป๋เอ่ยความกังวลของเขาออกมาและปลอบโยนเธออย่างนุ่มนวล


 


 


ซิงเหอตัดสินใจได้ “ตกลง งั้นเราไปด้วยกัน!”


 


 


ใบหน้าของมู่ไป๋เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างที่น่าดึงดูดใจ เขาลูบไล้คางอันได้รูปของหญิงสาวและกล่าวด้วยเสียงละมุน “คุณต้องสัญญากับผมว่าเราจะเป็นแบบนี้ตลอดไป โอเคไหม”


 


 


ซิงเหอกระพริบตาด้วยความสงสัย แบบนี้คือแบบไหน


 


 


“พาผมไปกับคุณไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนและอย่าทิ้งผมไปอีก…” ทันใดนั้นมู่ไป๋โน้มตัวเข้าไปหาหญิงสาวและจูบลงบนริมฝีปากของเธอด้วยความหลงใหล


 


 



 


 


หลังจากการหารือกับท่านประธานาธิบดี ซิงเหอวางแผนที่จะเข้าพบกับท่านประธานาธิบดีของประเทศ R พร้อมกับท่านทูต พวกเธอยังคิดหาเหตุผลที่สมบูรณ์แบบว่าเป็นการเนรเทศตัวเฮ่อปิน


 


 


ในขณะเดียวกัน พวกเธอจะส่งชุยอิงกลับบ้านด้วย


 


 


แน่นอนว่าในเอกสารพวกเธอไม่ได้ระบุว่าจะเป็นการเนรเทศชุยอิง แต่เป็นการคุ้มครองเธอกลับไปยังบ้านประเทศบ้านเกิดของตัวเอง


ตอนที่ 742 การส่งพวกเขากลับไป


 


 


ตระกูลชุยได้รับข้อมูลถึงความจริงเรื่องที่ชุยอิงได้ล่วงเกินตระกูลเฉิน ท่านประธานาธิบดีเป็นผู้แจ้งเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วยท่าทีที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง และแนะนำให้ใช้คนของเขาในการคุ้มกันเธอกลับบ้าน ตระกูลชุยรู้ว่านี่เป็นฉากบังหน้าในการเนรเทศชุยอิง พวกเขาไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ ชุยอิงคัดค้านแต่เธอไม่อาจทำอะไรได้


 


 


เหตุผลที่ใช้ในการส่งตัวเฮ่อปินกลับได้ถูกกำหนดไว้เช่นกัน เอกสารของทางการระบุว่าเขาถูกกักตัวที่สนามบินเพราะทำตัวน่าสงสัย เขาไม่ให้ความร่วมมือในระหว่างการสอบสวน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งตัวเขากลับไปประเทศ R โดยไม่มีการระบุถึงความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน ทั้งหมดนี่เพื่อทำให้เฮ่อหลานชางรู้สึกว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา


 


 


ไม่ว่าเฮ่อปินจะสารภาพหลังจากเขากลับไปแล้วว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาหรือไม่ ซิงเหอก็ไม่รู้สึกกลัวว่าเขาจะบอกเฮ่อหลานชางหมดทุกสิ่ง เธอเชื่อว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้เพราะเธอได้พูดคุยกับเฮ่อปินเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว


 


 


“เราจะไม่เปิดเผยความจริงที่คุณถูกจับได้ว่ามาจากตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นคุณสามารถกลับไปหาพวกเขาได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการสารภาพทุกอย่างแก่เฮ่อหลานชาง เราไม่ก็ไม่ว่าอะไรเหมือนกันเพราะถึงยังไงเราก็กำลังวางแผนที่จะจัดการกับพวกเขาอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นฉันแนะนำให้คุณคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะทำเช่นนั้น เพราะใครจะรู้ว่าคุณอาจจะต้องการร่วมมือกับเราในอนาคตก็ได้” ซิงเหอบอกเขาอย่างมีนัยยะ


 


 


ริมฝีปากของเฮ่อปินแม้มแน่นจนเป็นเส้นบาง เขาไม่พูดอะไรสักคำและใบหน้าของเขาไม่สามารถอ่านความคิดได้


 


 


ซิงเหอไม่ได้อยู่รอคำตอบจากอีกฝ่าย เธอย้ำเตือนเขาก่อนจะจากไป “อีกอย่างหนึ่ง คุณต้องระวังตัวเพราะการซ่อนความจริงจากคนพวกนั้นจะทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง เฮ่อหลานชางจะต้องสงสัยเกี่ยวกับความจริงที่ทำให้คุณถูกส่งตัวกลับในเร็วๆ นี้แน่ ถ้าเขาสงสัยว่าคุณจะต่อต้านเขาแล้วมาเข้าพวกกับเรา เขาจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ แน่นอนว่าคุณต้องเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เอง”


 


 


“คุณกลัวว่าผมจะปากสว่างบอกเรื่องทั้งหมดให้พวกเขารู้ตอนที่ผมกลับไปหรือไง” เฮ่อปินเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างกะทันหัน


 


 


ซิงเหอยิ้มเล็กน้อย “ต่อให้คุณไม่ได้บอกพวกเขาทุกอย่าง พวกเขาก็คงพอเดาได้อยู่ดี ตอนนี้ความอาฆาตของพวกเราที่มีต่อพวกเขานั้นเห็นได้อย่างโจ่งแจ้งแล้ว แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องฉันแบบเปิดเผยไหม แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทำถึงขั้นส่งคนมาลอบฆ่าฉันหรอก”


 


 


เฮ่อปินจึงตระหนักได้ว่าซิงเหอมีตัวตนแบบไหนอยู่ เธอไปเยี่ยมเยือนประเทศ R ในฐานะแขกผู้มีเกียรติจากประเทศจีน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอที่ประเทศ R มันจะกลายเป็นหายนะระหว่างประเทศทันที และจะยิ่งเป็นเรื่องยากในการทำอันตรายเธอในประเทศจีน ไม่ว่าตระกูลเฮ่อหลานจะทรงอิทธิพลมากแค่ไหน การลงมือทำอะไรในประเทศจีนก็เป็นเรื่องยาก รวมไปถึงการจัดการลอบสังหารด้วย


 


 


ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะไม่หวาดกลัวเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังตั้งตัวเองเป็นอริกับตระกูลเฮ่อหลาน เธอระวังตัว มีความสามารถและมีความมุ่งมั่น เธอไม่กลัวตระกูลเฮ่อหลานเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลบางประการ ที่ทำให้เฮ่อปินรู้สึกว่าบางทีนี่อาจะเป็นโชคร้ายของตระกูลเฮ่อหลานที่คิดจะต่อกรกับเธอ


 


 


“เรายังไม่ถึงประเทศ R ดังนั้นคุณยังพอมีเวลาให้คิด เป็นตัวเลือกของคุณที่จะเลือกทำงานกับเราหรือแบกรับความเสี่ยงไว้เพียงลำพัง คิดเรื่องนี้ให้ดีแล้วให้คำตอบกับฉันก่อนที่เราจะไปถึงที่นั่น” ซิงเหอแยกตัวออกไปพร้อมคำแนะนำที่มีประโยชน์


 


 


ท้ายที่สุดแล้วคำตอบของเฮ่อปินไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาปฏิเสธที่จะร่วมมือกับพวกเธอ ถึงยังไงเฮ่อหลานชางก็เป็นพ่อของเขา จนกว่าเขาจะพิสูจน์ทุกสิ่งได้ เขาจะไม่มีวันหักหลังพ่อของตัวเองง่ายๆ แต่กระนั้นเขาประทับใจในความมีเมตตาที่ซิงเหอมีต่อเขา เธอไม่ได้เปิดโปงเขาต่อตระกูลเฮ่อหลาน และด้วยจิตใต้สำนึก เขาเองก็ไม่อยากเปิดโปงเธอเช่นกัน บางทีเขาควรทำการตรวจสอบอะไรบางอย่างด้วยตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก…


 


 


บนเครื่องบิน นอกจากเฮ่อปินแล้วยังมีชุยอิงอยู่ด้วย


 


 


การปฏิบัติต่อทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชุยอิงได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดีราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 743 ประธานาธิบดีของประเทศ R


 


 


แต่กระนั้นเธอไม่อาจยอมรับที่จะต้องอยู่ร่วมกับซิงเหอได้ ดังนั้นเธอจึงพยายามสร้างปัญหาให้กับทุกคน เริ่มด้วยการตำหนิเรื่องอาหาร ต่อมาก็เรื่องที่นั่ง ถ้าพวกเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้ ชุยอิงก็ไม่ลังเลที่จะต่อว่าพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด บรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและหัวหน้าต่างไม่อาจทนกับเธอได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเธอทั้งหมดจึงมาขอความช่วยเหลือจากซิงเหอและมู่ไป๋


 


 


หลังจากอาลิได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือของพวกเธอ เธอก็รู้สึกโมโห “ผู้หญิงคนนี้มันอะไรกัน คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆ หรือไง! ซิงเหอ เราไม่ต้องไปสนใจแล้วทำเป็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีตัวตนไปเถอะ”


 


 


ซิงเหอยิ้มบาง “เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง เธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นี่ อย่างน้อยก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของพวกเรา เอาอย่างนี้เป็นไง ในเมื่อเธอไม่พอใจกับการบริการของพวกเรา งั้นเราก็ต้องช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เธอต้องเป็นทุกข์อะไรอีกดีไหม อยู่ให้ห่างจากเธอแล้วอย่าไปทำให้เธอโกรธ ฉันเชื่อว่าวิธีนี้จะต้องทำให้คุณชุยมีความสุขมากขึ้น”


 


 


อาลิเข้าใจสิ่งที่ซิงเหอต้องการจะสื่อทันที เธอออกคำสั่งพนักงานทุกคน “พวกคุณได้ยินที่คุณเซี่ยพูดแล้วใช่ไหม ปล่อยเธอไปเพื่อช่วยไม่ให้เธอต้องหัวเสีย ตอนนี้ฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไร!”


 


 


“ค่ะ” บรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและหัวหน้าพนักงานเข้าใจเป็นอย่างดี ซิงเหอกำลังบอกให้พวกเธอมองข้ามชุยอิงไปซะ ซึ่งเป็นเรื่องยอดเยี่ยมเพราะพวกเธอเอื่อมระอาที่จะต้องรับมือกับยัยบ้าคนนี้อยู่แล้ว!


 


 


ตลอดการเดินทางหลังจากนั้น ไม่มีใครเข้ามารบกวนชุยอิงอีก เธอตามหาน้ำดื่มแต่ไม่มีใครมาบริการ เธอจึงถามหาอาหารแต่ก็ยังไม่มีใครตอบรับ ไม่ว่าเธอจะเรียกร้องขออะไรก็ดูจะไม่มีใครได้ยินเธอ


 


 


นี่ทำให้เธอโกรธอย่างที่สุด เธอพยายามจะไปต่อว่าซิงเหอหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งเธอจะถูกเหล่าบอดี้การ์ดของซิงเหอสะกัดไว้ทุกครั้ง ไม่ว่าเธอจะโยนความเกรี้ยวกราดแบบไหนใส่อีกฝ่าย ซิงเหอก็เมินใส่เธอ ซิงเหอไม่รู้สึกหวาดกลัวตัวตนที่มีความเป็นพิเศษของชุยอิง


 


 


ชุยอิงเก็บความไฟแห่งความโกรธระหว่างอยู่บนเครื่องบินเอาไว้ สิ่งแรกที่เธอจะทำหลังจากเครื่องลงจอดคือการร้องเรียนซิงเหอต่อคุณลุงประธานาธิบดีของเธอ ซิงเหอคาดเดาสิ่งที่ชุยเองจะทำเอาไว้แล้ว หากแต่นั่นเป็นสิ่งที่ซิงเหอปรารถนาให้ชุยอิงทำเพราะเธอต้องการดูปฏิกิริยาของท่านประธานาธิบดี


 


 



 


 


ชุยเชี่ยน ประธานาธิบดีของประเทศ R ได้เชิญพวกเธอไปยังงานเลี้ยงรับรองด้วยตัวของเขาเอง เขาดูเป็นคนเรียบง่าย แต่ในเมื่อเขาเป็นคนที่มีความสามารถที่จะเป็นประธานาธิบดีได้ เขาจะต้องมีบางอย่างที่น่าสนใจซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มอันอบอุ่นแน่


 


 


ในระหว่างมื้อค่ำ เขาทำตัวเป็นเจ้าภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับคำร้องเรียนของชุยอิงเลยแม้แต่คำเดียว เขาถึงขนาดกล่าวขอโทษซิงเหอด้วยซ้ำ “หลานสาวของผมยังเด็กเกินไปหน่อย และเธอสร้างปัญหาบางอย่างระหว่างการเยี่ยมเยือนประเทศจีน ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย”


 


 


ซิงเหอเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ท่านประธานาธิบดีชุยถือเรื่องนี้จริงจังเกินไปแล้วค่ะ พวกเราไม่ได้เก็บความผิดของคุณชุยมาใส่ใจหรอกค่ะ ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่คุ้มกันเธอกลับมาด้วยตัวเองแบบนี้”


 


 


คำพูดของซิงเหอนั้นเฉียบคมด้วยการระบุอย่างชัดเจนว่าการกระทำของชุยอิงเป็นความผิด นี่สามารถแปลได้ว่าเป็นความผิดของท่านประธานาธิบดีเช่นกัน


 


 


อย่างไรก็ตาม ชุยเชี่ยนไม่ได้แสดงสัญญาณของความโกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด เขาหัวเราะและกล่าว “ผมเห็นแล้วว่าทำไมคุณเซี่ยถึงเป็นเชื้อสายของตระกูลเฉิน จากวิธีที่คุณวางตัวเองนี่เอง ผมยังได้ยินมาว่าคุณแม่ของคุณเซี่ยใช้เวลาวัยเด็กอยู่ที่หนึ่งในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของประเทศ R ด้วยใช่ไหม”


 


 


“ท่านประธานาธิบดีชุยได้ยินมาถูกต้องแล้วค่ะ จากการตรวจสอบของเรา คุณแม่ถูกรับอุปการะโดยสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลาน ก่อนหน้านี้ฉันได้เดินทางมาที่นี่เพื่อทำการค้นหาเธอและเฮ่อหลานฉี คุณชายของตระกูลเฮ่อหลานได้เสนอความช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่การค้นหากลับไม่เป็นผล คราวนี้เรากลับมายังประเทศ R เพื่อค้นหาต่อ เราจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าเราจะหาตัวเธอพบค่ะ” ซิงเหอมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายและกล่าวด้วยความมั่นใจ


 


 


ดวงตาของชุยเชี่ยนส่องประกายวาบขึ้นเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ซิงเหออย่างเจาะลึกขึ้น “ความเชื่อมั่นของคุณเซี่ยนี่น่าประทับใจจริงๆ ไม่ต้องกังวลนะครับเพราะคุณจะได้รับการสนับสนุนในการค้นหาจากผมอย่างเต็มที่ ผมแน่ใจว่าด้วยความร่วมมือของทุกคน เราจะสามารถหาแม่ของคุณพบในเร็ววันและคุณจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์”


 


 


“ขอบคุณค่ะท่านประธานาธิบดี พร้อมกันนี้เรายังได้คุ้มกันคนของประเทศคุณอีกคนหนึ่งกลับมากับพวกเราด้วย เขาชื่อเฮ่อปินค่ะ”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม