หวนแค้นชะตารัก 286-293

 ตอนที่ 286 กำไลอัศจรรย์ 


 


เวลานี้พอคิดให้ดี หุบราชาพิษหายไปตรงกับเวลาหลังเหตุการณ์รัชทายาทตวนฮุ่ย หรือว่าเผยไป๋ชวนจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้น?  


 


 


ยิ่งคิดนางยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ เท่าที่นางรู้จักเผยไป๋ชวน เผยไป๋ชวนเป็นคนที่รักษาสัญญามาก แม้เวลาผ่านไปยี่สิบกว่าปี เขาเปลี่ยนเป็นคนที่เร้นลับขึ้น แต่เรื่องนี้เขาไม่น่าจะเปลี่ยน 


 


 


ไม่เช่นนั้นนางเองก็นึกไม่ออกว่าเผยไป๋ชวนมีเหตุผลอะไรที่จะสังหารกู้เฉินหรง 


 


 


เวลานี้รัชทายาทตวนฮุ่ยได้ฟื้นคดีแล้ว บรรดาคนที่เคยใส่ร้ายเขาในอดีตล้วนถูกฝ่าบาทลงโทษ ถ้าเผยไป๋ชวนเป็นคนหนึ่งในนั้น ก็สามารถอธิบายเรื่องราวได้หมด ซิ่นหวังอาศัยเรื่องนี้มาบีบเขา ไม่เช่นนั้นชีวิตของคนตระกูลเผยก็จะตกอยู่ในอันตราย 


 


 


“จิ่วซือ คิดอะไรอยู่ กู้เฉินหรงมีศัตรูมากเหลือเกิน ยังไม่ทันกลับแคว้นเจียงก็เป็นอย่างนี้แล้ว พอกลับไปถึงไม่รู้ว่าจะต่อสู้ดุเดือดแค่ไหน ข้าว่าเผยไป๋ชวนรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินหรง จึงลงมือจัดการเฉินหรง ข้าได้ยินมาว่าเมื่อก่อนเผยไป๋ชวนเป็นคนแคว้นเจียง” 


 


 


จู่ๆ ซูจิ่วซือก็เอามือกุมอก ราวกับรู้สึกเจ็บ พอเห็นนางไม่สบาย จื่อหลานก็วิ่งเข้ามาหา “คุณหนู เป็นอะไรไป” 


 


 


ซูจิ่วซือสั่นหัว ความเจ็บปวดหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นความรู้สึกหลอนของนางเอง 


 


 


จู่ๆ นางก็คิดขึ้นได้ นางลูบกำไลบนข้อมือ กำไลนี้กู้เฉินหรงเป็นคนใส่ให้นาง พอใส่แล้วก็ถอดไม่ออก จนถึงบัดนี้นางก็ไม่เข้าใจว่ากำไลนี้เป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมจึงมีพลังอย่างนี้  


 


 


“หลียวน เจ้าเคยเห็นรูปสัญลักษณ์แบบนี้หรือไม่” 


 


 


กู้หลียวนเห็นซูจิ่วซือไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้ถามต่อ เพียงแต่บอกว่า “เกิดเรื่องขึ้นเจ้ายังมีใจดูกำไล ไม่ธรรมดาจริงๆ ข้าดูหน่อย” 


 


 


ซูจิ่วซือยื่นมือให้กู้หลียวนดู ปกตินางใช้แขนเสื้อปิดกำไลไว้ ถ้าไม่ใช่คนที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษก็ไม่รู้ว่าที่ข้อมือนางมีกำไลสวมอยู่ 


 


 


กู้หลียวนมองดูกำไลอย่างละเอียด ดูรูปสัญลักษณ์บนนั้น สุดท้ายก็สั่นหัว “ไม่รู้จัก นี่คงเป็นของที่เฉินหรงมอบให้เจ้าใช่หรือไม่! ทำไมอยู่ดีๆ ก็พูดถึงกำไลเล่า” 


 


 


“หลังจากสวมกำไล ข้ามักจะฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มือของนางสวมกำไลนี้ หน้าตานางเป็นอย่างไรมองไม่ชัด แต่ได้ยินเสียงนางหัวเราะรางๆ” 


 


 


“อัศจรรย์อย่างนี้เชียว เรื่องนี้เจ้าบอกเฉินหรงหรือไม่ เป็นอย่างไรกันแน่” 


 


 


“เฉินหรงบอกว่าเป็นมรดกที่แม่แท้ๆ มอบให้เขา ไม่ใช่ว่าใครก็ใส่ได้ คนที่ใส่ได้ จะได้เป็นสะใภ้ของราชตระกูล เดิมทีข้าไม่เชื่อที่เฉินหรงพูด คิดว่าเขาพูดเหลวไหล  


 


 


เมื่อครู่ข้ารู้สึกเจ็บหน้าอก จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่ข้าติดคุก มีอยู่ครั้งหนึ่งจู่ๆ ข้าก็เจ็บขึ้นมาอย่างรุนแรง แต่เวลานั้นข้าบาดเจ็บ จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเพราะถูกทรมาน 


 


 


ต่อมาข้าถามเฉินหรงถึงช่วงเวลาที่เขากินยาโดยไม่ได้ตั้งใจ ข้าจึงรู้ว่าตอนที่ข้าเจ็บหน้าอกตรงกับเวลาที่เฉินหรงกินยาพอดี  


 


 


เมื่อครู่นี้ข้าเจ็บหน้าอกขึ้นมาอีก ถ้าเดาไม่ผิด เฉินหรงคงได้รับบาดเจ็บ กำไลนี้สามารถรับรู้ได้ว่าเฉินหรงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าเขาบาดเจ็บ ข้าก็จะเจ็บหน้าอก” 


 


 


กู้หลียวนไม่เชื่อคำพูดของซูจิ่วซือ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีกำไลประหลาดอย่างนี้ สามารถรับรู้ว่ากู้เฉินหรงบาดเจ็บ พิลึกจริงๆ  


 


 


 


 


 


—— 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 287 จิ่วซือไม่เหมือนใคร 


 


 


 


 


 


“อาจจะบังเอิญ” 


 


 


“นี่ไม่ใช่บังเอิญ ต้องเป็นความจริงแน่ หลียวน เราไปเก็บสมุนไพรรักษาแผลเถอะ เขาคงบาดเจ็บแน่ เขาไม่มียารักษาแผลติดตัว” 


 


 


ซูจิ่วซือลุกขึ้น มุ่งหน้าเดินไปบนเขา กู้หลียวนกับจื่อหลานตามขึ้นไป 


 


 


แม้ซูจิ่วซือไม่ใช่หมอ แต่ชอบอ่านหนังสือ อ่านหนังสือทุกประเภท จึงพอรู้จักสมุนไพรพื้นๆ  


 


 


พอพวกเขาเก็บสมุนไพรกลับมา จู่ๆ ซูจิ่วซือก็ได้กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นกลางอากาศ  


 


 


“บนพื้นมีเลือด จิ่วซือ ระวัง!” 


 


 


กู้หลียวนพบรอยเลือดบนใบไม้ที่พื้น รีบเตือนซูจิ่วซือ พอถึงตอนนี้ซูจิ่วซือไม่ใส่ใจอะไรอีก รีบถลาไปหารอยเลือด  


 


 


ในที่สุดนางก็เห็นเงาคนที่คุ้นเคย นั่งพิงต้นไม้ใหญ่ เผยปิงปิงนอนอยู่ที่พื้นข้างๆ 


 


 


กู้เฉินหรงเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ซูจิ่วซือไม่รู้ว่าเลือดนี้เป็นของกู้เฉินหรงหรือของคนอื่น 


 


 


เสื้อคลุมยาวสีม่วงตัวนั้นเลอะเลือดสดๆ จนมองไม่เห็นสีเดิม 


 


 


พอเห็นซูจิ่วซือ เขาก็ยิ้มให้ “ข้าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ เลือดนี้เป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของข้า จิ่วซือ สมุนไพรที่เก็บมาได้เอามาห้ามเลือดให้แม่นางเผยก่อน นางบาดเจ็บหนักกว่าข้า” 


 


 


กู้เฉินหรงเวลานี้ไม่มีเรี่ยวแรงนัก แม้พวกเขาจะรอดชีวิต แต่ก็จ่ายค่าตอบแทนอย่างสาหัส โดยเฉพาะเผยปิงปิง ทั่วท้องแทบจะทะลุเป็นรูพรุน บาดเจ็บสาหัสมาก 


 


 


ซูจิ่วซือเห็นหน้าท้องของเผยปิงปิงมีเลือดซึมออกมาตลอดเวลา บนพื้นก็มีเลือดกองใหญ่ นางเริ่มเป็นห่วงเผยปิงปิง “แม่นางเผยบาดเจ็บสาหัส ข้าไม่รู้ว่าสมุนไพรนี้ใช้ได้หรือไม่ พันแผลเสร็จต้องรีบไปหาหมอ ไม่งั้นแม่นางเผยอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต” 


 


 


“ข้าไม่เป็นไร ยังทนได้” 


 


 


เผยปิงปิงกัดฟัน ใบหน้าที่ยิ้มอยู่นั้นซีดเซียว ทั้งๆที่เจ็บปวดอย่างหนัก แต่ก็ไม่ร้องคราง 


 


 


พอเห็นเผยปิงปิงอย่างนี้ กู้หลียวนก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที “จิ่วซือ เจ้ามาพันแผลให้แม่นางปิงปิง เฉินหรงข้าจัดการเอง” 


 


 


ซูจิ่วซือพยักหน้า นั่งลงกับพื้น ยื่นมือไปฉีกเสื้อของเผยปิงปิง จื่อหลานเห็นบาดแผลฉกรรจ์ จึงไม่กล้ามองเต็มตา ได้แต่เบือนหน้าหนี ช่วยซูจิ่วซือบดสมุนไพร 


 


 


ซูจิ่วซือสงบเป็นพิเศษ มือนั้นมั่นคง รับสมุนไพรที่จื่อหลานส่งมาให้ แล้วเช็ดคราบสกปรกรอบแผลให้เผยปิงปิงอย่างระมัดระวัง เอาสมุนไพรวางบนแผล แล้วดึงแถบผ้าออกจากตัว ช่วยเผยปิงปิงพันแผล 


 


 


เผยปิงปิงเห็นซูจิ่วซือแม้ไม่คล่องนัก แต่ก็สงบตลอดเวลา จึงพูดอย่างชื่นชม “เจ้าไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ ปกติก็ไม่ค่อยได้เจอบาดแผลเลือดออกอย่างนี้ คุณหนูใหญ่ช่างกล้าหาญจริงๆ ข้าประเมินคุณหนูใหญ่อย่างเจ้าต่ำไป” 


 


 


“เจ้าไม่ได้ประเมินคุณหนูใหญ่ต่ำไป เพียงแต่จิ่วซือไม่เหมือนใคร คนอื่นก็เป็นอย่างที่เจ้าคิด เห็นเลือดมากอย่างนี้ คงไม่กล้าแตะต้องเจ้า” 


 


 


กู้เฉินหรงซึ่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้น 


 


 


กู้หลียวนทำช้ากว่ามาก เขาก้มหน้าพูด “เจ้าชมจิ่วซือได้ตลอดเวลา” 


 


 


“พูดความจริงเท่านั้น ไม่ยอมรับใช่หรือไม่” 


 


 


“ยอมรับ” 


 


 


กู้หลียวนรู้ว่ากู้เฉินหรงถือว่าซูจิ่วซือเป็นที่หนึ่ง ใครกล้ามาต่อว่าซูจิ่วซือ กู้เฉินหรงจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด เขาจึงไม่แตะต้อง 


 


 


หลังจากซูจิ่วซือพันแผลให้เผยปิงปิงแล้ว เห็นกู้หลียวนยังทำไม่เสร็จ จึงเข้ามาทำต่อ กู้หลียวนถือโอกาสนั่งข้างเผยปิงปิง 


 


 


“พวกนั้นลงมือกับเจ้ารุนแรงอย่างนี้หรือ” 


 


 


“พลั้งมือ โทษพวกเขาไม่ได้” เผยปิงปิงกระแอมเบาๆ “เห็นความดีของข้าหรือยัง ข้าสามารถคุ้มกันเจ้าได้” 


 


 


“นึกไม่ถึงว่าแม่นางจะมีวรยุทธ์สูงส่งขนาดนี้” 


ตอนที่ 288 รู้สึกชอบมากขึ้น 


 


 


 


 


 


เผยปิงปิงถลึงตาใส่กู้หลียวน “ฝึกวรยุทธ์ไม่แบ่งชายหญิง เจ้าต่างหากที่ไม่ได้ใส่ใจ ไม่อย่างนั้นทำไมวรยุทธ์ของเจ้าจึงห่างชั้นกับกู้เฉินหรงมากอย่างนี้ 


 


 


กู้หลียวน เมื่อก่อนเจ้าคงเป็นคนที่เอาแต่หาความสุขไม่อดทนต่อความลำบาก เหมือนคุณชายในเมืองหลวงที่ไม่ทำการทำงาน ไม่รู้ว่าข้าชอบเจ้าได้อย่างไร 


 


 


ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าไม่คู่ควรกับข้า ข้าเป็นคนมีความรู้พอจะดูคนออก มีวรยุทธ์พอจะต่อสู้ศัตรู เลี้ยงแมงป่องได้ วางยาได้” 


 


 


กู้เฉินหรงหัวเราะขึ้นมาทันที “พูดอย่างนี้มีเหตุผล หลียวน แสดงว่าเจ้าไม่คู่ควรกับแม่นาง” 


 


 


พอเห็นกู้เฉินหรงถือโอกาสทับถม กู้หลียวนก็ถลึงตาใส่กู้เฉินหรง “ข้าถึงได้ไม่รั้งนางไว้” 


 


 


เวลานี้กู้หลียวนยิ่งรู้สึกว่าเผยปิงปิงต่างจากที่เขาคิดมาก ครั้งแรกที่พบเผยปิงปิง เขายังนึกว่าเผยปิงปิงเป็นคุณหนูใหญ่ที่เอาแต่ใจตัวเอง ถึงได้แต่งตัวเป็นผีหลอกคนในเขากุยอวิ๋นซาน 


 


 


เวลานี้เขาจึงรู้ว่าเผยปิงปิงเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะหลากหลาย ยึดมั่นในคุณธรรม กล้ารักกล้าแค้น และรักอิสระเป็นพิเศษ  


 


 


น่าประหลาดจริงๆ พอใกล้ชิดนาง ยิ่งรู้สึกชอบนาง  


 


 


“กู้หลียวน เจ้าหลงตัวเองเกินไป เจ้ารั้งข้าไม่ได้หรอก” 


 


 


กู้เฉินหรงไม่พูดอะไรอีก ซูจิ่วซือเอามือแตะหลังมือกู้เฉินหรง “อย่าพูดมากเลย” 


 


 


“ได้ ข้าเชื่อเจ้า” 


 


 


พอซูจิ่วซือปราม กู้เฉินหรงก็รีบปิดปากอย่างว่าง่าย กู้หลียวนมองดูอยู่ข้างๆ อย่างดูแคลน ถ้าไม่เห็นกับตา เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่ากู้เฉินหรงเชื่อฟังซูจิ่วซือขนาดนี้ 


 


 


ปิงอวิ๋นกับชิงซานก็ได้รับบาดเจ็บ แต่บาดแผลไม่รุนแรง ปิงอวิ๋นมองไปรอบๆ พูดเตือน “คุณชาย ประเดี๋ยวฟ้าก็จะมืดแล้ว ที่นี่ไม่ปลอดภัย เรารีบเดินทาง ให้ถึงอำเภอผีเซี่ยนก่อนฟ้ามืด” 


 


 


กู้เฉินหรงพยักหน้า ที่นี่ไม่ปลอดภัยจริงๆ อีกทั้งบาดแผลของเผยปิงปิงจำเป็นต้องรีบไปหาหมอ เขาตะกายลุกขึ้น ซูจิ่วซือประคองไว้ 


 


 


“ข้าอุ้มเจ้า” 


 


 


กู้หลียวนอุ้มเผยปิงปิงจากพื้น รถม้าของพวกเขาอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ถ้านั่งรถม้า คงจะไปถึงอำเภอผีเซี่ยนก่อนฟ้ามืด 


 


 


เผยปิงปิงพิงอกกู้หลียวน กลิ่นแปลกใหม่ของผู้ชายปะทะใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดกู้หลียวนขนาดนี้ ใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น  


 


 


นางไม่ได้รู้สึกล้ำลึกกับกู้หลียวนมากนัก เพียงแต่ชอบอยู่บ้าง กู้หลียวนเป็นคนที่รูปลักษณ์ภายนอกดูดี ทำให้ผู้หญิงชอบได้ง่าย นางเองก็ไม่เว้น นางชอบผู้ชายหน้าตาดีอยู่แล้ว 


 


 


“กู้หลียวน หัวใจเจ้าเต้นเร็วมาก” 


 


 


“ถ้าเต้นช้า จะไหวหรือ” กู้หลียวนคงอุ้มผู้หญิงบ่อยๆ ท่าทางคล่องแคล่ว สีหน้าไม่เปลี่ยน ไม่รู้สึกขัดเขินแม้แต่น้อย 


 


 


“ข้านึกว่าหัวใจเจ้าเต้นเร็วเพราะข้า” 


 


 


เผยปิงปิงเอามือวางบนอกของกู้หลียวน นับว่ากู้หลียวนเป็นคนมีน้ำใจ เสนอตัวอุ้มนาง 


 


 


“ทำไมเจ้าถึงชอบข้า” 


 


 


“เจ้าหล่อดี” 


 


 


กู้หลียวนหน้าบึ้ง “ง่ายๆ แค่นี้เองหรือ” 


 


 


“ใช่ ผู้ชายชอบผู้หญิงสวยได้ ทำไมผู้หญิงจะชอบผู้ชายหล่อไม่ได้? ข้าชอบคนหน้าตาดี” 


 


 


“ฉาบฉวยเหมือนข้า” กู้หลียวนหัวเราะร่า เวลานี้เขารู้สึกว่าเผยปิงปิงน่ารักมาก “และมีอีกคำถามหนึ่งอยากถามเจ้ามาตลอด ทำไมถึงเลี้ยงอสรพิษพวกนั้น” 


 


 


“สนุกดี” 


 


 


“ง่ายๆ อย่างนี้หรือ” 


 


 


“ชีวิตควรจะง่ายๆ อย่างนี้แหละ คิดซับซ้อนทำไม วันหลังข้าต้องได้สามีที่รักข้า แล้วมีลูกเต็มบ้าน อยู่กันอย่างรักใคร่กลมเกลียว ไม่ทำให้ตัวเองลำบากอย่างแม่ข้า  


 


 


แม่ข้าแต่งงานกับคนที่ชอบ แต่กลับลำบากตลอดชีวิต พ่อข้าไม่ได้ดูแลเอาใจใส่นาง มีแต่เรียกร้อง บางครั้งข้าเห็นก็รู้สึกว่าแม่ข้าทำไปไม่มีความหมาย ข้าไม่มีวันเล่นละครบทเดียวกับท่านแม่เด็ดขาด เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่กวนใจเจ้าแน่” 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


ตอนที่ 289 เจ้าก็เขินเป็นหรือนี่ 


 


 


 


 


 


กู้หลียวนฟังอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดแทรก จู่ๆ เขานึกถึงแม่แท้ๆ กับกู้เหยี่ยน ได้ยินมาว่าทั้งสองเคยรักใคร่กันดี แต่สุดท้ายกู้เหยี่ยนกลับแต่งงานกับซูเหมย จากนั้นก็ค่อยๆ เย็นชาต่อกัน ต่อมา กู้เหยี่ยนไม่ได้เข้าไปในห้องของซูเหมยอีก 


 


 


กู้หลียวนเห็นคู่ผัวเมียมากมายที่ความรักก้าวสู่ความเย็นชา ตอนเด็กเขาเคยคิดว่าจะไม่แต่งงาน ความรักชั่วขณะมีความหมายอะไร ไม่รักใครเลยยังจะดีกว่า 


 


 


พอเห็นกู้เฉินหรงกับซูจิ่วซือ เขาก็รู้สึกอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง  


 


 


เวลานี้พอได้ยินคำพูดของเผยปิงปิง เขารู้สึกประทับใจ นางไม่อยากเล่นบทโศกตามอย่างมารดานาง ที่เขาทำอยู่นี้ก็เป็นความคิดอย่างเดียวกันไม่ใช่หรือ เพียงแต่เขากับเผยปิงปิงใช้วิธีต่างกัน  


 


 


กู้หลียวนไม่พูดอะไรอีก พอเห็นเผยปิงปิงท่าทางไม่ค่อยสบายใจ ก็เตือนอย่างอ่อนโยน “อย่าพูดเลย เราจะไปหาหมอแล้ว” 


 


 


พอฟ้ามืด ทั้งหมดก็ไปถึงอำเภอผีเซี่ยน ปิงอวิ๋นรีบไปตามหาหมอในตัวอำเภอ สภาพของเผยปิงปิงไม่ค่อยดีแล้ว ตัวร้อน สลบไป  


 


 


ซูจิ่วซือให้จื่อหลานดูแลเผยปิงปิง กู้หลียวนก็ดูแลอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา พอเห็นเผยปิงปิงสลบไป เขาก็ร้อนใจ เขาเป็นห่วงเผยปิงปิงจริงๆ กลัวว่านางจะเป็นอันตรายถึงชีวิต 


 


 


….. 


 


 


อีกด้านหนึ่ง เผยไป๋ชวนรู้สภาพของกู้เฉินหรงแล้ว เขาฟังจูเฉิงซึ่งบาดเจ็บสาหัสกลับมารายงาน เอ็นบนมือที่ปูดเต้นขึ้น “ปิงปิงบาดเจ็บหรือ” 


 


 


“ผู้น้อยไร้ความสามารถ ไม่ได้เจตนาทำร้ายคุณหนู แต่คุณหนูดึงดันจะช่วยกู้เฉินหรง จึงพลั้งมือไปโดนคุณหนู ขอให้จ้าวหุบโปรดลดโทษ” จูเฉิงคุกเข่าลงกับพื้น เขาไม่รู้ว่าเวลานี้เผยปิงปิงเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าเผยปิงปิงบาดเจ็บหนัก ต้องรีบกลับมารายงานเผยไป๋ชวน  


 


 


เผยปิงปิงได้รับบาดเจ็บ เป็นความผิดของเขาเอง การออกไปคราวนี้ ไม่เพียงแต่เอาชีวิตของกู้เฉินหรงไม่ได้ แต่กลับทำให้ลูกสาวของตนเองบาดเจ็บ ในบรรดาลูกทั้งสาม เขาฝากความหวังไว้กับลูกสาว ถึงกับวางแผนไว้ว่าต่อไปจะมอบหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานให้เผยปิงปิงดูแล 


 


 


พ่อบ้านหลูซึ่งอยู่ข้างๆ เห็นใบหน้าเคร่งเครียดของเผยไป๋ชวน ก็ถามอย่างระแวดระวัง “จ้าวหุบ เอ่อ…เรื่องนี้ควรทำอย่างไรดี” 


 


 


“ซิ่นอ๋องเขียนจดหมายมาอีก ภายในห้าวันถ้าไม่เห็นหัวของกู้เฉินหรง ก็จะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป เวลานี้ข้าจำเป็นต้องไปเอง พ่อบ้านหลู เจ้าไปเตรียมม้า ข้าจะออกไป” 


 


 


พ่อบ้านหลูพยักหน้า รีบออกจากห้องหนังสือ ไปเตรียมม้าให้เผยไป๋ชวน 


 


 


….. 


 


 


เวลานี้ซูจิ่วซือกำลังอยู่ในห้องของกู้เฉินหรง รับยาที่จื่อหลานเคี่ยวมาให้ ใช้ช้อนคนน้ำยาสีดำอย่างเบามือ  


 


 


“เจ้าป้อนข้าหน่อย” 


 


 


กู้เฉินหรงนอนบนเตียง ยิ้มร่ารอให้ซูจิ่วซือป้อนยา หลายวันมานี้สำหรับเขาแล้วเป็นเหมือนฝัน เวลานี้เขามีอันตรายรอบด้าน ต้องรีบกลับแคว้นเจียง ไม่อาจให้ซูจิ่วซือตามไปด้วย เพราะจะทำให้ซูจิ่วซือพลอยลำบาก 


 


 


ซูจิ่วซือไม่ได้ปฏิเสธ ตักยาช้อนหนึ่ง มาวางใกล้ริมฝีปากเป่าให้เย็นอย่างระมัดระวัง แล้วจึงเอาเข้าปากกู้เฉินหรง 


 


 


กู้เฉินหรงมองซูจิ่วซือด้วยแววตาเป็นประกาย ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกใดๆ บนใบหน้าของนางพ้นสายตา ซูจิ่วซือถูกสายตาของเขาจ้องก็หน้าแดง ถลึงตาใส่กู้เฉินหรง “ยังจะดูอีก” 


 


 


กู้เฉินหรงหัวเราะร่า “จิ่วซือ เจ้าก็เขินเป็นหรือนี่” 


 


 


“เวลาอย่างนี้แล้วยังไม่จริงจัง ขืนพูดอีก จะให้กินเอง” 


 


 


“ก็ได้ ก็ได้ ข้าไม่พูดแล้ว ดูอย่างเดียว” 


ตอนที่ 290 ใส่แล้วถอดไม่ได้ 


 


 


 


 


 


อย่างน้อยซูจิ่วซือก็เคยมีลูกสองคนแล้ว แต่พอถูกกู้เฉินหรงจ้องมอง นางก็ยังหน้าแดงเหมือนสาวน้อย น่าประหลาดจริงๆ  


 


 


นางป้อนกู้เฉินหรงทีละคำๆ 


 


 


กู้เฉินหรงก็ร่วมมืออย่างดี ยาชามหนึ่งจึงหมดอย่างรวดเร็ว 


 


 


ซูจิ่วซือวางชามยาในมือลง กลับไปนั่งที่ริมหน้าต่าง “เฉินหรง เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าหลียวนกับแม่นางเผยเปลี่ยนไป” 


 


 


“ทำไมจะดูไม่ออก แม่นางเผยสลบไป สีหน้าทุกข์ร้อนนั้นของเขาไม่ใช่ว่าจะเสแสร้งได้ จิ่วซือ ถ้าไม่มีอะไรผิดคาด ปิงปิงคงเป็นสะใภ้ของเรา” 


 


 


“เจ้าเองก็รู้สึกหรือ” 


 


 


พอได้ยินกู้เฉินหรงเรียกสะใภ้อย่างคุ้นเคย ก็นึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ซูจิ่วซือรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ความสัมพันธ์นี้สับสนไปหน่อย 


 


 


“แน่นอน แต่เจ้ารับปากแล้วว่าจะแต่งงานกับข้า” 


 


 


“ไม่กลัวจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือ” 


 


 


“ไม่มีวันเปลี่ยน” 


 


 


กู้เฉินหรงตอบอย่างหนักแน่น พูดจบก็จับมือซูจิ่วซือไว้ “ระหว่างเราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จิ่วซือ รอข้ามาหานะ” 


 


 


ซูจิ่วซือพยักหน้า ในเมื่อพูดออกไปชัดเจนแล้ว นางก็ต้องรอกู้เฉินหรง ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ 


 


 


จู่ๆ ซูจิ่วซือก็เอามือออกจากมือของกู้เฉินหรง ยื่นข้อมือที่มีกำไลไปข้างหน้ากู้เฉินหรง “เฉินหรงตอนเจ้าบาดเจ็บข้าก็รู้สึก ดูแลตัวเองให้ดี ข้าจึงจะสบายใจ” 


 


 


“กำไลมีพลังอย่างนี้หรือ” 


 


 


“ตอนที่เจ้าบาดเจ็บ ข้ารู้สึกเจ็บหน้าอกจนแทบทนไม่ไหว” 


 


 


ซูจิ่วซือพยักหน้า เมื่อก่อนนางแค่สงสัย คิดว่าบังเอิญ จนกระทั่งคราวนี้พอกู้เฉินหรงบาดเจ็บอีกครั้ง นางจึงมั่นใจว่ากำไลนี้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ตัวของกู้เฉินหรง 


 


 


กู้เฉินหรงสีหน้าเป็นห่วง “กำไลนี้มีเลือดของข้า ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกคงไม่เอาให้เจ้า ทำให้เจ้าทรมาน” 


 


 


“เอาคืนก็สายไปแล้ว” 


 


 


ซูจิ่วซือยิ้มให้กู้เฉินหรง พอเห็นซูจิ่วซือยิ้ม กู้เฉินหรงก็ยิ้มตาม ซูจิ่วซือไม่ชอบยิ้ม ยากนักที่จะเห็นนางยิ้ม หวังว่าต่อไปเมื่อซูจิ่วซืออยู่กับเขาจะยิ้มอย่างนี้เสมอ 


 


 


“กำไลนี้พอใส่แล้วถอดไม่ได้” 


 


 


“เจ้าลืมแล้วหรือ ตอนแรกที่ใส่กำไลนี้เจ้าทำอย่างไร!” 


 


 


กู้เฉินหรงทำเป็นไม่รู้ “ไม่สำคัญหรอก” 


 


 


“เจ้านอนก่อน ข้าจะไปดูแม่นางเผย” 


 


 


กู้เฉินหรงพยักหน้า ซูจิ่วซือจึงออกไป 


 


 


ทันทีที่ซูจิ่วซือออกไป ปิงอวิ๋นก็รีบเข้ามาในห้อง กู้เฉินหรงหาว ถามอย่างไม่ใส่ใจ “สืบสภาพได้ความว่าอย่างไร” 


 


 


“ผู้น้อยสืบแน่ชัดแล้ว คุณชายคาดไว้ไม่ผิด คนตระกูลเผยทั้งหมดอยู่ที่แคว้นเจียง เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน จ้าวหุบเผยเคยคบหาสมาคมกับซิ่นอ๋อง” 


 


 


กู้เฉินหรงครุ่นคิด นึกถึงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนจู่ๆ จ้าวหุบเผยก็หายไปจากวงการนักเลง เขาถามต่อ “หุบราชาพิษเผยหายไปปีไหน” 


 


 


“ปีที่สองหลังเกิดเหตุการณ์รัชทายาท” 


 


 


กู้เฉินหรงครุ่นคิดอีกครั้ง ดูแล้วไม่ใช่เผยไป๋ชวนเรื่องบังเอิญ 


 


 


มีความเป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏในปีนั้น ไม่เช่นนั้นทำไมเผยไป๋ชวนจึงล่าสังหารเขา ถ้าเป็นเพราะซูจิ่วซือ คงไม่ส่งยอดฝีมือมาตั้งมากมาย  


 


 


ดูออกแล้วว่า ยอดฝีมือเหล่านี้เป็นยอดฝีมือชั้นแนวหน้าของเขากุยอวิ๋นซาน เขาต้องสืบให้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของเผยไป๋ชวน มีแต่ทำอย่างนี้จึงจะรอดพ้นจากการล่าสังหารของเผยไป๋ชวน ถ้าเผยไป๋ชวนลงมือด้วยตัวเอง เขาจะเป็นอันตรายมาก 


 


 


“ปิงอวิ๋น เจ้าเตรียมตัว คืนนี้เราจะออกเดินทาง อย่าให้ใครรู้” 


 


 


ปิงอวิ๋นพยักหน้า “ผู้น้อยเข้าใจ คุณชาย คุณชายสงสัยว่าจ้าวหุบเผยเป็นคนของซิ่นอ๋องใช่หรือไม่” 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 291 กล้าเสี่ยงหรือไม่ 


 


 


 


 


 


“เจอตัวก็คงจะรู้ ถ้าเดาไม่ผิด เผยไป๋ชวนต้องมาด้วยตัวเองแน่” 


 


 


แม้แต่เผยปิงปิงยังห้ามจูเฉิงไม่ได้ นี่แสดงว่าเผยไป๋ชวนออกคำสั่งเด็ดขาดให้จูเฉิง เวลานี้จูเฉิงแพ้ เผยไป๋ชวนต้องลงมือด้วยตัวเองแน่ 


 


 


ถ้าเผยไป๋ชวนทำเพื่อคนตระกูลเผย เรื่องก็คงจะง่าย เขาสามารถเจรจาต่อรองกับเผยไป๋ชวน 


 


 


มีแต่เขาเท่านั้นที่จะช่วยคนตระกูลเผยได้ 


 


 


ดึกแล้ว กู้เฉินหรงเขียนจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง แล้วพาปิงอวิ๋นกับชิงซานออกไปจากโรงหมอ พวกเขาไม่ได้พักโรงเตี๊ยม แต่ยอมจ่ายเงินเพิ่ม พักที่โรงหมอ เพื่อสะดวกในการดูแลเผยปิงปิงซึ่งบาดเจ็บหนัก 


 


 


แม้กู้เฉินหรงจะอาลัยอาวรณ์ซูจิ่วซือ แต่ในใจก็รู้ดีว่าสภาพของตนเวลานี้ ถ้าพาซูจิ่วซือไป ก็จะทำให้ซูจิ่วซือถูกทำร้าย เขาต้องรีบกลับไปแคว้นเจียง สร้างฐานกำลังของตนขึ้นมา ตั้งหลักให้มั่นคง มีแต่เช่นนี้ จึงจะต่อสู้กับซิ่นอ๋องได้ 


 


 


จากคำพูดของปิงอวิ๋น ท่านปู่ได้เลือกคนที่วางใจได้จำนวนหนึ่งให้เขา พอถึงตอนนั้นเขาค่อยๆจัดการให้ดี อีกไม่นานก็คงตั้งหลักอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นเจียงอย่างมั่นคง  


 


 


พอถึงเวลานั้น เขาจึงจะพาซูจิ่วซือไปอยู่เคียงข้างได้อย่างสง่างาม จึงจะปกป้องนางได้เต็มที่ 


 


 


เวลานี้เขาควรไปก่อน ไม่อาจชักช้าแม้แต่ครู่เดียว เผยไป๋ชวนไม่ทำร้ายซูจิ่วซือแน่ ถ้าพบคนของซิ่นอ๋องอีก คงจะจัดการยาก เวลานี้ภารกิจสำคัญของเขาก็คือไปหาเผยไป๋ชวน 


 


 


กู้เฉินหรงให้ลูกน้องของปิงอวิ๋นสืบถามที่อยู่ของเผยไป๋ชวน ในที่สุดก็พบเผยไป๋ชวนที่อำเภอผีเซี่ยน 


 


 


ถนนหลวงกว้างขวางไร้ผู้คน กู้เฉินหรงกับเผยไป๋ชวนยืนประจันหน้ากัน เผยไป๋ชวนเอามือไพล่หลัง แววตาเร้นลับ “กู้เฉินหรง วรยุทธ์ของเจ้าสูงกว่าที่ข้าคิด ก่อนหน้านี้เจ้ารอดตัวไปได้ เวลานี้ข้าเจอเจ้า เจ้าเตรียมตัวตายได้แล้ว!” 


 


 


กู้เฉินหรงสีหน้าผ่อนคลาย ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย มองหน้าเผยไป๋ชวนยิ้มๆ “จ้าวหุบเผย ก่อนลงมือต้องคิดให้ดี ถ้าข้าตายจริงๆ คนตระกูลเผยคงไม่รอดแน่ ท่านยอมเป็นเบี้ยในมือซิ่นอ๋องหรือ? วันใดวันหนึ่งพอไม่มีประโยชน์ ซิ่นอ๋องคงไม่ปล่อยคนตระกูลเผยแน่” 


 


 


เผยไป๋ชวนตะลึง นึกไม่ถึงว่ากู้เฉินหรงจะรู้เรื่องเหล่านี้ ในเมื่อรู้แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรจะปิดบัง เผยไป๋ชวนสีหน้าเย็นชา “ราชนัดดา ข้าไม่อาจเอาคนตระกูลเผยมาเสี่ยง ขออภัย” 


 


 


“เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น จ้าวหุบเผย ท่านปู่หาทางมาตามหาข้า พระองค์ทรงละอายใจต่อข้า ข้าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากการก่อกบฏครั้งนั้น ไม่มีคำพูดของใครมีความหมายมากกว่าของข้า 


 


 


มีแต่ข้าเท่านั้นที่สามารถทูลแนะให้ท่านปู่ยกเลิกคำสั่ง ช่วยชีวิตคนตระกูลเผยของเจ้า การฆ่าข้าไม่เป็นผลดีต่อท่านแม้แต่น้อย 


 


 


จ้าวหุบเผยจะปลีกตัวออกจากวงการนักเลง ควรรู้ว่าซิ่นอ๋องเป็นคนอย่างไร เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว ความโหดเ**้ยมของซิ่นอ๋องยิ่งรุนแรงมากขึ้น คงไม่อาจหวังว่าจู่ๆ เขาจะมีใจเมตตา” 


 


 


เผยไป๋ชวนสีหน้าเครียดไม่พูดไม่จา เขารู้ว่าคำพูดของกู้เฉินหรงมีเหตุผล เวลานี้มีแต่กู้เฉินหรงเท่านั้นที่สามารถทูลเตือนฮ่องเต้ได้ ตนเองฟังคำสั่งจากซิ่นอ๋อง ช่วยแก้วิกฤติให้คนตระกูลเผยได้ชั่วคราว แต่ต่อไปก็จะกลายเป็นเบี้ยของซิ่นอ๋อง ซิ่นอ๋องคงใช้คนตระกูลเผยมาควบคุมเขาอย่างแน่นหนา  


 


 


เขาไม่ยอมเป็นเบี้ยของซิ่นอ๋องแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หนีไป 


 


 


เวลานี้จะร่วมมือกับกู้เฉินหรงหรือไม่อยู่ที่ว่าเขาจะกล้าเสี่ยงหรือไม่ หากกู้เฉินหรงไม่ช่วยคนตระกูลเผย คนตระกูลเผยคงแย่แน่ 


 


 


“เจ้าหุบเผย เจ้าเคยคบหาจิ่วซือ ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้า แต่อยากร่วมมือกับเจ้า ข้าสัญญากับเจ้าได้ ขอแต่ให้ข้ายังมีชีวิตอยู่ คนตระกูลเผยจะปลอดภัย ไม่มีใครทำร้ายคนตระกูลเผยได้ จ้าวหุบเผย เจ้ากล้าเสี่ยงหรือไม่” 


 


 


กู้เฉินหรงถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 


ตอนที่ 292 รอข้ากลับมา 


 


 


 


 


 


เผยไป๋ชวนไม่ได้รับปากทันที แต่ครุ่นคิด เขาพิจารณาคำพูดของกู้เฉินหรงอย่างละเอียด  


 


 


ได้ข่าวว่าหลายปีมานี้พระวรกายของฝ่าบาทไม่เหมือนเมื่อก่อน การที่รีบร้อนตามเขากลับไป คงจะมีพระประสงค์ให้กู้เฉินหรงสืบทอดบัลลังก์ เขาเป็นลูกชายของรัชทายาทตวนฮุ่ย การสืบทอดบัลลังก์จึงเป็นไปตามแบบแผน  


 


 


แคว้นเจียงต้องเป็นของกู้เฉินหรงหรือไม่ก็ซิ่นอ๋อง เวลานี้คนตระกูลเผยไม่อาจวางตัวอยู่ภายนอก เขาต้องเลือกใครคนหนึ่ง หากเลือกผิด คนตระกูลเผยก็จะประสบหายนะ  


 


 


กู้เฉินหรงไม่ได้รบกวนเผยไป๋ชวน เรื่องนี้ควรให้เผยไป๋ชวนคิดให้ดี ในใจของเขาตึงเครียด กลัวว่าเผยไป๋ชวนจะปฏิเสธ หากเผยไป๋ชวนปฏิเสธ ชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในอันตราย 


 


 


ปิงอวิ๋นเตรียมการไว้แล้ว หากเผยไป๋ชวนปฏิเสธ นางจะลงมืออย่างรวดเร็ว ภารกิจของนางคือพากู้เฉินหรงกลับไป ต้องพากู้เฉินหรงกลับแคว้นเจียงอย่างปลอดภัยให้ได้ 


 


 


ไม่มีใครพูดจา คนที่เผยไป๋ชวนพามาก็จ้องหน้าอย่างดุดัน เตรียมลงมือ ถนนหลวงอันเงียบสงัดยิ่งเงียบสงัดขึ้นอีก 


 


 


ในที่สุด เผยไป๋ชวนก็เปิดปากพูด “ได้ ข้าร่วมมือกับเจ้า” 


 


 


หัวใจที่ตึงเครียดของกู้เฉินหรงผ่อนคลายลงแล้ว “จ้าวหุบเผยใจกว้าง วางใจเถอะ เรื่องที่ข้ารับปากไว้ต้องทำให้ได้ เวลานี้มีเรื่องหนึ่งจะขอร้องจ้าวหุบเผย 


 


 


ข้าต้องรีบกลับแคว้นเจียง จ้าวหุบเผยยินดีพาจิ่วซือไปส่งเมืองหลวงหรือไม่ แม้จะมีคนอยู่ดูแล แต่ข้ากลัวว่าระหว่างทางอาจจะมีอันตราย ถ้าจ้าวหุบเผยยินดีไปส่งด้วยตัวเอง ข้าจะวางใจมาก” 


 


 


“ข้าไปส่งซูหลิ่ว เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้าบอก” 


 


 


พูดจบเผยไป๋ชวนก็หันตัว เดินไปสองก้าวแล้วหยุด “ราชนัดดาต้องเร็วหน่อย ระหว่างทางอย่าให้เสียเวลา” 


 


 


กู้เฉินหรงพยักหน้า เวลานี้สถานการณ์คับขัน เขาไม่อาจเสียเวลาระหว่างทางอีก ต้องกำจัดซิ่นอ๋องซึ่งเป็นอุปสรรค  


 


 


พอเผยไป๋ชวนไปแล้ว ปิงอวิ๋นก็ขมวดคิ้ว ถามขึ้น “นายท่าน จ้าวหุบเผยอยากได้คุณหนูซู นายท่านให้จ้าวหุบเผยไปส่งคุณหนูซูกลับเมืองหลวงจะเหมาะหรือ?” 


 


 


“วรยุทธสูงส่งปานนี้ ยังจะมีใครเหมาะกว่าเขา? จิ่วซือเป็นคนอย่างไร เจ้ายังดูไม่ออกหรือ ยี่สิบกว่าปีก่อนนางไม่ได้เลือกเขา ยี่สิบปีต่อมายิ่งเป็นไปไม่ได้” 


 


 


ปิงอวิ๋นไม่พูดอะไรอีก คุณชายของนางพูดถูก ลูกสาวของเผยไป๋ชวนอายุใกล้เคียงกับซูจิ่วซือ ซูจิ่วซือไม่มีวันทอดทิ้งกู้เฉินหรง ไปรักตาแก่แน่ 


 


 


“ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลาเลย” 


 


 


กู้เฉินหรงพูดจบก็ขึ้นม้า ปิงอวิ๋นเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของกู้เฉินหรง พอขึ้นม้าแล้วจึงถามขึ้น “นายท่าน ขี่ม้าจะสะเทือน อาการบาดเจ็บ…” 


 


 


“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก” 


 


 


พูดจบกู้เฉินหรงก็ตวัดแส้อย่างแรง ม้าดำทะยานออกจากอำเภอผีเซี่ยนอย่างรวดเร็ว 


 


 


เวลานี้เขาหวังว่าจะไปตั้งหลักที่เมืองหลวงให้เร็วที่สุด ต้องทำอย่างนี้เท่านั้นจึงจะรับซูจิ่วซือกลับไปให้เร็วขึ้น จะได้แต่งนางกลับแคว้นเจียงอย่างสมเกียรติ 


 


 


รุ่งขึ้นพอฟ้าเริ่มสาง ซูจิ่วซือตื่นขึ้น 


 


 


นางเห็นบนโต๊ะมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ก็คาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รีบลุกเดินมาที่โต๊ะ เปิดจดหมาย ในนั้นเขียนข้อความไว้ประโยคเดียว “จิ่วซือ รอข้ากลับมานะ” 


 


 


นางรู้ว่ากู้เฉินหรงกลับแคว้นเจียงแล้ว และรู้ว่าทางแคว้นเจียงสถานการณ์กำลังคับขัน กู้เฉินหรงต้องรีบกลับไป ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การจากกันคราวนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไร ในใจของซูจิ่วซืออาลัยอาวรณ์ เริ่มคิดถึงกู้เฉินหรงแล้ว 


 


 


นางจับจดหมายไว้แน่น นึกไม่ถึงว่าเขาเพิ่งไป นางก็รอให้เขากลับมา 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 293 ร่วมมือกันอย่างราบรื่น 


 


 


 


 


 


ความรู้สึกของทั้งสองล้ำลึกขึ้นอีกขั้นหนึ่งโดยไม่รู้ตัว กู้เฉินหรงมีตำแหน่งสำคัญในหัวใจของนางมากขึ้นเรื่อยๆ  


 


 


กู้เฉินหรงควรรอให้ซูจิ่วซือตื่นก่อนค่อยไป แต่เขาเกรงว่าตนจะตัดใจไม่ได้ จึงเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนไป ถ้าเห็นซูจิ่วซือจริงๆ ไม่แน่เขาอาจจะยืดเวลาไปอีก 


 


 


ข้างนอกก็มีเสียงจื่อหลานดังขึ้น “คุณหนู ตื่นแล้วหรือ จ้าวหุบเผยมาแล้ว” 


 


 


“ให้เขารอสักครู่” 


 


 


ซูจิ่วซือนอนในเสื้อผ้าปกติ พอเก็บที่นอนเรียบร้อย หวีผมแล้วจึงให้เผยไป๋ชวนซึ่งอยู่นอกห้องเข้ามาข้างใน นางมองเผยไป๋ชวนไม่พูดไม่จา เผยไป๋ชวนทำเพื่อคนตระกูลเผย นางไม่มีเหตุผลที่จะกล่าวโทษเขา ถ้าเป็นนาง นางก็ทำอย่างนี้ 


 


 


เผยไป๋ชวนสีหน้าละอายใจ “ขออภัย ซูหลิ่ว ข้าลำบากใจ” 


 


 


“เหตุการณ์รัชทายาทตวนฮุ่ยเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่” 


 


 


ซูจิ่วซือคาดเดาไว้แล้ว เวลานี้พอเห็นเผยไป๋ชวน จึงถามตรงๆ  


 


 


เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เผยไป๋ชวนก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องราวเวลานั้น เขาพูดต่อ “เกี่ยวข้องกับข้าจริง เวลานั้นอาของข้ารับสินบน คดีนั้นองค์รัชทายาทเป็นคนจัดการ 


 


 


รัชทายาทคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมา พ่อข้าพยายามวิ่งเต้น ใช้เส้นสายช่วยอา องค์รัชทายาทตวนฮุ่ยไม่ยอมไว้ชีวิตอาข้า ยืนยันให้ประหาร ย่าข้าทนรับแรงกดดันไม่ไหวจากโลกไป 


 


 


เรื่องนี้พ่อข้าจำฝังใจ เกิดความแค้นต่อรัชทายาทตวนฮุ่ย 


 


 


ต่อมาซิ่นอ๋องได้รวบรวมคนที่ไม่พอใจรัชทายาทตวนฮุ่ยใส่ร้ายรัชทายาทตวนฮุ่ยว่าก่อกบฏ เขามาหาพ่อข้า ข้ากับพ่อจึงเข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น 


 


 


เรื่องราวต่อมาเจ้าคงรู้แล้ว คนที่เข้าร่วมเหตุการณ์ครั้งนั้นถูกฝ่าบาทลงโทษประหารทั้งหมด มีแต่พวกข้าที่หายไปจากวงการนักเลงไปก่อนเพื่อหนีเคราะห์กรรม” 


 


 


“ทั้งๆ ที่ซิ่นอ๋องเป็นคนวางแผน แต่สาวไม่ถึงเขาเลย” 


 


 


“ซิ่นอ๋องเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ทิ้งหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงเขาแม้แต่น้อย เวลานี้เขาตั้งหลักได้อย่างมั่นคง ฝ่าบาทไม่อาจทำอะไรเขาได้ง่ายๆ เรื่องนี้เป็นปมในใจของข้าตลอดมา อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หนีไปไหนก็หนีไม่พ้น จิ่วซือ วันนี้ข้ามาพบกู้เฉินหรง ข้าคิดจะร่วมมือกับเขา” 


 


 


“เฉินหรงเป็นคนยึดมั่นในสัญญา ไม่มีวันทรยศแน่” 


 


 


“วันข้างหน้าถ้าเขาฆ่าข้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด เมื่อก่อนพวกข้าใส่ร้ายรัชทายาทตวนฮุ่ยจริง แต่คนตระกูลเผยไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรทำให้คนตระกูลเผยพลอยเดือดร้อนไปด้วย” 


 


 


“ซิ่นอ๋องเป็นคนที่รับมือได้ยากขนาดนี้เชียวหรือ” 


 


 


ซูจิ่วซือไม่เคยพบซิ่นอ๋อง แต่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับซิ่นอ๋องไม่น้อย รู้ว่าซิ่นอ๋องเป็นคนโหดเ**้ยมทารุณ เป็นคนร้ายกาจ เวลานี้กู้เฉินหรงยังตั้งหลักไม่ได้ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่เข้มแข็งอย่างนี้จึงอันตรายจริงๆ เดิมทีนางควรไปช่วยกู้เฉินหรง แต่ธุระของนางยังไม่เสร็จ เวลานี้นางยังไปจากเมืองหลวงไม่ได้  


 


 


“คนที่เจ้าถูกใจคงไม่เลวแน่ กู้เหยี่ยนตอนนั้นก็สิ้นไร้ไม้ตอก สุดท้ายก็กลายเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้า ทำให้สกุลกู้กลายเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ซูหลิ่ว ข้าพาเจ้ากลับเมืองหลวงเอง” 


 


 


“เจ้าหิน ขอบใจเจ้า” 


 


 


ซูจิ่วซือไม่ได้ปฏิเสธ เวลานี้นางต้องการความช่วยเหลือจากเผยไป๋ชวน 


 


 


“เจ้าไม่โกรธข้า” 


 


 


“ถ้าเฉินหรงเป็นอะไรไปจริงๆ แม้เจ้าลำบากใจอย่างไร ข้าก็ยังโกรธเจ้า เวลานี้ไม่จำเป็นแล้ว วันหลังเราคงได้ร่วมมือกัน ขอให้ร่วมมือกันอย่างราบรื่น” 


 


 


“เจ้าเลือกเขาแล้วใช่หรือไม่” 


 


 


ในใจของเผยไป๋ชวนยังไม่ค่อยผ่อนคลายนัก หลังจากได้ใกล้ชิดมาระยะหนึ่ง เขารู้สึกว่ากู้เฉินหรงไม่เหมือนกู้เหยี่ยน ตอนนั้นเขาเกลียดกู้เหยี่ยน  

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม