ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ 238-245

 ตอนที่ 238 ภูเขาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาภูเขา 


 


 


[เซ่าเชิน คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ] ถังโจวโจวขมวดคิ้วแน่น เธอไม่รู้ว่าถ้าลั่วเซ่าเชินเห็นคำถามนี้แล้วจะคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันไหม แล้วถ้าเขาไม่สนใจเธออีก เธอควรจะทำอย่างไร 


 


 


ไม่ได้! ถังโจวโจว เธอต้องตั้งสติ ภูเขาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาภูเขา ถังโจวโจวคิดว่า ตอนนี้เธอจะฟุ้งซ่านไม่ได้ เธอต้องอดทนไว้ 


 


 


ลั่วเซ่าเชินอ่านข้อความของถังโจวโจวแล้ว ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เขาปิดตาลง ไม่อยากมองไปที่หน้าจออีก เมื่อพูดถึงคุณแม่ลั่วขึ้นมา ความสุขเมื่อครู่นี้ทั้งหมดของลั่วเซ่าเชินพลันหายไป หลังจากนี้คุณแม่ลั่วจะขัดขวางเขากับถังโจวโจวไม่ให้อยู่ด้วยกันจนถึงที่สุด ประหนึ่งเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ทั้งสองคนจะข้ามผ่านไปไม่ได้ 


 


 


ลั่วเซ่าเชินไตร่ตรองดูอีกครั้ง ทำไมจู่ๆ วันนี้คุณแม่ลั่วถึงตกบันได เขาคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตอนนั้นมีคนยืนอยู่สามคน คุณแม่ลั่ว ถังโจวโจว และเมิ่งชิงซี 


 


 


เมิ่งชิงซียืนอยู่กับถังโจวโจว ตอนนั้นสีหน้าของถังโจวโจวตกใจมาก มือไม้สั่นไปหมด ส่วนสีหน้าของเมิ่งชิงซีก็รู้สึกเหมือนเสียใจมาก เธอมองถังโจวโจวด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ 


 


 


ลั่วเซ่าเชินยกมือขึ้นปิดตา ไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้อีก ไม่ว่าถังโจวโจวจะเป็นคนทำหรือไม่ ในใจเขาก็เชื่อเสมอว่าถังโจวโจวไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรือ ฉะนั้นก็ไม่ควรคิดเรื่องนี้ให้กวนใจอีก 


 


 


ถังโจวโจวรออยู่นานแล้วลั่วเซ่าเชินก็ยังไม่ตอบข้อความกลับมา ดูท่าลั่วเซ่าเชินคงจะโกรธเธอจริงๆ ถังโจวโจวถอนหายใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกมาก ทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าเธอถูกอิทธิพลของเมิ่งชิงซีควบคุมทุกอย่างไว้ได้หมด 


 


 


ถังโจวโจวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน แต่ตอนนี้เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว คุณแม่ลั่ว คุณพ่อลั่ว แม่นมจ้าว ลั่วเซ่าเชิน และเมิ่งชิงซี ต่างก็เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่าเธอเป็นคนทำ และไม่ว่าถังโจวโจวจะมีอีกกี่ร้อยปาก ก็คงไม่พอใช้แก้ตัว 


 


 


ฉันควรจะทำยังไงดี ถังโจวโจวไม่อยากห่างจากลั่วเซ่าเชิน แต่ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ลั่วคงเกลียดเธอหนักมากกว่าเดิม หากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ถังโจวโจวคิดว่าด้วยการกระทำของเมิ่งชิงซีในครั้งนี้ ไม่แน่ว่าคุณพ่อคุณแม่ลั่วอาจจะทำให้เมิ่งชิงซีได้อยู่ด้วยกันกับลั่วเซ่าเชินสมใจก็เป็นได้ 


 


 


แล้วทุกคนก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข เธอกลัวว่าแม้แต่ลั่วเซ่าเชินก็จะเห็นด้วยกับความคิดนี้ ถังโจวโจวคิดไปถึงว่าปกติลั่วเซ่าเชินกับเธอชอบทะเลาะกัน แล้วก็มีหลายครั้งที่เขาก็ไม่ยอมให้เธอ 


 


 


“ถังโจวโจว เธอคิดอะไรอยู่ เมื่อกี้เธอเพิ่งบอกตัวเองไม่ใช่หรือว่าจะไม่ยอมแพ้ แล้วยังจะคิดเรื่องแย่ๆ อีกทำไม เธอต้องรวบรวมสติ ห้ามท้อถอยเด็ดขาด” 


 


 


หลังจากถังโจวโจวให้กำลังใจตัวเองแล้ว ก็ส่งข้อความหาลั่วเซ่าเชินอีก 


 


 


[เซ่าเชิน ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณไม่อยากเจอฉัน แต่ฉันก็เป็นห่วงสุขภาพคุณแม่ คุณบอกฉันหน่อยได้ไหมคะ] 


 


 


[เซ่าเชิน แล้วลั่วอิงล่ะ เธอคิดถึงฉันไหม] 


 


 


[เซ่าเชิน ตอนฉันไม่อยู่ คุณก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ นอนดึกให้น้อยลง ดื่มกาแฟให้น้อยลง มันไม่ดีต่อสุขภาพ] 


 


 


เสียงแจ้งเตือนดังไม่หยุด ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวส่งข้อความมาเรื่อยๆ ใจที่แข็งเป็นหินก็ค่อยๆ อ่อนยวบลง ซึ่งเดิมทีหัวใจของลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้เย็นชาต่อถังโจวโจวอยู่แล้ว 


 


 


[คุณแม่ฟื้นแล้ว] 


 


 


[ลั่วอิงถามอยู่ตลอดว่าเมื่อไรคุณจะกลับมา] 


 


 


[คุณเองก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าเดินเท้าเปล่า ใส่รองเท้าด้วย] 


 


 


เนื่องจากถังโจวโจวเป็นคนขี้ลืม เธอกลับไปอยู่ที่บ้านอย่างนี้ เขาไม่มีโอกาสดูแลเธอเหมือนเคย ไม่รู้จะป่วยไปอีกไหม แล้วคุณแม่ถังจะใส่ใจเธอถึงจุดนี้เหมือนเขาไหม ลั่วเซ่าเชินคิดแล้วก็กังวลเล็กน้อย 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 239 ฝันดี 


 


 


           เมื่อเห็นข้อความที่ลั่วเซ่าเชินตอบกลับมา ถังโจวโจวก็อดถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ได้ ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็สนใจเธอ ถังโจวโจวกลิ้งตัวอย่างมีความสุขบนเตียงไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของเธอ 


 


 


ก๊อกๆๆ “โจวโจว ลูกกำลังทำอะไรอยู่ แม่เข้าไปได้ไหม” คุณแม่ถังเคาะบอกถังโจวโจวก่อน หลังจากคุณแม่ถังถามจบก็เปิดประตูเข้ามาเลย 


 


 


โชคยังดี ตอนที่คุณแม่ถังเรียกถังโจวโจว เธอก็หยุดกลิ้งไปมาแล้ว เธอรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วตรงขอบเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย 


 


 


“โจวโจว เมื่อกี้ลูกทำอะไรอยู่น่ะ” คุณแม่ถังเห็นว่าผมของถังโจวโจวยุ่งเหยิง จึงมองถังโจวโจวอย่างสงสัย ในมือถือจานผลไม้เข้ามา ก่อนจะวางไว้ให้บนโต๊ะเครื่องแป้ง 


 


 


“รีบมากินผลไม้เร็ว แม่ทำมาให้” 


 


 


“โอ้โฮ แม่ช่างดีกับหนูจริงๆ” 


 


 


ถังโจวโจวตรงเข้าไปจูบแก้มของคุณแม่ถัง คุณแม่ถังลูบแก้มดูว่าไม่มีน้ำลายแล้วก็บ่นออกมา “เอาละๆ อายุเท่าไรแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่อีก รีบเอาหน้าออกไปเลย กินผลไม้ให้เสร็จแล้วก็นอนซะ แม่ไปก่อนล่ะ” 


 


 


“แม่คะ หนูรักแม่ที่สุดเลยนะ” เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าคุณแม่ถังออกจากห้องไปแล้ว เธอก็ตรงไปล็อกห้องไว้ทันที หลังพิงประตู เมื่อครู่เธอตกใจแทบแย่ ถ้าคุณแม่ถังได้เห็นท่าทางดีใจของเธอ คงจะต้องถามไม่เลิกแน่ๆ 


 


 


“เฮ้อ โชคดีที่ฉันไหวตัวทัน” ผลไม้ทั้งหมดในจานบนโต๊ะเครื่องแป้งมีไม้จิ้มฟันปักอยู่ ถังโจวโจวจึงหยิบมากินทีละชิ้นๆ แอปเปิลแสนหวานนี้ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกินแล้วกินอีก 


 


 


ถังโจวโจวจัดการผลไม้ให้หมดลงได้อย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ยังไม่ลืมลั่วเซ่าเชิน เธอขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้งแล้วส่งข้อความต่อ 


 


 


[เซ่าเชิน คุณนอนหรือยังคะ] 


 


 


ความรู้สึกแบบนี้ดีมากเลย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอกับลั่วเซ่าเชินกำลังจีบกันอยู่ ทั้งสองคนส่งข้อความหากันและกัน แม้ว่าความจริงเธอกับลั่วเซ่าเชินจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ได้เริ่มต้นเหมือนอย่างคู่รักทั่วไปที่ได้ใกล้ชิดกันมาก่อน 


 


 


สิ่งที่เรียกว่า ‘ความใกล้ชิด’ นี้ของถังโจวโจว หมายถึงจิตใจไม่ใช่ร่างกาย 


 


 


[ยัง คุณมีอะไรอีกเหรอ] 


 


 


ถังโจวโจวเห็นข้อความนี้ก็คิดว่าลั่วเซ่าเชินคงเริ่มรำคาญแล้ว เธอจึงรีบตอบกลับไป 


 


 


[เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากจะเตือนคุณให้คุณนอนได้แล้ว ฉันก็จะนอนแล้วเหมือนกัน] 


 


 


[เซ่าเชิน ฝันดีนะ] 


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวหยุดส่งข้อความมาแล้ว ในขณะที่เขายังอยากส่งข้อความหาเธออีก เพราะตอนนี้เขาไม่ง่วงเลยสักนิด แต่ถังโจวโจวบอกจะนอนแล้ว เขาก็ทำได้แค่เลิกล้มความคิดไป “น่าหงุดหงิดจริงๆ” ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของลั่วเซ่าเชินกำลังว่าใคร 


 


 


“ฮัดเช้ย!” ถังโจวโจวลูบจมูกของตัวเอง “ใครบ่นถึงฉันนะ” 


 


 


เธอคิดอยู่พักหนึ่งก็เลิกใส่ใจ ลุกไปหยิบเสื้อผ้า เตรียมตัวไปอาบน้ำ 


 


 


เช้าวันถัดมา เมิ่งชิงซีก็ถืออาหารที่เธอให้แม่บ้านปรุงตั้งแต่เช้ามาเยี่ยมคุณแม่ลั่ว 


 


 


คุณแม่ลั่วเพิ่งตื่นพอดี เมื่อเห็นว่าเมิ่งชิงซีมา ใบหน้าก็ยิ้มไม่หุบ “ชิงซี ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะจ๊ะ” 


 


 


“คุณป้าคะ ฉันตั้งใจเอาอาหารเช้ามาให้ค่ะ นี่คือซุปสตูว์บำรุงร่างกาย คุณป้าจะต้องทานให้มากๆ นะคะ” 


 


 


เมิ่งชิงซีวางของลงบนโต๊ะ คุณพ่อลั่วที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำได้ยินคำพูดของเมิ่งชิงซีเข้าพอดี 


 


 


เมิ่งชิงซีได้ยินเสียงจากทางด้านหลัง จึงหันตัวกลับไปมอง “คุณลุง อรุณสวัสดิ์ค่ะ 


ตอนที่ 240 อยู่เป็นเพื่อนคุณแม่


 


 


           “ชิงซี ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะ กินอะไรมาหรือยัง”


 


 


“ยังเลยค่ะ แต่ถ้าคุณลุงคุณป้าไม่ถือสา หนูก็จะขอกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนด้วยนะคะ แต่ถ้าคุณลุงคุณป้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ”


 


 


คุณแม่ลั่วจะทำให้เมิ่งชิงซีเสียใจได้อย่างไร เธอรีบตอบอย่างยิ้มแย้มทันที “ชิงซีดีขนาดนี้ ป้าจะใจร้ายกับหนูได้ยังไงล่ะ รีบเอาของออกมาเร็ว ป้าหิวแล้ว ชิงซีก็กินข้าวเป็นเพื่อนป้าด้วยนะ”


 


 


คุณพ่อลั่วช่วยปรับเตียงให้ตั้งขึ้นมา เมิ่งชิงซีก็จัดการเรื่องอาหาร เธอหยิบออกมาทีละอย่าง “คุณป้าคะ นี่หนูตั้งใจให้แม่บ้านทำมาให้เป็นพิเศษเลยนะคะ คุณป้าลองชิมดูว่าถูกปากหรือเปล่า”


 


 


“จ้ะ ชิงซีมีน้ำใจจริงๆ ป้ามีความสุขมากเลยนะ” คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าสิ่งที่เมิ่งชิงซีทำได้ใจเธอไปเต็มๆ


 


 


ลั่วเซ่าเชินเดินถือของเข้ามา พลันได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากในห้องผู้ป่วย เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงหัวเราะมีความสุขกันขนาดนี้


 


 


ลั่วเซ่าเชินเดินเข้ามาเห็นเมิ่งชิงซีก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร “ชิงซี คุณมาแล้วเหรอ”


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าบนโต๊ะมีของกินแล้ว และรู้ว่าเป็นเมิ่งชิงซีที่เอามา ส่วนรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ลั่วก็พลันจางหายไปเมื่อเห็นหน้าเขา ลั่วเซ่าเชินรู้ดี ตอนนี้เขากลายเป็นตัวทำลายความสุขของครอบครัวไปแล้ว “พ่อครับ แม่ครับ ในเมื่อชิงซีอยู่เป็นเพื่อนแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปบริษัทก่อนนะครับ”


 


 


“อาเชิน ลูกจะรีบไปทำไม”


 


 


หลังจากคุณแม่ลั่วฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้ เธอมองตรงไปที่ลั่วเซ่าเชิน มองเข้าไปในดวงตาสีดำของเขา คุณแม่ลั่วรู้ว่าปกติลูกชายก็ทำงานหนักมากแล้ว มาครั้งนี้ก็เกิดเรื่องกับเธออีก คงทำให้เขาเป็นห่วงมาก แต่เธอจะทำอย่างไรให้ถังโจวโจวออกไปจากชีวิตของลูกชายได้เสียที


 


 


“แม่ครับ ที่บริษัทยังมีเรื่องให้ผมต้องจัดการอีกมาก ผมคงอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้” ลั่วเซ่าเซินก็ไม่อยากอยู่กับเมิ่งชิงซีด้วย ในเมื่อตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ลั่วชอบเธอมาก ก็ให้เธออยู่ไป แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องให้เขาอยู่ใกล้เธอได้ไหม


 


 


“เซ่าเชิน ตอนนี้คุณป้าสุขภาพไม่แข็งแรง คุณจะไม่อยู่เป็นเพื่อนคุยท่านหน่อยหรือคะ งานที่บริษัทคงไม่สำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณป้าหรอกใช่ไหมคะ”


 


 


เมิ่งชิงซีอยากจะเข้าไปดึงแขนของลั่วเซ่าเชิน แต่ตอนนี้มีคุณพ่อคุณแม่ลั่วอยู่ด้วย เธอไม่ควรทำอย่างนั้น เธอได้แต่จับมือตัวเองไว้ พยายามควบคุมความปรารถนาของหัวใจตัวเอง


 


 


เธออยากเข้าใกล้ลั่วเซ่าเชินให้มากกว่านี้ ตั้งแต่เมื่อวานที่ลั่วเซ่าเชินยอมให้เธอแตะต้องตัวเขา แม้เพียงเล็กน้อยแต่เมิ่งชิงซีก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเธอกับลั่วเซ่าเชินต้องกลับไปเย็นชาเหมือนเดิมอีก อันที่จริงเธอกับลั่วเซ่าเชินควรได้อยู่ด้วยกัน เป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่ทั้งหมดกลับเป็นไปไม่ได้เสียทีเพราะถังโจวโจว


 


 


เมิ่งชิงซีคิดเพียงว่า ผ่านเรื่องนี้ไปได้เมื่อไร คุณแม่ลั่วต้องไม่ยอมให้อภัยถังโจวโจวง่ายๆ แน่ เธอแค่เพียงต้องใช้คุณพ่อคุณแม่ลั่วเป็นเครื่องมือ รอแค่เวลาที่ถังโจวโจวจะต้องออกไปจากตระกูลลั่วมาถึงเท่านั้น


 


 


เดิมทีลั่วเซ่าเชินอยากจะเดินออกไป แต่คำพูดนี้ของเมิ่งชิงซีมีน้ำหนักมากพอ เขาต้องยอมรับว่าสุขภาพของคุณแม่ลั่วย่อมสำคัญมากกว่าบริษัท ซึ่งเขาก็ต้องทำหน้าที่ลูกที่ดี


 


 


“เอาเถอะครับแม่ ในเมื่อชิงซีพูดอย่างนี้ วันนี้ผมก็จะอยู่เป็นเพื่อนแม่นะครับ พ่อครับ พ่อกลับไปพักที่บ้านก่อนไหมครับ วันนี้ผมจะดูแลแม่เอง เมื่อวานพ่อก็อยู่มาทั้งวันแล้ว”


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าคุณพ่อลั่วเหนื่อยล้ามากเต็มที ถ้าคุณพ่อลั่วต้องกลับบ้าน หน้าที่ดูแลคุณแม่ลั่วก็ต้องตกเป็นของลั่วเซ่าเชิน เมื่อวานคุณพ่อลั่วเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แม้จะมีช่วงเวลาที่เป็นสุขเมื่อได้เห็นคุณแม่ลั่วฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นอารมณ์ของเขาก็ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งก็เกิดจากพักผ่อนไม่เพียงพอ


 


 


 


 


ตอนที่ 241 คุณพ่อลั่วเป็นห่วง


 


 


           คุณแม่ลั่วก็เห็นด้วย “นั่นสิ เหวินอวี๋ อย่าทำให้ร่างกายคุณต้องเหนื่อยเพราะฉันเลย ในเมื่ออาเชินพูดแบบนี้แล้ว คุณก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ วางใจได้ ตอนนี้ร่างกายฉันดีขึ้นแล้ว”


 


 


คุณพ่อลั่วมองผ้าพันแผลสีขาวบนหน้าผากคุณแม่ลั่ว แม้คุณแม่ลั่วจะพูดว่าไม่เป็นไรแล้ว แต่คุณพ่อลั่วก็อดกังวลไม่ได้ เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณแม่ลั่วตอนที่เขาไม่อยู่ แล้วเขาจะทำอย่างไร


 


 


“อวี้ฮุ่ย ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณดีกว่า ผมไม่วางใจ” คุณพ่อลั่วไม่วางใจเรื่องอะไร มีหรือคุณแม่ลั่วจะไม่รู้ เพียงแต่เธอก็เป็นห่วงสุขภาพของคุณพ่อลั่วเช่นกัน ตอนนี้เธอเองก็ฟื้นแล้ว และอาเชินกับเมิ่งชิงซีก็อยู่ด้วย เธอไม่อยากให้คุณพ่อลั่วต้องทนเหนื่อยอีก


 


 


“เหวินอวี๋ ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันต้องกังวลก็ต้องกลับบ้านไปพักผ่อน อาเชินกับชิงซีก็อยู่นี่ คุณจะยังไม่วางใจเรื่องอะไรอีกหรือ” คุณแม่ลั่วเห็นว่าคุณพ่อลั่วยังเป็นห่วงเธอ เธอก็รู้สึกภูมิใจกับตัวเอง เพราะเธอได้ทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตของเธอ นั่นก็คือการเลือกลั่วเหวินอวี๋เป็นสามี


 


 


“อวี้ฮุ่ย…” คุณพ่อลั่วยังคิดอยากพูดอะไรต่อ แต่กลับถูกคุณแม่ลั่วขัดจังหวะ


 


 


“เหวินอวี๋ คุณฟังฉันเถอะ กลับไปพักผ่อน ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นหรอก”


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นว่ามีโอกาสดีขนาดนี้ จึงรีบพูดขึ้นทันที “ใช่ค่ะคุณลุง ฟังคุณป้าเถอะนะคะ ตอนนี้คุณป้าไม่เป็นอะไรแล้ว คุณลุงอย่าทำให้คุณป้าเป็นกังวลอีกเลยค่ะ”


 


 


“ชิงซี ถ้าอย่างนั้นช่วยดูแลคุณป้าด้วยนะ” ในที่สุดคุณพ่อลั่วก็ถูกเมิ่งชิงซีโน้มน้าวได้สำเร็จ เขาจะไม่ทำให้คุณแม่ลั่วเป็นกังวลเพราะเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้


 


 


“อวี้ฮุ่ย งั้นผมกลับก่อนล่ะ ตอนบ่ายผมจะมาเยี่ยมคุณใหม่”


 


 


“ได้ รีบไปเถอะ กลับไปพักผ่อน” คุณแม่ลั่วรู้ว่าเมื่อวานคุณพ่อลั่วกังวลเรื่องอาการของเธอ หลับก็ไม่สนิท แต่ตอนนี้คุณพ่อลั่วก็อายุมากแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะต้องใส่ใจกับตัวเองให้มากเสียที


 


 


คุณพ่อลั่วออกจากโรงพยาบาลอย่างไม่เต็มใจ ส่วนเมิ่งชิงซีก็ทันเห็นว่าลั่วเซ่าเชินเบี่ยงตัวออกไปเล็กน้อยเมื่อเธอขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ “เซ่าเชิน คุณนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณป้านะคะ ฉันจะปอกผลไม้ให้”


 


 


“ชิงซี ถือมีดปอกผลไม้มันอันตราย มาอยู่คุยเป็นเพื่อนป้าดีกว่า ให้เซ่าเชินเป็นคนปอกผลไม้ให้หนูทานเถอะ” คุณแม่ลั่วไม่อยากให้เมิ่งชิงซีใช้มีด เกิดบาดเจ็บขึ้นมาจะทำอย่างไร


 


 


เมิ่งชิงซีได้ยินคุณแม่ลั่วพูดอย่างนี้ จึงอายก้มหน้านิ่ง “คุณป้า เรื่องแค่นี้ให้หนูทำก็ได้ค่ะ” เมิ่งชิงซีเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน เธอหันไปมองลั่วเซ่าเชิน แต่เห็นเขายังนั่งนิ่งอยู่จึงรู้สึกผิดหวังมาก


 


 


ที่ลั่วเซ่าเชินไม่อยากทำให้เธอ มันช่างน่าหงุดหงิด หรือเธอสู้ถังโจวโจวในใจเขาไม่ได้ ตอนนี้ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเธอคือคนที่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ลั่ว แต่ทำไมในสายตาของลั่วเซ่าเชินถึงไม่มองมาที่เธอบ้างเลย


 


 


คุณแม่ลั่วรู้สึกได้ว่าบรรยากาศภายในห้องค่อนข้างตึงเครียด สังเกตเห็นว่าเมิ่งชิงซีไม่ละสายตาไปจากลั่วเซ่าเชินเลย เธอจึงหันไปเห็นว่าลูกชายของตัวเองไม่สนใจเมิ่งชิงซีแม้แต่น้อย เพียงนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิมตรงนั้นเหมือนกับกองไม้กองหนึ่ง คุณแม่ลั่วรู้ได้ทันทีว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ เขายังลืมถังโจวโจวไม่ได้


 


 


หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณแม่ลั่วยิ่งเกลียดถังโจวโจวมากขึ้น เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้ถังโจวโจวเป็นสะใภ้ของตระกูลลั่วอีกต่อไป ถ้าเธอยังจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เห็นทีชีวิตเธอคงต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของถังโจวโจวเป็นแน่ ตอนนี้ลูกชายก็ไม่สนใจถึงความปลอดภัยของเธอเลยแม้แต่น้อย คุณแม่ลั่วคิดอย่างนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมา


 


 


“อาเชิน ชิงซีตั้งใจมาหาแม่ ลูกก็ปอกแอปเปิลให้เธอทานหน่อยเถอะ”


ตอนที่ 242 มีดบาด


 


 


           คุณแม่ลั่วต้องเปิดปากพูด ลั่วเซ่าเชินถึงยอมขยับ เขาหยิบแอปเปิลมาจากตะกร้าหนึ่งลูก เมิ่งชิงซีหยิบมีดออกจากลิ้นชักแล้วส่งให้เขา “เซ่าเชิน รบกวนด้วยนะคะ แต่คุณปอกให้คุณป้าทานก่อนเถอะค่ะ ฉันรอได้”


 


 


เมิ่งชิงซีมองตรงไปยังลั่วเซ่าเชิน ไม่ใช่ว่าเธอไม่ร้อนใจ แต่เธอแค่ต้องอดทนเท่านั้น เธอรอได้


 


 


ลั่วเซ่าเชินปอกผลไม้เงียบๆ คุณแม่ลั่วและเมิ่งชิงซีก็คุยกัน เมิ่งชิงซีมองลั่วเซ่าเชินอยู่ตลอด ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่สามารถปกปิดได้


 


 


คุณแม่ลั่วมองเมิ่งชิงซีแล้วก็รู้สึกนับถือในจิตใจยึดมั่นนี้ เธอรู้ว่าเมิ่งชิงซีรักเขาไม่เปลี่ยน ก่อนหน้านี้เมิ่งชิงซีเคยบอกว่าจะปล่อยลั่วเซ่าเชินกับถังโจวโจวไป จะไม่ไปยุ่งวุ่นวายอีก คุณแม่ลั่วมองว่าเมิ่งชิงซีใช้ใจกับเธอและตระกูลลั่ว แตกต่างจากถังโจวโจวที่ใช้แต่พิษสง


 


 


“อาเชิน แม่ไม่ได้จะขอร้องอะไรมาก ขอแค่ให้ลูกหย่ากับถังโจวโจว แล้วแม่จะยกโทษให้เธอ”


 


 


“อ๊ะ เซ่าเชิน มือของคุณบาดเจ็บแล้วค่ะ ฉันจะไปเรียกพยาบาลมานะคะ” เมื่อเมิ่งชิงซีร้องเตือน ลั่วเซ่าเชินถึงพบว่ามือของตัวเองมีเลือดไหลออกมา เขาปอกผลไม้ไม่ระวัง มีดบาดเสียแล้ว


 


 


คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินเป็นแผลเพราะตัวเอง ก็ร้อนรนรีบลุกจากเตียง “อาเชิน มือลูกเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม” คุณแม่ลั่วไม่คิดว่าลั่วเซ่าเชินโตขนาดนี้แล้วจะบาดเจ็บเพราะมีดปอกผลไม้ได้ หรือเป็นเพราะคำพูดของเธอเมื่อครู่นี้?


 


 


ถังโจวโจวมีผลกระทบต่อใจเขามากจริงๆ คุณแม่ลั่วรู้สึกไม่พอใจถังโจวโจวขึ้นมาอีกที่เธอมีความสำคัญต่อลั่วเซ่าเชินขนาดนี้


 


 


เมิ่งชิงซีเรียกพยาบาลมาจากข้างนอก เมื่อพยาบาลเห็นว่ามือของลั่วเซ่าเชินมีแผลแค่เล็กน้อยเท่านั้น ก็คิดว่าเมิ่งชิงซีทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่พอเห็นว่าลั่วเซ่าเชินช่างเป็นคนที่โดดเด่นน่ามอง เธอจึงระงับความโกรธของตัวเองลงและทำแผลให้ลั่วเซ่าเชิน


 


 


“เอาละ ระวังอย่าให้โดนน้ำนะคะ”


 


 


พยาบาลทำแผลให้ลั่วเซ่าเชินเสร็จแล้วก็ออกไป เธอเพียงลอบมองลั่วเซ่าเชินเป็นครั้งคราว เพราะถ้าแฟนของเขารู้ว่าเธอมีความคิดอื่นๆ ในหัว เธอจะต้องซวยแน่ๆ เธอเป็นพยาบาลที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ต้องแยกแยะให้ชัดเจน


 


 


“เซ่าเชิน ทำไมไม่ระวังเลยล่ะคะ เดี๋ยวฉันปอกต่อให้นะ?” เมิ่งชิงซีเห็นมือของลั่วเซ่าเชินมีแผลก็ไม่อยากให้ลั่วเซ่าเชินจับมีดอีก และในใจเธอก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับเป็นแผลเสียเอง


 


 


“ไม่เป็นไร เมื่อกี้แค่เหม่อ คุณไปนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณแม่เถอะ เดี๋ยวแอปเปิลก็ปอกเสร็จแล้ว” สาเหตุที่ลั่วเซ่าเชินต้องบาดเจ็บ เพราะคุณแม่ลั่วพูดถึงถังโจวโจวขึ้นมา เขาตกใจจึงไม่ได้ระวัง


 


 


ใช่ว่าคุณแม่ลั่วไม่อยากพูดซ้ำอีก ตอนนี้เมิ่งชิงซีเอาความสนใจทั้งหมดไปอยู่กับอาการบาดเจ็บของลั่วเซ่าเชิน แล้วตอนนี้ลั่วเซ่าเชินก็กำลังปอกผลไม้อยู่ ถ้าคุณแม่ลั่วพูดถึงถังโจวโจวขึ้นมาอีก เธอก็กลัวว่ามีดจะบาดมือลั่วเซ่าเชินอีกครั้ง หากเป็นอย่างนั้นคุณแม่ลั่วก็ต้องปวดใจกว่าใคร


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นคุณแม่ลั่วไม่พูดถึงถังโจวโจวอีก ในใจก็โล่งอก ไม่พูดถึงก็ดี ลั่วเซ่าเชินไม่อยากได้ยินเรื่องหย่า เขาไม่อยากจบความสัมพันธ์กับถังโจวโจว


 


 


เขารู้ทันความหมายในประโยคนี้ของคุณแม่ลั่ว ที่อยากให้เขาหย่ากับถังโจวโจว หลังจากนั้นคงจะต้องให้เขาแต่งงานกับเมิ่งชิงซี แต่เมิ่งชิงซีเป็นผู้หญิงร้ายกาจอย่างนี้ เขาจะปล่อยลั่วอิงไว้กับเธอได้อย่างไร


 


 


“แม่ครับ แอปเปิลปอกเสร็จแล้ว ผมจะหั่นให้เป็นชิ้นๆ นะครับ ชิงซี ช่วยหยิบจานมาให้ผมที”


 


 


 


 


ตอนที่ 243 รับไม่ได้


 


 


           “ค่ะ เซ่าเชิน ฉันจะหยิบให้เดี๋ยวนี้”


 


 


เมิ่งชิงซีไปหยิบจานใส่ผลไม้มายื่นให้ลั่วเซ่าเชิน ลั่วเซ่าเชินเอาแอปเปิลที่หั่นใส่จาน เมิ่งชิงซีเสียบไม้จิ้มฟันทีละอัน “คุณป้าคะ ชิมเร็วค่ะ นี่เป็นแอปเปิลที่เซ่าเชินตั้งใจปอกให้คุณป้านะคะ”


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นลั่วเซ่าเชินหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้งและหยิบแอปเปิลออกมาจากตะกร้า จึงรีบบอกว่า “เซ่าเชิน ไม่ต้องปอกแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่อยากกินแล้ว คุณพักเถอะ”


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นมือลั่วเซ่าเชินบาดเจ็บ ก็ไม่สามารถทนได้หากต้องเห็นลั่วเซ่าเชินปอกผลไม้ให้เธอต่ออีก


 


 


คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินไม่ได้เป็นอะไรมาก ความปวดใจเมื่อครู่จึงกลายเป็นความโกรธ “ชิงซี ไม่ต้องไปห้าม ให้อาเชินปอกไปเถอะ ป้าเชื่อว่าถ้าป้าไม่พูดถึงถังโจวโจวอีก เขาก็คงจะไม่ทำมีดบาดแล้วล่ะ”


 


 


เมื่อฟังคำพูดของคุณแม่ลั่วแล้ว ลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้โต้แย้ง เพราะเมื่อครู่เขาคิดถึงถังโจวโจวอยู่จริง แล้วแผลนี้มันก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งหมดที่คุณแม่ลั่วพูดมาล้วนถูกต้องแล้ว


 


 


เมิ่งชิงซีได้ยินชื่อถังโจวโจว สีหน้าก็ดูเศร้าไปไม่น้อย “เซ่าเชินคะ ฉันรู้ว่าคุณยังคิดถึงถังโจวโจว เพียงแต่คุณก็ต้องคิดถึงตัวเองด้วยนะคะ ถ้าเกิดคุณทำให้มือบาดเจ็บขึ้นมาอีก ฉันก็คงไม่กล้ากินแอปเปิลอีกแล้วล่ะค่ะ”


 


 


น้ำเสียงของเมิ่งชิงซีมีแต่ความจริงใจ ในสายตาคุณแม่ลั่วมีแต่ความไม่พอใจลั่วเซ่าเชิน ดูเหมือนตอนนี้เมิ่งชิงซีจะเป็นลูกสาวของเธอ ส่วนลั่วเซ่าเชินก็เป็นเพียงคนอื่น


 


 


“อาเชิน ชิงซีเป็นห่วงลูกขนาดนี้ แต่ในใจลูกกลับมีแต่ผู้หญิงอย่างถังโจวโจว ลูกคู่ควรกับความรักที่เมิ่งชิงซีมีให้ลูกมากกว่านะ”


 


 


“แม่ครับ เรื่องนี้มันใช้วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้นะครับ” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าคุณแม่ลั่วพูดแต่เรื่องไร้สาระ ชอบคิดแต่อะไรอย่างนี้ ถ้าเมิ่งชิงซีชอบเขา เขาต้องรับรักหรือ? บนโลกนี้มีผู้หญิงตั้งมากมายที่ชอบเขา เขาต้องแต่งงานด้วยทั้งหมดไหม?


 


 


แน่นอนว่าเขาไม่โง่พอที่จะพูดสิ่งที่คิดออกมาต่อหน้าแม่ของเขา และทำให้คุณแม่ลั่วโกรธขึ้นมา


 


 


คุณแม่ลั่วยังไม่ยอมแพ้ “ชิงซี หนูช่วยไปเรียกพยาบาลมาให้ป้าหน่อยได้ไหม น้ำเกลือป้าใกล้จะหมดแล้ว”


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นว่าน้ำเกลือคุณแม่ลั่วหายไปเพียงหนึ่งในสี่ เธอรู้แล้วว่าคุณแม่ลั่วหาข้ออ้าง แต่เธอก็ยังคงยิ้มออกมาเป็นปกติ “ได้ค่ะคุณป้า ฉันจะไปเรียกให้ค่ะ เซ่าเชิน อยู่เป็นเพื่อนคุณป้าก่อนนะคะ อย่าเพิ่งพูดอะไรให้ท่านโกรธ”


 


 


คุณแม่ลั่วเห็นเมิ่งชิงซีออกไปจากห้องแล้วก็พูดขึ้นทันที “อาเชิน ชิงซีดีกับลูกขนาดนี้ ลูกไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยหรือ”


 


 


“แม่ครับ ไม่ใช่ว่าใครดีกับผม แล้วผมจะต้องดีตอบทุกคน และถ้าแม่จะให้ผมแต่งกับเธอ ผมก็ต้องบอกว่าคงจะไม่ได้ แม่ไม่คิดถึงหลานสาวของแม่หน่อยหรือครับ”


 


 


“ทำไมแม่จะไม่คิดถึงลั่วอิง” คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าคำพูดนี้ของลั่วเซ่าเชินไม่มีเหตุผล เธอเป็นย่าของลั่วอิงนะ แล้วจะไม่หวังดีกับหลานได้อย่างไร


 


 


“จิตใจของเมิ่งชิงซีไม่เหมาะกับลั่วอิง ผมจะไม่มีวันส่งตัวลูกให้ผู้หญิงคนนั้นดูแลแน่นอนครับ” ลั่วเซ่าเชินพูดจนทำให้เมิ่งชิงซีที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างนอกเจ็บปวด


 


 


เมิ่งชิงซีจับประตูแน่น เมื่อครู่เธอรู้ว่าคุณแม่ลั่วต้องมีเรื่องอะไรจะพูดกับลั่วเซ่าเชิน ดังนั้น เธอจึงไม่ได้ไปไกล เพราะอยากฟังว่าคุณแม่ลั่วจะคุยอะไรกับลั่วเซ่าเชิน


 


 


ที่แท้ก็พูดเรื่องเธอจริงๆ เมิ่งชิงซีรู้สึกว่าความพยายามของเธอไม่สูญเปล่า แต่น่าเสียดายที่ลั่วเซ่าเชินกลับเป็นคนไม่มีความรู้สึก ทำเป็นไม่รับรู้ว่าใจเธอคิดอย่างไร ทั้งๆ ที่ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา


 


 


“ชิงซีเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมาก ถังโจวโจวของลูกต่างหากที่เป็นคนไม่ดี อาเชิน ใจของลูกบอดหรือไง” คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินไม่ตอบ อยู่ๆ เธอก็หายใจอย่างรวดเร็วและจับหน้าอกไว้แน่น


ตอนที่ 244 บังคับ 


 


 


           “แม่ครับ แม่อย่าเพิ่งโมโห ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร” ลั่วเซ่าเชินเห็นคุณแม่ลั่วเป็นแบบนี้ก็ตื่นตระหนก ถ้าคุณแม่ลั่วเป็นอะไรขึ้นมา เขาก็สมควรตายอย่างที่สุด 


 


 


“ถ้าลูกไม่อยากให้แม่โกรธ ก็ไปเลิกกับถังโจวโจวซะ แม่ไม่ชอบเธอ ทำอย่างนี้แม่ถึงจะมีความสุข” คุณแม่ลั่วรีบคว้าโอกาส ขอร้องลั่วเซ่าเชิน 


 


 


“แม่ครับ แม่อย่าบังคับผม” 


 


 


“แม่บังคับลูกที่ไหน อาเชิน ที่แม่พูดกับลูกเป็นเรื่องจริง ตอนนี้แม่กับพ่อไม่สามารถรับถังโจวโจวเป็นสะใภ้ของบ้านได้อีกแล้ว แล้วที่แม่ต้องมาเป็นอย่างนี้ ถึงแม่จะอภัยให้เธอ แต่พ่อของลูกคงไม่มีทางยอม” 


 


 


ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าที่คุณแม่ลั่วพูดมาคือความจริง แต่เพราะเป็นความจริง เขาถึงไม่ยอมตกลงง่ายๆ เขาทำได้แค่โน้มน้าวอีก “แม่ครับ โจวโจวเป็นคนดีมากนะครับ แค่แม่เปิดใจรับเธอ แม่ก็จะรู้ว่าเธอดีกว่าเมิ่งชิงซีมาก” 


 


 


“แม่ไม่อยากรับรู้ความดีของเธอ แม่แค่อยากให้เธออยู่ห่างจากแม่ก็พอ” คุณแม่ลั่วพูด 


 


 


“แม่ครับ ในเมื่อแม่พูดอย่างนี้แล้ว งั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูด” 


 


 


“เซ่าเชิน ลูกจะทำให้แม่โกรธใช่ไหม” คุณแม่ลั่วตบหน้าอก ลั่วเซ่าเชินไม่ยอมรับความปรารถนาดีของเธอ หรือเธอควรจะเป็นลมต่อหน้าเขาไปเลยดี? 


 


 


“แม่ครับ แม่อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ถ้าแม่เป็นอะไรขึ้นมา คราวนี้พ่อได้เกลียดผมจริงๆ” 


 


 


“ลูกก็แค่หย่ากับมัน!” คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินเสพูดไปเรื่องอื่น ดังนั้น เธอจึงยื่นคำขาดเกี่ยวกับเรื่องของถังโจวโจวออกมาตรงๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาหมดหนทาง 


 


 


สองแม่ลูกหยุดคุยกันไประยะหนึ่ง จังหวะนี้เมิ่งชิงซีก็เคาะประตู “คุณป้าคะ หนูพาพยาบาลมาแล้วค่ะ” 


 


 


คุณแม่ลั่วไม่ได้ถามว่าทำไมเมิ่งชิงซีถึงไปนานนัก ถึงอย่างไรมันเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี เพียงแต่ไม่มีใครยกขึ้นมาพูดก็เท่านั้น 


 


 


พยาบาลเปลี่ยนน้ำเกลือเสร็จก็ออกไป เมิ่งชิงซีนั่งเป็นเพื่อนคุณแม่ลั่วต่อ ส่วนลั่วเซ่าเชินก็มองโทรศัพท์อยู่ข้างๆ มุมปากพลันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามีเรื่องดีอะไร 


 


 


เมิ่งชิงซีรู้สึกว่าต้องเกี่ยวกับถังโจวโจวแน่นอน และเมิ่งชิงซีก็ทายถูก ลั่วเซ่าเชินกำลังส่งข้อความคุยกับถังโจวโจว 


 


 


[เซ่าเชิน คุณอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ] 


 


 


[เปล่า ผมอยู่ที่โรงพยาบาล] 


 


 


[คุณแม่ดีขึ้นไหม] 


 


 


[ก็ดี มีเมิ่งชิงซีอยู่เป็นเพื่อน คุณแม่ก็มีความสุข] 


 


 


ถังโจวโจวเงียบไปครู่หนึ่ง ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเธอไม่ชอบใจ แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ 


 


 


[ทำไม โกรธเหรอ] 


 


 


ถังโจวโจวเห็นข้อความที่ลั่วเซ่าเชินส่งมาก็เบื่อจะพูด 


 


 


[ฉันไม่ได้โกรธสักหน่อย คุณคิดมากไปแล้ว] 


 


 


[งั้นเหรอ ผมคิดว่าคุณจะโกรธซะอีก กำลังคิดอยู่เลยว่าจะชดเชยให้คุณยังไงดี] 


 


 


เห็นข้อความสุดท้ายของลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวก็รู้สึกว่าเธอขาดทุนมากแล้วจริงๆ 


 


 


ถังโจวโจวนอนอยู่บนเตียง เธอไม่คิดว่าจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่อะไรรอเธออยู่ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่าสามารถเรียกร้องการชดเชยจากลั่วเซ่าเชินได้ เธอก็คงจะไม่อยู่เฉยมานานขนาดนี้ 


 


 


แต่เมื่อคิดถึงว่าเมิ่งชิงซีอยู่ด้วยกันกับลั่วเซ่าเชินที่โรงพยาบาล ถังโจวโจวก็หงุดหงิดจนอดไม่ได้ที่จะถามออกไป 


 


 


[เซ่าเชิน แล้วทำไมเมิ่งชิงซีถึงอยู่กับคุณ คุณพ่อไปไหน] 


 


 


ถังโจวโจวคิดว่าคุณพ่อลั่วไม่น่าจะปล่อยให้คุณแม่ลั่วอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว แล้วทำไมในห้องผู้ป่วยถึงมีแค่เมิ่งชิงซีอยู่ เมิ่งชิงซีเป็นใคร เธอไม่ใช่คนของตระกูลลั่วสักหน่อย ทำไมถึงต้องมาเฝ้าคุณแม่ลั่วด้วยตัวเองนานขนาดนี้ 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 245 ให้เมิ่งชิงซีมาเป็นสะใภ้ 


 


 


ถังโจวโจวรู้สึกไม่มีความสุข และรู้ด้วยว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเธอเอง ถ้าเธอไม่ทำให้คุณแม่ลั่วบาดเจ็บ จะเปิดทางให้เมิ่งชิงซีมีโอกาสได้อย่างไร 


 


 


[คุณพ่อกลับไปพักผ่อน ส่วนเมิ่งชิงซีมาแต่เช้าแล้ว] 


 


 


[เซ่าเชิน คุณจะไม่ให้ฉันไปเยี่ยมคุณแม่จริงๆ หรือคะ] 


 


 


ลั่วเซ่าเชินรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือว่าถังโจวโจวกำลังไม่พอใจ และเขาก็รู้ว่าเขาพูดแทงใจดำเธอเข้าแล้ว จึงรีบปลอบโยนทันที 


 


 


[เอาละ เมื่อกี้ผมผิดเอง] 


 


 


เมิ่งชิงซีเห็นลั่วเซ่าเชินยิ้มมุมปากอยู่นาน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เซ่าเชิน คุณเจอเรื่องอะไรที่น่าดีใจหรือคะ บอกให้คุณป้าดีใจด้วยสิคะ” 


 


 


เมิ่งชิงซีพยายามซ่อนความอิจฉาในใจ ไม่ให้ลั่วเซ่าเชินรู้สึกได้ แต่ลั่วเซ่าเชินก็เข้าใจในทันทีว่าอารมณ์ของเธอมีปัญหา ตอนแรกเมิ่งชิงซีคงตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า เธอจะทำตัวเป็นคนดีต่อหน้าลั่วเซ่าเชิน เพื่อให้ลั่วเซ่าเชินมองเธอเปลี่ยนไป 


 


 


“ไม่มีอะไร” ลั่วเซ่าเชินคลายรอยยิ้มทันที เอามือถือเก็บใส่กระเป๋า 


 


 


“อาเชิน ลูกไปซื้อของกินข้างนอกให้แม่หน่อยสิ” 


 


 


“แม่อยากกินอะไรครับ” 


 


 


“อะไรก็ได้หมด” คุณแม่ลั่วแค่อยากให้เขาออกไปเท่านั้น 


 


 


เมื่อคุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินออกไปแล้ว คุณแม่ลั่วจึงดึงมือเมิ่งชิงซีไว้ และพูดว่า “ชิงซี ป้าอยากให้หนูมาเป็นสะใภ้ อยากให้หนูแต่งงานกับอาเชิน หนูจะยอมไหม” 


 


 


คุณแม่ลั่วคิดอยู่นานมาก และรู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินสนใจแต่ถังโจวโจว จึงทำให้เมิ่งชิงซีไม่พอใจ ผ่านเรื่องนี้ไปไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ยอมให้อภัยถังโจวโจว และตอนนี้เธอก็ได้วางแผนดีๆ เอาไว้แล้ว คือให้ลั่วเซ่าเชินหย่ากับถังโจวโจว หลังจากนั้นก็แต่งงานกับเมิ่งชิงซี 


 


 


เมิ่งชิงซีกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอรอวันนี้มานาน ในที่สุดคุณแม่ลั่วก็เห็นใจเธอจริงๆ เสียที “คุณ…คุณป้า พูดจริงหรือเปล่าคะ หนูไม่อยากจะเชื่อเลย” 


 


 


เมิ่งชิงซีปิดปาก เธอไม่คิดว่าจู่ๆ คุณแม่ลั่วจะพูดอะไรให้เธอตกใจมากขนาดนี้ 


 


 


“ชิงซี แต่ถ้าหนูไม่ยอม ป้าก็จะไม่บังคับ ป้ารู้ว่านี่เป็นความเห็นแก่ตัวของป้า…” 


 


 


“คุณป้าคะ หนูยอมค่ะ” เธอเพิ่งรู้สึกว่าออกจะดูรีบร้อนเกินไป เมิ่งชิงซีจึงรีบพูดอีกประโยคหนึ่ง “คุณป้าคะ ไม่ใช่อย่างที่คุณป้าคิดนะคะ…” 


 


 


ยิ่งเมิ่งชิงซีร้อนรน ก็ยิ่งพูดอธิบายไม่ได้ โชคดีที่คุณแม่ลั่วเข้าใจความหมายของเธอ “ชิงซี ป้ารู้ว่าหนูคิดอะไร วางใจเถอะ ป้าจะทำให้สิ่งที่หนูคิดสำเร็จได้จริง” 


 


 


เมิ่งชิงซีก้มหน้าเขินอาย สีหน้าของเธอไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้อีก คุณแม่ลั่วเห็นเมิ่งชิงซีเป็นผู้หญิงที่สง่างาม นี่สิถึงจะเหมาะเป็นลูกสะใภ้ของเธอ ไม่เหมือนกับถังโจวโจว 


 


 


“แม่ครับ ผมไม่รู้แม่อยากกินอะไร ก็เลยซื้อเค้กมา” ลั่วเซ่าเชินถือของเดินเข้ามา พลันเห็นว่าใบหน้าของเมิ่งชิงซีแดงก่ำไปหมด เมื่อครู่นี้เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนี่ 


 


 


“ชิงซี ทำไมหน้าคุณแดงขนาดนั้น” 


 


 


“อ้อ อาจเพราะในห้องร้อนไป คุณป้าคุยกับเซ่าเชินก่อนนะคะ หนูขอออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย” เมิ่งชิงซีรีบร้อนออกไป คุณแม่ลั่วยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ด้านหลัง 


 


 


“แม่ครับ มีเรื่องอะไรหรือครับ” 


 


 


ก่อนหน้านี้คุณแม่ลั่วไม่ได้อารมณ์ดีอย่างนี้ แต่พอคุณแม่ลั่วเจอหน้าเขา สีหน้าของเธอก็ไม่ดีใส่เขาดังเดิม 


 


 


“แม่แค่คุยเล่นกับชิงซี หรือว่าแม้แต่เวลาส่วนตัวของแม่ก็มีไม่ได้เหรอ” 


 


 


“แม่ครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม