กับดักรักในรอยแค้น 316-323

      ตอนที่ 316 อย่าทำร้ายเขา


 


 


           “เฉิงเฮ่า ถ้ามีอะไรพวกเราคุยกันดีๆ ดีหรือเปล่า” ฉู่อีอีเอ่ย น้ำเสียงมีความจริงจัง เธอจะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองมีความคลุมเครือใดๆ กับเฉิงเฮ่าอีก


 


 


           ในใจของฉู่อีอียิ่งรู้สึกหวาดกลัว มองดูทิวทิศน์นอกหน้าต่างรถที่เคลื่อนที่ไปด้านหลังไม่หยุด ฉู่อีอีกำลังคิดในใจว่าจะหนีออกจากเงื้อมมือของปีศาจตนนี้ได้อย่างไร


 


 


           “ถ้าเผยหนานเจวี๋ยรู้ว่าผมกลับมาแล้ว เชื่อว่าเขาจะต้องดีใจมากสินะ?” เฉิงเฮ่ายังคงอ้อยอิ่งอยู่ที่คอของฉู่อีอี เอ่ยปากช้าๆ


 


 


           “คุณรู้จักเขาได้ยังไง” ฉู่อีอีมองเฉิงเฮ่า น้ำเสียงยิ่งสั่นเครือรุนแรง


 


 


           ไม่น่าล่ะคราวก่อนกลับมาแค่วันเดียวก็ไปแล้ว


 


 


           “เป็นอะไร คุณห่วงเขาขนาดนี้เลยเหรอ” จู่ๆ น้ำเสียงของเฉิงเฮ่าเย็นชา สายตาที่มองฉู่อีอีมีความดุร้าย


 


 


           ฉู่อีอีคือผู้หญิงของเขา คิดไม่ถึงว่าเธอจะหักหลังเขา แต่ว่าหักหลังก็หักหลังไปสิ ใครสั่งให้เขาชอบเธอล่ะ


 


 


           “เฉิงเฮ่า ฉันไม่รู้ว่าคุณกลับมาทำไม แต่ว่าฉันขอร้องล่ะอย่าทำร้ายเขา” ฉู่อีอีมองเฉิงเฮ่าเอ่ยปากร้อนรน แววตาเผยความกังวล


 


 


           “สามปีก่อน คุณหักหลังผมเพื่อเขางั้นเหรอ” เฉิงเฮ่าเอ่ยปากทันควัน แววตาที่มองฉู่อีอีมีความกระหายเลือด


 


 


           เมื่อคิดว่าฉู่อีอีหักหลังเขาเพื่อผู้ชายอีกคนแล้ว เขาก็อยากฆ่าเผยหนานเจวี๋ยทิ้งจนแทบรอไม่ไหว


 


 


           “ไม่ใช่นะ เฉิงเฮ่า มันไม่เกี่ยวกับเขา คุณอย่าทำร้ายเขานะ!” ฉู่อีอีกังวลจนเอ่ยเสียงสะอื้น มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเฉิงเฮ่ารู้สึกหวาดกลัวยิ่งขึ้น


 


 


           เฉิงเฮ่าคนนี้ก็คือคนบ้า ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ


 


 


           “เรียกผมว่าเฮ่า เด็กดี…” จู่ๆ เฉิงเฮ่าพูดขึ้น ยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของฉู่อีอี พ่นลมหายใจข้างหูเธอแผ่วเบา


 


 


           “เฮ่า…” ฉู่อีอีไม่กล้าขัดขืนเวลาที่อยู่ในมือของเขา หากเขาโกรธขึ้นมาละก็ เธอไม่สามารถคิดถึงผลที่จะตามมาได้จริงๆ


 


 


           เฉิงเฮ่าสูดหายใจลึก จากนั้นก็พูดต่อ “ได้ยินว่า คุณจะแต่งงานกับเขาเหรอ”


 


 


           “ทำไมคุณถึงใจร้ายไม่ต้องการผม เขาดีกว่าผมตรงไหน” น้ำเสียงของเฉิงเฮ่าลดต่ำ ทำให้ฟังอารมณ์ของเขาไม่ออก ยิ่งเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่


 


 


           ได้ยินคำพูดของเฉิงเฮ่า ฉู่อีอีนึกถึงวันเวลาที่อยู่กับเผยหนานเจวี๋ย นอกจากช่วงนี้ที่เขาเย็นชาต่อเธอแล้ว เขาไม่เคยบังคับให้เธอทำเรื่องใดๆ รักและทะนุถนอมเธอในมือราวกับเป็นเจ้าหญิง


 


 


           เมื่อนึกถึงเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอีก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าแห่งความสุข


 


 


           “เพี๊ยะ” จู่ๆ ใบหน้าของฉู่อีอีก็เจ็บปวด ดึงสติกลับมา เห็นใบหน้าที่เขียวคล้ำของเฉิงเฮ่า เธอตกใจจนใบหน้าซีดขาว เธอลืมไปได้อย่างไรว่าตัวเองกำลังอยู่ในมือของเขา


 


 


           ทันใดนั้นสีหน้าก็เผยความหวาดกลัว ใบหน้าของฉู่อีอีปวดแสบปวดร้อน


 


 


           “ดูแล้ว ต้องสั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อยถึงจะถูก” เฉิงเฮ่าเอ่ยปากน่ากลัว น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง


 


 


           “ไม่ คุณอย่าทำร้ายเขา คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้” ฉู่อีอีชอบเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ ในสามปีนี้ เผยหนานเจวี๋ยมอบความห่วงใยให้เธอนับครั้งไม่ถ้วน


 


 


           “อะไรก็ได้จริงๆ เหรอ” มุมปากยกยิ้ม เขาหรี่ตาลงอย่างน่ากลัว มองฉู่อีอีราวกับมองเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงยิ่งมีเสน่ห์ชั่วร้าย


 


 


           ได้ยินคำพูดน่ากลัวของเฉิงเฮ่า ฉู่อีอีสั่นเทาเล็กน้อย


 


 


           “อีอี จากผมไปหลายปีขนาดนี้ คุณเคยคิดถึงผมหรือเปล่า แม้แต่นิดนึงก็ยังดี” เสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากปากของเฉิงเฮ่าอีกครั้ง ระคนลมหายใจเย็นยะเยือก


 


 


           รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเฉิงเฮ่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเข้าใจชัดเจนว่ามันหมายความว่าอะไร


 


 


           ฉู่อีอีกัดริมฝีปาก ความละอายก่อตัวขึ้นภายในใจ แต่ไม่ได้ตอบคำถามของเฉิงเฮ่า


 


 


           ยื่นมือดึงกระเป๋าบนตัวของฉู่อีอีโยนไปให้เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆ “ตอนนี้…ผมจะพาคุณไปที่ดีๆ ที่นึง”


 


 


 


 


       ตอนที่ 317 หมดหนทางถอนตัว


 


 


           รถแล่นออกจากทางด่วนอย่างรวดเร็ว พาฉู่อีอีมาถึงวิลล่าของเฉิงเฮ่า


 


 


           หลังจากจอดรถ ฉู่อีอีมองดูสถานที่ไม่คุ้นเคย ในใจสั่นไหวไม่หยุด เฉิงเฮ่ายืนอยู่ข้างเธอ เห็นท่าทางหวาดกลัวของเธอ ในใจรู้สึกโมโห ยื่นมือออกไป ก้มตัวอุ้มฉู่อีอีขึ้นมาและเดินเข้าไปในบ้านแล้ว


 


 


           จู่ๆ ตัวก็ลอยขึ้น ฉู่อีอีตกใจ ยื่นมือกอดคอของเฉิงเฮ่าโดยไม่รู้ตัว เพื่อหาความรู้สึกปลอดภัย


 


 


เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นสายตาดุร้ายของเฉิงเฮ่าแล้ว ในใจของเธอกลัวจนแทบทนไม่ไหว


 


 


           เฉิงเฮ่าอุ้มฉู่อีอีขึ้นไปชั้นสองโดยตรง ทันทีที่เข้าห้องนอนก็โยนเธอลงไปบนเตียงที่อ่อนนุ่ม จากนั้นร่างที่สูงใหญ่ก็กดอยู่บนตัวของฉู่อีอี ไม่พูดพร่ำทำเพลงก้มหน้าจูบริมฝีปากแดงๆ ของฉู่อีอี


 


 


           กลิ่นของเขาลอยเข้าจมูกในทันใด ฉู่อีอีมึนงงชั่วขณะและความกลัวในใจของเธอยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


 


 


           ฉู่อีอีดิ้นรน “เฮ่า อย่านะ” ฉู่อีอียื่นมือขัดขืนเฉิงเฮ่า ต้องการจะหยุดเขา


 


 


           “เป็นอะไรไป คุณต้องการรักษาตัวเพื่อเผยหนานเจวี๋ยงั้นเหรอ คุณดูคุณสิ ร่างกายของคุณมันหักหลังคุณตั้งนานแล้ว” เฉิงเฮ่าผละออกจากปากของฉู่อีอี มองดวงตาที่พร่ามัวของเธอ พร้อมพูดด้วยเสน่ห์ชั่วร้าย


 


 


           มองฉู่อีอีอย่างเย็นชา เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เขาหัวเราะเสียงดัง


 


 


           ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ฉู่อีอีได้แต่รู้สึกกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ ทุกครั้งที่เขาหัวเราะแบบนี้ ก็จะทรมานเธอแน่นอน


 


 


           นึกถึงเมื่อก่อนตอนที่อยู่ด้วยกันกับเขา ทุกครั้งที่เธอท้าทายเขาก็จะได้รับความทรมานที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น หรือว่าชั่วชีวิตนี้เธอจะหนีไม่พ้นงั้นเหรอ


 


 


           เธอลงแรงไปตั้งมากมายจึงสามารถกลับประเทศมาได้ คิดไม่ถึงว่าเขาก็กลับมาด้วย


 


 


           “เฉิงเฮ่า…” เอ่ยปากเสียงสั่น ฉู่อีอีคว้าคอเสื้อของเขาไว้แน่นไม่หยุด เธอต้องการเอ่ยปากขอร้องเขา ขอร้องให้เขาปล่อยเธอไป


 


 


           “จำได้ว่าตอนที่ผมอยู่เมืองนอก ก็เคยบอกคุณแล้ว ว่าชาตินี้คุณจะเป็นผู้หญิงของผมได้แค่คนเดียวเท่านั้น นอกจากผมจะยอมปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นถ้าให้ผมรู้ว่าคุณอยู่กับผู้ชายคนนั้นล่ะก็ ผมจะฆ่าเขาแน่นอน” จู่ๆ ลมหายใจของเฉิงเฮ่าก็เปลี่ยนเป็นดุดัน ใบหน้ามีรอยยิ้มราวกับปีศาจ


 


 


           “เฮ่า เพื่ออะไรล่ะ ตั้งแต่วินาทีที่ลูกของฉันเสียไปแล้ว ระหว่างพวกเราก็ไม่…” ฉู่อีอีเอ่ยปากอ่อนโยน ข่มความกลัวเอาไว้ในใจ


 


 


           “อีอี…” รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉิงเฮ่าน่ากลัวมากขึ้น “ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีก ผมก็จะให้คนไปฆ่าเผยหนานเจวี๋ยเดี๋ยวนี้เลย” ลมหายใจอันตรายแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา แววตาที่มองฉู่อีอียิ่งมืดครึ้ม


 


 


           “ฉัน…” ฉู่อีอีตกใจจนพูดไม่ออก ดวงตางดงามที่มองเฉิงเฮ่านั้นมีความหวาดกลัวล้ำลึก


 


 


           “ตอนนี้คุณอยู่ในมือผม คุณเป็นเด็กดีเชื่อฟังผมสักหน่อยจะดีกว่า ไม่แน่ว่าถ้าผมอารมณ์ดีแล้ว ก็จะไม่ทำให้คุณลำบากใจจนเกินไป ไม่อย่างนั้น…คุณก็รู้ผลที่ตามมา” เฉิงเฮ่าพูดประโยคสุดท้ายเบามากๆ


 


 


           แต่ว่าฉู่อีอีได้ยินแล้วตัวกลับแข็งทื่อ คราวนี้ฉู่อีอีไม่กล้าพูดอะไรอีก ความหวาดกลัวในใจกระจายไปทั่วร่างกายทันที


 


 


           คนคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ เขาไม่เคยกลัวฟ้าดินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ว่าทำไมเขาต้องมาก่อกวนเธอด้วย


 


 


           เธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขานานแล้ว! แต่ว่าตอนนี้เธออยู่ในมือของเขา เธอกลับหมดหนทางถอนตัว


 


 


           หลับตา จู่ๆ ใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ ไม่นะ ฉันจะทำผิดต่อเขาไม่ได้ ถ้าหากเผยหนานเจวี๋ยรู้ว่าเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาจะต้องไม่ให้อภัยเธออย่างแน่นอน


 


 


           คิดถึงตรงนี้ เธอก็เริ่มขัดขืน


     ตอนที่ 318 อย่าทำร้ายเขา


 


 


           รู้สึกถึงการขัดขืนของฉู่อีอี เฉิงเฮ่าไม่พอใจโดยพลัน มือที่โอบฉู่อีอียิ่งออกแรง ก้มหน้าประกบริมฝีปากของเธอ


 


 


           จู่ๆ ร่างกายก็เย็นเฉียบ ฉู่อีอียิ่งออกแรงหนักกว่าเดิม “เฮ่า พวกเราอย่าทำแบบนี้ดีหรือเปล่า” ฉู่อีอีพูดเสียงสะอื้น


 


 


           “อีอี อย่าโง่ไปหน่อยเลย มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณนึกว่าผมจะปล่อยคุณไปเหรอ” พูดจบ เฉิงเฮ่าก็คลั่งเหมือนหมาป่าผู้หิวโหย พฤติกรรมก็เริ่มหยาบคาย


 


 


           ฉู่อีอีเจ็บปวด คิ้วขมวดกัน ความสุขไหลออกมาจากร่างกายและขยายไปถึงแขนขาของเธอ


 


 


           ตอนนี้เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว แม้เธอจะไม่เต็มใจ เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงพอ สู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ทำได้เพียงเชื่อฟังเท่านั้น


 


 


           “เฮ่า อย่าทำร้ายหนานเจวี๋ย” ฉู่อีอีข่มความเจ็บปวด เอ่ยปากพูดกับเฉิงเฮ่า เสียงนั้นมีเสน่ห์มาก


 


 


           ได้ยินฉู่อีอียังเป็นห่วงเผยหนานเจวี๋ยในเวลาแบบนี้ ในใจของเฉิงเฮ่ายิ่งไม่พอใจ การกระทำก็ยิ่งรุนแรงขึ้น


 


 


           หลังจากเสร็จกิจแล้ว เฉิงเฮ่าสวมใส่เสื้อผ้า มองดูฉู่อีอีที่นอนอยู่บนเตียง ร่างกายมีรอยฟกช้ำดำเขียวสลับกัน เม้มริมฝีปาก แน่นอนว่าเขายังคงรู้สึกพอใจกับเธอมากที่สุด


 


 


           ฉู่อีอีรู้สึกว่าเธอในเวลานี้ด้านชาแล้ว ในสมองว่างเปล่า ไม่สามารถคิดอะไรได้ ถ้าหากเผยหนานเจวี๋ยรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาแล้วล่ะก็ เธอยังจะมีเหตุผลและยังมีหน้าอยู่ข้างกายของเขาได้อย่างไร


 


 


           “อีอี คุณดูสิ คุณรู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้คุณน่าหลงใหลแค่ไหน” เฉิงเฮ่าแต่งตัวเรียบร้อย นั่งอยู่ข้างเตียง ก้มหน้าจูบริมฝีปากของฉู่อีอีอีกครั้ง จากนั้นจึงผละออก มองฉู่อีอีพร้อมเอ่ยปากอย่างลึกซึ้ง


 


 


           ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเฉิงเฮ่าแล้ว ความขมขื่นปรากฏอยู่ในดวงตา เพียงแค่ปลายนิ้วที่ขยับเขยื้อน ราวกับคนไร้ชีวิตชีวา


 


 


           เฉิงเฮ่าไม่โกรธที่เธอไม่ตอบ ดวงตาที่มีเสน่ห์มีกลิ่นไอความน่ากลัว “ผมยังมีธุระต้องไปจัดการ คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ”


 


 


           พูดจบ ดึงผ้าห่มอย่างระมัดระวังเพื่อห่มให้ฉู่อีอี จากนั้นก็ออกจากห้องไป


 


 


           จนกระทั่งเสียงปิดประตูดังขึ้น ดวงตาของฉู่อีอีจึงขยับ ใช้มือพยุงตัวลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง ผ้าห่มหลุดออกครึ่งหนึ่ง และหน้าอกของเธอก็สัมผัสกับอากาศ


 


 


           บ้าจริง เธอหวังเหลือเกินว่านี่คือความฝัน หลังจากตื่นแล้ว เธอก็จะสามารถอยู่ข้างกายเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าความเป็นจริงมักจะโหดร้ายเสมอ


 


 


           เปิดผ้าห่มออก ฉู่อีอีสวมเสื้อผ้า เดินย่องไปที่ประตู จากนั้นเอาหูแนบประตู ต้องการจะฟังความเคลื่อนไหวภายนอก พบว่าภายนอกเงียบสงัด


 


 


           ยื่นมือบิดลูกบิดแผ่วเบา แต่พบว่าประตูถูกล็อคเอาไว้


 


 


           เฉิงเฮ่าบัดซบ! ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะโมโห เธอน่าจะรู้อยู่แล้ว เฉิงเฮ่าไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆ แบบนี้หรอก!


 


 


           ตอนที่เฉิงเฮ่าออกจากห้องก็ล็อคประตูไว้แล้ว อีกทั้งเขายังจัดคนเฝ้าหน้าประตูวิลล่าเอาไว้ ห้องนอนของฉู่อีอีอยู่ที่ชั้นสาม มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอคิดจะหลบหนี


 


 


           ฉู่อีอีถูกขังเอาไว้อย่างไม่มีทางเลือก เดินทั่วห้องหนึ่งรอบ ล็อคเป้าหมายของเธอไว้กลางแดดอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเปิดหน้าต่างที่ยาวจรดพื้นแล้วเดินออกไปที่ระเบียง ในใจก็หมดหวังทันที


 


 


           เธอไม่สามารถหลบหนีจากสถานที่ที่สูงเช่นนี้ได้ เอื้อมมือตบราวจับด้วยความโมโห กวาดตามองที่ประตูใหญ่ก็เห็นคนเฝ้าไว้ ความโกรธปรากฏอยู่ในดวงตา


 


 


           เฉิงเฮ่าตัวดี กล้าขังฉันเอาไว้ ถ้าหากเผยหนานเจวี๋ยพบว่าเธอหายไปจะตามหาเธอหรือเปล่า จะเป็นห่วงเธอไหม นึกถึงท่าทีที่เผยหนานเจวี๋ยมีต่อเธอหลายวันนี้แล้ว ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นยะเยือก


 


 


 


 


       ตอนที่ 319 หากไม่ได้หย่า


 


 


           ตอนกลางคืน เผยหนานเจวี๋ยกลับถึงบ้าน เมื่อไม่เห็นเงาของฉู่อีอีนึกว่าเธอไปนอนแล้ว ไม่ได้สนใจมาก


 


 


           ตั้งแต่มีความรู้สึกขัดแย้งต่อฉู่อีอีแล้ว เผยหนานเจวี๋ยมักจะออกเช้ากลับดึก มักจะไม่ได้พบหน้ากับฉู่อีอีติดต่อกันหลายวัน


 


 


           หลายวันนี้ เผยหนานเจวี๋ยยิ่งไม่ได้รับสายของฉู่อีอี ในใจอดไม่ได้ที่จะโล่งอก ส่วนความคิดถึง


 


 


ฉู่เจียเสวียนนั้นยิ่งบ่อยขึ้นเรื่อยๆ


 


 


           ในห้องอ่านหนังสือ สองมือเผยหนานเจวี๋ยกุมหัว ใบหน้าเย็นชาหล่อเหลา เหม่อมองดวงดาวภายนอก


 


 


           ในสมองคิดถึงฉู่เจียเสวียนโดยไม่รู้ตัว นึกถึงรอยยิ้มมั่นใจ และใบหน้าสวยงามของเธอหลายวันก่อน ริมฝีปากบางๆ ของเขาก็เผยรอยยิ้มแล้ว


 


 


           ฉู่เจียเสวียน ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่


 


 


           นึกถึงที่จูบเธอคราวก่อน ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอ เขากลืนน้ำลาย


 


 


           ถ้าหากตอนนั้นไม่หย่ากับเธอ หากตอนนี้เธอก็ยังอยู่ข้างกายเขาล่ะก็ เขาจะเป็นอย่างไรกันนะ


 


 


           นึกถึงคำพูดที่ฉู่อีอีพูดกับฉู่เจียเสวียนในลานจอดรถคราวก่อน นึกถึงเรื่องที่ใส่ร้ายเธอว่าขโมยสร้อยคอก่อนหน้านี้ เขายิ่งรู้สึกไม่สบายใจ


 


 


           นึกถึงตอนนี้เธอมีกงจวิ้นฉืออยู่ข้างกาย เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกอึดอัดใจ หัวใจเจ็บจนราวกับไม่สามารถหายใจได้


 


 


           ฉู่เจียเสวียน ผมชอบคุณเข้าแล้ว ผมต้องทำยังไง


 


 


           ราตรีเย็นเยือกราวสายน้ำ เผยหนานเจวี๋ยดึงความคิดกลับมา หันหลังจัดการกับเอกสารของเขาต่อ


 


 


           ในร้านชุดแต่งงาน


 


 


           “ที่รัก เดี๋ยวเธอไปคุยเรื่องความร่วมมือนี้เถอะ” ถังถังยื่นเอกสารในมือให้ฉู่เจียเสวียน เอ่ยปากพูดกับเธอ


 


 


           ยื่นมือออกไปรับ ฉู่เจียเสวียนกวาดสายตาอ่าน “เธอเป็นคนตามมาตลอดไม่ใช่เหรอ” ทำไมจู่ๆ ให้เธอไปตามล่ะ


 


 


           ‘เธอไปคุยน่าจะเหมาะกว่ามั้ง’ ฉู่เจียเสวียนคิดในใจ


 


 


           “ฉันมีประจำเดือนน่ะ ไม่สบายท้องนิดหน่อย เขาค่อนข้างยุ่ง กว่าจะนัดได้ไม่ง่ายเลยนะ เปลี่ยนเวลาไม่ได้ เธอลองดูว่าเธอว่างหรือเปล่า ถ้าไม่ได้จริงๆ ฉันจะจัดการเอง” ถังถังกล่าวท้อแท้ มือกุมบริเวณท้องน้อย


 


 


           เงยหน้าขึ้น เห็นถังถังใบหน้าซีดขาวตามคาด


 


 


           เมื่อเช้ามาก็ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีประจำเดือนได้ล่ะ ผู้หญิงเนี่ยนะ ต้องเข้าสนามต่อสู้ทุกเดือนจริงๆ ไม่ทันระวังก็สามารถทำให้เจ็บปวดจนแทบตายได้ อีกทั้งยังไม่มีทางป้องกันใดๆ


 


 


           เปิดลิ้นชัก หยิบแผ่นแปะความร้อนแผ่นหนึ่งออกมาจากข้างในแล้วยื่นให้ถังถัง “เธอติดเจ้านี่เถอะ ผู้หญิงน่ะปวดประจำเดือนเป็นเรื่องธรรมดา ตอนบ่ายกี่โมงเหรอ ที่ไหน”


 


 


           “บ่ายสอง ที่ร้านกาแฟอวิ๋นซั่ง” ถังถังยื่นมือออกมารับ ติดลงบนท้องทันทีโดยไม่ได้พูดอะไร เธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงต้องมีประจำเดือนด้วย มาก็มาสิ ยังต้องปวดท้องอีก นี่ไม่ใช่ตกนรกทั้งเป็นหรอกหรือ


 


 


           “ได้ ฉันจะไปบ่ายนี้ ถ้าเธอไม่ไหวจริงๆ ก็กลับไปพักผ่อนเถอะ งานของร้านเช่าชุดแต่งงานยังมีฉันอยู่นะ” ฉู่เจียเสวียนมองถังถังพร้อมเอ่ย น้ำเสียงจนปัญญาเล็กน้อย


 


 


           ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ สำหรับเรื่องแบบนี้ เธอทำอะไรไม่ได้


 


 


           หลังจากที่แท้งลูกของเธอ ทุกครั้งที่เธอมีประจำเดือนก็ปวดจนทนไม่ไหว ต่อมาคุณแม่เห็นว่าเธอเจ็บจนทรมานขนาดนั้น ก็ช่วยเธอบำรุงร่างกาย ตอนนี้เมื่อประจำเดือนเธอมาก็ไม่ปวดอีกแล้ว


 


 


           แต่ว่าด้วยความเคยชิน เธอก็ยังคงพกแผ่นแปะความร้อน ในกรณีวันไหนปวดท้องกะทันหันจะได้ใช้


 


 


           ไม่รู้เป็นเพราะว่าแผ่นแปะความร้อนที่ฉู่เจียเสวียนให้ออกฤทธิ์แล้วหรือเปล่า ทันใดนั้นถังถังก็หายปวดท้อง แต่ว่าสีหน้ายังคงซีดขาว


 


 


           “เธอว่าไง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมโลกใบนี้ถึงต้องมีความแตกต่างระหว่างหญิงชายด้วย เธอดูสิงานที่ผู้ชายทำได้พวกเราก็ทำได้ อีกอย่างพวกเราก็ทำได้ไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย แต่ว่าสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บที่สุดเหนื่อยที่สุดกลับเป็นผู้หญิงอย่างพวกเรา”


      ตอนที่ 320 คำแขวะของถังถัง


 


 


           “ที่สำคัญคือ พวกเรายังต้องมีทายาทให้เขาอีก” ถังถังเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ พูดไม่หยุดเหมือนปืนกล


 


 


           “เอาเถอะ เธอปวดท้องขนาดนี้ยังไม่สงบอารมณ์ตัวเองอีก รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” ฉู่เจียเสวียนมองดูถังถังยิ้มเอ่ย


 


 


           เธอยอมแพ้เธอแล้วจริงๆ ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่สบาย แต่ยังมีพลังเหลือเฟือขนาดนั้น


 


 


           “ก็ได้ ที่รัก งั้นฉันกลับก่อนนะ” ถังถังพูดจบ ส่งจูบให้ฉู่เจียเสวียน จากนั้นก็หยิบกระเป๋าเดินออกไปแล้ว


 


 


           “ขับรถระวังหน่อยนะ!” ฉู่เจียเสวียนตะโกนไล่หลังถังถัง จากนั้นก็เอาเอกสารที่ถังถังมอบให้เธอมาอ่านอย่างละเอียด หลังจากเข้าใจเนื้อหาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว จึงทำงานอย่างอื่นต่อ


 


 


           ตอนบ่ายสอง ฉู่เจียเสวียนมารอลูกค้าที่ร้านกาแฟอวิ๋นซั่งตามเวลานัดหมาย


 


 


           จนกระทั่งเวลาบ่ายโมงสิบนาที คนคนนั้นจึงเพิ่งมาถึง “ขอโทษนะครับ ใช่คุณฉู่หรือเปล่า”


 


 


           จู่ๆ เสียงผู้ชายที่ทุ้มต่ำและอบอุ่นดังขึ้นข้างกาย รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้นอย่างอธิบายไม่ถูก เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของฉู่เจียเสวียนเป็นประกาย


 


 


           “รุ่นพี่ ใช่พี่จริงๆ ด้วย” ฉู่เจียเสวียนยิ้ม มองคนที่เข้ามาพร้อมเอ่ยอย่างดีใจ


 


 


           ได้อ่านข้อมูลที่ถังถังให้เธอวันนี้แล้ว ตอนที่เห็นชื่อเธอยังเดาอยู่เลยว่าใช่เขาหรือเปล่า คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาจริงๆ


 


 


           หลิงเจี๋ยก็คงจะคิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าคนที่จะมาคุยเรื่องงานกับเขาจะเป็นฉู่เจียเสวียนจริงๆ หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่งแล้ว รีบดึงสติกลับมา “เจียเสวียน เป็นเธอได้ยังไงเนี่ย”


 


 


           “ยินดีด้วยนะคะ รุ่นพี่ ใกล้จะแต่งงานแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก บนใบหน้ามีรอยยิ้มดุจดอกไม้


 


 


           “ขอบคุณนะ ก่อนหน้านี้แฟนผมเป็นคนคุยกับคุณถัง ครั้งนี้เขามีธุระ ก็เลยส่งผมมาคุยแทน” หลิงเจี๋ยกล่าว น้ำเสียงเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้วค่ะ รุ่นพี่ งั้นพวกเรามาคุยงานกันก่อน ถ้ามีอะไรไม่พอใจพวกเราค่อยแก้”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพูดพลางเอาแผนงานและต้นฉบับการออกแบบให้หลิงเจี๋ยดู


 


 


           ทั้งสองคนปรึกษากันครึ่งชั่วโมง ในที่สุดจึงสรุปรายละเอียดและเซ็นต์สัญญา


 


 


           “รุ่นพี่คะ ขอบคุณที่สนับสนุนงานของฉันนะคะ” หลังจากเซ็นต์สัญญาแล้ว ฉู่เจียเสวียนยื่นมือให้หลิงเจี๋ย แววตาเปื้อนรอยยิ้ม


 


 


           สำหรับเธอแล้ว การที่สามารถออกแบบชุดแต่งงานให้คนอื่นด้วยมือของตัวเองได้ ได้เห็นคนเหล่านั้นสวมชุดแต่งงานของเธอเดินเข้าไปในพิธี มันคือความสุขที่สุดสำหรับเธอ


 


 


           นึกถึงตอนที่ตัวเองยังสาว ความหวังสูงสุดคือการได้สวมชุดแต่งงานที่ตัวเองออกแบบ จากนั้นก็แต่งกับคนที่รัก แต่ว่าสุดท้ายแม้จะได้แต่งงาน แต่ว่าความฝันในตอนแรกได้พังทลายไปแล้ว


 


 


           “เอาล่ะ เจียเสวียน ในเมื่อตอนนี้เซ็นต์สัญญากันแล้ว งั้นผมก็ขอตัวก่อน เดี๋ยวผมต้องประชุมต่อ” ยื่นมือจับมือกลับเบาๆ


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า “ค่ะ”


 


 


           หลังจากลิงเจี๋ยไปแล้ว ฉู่เจียเสวียนเริ่มเก็บเอกสารบนโต๊ะ ใส่ในกระเป๋าเอกสาร


 


 


           จู่ๆ ที่นั่งตรงข้ามก็มีคนมานั่ง ภาพที่ปรากฏสู่สายตาคือใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร


 


 


           แม้ว่าในใจจะสงสัย ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเมินเฉย “คุณเผย คุณมานั่งแบบนี้ไม่เสียมารยาทไปหน่อยเหรอ”


 


 


           “ที่ตรงนี้ไม่มีคนไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มต่ำของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยจริงจัง ดวงตาที่เยือกเย็นเจือปนรอยยิ้ม


 


 


           ฉู่เจียเสวียนรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อก่อนเขาหน้าบึ้งตลอดเวลา ทำไมวันนี้อารมณ์ดีจัง


 


 


           “ก็ได้ ในเมื่อคุณเผยชอบ งั้นก็เชิญตามสบาย” หยิบเอกสารใส่กระเป๋า ฉู่เจียเสวียนลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที


 


 


           ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็คุยธุระเสร็จแล้ว เขาอยากนั่งก็ปล่อยให้เขานั่งเถอะ


 


 


 


 


     ตอนที่ 321 พวกเราไม่ได้สนิทกัน


 


 


           เห็นฉู่เจียเสวียนกำลังจะจากไป เผยหนานเจวี๋ยรีบตามเธอไปทันที กว่าจะได้เจอเธอไม่ง่ายเลย เขาจะยอมปล่อยให้เธอทั้งแบบนี้ได้อย่างไรกัน


 


 


           ออกมาถึงหน้าประตูของร้านกาแฟ เมื่อฉู่เจียเสวียนเดินมาถึงมุมแล้ว พบว่าเผยหนานเจวี๋ยยังตามเธอมา อดไม่ได้ที่จะโมโหเล็กน้อย


 


 


           หันหลังไปมองเผยหนานเจวี๋ยอย่างเย็นชา “คุณเผย คุณตามฉันมาทำไม”


 


 


           ทำไมวันนี้เขาถึงแปลกๆ ตามเธอมาทำไม เธอไม่คิดว่าระหว่างพวกเขามีอะไรน่าคุย


 


 


           “ถนนของคุณหรือไง ผมเดินผ่านทางนี้พอดีไม่ได้หรือไง” เสียงทุ้มต่ำของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น พูดด้วยสีหน้าจริงจัง จ้องฉู่เจียเสวียนตาไม่กระพริบ


 


 


           “ได้” ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจลึก ไม่ต้องการจะพูดอะไรกับเขามาก กลับหลังหันเดินต่อไปยังรถของเธอ ส่วนเผยหนานเจวี๋ยเดินตามหลังเธอมาตลอด


 


 


           จงใจเดินข้างๆ ฉู่เจียเสวียน ตั้งใจเอนตัวไปทางเธอ ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว หลบไปด้านข้าง


 


 


           เห็นการกระทำโดยเจตนาของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยปวดใจ แววตามีประกายความเจ็บปวด


 


 


           ตอนนี้เธอรังเกียจเขาขนาดนั้นเลยเหรอ มองดูใบหน้าด้านข้างที่งดงามของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ระยะหลังนี้เขามักจะฝันถึงเธอ…


 


 


           “คุณเผยคะ กรุณาหลบไปหน่อย” ฉู่เจียเสวียนหยุดเดินกะทันหัน เงยหน้าขึ้นมองเผยหนานเจวี๋ย สายตาเย็นชา


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยดึงสติกลับมา มองดูตำแหน่งที่เขากำลังยืนอยู่ ขวางหน้าประตูรถพอดี


 


 


           “ผม…” จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนนั้นมีภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


 


 


           ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้ว เธอเพิ่งเคยเห็นเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้เป็นครั้งแรก ในใจเดาไม่ออกว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่


 


 


           “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ฉันยุ่งมาก” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย จ้องเผยหนานเจวี๋ยตาไม่กระพริบ


 


 


           คนคนนี้ตามเธอมาตั้งแต่ออกมาจากร้านกาแฟแล้ว จนกระทั่งถึงตรงนี้ เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ


 


 


           “เจียเสวียน”


 


 


           “คุณเผยเรียกฉันว่าคุณฉู่ดีกว่าค่ะ”


 


 


           ได้ยินท่าทีที่เย็นชาเหินห่างของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยปวดใจ ทำไมเธอต้องทำกับเขาแบบนี้ด้วย


 


 


           ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเผยหนานเจวี๋ยอีก ยื่นมือผลักเขา จากนั้นก็เปิดประตูรถต้องการจะขึ้นรถ


 


 


           แต่ว่าเพิ่งจะเปิดประตูรถ ก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยปิดกลับไป


 


 


เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ยอย่างโมโห สีหน้าของฉู่เจียเสวียนมีประกายความโกรธ


 


 


           ไม่ทันรอฉู่เจียเสวียพูด เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย “ผมเลี้ยงข้าวคุณเถอะ”


 


 


           “เลี้ยงข้าวฉัน? ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวคุณคนนั้นที่บ้านคุณมาเห็นเข้า ฉันก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่มีเวลาจัดการกับปัญหาเล็กๆ พวกนั้น”


 


 


           ได้ยินฉู่เจียเสวียนพูดถึงฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างร้อนรน “เจียเสวียน ผม…เหมือนจะชอบคุณเข้าแล้ว”


 


 


           มือที่เปิดประตูรถหยุดกึก หัวใจของฉู่เจียเสวียนสั่นไหว ยืนอยู่ที่เดิม ลืมตอบสนองไปชั่วขณะหนึ่ง


 


 


           เขาชอบเธอ? หึหึ เมื่อก่อนตอนที่เธอรักเขาแทบเป็นแทบตาย เขากลับทิ้งขว้างเธออย่างโหดร้าย ไม่ลังเลที่จะทำร้ายเธอ อีกทั้งยังฆ่าลูกของเธอทางอ้อมด้วย


 


 


           ตอนนี้เขามาบอกเธอว่า เขาชอบเธองั้นเหรอ


 


 


           ‘คนเราช่างใจร้ายเพียงนี้เชียวหรือ การไม่ได้มาคือสิ่งที่ดีที่สุด?’ คิดดูถูกในใจ


 


 


           เงยหน้าขึ้นมองเผยหนานเจวี๋ย แววตานั้นยิ่งเยือกเย็นและแน่วแน่ “เผยหนานเจวี๋ย คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณชอบฉันฉันก็ชอบคุณงั้นเหรอ คุณคู่ควรที่ฉันจะบอกว่าชอบเหรอ”


 


 


           “คุณไม่คิดว่าควรจะคิดดีๆ สักหน่อยก่อนที่จะพูดแบบนี้ออกมาเหรอ จำไว้นะ คนรักของคุณคือฉู่อีอี!” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ไม่มองเผยหนานเจวี๋ยอีก เอื้อมมือเปิดประตูรถก็เหยียบคันเร่งออกไปแล้ว


      ตอนที่ 322 การหายตัวไปของฉู่อีอี 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยยืนอึ้งอยู่ที่เดิม มองดูรถของฉู่เจียเสวียนที่ค่อยๆ หายลับไปจากสายตาของตัวเอง สำหรับคำพูดของฉู่เจียเสวียนนั้นเผยหนานเจวี๋ยไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะว่าที่เธอพูดคือความจริง  


 


 


           มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่นไม่หยุด สีหน้าของเขามืดมนลงเรื่อย ๆ 


 


 


           ในที่สุด เผยหนานเจวี๋ยสูดหายใจลึก จากนั้นก็หันหลังจากไป 


 


 


           ในรถ เผยหนานเจวี๋ยนั่งที่เบาะหลัง นึกถึงคำพูดของฉู่เจียเสวียน หัวใจของเขาก็เจ็บจางๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเขาจะถูกผู้หญิงปฏิเสธ 


 


 


           ตั้งแต่เล็กจนโต รอบกายเขามักถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่ว่าเขาไม่เคยหวั่นไหวเลย เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างสะอาดและซื่อสัตย์ 


 


 


           ตอนยังเด็ก เพราะว่าเขาถูกฉู่อีอีช่วยเอาไว้ ฉะนั้นฉู่อีอีจึงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจของเขา 


 


 


           ตอนนี้เขารู้สึกละอายใจต่อฉู่อีอี เพราะว่าตอนนี้เขาค้นพบว่าเขาไม่ได้ชอบเธอแล้ว แต่ว่าเขาก็ทิ้งเธอไปไม่ได้ 


 


 


           ความทรงจำในอดีตก่อตัวในหัวใจ จนกระทั่งวันนี้เผยหนานเจวี๋ยจึงเข้าใจหัวใจของตัวเอง 


 


 


           ที่แท้หัวใจของเขาถูกเธอดึงดูดโดยไม่รู้ตัวมานานแล้ว 


 


 


           ไม่น่าล่ะสามปีมานี้ เขามักจะคิดถึงเธอตลอดเวลา 


 


 


           ยิ่งคิด จิตใจของเผยหนานเจวี๋ยก็ยิ่งสับสน บางทีเขาควรจะคุยกับฉู่อีอี บอกเธอว่าคนที่เขาชอบคือฉู่เจียเสวียน 


 


 


           คิดได้เช่นนี้ เผยหนานเจวี๋ยตัดสินใจโทรหาฉู่อีอี 


 


 


           หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก็โทรหาฉู่อีอีทันที แต่กลับเจอสัญญาณปิดเครื่อง รู้สึกตื่นตระหนกแปลกๆ เผยหนานเจวี๋ยบอกคนขับให้กลับวิลล่าบ้านเผย 


 


 


           ในวิลล่าบ้านเผย 


 


 


           “อีอี…” เผยหนานเจวี๋นเดินเข้าไปในห้องนอน เมื่อเปิดประตูก็พบว่าภายในห้องว่างเปล่า แม้แต่บรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงบลงไปมาก ราวกับไม่มีคนอยู่มาหลายวันแล้ว 


 


 


           “คุณแม่จาง” ลงมาชั้นล่าง เผยหนานเจวี๋ยเรียกคุณแม่จางผู้ดูแลอาหารประจำวันของพวกเขามาโดยตลอดออกมา 


 


 


           คุณแม่จางเดินออกมาจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว เดินพร้อมกับตอบไปด้วย “คุณชาย มีอะไรเหรอคะ” 


 


 


           “อีอีล่ะ?” 


 


 


           “คุณหนูฉู่ ไม่ได้กลับมาหลายวันแล้วค่ะ” คุณแม่จางตอบไปตามจริง เห็นสีหน้าไม่พอใจของเผยหนานเจวี๋ยรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย 


 


 


           ผู้หญิงของเขาไม่ได้กลับมาหลายวันขนาดนี้ เขาก็ไม่รู้งั้นเหรอ 


 


 


           “ทำไมคุณไม่บอกผม?”  เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเย็นชา ไม่ได้กลับมาหลายวัน หรือว่าเธอจะกลับบ้านแล้ว? 


 


 


           “คุณชาย คุณบอกฉันว่าไม่ให้กวนคุณ…” คุณแม่จางกล่าวเสียงสั่น เห็นสีหน้าบึ้งตึงของเผยหนานเจวี๋ย ในใจรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย 


 


 


           นึกถึงเมื่อหลายวันก่อน คุณแม่จางมาหาเขาจริงๆ ราวกับว่ามีอะไรจะพูดกับเขา แต่ว่าตอนนั้นในใจของเขาสับสนมาก อีกทั้งไม่อยากเจอหน้าฉู่อีอี ดังนั้นจึงพูดแบบนั้นกับคุณแม่จาง 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาหวังอวิ๋นไฉ่ 


 


 


           ทันทีที่มีคนรับสาย เผยหนานเจวี๋ยก็ถามขึ้น “คุณป้า อีอีอยู่บ้านไหมครับ” 


 


 


           “อีอี? เขาไม่ได้อยู่กับเธอเหรอ ตอนนี้เขาไม่ได้มานานมากๆ แล้ว” หวังอวิ๋นไฉ่เอ่ยปาก น้ำเสียงงงงวย 


 


 


           ‘ลูกสาวของเธออยู่กับเขาตลอดเวลาเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงโทรศัพท์มาถามถึงอีอีกับเธอล่ะ หรือว่าอีอีจะเกิดเรื่อง?’ คิดเช่นนี้ในใจ ก็พูดอย่างร้อนรน “หนานเจวี๋ย อีอีเกิดเรื่องใช่หรือเปล่า” 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของหวังอวิ๋นไฉ่ ในใจยิ่งรู้สึกสงสัย ขมวดคิ้ว ได้ยินเสียงที่ร้อนรนของหวังอวิ๋นไฉ่แล้ว รู้ว่าฉู่อีอีจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ 


 


 


           “คุณป้าครับ ผมทราบแล้ว ผมจะตามหาอีอี” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็วางสาย 


 


 


           อีอีอยู่ไหนกันแน่? ต้องโทษเขาที่ละเลยเธอหลายวันนี้ แม้เธอหายตัวไปหลายวันแล้วก็ยังไม่รู้ 


 


 


 


 


 


     ตอนที่ 323 คำร้องขอของฉู่อีอี 


 


 


           ครุ่นคิดดูแล้ว เผยหนานเจวี๋ยโทรศัพท์หาผู้ช่วย ให้เขาตามหาฉู่อีอีด้วยพลังทั้งหมดที่มี แม้ว่าตอนนี้เขาไม่อยากอยู่ด้วยกันกับฉู่อีอี แต่ก็ไม่ควรพูดถึงมันในเวลานี้ 


 


 


           แต่ละนาที แต่ละวินาทีล่วงเลยไป เผยหนานเจวี๋ยใช้พลังทั้งหมดที่มีแต่ก็ยังหาฉู่อีอีไม่เจอ ในใจเริ่มรู้สึกเป็นกังวล เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่ 


 


 


           ในวิลล่า เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความกระวนกระวายใจ รอข่าวคราวของฉู่อีอีเงียบๆ 


 


 


           สถานที่ที่ฉู่อีอีไปประจำ เขาก็ไปตามหาแล้ว แต่ว่าก็ไม่เจอข่าวคราวของเธอ ระหว่างที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยรับสายทันทีโดยไม่คิด “ฮัลโหล” 


 


 


           “ฮัลโหล คุณเผย” เสียงที่ทุ้มต่ำแต่แฝงด้วยเสน่ห์ดังขึ้น เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว 


 


 


           “คุณเป็นใคร” เผยหนานเจวี๋ยถามทันที ลางสังหรณ์ของเขาบอกเขาว่า คนคนนี้ไม่ธรรมดา 


 


 


           “ผมเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคนที่คุณต้องการตามหาอยู่ในมือผม” เฉิงเฮ่ากล่าว 


 


 


           แน่นอนว่าเมื่อเผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว มันตรงกับการคาดคะเนในใจของเขาทันที 


 


 


           “คุณเป็นใคร ทำไมต้องจับอีอีด้วย” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเย็นชา แววตาเผยประกายความโกรธ 


 


 


           “วางใจเถอะ ตอนนี้เธอสบายดีมาก มีเวลาว่างคุยกันหน่อยไหม” เฉิงเฮ่านั่งอยู่ในห้องหนังสือ หยิบหินหยกขึ้นมาเล่นในมือ แววตามีความคมกริบ มองดูฉู่อีอีที่นั่งอยู่บนโซฟาและถูกมัดเอาไว้ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มน่ากลัว 


 


 


           “ที่ไหนเมื่อไร” เผยหนานเจวี๋ยพูดทันทีโดยไม่คิด ตอนนี้ความปลอดภัยของฉู่อีอีสำคัญที่สุด 


 


 


           “เดี๋ยวผมจะส่งไปที่มือถือของคุณ” เฉิงเฮ่าพูดจบ ไม่รอเผยหนานเจวี๋ยตอบ ก็วางสายแล้ว 


 


 


           ไม่นาน เผยหนานเจวี๋ยก็ได้รับข้อความจากเฉิงเฮ่าจริงๆ ส่งให้เขาทั้งสถานที่และเวลานัดพบ 


 


 


           หลังจากได้รับข้อความแล้ว เผยหนานเจวี๋ยเริ่มเตรียมการอย่างดีทันที เผยหนานเจวี๋ยรู้ว่าคนคนนั้นไม่ได้แค่จะต้องการคุยกับเขาอย่างแน่นอน 


 


 


           “เฮ่า คุณจะเอายังไงกันแน่” ทันทีที่เฉิงเฮ่าวางสาย ฉู่อีอีก็ถูกปลดออกจากพันธนาการ 


 


 


           “อีอี คุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ทำอะไรเขาหรอก” เฉิงเฮ่ากล่าว มองดูฉู่อีอีที่หน้าแดงก่ำจากความโกรธแล้วหัวเราะ 


 


 


           “คุณเคยพูดว่าจะไม่ต่อต้านเขา!” ฉู่อีอีโมโห ปลายนิ้วสั่นเทา แววตาเปี่ยมด้วยความเกรี้ยวกราด 


 


 


           “ถูกต้อง ผมเคยบอกว่าจะไม่ต่อต้านเขา แต่ว่าคุณคิดถึงเขาตลอดเวลา ผมก็ไม่พอใจสิ” เฉิงเฮ่าพูดกับฉู่อีอี 


 


 


           เขาสืบมาแล้ว เผยหนานเจวี๋ยไม่ใช่คนที่จะสู้ด้วยง่ายขนาดนั้น 


 


 


           ในเมือง H เผยหนานเจวี๋ยเป็นคนใหญ่คนโตลำดับต้นๆ เขาจะต้องฉลาดแน่ อีกทั้งเขายังต้องการจะแย่งบริษัทของเผยหนานเจวี๋ยมาอยู่ในมืออีกด้วย ดวงตาหรี่ลงน่ากลัว มองฉู่อีอีด้วยสีหน้ากระหายเลือด 


 


 


           ฉู่อีอีถูกมองด้วยดวงตาแบบนี้รู้สึกหวาดกลัวในใจ เธอรู้ดีว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เฉิงเฮ่าก็จะไม่ฟัง เธอเข้าใจเขาเป็นอย่างดี 


 


 


           “คุณเคยพูดว่า…” 


 


 


           “อีอี เผยหนานเจวี๋ยเป็นคนยังไง เชื่อเถอะผมรู้ดีมากกว่าคุณอีก คุณนึกว่าผมจะกล้าลงมือเขาส่งเดชเหรอ” เฉิงเฮ่ากล่าว สายตาที่มองฉู่อีอีมีความเคียดแค้น 


 


 


           “ที่รักของผม ผมจะต้องใช้ประโยชน์จากคุณถึงจะถูก ไม่อย่างนั้น ผมจะสู้กับเขาได้ยังไง” เฉิงเฮ่าพูดจบ ส่งสายตาบอกให้เด็กหนุ่มส่งฉู่อีอีกลับเข้าห้องเพื่อขังเธอต่อไป 


 


 


           ฉู่อีอีตื่นตระหนก เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเฉิงเฮ่าจะสู้กับเผยหนานเจวี๋ยอย่างไร แม้ว่าเผยหนานเจวี๋ยมีความสามารถ แต่หากต้องการสู้กับเฉิงเฮ่าที่มีจิตใจโหดเ**้ยมนั้น ฉู่อีอีอดไม่ได้ที่จะกลัว 


 


 


           ฉู่อีอีถูกส่งกลับไปที่ห้อง ประตูถูกล็อคไว้ทันที 


 


 


           ทำยังไงดี เธอควรจะทำอย่างไรกันแน่ หลายวันนี้ เธอคิดวิธีหลบหนีมากมายนับไม่ถ้วน แต่น่าเศร้าที่เธอหนีไม่พ้นเลย  

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม