ตามใจรัก สาวนักแฮก 728-735
ตอนที่ 728 สูญเสียทุกอย่าง
“ตอนแรก ต่อให้พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของฉัน แต่ฉันก็ยังรู้สึกติดค้างอะไรบ้างอย่างกับเธอ แต่วันนี้พวกเธอสองคนทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก! ฉันไม่คิดเลยว่าเธอสองคนจะกล้าใส่ความฉันกับซิงเหอถึงขนาดนี้! ฉันให้โอกาสพวกเธอสองคนนับครั้งไม่ถ้วนแต่พวกเธอกับไม่เห็นค่า ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพวกเธอสองคนจะเป็นคนชั่วช้าแบบนี้ แต่ฉันเดาว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเพราะมันทำให้ฉันได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเธอ นับจากวันนี้ ตระกูลเฉินของเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอทั้งสองคนอีก ฉันจะทำเป็นว่าฉันเคยเลี้ยงหมาไว้สองตัวแทนแล้วกัน จากนี้ไปเธอสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อสกุลเฉินอีก!”
คำแถลงของผู้อาวุโสเฉินได้พิสูจน์ความมุ่งมั่นของเขา เฉินหรูและถงเยียนอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ใบหน้าของพวกเธออัปลักษณ์ที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา แผนการในวันนี้คือการแก้แค้นซิงเหอและผู้อาวุโสเฉิน ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแต่พวกเธอไม่อาจล่วงรู้ความเป็นไปได้ที่ซิงเหอจะเป็นหลานสาวแท้ๆ ของผู้อาวุโสเฉิน
บัดนี้แผนการแก้แค้นของพวกเธอถูกเปิดเผยและทำให้ผู้อาวุโสเฉินโกรธจนถึงจุดที่เขาจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับพวกเธอ ในจุดนี้ ในที่สุดเฉินหรูกับถงเยียนก็เข้าใจความหมายของคำว่าหวาดกลัว
ทำไมพวกเธอถึงได้โง่เขลาขนาดนี้ การเป็นศัตรูกับตระกูลเฉินไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับพวกเธอ ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเฉินตีตัวออกห่างจากพวกเธอ พวกเธอยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมือง A ได้โดยใช้ชื่อของตระกูลถง แต่บัดนี้ผู้อาวุโสเฉินแสดงจุดยืนที่จะตัดขาดกับพวกเธอต่อหน้าทุกคน แล้วใครจะกล้าบากหน้าอยู่ต่อไปได้ในอนาคต
ตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง A หลังจากที่ตระกูลหลินถูกโค่นล้มลง เมื่อไม่มีตระกูลเฉินคอยหนุนหลัง ใครจะกล้าคบค้าสมาคมกับพวกเธอและแบกรับความโกรธเกรี้ยวของตระกูลเฉิน
แม้แต่ตระกูลถงเองก็อาจจะลอยแพพวกเธอด้วย!
ฉะนั้นครั้งนี้พวกเธอก้าวผิดพลาดเข้าอย่างจัง ชีวิตของพวกเธอพังพินาศหมดแล้ว
เฉินหรูร้องออกมาด้วยความกลัวทันที “คุณพ่อคะ หนูขอโทษ หนูผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะหนูไม่อาจแยกจากคุณพ่อได้หนูถึงทำเรื่องแบบนี้ คุณพ่อได้โปรดอย่าตัดขาดจากพวกเราเลยนะคะ คุณพ่อจะทำกับพวกเราแบบนี้ไม่ได้…”
แต่กระนั้น ผู้อาวุโสเฉินมองแผนการของอีกฝ่ายออกหมดแล้ว เฉินหรูได้แสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองให้เขาได้เห็น ผู้อาวุโสเฉินจะไม่มีวันเชื่อใจพวกเธออีก จากมุมมองของเขา ทุกคำอ้อนวอนล้วนแฝงไปด้วยเจตนาซ่อนเร้น
เขาถึงขนาดรู้สึกผิดที่แสดงท่าทีเห็นใจออกมาก่อนหน้านี้ เพราะวิธีที่พวกเธอตอบแทนความเห็นใจของเขาคือการแก้แค้นตัวเขาเอง การแสแสร้งของพวกเธอทำให้ผู้อาวุโสรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงแก่น
ฉะนั้นไม่ว่าเฉินหรูจะอ้อนวอนหรือสารภาพเพียงใด ผู้อาวุโสเฉินก็ไม่สะทกสะท้าน ความรู้สึกเดียวที่เขามีคือความผิดหวัง
เฉินหรูสังเกตได้ว่ากลุ่มคนที่เคยอยู่ข้างเธอก่อนหน้านี้ทยอยถอนตัวออกไปและเธอร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม ไม่มีใครต้องการเข้ามาช่วยเธออีกแล้ว ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้ว่าได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรลงไปบ้างแต่ทุกอย่างได้สายเกินไปเสียแล้ว
ถงเยียนมองดูแม่ที่กำลังคุ้มคลั่งของตัวเองและความสิ้นหวังที่เย็นยะเยือกกำลังเกาะกุมจิตวิญญาณของเธอ…
ทันใดนั้น อยู่ๆ ผู้อาวุโสถงได้เดินแหวกกลุ่มคนเข้ามาเพื่อตบหน้าถงเยียนและสั่งสอนเธออย่างรุนแรง “ดูความวุ่นวายที่พวกเธอสองคนทำขึ้นมาสิ! จากนี้ไปเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเท้าออกจากบ้านอีกแม้แต่ก้าวเดียว ไม่อย่างนั้นตระกูลถงจะตัดขาดกับเธอทั้งสองคนด้วยเช่นกัน!”
ถงเยียนมองหน้าปู่ของตัวเองที่เคยรักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขด้วยดวงตาที่สั่นระรัว นี่ฉันกำลังจะสูญเสียทุกอย่างงั้นเหรอ
แม้แต่พื้นที่ของพวกเธอในตระกูลถงยังลดน้อยลง หลังจากสูญเสียแรงหนุนจากตระกูลเฉิน ตำแหน่งของเธอและแม่ของเธอก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
ตอนที่ 729 ล่วงเกินเธอโดยสิ้นเชิง
แต่หลังจากการสูญเสียตระกูลถง พวกเธอจะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ อย่างไรก็ตามถงเยียนยังเข้าใจอีกด้วยว่าตอนนี้สายเกินกว่าที่จะแก้ไขอะไรได้แล้ว เธอไม่ใช่ทายาทอันมีค่าของตระกูลถงอีกต่อไป เธอจะเสียความเคารพที่เธอเคยบังคับให้ทุกคนมีต่อเธอ อนาคตของเธอพังพินาศแล้ว… อย่างน้อยแม่ของเธอก็ได้ก้าวเข้าไปอยู่ในโลงศพครึ่งตัวแล้ว แล้วเธอล่ะ
เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบสองเท่านั้น! ยังมีชีวิตที่เหลืออยู่ในวันข้างหน้าอีกมาก…
ความกลัวและความสิ้นหวังเกาะกุมหัวใจของถงเยียน เธอยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นเหมือนหุ่นโชว์เสื้อผ้าราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างของเธอไปแล้ว ความจองหองของถงเยียนและเฉินหรูก่อนหน้านี้มลายหายไปจนหมดสิ้น สิ่งที่พวกเธอทุ่มเทและวางแผนมาทั้งหมดพังพินาศลงเพราะผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพียงอย่างเดียว
ไม่ว่าพวกเธอจะพยายามอ้างหลักศีลธรรมมากแค่ไหน สิ่งที่พวกเธอเรียกร้องก็ถูกกัดกร่อนจนหมดสิ้นเพราะซิงเหอมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในตระกูลเฉินและไล่พวกเธอออกไป นั่นเป็นเพราะซิงเหอไม่เหมือนพวกเธอ ซิงเหอมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินโดยสายเลือด
ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ ตอนนี้ดูเหมือนว่าซิงเหอจะมีสิทธิ์ไปหมดทุกอย่างและพวกเธอถูกเปิดโปงในฐานะของฝ่ายที่ไม่มีเหตุผล
เฉินหรูไม่คาดคิดจริงๆ ว่าซิงเหอจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉิน แต่ทำไมความบังเอิญที่แสนโหดร้ายกลับเกิดขึ้นกับเธอไม่ใช่พวกซิงเหอ พวกมันสมควรโดนยิ่งกว่าที่เธอโดน…
ยิ่งเฉินหรูคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น จนเธอเริ่มหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ
“ผู้หญิงคนนั้นบ้าไปแล้ว ทุกคน ถอยออกมาเร็ว!” อาลิตะโกนออกมาด้วยความตื่นตัว ผู้คนขยับตัวออกห่างจากสองแม่ลูกในทันที ความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันส่งผลให้เฉินหรูและถงเยียนตกอยู่ในความสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น แม้แต่ชุยอิงซึ่งถูกลอยแพอยู่กับพวกเธอก็ยังรู้สึกไม่ดีนัก
เธอไม่คิดวาแผนที่เธอมั่นใจกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จะล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นนี้ เยี่ยมไปเลยตอนนี้ ฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกตัวตลกไปแล้ว
แต่กระนั้นเธอกลับไม่ได้รู้ตัวว่าสิ่งที่เธอทำพลาดยิ่งกว่านั้นคือการล่วงเกินตระกูลเฉิน…
โชคดีที่ซิงเหออยู่ที่นั่นเพื่อย้ำเตือนเธอในเรื่องนี้ เพราะเป้าหมายของซิงเหอไม่ใช่ถงเยียนหรือเฉินหรู แต่เป็นชุยอิง ซิงเหอจ้องเขม็งไปที่ชุยอิงและเรียกร้องด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณชุย ตอนนี้คุณยังต้องการให้ตระกูลเฉินยึดถือคำสัญญาของพวกเขาที่ให้ไว้กับพวกคุณตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนอยู่ไหม”
ชุยอิงหน้าเสีย เธอจะตอบคำถามนี้ได้อย่างไร ซิงเหอมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เธอไม่อาจลบล้างลงได้โดยง่าย
แต่กระนั้นเธอก็สงบสติลงได้อย่างรวดเร็วและโต้กลับ “ใครจะคิดล่ะว่าหล่อนจะมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวนั้นจริงหรือเปล่า แต่ต่อให้มีจริง หล่อนก็ตั้งใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและใช้มันทำให้คุณน้าหรูและเสี่ยวเยียนต้องขายหน้าในงานเลี้ยงนี้ใช่ไหม เซี่ยซิงเหอ หล่อนนี่เป็นผู้หญิงที่ชั่วช้าจริงๆ!”
“ฉันขอเตือนคุณได้ไหมว่าพวกคุณเป็นคนเชิญฉันมางานเลี้ยงนี้เองนะ ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่เริ่มเรื่องนี้ด้วยการเรียกร้องให้ตระกูลเฉินตัดความสัมพันธ์กับฉัน” ซิงเหอต่อว่าอีกฝ่ายพร้อมเสียงหัวเราะอันเย็นชา “ถ้าพวกคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะแก้แค้นพวกเราอยู่แล้ว แล้วทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ได้งั้นเหรอ เพราะฉะนั้นใครกันแน่ที่เป็นคนชั่วช้าที่นี่ ฉันมั่นใจว่าทุกคนมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว อันที่จริงฉันยังสงสัยด้วยว่าคุณเป็นคนผลักดันให้ถงเยียนกับเฉินหรูกล้าทำเรื่องแบบนี้ ดังนั้นคุณชุย ฉันขอคืนคำพูดของคุณทั้งหมดให้คุณเอง คุณนี่เป็นผู้หญิงที่ชั่วช้าจริงๆ”
“นี่หล่อน หล่อนกำลังกล่าวหาฉัน…” ชุยอิงพูดตะกุกตะกัก เธอไม่คิดว่าซิงเหอจะโยนความผิดทั้งหมดมาที่เธอ เธอเป็นตัวแทนประธานาธิบดีของประเทศ R และตระกูลเฉินมีท่านผู้หญิงแห่งประเทศจีน หากตระกูลเฉินสงสัยว่าเธอเป็นคนเป่าหูถงเยียนและเฉินหรูจริง นี่จะกลายเป็นปัญหาภายในที่รุนแรง เธอไม่อาจแบกรับความรับผิดชอบนี้ไว้ได้
“คุณรู้ดีว่าฉันกำลังกล่าวหาคุณอยู่หรือเปล่า”
ตอนที่ 730 จดจำคำขู่นี้ไว้
ซิงเหอเอ่ยถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าคุณไม่ได้ไปสัญญากับสองคนนั้นว่าพวกเธอสามารถใช้หนี้บุญคุณของตระกูลเฉินมาบังคับให้พวกเขาตัดขาดกับฉันแล้วละก็ สองคนนั้นจะกล้าท้าทายตระกูลเฉินอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้เหรอ ฉันพูดผิดไหม!”
สีหน้าของชุยอิงแสดงออกถึงความประหลาดใจอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องนี้ได้ยังไง
ทุกคนที่เหลืออยู่ต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน พวกเขารู้สึกคำโต้แย้งของซิงเหอฟังดูมีเหตุผล ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการของชุยอิง
ผู้อาวุโสเฉินมองไปยังชุยอิงและซักถามอย่างดุเดือด “เธอทำอย่างนี้ทำไม ต้องการอะไรกัน ทำไมถึงโจมตีพวกเราแบบนี้”
“หนูเปล่า!” ชุยอิงโต้แย้งด้วยความขุ่นเคือง “หนูไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับคุณตาเฉิน เหตุผลเดียวที่หนูช่วยเสี่ยวเยียนก็คือหนูทนเห็นพวกคุณตารังแกเสี่ยวเยียนไม่ได้ แล้วมันผิดเหรอคะที่จะช่วยเพื่อนของตัวเอง หนูไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นอย่าพยายามมาใส่ความหนู!”
“ถึงอย่างนั้นนั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการกระทำต่างๆ ของคุณ” ซิงเหอหัวเราะเยอะใส่ชุยอิง “คุณชุย คุณโตมาจากครอบครัวที่ดี ดังนั้นอย่างบอกฉันนะว่าคุณมองการกระทำของถงเยียนไม่ออก แต่ฉันขอเตือนคุณไว้ตรงนี้ ถ้าคุณกล้ามีปัญหากับพวกเราเหมือนกับเพื่อนของคุณ ก็อย่ามาโทษเราตอนที่เรามีปัญหากับคุณแล้วกัน”
“นี่หล่อนกำลังขู่ฉันงั้นเหรอ” ชุยอิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่มีใครกล้าทำให้เธอขายหน้าและข่มขู่เธอแบบนี้มาก่อน แต่ซิงเหอกลับทำทุกอย่างที่ว่ามาภายในวันเดียว
ซิงเหอไม่แสดงท่าทีที่จะล่าถอย เธอยักคิ้วขึ้นและกล่าว “ถูกแล้ว ฉันกำลังขู่คุณและคุณควรจำมันไว้ให้ขึ้นใจด้วย”
“หล่อน…” ชุยอิงกำมือแน่นด้วยความโกรธ ในขณะนั้นซิงเหอได้กลายเป็นคนที่ชุยอิงเกลียดชัง ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้หลังจากทำให้เธอขายหน้าและข่มขู่เธอเช่นนี้!
ชุยอิงสาบานว่าจะแก้แค้นซิงเหอให้จงได้!
แน่นอนว่าซิงเหอมองเห็นความเกรียดชังที่กำลังแผดเผาอยู่ภายในดวงตาของอีกฝ่าย แต่เธอไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว ที่จริงแล้วเธอรู้สึกพอใจเสียด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่ยั่วโมโหชุยอิงแล้วจะมีวิธีใดที่เธอจะได้อำนาจการต่อรองที่เธอต้องการกันล่ะ
ชุยอิงจะเป็นตัวเปิดฉากสำหรับซิงเหอในการโจมตีตระกูลเฮ่อหลาน ในเมื่อเฮ่อหลานมีความสัมพันธ์กับตระกูลชุย งั้นเธอจะจัดการกับตระกูลชุยด้วยเช่นกัน สรุปคือซิงเหอจะจัดการถอนใครก็ตามให้กล้ายืนขวางทางของเธอให้ราบ!
ซิงเหอไม่เคยอวดอ้างว่าตัวเองเป็นแม่พระเพราะเธอจะไม่ลังเลที่จะใช้ประโยชน์จากคนอื่นเพื่อให้ได้เป้าหมายที่เธอต้องการ อย่างไรก็ตามชุยอิงเองก็ไม่ใช่ฝ่ายที่บริสุทธิ์เช่นกัน ในเมื่อชุยอิงเลือกที่จะวางตัวเองไว้ฝั่งตรงข้ามกับซิงเหอ งั้นเธอจะมาโทษซิงเหอสำหรับความวิบัติที่จะเกิดขึ้นกับเธออย่างต่อเนื่องไม่ได้
ในโลกนี้ ชัยชนะมีไว้สำหรับคนที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความสามารถที่สุดเท่านั้น!
ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของแต่ละฝ่ายในการต่อสู้เพื่อแย่งเก้าอี้ของผู้ชนะแล้ว แต่ซิงเหออธิษฐานให้คู่ต่อสู้ของเธอไม่อ่อนแอจนเกินไปไม่เช่นนั้นเธออาจจะรู้สึกเบื่อได้ง่ายๆ
ซิงเหอชำเลืองตามองชุยอิงเป็นครั้งสุดท้ายแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอจับมือผู้อาวุโสเฉินและกล่าว “คุณตาคะ ไปกันเถอะค่ะ”
ไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกเขาจะอยู่ในงานเลี้ยงนั้นอีกแล้ว เธอไม่ต้องการเสียเวลากับถงเยียนและเฉินหรูมากไปกว่านี้
ผู้อาวุโสเฉินสังเกตถึงความใกล้ชิดมากขึ้นที่ซิงเหอมีต่อเขา ทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ตกลง ไปกันเถอะ!”
เขาไม่ต้องการอยู่ในงานเลี้ยงห่วยๆ แบบนี้อีกต่อไปเช่นกัน มู่ไป๋ช่วยประคองผู้อาวุโสเฉินอีกด้านหนึ่งและพวกเขาถอนตัวออกจากงานเลี้ยง
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของชุยอิงจดจ้องแผ่นหลังของซิงเหอแทบทะลุและเธอสาบานกับตัวเองว่าเธอจะสั่งสอนผู้หญิงสารเลวคนนี้เมื่อโอกาสมาถึง!
…
หลังจากกลุ่มของซิงเหอออกมาจากงานเลี้ยง พวกเธอเดินทางไปยังคฤหาสน์ของตระกูลเฉิน
ภายในรถ ผู้อาวุโสเฉินระดมยิงคำถามมากมายใส่ซิงเหอ
ตอนที่ 731 อย่ารังแกเธอ
“ซิงเหอ เธอเป็นหลานสาวของฉันจริงๆ เหรอ ผลตรวจดีเอ็นเอนั่นเป็นของจริงใช่ไหม”
ซิงเหอพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม “เป็นของจริงค่ะ”
ผู้อาวุโสเฉินยังคงตกใจไม่หาย “ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ แล้วเธอรู้ความจริงนี้ได้ยังไง”
“คุณแม่ของฉันก็มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น ฉันก็เลยสงสัยว่าพวกเธออาจจะเป็นคนคนเดียวกัน แต่ฉันไม่คาดคิดว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะพิสูจน์ว่าฉันคิดถูก” ซิงเหอตอบอย่างมีความสุข
ผู้อาวุโสเฉินประหลาดใจ “แม่ของเธอก็มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกันงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็อธิบายได้มากทีเดียว แต่ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ”
“ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี่เหมือนกันค่ะ”
“แล้วตอนนี้แม่ของเธออยู่ที่ไหนกันล่ะ!” ผู้อาวุโสเฉินถามพลางลุกขึ้นยืนตัวตรง
ซิงเหอส่ายหน้า “ฉันขอโทษ แต่คุณแม่หายตัวไปหลายปีแล้วค่ะ”
ผู้อาวุโสเฉินจึงนึกขึ้นได้ว่าซิงเหอเคยระบุว่าแม่ของเธอได้หายตัวไป ความหวังที่เขามีจึงมลายหายไปและเขาดูห่อเ**่ยวอย่างเห็นได้ชัด
“มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า นี่อธิบายเหตุผลการหายตัวไปของเธอได้ไหม” เขาถามด้วยความร้อนใจ
ซิงเหอไม่ตอบแต่กลับเลือกที่จะถามอีกฝ่าย “คุณตาคะ คุณตาเชื่อว่าฉันเป็นหลานสาวของคุณตาทั้งอย่างนั้นเลยเหรอคะ คุณตาไม่ต้องการตรวจซ้ำอีกรอบงั้นเหรอ”
ผู้อาวุโสเฉินมองซิงเหอและกล่าวอย่างมั่นใจ “ฉันเชื่อเธอเพราะเธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะโกหกฉัน ฉันรู้จักเธอดีกว่าที่เธอคิดเพราะฉันรู้ว่าเธอดีเกินกว่าจะมาหลอกฉัน”
ซิงเหอรู้สึกประทับใจที่เขาเชื่อมั่นในตัวเธออย่างชัดเจน
“คุณตา ฉันดีใจที่ได้พบพวกคุณทุกคน ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อชดเชยช่วงเวลาหลายปีที่เราสูญเสียไป” ซิงเหอให้คำมั่นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาของผู้อาวุโสเฉิน การมีถงเยียนเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเขาทำให้เขาคิดจริงๆ ว่าตระกูลเฉินคงต้องยุติลงเพียงเท่านี้ โชคยังดีที่สวรรค์ยังคงส่งยิ้มมาให้เขา มอบข่าวคราวเกี่ยวกับลูกสาวที่หายไป และยังให้หลานสาวที่ยอดเยี่ยมมาเป็นของขวัญแก่เขาอีก
เขาชื่นชอบในตัวซิงเหออยู่แล้วและตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา ผู้อาวุโสเฉินจึงยินดีเป็นอย่างมาก เขารู้สึกสบายใจและภูมิใจที่เธอทั้งมีทั้งสติปัญญาและความสามารถ
ผู้อาวุโสเฉินถอนหายใจ “ดูเหมือนเทวดาฟ้าดินยังพอมีเมตตากับฉันอยู่บ้าง ถึงแม้ตระกูลเฉินจะต้องสูญเสียไปมากมาย พวกท่านก็ยังส่งเธอกลับมา ฉันสามารถตายอย่างมีความสุขได้แล้วตอนนี้เพราะพวกเราเจอเธอแล้ว!”
“ผู้อาวุโสเฉินครับ ซิงเหอเองก็มีความสุขมากเช่นกันที่เธอได้กลับมาเชื่อมสายสัมพันธ์กับพวกคุณทั้งหมด” มู่ไป๋กล่าวเสริมพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ซิงเหอมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจว่าเขาอ่านความคิดของเธอออกได้ยังไง
แต่กระนั้นเธอรู้สึกขอบคุณเพราะเขาช่วยพูดสิ่งที่เธอคิดที่เธออายเกินกว่าที่จะพูดออกมา
ผู้อาวุโสเฉินชำเลืองตามองมู่ไป๋และเมื่อเขาทำเช่นนั้น เขาเอ่ยถามออกมาโดยไม่ตั้งใจ “มู่ไป๋ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด เธอชอบซิงเหอของพวกเราใช่ไหม”
มู่ไป๋ชะงักไปเล็กน้อยเพราะเขาไม่คาดคิดถึงคำถามนี้ แต่เขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและพยักหน้าอย่างจริงจัง “ชอบครับ!”
“พวกเธอสองคนมีแผนจะแต่งงานกันใหม่หรือเปล่า”
“ครับ! ผมวางแผนที่จะแต่งงานกับเธออีกครั้งและผมจะไม่มีทางให้เธอผิดหวังอีก” มู่ไป๋ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ผู้อาวุโสเฉินเริ่มหัวเราะออกมาทันที “ดี ดีจริงๆ! เธอสัญญาแล้วนะว่าจะไม่ทำให้ซิงเหอของเราผิดหวัง ดังนั้นถ้าเธอกล้ารังแกซิงเหอแม้แต่นิดเดียว จำไว้เลยว่าเธอจะต้องตอบคำถามคนทั้งตระกูลเฉิน”
มู่ไป๋พยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง “แน่นอนครับ ผมจะไม่รังแกเธอ แต่เธอสามารถรังแกผมเมื่อไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ”
ผู้อาวุโสเฉินระเบิดหัวเราะอีกครั้ง “ยอดเยี่ยม ฉันจะดีใจมากถ้าเธอสองคนลงเอ่ยกัน เพราะพวกเธอสองคนดูเหมาะสมกันมาก”
ตอนที่ 732 โมเดลจำลองรูปลักษณ์
“และพวกเธอสองคนส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี ฉันมีความสุขจริงๆ เรื่องดีๆ แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นกับฉันที่อยู่ในวัยใกล้ฝั่งแบบนี้ นี่ช่างดีจริงๆ …”
ผู้อาวุโสเฉินเริ่มน้ำตาเอ่ออีกครั้ง แต่นั่นเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ ก่อนหน้านี้เขารู้สึกอิจฉาผู้อาวุโสสีที่มีลูกหลานที่ยอดเยี่ยม เขาไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเขาเองก็จะโชคดีมากเช่นกัน
เขารู้สึกโชคดีที่เขาได้พบกับซิงเหอรวมไปถึงมู่ไป๋ด้วย วันนั้นนับเป็นวันที่มีความสุขที่สุดที่เขาไม่ได้มีมานาน
ความเสียใจเดียวที่มีคือการยังไม่พบตัวลูกสาวของเขาแต่การมีซิงเหอก็นับว่าเกินพอแล้ว ภายในรถ ผู้อาวุโสเฉินโทรหาภรรยาและลูกสาวคนโตของเขาเพื่อแบ่งปันข่าวที่น่ายินดีนี้
เมื่อท่านผู้หญิงทราบข่าว เธอรีบตรงดิ่งมายังคฤหาสน์ของครอบครัวทันที ด้วยความจริงที่ซิงเหอเป็นคนตระกูลเฉิน พวกเธอต่างประหลาดใจและตกใจ กระนั้นผลตรวจดีเอ็นเอไม่ใช่เรื่องโกหก
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวท่านผู้หญิงเองก็มีความประทับใจที่ดีต่อซิงเหออยู่แล้วไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ยอมรับซิงเหอเป็นบุตรบุญธรรม แต่ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้วเพราะซิงเหอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเธอ!
“ทุกอย่างช่างบังเอิญอะไรแบบนี้ ไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”
ท่านผู้หญิงมองซิงเหอและถอนหายใจอย่างไม่อยากเชื่อ
คุณหญิงใหญ่เฉินเองก็คร่ำครวญเช่นกัน “ลูกพูดถูก นี่ต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ บรรพบุรุษของเราจะต้องเฝ้ามองพวกเราอยู่ ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้พวกเราคงอาจไม่ได้เจอกัน”
ท่านผู้หญิงกุมมือของซิงเหอและกล่าวอย่างใจดี “ซิงเหอ ไม่แปลกใจเลยที่ฉันมีความรู้สึกใกล้ชิดกับเธอเหมือนกับคนในครอบครัวมาโดยตลอดเพราะเธอเป็นลูกสาวของน้องสาวฉันนี่เอง ถ้างั้นเธอไม่ต้องเรียกฉันว่าแม่บุญธรรมแล้วนะจ้ะ เรียกฉันว่าป้าอวี๋นะ”
ซิงเหอตอบด้วยความนอบน้อม “คุณป้าอวี๋”
“ดีมากจ้ะ! ช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้!” ท่านผู้หญิงตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนถึงขั้นมีน้ำตาไหลออกมา แม้แต่คุณหญิงใหญ่เฉินเองก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้เช่นกัน พวกเธอยินดีที่อนาคตของตระกูลเฉินปลอดภัยแล้ว
เมื่อเทียบกับถงเยียนแล้ว ซิงเหอนั้นดีกว่าเป็นล้านเท่า อาจเป็นเพราะเลือดนั้นข้นกว่าน้ำ พวกเขายอมรับซิงเหอเข้าสู่ร่มเงาอย่างง่ายดาย พวกเขาทุ่มเทความรักและความสนใจทั้งหมดให้แก่เธอ
ซิงเหอเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้เธอจะไม่คุ้นเคยกับการเป็นจุดสนใจแต่เธอก็ให้ความร่วมมืออย่างเงียบๆ
หลังจากพูดคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ในที่สุดหัวข้อการสนทนาได้เปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น
คุณหญิงใหญ่เฉินถามขึ้นอย่างมีความหวัง “หลานมีรูปของแม่บ้างหรือเปล่า ฉันอยากจะเห็นเธอสักหน่อย”
“ใช่แล้ว หลานมีรูปของเธออยู่บ้างไหม” ผู้อาวุโสเฉินพูดแทรกขึ้นมา
ซิงเหอส่ายหัว “โชคไม่ดีที่ฉันไม่มีค่ะ เพราะคุณแม่ไม่เคยทิ้งรูปถ่ายอะไรไว้เลย แต่ฉันสามารถสร้างโมเดลจำลองหน้าตาของคุณแม่ให้พวกคุณดูได้”
“โมเดลจำลองหน้าตา” ท่านผู้หญิงชะงัก
ซิงเหอพยักหน้า “ใช่ค่ะ แต่ฉันต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง”
“เอาคอมพิวเตอร์มาให้คุณหนูเร็วเข้า!” ผู้อาวุโสเฉินออกคำสั่งและสาวรับใช้รีบนำโน๊ตบุ๊คเรื่องหนึ่งมาให้
ซิงเหอกดเปิดเครื่องและเริ่มลงมือทำงาน
ผู้อาวุโสเฉินและคนที่เหลือมองดูซิงเหอจัดการกับคอมพิวเตอร์อย่างชำนาญด้วยความรู้สึกชื่นชม แม้พวกเขาจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเธอมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ แต่การได้เห็นมันด้วยตัวเองก็ยังสร้างความประหลาดใจอยู่ดี
ซิงเหอไม่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง ในเวลาไม่กี่นาที เธอจัดการสร้างโมเดลสามมิติจำลองภาพผู้หญิงคนหนึ่งได้สำเร็จ
ตอนที่ 733 ข่าวร้าย
ผู้อาวุโสเฉินตื่นเต้นเมื่อเขาเห็นโมเดลสามมิติ
“นี่แหละลูกสาวของฉัน นี่แหละ!” ผู้อาวุโสเฉินชี้ไปยังโมเดลดังกล่าวและกล่าวด้วยความตื่นเต้น ซิงเหอรู้สึกงุนงงว่าเขามั่นใจขนาดนี้ได้อย่างไร
ท่านผู้หญิงตอบความข้องใจของซิงเหอด้วยรอยยิ้ม “ซิงเหอ แม่ของเธอหน้าตาเหมือนกับคุณอาของฉันเปี๊ยบเลยละ”
“เหมือนกับเป็นคนคนเดียวกันเลย!” คุณหญิงใหญ่เฉินเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ผู้อาวุโสเฉินหัวเราะอย่างมีความสุข “ไม่แปลกใจที่เขาว่าหลานสาวจะมีหน้าตาเหมือนอา พอได้เห็นหน้าตาแม่ของหลานแล้วตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรข้องใจอีกแล้ว ถูกต้อง แม่ของหลานจะต้องเป็นคนตระกูลเฉินอย่างแน่นอน!”
ท่านผู้หญิงและคุณหญิงใหญ่เฉินเองก็ยอมรับเรื่องนี้อย่างไม่ลังเลเช่นกัน นั่นเป็นเพราะแม่ของซิงเหอนั้นมีหน้าตาเหมือนกับน้องสาวของผู้อาวุโสเมื่อครั้งที่เธอยังสาว นี่ช่วยคลี่คลายหนึ่งในข้อสงสัยของซิงเหอเพราะคุณแม่ของเธอดูไม่เหมือนกับใครในตระกูลเฉินที่เธอรู้จัก ปรากฏว่าแม่ของเธอหน้าตาเหมือนกับอาสาวของเธอนั่นเอง
“หลานช่วยปรินต์ออกมาให้ยายหน่อยได้ไหม” คุณหญิงใหญ่เฉินถามด้วยน้ำเสียงถึงอ้อนวอน พวกเขาไม่มีรูปภาพของแม่ซิงเหอเลยแม้แต่รูปเดียว แต่กระนั้นซิงเหอกลับปฏิเสธคำขอร้องที่พูดเป็นเรื่องเล็กน้อยนี้
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ มันอาจเป็นอันตรายกับเธอได้” ซิงเหออธิบายอย่างนุ่มนวล
ผู้อาวุโสเฉินตกใจ “ทำไมล่ะ”
ซิงเหอมองดูพวกเขาก่อนตัดสินใจในใจ เธอตัดสินใจที่จะบอกทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับโปรเจต์กาแล็กซีให้พวกเขาฟัง!
…
ในขณะเดียวกัน ชุยอิงกำลังอยู่ในสายกับเฮ่อหลานฉี
“อาฉี แผนการล้มเหลว คุณต้องการให้ฉันทำลายตระกูลเฉินนั่นและทำให้ชื่อเสียงของพวกมันเสื่อมเสีย แต่แผนการล้มเหลว” ชุยอิงรายงานอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
เฮ่อหลานฉีไม่แสดงอาการใดๆ ที่สื่อถึงความโกรธ น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบราวกับเขาเข้าใจอีกฝ่ายเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่บรรยากาศที่เขาคุยกับเธอลดต่ำลงเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น “ทำไมถึงล้มเหลวล่ะ”
ชุยอิงเล่าสถานการณ์ทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง “ตอนแรกฉันวางแผนจะใช้ความพยาบาทของเฉินหรูกับถงเยียนที่มีต่อเซี่ยซิงเหอนั่นทำลายชื่อของตระกูลเฉินและทำให้ตาแก่เฉินเสียความน่าเชื่อถือ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับกลายเป็นหลานสาวแท้ๆ ของมันซะได้ แผนของฉันเลยพังไม่เป็นท่า”
“คุณว่าอะไรนะ” น้ำเสียงของเฮ่อหลานฉีเย็นยะเยือกลงทันที “เซี่ยซิงเหอเป็นหลานแท้ๆ ของตาแก่นั่น”
“ใช่ มันถึงขนาดเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาด้วย เหมือนจะไม่ใช่เรื่องโกหก”
“แล้วใครเป็นแม่ของผู้หญิงคนนั้น ท่านผู้หญิงของจีนงั้นเหรอ” เขาถามด้วยความไม่มั่นใจ
ชุยอิงหัวเราะออกมาเล็กน้อย “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ มันต้องเป็นลูกของลูกสาวอีกคนของตาแก่เฉินอยู่แล้ว”
ข่าวนี้ทำให้เฮ่อหลานฉีอึ้ง เซี่ยซิงเหอเป็น…ลูกสาวของลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ไม่มีใครจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นที่จะสามารถปรากฏตัวในโลกนี้ได้อีก แล้วหนึ่งในนั้นจะคลอดลูกสาวออกมาได้อย่างไร
นี่นับเป็นข่าวร้ายสำหรับเฮ่อหลานฉี
เขาออกคำสั่งด้วยความจริงจัง “ตั้งแต่นี้ไป คุณติดตามเซี่ยซิงเหอนั่นทุกฝีก้าวที แล้วมารายงานผมทุกวันด้วย”
“โอเค ฉันเข้าใจ ว่าแต่ฉันจะได้กลับไปเมื่อไหร่ล่ะ ฉันคิดถึงคุณจะตายอยู่แล้วนะ” ชุยอิงอดถามเพื่อเรียกร้องความสนใจมากขึ้นอีกนิด
เฮ่อหลานฉีหัวเราะอย่างทรงเสน่ห์ “อีกไม่กี่วันหรอก หลังจากผมจัดการทุกอย่างทางนี้เสร็จแล้วคุณก็กลับมาได้เลย”
“ตกลง ว่าแต่ทำไมอยู่ๆ คุณถึงได้สนใจเรื่องของตระกูลเฉินนักล่ะ” ชุยอิงถาม
“มันเป็นความลับที่ผมยังบอกคุณไม่ได้”
“เข้าใจแล้ว เข้าใจไว้ด้วยนะว่าฉันจะทำตามคำสั่งของคุณทุกอย่างเพราะฉันตกหลุมรักคุณอย่างหมดหัวใจ…” ชุยอิงสารภาพความในใจอันหยาดเยิ้มออกมาผ่านโทรศัพท์แต่เฮ่อหลานฉีไม่ได้สนใจที่จะฟัง
ตอนที่ 734 ถูกเปิดโปง
หลังเฮ่อหลานฉีกดวางสาย แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง เขาไม่ได้คิดว่าความปรารถนาของเขาที่จะสร้างความโกลาหลในหมู่คนตระกูลเฉินเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนพวกนั้นให้ออกจากการค้นหาในประเทศ R จะทำให้เกิดการค้นพบความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เซี่ยซิงเหอเป็นลูกสาวของลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน ไม่แปลกใจเลยที่เธอกลับไปประเทศจีนโดยไม่กล่าวลาสักคำ ต้องเป็นเพราะเธอค้นพบความจริงแล้วตั้งแต่ตอนนั้น
แต่มันจะเกี่ยวกับการที่เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉินได้อย่างไรกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเรื่องปริศนาเกี่ยวกับชื่อซิงเหอนั่นอีก…
เฮ่อหลานฉีรู้สึกมั่นใจว่าต้องมีบางอย่างที่เขาไม่รู้เกิดขึ้นแน่ อาจเป็นไปได้ว่าความลับของพวกเขาถูกเปิดโปงแล้ว!
เฮ่อหลานฉีรีบรุดไปปรึกษาพ่อของเขาทันที เฮ่อหลานชางรู้สึกประหลาดใจไม่ต่างกันเมื่อได้ยินเรื่องจากลูกชาย
“คุณพ่อครับ ต้องมีข่าวรั่วไหลออกไปแน่ ผมสงสัยว่ามีบางคนแอบหนีออกไปจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นเมื่อหลายปีก่อน” เฮ่อหลานฉีพูดด้วยท่าทีจริงจัง
สีหน้าของเฮ่อหลานชางดำมืดขึ้น “ลูกพูดถูก ต้องมีใครหนีไปแน่ๆ เราบอกไม่ได้ว่าหนีไปได้กี่คน แต่หนึ่งในนั้นต้องเป็นเด็กผู้หญิงจากตระกูลเฉิน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็แปลกนะเพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานว่ามีใครหายตัวไป”
“บางทีพวกมันอาจจะกลับมาหลังจากหนีไปแล้วก็ได้” เฮ่อหลานฉีคาดเดา
เฮ่อหลานชางพยักหน้า “เป็นไปได้มาก เรียกอาปินมา พ่อมีบางอย่างให้มันทำ”
“ครับคุณพ่อ” เฮ่อหลานฉีพยักหน้าแต่ดวงตาของเขาฉายแววดูถูกเยียดหยามขึ้นมาวูบหนึ่ง ไม่นาน ชายที่ชื่ออาปินก็เดินทางมาถึง เขามีรูปร่างใหญ่โตแต่ใบหน้ากลับไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ดวงตาของเขาไร้ซึ่งจิตใจ หากใครมีโอกาสได้มองดูเขาใกล้ๆ อาจสังเกตได้ถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างเขากับเฮ่อหลานชาง
เมื่อเฮ่อหลานฉีเห็นอีกฝ่าย ความดูถูกเหยียดหยามปรากฏขึ้นในส่วนลึกสุดในดวงตาของเขา อาปินไม่สนใจอีกฝ่ายและพูดกับเฮ่อหลานฉีอย่างเคารพ “” เรียกหาผมเหรอครับ
เฮ่อหลานชางมองชายตรงหน้าและออกคำสั่ง “ฉันมีงานให้แกทำ เดินทางไปเมือง A ในประเทศจีนเดี๋ยวนี้แล้วไปตรวจสอบผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยซิงเหอ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับแม่ของผู้หญิงคนนั้น ฉันต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกมัน ยิ่งละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดี จำไว้ว่าอย่าให้ใครจับได้ และงานนี้จะล้มเหลวไม่ได้ เข้าใจไหม”
“ครับท่าน” อาปินพยักหน้า
เฮ่อหลานชางโบกมือออกและไม่มีร่องรอยของความอบอุ่นปรากฏในดวงตาของเขา “ไปได้แล้ว”
“ครับท่าน” อาปินทำตัวเหมือนทหารที่รู้จักเพียงการทำตามคำสั่งเท่านั้น
เมื่ออาปินเดินจากไป เฮ่อหลานฉีก็บ่นด้วยความไม่พอใจ “คุณพ่อ เรามีคนตั้งมากมาย ทำไมคุณพ่อถึงเลือกส่งมันไปล่ะ”
เฮ่อหลานชางอธิบาย “ฉันเชื่อใจมันแค่คนเดียวเท่านั้นเมื่อพิจารณาจากความร้ายแรงของสถานการณ์นี้”
“แต่มันไว้ใจได้จริงงั้นเหรอ” เฮ่อหลานฉีหัวเราะอย่างองอาจ “ผมรู้สึกว่ามันเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจมากที่สุดด้วยซ้ำ”
“มันเป็นลูกชายฉัน ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่มีวันหักหลังฉันง่ายๆ” เฮ่อหลานชางกล่าวด้วยความมั่นใจ
เฮ่อหลานฉีหัวเราะในลำคอ “แต่พวกเราไม่เคยทำเหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วยซ้ำ แล้วถ้าครั้งนี้มันเกิดเลือกที่จะหักหลังเราล่ะครับ”
เส้นเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาของเฮ่อหลานชาง “ถ้ามันกล้าหักหลังเรา เราก็จะฆ่ามันทิ้งซะ!”
ไม่มีวี่แววของความเสียใจหรือความไม่เต็มใจในการคำพูดของเขา นอกจากเฮ่อหลานฉีแล้วทุกคนล้วนเป็นเครื่องมือที่ใช้แล้วทิ้งของเฮ่อหลานชาง แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกชายของเขาเอง เขายังไม่ลังเลที่จะกำจัดหากมีโอกาสที่จะเป็นภัย
เฮ่อหลานฉีพึงพอใจกับคำตอบของผู้เป็นพ่อ ในขณะเดียวกันเขาก็นึกแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ บางทีเขาอาจได้โอกาสนี้ในการกำจัดเจ้าลูกชู้นี่เสียเลย!
ตอนที่ 735 ติดเบ็ด
รอยยิ้มอันชั่วร้ายและเย็นชาของเฮ่อหลานฉีปรากฏขึ้น แต่ไม่มีใครทันได้สังเกตอารมณ์ที่ปรากฏขึ้นอย่างชั่วคราวเพียงแค่ชั่ววูบเดียว หลังจากอาปินออกไปแล้ว เฮ่อหลานชางก็เริ่มตรวจสอบว่าใครเป็นคนหนีออกไปเมื่อหลายปีก่อน
เขาไม่รู้เลยว่าใครเป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินหรือผู้หญิงคนนั้นมีหน้าตาเช่นไร ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเริ่มตรวจสอบซิงเหอ แต่กระนั้นการสืบค้นของเขากลับไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะความจริงแล้วไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับแม่ของซิงเหอเลย
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยตัวตนของผู้หญิงคนนั้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะรู้ตัวของลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน เพราะพวกเขามีตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้อาวุโสเฉินและฐานข้อมูลจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่พวกเขาบอกกับสาธารณชนว่าได้พูดทำลายไปหมดแล้วอยู่ในมือ
ระหว่างที่ตระกูลเฮ่อหลานกำลังง่วนอยู่กับการตามหาแม่ของซิงเหอ ซิงเหอเองก็กำลังหาทางจัดการกับตระกูลเฮ่อหลาน เธอบอกทุกอย่างให้ตระกูลเฉินรู้ เมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโปรเจกต์กาแล็กซี พวกเขาก็ตกใจตามที่เธอคาด ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะถ่ายทอดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่านประธานาธิบดีเพราะนี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง
แน่นอนว่าทันทีที่ท่านประธานาธิบดีทราบข่าว เขาก็ตกใจเช่นกัน ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าโปรเจกต์กาแล็กซีคืออะไร แต่จากข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมด มันเป็นแผนการลึกลับที่อาจสร้างอันตรายให้กับทุกสิ่งที่มีชีวิตทั่วโลก เพื่อประโยชน์ของทุกคน ท่านประธานาธิบดีประกาศเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับการตรวจสอบของซิงเหออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของพวกเขาคือตระกูลเฮ่อหลานที่อาศัยอยู่ในประเทศ R หากท่านประธานาธิบดีเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศได้ ดังนั้นในเรื่องนี้พวกเขาจำเป็นต้องพึ่งซิงเหอ เพราะอย่างน้อยซิงเหอก็มีบางวิธีที่จะใช้ในการตรวจสอบตระกูลเฮ่อหลาน
แผนการของเธอนั้นเรียบง่าย เธอจะรอให้ตระกูลเฮ่อหลานลงมือก่อน ต้นกำเนิดของเธอได้รับการเปิดเผยแล้ว เธอชื่อว่าตระกูลเฮ่อหลานจะต้องได้รับการรายงานเรื่องนี้ และพวกเขาจะไม่มีทางนั่งอยู่เฉยได้เมื่อรู้ข่าว
ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำทั้งหมดคือการรอ รอให้พวกเขาปรากฏตัวและรอโอกาสที่จะจู่โจม ซิงเหอใช้เวลาทั้งวันเอ้อระเหยอยู่ภายนอกอย่างไร้แก่นสารเพื่อหยิบยื่นโอกาสที่อีกฝ่ายต้องการ
มีเพียงซิงเหอและอาลิเท่านั้น อาลิขับรถพาซิงเหอไปทั่วเมืองในขณะที่ซิงเหอรายงานสถานการณ์ของเธออย่างใกล้ชิดอยู่ภายในรถและเฝ้ารอให้ฝ่ายตรงข้ามแสดงตัวออกมา อย่างไรก็ตาม พวกเธอทำเช่นนี้อยู่สองวันติดต่อกันและไม่พบอะไร
“ซิงเหอ เธอคิดว่าตระกูลเฮ่อหลานจะส่งคนมาติดตามพวกเราจริงๆ งั้นเหรอ” อาลิถามด้วยความไม่แน่ใจขณะหมุนพวงมาลัยในมือ
ซิงเหอที่กำลังจัดการแล็ปท็อปในมืออยู่ที่เบาะหลังตอบ “พวกเขาจะทำแบบนั้นหลังจากรู้เรื่องต้นกำเนิดของฉัน”
“แล้วถ้าพวกมันตั้งใจส่งคนมาทำร้ายเธอล่ะ” อาลิถามพร้อมน้ำเสียงที่สอดแทรกความหวาดกลัว
ซิงเหอยิ้มมุมปาก “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำได้หรือเปล่า เลี้ยวซ้ายที่แยกข้างหน้านะ ปลาติดเบ็ดแล้ว”
อาลิตกใจและรีบมองที่กระจกมองหลังทันที มีรถหลายคันที่ขับตามหลังพวกเธออยู่ เป็นเรื่องยากสำหรับอาลิที่จะบอกได้ว่าคันไหนคือคันที่ผิดปกติ
“มีคนสะกดรอยตามเราจริงเหรอ” อาลิพยายามที่จะยืนยัน
ซิงเหอจ้องไปที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏอยู่บนแล็ปท็อปของเธอและพยักหน้า
“งั้นเธอต้องติดต่อคุณสีเดี๋ยวนี้ เราจะทำให้นี่กลายเป็นการเดินทางขาเดียวของคนคนนั้น!” อาลิกล่าวอย่างตื่นเต้นขณะหมุนพวงมาลัย และเธอเห็นรถคันสีดำคันหนึ่งเลี้ยวตามเธอมาจากด้านหลัง
รถคันนั้นดูไม่น่าสงสัยและเหมือนกับรถทั่วๆ ไปตามท้องถนน แต่ซิงเหอเฝ้าดูมันมานานและตระหนักได้ว่ามันสะกดรอยตามเธอมาตลอด เพราะเธอบันทึกภาพของมันไว้ผ่านกล้องวงจรปิด สัญชาตญาณของเธอบอกว่าคนที่อยู่ภายในรถคันนั้นน่าสงสัย!
อาลิค่อยๆ ขับมายังเขตชานเมืองและจอดที่หน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ตลอดเวลาสองวันที่ผ่านมา พวกเธอได้แวะเยี่ยมเยียนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายแห่ง พวกเธอวางแผนที่จะไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าทุกที่ในเมือง A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการล่อเหยื่อให้ติดเบ็ด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น