กับดักรักในรอยแค้น 308-315
ตอนที่ 308 อย่าคิดจะเข้าบ้านฉัน
ที่ชั้นบน ซูซานซานยืนอยู่หน้าประตู มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยปากอ่อนโยน “งั้นเจียเสวียน เธอก็รีบนอนเถอะ อย่านอนดึก นอนดึกบ่อยๆ ไม่ดีนะ”
ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า บอกราตรีสวัสดิ์กับเธอแล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป
วันรุ่งขึ้นเก้าโมงเช้า ฉู่อีอีปรากฏตัวที่ร้านกาแฟอวิ๋นซั่งตรงเวลา เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคุณแม่เผยจะไปถึงเร็วกว่าเธอ ในตอนนั้นหัวใจเต้นแรง จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหา
เดิมทีนึกว่าเธอจะต้องมาสายสักครึ่งชั่วโมง ครั้งนี้ดูแล้วต้องโดนเธอเอ็ดอีกแน่ๆ
“คุณป้า” ฉู่อีอีเดินไปหาคุณแม่เผย มองเธอพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ใบหน้าของคุณแม่เผยไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“เธอไม่รู้หรือไงว่านัดเจอคนต้องมาถึงก่อนเวลาสิบนาที นี่คือมารยาทน่ะเธอรู้หรือเปล่า เธอกล้าดียังไงให้ผู้ใหญ่อย่างฉันรอเธอ” คุณแม่เผยเห็นฉู่อีอีแล้วเอ่ยปากไม่พอใจ แววตายิ่งเผยความเกลียดชัง
ฉู่อีอีได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจของคุณแม่เผยได้แต่อดกลั้นไว้ การที่เธอมาถึงเร็วนั้น ที่จริงไม่ได้อยู่ในความคาดหมายของเธอ
“ค่ะ คุณป้า ฉันผิดเอง” ก้มหน้านอบน้อม สายตาที่ก้มต่ำมีประกายแห่งความเกลียดชัง มือของฉู่อีอีที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น
เห็นฉู่อีอีท่าทางสำนึกผิดอ่อนน้อม คุณแม่เผยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ขืนพูดต่อไปจะทำให้เธอดูเหมือนคนเจ้าอารมณ์
ทำสีหน้าให้เป็นปกติ เธอจึงพูดว่า “ที่เธอเรียกฉันออกมามีอะไรกันแน่ ฉันไม่มีเวลาขนาดนั้นที่จะดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนเธอที่นี่หรอกนะ!”
สีหน้าของฉู่อีอีแข็งทื่อ มือที่อยู่ใต้โต๊ะยิ่งบีบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย “คุณป้า ลองดูรายงานนี่สิคะ?”
ฉู่อีอีก็ไม่ได้พูดจาอ้อมค้อมเช่นกัน ในเมื่อเธอไม่อยากเห็นหน้าเธอ เธอก็จะไม่พูดพร่ำทำเพลง เช่นนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีก
“นี่คืออะไร” มองดูรายงานที่ฉู่อีอีหยิบออกมา คุณแม่เผยขมวดคิ้ว ยื่นมือเปิดรายงาน เมื่อเห็นเนื้อหาด้านในสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ฉู่อีอีสำรวจสีหน้าของเธออย่างละเอียด เดาความคิดของเธออยู่ในใจ
เธอคงจะโกรธมากสินะ? ตั้งแต่ไหนแต่ไรเธอมักจะเปรียบเทียบเธอกับฉู่เจียเสวียนคนเลวนั่นบ่อยๆ ตอนนี้เห็นรายงานนี้แล้ว คงจะไม่มัวหาเรื่องเธออีกแล้วล่ะมั้ง?
คุณแม่เผยอ่านรายงานในมือจบ เอื้อมมือยกกาแฟขึ้นมาจิบ จากนั้นก็เงยหน้ามองฉู่อีอี “เธออยากจะบอกอะไร”
“คุณป้า ที่ฉันให้คุณป้าดูรายงานฉบับนี้เพราะฉันรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนหนานเจวี๋ย คุณป้าก็เห็นว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนกลับมา แถมยังทำธุรกิจกับหนานเจวี๋ย ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงอย่างเขาไม่ควรร่วมงานกับบ้านเผย”
“หึ ฉู่อีอี ฉู่อีอี เธอกำลังหลอกใครอยู่? รายงานนี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของปลอม เธอนึกว่าฉันไม่รู้เหรอ เธอคงจะใช้เงินไม่น้อยเพื่อทำรายงานนี้สินะ” วิธีใส่ร้ายแบบนี้เธอมองออกตั้งแต่แรกแล้ว ฉู่อีอีก็แค่กลัวว่าฉู่เจียเสวียนกับลูกชายของเธอถ่านไฟเห่าจะคุไม่ใช่เหรอ?
ไม่เช่นนั้นเรื่องที่ผ่านไปนานแล้วเธอจะเอามาพูดตอนนี้ทำไม ไม่เอาหลักฐานพวกนี้มาตอนที่
ฉู่เจียเสวียนยังท้องล่ะ
คิดไม่ถึงว่าคุณแม่เผยจะพูดเช่นนี้ ฉู่อีอีตื่นตกใจ เหงื่อซึมออกจากมือไม่หยุด
“คุณป้า ทำไมฉันต้องทำแบบนี้เหรอคะ เพราะหนานเจวี๋ยเป็นผู้ชายที่ฉันรัก ฉันก็แค่ไม่อยากให้เขาถูกฉู่เจียเสวียนผู้หญิงเลวคนนั้นหลอกก็เท่านั้นเอง” ฉู่อีอีเอ่ยปากเบาๆ สายตามองคุณแม่เผยอย่างโอบอ้อม
“ฉู่อีอี เรื่องของฉู่เจียเสวียนกับหนานเจวี๋ยมันเป็นอดีตไปแล้ว และตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับธุรกิจเลย ด้วยสถานะของฉู่เจียเสวียนในตอนนี้ การร่วมมือกับเขามีแต่จะเอาผลประโยชน์มาให้พวกเราบ้านเผย”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าเธออยากทำอะไรกันแน่ แต่ว่าฉันจะบอกเธอให้ ไม่ว่าเธอจะทำยังไง ฉันก็จะไม่ให้เธอได้อยู่กับหนานเจวี๋ย ยิ่งไม่ต้องคิดที่จะเข้าบ้านเผยของฉัน!” คุณแม่เผยพูดจบ หยิบกระเป๋าจากไปโดยไม่หันมามอง
ตอนที่ 309 คุณคิดจะทำอะไรกันแน่
ฉู่อีอีฟังได้ยินคำพูดของคุณแม่เผยแล้วสีหน้าเปลี่ยนเป็นอาฆาต เธอรู้สึกเหมือนเธอยื่นหน้าไปให้คนอื่นตบ หากเธอรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ เธอก็จะไม่ทำเรื่องที่ไร้สมองแบบนี้หรอก!
ที่ห้องประชุมชั้นบนสุดของกลุ่มบริษัทกง
“คุณเผย หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอย่างราบรื่นนะครับ” กงจวิ้นฉือยื่นมือพร้อมยิ้มเอ่ยกับเขา สายตาที่มองเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างมืออาชีพ ครั้งนี้เผยหนานเจวี๋ยตั้งใจมาเซ็นต์สัญญาที่บริษัทของกงจวิ้นฉือ เพราะการร่วมมือในครั้งนี้มีขนาดใหญ่ มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องคุยกันอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นพวกเขาจึงคุยกันถึงครึ่งค่อนวัน
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ” เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือกล่าวเย็นชา สายตากวาดมองฉู่เจียเสวียนที่ยิ้มน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา ในใจรู้สึกโมโห
ความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ทำให้เขาอึดอัดเกินไปแล้ว โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญของเธอเมื่อครู่ ในใจของเผยหนานเจวี๋ยยิ่งมองฉู่เจียเสวียนด้วยความชื่นชม
“ประธานกงคะ คุณมีสายด่วนค่ะ” มีเสียงดังขึ้นที่หน้าห้องประชุม เลขายืนเอ่ยอยู่ข้างหน้า
กงจวิ้นฉือพยักหน้า จากนั้นก็พูด “คุณเผยครับ เจียเสวียน ผมขอตัวสักครู่” พูดจบก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากออฟฟิศ
ฉู่เจียเสวียนมองดูแผ่นหลังของกงจวิ้นฉือที่จากไปไกล เอื้อมมือจัดเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ ในเมื่อตอนนี้คุยงานเสร็จแล้ว สัญญาก็เซ็นต์แล้ว ไม่จัดเก็บเอกสารเพื่อจากไปแล้วจะให้ทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ เธอไม่คิดว่าเธอกับเขามีอะไรที่น่าคุย
เมื่อเห็นใบหน้าที่เฉยเมยของฉู่เจียเสวียน จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกไม่พอใจมาก เธอมีเสน่ห์มากจริงๆ และน่าดึงดูดมากด้วย
“เจียเสวียน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยกะทันหัน มองฉู่เจียเสวียน เรียกเบาๆ
“คุณเผย พวกเราไม่ได้สนิทกัน คุณเรียกชื่อเต็มของฉันจะดีกว่า” ฉู่เจียเสวียนตอบทันทีโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ใช่ว่าเขาอยากเรียก ‘เจียเสวียน’ ก็เรียกได้สักหน่อย
บางทีอาจเพราะคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะพูดแบบนี้ สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนทันที เธอไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเขาถึงเพียงนี้เชียวเหรอ ก้าวขายาวๆ ไปหาฉู่เจียเสวียน คว้ามือของฉู่เจียเสวียนไว้
ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่พอใจ “คุณเผยคะ รบกวนคุณให้เกียรติกันหน่อย!”
“ให้เกียรติ? ฉู่เจียเสวียนคุณบอกให้ผมให้เกียรติ? หรือว่าคุณลืมไปแล้วว่าอดีตของพวกเรามันเป็นยังไง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเย็นชา ทั้งๆ ที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ฉู่เจียเสวียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา แต่ว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องการเข้าใกล้เธอ
ทั้งๆ ที่รู้แล้วควรอยู่ให้ห่างจากเธอ แต่ว่าทุกครั้งที่ไม่เจอเธอ สมองของเขาก็คิดถึงเธออย่างควบคุมไม่ได้
“ปล่อยนะ!” มือของฉู่เจียเสวียนที่ถูกเผยหนานเจวี๋ยคว้าไว้นั้นรู้สึกเจ็บ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“ผมไม่ปล่อย!”
“เผยหนานเจวี๋ย คุณคิดจะทำอะไร” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากไม่พอใจ คิ้วขมวดกัน มองเผยหนานเจวี๋ยที่มีสีหน้ามืดมน หัวใจดำดิ่งลงไม่หยุด
“ทำไม่ล่ะ เห็นผมก็ไม่พอใจขนาดนี้เลยเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความหดหู่เล็กน้อย สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีความเจ็บปวด แต่ว่าเขาปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้เป็นอย่างดี
คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนอึ้งไป ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงพูดแบบนี้
“คุณเป็นบ้าหรือไง! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ที่นี่คือบริษัทกง ไม่ใช่บริษัทเผยของคุณ!” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเยือกเย็น มองเขาอย่างเฉยเมย ในแววตานั้นมีความรังเกียจจางๆ
“คุณบอกมาสิว่าทำไมเวลาที่คุณมองกงจวิ้นฉือถึงได้อ่อนโยนขนาดนั้น แต่เวลาที่มองผมต้องทำหน้าขมึงทึงเหมือนกับว่าผมติดค้างคุณหลายล้านด้วย?” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยไม่พอใจ
ตอนที่ 310 คุณกัดผม
เมื่อคิดว่าเวลาที่ฉู่เจียเสวียนเจอหน้ากงจวิ้นฉือแล้วยิ้มอย่างสดใส หัวใจของเขาก็ราวกับถูกมีดแทงอย่างไรอย่างนั้น
“เขาเป็นแฟนของฉัน ฉันยิ้มให้เขามันไม่ควรเหรอ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว ตั้งใจเน้นหนักคำว่า ‘แฟน’ คำนี้
เขานึกว่าเขาเป็นใคร? เธอฉู่เจียเสวียนก็ไม่ได้ขายยิ้มสักหน่อย ทำไมต้องยิ้มให้เขาด้วย
“แฟน?” เผยหนานเจวี๋ยที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วนั้น เมื่อได้ยินเธอบอกว่ากงจวิ้นฉือเป็นแฟนของเธอ ในใจก็รู้สึกโกรธมาก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
เห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของเผยหนานเจวี๋ย มุมปากของฉู่เจียเสวียนยกยิ้มแล้ว
“แน่นอน คุณเผยกรุณาปล่อยมือด้วย เดี๋ยวถ้าแฟนของฉันเข้ามา เห็นพวกเราฉุดกระชากลากถูกันอยู่ตรงนี้แล้วเข้าใจผิดล่ะก็ มันไม่ดีแน่!” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนสะบัดมือของเขาออกอย่างแรง ดิ้นหลุดจากพันธนาการของเขา หันหลังเดินออกไป ไม่แม้แต่จะจัดเอกสารแล้ว
แต่ว่าเพียงก้าวเดินไม่ทันไร ก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยดึงมือเอาไว้ เธอเสียการทรงตัวและล้มเข้าสู่อ้อมแขนที่เยือกเย็นของเขา
เงยหน้าขึ้น ความเกรี้ยวกราวเอ่อล้นในแววตา กำลังจะอ้าปาก เผยหนานเจวี๋ยก็ก้มหน้าจูบปากของเธอ
ฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยบังคับจูบเธอในสถานที่แบบนี้ ในขณะที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว
เผยหนานเจวี๋ยดูดดื่มริมฝีปากของฉู่เจียเสวียนอย่างแรง ฉู่เจียเสวียนได้ยินเสียงลมหายใจของเขาอย่างชัดเจน
ฉู่เจียเสวียนยกมือขัดขืนเขาไม่หยุด แต่เมื่อเผยหนานเจวี๋ยรู้สึกถึงการดิ้นรนของเธอ กอดเธอแน่นกว่าเดิม เขาดื่มด่ำความสดชื่นในปากของเธออย่างตะกละตะกลาม
วินาทีที่ได้สัมผัสกับริมฝีปาก เผยหนานเจวี๋ยราวกับเสพติดจนไม่สามารถละออกมาได้
“คุณ…ปล่อยฉัน…” ฉู่เจียเสวียนถูกเผยหนานเจวี๋ยจูบจนหัวใจว้าวุ่น มือดิ้นรนขัดขืนเขาไม่หยุด แต่เธอค้นพบว่าไม่สามารถผลักเขาออกไปได้
อ้าปากกะทันหัน ฉู่เจียเสวียนกัดลิ้นของเผยหนานเจวี๋ยอย่างแรง เผยหนานเจวี๋ยเจ็บปวด ปล่อยตัวฉู่เจียเสวียน
“คุณกัดผมเหรอ” ดวงตาของเผยหนานเจวี๋ยแดงก่ำ มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยปาก
“คุณเผย คราวหน้าคุณกรุณาระวังคำพูดและการกระทำของคุณด้วย ถ้าหากมีคราวหน้าอีก ฉันจะฟ้องคุณข้อหาลวนลาม!” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างโมโห ยกมือเช็ดๆ ปากของตัวด้วยความสะอิดสะเอียน
บ้าจริง เมื่อกี้ตอนที่เผยหนานเจวี๋ยจูบเธอนั้น หัวใจของเธอก็เต้นแรง
เห็นกิริยาที่ฉู่เจียเสวียนเช็ดปาก ความเจ็บปวดอันล้ำลึกผุดขึ้นในดวงตาของเขา “คุณรังเกียจผมขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณเผย หรือว่าฉันไม่ควรรังเกียจคุณหรือไง ทั้งๆ ที่คุณมีแฟนอยู่แล้ว คุณคิดว่าที่คุณทำแบบนี้มันสมเหตุสมผลเหรอ”
“คุณนี่หน้าไม่อายจริงๆ ทั้งๆ ที่มีฉู่อีอีอยู่แล้ว ยังกล้าเล่นกับผู้หญิงข้างนอกอีก ถ้าหากเขารู้ล่ะก็ แก้วตาดวงใจของคุณไม่เจ็บจนตายหรือไง”
ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเย็นชา แววตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยเยือกเย็น
“คุณ…” เผยหนานเจวี่ยเศร้าเสียใจ มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น เพราะอะไร
“มีอะไรเหรอ” จู่ๆ เสียงที่อบอุ่นดังขึ้น กงจวิ้นฉือเข้ามาจากข้างนอก รู้สึกว่าบรรยากาศภายในผิดปกติเล็กน้อย ขมวดคิ้วเอ่ยปากถาม
เห็นสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดของเผยหนานเจวี๋ย เขาเลิกคิ้ว หันมองฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนส่ายศีรษะเบาๆ
“พวกเราจะจัดงานวันครบรอบของบริษัทเผยมะรืนนี้ ถึงตอนนั้นพวกคุณสองคนได้โปรดไปร่วมงานด้วย” หลังจากเผยหนานเจวี๋ยพูดจบและชำเลืองมองฉู่เจียเสวียนแล้วก็หันหลังจากไป
มองดูเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่จากไป กงจวิ้นฉือเดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน กุมมือของเธอ “เจียเสวียน เป็นอะไรไป”
ตอนที่ 311 เมื่อกี้เขาเป็นบ้า
“เปล่า เมื่อเขาเป็นบ้าน่ะ แต่ว่าฉันไม่เป็นไร คุณวางใจเถอะ” ฉู่เจียเสวียนยิ้มเอ่ย จัดเอกสารบนโต๊ะต่อ
นึกถึงจูบเมื่อครู่ ดวงตาของฉู่เจียเสวียนก็เกิดประกายโมโห เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเผยหนาน
เจวี๋ยถึงจูบเธอ
ที่งานครบรอบห้าปีของกลุ่มบริษัทเผย
เผยหนานเจวี๋ยนั่งหน้าบึ้งอยู่ที่มุมห้อง สายตาจ้องไปที่งานตลอดเวลา เขาก็ไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไร หรือรออะไร
“หนานเจวี๋ย คุณมาทำอะไรตรงนี้ ทางนั้นมีเจ้านายเยอะแยะเลย เรียกให้คุณออกไปค่ะ” ฉู่อีอีเดินมาหาเผยหนานเจวี๋ย นั่งลงข้างๆ เขา มองเขาพร้อมกล่าวอ่อนโยน
ฉู่อีอีในค่ำคืนนี้งดงามอย่างไม่ต้องสงสัย ชุดราตรีผ่าคอวีลึก ผมมัดเกล้าสูง ใบหน้าที่สวยงามแจ่มใส
มีรอยยิ้มชวนหลงใหล ลมหายใจที่สูงส่งเลอค่าแผ่ซ่านอยู่รอบตัว
เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกได้ว่าฉู่อีอีเข้ามาใกล้ ขมวดคิ้วกันจนแทบมองไม่เห็น แต่เหมือนกับฉู่อีอีมองไม่เห็น ยื่นมือออกไปควงแขนของเขา
จู่ๆ เสียงประตูขยับเขยื้อนดังขึ้น สะกดสายตาทุกคนไว้
ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือที่มาล่าช้านั้น ตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ที่ประตูหน้างานแล้ว ไม่รู้ว่าเสียงใครตะโกนออกมากะทันหัน “ฉู่เจียเสวียนมาแล้ว!”
ฉู่เจียเสวียนยิ่งดึงดูดสายตาของทุกคนเอาไว้แล้ว เมื่อฉู่อีอีได้ยินว่า ‘ฉู่เจียเสวียน’ ก็เงยหน้าขึ้นมองฉู่เจียเสวียนที่ส่องประกายสดใส ในขณะนี้กำลังทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม
แววตามีประกายความเกลียดชัง เธอคิดไม่ถึงว่าเธอจะมา นึกถึงเรื่องที่ตัวเองต้องอับอายขายหน้าในงานกลุ่มบริษัทกงเมื่อคราวก่อน ในใจก็ยิ่งโมโห
เมื่อเผยหนานเจวี๋ยเห็นว่าฉู่เจียเสวียนมาแล้ว และเห็นกงจวิ้นฉือที่ยืนอยู่ข้างกายเธอ ในใจก็รู้สึกโมโห ก้าวเดินไปหาทั้งสองคนโดยไม่สนใจฉู่อีอีโดยสิ้นเชิง
ฉู่อีอีโกรธจนกัดฟันกรอด ก้าวเท้าเดินตามไปแล้ว
บนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้มที่สง่างามและแตกต่าง ดวงตาโตนั้นสดใสเหมือนดวงดาว
“เจียเสวียน คุณดูคุณสิ ดึงดูดผู้คนทุกครั้งเลย” กงจวิ้นฉือหันหน้ามายิ้มเอ่ยกับฉู่เจียเสวียนแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือได้แต่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเผยหนานเจวี๋ยกับ
ฉู่อีอีเดินตรงมายังพวกเขา
“คุณเผย คุณหนูฉู่” ฉู่เจียเสวียนมองทั้งสองคนที่เดินเข้ามา กล่าวอย่างมีมารยาท กงจวิ้นฉือพยักหน้าทักทายทั้งสองคน
ฉู่อีอีเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียน ในใจก็เกลียดชังแสนสาหัส แต่ว่าก็แสดงอาการไม่ได้ ได้แต่ทำทีพยักหน้าให้ทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน
“เอาล่ะทุกคน งานเลี้ยงของกลุ่มบริษัทเผยเรากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้ขอเชิญประธานเผยของเรากล่าวอะไรกับพวกเราหน่อยครับ” เสียงของพิธีกรบนเวทีลอยมา
จู่ๆ แสงไฟทั้งหมดต่างส่องอยู่บนตัวของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอียืนอยู่ข้างเขา ทันใดนั้นเอง ทั้งสองคนกลายเป็นจุดสนใจของทั้งงาน ฉู่อีอีเพลิดเพลินกับสายตาแบบนี้อย่างภาคภูมิใจ
เผยหนานเจวี๋ยเม้มปาก สีหน้าหมดความอดทนเล็กน้อย แต่ว่านี่กลับไม่ส่งผลต่อพนักงานที่อารมณ์ดีอย่างยิ่งยวดเหล่านั้น
ฉู่เจียเสวียนมองสองคนบนเวที มุมปากยกยิ้ม หันไปพูดกับกงจวิ้นฉือ “ฉันก็บอกแล้วว่างานแบบนี้มันไม่สนุกเลย คุณยังจะดึงดันให้ฉันมาอีก”
ได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของฉู่เจียเสวียน กงจวิ้นฉือหัวเราะ จูงมือของเธอออกไปจากฝูงชน เดินไปยังห้องพักผ่อน ที่จริงเขาก็ไม่ชอบงานประเภทนี้ แต่ว่าการทำธุรกิจมันต้องรักษาหน้ากัน
อีกอย่าง คนใหญ่คนโตต่างอยู่ที่นี่ ยังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ได้บ้าง สำหรับเขาแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีข้อเสีย ทำไมจะไม่มาล่ะ
ตอนที่ 312 น่าสะอิดสะเอียน
“หรือว่าคุณอยากให้ผมเชิญผู้หญิงคนอื่นเป็นคู่เดทเหรอ คู่เดทของผมตั้งแต่ไหนแต่ไรก็มีแต่คุณ”
กงจวิ้นฉือเอ่ยปากอย่างอบอุ่น แววตามีรอยยิ้ม ยื่นมือลูบใบหน้าของฉู่เจียเสวียน
“ก็จริง คุณเห็นคนนั้นหรือเปล่า เขาเป็นเถ้าแก่โจวจากเมือง H ธุรกิจของเขาใหญ่มากนะ เดี๋ยวคุณก็เดินไปทักทายเขาสิ” ฉู่เจียเสวียนชี้ไปยังชายวัยกลางคนที่อยู่ไม่ไกลนักพร้อมเอ่ย แววตาที่มองกงจวิ้นฉือมีรอยยิ้ม
มองดูฉู่เจียเสวียนที่ละเอียดรอบคอบ จู่ๆ กงจวิ้นฉือพูดขึ้น “เจียเสวียน ถ้าหากได้แต่งงานกับคุณล่ะก็ มันจะเป็นความสุขชั่วชีวิตของผมเลย”
กงจวิ้นฉือเอ่ยปากกะทันหัน มองฉู่เจียเสวียนด้วยความจริงจัง สายตาที่ไม่ปกปิดความรักลึกซึ้งนั้นทำให้ฉู่เจียเสวียนอึ้งไป จากนั้นก็ก้มหน้าแล้วยิ้ม
ทันใดนั้น เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเปิดงานจบแล้ว เมื่อคำกล่าวสิ้นสุดลงเป็นการแสดงให้เห็นว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่ที่มุมคนเดียว ส่วนกงจวิ้นฉือก็ไปหาคนใหญ่คนโตกลุ่มหนึ่งแล้ว
ถือน้ำผลไม้ในมือ ฉู่เจียเสวียนนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่าทำไม ความคิดของเธอก็ล่องลอย จนกระทั่งมีกลุ่มผู้หญิงห้อมล้อมรอบกาย ฉู่เจียเสวียนจึงดึงสติกลับมา
“เธอคือฉู่เจียเสวียน?” ผู้หญิงที่เอ่ยถามมีความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน
เงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคนตรงหน้า ฉู่เจียเสวียนมั่นใจว่าเธอไม่รู้จักพวกเธอ
“ใช่ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรอคะ” เอ่ยอย่างวางตัว เสียงของฉู่เจียเสวียนสดใส แววตามีความเย็นชา คนพวกนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าจุดประสงค์ไม่ดี แค่ไม่รู้ว่าพวกเธอต้องการจะทำอะไรก็เท่านั้น
“แค่มีคำถามอยากจะถามเธอนิดหน่อยน่ะ”
“คำถาม? ฉันรู้จักพวกคุณ?” ได้ยินน้ำเสียงไร้ความเกรงใจจากอีกฝ่าย น้ำเสียงของฉู่เจียเสวียน
เยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มบนใบหน้าก็จืดจางลงไปด้วย
“ฉันขอให้เธอรู้จักเจียมตัวหน่อย รักษาสถานะของตัวเองให้ดีๆ อย่าคิดว่าตอนนี้ตัวเองมีชื่อเสียง
นิดหน่อยก็แตะต้องไม่ได้นะ” ผู้หญิงไม่กี่คนที่ล้อมตัวฉู่เจียเสวียน มองดูใบหน้าเย็นชาของเธอ อดไม่ได้ที่จะโมโหเล็กน้อย
มุมปากยกยิ้ม ความเย็นชาบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนยิ่งล้ำลึกกว่าเดิม พวกเธอคงจะได้รับคำสั่งมาจากฉู่อีอีสินะ?
เงยหน้าขึ้น ก็เห็นฉู่อีอีกำลังมองมาทางเธอด้วยจุดประสงค์ร้ายตามคาดพอดี ในเวลานี้มุมปากยกยิ้ม “น้องสาวทุกคนคะ ก่อนที่จะหาเรื่องคนอื่น กรุณาดูด้วยว่าพวกคุณกำลังช่วยใคร และจะทำผิดต่อใคร อย่าส่งเสียงนกเสียงกาโดยไม่มีพลังหรือหลักฐานอะไรแบบนี้”
“กลับไปบอกเขา ถ้าหากเขาคิดจะหาเรื่องฉัน งั้นก็ให้เขาเข้ามาหาฉันเอง อย่ามัวแต่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ เยอะขนาดนั้น มันน่าสะอิดสะเอียน!” แววตาของฉู่เจียเสวียนจ้องอยู่ที่ฉู่อีอีตลอดเวลา แต่กลับพูดให้ผู้หญิงเหล่านั้นที่ห้อมล้อมรอบตัวเธอฟัง
ผู้หญิงเหล่านั้นได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน อารมณ์เสียเล็กน้อย เงยหน้ามองไปตามสายตาของเธอ จึงพบว่าเธอกำลังมองฉู่อีอีอยู่ ทันใดนั้นเองสีหน้าจึงเปลี่ยนไป หันหน้ามองกันเอง จากนั้นก็แยกย้ายเป็นนกกระจอกแตกรัง
ฉู่อีอีที่อยู่ไกลๆ เห็นฉากนี้ ข้อนิ้วของมือที่ถือแก้วทรงสูงอยู่นั้นขาวซีด
หลังจากผู้หญิงพวกนั้นจากไปแล้ว ฉู่อีอีก็เห็นปากของฉู่เจียเสวียนปิดๆ เปิดๆ เธอไม่ได้ยินว่าพูดอะไร แต่ว่าเธออ่านปากออก “ฉู่อีอี เธอยังมีลูกไม้อะไรอีกก็ใส่มาให้หมด”
ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกโมโห ดวงตาของฉู่อีอีแดงก่ำ ฉู่เจียเสวียน!
ก้าวเดินไปหาฉู่เจียเสวียนทันที แต่เนื่องจากช่วงนี้เธอล้มเหลวกับฉู่เจียเสวียนมากเกินไป ฉะนั้นตอนนี้
ฉู่อีอีจึงไม่กล้าวู่วาม
“ฉู่เจียเสวียน!”
ตอนที่ 313 ความเหนื่อยล้ากะทันหัน
“หืม?” มองฉู่อีอีที่เดินใกล้เข้ามา ฉู่เจียเสวียนพูดว่า ‘หืม’ เบาๆ อย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เม้มริมฝีปากแดง บุคลิกที่สง่างามยิ่งทำให้ฉู่อีอีไม่พอใจ
“แกมันคนชั่ว!” ฉู่อีอีกร่นด่าไม่มีปี่มีขลุ่ย แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนเต็มไปด้วยความโมโห
“ฉู่อีอี เธอระวังปากหน่อยนะ ฉันจะเตือนเธอ ฉันยังมีหลักฐานที่เธอทำผิดในมือฉัน ถ้าหากเธอกล้าทำให้ฉันโมโหล่ะก็ ฉันไม่กล้ารับประกันว่าหลักฐานของเธอพวกนั้นจะหลุดไปในอินเทอร์เน็ตหรือเปล่านะ” ทั้งๆ ที่ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม แต่ว่าเมื่อฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเธอในใจกลับรู้สึกเย็นชา
“เธอ…” ในที่สุดหลังจากฉู่อีอีกัดริมฝีปากและจ้องเธออย่างดุร้ายแล้ว ก็เดินออกไป
มองดูเงาของฉู่อีอีที่เดินไกลออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนก็จางหาย ถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ ยื่นมือถูๆ คิ้ว แล้วก็กระพริบตาถี่
จริงๆ แล้วเธอเกลียดการวางอุบายเช่นนี้มาก ครึ่งหนึ่งของความเหนื่อยล้าในใจล้วนเกิดจากการก่อกวนของฉู่อีอี
“เจียเสวียน คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า” จู่ๆ ก็มีเสียงอบอุ่นดังขึ้นข้างกาย ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองก็รู้ว่าเป็นใคร
สีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ข้างกายเขา รอยยิ้มแข็งทื่อในทันใด จากนั้นก็พูดว่า “สงสัยเมื่อคืนพักผ่อนไม่พอ”
ค่อยๆ ละสายตาออกจากเผยหนานเจวี๋ย แล้วมาหยุดอยู่ที่กงจวิ้นฉือ
“งั้นพวกเรากลับกันก่อนเถอะ” กงจวิ้นฉือขมวดคิ้ว มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยปาก แววตามีความกังวล
ฉู่เจียเสวียนกวาดตามองเผยหนานเจวี๋ยแล้วพยักหน้า ก็ดีเหมือนกัน ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่นี่
เห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้า กงจวิ้นฉือก็เอ่ยกับเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ “คุณเผย เจียเสวียนไม่สบายนิดหน่อย งั้นพวกเรากลับก่อนนะครับ พวกคุณฉลองกันให้สนุก”
มองดูใบหน้าของฉู่เจียเสวียนที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า แม้ว่าเขาไม่อยากให้เธอจากไปเหลือเกิน
ฉู่เจียเสวียนพยักหน้าให้เผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็ตามกงจวิ้นฉือออกไป
ฉู่อีอีมองดูแววตาห่วงใยของเผยหนานเจวี๋ยที่มองฉู่เจียเสวียนอยู่ที่มุมหนึ่ง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวด
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เผยหนานเจวี๋ยเตือนเธอไม่ให้ไปก่อกวนฉู่เจียเสวียนอีก มันเป็นเพียงแค่สิ่งเบาบางสำหรับเธอมาโดยตลอด และยิ่งทำให้เธอร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ มือก็กำแน่น ฟันกัดริมฝีปากแดงๆ ดวงตาเปล่งประกายชั่วร้าย
หลังจากงานฉลองครบรอบแล้ว เผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีก็กลับมาถึงวิลล่า
เมื่อเข้ามา ฉู่อีอีถอดรองเท้าส้นสูง ยื่นมือต้องการจะควงแขนของเผยหนานเจวี๋ยตามความเคยชิน แต่ว่าเขากลับหลบหลีก
มือที่ยื่นออกมาค้างอยู่กลางอากาศ ฉู่อีอีไม่พอใจฉับพลัน เธอได้รับความทุกข์ทรมานแบบนี้มามากพอแล้ว
เชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะสามารถทนให้ผู้ชายที่เธอรักเฉยเมยกับตัวเองเช่นนี้
“หนานเจวี๋ย พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม” ฉู่อีอีตามหลังเผยหนานเจวี๋ย มองดูแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของเขา แววตามีความเจ็บปวด
หันกลับมา สายตาของเผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีด้วยความเฉยเมย มุมปากยกยิ้ม “อีอี คุณอยากคุยอะไรกับผมเหรอ” เสียงที่ทุ้มต่ำดังขึ้น ราวกับว่ารับรู้ได้ถึงภยันตราย
“หนานเจวี๋ย คุณเป็นอะไรกันแน่ ทำไมช่วงนี้คุณถึงเย็นชากับฉันขนาดนี้ คุณรู้หรือเปล่าเวลาที่เห็นคุณแบบนี้แล้วฉันปวดใจมาก คุณอย่าทำกับฉันแบบนี้ได้ไหม ถ้าฉันทำอะไรผิดไปคุณจะตีจะว่าฉันก็ได้ แต่อย่าไม่สนใจฉันได้หรือเปล่า”
ตอนที่ 314 ข้ออ้างของเขา
ฉู่อีอีมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ย แววตาเผยความน้อยใจ
สูดหายใจลึก จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าการเผชิญหน้ากับฉู่อีอีเช่นนี้ช่างเหนื่อยเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนตอนที่เห็นเธอนั้น เธอสามารถนำซึ่งความสุขและความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่เขา
“อีอี คุณอย่าคิดมากได้ไหม ผมยังมีงานต้องจัดการ คุณไปนอนก่อนเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการพูดกับฉู่อีอีมาก ก้าวเดินต้องการขึ้นไปชั้นบน
ฉู่อีอีตามหลังเขาไปอย่างไม่พอใจ “หนานเจวี๋ย!”
แต่เหมือนกับว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ยินคำพูดของเธอเลย รีบก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว หลบเข้าไปในห้องอ่านหนังสือแล้วปิดประตูทันที
ฉู่อีอีหยุดเดิน มองประตูไม้ที่เกือบกระแทกหน้าเธอ โมโหจนแทบทนไม่ไหว
วันต่อมา เนื่องจากเผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการเห็นหน้าฉู่อีอี ดังนั้นจึงออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว
เมื่อฉู่อีอีตื่นแล้วไม่เห็นเงาของเผยหนานเจวี๋ย สั่งให้คุณแม่จางอุ่นน้ำแกง เธอคิดว่าจะส่งไปให้
เผยหนานเจวี๋ยตอนเที่ยง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีของเธอ
ตอนเที่ยง ฉู่อีอีมาถึงบริษัทเผย
เอื้อมมือเคาะประตู เสียงต่ำๆ ของเผยหนานเจวี๋ยดังออกมาจากข้างในทันที ฉู่อีอีจึงผลักประตูเข้าไป
“หนานเจวี๋ย” ทันทีที่ฉู่อีอีเข้ามาในออฟฟิศ เสียงที่อ่อนโยนก็ดังขึ้น
เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมาเห็นฉู่อีอีที่กำลังยิ้ม พร้อมถือกระติกเก็บความร้อนในมือ
“คุณมาได้ยังไง” เมื่อเผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่อีอี ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
“ฉันคิดว่าเมื่อคืนคุณคงทำงานล่วงเวลาจนดึก วันนี้ก็เลยตั้งใจให้คุณแม่จางอุ่นแกงให้คุณ เอามาให้คุณดื่ม” ฉู่อีอีมองรอยคล้ำใต้ตาของเผยหนานเจวี๋ยที่เห็นได้ชัด พูดขึ้น
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้ว ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เดินไปยังโซฟาในห้องรับแขก ฉู่อีอีตามหลังเขาไป นั่งลงข้างเขาเทน้ำแกง ยื่นให้เผยหนานเจวี๋ย
“มา หนานเจวี๋ย คุณดื่มตอนกำลังร้อนสิ” ฉู่อีอีเอ่ยปากอ่อนโยน สายตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
ดื่มไปไม่กี่คำ เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้า ดื่มไปแค่สองถ้วยก็หยุดดื่มแล้ว
“อีอี ผมดื่มแกงหมดแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ ผมยังมีงานต้องทำอีก” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีพร้อมเอ่ย บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ
“หนานเจวี๋ย คุณไม่อยากเห็นหน้าฉันแล้วเหรอ” ฉู่อีอีคิดไม่ถึงว่าพอเผยหนานเจวี๋ยดื่มน้ำแกงเสร็จก็บอกให้เธอกลับไป เธอมาถึงที่นี่เพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น
“เปล่าหรอก อีอี ผมยังมีงานต้องทำจริงๆ” มองดูฉู่อีอีที่จู่ๆ ก็อารมณ์เสีย เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ทำไมช่วงนี้เธอถึงโมโหง่ายจังเลย
เธอช่างแตกต่างจากฉู่เจียเสวียนจริงๆ
นึกถึงเมื่อก่อน เขาบอกให้เธอทำอะไรเธอก็เชื่อฟัง เอาแต่ก่อกวนเขาทั้งวันเหมือนฉู่อีอีที่ไหนกัน
“หนานเจวี๋ย พวกเราสองคนไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันข้างนอกนานแล้ว และไม่ได้คุยเล่นกันนานแล้ว คุณสละเวลาไปกับฉันหน่อยได้หรือเปล่า” สายตาที่ฉู่อีอีมองเผยหนานเจวี๋ยเผยความรู้สึกลึกซึ้ง
พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คนรักทำกันนานแล้ว เขาในตอนนี้ไม่แม้แต่จะแตะต้องตัวเธอ
เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างอดกลั้น “อีอี รอผมพ้นช่วงนี้ไปแล้ว ผมค่อยพาคุณไปเที่ยวดีหรือเปล่า ถึงตอนนั้นผมจะสละเวลาให้คุณ”
“จริงเหรอคะ” พอฉู่อีอีได้ยิน ดวงตาก็เป็นประกาย แววตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยสุกใสไม่หยุด
“จริงสิ ตอนนี้คุณกลับไปก่อน ถ้าคุณมากวนผมที่นี่ ผมก็จะทำงานไม่เสร็จ ทำให้งานของผมยืดเยื้อ ถึงตอนนั้นผมจะยิ่งยุ่งกว่าเดิม” เผยหนานเจวี๋ยบอกข้ออ้างกับฉู่อีอีส่งเดช
ตอนที่ 315 เขาคือปีศาจ
พระเจ้ารู้ดีว่าทำไมในตอนนี้เขาถึงรำคาญและไม่ต้องการเผชิญหน้ากับฉู่อีอี ในตอนนี้ทุกครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับเธอ มักจะอดไม่ไหวคิดถึงฉู่เจียเสวียน
แต่ว่าคราวนี้ฉู่อีอีเชื่อคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว และคิดว่าเผยหนานเจวี่ยยุ่งจริงๆ
“ได้ หนานเจวี๋ย งั้นฉันกลับก่อนนะ คุณต้องดูแลสุขภาพด้วย งานสำคัญก็จริง แต่ว่าสุขภาพสำคัญกว่า รักคุณนะคะ” หลังจากฉู่อีอีพูดจบและประทับจูบบนริมฝีปากของเผยหนานเจวี๋ยเบาๆ แล้วก็หันหลังออกไปจากออฟฟิศของเขา
จนกระทั่งประตูออฟฟิศปิดลง เผยหนานเจวี๋ยจึงถอนหายใจลึกๆ พิงตัวอยู่บนพนักโซฟาอย่างหมดแรง ยกมือถูๆ คิ้ว หลับตา
ฉู่อีอีออกจากบริษัทของเผยหนานเจวี๋ยอย่างอารมณ์ดีมาก ไม่ได้สังเกตโดยสิ้นเชิงว่าตอนนี้เธอกำลังถูกจับตามอง
ขณะที่กำลังจะถึงรถของตัวเองที่อยู่ด้านข้าง เมอร์เซเดสสีดำคันหนึ่งก็หยุดข้างเธอทันที ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ฉู่อีอีก็ถูกลากขึ้นรถ
ตื่นตระหนกในใจ สมองของฉู่อีอีว่างเปล่า เธอถูกคนลักพาตัวงั้นเหรอ
“อีอี” ฉู่อีอีที่กำลังงงงวย ได้ยินเสียงดังขึ้นกะทันหัน ขณะที่เงยหน้าขึ้นมองคนคนนั้น สีเลือดก็หายไปจากใบหน้า
เฉิงเฮ่า! เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
ตอนนี้เขาควรอยู่ที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ
นึกถึงสามปีที่อยู่ต่างประเทศและตอนที่ถูกเขาทรมานแล้ว ในใจของฉู่อีอีก็สั่นเทิ้ม
เขาคือปีศาจดีๆ นี่เอง!
ตอนที่เพิ่งไปต่างประเทศกับเขา เขาดีกับเธอมากจริงๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จึงพบว่าความปรารถนาที่จะควบคุมของเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป ทุกครั้งที่เธอออกไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ออกจากบ้านไปยังไม่ถึงชั่วโมง เขาก็จะเริ่มโทรศัพท์เรียกร้องให้เธอกลับไป
ถ้าหากเธอไม่กลับไปหรือกลับไปช้า เขาก็จะลงมือตบตีเธอ หรือแม้แต่บังคับขืนใจเธอเวลาที่เธอไม่เต็มใจ
และเธอก็เสียลูกไปด้วยเหตุนี้!
หลังจากเสียลูกไปแล้ว เธอเคยหลบหนี แต่เฉิงห่าวเป็นคนที่มีอำนาจในต่างประเทศ ไม่ว่าเธอจะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของเขา ทุกครั้งที่ถูกเขาจับกลับมา เขาก็จะทารุณเธออย่างรุนแรง
เฉิงเฮ่าเป็นคนที่จิตใจอำมหิต ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง ฉู่อีอีเคยเห็นเฉิงเฮ่าฆ่าคนกับตามาก่อน
หลังจากเห็นเขาฆ่าคนจริงๆ แล้ว ฉู่อีอีจึงกลัวมาก ตัดสินใจว่าจะต้องหนีไปจากเขา เธอรวมหัวกับคู่แข่งของเขา ปล่อยให้บริษัทของเขาตกอยู่ในภาวะวิกฤติ เธอจึงฉวยโอกาสขณะที่เฉิงห่าวไม่ทันตั้งตัว แอบหนีกลับประเทศ
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะกลับมาแล้ว!
“เฉิง…เฮ่า คุณกลับมาได้ยังไง” ฉู่อีอีเอ่ยปากเสียงสั่น แม้ว่าพวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันสามปีแล้ว แต่ว่าเมื่อฉู่อีอีเจอเขาในตอนนี้ก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
มองดูฉู่อีอีที่กลัวจนร่างกายสั่นเทา เฉิงเฮ่ายิ้ม ริมฝีปากที่เย็นเฉียบและบอบบางอ้าเอ่ย “ผมคิดถึงคุณ ก็เลยกลับมา”
ยื่นมือลูบผมของฉู่อีอี แสยะยิ้ม
“จุ๊ๆ ไม่เจอกันสามปี คุณสวยขึ้นขนาดนี้เลย จุ๊ๆ ผิวก็ลื่นมากด้วย คุณ…” มือใหญ่โตของเฉิงเฮ่าโอบเอวของฉู่อีอี ออกแรงดึงฉู่อีอีเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง “คิดถึงผมไหม”
รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่าลงบนตัว ฉู่อีอียิ่งตัวสั่นรุนแรงกว่าเดิม “ฉัน…”
‘คิดถึงแกน่ะสิแปลก แกมันคนเสียสติ ฉันอดใจรอไม่ไหวอยากให้แกหายตัวไปตลอดกาลซะอีก!’
“ดูอาการของคุณแบบนี้ ไม่ต้อนรับผมกลับมาแล้วใช่ไหม” ใบหน้าของเฉิงเฮ่ายังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยน หลับตาดมกลิ่นหอมบนตัวของเธอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น