ตามใจรัก สาวนักแฮก 696-703
ตอนที่ 696 โอกาส
ซิงเหอมองเขาและแนะนำอย่างใจดี “อันที่จริงคุณก็เก่งมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก”
“แต่ผมยังเก่งน้อยกว่าคุณ อย่าห่วงเลย ผมไม่ถือหรอกหากต้องเรียกคุณว่าอาจารย์ถ้ามันช่วยให้ผมมีความสามารถมากขึ้น” อีเฉินพูดอย่างเปิดเผยโดยไม่มีปัญหาหรือข้ออ้างใดๆ เขาเป็นคนใจกว้าง เขาไม่รังเกียจที่จะเรียนรู้จากเพื่อนถ้ามันสามารถทำให้เขาเก่งขึ้นได้ ไม่เหมือนกับตัวละครหลายตัวในนิยายเรื่องนี้ เขาไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรือรำคาญซิงเหอแค่เพราะว่าเธอเก่งกว่าเขา
ซิงเหอพยักหน้า “โอเค ไว้พวกเราคุยเรื่องนี้กันทีหลัง”
นั่นเป็นเหมือนกับคำสัญญาสำหรับอีเฉิน ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นด้วยความยินดีและสัญญาว่าเขาจะปฏิบัติต่อเธอให้เหมือนกับที่เขาปฏิบัติต่ออาจารย์ที่เคารพ กลุ่มของอาลิรู้สึกอิจฉาอย่างแปลกประหลาดเมื่อเห็นซิงเหอรับอีเฉินเป็นลูกศิษย์ เพราะพวกเขาก็อยากจะเป็นลูกศิษย์ของเธอเหมือนกันนี่!
อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ดีว่าทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะเป็นลูกศิษย์ของเธอจริงๆ ต้องขอบคุณที่พวกเขาเป็นเพื่อนรักและสหายของเธอ ความจริงข้อนั้นช่วยบรรเทาความอิจฉาของพวกเขาลงเล็กน้อย
ซิงเหอไม่ได้ตระหนักถึงการต่อสู้เล็กๆ อันน่าขบขันที่มีเธอเป็นต้นเหตุเลย ดังนั้นเธอจึงกลับไปจดจ่ออยู่กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิล ถ้าเป็นสถานที่ที่อยู่กลางแจ้งเธอก็สามารถเห็นการกระทำของพวกเขาได้ แต่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอาคาร กระนั้นแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับสิ่งที่พวกเธอต้องการ
เวลาผ่านไปช้าๆ และไม่นานก็ถึงตอนกลางคืน ทุกคนในกลุ่มของซิงเหอจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวในบ้านเด็กกำพร้า และในไม่ช้าพวกเธอก็ค้นพบว่าคนพวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
ในขณะที่บ้านเด็กกำพร้าตกอยู่ในความเงียบสงบของยามค่ำคืน ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนของเธอก็ออกมาจากอาคารหลังหนึ่งและตรงไปที่รถบรรทุก จากนั้นผู้ชายสองคนที่ช่วยกันถือลังไม้ก็มาขวางเธอไว้
พวกเขาวางเด็กลงในลังไม้แล้วปิดผนึกลังไม้ ต่อมาลังไม้ก็ถูกโยนไปข้างหลังรถบรรทุก หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็สตาร์ตเครื่องยนต์แล้วขับออกไป ซิงเหอบันทึกการกระทำของพวกเขาไว้ทั้งหมด
อีเฉินกระซิบ “ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงกันดี”
“ไปดักจี้รถคันนั้นกันเถอะ!” แซมเสนอด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง พวกเขาโกรธมากเมื่อได้มาเห็นเรื่องนี้กับตาตัวเอง ตอนนี้พวกเขาเชื่อว่าต้องมีเด็กกำพร้าหลายคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุในบ้านเด็กกำพร้าหลังนั้นแน่ๆ
พวกเขาไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เด็กพวกนี้ต้องพบเจอก่อนที่จะตายได้เลย แต่มันต้องเป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายแน่ หากเป็นไปได้พวกเขาต้องการที่จะรื้อถอนบ้านเด็กกำพร้าที่น่ารังเกียจหลังนี้ทิ้งและทำลายตระกูลเฮ่อหลานทั้งหมด!
ซิงเหอยังคงใจเย็นและปฏิเสธพวกเขา “ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรอก พวกเราควรเรียกตำรวจ”
“ใช่แล้ว พวกเราควรรายงานพวกเขากับตำรวจ!” อาลิเห็นด้วย
แต่ว่าอีเฉินไม่แน่ใจ “ตระกูลเฮ่อหลานมีอำนาจเกินไป ผมไม่คิดว่าข้อบังคับใช้ตามกฎหมายจะสามารถทำอันตรายใดๆ ต่อพวกเขาได้”
“งั้นเราจะไปดักจี้รถของพวกเขาเพื่ออะไร” ซิงเหอถาม
ทุกคนเงียบ จริงด้วย ถ้าข้อบังคับใช้ตามกฎหมายไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ แล้วจะไปหยุดรถบรรทุกของพวกเขาเพื่ออะไร
พวกเธอไม่สามารถทำอันตรายตระกูลเฮ่อหลานได้ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกเธอสามารถทำได้ก็คือการรายงานคนพวกนั้นกับตำรวจ อย่างน้อยก็สามารถสร้างปัญหาเล็กๆ ให้พวกเขาได้
นี่คือจุดประสงค์ของซิงเหอ เพื่อหาโอกาสให้พวกเธอสามารถจัดการกับตระกูลเฮ่อหลาน
ดังนั้นซิงเหอจึงส่งวิดีโอไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันที ไม่ใช่แค่นั้น เธอยังโพสต์วิดีโอลงในโลกออนไลน์อีกด้วย และไม่นานวิดีโอของเธอก็กลายเป็นกระแสที่ได้รับการพูดถึงอย่างล้นหลาม!
ตอนที่ 697 ความวุ่นวายในตระกูลเฮ่อหลาน
ภายในชั่วข้ามคืน การก่ออาชญากรรมที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลก็ถูกเปิดเผยให้ทั้งโลกรู้ เมื่อประชาชนเห็นเด็กถูกปิดผนึกอยู่ในลังไม้แล้วถูกโยนเข้าไปในรถบรรทุก พวกเขาก็โกรธอย่างเห็นได้ชัด
ตำรวจและนักข่าวกลุ่มใหญ่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กลุ่มเพื่อการกุศลก็เข้าร่วมในการสกัดกั้นรถบรรทุกคันนั้นเช่นกัน พวกเขาต้องการจะช่วยเด็กออกมา แน่นอนว่าตระกูลเฮ่อหลานเองก็ได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว พวกเขาตกใจและไม่รู้เลยว่าทำไมความลับของพวกเขาถึงรั่วไหลออกไปได้ เฮ่อหลานฉีโทรหาคนของเขาให้จัดการเรื่องนี้ทันที
ตอนที่คนขับรถบรรทุกรู้ว่าเขาถูกเปิดโปงแล้ว ความกลัวก็เข้าครอบงำเขา เขาพยายามหันรถกลับและวิ่งหนีไป แต่ตำรวจได้ตามติดการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะพยายามวิ่งหนีไปทางไหน ตำรวจก็จะแห่ตามมาประกบตัวเขา บวกกับสิ่งกีดขวางบนท้องถนนคนขับรถบรรทุกก็เหมือนกับแมลงวันที่ถูกจับ
แม้กระทั่งอิทธิพลของเฮ่อหลานชางก็ไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องนี้ได้อีกต่อไป ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเขา ทุกคนรู้เกี่ยวกับปัญหาของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลหลังจากที่วิดีโอถูกปล่อยออกมา ตำรวจไม่กล้าปกป้องตระกูลเฮ่อหลานอย่างเปิดเผยอีกแล้ว เพราะว่าทั้งประเทศกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด!
เว้นแต่ว่าพวกเขาจะอยากตาย ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเฮ่อหลานเลยทำได้แค่ยืนดูอยู่เฉยๆ ขณะที่รถถูกล้อมไว้ ผู้โดยสารทุกคนถูกจับ และพบเด็กที่ท้ายรถบรรทุก การที่เด็กถูกปิดผนึกไว้ในลังไม้ดูน่าสงสัยเกินไป ดังนั้นไม่ว่าตระกูลเฮ่อหลานจะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างก็ไม่มีประโยชน์
เช่นเดียวกับตระกูลสีในประเทศจีน ยิ่งคุณยืนสูงเท่าไหร่ จำนวนคนที่ต้องการให้คุณตกลงมาก็มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีเรื่องที่สามารถทำให้จุดยืนของตระกูลเฮ่อหลานสั่นคลอนเกิดขึ้น ศัตรูหลายคนซึ่งซ่อนตัวอยู่จึงเผยโฉมออกมา!
ภายในคืนเดียว ข่าวเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานก็โผล่ขึ้นมาราวกับดอกเห็ดหลังฤดูฝน สื่อมวลชนหลายช่องกำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับพวกเขา บนโลกอินเตอร์เน็ตก็มีการถกเถียงเรื่องของตระกูลลึกลับนี้อย่างเมามัน
สิ่งลึกลับที่คอยปกปิดตระกูลเฮ่อหลานมาหลายทศวรรษถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง พวกเขาถูกเปิดโปงต่อหน้าคนทั้งโลก หลายคนรู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลเฮ่อหลานก็เพราะเรื่องนี้
พวกเขากลายเป็นเป้าสายตาของสาธารณชน และนับจากนี้ทุกการกระทำของพวกเขาก็จะอยู่ภายใต้การจับตามองของสาธารณชน พวกเขาไม่สามารถทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจอีกแล้ว และพวกเขาจะต้องระมัดระวังมากขึ้นเพื่อไม่ให้จุดอ่อนของพวกเขาถูกเปิดโปง ไม่อย่างนั้นมันคงเป็นจุดจบสำหรับพวกเขา
ความวุ่นวายพัดผ่านเข้ามาในตระกูลเฮ่อหลานราวกับพายุทอร์นาโด และนี่ก็คือสิ่งที่ซิงเหอต้องการ
เมื่อได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นอีเฉินก็ดีใจเป็นอย่างมาก “คุณเซี่ย ความคิดของคุณเยี่ยมไปเลย ดูซิว่าเฮ่อหลานชางจะจัดการกับหายนะในครั้งนี้ยังไง!”
“ตำรวจน่าจะจับพวกมันเข้าคุกให้หมด พวกมันไม่คู่ควรที่จะอยู่ร่วมกับประชาชนที่เป็นคนดี!” อาลิพูดอย่างไม่พอใจผ่านการกัดฟัน
“ซิงเหอ เราหาวิธีทำลายพวกมันกันเถอะ!” แซมและพวกผู้ชายก็โกรธพอๆ กัน นั่นก็เพราะพวกเขาตระหนักว่าเด็กผู้หญิงเมื่อคืนนี้ยังไม่ตาย พูดง่ายๆ ก็คือตระกูลเฮ่อหลานวางแผนที่จะเผาเด็กหญิงตัวน้อยที่ยังมีชีวิตอยู่!
แม้เด็กหญิงจะเป็นอัมพาตแต่เธอยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาวางแผนที่จะเผาเด็กหญิงทั้งๆ ที่เธอยังมีชีวิต แบบนี้จะไม่ให้คนที่มีหัวใจโกรธได้ยังไง
เมื่อพวกเขาเห็นข่าวในตอนเช้า กลุ่มของซิงเหอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าเด็กที่อยู่ในลังไม้ตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงเธอยังมีชีวิตอยู่
ตอนที่ 698 ออกจากประเทศ R
ความจริงที่ว่าพวกเขาเลือดเย็นถึงขนาดสามารถเผาเด็กหญิงตัวน้อยทั้งเป็นทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นเยียบไปถึงกระดูกสันหลัง ถ้าไม่ใช่เพราะการแจ้งข้อมูลนิรนาม เด็กหญิงคงจะต้องพบกับจุดจบที่เจ็บปวดทรมานเกินคำบรรยาย พอนึกถึงเรื่องนี้ก็ทำให้กลุ่มของอาลิปรารถนาที่จะหักคอทุกคนในตระกูลเฮ่อหลาน!
ซิงเหอก็โกรธเหมือนกับพวกเขา แต่เธอเข้าใจว่าพวกเธอจำเป็นต้องใจเย็นเข้าไว้
“ตอนนี้ยังไม่มีวิธีที่สามารถทำลายพวกเขาได้” ซิงเหอตอบอย่างเยือกเย็น “เรื่องนี้อาจนำปัญหาบางอย่างมาให้พวกเขา แต่พวกเขาก็มีวิธีมากมายในการจัดการกับมัน แค่นี้ยังไม่พอที่จะทำลายพวกเขา”
“ถ้างั้นพวกเราทำอะไรได้บ้าง ปล่อยให้พวกเขาทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ต่อไปเหรอ ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะฆ่าเด็กๆ ที่ไร้เดียงสาอีกกี่คน อันที่จริงบางทีศพเด็กที่พวกเขาเคยเอาไปเผาอาจไม่ใช่ศพแต่เป็นเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้!” อาลิพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง มันจุดประกายความเกลียดชังขึ้นในใจของทุกคน
แสงดุเดือดปรากฏอยู่ในดวงตาของซิงเหอ “แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องโดนลงโทษ อย่าห่วงเลย ฉันจะต้องให้พวกเขาชดใช้เรื่องนี้! แต่ตอนนี้พวกเราต้องรอไปก่อน”
“รออะไรครับ” อีเฉินอยากรู้
ซิงเหอตอบเบาๆ “รอโอกาส”
“โอกาสที่ดีกว่าครั้งนี้งั้นเหรอ” กลุ่มของอาลิงุนงง พวกเขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ
ซิงเหอพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเราต้องรอดูว่าพวกเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง นี่จะเป็นโอกาสให้พวกเราประเมินว่าอิทธิพลของตระกูลเฮ่อหลานมีมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันพวกเราก็จะตรวจสอบจำนวนของคนที่ต้องการกำจัดพวกเขา ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยโจมตี”
“แล้วถ้าไม่มีโอกาสแบบนั้นล่ะ” อีเฉินกังวล
ซิงเหอแสยะยิ้ม “โอกาสมีอยู่ทุกที่ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเราจะสามารถหามันพบและคว้ามันมาได้ไหม เมื่อมีโอกาสโผล่มาพวกเราจะโจมตีให้หนัก แล้ววิธีที่จะทำลายพวกเขาก็จะปรากฏออกมาให้เห็นเอง”
“ซิงเหอ พวกเราเชื่อในตัวคุณ!” แคร์นพูดอย่างมั่นใจ คนอื่นเองก็ฝากความหวังไว้กับเธอเช่นกัน เพราะว่าเธอคือเซี่ยซิงเหอ
เธอจะไม่ปล่อยให้โอกาสใดๆ หลุดรอดไปได้ และจะโจมตีพวกเขาให้ถึงตายเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เธอประสบความสำเร็จมาหลายรอบแล้วและพวกเขาเชื่อว่าครั้งนี้ก็จะไม่ต่างกัน พวกเขาเชื่อในความสามารถและพรสวรรค์ของเธอ
…
ตระกูลเฮ่อหลานตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พวกเขาเผชิญกับปัญหามากมายจนไม่มีเวลามาสนใจซิงเหออีกแล้ว เฮ่อหลานฉีไม่สามารถมากวนใจซิงเหออีกต่อไป เนื่องจากเขาต้องหาทางช่วยตัวเองให้ได้ก่อน
ซิงเหอใช้โอกาสนี้เดินทางออกจากประเทศ R เธอใช้เวลาประมาณสิบวันอยู่ในประเทศ R แต่เธอได้ผ่านเรื่องราวมากมายและค้นพบอะไรหลายอย่าง เธอยังประหลาดใจอยู่เลยที่แม่ของเธอคือคุณหนูคนที่สองของตระกูลเฉิน นอกจากนี้เธอยังสามารถยืนยันเรื่องที่เธอสงสัยเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานแล้วด้วย
เธอจะทำลายตระกูลนี้เพื่อเหตุผลส่วนตัวและมนุษย์ชาติ การเปิดโปงบ้านเด็กกำพร้าเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น ครั้งต่อไปที่เธอจะกลับมาเยือนประเทศนี้ เธอจะเตรียมตัวมาให้พร้อมเพื่อทำลายพวกเขา!
เธอจะปล่อยให้พวกเขาเดือดร้อนกับปัญหานี้ไปสักพัก เพราะนี่จะเป็นเวลาที่เธอสามารถรวบรวมข้อมูลที่เธอต้องการให้มากที่สุด!
ตอนที่ 699 รีบกลับไปหาตระกูลเฉิน
มีแค่การสืบหาข้อมูลให้มากพอเท่านั้น ซิงเหอถึงจะสามารถคิดแผนการเพื่อทำลายพวกเขาได้!
แน่นอนว่าถึงแม้เธอจะกลับมาที่ประเทศจีนแล้ว เธอก็ยังสามารถคิดหาวิธีที่จะจัดการกับพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือรีบกลับไปหาตระกูลเฉินเพื่อบอกความจริงให้พวกเขารู้ โดยเฉพาะความจริงที่แม่ของเธอคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน
ด้วยเหตุนี้เครื่องบินของซิงเหอเลยไม่ได้จอดที่เมือง T แต่เป็นเมือง A หลังจากที่เครื่องบินลงจอดเธอก็รีบกลับไปที่บ้านของตระกูลเฉิน มีแค่อาลิคนเดียวที่ตามเธอมาด้วย ส่วนแซมและพวกผู้ชายอยู่ที่เมือง R เพื่อคุ้มครองและคอยช่วยอีเฉินในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานให้มากขึ้น
ในรถ อาลิตื่นเต้นมากราวกับไม่ใช่ซิงเหอที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินแต่เป็นตัวเธอเอง “ซิงเหอ เธอคิดว่าผู้อาวุโสเฉินจะเป็นลมเพราะดีใจเกินไปหรือเปล่าตอนที่เขาได้รู้ว่าเธอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา”
ซิงเหอยิ้มเล็กน้อย “ฉันหวังว่าท่านจะไม่เป็นลม”
“ฉันรู้ว่าเขาจะต้องดีใจมากและรักเธอมากขึ้น เขาปฏิบัติกับเธออย่างดีถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอกับเขาเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ดังนั้นนี่จะต้องเป็นข่าวดีสำหรับเขาแน่ โลกนี้มันกลมจริงๆ ฉันมั่นใจว่าคงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าเธอจะเป็นญาติของพวกเขา…” อาลิถอนหายใจอย่างมีความสุข เธอรู้สึกมีความสุขแทนซิงเหอมากๆ บางทีอาจเป็นเพราะการโน้มน้าวของอาลิ ซิงเหอเลยเริ่มที่จะตื่นเต้นและกังวลขึ้นมานิดหน่อย อันที่จริงเธอก็ไม่รู้หรอกว่าผู้อาวุโสเฉินและคนอื่นๆ ในตระกูลเฉินจะมีปฏิกิริยายังไง…
เธอรู้แค่ว่าเธอมีความสุขเพราะในที่สุดเธอก็เจอเครือญาติของคุณแม่และเธอก็จะมีครอบครัวให้ใส่ใจมากขึ้นในโลกนี้ เธอจะปฏิบัติต่อตระกูลเฉินให้เหมือนกับที่เธอปฏิบัติต่อเซี่ยจื้อและคุณอาของเธอ โลกนี้มีหลายอย่างที่ไม่แน่นอน แต่สายสัมพันธ์ของครอบครัวมักจะเป็นข้อยกเว้นเพราะว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
…
ในที่สุดพวกเธอก็มาถึงหน้าประตูบ้านของตระกูลเฉิน แล้วซิงเหอก็ต้องประหลาดใจเพราะในวันนั้นยังมีแขกคนอื่นอีก ถงเยียนนั่นเอง!
ราวกับฉากในหนัง รถของพวกเธอวิ่งมาจากคนละฝั่งของถนนและมาหยุดพร้อมกันตรงหน้าทางเข้า ซิงเหอลงจากรถของเธอและเห็นถงเยียนออกมาจากรถของหล่อนเหมือนกัน ข้างๆ หล่อนมีผู้หญิงอายุน้อยหน้าตาสะสวยซึ่งซิงเหอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอีกหนึ่งคน
ความไม่พอใจผุดขึ้นมาในดวงตาของถงเยียนทันทีเมื่อเธอเห็นซิงเหอ หลังจากที่ท่านผู้หญิงยอมรับ ซิงเหอไว้เป็นลูกเลี้ยง ถงเยียนก็มีแต่ความอิจฉาและความขุ่นเคืองต่อซิงเหอ ซิงเหอไม่เพียงแค่ทำลายชีวิตของเธอแต่ยังได้มาอยู่ในตำแหน่งแทนที่เธออีก แล้วจะให้เธอลืมเรื่องแบบนั้นได้ยังไง!
ดังนั้นถงเยียนจะไม่มีวันยกโทษให้ซิงเหอตราบที่เธอยังมีลมหายใจอยู่ และจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้ชีวิตของซิงเหอยุ่งยาก
เป็นธรรมดาที่คนอารมณ์ร้อนและไม่มีเหตุผลแบบเธอจะไม่สามารถระงับความโกรธและไม่พอใจของตัวเองไว้ได้เมื่อเธอสังเกตเห็นซิงเหอ “เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศแท้ๆ แต่สิ่งแรกที่เธอทำก็คือการมาประจบตระกูลเฉินของเรา เซี่ยซิงเหอ อย่าคิดนะว่าแค่เพราะคุณป้ายอมรับเธอเป็นลูกเลี้ยงแล้วเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉิน เธอควรจะชะโงกดูเงาตัวเองและรู้ตัวว่าเธอไม่คู่ควรที่จะใช้ชื่อของตระกูลเฉิน! ถ้าเธอฉลาด เธอก็ควรจะเอาตัวเองออกไปให้ห่างจากตระกูลของฉันแล้วเลิกมาทำตัวใกล้ชิดกับพวกเราได้แล้ว เพราะมันทำให้พวกเราขายหน้ามาก!”
สิ่งแรกที่ออกมาจากปากของเธอคือคำพูดที่น่าเกลียดแบบนี้ ดังนั้นอาลิจึงตอกกลับไปด้วยความโมโห “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้ามาพูดกับซิงเหอแบบนี้!”
ตอนที่ 700 ใครเป็นตัวปลอม
พอโดนอาลิดูหมิ่นถงเยียนก็จ้องมองเธออย่างโกรธแค้น “แล้วเธอเป็นใครกันยะ ฉันเป็นทายาทหญิงอันดับหนึ่งของตระกูลถง ฉันกำลังสั่งสอนบทเรียนชีวิตให้กับคนโอหังที่แสร้งจะฮุบบัลลังก์อยู่ แล้วเธอกล้าดียังไงมาขัดจังหวะฉัน”
อาลิหัวเราะออกมาดังๆ “น่าขำอะไรอย่างนี้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเสแสร้งตัวจริง ฉันจะบอกอะไรให้นะ ซิงเหอ…”
“หยุด” ซิงเหอยกมือขึ้นห้ามไม่ให้อาลิพูดต่อ อาลิไม่รู้ว่าทำไมซิงเหอถึงห้ามเธอแต่เธอก็เงียบลงอย่างเชื่อฟัง
ถงเยียนคิดว่าในที่สุดเธอก็สามารถทำให้พวกหล่อนจนตรอกได้ เธอเลยเยาะเย้ยด้วยความดูถูก “ทำไมเธอถึงหยุดล่ะ อย่าบอกนะว่าเธอตั้งใจจะบอกฉันว่าซิงเหอเป็นลูกสาวแท้ๆ แต่ฉันไม่ใช่ อย่ามาทำให้ฉันขำหน่อยเลย ฉันอาจไม่ได้ใช้ชื่อของตระกูลเฉิน แต่แม่ของฉันก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉิน และนั่นก็ทำให้ฉันมีคุณสมบัติที่จะอยู่ที่นี่มากกว่าเซี่ยซิงเหอตัวปลอม ดังนั้นอย่ามาที่นี่อีกนะ เพราะว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพรากทุกอย่างที่เป็นของฉันไป! ฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอทำแบบนั้น!”
“เธอพูดจบหรือยัง” ซิงเหอถามอย่างใจเย็น เธอไม่ได้รู้สึกกระทบกระเทือนจากคำพูดหมิ่นประมาทของถงเยียนเลยสักนิด เธอไม่ได้ลดตัวลงไปมองเด็กหญิงตรงๆ ด้วยซ้ำ
ถงเยียนจ้องมองซิงเหออย่างเปิดเผย “ใช่ ฉันพูดจบแล้ว! ดังนั้นไสหัวไป ตระกูลเฉินไม่ต้อนรับเธอ คุณตา คุณยาย และคุณป้า ทุกคนเป็นของฉัน พวกเขาไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย! ดังนั้นเลิกทำตัวไร้ยางอายแล้วมาที่นี่เพื่อขโมยครอบครัวของฉันได้แล้ว! พวกเขาไม่ใช่ของเธอ ไสหัวไปซะ!”
ถงเยียนคิดว่าเธอสามารถทำให้ซิงเหออับอายจนยอมจากไป แต่สายตาของซิงเหอไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอด้วยซ้ำ ซิงเหอคิดซะว่าเธอกำลังฟังหมาบ้าเห่าอยู่
“ถ้าเธอพูดจบแล้วก็ออกไปซะ ไม่ว่าฉันจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นคนตระกูลเฉินหรือไม่ เธอก็ไม่มีแน่นอน” ซิงเหอพูดเบาๆ ก่อนที่จะเดินก้าวผ่านประตูเข้าไป
“เธอพูดว่าไงนะ!” ถงเยียนมองตามหลังเธอไป “เซี่ยซิงเหอ ยัยแพศยา กล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้ อิงอิง ดูสิว่าหล่อนปฏิบัติกับฉันยังไง หล่อนเป็นคนแย่งทุกอย่างไปจากฉัน หล่อนไม่เพียงแค่ทำลายชีวิตของฉันแต่ยังขโมยทุกอย่างไปจากฉันด้วย เป็นเพราะหล่อนนี่แหละ คุณตาถึงปฏิเสธที่จะเจอหน้าฉัน!”
ถงเยียนเริ่มแผดเสียงเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอเสียใจมาก…
ชุยอิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ รีบปลอบใจเธอ “เสี่ยวเยียน อย่าเสียใจไปเลย ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่แข่งของเธอหรอก อย่าห่วงเลย ครั้งนี้ฉันจะช่วยเธอเอง”
“ขอบคุณนะอิงอิง! เธอดีกับฉันมากเลย” ถงเยียนยิ้มออกมาแล้วกอดเพื่อนของเธอ
ชุยอิงยิ้มบางๆ และจงใจพูดด้วยน้ำเสียงดังพอที่จะให้ซิงเหอได้ยิน “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วที่ควรช่วยเหลือเธอ มาเถอะ เข้าไปข้างในกัน คอยดูนะฉันจะช่วยเธอแก้แค้นเอง”
“ได้เลย!” ถงเยียนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ความพอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เซี่ยซิงเหอ ครั้งนี้ฉันจะทำให้เธอทุกข์ทรมาน! เธอกล้ามาแย่งทุกอย่างที่เป็นของฉันได้ยังไง เธอจะต้องคืนพวกมันมาให้ฉันพร้อมกับดอกเบี้ย! ทุกอย่างในตระกูลเฉินเป็นของฉัน ฉันจะทำให้เธอตาสว่างเอง!
เพื่อให้แผนของเธอสำเร็จ ถงเยียนเลยลากชุยอิงผ่านเข้าไปในประตูอย่างรีบร้อน แน่นอนว่าอาลิกับซิงเหอได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ
“ซิงเหอ ผู้หญิงที่มากับถงเยียนดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดา” อาลิเตือนเธอเบาๆ
ซิงเหอพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้”
ตอนที่ 701 สมควรโดนตบหน้า
บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจช่วยถงเยียนแก้แค้นซิงเหอได้ ไม่อย่างนั้นถงเยียนคงไม่สบายใจขนาดนั้นหรอก เธอเตรียมพร้อมมาแล้ว อนิจจา ไม่ว่าถงเยียนจะนำใครมาเป็นกำลังเสริม ความสัมพันธ์ของซิงเหอกับตระกูลเฉินก็จะไม่แปลเปลี่ยน และเธอจะช่วยให้ถงเยียนเข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีสิทธิ์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉิน!
อาลิแทบจะรอให้ถึงเวลาตบหน้าไม่ไหวแล้ว ถ้าถงเยียนไม่ได้มายั่วโมโหพวกเธอก่อน พวกเธอก็คงจะปล่อยหล่อนไป แต่ในเมื่อหล่อนเป็นฝ่ายมาขอการตบหน้าแบบล้าสมัยเอง พวกเธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องช่วยสนองให้ อาลิหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าของถงเยียนในขณะที่โดนตบ
เธอยังหวังว่าถงเยียนจะทำตัวหยิ่งยโสและอวดดีกว่านี้ เพราะนั่นจะทำให้การตบหน้ารุนแรงและเผ็ดร้อนมากขึ้น!
การมองถงเยียนโดนตบหน้าคงเป็นอะไรที่สาแก่ใจมาก เหมือนรอยขีดข่วนที่ไม่ถึงกับคันมาก
…
ทั้งซิงเหอและถงเยียนมีความคิดเป็นของตัวเองขณะก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นของตระกูลเฉิน
พอสังเกตเห็นผู้อาวุโสเฉินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว ถงเยียนก็รีบผลักซิงเหอออกไปให้พ้นทางและพยายามเข้าไปประจบประแจงเขาทันที “คุณตาขา หนูมาเยี่ยม! ตอนนี้สุขภาพของคุณตาเป็นยังไงบ้างคะ แล้วคุณยายล่ะคะ อยู่บ้านหรือเปล่า หนูคิดถึงทั้งสองคนมากเลย อิงอิงก็มาเที่ยวประเทศจีนในวันหยุด หนูเลยพาเธอมาด้วย”
ถงเยียนไม่เคยพูดอะไรแบบนี้มาก่อน เธอมักจะทำตัวเป็นเด็กไม่มีวินัยมาตลอดแม้แต่ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าปู่ย่าตายายของตัวเอง อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอเรียนรู้ที่จะประจบประแจงคนอื่น
ผู้อาวุโสเฉินมองเธออย่างไม่สนใจและทักทายชุยอิงด้วยรอยยิ้มบาง “อิงอิง ไม่ได้เจอกันนานมากเลย ฉันจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเธอมาเยือนประเทศจีนครั้งล่าสุดเมื่อไหร่”
ชุยอิงยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน “ผ่านมาสองปีแล้วค่ะนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่หนูมาประเทศจีน อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของเสี่ยวเยียนแล้ว หนูเลยตั้งใจมาฉลองร่วมกับเธอและแวะมาหาคุณตาด้วยระหว่างที่อยู่ที่นี่”
“ดี ดีแล้ว” ผู้อาวุโสเฉินพยักหน้า
จากนั้นสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่ที่ซิงเหอแล้วเขาก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความประหลาดใจปนใจดี “ซิงเหอก็กลับมาเหมือนกันหรอ รีบมานั่งเร็วเข้า เดินทางเป็นยังไงบ้างล่ะ หวังว่ามันจะไม่ยากลำบากเกินไปนะ ทำไมหลานถึงไม่บอกตาก่อนล่ะว่าหลานจะกลับมา ตาจะได้ส่งคนไปรับหลาน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงยังไงหนูก็รีบมาแบบกะทันหันด้วย” ซิงเหอตอบด้วยรอยยิ้มและอดไม่ได้ที่จะมองผู้อาวุโสเฉินอย่างอ่อนโยน ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้รู้สึกผูกพันกับเขาอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริง เธอก็เห็นคุณค่าใหม่ของครอบครัวที่เพิ่งค้นพบ ไม่ว่าอย่างไรท่านก็เป็นคุณตาของเธอ เป็นครอบครัวและญาติของเธอ
ซิงเหอไม่มีครอบครัวรุ่นปู่ย่าตายาย ดังนั้นเธอเลยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอพวกเขา
ผู้อาวุโสเฉินสามารถสัมผัสถึงความรักและความเคารพที่ซิงเหอมีต่อเขา เขารู้สึกดีขึ้นทันทีและไม่ได้ใส่ใจถงเยียนอีกต่อไป
“ทำไมหลานถึงยังยืนอยู่ล่ะ แม่บ้านไปเอาชากับบิสกิตมาที แล้วก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นได้เลย อย่าลืมเตรียมอาหารที่ซิงเหอชอบทานด้วยล่ะ” ผู้อาวุโสเฉินสั่งแม่บ้านอย่างมีความสุข
“ได้ค่ะคุณท่าน” แม่บ้านพยักหน้าแล้วจากไปเพื่อเตรียมอาหาร
ผู้อาวุโสเฉินหันมาหาซิงเหอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและมีความสุข “ซิงเหอ ถ้าหลานอยากกินอะไรเป็นพิเศษก็บอกตามาเลยนะ ตาจะให้พวกเขาเตรียมให้”
“ได้ค่ะ” ซิงเหอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่น รอยยิ้มที่เธอมอบให้ผู้อาวุโสเฉินกว้างขึ้นกว่าเดิม
ถงเยียนซึ่งเห็นเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและไม่พอใจ!
ตอนที่ 702 ใจอ่อน
ถงเยียนเดินเข้ามาใกล้ๆ ผู้อาวุโสเฉินแล้วเริ่มอ้อนวอน
“คุณตา หนูก็อยากจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วยเหมือนกัน”
“คุณตา ได้โปรดอย่าเมินหนูเลยนะคะ”
“คุณตา หนูคิดถึงคุณตาจริงๆ นะ หนูไม่สามารถอยู่ห่างจากคุณตาได้”
หายากมากเหลือเกินที่ถงเยียนจะขอความเห็นใจ
ผู้อาวุโสเฉินมองเธอแล้วถอนหายใจ “ถ้าเธออยากอยู่ต่อก็อยู่เถอะ อิงอิงก็อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันสิ ว่าแต่พ่อแม่ของเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ แล้วเธอมาถึงประเทศจีนตั้งแต่เมื่อไหร่”
ชุยอิงนั่งลงและตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม “หนูมาถึงเมื่อวานค่ะคุณตาเฉิน คุณพ่อคุณแม่และปู่ย่าตายายของหนูสบายดี อันที่จริงพวกเขาฝากความคิดถึงมาถึงท่านด้วย แล้วคุณป้าอวี๋เป็นยังไงบ้างคะ”
“ป้าอวี๋สบายดี พวกเราทุกคนสบายดี ฝากความคิดถึงของฉันไปให้พ่อแม่และปู่ย่าตายายของเธอด้วยนะ”
“ดีเลยค่ะ อันที่จริงพวกเราได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของท่านก่อนหน้านี้ ปู่ย่าตายายของหนูรู้สึกเสียใจมาก ท่านก็รู้ว่าหนูกับเสี่ยวเยียนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นหนูเลยอดรู้สึกสงสารเธอไม่ได้ คุณตาเฉินคะ ความจริงแล้วเสี่ยวเยียนก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายซึ่งไม่มีความผิดในเรื่องทั้งหมดนี้เลย และเธอเองก็ไม่สามารถอยู่ห่างจากท่านได้” ชุยอิงพูดเรื่องดีๆ แทนถงเยียน เธอรู้ว่ามันจะสามารถทำให้ความคิดของผู้อาวุโสเฉินเอนเอียง
ไม่ว่าอย่างไรผู้อาวุโสเฉินก็มีสายตาชัดเจนพอที่จะตระหนักว่าเขาไม่ควรเอาความผิดของคนรุ่นก่อนมาลงที่ถงเยียน นอกจากนี้ถงเยียนยังเติบโตขึ้นภายใต้สายตาของเขา ดังนั้นเขาเลยเข้าข้างเธอมากเป็นพิเศษ ถ้าพวกเธอสามารถทำให้ท่าทีที่ผู้อาวุโสเฉินมีต่อถงเยียนอ่อนลง ถงเยียนก็จะสามารถเป็นคนของตระกูลเฉินต่อไป
ชุยอิงกล้ายกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เพราะว่าเธอสังเกตเห็นวิธีที่ผู้อาวุโสเฉินปฏิบัติต่อถงเยียน เขายังคงใจอ่อนกับหลานสาวที่เขาเป็นคนเลี้ยงมา
เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ ผู้อาวุโสเฉินถอนหายใจ “ไม่มีใครโทษเธอเลย แต่มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอไม่เข้าใจเกิดขึ้น อย่าพูดถึงเรื่องน่าเศร้าแบบนั้นอีกเลย อันที่จริงฉันประทับใจนะที่พวกเธอสองคนยังเป็นเพื่อนกันอยู่แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว”
“แน่นอนค่ะ ในเมื่อหนูถือว่าเธอเป็นเพื่อน ดังนั้นเธอก็จะเป็นเพื่อนของหนูไปตลอดชีวิต” ชุยอิงพูดด้วยความภาคภูมิใจ
ถงเยียนเข้าใจความนัย เธอยกมือขึ้นพูด “หนูก็เหมือนกันค่ะคุณตา! หนูถือว่าท่านคือคุณตาของหนู ดังนั้นท่านก็จะเป็นคุณตาของหนูตลอดไป! ตระกูลเฉินจะเป็นครอบครัวของหนูตลอดไป หนูเป็นคนตระกูลเฉินตราบเท่าที่หนูยังมีลมหายใจอยู่!”
ผู้อาวุโสเฉินตกตะลึงราวกับว่าเขาประทับใจกับคำประกาศของถงเยียน ชุยอิงสังเกตปฏิกิริยาของเขาแล้วรีบส่งส่งสัญญาณให้ถงเยียน
ถงเยียนเข้าใจ เธอเดินเข้าไปโอบรอบแขนของผู้อาวุโสเฉินแล้วเริ่มร้องไห้ “คุณตาคะ หนูรู้ว่าหนูเป็นเด็กที่ดื้อรั้น แต่หนูสัญญาว่านับแต่นี้ไปหนูจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! ได้โปรดอย่าไล่หนูไปเลย หนูไม่อยากเสียทุกคนไป หนูอยากให้ท่านเป็นคุณตาของหนูตลอดไป!”
“ทำไมคุณตาเฉินถึงไม่รับเสี่ยวเยียนกลับมาล่ะคะ เธอได้รับบทเรียนแล้วจริงๆ และเธอก็ไม่อยากจะจากพวกคุณทุกคนไป เสี่ยวเยียนเป็นหลานสาวคนเดียวของท่าน ถึงแม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด เธอก็เติบโตขึ้นมาต่อหน้าท่าน หนูแน่ใจว่าท่านเองก็ไม่อยากจะตัดขาดกับเธอเพราะความผิดที่เธอไม่ได้ก่อหรอกใช่ไหมคะ” ชุยอิงพูดต่อ
ผู้อาวุโสเฉินซึ้งใจอย่างเห็นได้ชัด ชุยอิงพูดถูก ผู้อาวุโสเฉินคิดถึงถงเยียนจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็เป็นหลานสาวคนเดียวของเขา หนึ่งเดียวที่เขาทุ่มเทความรักทั้งหมดให้
อันที่จริงเขาก็ไม่สามารถทำใจตัดขาดกับเฉินหรูได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามการเก็บพวกเธอทั้งสองคนไว้ใกล้ๆ ก็มีแต่จะย้ำเตือนผู้อาวุโสเฉินเกี่ยวกับทุกเรื่องที่ตระกูลหลินทำ ดังนั้นอย่างน้อยในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถอ้าแขนต้อนรับเฉินหรูและถงเยียนกลับมาได้
ตอนที่ 703 การแข่งขัน
อย่างไรก็ตามความตั้งใจของเขากำลังพังทลายลงเมื่อพวกเธอมาอ้อนวอนเขาแบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรความทรงจำของครอบครัวที่มีร่วมกันมาหลายสิบปีก็ไม่สามารถลืมได้ง่ายๆ แบบนั้น ผู้อาวุโสเฉินเป็นคนยุติธรรมต่อหน้าสาธารณชน แต่เขามักจะมีจุดอ่อนเมื่อเป็นเรื่องของครอบครัว
เฉินหรูกับถงเยียนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับเขา แต่เขาก็อยู่กับพวกเธอมาหลายปีแล้ว ดังนั้นมันคงเป็นการโกหกหากจะพูดว่าเขาไม่มีเยื่อใยต่อพวกเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ผ่านมาสักพักแล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น บวกกับที่ถงเยียนพยายามทำตัวให้เป็นที่รักใคร่ของเขา หัวใจของเขาก็เลยอ่อนยวบลงกว่าเดิม
ผู้อาวุโสเฉินรู้ว่าลึกๆ แล้วเขาก็ไม่สามารถตัดพวกเธอออกไปจากชีวิตได้ ก่อนหน้านี้เขาเต็มใจที่จะเสียสละทั้งชีวิตของเขาเพื่อถงเยียนตอนที่เขายอมให้เธอแต่งงานกับหลินเซวียน ดังนั้นแน่นอนว่าเขาเป็นห่วงเธอ
ผู้อาวุโสเฉินมองถงเยียนแล้วพูด “เสี่ยวเยียน ถ้าเธอได้รับบทเรียนแล้วจริงๆ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะรับเธอกลับมา แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอต้องเข้าใจ ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้ตระกูลหลิน”
ถงเยียนรู้สึกได้ถึงความสุขที่ท่วมท้นเข้ามาในใจของเธอและเธอก็ประกาศออกมาทันที “คุณตาคะ หนูไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลหลิน! พวกเขาเป็นคนชั่วร้ายและพวกเขาไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหนูกับคุณแม่ ดังนั้นหนูจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกเขาเป็นญาติของหนู ทุกอย่างที่พวกเขาได้รับมันก็สมควรแล้ว ดังนั้นอย่าห่วงเลยค่ะ พวกเราจะอยู่ข้างคุณตาเสมอ สนับสนุนคุณตา ไม่ใช่พวกเขา!”
ถงเยียนพูดต่อ “คุณแม่ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ในใจของพวกเราคุณตาและตระกูลเฉินเป็นครอบครัวที่แท้จริง พวกเราได้ตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลหลินแล้วและจะไม่สงสารพวกเขาสักนิด จะมีก็แค่ความเสียใจเท่านั้นที่ก่อนหน้านี้เราเคยโดนพวกเขาหลอกเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้คุณแม่กับหนูขอยอมตายดีกว่าที่จะต้องไปคลุกคลีกับตระกูลหลิน! คุณตาคะ พวกเราเห็นตระกูลเฉินเท่านั้นที่เป็นครอบครัวของเรา ไม่ใช่ตระกูลอื่น”
ผู้อาวุโสเฉินซาบซึ้งใจกับคำประกาศของเธอ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าพวกเธอได้รับบทเรียนแล้วและมีจุดยืนที่ชัดเจน ความอึดอัดที่อยู่ในใจของเขาค่อยๆ ได้รับการปลดปล่อย
ในที่สุดผู้อาวุโสเฉินก็ยิ้มให้เธอและพูดว่า “ดีแล้วที่พวกเธอสองคนเลือกทางที่ถูกต้อง ความจริงแล้วฉันก็ไม่สามารถทำใจปล่อยพวกเธอสองคนให้อยู่กันตามลำพัง แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ถึงแม้ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม”
“ไม่เป็นไรค่ะ!” ถงเยียนพูดด้วยขอบตาแดงๆ “ตราบใดที่คุณตาเห็นพวกเราเป็นครอบครัวอีกครั้งหนูก็ไม่คิดมากหรอกว่าคุณตาจะปฏิบัติกับพวกเรายังไง ขอแค่อย่าปฏิบัติกับพวกเราเหมือนคนแปลกหน้า มันทำให้เราเจ็บปวดหัวใจจริงๆ”
“เห็นไหมล่ะคะคุณตาเฉิน ตระกูลเฉินคือสิ่งสำคัญที่สุดในใจของเสี่ยวเยียน…” ชุยอิงช่วยพูด
ผู้อาวุโสเฉินค่อยๆ เอนเอียงไปตามการชักจูงของพวกเธอแล้วใจของเขาก็ค่อยๆ เปิดรับถงเยียนเข้ามาอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรการประคบประหงมและตามใจถงเยียนก็เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำมายี่สิบปีแล้ว ชั่วขณะที่ปราการด่านแรกแตกร้าว มันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับถงเยียนที่จะหาทางกลับเข้ามาในหัวใจของผู้อาวุโสเฉินอีกครั้ง
ถงเยียนดีใจมากและชวนเขาคุยต่อไม่หยุดเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีเวลาสำหรับซิงเหอ ถึงแม้ว่าซิงเหอจะถูกละเลย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความรำคาญใดๆ ออกมาบนใบหน้า เธอแค่มองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา
แต่อาลิโกรธแทนเธอ!
ถงเยียนคนนี้เป็นใครกันถึงกล้ามาแยกซิงเหอออกจากผู้อาวุโสเฉิน มองดูผู้อาวุโสเฉินที่ค่อยๆ เปิดใจรับถงเยียนกลับมา เธอก็อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าซิงเหอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา!
ถงเยียนไม่มีสิทธิ์ที่จะกีดกันซิงเหอออกมาแต่ในเมื่อซิงเหอไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ อาลิก็ไม่กล้าลงมือทำอะไรเอง เธอสามารถทำให้ตัวเองพอใจด้วยการคิดถึงความจริงเท่านั้น
คงเป็นเพราะความไม่พอใจของอาลิชัดเจนเกินไป จู่ๆ ผู้อาวุโสเฉินเลยบอกกับถงเยียน “ฉันมีบางอย่างจะปรึกษากับซิงเหอ เธอเล่นกับอิงอิงไปก่อนนะ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น