ตามใจรัก สาวนักแฮก 680-687

 ตอนที่ 680 ชูธง


 


 


ข่าวเล็กๆ น้อยๆ เป็นทางการอย่างไม่น่าเชื่อ ตระกูลเฮ่อหลานหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก แต่ซิงเหอไม่ยอมแพ้ ตราบใดที่ตระกูลเฮ่อหลานมีเรื่องสกปรก เธอจะต้องขุดหามันจนเจอในที่สุด


 


 


โชคดีที่เธอยังมีเวลา ซิงเหอสามารถค่อยๆ จัดการเรื่องนี้ได้ เธอจะอยู่ที่ประเทศ R สักระยะซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับเธอที่จะหยั่งไปถึงก้นบึ้งของหลายสิ่ง


 


 



 


 


เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานฉีมาถึงที่โรงแรม เขาติดต่อไปยังกลุ่มของซิงเหอและทำการจองบุฟเฟต์อาหารเช้าของโรงแรมไว้ให้พวกเธอ เมื่อซิงเหอและพรรคพวกมาถึงล๊อบบี้ของโรงแรม เฮ่อหลานฉียืนรอพวกเขาอยู่ที่นั่นแล้ว


 


 


เมื่อเฮ่อหลานฉีมองเห็นพวกเขา เขาเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างออกนอกหน้า “เมื่อคืนนอนหลับเป็นยังไงบ้างครับคุณเซี่ย ถ้ามีอะไรทำให้คุณรำคาญใจบอกผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”


 


 


“ทุกอย่างไม่เลวเลย ขอบคุณคุณเฮ่อหลานด้วยที่ช่วยจัดการทุกอย่างให้ค่ะ” ซิงเหอตอบตามความเป็นจริง


 


 


เฮ่อหลานฉีหัวเราะออกจากมุมปากของตัวเอง “ผมหวังว่าคุณจะเรียกชื่อผมนะเนี่ย แต่ถ้าคุณยังยืนยันที่จะเรียกเพื่อให้เกียรติแล้วละก็ ทำไมคุณไม่เรียกผมว่าพี่ใหญ่เฮ่อหลานแทนล่ะ”


 


 


แซมที่เดิมตามอยู่ด้านหลังแอบทำท่าเหมือนจะอาเจียน!


 


 


แม้แต่อาลิยังขนลุกซู่อย่างควบคุมไม่ได้ ตาเฮ่อหลานฉีนี่ช่วยหยุดทำเรื่องน่าคลื่นไส้แบบนี้สักทีได้ไหม อยากให้ซิงเหอเรียกตัวเองว่าพี่ใหญ่เฮ่อหลานงั้นเหรอ หน้าด้านเป็นบ้า!


 


 


ซิงเหอยังคงรักษาท่าทีของตัวเองและทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เธอพูดต่อ “คุณเฮ่อหลาน รีบกินมื้อเช้าให้เสร็จแล้วลงมือทำงานกันเถอะค่ะ ฉันอยากหาตัวคนคนนั้นให้เจอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”


 


 


“ได้ครับ” เฮ่อหลานฉียักไหล่พร้อมรอยยิ้มเอาอกเอาใจราวกับเธอไม่ได้ทำอะไรผิดในสายตาของเขา การวางตัวราวสุภาพบุรุษของเขาสามารถหลอมละลายหัวใจของผู้หญิงหลายคนได้ง่ายแต่แย่หน่อยที่ซิงเหอไม่ใช่หนึ่งในนั้น


 


 


ระหว่างอาหารมื้อเช้า ไม่ว่าเขาจะพยายามเอาอกเอาใจซิงเหออย่างมากหรือบ่อยแค่ไหน ซิงเหอก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทีแรกเฮ่อหลานฉีคิดว่าซิงเหอทำเป็นเล่นตัว แต่ในที่สุดเขาตระหนักได้ว่าซิงเหอไม่สนใจในตัวเขาจริงๆ การค้นพบนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโกรธแต่กลับมีแต่จะทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวซิงเหอมากยิ่งขึ้น


 


 


เขาชอบความท้าทาย และการทำลายป้อมปราการของราชินีน้ำแข็งอย่างซิงเหอก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุด


 


 


เฮ่อหลานฉีวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมด และคิดไปไกลถึงขั้นกำหนดวันเอาไว้ในใจของตัวเอง ช่วงเวลาที่เขาต้องการในการค่อยๆ ทำให้ซิงเหอยอมจำนนก่อนที่เขาจะได้เธอมาโอบรัดอยู่บนปลายนิ้วของเขา


 


 


แต่ความเป็นจริงกำลังจะสอนบทเรียนอันโหดร้ายให้เขา ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะสนใจในตัวเขา!


 


 



 


 


หลังอาหารมื้อเช้า เฮ่อหลานฉีพาทุกคนไปยังสถานีตำรวจเพื่อทำการเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ซิงเหอนำตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้อาวุโสเฉินมาด้วยเพื่อทำการจับคู่กับฐานข้อมูลดีเอ็นเอของประเทศ R แต่โอกาสที่จะสำเร็จนั้นมีต่ำมากเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะให้ตัวอย่างดีเอ็นเอของตัวเองกับตำรวจ


 


 


แน่นอนว่าซิงเหอไม่ได้ตั้งความหวังกับวิธีการนี้มากนัก แผนของเธอคือการออกอากาศประกาศหาคนหายไปทั่วอินเทอร์เน็ต โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เพื่อกระตุ้นให้ลูกสาวคนที่สองของผู้อาวุโสเฉินออกมาแสดงตัว


 


 


เฮ่อหลานฉีผงะเมื่อซิงเหอบอกข้อเสนอแนะของเธอ เขาไม่คิดว่าจะเป็นการค้นหาที่ใหญ่ขนาดนี้


 


 


ซิงเหอไม่พลาดที่จะเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา เธอกล่าว “คุณเฮ่อหลานไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับสื่อทั้งหมดเอง เราจะไม่รบกวนพวกคุณในเรื่องนี้”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 681 สื่อทุกช่องทาง


 


 


“นั่นไม่ใช่ปัญหา” เฮ่อหลานฉีพูดขึ้นทันที “ซิงเหอ คุณทำตัวเหินห่างกับพวกเราอีกแล้วนะ พวกเราสัญญาแล้วไงว่าจะช่วยคุณในการตามหา ดังนั้นเราก็ต้องรักษาสัญญา เราจะช่วยคุณจนกว่าการค้นหาจะจบลงอย่างแน่นอน”


 


 


“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถึงยังไงเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาของเรา…”


 


 


“ไม่สิ ปัญหาของคุณก็คือปัญหาของผม! ปล่อยเรื่องนี้ให้ผมจัดการเอง” เฮ่อหลานฉีให้คำมั่นด้วยความหนักแน่น อันที่จริงแล้วมันฟังดูเหมือนเขาจะเห็นด้วยกับทุกการเรียกร้องของซิงเหอด้วยซ้ำ ซิงเหอไม่ได้แสดงท่าทีดื้อดึงหรือยินดี หากเฮ่อหลานฉีต้องการจะช่วยพวกเธอฟรีๆ งั้นเธอก็จะไม่ปฏิเสธ


 


 


ในเวลาเดียวกัน เธอต้องการดูว่าพวกเขาจะยินดีช่วยเหลือพวกเธอไปได้ไกลแค่ไหน บางทีนี่อาจจะมีจุดที่ตระกูลเฮ่อหลานเผลอทำพลาดก็ได้


 


 


เฮ่อหลานฉีเป็นคนที่รักษาคำพูดเพื่อเครดิตของตัวเอง ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน ประกาศคนหายถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกช่องทางสื่อ สื่อมวลชนทุกแขนงในประเทศ R ได้เผยแพร่ข้อมูลนี้!


 


 


แม้แต่รายงานข่าวที่โด่งดังที่สุดยังรายงานข่าวเรื่องนี้ นี่สร้างความประหลาดใจให้แก่กลุ่มของซิงเหอ พวกเขาไม่รู้เลยว่าตระกูลเฮ่อหลานจะมีอิทธิพลมากและล้ำลึกถึงเพียงนี้


 


 


“ดูเหมือนตระกูลเฮ่อหลานนี่จะไม่ธรรมดาซะแล้วถึงได้จัดการหาสื่อมาได้มากมายขนาดนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่แปลกใจที่ข่าวของพวกเขาถึงมีอยู่น้อยนัก คนจากสื่อพวกนี้น่าจะเป็นอยู่ฝ่ายพวกเขาเหมือนกัน” แคร์นวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล แซมและคนที่เหลือต่างเห็นด้วยกับเขา


 


 


อยู่ๆ อาลิพูดขึ้นด้วยความยินดี “ในเมื่อพวกเขาสามารถใช้สื่อได้ดี นี่หมายความว่าพวกเราจะได้ข่าวเกี่ยวกับลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินเร็วขึ้นน่ะสิ”


 


 


“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” ซิงเหอพยักหน้าเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ เธอจะไม่พูดว่าจะพบคนคนนั้นร้อยเปอร์เซ็นแต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะพบก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมมาก


 


 


พลังของสื่อนั้นรุนแรง และตัวประกาศเองก็มีข้อมูลที่ชัดเจนมาก พวกเขากำลังตามหาผู้หญิงเอเชียอายุราวสี่สิบห้าปีที่เติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลาน บุคคลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวอย่างครบถ้วนนั้นมีเพียงหยิบมือเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดปริมาณงานของพวกเขาไปได้


 


 


แต่กระนั้นเรื่องประหลาดใจที่ชวนให้น่าปวดหัวกลับเกิดขึ้นเมื่อมีผู้หญิงมากมายที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลานออกมาแสดงตัวเพื่อเข้ารับการตรวจดีเอ็นเอ!


 


 


พูดง่ายๆ คือผู้หญิงอายุราวสี่สิบห้าทุกคนมาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชค ถ้าพวกเขาโชคดีพอ นี่จะเป็นเหมือนการถูกรางวัลแจ็กพ็อต!


 


 


เพราะจากประกาศ ได้ระบุไว้ว่าตระกูลเศรษฐีครอบครัวหนึ่งกำลังตามมาสมาชิกของครอบครัว เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะดึงดูดใจคนได้มากมาย ในระยะเวลาเพียงสองวัน โรงพยาบาลที่ได้รับมอบหมายจากตระกูลเฮ่อหลานให้ดูแลเรื่องนี้กลับคราคร่ำไปด้วยคนมากมายที่เดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย


 


 


ซิงเหออยู่ที่นั่นเพื่อรับมือกับฝูงชนด้วยตัวเอง เธอปฏิเสธผู้สมัครหลายคนก่อนที่พวกเขาจะทันได้เริ่มการตรวจ ตระกูลเฉินมีสายเลือดที่ดี ผู้อาวุโสเฉินนั้นแข็งแรงและหล่อเหลาเมื่อครั้งยังหนุ่มและนายหญิงใหญ่เฉินเองก็ยังคงสง่างามและสวยสะพรั่ง ท่านผู้หญิงได้รับถ่ายทอดสายเลือดที่ดีของคนทั้งคู่และเธอดูงดงามราวกับหญิงงามที่เดินออกมาจากภาพวาดน้ำหมึกโบราณ


 


 


ดังนั้นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะต้องเป็นคนที่ค่อนข้างดูดีเช่นกัน แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ซิงเหอใช้อ้างอิงในการปฏิเสธและตัดสินใจ


ตอนที่ 682 อุบัติเหตุ


 


 


ในบรรดาผู้คนที่มา มีบางคนที่ห่างไกลจากคุณสมบัติไปมากจนน่าขำ ยกตัวอย่างเช่น บรรดาคุณยายที่อายุเกินสี่สิบห้าและสาวๆ ที่อยู่ในวัยสิบกว่า หรือมีแม้กระทั่งผู้ชาย!


 


 


กลุ่มของแซมอดที่จะคิ้วขมวดไม่ได้เมื่อเห็นกลุ่มคนพวกนี้ที่ทำตัวย้อนแย้งกับสามัญสำนึกเพียงเพื่อเงิน


 


 


“พวกเราทั้งสี่คนก็เป็นเด็กกำพร้า ถ้าไม่มีข้อกำหนดว่าต้องถูกโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วละก็ฉันเดาว่าพวกเราคงได้อยู่แถวหน้าสุดแน่” แซมพูดติดตลก


 


 


“มันก็ระบุไว้ว่าลูกสาวของตระกูลเฉินอายุประมาณสี่สิบห้า แล้วคนพวกนี้อ่านหนังสือไม่ออกหรือไงกัน” อาลิย่นคิ้ว


 


 


ซิงเหอตอบอย่างนุ่มนวล “พวกเขาอ่านออก แต่พวกเขาแค่ไม่อาจทนนิ่งเฉยกับความโลภที่อยู่ในตัวได้”


 


 


ความโลภสามารถปิดบังสามัญสำนึกได้ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ หลายคนที่มาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชคได้เผยตัวตนให้เห็นตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มการตรวจ แต่แม้เวลาจะผ่านไปแล้วสองวันแล้วก็ยังไม่พบคนที่มีดีเอ็นเอเข้ากันได้ ทว่าจำนวนผู้สมัครกลับพุ่งสูงทะลุไปถึงเลขสามหลักแล้ว…


 


 


พูดตามหลัก การค้นหาที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ควรได้ผลลัพธ์อะไรสักอย่าง แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลย แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่มีความคืบหน้า


 


 


นี่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของซิงเหอ เธอไม่คิดว่าการค้นหาคนเพียงคนเดียวจะยากลำบากขนาดนี้


 


 


ในวันที่สาม ผู้คนที่มาเพื่อทำการตรวจดีเอ็นเอลดลงเหลือเพียงเลขหลักเดียว พูดได้ว่าคนที่ต้องการจะมาได้มากันหมดแล้ว


 


 


เว้นเสียแต่ว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะอาศัยอยู่ในที่ที่ปิดกั้นข่าวสารจากภายนอกโดยสมบูรณ์เท่านั้น หรืออาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ ไม่เช่นนั้นเธอควรจะได้เห็นข่าวและมาเพื่อทำการตรวจ ความจริงที่คนคนนั้นไม่ได้มาทำให้ซิงเหอเชื่อว่าอาจมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นกับคนคนนั้น


 


 



 


 


แม้แต่เฮ่อหลานฉีเองยังประหลาดใจกับความไม่คืบหน้า


 


 


“ใครจะคิดว่าทั้งที่มีคนมาสมัครมากมายแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย คุณเซี่ยคิดว่าคุณเฉินอาจจะออกไปจากประเทศ R เลยไม่ได้เห็นข่าวนี้หรือเปล่า หรือจะเป็นเพราะสวรรค์กลั่นแกล้งและมีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ” เฮ่อหลานฉีเสนอแนะพร้อมใบหน้าที่ขมวดย่นอย่างมาก เขาทำให้รู้สึกว่าเขาใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง


 


 


ตลาดช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด นี่ทำให้ข้อสงสัยของซิงเหอที่มีก่อนหน้านี่ได้รับการพิสูจน์ ตระกูลเฮ่อหลานจะเป็นผู้บริสุทธิ์จริงได้อย่างไร


 


 


เหตุผลอื่นใดอีกที่ทำให้เฮ่อหลานฉีช่วยเหลือพวกเธอมากถึงขนาดนี้ เขายินดีที่จะช่วยพวกเธอโดยไม่มีขีดจำกัด


 


 


แต่สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เธอไม่อาจบอกได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร


 


 


ซิงเหอมองไปยังอีกฝ่ายและแววตาของเธอสั่นเทาเล็กน้อย “ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ การค้นหาจะต้องดำเนินต่อไป นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เราจะไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ”


 


 


เฮ่อหลานฉียิ้ม “แน่นอน ไม่ต้องกังวลนะ เราจะขยายขอบเขตการค้นหาออกไปอีก ผมจะช่วยคุณทำภารกิจนี้ให้สำเร็จต่อให้มันต้องแลกกับชีวิตของผมก็ตาม”


 


 


“ขอบคุณคุณเฮ่อหลานที่ช่วยค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรในอนาคต พวกเราจะตอบแทนความเมตตาของคุณอย่างแน่นอน” ซิงเหอตอบอย่างสุภาพ


 


 


เฮ่อหลานฉียิ้มอย่างช่วยไม่ได้แต่ก็ยังดูทรงเสน่ห์ “ซิงเหอ คุณยังทำเหมือนผมเป็นคนแปลกหน้าอยู่เลยนะ ผมสัญญาว่าผมกำลังช่วยคุณด้วยความจริงใจของผมเอง ดังนั้นอย่ารู้สึกกดดันไปเลยนะ”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 683 หมดความอดทน


 


 


“ถึงยังไงฉันก็มาที่นี่ในฐานะตระกูลเฉินและพวกเรารู้สึกขอบคุณในความช่วยเหลือของคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ” ซิงเหอพูดเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเธอเองกับอีกฝ่ายและเมินเฉยต่อท่าทีเจตนาที่เขาพยายามสร้างความดีความชอบกับเธอ ความพยายามของเขาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ซิงเหอมีต่อเขาได้ เธอยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เธอเดินผ่านบนท้องถนน


 


 


เฮ่อหลานฉีให้เวลาตัวเองเต็มที่สามวันในการชนะใจซิงเหอ แต่เธอช่างดื้อรั้น ความอดทนของเฮ่อหลานฉีมาถึงจุดสิ้นสุดและความเย็นชากับความใจร้อนเริ่มก่อตัวขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น


 


 


“ถ้างั้นผมจะหาทางอื่นเพื่อช่วยคุณ ถ้าทางคุณมีความคืบหน้าอะไรช่วยบอกผมด้วยแล้วกัน” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ


 


 


“โอเคค่ะ” ซิงเหอพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเธอส่องประกายใสซื่อราวกับกระจก เธอมองเห็นความเย็นชาในดวงตาของเฮ่อหลานฉีได้อย่างชัดเจน ในที่สุดก็หมดความอดทนแล้วงั้นเหรอ


 


 


ซิงเหอศึกษาการถอยรนของอีกฝ่ายและแววตาของเธอเองกลับมาดำมืดอีกครั้ง


 


 


แซมเดิมเข้ามาหาซิงเหอจากด้านข้างอย่างเงียบๆ และบ่นด้วยความรำคาญ “หมอนั่นจะหัวทึบไปไหน ไม่เห็นหรือไงว่าซิงเหอไม่สนใจ ทำไมถึงได้ยังดื้อด้านขนาดนี้”


 


 


“ใช่ ซิงเหอก็แสดงออกว่าจะชัดเจนว่าไม่สนใจในตัวเขา เขาควรจะเลิกรุกอย่างออกหน้าออกตาได้แล้วนะ” อาลิเสริมพร้อมขมวดคิ้ว


 


 


ที่จริงแล้วพวกเขาไม่คิดว่าจะเฮ่อหลานฉีจะมีอะไรที่ผิดปกติ แต่พวกเขาแค่ทนเห็นผู้ชายคนนี้ยืนกรานที่จะยื้อยุดซิงเหอไม่ได้ พวกเขาไม่ได้ต่อต้านไม่ให้ใครเข้าหาซิงเหอแต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขารู้สึกได้ว่าเฮ่อหลานฉีคนนี้มีแรงจูงใจซ่อนเร้นบางอย่างแอบแฝงอยู่ภายใต้การกระทำต่างๆ ของเขา


 


 


ความสนใจของเขาที่มีต่อซิงเหอนั้นเกินกว่าคำว่าความรักใคร่ที่บริสุทธิ์ไปแล้ว แม้แต่กลุ่มของชายหนุ่มที่แทบไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักยังรู้สึกได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่าซิงเหอเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน กำแพงของวิงเหอถูกตั้งขึ้นหลังจากที่เธอสัมผัสได้ถึงจุดมุ่งหมายที่ซ่อนเร้นอยู่ของเขา แม้กระทั่งตอนนี้ซิงเหอยังรู้สึกได้ว่าเขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ แม้ว่าภายนอกเขาดูใจดีที่จะช่วยเหลือพวกเธอในการค้นหา


 


 


“ซิงเหอ นี่มันผ่านมาสามวันแล้ว เธอคิดว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะปรากฏตัวออกมาไหม” อาลิเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง


 


 


แคร์นเอ่ยด้วยความลังเล “ที่จริงผมคิดว่าการค้นหานี้มันไม่มีประโยชน์”


 


 


“ฉันเห็นด้วย” วูลฟ์ผู้ซื่อตรงพนักหน้า มันไม่ผิดที่พวกเขาจะรู้สึกเช่นนั้น ข่าวได้รับการเผยแพร่ไปทั่วประเทศแต่ยังไม่พบร่องรอยของคนคนนั้นเลย ดังนั้นโอกาสที่เธอจะปรากฏตัวนั้นจึงต่ำมาก


 


 


ซิงเหอออกความเห็น “ฉันไม่คิดว่าพวกคุณผิด มาเถอะ รออยู่ที่นี่ก็ไม่ช่วยให้พวกเรามีความคืบหน้าอะไร”


 


 


ซิงเหอลุกขึ้นยืนเพื่อจะออกไปแต่ในขณะนั้นเอง ชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินตรงเข้ามายังห้องลงทะเบียน ความตกตะลึงโจมตีซิงเหอทันทีที่เธอเห็นชายคนนั้น!


 


 


“งั้นก็เป็นคุณเองสินะ” ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเห็นฟันเมื่อเขาเห็นซิงเหอ


 


 


ซิงเหอประหลาดใจจริงๆ เมื่อพบอีเฉินอยู่ที่นั่น!


 


 


นับตั้งแต่ปีที่แล้วที่เธอไม่สามารถหาที่อยู่ของเขาได้ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ประเทศ R


 


 


“ทำไมคุณอยู่ที่นี่” ซิงเหอถามด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด


 


 


อีเฉินหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ผมก็อยากจะถามคุณเหมือนกัน อันที่จริง คุณเซี่ยสนใจจะออกไปดื่มกาแฟกับผมหน่อยไหม ไปคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าสักหน่อย”


 


 


“แน่นอน ไปกันตอนนี้เลย” ซิงเหอตอบรับคำเชิญอย่างง่ายดายเพราะเธอมีหลายสิ่งที่อยากถามเขาอยู่เช่นกัน!


 


 


พ่อแม่ของอีเฉินเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์กาแล็กซี ดังนั้นการปรากฏตัวของเขาอาจช่วยเธอยืนยันความเกี่ยวโยงของตระกูลเฮ่อหลานกับโปรเจกต์กาแล็กซีได้


 


 


ยิ่งไปกว่านั้น ในความคิดของเธอ อีเฉินยังเป็นคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับโปรเจกต์กาแล็กซีมากที่สุด ในเมื่อเธอได้รับโอกาสนี้ เธอจะล้วงเอาข้อมูลมาจากเขาให้ได้


ตอนที่ 684 อยู่สูงกว่าเดิม


 


 


ซิงเหอต้องการที่จะรู้ทุกอย่างที่อีเฉินรู้!


 


 


ซิงเหอพบร้านกาแฟเงียบๆ สำหรับพักดื่มกาแฟ อีเฉินต้องการคุยกับซิงเหอตามลำพังและนั่นเป็นความต้องการของซิงเหอเช่นกัน พวกเขานั่งร่วมโต๊ะกันที่มุมในสุดของร้านซึ่งไม่มีใครสามารถแอบฟังได้ อาลิและคนที่เหลือนั่งอยู่ห่างออกไปเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์พวกเขา หรือถ้าให้ชัดเจนกว่านั้น พวกเขากำลังเฝ้าสังเกตอีเฉินเพราะกลัวว่าเขาอาจจะทำร้ายซิงเหอ


 


 


อีเฉินแอบมองพวกแซมและหัวเราะ “คนพวกนั้นเป็นเพื่อนคุณเหรอ พวกเขาดูไม่เหมือนบอดี้การ์ดในสายตาผมนะ”


 


 


“ใช่ พวกเขาเป็นเพื่อนของฉัน” ซิงเหอตอบอย่างนุ่มนวลและเอ่ยถาม “บอกฉันมาว่าคุณมาที่นี่ทำไม และทำไมคุณถึงออกมาหาฉัน”


 


 


อีเฉินไม่ตอบในทันทีแต่เลือกที่จะใช้เวลาเพื่อศึกษากรอบความคิดของซิงเหอ “เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ปีเดียวเองนะคุณเซี่ย แต่คุณสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ว่าแต่ปีที่ผ่านมาของคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ”


 


 


“ไม่เลว แต่ฉันคิดว่าเราไม่ได้มานั่งคุยถามไถ่กันแบบหวือหวาหรอกนะ” ซิงเหอกล่าว เธอพูดเข้าประเด็นทันที “อีเฉิน ฉันอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโปรเจกต์กาแล็กซี อย่าเล่นแง่กับฉันและบางทีคราวนี้เราอาจจะร่วมมือกันได้”


 


 


ริมฝีปากของอีเฉินโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “คุณเซี่ยนี่ยังเป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนเดิมเลยนะ แต่คุณแน่ใจแล้วเหรอที่จะร่วมมือกับผมน่ะ ความร่วมมือจะต้องขึ้นอยู่กับ…”


 


 


“ฉันมีเท่านี้ พอไหม” ซิงเหอชูนิ้วขึ้นสี่นิ้ว และดวงตาที่ไร้ความสนใจในตอนแรกของอีเฉินก็เปลี่ยนเป็นคมกริบขึ้นในทันที


 


 


เขาอึ้งและถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณกำลังพูดถึงของนั่นใช่ไหม”


 


 


“แล้วจะมีอะไรอีกล่ะ”


 


 


“คุณต้องล้อเล่นแน่ คุณหาที่อยู่ของมันได้เยอะขนาดนั้นได้ยังไง!” อีเฉินอ้าปากค้างด้วยความตะลึง เพราะเขาใช้เวลาทั้งปีในการหาแต่ละชิ้น จนทำให้มีอยู่ในความครอบครองของเขาสองชิ้น


 


 


ในระยะเวลาเท่ากัน ซิงเหอกลับหาได้ถึงสี่ชิ้น! เขาจะเชื่อเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน


 


 


ซิงเหอจิบกาแฟอย่างไม่รีบร้อนและกล่าวอย่างช้าๆ “คิดว่าฉันโกหกงั้นเหรอ”


 


 


“…” อีเฉินชำเลืองมองอย่างจริงจัง เขาเชื่อว่าซิงเหอไม่ได้หลอกเขา ถ้านี่เป็นคนอื่นเขาคงรู้สึกสงสัยแต่ซิงเหอสามารถทำให้เขาประหลาดใจได้ถึงสองครั้งเมื่อปีก่อนเพียงปีเดียวที่พวกเขาบังเอิญพบกัน เธอไม่มีความจำเป็นต้องโกหกเขา…


 


 


อีเฉินตระหนักได้ถึงความไร้ประโยชน์ของตัวเอง เมื่อเทียบกับซิงเหอแล้วเขารู้สึกไร้ความสามารถอย่างมาก เขาคิดว่าเขาจะสามารถไปสู่จุดเดียวกันกับเธอได้หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปี แต่เขาตระหนักได้ว่าระยะห่างระหว่างเขาทั้งสองคนนั้นมีแต่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น


 


 


อีเฉินอดบ่นไม่ได้ “คุณเซี่ยจะช่วยให้โอกาสคนอื่นอีกครั้งไม่ได้เหรอ คุณหาเจอเยอะขนาดนั้นในเวลาปีเดียวได้ยังไงกัน”


 


 


“ทั้งหมดเป็นแค่ความบังเอิญ” ซิงเหอตอบอย่างสัตย์ซื่อ ใช่แล้ว ราวกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ถูกเขียนเอาไว้ให้เธอและผลประโยชน์ต่างๆ พากันหล่นมาอยู่บนหน้าตักของเธอ


 


 


อีเฉินรู้สึกอยากไอเป็นเลือด ซิงเหอไม่เพียงแต่มีความสามารถแต่โชคยังเข้าข้างเธออีกด้วย การไม่ร่วมมือกับเธอดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่เขาจะคิดได้


 


 


“ผมจะร่วมมือกับคุณ!” อีเฉินประกาศด้วยน้ำเสียงตั้งมั่นในการตัดสินใจของตัวเองที่จะร่วมมือกับเธอ “ดังนั้นคุณต้องร่วมมือกับผมด้วยเหมือนกัน ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการ แต่ผมก็จะเกาะคิดคุณไปตลอดชีวิต”


 


 


ซิงเหอพูดไม่ออก “แผนเดิมของฉันคือการร่วมมือกับคุณอยู่แล้ว ตอนนี้จะบอกทุกอย่างที่คุณรู้ให้ฉันฟังได้หรือยัง”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 685 คิดว่าเป็นแม่ของคุณ


 


 


“โอเค!” อีเฉินให้ความร่วมมือและเอาจริงเอาจังมากขึ้น


 


 


เขาจ้องมองซิงเหอและถาม “ว่าแต่ก่อนอื่นผมมีเรื่องอยากรู้… คุณมาพัวพันกับตระกูลเฮ่อหลานได้ยังไง”


 


 


ซิงเหอถามกลับ “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันทำงานกับพวกเขา”


 


 


คนทั่วไปไม่มีทางรู้ว่าตระกูลเฮ่อหลานเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในการตามหาลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน ความจริงที่ว่าอีเฉินรู้เรื่องนี้หมายความว่าเขาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตระกูลเฮ่อหลานอยู่


 


 


คำตอบของอีเฉินช่วยยืนยันความคิดนี้ “เพราะผมตรวจสอบพวกเขามาได้สักพักแล้ว อีกอย่างการที่มีสื่อมากมายออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะระบุว่าใครเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง”


 


 


“คุณพูดถูก พวกเขามีเป็นคนควบคุมเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันเกี่ยวพันกับพวกเขาเพราะฉันกำลังตามหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กที่มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลาน” ซิงเหอตอบอย่างสัตย์ซื่อ “และผู้หญิงคนนั้นมีพื้นเพที่ไม่เหมือนใครซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตระกูลเฮ่อหลานยินดีที่จะช่วย”


 


 


“ผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ” อีเฉินยังคงจดจ้องอยู่กับซิงเหอและถาม


 


 


ซิงเหอชะงักเพราะคำถามที่น่าสงสัยนี้แต่เธอก็ยังตอบ “ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน แต่อย่างที่ฉันบอก เธอมีพื้นเพที่ไม่เหมือนใคร”


 


 


อีเฉินประหลาดใจ “ผมคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเสียอีก อย่างเป็นแม่ของคุณหรืออะไรแบบนั้น ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณแล้วเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลานได้ยังไง”


 


 


ซิงเหออึ้งอีกกว่าเดิม “คุณหมายความว่ายังไง”


 


 


อีเฉินสังเกตเห็นและรู้ได้ว่าซิงเหอยังคงไม่รู้ในอีกหลายเรื่อง


 


 


“คุณไม่รู้เหรอว่าโปรเจกต์กาแล็กซีเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน” เขาซักถาม


 


 


ซิงเหอพยักหน้า “ฉันรู้ แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวทางไหน”


 


 


“งั้นจะตามหาทำไม” อีเฉินสับสน “ผมคิดว่าเป็นเพราะคุณรู้ข้อมูลอะไรบางอย่างคุณถึงได้มาตามหาที่นี่”


 


 


“คุณทำฉันสับสน” ซิงเหอขมวดคิ้วด้วยความสับสน “ทำไมเราไม่เริ่มตั้งแต่แรก มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลาน”


 


 


“มีอะไรไม่ผิดเกี่ยวกับพวกมันบ้าง!” แววตาของอีเฉินดำมืดขึ้น “พวกมันเป็นคนริเริ่มโปรเจกต์กาแล็กซีและพ่อแม่ของพวกเราก็ถูกกำหนดให้เข้าร่วมโปรเจกต์นี้ตั้งแต่พวกเขายังเด็กมาก”


 


 


ซิงเหออึ้ง แต่วินาทีต่อมาทุกอย่างก็เริ่มปะติดปะต่อ “คุณหมายถึงพวกเขากำหนดให้บรรดาเด็กกำพร้าจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของพวกเขาเข้าร่วมโปรเจกต์นี้งั้นเหรอ”


 


 


“ถูกต้อง” อีเฉินพยักหน้า เขายังคงประทับใจความสามารถที่จะเข้าใจข้อมูลของเธอ “วัตถุประสงค์เบื้องหลังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ใช่เรื่องของการกุศลเลยสักนิด! การกุศลนั่นเป็นแค่เครื่องบังหน้าเพื่อให้พวกมันสามารถเลือกเด็กกำพร้าที่เหมาะสมไปใช้ในโปรเจกต์กาแล็กซีได้ และพ่อแม่ของเราก็ถูกเลือกเพราะอย่างนั้น”


 


 


นี่เป็นความจริงที่ซิงเหอไม่ได้คาดคิด แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วโปรเจกต์กาแล็กซีคืออะไร แต่เธอมั่นใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่!


 


 


“โปรเจกต์กาแล็กซีคืออะไรกันแน่ วัตถุประสงค์ของมันคืออะไร แล้วคุณรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง” ซิงเหอยิงคำถามเป็นชุด


 


 


คราวนี้อีเฉินส่ายหัว “โชคไม่ดีที่ผมเองก็บอกเป้าหมายจริงๆ ของโปรเจกต์นี้ไม่ได้เหมือนกัน ผมแค่ได้ยินมาจากพ่อว่ามันเป็นเรื่องที่อำมหิตอย่างไม่น่าเชื่อ เขาตามหาตระกูลเฮ่อหลานมาตลอดหลายปีนั้น แต่เขาก็หาพวกมันไม่พบ และตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม เพราะพ่อคิดว่าตระกูลเฮ่อหลานนั่นอยู่ที่จีน แต่ที่จริงแล้วมันซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศ R มาตลอด”


ตอนที่ 686 เหล่าเด็กกำพร้า


 


 


“ผมยังใช้เวลาสะกดรอยพวกมันมานาน จนผมทำการตรวจสอบหลายจากก่อนจะแน่ใจว่าคนที่เราควรพุ่งเป้าคือตระกูลเฮ่อหลานนี่แหละ ผมใช้เวลาทั้หงมดไปกับการพยายามขุดให้ถึงความจริงที่อยู่ก้นบึ้งแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ผมเห็นคุณผ่านประกาศคนหาย ตอนแรกที่เห็นผมอึ้งไปเลย ผมคิดไปเองว่าคุณรู้อะไรบ้างอย่างแล้ว เลยทำให้คุณเดินทางมาที่ประเทศ R เพื่อค้นหา แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ไม่มีอะไรอธิบายถึงเหตุผลที่คุณวางตัวอยู่กับตระกูลเฮ่อหลานได้ ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ คุณไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกมันกับผู้หญิงที่คุณกำลังตามหาอยู่ที่บังเอิญมากที่มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของพวกมัน”


 


 


“คุณแน่ใจนะว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์กาแล็กซีมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านี่” ซิงเหอจ้องมองไปยังอีกฝ่ายเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ


 


 


อีเฉินพยักหน้า “นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นแบบนั้น ไม่งั้นเราจะอธิบายวัตถุประสงค์ที่พวกมันเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าว่ายังไงได้อีกล่ะ สมมุติว่ามันเป็นเจตนาการกุศลจริง งั้นจะอธิบายเรื่องที่เด็กกำพร้ามากมายหายตัวไปว่ายังไง จนถึงตอนนี้ก็ยังมีเด็กกำพร้าหลายคนที่สูญหายไปในระหว่างที่พวกมันเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น ดังนั้นจึงคิดได้แค่อย่างเดียวว่าเด็กพวกนั้นถูกพวกมันเลือกมาจากที่นั่น เป็นทางเดียวที่จะทำทุกอย่างโดยไม่ทำให้คนภายนอกเกิดความสงสัย”


 


 


ดวงตาของซิงเหอส่องประกาย เธอไม่คาดคิดว่าจะพบว่าครั้งหนึ่งคุณแม่ของเธอจะเคยเป็นเด็กในการดูแลของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรเจกต์กาแล็กซีเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก…


 


 


เช่นนั้น บางทีลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินอาจจะถูกเลือกให้ร่วมโปรเจกต์กาแล็กซีด้วยเช่นกัน!


 


 


ไม่อย่างนั้น พวกเธอจะหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ไดอย่างไร


 


 


ซิงเหอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง “ธุรกิจหลักของตระกูลเฮ่อหลานคืออะไร ทำไมคุณแม่ของฉันถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับฉัน”


 


 


อีเฉินถอนหายใจ “ผมไม่แน่ใจเรื่องเบื้องหลังทางการเงินของตระกูลเฮ่อหลาน แต่ผมคิดว่าที่แม่ของคุณไม่เคยบอกเรื่องนี้เป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้คุณเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง”


 


 


“แต่ทำไมพวกเขาถึงไปปรากฏตัวที่เมือง A และทำไมถึงไม่สามารถหาตระกูลเฮ่อหลานพบ”


 


 


“อ้างอิงจากพ่อของผม เมืองแรกที่พวกเขาเดินทางไปถึงหลังการหลบหนีคือเมือง A แต่เพราะพวกเขาไม่มีเอกสารรับรองการมีตัวตนของตัวเอง ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะออกไปนอกเมือง A ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานั้น ข้อมูลเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้เลยว่าตระกูลเฮ่อหลานได้ย้ายออกไปต่างประเทศแล้ว แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผมเท่านั้นเพราะพ่อผมไม่ได้บอกผมทุกอย่าง ผมว่าพ่อคงรู้สึกย้อนแย้งในตัวเองเพราะใจหนึ่งพ่อคงหวังว่าวันหนึ่งผมจะช่วยเขาได้ แต่อีกใจหนึ่งพ่อคงไม่อยากผลักแรงกดดันทั้งหมดมาให้ผม”


 


 


ซิงเหอเลือกที่จะเชื่ออีเฉินเพราะเขามีประสบการณ์เหมือนกับที่เธอเคยประสบมา คุณแม่ของเธอพาเธอไปซ่อนตัวในต่างประเทศเพราะกลัวว่าพวกเธอจะถูกค้นพบ แต่ในขณะเดียวกันคุณแม่ก็ไม่เคยเปิดเผยเหตุผลว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น แต่เลือกที่จะสอนทุกอย่างที่เธอรู้ให้ซิงเหอในเวลาเดียวกัน ดังนั้นความคิดของคุณแม่ของเธอน่าจะเหมือนกับสิ่งที่พ่อของอีเฉินคิด


 


 


เวลาผ่านมานานหลายปีแต่ซิงหอยังไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคุณแม่ของเธอเลย ไม่ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปริศนาทั้งสิ้น!


 


 


ซิงเหอรู้สึกกลัวที่จะคิดต่อ เพราเธอไม่ต้องการให้อะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณแม่ของเธอทั้งนั้น!


 


 


เธอได้แต่หวังที่จะหาตัวแม่ของเธอให้พบให้เร็วที่สุด!


 


 


ไม่ว่าโปรเจกต์กาแล็กซีจะเป็นอะไร ก็ไม่มีความหมายสำหรับเธอ เธอเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยแม่ของเธอเท่านั้น แต่การที่จะทำเช่นนั้นอย่างแรกเธอจะต้องต่อกรกับตระกูลเฮ่อหลานซึ่งหากอ้างอิงจากสิ่งที่อีเฉินพูดแล้ว คนพวกนั้นเป็นภัยต่อการมีตัวตนอยู่ของแม่เธอและบรรดาเด็กกำพร้าเหล่านั้น!


 


 


ซิงเหอให้คำมั่นกับอีเฉินพร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “งั้นเราจะเริ่มกระเทาะเปลือกของตระกูลเฮ่อหลาน ท้ายที่สุดความจริงจะต้องถูกเปิดเผยให้พวกเราได้รู้”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 687 ไม่ได้มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า


 


 


อีเฉินชะงัก “คุณตั้งใจจะจัดการกับตระกูลเฮ่อหลานงั้นเหรอ”


 


 


“ใช่แล้ว” ซิงเหอพูดต่อตามความจริงราวกับเธอกำลังพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ “มีแต่ต้องต้อนพวกนั้นให้จนมุมเท่านั้นเราถึงจะได้ข้อมูลที่เราต้องการจากพวกเขา”


 


 


อีเฉินอึ้งยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะความมั่นใจของซิงเหอแต่เพราะเธอเชื่อในตัวเขาด้วยความสมัครใจอย่างง่ายดาย เธอไม่กังวลว่าเขากำลังโกหกเธออยู่บ้างหรือไง


 


 


อีเฉินอ้าปากค้าง “คุณเชื่อทุกอย่างที่ผมพูดงั้นเหรอ”


 


 


“แล้วทำไมฉันต้องไม่เชื่อล่ะ” ซิงเหอถามด้วยความสงสัย


 


 


“คุณไม่กลัวว่าผมจะแค่พูดปั่นหัวและทำให้คุณไปทำอันตรายครอบครัวคนบริสุทธิ์งั้นเหรอ” อีเฉินเอ่ยความกังวลที่อยู่ในใจของเขาออกมา เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องคิดเช่นนั้น ไม่ว่าใครก็คิดทั้งนั้น


 


 


แต่คำตอบของซิงเหอสร้างความประหลาดใจให้เขา “ฉันตัดสินใจได้เอง ในเมื่อฉันเลือกที่จะร่วมมือกับคุณ ก็เป็นธรรมดาที่ฉันจะเชื่อมั่นในตัวคุณในระดับหนึ่ง”


 


 


“แต่ผมเคยหักหลังคุณมาแล้วครั้งหนึ่ง…”


 


 


“ถ้าฉันไม่คิดว่าคุณเป็นคนที่ไว้ใจได้ เราคงไม่มานั่งคุยกันอยู่ตอนนี้หรอก”


 


 


อีเฉินมองหน้าอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเขินอายและยิ้ม “ที่จริงผมคิดว่าคุณจะไม่เชื่อใจผมอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่คุณเชื่อผม”


 


 


เธอไม่ใช่คนที่เชื่อใครง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่เคยหักหลังเธอมาก่อนอย่างเขา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณในความเต็มใจของเธอที่จะเชื่อในตัวเขาอีกครั้ง


 


 


“แต่นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้คุณ” ซิงเหอกล่าวเสริมอย่างนุ่มนวล


 


 


อีเฉินพยักหน้าเป็นคำสัญญา “ไม่ต้องห่วง คราวนี้ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!”


 


 


ถ้าทำเขาให้เธอผิดหวัง เขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของซิงเหออีกต่อไป และการได้อยู่ข้างคนที่เปล่งประกายอย่างซิงเหอเป็นโอกาสที่อีเฉินรู้สึกว่าเขาจะปล่อยไปไม่ได้ ดังนั้นอีเฉินสาบานว่านับแต่นี้ต่อไปเขาจะจงรักภักดีกับเธอ พวกเขาหารือกันอยู่อีกครู่หนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล


 


 


จากนั้นซิงเหอก็เริ่มวางแผนการต่อกรกับตระกูลเฮ่อหลาน เธอไม่อาจรอได้อีกแล้วเพราะเธอต้องการไปให้ถึงต้นตอของทุกอย่างให้ได้เร็วที่สุด เธอต้องการหาที่อยู่ของคุณแม่ตัวเองและคุณเฉินที่หายสาบสูญ!


 


 


เธอจะต้องหาทั้งคู่ให้พบ!


 


 


หลังแยกกับอีเฉิน ซิงเหอนำอาลิและพรรคพวกกลับไปยังโรงพยาบาล เธอเอาข้อมูลของคนที่มาทำการตรวจดีเอ็นเอทั้งหมดกลับไปยังโรงแรมของพวกเธอ


 


 


อาลิเอ่ยถาม “ซิงเหอ เธอจะตรวจสอบคนพวกนี้ไปทำไมกัน ดีเอ็นเอของพวกเขาไม่ตรงกับอันที่เธอเอามาด้วยสักหน่อยไม่ใช่เหรอ หรือเธอสงสัยว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะเป็นหนึ่งในคนพวกนั้น”


 


 


ซิงเหอส่ายหัว “ไม่ ไม่ใช่แน่นอน”


 


 


“งั้นเธอจะทำไปทำไม” อาลิถาม


 


 


“ตอนนี้ฉันยังบอกอะไรไม่ได้ แต่ฉันจะรู้หลังจากที่ทำเสร็จ” คำตอบของซิงเหอทำให้พวกอาลิสับสนแต่พวกเขาไม่สงสัยหรือรบกวนเธอได้พิสูจน์มาตลอดว่าเธอคิดถูก ดังนั้นซิงเหอจะต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำเรื่องพวกนี้


 


 


ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายวัน มีผู้หญิงนับร้อยคนที่เข้ามารับการตรวจดีเอ็นเอ ซิงเหอไม่ได้ดูข้อมูลของทุกคน แต่เธอเลือกสุ่มออกมาบางส่วนและผลที่ออกมาช่วยยืนยันข้อสงสัยของซิงเหอ


 


 


บรรดาผู้หญิงที่เธอตรวจสอบ ไม่มีใครสักคนที่เติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลเฮ่อหลาน!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม