วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 711

ตอนที่ 711 ทำร้ายมันจนกว่าจะแท้ง!

 

“ตอนนี้โลกภายนอกนั่นเต็มไปด้วยคำซุบซิบ เหล่าแฟนคลับพูดกันว่าโฆษณาของคุณถูกยกเลิกและกำลังสงสัยว่าคุณยังปลอดภัย ถูกคุมขังหรือกำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่หรือเปล่า” โม่ถิงพูดที่ข้างหูของถังหนิงเบาๆ พลางช่วยอาบน้ำให้เธอ “คุณควรจะหาโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนให้พวกแฟนคลับได้สบายใจกันนะ”


 


 


เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังหนิงก็ยิ้มออกมา “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไปปรากฏตัวครั้งสุดท้ายก่อนคลอด…”


 


 


ในความเป็นจริงแล้ว เจตนาที่แท้จริงของโม่ถิงคือให้ถังหนิงได้ตบหน้าซ่งซินสักฉาด เพราะถึงอย่างไร ซ่งซินก็คิดว่าถังหนิงจะหายไปจากวงการบันเทิงเพราะการข่มเหงของผู้อาวุโสซ่ง


 


 


ทว่าถังหนิงจะแสดงให้ซ่งซินเห็นว่าการข่มเหงเธอนั้นเป็นเพียงความไม่สะดวกสบายสำหรับวงการบันเทิงเท่า และโชคไม่ดีนักที่ผู้อาวุโสซ่งต้องพยายามให้มากกว่านี้


 


 


“ถ้าเป็นอย่างนั้น ถิงคะ คุณคิดว่าตอนไหนจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการไปปรากฏตัวเหรอคะ”


 


 


“น้ำหอมชื่อดังแบรนด์หนึ่งกำลังจะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมได้คุยกับแม่แล้วและเธอก็ยืนยันว่าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจของถังซื่อกรุป ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่คุณจะไปร่วมงานด้วยครับ” โม่ถิงพูดกับถังหนิงอย่างนุ่มนวลตลอดเวลาพลางก้มหัวลงให้ถังหนิงเช็ดหลังให้


 


 


ขณะที่ดวงตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังท้องของถังหนิง ความคิดที่จะได้เห็นลูกในเร็ววันนั้นก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น ความรู้สึกนี้ช่างเหลือเชื่อนัก


 


 


“ถิงคะ คุณเป็นผู้จัดการของฉันไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหลังจากที่เห็นฉันเจอเรื่องแบบนี้” ถังหนิงเอ่ยถาม


 


 


“ภาพยนตร์แค่กำลังถูกตรวจสอบเท่านั้นครับ มันไม่ได้โดนสั่งห้ามฉาย อีกอย่างผมก็ขอให้คุณอยู่บ้านมาโดยตลอดแต่คุณไม่เชื่อฟังผม ตอนนี้คุณมีเหตุผลให้ต้องทำตัวดีๆ แล้วล่ะ” โม่ถิงตอบด้วยความจริงจัง “ยังไงก็ตามแต่ คุณนายโม่ครับ คุณต้องมีอิทธิพลมากเสียจนหน่วยงานรัฐบาลต้องมากดขี่แน่ๆ …”


 


 


“ท่านประธานโม่คะ คุณมองว่าความทุกข์ของฉันเป็นเรื่องสนุกเหรอคะ” ถังหนิงหมุนตัวกลับมาคล้องแขนรอบคอของโม่ถิง


 


 


“คุณต้องรู้แล้วสิว่าผมมีความสุขกับการแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อไล่จับคู่แข่งของผม” โม่ถิงจ้องหน้าภรรยาเขาเป็นเชิงบอกให้เธอประพฤติตัวดีๆ แม้จะมีท้องที่ใหญ่ขนาดนี้ หญิงสาวกลับไม่รู้จักผ่อนคลายเอาเสียเลย


 


 


เธอคิดว่าโม่ถิงเป็นใครกัน เขาเคยปล่อยให้เป็นเป็นทุกข์ด้วยอย่างนั้นหรือ ชายคนนี้เป็นคนที่แสนจะเจ้าคิดเจ้าแค้น ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้จักถ่อมตนและจะหาทางให้ศัตรูต้องชดใช้ต่อหน้าเธอ ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ซึ่งก็คือวางแผนอย่างเงียบๆ และสร้างความเจ็บปวดอันเกินจะทานทน


 


 


“ตกลงค่ะ ฉันยอมแล้ว จากนี้ไปฉันจะไม่กังวลเรื่องอะไรอีก ฉันจะรอให้ลูกออกมาลืมตาดูโลกอย่างอดทนค่ะ” ถังหนิงยกมือของเธอขึ้นมาและยอมแพ้ “แบบนั้นดีพอไหมคะ คุณชายโม่”


 


 


โม่ถิงไม่พูดอะไร เขาเพียงแต่วางมือที่ปกคลุมไปด้วยฟองสบู่ลงบนแก้มทั้งสองข้างของถังหนิงแล้วดึงเธอเข้ามาจูบ ทั้งคู่จูบกันจนกระทั่งเจียนหมดลมหายใจก่อนชายหนุ่มจะแนบจมูกของเขาเข้ากับจมูกของหญิงสาวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนว่า “ถ้าคุณไม่รีบคลอดลูกในเร็วๆ นี้ ผมจะหักห้ามใจตัวเองไม่ไหวอีกแล้วนะครับ”


 


 


“ฉันก็ไม่เคยบอกให้คุณหักห้ามใจนี่คะ…”


 


 


“แต่คุณหมอพูดอย่างชัดเจนแล้วนะครับว่าตอนนี้พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้” โม่ถิงกอดถังหนิงเอาไว้อย่างแนบแน่นในขณะที่เขาพยายามกักเก็บความปรารถนาของตนไว้


 


 


“ถิงคะ…”


 


 


“ไม่ได้ครับ!”


 


 



 


 


คืนนั้นซ่งซินไปยังบ้านตระกูลต้วนพร้อมของขวัญมากมาย หญิงสาวรู้จักวิธีทำให้คุณพ่อและคุณแม่ต้วนมีความสุขดังเคย


 


 


จากนั้นเธอก็ไปพบต้วนจิ่งหงผู้กำลังจัดเก็บรูปภาพเก่าๆ อยู่ ในช่วงตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา เธอและซ่งซินได้ถ่ายภาพเอาไว้มากมาย


 


 


“จิ่งหง…”


 


 


“เธอมาที่นี่ทำไมน่ะ” ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง ต้วนจิ่งหงปิดสมุดอัลบั้มในมือของเธอแล้วเอามันซุกไว้ใต้หมอน


 


 


“ฉันเห็นแล้วล่ะ” ซ่งซินรู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไร หญิงสาวทั้งสองก็มีช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยกัน พวกเขาสนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องจริงๆ เสียอีก “กลับมานะ กลับมาทำงานให้ฉัน”


 


 


“ฉันคิดว่าเธอไม่เชื่อใจฉันเสียอีก” ต้วนจิ่งหงพูดเสียงกระซิก “เธอไม่กลัวว่าฉันจะทรยศเธอเหรอ”


 


 


“ฉันรู้สึกแบบนั้นเพราะฉันหวาดกลัวเกินไปน่ะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ตอนนี้ฉันตระหนักแล้วว่าเธอจะไม่มีทางทรยศฉัน ไม่อย่างนั้นเธอคงเปิดโปงฉันกับสาธารณชนไปแล้ว” ซ่งซินอธิบาย “อีกอย่าง ตอนนี้คุณปู่ของฉันกำราบถังหนิงไปแล้ว พวกเราไม่ควรทำร้ายมิตรภาพของเราเพราะคนแบบนั้นอีก กลับมาทำงานกับฉันเถอะนะ”


 


 


ต้วนจิ่งหงมองไปทางอื่นโดยไม่พูดอะไร


 


 


“พอขาของเธอหายดี เราก็กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แล้วแสร้งว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่นะ” ซ่งซินพูดกล่อมพลางพยายามอ่านสายตาของต้วนจิ่งหง


 


 


“ขาฉัน…” ต้วนจิ่งหงจับขาของเธอแล้วตอบว่า “ฉันไม่รู้ว่ามันจะหายดีเมื่อไหร่”


 


 


“ไม่เป็นไร ฉันจะรอเธอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ฉันก็จะรอ”


 


 


เมื่อได้ยินเช่นนี้ ต้วนจิ่งหงก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมความรู้สึกโหยหา “พวกเรากลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนได้จริงๆ เหรอ แล้วถ้าเธอทอดทิ้งฉันอีกล่ะ”


 


 


“ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นอีก”


 


 


ต้วนจิ่งหงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า “ตกลง ให้เวลาฉันได้ฟื้นตัวหน่อยนะ พูดกันตามตรงแล้ว ตอนที่เธอไม่อยู่ ถังหนิงก็พยายามมาข่มขู่ฉัน แต่ฉันบอกหล่อนไปว่าฉันกับเธอเป็นคนคนเดียวกัน ถ้าฉันเป็นพยานยืนยันความผิดของเธอ ก็เหมือนกับฉันเป็นพยานยืนยันความผิดของตัวเองด้วย ฉันรู้ดียิ่งกว่าใครว่าฉันเคยทำอะไรลงไปบ้างด้วยน้ำมือของตัวเอง ไม่ว่าฉันจะโง่แค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันทรยศเธอ”


 


 


หากซ่งซินยังคงไม่มั่นใจกับคำพูดของต้วนจิ่งหง ประโยคท้ายๆ นี้ก็มากพอที่จะกำจัดความสงสัยของเธอออกไปได้


 


 


ต้วนจิ่งหงคิดถูก โดยส่วนมากแล้วซ่งซินนั้นเพียงแค่ออกคำสั่ง แต่คนที่ลงมือทำนั้นจะเป็นต้วนจิ่งหงมาโดยตลอด หากต้วนจิ่งหงเป็นพยานยืนยันความผิดของซ่งซิน ก็เท่ากับเธอกำลังทำร้ายตัวเอง ด้วยความคิดนี้ ซ่งซินจึงวางใจต้วนจิ่งหงขึ้นมาก เพราะถึงอย่างไร หญิงสาวก็เชื่อว่าต้วนจิ่งหงนั้นจะพึ่งพาเธอเพื่อเอาตัวรอด


 


 


ขณะเดียวกัน โลกภายนอกนั้นก็กำลังซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องถังหนิงกันอย่างน่าขัน พวกเขาอ้างว่าเธอไปลบหลู่ข้าราชการชั้นสูงคนหนึ่งเข้าจนทำให้ถูกทั้งวงการบังเทิงแบน และตอนนี้หญิงสาวก็หายตัวไปเพราะเธอถูกคุมตัวไว้เพื่อการซักถาม ความเป็นไปได้หลายรูปแบบและหลายเวอร์ชั่นนั้นถูกยกขึ้นมาถกเถียงกัน


 


 


โฆษณาของเธอถูกยกเลิก ภาพยนตร์ของเธอกำลังถูกตรวจสอบและมิตรสหายของเธอก็อ้างว่าเธอโอหัง ดังนั้นสาธารณชนจึงแน่ใจว่าถังหนิงกำลังจะหายหน้าจากวงการบันเทิงตลอดไป


 


 


ซ่งซินคือคนที่น่าจะมีความสุขที่สุดกับผลลัพธ์นี้


 


 


“ฉันไม่ต้องมาเห็นหน้าตาที่น่ารำคาญของถังหนิงอีกแล้ว สะใจจริงๆ”


 


 


“คุณปู่ซ่งลงมือด้วยตัวเองเหรอ” ต้วนจิ่งหงเดา “ครั้งนี้ถังหนิงน่าจะเจ็บหนักอยู่นะ การโดนหน่วยงานรัฐบาลกดดันมันคนละเรื่องกันกับการถูกเอเจนซี่กดดันเลย เวลาเอเจนซี่จะกดดันใครสักคน กฎหมายหรือการเปลี่ยนบริษัทก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ แต่พอเป็นหน่วยงานรัฐบาลแล้ว ไม่มีใครฝ่าฝืนคำสั่งของพวกเขาได้หรอก”


 


 


“นี่ล่ะคือจุดที่คุณปู่ท่านสุดยอด” ซ่งซินหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ


 


 


“เธอวางแผนที่จะผลักถังหนิงไปถึงจุดไหนเหรอ”


 


 


“ฉันจะทำร้ายมันจนกว่ามันจะแท้ง!”


 


 


คำตอบของซ่งซินนั้นตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง


 


 


แต่แน่นอนล่ะว่ามันเป็นเพียงความปรารถนาอันเลื่อนลอยของซ่งซินเท่านั้น เธอคิดว่าถังหนิงเป็นใครกัน เธอดูเหมือนคนที่เมตตาคนอื่นอย่างนั้นหรือ


 


 


ซ่งซินกำลังจะได้ค้นพบในเร็วๆ นี้ว่าตัวเองคิดผิดแค่ไหน


 


 



 


 


ไม่กี่วันต่อมา งานเปิดตัวสินค้าของน้ำหอมยี่ห้อดังเจ้าหนึ่งก็ถูกจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งตามที่วางแผนไว้ แน่นอนว่าคนคนคนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนต้องกรี๊ดออกมานั้นจะไปปรากฏตัวที่งานนี้ด้วย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม