หวนแค้นชะตารัก 354-361

 ตอนที่ 354 ผู้หญิงที่น่ากลัว


 


กู้หลียวนบ่น พูดจบก็กลัวว่าซูจิ่วซือจะเป็นห่วง จึงพูดเสริม “ข้าไม่เป็นไร สองวันที่ผ่านมาพอโดนลมโดนแดด อาการลมหนาวหายแล้ว เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง จงมั่วเจียงข่มเหงเจ้าหรือไม่”


 


 


“ข้าไม่เป็นไร เจ้ายืนหยัดอีกสามวันนะ”


 


 


“เจ้ามั่นใจว่าจะรับมือกับจงมั่วเจียงได้หรือ”


 


 


ซูจิ่วซือพยักหน้าอย่างหนักแน่น “มั่นใจ สามวันหลังจากนี้เราต้องได้ออกจากที่นี่”


 


 


“ข้าไม่เป็นไร แค่ทำงานใช้แรงนิดหน่อย ไม่เคยทำมาก่อน แต่พอทำไปทำมา ก็รู้สึกสนุกกับการผ่าฟืน เจ้าต้องระวัง อย่าเสี่ยงอันตราย พอถึงตอนนั้นเราค่อยคิดหาทาง ชีวิตสำคัญที่สุด”


 


 


ซูจิ่วซือปิดปากหัวเราะ “ถ้าผ่าฟืนสนุก เจ้าก็อยู่ผ่าฟืนที่นี่ไปตลอดชีวิตดีไหม”


 


 


“ถ้าเจ้ายินดีอยู่กับปีศาจมือสังหารไปตลอดชีวิต ข้าก็จะอยู่ผ่าฟืนไปตลอดชีวิตเหมือนกัน”


 


 


“เอาคนเก่งมาทำงานเล็กๆ น้อยๆ ” ซูจิ่วซือไม่ได้พูดเล่นกับกู้หลียวนอีก นางมาเยี่ยมกู้หลียวน ให้มั่นใจว่าเขาสบายดี นางก็วางใจแล้ว โชคดีที่จงมั่วเจียงไม่อาศัยกู้หลียวนมาบีบนาง


 


 


ซูจิ่วซือไม่อยู่นาน พูดคุยกับกู้หลียวนครู่งหนึ่งแล้วก็ไป


 


 


คืนนั้น ซูจิ่วซือไม่ง่วงแม้แต่น้อย นางเอนหลังกับเตียงอ่านหนังสือ จงมั่วเจียงรู้ว่านางชอบอ่านหนังสือ จึงให้คนหาหนังสือมาให้นางมากมาย หลากหลายแนว ซูจิ่วซือจึงอ่านคร่าเวลา


 


 


 ข้างนอกมีพายุ เสียงลมกระแทกหน้าต่าง ทำให้หน้าต่างที่ปิดอยู่เปิดออก ตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะถูกลมพัดดับ


 


 


ทั่วทั้งห้องมืดมิดทันที


 


 


ซูจิ่วซือวางหนังสือในมือลง นึกถึงการท้าพนันกับจงมั่วเจียง นางรู้ว่าคราวนี้เกิดเรื่องแน่ แต่ไม่รู้ว่าจงมั่วเจียงเตรียมอะไรไว้


 


 


จากนั้นประตูห้องของซูจิ่วซือก็ดังแกรกกราก เป็นเสียงประตูห้องถูกผลักเข้ามา รอบข้างมืดสนิท เสียงผลักประตูที่ดังขึ้นกระทันหันทำให้ขวัญผวา


 


 


ซูจิ่วซือลุกขึ้นคลำขอบโต๊ะ เตรียมจุดตะเกียงน้ำมันอีกครั้ง ข้างตะเกียงมีหินเหล็กไฟวางอยู่


 


 


ทันใดนั้นนางก็รู้สึกมีมือเย็นวาบคู่หนึ่งมาจับที่ไหล่ทางด้านหลัง มือนั้นเหมือนออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง ไม่มีความอุ่นแม้แต่น้อย ทำให้อดขนลุกไม่ได้


 


 


ซูจิ่วซือไม่รู้ว่ามือสองข้างที่จับไหล่นางไว้เป็นใคร มือเย็นวาบนี้ไม่เหมือนคนเป็น


 


 


นางสงบลงทันที ไม่ใส่ใจมือนั้น ถามราบเรียบ “เจ้าเป็นใคร”


 


 


“ข้าอยู่คนเดียวข้างล่างเหงาเหลือเกิน เจ้าลงมาเป็นเพื่อนข้าได้ไหม เมื่อก่อนบ้านนี้เป็นของข้า ข้าอยู่ที่นี่หลายปี”


 


 


เป็นเสียงโหยหวนของผู้หญิง ดังแว่วขึ้นอย่างเลือนราง พอได้ยินก็รู้สึกขนลุกซู่


 


 


“ข้าไม่ถือสาถ้าเจ้าจะอยู่ที่นี่” ซูจิ่วซือเริ่มรู้สึกเครียดแต่แล้วก็สงบลงอย่างรวดเร็ว นางคลำเจอหินเหล็กไฟแล้ว จึงก้มหน้าลงจุดตะเกียงน้ำมัน


 


 


มือที่วางบนไหล่ของนางขยับออกห่าง ขณะที่นางเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นผู้หญิงชุดแดง


 


 


ผู้หญิงคนนี้สยายผม ใบหน้าซีดขาว เลือดไหลทั่วทวารทั้งเจ็ด ดวงตาไร้แวว เปลือกตาขวามีแผลเน่าเฟอะเป็นรูโหว่ ที่ปากแผลมีหนอนสีขาวคลานยั้วเยี้ย น่าหวาดผวา


 


 


ทันทีที่เห็นแวบแรง ซูจิ่วซือรู้สึกตกใจจริงๆ


 


 


นางเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงเบื้องหน้าจะน่ากลัวกว่าที่คิด อย่างน้อยปากแผลก็ไม่ใช่ของปลอม หนอนก็ไม่ใช่ของปลอม จงมั่วเจียงไปหาคนอย่างนี้มาจากไหน


 


 


 


 


——


 


 


ตอนที่ 355 ไม่อาจทนเห็นนางตาย


 


 


 


 


“แม่นางมีอะไรจะสั่งสอนหรือไม่”


 


 


ชั่วพริบตา ซูจิ่วซือก็สงบลง นางเคยผ่านอุปสรรคมามาก มีความกล้าหาญกว่าคนทั่วไป แม้จะกลัวบ้าง แต่ไม่ถึงกับผวา


 


 


ผู้หญิงคนนั้นยื่นมือซีดขาวออกมาลูบหน้าซูจิ่วซือ เล็บของนางยาว “ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่กับข้า”


 


 


แสงตะเกียงริบหรี่แต่ก็ส่องให้เกิดเงา ข้างหลังของซูจิ่วซือมีเงา แต่แม่นางคนนี้ไม่มีเงา หรือว่านางไม่ใช่คนจริงๆ


 


 


“ข้าเป็นคนน่าเบื่อ ถ้าไปอยู่กับแม่นางจริงๆ  กลัวว่าแม่นางจะไม่สนุก”


 


 


“เจ้าเป็นคนที่ข้าเลือกแล้ว ตามข้ามา!”


 


 


เสียงของผู้หญิงยังคงเย็นเยือก มือที่จับแก้มซูจิ่วซือเลื่อนไปที่คอของซูจิ่วซือ บีบคอซูจิ่วซือแน่น


 


 


ซูจิ่วซือหายใจไม่ออก นางยื่นมือออกไปแตะถูกตะเกียง หยิบตะเกียงขึ้นฟาดหน้าผากของหญิงคนนั้นอย่างแรง


 


 


ตามปกติแล้ว หน้าผากควรจะมีเลือดไหล แต่หน้าผากของหญิงคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีเลือดออกไม่มีรอยช้ำ ราวกับเป็นแผ่นสัมฤทธิ์ ทั้งเนื้อทั้งตัวเย็นยะเยือก ซูจิ่วซือยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คน


 


 


ถ้านางไม่ใช่คน แล้วเป็นอะไร


 


 


นางไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี จงมั่วเจียงเอาคนประหลาดมาจากไหน


 


 


ตะเกียงในมือซูจิ่วซือตกพื้น ห้องตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง มือที่บีบคอซูจิ่วซือรัดแน่นเข้าเรื่อยๆ  ซูจิ่วซือรู้สึกหายใจไม่ออก หญิงคนนี้อาจจะบิดคอนางขาดเมื่อไรก็ได้


 


 


ซูจิ่วซือออกแรงผลักโต๊ะล้มลง ในห้องมีเสียงดังสนั่น พอถึงตอนนี้มือที่บีบคออยู่หายวับไปทันที ได้ยินเสียงดังเพล้ง มีอะไรบางอย่างล้มลงกับพื้น


 


 


ซูจิ่วซืออ้าปากหายใจหอบ มีคนรวบนางไว้ในอ้อมอก


 


 


กลิ่นผู้ชายแปลกหน้า ซูจิ่วซือได้สติรีบผลักผู้ชายที่กอดตนออกไป “จงมั่วเจียง ปล่อยข้า”


 


 


“ทำไมเจ้าขัดขืน ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้า ไม่รู้จักตอบแทนคุณข้า”


 


 


จงมั่วเจียงปล่อยมือ ครู่หนึ่งก็มีสาวใช้ถือตะเกียงน้ำมันเข้ามา ในห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง


 


 


ซูจิ่วซือหายใจหอบ มองดูผู้หญิงชุดแดงนอนเหยียดยาวที่พื้น ร่างนั้นแข็งทื่อ นางมองจงมั่วเจียงด้วยความสงสัย “นี่มันอะไรกัน” 


 


 


“เจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ”


 


 


“คนนี้ไม่มีเงา ไม่มีความอุ่น ไม่ใช่คนปกติแน่ เจ้าสำนักจงทุ่มเทจริงๆ  ต้องการให้ข้าตกใจ ถึงกับหาคนประหลาดอย่างนี้มา”


 


 


ซูจิ่วซือสีหน้าเคร่งเครียด และรักษาระยะห่างจากจงมั่วเจียงโดยไม่ให้รู้ตัว นางไม่ชอบใกล้ชิดผู้ชายอื่นเกินไป


 


 


จงมั่วเจียงยอมรับซูจิ่วซืออย่างแท้จริง เขาพูดอย่างจนใจ “เจ้าเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญจริงๆ  ยังพูดคุยกับนางได้ ไม่กลัวนางฆ่าเจ้าหรือ นางฆ่าคนได้จริงๆ  ไม่ได้ล้อเล่น”


 


 


“ความกลัวแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เมื่อกี้ขอบใจเจ้าสำนักจงที่มาช่วยข้า”


 


 


จงมั่วเจียงกลับไม่อยากช่วยซูจิ่วซือจริงๆ  แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นซูจิ่วซือตายต่อหน้าต่อตา ผู้หญิงคนนี้ดึงดันจริงๆ  ยอมตายก็ไม่ขอความช่วยเหลือ บีบให้เขาต้องช่วย หรือว่านางไม่กลัวตายจริงๆ


 


 


เดิมทีเขาคิดว่าคราวนี้คงทำให้ซูจิ่วซือตกใจกลัว ปรากฏว่านางไม่กลัวแม้แต่น้อย อายุสิบกว่าทำไมจึงมีจิตใจที่แข็งแกร่งปานนี้ เทียบได้กับคนคุ้มกันที่ผ่านการฝึกเป็นพิเศษ


ตอนที่ 356   ต้องแพ้แน่


 


 


 


 


ทำอย่างไรดี เขาชื่นชมผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ  และไม่รู้จะทำอย่างไรกับนางดี เขาสังหรณ์ใจว่าตนคงแพ้แน่ เขาไม่อาจปล่อยให้นางเป็นอันตราย แต่ซูจิ่วซือกลับดึงดันเอาชีวิตเข้าเสี่ยง


 


 


การท้าพนันคราวนี้เขาแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่หวั่นไหวเสียเอง


 


 


“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าผ่านทางมาช่วยเจ้าเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้ถูกวางยาพิษประหลาด จึงกลายเป็นอย่างนี้ คนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง เป็นคนประหลาด เวลานี้นางเป็นลม แม่หนู เจ้าจะอยู่กับนางไหม ในเมื่อเจ้าเองก็ไม่กลัว”


 


 


“ไม่เป็นไร ข้าอยู่ที่ไหนก็ปรับตัวได้ ที่นี่เป็นพื้นที่ของเจ้าสำนักจง เจ้าอยากให้ข้าอยู่ไหนข้าก็อยู่นั่น ไม่เป็นไรหรอก”


 


 


ซูจิ่วซือรับปากทันที ไม่ลังเลหรือหวาดกลัวแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้นางยังคาดเดาไม่ออก เวลานี้นางมั่นใจ รู้ว่าตนต้องชนะแน่


 


 


“เจ้า…เจ้าเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญจริงๆ ” จงมั่วเจียงให้คนพาหญิงที่นอนบนพื้นออกไป พูดด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้ากลับก่อนละ”


 


 


พูดจบก็ออกไปจากห้อง


 


 


ให้ปล่อยซูจิ่วซือไป เขาเองก็ไม่ยินยอม โอกาสที่เขาจะพบผู้หญิงที่น่าสนใจอย่างนี้มีไม่มาก เขาไม่เข้าใจผู้หญิง ไม่เท่ากับว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจผู้หญิง ดูแล้วคงต้องให้ยอดฝีมือมาช่วย


 


 


พอกลับเข้าไปในห้อง จงมั่วเจียงไม่รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย เขาเรียกซิ่วหลานสาวใช้ใกล้ชิด


 


 


ซิ่วหลานยืนข้างหน้าจงมั่วเจียงอย่างนอบน้อม รอคำสั่งจากจงมั่วเจียง


 


 


“ซิ่วหลาน เจ้าก็เป็นผู้หญิง คงเข้าใจผู้หญิงดี เจ้าบอกหน่อยว่าทำอย่างไรจึงจะชนะใจผู้หญิง”


 


 


จงมั่วเจียงใช้วิธีการต่างๆ  นานาที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ แต่กลับไม่ได้ผลสำหรับซูจิ่วซือ เงินทองของมีค่าไม่อาจทำให้ซูจิ่วซือสนใจ ผีผู้หญิงก็ยังเอามาใช้ ซูจิ่วซือกลับไม่สะทกสะท้าน


 


 


เขาจนปัญญาจริงๆ  แม้ไม่คาดหวังว่าซิ่วหลานจะมีความเห็นที่ดี แต่ก็ควรจะถามสักหน่อย


 


 


ซิ่วหลานเงยหน้า มองจงมั่วเจียงด้วยความประหลาดใจ นางรับใช้จงมั่วเจียงมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นจงมั่วเจียงกลัดกลุ้ม เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่อยากจะเชื่อ


 


 


นางไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของจงมั่วเจียงอย่างไร สำหรับนางแล้ว จงมั่วเจียงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น หัวใจของนางก็เป็นของจงมั่วเจียงแล้ว


 


 


หากจงมั่วเจียงยินดี นางจะเป็นผู้หญิงของเขาทันที เสียดายที่จงมั่วเจียงไม่ชอบนาง


 


 


นางทุ่มเทอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่ซูจิ่วซือไม่ได้ใส่ใจเลย สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ  นางไม่รู้ว่าซูจิ่วซือคนนั้นมีดีอะไร หน้าตาไม่ได้สวยโดดเด่น แต่ละวันสีหน้าไร้ความรู้สึก เย็นชากับจงมั่วเจียงมาก แต่จงมั่วเจียงกลับสนใจซูจิ่วซือ


 


 


ในเมื่อจงมั่วเจียงถาม นางย่อมต้องตอบ นางคิดครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นตอบ “เจ้าสำนัก แม่นางคนนี้คงไม่มีใจให้ เจ้าสำนักใช้วิธีการต่างๆ จนหมดแล้ว แต่แม่นางก็ไม่หวาดหวั่น ที่เจ้าสำนักทำอย่างนี้ไม่มีผลต่อแม่นางแม้แต่น้อย ขืนทุ่มเทต่อไปก็คงสูญเปล่า บ่าวมีวิธีหนึ่งที่น่าจะใช้ได้”


 


 


“วิธีใด”


 


 


จงมั่วเจียงนึกไม่ถึงว่าซิ่วหลานจะมีวิธีกำราบซูจิ่วซือ รีบซักถาม


 


 


ซิ่วหลานพูดต่อ “เจ้าสำนัก บ่าวได้ยินมาว่าคุณหนูตระกูลใหญ่ต้องรักษาพรหมจรรย์ วันแต่งงานต้องให้หมัวมัวตรวจ คุณหนูตระกูลใหญ่คนใดไม่รักษาพรหมจรรย์จะไม่มีใครแต่งงานด้วย และจะถูกลอบฆ่า”


 


 


 


 


——


 


 


ตอนที่ 357 อยากให้เจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไป


 


 


 


 


“คุณหนูตระกูลใหญ่ใส่ใจที่สุดก็คือชื่อเสียง ชื่อเสียงสำคัญกว่าชีวิต ถ้าเจ้าสำนักวางยาคุณหนูซู แล้วขืนใจ แม้คุณหนูซูไม่ยอม ก็ไม่อาจแต่งงานกับคนอื่น พอถึงตอนนั้นก็ต้องอยู่กับเจ้าสำนัก”


 


 


จงมั่วเจียงครุ่นคิด นี่เป็นวิธีที่จะได้ซูจิ่วซือ ถ้านางเสียชื่อเสียง ย่อมไม่อาจแต่งงานกับฟู่เฉินหรง และไม่มีหน้าจะไปหาฟู่เฉินหรง แต่ถ้าเขาทำอย่างนี้จริง ซูจิ่วซือคงแค้นเขาแน่ ชาตินี้นางคงไม่ให้อภัยเขา


 


 


เขาชอบซูจิ่วซือจริงๆ  จึงไม่อยากข่มเหงนาง วิธีที่จื่อหลานแนะใช้ได้ เขาไม่อยากทำนัก แต่ก็รู้ดี ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ต้องปล่อยซูจิ่วซือไป การพนันครั้งนี้ เขาต้องแพ้แน่


 


 


ปล่อยนางไป จงมั่วเจียงก็ไม่ยินยอม นี่เป็นปัญหาหนักใจ


 


 


พอเห็นจงมั่วเจียงลังเล ซิ่วหลานก็แนะต่อ “เจ้าสำนัก หากได้ตัวนางแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าสำนักคงจะทำให้นางหวั่นไหว ถึงไม่ยินยอม แต่นางก็ยอมรับชะตากรรม ผู้หญิงมักจะเป็นอย่างนี้


 


 


ถ้าคุณหนูซูตั้งท้อง เจ้าสำนักยังอาศัยลูกผูกมัดคุณหนูซู พอถึงตอนนั้นคุณหนูซูก็ต้องอยู่กับเจ้าสำนักไม่มีทางเลือกอื่น เจ้าสำนักดีต่อนางอย่างนี้ นางจะค่อยๆ ยอมรับเจ้าสำนัก”


 


 


ซิ่วหลานไม่ชอบซูจิ่วซือ นางดูออกว่าซูจิ่วซือไม่ชอบจงมั่วเจียงแม้แต่น้อย และยังปฏิเสธเขามาก


 


 


หากซูจิ่วซือถูกจงมั่วเจียงขืนใจ วันข้างหน้าคงจะทรมานแสนสาหัส ถ้าคลั่งขึ้นมา อาจจะฆ่าตัวตาย นางก็อยากเห็นซูจิ่วซือพบจุดจบที่น่าสังเวช


 


 


ในเมื่อจงมั่วเจียงชอบ เพื่อให้จงมั่วเจียงมองนางด้วยสายตาใหม่ นางจึงพยายามเสนอแผนการให้จงมั่วเจียง วันหลังถ้าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ดี นางก็จะแสดงตนเป็นคนที่เข้าใจจิตใจของคนทั้งสอง จงมั่วเจียงย่อมจะเห็นความดีของนาง การเข้าแทนที่ซูจิ่วซือจึงจะทำได้อย่างง่ายดายราบรื่น


 


 


นางไม่เชื่อว่าจงมั่วเจียงจะสนใจผู้หญิงที่ไม่รักเขาไปตลอด เวลานี้เขาแค่หาวิธีเอาชนะซูจิ่วซือเท่านั้น


 


 


“เจ้าออกไปก่อน!”


 


 


จงมั่วเจียงไม่ได้ตัดสินใจทันที แต่โบกมือให้ซิ่วหลานออกไป


 


 


พอซิ่วหลานไปแล้ว จงมั่วเจียงนอนไม่หลับ เขาคิดทบทวนเรื่องนี้ นึกถึงว่าถ้าปล่อยซูจิ่วซือไปเขาก็ไม่ยินยอม ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ แค้นก็แค้นเถอะ! เขาจะชดเชยให้ทั้งชีวิต เขาไม่เชื่อว่าชาตินี้นางจะไม่ให้อภัยเขา


 


 


ส่วนเรื่องลูก ซูจิ่วซือไม่อาจมีลูกได้ ไม่เช่นนั้นคงตายแน่ เขาไม่คาดหวังเรื่องลูก เขาเป็นลูกชายคนเดียว วันหลังเขาก็รับเลี้ยงเด็กฉลาดสักคนเอามาบ่มเพาะให้รับช่วงสำนักวิหคเขียว เหมือนกับอาจารย์ของเขา


 


 


แม่หนู อย่าโทษข้าเลย ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้าอยู่กับข้า


 


 


ซูจิ่วซือไม่รู้ว่าจงมั่วเจียงเกิดความคิดอย่างนี้ นางนอนบนเตียง ในสมองนึกถึงแต่ฟู่เฉินหรง ความรู้สึกคิดถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ไม่รู้ว่าเวลานี้เขาทำอะไรอยู่


 


 


เฉินหรง เจ้ายังรอข้าหรือไม่


 


 


บังเอิญฟู่เฉินหรงก็นอนไม่หลับ เขายืนอยู่ที่หน้าต่าง แหงนหน้ามองจันทร์เสี้ยว มองไปมองมา จันทร์เสี้ยวกลายเป็นซูจิ่วซือ กำลังยิ้มให้เขา แววตาของเขาอ่อนโยนลง จ้องมองท้องฟ้าตลอดเวลา


 


 


“จิ่วเอ๋อร์ วันหลังอย่าจากข้าไปอีก ความคิดถึงช่างทรมานเหลือเกิน”


 


 


เขาพึมพำอยู่คนเดียว เวลานี้เขายังไม่ได้ข่าวคราวจากซูจิ่วซือ ไม่รู้ว่านางอยู่ไหน ทำให้เขาเป็นห่วงและยินดี ไม่ได้ข่าวแสดงว่านางไม่เป็นอะไร


 


 


เวลานี้เขาไม่มีวิธีอื่น ได้แต่ตามหาซูจิ่วซือต่อไป แม้ต้องพลิกแผ่นดิน เขาก็จะตามหาให้ได้


ตอนที่ 358 เป็นที่รักของผู้ชาย


 


 


 


 


วันรุ่งขึ้น ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ จู่ๆ  ก็ได้ยินเสียงพูดคุยนอกห้อง เป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก


 


 


นางรีบวางหนังสือในมือลง เปิดประตูห้อง เห็นเผยปิงปิงกำลังพูดคุยยิ้มหัวกับจงมั่วเจียง


 


 


เผยปิงปิงสวมชุดสีแดงท้อ ยิ้มแย้มแจ่มใส หัวเราะร่าตลอดเวลา สนิทสนมกับจงมั่วเจียงมาก


 


 


สองคนนี้รู้จักกัน เป็นเรื่องที่ซูจิ่วซือคาดไม่ถึง นางจึงมั่นใจว่าต้องหนีจากที่นี่ได้


 


 


ตามเงื่อนไขที่พนันกัน ยังมีเวลาอีกสองวัน จงมั่วเจียงก็จะปล่อยนาง นางเชื่อว่าจงมั่วเจียงเป็นคนรักษาสัญญา


 


 


“ปิงปิง”


 


 


ซูจิ่วซือยืนที่หน้าประตู ร้องทัก


 


 


พอได้ยินเสียงซูจิ่วซือ เผยปิงปิงก็หันมามอง ทันทีที่เห็นซูจิ่วซือ นางตะลึง แล้วเข้าใจทันที “เป็นไปได้หรือ! จงมั่วเจียง นี่หรือสาวสวยที่เจ้าพูดถึง”


 


 


พอรู้ว่าจงมั่วเจียงชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เผยปิงปิงก็ตั้งใจให้จงมั่วเจียงพามาดู อยากรู้ว่าสาวสวยแบบไหนที่ถูกใจจงมั่วเจียงปีศาจมือสังหารคนนี้


 


 


เสียเวลาตั้งนาน จึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือซูจิ่วซือ ว่าไปแล้วนางกับซูจิ่วซือมีวาสนาต่อกันไม่น้อย ได้พบกันหลายครั้งหลายหน


 


 


“เจ้าสองคนรู้จักกันหรือ”


 


 


จงมั่วเจียงนึกไม่ถึงว่าเผยปิงปิงรู้จักซูจิ่วซือมาก่อน เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจ


 


 


“ไม่ใช่แค่รู้จัก นี่เป็นน้องสาวข้า เท่าที่รู้ นางมีเจ้าของแล้ว จงมั่วเจียง เจ้าสนใจแย่งคนรักของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร รีบปล่อยน้องสาวข้า”


 


 


เผยปิงปิงเดินมาหาซูจิ่วซือ ยื่นมือไปตบไหล่ซูจิ่วซือ ราวกับจะบอกให้นางวางใจ


 


 


“ผู้ชายไม่มาขอผู้หญิงก็ยังโสด ฟู่เฉินหรงมีคู่หมั้นแล้ว ข้าไม่ได้แย่งคนรัก แค่ปลอบใจคนสวยที่กำลังอกหัก


 


 


ปิงปิง ในเมื่อเจ้ารู้จักจิ่วซือแล้ว งั้นเจ้าสองคนคุยกันให้เต็มที่ อยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง เราสองคนจะได้คารวะเป็นพี่น้องกัน แม้ไม่ช่วยก็อย่าทำให้ข้ายุ่งยาก ไม่งั้นก็ไม่ต้องเป็นพี่น้องกัน”


 


 


จงมั่วเจียงรู้นิสัยเผยปิงปิงดี เป็นแม่นางที่รักความยุติธรรม เขาเองก็กลัวว่าเผยปิงปิงจะมาก้าวก่าย ถ้ารู้ว่าสองคนนี้รู้จักกันมาก่อน เขาไม่มีวันพาเผยปิงปิงมาหาซูจิ่วซือ


 


 


ฟ้าลิขิตอย่างนี้ ต้องการให้เขาปล่อยซูจิ่วซือใช่หรือไม่ เขาต้องการจะฝืนลิขิตฟ้า ยังมีวิธีสุดท้าย ทำอย่างนั้นซูจิ่วซือต้องไม่จากไปแน่


 


 


“เราสองคนมีเรื่องจะคุยกันแบบผู้หญิง จงมั่วเจียง เจ้าไปจัดการธุระของเจ้าเถอะ”


 


 


จงมั่วเจียงไม่พูดอะไร เขาออกไปจากเรือนของซูจิ่วซือ หลายวันมานี้ซูจิ่วซือไม่ได้พูดคุยอะไรเลย คงจะเบื่อมาก เผยปิงปิงมาแล้ว ให้นางอยู่กับซูจิ่วซือก็ดี


 


 


เผยปิงปิงดึงซูจิ่วซือไปใกล้ตัว พูดอย่างห่วงใย “เรื่องราวเป็นอย่างไร ทำไมอยู่ดีๆ  ก็มาตกอยู่ในกำมือจงมั่วเจียง เจ้าช่างเป็นที่รักของผู้ชายจริงๆ  ตอนอยู่หมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานพ่อข้าอยากแต่งงานกับเจ้า พอมาที่นี่ จงมั่วเจียงก็อยากแต่งงานกับเจ้า”


 


 


“เรื่องมันยาว”


 


 


“ข้าไม่ได้ด้อยกว่าเจ้า ทำไมข้าถึงไม่มีวาสนากับผู้ชายเหมือนเจ้า


 


 


ตอนที่ข้ารู้จักจงมั่วเจียงใหม่ๆ  ข้าเคยชอบเขา แต่สุดท้ายเจ้าก็เห็นแล้ว ข้ากับเขากลายเป็นพี่น้องกัน


 


 


ข้ายังนึกว่าจงมั่วเจียงคงไม่ชอบใครง่ายๆ  แต่กลับชอบเจ้าอย่างง่ายดาย บ้าจริงๆ  คนที่ข้าชอบกลับชอบเจ้า จิ่วซือ หรือว่าเราสองคนเคยเป็นคู่แค้นกันในอดีตชาติ”


 


 


เผยปิงปิงไม่ได้โทษซูจิ่วซือ เพียงแต่รู้สึกประหลาดใจ นางอยากแต่งงานกับผู้ชายที่ใจตรงกับนาง นึกไม่ถึงว่าจะยากเย็นอย่างนี้


 


 


สำหรับซูจิ่วซือกลับเป็นเรื่องง่าย นางช่างเป็นที่รักของผู้ชายจริงๆ


 


 


 


 


——


 


 


ตอนที่ 359 วิตกเรื่องแต่งงาน


 


 


 


 


“ความจริงมีคนหนึ่งที่คิดถึงเจ้าตลอดเวลา”


 


 


พอเห็นเผยปิงปิงสีหน้ากลัดกลุ้ม ซูจิ่วซือก็นึกถึงกู้หลียวน แล้วพูดขึ้น


 


 


กู้หลียวนประทับใจในตัวเผยปิงปิง แต่ทั้งสองไม่มีโอกาสใกล้ชิดกัน ไม่เช่นนั้นนางคิดว่ากู้หลียวนคงจะรักเผยปิงปิงแน่


 


 


“ใคร ทำไมข้าไม่รู้”


 


 


ซูจิ่วซือหัวเราะ “เจ้าอยากแต่งงานหรือ”


 


 


“ใช่สิ ชีวิตนี้ข้ายินดีแต่งงานกับคนที่ใจตรงกับข้า อยู่กับข้าไปจนแก่เฒ่า”


 


 


เผยปิงปิงไม่อ้อมค้อม บอกความคิดของตัวเองอย่างเปิดเผย เวลานี้นางอายุสิบเก้าปี ผู้หญิงอายุเท่านางส่วนใหญ่แต่งงานไปแล้ว นางยังคงรออยู่ รอคนที่นางอยากแต่งงานด้วยและยินดีแต่งงานกับนาง


 


 


ตั้งแต่ปีที่ทำพิธีเกล้าผมนางก็รอมาตลอด เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า รอจนถึงเวลานี้นางรู้สึกว่าคงไม่มีคนอย่างนี้แล้ว เผยไป๋ชวนเร่งรัดให้นางแต่งงาน แต่นางไม่ใส่ใจ ถ้าชาตินี้ไม่พบคนที่ใจตรงกับนาง นางก็ไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าอยู่อย่างแม่ของนางไปตลอดชาติ


 


 


เวลานี้หัวใจของนางมีความหวัง แต่ก็สิ้นหวัง นางวิตกเรื่องแต่งงาน 


 


 


“ฟ้าย่อมลิขิตไว้แล้ว ปิงปิง เจ้าเป็นผู้หญิงที่ดี วันหลังต้องเจอผู้ชายที่รักใคร่เอาใจใส่เจ้า”


 


 


ซูจิ่วซือไมได้ว่าเผยปิงปิง เพียงแต่ปลอบใจเ แม้ดูภายนอกเผยปิงปิงเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน ความจริงแล้วในใจนางเป็นผู้หญิงละเอียดอ่อน แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน!


 


 


นางเคยคิดอย่างเดียวกับเผยปิงปิง หลังจากฟื้นชีพ นางก็ล้มเลิกความคิดเหล่านี้ มีชีวิตเพื่อแก้แค้นและเพื่อตัวเอง ไม่คาดหวังสิ่งที่เรียกว่าความรัก นึกไม่ถึงว่าสวรรค์กลับลิขิตให้นางพบฟู่เฉินหรง


 


 


ตั้งแต่พบฟู่เฉินหรง นางก็ไม่ใช่ซูหลิ่วคนเดิมอีกต่อไป ซูหลิ่วพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่ตนอยู่ร่วมด้วย ยกเขาไว้เหนือหัว แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาพอใจ กู้เหยี่ยนเรียกร้องนางมากขึ้นเรื่อยๆ  


 


 


เวลานี้นางเข้าใจแล้ว ผู้หญิงไม่ควรพึ่งผู้ชายมากเกินไป ตัวนางเองมีแสงสว่างในตัว ทำไมต้องให้ผู้ชายมาทำลาย ให้ตัวเองมืดลง


 


 


ต่อไปนางไม่มีวันยอมลดตัวเพื่อรักษาความสัมพันธ์ และไม่มีวันซ่อนตัว นางเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองอยู่แล้ว


 


 


จุดนี้นางกับฟู่เฉินหรงคิดตรงกัน ทั้งสองต่างเสริมซึ่งกันและกัน คู่ควรกันอย่างแท้จริง


 


 


ถ้าไม่ได้พบเขา ชีวิตนี้นางคงไม่แต่งงาน


 


 


นางไม่เหมือนเผยปิงปิง ที่ไม่เคยผ่านโลก มีความหวังมากมายต่อสิ่งที่ยังไม่รู้


 


 


ซูเหมยตายไปแล้ว เวลานี้นางมีความปรารถนาอย่างเดียวคืออนาคตของฟู่เฉินหรง


 


 


เผยปิงปิงหัวเราะร่า เสียงดังกังวานเหมือนกระดิ่ง “เจ้าออกมาคราวนี้ กู้หลียวนไม่ได้มาด้วยหรือ”


 


 


“เขาก็มา”


 


 


“เขาดีต่อน้องสาวอย่างเจ้ามาก ไปไหนก็ไปด้วย ข้าไปหากู้หลียวนก่อน พอค่ำค่อยมาหาเจ้า ข้าอยากช่วยเจ้าจริงๆ  แต่จงมั่วเจียงไม่เห็นด้วย ข้าไม่อาจพาเจ้าออกไปได้ เจ้าก็รู้ว่าสำนักวิหคเขียวทำอะไร เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าส่งจดหมายไปให้ฟู่เฉินหรง ให้เขามาช่วยเจ้า”


 


 


พอได้ยินเผยปิงปิงว่าจะบอกฟู่เฉินหรง ซูจิ่วซือก็รีบสั่นหัวทันที “ถ้าเขารู้ คงมาหาด้วยตัวเองแน่ เวลานี้เขาออกจากเมืองหลวงไม่ได้ เรื่องนี้อย่าบอกเขา ข้าหาวิธีออกไปได้”


 


 


“ในเมื่อเจ้าพูดอย่างนี้ ก็แล้วแต่เจ้า ข้าจะพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ จงมั่วเจียงไม่ใช่คนเลว เขาชอบเจ้ามาก ไม่มีวันทำร้ายเจ้าแน่ เจ้าอยู่ที่นี่ มีอาหารอย่างดีให้กิน”


ตอนที่ 360 ข้าจะให้เจ้าดูแลไปตลอดชีวิต


 


 


 


 


พอพูดจบ เผยปิงปิงก็ออกไป ซูจิ่วซือกลับเข้าห้อง หยิบหนังสือบนโต๊ะมาอ่านต่อ ได้พบเผยปิงปิงที่นี่ คงเป็นวาสนาระหว่างเผยปิงปิงกับกู้หลียวน นางรู้ว่าทั้งสองคงจะมีอนาคตร่วมกัน


 


 


ไม่แน่เผยปิงปิงอาจเป็นสะใภ้ของนางจริงๆ  ได้สะใภ้อย่างนี้ นางพอใจมาก


 


 


ขณะที่เผยปิงปิงไปถึงเรือนที่กู้หลียวนอยู่ กู้หลียวนกำลังผ่าฟืนเหงื่อโชก พอเห็นกู้หลียวนผ่าฟืน เผยปิงปิงก็เอามือกุมท้องหัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่าฮ่าฮ่า…กู้หลียวน เจ้าผ่าฟืนท่าทางตลกจริงๆ ”


 


 


กู้หลียวนเงยหน้าขึ้นก็เห็นเผยปิงปิงกำลังหัวร่องอหงาย ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที


 


 


ปกติเขาใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองมาก เวลาอยู่ต่อหน้าผู้คนเขาจะเป็นคุณชายกิริยามารยาทเรียบร้อย เวลานี้ให้เผยปิงปิงมาเห็นท่าทางตกต่ำของตัวเองอย่างนี้ เขาทำหน้าบึ้ง กระอักกระอ่วน “ข้าผ่าฟืนไม่ได้หรือ”


 


 


“ผ่าได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจงมั่วเจียงจะใจดำอย่างนี้ ไม่เอาใจใส่พี่ชายของคนที่เขารักเลย และไม่กลัวว่าเจ้าจะผ่าฟืนของเขาเสียหาย”


 


 


เผยปิงปิงพยายามกลั้นหัวเราะ นางเอามือกุมท้องมองกู้หลียวน ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย ราวกับนิลแวววาวสองเม็ด


 


 


กู้หลียวนมองเผยปิงปิง รู้สึกว่าดวงตาของนางสวยเป็นพิเศษ เวลายิ้มตาหยี ท่าทางมีชีวิตชีวา แปลกจริงๆ  เมื่อก่อนทำไมไม่รู้สึกว่าเผยปิงปิงน่าดูอย่างนี้ พอมาเจอเผยปิงปิงอีกที จู่ๆ  เขาก็รู้สึกว่านางสวยขึ้น


 


 


พอเห็นกู้หลียวนไม่พูดไม่จา ได้แต่จ้องหน้าตน เผยปิงปิงก็หยุดหัวเราะ หัวใจเต้นรัว เพื่อปกปิดความรู้สึกขวยเขิน นางยื่นมือขึ้นจัดผมที่หน้าผากไปทัดหลังหู ท่วงท่าไม่ปกติ “เจ้ามองข้าทำไม”


 


 


“มองไม่ได้หรือ” จู่ๆ  กู้หลียวนก็ยิ้มให้เผยปิงปิง เผยปิงปิงใจเต้นรัวขึ้นอีก กู้หลียวนเป็นอะไรไปหรือนี่ อยู่ดีๆ  ก็ยิ้มให้ จนนางเขิน


 


 


“ดูได้อยู่แล้ว ถ้าเจ้าอยากดู ข้าจะให้เจ้าดูไปตลอดชีวิต”


 


 


เผยปิงปิงระงับความรู้สึก ทำใจกล้าตอบ


 


 


ช่วงที่นางกับกู้หลียวนห่างกัน นางพบว่าตัวเองยังคงคิดถึงกู้หลียวน อยากไปตามหากู้หลียวน แต่พอนึกถึงว่ากู้หลียวนไม่ได้คิดกับนางทำนองนั้น นางจึงเลิกคิด


 


 


แม้นางจะชอบกู้หลียวน แต่นางไม่มีวันรักด้วยความรู้สึกต้อยต่ำ และไม่มีวันกวนใจเขา ถ้าทำอย่างนั้นอาจจะชนะใจเขาได้ แต่ต่อไปคงไม่มีความสุข


 


 


กู้หลียวนตะลึง เผยปิงปิงยังเหมือนเดิม พูดจาตรงไปตรงมา


 


 


“อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไร”


 


 


ถ้าเป็นเมื่อก่อน กู้หลียวนคงปฏิเสธเผยปิงปิง ครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ แต่เปลี่ยนเรื่องพูด


 


 


“คนฝึกวรยุทธไม่อ่อนแออย่างนั้นหรอก กู้หลียวน ข้าได้ข่าวว่าครอบครัวสกุลกู้เกิดเรื่อง เจ้าคิดจะกลับไปหาครอบครัวสกุลกู้หรือไม่”


 


 


กู้หลียวนส่งเสียงฮื่อ


 


 


เผยปิงปิงหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “วันหลังมาพึ่งข้าได้ ข้ายินดีรับเจ้าไว้ เห็นเจ้าทำงานขยันขันแข็ง มาช่วยข้าเลี้ยงแมงมุมแมงป่องก็ยังได้ วางใจเถอะ ข้าไม่ใจดำอย่างจงมั่วเจียงหรอก ไม่ปล่อยให้เจ้าทำงานหนักอย่างนี้”


 


 


“ข้าคิดว่าจะไปพึ่งน้องเขยข้า”


 


 


“ฟู่เฉินหรงยังเอาตัวไม่รอด เจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าจะไม่ตายพร้อมกับเขา จิ่วซือไปอยู่กับเขายังพอมีเหตุผล เพราะเขาเป็นคนที่นางรัก เจ้าทำอย่างนี้ไม่เท่ากับรีบไปตายหรือ”


 


 


“ถ้าเฉินหรงเกิดเรื่องจริงๆ  คนตระกูลเผยก็ไม่มีจุดจบที่ดี พวกเราตอนนี้เป็นเหมือนมดบนเชือกเส้นด้วยกัน


 


 


แม่นางปิงปิง ถึงข้าจะตกต่ำอย่างไรก็ไม่ถึงขั้นให้ผู้หญิงรับเลี้ยง ข้าไม่อยู่กับครอบครัวสกุลกู้ก็เอาตัวรอด หาเลี้ยงตัวด้วยน้ำพักน้ำแรงได้


 


 


 


 


——


 


 


ตอนที่ 361 วิธีการต่ำทราม


 


 


 


 


ถึงจะตกต่ำอย่างไรกู้หลียวนก็ไม่มีวันให้เผยปิงปิงรับเลี้ยงเขา น่าขายหน้าเกินไป พอพ้นจากครอบครัวสกุลกู้ เขาก็นึกถึงคำที่ซูจิ่วซือเคยพูดกับเขาไว้เมื่อก่อน ซูจิ่วซือบอกว่าที่ผ่านมาเขาพึ่งพาอาศัยสกุลกู้ พอออกจากครอบครัวสกุลกู้เขาก็ไม่เหลืออะไร ไม่มีแม้แต่ความสามารถในการดูแลตัวเอง


 


 


เมื่อก่อนเขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดนี้แม้แต่น้อย พอผ่าฟืนหลายวันมานี้ เขาจึงนึกออกว่าเป็นอย่างไร


 


 


เมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไร้ความกังวล ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จวนสกุลกู้ไม่ได้จำกัดการใช้จ่ายของเขา เวลานี้เขาพ้นจากครอบครัวสกุลกู้ ไม่มีเงินทองติดตัว มีแต่มือเปล่าจริงๆ


 


 


เมื่อก่อนเขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก รู้สึกว่าอาศัยตัวเอง ถึงอย่างไรก็ยังเลี้ยงตัวได้


 


 


เวลานี้จึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย งานหนักเขาทำไม่ไหว ผ่าฟืนไม่กี่วัน แต่ละวันพอล้มตัวลงนอนบนเตียงก็หลับสนิท รู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว


 


 


เป็นขุนนางในราชสำนัก ไม่ใช่เรื่องที่เขาไม่ใส่ใจ ชาตินี้เขาไม่คิดจะรับราชการ


 


 


เขาต้องยอมรับ หลายปีมานี้ เขาพึ่งพาสกุลกู้ ถ้าไม่มีสกุลกู้ เขาก็ไม่มีอะไรเหลือ


 


 


หลายวันมานี้เขาครุ่นคิด ถ้าไปถึงเมืองหลวงตูเฉิง เขาจะทำอะไรบ้าง ไม่อาจทำตัวเป็นคนไร้แก่นสารพึ่งพาฟู่เฉินหรง


 


 


การถูกคนอื่นควบคุมเป็นความรู้สึกที่แย่จริงๆ  เขาชอบชีวิตอิสระ แต่ก็ต้องเลี้ยงตัวได้ นี่เป็นข้อคิดที่เขาได้จากการผ่าฟืนไม่กี่วันมานี้


 


 


“คุณชายกู้ก้าวหน้าขึ้นมาก ข้าน้อยดีใจแทนคุณชายกู้ ต้องรอดูต่อไป เวลานี้ข้าไม่มีอะไรทำ ให้ข้ามาคุมเจ้าที่นี่ได้ไหม”


 


 


เผยปิงปิงหัวเราะร่ามองหน้ากู้หลียวน รอให้เขารับปาก


 


 


สายตาของทั้งสองประสานกัน กู้หลียวนหัวเราะ “แล้วแต่เจ้า”


 


 


“งั้นก็ตกลงตามนี้”


 


 


เผยปิงปิงสบายใจเป็นพิเศษ กู้หลียวนไม่ปฏิเสธ นี่แสดงว่าเขาอยากใกล้ชิดกับนางใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนี้ความสัมพันธ์ของนางกับเขามีความเป็นไปได้ พอคิดอย่างนี้ เผยปิงปิงก็รู้สึกสบายใจมาก บางทีกู้หลียวนอาจจะเป็นคนรู้ใจของนาง


 


 


“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร”


 


 


“จงมั่วเจียงเป็นเพื่อนสนิทของข้า ข้ามาหาเพื่อนที่นี่ คนวงการนักเลงนี่นา ย่อมมีเพื่อนฝูงไม่น้อย เจ้าวางใจเถอะ จิ่วซือไม่เป็นไรหรอก จงมั่วเจียงไม่ทำร้ายจิ่วซือแน่ ถ้าช่วยได้ ข้าก็อยากช่วย”


 


 


แม้เผยปิงปิงไม่มั่นใจนักว่าจะพาซูจิ่วซือออกไปได้ทันที แต่ก็รับประกันได้ว่าซูจิ่วซือไม่มีอันตรายแน่นอน นางเองจะพยายามโน้มน้าวจงมั่วเจียง ให้ปล่อยซูจิ่วซือ


 


 


“เจ้าเป็นเพื่อนกับเขาจริงหรือ” กู้หลียวนพึมพำ ท่าทางไม่ชอบจงมั่วเจียงแม้แต่น้อย


 


 


เผยปิงปิงไม่ได้พูดคุยกับกู้หลียวนเรื่องจงมั่วเจียง นางหยิบฟืนดุ้นหนึ่งจากพื้น เอาไปรองนั่ง สองมือท้าวคาง “ข้าจะดูเจ้าผ่าฟืน”


 


 


กู้หลียวนไม่ได้ไล่เผยปิงปิงออกไป เขาหยิบขวานมาผ่าฟืนต่อ ทั้งสองพูดคุยกันเป็นระยะ ได้ยินเสียงหัวเราะของเผยปิงปิงดังกังวานขึ้นเป็นพักๆ


 


 


หลังอาหารเย็น ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังอ่านหนังสือ จู่ๆ  ก็รู้สึกตัวร้อนขึ้นมาทันที นางเปิดหน้าต่าง ยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ลมเย็มพัดเข้ามา นางจึงรู้สึกสบายขึ้น แต่ความร้อนในตัวยังไม่หาย กลับร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ  นางรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่รัดตัว


 


 


นางเดินไปที่หน้ากระจกสัมฤทธิ์ ในกระจกสะท้อนภาพใบหน้าแดงระเรื่อ


 


 


ซูจิ่วซือเอามือจับโต๊ะเครื่องแป้ง ระงับใจตัวเองให้สงบ ในใจเริ่มมีแผน


 


 


จากการใกล้ชิดช่วงไม่กี่วันมานี้ นางรู้สึกว่าจงมั่วเจียงเป็นคนดี นึกไม่ถึงว่าตนประเมินจงมั่วเจียงสูงเกินไป เขาใช้วิธีการต่ำทราม

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม