หวนแค้นชะตารัก 270-277
ตอนที่ 270 ได้ยาถอนพิษ
เผยปิงปิงหยิบงูดำตัวน้อยขึ้นมาจากพื้นหญ้า กระทืบเท้าด้วยความโกรธ “กู้เฉินหรงคนนี้ ทำเกินไปจริงๆ ถือน้องสาวเป็นแก้วตาดวงใจ ข้าเป็นคู่หมั้นไม่ใช่หรือ”
เป่าเหลียนสาวใช้ซึ่งอยู่ข้างหลังพูดเตือน “คุณหนู บ่าวรู้สึกว่าคุณชายกู้ไม่ได้รักคุณหนูแบบหนุ่มสาว ถ้าคุณหนูแต่งกับคุณชายกู้จริงๆ เกรงว่าต่อไปเขาคงไม่ใส่ใจคุณหนู”
“เขาหรือจะกล้า”
เผยปิงปิงถอนหายใจ
“คุณชายกู้มีวรยุทธ์สูงส่ง ไม่กลัวของรักที่คุณหนูเลี้ยง เรื่องการแต่งงาน บ่าวว่าคุณหนูต้องคิดให้ดี”
เผยปิงปิงลูบงูดำตัวน้อยพลางถอนหายใจเบาๆ “ข้ารู้ว่าเขาไม่มีใจให้ข้า แต่เขาเป็นคนที่เหมาะจะเป็นสามีข้าจริงๆ ถ้าปล่อยเขาไป ไม่รู้ว่าพ่อจะให้ข้าแต่งงานกับใครก็ไม่รู้
เจ้าดูสิหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานนอกจากพี่ชายสองคนแล้ว ยังมีใครที่พอใช้ได้บ้าง แต่ละคนไม่เอาไหนเลย แม้แต่ตัวอำเภอใกล้เขา คุณชายผู้ดีพวกนั้นมีใครบ้างที่พอจะเทียบกู้เฉินหรงได้”
“บ่าวรู้สึกว่าคุณชายกู้อีกคนก็ไม่เลวนะเจ้าคะ หน้าตาท่าทางไม่แพ้คุณชายกู้คนน้อง”
เผยปิงปิงครุ่นคิด “พูดอย่างนี้ก็ถูก กู้หลียวนฉลาดคล่องแคล่ว ดวงตามีชีวิตชีวา ข้าไม่กล้ามองหน้าเขา ทั้งสองมาจากเมืองหลวง คุณชายตระกูลสูงโดดเด่นคนนี้คงได้ใกล้ชิดฮ่องเต้ เป่าเหลียน เจ้าก็หลงกู้หลียวนใช่ไหม!”
คำพูดนี้ทำให้เป่าเหลียนตกใจรีบสั่นหัว “บ่าวหรือจะบังอาจคิดเหลวไหล คุณหนูอย่ายุบ่าวอย่างนี้”
เผยปิงปิงหัวเราะ “เราไปหากู้หลียวนเถอะ ว่าไปแล้วกู้หลียวนน่าสนใจกว่ากู้เฉินหรง”
พอซูจิ่วซือได้ดอกหลานกู่ฮวาจากกู้เฉินหรง ก็ให้คนเอาไปให้เผยไป๋ชวน หลังจากฟ้ามืด เผยไป๋ชวนก็ให้คนเอาขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวมาส่ง ในนั้นบรรจุยาแก้พิษยาตัดดวงจิต
พอได้รับยาแก้พิษ ซูจิ่วซือเตรียมจะเอาไปให้กู้เฉินหรง นางไม่อยากให้เสียเวลาแม้แต่น้อย ขณะที่เดินไปถึงหน้าประตู จู่ๆ ก็มีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามา
นางอายุประมาณสี่สิบกว่า มีสาวใช้อีกหลายคนตามมาข้างหลัง นางสวมชุดสีเขียวอ่อนทั้งตัว ท่าทางสุภาพ รูปร่างค่อนข้างผอมบาง แม้ทาแป้ง แต่ไม่อาจปกปิดความหม่นหมอง ดูลักษณะเหมือนเป็นคนป่วยเรื้อรัง เห็นแต่ไกลแวบเดียว ซูจิ่วซือก็คาดเดาฐานะของนางได้ เป็นนางเว่ยภรรยาของเผยไป๋ชวนแน่นอน
สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังชูโคมสีแดง พอเดินมาถึงเรือน นางเว่ยก็ให้สาวใช้รออยู่ข้างนอก ตนเดินเข้าไปหาซูจิ่วซือ
ซูจิ่วซือพยักหน้าให้นางเว่ย ถือเป็นการทักทาย
“แม่นางซูจะออกไปหรือ”
พอเห็นซูจิ่วซือเดินมาที่หน้าประตู นางเว่ยก็ถามขึ้น
“คิดว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ฮูหยินเชิญข้างใน”
นางเว่ยไม่พูดอะไร ตามซูจิ่วซือเข้าไปในห้อง จื่อหลานรินชาให้ นางเว่ยยกชาขึ้นไม่ได้ดื่ม แต่ออกคำสั่ง “เจ้าก็ออกไปเถอะ! ข้ากับคุณหนูของเจ้ามีเรื่องจะคุยกัน”
ซูจิ่วซือพยักหน้า จื่อหลานจึงออกไปจากห้อง แล้วปิดประตู
พอจื่อหลานไปแล้ว นางเว่ยก็จ้องหน้าซูจิ่วซืออย่างไม่เกรงใจ จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้น บนใบหน้ายิ้มแย้มมีความขมขื่นที่ไม่อาจพูดออกมาได้ “เจ้าไม่มีเงาของซูหลิ่วแม้แต่น้อย ได้ยินว่าเจ้าเป็นหลานสาวของซูหลิ่ว เพราะอย่างนี้เอง เขาจึงคิดจะหย่ากับข้ามาแต่งกับเจ้า”
“ฮูหยิน ข้า…” ซูจิ่วซือรู้สึกผิดต่อนางเว่ยมาก นางไม่มีเจตนาจะทำร้ายนางเว่ย ที่รับปากเผยไป๋ชวนก็เพื่อช่วยกู้เฉินหรง ถ้าเรื่องไม่มาถึงขั้นนี้ นางก็ไม่รู้ว่าตนจะยอมทำอย่างนี้เพื่อกู้เฉินหรง
——
ตอนที่ 271 น่าสังเวช
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษข้า ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่ยินยอม เจ้ามาจากเมืองหลวง ได้ยินมาว่าไทเฮายังแต่งตั้งเจ้าเป็นองค์หญิง ได้เป็นที่โปรดปรานของไทเฮา ย่อมมีความสามารถอยู่บ้าง
เขากุยอวิ๋นซานตัดขาดจากโลกภายนอก แม้การกินอยู่ไม่ขัดสน แต่เจ้าจะชอบตาแก่ไป๋ชวนคนนี้ได้อย่างไร ข้ารู้ว่าไป๋ชวนบังคับเจ้า เขาคงกุมจุดอ่อนบางอย่างของเจ้าได้ ทำให้เจ้าจำเป็นต้องยอมเขา”
แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างคนทั้งสอง แต่นางเว่ยก็มั่นใจในการคาดเดาของตน
ไม่ใช่เพราะซูจิ่วซือยั่วยวนเผยไป๋ชวน แต่เป็นเพราะเผยไป๋ชวนบังคับซูจิ่วซือให้แต่งงานด้วย นางมาหาซูจิ่วซือก็เพราะอยากดูว่าหน้าตาของซูจิ่วซือเป็นอย่างไร เหมือนซูหลิ่วหรือไม่
นางเว่ยไม่เคยเห็นซูหลิ่ว แต่เคยเห็นภาพวาดใบหน้าของซูหลิ่วที่ห้องหนังสือของเผยไป๋ชวน หน้าตาของซูหลิ่วจึงอยู่ในสมองของนางนานแล้ว รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เผยไป๋ชวนรักมาตลอดชีวิต
และเป็นฝันร้ายที่นางสลัดไม่พ้น
“ฮูหยิน ข้าไม่มีวันแต่งงานกับจ้าวหุบเผยแน่”
“เกรงว่าเจ้าจะไม่มีทางเลือก เจ้าไม่รู้ว่าไป๋ชวนเป็นคนอย่างไร เขาต้องการอะไรไม่มีใครห้ามเขาได้ ข้ามาหาเจ้าไม่ใช่จะกล่าวโทษเจ้า และไม่ต้องการรบกวนเจ้า เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าความเป็นผัวเมียกันหลายปียังสู้ผู้หญิงที่ตายไปไม่ได้ แม้แต่หลานสาวของนางเขาก็ไม่ยอมปล่อย”
นางเว่ยพูดน้ำเสียงขมขื่น พร้อมกับดวงตาที่ฉายแววอ่อนล้า “ป้าของเจ้าแม้จากโลกไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในใจของไป๋ชวนตลอดเวลา”
ซูจิ่วซือนึกไม่ถึงว่านางเว่ยจะพูดอย่างนี้ เดิมทีนางคิดว่านางเว่ยจะมาหาเรื่องนาง แต่นางเว่ยกลับไม่ได้โทษนาง เวลาผ่านไปหลายปี เผยไป๋ชวนยังไม่ลืมเรื่องราวในอดีต
“ข้าทำให้ฮูหยินลำบากใจโดยไม่ได้เจตนา ขออภัยด้วย”
“แม่หนู เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าอายุน้อยกว่าลูกชายของข้าด้วยซ้ำ ไป๋ชวนก็บ้าไปแล้ว ซูหลิ่วเป็นปมในใจของเขา ข้าเองไม่คิดจะแย่งชิงอะไรกับซูหลิ่ว วันหลังข้าจะดูแลแม่นางอย่างดี”
ซูจิ่วซือมองนางเว่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ฮูหยินหมายความว่ายินยอมตามที่จ้าวหุบเผยจัดการหรือ”
“ไม่ยินยอมแล้วจะทำอย่างไรได้ เขามีแต่เชื่อตัวเองเท่านั้น หลายปีมานี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ข้าไม่เคยปฏิเสธแม้แต่คำเดียว นี่เป็นความปรารถนาของเขา ข้าจะช่วยให้เขาสมปรารถนา แม่นาง ในเมื่อเจ้ารับปากเขาแล้ว ก็ต้องรักษาคำสัญญา ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ จะถือเจ้าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง”
ซูจิ่วซือรู้สึกขำ เป็นความจริงที่ว่า นางเว่ยรักเผยไป๋ชวนมาก แต่นึกไม่ถึงว่านางเว่ยจะยึดมั่นถึงขั้นนี้
“ฮูหยิน ฮูหยินบอกว่าจ้าวหุบเผยบ้าไปแล้ว ที่ฮูหยินทำแบบนี้ก็ไม่บ้าหรือ ข้าถูกจ้าวหุบเผยบังคับ จึงจำเป็นต้องรับปาก ไม่ใช่ความต้องการของข้า เรื่องในอดีตก็ผ่านไปแล้ว คนเราควรจะเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ฮูหยินฝืนใจทำอย่างนี้ ในใจมีความสุขจริงหรือ”
“เจ้าไม่เหมือนเด็กสาวคนอื่นถึงคิดได้อย่างนี้ ถ้าข้ารับปากเรื่องนี้ยังทำให้เขารู้สึกละอายใจอยู่บ้าง แต่ถ้าปฏิเสธ เขาก็ยังจะแต่งงานกับเจ้า ความเป็นผัวเมียกันระหว่างข้ากับเขาก็จะหายไปทันที
เพื่อรั้งเผยไป๋ชวนไว้ นางเว่ยแม้ไม่สบายใจอย่างมาก แต่ก็ยอมรับการจัดการของเผยไป๋ชวน ตลอดยี่สิบปีกว่ามานี้ นางคุ้นเคยกับการเชื่อฟังและอุทิศตน เผยไป๋ชวนบอกอย่างไร นางไม่เคยปฏิเสธ เป็นอย่างนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“ฮูหยินจะทำอะไร”
ซูจิ่วซือรู้สึกว่านางเว่ยน่าสังเวช เมื่อก่อนซูจิ่วซือเคยเปลี่ยนตัวเองไปไม่น้อยเพื่อกู้เหยี่ยน แต่ยังคงรักษาความเป็นตัวเองและมีขีดจำกัด แต่นางเว่ยไม่มีขีดจำกัดแม้แต่น้อย
ตอนที่ 272 บีบให้ใส่ชุดแต่งงาน
“เข้ามา เอาของมาด้วย”
นางเว่ยออกคำสั่ง สาวใช้ข้างนอกเดินเข้ามา ในมือถือถาดใส่ชุดแต่งงานสีแดงพับเรียบร้อยเป็นพิเศษ
สาวใช้ที่ตามหลังมาถือเครื่องประดับ ทั้งหมดเป็นของที่ใช้ในงานแต่งงาน
“ชุดแต่งงานนี้ไป๋ชวนเตรียมไว้เรียบร้อยเมื่อหลายปีก่อน ข้าเคยคิดว่าเขาเตรียมไว้ให้ข้า ต่อมาจึงรู้ว่าเป็นชุดให้ซูหลิ่ว เวลานี้เจ้าใส่แทนป้าของเจ้าแต่งงานกับไป๋ชวน เครื่องประดับพวกนี้ข้าเป็นคนเลือกให้ เจ้าดูให้ดี ถ้าขาดอะไรก็ให้คนไปบอก ข้าจะรีบส่งมาให้”
ซูจิ่วซือนั่งบนม้านั่งไม่ขยับเขยื้อน เผยไป๋ชวนมีภรรยาที่แสนดีอย่างนี้ จึงไม่ต้องคำนึงถึงอะไร เพราะไม่ต้องใส่ใจอะไรทั้งนั้น
“ฮูหยินเอาวางไว้ก็ได้”
“เปลี่ยนชุดเถอะ ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าสวมชุดแต่งงานแล้วเป็นอย่างไร”
นางเว่ยมองซูจิ่วซือ แต่ดวงตาฉายแววไม่ยินยอม ทั้งหมดนี้นางไม่ยินยอม แต่ฝืนตัวเองให้ทำ
ซูจิ่วซือเยือกเย็นเป็นพิเศษ “ฮูหยินดูแล้วจะเป็นอย่างไร มีแต่จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ทำไมต้องบังคับให้ตัวเองดู”
“เข้ามา ใส่ชุดแต่งงานให้คุณหนูซู”
พอเห็นซูจิ่วซือไม่ขยับเขยื้อน นางเว่ยซึ่งพูดเสียงเบามาตลอด จู่ๆ ก็พูดเน้นเสียงขึ้นมาทันที จนเหมือนบ้าไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้สาวใช้ที่อยู่ใกล้ๆ สะดุ้ง รีบเข้าไปเตรียมจะเปลี่ยนชุดให้ซูจิ่วซือ
“พวกเจ้าจะทำอะไรกัน”
จื่อหลานเห็นสาวใช้เข้ามา ก็รีบตวาดทันที
ซูจิ่วซือผุดลุก เดินไปที่ถาดใส่ชุดแต่งงาน หยิบชุดในนั้นโยนลงพื้น “ชุดนี้ข้าไม่มีวันใส่แน่ ฮูหยินเชิญกลับเถอะ! ฮูหยินดีอย่างไรไม่น่าซาบซึ้ง ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากเล่า”
นางเว่ยหยิบชุดแต่งงานขึ้นมาจากพื้น “แม่นางซู ที่นี่เป็นหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ พวกเจ้าทำอะไรอยู่ รีบเปลี่ยนชุดแต่งงานให้คุณหนูซู”
ซูจิ่วซือโกรธขึ้นมาทัน นางเกลียดที่สุดเวลาถูกบังคับให้ทำอะไรที่นางไม่อยากทำ
ดวงตาซูจิ่วซือฉายแววดุดันขึ้นมาแวบหนึ่ง สาวใช้พอเห็นสายตานี้ คนที่เตรียมจะเข้ามาก็ตะลึง แม่นางคนนี้แววตามีอำนาจปานนี้
ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลัก คนที่เข้ามาก็คือเผยปิงปิง นางไปหานางเว่ย ได้ยินว่านางเว่ยมาหาซูจิ่วซือ นางจึงตามมา ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้นางตะลึงงัน เกิดอะไรขึ้นหรือนี่
“ท่านแม่ ท่านมาทำอะไรที่นี่ เอาชุดแต่งงานมาทำอะไร
เผยปิงปิงถามอย่างไม่เข้าใจ
“ปิงปิง เจ้ามาพอดี พ่อเจ้าจะแต่งงาน วันหลังแม่นางซูจะเป็นแม่ของเจ้ากับพี่ เวลาพบแม่นางซูต้องเกรงใจหน่อย อย่าหยาบคายอย่างนี้”
เผยปิงปิงเข้าใจว่าตนหูฝาด ครู่ใหญ่จึงนึกขึ้นได้ “ทำไมพ่อถึงทำอย่างนี้ อายุปูนนี้แล้วยังอยากได้เด็กสาว ท่านพ่อแต่งงานแล้วแม่จะเป็นอย่างไร แล้วนี่ ท่านแม่ เอาชุดแต่งงานมาที่นี่ทำอะไร ท่านคงไม่คิดจะช่วยท่านพ่อจัดงานแต่งครั้งนี้ใช่หรือไม่!”
“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามายุ่งให้มากนัก”
นางเว่ยทำหน้าบึ้ง ไม่คิดจะอธิบายให้เผยปิงปิงฟัง
“ท่านพ่อกับท่านแม่เป็นพ่อแม่ของข้า ข้าไม่ยุ่งได้อย่างไร ท่านพ่อทำเกินไป ท่านแม่ก็โง่เขลา ท่านแม่ทำให้ท่านพ่อหมดทุกอย่างใช่หรือไม่ ท่านพ่อจะแต่งงานใหม่ ท่านก็ช่วยท่านพ่ออย่างหน้าชื่นตาบาน ข้าจะไปคิดบัญชีกับท่านพ่อ ท่านพ่อทำอย่างนี้กับท่านไม่ได้”
เผยปิงปิงนิสัยค่อนข้างใจร้อน เตรียมจะวิ่งออกไป นางเว่ยดึงข้อมือเผยปิงปิงไว้ “อย่าไป ปิงปิง เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”
——
ตอนที่ 273 ไม่รู้จักดิ้นรน
ละครครอบครัวเรื่องนี้ ซูจิ่วซือไม่สนใจ และไม่อยากใส่ใจด้วย นางเว่ยเองต้องการให้เป็นอย่างนี้ ใครก็ช่วยอะไรไม่ได้
นางนึกไม่ถึงว่าเผยไป๋ชวนในอดีตกลายเป็นคนดึงดันปานนี้ แต่ตอนนี้นางคิดแต่จะให้กู้เฉินหรงได้กินยาแก้พิษ จากนั้นค่อยหาทางออกไปจากที่นี่
ตั้งแต่วินาทีที่เผยไป๋ชวนบังคับนาง นางก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับเผยไป๋ชวนจริงๆ นางต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้
เผยปิงปิงผิดหวังในตัวมารดามาก “ท่านพ่ออยากแต่งงานกับนาง แล้วท่านเล่า ท่านแม่ ต่อไปท่านแม่จะเป็นอย่างไร”
“ข้าก็ยังเป็นแม่ของเจ้า ไม่มีวันออกไปจากหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน จะอยู่ที่นี่ไปจนแก่เฒ่า”
นางเว่ยแม้น้ำเสียงสงบ แต่ความรู้สึกไม่ยินยอมในสายตายังคงเผยให้เห็นอย่างชัดเจน นางไม่อาจยอมรับผลที่จะเกิดขึ้น
“ท่านแม่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับแม่นางซู”
ตลอดมาเผยปิงปิงเป็นคนรู้จักคิด นิสัยเหมือนบิดา กับมารดาซึ่งยอมทุกอย่าง ยอมทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองนั้น เผยปิงปิงไม่อาจเข้าใจได้ และรู้สึกโกรธมากที่มารดาไม่รู้จักดิ้นรน
เวลานี้พอเห็นนางเว่ยเอาชุดแต่งงานมาให้ซูจิ่วซือด้วยตัวเอง เผยปิงปิงก็แทบจะระเบิดด้วยความโกรธ นางเว่ยยินยอมให้เป็นอย่างนี้ได้ แต่นางไม่อาจยินยอม นางไม่มีวันปล่อยให้บิดาข่มเหงมารดาตามใจชอบ และไม่มีวันให้คนที่อายุใกล้เคียงกับตนมาเป็นแม่ด้วย
นางเว่ยรู้นิสัยของลูกสาวดี กลัวว่าเผยปิงปิงจะบุ่มบ่ามทำร้ายซูจิ่วซือ พอถึงตอนนั้นอาจจะกระทบความสัมพันธ์ของสองพ่อลูก นางจึงทำหน้าเครียด “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง”
“ท่านแม่ ข้าไม่ได้บอกว่าจะยุ่ง เพียงแต่อยากคุยกับแม่ในอนาคตของข้าสักหน่อย ข้ากับนางอายุพอๆ กัน บางเรื่องท่านคงไม่สะดวกที่จะพูด ท่านแม่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ! วางใจได้ ข้าไม่ทำให้นางลำบากใจหรอก”
นางเว่ยเห็นเผยปิงปิงสงบลง จึงไม่ดึงดัน ขืนทำต่อไป นางเกรงว่าตนจะเสแสร้งต่อไปไม่ไหว เมื่อครู่นางเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
นางเว่ยพาสาวใช้ออกไป เผยปิงปิงเดินมาหาซูจิ่วซือ ดวงตาโตมีชีวิตชีวาคู่นั้นเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “แม่นาง เจ้าคิดไม่ตกเลยหรือ ทั่วแผ่นดินเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถ เจ้าไม่แต่งด้วย กลับจะแต่งกับพ่อข้า พ่อข้าลงหลุมไปครึ่งตัวแล้ว ถ้าเจ้าแต่งกับพ่อข้า ครึ่งหลังของชีวิตจะอยู่อย่างไร ต้องเป็นม่ายไปตลอด”
ซูจิ่วซือนึกไม่ถึงว่าเผยปิงปิงจะพูดถึงพ่อตัวเองอย่างนี้ ดูแล้วความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกไม่ค่อยดีนัก ความจริงแล้วซูจิ่วซือก็ตั้งใจจะเริ่มต้นจากเผยปิงปิงก่อน
แม้นางจะพูดคุยกับเผยปิงปิงไม่กี่คำ แต่ก็รู้สภาพของหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานจากปิงอวิ๋นไม่น้อย
ในบรรดาลูกสามคนของนางเว่ย มีแต่เผยปิงปิงที่รู้จักคิดที่สุด และไม่ใส่ใจแบบแผนที่สุด นางไม่มีวันให้ตนเข้ามาแทนที่แม่ของนางแน่
แต่ยังไม่ทันไปหาเผยปิงปิง นางกลับเข้ามาหาก่อน
“แม่นางเผยมีแผนอะไรหรือ”
เผยปิงปิงหัวเราะร่า “เจ้าเข้าใจสถานการณ์ดีนี่ ดูแล้วเจ้าเองก็ไม่คิดจะแต่งงานกับพ่อข้าจริงๆ”
“ยาแก้พิษของเฉินหรงอยู่ในมือพ่อของเจ้า นี่เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนกับยาแก้พิษ”
“เจ้าดีต่อเฉินหรงจริงๆ ถึงกับเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลกยาแก้พิษ เจ้าสองคนไม่ได้เป็นพี่น้องกันใช่หรือไม่! เมื่อก่อนข้าสงสัย เวลานี้ข้ามั่นใจแล้ว แววตากู้เฉินหรงที่มองเจ้าไม่ปกติ เจ้าทำเพื่อเขาก็ไม่เหมือนน้องสาวทำกับพี่ชาย เจ้าสองคนหลอกข้าเหมือนหลอกลิง”
เผยปิงปิงโกรธจัด นางตบโต๊ะอย่างแรง จู่ๆ ก็มีแมงมุมตัวหนึ่งหล่นจากตัวนางลงมา
ซูจิ่วซือมองแมงมุมแวบหนึ่ง เผยปิงปิงติดนิสัยเอาอสรพิษติดตัว
ตอนที่ 274 นิสัยชอบแย่งของรักคนอื่น
เผยปิงปิงหยิบแมงมุมขึ้นจากโต๊ะ ปล่อยให้มันคลานบนหลังมือ แล้วพูดต่อ “แม้ข้าไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่มีนิสัยชอบแย่งของรักคนอื่น กู้เฉินหรงข้าไม่ต้องการแล้ว ถ้าข้าแต่งงานกับเขาจริงๆ ก็คงเป็นเหมือนแม่ข้าอีกคน
ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาพ่อไม่เคยรักแม่ ในใจพ่อคิดถึงอีกคนหนึ่ง หลายปีมานี้แม่ก้มหน้ายอมรับ ไม่ว่าพ่อพูดอะไร แม่ก็รับปากทุกอย่าง ไม่เคยคำนึงถึงตัวเองว่ายินดีหรือไม่
ข้าดูอยู่ใกล้ๆ ยังร้อนใจแทนท่านแม่เลย ท่านแม่สุขภาพไม่ดี กินยามาตลอด แต่ยาดีแค่ไหนก็รักษาโรคของนางไม่หาย ถ้าพ่อข้าแต่งงานกับเจ้าจริงๆ ชีวิตของแม่ข้าคงไม่เหลือแล้ว
ในฐานะที่เป็นลูกสาว ข้าไม่มีปัญญาจะให้ท่านพ่อเอาท่านแม่ไว้ในใจ แต่ข้าไม่มีวันอนุญาตให้เขาทำให้ท่านแม่ไม่สบายใจอีก ข้าจะหาทางพาเจ้าออกไปจากที่นี่”
คำพูดนี้ทำให้ซูจิ่วซือรู้สึกว่าเผยปิงปิงไม่เหมือนกับที่คิดไว้ นางเข้าใจอะไรมากกว่านางเว่ย พอเห็นนางเว่ยทำอย่างนี้ นางก็คับข้องใจแทนนางเว่ย
“แม่นางเผย ข้าไม่ได้ตั้งใจหลอกเจ้า แค่อยากให้เฉินหรงปลอดภัยเท่านั้น”
เผยปิงปิงลูบแมงมุมบนมือ แมงมุมตัวนั้นราวกับเข้าใจความคิดของเผยปิงปิง มันปีนเข้าไปในแขนเสื้อของนางทันที
“ข้าไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการรักใครคนหนึ่งมีรสชาติอย่างไร ข้าคืนกู้เฉินหรงให้เจ้าก็แล้วกัน เดิมทีข้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช้ได้ แม้ในใจเขาไม่อาจมีข้า ถึงใช้ได้อย่างไรก็รับไว้ไม่ได้ ข้ามีคุณค่าพอสำหรับผู้ชายที่ดีกว่านี้”
“แม่นางเผยคิดได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว ขอบใจแม่นางเผย”
“ไม่ต้องขอบใจ ข้าทำเพื่อแม่ข้า ไม่ใช่เพื่อพวกเจ้า แม่นางซู เจ้าต้องรับปากข้า ไม่ว่าอย่างไรเจ้าต้องไม่แต่งงานกับพ่อข้า ไม่อย่างนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่”
นี่เป็นขีดจำกัดของเผยปิงปิงในการช่วยเหลือซูจิ่วซือ ไม่ว่ายามใดซูจิ่วซือต้องไม่รับปากแต่งงานกับเผยไป๋ชวน แม้นางจะโกรธมารดาที่ไม่รู้จักดิ้นรน แต่นางก็อยากปกป้องแม่ของตัวเอง
“ข้ารับปากเจ้า”
ซูจิ่วซือรับปาก เดิมทีนางไม่ได้คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว นางยังมีอะไรมากมายที่ต้องทำ ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้แน่ แม้จะพ้นจากเมืองหลวงมาได้ นางก็ไม่คิดจะแต่งงานกับเผยไป๋ชวน
แม้ในอดีตนางเกือบชอบเผยไป๋ชวน แต่อดีตก็คืออดีต และเวลานี้เผยไป๋ชวนก็ไม่ใช่เผยไป๋ชวนในอดีต
“ถูกต้องแล้ว ขอแต่เจ้าไม่ทำร้ายแม่ข้า ข้าจะพยายามปล่อยเจ้าไป เจ้ารอข่าวจากข้าก็แล้วกัน ข้าไปก่อนละ”
พอได้รับคำรับรองจากซูจิ่วซือ เผยปิงปิงก็จากไปอย่างวางใจ
เรื่องกู้เฉินหรงเดิมทีนางก็คิดจะยกเลิกอยู่แล้ว แม้นางจะชอบกู้เฉินหรง แต่ไม่ได้ชอบจนถึงขั้นที่ต้องแต่งงานกับเขาให้ได้
เดิมทีนางคิดจะหาโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับกู้เฉินหรง จึงรอคอยมาตลอด
เวลานี้นางยกเลิกอย่างสิ้นเชิงแล้ว รู้ว่านางไม่อาจสร้างความสัมพันธ์กับเขาได้ แต่งงานกับคนที่ไม่รักตนทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง เรื่องนี้นางเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต รู้อย่างลึกซึ้ง ไม่มีวันซ้ำรอยอีก คนที่นางจะแต่งงานด้วยต้องรักนางและนางก็รักเขา
“เผยปิงปิงเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดา เวลานี้ข้าชื่นชมนางจริงๆ ”
พอเผยปิงปิงไปแล้ว ซูจิ่วซือก็รินชาให้ตัวเอง แล้วพูดขึ้น
“บ่าวรู้สึกว่าแม่นางเผยน่ากลัวจริงๆ เอาแมงมุมติดตัวมา คราวก่อนก็เอางูพิษมา ใครจะกล้าแต่งกับนาง เกรงว่าแม้แต่เข้าใกล้ก็ยังไม่กล้า”
“ถ้านางกับหลียวนมีวาสนาต่อกันก็คงจะดี ความจริงแม่นางเผยมีเสน่ห์มาก”
กู้หลียวนใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ยึดติดแบบแผน ซูจิ่วซือยังหวังว่าเขาจะมีภรรยาเคียงข้าง มีคนที่เขาชอบมาร่วมชีวิตด้วย นางรู้สึกว่าผู้หญิงทั่วไปไม่สามารถดึงดูดใจกู้หลียวนได้ แต่เรื่องของความรักนางไม่อาจก้าวก่าย
——
ตอนที่ 275 ร่วมกันทัดทานเผยไป๋ชวน
พอถึงตอนนี้นางจึงนึกขึ้นได้ว่ายาถอนพิษยังอยู่ที่นาง พอวางถ้วยชาในมือลง ก็รีบออกไปจากห้อง
เวลานี้ เผยไป๋ชวนยังอยู่ที่ห้องหนังสือ ขณะที่พ่อบ้านหลูแห่งหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานเดินเข้ามาอย่างนอบน้อม ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้เผยไป๋ชวน “นายท่าน จดหมายที่คนของซิ่นอ๋องส่งมา นึกไม่ถึงว่าผ่านไปหลายปี เขายังตามหาพวกเราจนเจอ นายท่าน พวกเราจะทำอย่างไรดี”
เผยไป๋ชวนไม่พูดไม่จา รับจดหมาย พออ่านจบสีหน้าก็เครียดขึ้นมาทันที บนโต๊ะมีเทียนไขจุดอยู่หลายเล่ม พออ่านจบ เขาก็เผาจดหมายทันที
ซ่อนตัวยี่สิบปี นึกไม่ถึงว่ายังหนีไม่พ้นสายตาของซิ่นอ๋อง เขาตามหาจนพบ
ที่เผยไป๋ชวนนึกไม่ถึงที่สุดก็คือเรื่องที่ซิ่นอ๋องพูดถึงในจดหมาย เขารู้ว่าหลังจากนี้หมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานจะไม่สงบสุขอีกต่อไป
“นายท่าน ซิ่นอ๋องว่าอย่างไร”
พ่อบ้านหลูเห็นสีหน้าเผยไป๋ชวนเครียด ก็อดถามไม่ได้
“ซิ่นอ๋องบอกว่ากู้เฉินหรงเป็นราชนัดดาของแคว้นเจียง เขาต้องการชีวิตของกู้เฉินหรง”
พ่อบ้านหลูสีหน้าประหลาดใจ เป็นถึงราชนัดดาแคว้นเจียงเชียวหรือ
คราวนี้แย่แล้ว เหตุการณ์ในแคว้นเจียงพวกเขารู้ดี เผยไป๋ชวนหายไปจากสายตาของผู้คน ซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน เพราะต้องการหลบสายตาของซิ่นอ๋อง
เพื่อไม่ให้คนของซิ่นอ๋องตามมาพบ แม้แต่คำว่าหุบเขาราชาพิษเขาก็ไม่ใช้อีก เปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน หุบเขาราชาพิษจึงหายไปจากวงการนักเลงอย่างสิ้นเชิง
“จ้าวหุบ คราวนี้จะทำอย่างไร”
พ่อบ้านหลูร้อนใจขึ้นมาทันที เรื่องนี้จัดการยาก ไม่ว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งของซิ่นอ๋องหรือไม่ วันเวลาอันสงบสุขของหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานคงถูกทำลายด้วยน้ำมือของซิ่นอ๋อง
เรื่องนี้พูดไปแล้วเรื่องมันยาว เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ชั่วขณะหนึ่งพ่อบ้านหลูก็ไม่รู้จะเตือนเผยไป๋ชวนอย่างไร
เวลานี้คนที่ตัดสินใจลำบากที่สุดก็คือเผยไป๋ชวน ถ้าปฏิบัติตามคำสั่งของซิ่นอ๋องสังหารกู้เฉินหรง เรื่องเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนซิ่นอ๋องก็จะช่วยเขาปกปิดไว้ แต่เขาก็จะถูกซิ่นอ๋องควบคุมตลอดไป ถ้าไม่ยอมทำตามคำสั่ง ซิ่นอ๋องคงจะบอกเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้แคว้นเจียงรับรู้ พอถึงตอนนั้นก็จะโยงถึงผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็ผิดทั้งนั้น
เขากุยอวิ๋นซานตั้งอยู่ที่ชายแดนแคว้นเว่ยกับแคว้นเจียง แต่เผยไป๋ชวนเป็นคนแคว้นเจียงแท้ๆ เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนเขาอาศัยอยู่ที่แคว้นเว่ยมาตลอด
เขารับปากซูหลิ่วไว้แล้วว่าจะปล่อยตัวกู้เฉินหรง กับซูหลิ่ว เขาไม่เคยผิดสัญญา
แม้เขาไม่รับปาก แต่พอรู้ฐานะที่แท้จริงของกู้เฉินหรง เขาก็ไม่แตะต้องกู้เฉินหรงแน่ นี่เป็นเรื่องที่เขาติดหนี้กู้เฉินหรง แต่พอนึกถึงว่าต้องจ่ายค่าตอบแทน เขาก็ลังเล
ผู้คนและเหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีก่อนปรากฏอยู่ในสายตา บางทีนี่อาจจะเป็นบัญชาสวรรค์
ชะตากรรมของหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานคราวนี้คงหนีไม่พ้น เขาไม่อาจแต่งงานกับซูจิ่วซือได้ เขาไม่อยากให้นางพลอยเดือดร้อนไปด้วย นึกไม่ถึงว่าสวรรค์ส่งซูหลิ่วมาให้เขาถึงที่ เขาก็ยังพลาดโอกาส เขากับซูหลิ่วไม่มีวาสนาต่อกันมาตลอด
“เคราะห์กรรมครั้งนี้ไม่อาจหลีกหนีได้ นี่เป็นชะตากรรมของหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน…”
พ่อบ้านหลูได้ยินเผยไป๋ชวนพูดว่าจะปล่อยกู้เฉินหรง ก็ร้อนใจทันที รีบคุกเข่าลงกับพื้น “จ้าวหุบ ต้องคิดให้รอบคอบ อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ
เมื่อก่อนยังไม่เกิดเรื่อง เวลานี้ฝ่าบาทได้ฟื้นคดีให้รัชทายาทตวนฮุ่ย คนที่พัวพันก็ถูกฝ่าบาททยอยลงโทษ คนตระกูลเผยทั้งหมดยังอยู่ที่แคว้นเจียง ถ้าถูกลงโทษ ประหารเก้าชั่วโคตร จะเดือดร้อนถึงคนจำนวนมาก”
ในอดีตเผยไป๋ชวนกับบิดาคาดไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีการฟื้นคดีรัชทายาทตวนฮุ่ย จึงได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อหลีกห่างจากเรื่องราวดังกล่าว
ตอนที่ 276 มีเรื่องจะคุยกับกู้เฉินหรง
เป้าหมายของซิ่นอ๋องอยู่ที่พวกเขา หากพวกเขาไม่ปรากฏตัว ซิ่นอ๋องก็ไม่มีเหตุผลที่จะจัดการกับคนตระกูลเผย เพราะไม่มีความจำเป็น
คนตระกูลเผยเป็นเบี้ยที่ซิ่นอ๋องเอามาขู่เผยไป๋ชวน
เผยไป๋ชวนเป็นจ้าวพิษที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ ซิ่นอ๋องรู้ว่าสักวันหนึ่งคงได้อาศัยเผยไป๋ชวน
เผยไป๋ชวนกำหมัดทุบโต๊ะชาอย่างหนัก จนโต๊ะชาซึ่งแข็งแรงเป็นรอยแตกลึก ตระกูลเผยอาศัยอยู่ในแคว้นเจียงมารุ่นแล้วรุ่นเล่า เขาไม่อาจชักชวนให้คนตระกูลเผยย้ายหนี เขากับคนในหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานสามารถหนีไปอย่างปลอดภัย แต่คนตระกูลเผยไม่อาจพ้นเคราะห์กรรมได้ ถ้าให้คนทั้งหมดในตระกูลตายเพราะเขา เขาก็ไม่มีหน้าจะไปหาบรรพชนในปรโลก โทษทัณฑ์นี้หนักหนาสาหัสเกินไป
“เจ้าออกไปก่อน ข้าจะคิดให้ดี”
พ่อบ้านหลูรู้ว่าเวลานี้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงค้อมคารวะแล้วออกไป ได้แต่หวังว่าเจ้านายของตนไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ถ้าเวลานี้ถูกซิ่นอ๋องควบคุม เพื่อรักษาชีวิตของคนในตระกูล ก็จำเป็นต้องทำอย่างนี้ เขาติดตามเผยไป๋ชวนใกล้ชิดมาหลายสิบปี ถือตัวว่าเป็นคนสกุลเผย รู้ว่าเผยไป๋ชวนไม่อาจทนรับโทษทัณฑ์นี้ได้
พอพ่อบ้านหลูออกไป เผยไป๋ชวนซึ่งงุ่นง่านอยู่ก็ปัดของทุกอย่างบนโต๊ะชาลงไปที่พื้น ซิ่นอ๋องหาพวกเขาเจอในช่วงเวลานี้พอดี เหตุการณ์ที่ประจวบเหมาะทำให้เขาสงสัยว่าจะมีคนเผยความลับ
คนที่รู้เรื่องนั้นมีแต่คนใกล้ชิดไม่กี่คนที่เขาไว้ใจที่สุด แม้แต่ลูกสาวก็ไม่รู้ คนเหล่านี้จะทรยศเขาได้อย่างไร
เดิมทีเขาดีใจที่จะได้แต่งงานกับซูหลิ่ว พอถึงตอนนี้ เขาไม่มีกะจิตกะใจแล้ว
…..
ตอนที่ซูจิ่วซือมาถึงห้องของกู้เฉินหรงนั้น กู้เฉินหรงกำลังดื่มเหล้ากับกู้หลียวน ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พอเห็นซูจิ่วซือเข้ามา กู้หลียวนก็รีบโบกมือให้ “จิ่วซือ เจ้ามาพอดี ดื่มด้วยกัน”
“เจ้ากลับไปพักที่ห้องได้แล้ว ข้าจะดื่มกับจิ่วซือตามลำพัง” พอเห็นซูจิ่วซือเข้ามา กู้เฉินหรงก็รีบไล่แขกไป กู้หลียวนหน้างอ “กู้เฉินหรง นี่น้องสาวข้า เจ้าอย่าถือโอกาสตอนที่คนกำลังเดือดร้อน วันนี้ข้ายังไม่ไปไหน”
“ไม่ไปก็ไม่เป็นไร เราสองคนไป เจ้าอยู่ดื่มที่นี่ก็แล้วกัน”
กู้เฉินหรงพูดช้าๆ
กู้เฉินหรงพูดพลางเตรียมตัวลุกขึ้น ซูจิ่วซือห้ามไว้ “หลียวน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเฉินหรง”
กู้หลียวนมองหน้าซูจิ่วซืออย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าก็เปลี่ยนไป”
“ต้องฟันฝ่ายากเย็นกว่าจะสมหวัง เจ้าอย่ามาก่อกวน” กู้เฉินหรงพูดเบาๆ ข้างหูกู้หลียวน กู้หลียวนถลึงตาใส่กู้เฉินหรง ถ้าตนไม่ไป ก็เหมือนทำความผิด
แต่บางครั้งเขาก็นับถือกู้เฉินหรงมาก สามารถชนะใจซูจิ่วซือได้ ถ้าเป็นเขา คงล้มเลิกไปนานแล้ว โลกนี้มีผู้หญิงมากมาย ทำไมต้องลำบากลำบนอย่างนี้
“อย่ารังแกน้องสาวของข้านะ”
กู้หลียวนทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วลุกขึ้น ขณะเดินไปข้างซูจิ่วซือเขาหยุดเดิน พูดเบาๆ “น้องสาว ต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้นะ”
ซูจิ่วซือมุมปากกระตุก ไม่รู้ว่าสมองของกู้หลียวนคิดอะไรอยู่ นางเหมือนคนพวกนั้นหรือ?
พอกู้หลียวนไปแล้ว กู้เฉินหรงก็หยิบถ้วยใหม่มารินเหล้าให้ซูจิ่วซือ ท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “มาดื่มกันสักถ้วย”
ซูจิ่วซือนั่งตรงกันข้ามกับกู้เฉินหรง ล้วงเอาขวดเคลือบใบนั้นมายื่นให้กู้เฉินหรง “กินยาแก้พิษนี้ก่อน”
กู้เฉินหรงอ้าปาก รอให้ซูจิ่วซือป้อน
ซูจิ่วซือรู้สึกขำ บางครั้งกู้เฉินหรงก็เหมือนเด็ก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเขาดี นางเทยาแก้พิษในขวดออก เอามาใส่ในปากให้กู้เฉินหรง
กู้เฉินหรงยื่นมือไปจับมือซูจิ่วซือ แววตาอ่อนโยน แทบจะละลาย จ้องมองซูจิ่วซืออยู่อย่างนี้ พลางกลืนยาแก้พิษลงไป
ภายใต้แสงเทียน ซูจิ่วซือหน้าแดง
——
ตอนที่ 277 แต่งงานกับข้าดีหรือไม่
พอเห็นซูจิ่วซือหน้าแดง กู้เฉินหรงก็อดไม่อยู่ก้มตัวลงจูบปากซูจิ่วซือ
คงเป็นเพราะบรรยากาศงดงามเหลือเกิน ซูจิ่วซือจึงไม่ปฏิเสธกู้เฉินหรง ปล่อยให้เขาจูบ
ยิ่งจูบยิ่งลึก ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงดังขึ้น “กู้เฉินหรง ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
เป็นเสียงของเผยปิงปิง พอได้ยินเสียงคนพูดที่ข้างนอก ซูจิ่วซือก็รีบผลักกู้เฉินหรงออก หันหลังให้ ไม่อยากให้กู้เฉินหรงเห็นท่าทางอึดอัดของตน
ยามนี้คนที่เสียดายที่สุดก็คือกู้เฉินหรง โอกาสที่ซูจิ่วซือยินยอมอย่างนี้หายาก เผยปิงปิงไม่มาก่อนหน้านี้ หรือหลังจากนี้ กลับมาตอนนี้
ข้างนอกฟ้ามืดนานแล้ว ถ้านางเข้ามาในห้องของเขาเวลานี้ ไม่รู้ว่าซูจิ่วซือจะเข้าใจผิดหรือไม่
“แม่นางเผย ฟ้ามืดแล้ว ไม่สะดวกที่จะรับแขก มีธุระอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
เสียงของกู้เฉินหรงเพิ่งจบ เผยปิงปิงก็ผลักประตูเข้ามาเอง พอเห็นซูจิ่วซือก็อยู่ในนี้ สีหน้าแดงเรื่อ จึงพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางพูดเย้ย “วันข้างหน้ายังอีกยาวนาน ทำไมเจ้าสองคนถึงใจร้อนนัก”
ซูจิ่วซือแม้สีหน้าสงบนิ่ง แต่ถูกเด็กสาวมาเห็นในยามนี้ จึงรู้สึกขัดเขินไม่น้อย เพื่อปกปิดความรู้สึกอึดอัด นางจึงยกมือขึ้นปัดผมที่กระจายไปรวบไว้หลังหู เปลี่ยนเรื่องพูด “แม่นางเผย เจ้ามานี่มีธุระอะไร”
“เมื่อกี้ข้าไปที่ห้องเจ้า เจ้าไม่อยู่ ข้าจึงลองเสี่ยงมาที่นี่ ก่อนหน้านี้พ่อเรียกข้าไปหา บอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้ข้าพาพวกเจ้าออกไปจากเขากุยอวิ๋นซาน”
เผยปิงปิงนึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่เผยไป๋ชวนจะแต่งงานกับซูจิ่วซือ เวลาเพิ่งผ่านไปหนึ่งวัน จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ และยังบอกให้พวกเขาออกไป
“เขายังพูดอะไรอีก”
เผยปิงปิงส่ายหน้า “ไม่ได้พูดอะไรอีก ในเมื่อพ่อข้ายินดีปล่อยพวกเจ้าไป งั้นพรุ่งนี้เช้าพวกเจ้าก็ออกเดินทาง ขืนช้าจะเสียการ คืนนี้พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ พรุ่งนี้เช้าข้าจะพาลงเขา”
พูดจบเผยปิงปิงก็เดินมาอยู่หน้ากู้เฉินหรง ถอนหายใจเบาๆ “เดิมทีข้าอยากได้เจ้าเป็นสามี นึกไม่ถึงว่าในใจเจ้ามีผู้หญิงอื่นแล้ว วันหลังข้าจะไม่กวนใจเจ้าอีก ถึงซูจิ่วซือไม่มา ข้าก็ไม่แต่งงานกับเจ้า วันหลังดูแลซูจิ่วซือให้ดี อย่าให้พ่อข้ามีโอกาส”
พูดจบ เผยปิงปิงก็ถลึงตาใส่กู้เฉินหรงทีหนึ่งแล้วออกไป
กว่าจะได้เจอผู้ชายที่ใช้ได้คนหนึ่ง แต่กลับเป็นของคนอื่นเสียแล้ว น่าเสียดายจริงๆ
พอเผยปิงปิงไป กู้เฉินหรงก็สีหน้าเครียด “ก่อนหน้านี้เผยไป๋ชวนตั้งเงื่อนไขให้เจ้าแต่งงานกับเขาหรือ”
“เรื่องผ่านไปแล้วอย่าพูดถึงเลย ข้ากลับไปห้องละ”
ซูจิ่วซือพูดจบก็เตรียมจะไป ขณะที่หันตัว กู้เฉินหรงก็จับแขนนางไว้ ออกแรงดึง ซูจิ่วซือจึงชนเข้ากับหน้าอกของกู้เฉินหรง
กู้เฉินหรงกอดซูจิ่วซือไว้แน่น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเจ้าเอาเงื่อนไขนี้ไปแลกกับยาแก้พิษ ข้ายอมตาย ถึงไม่อยากจากเจ้า แต่ข้าก็อยากให้เจ้าใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าต้องการ ไม่ทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง ให้เรื่องราวที่ซูหลิ่วเคยประสบกลายเป็นอดีตตลอดกาล จำไว้ อย่าทำอะไรโง่ๆ เพื่อข้า”
“ข้าไม่ได้คิดว่าจะแต่งงานจริงๆ เพียงแต่หาทางยื้อเวลาไปก่อน”
“ยื้อเวลาก็ไม่ได้ เจ้าจะแต่งงานกับเผยไป๋ชวนได้อย่างไร”
“ข้าอยากให้เจ้ามีชีวิตรอด” ซูจิ่วซือถอนหายใจเบาๆ “ตายแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ”
กู้เฉินหรงกระชับกอดนางแน่นขึ้นอีก ราวกับกลัวว่าซูจิ่วซือจะหายไป “ข้าจะอยู่รอดปลอดภัย เรายังต้องอยู่ไปตลอดชีวิต จิ่วซือ พอเจ้าจัดการเรื่องราวในเมืองหลวงเสร็จ แต่งงานกับข้าดีหรือไม่”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น