ระบบร้านค้าออนไลน์ 203-209

 TB:บทที่ 203 คาสิโน (1)


 


เมื่อกลับมาพักผ่อนที่ห้องของตัวเองได้ครู่หนึ่ง เฉินหลงก็ได้ทำการตัดสินใจว่าเขาจะไปคาสิโนบนเรือตอนสามทุ่ม ในตอนแรก เขาอยากให้ลั่วฮุ่ยไปกับเขาด้วย แต่เพราะเขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะอยากเวลาอยู่กับหมินซีมากกว่า เขาจึงล้มเลิกความคิดนี้ไป


อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินว่าเฉินหลงกำลังจะไปที่คาสิโนที่อยู่บนเรือ อันหยาและเจิ้งหยู่ก็อยากจะตามเขาไปสอดส่องดูเช่นกัน


ในฐานะพี่สาวของอันหยา หมินซีได้แต่หวังว่าเธอจะใช้เวลากับเฉินหลงได้นานมากขึ้น จึงอนุญาติให้เธอตามเขาไป


ในตอนแรกเฉินหลงแค่ต้องการไปที่นั่นคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะต้องพาสาวๆทั้งสองคนไปยังคาสิโนด้วยเสียแล้ว


 


เฉินหลงเดินนำหญิงสาวสองคนมาถึงชั้นที่เป็นคาสิโน เฉินหลงเห็นรูปปั้นของเทพีบินสไตล์ตะวันตกตั้งอยู่หน้าทางเข้าคาสิโน เมื่อพระพุทธเจ้าได้กล่าวถ้อยคำสอนก็จะมีดอกบัวลอยออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ส่วนเทพธิดาองค์นี้กลับทำท่าพ่นเหรียญทองออกมาซะงั้น


ข้างใต้รูปปั้น มีคลังแสงแห่งความมั่งคั่ง กล่าวคือข้างใต้นั่นมีเหรียญจำนวนมาก และธนบัตรสีเขียวไม่กี่ใบ เขาคิดว่าน่าจะมีประมาณ 50 ถึง 100 ใบเห็นจะได้


เมื่อเข้ามาข้างในคาสิโน เฉินหลงพบว่าพื้นที่ตรงกลางห้องมีโต๊ะพนันมากมายตั้งอยู่ ส่วนทั้งสองข้างเป็นตู้เกมที่วางเรียงกันเป็นแถว


 


ขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวบางส่วนเข้ามาเล่นคาสิโนอยู่ก่อนแล้ว


นักท่องเที่ยวที่เล่นจนชนะและได้รับเงินเป็นการตอบแทนต่างก็มีใบหน้าแห่งความสุขให้คนอื่นได้เห็น ส่วนคนที่แพ้พนันแล้วต้องเสียเงินของตัวเองไปกลับทำหน้าตาที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย เพราะพวกเขาต่างก็หาเงินมาได้ด้วยความยากลำบาก


สำหรับบางคนที่ใจปล้ำสุดๆ พวกเขาได้วางเดิมพันทั้งหมด ถ้าชนะ ก็ตื่นเต้นกับดีใจ แต่ถ้าแพ้ พวกเขาก็ไม่ได้เศร้าอะไร ก็แค่พนันต่อไปจนชนะอีกรอบก็เท่านั้นเอง


 


คนประเภทนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็น ‘พวกฝักใฝ่’ ทางด้านนี้แล้วจากนั้นก็ไปที่อื่นต่อ ส่วนเงินที่เสียไป พวกเราเข้าใจดี


ราคาตั๋วของเรือสำราญไม่ได้ราคาสูง และมันก็ไม่เป็นพื้นที่ให้ความบันเทิงโดยตรงที่สามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้บนเรือสำราญ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆแล้ว เรือสำราญจะหารายได้มาจากที่ไหนล่ะ? มันก็ต้องมาจากผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างพวกเขาที่เล่นการพนันอยู่แล้วน่ะสิ!


 


เฉินหลงแลกชิปมาจำนวน 50,000 เหรียญ เขาแบ่งชิปจำนวนหนึ่งให้กับอันหยาและเจิ้งหยู่ เพื่อที่ทั้งสองคนจะได้ลองเล่นพนันด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันเฉินหลงได้เดินกลับยังคาสิโนพร้อมกับชิปจำนวน 10,000 เหรียญ


หลังจากเดินวนอยู่สักพัก เฉินหลงสังเกตเห็นว่ามีห้องแยกออกไปจากส่วนของคาสิโน เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นห้องวีไอพี เขาคิดว่ามีคงมีแค่เศรษฐีกับเจ้าหน้าที่ทุจริตรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถเล่นพนันในห้องนั้นได้


นักท่องเที่ยวทั้งหมดในคาสิโนมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนมีอายุและวัยรุ่น แม้แต่เฉินหลงยังได้เห็นหญิงชราชาวต่างชาติที่นั่งวีลแชร์เล่นเครื่องสล็อตเลย เฉินหลงล่ะนึกสงสัยจริงๆว่า ถ้าหญิงชราชาวต่างชาติคนนี้ถูกรางวัลใหญ่ขึ้นมาจริงๆ เธอจะดีใจจนหัวใจวายไปเลยไหมนะ


 


เมื่อเขาเดินมาถึงโต๊ะพนัน โดยมีเงื่อนไขว่าผู้พนันต้องเดิมพันขั้นต่ำ 50 ดอลลาร์และเดิมพันสูงสุด 7,000 ดอลลาร์ เฉินหลงจึงโยนชิปทั้งหมด 10,000 หยวนของตัวเองลงบนโต๊ะ


สำหรับการพนัน เฉินหลงไม่ได้รู้สึกสนใจการพนันมากขนาดนั้น เขาพาตัวเองมาที่คาสิโนเพื่อเปิดหูเปิดตาให้เป็นประสบการณ์ชีวิตเฉยๆ และตอนนี้เขาได้เห็นภาพเหล่านั้นแล้ว ในตอนนี้ความรู้สึกตื่นเต้นของเขาได้จางหายไปเรียบร้อยแล้ว เฉินหลงจึงไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจึงรีบใช้เงิน 10,000 หยวนให้หมดๆไป จะได้กลับไปพักผ่อนที่ห้องเสียที


เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับโชคทั้งหมด จะชนะหรือแพ้ เฉินหลงก็ไม่สน


 


แต่เฉินหลงดันเป็นคนที่โชคดีมาก การเดิมพันครั้งนี้เขาชนะ ทำให้ 10,000 หยวนได้เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 หยวนในทันที


เมื่อเห็นเหรียญที่เจ้าหน้าที่ชาวดัตช์ส่งกลับมาทางเขาแล้ว เฉินหลงถึงกับนึกไม่ถึงเลยทีเดียว เขาจึงดันเหรียญทั้งหมดให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมและเริ่มทำการพนันอีกครั้ง


หลังจากที่เจ้าหน้าที่เปิดถ้วยลูกเต๋า กลับกลายเป็นว่าเขาชนะรางวัลอีกแล้ว ทำให้ 20,000 หยวนของเฉินหลงได้เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 หยวน


 


‘เอาวะ มา ถ้ารอบนี้ยังไม่แพ้ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว’ ด้วยเหตุนี้เฉินหลงจึงวางชิป 40,000 หยวนเอาไว้ที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง


เมื่อผลออกมาว่าเขาชนะ เฉินหลงถึงกับพูดไม่ออก เพราะตอนนี้ 40,000 หยวนของเขาได้เพิ่มเป็น 80,000 หยวนแล้ว


เฉินหลงชนะสามตาติด จาก 10,000 หยวนกลายเป็น 80,000 หยวน เรื่องนี้ทำให้นักพนันคนอื่นๆที่อยู่รอบกายเขาจ้องมองเฉินหลงด้วยความอิจฉาตาร้อน


แม้ว่า 80000 หยวนจะมีค่าไม่มาก แต่คิดว่าค่าตั๋วทั่วไปเท่ากับไม่กี่ร้อยดอลลาร์ เฉินหลงมายังเรือสำราญลำนี้เพื่อเล่นจนเงินหมด


 


เฉินหลงไม่อยากจะเชื่อว่านี่มันเรื่องโชคร้ายอะไรกัน การที่เขาจะแพ้แล้วเสียเงินนั้นยากกว่าการชนะเสียอีก


จากนั้น เฉินหลงก็ได้วางชิป 80,000 ของตัวเองไว้ด้านหน้าอีกครั้ง


แต่คราวนี้ เจ้าหน้าที่สาวสวยชาวดัทช์ผลักชิปกลับมาทางเฉินหลงแล้วกล่าวว่า “ขออภัยค่ะ จำนวนเงินสูงสุดสำหรับโต๊ะนี้คือ 7,000 ดอลลาร์ การวางเดิมพันของคุณเกินลิมิตแล้วค่ะ”


เมื่ออีกฝ่ายกล่าวจบ เฉินหลงก็นึกขึ้นมาได้ว่าการพนันในครั้งนี้มีข้อจำกัดแบบนี้อยู่


“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอวางเดิมพัน 40,000 ก็แล้วกัน” ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงจึงวาง 40,000 ไว้ตรงหน้า


ในเมื่อเดิมพันทีเดียวไม่ได้ ก็แบ่งเป็นสองรอบก็แล้วกัน ดราบที่เขายังไม่ชนะอีกรอบอ่ะนะ…


 


แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าเฉินหลงคิดผิดทั้งหมด เขาเดิมพันชนะแบบ 10 ตารวด ทำให้เฉินหลงได้รับเงินรางวัล 400,000 หยวน จากเงิน 80,000 หยวนก่อนหน้านี้ ทำให้เฉินหลงชนะและได้เงิน 470,000 หยวน ถ้าไม่ใช่เพราะถูกข้อจำกัดของประเทศไต้หวัน มีหวังเฉินหลงคงจะชนะและได้รางวัลมากกว่านี้อีกแน่


ขณะนี้มีคนจับตาดูเขามากขึ้น คนลงเดิมพันชนะ 13 ครั้งติดต่อกันแถมได้รับเงินรางวัล 470,000 นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว


 


เมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาล้อมเขามาขึ้น เฉินหลงก็ไม่อยากเดิมพันต่อแล้ว เขาวางชิป 10,000 ชิปให้กับเจ้าหน้าที่หญิงแล้วบอกกับเธอว่า “นี่เป็นชิปนำโชค ผมให้คุณหมดเลยครับ”


“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหน้าที่หญิงฝืนยิ้มให้เขา


วันนี้เธอได้ทำงานหายไปมากกว่า 400,000 หยวนกับโต๊ะนี้ เธอกลัวว่าการที่จะทำงานให้สำเร็จในเดือนนี้ดูท่าแล้วน่าจะยากไปเสียหน่อย แต่เธอก็ไม่กลัวว่าตัวเองจะตกงาน เพราะคาสิโนแห่งนี้มีการตรวจสอบทุกรูปแบบ และเธอเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเขาด้วยดังนั้นเธอจึงไม่เป็นกังวลกับเรื่องนี้


 


หลังจากที่เฉินหลงเดินออกจากโต๊ะพนันแล้ว เขาก็เดินไปที่โต๊ะตัวอื่นต่อ มีทั้งบาคาร่า แบล็คแจ็ค และการพนันรูปแบบอื่นอีกมากมาย


แต่วันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นวันที่เฉินหลงดวงดี ยิ่งเขาอยากเสียเงินมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้เงินเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเขาอยากแพ้ เขาก็จะชนะรางวัลใหญ่ จนทำให้ตอนนี้ชิปที่เฉินหลงได้ครอบครองมีจำนวนมากถึงหลักล้านแล้ว!


เมื่อรู้ว่าตัวเองได้ครอบครองชิปที่มีจำนวนมากถึงหนึ่งล้าน เฉินหลงถึงกับพูดไม่ออก ปัดโธ่ ถ้าตอนนั้นเขาไม่วางเดิมพันตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ชนะจนมาถึงจุดนี้หรอก


 


เพราะไม่ว่าเฉินหลงจะเดิมพันยังไง เขาก็ไม่แพ้เลยสักครั้ง ด้วยเหตุนี้วิธีที่จะทำให้เขาไม่ชนะอีกก็คือการวางมือจากการพนัน เขาจึงออกตามหาหญิงสาวทั้งสองคน และหนึ่งในนั้นคืออันหยา เพื่อที่จะได้มอบชิปให้พวกเธอ ในเมื่อเขาพนันแล้วไม่แพ้ ก็ให้พวกเธอแพ้แทนก็แล้วกัน


ในตอนที่เฉินหลงกำลังมองหาอันหยากับเจิ้งหยู่ เขาก็ถูกจับตามองโดยคนสามคน ช่วยไม่ได้ เขาครอบครองชิปตั้งหนึ่งล้าน ถึงจะอยากหายไปยังไงเขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี


 


“อย่างที่คุณเห็น เขาไม่ได้อยากพนันเลยสักนิด เขาก็แค่โชคดีแล้วก็ชนะหลายรอบ ถ้าเราเล่นพนันกับเขา การที่จะเอาชนะเขาได้นั้นไม่ง่ายเลย” ชายวัยสามสิบ หยานจิงหนานโยว เอ่ยถามด้วยท่าทางสุภาพ


“แต่ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่” ผานจื่อจึงตอบเขาไปด้วยท่าทางลังเล


เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่มากเพื่อเล่นพนันกับหาเงิน แต่ในธุรกิจแบบนี้ ทุกครั้งที่คุณชนะและได้รับเงิน คุณก็จะไม่ตั้งข้อสงสัยอะไร ถ้าคุณต้องการหาเงินจำนวนมาก คุณจำเป็นต้องคอยเวลาที่เหมาะสม เพราะหลังจากที่ชนะในคราวนี้ เกรงว่าคราวหลังเขาก็จะไม่สามารถแทรกตัวอยู่บนเรือสำราญได้อีกแล้ว


 


คราวนี้ ถึงเขาจะตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ค่อยมั่นใจว่ามันจะสำเร็จ


“ฮ่าวซือ คุณคิดว่าไงบ้าง?” เมื่อเห็นมิตรสหายคนหนึ่งเกิดความลังเลแล้ว หยานจิงหนานโยวจึงหันไปถามความคิดเห็นจากชายร่างสูงผอมอีกคนที่ดูสง่าราวกับว่าเป็นนักบุญ


TB:บทที่ 204 คาสิโน (2)


 


“ก็ไม่รู้สินะ รอดูเอาก็แล้วกัน” ช่ายร่างสูงผอม ฮ่าวซือ รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย


ในบรรดาคนทั้งสาม คนที่มองสถานการณ์ได้แม่นยำมากที่สุดก็คือผานจื่อ ทุกครั้งที่เขาตั้งเป้า การตัดสินใจของผานจื่อถือเป็นคำตัดสินสุดท้าย และไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมาก่อน แต่ตอนนี้ชายอ้วนกลับลังเล ดังนั้นฮ่าวซือเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเขาควรจะทำอย่างไร


“ไปอะไรไป? อย่าบอกนะว่า คุณลืมจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของพวกเราไปแล้วหรือ? พวกเรามาที่นี่เพื่อหาเงิน และตอนนี้ก็มีวิธีรวยอยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว แต่คุณกลับไม่กล้าขึ้นมาเนี่ยนะ?” หยานจิงหนานโยวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเบาๆ เนื่องจากว่าที่เป็นคือคาสิโน ถ้ามีใครจับได้ว่าพวกเขาทั้งสามคนกำลังร่วมมือกันอยู่ ชะตากรรมของพวกเขาทั้งสามคนจะต้องไม่เป็นไปในทางที่ดีแน่นอน


 


ผานจื่อที่ยังคงจับตาดูเฉินหลงอยู่ขมวดคิ้วแล้วตอบว่า “แต่ฉันคิดว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา นายห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด”


ในความคิดของเขาตอนนี้กำลังตีกันให้วุ่น ฝ่ายหนึ่งคือเงินล้าน อีกฝ่ายหนึ่งคือความปลอดภัยของพวกเขาทั้งสามคน เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ


“เฮ้อ ฉันล่ะยอมนายจริงๆ ถ้าพวกเราอยากชนะนิดหน่อยอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะได้เงินล้านล่ะ? นอกจากนี้ บางทีเราอาจหาเงินค่าตั๋วไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” เมื่อได้ยินว่าชายอ้วนยังทำการตัดสินใจไม่ได้ หยานจิงหนานโยวจึงแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาให้เห็น


พวกเขาทั้งสามคนอยู่ในธุรกิจนี้แล้ว ถ้าหากว่าพวกเขาหาเงินมาจ่ายค่าตั๋วยังไม่ได้ มีหวังพวกเขาไม่ใช่แค่เสียเงิน แต่ยังเสียหน้าด้วย


 


“หยานจิงหนานโยว ไม่ต้องห่วง ฉันพูดแบบนั้นก็จริงแต่ฉันไม่ได้หมายความว่าจะไม่ลงมือทำอะไรสักหน่อย ฉันแค่อยากดูสถานการณ์ให้แน่ใจอีกรอบ พวกเราจะลงมือหลังจากที่ฉันยืนยันว่ามันปลอดภัยแล้วต่างหาก” ผานจื่ออธิบายให้หยานจิงหนานโยวได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเขา


ในทำนองเดียวกัน ฮ่าวซือก็ได้ให้คำแนะนำกับหยานจิงหนานโยวเช่นกัน “หยานจิงหนานโยว อันดับแรกพวกเราทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา*เลย”


“ถ้างั้นก็ตามใจ เอาเป็นว่าฉันจะจับตาดูเขาไม่ให้คาดสายตาก็แล้วกัน” หยานจิงหนานโยวสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามปรับอารมณ์ให้สงบลง


กล่าวจบ หยานจิงหนานโยวก็เดินตามเฉินหลงไปโดยไม่ให้เขาจับได้


ผานจื่อและฮ่าวซือหันมามองหน้ากัน จากนั้นก็เดินตามเขาไป เนื่องจากว่าตอนนี้จิตใจของหยานจิงหนานโยวไม่สงบ พวกเขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำเสียเรื่อง


 


ใช้เวลาไม่นาน เฉินหลงก็ได้พบกับหญิงสาวทั้งสองคนที่เขากับลังตามหา ในตอนนี้ทั้งอันหยาและเจิ้งหยู่กำลังกดปุ่มเครื่องสล็อตที่ตั้งอยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นเหรียญที่ตั้งอยู่ข้างๆแล้ว แสดงว่าพวกเธอเองก็เล่นชนะและได้รับรางวัลมาจำนวนหนึ่ง รางวัลพวกนี้ทำให้พวกเธอรู้สึกตื่นเต้นและสนุกมาก


“เป็นไงบ้าง? พวกเธอชนะบ้างรึป่าว?” เฉินหลงเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของหญิงสาวทั้งสองและกล่าวทักทาย


“เฉินหลง! นายมาได้จังหวะพอดีเลย นี่ๆ พวกฉันชนะรางวัลตั้ง 500 เหรียญแน่ะ ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะสนุกขนาดนี้” เจิ้งหยู่หันกลับไปพูดกับเฉินหลง นอกจากเธอจะทำสีหน้าตื่นเต้นแล้ว เธอยังตอบเขาด้วยท่าทางน่ารักอีกด้วย


“พนันเล็กๆน้อยๆจะทำให้เธอมีความสุข แต่การพนันจำนวนมากๆจะทำเธอเจ็บใจได้นะ พวกเธออย่าติดกับมันล่ะ” เฉินหลงกล่าว


 


สล็อตแมชชีนเป็นเหมือนสิ่งเสพติด หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเฉินหลงเคยชอบเล่นสล็อตแมชชีนมากๆ เขาใช้เงินเดือนและทรัพย์สินสิ่งอื่นๆของตัวเองไปกับมัน ทำให้เขาต้องเสียเงินอย่างน้อยสองหมื่นหรือสามหมื่นต่อปีเลยทีเดียว


สุดท้าย เขาจำเป็นต้องเลิกเล่นมันไปเพราะการปราบปรามสื่อลามก การพนันและยาเสพติด ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสพติดมันจนเลิกเล่นไม่ได้แน่


ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงเกรงว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะติดกับมันเข้า


“ไม่ต้องห่วง เราไม่หลงกลมันหรอก ว่าแน่ นายล่ะเป็นไงบ้าง? อย่าบอกนะว่านายเสียเงินหมื่นนึงไปหมดแล้ว?” อันหยาเอ่ยถาม โดยไม่หันหน้ามามองเขาเลยสักนิด


ในตอนที่เธอต้องการมาที่นี่ เฉินหลงยังเล่นไม่แพ้ ส่วนเธอก็ยังเล่นไม่ชนะ เธอได้เห็นการพนัน 21 แต้ม บาคาร่า ซูโอฮาและอื่นๆ โดยที่การเดิมพันแต่ละครั้งชนะได้ไม่ง่ายเลย


 


“คนอย่างฉันเนี่ยนะจะแพ้? เหอะ เสียใจด้วยนะ ฉันชนะจนได้เงินล้านมาเลยล่ะ” เฉินหลงตอบเสียงเบา


เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินหลงแล้ว ทันใดนั้นทั้งอันหยาและเจิ้งหยู่ได้หยุดทุกการกระทำและหันไปมองเฉินหลงเป็นตาเดียว สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความตกใจและน่าเหลือเชื่อ แต่ในตอนที่พวกเธอเห็นชิปที่เขาครอบครองแล้ว พวกเธอจึงทำได้แค่เชื่อเขาเท่านั้น


“นายชนะขนาดนั้นได้ยังไงเนี่ย” อันหยาเอ่ยถามด้วยความสงสัย


ส่วนเจิ้งหยู่มองเฉินหลงด้วยแววตาสงสัย เธอเองก็อยากรู้คำตอบเช่นกัน


เฉินหลงตอบเสียงเรียบ “ตอนแรก ฉันไม่ได้อยากชนะเลยนะ ฉันไปวางเดิมพันก้อนโตทั้งบนโต๊ะใหญ่โต๊ะเล็ก ใครมันจะไปรู้ว่า…”


จากนั้น เฉินหลงก็เล่าให้หญิงสาวทั้งสองคนฟังว่าเขาชนะจนได้เงินล้านมาได้ยังไง


 


“ฮึ่ย ไม่จริงน่า มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” อันหยาถามเขาอีกครั้งด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง


ถ้าการชนะแล้วได้เงินมันง่ายขนาดนั้น แล้วคนอื่นๆจะสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปได้ยังไงเล่า


เฉินหลงไหวไหล่ “ก็สำหรับฉันมันง่ายไง ให้ฉันเสียเงินยังยากกว่าอีก”


กล่าวจบ เฉินหลงก็ได้เผชิญหน้ากับท่าทางฮึกเหิมของทั้งคู่


เมื่อได้ยินคำตอบแล้ว หญิงสาวทั้งสองถึงกับอยากชกใบหน้าหล่อๆของเฉินหลงสักหมัด แต่เพราะเธอรู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของเฉินหลงเป็นอย่างดี พวกเธอจึงทำตัวอวดเก่งกับเขาไม่ได้


“นี่ นายไม่ได้มาที่นี่เพราะอยากจะโชว์ออฟใช่ป่ะ?” อันหยาหันไปมองเฉินหลงด้วยสายตาอาฆาต


“ก็ต้องไม่ใช่อยู่แล้วน่ะสิ พวกเธอรู้อะไรไหม ใจจริงฉันยังอยากให้พวกเธอเสียเงินให้ฉันด้วยเนี่ย ถ้าเสียมันทั้งหมดเลยก็ยิ่งดี!” เฉินหลงตอบ


 


ก็เขาอยากแพ้ แต่เขาก็ไม่แพ้สักที ถ้าวันนี้เฉินหลงไม่เสียเงิน กลับไปคืนนี้เขาต้องนอนไม่หลับแน่


“ว่ายังไงนะ นายอยากเสียเงินเนี่ยนะ?!” เจิ้งหยู่หันไปมองเฉินหลงด้วยความไม่เข้าใจ หรือว่าหมอนี่เสียสติไปแล้ว มาคาสิโนทั้งทีแต่อยากเสียเงินเนี่ยนะ? มีอย่างที่ไหนกัน ฉันไม่เคยเห็น ได้มาคาสิโนทั้งที ใครๆก็ต้องอยากชนะแล้วก็ได้เงินกันทั้งนั้น รวยทางลัดน่ะ นายไม่อยากรวยหรอไง ฉันล่ะไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ


นอกจากผู้ชายคนนี้ ที่มาที่คาสิโนโดยมีจุดประสงค์คือการเสียเงินให้คนอื่นและต้องทำมันให้สำเร็จ ก็ไม่มีใครมาที่คาสิโนเพื่อเสียเงินอีกแล้ว!


“ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ ถ้าฉันไม่ทำ คืนนี้ฉันจะนอนไม่หลับ จริงๆวันนี้ฉันแค่อยากจะเสียเงินหนึ่งหมื่นเองนะ แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้แล้ว เธอก็เห็นแล้วนี่” เฉินหลงทำอะไรไม่ถูก


 


“คุณแค่อยากเสียเงินจริงๆเหรอครับ?” ในเวลาเดียวกัน หยานจิงหนานโยวที่เดินตามเฉินหลงมาติดๆ จู่ๆก็พูดขึ้นมาโดยที่สายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่เฉินหลง


เขายืนอยู่ข้างๆเฉินหลงมาสักพักแล้ว ในตอนที่เขาได้ยินว่าเฉินหลงแค่อยากเสียเงิน หยานจิงหนานโยวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม


“โอ๊ะ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังพวกคุณคุยกัน” หยานจิงหนานโยวพูดขึ้นอีกครั้ง


ประโยคแรกของเขาถามจริงๆ ส่วนประโยคถัดไปเขาโกหก สำหรับเฉินหลง การแยกแยะว่าประโยคไหนพูดจริงประโยคไหนโกหกนั้นง่ายมาก ถึงเขาจะไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของหยานจิงหนานโยว แต่เขากำลังพูดโกหกอยู่ แสดงว่าต้องมีสิ่งล่อลวงให้เขาพูดโกหก และสิ่งที่ล่อลวงเขาให้มามติดกับก็คือชิปหนึ่งล้านชิปของเขานั่นเอง


 


“ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” เฉินหลงเอ่ยถาม


“ถ้าคุณแค่อยากเสียเงินจริงๆ คุณมาพนันกับพวกผมก็ได้นะครับ ยังไงคุณก็แค่อยากเสียเงินนี่ครับ แต่การที่คุณเสียเงินให้พวกผม มันจะไม่เหมือนกับการเสียเงินให้กับคาสิโนครับ เพราะพวกผมสามารถนำเงินพวกนั้นไปต่อยอดได้ยังไงล่ะครับ” หยานจิงหนานโยวพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา


เนื่องจากว่าผานจื่อได้บอกเอาไว้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาจึงล้มเลิกแผนการต่างๆและเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาแทน ถ้าเขาเห็นด้วย พวกเขาทั้งสามคนก็จะได้เงินของเขา แต่ถ้าเขาไม่เห็นด้วย พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเดาว่าจะหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น


 


“เอ.. แต่จะว่าไป คุณไม่กลัวว่าผมจะได้เงินของพวกคุณแทนที่จะเสียเงินเหรอครับ?” หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของ หยานจิงหนานโยวแล้ว จู่ๆเฉินหลงก็อยากทำความรู้จักกับหยานจิงหนานโยวขึ้นมาในทันที เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการเปิดใจคุยกัน


หยานจิงหนานโยวคลี่ยิ้มออกมา พร้อมกับตอบด้วยความมั่นใจว่า “ในเมื่อคุณมั่นใจว่าตัวจะชนะและทำให้พวกเราแพ้ได้ เราลองมาพิสูจน์กันดูไหมครับ”


ถึงพวกเขาจะรู้ว่าเฉินหลงชนะการพนันเพราะโชคดี แต่เขากลับไม่คิดว่าเฉินหลงจะสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งสามคนได้อยู่ดี


“ได้ ตกลงครับ!” เฉินหลงตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม


*สำนวน留 得青山在,不怕没柴烧 [liúdéqīngshānzài,búpàméicháishāo] / ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา ประมาณว่า ตราบใดมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง


TB:บทที่ 205 คาสิโน (3)


 


“เฉินหลง นี่นายสมองกระทบกระเทือนเหรอ หรือว่าเมื่อกี้นายไปกินอะไรผิดสำแดงมา นายถึงได้อยากใช้จ่ายเงินตั้งหนึ่งล้านแบบนี้เนี่ย หืม?” เมื่อได้ยินเฉินหลงตอบตกลง เจิ้งหยู่จึงหันไปกระซิบกับเฉินหลงที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้าเรียบนิ่ง


ถึงหนึ่งล้านชิปนั้นเป็นของเฉินหลงทั้งหมด แต่ถ้าเขาใช้มันจนหมดในคราเดียวแบบนี้ เจิ้งหยู่จะต้องรู้สึกหัวใจสลายแน่ อีตาบ้า หนึ่งล้านนะยะไม่ใช่หนึ่งร้อย นายคิดมาดีแล้วใช่ไหม คิดมาดีจริงๆแล้วใช่ไหม!?


เฉินหลงส่งยิ้ม ให้ไปกระซิบเบาๆข้างหูเจิ้งหยู่ “นี่ ใครบอกเธอว่าฉันจะแพ้ล่ะ ไม่แน่ฉันอาจจะชนะก็ได้น้า”


เจิ้งหยู่ถึงกับหันไปมองเฉินหลงที่แสดงให้เห็นว่าเขานั้นเป็นคนไร้ความเมตตาปรานีขนาดไหน


 


ในเวลาเดียวกันหยานจิงหนานโยวรีบเดินกลับไปบอกข่าวดีต่อผานจื่อและฮ่าวซือว่าเขาทำสำเร็จ


เมื่อได้ยินว่าหยานจิงหนานโยวทำสำเร็จ ผานจื่อและฮ่าวซือได้หันไปมองหยานจิงหนานโยวเป็นตาเดียว พวกเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าอีกฝ่ายจะทำสำเร็จ นายทำให้ฉันอึ้งจริงๆนะ


“อย่ามองฉันด้วยสายตาชื่นชมอย่างนั้นสิ ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ” หยานจิงหนานโยวหันไปมองทางผานจื่อที่กำลังมองเขาด้วยสายตาภาคถูมิใจ


ในตอนที่กำลังจ้องมองอยู่ผานจื่อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสมองหยุดทำงานหรือว่าพิการไปแล้ว เพราะเขาได้ทำลายตัวเลือกไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ถึงเขาจะไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ แต่ยังไงเขาก็ต้องสู้ดูสักตั้ง


หลังจากนั้น ชายอ้วนก็เดินตามหยานจิงหนานโยวไปพบกับเฉินหลง


 


“คุณครับ สองคนนี้เป็นเพื่อนของผมเอง ในเมื่คุณต้องการที่จะเสียเงินขนาดนั้น พวกผมก็ยินดีจัดให้ตามคำขอ” ในตอนนี้หยานจิงหนานโยวมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขามั่นใจว่าเงินของเฉินหลงจะต้องตกเป็นของเขาแน่นอน


ผานจื่อตั้งใจมอบรอยยิ้มที่แสนจะธรรมดาให้กับเฉินหลง ฮ่าวซือเป็นคนที่จองหองมาก ส่วนผานจื่อไม่เหมือนกับหยานจิงหนานโยว เขารู้ผลของการแสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ*เป็นอย่างดี


“ครับ คุณเลือกสถานที่ได้เลยครับ” เฉินหลงยกมือขึ้นมาสัมผัสคางของตัวเองด้วยท่าแมนๆเหมือนในหนังที่พระเอกหน้าหล่อชอบทำกัน โดยไม่สนไรหนวดที่เพิ่งจะงอกขึ้นมาหมาดๆเลยสักนิด


หยานจิงหนานโยวไม่รอช้า เขาเปิดห้องวีไอพีของคาสิโนในทันที


 


“แล้ว พวกเราจะเล่นพนันอะไรกันดีละครับ?” ในตอนที่เข้าในห้อง จู่ๆเฉินหลงก็ถามขึ้น


ในตอนที่ได้ยินคำถามของเฉินหลง เจิ้งหยู่ถึงกับกลอกตาหนึ่งรอบ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องเล่นพนันอะไรกับอีกฝ่าย เขาต้องการแค่ชัยชนะเท่านั้น ช่างเพ้อฝันเสียจริง!


ในตอนที่หยานจิงหนานโยวกำลังตอบ เขาก็ถูกผานจื่อชิงพูดตัดหน้าไปว่า “แล้วคุณอยากเล่นอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?”


“ผมเล่นอะไรก็ได้ พวกคุณเลือกเลยครับ” เฉินหลงตอบส่งๆ


“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเล่นเกมไพ่นกกระจอกแบบดั้งเดิมกันไหมครับ? พวกเรามีกันสี่คน ครบพอดีเลย” หยานจิงหนานโยวจึงรีบเสนอเกมให้เขาในทันที


 


พวกเขาทั้งสามคนเป็นคนที่เล่นไพ่นกกระจอกเก่งมาก คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหาทางวางมือหรือเท้าได้เลย นอกจากนี้การเล่นไพ่กับอีกฝ่ายเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายมาก เล่นไปสักพัก เดี๋ยวเฉินหลงก็แพ้แล้ว


“โอเคครับ พวกเรามาเล่นไพ่นกกระจอกกันเถอะ” เฉินหลงพยักหน้าตอบ


ถึงเฉินหลงจะไม่ชำนาญการเล่นพนันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับไพ่นกกระจอก เขายังพอรู้กฎอยู่บ้าง


หลังจากนั้น ทั้งสี่คนก็ได้เตรียมการเล่นไพ่นกกระจอกเป็นอย่างดี และพวกเขาได้ตั้งกฎการเล่นไพ่นกกระจอกแบบสากล โดยแต่ครั้งละครั้งใช้เงิน 1,000 หยวน


เฉินหลงไม่รู้ว่ากฎการเล่นไพ่นกกระจอกแบบสากลมีอะไรบ้าง แต่ไม่นาน ระบบอัจฉริยะก็ได้รวบรวมกฎของไพ่นกกระจอกแบบสากลมาให้เฉินหลง


 


“ผมไม่มีปัญหาเรื่องกฎ แต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อคือ ถ้าคุณอยากเอาชนะผม คุณสามารถทำได้ครับ แต่คุณจะต้องเอาชนะผมด้วยความสามารถของคุณเอง ถ้าผมรู้ว่าพวกคุณใช้วิธีสกปก เสียใจด้วยนะครับ แต่ผมคงปล่อยให้พวกคุณทำแบบนั้นไม่ได้” ในตอนที่หยานจิงหนานโยวกำลังกำลูกเต๋าอยู่ในมือเตรียมพร้อมที่จะโยน จู่ๆเฉินหลงก็ได้เอ่ยปากพูด


เฉินหลงไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าพวกเขาอยากชนะแล้วได้เงินของเขาไป พวกเขาจะต้องทำมันด้วยความสามารถของตัวเอง ถ้าพวกเขาเล่นสกปกขึ้นมา เฉินหลงก็มีวิธีรับมือกับพวกเขาเช่นกัน


“ครับ พวกเราไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ” หยานจิงหนานโยวรีบตอบเขาด้วยรอยยิ้ม


 


แต่ในสมองของเขากลับมีความคิดที่ว่า ถึงเขาจะใช้วิธีสกปกยังไง เฉินหลงก็ไม่มีทางจับได้ เขาจึงแกล้งพูดหลอกอีกฝ่ายไป


ถึงหยานจิงจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับผานจื่อ เขาไม่ได้คิดเหมือนกันกับอีกฝ่ายเลย เขารู้ดีว่าเฉินหลงไม่ได้พูดโกหก เขาพูดจริงทำจริง


เมื่อเห็นว่าเฉินหลงไม่ได้พูดโกหก ผานจื่อจึงหันไปขยิบตาเป็นการส่งสัญญาณให้กับหยานจิงหนานโยว แต่อีกฝ่ายกลับไม่หันมามองทางเขาเลยแม้แต่น้อย


ในตอนที่หยานจิงหนานโยวโยนลูกเต๋าออกไป เกมก็ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้!


 


ในตาแรก หยานจิงหนานโยวไม่ได้ใช้อุบายอะไร ผานจื่อก็ไม่กล้าใช้ตัวช่วย และฮ่าวซือเองก็ไม่ใช้เช่นกัน


ในเกมแรก เฉินหลงชนะเกมแรกโดยไม่มีอุบายใดๆเกิดขึ้น เขาวางไพ่สามสี สามสีและเลขแปดพร้อมกัน และชนะ 48,000 ในครั้งเดียว


“ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะโชคดีสุดๆไปเลย ขนาดว่าผมแพ้ ผมยังแพ้ไม่ได้เลย คุณต้องเติมน้ำมันสักหน่อยนะครับ เพราะถ้าผมไม่ได้เป็นฝ่ายเสีย ระวังผมจะเป็นฝ่ายทำพวกคุณหมดตัวนะครับ” เฉินหลงหันไปมองหยานจิงหนานโยวด้วยความภาคภูมิใจ


หยานจิงหนานโยวไปส่งสายตาให้กับผานจื่อและฮ่าวซือให้พวกเขาเริ่มใช้แผนการจัดการเฉินหลง


แต่ผานจื่อกลับส่ายศีรษะเล็กน้อยกลับมาทางหยานจิงหนานโยว เพื่อแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเขาไม่ควรใช้วิธีนี้


ในตอนที่ฮ่าวซือรู้ว่าหยานจิงหนานโยวกับผานจื่อมีความคิดเห็นที่ต่างกัน เขาเองก็ติดสินใจไม่ถูกว่าตัวเองควรทำเช่นไร


 


ในเมื่อผานจื่อไม่เห็นด้วย หยานจิงหนานโยวก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผานจื่ออีกต่อไป เห็นที คราวนี้เขาคงต้องจัดการมันด้วยตัวเองเสียแล้ว


ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่สับไพ่ หยานจิงหนานโยวได้ใช้เทคนิคลับ โดยแอบกำไพ่สองสามใบเอาไว้ในมือ วิธีของหยานจิงหนานโยวสุดยอดมาก ถึงขนาดที่ว่าคนธรรมดาอย่างอันหยากับเจิ้งหยู่ยังมองไม่เห็นมันเลย


แต่ในสายตาของเฉินหลง วิธีที่หยานจิงหนานโยวใช้เปรียบเสมือนกับภาพสโลโมชั่น เพราะเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง


“คุณบอกว่าคุณจะไม่โกง แล้วก็จะเล่นด้วยความสามารถของตัวเอง แล้วไหงคุณกลับมาใช้วิธิสกปกได้ล่ะครับ? ผมขอแสดงเสียใจด้วยนะครับ ผมจะไม่ออมมือให้คุณอีกแล้ว” ในตอนที่พบว่าหยานจิงหนานโยวใช้วิธีสกปก เฉินหลงจึงพูดในสิ่งที่เขาคิด


 


ในตอนที่นึกขึ้นมาได้ เฉินหลงจึงปล่อยยุงติดตามสามตัวไปหาหยานจิงหนานโยวแบบไม่ให้ซุ่มใด้เสียง หลังจากนี้ไม่ว่าหยานจิงหนานโยวจะมีไพ่อะไรอยู่ในมือ เฉินหลงก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ขืนเฉินหลงยังแพ้เขา


อีก เขาจะไปกระโดดลงจากเรือสำราญให้ดูเลย


หลังจาก่านไปสองสามตา หน้าผากของหยานจิงหนานโยวก็เริ่มหลั่งเหงื่อออกมาจนเขาสังเกตุได้


‘เห้ย! เป็นไปได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหมือนกับว่าเขาเห็นไพ่ที่ฉันมีเลย ไพ่เกือบทุกใบที่ฉันต้องการอยู่ในมือของเขาทั้งหมด หรือว่าเขาจะเป็นปรมจารย์? ถามจริง?’


หลังจากนั้น หยานจิงหนานโยวหยิบไพ่ขึ้นมา เขากอบกุมมันเอาไว้ในมือ จากนั้นก็วางมันลงโดยที่ไม่ได้มองดูว่าไพ่ที่หยิบมาคืออะไร


แต่ทั้งหมดที่เขาทำกลับเปล่าประโยชน์ เพราะเขามองไม่เห็นเครื่องติดตามของเฉินหลงได้ด้วยตาเปล่า และยุงติดตามนั้นยังสามารถมองเห็นไพ่ทั้งหมดได้แม้จะอยู่ในพื้นที่เล็กๆก็ตาม ด้วยเหตุนี้หยานจิงหนานโยวจึงเป็นฝ่ายแพ้อีกครั้ง


ในไม่ช้า หยานจิงหนานโยวก็ได้เสียเงินไปมากกว่าครึ่ง จากตอนแรกที่เขามีเงินหนึ่งล้าน ตอนนี้เขาเหลือเงินอยู่แค่ห้าแสนเท่านั้น


 


“ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่ผมขอไปห้องน้ำสักประเดี๋ยวจะได้ไหมครับ?” ในตอนนี้ชายอ้วนไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป


พวกเขาทั้งสามคนมีเงินคนละหนึ่งล้านเหรียญ และเงินส่วนมากพวกเขาไปยืมมาจากเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าปกติ ในตอนนี้เขาไม่เพียงสูญเสียเงินทุนของตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงส่วนของเจ้าหนี้อีกด้วย เรื่องนี้ทำให้ผานจื่อเริ่มรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา


“ตามสบายเลยครับ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” เฉินหลงตอบแล้วส่งยิ้มให้เขา เรื่องแค่นี้เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว


ผานจื่อลุกขึ้นยืนแล้วหันไปขยิบตาให้หยานจิงหนานโยว


 


“ผมเองก็จะไปด้วยเหมือนกันครับ”


“ผมไปด้วย


ทันใดนั้น หยานจิงหนานโยวกับฮ่าวซือเองก็ได้ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาออกไปจากห้องพร้อมกัน


“เฉินหลง นายเล่นเก่งขนาดนี่เลยเหรอ?” ในตอนที่วางเดิมพัน เฉินหลงเป็นฝ่ายชนะและได้เงินมามากกว่าหนึ่งล้านหยวน เฉินหลงได้พิสูจน์ให้เจิ้งหยู่เห็นเต็มสองตา


เฉินหลงไม่ตอบ เขาทำเพียงแค่ส่งยิ้มอีกฝ่ายเท่านั้น


เมื่อเห็นท่าทางสบายๆของเฉินหลงแล้ว เจิ้งหยู่จึงถามเขาอีกประโยคว่า “ว่าแต่ นายไม่กลัวพวกเขาชิ่งเหรอ?”


*แสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ = คนที่แท้จริงมีอำนาจ/มีความสามารถ แต่แสร้งเซ่อซ่าให้คนอื่นหลงกล เพราะหวังผลประโยชน์


TB:บทที่ 206 คาสิโน (4)


 


“พวกเขาล้วนเป็นถึงนักพนันมืออาชีพเลยนะ ตราบใดที่พวกเขายังหาประโยชน์จากมันได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว” เฉินหลงตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม


นักพนันมืออาชีพแตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเล่นพนัน ตราบใดที่พวกเขามีเงินเดิมพัน ถึงพวกเขาจะสูญเสียเงินไป พวกเขาก็จะคิดว่าหาวิธีนำเงินของตัวเองกลับมาให้จงได้ นี่แหละที่เขาเรียกว่านักพนันมืออาชีพ


 


“หยานจิงหนานโยว! นายรู้ตัวรึป่าวว่าทำอะไรลงไป? ทำไมต้องนายต้องใช้วิธีสกปกอย่างนั้นด้วย? นายไม่เห็นสายตาของฉันที่บอกนายว่าอย่าใช้วิธีสกปกรึไง? ตอนนี้ นายเห็นผลที่ตามมารึยัง เราแพ้หมดรูป!” ภายในห้องน้ำ ผานจื่อกำลังพูดกับหยานจิงหนานโยวด้วยความขุ่นเคือง


ฝ่ายหยานจิงหนานโยวเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ เขาจึงตอบอีกฝ่ายไปว่า “เหอะ! นายไม่ต้องมาต่อว่าฉันเลยนะ ถ้าเมื่อกี้นายยอมร่วมมือกับฉัน คนที่จะเสียเงินทั้งหมดคงเป็นหมอนั่นไปแล้ว!”


จนถึงตอนนี้ หยานจิงหนานโยวก็ยังคิดว่าเฉินหลงเป็นแค่คนธรรมดา ดูเหมือนว่าเขาจะติดใจเงินล้านถึงขั้นอาการหนักเลยทีเดียว


“เฮ้อ! นายนี่มันยังไงนะ นายยังคิดว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่โชคดีอยู่อีกเหรอ? ทำไมนายถึงยังคิดว่าเขาชนะทุกตาเพียงเพราะว่าเขาโชคดีไปได้นะ? ตื่น! ตื่นได้แล้ว! เลิกคิดถึงเงินล้านได้แล้ว เงินล้านแบบนั้นไม่ได้หามาได้ง่ายๆซักหน่อย บางทีสิ่งที่นายทำ อาจทำให้พวกเราจบเห่ได้เลยนะ!” เมื่อเห็นว่าหยานจิงหนานโยวยังคงฝันอยู่ ผานจื่อจึงจับไปที่ไหลของหยานจิงหนานโยวแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ หมายให้หยานจิงหนานโยวตื่นจากความฝันลมๆแล้งๆนี่เสียที


 


แน่นอนว่าการเขย่าเพื่อนเรียกสติของผานจื่อใช้ได้ผล หลังจากนึกถึงเรื่องที่เฉินหลงเคยว่าเอาไว้และเหตุการที่เขาแพ้หลายตาติดก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด


“ผานจื่อ! แล้วอย่างนี้พวกเราควรจะทำยังไงดีละ? เงินล้านที่พวกเราเสียไป แล้วไหนจะเงินหกแสนที่ยืมมาจากเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยสูงพวกนั้นอีก ขืนพวกเราไม่มีเงินไปจ่ายคืน มีหวังเกาลี่หยงมาจัดการฉันแน่เลย ! ! พวกเราจะทำยังไงกันดีละทีนี้!?” หยานจิงหนานโยวนึกถึงผลเสียที่กำลังจะตามมา หันไปถามผานจื่อแบบติดๆขัดๆ


“อย่าเสียงดังสิ ใจเย็นๆ ขอฉันคิดดูก่อน” แววตาของผานจื่อไม่มีวี่แววของคำว่าอ่อนโยนหลงเหลืออยู่เลย ทำให้ผานจื่อเข้าใจดีว่าในใจของอีฝ่ายรู้สึกหงุดหงิดมากขนาดไหน


 


ผานจื่อนึกถึงประโยคที่เฉินหลงเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างรอบคอบ


ใช้เวลาไม่นาน ผานจื่อก็ได้ข้อมูลต่างๆที่พอจะใช้ประโยชน์ได้ อย่างแรกคือเฉินหลงรวยมาก เขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย อย่างที่สองคือเขาอยากเสียเงินจริงๆ อย่างที่สามคือเขาไม่ได้ใช้วิธีสกปก เขาเล่นพนันด้วยความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง จนทำให้เขาได้เป็นฝ่ายชนะในที่สุด


เมื่อคิดได้ดังนั้น ผานจื่อพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้มีทางเดียวที่พวกเราสามารถทำได้คือเล่นกับเขาต่อไป แต่คราวนี้พวกเราห้ามใช้วิธีสกปรกเด็ดขาด พวกเราต้องเล่นพนันกับเขาด้วยความสามารถของตัวเองเท่านั้น!”


“เอาอย่างนั้นก็ได้ พนันก็พนัน” หยานจิงหนานโยวพยักหน้ารับ


ในเมื่อหยานจิงหนานโยวและผานจื่อมีความเห็นพ้องต้องกันแล้ว ฮ่าวซือก็ยินดีทำตามคนทั้งสอง


 


ในตอนที่หยานจิงหนานโยวกับผานจื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเข้ามาในห้องอีกครั้ง เฉินหลงก็ได้ทักขึ้นมาว่า “พวกคุณทั้งสามคนไปห้องน้ำพร้อมกันแล้วก็กลับมาพร้อมกันแบบนี้ พวกคุณท้องผูกกันเหรอครับ?”


เฉินหลงรู้ว่าในตอนที่พวกเขาขอไปเข้าห้องน้ำพร้อมกัน พวกเขาจะเจรจาเรื่องอะไรกัน


“ตลกแล้ว มาครับ ตอนนี้พวกเรามาต่อกันเถอะ” ผานจื่อพูดจบ ก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง


หลังจากรู้แผนการของทั้งสามคนรวมถึงผานจื่อแล้ว เฉินหลงได้นำเครื่องติดตามของตัวเองกลับมาไว้กับตัว และเริ่มพนันกับพวกเขาด้วยโชคของตัวเอง


คนทั้งสามรวมถึงผานจื่อก็ใช้ความสามารถของตัวเองในการเล่นเช่นกัน


 


อย่างไรก็ตาม ความจริงก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเมื่อโชคหายไป แม้แต่กำแพงก็ไม่สามารถต้านทานได้ และตอนนี้เฉินหลงเองก็เป็นแบบนั้น


หลังจากผ่านไปแล้วสองตา เฉินหลงสามารถเอาชนะทั้งสามคนรวมถึงผานจื่อได้


“ดูเหมือนว่าวันนี้คุณจะทำให้ผมสมหวังไม่ได้สินะครับ” เฉินหลงกล่าวในขณะที่กำลังจัดชิปที่ตั้งอยู่ตรงหน้า


ในเวลาเดียวกัน ชายทั้งสามคนรวมถึงผานจื่อ ที่ก่อนหน้านี้หน้าตาไม่น่ามองอยู่แล้ว ได้บิดเบี้ยวจนดูน่าเกลียดมากกว่าเดิมอีกเสียอีก แพ้ก็คือแพ้ เพราะพวกเขาไม่มีสิทธ์เลือก


 


“คุณช่างโชคดีจริงๆ ผมเชื่อแล้วว่าพวกเราเป็นฝ่ายแพ้” ผานจื่อหันไปพูดกับเฉินหลง


หลังจากที่เล่นกับเฉินหลงไปหลายรอบ ผานจื่อเห็นได้ชัดว่าสกิลการเล่นของเฉินหลงนั้นแย่มาก แต่เขาก็โชคไม่ดีจริงๆนั่นแหละ อีกฝ่ายเอาเงินเขาไปได้ทุกครั้ง สู้กับคนมีโชคแบบนี้ ผานจื่อก็ไม่รู้แล้วว่าจะต้องสรรหาคำไหนมาเปรียบอีก นอกจากบอกว่าเฉินหลงแม่งโคตรโชคดี


“ครับ สงสัยวันนี้ผมคงโชคดีจริงๆ ขนาดว่าผมอยากแพ้ใจจะขาด ผมยังไม่แพ้สักตา ฮ่าๆ ช่างมันเถอะครับ วันนี้ผมคงขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ผมค่อยแพ้ใหม่ก็ได้ ราตรีสวัสดิ์ครับ” เฉินหลงเก็บชิปทั้งหมดของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินนำหญิงสาวสองทั้งคนออกมาจากห้องวีไอพีในทันที


หลังจากที่เฉินหลงกลับไปแล้ว ชายทั้งสามคนรวมถึงอ้วนที่ยังคงนั่งอยู่ในห้อง ต่างหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าขมขื่น


 


“ผานจื่อ! แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะ?” สีหน้าของเขาดูหวาดกลัวเล็กน้อย ตอนนี้เขาได้สูญเสียเงินทั้งหมดไปแล้ว เขาไม่มีทางหาเงินมาคืนเกาลี่หยงได้ เมื่อเขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เขาเคยเห็นเกาลี่หยงจัดการกับคนอื่นยังไงแล้ว เขาก็ห้ามตัวเองไม่ให้ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัวไม่ได้เลย


“เอาเถอะ ใจเย็นๆ ฉันยังมีเงินอยู่ 5,000 หยวน พรุ่งนี้เราค่อยสู้กับเขาใหม่ก็ได้ แต่ถ้ามันยังไม่ได้ผลอีก พวกเราก็แค่ไปขอยืมเงินจากเขามาจ่ายให้กับเจ้าหนี้ก่อน ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีนะ แล้วเขาก็ไม่ได้ต้องการเงินอยู่แล้วด้วย ฉันคิดว่าเขาน่าจะให้โอกาสพวกเรา” ผานจื่อใช้ความคิดอยู่สักครู่จึงตอบอีกฝ่ายไป


ฮาวซือใช้เวลาคิดไตร่ตรอง เขาทำให้แค่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย เพราะเขายอมเสียหน้าไปขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย ดีกว่าให้เกาลี่หยงทุบตีเขาเยี่ยงสุนัข


หลังจากนั้น คนทั้งสามรวมถึงผานจื่อก็เดินออกไปจากห้องวีไอพี และเดินไปยังโต๊ะคนละตัวพร้อมที่จะต่อสู้อีกสักตั้ง


 


“เฉินหลง นายชนะจริงๆด้วยอ่ะ!” หลังจากที่เดินออกมาจากห้องวีไอพี เจิ้งหยู่ได้จ้องมองเฉินหลงด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงเลยว่าคนอ่อนประสบการณ์อย่างเฉินหลง จะจัดคนมากประสบการณ์อย่างสามคนนั้นได้อยู่หมัด ไม่อยากจะเชื่อเลย สุดยอด!


เจิ้งหยู่ชอบเล่นไพ่นกกระจอก และฝีมือการเล่นไพ่ของเธอก็ไม่เลวทีเดียว การเล่นเมื่อกี้ทำให้เธอเห็นได้ชัดว่าเฉินหลงเป็นแค่มือสมัครเล่น ส่วนผานจื่อ นั้นเป็นถึงระดับปรมจารย์ตัวจริงเสียงจริง แต่สุดท้ายมือสมัครเล่นกลับเป็นฝ่ายชนะ มันทำให้เธออึ้งจนถึงกับพูดไม่ออก มือสมัครเล่นชนะปรมจารย์เนี่ยนะ? เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้เนี่ย?


“ฮ่าๆๆ คิดไม่ถึงละสิว่าคนอย่างฉันจะชนะ” เฉินหลงหันไปมองเจิ้งหยู่


เจิ้งหยู่พยักหน้าแล้วตอบว่า “ก็ใช่น่ะสิยะ ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่านายจะชนะมาได้ คิดดูนะ ตอนที่ฉันเห็นนายเล่นไพ่อยู่ ฉันแทบไม่อยากดูนายเล่นเลยล่ะ เห็นแล้วโคตรหงุดหงิด ทั้งๆที่นายวางไพ่สามใบนั้นได้แท้ๆ แต่นายกลับไปวางเจี๋ยจางเนี่ยนะ วางแบบนั้น ถามจริง นายคิดอะไรอยู่ แล้วตอนจบเป็นไงล่ะ นายวางตามใจตัวเองทุกใบ แต่ก็ชนะทุกตา นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันยะ?”


หมดวันนี้ ทำเอาเจิ้งหยู่แทบเสียสติ ฉันจะบ้า


 


ฝ่ายเฉินหลงก็ได้ตอบอีกฝ่ายไปด้วยความภาคภูมิใจ “เธอเข้าใจผิดแล้ว ก็ถ้าฉันไม่วางเจี๋ยจาง แล้วคนอื่นจะชนะได้ยังไงล่ะ แต่ก็นั่นแหละ ฉันคงโชคดีจริงๆ ให้ตายสิ ทำขนาดนี้แล้วฉันยังไม่แพ้เลย”


เมื่อได้ฟังคำตอบของเฉินหลงแล้ว เจิ้งหยู่ถึงกับกุมขมับ ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบอะไรเขา เธอจึงหันหน้าไปอีกทางและไม่หันกลับมามองเฉินหลงอีก ให้ตายสิ ฉันไม่อยากเสวนากับคนอย่างหมอนี่แล้ว


อันหยามองดูเฉินหลงด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในสายตาของเธอตอนนี้เห็นเฉินหลงมีออร่าแห่งความลึกลับเต็มไปหมด


หลังจากนั้น เฉินหลงก็กลับมายังห้องของตัวเองเพื่อทำการพักผ่อน


 


วันรุ่งขึ้น มีคนอีกจำนวนหนึ่งบนเรือสำราญกำลังรอเฉินหลงอยู่


“ลั่วฮุ่ย ไอ้สารเลว ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ” คงอี้เหยียนแห่งตระกูลคงเป็นคนแรกที่เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู เนื่องจากความเกลียดชังระหว่างเธอกับลั่วฮุ่ย รวมไปถึงสถานะของเธอ เธอจึงไม่รอช้า เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเขาถึงหน้าประตูซะเลย


“เธอเองเหรอ?” ทันทีที่ได้เห็นการมาถึงของคงอี้เหยียน ลั่วฮุ่ยก็ขมวดคิ้วขึ้น


คงอี้เหยียนหันไปมองลั่วฮุ่ยด้วยแววตาที่ซับซ้อน “ใช่ ทำไม มีปัญหาเหรอ? ไม่ได้เจอหน้าฉันมาตั้งหลายปีแล้ว นายก็ยังลืมฉันไม่ลงล่ะสิ”


ในสายตาของคงอี้เหยียน สำหรับลั่วฮุ่ย มันคือความรัก แต่สำหรับเธอ มันคือความเกลียดชังต่างหาก!


TB:บทที่ 207 โชค (1)


 


ตระกูลคงและตระกูลลั่วต่างก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนที่คงอี้เหยียนและลั่วฮุ่ยจะได้ลืมตาดูโลกนั้น ทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทำให้ลูกหลานของทั้งสองตระกูลได้ติดต่อกันตั้งแต่เด็ก ในตอนนั้นคงอี้เหยียนและลั่วฮุ่ยอายุเท่ากัน นอกจากนี้ ลั่วฮุ่ยยังได้แสดงความสามารถที่สุดยอดให้เห็นตั้งแต่เด็ก ทำให้คงอี้เหยียนชื่นชอบที่จะเล่นกับลั่วฮุ่ยมาก


การโตตามอายุ ลั่วฮุ่ยก็ได้กลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่หน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นคือ ความแข็งแกร่งของเขายังอยู่ในอันดับต้นๆในรุ่นเดียวกันอีกด้วย ความรักระหว่างเพื่อนของคงอี้เหยียนที่มีต่อลั่วฮุ่ยได้แปรเปลี่ยนเป็นความรักระหว่างชายหญิง ถึงความรักของลั่วฮุ่ยที่มีต่อคงอี้เหยียนจะเป็นแบบพี่ชายและน้องสาว แต่ลั่วฮุ่ยก็ต้องยอมหมั้นกับเธอ เพราะคำสั่งและการเตรียมการของคนในตระกูลเท่านั้น


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้พบกับผู้เป็นที่รัก ลั่วฮุ่ยได้ถอนหมั้นที่ตระกูลได้เตรียมการเอาไว้ และรักษาความรู้สึกนี้เอาไว้ด้วยใจจริง


หลังจากนั้น โศกนาฏกรรมก็ได้เกิดขึ้น ทั้งสองตระกูลได้กลายมาเป็นศัตรูกัน ลั่วฮุยละทิ้งศิลปะการต่อสู้ของตัวเอง และหมินซีก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมานานกว่าสิบปี


ทั้งหมดนี้มาจากความรักของคงอี้เหยียนที่มีต่อลั่วฮุ่ย แม้ว่าเธอจะถูกลั่วฮุ่ยทำร้ายจิตใจมานานกว่าสิบปี แต่เธอก็ไม่สามารถตัดใจไปจากลั่วฮุ่ยได้เลยสักครั้ง


 


“ฉันหวังว่าฉันจะลืมเธอและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่เธอรู้ไหมว่าฉันลืมเธอไม่ลง เพราะฉันเกลียดเธอมากยังไงล่ะ หมินซีจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยมานานกว่าสิบปีเพราะเธอ แต่เมื่อฉันพบเธออีกครั้ง ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเกลียดเธออีกแล้ว ฉันแค่หวังว่าเธอจะไปพบเจอกับความสุขและลืมฉันได้สักวัน” ลั่วฮุ่ยมองดูคงอี้เหยียน ได้แต่หวังว่าสักวันเธอจะได้พบทางสว่าง


 


ตอนแรก ลั่วฮุ่ยคิดว่าถ้าเขาได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง เขาจะต้องโกรธเธอมากแน่ แต่เข้าจริงๆ เมื่อเขาได้เจอกับเธออีกครั้ง จู่ๆความเกลียดชังที่อยู่ในใจของลั่วฮุ่ยก็หายไปทันที เพราะเขารู้ดีว่าเธอเองก็เป็นทุกข์กับเรื่องนี้เช่นกัน


“เหอะ คนที่เป็นทุกข์อย่างฉันจะลืมนายได้เหรอ? นายสร้างบาดแผลให้ฉัน แต่กลับบอกว่าลืมๆมันไป แล้วมันเยียวยาอะไรฉันได้ไหม? ฉันขอบอกเลยนะว่าไม่มีทาง! ชื่อของนายได้ฝังลึกอยู่ในไขกระดูกของฉันไปเรียบร้อยแล้ว ในชีวิตนี้ ฉันไม่มีทางลืมนายเด็ดขาด!” คงอี้เหยียนกล่าวอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเธอก็หันไปมองเฉินหลงแล้วพูดต่อว่า “แต่ว่าครั้งนี้ ฉันไม่ได้มาหานาย ฉันมาหาเขาต่างหากล่ะ!”


 


ในตอนแรก ยังไม่ถึงฉากที่เฉินหลงจะได้ออกโรง จึงดูการแสดงอยู่เงียบๆ ใครจะไปรู้ว่าแค่การแสดงเพิ่งจะเริ่ม ก็มีชื่อเขาเข้าไปเกี่ยวแล้ว


“ผมเหรอครับ?” เฉินหลงหันไปมองคงอี้เหยียนด้วยความประหลาดใจด้วยท่าทางสับสน


“ใช่แล้ว ฉันมาหานาย ฉันว่าคำพูดของฉันก็ไม่ได้เบาเหมือนเสียงกระซิบเลยนะ นายไม่ได้ยินไม่ชัดได้ยังไง? อะไรกัน อายุแค่นี้ก็หูตึงแล้วเหรอ” คงอี้หยานว่า


ทันใดนั้นสีหน้าของเฉินหลงเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชาทันที “ผม เฉินหลงรู้ว่าการพูดดีกับคนอื่นเป็นยังไง คนตระกูลคงอย่างคุณนี่สนใจเรื่องคนอื่นจังเลยนะครับ มันไม่เป็นการยุ่งเรื่องของคนอื่นไปหน่อยเหรอครับ”


คนอย่างคงอี้เหยียนมีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เธอกล้ามาข่มขู่พวกเขาขนาดนี้แล้ว หลังจากนี้เฉินหลงก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเธออีก


 


“ต๊าย อย่าคิดว่าการที่นายหลบอยู่หลังหัวหน้าตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเรา แล้วพวกเขาจะปกป้องนายได้นะ ถ้าเราต้องการตัวนายจริงๆ นายคิดว่าคนที่คอยสนับสนุนนายจะสามารถปกป้องนายได้อย่างนั้นเหรอ?” คงอี้เหยียนพูดดูถูกเฉินหลง


ถึงแม้ว่าตอนนี้เฉินหลงจะมีบริษัทเว่ยหลงเทคโนโลยี แต่ก็ยังมีพวกเงามืดของประเทศคอยอยู่เบื้องหลังอยู่ดี ถ้าจะให้เทียบกับตระกูลชั้นสูง พวกรายละเอียดยิบย่อยยังห่างไกลกันมาก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงต้องการตัวเฉิหลง


“ผมคิดว่าคุณคิดผิดนะครับ คนอย่างเฉินหลงยังต้องให้คนอื่นมาปกป้องอีกเหรอครับ?” จากนั้น ร่างกายของเฉินหลงก็ได้ปล่อยลมปราณที่แท้จริงในรูปแบบกระแสพลังออกมา


 


เมื่อรู้สึกถึงพลังจากร่างของเฉินหลง ทันใดนั้นคงอี้เหยียนก็รู้สึกผวาขึ้นมา ทำให้สีหน้าของเธอได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง


“พลังของนาย… ”


จนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จากเดิมที่เฉินหลงอยู่ในระดับกำเนิด และในตอนนี้เขาก็ได้อยู่ในระดับที่สามารถเปลี่ยนลมปราณให้กลายเป็นพลังได้เรียบร้อยแล้ว แต่ความเร็วในการพัฒนาความสามารถของเขานั้นเร็วเกินว่าที่จะทำใจเชื่อได้


“ตอนนี้ คุณยังคิดว่าผมต้องการให้คนอื่นมาปกป้องอีกไหมครับ?” กล่าวจบ เฉินหลงก็ได้รวบรวมพลังอีกครั้ง


 


“ดูเหมือนว่านายจะเป็นอัจฉริยะตัวจริงสินะ แต่ถึงจะเป็นอัจฉริยะยังไงก็ต้องใช้เวลาในการพัฒนาอยู่ดี ถ้าจู่ๆอัจฉริยะอย่างนายตายไป มันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเลย” ด้วยความตกใจ คงอี้เหยียนจึงปรับอารมณ์ให้กลับมาสงบอีกครั้ง


“ตาย?! ตั้งแต่ผมยังไม่มาถึงระดับนี้ ผมยังกล้าสู้กับตระกูลซ่งเลย แล้วตอนนี้ผมก็ไม่ได้อ่อนแอแบบนั้นแล้ว คุณคิดว่าคนอย่างผมจะกลัวคุณเหรอครับ?” บนใบหน้าของเฉินหลงผุดรอยยิ้มขึ้น”นอกจากนี้ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาขู่ซะด้วยสิ ปกติถ้ามีคนมาพูดขู่ผมแบบนี้ ผมจะฆ่าคนๆนั้นให้ตายไปในทันทีเลยล่ะครับ”


หลังจากนั้น เฉินหลงก็จ้องหน้าคงอี้เหยียน เพื่อส่งสัญญาณให้เธอได้รู้ว่าเขากำลังหมายถึงเธออยู่


ในเมื่อคงอี้เหยียนกล้าข่มขู่เขาแบบนี้ เฉินหลงก็มีสิทธิ์ที่จะข่มขู่เธอกลับ


 


คำพูดของเฉินหลงทำให้ใบหน้าของคงอี้เหยียนเปลี่ยนสีอีกครั้ง ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ระดับกำเนิด เธอก็มีค่ามากสำหรับตระกูลคง ตอนนี้เธอถูกเฉินหลงคุกคาม เธออยากจะต่อยเขาสักหมัดจริงๆ แต่พอได้ลองคิดว่าความสามารถของอีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตที่สามารถเปลี่ยนลมปราณให้กลายเป็นพลังได้ ลำพังแค่เธอคนเดียวไม่มีทางสู้เขาได้ เธอไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องข่มคำพูดพวกนั้นเอาไว้และอดทนเท่านั้น


“เยี่ยม นายจำคำพูดของตัวเองเอาไว้ให้ดีล่ะ” ทันทีที่คงอี้เหยียนพูดจบ เธอก็เดินจากไป


เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ในตอนที่คงอี้เหยียนได้พบกับเฉินหลง เธอได้เดินจากไปด้วยความหวาดกลัว


 


“น้องชาย ฉันต้องขอโทษนายด้วย เพราะเรื่องของฉันทำให้นายถูกเธอเกลียดไปด้วย” หลังจากที่คงอี้เหยียนเดินออกไปแล้ว ลั่วฮุ่ยจึงหันหน้าไปพูดกับเฉินหลง


เพราะเรื่องของเขา คนตระกูลคงถึงได้ทำให้เฉินหลงอารมณ์เสียแบบนี้ ภายในใจของลั่วฮุ่ยรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายจริงๆ


เฉินหลงส่งยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วตอบว่า “ไม่เป็นไรครับ มันก็เป็นแค่เรื่องของเวลาที่จะได้เจอกับตระกูลคงที่สูงส่ง แค่ตอนนี้มันเกิดขึ้นเร็วนิดหน่อย”


เฉินหลงได้ให้สัญญากับเต๋ากวนหานว่าจะล้างแค้นให้เขา ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องสู้กับตระกูลนี้ ในฐานะหนึ่งในตระกูลชั้นสูง ตระกูลคงไม่มีทางได้เห็นพลังแบบนี้กับตา เมื่อเวลานั้นมาถึง ยังไงเขาก็ไม่สามารหลักเลี่ยงการต่อสู้ได้ แต่แค่ตอนนี้มันเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควรก็เท่านั้น


 


ลั่วฮุ่ยมองดูเฉินหลงโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรอีก เขาเป็นคนที่อยู่ในระดับพลังลมปราณ ถ้าจะให้พูดว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยาน เห็นทีคงจะไม่ได้ แต่…เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขาไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลชั้นสูง เขาและอีกฝ่ายเป็นแค่พี่น้องกัน แม้ว่าตระกูลของเขาจะขัดแย้งกับเธอและอยู่ในฐานะที่อ่อนแอกว่า แต่เขาก็สามารถทำให้ตระกูลของเขาหลุดพ้นจากวงล้อแห่งความถูกผิดได้โดยความสัมพันธ์ของเขาเอง


ในสมองของลั่วฮุ่ย มีความคิดที่ว่าเฉินหลงมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถเอาชนะตระกูลชั้นสูงได้


 


หลังจากที่คงอี้เหยียนได้จากไปแล้ว เฉินหลงก็ได้เพลิดเพลินกับการล่องเรือที่สวยงามต่อ ตกดึก เฉินหลงได้มายังคาสิโนพร้อมชิปมูลค่าสี่ล้านหยวนอีกครั้ง


ในวันนี้ โชคของเฉินหลงไม่ดีเท่ากับเมื่อวาน และไม่นาน เฉินหลงก็ได้เสียเงินหนึ่งล้านหยวนไป


“ดูเหมือนว่าจะมีโชคของจริงอยู่ในโลกสินะ” เมื่อเขาได้สูญเสียเงินหนึ่งล้านไป เฉินหลงใช้ความคิดอย่างใจเย็น


ในเวลาเดียวกัน เขาขอวางมือจากการพนันสักครู่ และเดินไปยังบาร์ในคาสิโน สั่งไวน์หนึ่งแก้ว แล้วค่อยๆจิบไวน์เข้าไปหนึ่งอึก


 


จากนั้นเขาก็ได้เข้าสู่ระบบ


ในตอนที่นึกถึงโชค ไหนลองมาดูกันซิว่า ในระบบจะมีสิ่งที่เกี่ยวกับโชคขายบ้างไหม


ในตอนที่เขาเข้าไปในระบบ เขาก็ค้นหาไอเท็มที่เกี่ยวกับโชค


 


‘ลัคกี้สปริง’ ที่ทำให้โชคพุ่งเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สามารถให้ผู้ใช้ได้โชคดีได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ใช้คะแนนแลกเปลี่ยน 500 คะแนน


 


‘ยาเปลี่ยนชะตากรรม’ สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของผู้ใช้ได้หลังจากใช้งาน ใช้คะแนนแลกเปลี่ยน 50,000 คะแนน


 


‘เทคนิคเปลี่ยนชะตากรรม’ หลังจากศึกษาแล้ว คุณสามารถใช้ 24 เทคนิคในตำราเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของผู้อื่นได้ ใช้คะแนนแลกเปลี่ยน 100,000 คะแนน


TB:บทที่ 208 โชค (2)


 


หนึ่งในนั้นยังมีไอเท็มจิ๋วที่มีชื่อว่า ‘วงล้อนำโชค’ ไอเท็มชิ้นนี้ได้ดึงดูดความสนใจของเฉินหลง ผู้ขายคือ เน็ก จากดาวเคราะห์แห่งความโชคดี โดยใช้คะแนนแลกเปลี่ยน 2,000 คะแนน


 


ตามชื่อ ‘วงล้อนำโชค’ เป็นวงล้อขนาดใหญ่ โดยวงล้อแบ่งออกเป็นแปดช่อง ซึ่งแต่ละช่องจะมีหมายเลข +1 +2 +4 +8 -8 -4 -2 -1 อยู่ข้างใน คุณสามารถหมุนวงล้อได้วันละหนึ่งครั้ง ถ้าคุณหมุนได้เครื่องหมาย + ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณสามารถเพิ่มโชคเป็นหนึ่งเท่าตัว คุณจะได้รับเงินเมื่อคุณได้ออกไปข้างนอก และคุณจะถูกลอตเตอรีทุกใบที่คุณซื้อ แต่ถ้าคุณหมุนได้เครื่องหมาย – ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะโชคของคุณจะลดลง ถ้าคุณมีโชคน้อย คุณก็จะถูกสุนัขฉี่ใส่ทันทีที่คุณออกไปข้างนอก ไม่ว่าคุณจะหมุนได้โชคดีหรือโชคร้าย โชคของคุณจะกลับมาเป็นปกติภายในหนึ่งวัน


 


“วงล้อนำโชคจิ๋วนี้ น่าสนใจเหมือนกันแหะ” เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉินหลงก็ทำการแลกเปลี่ยนวงล้อนำโชคนี้มาด้วยคะแนนแลกเปลี่ยน 2,000 คะแนน


หลังจากแลกวงล้อนำโชคมาแล้ว เฉินหลงก็ได้ลองหมุนมันดูหนึ่งครั้ง


โชคของเฉินหลงเรียกได้ว่าดีทีเดียว หัวลูกศรชี้ไปที่ +1 นั่นก็หมายความว่าโชคของเฉินหลงจะเพิ่มเป็นหนึ่งเท่าตัว เยี่ยมไปเลย!


ในเวลาเดียวกัน เฉินหลงก็ได้กลับไปเล่นบาคาร่าที่โต๊ะอีกรอบ


 


โป๊ะเช๊ะ! โชคของเขาเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งเท่าตัวจริงๆด้วย ดวงของเขากลับมาแล้ว เฉินหลงที่ก่อนหน้านี้ต้องเสียเงินไปตั้งหนึ่งล้านหยวน ในตอนนี้เขาเล่นชนะและได้เงินคืนมาสองแสนหยวน


หลังจากนั้น เฉินหลงก็ไม่อยู่เล่นอีกต่อไป เขาแลกเปลี่ยนชิปสี่ล้านชิปให้เป็นเงิน และเหลือไว้กับตัวเพียงสองแสนชิป จากนั้นก็กลับไปพักผ่อน


 


เฉินหลงที่ชนะเงิน กำลังถูกสายตาของใครสักคนจ้องมองอยู่


“พี่เฟิง ชายคนนั้นได้เงินรางวัลมากกว่าหนึ่งล้านในคาสิโนแล้ว” ผู้จัดการคาสิโนพูดกับเฮ่อเฟิงพลางชี้ไปที่เฉินหลงที่อยู่ในจอภาพจากกล้องวงจรปิด


เมื่อเห็นว่าบุคคลในจอคือเฉินหลง เฮ่อเฟิงก็ขมวดคิ้วขึ้น


ถ้าเป็นคนอื่น เฮ่อเฟิงแค่คงส่งไปตักเตือนก็จบเรื่องแล้ว แต่เพราะนี่คือเฉินหลง สถานะของอีกฝ่ายทำให้เขาทำอย่างนั้นกับอีกฝ่ายไม่ได้


 


หน้าที่ดูแลคาซิโนยังเป็นหนึ่งในงานของเขา ในตอนที่เฮ่อเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ เขาถึงกับต้องถามอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจว่า “พี่เฟิง ชายคนนั้นเป็นคนใหญ่คนโตเหรอครับ?”


เฮ่อเฟิงไม่ตอบ เขาแค่พยักหน้าให้อีกฝ่ายเท่านั้น


แน่นอนว่าการพนันมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ แต่ถ้ามีคนที่ชนะเงินจำนวนหนึ่ง ผู้ดูแลคาสิโนจะออกมาบอกพวกเขาว่าให้หยุดเล่นแต่เพียงแค่นี้ เพราะเรือสำราญจำเป็นต้องหาเงินจากคาสิโน


 


อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะในครั้งนี้คือเฉินหลง และเฮ่อเฟิงไม่สามารถบอกให้เฉินหลงหยุดเล่นได้ ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ เขาเกรงว่าคนที่จะไม่พอใจจะเป็นลั่วฮุ่ย ไม่ใช่เฉินหลงน่ะสิ


ถึงลั่วฮุ่ยจะถูกถอดชื่อออกจากตระกูลลั่วแล้ว แต่เขาก็ยังมีสายเลือดของตระกูลลั่วไหลอยู่ในตัวเขาอยู่ดี ทัศนคติของตระกูลลั่วเมื่อหลายปีก่อนก็แสดงให้เห็นถึงจุดนี้เช่นกัน


ตอนนี้ในสมองของเฮ่อเฟิงรู้สึกปวดหนึบ


 


“พี่เฟิง ผมมีวิธีมานำเสนอครับ” ชายที่มีหน้าที่รับผิดชอบเอ่ยขึ้น


ดวงตาของเฮ่อเฟิงสว่างวาย เขาถามกลับว่า “วิธีอะไรล่ะ ไหนลองว่ามาสิ”


“อันที่จริง วิธีนี้ง่ายมาก ที่พี่เฟิงปวดหัวอยู่เป็นเพราะพี่เข้าไปห้ามเขาไม่ให้เล่นชนะในคาสิโนของเราได้ใช่ไหมล่ะครับ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องไปห้ามเขาสิครับ เราก็แค่จัดให้เขาไปเล่นพนันกับพวกคนรวยๆแทนการพนันกับเรา วิธีนี้ ถ้าหากว่าเขาชนะอีก พี่ก็จะไม่ปวดหัวแล้ว” ผู้จัดการพูดด้วยรอยยิ้ม


เฮ่อเฟิงตีเหม่งตัวเองดังแป๊ะ แล้วตอบว่า “ใช่แล้ว! ทำไมฉันคิดไม่ถึงนะ เอาไว้พรุ่งนี้ ถ้าเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ให้นายทำตามแผนที่นายคิดไว้ก็ได้ แต่ว่านายจะต้องพูดกับเขาดีๆนะ แล้วก็จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วย เข้าใจไหม?”


“พี่เฟิงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยครับ ผมจะทำมันให้ดีที่สุดเลย!”


 


วันรุ่งขึ้น ระหว่างวันไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น คนที่มาหาเฉินหลงก็ไม่ปรากฏตัว มันแปลกจริงๆ


ตกดึก เฉินหลงกลับมาที่คาสิโนอีกครั้งพร้อมกับชิปจำนวนสองแสนหยวน


วันนี้เฉินหลงได้หมุนวงล้อนำโชคหนึ่งครั้ง เขาหมุนได้ +8 ซึ่งหมายความว่าเขาจะโชคดีถึงแปดเท่า และวันนี้เขาจะไม่ได้พบเจอกับคำว่าโชคร้ายอีก


ไม่นานชิปจำนวนสองแสนของเฉินหลงก็ได้เพิ่มเป็นสองล้าน ด้วยความโชคร้าย เขาทำให้ผู้จัดการของคาสิโนต้องออกโรง


 


“คุณครับ วันนี้คุณโชคดีมากเลยนะครับ ว่าแต่คุณต้องการทำเงินมากกว่าเดิมไหมครับ?” ผู้จัดการเดินเข้าไปถามเฉินหลง


“คุณเป็นใครครับ?” เฉินหลงเอ่ยถาม


“ผมแซ่หยาง นามว่าหยางเจียงครับ ผมเป็นผู้จัดการของที่นี่ ในห้องวีไอพี2 ยังมีแขกที่ยังไม่ได้เล่นพนันเลยในวันนี้ พวกเขาจึงขอให้ผมหาใครสักคนไปพนันกับเขาครับ และผมก็เห็นว่าคุณดวงดีและมีเงินมากพอที่จะร่วมพนันกับพวกเขาได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมอยากจะเชิญชวนคุณไปเล่นพนันกับพวกเขาครับ” ผู้จัดการหยางเจียงตอบเขาด้วยรอยยิ้ม


 


หยางเจียงน่าจะอายุราวๆยี่สิบห้าหรือยี่สิบหกปี เขามีความสามารถในการทำให้คนอื่นไม่รู้สึกถึงความอึดอัดเลยแม้แต่น้อย


“ได้เลยครับ นำทางไปเลย” เฉินหลงเองก็ตอบเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน


เฉินหลงรู้ว่าในคาสิโนแห่งนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลอยู่ ในตอนที่ระบบอัจฉริยะช่วยเขารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรือสำราญนั่นเอง เนื่องจากอีกฝ่ายพูดจากับเขาด้วยความสุภาพมาก และเฉินหลงเองก็จะไม่ได้ลำบากใจที่จะทำตามคำขออีกฝ่าย นอกจากนี้ เขาก็ไม่อยากให้โชคแปดเท่าที่ได้ว่าสูญเปล่า ในเมื่อโอกาสมาหาเขาถึงที่ เขาก็ต้องรีบความมันเอาไว้สิ!


 


เฉินหลงตอบตกลง ทำให้หยางเจียงรู้สึกโล่งใจมาก หลังจากนั้นเขาก็ได้พาเฉินหลงไปที่ห้องวีไอพี


ในทำนองเดียวกัน มีคนสามคนกำลังนั่งรออยู่ในห้อง มีชาวจีน 2 คน ส่วนอีกคนเป็นชาวต่างชาติผมบลอนด์


ชาวจีนทั้งสองคนมีอายุประมาณสี่สิบปี ในตอนที่พวกเขาเห็นเฉินหลงมาถึง พวกเขาทั้งสองคนแสดงสีหน้าไร้อารมณ์และไร้ความรู้สึก ท่าทางของพวกเขาคล้ายกับเจ้าหน้าที่ลิงจ๋อในหนังที่มาเพื่อเพลิดเพลินกับการเล่นพนันบนเรือสำราญ


หลังจากที่เล่นสนุกแล้ว พวกเขาก็จะลงจากเรือไปยังท่าเทียบเรือสักแห่ง


ส่วนชาวต่างชาติผมบลอนด์ที่หน้าตาเหมือนพีท เขาเป็นผู้ชายที่หล่อกระชากใจสาวๆ


 


“การจะเข้ามาเล่นในห้องนี้ได้จะต้องมีเงินอย่างน้อยห้าล้าน เงินของนายมันน้อยเกินไป” หนึ่งในนั้นคือหนุ่มจีน กล่าวขึ้น น้ำเสียงของเขาเป็นการพูดแบบมาตรฐานของประเทศจีน ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าสำเนียงที่เขาพูดนั้นเป็ยสำเนียงใด


“หึ ถ้าอย่างนั้น ผมขอรบกวนผู้จัดการหยางแลกเงินสามล้านหยวนให้ฉันหน่อยนะครับ” เฉินหลงหันไปพูดกับหยางเจียงโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะว่าเขายังไง


ในไม่ช้า หยางเจียงก็ได้นำชิปอีกสามล้านมาให้เฉินหลง


 


“ตอนนี้ก็พร้อมแล้วสินะครับ” เฉินหลงนั่งลงบนเก้าอี้ที่ไม่มีใครจับจอง


หลังจากที่เฉินหลงนั่งลงแล้ว ชายคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้ก็ได้ถามเฉินหลงว่า “มาคุยกันเถอะ พวกเรากำลังเล่นไพ่โป๊กเกอร์ นายเล่นเป็นไหม?”


เฉินหลงพยักหน้าตอบ และในเวลาเดียวกันระบบอัจฉริยะก็เริ่มรวบรวมกฎการเล่นโป๊กเกอร์มาให้เฉินหลง


“ดี เล่นเป็นก็ดี ฉันจะไม่พูดให้มากความ เอาเป็นว่า ถ้ามีใครเล่นไพ่แพ้แล้วเสียตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงห้าล้าน คนๆนั้นจะมีสิทธิ์เลือกที่จะเล่นต่อหรือไม่เล่นก็ได้ เพื่อป้องกันการทุจริต ไพ่แต่ละสำรับจะเล่นได้เพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น และในแต่ละตา พวกเราจะผลัดกันสับไพ่คนละหนึ่งครั้ง” ชายคนนั้นพูดต่อจนจบประโยค


 


“ตกลงครับ” ในเวลาเดียวกัน เฉินหลงก็รู้วิธีเล่นไพ่แบบนี้เรียบร้อยแล้ว


จากนั้น เกมก็ได้เริ่มต้นขึ้น


ไพ่สำรับแรกถูกสับ และไพ่คิงกับไพ่ควีนได้ถูกแยกออกไป ไพ่ชุดแรกจะถูกสับโดยชาวจีนที่พูดกับเขาเมื่อกี้


หลังจากคนทั้งสี่ได้รับไพ่ ไพ่ข้าวหลามตัด*สามใบอยู่ในมือของเฉินหลง


ในตอนนี้ ไพ่ในมือของเฉินหลงนับว่าดีทีเดียว และอีกไพ่อีกสองใบที่เขาได้รับนั้นก็เป็นไพ่ข้าวหลามตัดทั้งสองใบเช่นกัน นี่มันไพ่ฟลัช**! คนอื่นไม่มีทางเอาชนะไพ่ในมือของเขาได้ง่ายๆหรอกนะจะบอกให้!


*ไพ่ข้าวหลามตัด(♢)


**สเตรทฟลัช (Straight Flush) – ไพ่ 5 ใบ ที่มีดอกเดียวกัน และเรียงลำดับกัน


TB:บทที่ 209 โชค (3)


 


การที่โชคของเขาที่เพิ่มขึ้นแปดเท่านั้นสุดยอดมาก ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สับไพ่ เฉินหลงเป็นคนที่มือขึ้นที่สุด ราวกับว่าไพ่ฟลัช*นั้นจะอยู่เฉพาะในมือของเฉินหลง เพราะในแต่ละครั้งเฉินหลงเป็นคนที่ได้ครอบครองมันเพียงคนเดียวเท่านั้น


ไม่นาน เฉินหลงก็ได้กลายเป็นผู้ชนะ และได้รับเงินห้าล้านจากทั้งสามคน


ในทำนองเดียวกัน ใบหน้าของคนจีนสองคน จากเดิมที่พวกเขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ในตอนนี้มันกลับบิดเบี้ยวจนดูไม่น่ามองเอาเสียเลย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเป็นฝ่ายแพ้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแพ้โดยที่ไม่สามารถโต้กลับอีกฝ่ายได้เลยสักครั้งเดียว และที่สำคัญที่สุดคือเฉินหลงยังไม่ได้ใช้วิธีสกปกอะไรในการเล่นไพ่อีกต่างหาก น่าเจ็บใจนัก!


 


ทางด้านชาวต่างชาติคนนั้น เขากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง เขาหันไปมองเฉินหลง ไม่ว่าจะเป็นวิธีสับไพ่ของเฉินหลง หรือสีหน้าที่ไม่ปกปิดอะไรเลยแบบนั้น ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายเล่นไม่เก่ง แต่ถ้าเล่นไม่เก่งจริงๆ แล้วทำไมถึงได้ไพ่ดีถึงขนาดที่เขาเองยังไม่มีโอกาสหาทางเอาชนะอีกฝ่ายได้เลยล่ะ


“เอ่อ พวกคุณจะเล่นต่อไหมครับ?” เฉินหลงเอ่ยถามพวกเขาทั้งสามคน


ทั้งสามคนต่างหันมามองหน้ากัน และส่งสายตาให้สัญญาณให้กันว่าพวกเขาจะสู้ต่อ


“เล่นสิ ทำไมจะไม่เล่นล่ะ พวกฉันแต่ละคนจะเล่นอีกสิบล้าน และวางไพ่ตาละสองหมื่น แต่ถ้าเราหมดตัว พวกเราก็จะเลิกเล่น นายว่ายังไงล่ะ?” ชายคนที่พูดก่อนหน้านี้หันไปมองอีกสองคนที่เหลือ


ชาวต่างชาติพยักหน้าด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาเข้าใจภาษาจีน


และชาวจีนอีกคนก็เห็นด้วยกับเขาเช่นกัน


 


ถ้าพวกเขายืนยืนที่จะเล่นต่อ เงินของพวกเขาก็จะกลายมาเป็นเงินของเฉินหลง เพราะวันนี้เฉินหลงโชคดีสุดๆ ทำให้ทั้งสามคนสูญเสียเงินทั้งหมดไปอีกรอบ


แต่ถึงอย่างนั้น เงินสิบห้าล้านหยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถปั้นยิ้มได้อีกและกล่าวคำล่ำลาต่อเฉินหลง


มีเพียงชาวต่างชาติคนนั้นที่ยังคงนั่งอยู่กับที่เดิม


“คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” หลังจากที่เฉินหลงเก็บชิพให้เข้าที่เข้าทาง ผู้อ่อนประสบการณ์หันไปถามผู้มากประสบการณ์


“คือว่าผมสงสัยในตัวคุณมากเลยจริงๆ” ชาวต่างชาติพูดกับเฉินด้วยสำเนียงจีนที่เป็นเอกลักษณ์แบบชาวต่างชาติ


 


“ขอโทษนะครับ แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก” เมื่อได้ยินคำพูดของชาวต่างชาติ ทันใดนั้นเฉินหลงก็รู้สึกถึงดอกเบญจมาศที่อัดแน่นเหมือนกับสบู่ก้อนหนึ่งที่กำลังจะตกพื้น


ถึงแม้ว่าชาวต่างชาติคนนี้จะหล่อมากขนาดไหน แต่เขาก็เป็นคนตรงๆแบบ 100% ถ้าเขากล้ากระดิกนิ้ว อีกฝ่ายได้เข้ามาฆ่าเขาแหงๆ


คำตอบของเฉินหลงถึงกับทำให้ชาวต่างชาติเบิกตาโพลง นี่อีกฝ่ายคิดว่าคนอย่างเขากำลังคิดอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ? “โอ้ คุณครับ คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”


“ก็คำพูดของคุณ ฟังแล้วมันคิดว่าเป็นเรื่องดีๆไม่ได้นี่ครับ แล้ว…ทำไมคุณถึงสงสัยในตัวผมกันละครับ?” เฉินหลงรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าชาวต่างชาติคนนี้ไม่ใช่คนแบบที่เขาคิด


 


“คือคุณเพิ่งเคยเล่นโป๊กเกอร์เป็นครั้งแรกใช่ไหมล่ะครับ?”


“ใช่ครับ” เฉินหลงหันไปมองชาวต่างชาติด้วยความสงสัย เหลือบมองชาวต่างชาติเล็กน้อย เรื่องแค่นี้ เขารู้หรอกน่า


เฉินหลงไม่คิดว่าฝีมือสับไพ่ของเขาหรือการที่เขาไม่กล้าสู้หน้า จะทำให้เขาดูเป็นคนขี้ขลาดหรือไอ้ขี้แพ้สักหน่อย


“ขนาดว่าคุณเพิ่งเคยเล่นกับผมครั้งแรก ก็ได้เงินจากพวกผมทั้งสามคนไปคนละ 15 ล้านแล้ว ผมสงสัยจริงๆนะครับ ว่าคุณทำได้ยังไง?” ชาวต่างชาติจ้องหน้าเฉินหลง เขาต้องการมองเฉินหลงอย่างถี่ถ้วน


 


“ผมจะพูดชัดๆเลยนะว่าผมไม่ได้โกง ผมคิดว่าที่ผมชนะมาได้ก็เพราะโชคดี สองวันนี้ผมโชคดีมากจริงๆครับ ผมชนะแล้วได้เงินทุกการพนันเลย” เฉินหลงดูใสซื่อเล็กน้อย


“ผมเข้าใจดีครับ ไม่อย่างงั้นคุณคงไม่มาถึงจุดนี้ได้หรอก” สิ่งที่ชาวต่างชาติพูดดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง


ชาวต่างชาติคนนี้เป็นนักเล่นไพ่ เขารู้ดีว่าเฉินหลงไม่ได้เล่นโกงเลย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้เฉินหลงพูดอยู่อย่างนี้หรอก


“คือว่า ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบ เฉินหลงก็เดินออกจากห้องวีไอพีไปพร้อมกับชิป


 


“ผมชื่อบลองเชอร์ ผมหวังว่าครั้งหน้าเราจะได้พบกันอีกนะครับ”


เฉินหลงพยักหน้าโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมอง เขายังคงก้าวเดินต่อไป


ความสามารถของบลองเชอร์ไม่เลวเลย เขาเป็นถึงเขตของปรมาจารย์ระดับสูง แต่สำหรับคนอย่างเฉินหลง เขาไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายอยู่ในสายตาเลยสักนิด


“เป็นยังไงบ้างครับท่าน” เมื่อเห็นเฉินหลงเดินออกมาห้องวีไอพี หยางเจียงก็รีบตรงเข้าไปถามเขา


“ไม่แย่เท่าไหร่ครับ ผมกินเรียบเลย ส่วนนี่เป็นค่าตอบแทนสำหรับคุณ แล้วก็รบกวนคุณพาผมไปแลกชิปด้วยครับ” เฉินหลงมอบชิปให้หยางเจียงมูลค่าหนึ่งแสนหยวน


 


เมื่อหยางเจียงได้รับชิปไป เขาหัวเราะและรีบตอบอีกฝ่ายไปว่า “ขอบคุณครับ รบกวนตามผมมาทางนี้เลยครับ ผมจะพาคุณไปแลกชิปที่เหลือ”


ในตอนที่เขาได้เห็นชิปในมือของเฉินหลง หยางเจียงรู้สึกตกใจเล็กน้อย มือโปรพวกนั้นเอาชนะได้ยากมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาสามารถเอาพวกเขาทั้งสามคนได้ แถมยังเป็นมือโปรชื่อดังอย่างบลองเชอร์ ที่เล่นเก่งมากอีกด้วย


ในไม่ช้า หยางเจียงก็ช่วยเหลือเฉินหลงในการเปลี่ยนชิปเป็นเงินเกือบหกสิบล้าน และทำการโอนมันเข้าไปในบัญชีของเฉินหลง


หลังจากได้รับเงิน เฉินหลงก็กลับไปยังห้องพักของตัวเอง


 


หลังจากที่เล่นการพนันมาสองวันแล้ว เฉินหลงก็เริ่มรู้สึกเบื่อเล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้เขาจะไม่ไปที่คาสิโน และดื่มด่ำกับช่วงเวลาดีๆบนเรือสำราญ


ความคิดนี้ของเฉินหลงเข้าท่า แต่ก็มีบางคนไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น


วันต่อมา หลังเวลาอาหารเช้า เฉินหลงกับลั่วฮุ่ยได้ไปยังดาดฟ้าของเรือ เพื่ออาบแดดและชมวิทะเล นอกจากนี้เฉินหลงยังได้ดูสาวผมบลอนด์ในชุดบิกินี่อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น คนอย่างเฉินหลงก็ทนดูมันได้ไม่นาน


 


ในเวลาเดียวกัน สาวผมบลอนด์สุดฮอต ก็ได้เข้ามาอยู่ในจุดตัดเก้าช่อง**ของเฉินหลงเป็นที่เรียบร้อย


เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังเดินเข้ามาหาเขา เฉินหลงก็อดไม่ได้ที่จะผิวปากเป็นการหยอกล้อตามประสาคนหนุ่มสาว แต่เมื่อเขานึกถึงหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาแล้ว เขาก็หุบปากลงในทันที…


เมื่อสาวฮอตเดินตรงมาทางเฉินหลง จู่ๆเธอก็เข้าไปกระซิบข้างหูของเขา


เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ใบหน้าของเฉินหลงผุดยิ้มขึ้นแวบนึง และจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง


 


สาวสวยคนนั้นได้จุ๊บแก้มเฉินหลงหนึ่งที จากนั้นเธอก็เดินจากไปจากเฉินหลง แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ได้หันกลับมาทางเขาอีกครั้ง และกระดิกนิ้วชักชวนให้เฉินหลงเดินตามเธอไป


“พี่สี่ ผมมีธุระต้องทำ เชิญพี่เล่นไปก่อนเลยนะครับ” เฉินหลงหันไปพูดกับลั่วฮุ่ย จากนั้นก็เดินตามหญิงสาวคนนั้นไปทันที


เห็นเฉินหลงเดินตามสาวต่างชาตินิรนามไป อันหยาก็ได้กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับก่นด่าอีกฝ่าย “ฮึ่ย! สาวต่างชาติคนนั้นมีอะไรดีนักหนา? คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนั้น? ผู้ชายนี่ยังไง ทำไมต้องทำตัวเป็นคนดีด้วย แค่เธอชวนนิดชวนหน่อยก็ปฏิเสธไม่ลงแล้วเหรอ!?”


 


“เสี่ยวหยา เธอชอบเขาเหรอ?” เจิ้งหยู่หันไปถามอันหยาที่ตอนนี้กำลังโกรธจัด


“ใค.. ใครจะชอบเขากัน!? ฉันแค่ไม่คิดว่าผู้ชายจะมีอะไรดีต่างหากล่ะ!” อันหยาตอบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง


เมื่อได้ยินคำตอบของอันหยา ลั่วฮุ่ยถึงกับยิ้มอย่างขมขื่น น้องสะใภ้กำลังว่าเขาอยู่นี่นา…


เมื่อเขานึกถึงคำพูดของเฉินหลงแล้ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องไม่ชอบมากลเกิดขึ้น เขาคิดแล้วคิดอีกว่ามันคือเรื่องอะไร พอคิดดูแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนสี


 


“ฮุ่ย คุณเป็นอะไรรึป่าว? คุณรู้สึกไม่ดีเหรอ?” อันหมินซีที่กำลังรอให้เฉินหลงกลับ เพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน ได้หันมาถามลั่วฮุ่ยด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเขามีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่


ลั่วฮุ่ยส่ายหน้าแล้วตอบเธอไปว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกไม่สบายอะไรหรอก แต่ฉันกำลังคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเฉินหลงก็ได้”


“เรื่องอะไร? สาวต่างชาตินั่นเป็นตัวอันตรายเหรอ? ถ้าอย่างนั้น พวกเราไปจัดการนางกันเถอะ!” อันหมินซีรีบตอบ


“ถึงพวกเราตามเขาไป ก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก ถ้าไปแล้วรังแต่จะเป็นภาระให้เฉินหลงน่ะสิ บางที เมื่อกี้นี้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะขู่เฉินหลงเรื่องพวกเราก็ได้นะ เฉินหลงถึงได้ยอมตามเธอไป” ลั่วฮุ่ยเหลียวมองไปตามทางที่เฉินหลงเดินไปแล้วตอบอย่างช่วยไม่ได้


*สเตรทฟรัช คือกรณีที่เป็นไพ่เรียง 3 ใบแล้วยังมีดอกไพ่เดียวกันอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการทำ 3 เด้งและเรียงพร้อมกันนั่นเอง


 


**จุดตัด 9 ช่อง คือในกรอบมีช่องสี่เหลี่ยม 9 ช่อง และจะมีจุดตัดอยู่ในเฟรม / ในที่นี้หมายถึง เธอได้เข้ามาอยู่ในสายตาของเฉินหลงแล้วนั่นเอง

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม