หวนแค้นชะตารัก 262-269

 ตอนที่ 262 รู้ฐานะที่แท้จริง 


 


 


 


 


 


“ไหนๆ ก็มาแล้วต้องทำใจ เจ้าอยู่ที่นี่สักสองสามวันแล้วค่อยตัดสินใจ ข้าแค่แนะนำให้เจ้ารู้จักแม่นางคนหนึ่ง ไม่ได้บังคับให้เจ้าแต่งงานกับนาง ไม่แน่ว่านางจะชอบเจ้า” 


 


 


“นางไม่ได้ชอบข้าจริงๆ ” พูดจบ กู้หลียวนก็ถามด้วยความอยากรู้ “เจ้าโดนยาพิษอะไร” 


 


 


“ยาตัดดวงจิต” 


 


 


กู้หลียวนยื่นมือไปตบไหล่กู้เฉินหรง ขมวดคิ้ว “เผยปิงปิงไร้เดียงสาจริงๆ ข้ามาเตือนนาง ใครกันแน่ที่แค้นเจ้า ถึงกับวางยาพิษร้ายกาจอย่างนี้ 


 


 


ข้าเคยได้ยินชื่อนี้ แต่ไม่เคยเห็นยาตัดดวงจิตจริงๆ ยาตัดดวงจิตหายไปจากวงการนักเลงหลายสิบปีแล้ว เจ้ายัง…” 


 


 


กู้หลียวนครุ่นคิดอย่างละเอียด แล้วจ้องมองกู้เฉินหรงด้วยความสงสัยทันที “เมื่อก่อนเจ้าบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเจ้าเป็นชาวบ้านอยู่หมู่บ้านตระกูลหลิว บอกความจริงมา ฐานะที่แท้จริงของเจ้าเป็นใครกันแน่” 


 


 


“ราชนัดดาแคว้นเจียง” 


 


 


เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้เฉินหรงไม่คิดจะปิดบังกู้หลียวนอีกต่อไป ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าจะทำให้กู้หลียวนพลอยเดือดร้อน เวลานี้พวกเขาอยู่ที่เขากุยอวิ๋นซาน ที่นี่ปลอดภัยดี สักวันหนึ่งกู้หลียวนคงจะรู้ ถ้าอย่างนั้นก็บอกก่อนดีกว่า 


 


 


กู้หลียวนตะลึง แล้วหัวเราะขึ้นทันที “ข้าต่างหากที่เป็นฮ่องเต้แคว้นเจียง” 


 


 


“หลียวน เฉินหรงพูดความจริง เขาเป็นราชนัดดาแคว้นเจียงจริงๆ เป็นบุตรชายคนเล็กของรัชทายาทตวนฮุ่ย เป็นคนเดียวในจวนรัชทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่” 


 


 


ซูจิ่วซืออยู่ข้างๆ รับรองฐานะของกู้เฉินหรง 


 


 


กู้หลียวนไม่เชื่อคำพูดของกู้เฉินหรง แต่เชื่อคำพูดของซูจิ่วซือ พอฟังจบ เขาก็มองหน้าทั้งสองด้วยความประหลาดใจ “เป็นราชนัดดาแคว้นเจียงจริงหรือ” 


 


 


“เช่นนั้นพวกเจ้าตามข้าไปแคว้นเจียงไหม” 


 


 


กู้หลียวนมองกู้เฉินหรงอีกครั้ง แล้วพูดด้วยความแปลกใจ “เยี่ยมจริงๆ สกุลกู้ของเราเลี้ยงราชนัดดาให้แคว้นเจียง ถ้าท่านแม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเจ้า คงเสียดายที่เคยทำกับเจ้าอย่างนั้น” 


 


 


พูดจบก็หันไปพูดกับซูจิ่วซือ “จิ่วซือ เจ้าจะดิ้นรนในเมืองหลวงทำไม ตามกู้เฉินหรงไปแคว้นเจียงเลย จะได้มีอำนาจวาสนาทันทีทันใด ถ้าเฉินหรงมีโอกาสได้ครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ เจ้าได้เป็นฮองเฮาแน่ ใครจะกล้าขัดขวางเจ้า” 


 


 


“อย่าพูดจาเหลวไหล ข้าอยู่เมืองหลวงมีงานที่อยากทำ ข้าจะเข้าห้องก่อนละ” 


 


 


ซูจิ่วซือหันไปพยักหน้าให้คนทั้งสองแล้วเข้าไปในห้อง นางอยากไปหาเผยไป๋ชวน แต่ไม่อยากให้กู้เฉินหรงกับกู้หลียวนเห็น นางกลับไปพักที่ห้องครู่หนึ่ง พอมั่นใจว่าข้างนอกไม่มีคน จึงพาจื่อหลานออกไปจากเรือนอย่างเงียบๆ  


 


 


นางไม่รู้ว่าเผยไป๋ชวนอยู่ที่ไหน อาศัยสาวใช้พาไปที่เรือนของเผยไป๋ชวน ข้างนอกมียามรักษาการณ์อย่างเข้มงวด ยืนตัวตรง ขวางซูจิ่วซือไว้ 


 


 


“รบกวนเจ้าช่วยเข้าไปรายงาน บอกว่าซูหลิ่วคนเคยคบกันมาหา” 


 


 


ยามรักษาการณ์หน้าประตูเข้าไปรายงาน ซูจิ่วซือรออยู่หน้าประตู จากนั้นก็มีชายกลางคนอายุห้าสิบกว่าออกมา เชิญซูจิ่วซือเข้าไปข้างในอย่างนอบน้อม 


 


 


เขาพาซูจิ่วซือเดินผ่านทางเดิน มาถึงนอกห้อง รายงานอย่างนอบน้อม “นายท่าน พาคนมาแล้วขอรับ” 


 


 


“ให้นางเข้ามา!”  


 


 


มีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังออกมา 


 


 


ชายกลางคนผลักประตู ซูจิ่วซือยกขาก้าวเข้าไป จื่อหลานก็อยากตามเข้าไปด้วย แต่ถูกชายกลางคนห้ามไว้ จึงได้แต่รออยู่ข้างนอก 


 


 


ทันทีที่ซูจิ่วซือผ่านเข้าไป ประตูก็ปิด 


 


 


กู้เฉินหรงยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ปิงอวิ๋นยืนอยู่ข้างหลังเขา “คุณชาย คุณหนูซูไปหาจ้าวหุบเขาแล้ว” 


 


 


กู้เฉินหรงขมวดคิ้ว “เด็กโง่เอ๋ย” 


 


 


กู้เฉินหรงนึกถึงเรื่องหนึ่ง เขาเขียนจดหมายถึงกู้หลียวน เผยไป๋ชวนก็ยอมรับ ไม่เช่นนั้นจดหมายคงส่งไปไม่ได้ นั่นหมายถึงว่า เผยไป๋ชวนเองก็อยากให้กู้หลียวนมาที่เขากุยอวิ๋นซาน 


 


 


เผยไป๋ชวนมีจุดหมายอะไร แม้ตนไม่เคยเปิดเผยฐานะ แต่กู้เฉินหรงก็รู้สึกว่าความจริงเผยไป๋ชวนรู้ว่าตนมาจากสกุลกู้ในเมืองหลวง 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


ตอนที่ 263 คิดออกทันที 


 


 


 


 


 


“นายท่าน บริเวณลานบ้านจ้าวหุบเขามีการรักษาการณ์เข้มงวด บ่าวทดลองหลายครั้งก็ยังเข้าใกล้ไม่ได้ ว่ากันว่ามีแต่เผยไป๋ชวนที่รู้จักยาแก้ยาตัดดวงจิต คนอื่นไม่มีใครเคยเห็น เวลานี้จ้าวหุบเขาเผยเสนอให้คุณชายแต่งงานกับแม่นางเผย ถ้าคุณชายดึงดันไม่ยอมแต่งงาน ข้าเกรงว่าจะไม่ได้ยาแก้ 


 


 


จ้าวหุบเขาเผยวรยุทธ์ล้ำลึกสุดหยั่ง บ่าวไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา ร่างกายคุณชายไม่อาจยื้อต่อไปได้ แม้จะมีมุกโลหิตอยู่ในตัว แต่ไม่มีใครรู้ว่ามุกโลหิตจะประคองไปอีกนานเท่าไร คุณชายต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม” 


 


 


ปิงอวิ๋นเตือนอีกครั้ง หลายวันมานี้ นางคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีวิธีเข้าใกล้เผยไป๋ชวน เว้นแต่ว่าเผยไป๋ชวนจะมอบยาแก้พิษให้เอง ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จนใจ 


 


 


ยาตัดดวงจิตในตัวของกู้เฉินหรงไม่รู้ว่าจะออกฤทธิ์เมื่อไร ปิงอวิ๋นไม่อาจคาดเดา ถ้ากู้เฉินหรงตายที่เขากุยอวิ๋นซาน แคว้นเจียงคงจะเกิดความวุ่นวายใหญ่โต เวลานี้ฝ่าบาททรงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการมอบบัลลังก์ให้ซิ่นอ๋อง 


 


 


ซิ่นอ๋องเป็นคนโหดเ**้ยม สังหารพี่น้อง กำจัดคนที่ไม่ใช่พวกเดียวกับตน ถ้าแคว้นเจียงตกอยู่ในมือของเขา ไม่รู้ว่าจะมีคนตายอีกเท่าไร ถึงตอนนั้นแคว้นเจียงคงไม่เป็นอันสงบสุข 


 


 


แต่ซิ่นอ๋องมีอิทธิพลสูงขึ้นเรื่อยๆ เวลานี้ฝ่าบาทยังไม่อาจหาทางกำจัดซิ่นอ๋องได้ จึงมีพระประสงค์ให้พาตัวกู้เฉินหรงกลับไป กู้เฉินหรงเป็นราชนัดดาที่ถูกต้องตามแบบแผน สามารถเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ 


 


 


หลายปีมานี้การกระทำทุกอย่างของกู้เฉินหรงที่แคว้นเว่ย ฮ่องเต้แคว้นเจียงทรงรู้ดี พระองค์ทรงรู้สึกว่ากู้เฉินหรงเป็นอัจฉริยะที่สามารถบ่มเพาะได้ เพียงให้การแนะนำบ้าง ก็สามารถแบกรับภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ได้ 


 


 


สำหรับฮ่องเต้แคว้นเจียง กู้เฉินหรงเป็นอนาคตของแคว้นเจียง 


 


 


ความรู้สึกของพระองค์ต่อกู้เฉินหรง นอกจากทรงรู้สึกผิดแล้ว ยังมีความหวังมากกว่า  


 


 


กู้เฉินหรงสายตาเย็นชา พอพ้นจากเมืองหลวง ตลอดทางก็พบมือสังหารไม่น้อย มือสังหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนของซิ่นอ๋อง หลังจากมาถึงเขากุยอวิ๋นซานก็ไม่พบมือสังหารอีกเลย เผยไป๋ชวนต้อนรับเขาอย่างดี และยื่นเสนอให้เขาแต่งงานกับเผยปิงปิง จึงจะมอบยาแก้ยาตัดดวงจิตให้ 


 


 


เผยไป๋ชวนปากก็พูดให้กู้เฉินหรงแต่งงานกับเผยปิงปิง แต่ไม่ได้บีบบังคับ ก่อนหน้านี้กู้เฉินหรงยังหาเหตุผลที่ชัดเจนไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็คิดออกทันที  


 


 


เผยไป๋ชวนเคยผูกพันกับซูหลิ่วอย่างล้ำลึก กู้หลียวนเป็นลูกชายซูหลิ่ว เผยไป๋ชวนจึงให้เขาชักนำกู้หลียวนมา ความจริงก็เพราะซูหลิ่ว 


 


 


ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา สีหน้าของกู้เฉินหรงก็ยิ่งเครียด 


 


 


ถ้าเผยไป๋ชวนรู้ว่าซูจิ่วซือคือซูหลิ่ว ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นยามปกติซูจิ่วซือคงไม่พูดอะไรกับเผยไป๋ชวน แต่เวลานี้ซูจิ่วซือต้องการช่วยเขา นางคงบอกฐานะของตัวเองให้เผยไป๋ชวนรู้แน่ 


 


 


“คุณชาย เป็นอะไรไปหรือ” 


 


 


พอเห็นกู้เฉินหรงเคร่งเครียด ปิงอวิ๋นก็ถามด้วยสีหน้าวิตก 


 


 


“เป้าหมายของเผยไป๋ชวนไม่ได้อยู่ที่ข้า แต่เป็นหลียวน เผยไป๋ชวนคิดไว้ก่อนแล้วว่าอยากให้หลียวนมาเป็นเขย ข้าเป็นเพียงคนที่ชักนำหลียวนเข้ามา ถ้าข้าไม่เขียนจดหมายถึงหลียวน เผยไป๋ชวนก็จะบอกหลียวนเอง ทั้งหมดนี้เป็นการเล่นละครตบตาข้า แย่จริงๆ  ข้าเพิ่งคิดออกตอนนี้” 


 


 


กู้เฉินหรงหนักใจขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้เขารู้สึกมีอะไรแปลกๆ แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีอะไรแอบแฝง เวลานี้พอเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมด จู่ๆ เขาก็เข้าใจทันที  


 


 


ปิงอวิ๋นรู้สึกคาดไม่ถึง “จ้าวหุบเขาเผยทำไมจึงทำอย่างนี้” 


 


 


“เป็นสาเหตุเดียวกับที่จิ่วซือไปหาเขา ปิงอวิ๋น เจ้าไปกับข้า” 


 


 


ปิงอวิ๋นไม่ถามต่อ พยักหน้าแล้วตามกู้เฉินหรงออกไปจากเรือน 


 


 


เวลานี้ซูจิ่วซืออยู่ในห้องของเผยไป๋ชวน เผยไป๋ชวนซึ่งเข้าสู่วัยกลางคนมองหน้าซูจิ่วซือ “เจ้าเป็นหลานของซูหลิ่วหรือ” 


ตอนที่ 264 คนเคยคบกัน 


 


 


 


 


 


ไม่พบหน้ายี่สิบกว่าปี ซูจิ่วซือมองแวบเดียวก็รู้จักชายกลางคนคนนี้ เมื่อเทียบกับเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เผยไป๋ชวนเปลี่ยนไปไม่มาก ยังพอเห็นเงาของอดีตอยู่ในตัวเขา เพียงแต่ว่าจอนผมทั้งสองเป็นสีขาวแล้ว หางตาก็มีรอยตีนกาลึก 


 


 


ในสมองปรากฏมีภาพเด็กหนุ่มผู้หยิ่งทะนง ตอนที่นางรู้จักเผยไป๋ชวนนั้น เขายังเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่ถึงยี่สิบปี แม้ยังเด็กแต่มีความเป็นผู้ใหญ่มาก สีหน้าเคร่งเครียด ไม่พูดจายิ้มหัว 


 


 


พอเห็นเผยไป๋ชวนแก่ตัวลง ซูจิ่วซือก็ทอดถอนใจ ทุกคนล้วนต้องแก่ มีแต่นางที่ยังคงเป็นซูหลิ่วในอดีต  


 


 


“เจ้าหินเผย ไม่ได้พบกันนานมาก” 


 


 


จู่ๆ ซูจิ่วซือก็ยิ้มให้เผยไป๋ชวน เรียกฉายาที่นางเคยตั้งให้เผยไป๋ชวน 


 


 


เพราะเผยไป๋ชวนมักจะหน้าตาเคร่งเครียด ซูจิ่วซือจึงเรียกเขาว่าเจ้าหิน บอกว่าเขาแข็งเย็นเหมือนก้อนหิน เผยไป๋ชวนก็ยอมรับฉายานี้อย่างเงียบๆ  


 


 


ตั้งแต่แยกจากซูหลิ่วแล้ว เผยไป๋ชวนก็ไม่เคยได้ยินใครเรียกอย่างนี้อีก พอจู่ๆ ได้ยินจากปากของซูจิ่วซือ เขาจึงตัวเกร็งทันที ตะลึงมองซูจิ่วซือ “เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ” 


 


 


“ในโลกนี้ยังมีใครเรียกเจ้าเป็นเจ้าหินอีกหรือ” 


 


 


“เป็นไปไม่ได้ ซูหลิ่วตายไปยี่สิบปีแล้ว” ใบหน้าเคร่งเครียดของเผยไป๋ชวนแสดงความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขารีบสะกดใจไว้ “แม่หนูใจกล้าจริงๆ บังอาจพูดจาเหลวไหลต่อหน้าข้า” 


 


 


“เจ้าหินเผย ถ้าข้าเป็นซูจิ่วซือจริงๆ ทำไมจึงรู้เรื่องนี้ ตอนที่ซูหลิ่วตาย ซูหมิงยังไม่แต่งงาน เมื่อยี่สิบปีก่อนข้าตายจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไมวิญญาณจึงมาอยู่ในร่างของจิ่วซือ 


 


 


เจ้าแก่ตัวลง แต่ข้ายังเป็นคนเดิมเมื่อยี่สิบปีก่อน เจ้ายังจำได้หรือไม่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนข้าถูกวางยา เดินทางมาหาหมอรักษา ระหว่างทางเจอเจ้า เราสองคนถ้าไม่ทะเลาะกันก็ไม่รู้จักกัน ช่วงที่ข้าพักอยู่ที่หุบราชาพิษ เจ้าเป็นคนดูแลข้า เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตข้า ถ้าไม่มีเจ้า ข้าคงตายไปนานแล้ว 


 


 


แต่เสียดาย เวลานั้นในใจข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว เจ้ากับข้าจึงไม่มีวาสนาต่อกัน ตอนนั้นเจ้าบอกว่ากู้เหยี่ยนไม่ใช่คนที่จะฝากชีวิตไว้ ถ้าแต่งงานกับกู้เหยี่ยนจะเสียใจ ข้าคิดว่าเจ้าดูหมิ่นกู้เหยี่ยน และยังพูดอย่างมั่นใจว่าข้าดูคนไม่ผิด เจ้ามองกู้เหยี่ยนออก ซูหมิงก็มองออก มีแต่ข้าที่โง่เง่าโดนกู้เหยี่ยนหลอก จนกระทั่งตอนหลังจึงรับกรรมอย่างหนัก” 


 


 


เผยไป๋ชวนฟังเรื่องราวในอดีตเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เรื่องราวเหล่านี้นางจำได้หมด เป็นอดีตระหว่างเขากับซูหลิ่วจริงๆ เขาเคยเปิดเผยความในใจกับซูหลิ่วหลายครั้ง แต่ถูกซูหลิ่วปฏิเสธทุกครั้ง 


 


 


เขาตัดใจไม่ได้จึงตามซูหลิ่วไปเมืองหลวง ไปพบกู้เหยี่ยน อยากดูว่าคนที่ซูหลิ่วรักสมควรฝากชีวิตไว้หรือไม่  


 


 


ผลคือเขาเห็นกู้เหยี่ยนเป็นเพียงบัณฑิตยากจน เผยไป๋ชวนรู้สึกว่ากู้เหยี่ยนไม่คู่ควรกับซูหลิ่ว จึงเตือนซูหลิ่วหลายครั้ง แต่ซูหลิ่วคอยปกป้องกู้เหยี่ยน และไม่ใส่ใจความแตกต่างทางฐานะ 


 


 


เพื่อให้ซูหลิ่วตัดใจ เผยไป๋ชวนจึงจับตัวกู้เหยี่ยนไป เขาคิดจะฆ่ากู้เหยี่ยน แต่ซูหลิ่วห้ามไว้ เรื่องนี้ทำให้ทั้งสองบาดหมางกัน เขากลับหุบราชาพิษด้วยความโกรธ แต่งงานตามที่พ่อจัดการให้ 


 


 


“ตอนหลียวนอายุครบเดือนได้รับกำไลคู่หนึ่ง เจ้าเป็นคนให้ใช่หรือไม่ บนนั้นสลักรูปต้นอู๋เหว่ยเฉ่า เป็นสมุนไพรที่มีเฉพาะที่หุบราชาพิษ” 


 


 


เผยไป๋ชวนไม่ได้ปฏิเสธ เขาเป็นคนส่งให้จริงๆ แม้จะโกรธซูจิ่วซืออยู่ แต่พอได้ข่าวว่านางมีลูกชายคนโต เขาก็ยังให้คนทำกำไลทองคู่หนึ่งส่งไปให้ 


 


 


ตอนหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นที่หุบราชาพิษ พวกเขาออกไปจากพื้นที่เดิม หายไปจากวงการนักเลงอย่างไร้ร่องรอย  


 


 


เขาสะกดใจไม่นึกถึงเรื่องของซูหลิ่ว และไม่ได้ไปสืบถาม ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างสงบ จนกระทั่งวันหนึ่งได้ยินข่าวการตายของซูหลิ่ว เขาจึงรู้ว่าซูหลิ่วจากโลกไปแล้ว 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 265 กู้เหยี่ยนคนเดียวยังทำร้ายเจ้าไม่พอหรือ 


 


 


 


 


 


“ที่ไหล่ซ้ายของเจ้ามีแผลเป็น แผลเกิดจากตอนที่เราออกไปหาสมุนไพรด้วยกันข้างนอกแล้วพบฝูงหมาป่า เจ้าต่อสู้กับหมาป่าสีเทา บาดแผลนี้ข้าเป็นคนเย็บให้เจ้า แต่เพราะไม่ถนัดเรื่องนี้ รอยเย็บจึงบิดเบี้ยว ตอนนั้นเจ้ายังล้อเลียนข้าด้วยซ้ำ” 


 


 


เรื่องราวเหล่านี้เผยไป๋ชวนจำได้หมด เขารู้นิสัยของซูหลิ่วดี  


 


 


ซูหมิงอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ ต้องให้ซูหลิ่วเป็นคนเล่าเอง แต่ซูหลิ่วไม่อาจพูดให้น้องชายฟังได้ ในใจของนางมีแต่กู้เหยี่ยน ไม่อาจพูดถึงชายอื่นต่อหน้าซูหมิง เพราะจะทำให้เข้าใจผิด  


 


 


“ซูหลิ่ว เจ้ากลับมาจริงๆ หรือ” 


 


 


เผยไป๋ชวนไม่สงสัยคำพูดของซูจิ่วซืออีก ใบหน้าของเขาเผยความรู้สึกตื่นเต้น ถ้าไม่ควบคุมตัวเอง เขาคงเข้าไปกอดซูจิ่วซือแล้ว แต่เด็กสาวเบื้องหน้าหน้าตาไม่เหมือนซูหลิ่วเลย ชั่วขณะ เขาไม่อาจยอมรับว่านางกับซูหลิ่วเป็นคนเดียวกัน 


 


 


“ในสายตาของคนทั่วไป ซูหลิ่วตายแล้ว และไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว เวลานี้คนที่อยู่เบื้องหน้าเจ้าก็คือซูจิ่วซือ เดิมทีข้าไม่อยากมารบกวนชีวิตของเจ้า เจ้าหิน ข้ามีเรื่องหนึ่งจะขอร้อง…” 


 


 


ไม่รอให้ซูจิ่วซือพูดจบ เผยไป๋ชวนก็พูดตัดบท “เจ้าอยากให้ข้ามอบยาแก้พิษยาตัดดวงจิตหรือ ซูหลิ่ว กู้เฉินหรงเป็นลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยน เขาทำร้ายเจ้า เจ้าควรจะแค้นสกุลกู้ ทำไมจึงช่วยลูกเลี้ยงของเขา” 


 


 


“เขาเป็นลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยนจริง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาเคยช่วยชีวิตข้า” 


 


 


“เจ้าให้อภัยลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยน” เผยไป๋ชวนผ่านโลกมามาก ไม่ใช่เด็กหนุ่มในอดีต สายตาล้ำลึก “ซูหลิ่ว เจ้าอยู่เมืองหลวง แต่มุ่งหน้าเดินทางไกลมาถึงเขากุยอวิ๋นซาน เพื่อกู้เฉินหรง เจ้าใส่ใจชีวิตของเขาปานนี้ เจ้ารักกู้เฉินหรงใช่หรือไม่” 


 


 


แม้เผยไป๋ชวนจะถามซูจิ่วซือ แต่น้ำเสียงนั้นมั่นใจอย่างยิ่ง 


 


 


ซูจิ่วซืออยากปฏิเสธ แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ ถือว่าเป็นการยอมรับอย่างเงียบๆ  


 


 


เผยไป๋ชวนสีหน้าซับซ้อน ทั้งประหลาดใจทั้งโกรธ “เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ ซูหลิ่ว กู้เหยี่ยนคนหนึ่งยังทำร้ายเจ้าไม่พออีกหรือ ตอนนี้เจ้าฟื้นชีพขึ้นมา เจ้าไม่แก้แค้นสกุลกู้ ยังรักลูกเลี้ยงของเขา ชาตินี้เจ้าหนีสกุลกู้ไม่พ้นเลยหรือ 


 


 


ทำไมเจ้าจึงดูหมิ่นตัวเองอย่างนี้ ข้าไม่มีวันช่วยกู้เฉินหรงแน่ ในอดีตข้าเชื่อคำพูดของเจ้าจึงไว้ชีวิตกู้เหยี่ยน ต่อมากู้เหยี่ยนทำร้ายเจ้าจนตาย ตอนนี้ข้าไม่มีวันให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก” 


 


 


“เจ้ารับกู้เฉินหรงไว้ ไม่ใช่เพราะอยากให้เขาแต่งงานกับลูกสาวเจ้าหรอกหรือไร” 


 


 


เผยไป๋ชวนยิ้มหยัน “ลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยนหรือจะคู่ควรกับลูกสาวข้า ข้าไม่เคยคิดจะให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา ข้าเพียงแต่รอกู้หลียวนเท่านั้น 


 


 


ข้าอยากยกปิงปิงให้กู้หลียวน กู้หลียวนเป็นลูกของเจ้า ข้าได้ข่าวว่าสกุลกู้ไม่ได้เอาใจใส่เขานัก ข้าจะถือเขาเป็นลูกของข้าเอง วันหลังเขากุยอวิ๋นซานจะเป็นของเขา”  


 


 


เดิมทีเผยไป๋ชวนอยากไปสู่ขอกู้ชิงเฉิงให้ลูกชายของตน นึกไม่ถึงว่ากู้ชิงเฉิงเข้าวังไปก่อนแล้ว จึงต้องล้มเลิก 


 


 


เขาจึงฝากความหวังไว้ที่เผยปิงปิง เวลานี้เผยปิงปิงเกล้าผมแล้ว แต่งงานได้ กู้หลียวนเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน เหมาะสมกันจริงๆ  


 


 


เขามีความแค้นต่อกู้เหยี่ยน ไม่อยากจัดการเรื่องนี้ผ่านกู้เหยี่ยน หลังจากพบกู้เฉินหรงจึงอยากอาศัยกู้เฉินหรงชักนำกู้หลียวนมา 


 


 


ความปรารถนาในใจของเขาไม่อาจเป็นจริงได้ จึงหวังว่าลูกสาวจะช่วยให้เขาสมความปรารถนา 


 


 


เวลานี้เขาพบซูหลิ่วตัวจริง เขารู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทาน เขาจะให้ซูหลิ่วอยู่กับเขาให้ได้ 


ตอนที่ 266 แต่งงานกับข้า 


 


 


 


 


 


แต่เขาเข้าใจนิสัยของซูหลิ่วดี ถ้านางไม่ยอม เขาก็ทำอะไรนางไม่ได้ ยิ่งตอนนี้เขายังมีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปี พอนึกได้อย่างนี้ เขาก็สะกดความคิดของตนไว้ 


 


 


เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนซูหลิ่วไม่รักเขา เวลานี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่เขานึกไม่ถึงว่าเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนซูหลิ่วรักกู้เหยี่ยน ยี่สิบกว่าปีต่อมาซูหลิ่วก็ยังรักกู้เฉินหรง ตั้งแต่ต้นจนจบนางหนีไม่พ้นสกุลกู้ 


 


 


เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เขาได้แต่มองดูซูหลิ่วก้าวเข้าไปในกับดัก เวลานี้เขาไม่มีวันยอมให้ซูหลิ่วถูกสกุลกู้หลอกอีก เขาไม่อยากเห็นซูหลิ่วถูกทำร้ายอย่างนั้นอีก กับลูกของกู้เหยี่ยนและซูเหมย เขารู้สึกรังเกียจ 


 


 


“เจ้าหินเผย การแต่งงานของลูกปล่อยให้ลูกตัดสินใจเอง คนเป็นพ่อแม่ทำไมต้องเข้าไปก้าวก่าย ถ้าทั้งสองรักใคร่จริงใจต่อกัน ข้าก็ยินดีด้วย 


 


 


แต่ถ้าพวกเขาไม่มีใจให้กัน ทำไมต้องบังคับ เรื่องระหว่างเราในอดีตไม่เกี่ยวข้องกับลูก 


 


 


เจ้าหิน เวลาผ่านไปนานมาก เวลานี้เจ้ามีทุกอย่างแล้ว มีเมียดีอยู่ใกล้ชิด เรื่องราวในอดีตก็ปล่อยให้ผ่านไป อย่าทำให้ลูกๆ ลำบากใจ” 


 


 


“ชีวิตนี้ข้าไม่มีอะไรเสียดาย ข้าเสียดายแต่เจ้าเท่านั้น ซูหลิ่ว ความรักบ่มเพาะขึ้นได้ ปิงปิงกับหลียวนคู่ควรกันมาก เราเกี่ยวดองกันไม่ได้หรือ 


 


 


สำหรับกู้เฉินหรง เพื่อเห็นแก่เจ้า ข้าจะไว้ชีวิตเขา แต่ยาแก้พิษข้าไม่มีวันให้เขาแน่ พรุ่งนี้เช้าข้าจะให้คนไล่เขาออกไป” 


 


 


“เจ้าหิน ข้ายังยืนยันคำเดิม เรื่องของกู้เหยี่ยนไม่เกี่ยวข้องกับกู้เฉินหรง เรื่องของข้ากับกู้เฉินหรงไม่อาจพูดให้เจ้าฟังอย่างละเอียดได้ ข้าติดหนี้เขามากเหลือเกิน ถ้าเจ้ายินดีช่วยเขา ไม่ต้องให้ลูกลำบากใจ ข้ายินดีทำทุกอย่าง” 


 


 


เผยไป๋ชวนมองซูจิ่วซือด้วยความประหลาดใจ “เจ้ายินดีรับปากข้าทุกอย่างจริงหรือ?” 


 


 


“จริง” 


 


 


“เจ้าบ้าจริงๆ” 


 


 


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิดหวังหรืออะไร ในใจของเผยไป๋ชวนรู้สึกขมขื่น เมื่อก่นนางก็เคยดึงดันเพื่อกู้เหยี่ยน เวลานี้เพื่อลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยนนางก็ยังเป็นอย่างนี้ ซูหลิ่วทำไมโง่อย่างนี้ ทั้งๆ ที่เป็นคนฉลาด ทำไมจึงหนีไม่พ้น 


 


 


เมื่อก่อนเขาเชื่อฟังซูหลิ่ว ยอมให้ซูหลิ่วกับกู้เหยี่ยนสมหวัง คราวนี้เขาจะไม่มีวันซ้ำรอยเดิมอีก 


 


 


ในเมื่อซูหลิ่วรับปากว่ายอมทุกอย่าง เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ซูหลิ่วล้มเลิกความคิดนี้ 


 


 


“แต่งงานกับข้า” 


 


 


เผยไป๋ชวนพูดออกมาอย่างไม่ลังเล 


 


 


ซูจิ่วซือนึกไม่ถึงว่าเผยไป๋ชวนจะตั้งเงื่อนไขนี้ นางตะลึงชั่วครู่แล้วพูดขึ้น “เจ้าหิน เจ้ามีเมียแล้ว เจ้ากับเมียอยู่กินกันมายี่สิบกว่าปี ทำไมจึงตั้งเงื่อนไขที่เหลวไหลอย่างนี้ 


 


 


เจ้าพูดอย่างนี้เคยนึกถึงความรู้สึกของนางหรือไม่ เรื่องระหว่างเรามันผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ถึงจะเอาชีวิตเข้าแลกข้าก็ยินดี” 


 


 


“ข้าจะเอาชีวิตเจ้ามาทำอะไร? ซูหลิ่ว คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วยก็คือเจ้า ตั้งแต่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน นี่เป็นเรื่องที่ข้าเสียดายมาตลอด ข้าไม่อาจทนดูเจ้าทำอะไรโง่ๆ ปล่อยให้คนสกุลกู้เหยียบย่ำทำร้าย 


 


 


เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีก ขอแต่ให้เจ้ารับปากว่าจะแต่งงานกับข้า ข้าจะเอายาแก้พิษให้กู้เฉินหรง ไม่เช่นนั้นไม่มีวันเด็ดขาด” 


 


 


ซูจิ่วซือยังไม่ทันตอบ ก็มีสาวใช้จากข้างนอกเข้ามารายงานอย่างนอบน้อม “จ้าวหุบเขา คุณชายกู้มาแล้ว” 


 


 


“ให้เขาเข้ามา” 


 


 


พอเผยไป๋ชวนสั่ง ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาทันที กู้เฉินหรงเดินเข้ามา พอเห็นซูจิ่วซืออยู่กับเผยไป๋ชวน กู้เฉินหรงก็เดินไปหาซูจิ่วซือ ยื่นมือไปจับมือซูจิ่วซือไว้ 


 


 


การกระทำนี้ทำให้สีหน้าของเผยไป๋ชวนหม่นหมองลง เจ้าเด็กนี่จงใจทำสินะ  


 


 


 


 


 


—— 


 


 


ตอนที่ 267 มีคนรักแล้ว 


 


 


 


 


 


เมื่อก่อนเขาพ่ายแพ้แก่กู้เหยี่ยน เวลานี้ก็ยังพ่ายแพ้แก่ลูกเลี้ยงของกู้เหยี่ยน นี่เป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้เด็ดขาด 


 


 


“จ้าวหุบเผย ข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว ชาตินี้นอกจากจิ่วซือแล้ว ข้าไม่แต่งกับใครเด็ดขาด เรื่องการแต่งงาน ขออภัยที่ไม่อาจทำตามได้ ไม่ต้องเสนอเงื่อนไขให้จิ่วซือ ฆ่าข้าโดยตรงได้เลย” 


 


 


 กู้เฉินหรงจ้องหน้าเผยไป๋ชวน สายตาราวกับจะบอกว่ายอมตาย เขาไม่รู้ว่าซูจิ่วซือกับเผยไป๋ชวนมีความสัมพันธ์กันอย่างไรในอดีต ห่วงแต่ว่าซูจิ่วซือจะทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเขา เรื่องนี้เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว 


 


 


เผยไป๋ชวนยิ้มหยัน “ปิงปิงชอบเจ้านับว่าเป็นบุญของเจ้า กู้เฉินหรง ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ เรื่องการแต่งงานเป็นอันยกเลิก ใครก็ได้ พาตัวกู้เฉินหรงออกไป” 


 


 


“เจ้าหิน…” 


 


 


ซูจิ่วซือรีบร้องห้าม 


 


 


กู้เฉินหรงแตะหลังมือซูจิ่วซือ ทำท่าให้ซูจิ่วซือรู้ว่าไม่ต้องร้อนใจ แล้วพูดต่อ “จ้าวหุบเผย จะไล่ข้าก็ได้  ข้ารู้ว่าท่านกับเผยฮูหยินแต่งงานกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว เผยฮูหยินอยู่กับท่านตลอดเวลายี่สิบกว่าปี จ้าวหุบเผยถ้าจะทำอะไรลงไปต้องคิดให้ดี อย่าทำร้ายจิตใจเผยฮูหยิน 


 


 


หลียวนเป็นลูกชายของคนที่เคยคบกัน ถ้าจ้าวหุบเผยนึกถึงมิตรภาพก่อนเก่า ก็ไม่ควรจะบังคับจิตใจกัน หลียวนไม่ได้รักลูกสาวท่าน ลูกสาวท่านก็เป็นอย่างนี้ ทำไมต้องทำร้ายคนทั้งสองไปตลอดชีวิต หวังว่าจ้าวหุบเผยจะพิจารณาให้ดีก่อนทำ” 


 


 


“เรื่องของข้าไม่ต้องให้เจ้ามาสั่งสอน กู้เฉินหรง เรื่องนี้เจ้าเหมือนกับพ่อบุญธรรมของเจ้า ทำท่าอย่างกับลึกซึ้งจริงใจ ถอดแบบมาจากกู้เหยี่ยนจริงๆ” 


 


 


“เลือดในตัวข้าไม่ใช่ของสกุลกู้ ถ้าท่านไม่ชอบคนสกุลกู้ หลียวนมีเลือดสกุลกู้ ท่านกลับบีบให้หลียวนยอมเป็นเขย นี่ไม่ขัดแย้งกันเองหรือ 


 


 


อ้อ ยังมีอีกเรื่องนี้ที่ข้าลืมบอกจ้าวหุบเผย หลายวันมานี้ข้าไม่มีอะไรทำ เลยเผลอไปเด็ดดอกหลานกู่ฮวาของจ้าวหุบเผยหมด รบกวนจ้าวหุบเผยปลูกใหม่ ขออภัย ข้าไม่ได้เจตนา” 


 


 


กู้เฉินหรงพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้เจตนา แต่ก็มีเจตนา อย่างน้อยเขาก็อยู่ที่เขากุยอวิ๋นซานมาระยะหนึ่ง ไม่ใช่ไม่ได้อะไรเลย ดอกหลานกู่ฮวาเป็นผลตอบแทนที่เขาได้รับ 


 


 


เผยไป๋ชวนโกรธจัด ดอกหลานกู่ฮวาเป็นดอกไม้หายากที่สุดในหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน และเป็นกระสายยาของเผยไป๋ชวน เขาไม่รู้ว่าเผยไป๋ชวนป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง รู้แต่ว่าเผยไป๋ชวนต้องกินยาทุกวัน และไม่ใช่โรคเล็กน้อย ดอกหลานกู่ฮวาเป็นกระสายยาสำคัญ 


 


 


เวลานี้ดอกหลานกู่ฮวาทั้งหมดในหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานอยู่ในมือของเขา อย่างมากเขาก็ตายพร้อมกับเผยไป๋ชวน 


 


 


เผยไป๋ชวนไม่รู้ว่ากู้เฉินหรงรู้เรื่องนี้มาจากไหน ถึงได้รู้ว่าดอกหลานกู่ฮวาเป็นกระสายยาของเขา ยานี้คนใกล้ชิดจัดการให้ ใครหนอที่เผยความลับนี้ เขาต้องตรวจสอบคนใกล้ชิดอย่างละเอียด 


 


 


“กู้เฉินหรง เจ้าอย่าลืม ที่นี่เป็นหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน ถึงเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหน ก็หนีออกไปไม่ได้ ถ้าคิดจะต่อกรกับข้า ข้าจะบั่นเจ้ากับลูกน้องอีกสองคนให้เป็นท่อนๆ ” 


 


 


คำนี้เขาเจตนาจะพูดให้ซูจิ่วซือฟัง ซูจิ่วซือพยายามควบคุมความรู้สึกไว้ เผยไป๋ชวนเวลานี้ไม่ใช่เผยไป๋ชวนในอดีตแล้ว 


 


 


“จ้าวหุบเผยถ้าไม่กลัวตาย ก็ลงมือได้เลย เราจะได้ไปอยู่ปรโลกด้วยกัน” 


 


 


กู้เฉินหรงสีหน้าไม่หวาดหวั่น เขาไม่เชื่อว่าเผยไป๋ชวนไม่กลัวตายจริงๆ พอถึงตอนนี้เขาเองกลับไม่กลัวตาย คิดแต่จะปกป้องซูจิ่วซือ ไม่ให้เผยไป๋ชวนบีบคั้นซูจิ่วซือ 


 


 


“เจ้าหิน ข้าตกลง” 


 


 


ราวกับว่าตัดสินใจเด็ดขาด จู่ๆ ซูจิ่วซือก็รับปาก 


ตอนที่ 268 รับปากอะไร 


 


 


 


 


 


กู้เฉินหรงร้อนใจขึ้นมาทันที “จิ่วเอ๋อร์ เจ้ารับปากเรื่องอะไร ชีวิตจะทิ้งไปง่ายๆ ได้หรือ อย่าทำอะไรโง่ๆ” พูดจบก็ตะโกนใส่เผยไป๋ชวน “ไม่ว่านางจะรับปากกับท่านเรื่องอะไร คำพูดระหว่างจิ่วซือกับท่านไม่มีผล” 


 


 


เผยไป๋ชวนไม่ใส่ใจกู้เฉินหรง ซูจิ่วซือพยักหน้าให้เผยไป๋ชวน “จ้าวหุบเผย ข้าขอตัวก่อนละ” 


 


 


พูดจบก็ออกไปก่อน กู้เฉินหรงรีบตามออกไป เผยไป๋ชวนมองตามหลังซูจิ่วซือ ในใจไม่รู้ว่าทำไมจึงอาลัยอาวรณ์ ก่อนหน้านี้นางยังเรียกเขาว่าเจ้าหิน เวลานี้กลับเรียกอย่างสุภาพว่าจ้าวหุบเผย 


 


 


พอนึกถึงภรรยา เผยไป๋ชวนก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที แม้ที่ผ่านมาเขาไม่ได้รักนางเว่ย แต่นางเว่ยก็อยู่เคียงข้างเขามามาตลอด มีลูกให้เขาสองคนชายหญิง อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น ใช้ชีวิตสงบ ถ้าซูหลิ่วไม่มาปรากฏตัว เขาคงจะอยู่กับนางเว่ยไปจนแก่เฒ่า 


 


 


แต่เวลานี้ซูหลิ่วมาแล้ว ผู้หญิงคนที่เขารักมาหลายปีอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว เขาอยากจะชดเชยความเสียดายในอดีตจริงๆ อยากแต่งงานกับนาง นี่เป็นความปรารถนาสูงสุดของเขามาตลอด  


 


 


หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ เขาจึงตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้นางเว่ยรู้ หากเขาแต่งงานกับซูหลิ่ว เขาก็ยังดูแลนางเว่ย เพียงแต่ว่านางไม่ใช่ภรรยาของเขาอีกต่อไป 


 


 


ซูจิ่วซือกับกู้เฉินหรงเดินตามกันออกจากเรือนของเผยไป๋ชวน พออยู่ห่างออกไประยะหนึ่ง กู้เฉินหรงก็ให้ซูจิ่วซือหยุด “เจ้ารับปากเขาเรื่องอะไร” 


 


 


“ไม่มีอะไร นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเผยไป๋ชวน เฉินหรง เอาดอกหลานกู่ฮวามาให้ข้า” 


 


 


กู้เฉินหรงสีหน้าเครียด “ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่ต้องการให้เจ้าทำอะไรให้ข้าทั้งนั้น” 


 


 


“คำนี้ข้าก็บอกเจ้าแล้ว สุดท้าย เรื่องที่ไม่ควรทำเจ้าก็ทำหมด เฉินหรง ถึงอย่างไรเจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ข้ากับเผยไป๋ชวนเคยรู้จักกันมาก่อน เจ้าวางใจ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องถาม” 


 


 


กู้เฉินหรงยื่นมือไปจับมือซูจิ่วซือ “พูดอย่างนี้ เท่ากับเจ้ายอมรับใช่หรือไม่ว่าเจ้าชอบข้า” 


 


 


ซูจิ่วซือนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ กู้เฉินหรงจะพูดเรื่องนี้ นางส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “เปล่า” 


 


 


“ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจ้าไม่มีทางปล่อยให้ข้าจับมือเจ้าแน่ จิ่วเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกไหมว่าเจ้าคุ้นเคยกับการที่ข้าใกล้ชิดเจ้า ผู้หญิงคนนี้ช่างฝืนใจตัวเองจริงๆ ยอมรับว่าชอบข้าจะตายหรือไร” กู้เฉินหรงยื่นมือไปลูบหัวซูจิ่วซือ “ก่อนตายได้รู้ใจเจ้า ถึงตายข้าก็ไม่เสียดาย” 


 


 


“อย่าพูดเหลวไหล เจ้าไม่ตายหรอก 


 


 


กู้เฉินหรง ข้ารู้จักเผยไป๋ชวนตั้งแต่หลายปีก่อน ถ้าข้าอยู่ เขาคงไม่ทำอันตรายเจ้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดท้าทายเขา ที่นี่เป็นถิ่นของเขา 


 


 


บางครั้งเจ้าควรจะควบคุมปากให้ดี ข้ากับเขาเคยคบหากันมาก่อน แต่ไม่มีผลอะไร เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ขาดทุน ข้าก็เหมือนกัน เจ้ากลับไปเอาดอกหลานกู่ฮวามาให้ข้า ข้าจะเอาไปแลกยาแก้พิษ” 


 


 


“ทำไมข้ารู้สึกว่าสายตาเขาที่มองเจ้ามีอะไรแปลกๆ เมื่อก่อนเขาเคยรักเจ้าใช่หรือไม่” 


 


 


ซูจิ่วซือกระแอม “นั่นเป็นเรื่องอดีต เวลานี้เขาแต่งงานมีลูกตั้งนานแล้ว” 


 


 


“เจ้าจึงรับปากให้หลียวนเป็นเขยของเขางั้นหรือ” 


 


 


ซูจิ่วซือนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ถือว่าเป็นการยอมรับ เวลานี้นางบอกกู้เฉินหรงไม่ได้อย่างเด็ดขาดว่านางรับปากอะไรกับเผยไป๋ชวน 


 


 


ถ้ากู้เฉินหรงรู้เขาคงโกรธจัด และไม่ยอมกินยาแก้พิษ ตอนนี้ภารกิจสำคัญคือต้องให้กู้เฉินหรงขจัดพิษในตัวออกไปก่อน ไม่เช่นนั้นนางไม่วางใจแน่ เรื่องนี้ต้องปกปิดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ 


 


 


“เจ้าตัดใจหลอกหลียวนได้หรือ” 


 


 


กู้เฉินหรงมองหน้าซูจิ่วซือด้วยความสงสัย 


 


 


 


 


 


—— 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 269 เราสองคนเป็นเนื้อคู่กัน 


 


 


 


 


 


“เจ้าเป็นคนเริ่มต้นไม่ใช่หรือ” 


 


 


กู้เฉินหรงเหงื่อผุดเต็มหน้า “ผู้หญิงที่ใกล้ชิดหลียวนแทบไม่มีใครอยู่ได้นาน เขาสามารถชนะใจผู้หญิงคนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนหน้าอยู่เรื่อย ข้าเรียกเขามา เดิมทีอยากให้เขาเอาชนะใจเผยปิงปิง ไม่ได้ให้เขาแต่งงานกับเผยปิงปิงจริงๆ นึกไม่ถึงว่าเขาจะกลัวเผยปิงปิง เรื่องนี้ข้าทำไม่ถูก ไม่ควรเรียกเขามา” 


 


 


“แต่ข้ากลับพอใจสะใภ้อย่างนี้” ซูจิ่วซือพูดอย่างฝืนใจ นึกอยากให้กู้เฉินหรงเชื่ออย่างนี้  


 


 


“แล้วเจ้าพอใจข้าหรือไม่” 


 


 


ซูจิ่วซือสะบัดมือกู้เฉินหรงออก แล้วพูดขึ้นอีก “เฉินหรง กลับไปเอาดอกหลานกู่ฮวาเดี๋ยวนี้เถอะ” 


 


 


พอเห็นซูจิ่วซือร้อนใจขึ้นมา กู้เฉินหรงก็ไม่พูดอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นซูจิ่วซือวิตกเรื่องของเขาขนาดนี้ ได้พบซูจิ่วซือที่เขากุยอวิ๋นซาน เขาคาดไม่ถึงจริงๆ 


 


 


แม้จะเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง แต่ที่มากกว่านั้นคือความดีใจ นางยอมเดินทางมา นี่แสดงถึงความปรารถนาในใจนางใช่หรือไม่ เสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ปากแข็ง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมรับว่าชอบเขา  


 


 


คำนั้นพูดยากขนาดนี้เชียวหรือ 


 


 


เขายอมรับแล้วว่าซูจิ่วซือก็คือซูหลิ่ว แต่นางกลับไม่อาจทำใจให้ยอมรับเรื่องนี้ 


 


 


“จิ่วซือ ข้าไม่เคยคิดจะให้ข้าช่วยเจ้า” 


 


 


ทั้งสองเดินเคียงกัน พอเดินไประยะหนึ่ง กู้เฉินหรงก็พูดขึ้น เขาคิดแต่จะปกป้องซูจิ่วซือ ไม่เคยคิดว่าจะให้ซูจิ่วซือเดินทางมาปกป้องเขา 


 


 


“ข้าเองก็ไม่คิดจะให้เจ้าช่วย สุดท้ายเจ้าก็ยังช่วยข้าครั้งแล้วครั้งเล่า” 


 


 


“เจ้าเป็นผู้หญิง สมควรได้รับการปกป้อง” 


 


 


“เจ้าเป็นผู้น้อย สมควรให้ข้าผู้อาวุโสดูแล” 


 


 


กู้เฉินหรงรู้สึกไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร จู่ๆ เขาก็หัวเราะขึ้นมา ทำไมเขาจึงลืมไปแล้ว ซูจิ่วซือไม่เหมือนผู้หญิงอื่น นางมีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ 


 


 


“นี่พิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่าเราสองคนเป็นเนื้อคู่กันไม่ใช่หรือ” 


 


 


ซูจิ่วซือถลึงตาใส่กู้เฉินหรง “ไม่ว่าพูดถึงอะไร เจ้าก็โยงเข้ามาเรื่องนี้จนได้ อะไรทำให้คุณชายกู้คิดว่าเราเป็นเนื้อคู่กัน” 


 


 


“ก็อย่างเราสองคนนี่แหละ” 


 


 


กู้เฉินหรงพูดอย่างหน้าด้านๆ 


 


 


“…”  


 


 


“กู้เฉินหรง เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าเจ้าสนิทกับน้องสาวเจ้าเกินไป” เสียงใสของผู้หญิงดังเข้ามา เผยปิงปิงในชุดสีแดงขวางหน้าทั้งสองอยู่ “ตั้งแต่น้องสาวคนนี้มา เจ้าก็ลืมข้าสนิท ติดตามน้องเจ้าตลอด รักน้องสาวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ไม่ควรมองข้ามคนเคียงหมอน” 


 


 


ขณะที่พูดอย่างนี้ ในมือของนางก็มีอะไรสีดำมะเมื่อมขดอยู่ พอนางเข้ามาใกล้ ซูจิ่วซือจึงเห็นชัดว่าเป็นงูดำกำลังแลบลิ้นอยู่ 


 


 


เผยปิงปิงเล่นงูดำในมือ “ข้าเป็นคนขี้อิจฉา กู้เฉินหรง ถึงจะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเจ้า เจ้าก็ต้องข่มใจไว้บ้าง ไม่งั้นข้ากลัวว่าข้าจะทนไม่ไหวปล่อยงูไปกัดน้องสาวคนสนิทของเจ้า” 


 


 


นี่ถือว่าเป็นการเตือนกู้เฉินหรงอีกครั้ง เผยปิงปิงจงใจเข้ามาใกล้อีก ขยับมือเบาๆ งูในมือพุ่งเข้าใส่ซูจิ่วซือทันที 


 


 


กู้เฉินหรงตาไวมือไว คว้างูดำไว้ จับที่ท้องของงูดำ “ไม่ได้กินเนื้องูนานแล้ว แม่นางปิงปิง เอางูพิษที่เจ้าเลี้ยงมาให้หมด ย่างหรือตุ๋นก็ได้” 


 


 


“กู้เฉินหรง ปล่อยดำน้อยของข้า ถ้าเจ้าทำมันเจ็บ ข้าจะจัดการเจ้า!” เผยปิงปิงชอบของรักตัวน้อยนี้มาก พอได้ยินกู้เฉินหรงว่าจะเอางูดำไปกิน ก็ร้อนใจทันที 


 


 


“อย่ารังแกจิ่วซือ ไม่งั้นข้าก็จะจจัดการเจ้า” 


 


 


กู้เฉินหรงโยนงูดำตัวนั้นทิ้ง พาซูจิ่วซือจากไป 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม