ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ 246-253

 ตอนที่ 246 ผิดปกติ 


 


 


           คุณพ่อลั่วเอาอาหารเที่ยงที่แม่นมจ้าวทำมาด้วย ลั่วเซ่าเชินไม่ได้อยู่กินข้าวกับคุณแม่ลั่ว เขาตรงไปบริษัททันที เมิ่งชิงซีก็อยู่เป็นเพื่อนมาทั้งเช้า คุณแม่ลั่วก็ไม่อยากรบกวนให้เธออยู่ต่อ เธอควรไปใช้ชีวิตตามประสา “ชิงซี มีคุณลุงอยู่เป็นเพื่อนป้าแล้ว หนูมีธุระอะไรก็ไปทำเถอะ” 


 


 


“คุณป้าคะ หนูไม่มีธุระอะไรหรอกค่ะ” เมิ่งชิงซีปฏิเสธโดยเร็ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เธอต้องทำคะแนนกับคุณแม่ลั่ว เธอจะทิ้งโอกาสนี้ไปไม่ได้ 


 


 


คุณแม่ลั่วพูดกับเมิ่งชิงซีอีกครั้ง “ชิงซี ป้ารู้ว่าหนูมีน้ำใจ แต่หนูอายุยังน้อย ยังไงก็ยังมีชีวิตของตัวเอง หนูไปทำธุระของตัวเองเถอะจ้ะ” 


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นว่าคุณแม่ลั่วไม่ได้พูดทดสอบเธออยู่จริงๆ จากนั้นเมิ่งชิงซีก็หันไปมองคุณพ่อลั่ว คุณพ่อลั่วก็พูดเสริมว่า “ชิงซี ลุงอยู่เป็นเพื่อนคุณป้าเอง หนูยังไม่วางใจอีกหรือ” 


 


 


“ไม่ใช่ค่ะคุณลุง ในเมื่อคุณลุงคุณป้าพูดอย่างนี้ งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ คุณป้า พรุ่งนี้หนูจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ” 


 


 


“ได้” 


 


 


เมิ่งชิงซีหยิบกระเป๋าสีดำของตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป เมิ่งชิงซีไปที่ลานจอดรถ ขับรถตัวเองมุ่งหน้าไปยังบริษัทเมิ่ง 


 


 


ซูซาน เลขาของเมิ่งไหวเซินเห็นเมิ่งชิงซีขึ้นลิฟต์มา จึงรีบไปต้อนรับทันที “คุณหนูใหญ่ สวัสดีค่ะ” 


 


 


“พ่อฉันอยู่ที่ห้องไหม” 


 


 


“อยู่ค่ะ” 


 


 


“ดี เธอไปเถอะ ฉันจะไปหาเขาเอง” 


 


 


เมิ่งชิงซีเคาะประตูห้อง ได้ยินเสียงเมิ่งไหวเซินบอกให้เข้ามา เธอจึงผลักประตูเข้าไป 


 


 


“พ่อคะ หนูมาหาพ่อค่ะ” 


 


 


“ไปเยี่ยมคุณนายลั่วมา เธอเป็นยังไงบ้าง” เมิ่งไหวเซินถามข่าวที่รู้จากเมิ่งชิงซี เดิมทีเขาอยากจะไปเยี่ยมด้วยตัวเอง แต่ช่วงนี้ที่บริษัทยุ่งมาก ปลีกตัวไม่ได้ ทำได้เพียงให้ฉินอวิ๋นไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วแทน 


 


 


“ก็ดีขึ้นค่ะ คุณป้าฟื้นตัวเร็ว” 


 


 


“พรุ่งนี้พ่อจะให้แม่ไปกับลูกด้วยนะ ไปเยี่ยมแทนพ่อหน่อย จะได้ไม่ดูเสียมารยาท” ความตั้งใจนี้ของเมิ่งไหวเซินทำให้เมิ่งชิงซียิ้มแกนๆ 


 


 


“ให้แม่ไปกับหนูน่ะหรือคะ 


 


 


“ทำไม มีปัญหาเหรอ” เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเมิ่งชิงซีเหมือนไม่พอใจ เมิ่งไหวเซินถึงได้รู้สึกว่าช่วงนี้สองแม่ลูกต่างคนต่างแปลกไป 


 


 


“ไม่มีปัญหาค่ะคุณพ่อ คุณพ่อคิดมากไปแล้ว” ด้วยกลัวว่าเมิ่งไหวเซินจะสงสัย เมิ่งชิงซีจึงรีบยกยิ้มที่มุมปากทันที 


 


 


“ไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ไหม ชิงซี ช่วงนี้แม่กับลูกเป็นอะไร มีเรื่องอะไรต้องบอกพ่อนะ พ่อจะได้ให้คำแนะนำได้” 


 


 


เมิ่งชิงซีไม่โง่ให้เมิ่งไหวเซินรู้หรอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินอวิ๋นผิดปกติไป “คุณพ่อคะ หนูไม่ได้โกรธอะไรกับคุณแม่สักหน่อยค่ะ คุณแม่ดีกับหนูขนาดนี้ จะไปมีเรื่องอะไรได้คะ พรุ่งนี้หนูจะพาคุณแม่ไปเยี่ยมคุณป้าลั่วค่ะ” 


 


 


เมิ่งชิงซีใช้ลูกอ้อนกับเมิ่งไหวเซินตามปกติ เมิ่งไหวเซินจึงทิ้งความสงสัยของตัวเอง “ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร ชิงซี แม่เป็นแม่ของลูกนะ ลูกต้องเคารพคุณแม่ ไม่ว่าคุณแม่จะทำอะไรให้ลูกไม่พอใจ แต่ทั้งหมดก็ทำเพื่อลูก…” 


 


 


“ค่ะๆ คุณพ่อ หนูรู้แล้ว หนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เห็นเมิ่งชิงซีออกจากห้องไป เมิ่งไหวเซินก็ส่ายหน้า “ลูกคนนี้นี่จริงๆ เลย…” 


 


 


เมิ่งชิงซีออกจากห้องทำงานมา สีหน้ายิ้มแย้มค่อยๆ จางไป ซูซานเดินมารอรับคำสั่งจากเธอ เธอก็ไม่สนใจ ได้แต่เดินไปห้องทำงานของตัวเอง 


 


 


“คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป…” ซูซานมองตามหลังเมิ่งชิงซี ไม่เข้าใจว่าคุณหนูใหญ่เป็นอะไร จากนั้นเธอก็หยิบเอกสารเอาไปให้เมิ่งไหวเซินเซ็น 


 


 


“สวัสดีค่ะ คุณหนูใหญ่” เลขาของเมิ่งชิงซีเห็นเมิ่งชิงซีเดินมา ก็รีบไปเตรียมชาให้ทันที 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 247 หน้าประตูโรงเรียนอนุบาล 


 


 


           ถังโจวโจวยืนรออยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล เมื่อเธอเห็นลั่วอิง ก็รีบกวักมือเรียกทันที “ลั่วอิง แม่โจวโจวอยู่นี่ค่ะ” 


 


 


ลั่วอิงเห็นถังโจวโจวโจวก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที “แม่โจวโจว คุณแม่มาได้ยังไงคะ” 


 


 


“ทำไมคะ ไม่อยากให้แม่โจวโจวมารับเหรอ ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ไปก็ได้ค่ะ” ถังโจวโจวแสร้งน้อยใจ 


 


 


ลั่วอิงเห็นว่าใบหน้าของถังโจวโจวไม่มีรอยยิ้มแล้ว จึงคิดว่าเธอโกรธ ลั่วอึงรีบขวางเธอไว้ทันที “แม่โจวโจวขา หนูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…” 


 


 


ลั่วอิงเริ่มร้อนรน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรให้แม่โจวโจวหายโกรธ นึกออกเพียงต้องขวางถังโจวโจวเอาไว้ก่อน ไม่ให้เธอกลับไป 


 


 


“แม่โจวโจวแกล้งหนูค่ะ เดี๋ยวไปกินข้าวที่บ้านคุณยายกับแม่โจวโจวนะ หลังจากนั้นค่อยให้คุณพ่อมารับ ดีไหมคะ” 


 


 


“คุณพ่อรู้แล้วหรือคะ” เดิมทีลั่วอิงคิดว่าวันนี้ลั่วเซ่าเชินจะให้หวังหวามารับ 


 


 


“รู้สิคะ ทำไมล่ะ หรือว่าคุณพ่อไม่ยอมให้ลูกไปกับแม่โจวโจว?” ถังโจวโจวคิดไม่ถึงว่า ระยะเวลาเพียงสองวัน ลั่วเซ่าเชินก็เข้าไปอยู่ในใจของลั่วอิงได้มากกว่าเธอเสียแล้ว ทำให้รู้สึกว่ามันน่าน้อยใจจริงๆ 


 


 


“ไม่ใช่ค่ะแม่โจวโจว คุณแม่อย่าแกล้งหนูสิคะ” ลั่วอิงเห็นว่าถังโจวโจวพยายามซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ จึงอดหน้างอไม่ได้ คุณแม่รังแกลูกได้ยังไง 


 


 


“เอาละๆ แม่ผิดเอง ลั่วอิงให้อภัยแม่นะ” ถังโจวโจวยกสองมือขึ้นประสาน ต้องการให้ลั่วอิงอารมณ์ดี 


 


 


“ลั่วอิง โจวโจว เธอก็อยู่ที่นี่เหรอ” ถังโจวโจวกับลั่วอิงกำลังหัวเราะกันอยู่ เสียงของเมิ่งชิงซีก็ดังขึ้นทางด้านหลัง 


 


 


ลั่วอิงไม่ชอบเมิ่งชิงซี จึงชักสีหน้าทันที “คุณอาคนนิสัยไม่ดี มาที่นี่ทำไม คุณจะมารังแกแม่โจวโจวของหนูเหรอ” ลั่วอิงขวางอยู่หน้าถังโจวโจว ราวกับเป็นแม่นกที่ปกป้องลูกน้อย ให้ถังโจวโจวซ่อนอยู่ใต้ปีกเล็กๆ ของเธอ 


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นลั่วอิงเรียกเธออย่างนี้ก็ค่อนข้างหงุดหงิด เห็นเธอเป็นเพื่อนเล่นหรืออย่างไร ดูเหมือนลั่วอิงจะเป็นเด็กที่ลามปามเกินไปแล้ว “ลั่วอิง ทำไมพูดจาไม่มีมารยาทอย่างนี้ ไปค่ะ อามารับหนูไปหาคุณย่า” 


 


 


“คุณเมิ่งคะ เซ่าเชินรู้แล้วค่ะว่าฉันจะมารับลั่วอิง” ถังโจวโจวได้บอกลั่วเซ่าเชินไว้ก่อนแล้ว เมิ่งชิงซีมาตัดหน้ากันอย่างนี้ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ส่วนลั่วอิงเองก็ไม่ยอมไปกับเมิ่งชิงซีแน่ๆ ลั่วเซ่าเชินไม่มีทางให้เมิ่งชิงซีมารับลั่วอิงได้ 


 


 


“ฉันไม่ได้คุยกับเซ่าเชิน แต่คุยกับคุณป้า ซึ่งคุณป้าก็ยินยอม” 


 


 


เมิ่งชิงซีย่อตัวลงมองลั่วอิง “ลั่วอิง หรือว่าหนูไม่คิดถึงคุณย่าคะ คุณย่ายังไม่สบาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาล ท่านคิดถึงหนูมาก ถ้าท่านรู้ว่าลั่วอิงไม่ยอมไปหา ท่านคงจะเสียใจ” 


 


 


แม้ลั่วอิงจะเกลียดเมิ่งชิงซีเพียงใด แต่เมื่อเป็นเรื่องของคุณแม่ลั่ว เธอก็ใจอ่อน แล้วตอนนี้คุณแม่ลั่วก็บาดเจ็บอยู่ ลั่วอิงต้องใส่ใจคุณแม่ลั่วก่อน พลางหันไปมองถังโจวโจวด้วยสายตาเจ็บปวด 


 


 


ถังโจวโจวเห็นเมิ่งชิงซีพูดหลอกล่อลั่วอิงได้ถูกจุด ก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าทำได้เธอก็ไม่อยากให้เมิ่งชิงซีเป็นฝ่ายชนะ เธอจึงได้แต่แสร้งพูดประชดไปก่อน “ลั่วอิง ในเมื่อคุณเมิ่งพูดขนาดนี้แล้ว ลูกก็ไปเยี่ยมคุณย่าก่อนเถอะ ไว้ครั้งหน้าค่อยไปบ้านคุณยายด้วยกันนะคะ” 


 


 


“โจวโจว ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า ลั่วอิงจะยังมี ‘โอกาสครั้งหน้า’ ได้ไปบ้านคุณยายอีกไหม อ้อ…ฉันคิดว่าน่าจะได้ไปบ้านคุณยายอีกหลังมากกว่า” เมิ่งชิงซีตั้งใจเน้นคำพูด ถังโจวโจวไม่เข้าใจคำพูดนี้ของเธอ 


 


 


“คุณเมิ่ง ที่คุณพูดมาหมายความว่ายังไงคะ” ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งคุยกับลั่วเซ่าเชินมา เขาบอกเธอว่าจะให้หวังหวามารับลั่วอิง เธอถึงได้ไม่ยอมให้ลั่วอิงไปกับเมิ่งชิงซี 


ตอนที่ 248 ทำไมไม่ไปเยี่ยมคุณย่าด้วยกัน 


 


 


           “โจวโจว อีกไม่นานเธอก็จะรู้เอง ถ้าบอกเธอตอนนี้ก็ไม่ใช่ความลับน่ะสิ” ท่าทางของเมิ่งชิงซีเหมือนกับนกยูงรำแพนหาง 


 


 


เมิ่งชิงซีกวักมือเรียกลั่วอิง “ลั่วอิง ไปเยี่ยมคุณย่ากับอาได้แล้วค่ะ บอกลาแม่โจวโจวเร็ว” 


 


 


ลั่วอิงจับมือถังโจวโจว กระตุกมือให้ถังโจวโจวย่อตัวลงมา ก่อนจะพูดกับเธอเบาๆ “แม่โจวโจวขา แม่ไปส่งหนูได้ไหม หนูไม่อยากไปกับผู้หญิงไม่ดีคนนี้” 


 


 


แต่ถึงกระนั้นเมิ่งชิงซีก็ได้ยินเต็มสองหู “ลั่วอิง ตอนนี้คุณย่าไม่ชอบแม่โจวโจวของหนูมาก โจวโจว เธออย่าโผล่หน้าไปให้คุณป้าเห็นจะดีกว่า เพราะเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณป้าต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอจะรับผิดชอบไม่ไหว” 


 


 


“คุณเมิ่ง ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ ฉันจะให้ผู้ช่วยหวังมารับลั่วอิงไปเอง คุณสนใจแต่เรื่องของคุณเถอะ” ในที่สุดถังโจวโจวก็จำต้องพูดออกมาด้วยความโกรธ แต่ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น 


 


 


“ถังโจวโจว เธอนี่มันร้ายจริงๆ” เมิ่งชิงซีเกลียดถังโจวโจวมากขึ้นอีก เดิมทีครั้งนี้เธอตั้งใจจะให้ถังโจวโจวเสียเปรียบให้ได้ ไม่คิดเลยว่าถังโจวโจวก็ยังสามารถย้อนคำพูดมาว่าเธอได้อีก 


 


 


เมิ่งชิงซีได้แต่พูดกับตัวเองว่า ‘ไม่โกรธ อย่าโกรธ อีกไม่นานถังโจวโจวก็ต้องเป็นฝ่ายเสียใจแล้ว’ 


 


 


“โจวโจว ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ ฉันก็จะปล่อยไปสักครั้ง ลั่วอิง ไว้ครั้งหน้าอาชิงซีจะมารับนะคะ” 


 


 


ลั่วอิงเห็นเมิ่งชิงซีพ่ายแพ้ ก็หัวเราะทันที “หนูไม่ต้องการให้คุณมารับหรอกค่ะ หนูยังมีคุณพ่อ มีคุณแม่ จะไม่มีวันให้คุณมารับหนู” 


 


 


เมิ่งชิงซีได้ยินอย่างนั้นก็ไม่โกรธ “ลั่วอิง ตอนนี้หนูยังคงไม่เข้าใจอะไร แต่ต่อไปหนูจะเข้าใจเอง เพราะพวกเรายังมีเวลาทำความรู้จักกันอีกนาน โจวโจว ฉันไปก่อนนะ ลั่วอิงก็ให้เธอดูแลแล้วกัน” 


 


 


ถังโจวโจวมองเมิ่งชิงซีที่ทิ้งคำพูดกำกวมเอาไว้มากมาย ทำไมเธอถึงพูดว่า ‘ยังมีเวลาทำความรู้จักกันอีกนาน’ ที่เมิ่งชิงซีพูดหมายความว่าอย่างไร 


 


 


เมิ่งชิงซีกลับไปไม่นาน หวังหวาก็ขับรถมาถึง เขาเปิดประตูให้ลั่วอิงขึ้นรถ หวังหวาพูดอย่างสุภาพเช่นเคยว่า “คุณผู้หญิง คุณชายให้ผมไปส่งคุณครับ” 


 


 


“ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปส่งลั่วอิงที่โรงพยาบาลเถอะ ฉันกลับเองได้” โรงพยาบาลกับบ้านของถังโจวโจวอยู่คนละทาง ถังโจวโจวไม่อยากรบกวน 


 


 


“คุณผู้หญิงครับ แต่นี่เป็นคำสั่งของท่านผอ.” ความหมายของหวังหวาคือเขาไม่สามารถขัดคำสั่งของลั่วเซ่าเชินได้ ถังโจวโจวก็เข้าใจ จึงขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดี 


 


 


“แม่โจวโจวจะไม่ไปโรงพยาบาลกับหนูจริงๆ หรือคะ” ลั่วอิงเห็นว่าถังโจวโจวขึ้นรถมาแล้ว จึงคิดว่าน่าจะเปลี่ยนใจเธอได้ และไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วด้วยกัน 


 


 


“ไม่ได้ไปค่ะ คุณลุงหวังจะไปส่งแม่ที่บ้าน ลั่วอิงไปโรงพยาบาลคนเดียวต้องเป็นเด็กดีนะคะ ตอนนี้คุณย่าไม่สบายอยู่ ลั่วอิงอย่าซนนะ ถ้าแม่โจวโจวรู้จะไม่รักหนูแล้ว” 


 


 


“แม่โจวโจว หนูจะไม่ดื้อไม่ซนค่ะ หนูรู้ว่าตอนนี้คุณย่าร่างกายไม่แข็งแรง หนูจะเอานิทานไปเล่าให้คุณย่าฟัง ให้คุณย่ามีความสุข แต่ว่าแม่โจวโจวขา ทำไมคุณแม่ไม่ไปเยี่ยมคุณย่าล่ะคะ” 


 


 


ลั่วอิงไม่เข้าใจอย่างมาก ตอนนี้ถังโจวโจวไปอยู่บ้านคุณยาย ไม่ได้อยู่กับเธอทุกวันเหมือนก่อน และถ้าวันนี้ถังโจวโจวไม่ได้มารับเธอที่โรงเรียน ก็อาจไม่ได้เจอหน้ากันแล้ว 


 


 


ถังโจวโจวลูบผมลั่วอิง เห็นเธอสนใจใคร่รู้เรื่องเหล่านี้ก็ถอนหายใจ ทำได้แค่อธิบายให้เธอฟังแบบเข้าใจง่ายๆ “แม่ทำเรื่องที่ผิดต่อคุณย่า ตอนนี้คุณย่ายังไม่ให้อภัยแม่ แม่ก็เลยยังไม่อยากไปให้ท่านเห็นหน้า ไม่อย่างนั้นท่านจะโกรธเอาได้จ้ะ” 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 249 คุณแม่ถังสงสัย 


 


 


           “ถ้าอย่างนั้นหนูจะช่วยพูดกับคุณย่าให้ ไม่แน่ว่าคุณย่าอาจจะยอมให้อภัยคุณแม่ก็ได้ค่ะ” ลั่วอิงพูดตามประสาเด็ก ทำเรื่องผิดก็แค่ขอโทษ แต่ถังโจวโจวไม่คิดว่าเรื่องมันจะง่ายดายอย่างนั้น 


 


 


“ลั่วอิง หนูยังเด็ก รอให้หนูโตกว่านี้ก่อนหนูก็จะรู้เอง มีบางเรื่องที่ทำผิดก็คือทำผิด ไม่สามารถให้อภัยได้เลย” เสียงของถังโจวโจวดังไปถึงหูของหวังหวา เขาเองก็ได้ยินมาว่าบ้านของผอ. เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น หรือว่าเรื่องของคุณผู้หญิงเป็นเรื่องจริง… 


 


 


“ถึงแล้วครับ” หวังหวาขับรถมาจอดหน้าบ้านถังโจวโจว ถังโจวโจวไม่รอให้หวังหวามาช่วยเปิดประตูรถให้ 


 


 


“คุณรีบไปส่งลั่วอิงที่โรงพยาบาลเถอะ ฉันขึ้นไปเองได้ ลั่วอิง หนูต้องเป็นเด็กดีนะคะ” 


 


 


“แม่โจวโจว พรุ่งนี้จะมาหาหนูไหมคะ” ลั่วอิงยื่นคอยาวออกจากหน้าต่างรถ ดึงเสื้อของถังโจวโจวไว้ 


 


 


“อาจจะนะคะ แต่ตอนนี้ให้ลุงหวังหวาไปส่งหนูหาคุณย่าก่อนนะ บ๊ายบายค่ะ” ถังโจวโจวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้ใจของเธอพะวงถึงแต่คำพูดของเมิ่งชิงซี แท้จริงแล้วเธอตั้งใจจะพูดว่าอะไร 


 


 


หวังหวาขับรถออกไป เมื่อลั่วอิงมองไม่เห็นถังโจวโจวแล้วก็หันหน้ากลับมา 


 


 


คุณแม่ถังเห็นถังโจวโจวกลับมาแล้ว ก็ตรงเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังเธอ “ลั่วอิงล่ะ” ถังโจวโจวบอกว่าจะพาลั่วอิงมากินข้าวด้วย แต่ทำไมไม่เห็นลั่วอิงเดินเข้ามา คุณแม่ถังจึงต้องถามถึงเป็นธรรมดา 


 


 


คุณแม่ถังเห็นว่ามีแค่ถังโจวโจวกลับมาคนเดียว เดาว่าระหว่างทางลูกสาวต้องเจอเรื่องอะไรไม่ดีมาสักอย่าง ขณะกำลังจะเอ่ยปากถาม คุณพ่อลั่วก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “โจวโจวเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ กินข้าวก่อนแล้วค่อยคุยเถอะ เซ่าเซินอาจจะมีเรื่องด่วนเลยพาลั่วอิงกลับไปแล้ว” 


 


 


ตอนนี้คุณแม่ถังสนใจแต่สีหน้าซีดเซียวของถังโจวโจว ดึงเธอให้มานั่งที่โต๊ะอาหาร และรีบถามเธอ “โจวโจว ลูกเป็นอะไรไป มีเรื่องอะไรรีบบอกแม่เร็ว” 


 


 


ถังโจวโจวคิดไปถึงเรื่องที่เธอกลัวที่สุด เธออยากลืมความคิดนี้ในหัวของเธอโดยเร็ว พยายามยิ้ม “แม่คะ หนูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย รีบกินข้าวกันเถอะค่ะ” 


 


 


คุณพ่อลั่วหยิบตะเกียบขึ้นมา พลางบอกให้คุณแม่ถังรีบนั่ง “กินข้าวเถอะ” แม้คุณแม่ถังยังไม่เชื่อถังโจวโจว แต่วันนี้ถังโจวโจวก็ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เรื่องที่สงสัยไว้ค่อยพูดคุยหลังกินข้าวเสร็จก็แล้วกัน 


 


 


ระหว่างกินข้าวถังโจวโจวดูเหม่อลอย คุณพ่อและคุณแม่ถังสังเกตเห็น คุณแม่ถังตักของที่ถังโจวโจวชอบกินที่สุดให้ “โจวโจว นี่คือของที่ลูกชอบที่สุด กินให้เยอะหน่อย” 


 


 


“ค่ะ” ถังโจวโจวตักอาหารเข้าปากเงียบๆ เห็นลูกสาวตัวเองไม่ยิ้ม คุณพ่อคุณแม่ถังก็เริ่มกลุ้มใจ 


 


 


นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมจู่ๆ ถังโจวโจวก็ดูไม่มีความสุขเลย คุณแม่ถังคิดว่าวันนี้ถังโจวโจวต้องไปเจอเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ หรือเพราะลั่วอิง? 


 


 


หลังกินข้าวเสร็จ ถังโจวโจวรับหน้าที่ล้างจาน คุณแม่ถังมาถึงห้องครัว เห็นถังโจวโจวล้างจานและตะเกียบเสร็จแล้ว ก็ถามเธอเบาๆ ว่า “โจวโจว หรือวันนี้ลั่วอิงไม่ยอมมากับลูก?” 


 


 


“แม่คะ แม่คิดมากไปแล้ว ไม่มีเรื่องแบบนั้นสักหน่อย ลั่วอิงแค่ต้องไปเยี่ยมคุณย่า…” เมื่อถังโจวโจวหลุดปาก เธอก็อยากจะตีปากตัวเองเหลือเกิน 


 


 


คุณแม่ถังรีบเค้นถาม “คุณย่า? แม่สามีลูกเป็นอะไร” ครั้งนี้ที่ถังโจวโจวตั้งท่าจะกลับมาอยู่นานคงไม่ใช่เพราะคุณแม่ลั่วใช่ไหม 


 


 


เมื่อถังโจวโจวได้ยินคุณแม่ถังถามถึงคำถามนี้ เธอก็พยายามปรับเสียงตัวเองให้ปกติที่สุด เพราะกลัวว่าคุณแม่ถังจะจับพิรุธได้ “ไม่มีอะไรค่ะ ท่านปกติดี” 


ตอนที่ 250 ปกปิด 


 


 


           “ฉันบอกหรือคะว่าท่านเป็นอะไร” ถังโจวโจวไม่กล้าสบตาคุณแม่ถัง ทำให้คุณแม่ถังรู้ว่าถังโจวโจวต้องไปทำความผิดอะไรมา ลูกสาวกำลังมีเรื่องปกปิดเธอ 


 


 


“โจวโจว แม่สามีลูกเกิดเรื่องทำไมไม่บอกแม่ ลูกจะปิดบังแม่ไปถึงเมื่อไร ลูกกลับมาบ้านครั้งนี้ก็เพราะเธอใช่ไหม” 


 


 


“แม่คะ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่อย่าคิดมาก แม่ไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อเถอะค่ะ หนูกำลังยุ่งอยู่ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ” ถังโจวโจวถือถ้วยอยู่ใบหนึ่งที่ยังล้างไม่เสร็จ ทำได้แค่บอกให้คุณแม่ถังออกไปก่อน 


 


 


“แม่อยู่กับพ่อทุกวัน ห่างกันสักหน่อยคงไม่เป็นไร ไม่เหมือนลูกที่แต่งงานออกไปแล้ว แม่ควรจะอยู่กับลูกให้มากต่างหาก” 


 


 


ถังโจวโจวได้ยินคุณแม่ถังพูดอย่างนั้นก็รู้สึกเสียใจ ในใจรู้สึกไม่ดีขึ้นมา แต่ทำได้แค่ยิ้มและพูดว่า “แม่ขา หนูก็ยังดีอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วหนูก็รู้ว่าแม่คิดถึงหนูมาก ถึงได้กลับมาอยู่ด้วยแล้วนี่ไงคะ แม่อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ทุกอย่างยังปกติดีค่ะ” 


 


 


ถังโจวโจวทนบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้แทบไม่ไหว คุณแม่ถังควรมีความสุข และไม่ควรต้องเสียใจเพราะเธออีก ที่เธอต้องปิดบังคุณแม่ถังอย่างนี้ ก็เพียงแค่ต้องการให้คุณแม่ถังได้ใช้ชีวิตอย่างสบายใจเท่านั้น 


 


 


ถังโจวโจวล้างจานเสร็จ เช็ดมือ แล้วเดินออกมา คุณพ่อคุณแม่ถังกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ ถังโจวโจวจึงหยิบโทรศัพท์มานั่งเล่น 


 


 


หวังหวาพาลั่วอิงไปส่งที่โรงพยาบาล คุณแม่ลั่วเห็นลั่วอิงมาแล้ว จึงกวักมือเรียกให้เธอเข้าไปหาทันที “ลั่วอิง ทำไมวันนี้มาเยี่ยมย่าได้ล่ะ” 


 


 


“คุณย่าให้ผู้หญิงไม่ดีคนนั้นไปรับหนูหรือคะ” ลั่วอิงพูดด้วยสีหน้าโกรธมาก หรือผู้หญิงคนนั้นโกหกเธอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครั้งหน้าเธอจะสั่งสอนเมิ่งชิงซีให้หนัก ลั่วอิงเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากจริงๆ 


 


 


คุณแม่ลั่วเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น “ที่แท้ชิงซีไปรับหนูมาเหรอ ย่าให้เธอไปรับหนูเอง แต่ย่าแค่พูดขึ้นมาเฉยๆ ไม่คิดว่าเธอจะไปรับหนูจริงๆ ชิงซีนะชิงซี” 


 


 


“หนูไม่สนหรอกค่ะ” ลั่วอิงเบ้ปาก ตอนนี้เธอไม่มีความสุขเลย เดิมทีจะได้ไปกินข้าวที่บ้านคุณยายกับแม่โจวโจวแล้ว ไม่คิดว่าจะถูกผู้หญิงไม่ดีโกหกปั้นเรื่องใส่อย่างนี้ 


 


 


“ลั่วอิง เป็นอะไร มาเยี่ยมย่าแล้วไม่มีความสุขเหรอ” 


 


 


เท้าเล็กๆ ของลั่วอิงยืดไปข้างหน้า เกิดเสียงเอี๊ยดบนพื้นเล็กน้อย บรรยากาศดูอึดอัดขึ้น “คุณย่าคะ คุณย่าอย่าโกรธแม่โจวโจวได้ไหม เธอเป็นคนดีมาก ไม่ได้ตั้งใจจะผลักคุณย่า” 


 


 


ลั่วอิงได้ยินแม่นมจ้าวพูดว่าถังโจวโจวผลักคุณแม่ลั่วตกบันได เธอไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด แม่โจวโจวเป็นคนจิตใจดีมาก จะทำเรื่องอย่างนั้นได้อย่างไร ต้องเป็นแผนของผู้หญิงไม่ดีคนนั้นแน่ 


 


 


“ลั่วอิง รู้ไหมว่าย่ารักหนูมาก ทำไมไม่คิดถึงจิตใจของย่าบ้างเลย ถ้าหนูยังจะพูดถึงถังโจวโจวอีก ต่อไปก็ไม่ต้องมาหาย่าแล้ว! ย่าเป็นย่าของหนูแท้ๆ แต่กลับไม่เคยเชื่อย่าเลย แล้วยังจะไปเชื่อคำพูดคนนอกอย่างถังโจวโจวอีก” 


 


 


คุณแม่ลั่วเริ่มสงสัยว่าถังโจวโจวทำเสน่ห์ใส่คนในบ้านหรือเปล่า ลั่วเซ่าเชินกับลั่วอิงถึงได้ปกป้องเธอกันนัก 


 


 


“คุณย่าคะ หนูไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้น…” ลั่วอิงพยายามอธิบาย แต่น่าเสียดายที่คุณแม่ลั่วเพียงได้ยินชื่อถังโจวโจวก็ระเบิดลงแล้ว โชคดีที่คุณพ่อลั่วไม่อยู่ในห้อง ถ้าคุณพ่อลั่วได้ยินว่าลั่วอิงช่วยขอร้องให้ถังโจวโจว คิดว่าคงได้ตัดปู่ตัดหลานก็คราวนี้ 


 


 


“ลั่วอิง กลับบ้านไปเถอะ เดี๋ยวย่าจะให้หวังหวาไปส่ง และย่าก็ไม่อยากให้หนูมาเยี่ยมย่าอีก” คุณแม่ลั่วเสียใจมาก หลานตัวเองแท้ๆ กลับช่วยพูดแทนคนอื่น ถังโจวโจว ผู้หญิงสารเลว เธอคงทำเสน่ห์ใส่เซ่าเชินกับลั่วอิงจริงๆ 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 251 คุณพ่อลั่วจะจัดการเรื่องนี้เอง 


 


 


           คุณแม่ลั่วคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรให้ถังโจวโจวออกจากตระกูลลั่วไปเสียที และให้เธอได้เมิ่งชิงซีมาเป็นสะใภ้ 


 


 


ตอนนี้อาเชินก็ดื้อ เธอใช้เขาก็ไม่มีประโยชน์ คุณแม่ลั่วตั้งมั่นว่าจะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว เธอสัมผัสผ้าพันแผลบนหัวของเธอ นี่เป็นสิ่งที่ถังโจวโจวทำกับเธอ ดังนั้น ถังโจวโจวต้องชดใช้! 


 


 


ใบหน้าคุณแม่ลั่วเผยรอยยิ้มชั่วร้าย เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็เก็บงำอารมณ์ทันที “อวี้ฮุ่ย ปวดหัวอีกหรือเปล่า” คุณพ่อลั่วเห็นคุณแม่ลั่วลูบผ้าพันแผล จึงคิดว่าอาการเจ็บกลับมาอีก 


 


 


คุณแม่ลั่วเอามือลงทันที “เหวินอวี๋ ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากแตะดูว่ายังเจ็บอยู่ไหม ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหายดี” 


 


 


“ไม่ต้องกังวลหรอก อีกไม่นานก็หายแล้ว ถ้าคุณเบื่อ ผมจะช่วยพยุงคุณออกจากเตียงไปเดินเล่นนะ” 


 


 


“ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยออกไปเดิน” ตอนนี้ลั่วอิงก็ไม่อยู่แล้ว 


 


 


“ลั่วอิงมาแล้วใช่ไหม” คุณพ่อลั่วเช็ดตัวพลางชวนคุณแม่ลั่วคุย 


 


 


“อืม เธอมาพูดแทนถังโจวโจวด้วย” เมื่อคุณแม่ลั่วพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็โกรธจัด หลานสาวคนนี้ที่สู้เลี้ยงดูมา ตอนนี้กลับรู้จักแต่ช่วยคนอื่น ไม่เป็นห่วงย่าเลยสักนิด ใช้ได้ที่ไหนกัน 


 


 


“อย่าโมโห ลั่วอิงยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง แล้วเรื่องถังโจวโจวคุณคิดจะทำยังไง” คุณพ่อลั่วไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้เลยตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ เขารู้ว่าหลังจากคุณแม่ลั่วบาดเจ็บก็ไม่เคยสบายใจได้สักวัน แล้วลูกชายก็ไม่ได้ดั่งใจ คุณแม่ลั่วก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร 


 


 


ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน เมื่อคุณแม่ลั่วได้ยินคุณพ่อลั่วถามเรื่องนี้ขึ้นมา ก็รู้ความคิดของเขาทันที “หรือว่าคุณคิดออกแล้วว่าจะทำยังไง” คงไม่เหมือนแบบที่เธอคิดไว้ทั้งหมด แต่คุณพ่อลั่วก็ไม่ใช่คนเยือกเย็นอะไรนัก ถ้าเป็นแบบที่เธอคิดจริงๆ อีกไม่นานเมิ่งชิงซีก็จะได้มาเป็นคนบ้านตระกูลลั่วแล้ว 


 


 


“ไม่ใช่ว่าคุณไม่อยากเจอหน้าเธออีกหรือไง ในเมื่อเธอทำให้คุณบาดเจ็บก็ต้องรับผิดชอบ” แต่ไหนแต่ไรมาคุณพ่อลั่วก็ไม่ได้รู้สึกดีกับถังโจวโจวอยู่แล้ว ในความคิดเขา ผู้หญิงที่ไม่สามารถช่วยให้ลูกชายของเขาก้าวหน้าในอาชีพ หรือแสดงความสามารถใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเขาได้ เธอก็ไม่เหมาะสมกับตระกูลลั่วแล้ว 


 


 


“เหวินอวี๋ ฉันแค่อยากให้เธอหย่ากับอาเชิน เรื่องที่ผลักฉันก็จะแล้วกันไป ฉันจะไม่ถือสาความผิดครั้งนี้ของเธออีก แต่ถ้าเธอไม่แยกกับอาเชิน ฉันก็จะไม่ให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกเลย” คุณพ่อลั่วก็ไม่ได้คิดว่าความคิดของคุณแม่ลั่วผิดตรงไหน เขาเองก็คิดอย่างนี้เช่นกัน 


 


 


“ได้ ผมเห็นด้วยกับคุณ อีกไม่กี่วันผมจะไปพบถังโจวโจว แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คุณต้องการ” 


 


 


“เหวินอวี๋ คุณต้องดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันไม่อยากให้คุณเป็นอะไรไป ถ้าคุณป่วยขึ้นมาอีก…” เมื่อได้ยินว่าคุณพ่อลั่วจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ในที่สุดคุณแม่ลั่วก็คลายกังวลได้เสียที เธอมีความสุขขึ้นมาก 


 


 


“ผมรู้แล้ว จะไม่ทำให้คุณต้องเป็นห่วง” แล้วคุณพ่อคุณแม่ลั่วก็คุยเล่นกันในห้องผู้ป่วยอย่างสบายใจ 


 


 


หวังหวามาส่งลั่วอิงที่โรงพยาบาลได้ไม่นาน เขาก็ต้องรับลั่วอิงพาไปส่งที่คฤหาสน์หลังเล็กอีก เมื่อลั่วอิงกลับมาถึงบ้าน ลั่วเซ่าเชินก็ยังไม่กลับมา 


 


 


“คุณหนู ไปกินข้าวบ้านคุณยายมาแล้วหรือคะ” กว่าลั่วอิงจะถึงบ้านก็หนึ่งทุ่มกว่าแล้ว ก่อนหน้านี้ป้าหลิวได้รับสายจากลั่วเซ่าเชินบอกว่าลั่วอิงจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน ดังนั้น เธอจึงไม่ได้เตรียมอะไรไว้ แต่ไม่ทันไรลั่วอิงก็กลับมาแล้ว? 


 


 


ลั่วอิงส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกสลดหดหู่มาก ป้าหลิวจูงเธอไปนั่งที่โซฟา 


 


 


“คุณหนู บอกป้าหลิวสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ว่าวันนี้ต้องไปกินข้าวบ้านคุณยายหรือคะ” คุณผู้หญิงก็อยู่ที่นั่น คุณหนูน่าจะมีความสุขมากกว่านี้สิ 


 


 


“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้ไปบ้านคุณยาย ฮือๆๆ ผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้นหลอกหนู แล้วคุณย่าก็ต่อว่าหนูอีก” 


ตอนที่ 252 โทรศัพท์หาแม่โจวโจว


 


 


     “ไม่ต้องร้องค่ะๆ คุณหนู ผู้หญิงนิสัยไม่ดีคือใครคะ” ตอนที่ลั่วอิงพูดถึงผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้น สีหน้าดูรังเกียจเธอมาก ป้าหลิวจึงสงสัยเป็นพิเศษ


 


 


“ผู้หญิงนิสัยไม่ดีก็คือผู้หญิงนิสัยไม่ดี ป้าหลิวคะ หนูหิวข้าวมากเลยค่ะ” ลั่วอิงพูดจบ ท้องก็ร้องขึ้นมาทันที ป้าหลิวจึงหลุดหัวเราะออกมา


 


 


“ดูเหมือนว่าคุณหนูจะหิวมากแล้วจริงๆ เดี๋ยวป้าจะรีบไปทำของกินมาให้เลยค่ะ ตอนนี้กินคุกกี้รองท้องไปก่อนนะคะ”


 


 


ลั่วอิงเห็นป้าหลิวเข้าไปในครัว ความอึดอัดใจของเธอยังคงไม่จางหายไป เธอคิดถึงถังโจวโจวขึ้นมา แล้วเธอก็วิ่งไปที่โทรศัพท์ทันที เธอกดเลขทั้งหมดที่จำได้ลงไป ตื๊ดๆๆ…


 


 


รออยู่นานกว่าถังโจวโจวจะรับสาย “ฮัลโหล ป้าหลิว มีเรื่องอะไรหรือคะ” ถังโจวโจวเห็นเบอร์ที่บ้านโทรมา เธอจึงคิดว่าป้าหลิวโทรหาเธอ


 


 


“แม่โจวโจวขา…” ลั่วอิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ร้องไห้ใส่โทรศัพท์เสียแล้ว


 


 


ถังโจวโจวร้อนรนใจขึ้นมาทันที “ลั่วอิง อย่าร้องไห้นะ แม่โจวโจวอยู่นี่ อย่าร้องค่ะ”


 


 


ถังโจวโจวไม่คิดว่าลั่วอิงจะโทรมา เธอไม่ได้ไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วหรอกหรือ ทำไมถึงกลับมาแล้ว ถังโจวโจวหันไปมองนาฬิกา


 


 


คุณแม่ถังและคุณพ่อถังเห็นถังโจวโจวเดินไปที่ระเบียง เมื่อครู่เหมือนจะได้ยินเธอเรียกชื่อลั่วอิง จึงตามไปถามถังโจวโจว “โจวโจว ลั่วอิงโทรมาเหรอ”


 


 


“แม่คะ อีกเดี๋ยวค่อยคุยนะคะ” ถังโจวโจวไม่อยากให้คุณแม่ถังพูดสายกับลั่วอิงตอนนี้ ไม่อย่างนั้นความลับของเธออาจจะถูกเปิดเผยได้


 


 


ถังโจวโจวเปลี่ยนไปแอบคุยที่ห้องของตัวเอง เธอล็อกประตูก่อนจะหันมาคุยกับลั่วอิงในสาย “อย่าร้องนะคะ ลั่วอิง ถ้าลั่วอิงยังร้อง แม่โจวโจวจะไม่รักแล้วนะ”


 


 


“หนูไม่ร้องแล้วค่ะ แม่โจวโจวขา วันนี้หนูคุยเรื่องคุณแม่กับคุณย่า แต่คุณย่ากลับต่อว่าหนู” ลั่วอิงเล่าอย่างเจ็บปวดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้


 


 


ถังโจวโจวได้ยินอย่างนั้น ก็เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดตอบ “ลั่วอิง แม่โจวโจวบอกหนูแล้วไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไมหนูยังไม่เชื่อฟังแม่อีกว่าคุณย่าอาจจะอารมณ์ไม่ดีเอาได้ ในเมื่อคุณย่าไม่อยากได้ยินชื่อของแม่โจวโจว ต่อไปหนูก็อย่าพูดถึงแม่โจวโจวต่อหน้าคุณย่าอีกนะคะ”


 


 


จากคำบอกเล่าของลั่วอิง ถังโจวโจวสามารถเข้าใจได้ว่าตอนนี้คุณแม่ลั่วเกลียดเธอมาก ถังโจวโจวกุมหน้าผากตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้เธอไม่กล้าไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วที่โรงพยาบาล และลั่วเซ่าเชินก็บอกอยู่หลายครั้งว่ายังไม่ให้เธอไป


 


 


“แต่ว่าแม่โจวโจวขา…”


 


 


“ลั่วอิง แม่โจวโจวพูดจริงนะคะ ที่แม่พูดก็เพื่อหนูทั้งนั้นนะ”


 


 


เสียงของถังโจวโจวเริ่มดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอกลัวว่าลั่วอิงจะไม่เชื่อฟัง เพราะสิ่งที่ลั่วอิงทำไม่ต่างจากยั่วโมโหคุณแม่ลั่วเลย ที่ผ่านมาลั่วอิงถูกเลี้ยงดูแบบตามใจมาโดยตลอด คุณแม่ลั่วเองก็แทบไม่เคยปฏิเสธลั่วอิงเลย แต่ถังโจวโจวรู้ว่าต้องพูดกับลั่วอิงอย่างไร แบบไหนลั่วอิงถึงจะเชื่อฟัง


 


 


“แม่โจวโจว คุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านได้ไหมคะ ไม่ต้องให้คุณย่ารู้ก็ได้ …ต่อไปพวกเราก็ไปเยี่ยมคุณย่าให้น้อยลง แบบนี้คุณย่าก็จะไม่โมโหแล้ว” ลั่วอิงพูดออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องที่จัดการได้ง่ายมาก ถังโจวโจวก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธออย่างไรดี


 


 


เดิมถังโจวโจวก็ไม่ใช่คนที่ชอบคิดอะไรมากมาย แต่คนเรายิ่งโตขึ้นก็ยิ่งพบแต่ความผิดหวัง ซึ่งลั่วอิงยังเด็กนัก


 


 


“ลั่วอิงเด็กดี แล้วตอนนี้คุณพ่อกลับมาบ้านหรือยังคะ” ถังโจวโจวไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลั่วอิงอีก ดังนั้นจึงจำต้องเปลี่ยนเรื่องไป อและยากให้เธอลืมเรื่องที่คุณแม่ลั่วทำให้เธอเสียใจด้วย


 


 


“ยังไม่มาเลยค่ะ” ลั่วอิงเล่นกับนิ้วตัวเอง ในบ้านเงียบเหงามาก ไม่มีแม่โจวโจว ไม่มีคุณพ่อ เธอไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเลย


 


 


 


 


ตอนที่ 253 ในเงามืด


 


 


           “แม่โจวโจวขา พรุ่งนี้มารับหนูหลังเลิกเรียนได้ไหมคะ”


 


 


“ได้สิคะ” เมื่อลั่วอิงได้ยินอย่างนี้ เธอก็นั่งลงอย่างสบายใจทันที ไม่คิดว่าวันนี้แม่โจวโจวจะตอบรับเธอเร็วอย่างนี้เลย


 


 


“คุณหนู มากินข้าวได้แล้วค่ะ”


 


 


“นี่ลูกยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ” ถังโจวโจวได้ยินเสียงป้าหลิวผ่านสายโทรศัพท์ เธอไม่รู้ว่าลั่วอิงยังไม่ได้กินอะไรเลย แล้วนี่เธอยังมาคุยกับลั่วอิงอยู่ได้ตั้งนาน ไม่รู้ว่าตอนนี้ท้องของลั่วอิงจะหิวสักแค่ไหนแล้ว


 


 


“แม่โจวโจว หนูไปกินข้าวก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้คุณแม่อย่าลืมมารับหนูนะ” ลั่วอิงกระโดดลงจากโซฟา


 


 


ถังโจวโจวเองก็ไม่อยากรั้งเธอไว้ “รีบกินเถอะค่ะ แล้วพรุ่งนี้แม่จะไป”


 


 


หลังจากวางสาย ลั่วอิงก็เดินไปที่โต๊ะอาหาร ป้าหลิวยกจานอาหารออกมา สีหน้าของลั่วอิงก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากแล้ว “คุณหนู มีอะไรทำให้ดีใจถึงขนาดนี้หรือคะ” เมื่อครู่นี้ลั่วอิงยังอารมณ์เสียอยู่เลยไม่ใช่หรือ


 


 


“ไม่บอกค่ะ” ลั่วอิงส่ายหน้าเบาๆ ทำให้ป้าหลิวหัวเราะ


 


 


“ได้ค่ะได้ ป้าหลิวไม่ถามแล้ว รีบกินข้าวเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นมันจะเย็นหมด” คุณหนูก็หัดมีความลับของตัวเองแล้วหรือนี่


 


 


ลั่วอิงตักอาหารเข้าปาก เธอหิวมากจริงๆ ตอนนี้ถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเชินต่างก็ไม่อยู่บ้านกันเลย ไม่ว่าเธอจะหันไปมองทางไหน ก็ไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย


 


 


 


 


วันถัดมา ถังโจวโจวรักษาสัญญา เธอมารอลั่วอิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลได้สักพักหนึ่งแล้ว


 


 


คุณครูมาส่งลั่วอิงที่หน้าประตู เมื่อเธอเห็นว่าถังโจวโจวยืนรออยู่ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที “แม่โจวโจวขา แม่ไม่ได้โกหกหนูจริงๆ ด้วย”


 


 


“ระวังล้มค่ะ” ถังโจวโจวถูกลั่วอิงโถมตัวเข้าใส่ ถ้าหากพากันล้มลงไป อาจจะเจ็บกันทั้งสองคน


 


 


สองแม่ลูกหัวเราะให้กัน ขณะนั้นซอกเล็กๆ แห่งหนึ่งในโรงเรียนอนุบาล มีเงาคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้น ดวงตาจ้องมองไปยังทิศทางของพวกเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นลั่วอิงชัดๆ ดวงตาคู่นั้นพลันปรากฏแววตาที่น่ากลัว


 


 


ถังโจวโจวไม่ได้สังเกตเห็นเลย เธอจูงมือของลั่วอิงพาเดินออกไป ทั้งสองคนจูงมือกันเดินทางไปบ้านถัง ในเมื่อมารับลั่วอิงหลังเลิกเรียนก็ย่อมต้องพาไปเจอคุณตาคุณยาย ไว้กินข้าวด้วยกันเสร็จแล้วค่อยให้ลั่วเซ่าเชินไปรับ และตัวเธอเองก็จะได้เจอเขาด้วย


 


 


“วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้างคะ” ถังโจวโจวจูงลั่วอิงเดินไปยังป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด ลั่วอิงสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ อยู่ด้านหลัง เด็กน้อยพูดคุยกับคุณแม่เสียงเจื้อยแจ้ว ผู้คนโดยรอบต่างมองมาที่สองแม่ลูกด้วยแววตามีความสุขระคนอิจฉา


 


 


‘ทำไมเราถึงไม่มีภรรยาที่ดีแบบนี้บ้างนะ’


 


 


‘ทำไมฉันถึงไม่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้บ้างนะ’


 


 


จู่ๆ ถังโจวโจวก็หันหลังกลับไปดู แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอรู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดมากเกินไป เธอหันไปมองรอบๆ อีกครั้ง ทางที่เดินมาเหลือแต่เธอกับลั่วอิงแล้ว ถังโจวโจวจึงแทบจะกึ่งลากลั่วอิงให้เดินตาม เธอต้องพาลั่วอิงเดินเร็วขึ้นอีกหน่อย


 


 


“แม่โจวโจวขา ทำไมต้องเดินเร็วขนาดนี้ด้วยล่ะคะ” จู่ๆ ถังโจวโจวก็เพิ่มความเร็ว ลั่วอิงขาสั้นเท่านี้ จึงเดินตามเธอไม่ทัน ถังโจวโจวได้ยินอย่างนั้นก็ผ่อนให้ช้าลงทันที


 


 


“เปล่าจ้ะ แม่อาจจะคิดอะไรเพลินไป” ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองพวกเธออยู่ แต่พอหันไปมองแล้วก็ไม่มีใคร ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เธอไปรับลั่วอิงมาจากโรงเรียนแล้ว และมันก็ยังไม่หายไป


 


 


ความรู้สึกนี้ทำให้ถังโจวโจวใจเสียมาก แต่เมื่อพวกเธอขึ้นรถประจำทางไปแล้ว ความรู้สึกนั้นก็หายไป ถังโจวโจวถอนหายใจโล่งอก


 


 


คนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดจับจ้องถังโจวโจวและลั่วอิงมาตลอดทาง เมื่อถังโจวโจวห่างออกไปจากสายตา ช่วงขณะหนึ่งก็ร้อนรนอยากเร่งตามไป แต่ก็กลัวว่าถังโจวโจวจะจับได้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม