กับดักรักในรอยแค้น 282-289

   ตอนที่ 282 ขว้างงูไม่พ้นคอ 


 


 


           เพียงพริบตาเดียว ความมืดมนในดวงตาของฉู่อีอีก็หายไป เงยใบหน้าน้อยๆ ที่สดใสมองเผยหนานเจวี๋ยอยู่ที่ข้างๆ พร้อมเอ่ย “หนานเจวี๋ย คุณดูสิว่าพี่สาวเต้นเก่งแค่ไหน พวกเราก็เข้าไปเต้นกันเถอะ” 


 


 


           เสียงที่งดงามดังออกมาจากปากของเธอ แววตามีรอยยิ้ม ราวกับว่าเธอเพียงต้องการจะเต้นรำจริงๆ 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ข้างฉู่อีอี เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือสองคนเต้นรำสวยงามอยู่ในฟลอร์เต้นรำแล้ว ไฟโกรธเอ่อล้นอยู่ในดวงตาของเขา 


 


 


           มือที่ถือแก้วไวน์กำแน่น ริมฝีปากบอบบางเม้มกันแน่น สายตาเรากับว่าอดไม่ไหวต้องการจะหั่นมือของกงจวิ้นฉือที่วางอยู่บนตัวของฉู่เจียเสวียนทิ้งไปซะ 


 


 


           เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่อีอี ริมฝีปากเขากระซิบแผ่วเบา “ไม่ล่ะ ใกล้จะจบแล้ว” 


 


 


           เป็นไปตามคาด ทันทีที่เขาพูดจบ การเต้นรำก็มาถึงช่วงสุดท้าย เพียงเห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือเต้นรำท่าสุดท้ายจบแล้ว เสียงปรบมือกึกก้องดังขึ้น 


 


 


           “สมเป็นกิ่งทองใบหยกเลยนะ” 


 


 


           “คุณฉู่กับคุณกงเต้นเก่งมากเลย” 


 


 


“……” 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนออกมาจากฟลอร์เต้นรำกับกงจวิ้นฉือ ผู้คนเริ่มกระซิบกระซาบกัน 


 


 


           ฉู่อีอีได้ยินเสียงพูดคุยกันของแขกเหรื่อพวกนั้นแล้ว ในใจโมโหจนทนไม่ได้ 


 


 


           น่าเจ็บใจจริงๆ เธอแย่งความโดดเด่นไปอีกแล้ว เมื่อนึกถึงชุดเดรสบนตัวของเธอ ในใจฉู่อีอียิ่งโมโห ทำไมเรื่องที่ตั้งใจไว้ถึงไม่เกิดขึ้นกันนะ 


 


 


           “หนานเจวี๋ย…ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน” ฉู่อีอีเงยหน้าพูดกับเผยหนานเจวี๋ย เมื่อเห็นว่าสายตาของเขายังคงอยู่บนตัวฉู่เจียเสวียน เธอกัดริมฝีปากเบาๆ หันหลังเดินไปยังห้องน้ำ  


 


 


           ขณะที่เธอออกมา พบว่าฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ในมุมนั้นตามลำพัง รู้สึกดีใจ ก้าวเท้าเดินไปหาฉู่เจียเสวียน 


 


 


           กวาดสายตามองหาเงาของเผยหนานเจวี๋ย เห็นว่าเขากำลังพูดคุยกับแขก ในเวลานั้นเองก็เดินไปหาฉู่เจียเสวียนโดยปราศจากความหวาดกลัว 


 


 


           ฉู่อีอีคำนวณระยะฝีเท้าไว้ดีแล้ว ขณะที่กำลังจะถึงตัวฉู่เจียเสววียนก็แกล้งไม่ระวังสะดุดล้ม เธอโซซัดโซเซไปหาฉู่เจียเสวียน เธออาศัยตอนที่ไม่ทันระวังตัวยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วต้องการจะดึงชุดเดรสของฉู่เจียเสวียน 


 


 


           และในขณะที่ฉู่อีอีพุ่งปรี่เข้ามาหาเธออย่างกะทันหันนั้น ฉู่เจียเสวียนถอยหลังไปก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ นี่คือความสามารถของเธอ 


 


 


           มือฉู่อีอียังไม่ทันจะถึงชุดเดรสของฉู่เจียเสวียน เธอก็ล้มลงไปกับพื้นแล้ว 


 


 


           “แควก” 


 


 


           ทั้งๆ ที่ห้องโถงใหญ่เสียงดังวุ่นวายแบบนั้น แต่ว่าเสียงชุดเดรสขาดกลับชัดเจนมาก ในชั่วขณะหนึ่งทั้งงานก็เงียบลง 


 


 


           สายตาของแขกทุกคนหันไปหาฉู่อีอีคนแล้วคนเล่า 


 


 


           เห็นเพียงชุดเดรสที่ฉู่อีอีสวมใส่ตอนนี้ขาดลงมาถึงหน้าอกแล้ว หากขยับตัวเพียงนิดเดียว หน้าอกวัยสาวอันอวบอิ่มของเธอก็จะโผล่ออกมาแล้ว ผิวขาวบริสุทธิ์เผยออกมาด้านนอก ทำเอาชายหนุ่มหลายคนกลืนน้ำลาย 


 


 


           ฉู่อีอีเป็นใครเหรอ เธอคือดาราดังในตอนนี้ รูปร่างหน้าตายิ่งดีเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉู่อีอีมีเผยหนานเจวี๋ยคอยสนับสนุน เชื่อว่าเธอจะต้องใช้บางอย่างแลกมาอย่างแน่นอน 


 


 


           ในขณะนั้นเอง พวกนักข่าวก็หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปฉู่อีอี 


 


 


           ฉู่อีอีล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดขาว หลบหน้าหลบตาทำตัวไม่ถูก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ คนที่ล้มลงบนพื้นควรจะเป็นฉู่เจียเสวียนไม่ใช่เหรอ 


 


 


           น้ำตาแห่งความอับอายผุดอยู่ในดวงตาของฉู่อีอี แววตาไร้เดียงสาบนใบหน้าเห็นแล้วชวนให้นึกเอ็นดู 


 


 


           คราวนี้เป็นความอับอายขายหน้าครั้งใหญ่จริงๆ ต้องการจะทำให้ฉู่เจียเสวียนขายหน้าก็ไม่สำเร็จ ครั้งนี้ทำให้เธอต้องอัปยศอดสูต่อหน้าผู้คน เธอจะต้องถูกหัวเราะเยาะแน่นอน 


 


 


           “น้องสาว เธอไม่เป็นไรนะ” ฉู่เจียเสวียนมองฉู่อีอีที่กองลงไปกับพื้น แววตามีความเย็นชา 


 


 


           เธอกล้ารับประกันว่าฉู่อีอีจงใจอย่างแน่นอน 


 


 


 


 


 


    ตอนที่ 283 เธอไม่ต้องการ 


 


 


           แม้เมื่อครู่ฉู่อีอีจะเคลื่อนไหวเร็วกว่านี้ แต่ว่าฉู่เจียเสวียนก็ไม่พลาดอากัปกิริยาที่เธอยื่นมือออกมา ฉะนั้นเธอจึงแกล้งถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่ระวัง 


 


 


           เงยหน้าขึ้น สบตาที่เย็นยะเยือกของฉู่เจียเสวียน แม้ว่าในใจฉู่อีอีจะโมโห แต่ว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าตอนนี้ถูกล้อมรอบโดยแขกมากมายแล้ว 


 


 


           “นี่มันฉู่อีอีดาราชื่อดังไม่ใช่เหรอ” 


 


 


           “อัยยา หุ่นเธอดีมากเลยนะ” 


 


 


           “เธอใส่แบบนี้ก็ดูต่ำไปหน่อยไหม” 


 


 


           “คนประเภทนี้ดูครั้งแรกก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ดีไม่ดีเธออาจจะตั้งใจดึงดูดความสนใจของคนอื่นก็ได้นะ” 


 


 


           “ผู้หญิงแบบเขาฉันเห็นมาเยอะแล้ว ดูแวบเดียวก็รู้ว่าอยากได้ยอดไล้ค์” 


 


 


“……” 


 


 


           ฉู่อีอีได้ยินเสียงวิพากย์วิจารย์ของบรรดาแขก มองดูพวกเขาชี้มือชี้ไม้มาที่เธอ ใบหน้าแดงก่ำ 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยที่คุยกับคนอื่นในที่ไกลๆ ในตอนแรก ได้ยินเสียงฮือฮา เขาตามเข้าไป กลับคิดไม่ถึงว่าฉู่อีอีจะนั่งอยู่บนพื้น อีกทั้งมือของเธอปิดอยู่บนตำแหน่งหน้าอก ริมฝีปากแดงกัดแน่น 


 


 


           ในชั่วขณะนั้นเอง เผยหนานเจวี๋ยไม่คิดมาก ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วคลุมบนตัวของฉู่อีอีทันที 


 


 


           ลมหายใจที่อบอุ่นและคุ้นเคยเข้าสู่ปลายจมูก ฉู่อีอีดีใจ ทันใดนั้นร่างกายก็ว่างเปล่าและถูกเผยหนานเจวี๋ยดึงขึ้นมาจากพื้น 


 


 


           “คุณเป็นยังไงบ้าง?” กระซิบถามแผ่วเบา เผยหนานเจวี๋ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล    ในเวลานี้ กงจวิ้นฉือก็เดินมาถึงข้างกายของฉู่เจียเสวียนแล้ว มองหน้าฉู่เจียเสวียนจากนั้นก็พูดกับผู้ช่วยข้างๆ “ปิดข่าวนี้ไว้ อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป” 


 


 


           ผู้ช่วยรับคำสั่ง พยักหน้าแล้วจากไป 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยมองดูฉู่อีอีที่เนื้อตัวสั่นเทา กอดเธอไว้ในอ้อมอก เงยหน้าขึ้นเห็นแววตาที่เปิดเผยไร้เล่ห์เหลี่ยมของฉู่เจียเสวียนคู่นั้น เขาบอกไม่ได้ว่าในใจเขารู้สึกอย่างไร 


 


 


           ยังไม่ทันคิดอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกว่าคนในอ้อมแขนอ่อนปวกเปียก ก้มหน้าลงมอง พบว่าฉู่อีอีผล็อยหลับอยู่ในอ้อมอกของเขา 


 


 


           ช้อนอุ้มฉู่อีอีขึ้นมา อุ้มเธอแล้วหันหลังออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้กลุ่มแขกกระซิบกระซาบกัน 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนเห็นเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่อุ้มฉุ่อีอีหายไป ริมฝีปากแดงยกยิ้ม 


 


 


           ทันใดนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็สิ้นสุดลงเช่นนี้ 


 


 


           หลังจากเผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีจากไปแล้ว งานยังคงดำเนินต่อไป 


 


 


           วันต่อมา เมื่อฉู่อีอีตื่นอนแล้วเห็นพาดหัวข่าวของวันนี้ เธอโมโหจนใบหน้าซีดขาว 


 


 


           โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นเนื้อหาของพื้นที่แสดงความคิดเห็นแล้ว เธอแทบจะหายใจไม่ออก 


 


 


           มือที่ถือหนังสือพิมพ์กำแน่นไม่หยุด ตอนนี้เธอจะต้องกลายเป็นตัวตลกของวงการบันเทิงไปแล้ว 


 


 


           จู่ๆ ได้ยินเสียงประตูเคลื่อนไหว ฉู่อีอีเงยหน้าขึ้นก็เห็นเผยหนานเจวี๋ย เพียงเห็นเขาขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน เดินมานั่งข้างๆ ฉู่อีอี 


 


 


           ไม่ทันรอให้เผยหนานเจวี๋ยพูด ฉู่อีอีเบิกตาโตที่เต็มไปด้วยน้ำตา กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “หนานเจวี๋ย อาชีพนักแสดงของฉันจะถูกทำลายหรือเปล่า ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่ต้องการจริงๆ…” 


 


 


           เมื่อคืนทั้งๆ ที่กงจวิ้นฉือปิดข่าวแล้ว แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่ามันยังรั่วไหลออกไป เขาเข้าบริษัทไปจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว 


 


 


           ดังนั้นเขาจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของงานเมื่อคืน เห็นว่าฉู่อีอีล้มลงไปเอง อีกทั้งเขายังเห็นมือของเธอที่ยื่นออกไป เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงชุดของฉู่เจียเสวียน 


 


 


           ดูจนกระทั่งถึงตอนท้ายที่เขาพาฉู่อีอีออกไปจากงาน 


 


 


           “อีอี!” เขามองดูฉู่อีอีที่ร้องไห้จนกลายเป็นมนุษย์เจ้าน้ำตา ความโมโหปรากฏอยู่ในดวงตา 


 


 


           ไม่ได้คาดหวังว่าน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยจะขึงขังอย่างกะทันหัน น้ำตาของฉู่อีอีค้างเติ่งอยู่ในดวงตา 


 


 


           “เมื่อคืนคุณตั้งใจใช่ไหม ผมเคยบอกแล้วว่าคุณอย่าไปรบกวนเขาอีก!” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้น บนใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยมีความน่ากลัว 


  ตอนที่ 284 ให้โอกาสฉู่อีอีครั้งสุดท้าย 


 


 


           ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย เงยหน้าขึ้นมองเผยหนานเจวี๋ย ในดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ “หนานเจวี๋ย คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้คุณเกลียดฉันแล้วใช่ไหม” 


 


 


           “คุณว่าฉันแบบนี้ ในใจของคุณยังมีฉันอยู่หรือเปล่า” ฉู่อีอีร้องไห้จนน่าอนาถ น้ำตาไหลออกมาราวกับก๊อกน้ำ 


 


 


           “อีอี เมื่อก่อนคุณไม่ใช่แบบนี้” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีที่เป็นแบบนี้ รู้สึกปวดหัวรุนแรง 


 


 


           “หนานเจวี๋ย คุณอย่าว่าฉันแบบนี้ เมื่อคืนฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉู่เจียเสวียนเป็นคนบอกคุณใช่ไหม ใช่หรือเปล่า” 


 


 


           “ฉันทำแบบนี้ฉันจะได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้คนที่ถูกโจมตีก็คือฉัน” 


 


 


           กล่าวสะอึกสะอื้น ฉู่อีอีพูดด้วยความโมโห ดวงตาทั้งคู่ที่มองเผยหนานเจวี๋ยเปี่ยมด้วยความเจ็บปวด 


 


 


           เขารักฉู่อีอีนั้นถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักเธอแล้วจะยอมรับในสิ่งที่เธอทำผิดได้ สามปีก่อนเขาทำเธอแท้ง ฉะนั้นเขาจึงมีความผิดต่อเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำตามอารมณ์ของเธอ 


 


 


           ฉู่อีอีโมโหในใจ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความเกลียดชังในใจที่มีต่อฉู่เจียเสวียนยิ่งเพิ่มมากขึ้น กำมือแน่น 


 


 


           น้ำตาในดวงตาเริ่มผุดขึ้นมาอีกครั้ง พูดด้วยความอ่อนแอ “หนานเจวี๋ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณอย่าโกรธเลยได้หรือเปล่า คุณจะต้องช่วยฉัน ตอนนี้ฉันถูกความคิดเห็นของทุกคนโจมตี ฉัน…” 


 


 


           ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็อ่อนไหวจากน้ำตาของฉู่อีอีและคำขอร้องอันขมขื่นของเธอ สุดท้ายน้ำเสียงก็นุ่มลง “อีอี ผมหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ อย่าทำเรื่องที่ไม่จำเป็นอีก” 


 


 


           เขารู้ดีว่าฉู่อีอีมีความมุ่งมั่นในอาชีพการแสดง ยิ่งรู้ว่าที่ฉู่อีอีทำแบบนี้เพราะว่าเธอรักเขามากเกินไป ฉะนั้นครั้งนี้จึงเลือกที่จะให้อภัย 


 


 


           อีกอย่างเมื่อสิบปีก่อน เขาถูกลักพาตัว ตอนนั้นเพราะฉู่อีอีช่วยเขาไว้ ร่างกายที่อ่อนแอของเธอแบบนั้น แบกเขาผ่านสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แม้แต่ใช้อุณหภูมิร่างกายให้ความอบอุ่นเขา 


 


 


           สิบปีก่อนฉู่อีอีช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ถ้าหากไม่มีฉู่อีอี ก็ไม่มีเผยหนานเจวี๋ยในวันนี้ 


 


 


           เขาในตอนนั้นที่ไข้ขึ้นสูงสาบานอยู่ในใจ ถ้าหากว่าไม่ตาย เขาจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ตลอดชีวิต 


 


 


           ฉะนั้นแม้จะรู้ว่าเธอทำร้ายฉู่เจียเสวียนหลายต่อหลายครั้ง แม้ฉู่อีอีจะทำให้ตัวเองแปดเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรสุดท้ายเขาก็เกลียดเธอไม่ลง… 


 


 


           “อืม หนานเจวี๋ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ฉู่อีอีได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนลงของเผยหนานเจวี๋ย ถอนหายใจ 


 


 


โล่งอกในใจ ในขณะเดียวกันก็รับประกันว่าจะไม่ลืมที่จะล้างมนทินให้กับตัวเอง 


 


 


           ได้ยินคำพูดของฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีย่างลึกซึ้ง ดวงตานั้นแหลมคมราวกับว่าจะแทงทะลุเข้าไปในหัวใจของฉู่อีอี 


 


 


           ระหว่างบรรยากาศที่เงียบสงัดนั้น โทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ขณะที่หยิบมือถือออกมาดูสายเรียกเข้า เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา 


 


 


           “ฮัลโหล แม่” 


 


 


           “ครับ ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมจะกลับไป” 


 


 


           วางสายา เผยหนานเจวี๋ยยกมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว หลับตา 


 


 


           ฉู่อีอีนั่งอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินว่าประเดี๋ยวเผยหนานเจวี๋ยจะกลับบ้านแม่นั้น ในใจก็รู้สึกตื่นตระหนก “หนานเจวี๋ย เป็นอะไรไป คุณป้าเรียกให้พวกเรากลับไปเหรอ” 


 


 


           “อืม คุณพักเถอะเยอะๆ ผมกลับไปคนเดียวก็พอ” 


 


 


           “หนานเจวี๋ย แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง” แม้ว่าเธอก็ไม่ค่อยอยากจะเจอหน้ายายแก่นั่น แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแม่ของเผยหนานเจวี๋ย และจะเป็นแม่สามีของเธอในอนาคตด้วย 


 


 


           ส่ายหัว เผยหนานเจวี๋ยแสดงอาการบอกว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายฉู่อีอีก็ยังไปด้วยกันแล้ว 


 


 


           เมื่อถึงบ้านเผย ร่างที่สูงใหญ่และตั้งตรงของเผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้ ดวงตาเขามองคุณแม่ที่นั่งตรงข้ามเขาเงียบๆ ตั้งแต่ที่เขากลับมา คุณแม่ก็ยังพูดไม่หยุด 


 


 


           ส่วนฉู่อีอีที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ไม่กล้าหายใจ ฟังคำกร่นด่าอย่างต่อเนื่องของคุณแม่เผย ในใจยิ่งโกรธจนแทบคลั่ง 


 


 


           “ฉันเคยบอกเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าคบกับยัยนักแสดงนั่น วันๆ เอาแต่กอดกันบัดสีบัดเถลิง เธอดูสิ เธอดูสิ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขายหน้ารึยังไง!” โยนหนังสือพิมพ์ในมือมาที่ด้านหน้าเผยหนานเจวี๋ย 


 


 


 


 


 


    ตอนที่ 285 ไก่ที่ไม่ออกไข่ 


 


 


           เขาชำเลืองมองอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ละสายตา นิ่งเงียบต่อ 


 


 


           “เธอดูสิ เธออยู่กับเขามาสามปีแล้ว สามปีแล้ว ถ้าเป็นไก่ก็ออกไข่ไปแล้ว เธอดูสิท้องเขาเรียบแบบขนาดนั้น ข่าวดีสักข่าวก็ไม่มี บอกเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าหย่า อย่าหย่า เธอก็ไม่ฟัง ฉู่เจียเสวียนผู้หญิงคนนั้นดีกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!” คุณแม่เผยยิ่งพูดยิ่งโมโห ใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดียิ่งแดงก่ำ 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินเธอเอ่ยถึงฉู่เจียเสวียนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “แม่ครับ! อย่าพูดอีกเลย” 


 


 


           ฉู่เจียเสวียน…เขายอมรับ ตอนนี้เขารู้สึกหวั่นไหวกับฉู่เจียเสวียนเข้าแล้ว แต่ว่าคนที่เขาต้องการรักก็คือฉู่อีอี และคนที่เขาต้องการปกป้องก็คือฉู่อีอี ฉะนั้น…เขาจะพยายามข่มความอ่อนไหวนั้นอยู่ในใจ 


 


 


           ได้ยินถึงตรงนี้ มือของฉู่อีอีที่จับเผยหนานเจวี๋ยบีบแน่นไม่หยุด มีเพียงแบบนี้ที่จะสามารถระงับไฟโกรธในใจของเธอได้ 


 


 


           เธอเปรียบเทียบเธอกับฉู่เจียเสวียนอีกแล้ว ฉู่เจียเสวียนคนเลวคนนั้นมีอะไรที่เทียบเธอได้? 


 


 


           แต่คุณแม่เผยไม่ฟังเผยหนานเจวี๋ย ยังคงด่าต่ออย่างไม่ลดละ “ก็ใช่ พวกเขาสองคนไม่มีอะไรเทียบกันได้อยู่แล้ว” พูดจบก็จ้องฉู่อีอีด้วยความดุร้าย 


 


 


           ฟังคำด่าของคุณแม่เผยไม่หยุด ฉู่อีอีรู้สึกว่าไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ ใบหน้านั้นถูกโยนลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกไปแล้ว มันคือความผิดจริงๆ ที่เธอกลับมา ใช้ชีวิตให้คนกร่นด่า 


 


 


           หยิบกระเป๋าบนโซฟา น้ำตาเอ่อล้นในดวงตา ออกไปจากวิลล่าด้วยความโมโหแล้ว 


 


 


           เผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้นต้องการจะตามไป แต่กลับถูกคุณแม่เผยคว้ามือเอาไว้ “เธอจะไปไหน เธออยู่ที่นี่แหละ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไป เขาก็โตป่านนี้แล้วเธอจะไปห่วงอะไร” 


 


 


           “แม่!” 


 


 


           “แม่อะไร ถ้าเธอกล้าไปฉันก็จะไม่ให้พวกเธอได้อยู่ด้วยกัน!” 


 


 


           พูดจบด้วยความโกรธ คุณแม่เผยออกจากห้องโถงและหันหลังเข้าไปในห้องครัวแล้ว   อีกด้านหนึ่ง ขณะที่ฉู่เจียเสวียนกลับไปทำงานที่ร้านชุดแต่งงานนั้น ก็ได้ยินพนักงานในร้านกระซิบกระซาบกัน ริมฝีปากแดงยกยิ้ม เธอเห็นข่าวตั้งแต่เช้าแล้ว 


 


 


           เพิ่งมาถึงออฟฟิศก็เห็นถังถังมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม 


 


 


           “เธออย่ามองฉันแบบนี้สิ ฉันกลัว” ฉู่เจียเสวียนเดินไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง ปากแดงๆ ยกยิ้ม มองถังถังพร้อมเอ่ย 


 


 


           เมื่อวานเพราะว่าถังถังมีงานออกแบบที่ต้องเร่งทำ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ออกงานด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเมื่อคืนนี้ จนกระทั่งได้เห็นข่าววันนี้เธอถึงรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีก็ไปด้วย 


 


 


           “ที่รัก ถ้ารู้ว่าคนเลวนั่นก็ไปด้วย ยังไงฉันก็ควรจะไปร่วมสนุกสักหน่อย แต่ว่า ได้เห็นข่าววันนี้ก็ไม่เลวนะ” ถังถังยิ้มระรื่นพร้อมเอ่ย ชูหนังสือพิมพ์ในมือขึ้น 


 


 


           “เธอเห็นแล้วล่ะสิ” ถังถังเอ่ยถาม ยิ้มจนดวงตาโก่งงอจนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยวแล้ว 


 


 


           “เห็นแล้วสิ เมื่อคืนถ้าหากฉันปฏิกิริยาไม่เร็วนะ ฉันก็คงเป็นหัวข้อการสนทนาของวันนี้ไปแล้ว” ฉู่เจียเสวียนยิ้ม เอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ 


 


 


           “ว่าไงนะ? คนเลวนั่นคิดจะทำร้ายเธอเหรอ” ถังถังกล่าวอย่างประหลาดใจ เอ่ยถามพร้อมมองดูฉู่อีอีที่ใบหน้าซีดขาวและยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกในภาพถ่าย 


 


 


           เงยหน้าขึ้นมาเห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้า ความโกรธปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอจากนั้นก็ตามมาด้วยรอยยิ้ม 


 


 


           ทำชั่วได้ชั่วจริงๆ ฉู่อีอีคิดจะทำร้ายคนแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายตัวเองกลับได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ 


 


 


           “ฉันว่าคราวนี้ฉู่อีอีต้องโมโหตายแน่ๆ” ถังถังเอ่ยปากอย่างอารมณ์ดี วางหนังสือพิมพ์ในมือลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูพาดหัวข่าว เมื่อเห็นเนื้อหาในส่วนแสดงความคิดเห็นแล้ว ดวงตายิ่งโก่งยิ้มกว่าเดิม 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนมองดูถังถังที่เพลิดเพลินกับตัวเองอยู่ตรงนั้นแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานออกแบบของตัวเอง เธอไม่มีกะใจจะไปสนใจเรื่องพวกนี้ 


ตอนที่ 286 ล้างมนทินให้ตัวเอง 


 


 


           ในขณะที่ฉู่อีอีกำลังอยู่ระหว่างการดิ้นรนต่อสู้อยู่นั้น เธอได้จัดงานแถลงข่าว และต้องการใช้โอกาสนี้นำภาพลักษณ์ของตัวเองกลับมา 


 


 


           ด้านล่างเวที นักข่าวถือกล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกภาพฉู่อีอีที่อยู่บนเวที 


 


 


           กำลังดูถ่ายทอดสด ฉู่เจียเสวียนสองมือเท้าคางมองฉู่อีอีที่น่าสงสารในกล้อง ริมฝีปากแดงยกยิ้ม 


 


 


           เธอยังคงมีลูกเล่นแพราวพราวจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะจัดงานแถลงข่าวในเวลานี้ 


 


 


           ในคลิป ฉู่อีอีสวมชุดเดรสสีขาวทั้งชุด ผมยาวลอนใหญ่ปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง ในมือถือไมโครโฟน ตอบคำถามของบรรดานักข่าวทีละข้อ เธอที่อยู่ในคลิปอารมณ์ดีเหลือเกิน 


 


 


           “คุณฉู่ครับ ขอถามหน่อยตอนอยู่ในงานคุณตั้งใจล้มเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า” 


 


 


           “คุณฉู่คะ คุณมีอะไรอยากจะพูดถึงเรื่องคืนนั้นไหมคะ” 


 


 


           เมื่อได้ยินคำถามของนักข่าว ริมฝีปากแดงของฉู่อีอียกยิ้ม “ที่จริงคืนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจล้มค่ะ ฉันก็แค่อยากเดินไปทักทายคุณฉู่ก็เท่านั้นเอง” 


 


 


           “อ๋อ? คุณฉู่ ความหมายของคุณคือมีเรื่องดราม่ากันเหรอครับ” นักข่าวยังไงก็เป็นนักข่าว แม้แต่คำถามก็ถามอย่างเฉียบคมขนาดนั้น 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำตอบของฉู่อีอีแล้ว คิ้วขมวดกัน 


 


 


           “จะไปมีดราม่าได้ยังไง ตอนนั้นก็แค่ไม่ระวังล้มลงไปต่อหน้าเขา เพราะฉันซุ่มซ่ามเอง” ฉู่อีอีหัวเราะไม่หยุดพลางตอบคำถามของนักข่าว 


 


 


           “ไม่ระวัง? คุณฉู่คะ ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าคุณกับคุณฉู่เจียเสวียนไม่ถูกกัน เขาคงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณหรอกนะคะ?” 


 


 


           “หา…” 


 


 


           “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ไม่ได้ตั้งใจ…ไม่ค่ะ ไม่ใช่เขาแน่นอน” ฉู่อีอีเอ่ยปากโต้แย้ง แต่ว่ายิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งเหมือนกวนน้ำให้ขุ่น 


 


 


           เพียงชั่วเวลาหนึ่ง ฉู่อีอีล้างมนทินให้ตัวเองได้สำเร็จ แต่ฉู่เจียเสวียนกลายเป็นคนที่ต้องต่อสู้ซะแล้ว 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนดูการถ่ายทอดสดตลอด จนกระทั่งงานแถลงข่าวจบลง เธอยังคงอยู่ในท่าเดิม ฉู่อีอี เธอเล่นได้ดีจริงๆ 


 


 


           เงียบสงบได้เพียงไม่กี่นาที โทรศัพท์มือถือของฉู่เจียเสวียนราวกับว่ากำลังจะระเบิด ในตอนแรกก็ยังรับสองสายด้วยความอดทน แต่ว่ายิ่งมาถึงช่วงสุดท้าย สายยิ่งเข้ามามาก เธอจึงปิดเครื่อง 


 


 


           ฉู่อีอีเป็นเหมือนเทพธิดาในใจของแฟนคลับเพศชาย คือภาพลักษณ์ของสาวงาม ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าเธอถูกทำร้ายเช่นนี้ เพียงพริบตาเดียวฉู่อีอีก็กลายเป็นที่ปกป้องของแฟนคลับ 


 


 


           หลังจากถังถังดูคลิปจนจบแล้ว ก็รีบโทรไปหาฉู่เจียเสวียน เมื่อพบว่าฉู่เจียเสวียนปิดมือถือไปแล้ว เธอก็โทรไปหาพนักงานที่ร้าน รู้ว่าฉู่เจียเสวียนอยู่ที่บริษัท เธอก็รีบขับรถไปที่ร้านชุดแต่งงานทันที 


 


 


           ยังไม่ทันเข้าไปร้านชุดแต่งงาน ถังถังก็เห็นว่าหน้าประตูร้านเต็มไปด้วยนักข่าวแล้ว เธอโมโหจนสบถออกมา 


 


 


           หลังจากลงจากรถ ถังถังก็เข้าทางประตูด้านหลังร้านเช่าชุดแต่งงานทันที 


 


 


           “เจียเสวียน เธอไม่เป็นไรนะ?” เพิ่งเข้าถึงออฟฟิศ ก็เห็นฉู่เจียเสวียนยังมีกะจิตกะใจที่จะทำงาน อดไม่ได้ที่จะสงสัย 


 


 


           เงยหน้าขึ้น ฉู่เจียเสวียนยิ้มพร้อมเอ่ย “ฉันจะเป็นอะไรได้” เธอกลายเป็นหญิงใจร้ายในสายตาคนอื่นไปแล้วไม่ใช่เหรอ 


 


 


           ผ่านไปสักพักหนึ่ง จึงได้ยินเสียงถังถังดังขึ้น “ไม่เป็นไรจริงเหรอ” 


 


 


           เห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้า ถังถังจึงถอนหายใจโล่งอก 


 


 


           “ยัยฉู่อีอีนั่นน่ากลัวจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะเอาตัวรอดได้ง่ายแบบนี้ เธอไม่รู้หรอกว่าเวลาแค่ไม่กี่วินาที ยอดวิวของคลิปนั่นมีเป็นหมื่นแล้วนะ อีกอย่าง พวกคอมเม้นก็วิจารณ์เธอในทางที่ไม่ดีทั้งนั้น…ต้องโทษฉู่อีอีนั่น คนเลว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องก็ไม่เยอะแบบนี้หรอก!” 


 


 


 


 


 


      ตอนที่ 287 ฉันจะปกป้องเธอ 


 


 


           ได้ยินเสียงด่าของถังถัง ฉู่เจียเสวียนหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งดวงตาก็สดใส เธอไม่ใช่ดาราเหมือนฉู่อีอี ไม่ชอบเผยตัวเองในที่สาธาณะ 


 


 


           “ถังถัง เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจ ยกให้ฉันจัดการเถอะ” แววตาของฉู่เจียเสวียนเผยความแน่วแน่ เรื่องนี้เธอจะจัดการได้อย่างแน่นอน 


 


 


           “พวกเราเป็นเพื่อนสนิทเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เรื่องนี้ฉันจะไม่สนได้ยังไง วางใจเถอะ พวกเราจะต้องหาทางได้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นพิสูจน์ได้แล้วว่าเธอบริสุทธิ์ แล้วค่อยตบหน้าผู้หญิงเลวนั่น” ถังถังเอ่ยปากด้วยความโมโห 


 


 


           เห็นเพื่อนสนิทเดือดร้อนแทนตัวเอง ฉู่เจียเสวียนหัวเราะ ในใจเปี่ยมด้วยความอบอุ่น 


 


 


           “ถังถัง เธอโทรไปหาจวิ้นฉือ บอกให้เขามาที่บ้านฉันคืนนี้ พวกเราจะปรึกษากันหาทางแก้ ฉันปิดมือถือแล้ว หนวกหูจะตาย” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะพร้อมกับพูด บนใบหน้าไม่มีความตื่นตระหนกเลย 


 


 


           ถังถังพยักหน้า หลังจากวางสายแล้ว เธอขมวดคิ้ว เรื่องที่เธอกังวลมากกว่าในตอนนี้ก็คือ พวกเธอจะออกไปจากร้านเช่าชุดได้อย่างไร 


 


 


           ตอนนี้ข้างนอกถูกห้อมล้อมไปด้วยนักข่าว ไม่สามารถออกไปทางประตูใหญ่ได้แน่นอน หรือว่าประตูหลัง? นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ยังไม่มีคนล้อมที่ประตูหลัง ไม่รู้ว่าตอนนี้นักข่าวจะปิดทางนั้นไว้แล้วหรือเปล่า 


 


 


           ต้องจำไว้ว่า เพื่อให้ได้ข่าวเป็นคนแรกพวกนักข่าวไม่ทางปล่อยโอกาสใดๆ ไปอย่างแน่นอน 


 


 


           “เจียเสวียน พวกเราจะออกไปยังไง” คิ้วยับย่น ถังถังถามด้วยสีหน้าจริงจัง 


 


 


           “ประตูหลังมีคนเฝ้าไว้หรือเปล่า” ไม่ต้องเดาฉู่เจียเสวียนก็รู้ว่าป่านนี้ประตูหลักถูกคนห้อมล้อมไว้หมดแล้ว ส่วนประตูหลังนั้นยังไม่รู้ แต่เธอคาดว่าต้องมีคนอยู่แน่นอน 


 


 


           ถังถังไม่พูดไม่จา ลากฉู่เจียเสวียนไปยังประตูหลังอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะถึงประตู ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอกไม่หยุดหย่อน “ฉู่เจียเสวียน แกมันผู้หญิงหน้าไม่อาย ออกมานะ” 


 


 


           “ฉู่เจียเสวียน คนใจร้าย!!” 


 


 


“……” 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนกับถังถังหยุดเดินทันที ทั้งสองคนมองหน้ากัน พระเจ้า คนพวกนี้บ้าไปแล้วหรือไงนะ 


 


 


           หันหลังไปอีกทาง แล้วกลับไปนั่งในออฟฟิศ 


 


 


           ถังถังเดินไปเดินมาอยู่ในออฟฟิศ ฉู่เจียเสวียนมองถังถังที่เดินไปเดินมา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัว ลุกขึ้นเรียกผู้จัดการร้านเสี่ยวลี่เข้ามา “ข้างนอกสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” 


 


 


           “พี่เจียเสวียน พวกนักข่าวยังอยู่ข้างนอก อีกอย่าง ข้างนอกยังมีแฟนคลับกลุ่มใหญ่มารวมตัวกันด้วย…” 


 


 


           “พอแล้ว ฉันรู้แล้ว เธอไปทำงานก่อนเถอะ” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า พูดกับผู้จัดการร้านเสี่ยวลี่ 


 


 


           การซ่อนตัวแบบนี้ไม่ใช่ทางออก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นออกไปสู้กันยังจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาเฝ้าอยู่ข้างนอกทั้งคืนล่ะก็ เธอก็ซ่อนตัวอยู่ในนี้ทั้งคืนงั้นเหรอ เรื่องจะต้องได้รับการแก้ไข 


 


 


           ครุ่นคิด ฉู่เจียเสวียนก้าวเท้าเดินออกไปจากออฟฟิศ เพียงแต่ยังเดินไม่ทันไร ก็ถูกถังถังคว้ามือเอาไว้ 


 


 


           “ที่รัก เธอจะไปไหน” ถังถังเอ่ยปากร้อนรน 


 


 


           “ฉันจะออกไปดู เราจะซ่อนอยู่ที่นี่ตลอดไม่กลับบ้านไม่ได้หรอกนะ” 


 


 


           “แต่ว่าข้างนอกยังมีพวกนักข่าวกับแฟนคลับของฉู่อีอีเยอะแบบนั้น ถ้าทำร้ายเธอเข้าจะทำยังไง” ถังถังกล่าวอย่างเป็นห่วง 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนกุมมือของถังถัง พูดกับเธอ “ฉันไม่กลัว ฉันเชื่อว่าคนดีผีคุ้ม ฉันออกไปก่อน รอจนพวกเขาไปแล้ว เธอค่อยออกมาเถอะ” 


 


 


           “พูดอะไรน่ะ ฉันจะออกไปกับเธอ ฉันจะปกป้องเธอเอง” 


 


 


           ถังถังเอ่ยปากพูด มองฉู่เจียเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง 


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า สูดหายใจลึก หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปข้างนอก เพิ่งจะออกไป พวกนักข่าวกับแฟนคลับพวกนั้นก็รุมตอมเธอเหมือนผึ้ง นักข่าวจำนวนหนึ่งถ่ายรูปเธอไม่หยุด 


  ตอนที่ 288 คุณต้องเชื่อผม


 


 


           ฉู่เจียเสวียนยกมือขึ้นปิดหน้าตามสัญชาตญาณ และถังถังก็กั้นคนจากด้านหน้าของเธอ “หยุดถ่ายได้แล้ว หยุดถ่ายได้แล้ว พวกคุณรีบกลับบ้านไปซะ”


 


 


           แต่ว่านักข่าวกับแฟนคลับเหล่านั้นไม่ฟังคำของถังถังเลย ยังคงถ่ายเธอไม่หยุด


 


 


           “คุณฉู่ ขอถามหน่อยครับคุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนอยู่ภายใต้การปกป้องของถังถัง เดินไปข้างหน้า ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ของเขา


 


 


           “ฉู่เจียเสวียน แกนังตัวดี กล้ายังไงทำให้นางฟ้าของฉันต้องอับอาย!”


 


 


           พูดจบ คนนั้นก็ปาไข่ไก่ฟองหนึ่งมาที่ฉู่เจียเสวียน ไข่ฟองนั้นตกลงด้านหน้าของฉู่เจียเสวียนอย่างเฉียดฉิว โชคดีที่ไม่โดนตัวเธอ


 


 


           ถังถังมองพร้อมบล็อคอยู่ด้านหน้าของฉู่เจียเสวียน “เธอไม่เป็นไรนะ?”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนส่ายหัว ยังไม่ทันได้หายใจ แฟนคลับของฉู่อีอีก็ปาไข่ไก่มาที่ฉู่เจียเสวียน


 


 


           ยังไม่ทันได้ตอบสนอง จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็โผเข้าสู่อ้อมกอดที่อบอุ่นของคนคนหนึ่ง ได้ยินเพียงเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้น “เจียเสวียน คุณไม่เป็นไรนะ?”


 


 


           มองคนนั้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของฉู่เจียเสวียนร้อนผ่าว “คุณมาได้ยังไง”


 


 


           เธอฝากถังถังให้บอกเขาว่าให้ไปรอเธอที่บ้านเธอไม่ใช่หรอกเหรอ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง


 


 


           “ผมไม่วางใจคุณ รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่บ้านแน่ๆ ผมก็เลยมาที่ร้านเช่าชุดเลย” ได้ยินน้ำเสียงเป็นห่วงของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนรู้สึกซาบซึ้งใจ


 


 


           ทันทีที่กงจวิ้นฉือมา ไข่ไก่ที่ปาใส่ฉู่เจียเสวียนในตอนแรกก็ตกลงบนตัวของกงจวิ้นฉือทันที เพราะว่าเขาบังตัวอยู่ด้านหน้าฉู่เจียเสวียน


 


 


           มองดูกงจวิ้นฉือตรงหน้าที่เดินทางมาเพื่อบังลมบังฝนแทนเธอ ในใจของฉู่เจียเสวียนรู้สึกซาบซึ้งเหลือคณานับ


 


 


           “คุณไม่น่ามาเลย” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วเอ่ย ดวงตาที่มองกงจวิ้นฉือเผยให้เห็นความกังวลใจ


 


 


           “คุณป้าเป็นห่วงคุณมาก โทรหาคุณก็ไม่ติด” กงจวิ้นฉือกล่าว มองฉู่เจียเสวียนพร้อมกับพูด


 


 


           อา เธอปิดมือถือแล้ว ลืมบอกแม่ว่าปลอดภัยดี ครั้งนี้เธอคงจะร้อนใจแย่แล้วมั้ง


 


 


           หลังจากกงจวิ้นฉือมาแล้วก็พาฉู่เจียเสวียนฝ่าฝูงชนออกไปทันที และเมื่อเขาออกไปก็มีรถสีดำรออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว


 


 


           หลังจากออกมาแล้ว กงจวิ้นฉือเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วและให้ฉู่เจียเสวียนกับถังถังขึ้นไป จากนั้นเขาจึงขึ้นรถ


 


 


           เมื่อขึ้นรถแล้ว ทั้งสองคนจึงถอนหายใจโล่งอก


 


 


           ฉู่เจียเสวียนมองดูถังถังกับกงจวิ้นฉือที่เลอะไข่ไก่ทั้งตัว ในใจก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาสองคน คาดว่าเธอก็คงจมกองไข่ไก่พวกนั้นไปแล้ว


 


 


           หลังจากกลับมาถึงวิลล่า ทั้งสามคนนั่งลงที่ห้องรับแขก เมื่อซูซานซานออกมาแล้วเห็นทั้งสามคนในสภาพสะบักสะบอมนั้น ความกังวลก็ผุดขึ้นในดวงตา


 


 


           “พวกเธอไปอาบน้ำกันก่อนดีไหม” ซูซานซานเอ่ยปาก มองดูทั้งสามคนพร้อมกล่าวแนะนำ


 


 


           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า หลังจากหาเสื้อผ้าที่สะอาดให้ถังถังและกงจวิ้นฉือแล้ว ก็ปล่อยให้พวกเขาไปอาบน้ำ ส่วนตัวเธอนั้นสะอาดสะอ้าน เพราะเธอได้รับการปกป้องจากกงจวิ้นฉือตลอดเวลา


 


 


           หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกครุ่นคิดหาทางออก


 


 


           “ผมมีวิธีแล้ว” จู่ๆ กงจวิ้นฉือโพล่งขึ้นมา แววตามีรอยยิ้ม


 


 


           “วิธีอะไร” ทันทีที่ถังถังผู้ใจร้อนได้ยินว่ากงจวิ้นฉือมีวิธีแล้ว เอ่ยถามทันที จ้องเขาตาไม่กระพริบ


 


 


           ได้ยินน้ำเสียงที่ตื่นเต้นของถังถัง ฉู่เจียเสวียนหัวเราะ สายตาก็มองกงจวิ้นฉือ เขาคิดวิธีออกได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ


 


 


           “คุณมีวิธีจริงเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม สายตาที่มองเขามีความข้องใจเล็กน้อย


 


 


           “แน่นอน คุณต้องเชื่อผม” เสียงอบอุ่นดัวขึ้น ดวงตาของกงจวิ้นฉือเป็นประกาย


 


 


           ซูซานซานออกมาจากห้องครัว ในมือถือถาด เดินมาหาทั้งสามคนพร้อมเอ่ย “มา พวกเธอดื่มน้ำกินผลไม้กันก่อน”


 


 


 


 


 


ตอนที่ 289 สงครามแห่งเกียรติยศ


 


 


วางผลไม้และน้ำชาในถาดลงบนโต๊ะกาแฟ ซูซานซานนั่งลงบนโซฟา


 


 


           เมื่อได้ยินว่ากงจวิ้นฉือมีวิธี ก็เงยหน้ามองเขาเช่นกัน


 


 


           “เจียเสวียน ยังจำวีดีโอที่ถ่ายก่อนหน้านี้ได้ไหม” กงจวิ้นฉือเอ่ยถาม ดวงตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม


 


 


           วีดีโอ? ความสงสัยปรากฏอยู่ในดวงตาของฉู่เจียเสวียน ถังถังได้ยินแล้วก็มองเธออย่างสงสัยเช่นกัน


 


 


           ฉู่เจียเสวียนถ่ายวีดีโออะไรตั้งแต่เมื่อไรกัน


 


 


           เมื่อเห็นแววตาไม่เข้าใจของทั้งสองคน กงจวิ้นฉือเอ่ยปากสบายๆ “ตอนที่คุณเป็นอาสาสมัครในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณทำหน้าที่เป็นทูตส่งเสริมไม่ใช่เหรอ”


 


 


           กงจวิ้นกล่าวเตือนสติถึงตอนที่ฉู่เจียเสวียนเป็นอาสาสมัครในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนที่เพิ่งกลับมาใหม่ๆ ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นทูตเท่านั้น แต่ยังบริจาคเลือดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรให้กับเด็กที่ต้องการเลือดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณฉู่เจียเสวียน ครูใหญ่ยังตั้งใจบันทึกวีดีโอให้กับเธออีกด้วย


 


 


           เมื่อกงจวิ้นฉือพูดเช่นนี้ ถังถังกับฉู่เจียเสวียนนึกออกทันที เธอคลับคล้ายคลับคลาว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น


 


 


           “ใช่แล้ว ตอนนั้นฉู่เจียเสวียนถูกถ่ายวีดีโอไว้จริงๆ แต่ว่าวีดีโอนั่นลบไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เธอจำได้ว่าตอนนั้นเมื่อฉู่เจียเสวียนรู้ว่ามีวีดีโอนี้อยู่ ก็ลบมันทิ้งไปแล้ว ตอนนี้จะไปหาที่ไหนล่ะ


 


 


           กงจวิ้นฉือได้ยินคำพูดของถังถัง มุมปากยกยิ้มแล้ว “ส่วนของเขาลบไปแล้ว แต่ผมมีข้อมูลสำรอง”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจ มองกงจวิ้นฉืออย่างเหลือเชื่อ เขาแอบเก็บตัวสำรองไว้งั้นเหรอ


 


 


           “จริงเหรอ ถ้าหากมีวีดีโอนั่นล่ะก็ งั้นภาพพจน์ของฉู่เจียเสวียนจะต้องดีขึ้นแน่นอน!” สำหรับฉู่อีอีแล้ว หากวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เช่นนั้นก็เป็นการตบหน้าเธอโดยตรง!


 


 


           คนที่เต็มใจบริจาคเลือดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรให้แม้แต่คนแปลกหน้า มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายคนอื่น การบริจาคเลือดธรรมดาก็แค่สองร้อยมิลลิมิตรเท่านั้น


 


 


           ผู้ชายปกติคนหนึ่งอาจไม่เต็มใจบริจาคเลือดถึงสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรด้วยซ้ำ!


 


 


           “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง” ดวงตาฉู่เจียเสวียนเผยความลังเล เธอไม่อยากกลายเป็นเป้าหมายการสนทนาของคนอื่น


 


 


           ถังถังได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน อดไม่ได้ที่จะมองค้อนเธอ “มีอะไรไม่ดี หรือว่าเธออยากให้ฉู่อีอีอวดเก่งแบบนี้ต่อไปเหรอ จะบอกให้นะว่าพวกเราจะมีธุรกิจที่ต้องทำ จะปล่อยให้นักข่าวกับแฟนคลับสมองเพี้ยนพวกนั้นเฝ้าประตูตลอดไม่ได้หรอกนะ”


 


 


           “อีกอย่าง ถ้าร้านเช่าชุดแต่งงานของพวกเราทำได้ไม่ดีก็จะให้เธอเข้าสู่สงครามเพื่อเกียรติยศ ธุรกิจจะได้ดีขึ้น”


 


 


           กงจวิ้นฉือหัวเราะเบาๆ มองถังถังพร้อมเอ่ยปาก “ถูกต้อง ข่าวในวงการบันเทิงแม้ว่าจะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ข่าวนี้เป็นไปได้อาจจะใช้เวลาสองปีกว่าที่คนจะลืมกัน ตอนนี้ชื่อเสียงของคุณก็ได้รับผลกระทบแล้ว คุณเดินมาถึงวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย หรือว่าคุณอยากจะยอมแพ้ไปแบบนี้เหรอ”


 


 


           คำพูดของกงจวิ้นฉือกับถังถังทำให้ฉู่เจียเสวียนจมดิ่งอยู่ในความคิด


 


 


ถังถังเห็นดังนี้ก็เอ่ยปากพูดต่อ “นั่นสิ ที่รัก พวกเรายังมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่นะ”


 


 


           ในที่สุดฉู่เจียเสวียนก็ใจอ่อน พยักหน้า ตอนนี้นอกจากวิธีนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว


 


 


           ถังถังเห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้าตกลง รู้สึกดีใจ มองตากับกงจวิ้นฉือ


 


 


           “งั้นผมจะให้ผู้ช่วยปล่อยวีดีโอนี้ออกไป” กงจวิ้นฉือพูดจบ หยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดโทรออก


 


 


           “งั้นระหว่างนี้ฉันจะคอยดูข่าวในอินเทอร์เน็ต คอยรายงานพวกเธอว่ามีข่าวอะไรที่มีประโยชน์หรือเปล่า”


 


 


           ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของทั้งสองคน มองดูทั้งสองคนที่เริ่มยุ่ง ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้มแล้ว ซูซานซานนั่งข้างฉู่เจียเสวียนตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้พูดอะไรเลย


 


 


               หลังจากได้ยินว่าพวกเขาหาวิธีกันได้แล้ว คิ้วที่ขมวดกันในตอนแรกจึงผ่อนคลายลงมาบ้าง

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม