ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ 199-205

ตอนที่ 199 ต่อรอง

 

           ลั่วเซ่าเชินรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เขาได้เห็นถังโจวโจวเป็นฝ่ายยั่วยวนเองเช่นนี้ ถังโจวโจวยืนเขย่งบนปลายเท้าและจูบลั่วเซ่าเชิน ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่เกรงอกเกรงใจ เขาไม่มีทางปฏิเสธโอกาสดีๆ ที่เธอมอบให้เขาถึงที่อย่างนี้หรอก


 


 


           ต่อมาลั่วเซ่าเชินก็กลายเป็นฝ่ายรุก เขาค่อยๆ คลำหาตะขอด้านหลัง เพื่อหมายจะปลดเปลื้องพันธนาการที่อยู่บนร่างกายของถังโจวโจว แต่เขากลับถูกถังโจวโจวหยุดมือไว้ก่อน


 


 


           ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้รีบร้อน ถังโจวโจวใช้แขนทั้งสองข้างคล้องคอเขาเอาไว้ ร่างของเธอติดอยู่กับเขา ลั่วเซ่าเชินดันตัวเธอให้เดินถอยหลังไป จนกระทั่งสะโพกของถังโจวโจวเกยอยู่บนขอบอ่างล้างหน้า


 


 


มือข้างหนึ่งของถังโจวโจวค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของลั่วเซ่าเชิน ส่วนอีกข้างที่เหลือก็รั้งศีรษะของลั่วเซ่าเชินลงมา “เซ่าเชิน ที่ฉันทำแบบนี้ คุณชอบไหมคะ” จู่ๆ ถังโจวโจวก็หยุดก่อนที่จะถึงริมฝีปากของลั่วเซ่าเชิน เธอถามเขาด้วยเสียงแหบพร่า


 


 


ลั่วเซ่าเชินไม่อยากจะตอบคำถามใดๆ ในตอนนี้ มีโอกาสแล้วก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ แต่เมื่อเห็นถังโจวโจวดึงดัน ลั่วเซ่าเชินก็รีบพยักหน้า “ชอบสิ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ ตอนนี้ผมยิ่งชอบที่คุณยั่วยวนผมเก่งขึ้นขนาดนี้”


 


 


เลือดลมของลั่วเซ่าเชินวิ่งพล่านไปทั่วร่าง เมื่อนึกถึงอาหารอันโอชะที่กำลังจะได้ลิ้มลอง แต่แล้วถังโจวโจวก็แย้มยิ้มชั่วร้ายออกมา


 


 


“โอ๊ย!” ลั่วเซ่าเชินไม่คิดเลยว่าถังโจวโจวจะกล้าถึงเพียงนี้ นี่เธอถึงกับกัดปากเขาเลยหรือ!


 


 


ถังโจวโจวดึงเสื้อผ้าขึ้นอย่างช้าๆ และเมื่อเห็นว่าลั่วเซ่าเชินหน้าเสีย เธอก็อธิบายว่า “ฉันบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วไงคะว่าฉันไม่ต้องการ เป็นคุณเองที่อยากจะสานต่อให้ได้ ที่ทำแบบนี้ฉันก็แค่อยากบอกให้คุณรู้ว่าฉันไม่ต้องการ แม้แต่คุณก็ไม่สามารถบังคับฉันได้ ระวังจะอดขึ้นมาจริงๆ นะคะ”


 


 


ถังโจวโจวพูดอย่างฉะฉาน ลั่วเซ่าเชินโมโหมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการต่อต้านของถังโจวโจว


 


 


เมื่อเห็นท่าทีของถังโจวโจวที่ทำราวกับไม่รู้ว่าเธอทำผิดตรงไหน ลั่วเซ่าเชินก็นึกอยากจะสั่งสอนเธอขึ้นมา ให้เธอได้รู้ว่าเธอไม่ควรทำให้สามีของเธอหวั่นไหวตามอำเภอใจ แต่น่าเสียดายที่เขาได้แค่คิดแต่ยังไม่อาจทำได้จริง


 


 


“เซ่าเชิน รีบออกไปสิคะ ฉันจะอาบน้ำแล้ว” ถังโจวโจวรวบคอเสื้อเล็กน้อย ลั่วเซ่าเชินที่เห็นท่าทางพึงพอใจของถังโจวโจวก็ได้แต่แอบสาบานอยู่ในใจว่า ครั้งหน้าเขาจะทำให้ถังโจวโจวได้รู้ว่าเขานั้นร้ายกาจมากแค่ไหน ต่อให้เธอร้องขอความเห็นใจเขาก็จะไม่หยุด


 


 


“โจวโจว คุณคอยดูพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นอย่ามาอ้อนวอนขอร้องผมล่ะ”


 


 


ถังโจวโจวหน้าแดงก่ำไปกับคำพูดของลั่วเซ่าเชิน ความจริงแล้วก่อนหน้าที่จะลงมือทำแบบนี้ เธอก็ลังเลใจอยู่เล็กน้อยว่าเธอควรจะทำมันดีไหม


 


 


และเมื่อถังโจวโจวคิดถึงบทลงโทษของลั่วเซ่าเชิน เธอก็รู้ว่าลั่วเซ่าเชินนั้นพูดจริงทำจริง แต่เธอลงมือทำมันไปแล้ว เธอจึงได้แต่พูดอย่างไม่แยแสว่า “ให้มันมีโอกาสนั้นเถอะค่ะ”


 


 


เพราะส่วนใหญ่เธอก็อยู่กับลั่วอิง เธอจึงไม่เชื่อว่าลั่วเซ่าเชินจะกล้าทำอะไรเธอต่อหน้าลั่วอิงได้ เขาไม่กลัวว่าลูกจะได้เห็นภาพอะไรที่ไม่เหมาะสมเลยหรือ


 


 


“ได้ โจวโจว คุณพูดเองนะ” หลังจากนั้นลั่วเซ่าเชินก็เดินออกไปจากห้องน้ำ ในที่สุดถังโจวโจวก็ได้อาบน้ำอย่างสบายใจสักที


 


 


วันถัดมา เมื่อถังโจวโจวเลิกงานและไปรับลั่วอิงกลับมาแล้ว เธอก็ไม่ยอมห่างจากลั่วอิงเลยสักก้าว ลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้รีบร้อน เขาเฝ้ารอโอกาสอย่างเงียบๆ วันนี้เขาจะต้องทำให้ถังโจวโจวได้เห็นดีกัน ดูสิว่าเธอจะยังปากเก่งกับเขาอยู่อีกไหม


 


 


เมื่อลั่วอิงเข้านอน ลั่วเซ่าเชินก็รู้ว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว ในขณะที่ถังโจวโจวเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ลั่วเซ่าเชินก็รีบลงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่าง และเมื่อเขากลับมา ถังโจวโจวก็ยังไม่ออกมา


 


 


ถังโจวโจวคิดในขณะที่อาบน้ำว่าคำพูดของลั่วเซ่าเชินเมื่อวานนี้ทำให้เธอหวาดระแวง เขาอาจจะแค่พูดมันออกมาเพราะโมโห ถังโจวโจวไม่อยากจะทำความเข้าใจอะไรแล้ว ดังนั้นเธอจึงอาบน้ำอย่างสบายใจต่อไป


 


 


ทันทีที่เธอเปิดประตูห้องน้ำออก เธอก็เห็นร่างสูงใหญ่ของลั่วเซ่าเชินยืนอยู่หน้าประตู ถังโจวโจวตกใจจนรีบปิดประตูในทันที


 


 


แต่น่าเสียดายที่เธอไม่อาจชนะความเร็วและความแข็งแกร่งของลั่วเซ่าเชินได้ เขาเปิดประตูออกจนได้และถังโจวโจวก็ถูกขังอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเห็นลั่วเซ่าเชินล็อกประตู ถังโจวโจวก็รู้ว่าแย่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอไม่ควรชะล่าใจเลย เธอจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าลั่วเซ่าเชินกำลังรอเธออยู่ตรงนั้นน่ะ


 


 


ถังโจวโจวคิดว่าผู้หญิงควรจะรู้จักผ่อนหนักให้เป็นเบา เธอจึงรีบเอ่ยขอความเมตตาในทันที “เซ่าเชิน เมื่อวานนี้ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้วค่ะ ลั่วอิงกำลังรอเราอยู่ข้างนอกนะ เรารีบออกไปกันเถอะ”


 


 


ถังโจวโจวหมายจะใช้ลั่วอิงเป็นทางหนีทีไล่ แต่น่าเสียดายที่ลั่วเซ่าเชินเอ่ยตัดบทอย่างไร้ความปรานี “ลั่วอิงไม่คิดถึงคุณตอนนี้หรอก เพราะป่านนี้เธอคงหลับปุ๋ยฝันดีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว โจวโจว คุณเป็นห่วงตัวคุณเองจะดีกว่า เตรียมรับมือไว้ได้เลย”


 


 


เมื่อได้ยินวัตถุประสงค์ที่ไม่คิดจะปกปิดเลยสักนิดของลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวก็ตกใจมากยิ่งขึ้น คราวนี้โทษของเธอช่างหนักหนา เธอควรจะยุติมันอย่างไร?


 


 


ถังโจวโจวคิดอยากจะบีบน้ำตาให้ลั่วเซ่าเชินเห็นใจ บางทีเขาอาจจะยอมปล่อยเธอไปก็ได้ถ้าเกิดว่าเขาใจอ่อนพอดี แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเธอจะกะพริบตาถี่มากเท่าไร น้ำตาของเธอก็ไม่ยอมไหลออกมาสักหยด ลั่วเซ่าเชินเริ่มถอดเสื้อผ้าของเขาในขณะที่ถังโจวโจวกำลังคิดหาทางออก


 


 


ถังโจวโจวรีบปิดตา “ลั่วเซ่าเชิน คุณมันหน้าไม่อาย!” ใบหน้าของถังโจวโจวแดงก่ำเมื่อเห็นเขาถอดเสื้อผ้าไม่ให้สุ้มให้เสียง


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวเขินอายจึงพูดขึ้น “เมื่อวานคุณยังกล้าอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้แม้แต่จะมองก็ยังไม่กล้าเลยล่ะ โจวโจว รู้ไหมว่าเมื่อวานคุณยังถอด…”


 


 


ถังโจวโจวอยากจะอุดหูแน่นๆ เธอจะได้ไม่ต้องฟังลั่วเซ่าเชินรื้อฟื้นความหลัง แต่น่าเสียดายที่มือของเธอไม่พอใช้ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถปิดหูได้เพราะเธอใช้มือปิดตาอยู่ ถังโจวโจวประสบปัญหาอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วเซ่าเชินไม่อยากจะพูดคุยกับถังโจวโจวมากนัก เขาเสียเวลามามากพอแล้ว


 


 


ลั่วเซ่าเชินก้าวขาเดินไปข้างหน้าแค่เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวถังโจวโจว แต่ถังโจวโจวปิดตาแน่น เธอจึงไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ตอนนี้เลย ในขณะที่เธอไม่รู้ไม่เห็นนั้น ข้าศึกได้ประชิดตัวเธอเรียบร้อยแล้ว


 


 


“โจวโจว ลืมตามองผม”


 


 


ถังโจวโจวได้ยินเสียงของลั่วเซ่าเชินดังขึ้นใกล้ๆ ฟังดูแล้วท่าจะไม่ค่อยดี เธอจึงปิดตาแน่นไม่ยอมปล่อยมือ และส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ปากก็เอาแต่พูดว่า “ไม่เอาค่ะ คุณนิสัยไม่ดี”


 


 


เธอหมายจะก้าวถอยหลัง แต่ทันทีที่เธอขยับ ลั่วเซ่าเชินก็คว้าตัวเธอเอาไว้ ทำให้ถังโจวโจวทรงตัวไม่อยู่ ร่างของเธอถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของลั่วเซ่าเชิน


 


 


“โจวโจว คุณเป็นบังคับผมเองนะ!” น้ำเสียงติดตลกของลั่วเซ่าเชินดังก้องอยู่ข้างหูของถังโจวโจว ตอนนี้ถังโจวโจวสู้ลั่วเซ่าเชินไม่ได้ เธอสูญเสียโอกาสหนีเอาตัวรอดไปแล้ว “โจวโจว เอามือออก”


 


 


ทั้งที่ถังโจวโจวใช้มือปิดตาอยู่ เธอก็ใช้แขนขืนตัวเขาเอาไว้ด้วย ทำแบบนี้แล้วเขาจะเข้าใกล้เธอมากกว่านี้ได้อย่างไร ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าถังโจวโจวได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแต่ก็ยังไม่ยอมลดมือลง


ตอนที่ 200 ฉลาดแกมโกง


 


 


           เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับนิ้วมือของเขาที่อยู่ตรงช่วงเอวของถังโจวโจวเบาๆ แล้วถังโจวโจวก็หลุดหัวเราะออกมาในทันที “ฮ่าๆ… จักจี้… ฮ่าๆ…” นิ้วมือของลั่วเซ่าเชินขยับไม่หยุด และในที่สุดถังโจวโจวก็ยอมปล่อยมือออกจากดวงตา เพื่อย้ายมันลงไปสกัดกั้นมือของลั่วเซ่าเชินที่ก่อกวนเอวของเธออยู่


 


 


           “ยังจะกล้าไม่ฟังผมอยู่อีกไหม” ลั่วเซ่าเชินจี้เอวถังโจวโจวไม่หยุด ส่วนถังโจวโจวก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด


 


 


“ฮ่าๆ… เซ่าเชิน ฉันไม่กล้าแล้วค่ะ คุณรีบปล่อยมือเถอะนะ… ฮ่าๆๆ… ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ” ถังโจวโจวหัวเราะจนแทบจะขาดใจ และในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็ยอมถอนกรงเล็บนั่นออกไป


 


 


เมื่อเห็นรอยบุ๋มที่มุมปากของโจวโจว ลั่วเซ่าเชินก็ก้มหน้าลงไปจูบตรงนั้น เขาเห็นถังโจวโจวหัวเราะอย่างมีความสุขขนาดนี้ เขาก็อยากจะให้เธอยิ้มแบบนี้ตลอดไป


 


 


ลั่วเซ่าเชินจูบที่ลักยิ้มของเธอทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็จูบลงบนริมฝีปากของถังโจวโจว คราวนี้ถังโจวโจวเชื่อฟังเป็นอย่างดี


 


 


ราวกับผ่านไปหนึ่งศตวรรษ ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็ยอมถอนริมฝีปากออกจากถังโจวโจว และก่อนที่ถังโจวโจวจะได้สูดลมหายใจเข้าปอด ริมฝีปากของลั่วเซ่าเชินก็ค่อยๆ ไต่ลงไปเรื่อยๆ เขาทิ้งร่องรอยสีกุหลาบมากมายไว้บนคอของเธอ ส่วนมือก็เริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของถังโจวโจวอย่างรวดเร็ว


 


 


เสื้อผ้าหล่นลงไปกองกับพื้น ถังโจวโจวรู้สึกหนาวเล็กน้อย ลั่วเซ่าเชินรู้สึกได้ว่าเธอตัวสั่น เขาจึงเอ่ยปลอบเธอในทันที “เดี๋ยวก็ไม่หนาวแล้ว”


 


 



 


 


เดิมทีเรื่องนี้มันควรจะจบแล้ว ลั่วเซ่าเชินควานหาเสื้อผ้ามาคลุมร่างให้กับถังโจวโจว ส่วนเขานั้นสวมชุดคลุมอาบน้ำที่ตกอยู่บนพื้นก่อนหน้านี้ ถังโจวโจวนึกว่าวันนี้ลั่วเซ่าเชินจะปล่อยเธอไปอย่างง่ายดาย “เซ่าเชิน ฉันใส่เองได้ค่ะ”


 


 


“โจวโจว คุณอย่าเพิ่งได้ใจไป มันยังไม่จบนะ” ลั่วเซ่าเชินอุ้มถังโจวโจวขึ้น ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำและเดินออกไป ถังโจวโจวรู้ดีว่าวันนี้เธอคงจะไม่ได้นอนแน่แล้ว


 


 


ลั่วเซ่าเชินฉลาดแกมโกงมากเกินไป เมื่อวานเธอเพิ่งจะปฏิเสธเขา วันนี้เขากลับทวงคืนได้แล้ว ลั่วเซ่าเชินอุ้มถังโจวโจวเข้าไปในห้องหนังสือและวางถังโจวโจวลงบนโซฟา


 


 


“โจวโจว วันนี้เรามาทำเรื่องที่เราทำค้างไว้เมื่อครั้งก่อนให้จบเถอะ”


 


 


ถังโจวโจวนึกถึงช่วงเวลานั้นที่เกือบจะพลาดพลั้งในห้องหนังสือ เธอไม่รู้ว่าลั่วเซ่าเชินเฝ้าแต่คิดเรื่องนี้อยู่ตลอด


 


 


“เซ่าเชิน ไม่ดีกว่ามั้งคะ?” นั่นมันนานมากแล้วนะ นึกไม่ถึงเลยว่าลั่วเซ่าเชินจะยังจำได้อยู่อีก


 


 


ปักหลักสู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยดีกว่ามานั่งคิดบัญชีทีหลัง ถังโจวโจวปลอบใจตัวเองราวกับเป็นคนเด็ดเดี่ยวและองอาจ ท่าทางตื่นกลัวของถังโจวโจวทำให้ลั่วเซ่าเชินหัวเราะ “โจวโจว คุณรู้ไหมว่าคุณดูตลกมากแค่ไหน จนผมแทบไม่กล้ากินคุณแล้ว”


 


 


“เซ่าเชิน ถ้าคุณไม่ทำต่อ เราก็กลับไปนอนกันเถอะนะคะ”


 


 


“ใครว่าผมจะไม่ทำต่อ” ลั่วเซ่าเชินไม่ยอมปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดลอยไปได้หรอก


 


 


วันรุ่งขึ้น ถังโจวโจวนอนอยู่บนเตียง เธอไม่สามารถขยับตัวได้ แค่ขยับก็เจ็บแปลบแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอถูกรถบดมาอย่างไรอย่างนั้น เธอปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด และเมื่อเธอนึกถึงลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวก็จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อคืนผ่านมาได้อย่างไร


 


 


นานๆ ครั้งเธอก็พอจะชอบมันอยู่บ้าง แต่เธอก็ทนกับความต้องการของลั่วเซ่าเชินขนาดนี้ไม่ไหว เธอแค่รู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินใช้เวลาหนึ่งเดือนก่อนกำหนดไปหมดแล้ว และถังโจวโจวก็ทำได้แค่เพียงนอนหมดแรงอยู่บนเตียงเท่านั้น


 


 


ภายในห้องไม่มีใคร เธอลูบแตะสัมผัสพื้นเตียงเย็นๆ ข้างตัว ลั่วอิงกับเซ่าเชินน่าจะออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว


 


 


ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่าแต่ละครั้งหลังจากเสร็จกิจ ลั่วเซ่าเชินจะดูมีชีวิตชีวา มีเรี่ยวมีแรง ส่วนเธอกลับกลายเป็นคนที่ดูเหมือนถูกสูบวิญญาณไป เธอหาวหวอดๆ และปวดร้าวไปทั้งตัว ถังโจวโจวยิ่งรู้สึกว่าเกิดเป็นผู้หญิงนั้นช่างเสียเปรียบ พวกเธอจะต้องถูกผู้ชายพวกนี้ฉวยโอกาสไปตลอด


 


 


พอคิดไปนานเข้า ถังโจวโจวก็เริ่มต้านทานแรงโจมตีของความง่วงไม่ไหว เธอผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ป้าหลิวเองก็ไม่ได้ขึ้นมารบกวนถังโจวโจวหลังจากที่ได้ยินลั่วเซ่าเชิน ถังโจวโจวจึงนอนหลับยาวจนถึงเที่ยง


 


 


ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเมื่อคืนเขาเอาแต่ใจมากเกินไป แต่เขาก็ไม่ได้เสียใจ เขาควรจะทำให้ถังโจวโจวได้รู้ว่าสามีของเธอนั้นไม่ใช่คนที่จะลองดีกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะ ‘เรื่องนั้น’ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็จะต้องเอาคืนในสักวัน


 


 


เมื่อลั่วเซ่าเชินหยุดรถด้านนอกและเดินเข้าไปในบ้าน เขาก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่นเลย เสียงป้าหลิวทำกับข้าวดังขึ้นมาจากห้องครัว ลั่วเซ่าเชินไม่ได้เรียกป้าหลิว เขาตรงขึ้นไปตามหาถังโจวโจวบนชั้นสอง


 


 


ลั่วเซ่าเชินแง้มเปิดประตูห้องเบาๆ แล้วเขาก็เห็นว่าถังโจวโจวยังคงนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง ผ้านวมห่อหุ้มร่างของเธอไว้ ลั่วเซ่าเชินคิดว่าถังโจวโจวน่าจะหมดแรงเพราะเรื่องเมื่อคืน แต่ว่าเธอนอนมานานเกินไป เธอควรจะตื่นขึ้นมาได้แล้ว อย่างน้อยก็กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยกลับมานอนต่อ


 


 


ลั่วเซ่าเชินเดินไปที่ข้างเตียง ก่อนจะแตะแก้มของถังโจวโจวเบาๆ “โจวโจว ตื่นได้แล้ว แดดส่องก้นคุณแล้วน่ะ”


 


 


ถังโจวโจวรู้สึกเหมือนมียุงมาบินอยู่ข้างหู เธอโบกมือปัดมันก่อนจะพลิกตัวกลับไปนอนต่อ


 


 


โชคดีที่ลั่วเซ่าเชินไหวตัวทัน มิฉะนั้นเขาคงถูกถังโจวโจวตบไปแล้ว ลั่วเซ่าเชินหมายจะดึงผ้าห่มของถังโจวโจวออก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะจับมันไว้แน่น ลั่วเซ่าเชินใช้แรงดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออก


 


 


ถังโจวโจวรู้สึกได้ถึงแรงดึง เธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองอย่างสะลึมสะลือ ก่อนที่เธอจะพบว่าลั่วเซ่าเชินกำลังดึงผ้าห่มของเธอด้วยมือทั้งสองข้าง


 


 


 


 


ตอนที่ 201 ตื่นได้แล้ว


 


 


           “คุณทำอะไรน่ะ” ถังโจวโจวถามเสียงแหบแห้ง อาจเป็นเพราะว่าเธอนอนนานเกินไป เธอจึงลืมตาแทบไม่ขึ้นและมึนศีรษะเล็กน้อย


 


 


ลั่วเซ่าเชินดึงแขนของเธอ “ตื่นได้แล้ว ป่านนี้ท้องคุณหิวจนไส้จะขาดแล้วล่ะ” ลั่วเซ่าเชินมองถังโจวโจวที่ทำตัวราวกับเป็นลูกแมวขี้เซาแล้วก็รู้สึกหนักใจจริงๆ


 


 


“ฉันไม่หิว” ทันทีที่ถังโจวโจวพูดจบ ท้องของเธอก็ร้องขึ้นมา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสี นี่มันหักหน้ากันชัดๆ!


 


 


“ลุกขึ้นมาเถอะ ผมรู้ว่าคุณหิวแล้ว” ลั่วเซ่าเชินหยิบเสื้อผ้าของถังโจวโจวมาให้


 


 


ถังโจวโจวจ้องตาเขม็ง “ก็ถ้าคุณไม่…” เธอพูดประโยคถัดไปไม่ออก หนังหน้าของเธอไม่ได้หนาและด้านเท่ากับลั่วเซ่าเชิน เธอสู้เขาได้ที่ไหน


 


 


“ถ้าคุณไม่ลุก ผมอาจจะต้องจูบคุณอีก” ลั่วเซ่าเชินทำท่าจะก้มศีรษะลงมา ถังโจวโจวจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่ม ปรากฏว่าลั่วเซ่าเชินเพียงแค่หลอกเธอเล่นเท่านั้น เขาพูดออกมาอย่างนึกขำเมื่อเห็นถังโจวโจวซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่ม “คุณคิดหรือว่าจะหลบผมพ้น? เอาเถอะ เลิกเล่นได้แล้ว รีบลุกขึ้นมาเร็ว”


 


 


เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู ถังโจวโจวก็โผล่ศีรษะออกมาจากผ้าห่ม และเมื่อเธอเห็นว่าในห้องเหลือแค่เธอคนเดียว เธอจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งช้าๆ เธอมองดูชุดกระโปรงที่วางราบอยู่บนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย


 


 


ลั่วเซ่าเชินรอมาพักหนึ่งแล้ว แต่ภายในห้องก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ไม่ใช่ว่าถังโจวโจวล้มตัวลงไปนอนต่อหรอกนะ? ก๊อกๆๆ…


 


 


“โจวโจว คุณยังไม่ลุกอีกเหรอ”


 


 


“ลุกแล้วค่ะ!” เมื่อถังโจวโจวถูกลั่วเซ่าเชินเอ่ยเตือน เธอก็กลัวว่าเขาจะวกกลับเข้ามาอีก เธอจึงรีบลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้า เธอจำได้รางๆ ว่าเมื่อคืนลั่วเซ่าเชินอาบน้ำให้เธอแล้ว เพราะเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอนั้นสดชื่น


 


 


เมื่อนึกถึงจูบอันร้อนแรงของลั่วเซ่าเชินที่พรมลงบนร่างของเธอเมื่อคืนนี้ ถังโจวโจวก็มองดูร่องรอยเหล่านั้นสะท้อนอยู่ในกระจกด้วยความเขินอาย


 


 


ถังโจวโจววักน้ำล้างหน้าจนกระทั่งรู้สึกว่าอุณหภูมิบนใบหน้าของเธอลดต่ำลงแล้ว เธอจึงพรูลมหายใจออกมายาวเหยียด หากลั่วเซ่าเชินได้เห็นท่าทางราวกับสาวแรกแย้มของเธอเข้า เธออาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้


 


 


หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็พบว่าร่องรอยสีกุหลาบที่อยู่บนคอของเธอนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถังโจวโจวจึงรีบเปลี่ยนไปสวมเสื้อไหมพรมคอเต่าสีขาวแทน จากนั้นก็สวมเสื้อโค้ทสีเขียวอ่อนทับอีกตัวหนึ่ง ถังโจวโจวเปิดประตูออกมาและพบว่าลั่วเซ่าเชินยังคงรอเธออยู่หน้าประตู


 


 


“ทำไมถึงยังไม่ลงไปอีกล่ะคะ” ถังโจวโจวถามด้วยความประหลาดใจ


 


 


ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าถังโจวโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ในขณะที่เขามองดูเสื้อไหมพรมคอเต่าตัวนั้น ลั่วเซ่าเชินก็ยิ้มออกมา ถังโจวโจวสังเกตเห็นรอยยิ้มของเขา ก่อนที่เธอจะเคลื่อนสายตามองตามไป และเมื่อเห็นว่าเขากำลังมองเสื้อไหมพรมคอเต่าที่เธอตั้งใจสวมมันออกมา ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำขึ้นทันที


 


 


“คุณยังจะมองอยู่อีก? ฝีมือคุณทั้งนั้นแหละ!” ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอจะต้องทำถึงขนาดนี้เหรอ? โชคดีที่ช่วงนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสวมใส่เสื้อตัวนี้ มิฉะนั้นเธอคงจะได้เล่าให้คนทั้งโลกฟังแล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับลั่วเซ่าเชิน!


 


 


ลั่วเซ่าเชินคิดว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่ถังโจวโจวกลับเขินอาย และไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้มากนัก “โอเค ผมผิดเองครับคุณผู้หญิง แล้วตอนนี้คุณจะลงไปทานข้าวข้างล่างได้หรือยังครับ?”


 


 


ลั่วเซ่าเชินค้อมตัวลงและยื่นมือไปให้ถังโจวโจว ถังโจวโจวยิ้มพลางวางมือของเธอลงไปบนมือของเขา “ไปกันค่ะ”


 


 


“ครับ คุณผู้หญิง” วันนี้ลั่วเซ่าเชินอารมณ์ดีเป็นพิเศษจึงหยอกเธอเล่นอยู่นาน เขาจับมือถังโจวโจวและพาเธอลงไปชั้นล่าง


 


 


เมื่อป้าหลิวเห็นลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวลงมาแล้ว เธอก็รีบยกชามและตะเกียบมาวางไว้บนโต๊ะ “ทานข้าวค่ะ คุณชาย คุณผู้หญิง”


 


 


“อืม”


 


 


“ฉันขอตัวไปยกกับข้าวออกมาจากครัวนะคะ” เมื่อเห็นว่าลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจวอารมณ์ดี ป้าหลิวก็อมยิ้มและปลีกตัวเข้าไปในห้องครัว


ตอนที่ 202 ถามความเห็นลั่วอิง 


 


 


           “โจวโจว คุณอยากออกไปเที่ยวไหนไหม” จู่ๆ วันนี้ลั่วเซ่าเชินก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เขาตามถังโจวโจวตอนเธอหนีไปฮันนีมูนคนเดียว ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันอีกเลย นึกๆ แล้วก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน 


 


 


“ทำไมจู่ๆ คุณถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะคะ” ถังโจวโจวชอบออกไปเที่ยวอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอเอาแต่อยู่ในเมือง S เธอจึงไม่ค่อยมีโอกาสออกไปไหน เธออยากเรียนรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีโอกาสมากนัก 


 


 


“จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้น่ะ คุณแค่บอกมาก็พอว่าคุณอยากหรือไม่อยาก ผมจะได้ให้ลูซี่จัดการให้” ลั่วเซ่าเชินตัดสินใจว่าเขาจะชดเชยฮันนีมูนที่ล้มเหลวของเขากับถังโจวโจวเมื่อคราวก่อน 


 


 


พอดีกับวันครบรอบหนึ่งปีที่เขาได้รู้จักถังโจวโจวใกล้จะมาถึงแล้ว คราวนี้ก็จะได้ถือเสียว่าจัดเซอร์ไพรส์ให้กับถังโจวโจวไปเลย 


 


 


“โอเคค่ะ แล้วลั่วอิงจะไปกับพวกเราด้วยไหมคะ” ถังโจวโจวพยักหน้า แต่เมื่อนึกถึงลั่วอิง อาการทางใจของเธอเพิ่งจะหายดีได้ไม่นาน มันจะดีหรือหากต้องทิ้งเธอไว้แล้วพ่อแม่ออกไปเที่ยวกัน? 


 


 


“ลั่วอิงเหรอ…ส่งเธอไปอยู่กับคุณแม่ก็แล้วกัน ให้คุณแม่ช่วยดูสักสองสามวัน” ลั่วเซ่าเชินรีบคิดหาทางให้กับลั่วอิง 


 


 


ถังโจวโจวตั้งคำถามขึ้นมาทันที “แบบนั้นไม่ดีหรอกมั้งคะ เราถามความคิดเห็นของลั่วอิงก่อนดีกว่าไหม ถ้าเธออยากไปเที่ยวด้วย ก็เท่ากับว่าเราจะได้ไปด้วยกันทั้งครอบครัว” 


 


 


ถังโจวโจวคิดว่านี่เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย ลั่วอิงกำลังอยู่ในวัยที่รักสนุก เธอชอบเที่ยวเล่นไปตามสถานที่ต่างๆ หากได้พาเธอออกไปข้างนอก เธอก็จะได้เปิดวิสัยทัศน์มากขึ้น 


 


 


“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปคุยกับลูกเอง” ลั่วเซ่าเชินอยากจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับถังโจวโจวสองต่อสอง แล้วเขาจะให้ลั่วอิงมาอยู่ด้วยได้อย่างไร ไม่ว่าลั่วอิงจะยอมหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดคำตอบที่ถังโจวโจวจะได้รับ มันจะต้องเป็นแค่คำตอบนี้คำตอบเดียวเท่านั้น 


 


 


ตกดึก ลั่วเซ่าเชินเข้าไปในห้องของลั่วอิง เขาเห็นเธอนอนคว่ำอยู่บนเตียงและดูเหมือนว่าเธอกำลังพับอะไรบางอย่างอยู่ “ลั่วอิง ลูกทำอะไรอยู่ครับ” 


 


 


“คุณพ่อขา! หนูกำลังพับดาวอยู่ค่ะ” ลั่วอิงยื่นสิ่งของในมือให้ลั่วเซ่าเชินดู แน่นอนว่ามันคือดาวกระดาษดวงหนึ่ง 


 


 


ลั่วเซ่าเชินนั่งลงข้างเตียง ก่อนจะอุ้มลั่วอิงขึ้นมานั่งบนตัก “ลั่วอิง เดี๋ยวคุณพ่อกับแม่โจวโจวจะต้องออกไปข้างนอกสักสองสามวัน ลูกอยากไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าหรือคุณตาคุณยายครับ” 


 


 


“คุณพ่อกับคุณแม่จะไปไหนกันคะ แล้วคุณพ่อพาหนูไปด้วยไม่ได้เหรอ” ลั่วอิงยังคงขยับมือไม่หยุด เหลืออีกแค่ไม่กี่ขั้นตอน ดวงดาวของเธอก็จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว 


 


 


“เอ่อ… คือว่า…” ลั่วเซ่าเชินอึกอักไปชั่วขณะ เขาลังเลอยู่ครู่ใหญ่ 


 


 


ลั่วอิงเห็นว่าลั่วเซ่าเชินทำหน้าลำบากใจ เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณพ่อขา หนูรู้ว่าคุณพ่ออยากอยู่กับแม่โจวโจวสองต่อสอง” 


 


 


“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ลูกไปรู้จักกับคำว่าสองต่อสองมาจากไหน” เมื่อได้ฟังคำพูดที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของลั่วอิง ลั่วเซ่าเชินก็คิดว่าเป็นเพราะเขาให้เธอมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ มากเกินไปใช่หรือไม่ ดังนั้นเธอถึงได้แสดงความคิดเห็นที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัวแบบนี้ ซึ่งกับบางสถานการณ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย 


 


 


“คุณพ่ออย่าดูถูกหนูนะคะ ในโทรทัศน์เขาก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ เวลาที่ผู้ใหญ่อยากจะออกไปข้างนอกโดยที่ปล่อยให้เด็กอยู่บ้านคนเดียว ก็เพราะอยากอยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่ใช่เหรอคะ!” ลั่วอิงโต้ตอบลั่วเซ่าเชินในทันทีเมื่อเห็นว่าเขาแปลกใจมาก 


 


 


เธอแค่รู้สึกว่าบางครั้งคุณพ่อก็ดูถูกเธอมากเกินไป เธอรู้ทุกอย่างนั่นแหละ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเพื่อนๆ ของเธอต่างก็รู้กันว่าบางครั้งคุณพ่อกับคุณแม่ของพวกเขาก็มักจะออกไปข้างนอกด้วยกันตามลำพังหลายๆ วัน แล้วหลังจากกลับมาได้สักพัก พวกเขาก็จะได้น้องชายหรือน้องสาว 


 


 


ลั่วอิงกำลังคิดว่าถ้าเกิดมีน้องชายหรือน้องสาวตัวน้อยๆ วิ่งออกมาจากท้องของแม่โจวโจวสักคน เธอก็คงจะมีความสุขมาก 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 203 สัญญาแลกเปลี่ยน 


 


 


           เธอนึกถึงครั้งก่อนที่เธอกำลังจะมีน้อง แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ น้องถึงจากไปเสียได้ ตอนนั้นแม่โจวโจวเสียใจมาก ลั่วอิงเองก็ไม่กล้าถามอะไรอีก แต่เธอก็ยังคงคิดอยากให้ถังโจวโจวมีน้องให้เธอเพิ่มสักหนึ่งคน 


 


 


“ลูกนี่รู้เยอะจริงๆ เลย” ลั่วเซ่าเชินมองดูเด็กตัวเล็กแค่นี้แต่กลับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ลั่วอิงเป็นลูกของเขา หากเธอเป็นเด็กเรียนรู้ได้เร็วก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี 


 


 


“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าลูกตกลง?” ลั่วเซ่าเชินถามขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อลั่วอิงรู้ใจเขาถึงเพียงนี้ นั่นก็เท่ากับว่าเธอต้องตอบตกลงแน่นอน และในเมื่อจัดการกับเรื่องของลั่วอิงได้แล้ว ทางด้านถังโจวโจวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก 


 


 


“คุณพ่อขา แต่หนูมีเงื่อนไข” ลั่วอิงเหยียดนิ้วออกมาหนึ่งนิ้วเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น ไม่มากไปกว่านี้ 


 


 


“อ้าว ลูกมีเงื่อนไขด้วยเหรอ พูดมาเลยครับ เดี๋ยวพ่อค่อยพิจารณา” ลั่วเซ่าเชินนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กอย่างลั่วอิงจะสามารถต่อรองได้ด้วย 


 


 


“คุณพ่อกับคุณแม่จะมีน้องชายหรือน้องสาวกลับมาด้วยนะคะ” 


 


 


“อันนี้น่าจะยากนะครับ” ลั่วเซ่าเชินตั้งใจว่าจะไปแค่ไม่กี่วันเอง แล้วเขาจะมีน้องชายหรือน้องสาวให้กับลั่วอิงได้อย่างไร เขาทำไม่ได้หรอก 


 


 


นอกจากนี้ ถังโจวโจวเองก็ยังเศร้าจากการแท้งลูกครั้งที่แล้ว ลั่วเซ่าเชินจึงยังไม่ได้คิดจะให้ถังโจวโจวตั้งท้องอีก ตอนนี้มีแค่ลั่วอิงก็ดีอยู่แล้ว เขาพอใจกับลูกสาวคนนี้ของเขามาก 


 


 


“คุณพ่อขา ทำไมล่ะคะ คุณพ่อกับคุณแม่ของคนอื่นเขายังทำกันได้เลย…” ลั่วอิงหลุดปากออกมา แล้วเธอก็รีบปิดปากพลางเหลือบมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง ก่อนจะทำหน้าราวกับเธอไม่รู้ว่าที่เธอพูดไปคือเรื่องอะไร 


 


 


ลั่วเซ่าเชินขมวดคิ้วแน่น “คุณพ่อกับคุณแม่ของคนอื่น? ลูกไปฟังใครมาครับ” 


 


 


ลั่วอิงส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย “ไม่มีค่ะ คุณพ่อฟังผิดไปหรือเปล่าคะ” 


 


 


“จริงหรือครับ แต่หูของคุณพ่อใช้งานดีมากเลยนะครับ” ลั่วเซ่าเชินคิดว่า ดูท่าพูดให้ตายอย่างไร ลั่วอิงก็ไม่มีทางยอมรับ แต่เขาก็ไม่ได้คิดเอาความกับเธอ “โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ” 


 


 


“เราตกลงกันเรื่องอะไรหรือคะคุณพ่อ” ลั่วอิงรู้สึกงง 


 


 


ลั่วเซ่าเชินกุมขมับ นี่เธอลืมสิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดไปหมดแล้วหรือ “เรื่องที่ลูกจะไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าหรือคุณตาคุณยายไงครับ?” 


 


 


“อ๋อ หนูจะไปอยู่กับคุณตาคุณยายค่ะ หนูอยากกินข้าวฝีมือคุณยาย” เมื่อลั่วอิงนึกถึงอาหารอันแสนโอชะที่คุณแม่ถังทำ น้ำลายของเธอสอเต็มที 


 


 


“โอเคครับ ตกลงตามนี้นะ พอลูกอยู่ต่อหน้าแม่โจวโจว ลูกก็แค่บอกเธอว่าลูกไม่อยากไป” ลั่วเซ่าเชินกำชับเธอเพราะกลัวว่าพอถึงเวลานั้นแล้วลั่วอิงจะพูดผิดพูดถูก และอาจทำให้ถังโจวโจวดูออก ภารกิจนี้ก็จะไม่สำเร็จ 


 


 


“ค่ะ คุณพ่อ ทราบแล้วค่ะ!” ลั่วอิงโบกมือด้วยท่าทีสบายๆ ลั่วเซ่าเชินมองดูท่าทางที่ไม่สนใจไยดีของเธอด้วยความกังวล ถึงตอนนั้นเธอจะยังจำได้อยู่ไหมนะ เกิดผิดแผนขึ้นมาที่ตั้งใจไว้คงพังไม่เป็นท่า 


 


 


“ลูกอย่าลืมนะครับ” 


 


 


“ค่ะ รู้แล้วๆ” ลั่วอิงรู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินนั้นจู้จี้จริงๆ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมเธอจะจำไม่ได้ เห็นทีอายุของคุณพ่อคงจะมากขึ้นแล้วจริงๆ 


 


 


หากลั่วเซ่าเชินรู้ว่าลั่วอิงแอบคิดว่า ‘เขาแก่’ อยู่ในใจ คงจะโกรธมากแน่ๆ เขาเพิ่งจะสามสิบเอ็ดเท่านั้นเอง วัยหนุ่มอันสมบูรณ์แบบนี้เพิ่งจะเริ่มต้น จะมาว่าเขาอายุเยอะได้อย่างไร ที่ลั่วอิงยังอยู่รอดปลอดภัยในตอนนี้ เป็นเพราะว่าลั่วเซ่าเชินไม่อาจล่วงรู้ความคิดของเธอเท่านั้น 


 


 


“คุณพ่อขา ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้หนูขอนอนกับแม่โจวโจวไปก่อนได้ไหมคะ” ลั่วอิงฉวยโอกาสถาม 


 


 


ลั่วเซ่าเชินขบคิด เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะขอให้ลั่วอิงช่วย ตอนนี้เธออยากจะนอนกับถังโจวโจว หากปฏิเสธไปก็คงจะไม่ดี ลั่วเซ่าเชินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ได้สิครับ ลูกไปด้วยกันกับพ่อเลยนะ” 


ตอนที่ 204 เจรจาเรียบร้อยแล้ว 


 


 


           ลั่วเซ่าเชินพาลั่วอิงกลับไปที่ห้องนอนใหญ่ เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าลั่วอิงมาด้วย เธอจึงเอ่ยเรียก “ลั่วอิง มาหาแม่โจวโจวเร็วค่ะ” 


 


 


           “แม่โจวโจวขา คุณพ่อบอกให้หนูนอนกับคุณแม่ได้” หลังจากได้ยินเช่นนั้น ถังโจวโจวก็หันมองลั่วเซ่าเชินด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้เป็นคนที่ใจกว้างขนาดนี้นี่ เมื่อวานเขายังคิดว่าลั่วอิงมาขวางทางเขาอยู่เลยไม่ใช่หรือ อยู่ๆ ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนไปแล้วล่ะ 


 


 


“จริงหรือคะ! แม่โจวโจวเองก็ดีใจที่หนูมานอนด้วยนะ แล้วนี่ป้าหลิวอาบน้ำให้หนูหรือยังคะ” ถังโจวโจวถามเนื่องจากเห็นว่าลั่วอิงยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า 


 


 


“ยังเลยค่ะ แม่โจวโจว หนูรอให้คุณแม่อาบให้!” ลั่วอิงเอนซบอยู่ในอ้อมแขนของถังโจวโจว ถังโจวโจวก็ลูบศีรษะของเธอ 


 


 


“โอเคค่ะ เดี๋ยวแม่โจวโจวไปหยิบชุดมาให้นะคะ จะได้มาอาบน้ำให้หนู” 


 


 


เมื่อหยิบเสื้อผ้ามาแล้ว เธอก็พาลั่วอิงเข้าไปในห้องน้ำ อ่างอาบน้ำเติมน้ำเต็มแล้ว ถังโจวโจวทดสอบอุณหภูมิแล้วก็พูดขึ้นว่า “รีบเข้าไปสิคะ ไม่ร้อนมากแล้ว” ลั่วอิงปลดกระดุมเสื้อ แต่เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าเธอค่อนข้างช้าจึงเข้าไปช่วย 


 


 


เพียงไม่นาน กระดุมบนเสื้อก็ถูกปลดออกจนหมด ถังโจวโจวปล่อยให้ลั่วอิงก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำซึ่งด้านบนของผิวน้ำมีฟองสบู่สีใสลอยอยู่ ลั่วอิงทิ้งตัวลงไปในอ่างอาบน้ำและถูกรายล้อมไปด้วยฟองสบู่ เธอใช้มือตักฟองสบู่ขึ้นมาก้อนหนึ่ง ก่อนจะเป่ามันไปยังทิศทางที่ถังโจวโจวอยู่ 


 


 


ถังโจวโจวโยกศีรษะหลบ “ลั่วอิง อย่าเล่นเลอะเทอะสิคะ!” ถังโจวโจวกำลังจะชโลมครีมอาบน้ำลงบนร่างกายของเธอ แต่เมื่อเห็นเธอเป่าฟองสบู่ใส่ ถังโจวโจวจึงรีบถูเข้าที่รักแร้ของเธอทันที 


 


 


“แม่โจวโจวขา ปล่อยหนูก่อนค่ะ มันจักจี้! ฮ่าๆ…” 


 


 


“ยังจะแกล้งแม่อยู่อีกไหมคะ” ถังโจวโจวหยุดมือและเอ่ยถาม 


 


 


“ไม่แล้วค่ะ ไม่แกล้งแล้ว” ภายในห้องน้ำเงียบเสียงลงไปชั่วขณะ ถังโจวโจวช่วยอาบน้ำให้ลั่วอิงอย่างขยันขันแข็ง ลั่วอิงเองก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี จะให้เธอยืน เธอก็ยืน จะให้เธอนั่งลง เธอก็นั่ง 


 


 


“แม่โจวโจวขา คุณแม่จะออกไปเที่ยวกับคุณพ่อใช่ไหมคะ” ถังโจวโจวกำลังใช้ฝักบัวล้างตัวให้ลั่วอิง เธอแช่ตัวพอประมาณแล้ว หากแช่ต่อไปน้ำเย็นลงจะหนาวเอาได้ 


 


 


“คุณพ่อบอกหนูแล้วหรือคะ” เซ่าเชินนี่ว่องไวจริงๆ ยังไม่ทันได้กำหนดวัน เขาก็บอกลั่วอิงแล้ว 


 


 


“ค่ะ คุณแม่กับคุณพ่อจะไปที่ไหนกันคะ” เมื่อเห็นแววตาคาดหวังของลั่วอิง ถังโจวโจวก็นึกว่าเธออยากจะไปด้วย 


 


 


“ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยค่ะ ลั่วอิงอยากไปที่ไหนคะ” 


 


 


“ทำไมคุณแม่ถึงถามหนูล่ะคะ” ลั่วอิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินถังโจวโจวย้อนมาถามเธอ เธอยังไม่ได้บอกเลยนะว่าเธออยากไป หรือว่าแม่โจวโจวสงสัยอะไร? แย่แล้ว! ภารกิจที่คุณพ่อให้เธอทำ แผนคงจะไม่พังเสียตอนนี้หรอกใช่ไหม? 


 


 


“หนูเองก็อยากไปไม่ใช่เหรอ หนูอยากไปที่ไหนคะ เดี๋ยวแม่โจวโจวลองเสนอคุณพ่อให้ ให้คุณพ่อพิจารณาดูอีกที” ถังโจวโจวคิดว่าถ้าไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวมันก็ดีเหมือนกัน ระหว่างทางเราจะได้เห็นพัฒนาการของลั่วอิงด้วย 


 


 


“หนูไม่ไปค่ะ แม่โจวโจว นี่เป็นทริปของคุณแม่กับคุณพ่อ หนูไม่ไปเกะกะหรอกค่ะ” ท่าทางมุ่งมั่นแต่น้ำเสียงทะเล้นของลั่วอิงทำให้ถังโจวโจวหมั่นเขี้ยวเสียจนอยากจะหยิก เธออยากจะรู้ว่าทำไมดวงหน้าเล็กๆ ของลั่วอิงถึงแสดงอารมณ์ออกมาได้มากมายขนาดนี้ 


 


 


“ทำไมหนูถึงไม่ไปล่ะคะ คุณพ่อพูดอะไรกับหนูหรือเปล่า” ถังโจวโจวคิดว่าลั่วเซ่าเชินน่าจะไปพูดอะไรบางอย่างกับลั่วอิง เธอถึงได้พูดออกมาแบบนี้ มิฉะนั้นเด็กตัวแค่นี้มีหรือจะไม่อยากไปเที่ยวกับพ่อแม่? นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลเลย ผิดปกติมาก 


 


 


เมื่อลั่วอิงเห็นว่าถังโจวโจวพุ่งประเด็นไปที่ลั่วเซ่าเชิน เธอก็รีบอธิบายให้ฟังทันที “หนูไม่อยากไปจริงๆ ค่ะ แม่โจวโจว หนูอยากให้คุณแม่กับคุณพ่อมีน้องชายให้หนู เพราะฉะนั้นหนูจะไม่ไปรบกวนคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ” 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 205 อยากมีน้องชายน้องสาว 


 


 


           “ที่แท้หนูก็ยังคงคิดถึงน้องชายตัวน้อยของหนูอยู่นี่เอง” ดูเหมือนว่ามันจะผ่านมานานแล้วตั้งแต่ที่ลูกของเธอจากไป ถังโจวโจวเพิ่งจะเข้าใจว่าเวลานั้นสามารถช่วยเยียวยาความเจ็บปวดได้จริงๆ แม้ในตอนนั้นเธอเสียใจมากจนอยากจะลาโลกนี้ไปพร้อมๆ กับลูกของเธอ แต่ตอนนี้เธอก็คิดได้แล้วว่านั่นเป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งในชีวิตของเธอเท่านั้น 


 


 


           เด็กน้อยคนนั้นคงจะไม่มีวาสนาต่อเธอและลั่วเซ่าเชิน อีกอย่างเรื่องนี้เธอก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ใช่ว่าถังโจวโจวไม่อยากจะมีลูกอีกคน แต่ลั่วเซ่าเชินกลับไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ถังโจวโจวเคยคิดจะเปิดปากพูดเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ด้วยเหตุผลมากมายที่ทำให้เธอตัดสินใจไม่ได้พูดมันออกมา 


 


 


“แม่โจวโจวขา หนูรู้ว่าคุณแม่ยังคิดถึงน้องชายอยู่ หนูเองก็คิดถึงเขาเหมือนกันค่ะ หนูก็เลยคิดว่าถ้าคุณแม่มีน้องอีกสักคน ก็อาจจะเป็นน้องชายคนเดิมกลับมาก็ได้นะคะ” 


 


 


ลั่วอิงขาดเพื่อนเล่น เพื่อนๆ คนอื่นก็เป็นแค่เพื่อน เธออยากมีน้องชายหรือน้องสาวใกล้ชิดสักคน เวลาที่เธออยู่บ้าน เธอจะได้ไม่เหงา แล้วหากต่อๆ ไปถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินจะออกไปข้างนอกกันตามลำพังอีก เธอก็จะได้อยู่กับน้องของเธอ แค่นี้เธอก็จะไม่คิดถึงคุณพ่อคุณแม่แล้ว 


 


 


“หนูได้พูดเรื่องนี้กับคุณพ่อไหมคะ” 


 


 


“พูดค่ะ แต่คุณพ่อบอกว่าเรื่องนี้น่าจะยาก แม่โจวโจวขา คุณพ่อหลอกหนูใช่ไหมคะ บ้านของเพื่อนๆ หนูไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย” ลั่วอิงคิดว่าลั่วเซ่าเชินหลอกเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องการคำยืนยันจากถังโจวโจวอีกคนหนึ่ง 


 


 


“ทำไมหนูถึงคิดว่าคุณพ่อโกหกหนูล่ะคะ” ถังโจวโจวประหลาดใจเป็นอย่างมาก จริงๆ ลั่วเซ่าเชินก็พูดถูกแล้ว เด็กจะมาเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร พวกเขาไปเพียงไม่กี่วัน ไม่ได้ไปเป็นปีสองปี แล้วจะเป็นไปได้หรือที่พวกเขาจะมีน้องชายหรือน้องสาวให้ลั่วอิงทันทีหลังจากพวกเขากลับมา 


 


 


ถังโจวโจวจินตนาการได้เลยว่า ลั่วเซ่าเชินจะต้องปวดหัวมากแน่ๆ หากเขาได้ยินความคิดที่ไร้เดียงสานี้ของลั่วอิง จู่ๆ เธอก็อยากมีน้องชายน้องสาว มันจะง่ายดายอย่างนั้นที่ไหนล่ะ 


 


 


“เพราะแค่เดี๋ยวเดียวเพื่อนๆ ของหนูก็มีน้องชายน้องสาวกันแล้ว หนูเองก็อยากมีเหมือนกันค่ะ” ลั่วอิงเอ่ยด้วยความเศร้าใจ เธอรอมานานแล้ว แต่น้องชายกับน้องสาวของเธอก็ยังไม่มาสักที 


 


 


“ที่แท้หนูก็อยากมีน้องชายหรือน้องสาวเพราะเพื่อนๆ ของหนูมีแล้วนี่เอง น้องๆ ไม่ใช่ของเล่นนะคะ พวกเขายังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วถ้าวันไหนน้องร้องไห้เสียงดัง หนูก็จะไม่ชอบน้องแล้วหรือเปล่าคะ” 


 


 


ถังโจวโจวได้ยินลั่วอิงที่พูดราวกับว่าน้องๆ เป็นของเล่น นึกจะได้ก็ต้องได้เลย แล้วหากวันหนึ่งเธอนึกไม่ชอบเขาขึ้นมา เธอรู้สึกรำคาญ ถ้าเธอนึกอยากจะทิ้ง เธอก็จะทิ้งไปเลยหรือ? เมื่อถังโจวโจคิดว่าเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ เธอก็รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา 


 


 


“ไม่ค่ะ ไม่ แม่โจวโจว หนูจะรักน้อง หนูจะเป็นพี่ใหญ่ที่ดี หนูจะแบ่งของกินและของเล่นให้น้องด้วย คุณแม่ว่าดีไหมคะ” 


 


 


ลั่วอิงคิดว่าหากเธอมีน้องชายหรือน้องสาว เธอจะแบ่งทั้งขนมแสนอร่อยและของเล่นแสนสนุกของเธอให้กับเขาทั้งหมด เธอจะทำหน้าที่พี่สาวที่แสนดีอย่างเต็มความสามารถ 


 


 


“อย่างนั้นหรือคะ หนูยอมได้หรือ ในเมื่อของเล่นพวกนั้นเป็นของหนูคนเดียวมาก่อน แต่กลับมีคนมาเล่นของเล่นพวกนั้นของหนู หนูก็ไม่ยอมหรอกใช่ไหมคะ?” ถังโจวโจวอดหลอกถามไม่ได้ เมื่อเห็นว่าลั่วอิงจริงจังกับเรื่องนี้มาก 


 


 


ลั่วอิงหน้างอเล็กน้อย ด้วยคิดว่าถังโจวโจวกำลังสบประมาทเธออยู่ “แม่โจวโจวขา หนูบอกแล้วไงว่าหนูจะเป็นพี่สาวที่ดี แล้วหนูจะไม่ยอมได้ยังไงคะ ถึงตอนนั้นน้องชายน้องสาวก็เป็นของหนูคนเดียว หนูจะได้มีคนเรียกหนูว่าพี่สาวแล้วด้วย” 


 


 


“เดี๋ยว แม่โจวโจวขอแก้คำสักหน่อยนะคะ น้องจะเป็นของหนูคนเดียวได้ยังไง น้องยังไม่เกิดเลยค่ะ” ถังโจวโจวรีบแก้ไขคำพูดของลั่วอิงในทันที เจ้าเด็กคนนี้คิดจะเอาน้องไปเป็นของตัวเองเสียแล้วหรือนี่ น้องชายน้องสาวของเธอในอนาคตกลายเป็นของส่วนตัวของเธอไปแล้วได้อย่างไร? 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม