ตามใจรัก สาวนักแฮก 704-711

 ตอนที่ 704 รับกลับมา


 


 


“ซิงเหอ ตามฉันมาที่ห้องเขียนหนังสือได้ไหม” ผู้อาวุโสเฉินถามอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ว่าซิงเหอจะเป็นเพียงหลานสาวคนใหม่ที่เขาเพิ่งรับเข้ามา แต่เขาก็ปฏิบัติกับเธอเหมือนครอบครัวเดียวกัน แม้ว่าเขาจะรับถงเยียนกลับมาแล้ว ท่าทางที่เขามีต่อซิงเหอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด


 


 


ซิงเหอพยักหน้าและพาอาลิไปที่ห้องเขียนหนังสือกับเธอด้วย


 


 


ถงเยียนมองพวกเขาจากไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อบนใบหน้า ไม่แสดงวี่แววของความไม่พอใจออกมาให้เห็นเลยสักนิด อย่างไรก็ตามชั่วขณะที่พวกเขาเลี้ยวไปอีกมุมหนึ่งสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป


 


 


ชุยอิงตบหลังมือเธอเบาๆ และปลอบโยน “เสี่ยวเยียน อย่าใจร้อนเกินไป นี่เป็นสงครามที่ต้องใช้เวลา วันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว คุณตาเฉินยอมรับเธออีกครั้ง จำไว้นะว่าต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นความพยายามของพวกเราก็จะสูญเปล่า”


 


 


ถงเยียนหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตอบว่า “อย่าห่วงเลยอิงอิง ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง ฉันจะทำตามแผนของเธอเพราะว่ามันได้ผลจริงๆ! ฉันมาหาคุณตาตั้งหลายครั้งแต่ไม่มีสักครั้งที่เขาจะอยากเจอหน้าฉัน แต่ครั้งนี้ท่าทางที่เขามีต่อฉันอ่อนลงจริงๆ ฉันจะทำให้ยัยแพศยานั่นทนทุกข์ทนต่อไปและจะไม่ปล่อยให้ความพยายามของพวกเราสูญเปล่า”


 


 


ชุยอิงยิ้มอย่างพอใจ “ฉันก็บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าแผนของฉันจะต้องได้ผล ถ้าต้องสู้กับผู้หญิงเจ้าแผนการอย่างเซี่ยซิงเหอคนนี้ เธอก็ต้องอดทนให้มากกว่าหล่อน คนที่อยู่รอดถึงจะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นจากนี้ไปสิ่งเดียวที่เธอต้องทำก็คือการทำตัวเป็นเด็กดีต่อหน้าคุณตาเฉิน แล้วปล่อยที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของฉัน”


 


 


“อิงอิง เธอดีที่สุดเลย! ถ้าไม่มีเธอฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง…” ถงเยียนจับมือของชุยอิงด้วยความขอบคุณ หัวใจของเธอเต็มไปด้วยทะนงตัวเพราะว่าเธอคิดถูกจริงๆ ที่ไปขอให้ชุยอิงมาช่วยเธอ!


 


 


ชุยอิงจะช่วยเธอไล่เซี่ยซิงเหอออกไป วันที่เธอจะเตะซิงเหอออกไปจากประตูและทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเธอกำลังใกล้เข้ามา และมันก็ทำให้ความปีติยินดีผุดขึ้นมาในใจของเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความจริงที่ว่าซิงเหอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของผู้อาวุโสเฉิน…


 


 


ซิงเหอตามผู้อาวุโสเฉินเข้ามาในห้องเขียนหนังสือ เขาเริ่มถามเกี่ยวกับการเดินทางของเธอที่ประเทศ R ก่อนที่จะมาเข้าเรื่องของการสืบค้นข้อมูล


 


 


ซิงเหอตอบเบาๆ “ฉันเจอเบาะแสบางอย่างแล้วค่ะ และฉันจะเปิดเผยทุกอย่างให้ท่านรู้หลังจากที่ได้รับการยืนยันมากกว่านี้”


 


 


ผู้อาวุโสเฉินดีใจมาก “จริงเหรอ เบาะแสอะไร!”


 


 


ซิงเหอส่ายหน้า “ฉันไม่อยากให้ความหวังท่านโดยเปล่าประโยชน์ ได้โปรดเชื่อใจฉันในตอนนี้นะคะ”


 


 


“แน่นอน” ผู้อาวุโสเฉินโบกมือแล้วพูด “ตาเชื่อในความสามารถของหลาน แต่ถึงยังไงก็ต้องเตือนว่าความปลอดภัยของเธอสำคัญกว่าการสืบข้อมูล ถ้ามันเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไปก็อย่าเพิ่งรีบลงมือแต่ควรกลับมาปรึกษากับพวกเราก่อน”


 


 


“ได้ค่ะ” ซิงเหอพยักหน้าก่อนที่จะเหลือบตาขึ้นมามองเขา เธออดไม่ได้ที่จะถามออกมา “คุณตาวางแผนที่จะรับเฉินหรูกับถงเยียนกลับมาจริงๆ เหรอคะ”


 


 


ผู้อาวุโสเฉินไม่คิดว่าซิงเหอจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาเลยตกใจเมื่อได้ยินเธอถามแบบนี้


 


 


เขามองเธอแล้วถอนหายใจ “มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้ความสัมพันธ์กลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่สามารถทำเหมือนกับว่าพวกเธอไม่มีตัวตนได้ ความผูกพันที่มีร่วมกันมาหลายสิบปีมันไม่สามารถลืมได้ง่ายๆ แบบนั้น อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ยังปฏิบัติกับพวกเธอเหมือนครอบครัว แต่ถ้ามากไปกว่านั้น ฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะสามารถทำได้”


 


 


อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้นแต่เขาไม่สามารถทำได้ เพราะว่ามันไม่ยุติธรรมกับลูกสาวที่ต้องห่างเหินจากเขา และเขาจะไม่มีวันให้อภัยสิ่งที่ตระกูลหลินทำไว้กับพวกเขา


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 705 ฉันต้องการความร่วมมือจากท่าน


 


 


เขาวางแผนที่จะรับเฉินหรูมาเป็นลูกเลี้ยง นี่คือวิธีของเขาเพื่อปรับสมดุลทั้งสองข้าง เขาไม่ได้พูดแผนการของตัวเองออกมา แต่ซิงเหอเข้าใจมัน นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาจะสามารถทำได้เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เขาทำใจมองข้ามความทุกข์ทรมานของลูกสาวคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้


 


 


ซิงเหอพยักหน้าแล้วพูด “คุณตาคะ อันที่จริงฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงอีกคนเป็นใคร”


 


 


“เธอหมายถึงชุยอิงเหรอ” ผู้อาวุโสเฉินขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะเขาคิดว่าซิงเหอดูไม่เหมือนคนช่างสอดรู้สอดเห็น อันที่จริงเขาเชื่อว่าเธอมีนิสัยตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


 


 


อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสเฉินยังคงตอบตามความจริง “เธอมาจากตระกูลชุยของประเทศ R อันที่จริงพวกเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตของ ตระกูลเฉิน ประมาณสิบปีก่อน ฉันไปประเทศ R เพื่อทำธุระบางอย่างและแม่เลี้ยงของเธอก็ไปด้วย แต่โชคร้ายที่เธอโดนลักพาตัวไปและโดนขังอยู่ในห้องเย็นตอนที่โจรลักพาตัวพยายามเรียกร้องประโยชน์จากพวกเรา เธอเกือบจะตายอยู่ในนั้น เป็นคุณปู่ของชุยอิงที่ใช้อำนาจของเขาเพื่อช่วยเธอ ถ้าไม่ได้พวกเขาช่วยไว้ ฉันก็คงสูญเสียลูกสาวทั้งสองคนไปแล้ว ดังนั้นตระกูลเฉินของเราเลยติดหนี้ชีวิตพวกเขา โชคไม่ดีที่อุบัติเหตุในครั้งนั้นก่อให้เกิดอันตรายที่แก้ไขไม่ได้กับร่างกายของเฉินอวี๋ ทำให้เธอไม่สามารถมีลูกได้”


 


 


ซิงเหอเลิกคิ้วด้วยความสนใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่คำพูดของชุยอิงจะมีอิทธิพลต่อตระกูลเฉินมากขนาดนี้


 


 


“คุณชุยก็มาจากประเทศ R เหรอคะ” เธอรู้สึกทึ่งกับข้อมูลนี้


 


 


ผู้อาวุโสเฉินพยักหน้าและพูดอย่างแนบเนียน “ใช่แล้ว ตระกูลชุยเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจที่สุดในประเทศ R”


 


 


ซิงเหอเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อทันที ประธานาธิบดีของประเทศ R ก็บังเอิญมีแซ่ชุยเหมือนกัน…


 


 


ดูเหมือนว่าชุยอิงคนนี้จะไม่ได้มาเยือนประเทศจีนโดยไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตามนี่อาจเป็นโอกาสที่ซิงเหอกำลังมองหาอยู่ก็ได้ ตาของเธอเปล่งประกายหลักแหลมแล้วจู่ๆ เธอก็บอกกับผู้อาวุโสเฉิน “คุณตาคะ ฉันต้องการความร่วมมือจากท่านเพื่อทำเรื่องบางอย่าง”


 


 


ผู้อาวุโสเฉินตกตะลึง “ความร่วมมืองั้นเหรอ แบบไหนล่ะ”


 


 


ซิงเหอมองเขาและให้สัญญาอย่างหนักแน่น “ฉันสามารถช่วยท่านหาลูกสาวได้ แต่ฉันต้องการความร่วมมือจากท่านอย่างเต็มที่ ตอนนี้ฉันต้องการให้ท่านร่วมมือกับฉันแต่ฉันยังไม่สามารถบอกรายละเอียดของแผนการให้รู้ได้ ดังนั้นฉันเลยต้องการทั้งความเชื่อใจและความร่วมมือจากคุณตา”


 


 


“เธอสามารถหาลูกสาวของฉันได้จริงๆ เหรอ” ผู้อาวุโสเฉินถามด้วยความลังเล


 


 


“ใช่ค่ะ” คำตอบของซิงเหอสั้นกระชับแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ผู้อาวุโสเฉินเลือกที่จะเชื่อเธอราวกับกับเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว


 


 


“ได้เลย!” เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วถาม “เธอต้องการความร่วมมือแบบไหนล่ะ”


 


 


“ตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับเฉินหรูและถงเยียน” อยู่ดีๆ ซิงเหอก็ประกาศออกมา ทั้งผู้อาวุโสเฉินและอาลิเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซิงเหอกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่!


 


 


เธอต้องการให้ผู้อาวุโสเฉินตัดเฉินหรูกับถงเยียนออกไปจากชีวิตของเขา แต่ทำไมล่ะ มันเกี่ยวอะไรกับการค้นหากัน


 


 


ผู้อาวุโสเฉินก็สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน เขาถาม “นี่คือความร่วมมือที่เธอต้องการจากฉันเหรอ แต่มันเกี่ยวอะไรกับการค้นหาลูกสาวของฉันล่ะ”


 


 


“ความสัมพันธ์นั้นลึกซึ้งกว่าที่ท่านคิด แต่ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถพูดอะไรได้ อย่ากังวลเลยค่ะ แล้วฉันจะบอกทุกอย่างให้รู้ในเร็วๆ นี้ สำหรับตอนนี้ฉันแค่ต้องการความร่วมมือจากท่านอย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะนี่จะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ท่านสามารถรับพวกเธอกลับเข้ามาในตระกูลเมื่อไหร่ก็ได้ในอนาคต” ซิงเหอตอบเบาๆ ความคิดของเธอไม่สามารถอ่านได้เลย


 


 


อย่างไรก็ตามมันก็ดูไม่เหมือนกับการตั้งใจที่จะแย่งความรักของผู้อาวุโสเฉินมาจากถงเยียน มันฟังดูเหมือนกับว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการค้นหาจริงๆ แต่ยังไงและเพื่ออะไรล่ะ…


ตอนที่ 706 เธอหรือถงเยียน


 


 


ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสเฉินเพิ่งตัดสินใจที่จะรับถงเยียนกลับมาเมื่อกี้ ถ้าเขากลับคำพูดตอนนี้ มันก็จะดูโหดร้ายมากเลยไม่ใช่หรือ


 


 


ผู้อาวุโสเฉินเริ่มลังเล ซิงเหอเงียบ เธอรอคอยคำตอบของเขาอย่างอดทน เธอไม่ได้บังคับเขาเพราะการตัดสินใจในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับเขา ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจยังไง เธอก็จะเคารพมัน


 


 


อย่างไรก็ตามถ้าเขาเลือกที่จะเข้าข้างถงเยียน เธอก็คงต้องหาวิธีอื่นเพื่อตามหาแม่ของเธอ เธอจะไม่บอกความจริงกับตระกูลเฉินด้วยซ้ำเพราะว่ามันไม่จำเป็นอีกต่อไป ตระกูลหลินทำให้แม่ของเธอต้องทุกข์ทรมานขนาดนั้น เธอจะไม่ยกโทษให้พวกเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม


 


 


ถงเยียนก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลินไม่ว่าเธอจะพยายามปฏิเสธมันแค่ไหนก็ตาม เหมือนกับเสือสองตัวที่อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถอยู่ต่อ หากไม่ใช่ซิงเหอก็ต้องเป็นถงเยียน นี่อาจดูไม่ยุติธรรมกับคนที่เหลือในตระกูลเฉินซึ่งไม่รู้อะไรเลย แต่สำหรับซิงเหอแล้ว ถ้าผู้อาวุโสเฉินเลือกถงเยียน มันก็ไม่ต่างกับการที่เขาเลือกตระกูลหลินแทนที่จะเลือกโอกาสตามหาลูกสาวของเขาและแม่ของซิงเหอ


 


 


บรรยากาศในห้องเขียนหนังสือไม่ถ่ายเทอยู่สักพักจนในที่สุดผู้อาวุโสเฉินก็ตัดสินใจได้ “ถึงแม้ว่าฉันจะยังรู้สึกผูกพันกับสองแม่ลูกคู่นั้น แต่พวกเธอก็ได้รับความรักจากฉันมาหลายสิบปีแล้ว นั่นก็น่าจะมากพอแล้ว ลูกสาวแท้ๆ ของฉันยังอยู่ข้างนอกอยู่เลย ชะตากรรมของเธอจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่สามารถปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว ดังนั้นฉันขอเลือกที่จะร่วมมือกับเธอ” ผู้อาวุโสเฉินถอนหายใจ


 


 


ซิงเหอเหลือบตาสีดำสุกใสของเธอขึ้นมา “คุณตาแน่ใจนะคะ”


 


 


ผู้อาวุโสเฉินพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่ ฉันแน่ใจ! ฉันจะให้ความร่วมมือกับเธออย่างเต็มที่ ฉันจะตัดขาดความสัมพันธ์กับสองแม่ลูกคู่นั้น ฉันตระหนักแล้วว่าตัวเองคิดง่ายเกินไปว่าจะสามารถเก็บพวกเธอทั้งคู่ไว้ได้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้”


 


 


ถ้าเขาหาลูกสาวของเขาเจอ แน่นอนว่าเฉินหรูกับถงเยียนจะทำให้เธอพบกับความยากลำบาก ลูกสาวของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายสิบปีแล้ว เขาจะไม่ยอมให้เธอต้องมาทนกับปัญหาของครอบครัวอีก ถึงแม้ว่าจู่ๆ เฉินหรูกับถงเยียนจะกลับตัวเป็นคนใหม่ ลูกสาวของเขาก็จะรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ร่วมกับพวกเธออยู่ดี เพราะพวกเธอมาจากตระกูลที่ทำเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นกับเธอไว้ ดังนั้นทางเดียวที่จะดูแลลูกสาวของเขาให้ดีก็คือต้องตัดความสัมพันธ์กับเฉินหรูและถงเยียน ไม่อย่างนั้นคงมีแต่หายนะเท่านั้นที่รอคอยพวกเขาอยู่


 


 


หลังจากที่ยืนยันความคิดของเขาแล้ว แววตาของซิงเหอก็อ่อนลงหลายระดับ “ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เชื่อฉัน ฉันสัญญาว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด”


 


 


ซิงเหอพูดพร้อมกับยืนขึ้น “คุณตาคะ เร็วๆ นี้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่ ครั้งหน้าฉันจะอยู่ทานอาหารเย็นกับคุณตาแน่นอน” เธอรู้ว่าหากเธออยู่ต่อก็มีแต่จะทำให้เรื่องมันแย่ลงเท่านั้น


 


 


“ตกลง ถ้าเธอต้องการอะไรก็มาหาฉันได้นะ” ผู้อาวุโสเฉินไม่ได้บังคับให้เธออยู่ต่อเพราะเขามีบางอย่างที่ต้องไปทำ และนั่นก็คือการทำลายความหวังของถงเยียน


 


 


ซิงเหอพยักหน้าแล้วเดินนำอาลิออกไป เมื่อพวกเธอเดินผ่านห้องนั่งเล่น พวกเธอก็สบตากับถงเยียนและชุยอิง


 


 


ซิงเหอเหลือบมองพวกหล่อนเล็กน้อยและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ


 


 


ถงเยียนลุกขึ้นยืนเพื่อโอ้อวดทันที “เซี่ยซิงเหอ เธอจะไปแล้วเหรอ ทำไมถึงไม่อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันล่ะ คุณตาของฉันบอกให้แม่บ้านทำอาหารอร่อยๆ ไว้ให้เธอตั้งหลายจาน เธอมาทำให้ท่านผิดหวังแบบนี้ได้ยังไง”


 


 


“หล่อนจะอยู่ต่อทำไมล่ะ เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกเหรอ เธอเป็นตัวละครสำคัญนะเสี่ยวเยียน และหล่อนก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเล่นเป็นตัวประกอบ” ชุยอิงก็พูดเสริมอย่างเหยียดหยามเช่นกัน พวกเธอทั้งคู่คิดว่าซิงเหอจะจากไปเพราะไม่สามารถทนดูตัวเองถูกละเลยได้ ไม่ว่าอย่างไรเมื่อผู้อาวุโสเฉินรับถงเยียนกลับเข้ามาอยู่ในใจอีกครั้ง ซิงเหอซึ่งเป็นหลานสาวคนใหม่ก็ต้องโดนเตะออกไปให้พ้นทางเป็นธรรมดา


 


 


คนที่อวดดีอย่างเซี่ยซิงเหอจะไม่อยู่ต่อแน่ๆ นั่นคือสิ่งที่พวกเธอคิด


 


 


ถงเยียนไม่สามารถระงับรอยยิ้มพอใจที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอได้ สายตาที่เธอใช้มองซิงเหอเต็มไปด้วยความดูถูก


 


 


อาลิพูดเสียดสีเพราะไม่สามารถทนดูวิธีที่พวกเธอมองซิงเหอได้ “มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครเป็นตัวละครสำคัญ! ฉันขอแนะนำว่าพวกเธอสองคนอย่าอวดดีจนเกินไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นการตบหน้าที่กำลังจะมาถึงคงเจ็บปวดน่าดู!”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 707 ถงเยียนโดนตบหน้า


 


 


“ใครกันแน่ที่โดนตบหน้าจนไม่มีหน้าจะอยู่อีกต่อไป!” ถงเยียนโต้กลับอย่างอวดดี


 


 


จู่ๆ อาลิก็รู้สึกสงสารเด็กหญิงขึ้นมา ถงเยียนเทียบกับซิงเหอไม่ติดเลย หล่อนทำอะไรไม่เป็นสักอย่างนอกจากทำตัวอวดดีไปวันๆ อย่างไรก็ตามนั่นไม่สามารถช่วยหล่อนจากหายนะที่กำลังจะมาถึงได้เหรอก


 


 


อาลิหัวเราะออกมาเมื่อจินตนาการถึงถงเยียนที่กำลังจะโดนตบหน้า เธออยากจะอยู่ดูการแสดงนี้ต่อจริงๆ


 


 


“ไปกันเถอะ” อย่างไรก็ตามซิงเหอไม่สนใจอยู่ดูความอัปยศของหล่อนและรีบจากไป


 


 


ถงเยียนจงใจพูดต่อ “เซี่ยซิงเหอ หวังว่าเธอจะได้รับบทเรียนแล้วนะ ครั้งหน้าก็อย่าอยู่นานนักล่ะ! “


 


 


อาลิทำเสียงต่ำจากลำคอก่อนที่จะวิ่งตามซิงเหอไป เธอเองก็หมดความสนใจที่จะเถียงกับเด็กผู้หญิงไร้สมองคนนี้แล้วเหมือนกัน ถงเยียนคิดว่าพวกเธอวิ่งหนีไปเพราะความอับอาย หล่อนจึงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข


 


 


ในขณะนั้นเองผู้อาวุโสเฉินก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องเขียนหนังสือ ถงเยียนวิ่งไปคว้าแขนเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณตาขา ซิงเหอจากไปโดยไม่บอกลาสักคำ ดูสิคะว่าเธอไม่มีมารยาทขนาดไหน พวกเราอยากให้เธออยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันแต่เธอไม่ขอบคุณพวกเราด้วยซ้ำ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูกับอิงอิงจะทานข้าวเป็นเพื่อนคุณตาเอง ทำไมคุณตาถึงไม่ให้หนูค้างคืนที่นี่ล่ะคะ หนูไม่ได้นอนค้างที่บ้านมานานแล้ว”


 


 


ถงเยียนข้ามขั้นถึงขนาดเปลี่ยนมาเรียกตระกูลเฉินว่าเป็นบ้านของเธอแล้ว


 


 


อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสเฉินสะบัดแขนออกจากเธอแล้วพูดว่า “ฉันไม่ต้องการให้เธออยู่เป็นเพื่อนและอย่ามาที่นี่อีก ในอดีตฉันเป็นคุณตาของเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงอดีตเท่านั้น”


 


 


ถงเยียนตกใจ แม้กระทั่งชุยอิงก็แปลกใจ


 


 


“คุณตากำลังพูดเรื่องอะไรคะ…” ถงเยียนถามด้วยความไม่เชื่อ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยไม่ใช่เหรอ แถมเขายังตกลงที่จะรับพวกเธอกลับมา แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น


 


 


ผู้อาวุโสเฉินพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันบอกว่าอย่ามาที่นี่อีกในอนาคตเพราะฉันไม่ใช่คุณตาของเธออีกต่อไป นับจากนี้เป็นต้นไปเธอกับแม่ของเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอีกแล้ว ดังนั้นเลิกคิดที่จะกลับมาได้แล้ว!”


 


 


“ทำไม!” ถงเยียนเริ่มกรีดร้อง “ทำไมคุณตาถึงทำแบบนี้กับหนู หนูต้องการรู้ว่าทำไม!”


 


 



 


 


“ทำยังไงดี ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยพอจินตนาการถึงถงเยียนที่กำลังโดนตบหน้าอยู่ในตอนนี้” อาลิเริ่มหัวเราะดังลั่นทันทีที่เธอเข้ามาในรถ สิ่งเดียวที่เธอเสียใจก็คือเธอไม่สามารถอยู่ดูฉากนี้ด้วยตัวเอง


 


 


“ซิงเหอ ทำไมเธอถึงไม่บอกความจริงกับผู้อาวุโสเฉินล่ะ ถ้าทำแบบนั้นเราจะได้ตบหน้าถงเยียนด้วยตัวเองและแน่ใจว่าหล่อนจะไม่มีโอกาสกลับมาที่ตระกูลเฉินอีก” จู่ๆ อาลิก็ถามขึ้น


 


 


ซิงเหอตอบเบาๆ “เพราะฉันรู้ว่าตระกูลเฉินจะไม่สามารถตีตัวออกห่างจากถงเยียนและเฉินหรูได้ง่ายๆ”


 


 


“เธอหมายความว่ายังไง” อาลิงุงงง


 


 


ซิงเหอมองเธอและพูด “ฉันต้องการให้ตระกูลเฉินเห็นด้านที่น่าเกลียดของถงเยียนกับเฉินหรูด้วยตัวเอง”


 


 


“หา?”


 


 


“พวกหล่อนจะค้นพบว่าเป็นเพราะฉัน ตระกูลเฉินถึงทอดทิ้งพวกหล่อน ความเกลียดชังจะครอบงำหัวใจของผู้คนให้พวกเขาตัดสินใจทำเรื่องโง่ๆ และนั่นก็คือสิ่งที่ฉันต้องการจากแม่ลูกคู่นั้น”


 


 


อาลิเข้าใจแผนการของเธออย่างคร่าวๆ “หมายความว่าเธอต้องการให้พวกหล่อนมาแก้แค้นเธอเพื่อให้ผู้อาวุโสเฉินเห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกหล่อนด้วยตัวเอง”


 


 


“ถูกต้อง ตระกูลเฉินไม่สามารถเหลือที่ว่างไว้ให้เฉินหรู ลูกสาวของคุณตามีแค่คุณป้ากับคุณแม่ของฉันเท่านั้น!” ความโหดร้ายปรากฏขึ้นมาในดวงตาของซิงเหอ


 


 


อาลิตกตะลึง เธอพูดด้วยความไม่เชื่อ “ฉันคิดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในการค้นหาแม่ของเธอจริงๆ ซะอีก ฉันไม่รู้เลยว่าเธอเตรียมที่ไว้รอการกลับมาของแม่เธอแล้ว”


ตอนที่ 708 ฉันกำลังสร้างโอกาสให้ตัวเอง


 


 


“แต่ว่าซิงเหอ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มาตลอดเลย ฉันแปลกใจจริงๆ ที่เธอสู้เพื่อที่อยู่ของเธออย่างดุเดือดแบบนี้!”


 


 


ซิงเหอถาม “เธอคิดว่าฉันไม่ควรทำมันเหรอ”


 


 


“ไม่ใช่ อย่าเข้าใจผิดนะ! ฉันชอบมัน เธอควรจะสู้เพื่อสิ่งที่เป็นของตัวเอง! ซิงเหอ ฉันชอบด้านนี้ของเธอ ฉันคิดว่าเธอจะเมินถงเยียนคนนั้นซะอีก ใครจะไปรู้ว่าหล่อนเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือของเธอแล้ว ฉันประทับใจมากเลย! เธอถึงกับใช้เรื่องการค้นหาแม่มาต่อรองเพื่อทำให้แผนการนี้สำเร็จ มันอาจดูร้ายกาจไปหน่อย แต่ฉันชอบมัน!”


 


 


“เพื่อความยุติธรรม ฉันก็ไม่ได้โกหกคุณตาซะทีเดียว” ซิงเหออธิบาย อาลิงุนงง


 


 


“การที่ฉันขอให้คุณตาตัดขาดความสัมพันธ์กับถงเยียนและเฉินหรูมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้นหาคุณแม่ของฉันจริงๆ นี่เป็นการพนันเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวฉันเอง แต่เรื่องนี้จะคลี่คลายยังไงก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของพวกเขา” ซิงเหออธิบายอย่างใจเย็นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยขจัดความสับสนของอาลิมากนัก อย่างไรก็ตามเธอเข้าใจจุดสำคัญของแผนการ


 


 


ซิงเหอจงใจให้ผู้อาวุโสเฉินตัดขาดกับเฉินหรูและถงเยียนเพื่อให้พวกหล่อนโกรธและพุ่งเป้ามาที่ซิงเหอ สำหรับซิงเหอแล้วแผนนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มันไม่เพียงแค่ทำให้ผู้อาวุโสเฉินเห็นด้านที่น่าเกลียดของเฉินหรูและถงเยียนเท่านั้นแต่ยังสร้างโอกาสสำหรับซิงเหอในการค้นหาแม่ของเธออีกด้วย


 


 


แต่ยังไงล่ะ อาลิไม่สามารถหาคำตอบได้ไม่ว่าเธอจะพยายามใช้สมองคิดแค่ไหนก็ตาม ท้ายที่สุดเธอก็ยอมแพ้แล้วปล่อยให้ซิงเหอเป็นคนจัดการแผนทั้งหมด เธอคงมีเหตุผลของตัวเองที่ทำแบบนั้น หน้าที่ของอาลิในฐานะเพื่อนของเธอก็คือการช่วยสนับสนุนเธออย่างเต็มที่!


 


 


ในไม่ช้าแผนการของซิงเหอก็เริ่มเคลื่อนไหว ตอนที่พวกเธอมาถึงฮิลส์เรสซิเดนซ์ ถงเยียนก็โทรมา


 


 


เสียงร้องแสบแก้วหูของถงเยียนดังมาจากอีกฝั่งในขณะที่ซิงเหอกดรับสาย


 


 


“นังแพศยาเซี่ยซิงเหอ! เธอบอกอะไรกับคุณตา เขาถึงได้ทำกับพวกเราแบบนี้ ทำไมเธอต้องใส่ร้ายฉัน เธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”


 


 


เสียงของถงเยียนบนโทรศัพท์ดังมากจนแม้แต่อาลิก็สามารถได้ยินเธอ ซิงเหอยังคงสงบนิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนบ้าแบบนี้ เธอแค่ขยับมือถือออกไปให้ห่างจากหู อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ถงเยียนยังคงตะโกนและระบายอารมณ์ของเธอออกมาอย่างรุนแรง


 


 


ซิงเหอให้เธอเห่าต่อไปอีกสักพักก่อนที่จะพูดอย่างเย็นชา “ฉันก็คิดว่าเธอยังมีสมองเหลืออยู่บ้างแต่ดูเหมือนว่าเธอยังคงไร้สมองเหมือนเดิม”


 


 


ถงเยียนสะดุ้งเมื่อได้รับคำพูดสบประมาทอย่างกะทันหัน “เธอพูดว่าไงนะ!”


 


 


“จุดประสงค์ของฉันคืออะไร ง่ายจะตาย เพราะว่าฉันเกลียดเธอไง งั้นฉันขอถามเธอหน่อย เธอคิดว่าฉันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรล่ะ” ซิงเหอพูดด้วยรอยยิ้มเยาะก่อนที่เธอจะวางสาย


 


 


ถงเยียนรู้สึกว่าเส้นเลือดบนหน้าผากของเธอกำลังจะระเบิดออกมาเพราะความโกรธ


 


 


“เซี่ยซิงเหอ เธอกล้าดียังไง นังบ้า!” อนิจจาซิงเหอวางสายไปแล้วและไม่ได้ยินที่เธอตะโกนหรอก ถงเยียนซึ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขว้างโทรศัพท์ไปที่กำแพงแล้วพุ่งตัวเข้าไปร้องไห้อย่างปวดร้าวในอ้อมแขนของชุยอิง


 


 


“อิงอิง ฉันจะทำยังไงดี ยัยเซี่ยซิงเหอนั่นเกลียดฉัน หล่อนเลยจงใจทำให้คุณตาปฏิบัติกับพวกเราแบบนี้ ฉันเสียแรงไปตั้งเยอะเพื่อให้คุณตายอมรับพวกเราอีกครั้งแต่หล่อนมาทำลายทุกอย่าง! อิงอิง นังแพศยานั่นทำให้ทุกอย่างพังอีกแล้ว ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันจะทำยังไงดี…”


 


 


ชุยอิงรู้สึกโกรธแทนถงเยียน


 


 


“เซี่ยซิงเหอทำแบบนี้ได้ยังไง หล่อนชั่วร้ายจริงๆ แย่ยิ่งกว่างูพิษที่อันตรายที่สุดในโลกซะอีก! หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใครกันทั้งๆ ที่หล่อนเทียบไม่ได้ถึงหนึ่งในสิบของเล็บเท้าเธอด้วยซ้ำ! หล่อนทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ เพราะฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีอสรพิษที่ร้ายกาจแบบนี้อยู่ในโลกด้วย!”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 709 คู่หมั้น


 


 


“ใช่แล้ว หล่อนชั่วร้ายเกินไป หล่อนเป็นแค่คนนอก ดังนั้นหล่อนมีสิทธิ์อะไรที่จะมาบอกว่าไม่พอใจฉัน นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับตระกูลเฉิน หล่อนจะเข้ามายุ่งทำไม หล่อนก็เป็นเพียงนังแพศยาน่ารังเกียจ แค่เพราะว่าคุณป้ารับหล่อนไว้เป็นลูกเลี้ยง หล่อนก็คิดว่าตัวเองจะสามารถเรียกร้องสิทธิทุกอย่างในตระกูลเฉินได้!” ถงเยียนบ่นด้วยความโมโหและเสียใจ


 


 


ชุยอิงที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีเลิศไม่สามารถทนคนหน้าด้านแบบนี้ได้ ถงเยียนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นแน่นอนว่าเธอจะต้องยื่นมือเข้าช่วย


 


 


“ไม่ต้องกังวลนะเสี่ยวเยียน ฉันจะช่วยเธอแก้แค้นยัยนั่นเอง ฉันจะช่วยเธอเรียกคืนทุกอย่างกลับมาและทำให้หล่อนสูญเสียทุกอย่าง!” ชุยอิงสัญญาด้วยความมั่นใจ แล้ว ถงเยียนก็หยุดร้องไห้


 


 


“ขอบคุณนะอิงอิง เธอดีที่สุดเลย!”


 


 


ชุยอิงพูดอย่างพอใจ “แน่นอนอยู่แล้ว มีแค่ฉันที่ช่วยเธอได้ ดังนั้นถ้าฉันไม่ช่วยเธอแล้วใครจะมาช่วยกันล่ะ”


 


 


“อิงอิง เธอดีที่สุดเลย ดีที่สุดในโลก!” ถงเยียนเริ่มประจบ ‘เพื่อน’ ของเธออีกครั้ง ก่อนหน้านี้พวกเธอเป็นเพื่อนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ตอนนี้เมื่อสถานะทางสังคมของถงเยียนล่วงลงมา ชุยอิงเลยได้เพลิดเพลินกับการช่วยเหลือคนที่เคยเป็นเพื่อนของเธอ แน่นอนว่าถงเยียนเองก็รู้เรื่องนี้ เธอเล่นไปตามบทเพียงเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือจากชุยอิง อันที่จริงถงเยียนรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ เพราะเธอยังสามารถควบคุม ‘เพื่อน’ คนนี้ได้


 


 



 


 


หลังจากวางสายจากถงเยียน ซิงเหอก็เริ่มค้นหาข้อมูลของชุยอิง ชุยอิงมาจากประเทศ R และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีของประเทศ R ด้วย นอกจากนี้เธอยังเกี่ยวข้องกับถงเยียน ดังนั้นซิงเหอเลยอยากรู้ว่าเธอจะสามารถใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้เพื่อเริ่มโจมตีตระกูลเฮ่อหลานได้ไหม


 


 


ไม่ว่าอย่างไรเหตุผลที่ตระกูลเฮ่อหลานสามารถทำสิ่งต่างๆ มากมายในประเทศ R ก็เพราะว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการเมืองของประเทศ R อย่างมาก ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาก็น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดี แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้น ซิงเหอก็ตั้งใจที่จะใช้ชุยอิงเพื่อเข้าใกล้คนที่มีอำนาจที่สุดในประเทศ R


 


 


ยิ่งมีพันธมิตรมากก็จะเพิ่มโอกาสในการจัดการตระกูลเฮ่อหลาน สรุปก็คือซิงเหอจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสใดๆ หลุดรอดไป อันที่จริงเธอจะช่วยสร้างโอกาสให้ตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่เธอจงใจยั่วโมโหถงเยียนเพื่อรอดูว่าชุยอิงจะเข้ามาช่วยเด็กหญิงไหม ถ้าหล่อนเข้ามายุ่งซิงเหอก็จะมีโอกาสเข้าใกล้หล่อนมากขึ้น


 


 


ซิงเหอไม่รู้เลยว่าเธอคิดถูกแค่ไหน เมื่อเธอสืบค้นเรื่องของชุยอิงเธอก็ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มามากมาย


 


 


ชุยอิงไม่เพียงแค่มีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีของประเทศ R เท่านั้น แต่ประธานาธิบดียังเป็นลุงของเธอด้วย นอกจากนี้ในระบบทะเบียนราษฎร์ของประเทศ R ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่าชุยอิงเป็นผู้หญิงที่หมั้นหมายแล้วและคู่หมั้นของหล่อน… ก็คือเฮ่อหลานฉี!


 


 


แม้แต่ซิงเหอเองก็ตกตะลึงเมื่อเห็นข้อมูลนี้ จากนั้นเธอก็เริ่มหัวเราะให้กับความน่าขันของสถานการณ์ มันเหมือนกับว่าแผนการทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทาง ชุยอิงเป็นคู่หมั้นของเฮ่อหลานฉี เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อจริงๆ ว่ามีเรื่องบังเอิญแบบนี้อยู่


 


 


เธอแค่อยากจะรู้เกี่ยวกับเรื่องของประเทศ R มากขึ้นผ่านชุยอิงเท่านั้น แต่สุดท้ายเธอกลับได้ข้อมูลมามากว่าที่คิด ถ้าเธอพลาดโอกาสนี้เธอคงต้องเกลียดตัวเองแน่ ต้องขอบคุณที่สัญชาตญาณของเธอมักจะถูกต้องเสมอ และเธอก็เชื่อว่าในโลกนี้มีโอกาสมากมาย แต่คนเราต่างหากที่ยอมปล่อยให้โอกาสผ่านไป


 


 


โอกาสนี้เป็นของเธอและ ณ เวลานั้นความมั่นใจของซิงเหอที่จะโค่นล้มตระกูลเฮ่อหลานก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า!


ตอนที่ 710 ห้าวินาที…


 


 


ถ้าเธอไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสดีๆ แบบนี้ เธอก็ไม่คู่ควรที่จะทำอะไรมากไปกว่านี้ ดังนั้นถึงเวลาโจมตีแล้ว เมื่อคิดแผนการได้ซิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อโทรหามู่ไป๋


 


 


เธอรอไม่ไหวแล้วที่จะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ให้เขารู้และพูดคุยถึงรายละเอียดของแผนการด้วยกัน ก่อนหน้านี้ซิงเหอต้องเผชิญหน้ากับโลกด้วยตัวเอง เธอไม่ต้องการและไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่างน้อยเธอก็มีมู่ไป๋คอยช่วยเหลือ เขาเป็นคนที่รู้จักเธอมากที่สุดและสามารถร่วมมือกับเธอได้อย่างดี


 


 


เสียงโทรศัพท์ดังแค่สองครั้งก็มีคนรับ น้ำเสียงเบิกบานของมู่ไป๋ดังมาจากอีกฝั่ง “บังเอิญจังเลยเพราะผมก็กำลังจะโทรหาคุณอยู่พอดี”


 


 


ไม่รู้ทำไมซิงเหอถึงรู้สึกเบิกบานเมื่อได้ยินแบบนั้น บางทีคนฉลาดมักจะมีความคิดตรงกัน…


 


 


“คุณกำลังทำอะไรอยู่” ซิงเหอถามด้วยรอยยิ้ม


 


 


“ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก ผมกำลังจะไปหาคนสำคัญ” มู่ไป๋ตอบด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “แล้วคุณล่ะกำลังทำอะไรอยู่”


 


 


“ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหมือนกัน แต่ฉันเพิ่งเจอข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์ ใครคือคนสำคัญที่คุณจะไปพบล่ะ ฉันรบกวนคุณหรือเปล่า ถ้าคุณยุ่งมากเดี๋ยวฉันโทรกลับไปทีหลังก็ได้”


 


 


“ผมก็ค่อนข้างยุ่งอยู่เหมือนกัน แต่ผมมีเวลาให้คุณเสมอ ดังนั้นบอกทุกเรื่องที่คุณอยากจะบอกมาได้เลย เวลาของผมเป็นของคุณ” มู่ไป๋พูดง่ายๆ


 


 


ซิงเหอไม่ต้องการที่จะรบกวนเวลาของเขา “พวกเราคุยเรื่องนี้กันทีหลังได้ค่ะ ไปทำงานของคุณให้เสร็จก่อนดีกว่า”


 


 


เธอรู้ว่าเขามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากมายเกินกว่าจะมาเอาใจเธออย่างเดียว ดังนั้นเธอเลยไม่ต้องการให้เขาใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเธอ เธอไม่ใช่คนรักที่ชอบครอบครอง สำหรับเธอแล้วความสัมพันธ์เป็นการให้และรับทั้งสองฝ่าย มีแค่การเคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกันเท่านั้น ความสัมพันธ์ถึงจะเท่าเทียมและมีพื้นที่ให้พัฒนาต่อไป มู่ไป๋ก็ปฏิบัติต่อซิงเหอแบบนี้เช่นกัน เขาไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานของเธอนอกเสียจากว่าเธอจะเป็นคนขอและเมื่อสถานการณ์มันจำเป็นจริงๆ


 


 


มู่ไป๋หัวเราะเบาๆ “แต่ว่าคนที่ผมจะไปหาเกี่ยวข้องกับคุณนะ คุณอยู่บ้านหรือเปล่า ลองเปิดหน้าต่างดูสิ บางทีอาจมีเรื่องให้ประหลาดใจก็ได้”


 


 


ซิงเหอตกใจและค่อยๆ เดินไปทางหน้าต่างอย่างคาดหวังแต่ระมัดระวัง เธอเลิกผ้าม่านขึ้นและเห็นมู่ไป๋ยืนอยู่ข้างล่างตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน พวกเธอสบตากันแล้วมู่ไป๋ก็ยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือให้เธอ


 


 


ซิงเหอถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”


 


 


“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมจะมาพบคนสำคัญ ขอเวลาผมห้าวินาที…” มู่ไป๋พูดขณะที่เขารีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านหลังใหญ่ ทันใดนั้นซิงเหอก็รู้สึกได้ถึงเลือดลมที่พุ่งพล่าน เธอเดินไปเปิดประตูตอนที่มันถูกผลักมาจากข้างนอก รูปร่างที่น่าประทับใจของมู่ไป๋อยู่ตรงประตูและดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเขาก็จ้องเข้ามาในดวงตาของเธอ อย่างไรก็ตามวิธีที่เขามองเธอมีอันตรายแฝงอยู่ เหมือนกับนักล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อของเขา


 


 


สมองของซิงเหอส่งเสียงเตือนตอนที่เขาโน้มเข้ามาแล้วคว้าตัวเธอเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น!


 


 


มือของเขานวดคลึงหลังคอของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับออกไป และในเวลาต่อมาเธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาในปากของเธอ เธอซึมซาบตัวตนสมชายชาตรีของเขา


 


 


มู่ไป๋จูบเธออย่างลึกซึ้ง เธอตกใจกับจูบกะทันหันนี้และจับเสื้อของเขาไว้ แต่เธอก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงและสมองของเธอก็ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกเหมือนกระจกรถในช่วงหน้าหนาว…


 


 


มู่ไป๋จูบเธออย่างเต็มที่และซิงเหอก็สูญเสียความสามารถในการคิด เธอยอมเขาทุกอย่าง


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 711 กลืนกินเธอ


 


 


ในเวลาต่อมาเธอถึงกับตอบสนองเขาด้วยการโอบแขนไปรอบคอของเขา จูบของมู่ไป๋ลึกซึ้งกว่าเดิมหลังจากที่เธอตอบสนอง…


 


 


นี่คงเป็นความรู้สึกที่เขาเรียกกันว่าโลกหมุน เมื่อถูกโอบล้อมโดยผู้ชายของเธอ ซิงเหอก็รู้สึกว่าเธอยอมจำนนต่อเขา หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะยาวนานตลอดไป ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมปล่อยเธออย่างไม่เต็มใจ ซิงเหอยังคงหายใจหอบอยู่


 


 


พวกเขามองหน้ากันและกัน สื่อสารความรักและความปรารถนาให้อีกฝ่ายรับรู้ อันที่จริงดวงตาของมู่ไป๋ดูน่ากลัวมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะกลืนกินเธอ


 


 


อย่างไรก็ตามเขาอดกลั้นมันไว้!


 


 


มันยังไม่ถึงเวลา เขายังไม่ได้ขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการเลย ดังนั้นเขาจะรอไปก่อน อย่างไรก็ตามเขาอดไม่ได้ที่จะกัดใบหูส่วนล่างของเธอและกระซิบอย่างชั่วร้าย “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกที่เราจะมีร่วมกันในคืนแต่งงาน”


 


 


มันทำให้ซิงเหอตัวสั่นและผลักเขาออกไปเบาๆ ด้วยท่าทางประหม่า เธอไม่กล้ามองสบตากับเขาขณะที่เธอพูด “ทำไมคุณถึงมาอย่างกะทันหันโดยไม่บอกฉันก่อนล่ะ”


 


 


มู่ไป๋เห็นเธอหน้าแดงและรู้ว่าเธอกำลังเขินอยู่ เขาจับเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากทำให้คุณประหลาดใจ คุณไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอผม”


 


 


ซิงเหอมองเขาแต่ไม่ได้ตอบคำอะไร คำพูดหวานๆ ไม่สามารถหลุดออกมาจากปากของเธอได้อย่างง่ายดายเหมือนมู่ไป๋ ปกติแล้วเธอยังสามารถพูดอะไรผ่านทางโทรศัพท์ได้บ้างแต่เธอไม่สามารถทำได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา


 


 


มู่ไป๋ไม่ได้บังคับเธอและพูดต่อด้วยเสียงคำรามต่ำ “ผมมีความสุขเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนการกลับมาเจอกันหลังจากต้องอยู่ห่างกันมาหลายปี”


 


 


เขาอทบจะรอไม่ไหวที่จะมาหาเธอเมื่อเขารู้ว่าเธอมาถึงแล้ว พวกเขาจากกันเพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่สำหรับเขาแล้วมันรู้สึกเหมือนเจ็ดปีแทนที่จะเป็นเจ็ดวัน อันที่จริงซิงเหอก็คิดถึงเขาเช่นกัน…


 


 


“คุณมาได้ตรงเวลาพอดีเลย ฉันอยากจะปรึกษาเรื่องบางอย่างกับคุณ” ซิงเหอพูดอย่างเป็นทางการ “ฉันบังเอิญไปค้นพบความลับบางอย่างเข้า”


 


 


“อะไรเหรอ” มู่ไป๋ก็เข้าสู่โหมดจริงจังและเตรียมตัวรับฟัง


 


 


ซิงเหอจ้องมองเขาและพูด “ถงเยียนมีเพื่อนสนิทชื่อชุยอิง เธอเป็นหลานสาวของประธานาธิบดีของประเทศ R ตระกูลชุยเคยช่วยชีวิตท่านผู้หญิงไว้ครั้งหนึ่ง ดังนั้นตระกูลเฉินเลยเป็นหนี้พวกเขาครั้งใหญ่ ตอนนี้ถงเยียนพาชุยอิงมาเพื่อช่วยให้เธอกลับเข้าไปในตระกูลเฉิน แต่ฉันทำลายแผนของการของพวกเธอ…”


 


 


“พวกเธอสมควรได้รับมันแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะปกป้องคุณเองไม่ว่าเบื้องหลังของผู้หญิงคนนั้นจะมีอำนาจมากแค่ไหน” มู่ไป๋คิดว่าเธอกลัวผลของการกระทำ


 


 


ซิงเหออดหัวเราะออกมาไม่ได้ “คุณคิดว่าฉันกังวลหรอ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องการจะบอกคุณ ฉันจะบอกคุณว่าชุยอิงเป็นคู่หมั้นของเฮ่อหลานฉี”


 


 


มู่ไป๋ตกตะลึง “คุณรู้ได้ยังไง”


 


 


“ฉันแฮกเข้าไปในระบบทะเบียนราษฎร์ของประเทศ R” ซิงเหอตอบง่ายๆ แต่มันทำให้มู่ไป๋ตกใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ใครสักคนจะแฮกเข้าไปในฐานข้อมูลของประเทศ แล้วทำไมมันถึงฟังดูง่ายดายนักสำหรับซิงเหอ


 


 


นี่คือหลักฐานว่าเธอมีความสามารถ สิ่งเดียวที่ทำให้เธออยู่เหนือคนอื่น


 


 


“แต่ประชาชนไม่รู้เรื่องนี้” มู่ไป๋ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขาทำเหมือนมันเป็นความลับของตระกูล จนฉันสงสัยว่าน่าจะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับการหมั้นหมายของพวกเขา”


 


 


“ต้องมีการแลกเปลี่ยนอย่างลับๆ ระหว่างตระกูลเฮ่อหลานกับตระกูลชุยแน่” มู่ไป๋เสนอความคิด


 


 


“ฉันก็ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีอำนาจขนาดนี้ ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับพวกเขา”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม