เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก 202-208
ตอนที่ 202 พี่น้องบ้านซินโดดเด่น
ซุนหม่านเซียงคิดว่าซินห้าวเป็นปรปักษ์กับเธอทุกเรื่อง ไม่ยอมเธอเลยแม้แต่น้อย ส่วนซินชาน อะไรก็เข้าข้างซินห้าวหมด ไม่คิดเพื่อเธอเลย ดังนั้นเธอเลยยิ่งทียิ่งไม่พอใจ
เฉินเยี่ยนอยู่ในครัวได้ยินคำพูดเธอแล้ว เธอส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ ซุนหม่านเซียงคนนี้นี่เป็นวัยทองหรือไง? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้นะ! ถึงแม้หวางนิวแม่เธอจะเป็นคนตรงๆ แต่เธอคิดว่าแม่เธอดีกว่าซุนหม่านเซียงเยอะเลย
“คนนอก? ใครคือคนนอก? เฉินเยี่ยนเป็นคนที่ซินห้าวชอบ อีกหน่อยจะมาเป็นลูกสะใภ้เรา เธอเป็นคนนอกหรือไง? เธอเป็นเด็กดี มาเป็นแขกที่บ้าน พอเข้าบ้านมาคุณก็หาเรื่อง พูดออกไปคนอื่นจะมองยังไง? ต่อไปคุณจะให้ซินห้าวไปเจอคนอื่นยังไง? อีกหน่อย แต่งสะใภ้เข้าบ้าน คุณจะเผชิญหน้ากับลูกสะใภ้ได้ยังไง?
ซินชานคิดว่าภรรยาเป็นบ้าไปแล้ว แม้แต่ความประพฤติขั้นพื้นฐานเธอยังไม่มี เธอจะให้คนอื่นเคารพ แต่เธอเคยเคารพคนอื่นไหม?
“ลูกสะใภ้? ฉันไม่เห็นด้วย เธอคิดจะแต่งเข้าบ้านนี้? ฝันไปเถอะ! พวกคุณพ่อลูกต่างทำแบบนี้กับฉันเพราะเธอ ได้ งั้นฉันจะไม่ให้เธอเข้าบ้าน วันนี้ฉันจะบอกไว้ตรงนี้เลย ฉันไม่ชอบเธอ ฉันว่าฉันไม่เห็นด้วยกับคนนี้ ซินห้าวจะสู่ขอยังไง!”
ซุนหม่านเซียงระเบิดอารมณ์โมโห พูดจารุนแรง
ซินห้าวลุกขึ้นยืน เขาคิดไม่ถึงว่าแม่เขาจะหลอกลวงเขา ตอนนี้พูดความจริงแล้ว จะไม่ยอมให้เขาแต่งกับเฉินเยี่ยน วันนี้เขาให้เฉินเยี่ยนมา กลายเป็นทำให้เฉินเยี่ยนเสียหน้า
เขาคิดไม่ถึงว่าแม่จะทำแบบนี้กับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ เขาก้าวเท้า จะพาเฉินเยี่ยนกลับ เขาไม่ต้องการให้เฉินเยี่ยนเป็นที่ระบาย ไม่มีที่บ้าน เขาก็แต่งกับเฉินเยี่ยนได้ เขาสามารถเลี้ยงเฉินเยี่ยนได้
“หยุดนะ ลูกจะไปไหน? ถ้ากล้าออกจากบ้านนี้ไป ฉันจะถือว่าไม่มีลูกชายคนนี้!”
ซุนหม่านเซียงเห็นลูกชายเดินไปทางห้องครัว เลยรีบตะโกนเรียก
ซินชานไม่ได้ห้ามซินห้าว
และตอนนี้เอง เสียงประตูดังขึ้น มีคนเปิดประตูเดินเข้ามา
“มีอะไรกัน? พอเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงแม่โกรธ พ่อใหญ่ไม่ได้ยั่วโมโหแม่ใช่ไหม?”
คนที่เข้ามาคือซินเหล่ย
ปีนี้ซินเหล่ยอายุสิบสี่ปี รูปร่างสูงใหญ่ แต่ตัวเขาไม่เตี้ยแล้ว น่าจะประมาณ 170 ซม.
ใบหน้าเขาดูมีความเป็นเด็กอยู่ แต่ก็ยอมรับว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หล่อเท่าซินห้าว แต่เพราะเขาเด็กกว่าซินห้าว อีกทั้งสายตานั้นเป็นประกายมาก ดังนั้นไม่ว่าใครเห็นใครก็ชอบ น่ารักน่าเอ็นดู
เฉินเยี่ยนอยู่ในครัวประเมินดูซินเหล่ย ถอนหายใจ ยีนส์บ้านซินนี่ดีจริงๆ พี่น้องทั้งสองคนต่างโดดเด่น ซินเหล่ยนี่โตขึ้นน่าจะทำให้คนอื่นหลงจนโงหัวไม่ขึ้นได้เลย อีกทั้งสายตาเขาไม่ได้เย็นชาเหมือนซินห้าว เกรงว่าอีกหน่อยจะเป็นคุณชายเจ้าสำราญ
เพราะซินเหล่ยมา บรรยากาศในบ้านเลยดูอบอุ่นขึ้นหน่อย
เฉินเยี่ยนส่ายหน้ากับซินห้าว บอกไม่ให้เขาใจร้อน ไม่ว่าจะยังไง ซุนหม่านเซียงก็เป็นแม่ซินห้าว วันนี้ถ้าเธอและซินห้าวไปทั้งอย่างนี้ ซุนหม่านเซียงจะต้องโทษเธอทุกอย่าง แล้วยิ่งยากที่จะยอมรับเธอ ถึงแม้จะไม่มีพวกเขา เธอกับซินห้าวก็แต่งงานกันได้อยู่ดี แต่ในใจซินห้าวต้องไม่สบายใจแน่ เขาอยากจะให้พ่อแม่เห็นด้วยแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รอนานขนาดนี้
ซินห้าวเข้าใจความหมายเฉินเยี่ยน เขานั่งลงอีกครั้ง
“พี่ จริงๆ เลย ทำไมพี่ทำให้แม่โกรธอีกแล้ว? พี่ก็รู้อยู่ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย พี่ทำอะไรให้แม่โมโห ตั้งแต่พี่กลับมาก็ชอบทำให้แม่โกรธเป็นประจำ”
ซินเหล่ยถามซินห้าว สายตามีแววไม่พอใจ ไม่คิดเลยสักนิดว่าเขาพูดกับซินห้าวแบบนี้ไม่ถูกต้อง
“มีแต่เสี่ยวเหล่ยที่รู้จักสงสารแม่ ดูสิ ดูสิ เสี่ยวเหล่ยอายุเท่าไรเอง ก็รู้เรื่องขนาดนี้แล้ว ดูลูกสิ วันๆ เอาแต่จะเป็นศัตรูกับแม่! แม่คลอดมาเพื่อให้มาโกรธแม่เหรอ”
ซุนหม่านเซียงจูงลูกชาย สีหน้ารักใคร่ และยิ่งไม่พอใจใส่ซินห้าว
เธอคลอดลูกชายสองคนนี้มา หลังคลอดซินเหล่ย เดิมทีเธอยังอยากจะคลอดลูกสาว แต่ร่างกายไม่เอื้อ ต่อมาร่างกายแข็งแรงแล้ว แต่ก็ไม่ท้อง
สำหรับซินเหล่ย เธอเต็มไปด้วยความรัก ในใจเธอ มีเพียงซินเหล่ยที่ว่านอนสอนง่ายรู้เรื่อง เข้าใจเธอ
สามารถพูดได้ว่า ถ้าซินห้าวและซินเหล่ยเกิดเรื่อง เธอไม่ลังเลที่จะช่วยซินเหล่ยเลย
ซินห้าวเกิดเรื่องไม่ดี เธอจะทรมาน จะเสียใจ แต่ถ้าซินเหล่ยเกิดเรื่องไม่ดี เธออยู่ต่อไปไม่ได้
ซินห้าวไม่พูดอะไร ซินชานขมวดคิ้ว อยากจะพูดอะไร แต่เห็นภรรยาจูงมือลูกชายด้วยท่าทีรักใคร่ เขาพูดไม่ออก
“คู่หมั้นของพี่มาแล้วเหรอ ให้ผมดูหน่อย”
ซินเหล่ยได้ยินก็สนใจขึ้นมา จากนั้นเขาไปที่ครัว เห็นด้านหลังเฉินเยี่ยนประเมินดู
เฉินเยี่ยนก็ปล่อยให้เขามองไป ตั้งแต่เขาเข้ามาจนกระทั่งการพูดจาของเขา การกระทำของเขา เฉินเยี่ยนรู้เลยว่าเขาเป็นเด็กที่โดนโอ๋จนเสียนิสัย ไม่เหมือนเฉินหู่ที่คนรักเอ็นดู
“หน้าตาก็ไม่แย่ ผมว่าหน้าตาดีกว่าพี่เหม่ยลี่นิดหนึ่ง มิน่าพี่ใหญ่ถึงชอบเธอ ถ้าเป็นผม ผมก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่บ้านเธอเป็นชาวเกษตรกร เกษตรกรสกปรก ไม่รู้ตัวเธอมีเหาหรือเปล่า ผมไม่อยากได้พี่สะใภ้เป็นคนหมู่บ้านเกษตรกร คนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา เลือกพี่เหม่ยลี่ดีกว่า”
ซินเหล่ยมองเสร็จก็ไปที่ห้องนั่งเล่นพูดอย่างตรงไปตรงมา
“พูดจาอะไรเนี่ย!”
ซินชานก้มหน้าลง
“เขาพูดผิดหรือ? คุณตะคอกทำไม? ประโยคไหนที่เขาพูดผิด!”
ซุนหม่านเซียงไม่พอใจที่สามีตะคอกใส่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“เขายังมีมารยาทพื้นฐานอยู่ไหม? ทำไมถึงพูดถึงเฉินเยี่ยนแบบนั้น”
ซินชานรู้สึกว่าลูกชายคนเล็กโดนภรรยาเลี้ยงจนเสียคน แต่หลังจากส่งลูกชายคนโตออกไป ภรรยาก็ไม่ยอมให้เขาดูแลลูกชายคนเล็กเลย ซินเหล่ยเป็นดั่งชีวิตจิตใจ เขาว่าไม่ได้เลยสักประโยค ไม่อย่างนั้นได้ทะเลาะกันตาย
ซินเหล่ยก็ไม่กลัว เพราะเขารู้ดี ว่าในบ้านนี้ แม่สามารถช่วยเขาได้ทุกอย่าง พ่อกับพี่ชายทำอะไรเขาไม่ได้
“เธอเป็นคู่หมั้นข้า ข้าชอบก็พอแล้ว เจ้าชอบหรือไม่ชอบไม่เป็นไร อีกหน่อยเวลาเจ้าหาภรรยา เจ้าชอบก็พอแล้ว ข้าจะไม่ยุ่ง”
สายตาซินห้าวดูเย็นชาขึ้นมา
เขาจากบ้านมาสิบปี ตอนที่ไปซินเหล่ยเพิ่งสองขวบ ไม่รู้เรื่องราว แต่เขาจำได้ว่าซินเหล่นร้องเสียงอ่อนเรียกเขาพี่ชาย ตอนที่เขากลับมาซินเหล่ยอายุสิบสอง เขาได้เจอญาติพี่น้องในใจรู้สึกยินดีและรอคอยมาก แต่เขากลับพบว่านอกจากพ่อแล้ว เขาและคนที่บ้านรู้สึกห่างเหินกัน
สำหรับเขาที่เป็นพี่ชาย ซินเหล่ยไม่มีความเคารพอย่างที่ควรจะเป็นเลย ซ้ำยังกลับทำห่างเหิน
ซินเหล่ยพูดจาไม่ดีกับเขา ทุกครั้งแม่จะบอกว่าซินเหล่ยอายุน้อย ไม่รู้เรื่อง โตแล้วเดี๋ยวก็ดีเอง ให้เขาอย่าว่าซินเหล่ย ทุกครั้งที่ถูกแม่ปกป้องเขาจะเห็นซินเหล่ยยิ้มอย่างยั่วยุให้เขา เขาไม่สบอารมณ์มาก เหมือนเขาเป็นคนนอก
ต่อมาเขาหาเงินได้แล้ว ซินเหล่ยก็มาขอเงินกับเขา พอเขาไม่ได้ตามที่ขอ ซินเหล่ยก็จะไปฟ้องแม่
แม่บอกว่าเธอดูถูกเงิน แต่ตอนนี้เธอให้เขาเอาเงินให้ซินเหล่ย ไม่อย่างนั้นตัวเธอเองจะให้เงินซินเหล่น ไม่ว่าซินเหล่ยทำอะไร แม่ก็จะตามใจเขา
ซินเหล่ยสิบสี่ขวบ แต่เขาอยู่ข้างนอกมีพรรคพวก เขาเลี้ยงเหล้าคนพวกนั้น จากนั้นคนพวกนั้นก็ให้เขาเป็นหัวหน้า พวกเขายังถึงกับพูดจาแทะโลมเพื่อนนักเรียนหญิงด้วย แต่เพราะซินเหล่ยหน้าตาหล่อ พวกนักเรียนผู้หญิงพวกนั้นเลยไม่ได้ว่าอะไรเขา แต่ซินห้าวคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปซินเหล่ยต้องเป๋แน่
ซุนหม่านเซียงกลับไม่สนใจอะไรเลย คิดว่าลูกชายเธอ อะไรก็ดีไปหมด ไม่ยอมให้ใครว่าสักคำ
ตอนที่ 202 หาเรื่อง
ซุนหม่านเซียงให้ท้ายยิ่งทำให้ซินเหล่ยยิ่งไม่เกรงกลัวอะไร
“แค่ตัวพี่ชอบก็พอแล้ว? งั้นพี่พากลับมาทำไม! พี่มีปัญญา ก็ไม่ต้องพากลับมาที่บ้านสิ พี่กับเธออยู่กันข้างนอกก็ดีแล้วนี่”
ซินเหล่ยไม่เกรงใจซินห้าวเลย เขาไม่ชอบพี่ชายคนนี้ ไม่ดีกับเขาสักนิด เขาให้ซินห้าวช่วยเขามีเรื่อง ไปสั่งสอนคน เขาไม่ยอมไป จะมีพี่คนนี้ไว้ทำไม
“พอแล้ว พวกเราไม่พูดกันละ พี่ชายลูกโดนล่อลวง พวกเราทำเพื่อเขา เขาก็ไม่รับ ยังเห็นพวกเราเป็นศัตรูอีก อีกหน่อยเขาลำบากก็รู้เอง”
ซุนหม่านเซียงดึงซินเหล่ย ไม่ให้เขาพูดแล้ว เธอก็เหลือบมองซินห้าว ให้ซินห้าวไม่ต้องว่าซินเหล่ย
ซินชานโกรธมาก แต่เขารู้ว่าถ้าเขาว่าซินเหล่ย ซุนหม่านเซียงจะต้องทะเลาะกับเขาแน่นอน วันนี้มีแขกอยู่ด้วย เขาไม่อยากให้ที่บ้านทะเลาะกันวุ่นวาย
ซินชานอดทน แต่หลังจากนี้เขาจำเป็นต้องคุยกับภรรยา ถ้าไม่สั่งสอนลูกชายก็จะสายเกินไปแล้ว
แต่จากนั้นซินชานก็หัวเราะอย่างขมขื่น ภรรยาจะปล่อยให้เขาสั่งสอนหรือ?
ในห้องนั่งเล่นมีละครแสดงเป็นฉากๆ พวกเขาไม่รู้ว่าในห้องครัวก็เล่นละครกันอย่างออกรสชาติเหมือนกัน
“ได้ยินแล้วใช่ไหม? คุณป้ากับซินเหล่ยไม่ชอบเธอนะ? เธอหน้าตาสวยแล้วยังไง? คุณป้าไม่ยอมให้เธอแต่งเข้าบ้านนี้”
ซูเหม่ยลี่พูดกับเฉินเยี่ยนเสียงเบา ใบหน้าเธอมีรอยยิ้ม ดูแล้วน่าหลงใหล
ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว?
เฉินเยี่ยนรู้อยู่แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่คนจิตใจดี
“ซินห้าวชอบฉันก็พอแล้ว ใช้ชีวิตกันสองคน พวกเขาไม่ได้จะอยู่กับพวกเราไปตลอดชีวิต”
เฉินเยี่ยนไม่สนใจซุนหม่านเซียง เธอเป็นแม่ซินห้าว เธอทำดีกับตัวเอง ตัวเองก็จะดีด้วย ไม่อย่างนั้นทำไมตัวเองต้องมาทนรับอารมณ์? เธอไม่ได้คลอดตัวเองมา และไม่ได้เลี้ยงดูตัวเอง ไม่มีบุญคุณอะไรกับตัวเองเลยสักนิด เธอให้ความเคารพ แต่อีกฝ่ายไม่ต้องการ เธอก็ไม่สามารถเป็นลูกสะใภ้ที่รองรับอารมณ์ได้
“เธอผิดแล้ว บ้านนี้คุณป้าเป็นใหญ่ ถึงแม้ซินห้าวจะชอบเธอ ถ้าคุณป้าไม่อนุญาต เขาก็สู่ขอเธอไม่ได้! ส่วนคุณป้าไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน เพราะเธอมาจากหมู่บ้านเกษตรกร”
ซูเหม่ยลี่ได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนก้รู้ว่าเฉินเยี่ยนไม่ใสซื่อเหมือนกัน ไม่ใช่คนโง่
“เป็นเกษตรกรแล้วยังไง? ไปสร้างความลำบากให้เธอเหรอ? มีจมูกมากกว่าหรือมีตาน้อยกว่าเธอ? ดูถูกชาวเกษตรกร ย้อนกลับไปแปดชั่วโคตร บรรพบุรุษเธอมาจากไหน? อีกอย่าง ยุคนั้นในเมืองไม่มีธัญพืช ไม่มีเกษตรกรลำบากปลูกพืชผลให้ พวกเธอก็ตายไปนานแล้ว จะเอาอาหารที่ไหนมากิน? อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกาจ ดูเหมือนนกยูงที่ลำพอง แต่ในสายตาฉัน เธอไม่มีอะไรเลย”
เฉินเยี่ยนโต้กลับอย่างไม่เกรงใจ ท่าทางซูเหม่ยลี่และซุนหม่านเซียงที่เย่อหยิ่งดูถูกเกษตรกร พวกเธอเสียนิสัย!
ซูเหม่ยลี่ยิ้มอย่างเก็บอาการ เธอไม่คิดเลยว่าเฉินเยี่ยนจะมีรู้สึกต่ำต้อยต่อหน้าเธอเลยสักนิด ซ้ำยังพูดเต็มปากเต็มคำแบบนี้ ยังกล้าว่าเธอ ใครเอาความกล้ามาให้เธอ!
“ตอนนี้ซินห้าวชอบเธอไม่กี่วัน แต่สุดท้ายแล้วเธอกับเขาไม่มีทางเป็นคนชั้นเดียวกัน มีแค่ฉันที่คู่ควรกับเขา เขาเป็นของฉันเท่านั้น มีแค่ฉันที่สามารถยืนเคียงคู่เขาได้ ถึงตอนนั้นฉันจะดูว่าเธอจะพูดอย่างนี้ไหม”
ซูเหม่ยลี่ไม่อยากจะพูดอะไรกับเฉินเยี่ยนอีกแล้ว ตอนที่เธอพูดคำพูดนี้แลดูมั่นใจในตัวเองมาก เห็นได้ชัดว่าเธอยังมีความเชื่อมั่นอยู่
“เจ็บไหม?”
เฉินเยี่ยนไม่ได้ตอบโต้เธอ แต่ถามเธอกลับ
“อะไร?”
ซูเหม่ยลี่งง ไม่เข้าใจว่าเฉินเยี่ยนพูดอะไร อะไรเจ็บไหม?
“ซินห้าวบิดแขนเธอไปสองรอบ เธอเจ็บไหม?”
เฉินเยี่ยนพูดอีกรอบ สีหน้ายังดูเวทนา โดนผู้ชายบิดแขนไปสองรอบ เธอเอาความมั่นใจจากไหนมาพูดเรื่องพวกนี้
สีหน้าซูเหม่ยลี่เย็นชาขึ้นมาทันที นัยน์ตามีแสงเย็นเฉียบ เธอเกือบจะเอาที่ตักน้ำแกงในมือตีเฉินเยี่ยนแล้ว แต่เฉินเยี่ยนเงื้อมีดในมือเธอ ซูเหม่ยลี่เลยสงบลง
ไม่โทษที่ปฏิกิริยาตอบโต้เธอจะรุนแรง ซินห้าวบิดแขนเธอสองรอบทำเธอเจ็บไปหมด เธอคิดไม่ถึงว่าซินห้าวจะทำแบบนี้กับเธอ
เจ็บไหม?
เจ็บมาก
แต่ถึงแม้จะเจ็บอีก เธอก็ไม่ยอมเลิกรา ตั้งแต่เล็กจนโต เธอซูเหม่ยลี่อะไรที่ต้องการ ยังไม่เคยไม่ได้มาก่อน
“อีกหน่อยคนที่เขาจะบิดก็คือเธอ”
ซูเหม่ยลี่จ้องมองเฉินเยี่ยน ตอนนี้เฉินเยี่ยนหัวเราะเยาะเธอ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่เธอจะหัวเราะเยาะเฉินเยี่ยน
“งั้นหรือ? งั้นฉันจะรอ”
เฉินเยี่ยนฉีกยิ้ม
ซูเหม่ยลี่รู้สึกว่ารอยยิ้มเฉินเยี่ยนทิ่มแทงใจ เธอรู้สึกว่าโดนเฉินเยี่ยนดูถูก
เฉินเยี่ยนไม่ได้ถามซูเหม่ยลี่อีก อันที่จริงท่าทางของซูเหม่ยลี่ก็ตอบเธอแล้ว ว่าเจ็บมากแน่นอน
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ ทำไมถึงมีคนหัวแข็งแบบนี้?
ถ้าเป็นเธอ เธอชอบคนหนึ่ง แต่อีกฝ่ายไม่ชอบเธอ เธอก็จะไม่ไปรบกวนอีกฝ่าย ไม่เข้าไปวุ่นวาย ความรักเป็นเรื่องของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เธอให้ไปแล้วจะต้องได้กลับมา
เหมือนซูเหม่ยลี่และเฉินเวย ชอบซินห้าว แต่ซินห้าวไม่ชอบพวกเธอเลย พวกเธอกลับจะต้องดื้อรั้นเอาให้ได้ นี่ไม่ใช่ความรัก นี่เป็นการครอบครอง เธอจะไม่ทำเรื่องแบบนี้
ที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ซูเหม่ยลี่ไม่สนใจเฉินเยี่ยนอีก เฉินเยี่ยนก็ไม่พูดอะไร ในห้องครัวเงียบลงชั่วขณะหนึ่ง
จู่ๆ ซูเหม่ยลี่ก็ยิ้มแฉ่งออกมา ดูแล้วน่ารักใจดี ทำให้คนรู้สึกเป็นสุข
เฉินเยี่ยนใจหนักอึ้ง ซูเหม่ยลี่คนนี้ น่ากลัว
“ก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว คุณลุง คุณป้า ซินห้าว ซินเหล่น มา ล้างมือกินข้าวกันค่ะ”
ซูเหม่ยลี่เอามาเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร แล้วยิ้มเรียกคนอื่น
ทุกคนนั่งลงที่โต๊ะ
ก๋วยเตี๋ยวน้ำ แต่ในนั้นมีเนื้อ มีผัก ดูแล้วไม่แย่เลย
ซูเหม่ยลี่หยิบกระเทียม ถึงแม้เธอจะไม่ชอบกิน รังเกียจกลิ่น แต่ซินชานชอบ
นอกจากนี้ซูเหม่ยลี่ยังเปิดอาหารกระป๋องอีก ซินเหล่ยชอบ
“ก๋วยเตี๋ยวนี้เธอทำยังไงเนี่ย เค็มจะตาย เธอคิดว่าซื้อเกลือมานี่ไม่ต้องใช้เงินเหรอ จริงๆ เลย แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวน้ำนี่เธอยังทำไม่เป็น ดูเนื้อที่เธอหั่นสิ นี่ใช้เนื้อเส้นไหม! เธอไม่เคยกินเนื้อหรือยังไง? คิดว่าคงไม่ได้กินล่ะสิ หั่นได้หยาบขนาดนี้ อาหารนี่จะกินเข้าไปได้ยังไง!”
ซุนหม่านเซียงเพิ่งกินไปได้คำเดียวก็ทิ้งตะเกียบลง ว่าเฉินเยี่ยนด้วยความโกรธมาก สีหน้าดูไม่ดีเลย
ทุกคนต่างหยุดกิน ซินห้าวอยากจะพูดอะไร แต่เฉินเยี่ยนยื่นมือไปดึงเขาไว้ ไม่ให้เขาพูด
“คุณป้า ก๋วยเตี๋ยวนี่เค็มหรือคะ? หนูกินก็ว่าใช้ได้อยู่ นอกจากดูไม่พยายามทำแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นผิดปกตินี่?”
เฉินเยี่ยนไม่โกรธเลย แล้วยังพูดสีหน้าจริงจัง
“อะไรไม่มีอะไรผิดปกติ? อะไรที่เรียกว่าไม่พยายามทำ? เธอคิดจะบอกว่าซูเหม่ยลี่ทำไม่ดี? แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวก็ทำไม่ได้? เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าซูเหม่ยลี่? เธอทำเค็มเอง ทำไม่ดี แล้วไปโทษซูเหม่ยลี่ได้ยังไง! เห็นก็รู้แล้วว่าเธอไม่ใช่คนดี ตัวเองทำไม่ได้ก็ยังพึ่งพาคนอื่น สะใภ้แบบนี้ บ้านเราไม่ต้องการ!”
ซุนหม่านเซียงโทษเฉินเยี่ยน เธอไม่ถูกชะตากับเฉินเยี่ยนเลย
“คือว่า คุณป้า…”
ซูเหม่ยลี่อยากจะพูด แต่กลับโดนซุนหม่านเซียงตัดบท “เหม่ยลี่ ป้ารู้ว่าหนูเป็นคนดี ไม่ต้องอธิบายแทนเธอ ต้องสั่งสอนเธอหน่อย ไม่อย่างนั้นจะปรับปรุงยังไง”
ซูเหม่ยลี่แลดูอึดอัดใจ
“ที่คุณป้าว่าคือ พี่เหม่ยลี่ พี่ได้ยินแล้วใช่ไหม? คุณป้าบอกว่าก๋วยเตี๋ยวที่พี่ทำนั้นเค็ม เนื้อก็หั่นได้หยาบมาก พี่ต้องจำไว้นะ ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยจะมาเป็นสะใภ้เขาได้ยังไง? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ที่จริงฉันก็ว่าใช้ได้อยู่ อาจจะเป็นเพราะคุณป้าคาดหวังไว้สูงมั้ง”
เฉินเยี่ยนพูดสีหน้าจริงจัง คนทั้งโต๊ะต่างมองมาที่เธอ แล้วมองไปที่ซูเหม่ยลี่
ตอนที่ 204 เงื่อนไขในการแต่งเข้า
ซูเหม่ยลี่รู้สึกว่ารอยยิ้มเธอใกล้จะฝืนไว้ไม่อยู่แล้ว
“หมายความว่ายังไง?”
ซุนหม่านเซียงรู้สึกผิดปกติ เธอว่าเฉินเยี่ยนอยู่เห็นๆ ทำไมฟังดูแล้วเหมือนเหม่ยลี่เป็นคนทำอาหาร? ก็บอกว่าเหม่ยลี่นวดแป้ง แล้วเฉินเยี่ยนทำไม่ใช่หรือ?
“ก๋วยเตี๋ยววันนี้พี่เหม่ยลี่เป็นคนทำค่ะ เธอกลัวว่าหนูจะซุ่มซ่าม”
เฉินเยี่ยนยิ้ม แสดงท่าทีเขิน
ซูเหม่ยลี่มองเธอ มิน่าเธอให้เฉินเยี่ยนหั่นเนื้อ เฉินเยี่ยนบอกว่าหั่นไม่เป็น เธอจึงต้องลงมือทำเอง
เธอให้เฉินเยี่ยนลวกเส้น เฉินเยี่ยนบอกว่าไม่รู้ว่าคนบ้านซินกินเท่าไร เลยไม่รู้ว่าจะลวกเท่าไร
เธอให้เฉินเยี่ยนปรุงรส เฉินเยี่ยนบอกว่าที่บ้านเธอใช้มือคลุกเลย กลัวว่าคนบ้านซินจะคิดว่าสกปรก
ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้เธอเป็นคนทำ เฉินเยี่ยนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าซุนหม่านเซียงจะหาเรื่อง เธอเลยไม่ทำอะไร
ให้ตัวเองรับผิดแทน ตัวเองดูถูกเธอเกินไปแล้ว
“เหม่ยลี่เป็นคนทำ?”
ซุนหม่ายเซียงมองซูเหม่ยลี่
“น้องเยี่ยนจื่อบอกว่าเธอทำไม่เป็น หนูเลยทำค่ะ คุณป้า หนูทำได้ไม่ดี ครั้งหน้าจะระวังนะคะ”
ซูเหม่ยลี่ยอมรับผิด
“ไม่เป็นไร เมื่อกี้ป้าน่าจะโกรธไปหน่อย พอได้ชิมอีกคำ ก็ไม่เค็มแล้ว เนื้อนี้ก็หั่นดี ชิ้นเล็กไปจะหาไม่เจอ พวกเราไม่เหมือนพวกที่ไม่เคยได้กินเนื้อ ไม่เสียดาย คนแบบพวกเราก็ควรจะหั่นชิ้นใหญ่”
ซุนหม่านเซียงรีบเปลี่ยนน้ำเสียง มาชื่นชมแทน
เฉินเยี่ยนมองดูอยู่อย่างนั้น เธอไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือ?
ซินชานคิดว่าภรรยาทำเรื่องแบบนี้น่าอาย แต่เขาจะพูดอะไรได้
“ผมกินอาหารกระป๋องก็พอแล้ว”
ซินเหล่ยกลับผลักก๋วยเตี๋ยวไปด้านหน้าซุนหม่านเซียง จากนั้นกินอาหารกระป๋องแทน
ซินชานอยากจะพูดอะไร ซุนหม่านเซียงก็รีบพูดขึ้นมา “ได้ ได้ ลูกกินอาหารกระป๋องไป แม่กินก๋วยเตี๋ยวได้ นี่พี่เหม่ยลี่เอาอาหารกระป๋องมาให้ลูกไม่น้อยเลย คนอย่างพวกเรา ลูกอยากกินจะกินทุกวันก็กินได้”
เห็นซุนหม่านเซียงแบบนี้แล้ว ซินชานส่ายหน้า กัดกระเทียมหนึ่งกลีบ ไม่พูดอะไรต่อ
“ก๋วยเตี๋ยวนี้เหม่ยลี่เป็นคนทำ แล้วเธออยู่ในครัวตั้งนานทำอะไร?”
ซุนหม่านเซียงหาเรื่องเฉินเยี่ยนไม่ได้ เลยถามเฉินเยี่ยนอีก
“หนูเป็นคนหั่นต้นหอมค่ะ”
เฉินเยี่ยนชี้ไปในชาม
ซุนหม่านเซียงโมโห
“มิน่าวันนี้กลิ่นต้นหอมถึงได้แรงนัก ไม่รู้ว่าฉันไม่ชอบต้นหอมหรือไง? ยังหั่นมาเยอะขนาดนี้”
ซุนหม่านเซียงคิดแล้วหาข้ออ้าง
“อ้อ ครั้งหน้าจะให้พี่เหม่ยลี่ลดต้นหอมลง ยังไงหนูก็หั่นตามที่เธอบอกอยู่ดี”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า
ในที่สุดอาหารเที่ยงก็สิ้นสุดลง ซุนหม่านเซียงทำอะไรไม่ได้เลย เพราะนอกจากต้นหอมแล้วเฉินเยี่ยนไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนต้นหอม เธอจะหาเรื่องต้นหอมได้ใหญ่ขนาดไหนเชียว”
กินข้าวเสร็จ ก็มานั่งในห้องรับแขกอีกครั้ง ซูเหม่ยลี่เทน้ำให้ทุกคน
“เหม่ยลี่รู้เรื่องที่สุด ดูเธอสิ ไม่มีความหมายเลยสักนิด แล้วยังเกิดเป็นเกษตรกรอีก ขี้เกียจขนาดนี้ จะหวังให้ฉันปรนนิบัติเธอหรือไง”
ซุนหม่านเซียงรังเกียจเฉินเยี่ยนต่างๆ นานา
เฉินเยี่ยนรู้ เธอทำไม่ทำอะไรก็ผิด เพราะเธอไม่ได้ใจของซุนหม่านเซียง
“ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชอบอะไรในเธอ!”
ซุนหม่านเซียงพูดประโยคนี้กับซินห้าว
“ผมชอบเธอทุกอย่าง”
ซินห้าวตอบอย่างหมดความอดทน ตั้งแต่เข้าบ้านมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาสองสามชั่วโมงแล้ว แม่ตัวเองหาเรื่องเฉินเยี่ยนเป็นร้อยเรื่อง เธอเรื่องมากเรื่องตัวเองหาเจ้าสาว คือว่าตัวเองเรื่องมาก อันที่จริงแม่เขาไม่เพียงแต่ไม่ชอบเฉินเยี่ยน ยังไม่ชอบเขาอีกด้วย
“ลูกพูดอะไร? ลืมไปแล้วหรือว่าแม่ต้องทนลำบากเพื่อลูกมาเท่าไร? ตอนนี้ลูกจะเป็นศัตรูกับแม่เพราะผู้หญิงคนนี้ ลูกอยากจะให้แม่อกแตกตายใช่ไหม!
ซุนหม่านเซียงถูกซินห้าวกระตุ้นให้โกรธ ลูกชายเป็นลูกของเธอ ต้องเชื่อฟังเธอ ไม่สามารถเป็นศัตรูกับเธอได้เพราะคนอื่น นี่ทำให้เธอยิ่งไม่พอใจเฉินเยี่ยน ถึงขั้นรังเกียจเลย
“เธอก็อย่ารีบร้อนเลย เธอเทียบกับเหม่ยลี่ได้หรือ?”
ซุนหม่านเซียงพูดอีก
“ในสายตาผมเฉินเยี่ยนดีที่สุด”
ซินห้าวตอบทันที ในสายเขา ผู้หญิงคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย
คำพูดซินห้าวทำให้ซุนหม่านเซียงอึ้งไป ในห้องไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศเงียบสงบลง
“ฉันถามเธอหน่อย หลังแต่งงานแล้วเธอสามารถจะเป็นสะใภ้ที่ดีอย่างที่ควรเป็นได้หรือเปล่า”?
ซุนหม่านเซียงคิดแล้วถามเฉินเยี่ยน
“อะไรคือสิ่งที่สะใภ้ควรทำคะ?”
เฉินยี่ยนถามกลับ เธอรู้สึกแปลกใจกับมาตรฐานสะใภ้ของซุนหม่านเซียง
“ถ้าเธอจะแต่งเข้าบ้านนี้ ก็ต้องรู้ธรรมเนียมของที่บ้าน ตอนเช้าเธอต้องตื่นตีห้า อายุยังน้อยนอนขี้เกียจไม่ได้ ทุกวันหลังพวกเราตื่นขึ้นมาเธอต้องทำอาหารเช้าให้เสร็จ ในบ้านนอกบ้านต้องทำความสะอาดเรียบร้อย ห้องของฉันกับสามี เธอเข้าไปไม่ได้ ห้องซินเหล่ยเธอต้องเก็บกวาด แต่ของเขาเธอแตะต้องไม่ได้ เงินที่ซินห้าวหาได้ในแต่ละเดือนเธอต้องเอามาให้ฉัน ห้ามเก็บไว้เอง และไม่ให้เอาไปให้บ้านพ่อแม่เธอด้วย ทุกวันฉันจะให้เงินเธอไปซื้อผัก นอกจากปีใหม่แล้ว เธอพาซินห้าวกลับบ้านพ่อแม่เธอไม่ได้ ที่บ้านพ่อแม่เธอไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องกลับ ถึงมีเรื่องถ้าไม่ต้องกลับได้ก็ไม่ต้องกลับ ไม่ต้องทำงานแล้ว ดูแลคนในบ้านให้ดีก็พอ เวลาปกติก็ไม่ต้องใส่กระโปรง แต่งตัวแปลกประหลาด เห็นแล้วไม่ใช่ของดี นอกจากไปซื้อกับข้าวแล้ว ถ้าไม่ต้องออกจากบ้านได้ ก็ไม่ต้องออก แล้วพวกพ่อแม่พี่น้องฝั่งเธอ ไปบอกกับพวกเขา อย่าให้พวกเขามาที่บ้าน แต่ละคนมีโคลนติดขามา ทำบ้านสกปรกหมด ต้องมานั่งเก็บกวาด”
ซุนหม่านเซียงพูดเงื่อนไขเธอออกมา
เฉินเยี่ยนไม่โกรธ แต่กลับอยากจะหัวเราะ ส่วนซินห้าววางแก้วในมือลงอย่างแรง ใบหน้าเคร่งขรึมไม่น่ามอง
ซินห้าวมองแม่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เรียกร้องแบบนี้กับเฉินเยี่ยน? เขาอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับเฉินเยี่ยน สร้างครอบครัว เขาคิดว่าในสายตาเฉินเยี่ยนมีแค่ตัวเอง แต่เขาไม่เคยคิดจะกักขังเฉินเยี่ยนมาก่อนเลย
เฉินเยี่ยนเป็นตัวของตัวเอง เฉินเยี่ยนเป็นคนมีความคิด ตอนแรกก็เพราะแบบนี้ เขาถึงได้ใกล้ชิดเฉินเยี่ยน คิดว่าเฉินเยี่ยนไม่เหมือนคนอื่น เลยชอบเฉินเยี่ยนขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างที่แม่เขาพูด งั้นเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองแล้วสิ?
อีกอย่าง เขาอยากจะทำดีกับเฉินเยี่ยน แต่ไม่ใช่ให้เฉินเยี่ยนมาคอยรับใช้ปรนนิบัติคนทั้งบ้านเขา เวลาผ่านไป เธอก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง
เขาไม่ยอม!
แต่เฉินเยี่ยนห้ามซินห้าวไว้ ไม่ให้ซินห้าวพูด เธออยากจะฟังซุนหม่านเซียงจะพูดอะไรอีก
“ถ้าซินห้าวแต่งงานกับพี่เหม่ยลี่ คุณก็จะเรียกร้องแบบนี้ไหม?”
เฉินเยี่ยนถาม แล้วยังเหลือบมองซูเหม่ยลี่ แววตาซูเหม่ยลี่เป็นประกาย ตอนที่เฉินเยี่ยนมองเธอ เธอกลับมายิ้มปกติ
“เหม่ยลี่กับเธอเหมือนกันหรือ? ฉันไม่ทำแบบนี้แน่นอน”
ซุนหม่านเซียงพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ
เฉินเยี่ยนพยักหน้า
“ฉันถามเธออีกครั้ง อีกหน่อยฉันกับพ่อซินเหล่ยแก่แล้ว เธอจะปรนนิบัติพวกเราอย่างดีไหม? จะเช็ดอึเช็ดฉี่ให้ไหม? จะเชื่อฟังฉันทุกอย่างไหม?”
ซุนหม่านเซียงถามเฉินเยี่ยนอีกครั้ง เธอรู้ว่าเฉินเยี่ยนต้องพูดว่าทำได้ แบบนี้เธอก็บอกได้แล้วว่าเฉินเยี่ยนหลอกลวง
“ไม่ได้ค่ะ”
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ตอบจริงจังมาก
ซุนหม่านเซียงอึ้งไป กลั้นคำพูดที่คิดจะพูดไว้
ซินชานก็มองเฉินเยี่ยน
“ขอโทษด้วยค่ะ ทำให้คุณผิดหวังแล้ว เงื่อนไขของคุณฉันทำไม่ได้ อีกอย่าง คนอย่างฉัน คุณอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ฉันเป็นคนที่คนอื่นทำยังไงกับฉัน ฉันก็ทำแบบนั้นกลับ คุณไม่ชอบฉัน ก็ไม่เป็นไร งั้นฉันก็ชอบคุณไม่ลงเหมือนกัน คุณดูถูกฉัน ทำไม่ดีกับฉัน แล้วทำไมฉันถึงจะต้องเชื่อฟังคุณ ปรนนิบัติคุณเหมือนแม่แท้ๆ ฉันทำไม่ได้ และจะไม่ทำ”
เฉินเยี่ยนไม่ปิดบังความคิดของเธอ
ตอนที่ 205 ทะเลาะ (ยามดึก)
“ฟังดูสิ ได้ยินไหม เธอไม่ยอมแม้แต่จะปรนนิบัติแม่ แม้แต่คำพูดแม่ยังไม่ฟัง ลูกยังอยากจะแต่งเธอเข้าบ้านอีก?”
ซุนหม่านเซียงชี้เฉินเยี่ยน แล้วว่าซินห้าว
“ทำไมจะต้องเชื่อฟังคุณป้า? ทำไมจะต้องปรนนิบัติคุณป้า? คุณไม่ได้ดีกับฉัน แต่เพราะคุณเลี้ยงซินห้าวมา? แต่คุณไม่ได้เลี้ยงดูฉัน ฉันจะไม่ยอมทำเรื่องฝืนใจเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคุณ! ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ทำงาน ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ตื่นตีห้าทุกวันมาปรนนิบัติครอบครัว คุณไม่ชอบฉัน แต่งงานแล้ว พวกเราไม่ต้องอยู่ด้วยกัน ฉันไม่คัดค้านที่ซินห้าวจะมาเยี่ยมคุณ แสดงความกตัญญู ฉันก็จะเคารพ แต่ก่อนอื่นเพราะคุณคือแม่ของซินห้าว ไม่ใช่เพราะคุณเก่งกาจมากมาย”
“ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ไปเยี่ยมพ่อแม่ เพราะพวกเขาเลี้ยงดูฉันมา ฉันรักพวกเขา ดังนั้นฉันเลยทุ่มเททั้งจิตใจ ฉันจะกลับไปกับซินห้าว ฉันกับซินห้าวต่างชอบหมู่บ้านเกษตร พวกเราเป็นเกษตรกร พวกเราจะกลับไปบ่อยๆ ไปเยี่ยมพ่อแม่ฉัน และไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าซินห้าว พวกเขาควรค่าที่จะให้พวกเรากลับไป”
“ฉันจะไม่สูญเสียความเป็นตัวเองเพราะได้แต่งงาน ฉันรักซินห้าว แต่ไม่ใช่เพราะเขา ก็จะไม่เป็นตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากจะพูด ถ้าคุณเห็นด้วยเรื่องฉันกับซินห้าว พวกเราก็ตื้นตันใจ เพราะซินห้าวอยากจะได้คำอวยพรจากพวกคุณ ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ฉันกับซินห้าวก็จะแต่งงานกันอยู่ดี พวกเรามีปัญญาหาเลี้ยงตัวเอง พวกเราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
เฉินเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ก็กุมมือซินห้าว ถ้าไม่สามารถได้รับคำยินยอมจากซุนหม่านเซียงได้ เธอและซินห้าวก็จะอยู่กันสองคน พวกเขาจะไม่ล้มเลิก เธอก็จะไม่ทำร้ายตัวเองเพราะอยากจะแต่งงานกับซินห้าว
“ใช่ ที่เฉินเยี่ยนพูดก็คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด แม่ แม่ยินยอมก็ดี ไม่ยินยอมก็ช่าง ยังไงผมก็จะแต่งงานกับเฉินเยี่ยน บ้านข้างนอกผมซื้อไว้แล้ว ครึ่งปีหลังผมจะแต่งงานกับเฉินเยี่ยน ถ้าแม่ยอม ผมกับเฉินเยี่ยนก็จะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ ถึงแม่ไม่ยอม ผมก็จะกลับมา เหมือนที่เฉินเยี่ยนพูด เธอมีความเคารพให้เท่าที่เธอทำได้ ส่วนเรื่องอื่น ผมจะไม่ทำให้เธอลำบาก เธอก็จะไม่ทำร้ายตัวเองเหมือนกัน”
ซินห้าวกุมมือเฉินเยี่ยนแน่น แสดงจุดยืน คำพูดพวกนี้ที่จริงเขาเคยพูดกับพ่อแม่มาก่อนแล้ว เพียงแต่แม่เขาไม่เคยสนใจ
“พอแล้ว พอแล้ว พวกเธอจะทำให้ฉันโมโหตายหรือไง! ซินชาน คุณดูสิ นี่ลูกชายคุณ เขามีเมียก็ไม่ต้องการแม่แล้ว เขาจะทำให้ฉันโมโหตาย คุณสนใจหรือเปล่า สนใจหรือเปล่า!”
ซุนหม่านเซียงหอบหายใจไม่หยุด เธอโมโหมาก เวลานี้เธอนึกถึงซินชาน ให้ซินชานสั่งสอนซินห้าว
ซินชานถอนหายใจ เขาคิดไม่ถึงคำพูดพวกนี้ของเฉินเยี่ยน แต่เขาคิดว่ามีเหตุผล ครอบครัวพวกเขาไม่ได้เลี้ยงดูเฉินเยี่ยน ไม่ได้มีบุญคุณกับเฉินเยี่ยนเลยสักนิด ภรรยายังทำแบบนั้นกับเฉินเยี่ยน อาศัยอะไรไปเรียกร้องเฉินเยี่ยน?
เขาคิดถึงตัวเอง เพราะตอนแรกที่บ้านคัดค้านเรื่องเขากับซุนหม่านเซียง อีกทั้งบ้านเขาเป็นเกษตรกร ดังนั้นซุนหม่านเซียงเลยมีอคติกับพ่อแม่เขามาก
หลังพวกเขาย้ายเข้ามาในเมือง ขอแค่เธอเอ่ยขอ เขาก็จะกลับไปบ้านพ่อแม่เธอกับเธอ
ทุกครั้งที่พ่อแม่เธอมาที่บ้าน เขาก็ต้องรับอย่างกระตือรือร้น
สองปีก่อนแม่ยายป่วย เธอรับแม่ยายมาที่บ้าน ในเดือนกว่านั้น เขาแบกแม่ยายขึ้นลงบันได กลางคืนก็ต้องแบกเธอไปหาหมอ เขาและเธอดูแลอย่างดี กว่าจะรักษาอาการป่วยของแม่ยายดีขึ้นมา แต่แม่ยายออกจากบ้านเขาไป กลับไปบอกกับคนข้างนอกว่าลูกสาวกับลูกชายดี ไม่ได้พูดถึงชื่อเขาเลย
เขาไม่ว่าเรื่องนี้ กตัญญูต่อผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่สมควร เขาไม่คิดอะไร แต่ภรรยาล่ะ?
เธอไม่กลับหมู่บ้านไปกับเขา ตัวเองกลับไปครั้งหนึ่ง เธอก็บ่นตั้งครึ่งค่อนวัน ทุกครั้งยังถามว่าตัวเขามีเหาติดมาหรือเปล่า แล้วยังพูดว่าบ้านนอกมีอะไรให้กลับไป คราวหลังไม่ต้องกลับแล้ว อย่าให้พูดถึงท่าทีที่รังเกียจเลย
เธอกลับไปกับตัวเอง เธอไม่เคยแสดงสีหน้าดีกับพ่อแม่เขาเลย เหมือนทั้งบ้านเขาติดหนี้เธออย่างนั้น
เพราะซินห้าวกลับไป เธอยังเคยตีซินห้าวด้วย
หลายปีนี้เขากลับไปน้อยครั้งมาก เพราะไม่อยากจะทะเลาะกับเธอ เป็นซินห้าวที่กลับไปบ่อย ไปแสดงความกตัญญูแทนเขา
พ่อแม่อายุมากขนาดนั้นแล้ว แต่พวกเขาเคยมาที่บ้านครั้งหนึ่ง กลับโดนเธอทำท่ารังเกียจ กินข้าวมื้อหนึ่งก็กลับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพ่อแม่ก็ไม่เคยมาอีกเลย
เขาไม่กตัญญูเลย พ่อแม่เลี้ยงเขามา แล้วเขาล่ะ?
เขาไม่เหมือนเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนพูดความในใจเธออย่างเปิดเผย เขาเปล่า!
เขาไม่สามารถขอร้องภรรยาให้กตัญญูต่อพ่อแม่ได้ เหมือนที่เฉินเยี่ยนพูด พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงภรรยา แต่ตัวเขาเองไม่ควรทำแบบนี้ เขาไม่ได้ทำหน้าที่ที่ลูกชายควรทำ!
“เป็นลูกชายที่ดี”
ซินชานพูดแล้ว แต่กลับพูดชมซินห้าว
“คุณพูดอะไร?”
ซุนหม่านเซียงไม่อยากจะเชื่อ เธอให้สามีสั่งสอนลูกชาย แต่สามีทำแบบนี้ คือต้องการสนับสนุนให้ลูกชายอยู่ตรงข้ามกับตัวเองใช่ไหม?
“ผมคิดว่าเฉินเยี่ยนดีมาก เป็นคนจริงใจ มีอะไรก็พูด ไม่ใช่คนเสแสร้ง ซินห้าวก็ไม่ได้พูดผิด เขากตัญญูกับพวกเรา เขาไม่สามารถเรียกร้องให้เฉินเยี่ยนทำแบบเขาได้ ผมเห็นด้วยกับเรื่องของพวกเขา ถ้าคุณไม่ยอม ก็เหมือนที่พวกเขาว่า แยกกันอยู่ก็ดีแล้ว ยังไงซินห้าวก็ซื้อบ้านแล้ว เขาเลี้ยงดูภรรยาได้”
ซินชานแสดงให้เห็นว่าเขาสนับสนุน
“คุณบ้าแล้วหรือ? คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง? มีที่ไหนสะใภ้เข้าบ้านไม่ปรนนิบัติแม่สามี ไม่เชื่อฟังแม่สามี?”
สายตาซุนหม่านเซียงมองซินชานเหมือนคนแปลกหน้า
ซินชานชี้นิ้วไปที่เธอ แสดงให้เห็นว่าเธอก็เป็นอย่างนี้
ซุนหม่านเซียงถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอคิดไม่ถึงว่าซินชานจะว่าเธอ
“นี่คุณโทษฉัน? แต่ตอนแรกพ่อแม่คุณพวกเขาคัดค้านไม่ให้คุณแต่งงานกับฉัน พวกเขาเป็นแบบนั้น ฉัน ฉันถึง… ตอนนี้คุณมาโทษฉัน เธอเทียบกับฉันได้หรือ?”
ซุนหม่านเซียงไม่คิดว่าปมในใจของสามีอยู่ตรงนี้
“มีอะไรเทียบไม่ได้? เป็นคนเหมือนกัน ใครสูงส่งกว่าใคร? พ่อแม่ผมก็คือพ่อแม่ พ่อแม่เธอก็เป็นพ่อแม่เหมือนกัน ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณกตัญญูต่อพ่อแม่ผม ตอนนี้ทำไมคุณถึงขอร้องเธอ? คุณเคยเชื่อฟังแม่ผมสักครั้งไหม? แม่ผมแก่แล้ว คุณจะปรนนิบัติแม่ผมไหม?”
ซินชานพูด สีหน้ามีแววประชด
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง! ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน? ฉันดีกับคุณขนาดนี้ ครอบครัวฉันดีกับคุณขนาดนี้ ไม่มีฉัน คุณจะมีวันนี้ไหม! ตอนนี้คุณรังเกียจฉัน คุณว่าฉันเพราะคนนอกคนเดียว ลูกชายคุณก็ไม่ดูแล พวกคุณต่างต่อต้านฉัน ทำไมชีวิตฉันถึงลำบากขนาดนี้”
ซุนหม่านเซียงตอบโต้คำพูดซินชานไม่ได้ เธอจึงเอาแต่ร้องไห้ มีแต่แบบนี้ซินชานถึงจะสงสารเธอ เธอถึงจะเอาซินชานอยู่
นัยน์ตาซูเหม่ยลี่เป็นประกาย คิดไม่ถึงว่าบ้านซินไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย คุณป้ามักจะบอกว่าคุณลุงเชื่อฟังเธอ ครอบครัวนี้เธอเป็นใหญ่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น ก็ใช่ คุณป้าเป็นคนแบบนี้ ความอดทนของทุกคนที่มีต่อเธอต้องมีจำกัดอยู่แล้ว เหมือนตัวเอง ถ้าอยู่กับซินห้าวแล้ว เธอก็จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับซินห้าวเหมือนกัน ไม่อยู่ที่บ้าน เธอไม่ปรนนิบัติคนในบ้านนี้หรอกนะ
รอพ่อแม่ซินห้าวแก่แล้ว อย่างมากก็ออกเงินจ้างคนมาดูแลก็พอแล้ว เธอแค่ต้องการแต่งงานกับซินห้าว ไม่สนว่าพ่อแม่ซินห้าวเป็นใครหรอก ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด
ตอนที่ 206 ฉันรักเขา!
เฉินเยี่ยนก็คิดไม่ถึงว่าซุนหม่านเซียงกับซินชานจะทะเลาะกัน ดูเหมือนระหว่างทั้งสองคนมีความแค้นสะสมกันมานานแล้ว คำพูดตัวเองเมื่อกี้กลายเป็นชนวนจุดไฟ
“พ่อ พี่ ทำไมทำแบบนี้กับแม่? ตั้งแต่พี่ใหญ่กลับมา บ้านเราก็ไม่เคยสงบสุขเลย พี่ชอบทำยั่วโมโหแม่ ทำไมต้องกลับมาด้วย? ถ้าพี่ไม่กลับมาบ้านนี้ก็ยังมีความสุขอยู่! ในเมื่อชอบหมู่บ้านเกษตรกรขนาดนี้ ก็ไปอยู่บ้านนอกเลย อีกหน่อยไม่ต้องกลับมาบ้านนี้อีก!”
ซินเหล่ยชี้หน้า เขาไม่พอใจซินห้าวเป็นอย่างมาก
“เขาเป็นพี่ชายเจ้านะ!”
ซินชานมองลูกชายคนเล็ก รู้สึกเจ็บปวดในใจ ซินห้าวและซินเหล่ยเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ซินเหล่ยกลับพูดแบบนี้กับซินห้าว
“พี่ชายอะไรกัน ผมไม่รู้จักเขา! เป็นเพราะเขา แม่ถึงไม่สบาย เขากลับมาก็ทำให้แม่โกรธ ผมไม่ต้องการพี่ชายแบบเขา ใครจะรู้ว่าเขาจะเป็นตัวโชคร้ายของคนอื่นอีกหรือเปล่า? ถ้าเขาทำให้แม่กับผมโชคร้ายแล้ว พวกเราเกิดเรื่องขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ? เขาไม่อยากจะดีกับแม่ ผมไม่สน ให้เขาไปเลย เขาอยากจะอยู่กับหญิงหมู่บ้านเกษตรกร ก็ให้เขาไปอยู่บ้านนอกด้วยกันทั้งชีวิตเลย”
คำพูดซินเหล่ยมีแต่ความรังเกียจซินห้าว
เฉินเยี่ยนกุมมือซินห้าวแน่น เธอรู้สึกได้ว่ามือซินห้าวกำลังสั่น เธอคิดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้วซินห้าวก็ไม่เป็นที่ต้อนรับในบ้านซิน มาพูดว่าซินห้าวเป็นตัวโชคร้ายแบบนี้ ซินห้าวจะเสียใจเพียงไหน
“เหลวไหล ไปฟังคำพูดเลวๆ แบบนี้มาจากที่ไหน ใครบอกเจ้า!”
ซินชานดุเสียงดังใส่ซินเหล่ย เขาก็โกรธไม่ไหวแล้ว
“เขาพูดผิดเหรอ? ตอนแรกเขาดวงกินฉันจริง เกือบทำให้ฉันตาย ถ้าไม่ส่งเขาออกไป ไม่แน่ตอนนี้แม้แต่กระดูกฉันยังไม่เหลือเลย พวกคุณมาโกรธฉัน มีแค่ซินเหล่ยที่อยู่ข้างฉัน คุณมาว่าเขาได้ยังไง เขาไม่ได้พูดอะไรผิด!”
ซุนหม่านเซียงปกป้องซินเหล่ย เหมือนแม่ไก่ เท่ากับเธอเห็นด้วยกับคำพูดของซินเหล่ย
ซินเหล่ยเชิดหน้าขึ้น บ้านนี้เป็นของเขา พี่ใหญ่ไม่สามารถแย่งของที่เป็นของเขาไปได้
สีหน้าซินห้าวดูไม่ได้เลย เสียใจที่ครอบครัวทำแบบนี้ แต่เขากลับตอบโต้อะไรไม่ได้
“ได้ เขาพูดไม่ผิด พวกคุณรังเกียจที่ซินห้าวเป็นตัวโชคร้าย พวกคุณไม่สงสารเขา ฉันสงสาร! พวกคุณรังเกียจ ฉันไม่รังเกียจ! พวกคุณไม่รักซินห้าวได้ ฉันรัก! ฉันกับซินห้าวจะสร้างครอบครัว ฉันจะให้ความอบอุ่นกับเขา ให้ความรักแบบครอบครัว ขอร้องหลังจากนี้พวกคุณอย่าใช้คำว่ารักมาทำร้ายเขา”
เฉินเยี่ยนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว คนเป็นแม่ ซุนหม่านเซียงทำไมถึงได้ลำเอียงเช่นนี้ เธอไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้ ในใจซินห้าวจะเจ็บปวดแค่ไหน? เป็นลูกชายเหมือนกัน ทำไมเธอถึงปฏิบัติต่อเขาแบบนี้!
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ ฉันเป็นแม่เขา!”
ซุนหม่านเซียงระเบิดอารมณ์ นัยน์ตาแดงตะคอกใส่เฉินเยี่ยน
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้? ตอนแรกฉันไม่โกรธ เพราะพวกคุณไม่ใช่พ่อแม่ฉัน ฉันไม่สนใจได้ แต่นี่คุณเป็นแม่ของซินห้าว เขาอายุเพิ่งสิบขวบก็โดนคุณส่งไปข้างนอกแล้ว ฉันคิดว่าคุณทำเพื่อเขาจริงๆ กลัวว่าเขาจะไม่เติบโต ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าคุณกลัวเขาทำคุณตาย คุณส่งเขาไปสิบปี คุณไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลย คุณคิดว่าสิบปีนั้นเขาผ่านมาได้ยังไงไหม? ช่วงเวลานั้นเขายังเป็นเด็กอยู่ เขาต้องการความใส่ใจและความรักของครอบครัว แต่คุณเคยให้เขาไหม? เขากลับมา ถึงแม้จะโตแล้ว แต่เขาก็คาดหวังกับที่บ้าน เขาคาดหวังให้พ่อแม่ยอมรับเขา รักเขา แต่คุณให้เขาไหม? เขาเอาแต่เรียกร้องจากเขา ให้เขาเชื่อฟังคุณทุกอย่าง เขาเป็นคน เขาไม่ของสมบัติของคุณ! ต่อจากนี้ฉันจะไม่ให้คุณมาทำร้ายเขาแบบนี้อีกแล้ว เพราะฉันสงสาร!”
เฉินเยี่ยนจูงมือซินห้าว ยืนอยู่ตรงหน้าซุนหม่านเซียง พูดอย่างไม่แสดงอาการอ่อนข้อ
เธอสงสารด้วยใจจริง เดิมทีเธอคิดว่าซินห้าวเป็นที่รักของทุกคน แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ ในใจที่อ่อนล้าขาดแคลนความรักยังไง ต่อจากนี้เธอจะยิ่งรักซินห้าว ไม่เพียงแต่ให้ความรักแบบสามีภรรยากับเขา แต่เป็นความรักแบบครอบครัวด้วย
ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน ในใจเต็มไปด้วยความตื้นตัน เฉินเยี่ยนเข้าใจเขา เขาหวังจะได้ความรักจริงๆ ออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครรู้ความกลัวของเขา ไม่มีใครคิดถึงความเหงาของเขา ไม่มีใครรู้ในใจเขาหวังอยากจะกลับบ้านเพียงไหน
พ่อไปเยี่ยมเขา ทุกครั้งเขาถามถึงแม่ พ่อบอกว่าสุขภาพแม่ไม่ดี นั่งรถทางไกลไม่ได้ ไปกลับรอบหนึ่งลำบากมาก
แต่ลำบากขนาดนี้ทำไมถึงยังส่งเขาไป? เขาคิดถึงบ้าน
แต่เขาพูดไม่ได้ เขาได้แต่อดทน ทำได้แค่นอนหลับคิดถึงบ้านท่ามกลางความเหนื่อยล้าทุกคืน
หลังเขากลับมา เขากลายเป็นคนเย็นชา อันที่จริงเขาแค่ไม่ค่อยชอบสัมผัสกับคนอื่น แต่ในใจเขายังหวังได้ความรัก หวังความอบอุ่นจากที่บ้าน
แต่ทั้งหมดไม่เหมือนที่เขาคิดไว้เลย เขาห่างเหินกับคนที่บ้าน เขาไม่เข้าพวก
ทุกครั้งที่เห็นแม่ยิ้มกับซินเหล่ย เอ็นดูซินเหล่ย เขามักจะคิดว่า ถ้าแม่แบ่งความรักให้เขาบ้างก็ดี
แต่เปล่าเลย แม่มักจะร้องเรียกให้เขาทำโน่น ทำนี่ ไม่ถามว่าเขาอยากหรือไม่ ต้องการหรือเปล่า
เขาไม่ทำตามที่แม่พูด แม่ก็จะว่าเขาไม่ดี บอกเมื่อก่อนเป็นยังไง เขาเสียใจมาก เขาคิดอยากจะให้แม่ยอมรับเขา เขาพยายาม แต่ก็ไม่มีประโยชน์
เขาหวังความรักจากแม่ เขาอยากได้เหลือเกิน วันนี้เฉินเยี่ยนบอกเขา เธอจะให้ความรักแบบครอบครัวกับเขา
เขาเชื่อเฉินเยี่ยน แม่ไม่ให้เขา รังเกียจเขา เขาก็ไม่เรียกร้องแล้ว มีเฉินเยี่ยน เขาไม่ใช่คนเดียวอีกต่อไป เขาจะไม่กลัว ไม่เดียวดายแล้ว เขาจะมีครอบครัวกับเฉินเยี่ยน เขามีคนรัก มีครอบครัว สมบูรณ์แล้ว
“หน้าไม่อาย เธอเป็นหญิงสาวมาพูดว่ารักว่าชอบอะไรกัน เป็นสาวเป็นแส้ขนาดนี้แล้ว ไม่อายหรือไง!”
ซุนหม่านเซียงพูดเรื่องอื่นไม่ออกแล้ว เธอไม่กล้าคิดถึงคำพูดพวกนั้นของเฉินเยี่ยน เธอไม่คิดว่าเธอยุติธรรมกับลูกชายคนโตหรือไม่ เธอจับเฉินเยี่ยนมาว่าว่าหน้าไม่อาย
“ฉันหน้าไม่อายหรือไม่ ซินห้าวชอบก็พอแล้ว คุณจะคิดยังไง ก็ไม่สำคัญ”
เวลานี้เฉินเยี่ยนดูถูกซุนหม่านเซียงแล้วจริงๆ ไม่ใช่เพราะเธอทำกับตัวเอง แต่เธอทำกับซินห้าว ทำให้เธอโกรธมาก
“พอได้แล้ว หยุดโวยวายได้แล้ว!”
ซินชานเสียงดังขึ้นมา
ฝั่งซุนหม่านเซียงก็เริ่มร้องไห้อีก ต่อว่าซินห้าว ต่อว่าซินขาน พวกเขาทำไม่ดีต่อเธอ
ใบหน้าซินห้าวดูละเ**่ยใจ
ซินห้าวจับมือเฉินเยี่ยนแน่น แววตาทำอะไรไม่ได้
ซูเหม่ยลี่คิดว่ามือของซินห้าวและเฉินเยี่ยนขัดหูขัดตา ซินห้าวไม่ยอมให้คนอื่นแตะต้องไม่ใช่เหรอ? เขาสะบัดตัวเอง แต่ทำไมตอนนี้เฉินเยี่ยนแตะต้องเขา เขากลับยินดี? โกหกหลอกลวงทั้งนั้น ซินห้าวแค่ไม่อยากให้ตัวเองแตะต้อง
แต่ไม่รีบร้อน ต้องมีสักวัน เธอจะต้องครอบครองซินห้าว
“ไปกันเถอะ พ่อไปส่งลูก”
ซินชานตบบ่าซินห้าว กับภรรยานั้น เขาหมดแรงแล้ว ทำได้แค่หลีกหนี
“หยุดนะ! พวกเธอกล้าออกไปหรือ ยังพูดไม่จบเลย”
ซุนหม่านเซียงไม่ยอม ยืนมือไปดึงซินชาน
“แม่ เขาอยากไปก็ให้เขาไปสิ ยังไงเขาอยู่บ้านก็มีแต่จะทำให้แม่โมโห พวกเราไม่เสียดายเขาหรอก”
ซินเหล่ยกลับไม่เสียดายที่ซินห้าวไป
“ผมส่งพวกเขากลับแล้ว ผมจะกลับอำเภอ ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง คงไม่กลับมานอนแล้ว”
ซินชานก็ตัดสินใจจะสงบสติเช่นกัน เขาไม่อยากกลับมาบ้านนี้
“คุณพูดอะไรนะ? จะไม่กลับมา? คุณ คุณมีคนอื่นข้างนอกใช่ไหม? ฉันว่านะ ตอนนี้คุณไม่ชอบหน้าฉัน เลยนอกใจมีคนอื่นข้างนอก คุณ คุณมันหน้าไม่อาย!”
ซุนหม่านเซียงไม่อยากเชื่อว่าสามีจะทำกับตัวเองแบบนี้
ตอนที่ 207 ถูกจับได้
“พูดเหลวไหลอะไร! ซี้ซั้วใส่ร้ายสามีตัวเอง คุณคิดจะทำอะไร!”
สายตาซินชานจะพ่นไฟออกมาได้แล้ว เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่าภรรยาเขาจะกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้แล้ว ในเมื่อสงสัยเขาแบบนี้ ถ้าพูดออกไป หน้าที่การงานเขาจะเป็นยังไง? ไม่แน่อาจจะมีเรื่องได้
“งั้นทำไมไม่กลับมา? ไม่กลับมาก็คือมีคนอื่นอยู่ข้างนอก!”
ซุนหม่านเซียงเริ่มกลัว แต่ไม่ยอมลดรา หลายปีมานี้ เธอชินที่เขาเชื่อฟังเธอมาตลอด ชินที่ซานยอมเธอ จากหงุดหงิดเล็กน้อยก็กลายเป็นมากขึ้น กลายเป็นนิสัยเธอแบบตอนนี้
“ไม่มีเหตุผล! ผมจะกลับไปอยู่ที่หมู่บ้านเกษตร ไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว พ่อแม่ผมคุณไม่เยี่ยม แต่ผมต้องเยี่ยม”
ซินชานพูดประโยคนี้จบก็ไม่สนใจเสียงร้องของซุนหม่านเซียง เขาเดินออกไปกับซินห้าวและเฉินเยี่ยน
ลงบันไดมา เฉินเยี่ยนยังได้ยินเสียงร้องได้และเสียงด่าแว่วๆ ของซุนหม่านเซียงอยู่เลย
หันหลังกลับมามอง บ้านหลังนี้ เธอรู้สึกอัดอั้นตันใจ ก่อนมาเธอคิดไว้แล้วว่าซุนหม่านเซียงไม่ชอบเธอ จะแกล้งเธอ แต่เธอไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเธอจะมาเจอซุนหม่านเซียงแบบนี้ ทำให้เธอประหลาดใจจริงๆ
“เฮ้อ ตอนอายุยังน้อยถึงแม้ว่าเธอจะขี้โมโห แต่ก็ไม่ได้ไม่มีเหตุผลขนาดนี้ กลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ”
ซินชานก็หันหลังกลับเช่นกัน เขาถอนหายใจ เหมือนตอนที่ภรรยายังอายุน้อยในแววตายังระยิบระยับเป็นประกาย ดวงตาของเธอเหมือนพูดได้ พอมองเขา ก็ทำให้เขาใจเต้นแรง จนคิดว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ
พ่อแม่บอกว่าเขาไม่ควรแต่งกับหญิงในเมือง โอหังเกินไป ไม่เหมือนพวกเขา แต่เขาไม่ฟัง เขาคิดว่าซุนหม่านเซียงอะไรก็ดีไปหมด
ซุนหม่านเซียงขี้โมโห เขาคิดว่าน่ารักดี ซุนหม่านเซียงรังเกียจหมู่บ้านเกษตรกร เขาก็คิดว่าปกติ เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน ซุนหม่านเซียงทำอาหารไม่เป็น ทำงานไม่เป็น งั้นเขาทำเอง ขอแค่เธอยอมแต่งกับตัวเองก็พอ
แต่ตอนนี้เป็นแบบนี้หรือ? ความสุขของพวกเขาล่ะ? ใช่ชีวิตที่เขาอยากได้หรือเปล่า?
ความสุขในชีวิตเหมือนพังทลายไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากกลับบ้าน
ซินห้าวก็หันกลับมาดู ก่อนหน้านี้เขาหวังว่าที่นี่จะให้ความอบอุ่นกับเขา แต่ไม่มีเลย
ตอนนี้ออกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้กลับมาจะเป็นอย่างไร อารมณ์แบบไหน
ซินห้าวเหลือบมองเฉินเยี่ยน สายตาดูอ่อนโยน มีเฉินเยี่ยนเคียงข้างเขา ต่อจากนี้เขาจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว
“ไปเถอะ”
ซินชานส่ายหน้า ช่วงนี้เขาไม่อยากกลับมาแล้ว นอกจากทำงาน ก็จะกลับไปดูพ่อแม่ พ่อแม่อายุมากแล้ว ถึงแม้ร่างกายจะแข็งแรงดีอยู่ แต่พวกเขาก็หวังจะให้เขากลับไปอยู่ดี
“คิดจะทำอะไรก็ทำเถอะ พ่อสนับสนุนลูก หลายปีมานี้ พ่อก็ไม่รู้ว่าแม่ลูกเป็นอะไรไป แล้วซูเหม่ยลี่นั่น ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี แต่พ่อมักจะรู้สึกว่าเธอ จะพูดยังไงดีนะ ในใจเธอกับการแสดงออกของเธอไม่เหมือนกัน ในเมื่อลูกชอบเฉินเยี่ยน ก็ทำดีกับเธอ พ่อมองออก เธออยากจะใช้ชีวิตกับลูกด้วยใจจริง พวกลูกแต่งงานกันอยู่ข้างนอกก็ดีเหมือนกัน แต่มีเวลาว่างก็กลับมาเยี่ยมบ้าง ไม่ว่ายังไง เธอก็คือแม่ของลูก”
ซินชานฝากฝังกับซินห้าวตอนที่กำลังจะแยกกับซินห้าวและเฉินเยี่ยนในอำเภอ
ซินห้าวพยักหน้า
เฉินเยี่ยนก็ยิ้มให้ซินชาน เธอรู้ว่าซินชานยอมรับเธอแล้ว
ซินห้าวขี่พาเฉินเยี่ยนกลับ
ระหว่างทางทั้งสองคนคุยกันมากมาย วันนี้เป็นแบบนี้แล้ว พวกเขาตัดสินใจทำตามที่พวกเขาพูด แต่งงานที่บ้านใหม่ของซินห้าว หลังแต่งงานแล้วพวกเขาอยากจะอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น
ทั้งสองคนปรึกษากันเรื่องกำหนดวันแต่งงานไว้เดือนแปด หลังแต่งงาน เฉินเยี่ยนอยากทำอะไร ซินห้าวก็ไม่ห้าม เขาจะสนับสนุนเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนพิงไหล่ซินห้าว ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ซินห้าวสนับสนุนเธอ เธอก็สนับสนุนซินห้าวด้วยเช่นกัน เธอและซินห้าวจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน จับมือก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
“แวะไปดูที่โรงงานหน่อย แล้วค่อยกลับนะคะ”
ตอนที่ใกล้ถึงโรงงานม้วนบุหรี่ เฉินเยี่ยนพูดกับซินห้าว หลายวันก่อนมีคนสั่งบุหรี่มาไม่น้อย เธอจะไปดูว่าผลิตเป็นยังไงบ้าง
“ได้สิ”
ซินห้าวพยักหน้า ไปที่ไหนกับเฉินเยี่ยนก็ดีทั้งนั้น
มาถึงหน้าโรงงานม้วนบุหรี่ เฉินเยี่ยนมองดู ไม่เห็นลุงยามที่หน้าประตู เวลาปกติลุงยามจะอยู่หน้าประตู ไม่ปล่อยให้คนนอกเข้าได้ วันนี้ทำไมไม่อยู่?
ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนเข้าไปในโรงงาน มีเสียงร้องไห้ระงมดังขึ้นมา
ไม่ดี เกิดเรื่องแล้ว
เฉินเยี่ยนรีบกระโดดลงจากรถ ซินห้าวก็รีบเบรกรถ จอดรถนิ่งแล้ว เดินตามหลังเฉินเยี่ยนไป
ทั้งสองคนเดินตามเสียงร้องไห้และเสียงโวยวายไป
เสียงฝีเท้าเฉินเยี่ยนดูเร่งรีบ ทะเลาะกับฝั่งบ้านซินมายกหนึ่แล้ว เดิมทีคิดว่าจะกลับมาดูบุหรี่ พ่อแม่จะได้ดีใจ กลายเป็นเธอมีเรื่องหนักใจอีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าโรงงานจะเกิดเรื่อง มาเป็นระลอกระลอกจริงๆ หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
เฉินเยี่ยนและซินห้าวเจอต้นตอของเสียงแล้ว เป็นส่วนที่ทำอาหาร
ที่ตรงนี้มีสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นครัว อีกห้องเป็นห้องพักผ่อน
ทำไมถึงได้เกิดเรื่องที่นี่? ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฉินเยี่ยนคิดถึงแม่หม้ายคนนั้น ในใจเธอรู้สึกไม่สงบขึ้นมา
“คุณยังบอกว่าเปล่า ฉันเห็นกับตาว่าคุณอยู่บนเตียงเธอ เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า หน้าขายหน้าที่สุด ยังไม่ยอมรับอีก! เฉินจง ฉันตาบอดไปจริงๆ คุณเพิ่งมีเงินเท่าไรเอง เพิ่งมีชีวิตที่สุขสบายมากี่วันคุณก็เริ่มโกหกแล้ว คุณมีผู้หญิงอื่น คุณไม่ต้องการฉันแล้ว คุณทำแบบนี้กับฉันได้หรือ!”
เสียงร้องไห้ เสียงด่าทอทำให้เฉินเยี่ยนชะงักไป เสียงหวางนิว
ก่อตั้งโรงงานขึ้นมา นอกจากตอนแรกที่หวางนิวมาช่วยทำความสะอาดแล้ว เธอไม่เคยมาที่โรงงานเลย มีเรื่องอะไรก็จะให้คนไปแจ้งข่าวเฉินจงหรือเฉินเยี่ยนกลับมา
แต่วันนี้เธอมาโรงงาน ได้ยินเสียงเธอร้องไห้โวยวาย ได้ยินคำพูดพวกนั้นของเธอ เฉินเยี่ยนกังวลใจ
เธอเดินไปแล้วพูดกับตัวเองไปพลาง เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้ เธอรู้จักนิสัยเฉินจงดี เฉินจงไม่มีทางหาผู้หญิงคนอื่น
ใช่ เฉินจงหน้าตาดีมาก ถึงแม้ว่าคนยุคนี้จะยังไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายที่แก่กว่ารุ่นลุง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฉินจงมีเสน่ห์มาก มีผู้หญิงไม่น้อยต่างชอบเขา แต่เฉินจงกลับไม่เคยคุยเล่นกับคนอื่นเลย
ในหมู่บ้านเกษตรกร มีผู้ชายมากมายพูดจาดูถูกสาวน้อยสาวใหญ่ แต่เฉินจงไม่เคยทำเลย
หม่าเหลียนแม่หม้ายคนนั้นตั้งแต่เข้าโรงงานมาก็ทำงานได้ดี มีอะไรให้ช่วยก็ช่วยเหลือคนอื่น แต่เธอรู้ว่าพ่อรักเดียวใจเดียว ไม่คิดมีคนอื่น
พ่อไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
อีกอย่างนี่ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ แล้วให้แม่มาเห็นสภาพแบบนี้ นี่มันไม่ถูกต้อง!
ในพริบตาเฉินเยี่ยนคิดไปมากมาย
มีคนมากมายล้อมอยู่รอบห้อง ต่างกระซิบกระซาบวิจารณ์กัน
“ฉันอยู่กับคุณหลายปีมานี้ ฉันเคยรังเกียจที่ใช้ชีวิตลำบากหรือ? ไม่ง่ายเลยกว่าชีวิตจะสบายอย่างตอนนี้ คุณรังเกียจฉัน คุณรังเกียจฉัน พูดมาสิ คุณหาผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉัน คุณจะให้ฉันอยู่ยังไง”
เสียงหวางนิวดังขึ้นมาอีกครั้ง ฟังแล้วน่าเศร้าใจยิ่งนัก
“ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ใช่เรื่องแบบนั้น”
เฉินจงพูดเสียงเบา เสียงเขาดูกลุ้มใจ และมีความโกรธอึดอัดอยู่
“ไม่ใช่เรื่องอะไร! คุณยังหลอกฉันอีก มิน่าทุกวันคุณอยากมาโรงงานขนาดนี้ พอดีมีคนมาอ่อยคุณ คุณจะหาคนใหม่คุณรอให้ฉันตายก่อนสิ คุณไปหาผู้หญิงที่อายุน้อยก็ไป นี่หาแม่หม้าย คุณจะให้ฉันทำตัวยังไง จะให้ลูกฉันทำตัวยังไง”
หวางนิวกลับไม่ฟังคำพูดเฉินจง เธอเห็นกับตา เธอเชื่อสิ่งที่เธอเห็น
ตอนที่ 208 ทะเลาะ
เฉินเยี่ยนเดินมาข้างหน้า มีคนเห็นเฉินเยี่ยนแล้ว เลยรีบหลีกทางให้เฉินเยี่ยนและซินห้าว
คนงานพวกนี้ไม่รู้จักซินห้าว แต่พวกเขารู้ดี โรงงานม้วนบุหรี่นี้ เฉินจงเป็นหัวหน้าโรงงานในนาม แต่เรื่องทั่วไปอื่นๆ เฉินเยี่ยนเป็นคนตัดสินใจ
อีกอย่างมนุษย์ชอบนินทามุงดูเหตุการณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากดูเฉินเยี่ยนเห็นเรื่องอื้อฉาวของพ่อแม่ เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน เธอจะจัดการยังไง
เฉินเยี่ยนเข้ามาข้างใน ในห้องคนไม่เยอะ เฉินจง หวางนิว แล้วยังมีเฉินกุ้ยและหม่าเหลียน
นอกจากนั้นยังมีหวางจวน หวางจวนกำลังประคองหวางนิว แต่เธอและเฉินกุ้ยเป็นเด็ก ไม่รู้ควรจะโน้มน้าวยังไง
เฉินเยี่ยนมองเฉินจง สีหน้าเฉินจงดูอึมครึม น่ากลัว นัยน์ตาเขาแดง ผมเพ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายุ่งเล็กน้อย
ส่วนหม่าเหลียนนั่งอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนบนเตียงยุ่งเหยิง เสื้อผ้าเธอก็ยับ ก้มหน้าร้องไห้ ไม่พูดอะไรเลย
เฉินเยี่ยนเห็นสภาพแบบนี้ในใจหนักอึ้ง ลำคอตีบตัน ไม่ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ หวางนิวไม่ควรโวยวายแบบนี้ โวยวายแบบนี้ ทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว อยากจะปิดเงียบก็ทำไม่ได้ แล้วผลต่อมาจะเป็นยังไง? หวางนิวเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เธอน่าจะคิดแค่โมโห
“เยี่ยนจื่อ ลูกกลับมาแล้ว มานี่ ลูกมาดูพ่อลูกทำเรื่องน่าอาย!”
หวางนิวเห็นเฉินเยี่ยน เหมือนเห็นที่พึ่งทางใจ รีบดึงเฉินเยี่ยน
“คุณพูดบ้าอะไร”
สีหน้าเฉินจงยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่
เฉินเยี่ยนเดินไปข้าวหน้าประคองหวางนิว เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะพอเดินเข้าไปใกล้เฉินเยี่ยนได้กลิ่นเหล้า ออกมาจากตัวเฉินจง
เฉินเยี่ยนมองอีก บนโต๊ะมีกาเหล้า มีแก้วเหล้า เห็นได้ชัดว่าเฉินจงดื่มเหล้า
ดื่มเมาแล้วลวนลาม?
เฉินเยี่ยนมองหม่าเหลียน เธอสวยมากจริง หวางนิวเทียบไม่ได้แม้แต่น้อยเลย ถึงแม้จะเป็นหวางนิวตอนสาวก็ยังเทียบไม่ได้
แต่เธอเชื่อว่าพ่อเธอไม่ใช่คนแบบนั้น
ทุกคนต่างมองเฉินเยี่ยน ดูว่าเธอจะจัดการยังไง
“พอแล้ว แม่ พ่อก็แค่ดื่มเหล้าไม่กี่แก้วกับป้าหม่าเอง นี่กลางวันแสกๆ แล้วยังอยู่ในโรงงานอีก จะทำอะไรได้? แม่เข้าใจผิดแล้ว ไม่มีเรื่องอะไร! แม่โวยวายแบบนี้ ชื่อเสียงพ่อกับป้าหม่าก็ไม่เหลือแล้ว แม่กันพ่ออยู่ด้วยกันมาหลายปีขนาดนี้ พ่อเป็นคนยังไงแม่ไม่รู้เหรอ เขาไม่มีทางทำ”
เฉินเยี่ยนส่งสายตาไปที่หวางนิว ต้องสกัดกั้นเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เรื่องราวจากนี้จะเป็นยังไง พวกเขาค่อยปิดประตูคุยกัน
“เข้าใจผิดอะไร! แม่เห็นกับตาว่าพวกเขาสองคนนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แม่ไม่ได้ตาบอด! พวกเขาจะต้องการชื่อเสียงอะไร กล้าทำเรื่องแบบนี้ พวกเขายังมียางอายบ้างไหม!”
หวางนิวกลับไม่มองสายตาเฉินเยี่ยน โมโหตะโกนขึ้นมา วันนี้เฉินจงหักหลังทำเธอเสียใจ สูญสิ้นสติ
เฉินจงอยากจะหาถ้ำหมุดเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด
“เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายได้แล้ว เดือนนี้ยังมีบุหรี่อีกเยอะที่ยังไม่ได้ม้วนเลย ลูกค้ารออยู่นะ จวนเอ๋อร์ พี่ใหญ่ พวกพี่นำพวกเขาไปทำงานเถอะ”
เฉินเยี่ยนสั่ง เธอไม่อยากให้ทุกคนมามุงดูอยู่ที่นี่ เพราะเธอคิดว่าเรื่องนี้มีนอกมีใน เดี๋ยวเธอจะถาม
“ไปอะไร ไปไม่ได้! วันนี้ถ้าไม่พูดให้รู้เรื่อง ใครก็ห้ามไป ฉันจะให้ทุกคนได้ดูว่าพวกเขาเป็นคนยังไง ฉันจะดูว่าต่อจากนี้พวกเขาจะอยู่ยังไง”
หวางนิวไม่ยอม
หวางจวนกับเฉินกุ้ยไม่รู้จะทำยังไง
เฉินเยี่ยนบีบมือหวางนิวแน่น หวางนิวกลับไม่รู้สึกเจ็บ มองดูนัยน์ตาแดงก่ำของหวางนิว เฉินเยี่ยนเข้าใจความเจ็บปวดเสียใจของเธอ ความเสียใจแบบนี้ทำให้เธอเป็นบ้าไปแล้ว เธอแค่ต้องการคำอธิบาย แต่ไม่ได้คิดว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง
หวางนิวเป็นหญิงชาวเกษตรกร เธอไม่มีความรู้ เธอไม่ยี่หระอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีความรู้สึก เธอเสียใจไม่เป็น
เจอเรื่องแบบนี้ เป็นใครก็รับไม่ได้ เฉินเยี่ยนคิดถึงภาพนั้นที่เธอเจอเฉินเวยและอวี๋เหวยหมิน
เฉินเยี่ยนแอบถอนหายใจ
“งั้นก็พูดมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เฉินเยี่ยนไม่เรียกให้คนอื่นไปแล้ว ในเมื่อหวางนิวยืนยัน เธอมีปมในใจ ก็ถามให้ชัดเจนไปแล้วกัน
เฉินจงไม่พูดอะไร สีหน้าเขาดูอึกอัก ดูเขินอาย และก็ดูโมโหด้วย
หม่าเหลียนเหลือบมองเฉินจง แล้วก็ก้มหน้าลง
“ได้ พวกเธอไม่พูด ฉันพูด! ฉันจะให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอมันเป็นคนยังไง” หวางนิวชี้ไปที่ทั้งสองคน เธอโกรธจนทนไม่ไหวแล้ว
“วันนี้ลูกไปบ้านแม่สามีมาใช่ไหม?”
ประโยคนี้ของหวางนิวทำให้สายตาทุกคนต่างมองมาที่เฉินเยี่ยนและซินห้าว ทุกคนประเมินมองซินห้าว ที่แท้ก็เป็นสามีของเฉินเยี่ยนนี่เอง หน้าตาหล่อเหลา แต่ผู้ชายคนนี้ยังไม่ได้แต่งงานเลย มาเจอเรื่องแบบนี้ ช่างน่า…
“พวกลูกไปแล้ว แม่ก็ทำงานที่บ้าน ตอนเที่ยงพ่อลูกไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน แม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงที่โรงงานก็มีข้าว เขาคงไม่หิวหรอก แม่กำลังทำงานอยู่นะ เสี่ยวเวยก็กลับมา เธอตาแดง เห็นก็รู้ว่าร้องไห้มา แม่ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมพูด สุดท้ายเธออ้ำๆ อึ้งๆ บอกว่าพ่ออยู่ในโรงงาน เธอเห็นอะไร ก็ไม่ยอมบอก แม่ทั้งใจร้อนทั้งโกรธ แม่ว่าเธอ แต่เธอก็ไม่พูด สุดท้ายแม่กังวลว่าพ่อลูกจะเกิดเรื่องอะไร แม่เลยวิ่งไปหา”
“ตอนที่แม่มาถึงยังไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่าพ่อลูกเป็นอะไรไป แต่แม่มาถึงนี่ ในโรงงานก็หาพ่อไม่เจอ สุดท้ายแม่มาเจอที่นี่ ประตูไม่ได้ปิดสนิท พวกเขาสองคนนอนอยู่บนเตียงอย่างหน้าไม่อาย เสื้อผ้าไม่ได้ใส่ โล่งโจ้งไม่เหลืออะไร อย่าให้พูดว่าน่าขายหน้าขนาดไหนเลย”
“ลูกพูดมา ลูกพูดมา พวกเขาหน้าด้านไหม? คนหนึ่งเป็นแม่หม้าย อยากจะหาสามี ก็ไปหาคนที่เมียตายแล้วสิ ฉันยังมีชีวิตอยู่นะ เธอมาหาเขา เพราะเธออยากใช่ฉันตายใช่ไหม! เฉินจง คุณใกล้จะมีหลานอยู่แล้ว คุณยังทำเรื่องแบบนี้อีก ต่อไปคุณจะไปเดินในหมู่บ้านได้ยังไง คุณไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะลับหลังเอาหรือไง”
หวางนิวพูดไปก็ร้องไห้ไป ด่าทอไป อารมณ์รุนแรงมาก
ที่แท้ก็มีเฉินเวยมาเกี่ยวข้องนี่เอง สีหน้าเฉินเยี่ยนนิ่งขรึมลง เธอรู้ว่าเฉินเวยไม่พอใจ แต่เธอคิดเป็นพันๆ วิธียังไงก็ไม่คิดว่าเฉินเวยจะไม่ลงมือกับตัวเอง แต่เบนความสนใจไปที่พ่อแม่ แล้วยังถือโอกาสวันนี้ที่เธอไปบ้านซินห้าว เธอคำนวณไว้แล้วว่าตัวเองไม่อยู่บ้าน คิดไว้แล้วว่าหวางนิวเป็นห่วงเฉินจง แล้วคิดถูกต้องว่าหวางนิวเป็นคนวู่วาม
เธอวางแผนเรื่องนี้ไว้ว่าพ่อแม่ต้องทะเลาะกันแน่นอน เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะทะเลาะออกมายังไง แบบนั้นเรื่องแต่งงานของเธอและซินห้าวอาจจะต้องเลื่อนออกไป พอเลื่อนออกไป เฉินเวยก็จะคิดว่าตัวเองมีโอกาส เธอไม่อยากให้ตัวเองกับซินห้าวได้แต่งงานกัน
เธอทำเพื่อจุดประสงค์นี้ เธอกล้าทำถึงขั้นนี้ เธอไม่คิดเลยว่าถ้าเรื่องนี้ใหญ่โตขึ้นมา ครอบครัวแตกแล้ว พวกเธอจะต้องเจออะไรบ้าง!
ในใจเฉินเยี่ยนเย็นชา
สายตาเธอมองออกไปข้างนอก ในฝูงคนไม่มีเฉินเวยอยู่ เธอไม่ได้มา นี่คิดจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อสงสัยใช่ไหม?
“พ่อ พ่อมีอะไรอยากจะพูดไหม?”
เฉินเยี่ยนสงบอารมณ์ลงแล้วถามเฉินจง
เฉินจงอ้าปาก อยากจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก
“ป้าหม่าล่ะ?”
เฉินเยี่ยนมองไปที่หม่าเหลียน
“ป้าอะไร เธอมันมือที่สาม! เธออยากจะมาเป็นแม่ของลูก เธอไม่ดูเลยว่าตัวเองคู่ควรไหม! หญิงร่าน หน้าไม่อาย”
หวางนิวถุยน้ำลายไปทางหม่าเหลียน เธอยังอยากจะเข้าไปดึงทึ้งหม่าเหลียนด้วย แต่โดนคนดึงไว้
หม่าเหลียนไม่ขยับเลย สีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนเธอต่างหากที่เป็นผู้โดนกระทำ
เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเยือกเย็น นี่ก็เฉินเวยอีกคน เล่นละครได้เก่งเหลือเกิน ทำไมตอนนั้นตัวเองถึงได้ตาบอด มองไม่ออกนะ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น