กับดักรักในรอยแค้น 300-307

     ตอนที่ 300 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน


 


 


           ดีไซเนอร์หลายคนต่างได้ยินถึงชื่อเสียงของฉู่เจียเสวียน


 


 


           เพียงพริบตาเดียว นิทรรศการเสื้อผ้าฤดูร้อนมาถึงตามกำหนดเวลา ฉู่เจียเสวียนวุ่นวายไม่หยุด


 


 


           เพื่อให้สามารถจัดนิทรรศการออกแบบเสื้อผ้าฤดูร้อนครั้งนี้ออกมาดี ฉู่เจียเสวียนตรวจสอบรายการทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นจึงปล่อยให้ผู้คนเข้าไปในห้องแต่งตัว


 


 


           เพื่องานนิทรรศการครั้งนี้แล้ว ฉู่เจียเสวียนทุ่มเทแรงใจไปมาก เพื่อไม่ให้มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงๆ


 


 


           “พี่เจียเสวียน แย่แล้ว นางแบบคนนึงแคทวอล์คจู่ๆ ก็ปวดท้อง เดินไม่ไหวแล้ว ทำไงดี” ผู้ช่วยมองฉู่เจียเสวียนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา


 


 


           ฉู่เจียเสวียนเดินไปยังนางแบบที่เกิดเรื่อง “เธอเป็นยังไงบ้าง”


 


 


           เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของคนนั้น ฉู่เจียเสวียนเรียกคนให้พาเธอไปที่โรงพยาบาลทันที ส่วนเธอจะคิดหาทางอีกที


 


 


           “เจียเสวียน ฉันได้ยินว่ามีนางแบบคนนึงเกิดเรื่องใช่หรือเปล่า ทำไงดี” ทันใดนั้นถังถังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังเวที มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยกระวนกระวาย


 


 


           ฉู่เจียเสวียนไม่ได้ตอบคำถามของถังถัง เพียงแต่พยักหน้า มองดูชุดเดรสวันพีซสีขาวส่ายเดี่ยวที่แขวนอยู่บนผนัง ฉู่เจียเสวียนกัดฟัน


 


 


           “พี่เจียเสวียน ใกล้จะถึงคิวเขาแล้วทำไงดี”


 


 


           “ฉันจะเดินเอง เธอปรับลำดับการเดินให้ที ฉันอยู่ที่สุดท้าย”


 


 


           “เธอแน่ใจ?” ถังถังเข้าใจคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้วเอ่ยปากอย่างประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะเป็นคนขึ้นไปเดินเอง


 


 


           ก้าวเท้าเดินไปหาชุดเดรสวันพีซ ยื่นมือหยิบชุดลงมา จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ ฉันขึ้นเอง”


 


 


           “ผมเชื่อว่าคุณทำได้” เสียงอบอุ่นดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นก็เห็นกงจวิ้นฉือปรากฏตัวอยู่ในห้องแต่งหน้า


 


 


           พยักหน้าให้กงจวิ้นฉือ จากนั้นก็เดินเข้าห้องแต่งตัวไป หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วก็ให้ช่างแต่งหน้าช่วยแต่งหน้าให้เธอ


 


 


           ปกติฉู่เจียเสวียนมักจะแต่งหน้าอ่อนๆ ทาลิปสติกชั้นบางๆ


 


 


           ครั้งนี้เพื่อให้การแสดงชุดของเธอสามารถจบลงอย่างโดดเด่น เธอจำเป็นต้องอยู่ในสภาพที่สวยที่สุด


 


 


           “พี่เจียเสวียน คิวต่อไปก็ตาพี่แล้ว” ผู้ช่วยเอ่ยปากกับฉู่เจียเสวียน


 


 


           เธอพยักหน้าเบาๆ มองดูตัวเองที่มีรัศมีเปล่งปลั่งทั้งตัว เธอสูดหายใจลึก จากนั้นก็เดินขึ้นเวทีไป


 


 


           ในมือของฉู่เจียเสวียนถือช่อดอกไม้ เดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ แสงไฟหลากสีจากเพดานสาดส่องอยู่บนใบหน้าของเธอทีละน้อยๆ ชวนน่าหลงใหล


 


 


           ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนออกมาก็ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน ผู้คนด้านล่างเวทีกระซิบกระซาบกัน


 


 


           นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินแคทวอร์ค ขณะที่สายตากวาดเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ด้านล่างเวทีโดยไม่ตั้งใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนยิ่งสดใสกว่าเดิม


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนบนเวทีที่ดูสดใสและเป็นประกาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสวยและมั่นใจได้ถึงเพียงนี้


 


 


           ฉู่อีอีที่ยืนอยู่ข้างเผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนที่สุกใสอยู่บนเวทีก็โมโหจนกัดฟันกรอด หันไปเห็นเผยสายตาของหนานเจวี๋ยจ้องฉู่เจียเสวียนอยู่ตลอดเวลา เธอยิ่งรู้สึกไม่พอใจ


 


 


           ทันใดนั้น เสียงปรบมือเกรียวกราวดังขึ้นด้านล่างเวที


 


 


           ฉู่เจียเสวียนโค้งให้กับผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวที จากนั้นก็เริ่มพูด


 


 


           “ขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้าร่วมงานแสดงชุดของฉันนะคะ…”


 


 


           การแสดงเสื้อผ้าสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น อีกทั้งได้การตอบรับที่ดีทำให้ชื่อเสียงของฉู่เจียเสวียนยิ่งแพร่หลายมากขึ้นในโลกของการออกแบบ


 


 


           ในโรงพยาบาล


 


 


           ทันทีที่งานแสดงเสื้อผ้าจบลง ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือก็รีบไปที่โรงพยาบาลแล้ว


 


 


           “คุณหมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง” ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะถึงห้องผู้ป่วย ก็เห็นคุณหมออยู่ข้างใน เอ่ยถาม


 


 


           “อ๋อ ไม่ได้ร้ายแรงนะครับ เขาเพียงแค่กินอาหารที่ไม่สะอาดทำให้เกิดกระเพาะและลำไส้อักเสบเฉียบพลันครับ” หลังจากคุณหมอพูดจบก็เดินออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้ว


 


 


           อาหารที่ไม่สะอาด? ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว หันไปมองกงจวิ้นฉือและสามารถเห็นความงงงวยในสายตาของเขา


 


 


 


 


ตอนที่ 301 อาหารเป็นพิษ


 


 


“เธอพักผ่อนก่อนเถอะ” หลังจากฉู่เจียเสวียนพูดกับนางแบบจบแล้วก็หันหลังออกไปจากห้องผู้ป่วย กงจวิ้นฉือตามหลังเธอไป


 


 


อาหารเป็นพิษ? เป็นไปได้ยังไง อาหารของนางแบบล้วนผ่านกาารตรวจสอบจากบริษัทมาแล้วทั้งนั้น จะมีปัญหาได้ยังไง ทำไมต้องมาปวดท้องในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ด้วย


 


 


ฉู่เจียเสวียนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกข้องใจ


 


 


“จวิ้นฉือ เรื่องนี้มันแปลกเกินไปแล้ว อาหารที่นางแบบกินก็ผ่านการตรวจสอบจากบริษัทมาแล้วถึงจะให้พวกเขากิน จะไม่สะอาดได้ยังไง” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้น คิ้วขมวดกัน มองกงจวิ้นฉือพร้อมเอ่ยปาก


 


 


“มันน่าสงสัยอยู่จริงๆ​ คนตั้งเยอะกินแล้วก็ไม่เป็นอะไร​ แต่เธอดันกินแล้วเกิดเรื่อง​ เรื่องนี้ควรจะสืบดู​ ดีไม่ดีอาจมีคนจงใจก่อกวน” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก​ บนใบหน้าก็เปี่ยมด้วยความสงสัย


 


 


ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า​ จากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลด้วยกันกับกงจวิ้นฉือ


 


 


           กลับมาถึงบริษัท ฉู่เจียเสวียนรีบตรวจดูกล้องวงจรปิดในวันนั้นทันที เป็นไปตามคาด ในขณะที่กำลังจะเริ่มการแสดงเสื้อผ้านั้น เห็นคนที่มีลักษณะเหมือนพนักงานใส่ยาลงไปในอาหาร


 


 


           ฉู่เจียเสวียนดูถึงตรงนี้ รู้สึกโมโหในใจ รีบให้คนตามหาคนในคลิปทันที


 


 


           “ทำไมคุณถึงใส่ยาลงในอาหาร?” ฉู่เจียเสวียนมองพนักงานคนนั้น เอ่ยปากเย็นชา


 


 


           ในขณะนี้พนักงานคนนั้นตกใจจนสั่นไปทั้งตัวไม่หยุด


 


 


           “ผม…คุณหนูฉู่ขอโทษนะครับ ผมต้องการใช้เงิน แม่ของผมยังป่วยอยู่ ผมก็เลยตกลงทำแบบนี้…คุณอย่าโทษผมได้ไหมครับ” คนนั้นกล่าวตัวสั่น พูดจาติดๆ ขัดๆ


 


 


           “ขอเพียงคุณบอกว่าว่าใครเป็นคนสั่งคุณ ฉันก็จะไม่เอาเรื่องคุณ ไม่อย่างนั้นคุณต้องรับผลที่ตามมา!”


 


 


           “ผมพูด ผมพูด คุณหนูฉู่คนนั้นเป็นคนสั่งให้ผมทำ วันนี้เขามาหาผม ให้ผมช่วยงานเขา แถมยังบอกว่าไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ผม…”


 


 


           ‘ฉู่อีอี เป็นเธออีกแล้ว!’ ฉู่เจียเสวียนทายถูกอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้เธอไม่มีหลักฐานจึงไม่อยากกล่าวหาเลื่อนลอย นึกไม่ถึงว่าเธอจะชักใยอยู่เบื้องหลังจริงๆ


 


 


           มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น ดวงตาของฉู่เจียเสวียนเปี่ยมด้วยความโมโห


 


 


           เพื่อทำให้เธอพ่ายแพ้ เธอไม่ลังเลที่จะทำร้ายคนอื่นงั้นเหรอ จิตใจของเธอโหดร้ายถึงเพียงนั้นเชียวเหรอ


 


 


           เมื่อกงจวิ้นฉือได้ยินว่าเป็นฉู่อีอีแล้วไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขาเดาไว้แล้วว่าฉู่อีอีเป็นคนสั่งการเรื่องนี้ ถึงอย่างไรแล้วสิ่งที่ฉู่อีอีทนดูไม่ได้ที่สุดคือการที่ฉู่เจียเสวียนได้ดี


 


 


           “เจียเสวียน เรื่องนี้คุณคิดจะจัดการยังไง” กงจวิ้นฉือเอ่ย มองดูฉู่เจียเสวียนข้างกายที่โกรธจัดจนยากที่จะสงบลงได้


 


 


           “ฉันจะไปหาเขา ทางนี้คุณจัดการที” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ เดินออกไปจากห้องกล้องวงจรปิด


 


 


           หลังจากขึ้นรถแล้ว ฉู่เจียเสวียนขับรถไปที่วิลล่าบ้านเผยทันที


 


 


           ลงรถ ฉู่เจียเสวียนกดกริ่ง คนใช้เปิดประตู เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนท่าทางเกรี้ยวกราดก็ตกตะลึง ไม่รอให้เธอตอบสนอง ฉู่เจียเสวียนก็พรวดพราดเข้าไปข้างในทันที


 


 


           “ฉู่อีอี!” ทันทีที่เข้ามาห้องรับแขก ก็เห็นฉู่อีอีนั่งอยู่บนโซฟา


 


 


           ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นกะทันหัน ฉู่อีอีหันไปเห็นฉู่เจียเสวียนที่โกรธจัด นึกสงสัยในใจ เธอมาทำไม


 


 


           มุมปากยกยิ้ม ริมฝีปากอ้าเบาๆ “ฉู่เจียเสวียน? วันนี้ลมอะไรหอบเธอมาที่นี่ได้ล่ะ”


 


 


           “คุณหนู…” คนรับใช้เอ่ยพร้อมมองดูฉู่อีอี ฉู่อีอีส่งสายตาให้เธอออกไป คนรับใช้พยักหน้า จากนั้นก็หันหลังออกจากห้องรับแขก


 


 


           “ทำไมเธอต้องทำแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด เข้าใกล้ฉู่อีอีทีละก้าวๆ ดวงตาคู่นั้นที่มองเธอลุกเป็นไฟ


 


 


           ได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน ฉู่อีอีอึ้งไป จากนั้นก็ดึงสติกลับมา เธอพูดถึงเรื่องที่เธอให้คนวางยาสินะ เธอรู้เรื่องเร็วแบบนี้เลยเหรอ


 


 


           ริมฝีปากแดงยกขึ้น นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีสงบนิ่งท่ามกลางอารมณ์ที่ดุเดือด เหลือบตาขึ้นมอง


 


 


ฉู่เจียเสวียน ในดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่อยากให้เธออยู่อย่างเป็นสุขไง เหตุผลแค่นี้เพียงพอไหม”


 


 


           กล่าวด้วยความชั่วร้าย ฉู่อีอีพูดด้วยสีหน้าเมินเฉย


 


 


           ไม่อยากให้เธออยู่อย่างเป็นสุข? ดังนั้นเธอจึงทำร้ายเธอแบบนี้?


 


 


           “ฉู่อีอี เธอนึกว่าเธอทำแบบนี้แล้วจะจู่โจมฉันได้เหรอ เธอดูสิ เธอทำตั้งเยอะขนาดนั้น มีเรื่องไหนที่ทำร้ายฉันได้บ้าง ตรงกันข้าม ฉันกลับชนะอย่างงดงาม เธอเห็นฉันพลิกตัวกลับมาได้อย่างหมดจด หรือว่าไม่รู้สึกขายหน้าบ้างเหรอ ทำไมถึงยังกล้าหาเรื่องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนกล่าวเยาะเย้ย น้ำเสียงเต็มไปด้วยการดูถูก


 


 


           ได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว ฉู่อีอีโมโห “ฉู่เจียเสวียน เธอคิดว่าเธอจะโชคดีทุกครั้งหรือไง”


ตอนที่ 302 สันดานขุดยาก


 


 


           “หุบเขาเจียงหนานเคลื่อนย้ายได้ง่ายแต่สันดานมันขุดยากจริงๆ ถ้าฉันเผยความลับของเธอให้กับสื่อ เธอจะทำยังไง จุดจบของเธอจะยิ่งน่าสมเพศหรือเปล่า ไหนๆ เธอก็สุขสบายมามากพอแล้ว เชื่อว่าเธอคงเบื่อชีวิตแบบนี้แล้วสินะ” ฉู่เจียเสวียนกล่าวเย็นชา ดวงตาเป็นประกาย


 


 


           มือที่อยู่ข้างกายกำแน่น “แก…” จากนั้นราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก ฉู่อีอีหัวเราะ


 


 


           “ฉู่เจียเสวียนถ้าเธอกล้าเปิดโปงความลับฉันล่ะก็ ฉันก็จะเผยความลับของพ่อในตอนนั้นเหมือนกัน เธอนึกว่าฉันไม่รู้พื้นเพของเธองั้นเหรอ” ฉู่อีอีกล่าว ดวงตาทั้งคู่ที่มองฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม ความชั่วร้ายในดวงตานั้นปกปิดไว้ไม่มิด


 


 


           ‘เธอรู้เรื่องของพ่อได้ยังไง’ ฉู่เจียเสวียนตื่นตกใจ แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า


 


 


           เห็นฉู่เจียเสวียนไม่พูดจา ฉู่อีอีก็ยิ่งได้ใจ “ทำไม? ไม่กล้า?”


 


 


           “ฉู่อีอี เธอนึกว่าฉันจะกลัวเธอ? มีปัญญาก็เปิดโปงสิ เธอนึกว่าพ่อเป็นของฉันคนเดียวหรือไง อย่าลืมสิ ถึงพวกเราจะไม่ได้มีแม่คนเดียวกันแต่ก็มีพ่อคนเดียวกัน เธอทำให้พ่ออับอายขายหน้า ก็เท่ากับทำให้บ้านฉู่ของเธออับอายขายหน้าไปด้วย!”


 


 


           “อ่อ จริงสิ เธออย่าลืมนะ ตอนนี้ฉันถูกเธอกับแม่คนนั้นของเธอไล่ออกจากบ้านฉู่แล้ว ถ้าเธอทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตจริงๆ มาดูกันว่าใครจะได้รับบาดแผลมากที่สุด” มุมปากยกยิ้ม ฉู่เจียเสวียนยิ้มใบหน้าสดใส ความเย็นยะเยือกในดวงตาราวกับต้องการแช่แข็งฉู่อีอีเอาไว้


 


 


           ฉู่อีอีคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะพูดแบบนี้ คำพูดของเธอทำเอาจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองเธอเขม็ง


 


 


           ฉู่เจียเสวียนบ้า ทำไมเธอถึงไม่กลัวเลยสักนิด มันไม่ได้อยู่นอกเหนือความควบคุมของเธอสักนิดเลยเหรอ ทั้งๆ ที่แม่เคยบอกกับเธอว่า คนที่ฉู่เจียเสวียนแคร์ที่สุดก็คือพ่อของเธอ!


 


 


           “แก…” ฉู่เจียเสวียนมองฉู่เจียเสวียนด้วยความโกรธจัดจนแอดกัดฟัน มองฉู่เจียเสวียนเนิ่นนานก็พูดอะไรไม่ออก


 


 


           ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ตรงนั้นมองฉู่อีอีด้วยสายตาเย็นชา บรรยากาศบนตัวเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง


 


 


           “ฉู่อีอี ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอยังกล้ารังควานฉันอีก เธอจำไว้ ว่าฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน!” เสียงที่ชัดเจนของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น ใบหน้าที่สดใสเปี่ยมด้วยความเย็นชา


 


 


           ฉู่อีอีเกรงกลัวบุคลิกของฉู่เจียเสววียนจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ว่ายังคงเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ “ฉู่เจียเสวียน คนเลวอย่างแก แกมันคนไม่มีแม่สั่งสอน…”


 


 


‘เพี๊ยะ’ ฉู่อีอียังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกฉู่เจียเสวียนตบหน้าอย่างแรง ฉู่อีอีถูกตบจนหน้าหันไปด้านข้าง ยกมือขึ้นกุมหน้า แววตามองฉู่เจียเสวียนด้วยความเกลียดชัง ทนไม่ไหวอยากจะสับเธอเป็นชิ้นๆ


 


 


           เธอตบหน้าเธออีกแล้ว เธอช่างกล้านัก!


 


 


 “ฉู่อีอี ไม่มีใครเคยสอนเธอว่าต้องใช้สมองก่อนพูดเหรอ เธอถูกเผยหนานเจวี๋ยตามใจจนลืมการเป็นคนแล้วหรือไง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากเย็นชา สีหน้าเย็นเยียบ


 


 


           มองดูฉู่เจียเสวียนที่น่ากลัวตรงหน้า ครั้งนี้ฉู่อีอีกลัวจริงๆ ซะแล้ว เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเวลา


 


 


ฉู่เจียเสวียนโมโหจะน่ากลัวเพียงนี้ น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตา


 


 


           ในห้องรับแขก ฉู่เจียเสวียนกับฉู่อีอียืนอยู่ตรงนั้น ต่างคนต่างมองกัน จนกระทั่งเสียงประตูห้องรับแขกดังขึ้น


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยเข้ามาจากข้างนอก ขณะที่เงยหน้าเห็นฉู่เจียเสวียนก็ตกใจ เธอมาได้อย่างไร


 


 


           รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดระหว่างคนสองคน เขาก้าวเท้าเดินไปหาพวกเธอ “คุณมาได้ยังไง”


 


 


           น้ำเสียงเผยหนานเจวี๋ยราบเรียบ ฟังอารมณ์ของเขาไม่ออก


 


 


           เมื่อเดินเข้าไปหาทั้งสองคนจึงเห็นว่าฉู่อีอีมีน้ำตาคลอและมือกุมใบหน้าไว้ ท่าทางน่าสงสารมาก ส่วนฉู่เจียเสวียนทั้งเย่อหยิ่งและก้าวร้าว บนใบหน้ามีรอยยิ้มเยือกเย็น


 


 


           “หนานเจวี๋ย…”


 


 


           “คุณเผย กลับมาได้เวลาพอดี รบกวนคุณดูแลผู้หญิงของคุณให้ดีหน่อย อย่าให้มาหาเรื่องฉันตลอดเวลา ฉันไม่มีเวลาว่างเล่นกับเธอขนาดนั้น!”


 


 


           “หนานเจวี๋ย ฉันเปล่า…”


 


 


           “เปล่าเหรอ ฉู่อีอี เธอไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เธอนึกว่าฉันไม่มีหลักฐานแล้วจะมาหาเธองั้นเหรอ เธอดูถูกฉันเกินไปแล้ว”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนมองฉู่อีอีที่ต้องการจะอธิบายพร้อมเอ่ยปากด้วยความดูถูก ยื่นมือหยิบเครื่องบันทึกเสียงในกระเป๋าออกมา โยนลงไปบนโต๊ะ


 


 


           ใบหน้าของฉู่อีอีซีดขาวไปชั่วขณะหนึ่ง หันมองเผยหนานเจวี๋ยที่มีสีหน้ามืดมน หัวใจของฉู่อีอีสั่นไหว เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉู่เจียเสวียนจะเตรียมพร้อมมา…


 


 


 


 


ตอนที่ 303 เธอนึกว่าฉันจะกลัวเธอเหรอ


 


 


           ใบหน้าไร้สีเลือดไปชั่วขณะ กลายเป็นซีดขาว


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยยืนฟังอยู่ด้านข้าง มองเครื่องบันทึกเสียงที่ฉู่เจียเสวียนโยนลงบนโต๊ะ ริมฝีปากบางๆ เม้มกันเป็นเส้นตรง เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉู่อีอีจะทำเรื่องเช่นนี้ลับหลังเขาอีกแล้ว


 


 


           “ฉู่อีอี เธอยังมีอะไรอยากพูดอีกไหม” เสียงที่ชัดเจนของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น สายตาที่มองเธอเปล่งประกายสดใส


 


 


           “ฉัน…”


 


 


           “อีอี ทำไมคุณถึงทำแบบนี้” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวผิดหวัง แววตาที่มองฉู่อีอีมีความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย


 


 


           ทำไมตอนนี้เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ ทำไม ทั้งๆ ที่เมื่อเธอจิตใจดีมากนี่นา


 


 


           “หนานเจวี๋ย ฉัน…” ฉู่อีอีส่ายหน้า น้ำตาเปล่งประกายอยู่ในดวงตา ในวินาทีนี้เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องอธิบายอย่างไร ได้แต่ก้มหน้าปิดบังดวงตาเอาไว้


 


 


           ฉู่เจียเสวียนมองทั้งสองคนเย็นชา มุมปากยกขึ้นเยาะเย้ย


 


 


           คำถามของเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้สำคัญกับฉู่เจียเสวียนเลย เพราะว่าเธอมาที่นี่เพียงเพื่อต้องการความยุติธรรมเท่านั้น


 


 


           “คุณเผย คุณบอกมาสิว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง นางแบบของฉันต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะว่าฉู่อีอีก่อเรื่องเอาไว้ เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องให้คำอธิบายกับฉัน ไม่งั้นอย่าโทษถ้าฉันจะเผยแพร่เรื่องนี้ลงอินเทอร์เน็ตล่ะ”


 


 


           เงียบไปครู่หนึ่ง ฉู่เจียเสวียนพูดต่อ แววตาเต็มไปด้วยการดูหมิ่น “เชื่อว่ากว่าคุณหนูฉู่จะได้เป็นไอดอลสาวได้อย่างวันนี้มันไม่ง่ายเลย หากเรื่องถูกเปิดโปงไปสู่สาธารณชน งั้นเขาก็อย่าคิดที่จะไปไหนมาไหนในวงการบันเทิงอีกเลย”


 


 


           “ฉู่เจียเสวียน เธออย่ามารังแกกันให้มันมากไปนะ!” ฉู่อีอีเงยหน้าขึ้น จ้องเธอด้วยความโมโห เธอคิดไม่ถึงว่าเธอจะข่มขู่เธอเช่นนี้ อีกทั้งยังทำต่อหน้าเผยหนานเจวี๋ย นี่มันน่าขายหน้ายิ่งกว่าการตบหน้าเธอเสียอีก           “รังแกกันเหรอ ฉู่อีอี เธอกรุณาพูดให้ชัดเจนด้วย ตลอดเวลามานี้เธอทำอะไรลับหลังตั้งมากมาย เธอคิดว่าฉันไม่รู้จริงๆ เหรอ ฉันจะบอกเธอให้ ฉันก็แค่ไม่อยากคิดบัญชีกับเธอเท่านั้น!”


 


 


           “เธอนึกว่าด้วยสถานะของฉันตอนนี้ ฉันจะกลัวเธองั้นเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเข้าใกล้ฉู่อีอี ลมหายใจเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ทำให้เผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ ก็ตื่นตระหนกเช่นกัน


 


 


           เขาไม่เคยเห็นฉู่เจียเสวียนที่ก้าวร้าวเผด็จการเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้เธอก็ดูเหมือนดวงดาวที่ส่องประกายแพรวพราว ทำให้เขาละสายตาไม่ได้


 


 


           ฉู่อีอีถูกความเย่อหยิ่งก้าวร้าวของฉู่เจียเสวียนบีบจนถอยร่นไปข้างหลัง หลบไปแอบด้านหลังเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่รู้ตัว


 


 


           ยื่นมือที่เย็นเฉียบออกมา ดึงๆ แขนเสื้อของเผยหนานเจวี๋ยเบาๆ เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ยด้วยท่าทางน่าสงสาร


 


 


           เธอถูกฉู่เจียเสวียนรังแกถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมเขาถึงไม่ช่วยเธอ ปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนคนเลวทำให้อัปยศอดสูตามใจชอบ ทั้งๆ ที่ในใจโมโหจนทนไม่ได้ แต่ว่าเธอยังต้องอดกลั้นไม่สามารถแสดงออกไปได้ ทำท่าทางอ่อนแอ


 


 


           เธอรู้ดีว่าในเวลานี้ เธอทำได้เพียงแสดงความอ่อนแอจึงจะสามารถได้รับการปกป้องจากเผยหนานเจวี๋ย


 


 


           “หนานเจวี๋ย…” เสียงที่เล็กลีบเหมือนยุงดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าฉู่อีอีสะอื้นน้อยๆ


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนเงียบๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ จนกระทั่งเสียงของฉู่อีอีดังขึ้น จึงดึงความรู้สึกของเขากลับมา


 


 


           “อีอี ขอโทษซะ!” ผ่านไปสักพัก เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยพร้อมหันหน้าไปมองฉู่อีอี


 


 


           ตอนนี้เขาจำเป็นต้องให้ฉู่อีอีขอโทษและสงบอารมณ์ของฉู่เจียเสวียนก่อนถึงจะถูก ยิ่งไปกว่านั้นฉู่เจียเสวียนพูดถูก สถานะของเธอในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา


 


 


           อีกอย่าง เรื่องนี้เป็นความผิดของฉู่อีอีตั้งแต่แรก ในใจไม่อยากช่วยเธอเลย แต่ว่าถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงที่เขาเคยรัก ฉะนั้นเขาจึงไม่สามารถละเลยได้


ตอนที่ 304 ให้เธอไปตายดีกว่า


 


 


           “ว่าไงนะ?” ฉู่อีอีราวกับว่าตัวเองฟังผิด เบิกตากว้างจ้องเผยหนานเจวี๋ยอย่างเหลือเชื่อ เมื่อกี้เขาให้เธอขอโทษ?


 


 


           จะเป็นไปได้ยังไง จะให้เธอขอโทษฉู่เจียเสวียน ให้เธอไปตายซะยังจะดีกว่า!


 


 


           ‘ไอ้คนชั่ว ทำไมเธอไม่ไปตายซะ’ ฉู่อีอีด่าฉู่เจียเสวียนอยู่ในใจ


 


 


           เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด คิ้วขมวดกัน “คุณเผย หรือคุณนึกว่าขอโทษก็จบงั้นเหรอ”


 


 


           หึหึ ขอโทษ? น่าตลกสิ้นดี แม้ว่าฉู่อีอีขอโทษจริงๆ ก็ไม่จริงใจ การหลอกลวงแบบนี้สู้ความเป็นจริงหน่อยยังจะดีกว่า!


 


 


           “อีอี!” ได้ยินเสียงของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจววี๋ยเน้นเสียงหนัก แววตาที่มองฉู่อีอีเย็นชาลง


 


 


           ฉู่อีอีตกใจจากเสียงคำรามฉับพลัน หันมาจ้องฉู่เจียเสวียนด้วยความดุร้าย จากนั้นจึงเอ่ยปาก “พี่คะ ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว” กัดฟันพูดประโยคนี้จบแล้ว ฉู่อีอีก็ก้มหน้าต่ำ ปดปิดดวงตาที่เต็มไปด้วยไฟแห่งความเกลียดชังที่ยิ่งแผดเผา


 


 


           เธอคิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะช่วยฉู่เจียเสวียน หรือว่าเขาจะหลงใหลฉู่เจียเสวียนแล้วจริงๆ


 


 


           ความคิดร้อยพันวนเวียนอยู่ในใจฉู่อีอี เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินคำขอโทษของเธอ ริมฝีปากแดงยกยิ้ม มองอารมณ์จากรอยยิ้มบนใบหน้าไม่ออก ยิ่งทำให้เดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่


 


 


           “คุณหนูฉู่ คุณสำนึกผิดแล้วจริงๆ เหรอ” เสียงที่สดใสดุจไข่มุกของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น มองสีหน้าบนใบหน้าของฉู่อีอี ความเยือกเย็นในใจยิ่งเข้มข้นขึ้น


 


 


           วินาทีก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ยังเอาเรื่องพ่อของเธอมาข่มขู่เธออยู่เลย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับยอมรับผิดเหมือนลูกโป่งที่กิ่วลมได้อย่างรวดเร็วแบบนั้น คนหน้าไม่อายช่างอยู่ยงคงกระพันจริงๆ ไม่น่าล่ะหลังจากเธอทำเรื่องชั่วมากมายขนาดนั้นก็ยังไม่รู้สึกผิด


 


 


           “คุณหนูฉู่ ผมจะชดเชยกับความเสียหายที่เกิดกับคุณ ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก มองฉู่เจียเสวียนด้วยสายตาล้ำลึกพร้อมข่มความรู้สึกไว้


 


 


           ได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่กอดอก หันมองเขา


 


 


           ไม่รอฉู่เจียเสวียนเอ่ย เผยหนานเจวี๋ยพูดต่อ “อีกอย่าง ต่อไปการร่วมงานกับบริษัทกลุ่มกง ผมจะยอมมอบกำไรให้สามเปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าคุณหนูฉู่พอใจกับวิธีขอโทษแบบนี้หรือเปล่า”


 


 


           ยอมเสียกำไรให้สามเปอร์เซ็นต์? นั่นเป็นเงื่อนไขที่ไม่เลวจริงๆ ถ้าหากบริษัทกงกับบริษัทเผยร่วมงานกันยาวๆ ล่ะก็ สามเปอร์เซ็นต์นี้นับว่าเป็นการวิธีการชดเชยที่ไม่เลวทีเดียว


 


 


           ความรักที่เผยหนานเจวี๋ยมีต่อฉู่อีอีทำให้เธอประทับใจจริงๆ เลย


 


 


           “ได้ ในเมื่อคุณเผยพูดแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็จะไว้หน้าคุณ หวังว่าต่อไปเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้ามีอีกล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไร้เมตตาก็แล้วกัน!”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพูดจบ มองฉู่อีอีด้วยนัยยะแอบแฝง จากนั้นก็จากไปโดยมาหันกลับมามอง


 


 


           แววตาของเผยหนานเจวี๋ยมองเขม็งตามฉู่เจียเสวียนไป จนกระทั่งเธอออกไปจากห้องรับแขกและไม่เห็นเงาแล้ว เนิ่นนานก็ยังไม่ละสายตา


 


 


           ฉู่อีอีที่ยืนอยู่ข้างเขา เห็นเผยหนานเจวี๋ยที่เหม่อลอยก็รู้สึกโมโหในใจ กัดฟัน ยื่นมือกุมมือที่ใหญ่โตของเผยหนานเจวี๋ยอย่างไม่เต็มใจนัก


 


 


           “หนานเจวี๋ย คุณอย่าโกรธได้หรือเปล่า” เงยหน้าขึ้น แววตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยเปี่ยมไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ดึงสติกลับมา มองฉู่อีอีที่ทำหน้าตาแบบนี้อีกแล้ว เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกรำคาญใจโดยไม่มีสาเหตุ


 


 


           ยังไม่ทันเอ่ยปาก ฉู่อีอีก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของเขา เสียงที่อ่อนโยนดังออกมาจากหน้าอกของเขา “หนานเจวี๋ย ที่ฉันทำแบบนี้เพราะมีเหตุผลนะ”


 


 


           ระงับความรู้สึกที่ต้องการจะผลักฉู่อีอีออกไป เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เห็นสีหน้าได้อย่างเจนชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของเธอ


 


 


 


 


       ตอนที่ 305 ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้


 


 


           ทุกครั้งเธอก็บอกว่ามีเหตุผล หรือว่าเพราะมีเหตุผลก็สามารถทำร้ายคนอื่นได้งั้นเหรอ คนนั้นคือพี่สาวของเธอนะ!


 


 


           “อีอี ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้ นับวันผมยิ่งมองคุณไม่ออกจริงๆ” ไม่ได้สนใจท่าทางที่น่าสงสารของฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเย็นชา ยื่นมือผลักเธอออก หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา


 


 


           การกระทำของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่อีอีอึ้งไป ในใจยิ่งเกลียดชังฉู่เจียเสวียนมากเป็นสามเท่า


 


 


           “หนานเจวี๋ย คุณฟังฉันนะ ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะว่ามีเหตุผล ฉันก็แค่ทวงความยุติธรรมให้คุณ!” ฉู่อีอีมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูด สีหน้าโกรธเคือง


 


 


           “ทวงความยุติธรรมให้ผม?” เลิกคิ้วเล็กน้อย เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยสงสัย


 


 


           เธอทวงคืนความยุติธรรมอะไรให้เขา เธอคิดจะหาข้ออ้างอะไรอีก


 


 


           ฉู่อีอีเห็นเช่นนี้ อาศัยจังหวะนี้นั่งลงข้างเผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็เอ่ยปาก “หนานเจวี๋ย หลายวันก่อนตอนที่ฉันอยู่ที่กองถ่าย เผลอไปได้ยินคนเขาพูดว่าก่อนที่พี่สาวจะแต่งงาน ชีวิตรักก็คลุมเครืออยู่แล้ว”


 


 


           สำรวจดูสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย พูดต่อ “คุณก็รู้ ตอนนี้พี่สาวมีชื่อเสียงมาก คิดจะสืบเรื่องของเธอมันง่ายจะตาย”


 


 


           “ฉู่อีอี พูดอะไรต้องมีหลักฐาน” ได้ยินฉู่อีอีบอกว่าฉู่เจียเสวียนคลุมเครือ ในใจของเผยหนานเจวี๋ยกลับไม่เห็นด้วย แต่งงานสามปี ฉู่เจียเสวียนประพฤติตัวดีมาตลอด ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอื่นข้างนอกเลย


 


 


           แต่ฉู่อีอีทำร้ายฉู่เจียเสวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่แปลกที่เขาจะไม่เชื่อ


 


 


           “ฉันมีหลักฐานอยู่แล้ว คุณดูสิ นี่เป็นรายงานที่ฉันตั้งใจไปสืบเมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับคุณก็ไปการผ่าตัดซ่อมแซมเมมเบรนของเยื่อพรหมจรรย์…”


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยอ่านเนื้อหาในรายงาน ในตอนนั้นเอง ความโกรธแผ่ซ่านในใจของเขา มือกำแน่น เม้มปากจนเป็นเส้นตรง


 


 


           ฉู่อีอีมองดูสีหน้าที่บิดเบี้ยวของเผยหนานเจวี๋ย รู้สึกเบิกบานในใจ โชคดีที่เธอเตรียมการล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องถูกเผยหนานเจวี๋ยทิ้งอย่างแน่นอน


 


 


           ฉู่เจียเสวียนเธอคิดจะสู้กับฉัน เธอยังอ่อนหัดไปหน่อย


 


 


           “หนานเจวี๋ย ตอนนี้คุณยังโทษฉันอยู่หรือเปล่า ฉันก็แค่อึดอัดกับพี่สาวที่เป็นแบบนี้…” ฉู่อีอีกล่าว น้ำเสียงเจือปนความหวาดกลัว


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยระงับความโกรธในใจเอาไว้ จ้องตรงไปยังฉู่อีอี ฉู่อีอีก่อเรื่องมากมายขนาดนั้น เขาไม่มีทางที่จะไม่สงสัยความน่าเชื่อถือในคำพูดของฉู่อีอี


 


 


           แต่ว่าถ้าหากฉู่อีอีมีหลักฐานอีกล่ะ


 


 


           “อีอี ต่อไปอย่าพูดถึงเรื่องพวกนี้อีกเลย”


 


 


           ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ในใจเกิดความไม่พอใจทันที ทำไมเรื่องถึงไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้


 


 


           หรือว่าเขาจะมีใจให้เธอจริงๆ ไม่! เธอไม่ยอม ยิ่งไม่มีวันมอบเผยหนานเจวี๋ยให้กับฉู่เจียเสวียน!


 


 


           การแสดงเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับฉู่อีอีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการแสดงตัวละครที่เธอถนัดมากที่สุดด้วย ฉู่อีอีชำเลืองมองสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย เห็นใบหน้าของเขาที่หมดความอดทน ในตอนนั้นเองหัวใจก็เต้นระรัว


 


 


           “หนานเจวี๋ย คุณ…ตกหลุมรักพี่สาวจริงๆ แล้วใช่ไหม หรือว่าคุณลืมไปแล้วว่าคุณรับปากจะแต่งงานกับฉัน” น้ำตาเอ่อล้นดวงตาของฉู่อีอี กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น


 


 


           เธอพนันได้เลย พนันได้เลยว่าเผยหนานเจวี๋ยต้องรักเธอแน่ๆ


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยมองดูไหล่ทั้งสองข้างที่สั่นระริก มองดูผู้หญิงของเขาด้วยความรัก ในใจรู้ดีว่าตอนนี้เธอไม่ใช่คนจิตใจดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว


 


 


           “คุณวางใจเถอะ ผมบอกว่าจะแต่งกับคุณก็จะแต่งกับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย เสียงที่ทุ้มต่ำทำให้เดาอารมณ์ของเขาไม่ออก


 


 


           ในใจเขาเข้าใจเป็นอย่างดี เขาไม่ได้รักฉู่อีอีเหมือนที่เคยรักอีกแล้ว ฉู่อีอีในตอนนี้เกลียดชังฉู่เจียเสวียนอย่างเห็นได้ชัด


     ตอนที่ 306 ฉู่อีอีรนหาที่ตาย


 


 


           “จริงเหรอ?” เงยหน้าขึ้นมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อยเอ่ยถาม


 


 


           “อืม จริงสิ เอาล่ะ ผมเหนื่อยแล้ว ขึ้นไปพักก่อน” เผยหนานเจวี๋ยพูดจบ ก้าวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว


 


 


           ไม่ได้พูดมาก ไม่มีความรู้สึกมาก แม้ตอนก่อนแต่งงานฉู่เจียเสวียนจะมีพฤติกรรมคลุมเครือจริงๆ ตอนนี้เธอก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแล้ว


 


 


           อีกอย่าง ในจิตใต้สำนึกนั้นเผยหนานเจวี๋ยไม่เชื่อคำพูดของฉู่อีอี ดังนั้นเขาจึงโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วย


 


 


จินหยาง ให้เขาไปสืบความจริงของเรื่องนี้


 


 


           ถ้าหากฉู่อีอีโกหกเขาแม้กระทั่งเรื่องนี้ล่ะก็ เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร


 


 


           ฉู่อีอีมองดูเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่จากไป แววตาโมโหเห็นได้ชัด เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเพียงกล่าวกับเธออย่างเมินเฉยเช่นนี้ก็จบกันแล้ว


 


 


           เดิมทีเธอคิดว่าไม่ว่าอย่างไรเผยหนานเจวี๋ยก็ต้องโมโหจนทนไม่ได้แน่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่แยแสขนาดนี้


 


 


           ในขณะนั้นเองก็ตื่นตระหนกในใจ เธอกล้ารับประกันว่า เผยหนานเจวี๋ยจะต้องหลงรักฉู่เจียเสวียนเข้าแล้วอย่างแน่นอน


 


 


           ยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจ ฉู่อีอีตัดสินใจนัดหมายคุณแม่เผยออกมาเพื่อคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ให้เธอยืนอยู่ในสนามรบฝั่งเดียวกับเธอ อย่างน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเธอ แต่อย่างน้อยก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอมีความรู้สึกดีๆ ต่อฉู่เจียเสวียนได้ ไม่เช่นนั้นต่อไปมันจะไม่เป็นผลดีต่อเธอ


 


 


           ในใจตัดสินใจแล้ว ฉู่อีอีก็กดโทรไปหาคุณแม่เผย


 


 


           “ฮัลโหล” เสียงของคุณแม่เผยดังขึ้น


 


 


           “คุณป้า ฉันเองค่ะ ฉันคืออีอี”


 


 


           “เธอทำอะไรน่ะ ดึกๆ ดื่นๆ โทรมาทำไม” น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้น ในใจฉู่อีอีโมโหจนทนไม่ไหว ยายแก่บ้า ช้าเร็วสักวันหนึ่ง พวกเราจะได้เห็นดีกันแน่!


 


 


           “คุณป้าคะ พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า ฉันมีเรื่องจะคุยกับป้านิดหน่อยค่ะ” ฉู่อีอีข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ เอ่ยปาก


 


 


           “มีอะไรก็พูดมาตอนนี้ ฉันไม่มีเวลาให้เธอขนาดนั้นหรอกนะ!” เสียงที่ไม่พอใจดังขึ้นอีกครั้ง


 


 


           “คุณป้า เรื่องที่ฉันอยากคุยกับคุณป้ามันเกี่ยวกับหนานเจวี๋ยค่ะ พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าจะรอคุณป้าที่ร้านกาแฟอวิ๋นซั่งนะคะ” ฉู่อีอีพูดจบ ไม่ปล่อยโอกาสใดๆ ให้คุณแม่เผยได้พูดอีก วางหูทันที


 


 


           เธอเชื่อว่าพรุ่งนี้เธอจะต้องไปแน่นอน มุมปากยกยิ้ม ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป


 


 


           หลังจากฉู่เจียเสวียนออกมาจากวิลล่าบ้านเผยแล้ว ก็กลับบริษัททันที


 


 


           เพิ่งกลับมาถึงก็เห็นกงจวิ้นฉืออยู่ในออฟฟิศ เดินไปหยุดอยู่ข้างกายของเขา “ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่”


 


 


           “ผมกำลังรอคุณไง เป็นไงบ้าง ได้เรื่องไหม” กงจวิ้นฉือกล่าว เสียงที่อบอุ่นดังขึ้น ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้ม


 


 


           หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนจากไป กงจวิ้นฉือก็ไปสะสางงานเรียบร้อยแล้ว เขาอยู่ที่นี่เพื่อตั้งใจรอเธอกลับมา


 


 


           เธอออกไปหาฉู่อีอีคนเดียวแบบนั้น แน่นอนว่าเขาต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว


 


 


           “ได้เรื่องสิ เผยหนานเจวี๋ยรับปากพวกเราว่าต่อไป เมื่อพวกเราได้ร่วมงานกับพวกเขาจะแบ่งกำไรให้สามเปอร์เซ็นต์ ว่ายังไง อยากออกไปฉลองหน่อยไหม” ฉู่เจียเสวียนกล่าว มองกงจวิ้นฉือ พูดด้วยสีหน้าจริงจัง


 


 


           “หา? เขายอมเฉือนเนื้อตัวเองขนาดนี้เพื่อฉู่อีอีงั้นเหรอ” เห็นได้ชัดว่ากงจวิ้นฉือคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะยอมแบ่งกำไรสามเปอร์เซ็นต์ให้ทันที


 


 


           ได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือ หัวใจของฉู่เจียเสวียนเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ว่าเธอไม่ได้ใส่ใจ


 


 


           “ไปเถอะ ฉันเลี้ยง” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ก็กลับหันหลังออกไปจากออฟฟิศ เธอยังต้องฉลองที่งานแสดงเสื้อผ้าฤดูร้อนของเธอจบลงอย่างสวยงามสักหน่อย


 


 


           กงจวิ้นฉือได้ยินแล้วก็เลิกคิ้ว ก้าวเดินตามไปแล้ว


 


 


           ทั้งสองคนมาถึงห้องอาหารมิชลิน กงจวิ้นฉือตั้งใจสั่งสเต๊กเนื้อวัวที่ฉู่เจียเสวียนชอบกิน อีกทั้งยังสั่งไวน์ลาฟิตเพื่อฉลองให้กับฉู่เจียเสียน


 


 


 


 


      ตอนที่ 307 แต่งงานกับผมได้หรือเปล่า


 


 


           “มา ขอแสดงยินดีกับงานแสดงเสื้อผ้าฤดูร้อนของคุณที่จบลงอย่างงดงาม” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม


 


 


           ฉู่เจียเสวียนยิ้ม ยกแก้วไวน์ในมือขึ้น ชูให้เขา สองคนชนแก้วกัน เสียงที่คมใสดังขึ้นภายในห้องอาหาร


 


 


           หลังจากจิบไวน์ไปเล็กน้อย ทั้งสองคนวางแก้วไวน์ในมือลง เริ่มลงมือกินข้าว


 


 


           ระหว่างมื้ออาหาร ทั้งสองคนต่างพูดคุยเรื่องอื่นที่น่าสนใจโดยไม่พูดคุยเรื่องงานเลย


 


 


           “เจียเสวียน” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากเรียกฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนเบิกตาที่สวยงามมองเขา


 


 


           “มีอะไรเหรอ” ยิ้มกล่าว ใบหน้าที่งดงามของฉู่เจียเสวียนส่องประกาย


 


 


           มองดูฉู่เจียเสวียนที่งดงามชวนหลงใหลตรงหน้า หัวใจกงจวิ้นฉือผ่อนคลายและมีความสุข หวังเหลือเกินว่าพวกเขาจะสามารถเดินต่อไปด้วยกันแบบนี้ได้


 


 


           “เจียเสวียน แต่งงานกับผมได้หรือเปล่า” กงจวิ้นฉือหยุดสายตา มองดูเธอด้วยความจริงจังและลึกซึ้ง พร้อมเอ่ย


 


 


           เขาต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดทั้งหมดให้แก่เธอ เขาต้องการอยู่ข้างกายเธอชั่วชีวิต


 


 


           วันนี้คุณย่าของเขาโทรมาหาเขา พูดกับเขาว่า ผู้หญิงที่ดีอย่างเจียเสวียนนั้น ห้ามปล่อยเธอให้หลุดมือเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหากถูกคนอื่นแย่งไป ถึงตอนนั้นเขาเสียใจก็สายไปแล้ว


 


 


           แม้เขารู้ดีว่าทำแบบนี้มันกะทันหันเกินไปสำหรับเธอ แต่ว่าในใจของเขาหวาดกลัวว่าไม่ช้าก็เร็วฉู่เจียเสวียนจะกลับไปอยู่ข้างกายของเผยหนานเจวี๋ยเข้าสักวันหนึ่ง แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงเรื่องที่เขากลัวอยู่ในใจเท่านั้น


 


 


           เห็นได้ชัดว่าไม่คิดว่าจู่ๆ กงจวิ้นฉือจะพูดแบบนี้ รอยยิ้มของฉู่เจียเสวียนแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า


 


 


           “จวิ้นฉือ พูดเรื่องนี้ตอนนี้มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ รออีกหน่อยเถอะ รอให้ช่วงยุ่งๆ ช่วงนี้ผ่านไปแล้วค่อยคุยกัน คุณก็รู้ งานของฉันในจีนเพิ่งจะเป็นรูปเป็นร่าง กว่ามันจะดีขึ้นไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้ตอนนี้ ไว้ค่อยคุยกันดีไหม” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย


 


 


           เธอรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาแต่งงานจริงๆ ตอนนี้เธอมีเรื่องที่ต้องจัดการมากเกินไป อีกทั้งเขาก็ยังมีแค้นใหญ่ที่ยังไม่ได้ชำระ


 


 


           ไว้ค่อยคุยเรื่องทุกอย่างเถอะ


 


 


           เมื่อกงจวิ้นฉือได้ยินฉู่เจียเสวียนพูดแบบนี้แล้ว กลืนน้ำลาย สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้า “ก็จริง พวกเราอย่าให้ความกดดันตัวเองมากเกินไปเลย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า”


 


 


           ความผิดหวังแผ่ซ่านในใจ แต่กงจวิ้นฉือยังคงยิ้มพร้อมเอ่ยกับฉู่เจียเสวียน เรื่องบางเรื่องไม่สามารถบีบบังคับจนแน่นเกินไป


 


 


           บางทีอาจเป็นเพราะรู้สึกได้ถึงความผิดหวังของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนยื่นมือกุมมือของเขา พูดว่า


 


 


“จวิ้นฉือ คุณวางใจเถอะ ฉันแค่รู้สึกว่าพวกเราไม่เหมาะกับการแต่งงานกันในตอนนี้ รอผ่านช่วงนี้ไป เรื่องในมือเบาลงมาหน่อย แล้วค่อยคุยกันเถอะ”


 


 


           กงจวิ้นฉือพยักหน้า ส่งสายตาสบายใจให้กับฉู่เจียเสวียน


 


 


           หลังจากกินข้าว กงจวิ้นฉือก็ส่งฉู่เจียเสวียนกลับบ้านแล้ว


 


 


           ในวิลล่า เพิ่งเข้ามาในบ้าน ก็เห็นซูซานซานกำลังตัดแต่งดอกไม้ใบหญ้า


 


 


           “แม่ ดึกป่านนี้แล้ว แม่ไม่นอนแต่มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” ฉู่เจียเสวียนเดินเข้าไปหาซูซานซาน มองดูสองมือของเธอที่ไม่หยุดนิ่ง ขมวดคิ้ว


 


 


           “เอ๊ะ เธอไม่กลับมาแม่ก็นอนไม่หลับ ก็เลยหาอะไรทำฆ่าเวลา ยินดีด้วยนะ เจียเสวียน คิดไม่ถึงว่าเธอจะเก่งแบบนี้!” ซูซานซานมองฉู่เจียเสวียนพร้อมกล่าวด้วยความภูมิใจ


 


 


           วันนี้เธอเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของฉู่เจียเสวียนจากการถ่ายทอดสดแล้ว


 


 


           “แม่ แม่เห็นแล้วเหรอคะ” ยื่นมือโอบไหล่ของเธอ ถามแผ่วเบา


 


 


           “แน่อยู่แล้ว งานแสดงเสื้อผ้าของลูกสาวแม่ ถึงแม่จะไม่ได้อยู่ที่งาน แต่ก็ต้องจับตาคอยดูข่าวไม่ใช่เหรอไง”


 


 


           “ค่ะๆๆ แม่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว แม่รีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะ ดอกไม้ใบหญ้าพวกนี้ค่อยทำต่อพรุ่งนี้เถอะ” ฉู่เจียเสวียนพูดพลางเอากรรไกรในมือของเธอวางไว้บนโต๊ะ ผลักซูซานซานให้เดินขึ้นไปข้างบน


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม