หวานรักจับหัวใจท่านประธาน 193-198

 ตอนที่ 193 คุณกำลังพูดมั่วอะไร 


 


 


บริษัทตระกูลอวี๋ 


 


 


ห้องทำงานประธานบริษัท 


 


 


อวี๋เยว่หานนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ในมือถือปากกาเอาไว้ กำลังเซ็นชื่อบนเอกสารอย่างว่องไว 


 


 


หลังจากจัดการเอกสารตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย เงาร่างสูงโปร่งก็พิงพนักพิงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปนวดหว่างคิ้วด้วยความเมื่อยล้าอยู่บ้าง 


 


 


“คุณชาย คุณทำโอทีมาหลายวันแล้วนะครับ อยากจะไปพักสักหน่อยไหม” ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ อดจะเตือนขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก 


 


 


ครั้นได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานก็วูบไหวขึ้นมา 


 


 


เขาเพิ่งจะเตรียมพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาสาวรีบร้อนเข้ามาจากข้างนอก “คุณชาย เพิ่งได้รับข่าวมาจากสถานที่จัดงานค่ะ งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ากำลังจะเริ่มขึ้น แต่ซ่างซินยังมาไม่ถึง ผู้จัดการของเธอบอกว่าเธอหายตัวไปค่ะ!” 


 


 


“คุณว่ายังไงนะ?” อวี๋เยว่หานหรี่ตาสีดำขลับลง นัยน์ตาฉายแววคุกคามออกมา 


 


 


ซ่างซินเป็นตัวละครสำคัญของงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า 


 


 


ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่างานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะมีอะไรพิเศษ ถึงทำให้ซ่างซินที่ไม่เคยรับงานพรีเซ็นเตอร์ตกลงรับงานนี้ได้ 


 


 


ความเร่าร้อนของเสียงวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ายังไม่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ ก็สร้างความสนใจให้หลายฝ่ายได้แล้ว คาดว่าปริมาณขายคงจะสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องแน่… 


 


 


หากวันนี้ซ่างซินไม่มาเข้าร่วมงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เกรงว่าทุกคนคงจะคิดว่าซ่างซินไม่ได้รับงานพรีเซ็นเตอร์ แต่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ากุเรื่องขึ้นมา 


 


 


มีสื่อมากมายอยู่ที่งาน กลัวแต่ว่างานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ จะกลายเป็นสถานที่วุ่นวายเหมือนเกิดเหตุรถชนเสียมากกว่า! 


 


 


“เหวินหย่าไต้ล่ะ?” อวี๋เยว่หานเสียงทุ้มต่ำลง 


 


 


ช่วงก่อนบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าประกาศแล้วว่าจะมอบหมายงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ให้กับบริษัทตระกูลอวี๋ และผู้ดูแลภาพรวมโครงการก็คือเหวินหย่าไต้ 


 


 


“ผู้จัดการเหวินไปคุยงานที่ต่างประเทศค่ะ ขึ้นเครื่องบินไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าในวันนี้ ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนเป็นคนรับผิดชอบค่ะ” เลขารายงานอย่างนอบน้อม 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่… 


 


 


อวี๋เยว่หานได้ยินชื่อนี้แล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา 


 


 


ในหัวของเขาปรากฏภาพเธอนั่งแขวะเขาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างไม่เกรงใจขึ้นมา 


 


 


ขาดก็แต่เพิ่มบทพูดของเขาขึ้นมาสักช่วง 


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนไปถึงที่งานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังติดต่อซ่างซินอย่างเต็มที่ แต่ถ้าซ่างซินไม่มาปรากฏตัว งานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้…” เลขาพูดต่อไปไม่ได้แล้ว 


 


 


แผนงานประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ แต่แฟนคลับของซ่างซินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ไหนจะข่าวของสื่ออีก… 


 


 


สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่พวกเขาควบคุมไม่ได้เลย 


 


 


“ผมรู้แล้ว คุณไปบอกเหนียนเสี่ยวมู่ ให้เธออยู่ที่งาน รอข่าวจากผม” อวี๋เยว่หานหลุบตาลง ก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น 


 


 


เมื่อพูดจบ เขาก็ต่อสายหาถังหยวนซือทันที 


 


 


“คุณพาซ่างซินไปเหรอ” 


 


 


คนทางปลายสายอึ้งงันไปเล็กน้อย แล้วถึงจะย้อนถามขึ้นมา “คุณกำลังพูดมั่วอะไร” 


 


 


ยิ่งได้ยินแบบนี้ อวี๋เยว่หานก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ 


 


 


เขามีสีหน้าคร่ำเคร่งขึ้น “งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าในวันนี้ ซ่างซินรับปากว่าจะไปถึงที่งานตอนนี้ แต่เธอหายตัวไป แม้แต่ผู้จัดการของเธอก็ไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน” 


 


 


“…” 


 


 


“ถ้าคุณไม่ได้พาเธอไป ผมสงสัยว่าเธออาจจะเกิดอุบัติเหตุอะไร” 


 


 


“…” 


 


 


อวี๋เยว่หานพูดจบแล้ว ทางปลายสายเงียบอยู่เนิ่นนาน 


 


 


นานจนเหมือนจะวางสายไปแล้ว 


 


 


จากนั้นก็วางสายไป โดยไม่หือไม่อืออะไรจริงๆ “คุณไปตรวจสอบว่าซ่างซินอยู่ที่ไหน จะต้องรู้ให้ได้ก่อนงานจะเริ่ม ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!” 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 194 ความสุขเล็กๆ น้อยใจเล็กๆ 


 


 


เมื่อผู้ช่วยออกไป อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือไปหยิบเสื้อนอกขึ้นมา แล้วสาวเท้าออกจากห้องทำงานไป 


 


 


หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดการ 


 


 


ตอนที่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋ ก็สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในวงการได้แล้ว 


 


 


ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทตระกูลอวี๋ในปีนี้ 


 


 


วันนี้เป็นงานประชาสัมพันธ์แรกหลังจากเริ่มโครงการ แต่ก็เกิดประแสฮือฮาขึ้นหนึ่งชั่วโมงก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นเสียแล้ว 


 


 


แขกผู้มีเกียรติในงานที่นั่งอยู่แถวหน้า ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตในวงการธุรกิจ 


 


 


ถัดจากนั้นก็เป็นสื่อจากทุกสำนัก 


 


 


ส่วนรอบนอกสุดเป็นผู้ชมทั่วไปและแฟนคลับของซ่างซิน 


 


 


แฟนคลับของซ่างซินมีอิทธิพลมาก เป็นที่ขึ้นชื่อลือชามาโดยตลอด 


 


 


ตอนนี้งานยังไม่เริ่ม ข้างนอกงานก็มีแฟนคลับรวมตัวกันหนาแน่นแล้ว ต่างก็ยกป้ายสโลแกนและป้ายไฟรอต้อนรับเธออย่างมีความหวัง 


 


 


ดูจากภายนอกงาน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนไม่รู้ตัวเลยว่าคนสำคัญของวันนี้หายตัวไปแล้ว 


 


 


อวี๋เยว่หานวนดูรอบงานแล้วหนึ่งรอบ แล้วถึงจอดรถไว้ตรงลานจอดรถตรงทางเข้าด้านหลังเวที 


 


 


หลังจากรถจอดนิ่งสนิทแล้ว เขาก็เดินไปด้านหลังเวทีของงาน 


 


 


เรื่องที่ซ่างซินหายตัวไปแพร่สะพัดอยู่ในหมู่คนทำงานแล้ว 


 


 


บรรยากาศด้านหลังเวทีจึงตึงเครียดและกดดันมากอย่างเห็นได้ชัด 


 


 


เดิมทีอวี๋เยว่หานคิดว่าจะเห็นภาพความวุ่นวาย แต่น่าแปลก แม้ทุกคนจะเป็นกังวล แต่กลับไม่ได้ลุกลี้ลุกลนอะไร 


 


 


ต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเองต่ออย่างเป็นแบบแผน… 


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมีสติดีมาก ทันทีที่เกิดปัญหา ก็ออกมารับงานด้านหลังเวทีทั้งหมด พนักงานทุกคนได้รับการปลอบโยนจากเธอ ถึงได้ทำงานอย่างเป็นระเบียบแบบนี้” ผู้รับผิดชอบงานอธิบายเสียงเบาอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน 


 


 


เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานก็วูบไหวขึ้นมา 


 


 


ดวงตาสีดำขลับกวาดมองในห้องพักผ่อนอยู่รอบหนึ่ง สุดท้ายก็มองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงจุดที่ใกล้เวทีที่สุด 


 


 


เธอใส่ชุดทำงาน รวบผมยาวเป็นหางม้า 


 


 


เรียบง่ายดูดี มีความมั่นใจและดูทำงานเก่งอยู่ในตัว 


 


 


เธอถือวิทยุสื่อสารอยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังสั่งอะไรอยู่ 


 


 


ไม่ได้กระวนกระวาย หรือกลัวจนร้องไห้น้ำตานองหน้าอย่างที่เขาคิด 


 


 


อยู่ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ก็หันมามองข้างหลัง เหมือนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง 


 


 


เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าหลังเวที หญิงสาวก็อึ้งงันไปเล็กน้อย 


 


 


เธอจับจ้องมาที่ชายหนุ่มผู้เหมือนเทวดาตรงประตูทางเข้า ลืมไปแล้วว่าต้องพูดอะไร 


 


 


นอกจากความสูงส่งจากตัวเขาแล้ว ยังมีความสันโดษที่ห้ามคนคนไม่คุ้นเคยเข้าใกล้แผ่ออกมาด้วย 


 


 


ครั้นเธอนึกได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ก็ส่งเสียง ‘โฮ่งๆ’ ขึ้นมาในใจทันที 


 


 


แต่เธอไม่ใช่ลูกสุนัขนะ! 


 


 


จากนั้นเธอก็ข่มความกระวนกระวายภายใจในอย่างหนัก แล้วเดินไปอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้อวี๋เยว่หานฟัง 


 


 


“งานในวันนี้ ฉันเตรียมแผนเร่งด่วนเอาไว้แล้ว ถึงแม้ซ่างซินไม่มา ก็ยังพอจะรับมือได้อยู่ แต่ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของซ่างซิน เธอรอคอยงานในวันนี้อย่างมาก เมื่อวันยังบอกกับฉันอยู่เลยว่าจะมาก่อนเวลา เธอไม่น่าจะพลาดงานนี้ไปได้ คุณชาย…” 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ยังพูดไม่ทันจบ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็พลันกดลงมาบนหัวเธอ 


 


 


ฝ่ามือของเขาหนักมาก แต่กลับอบอุ่น และแผ่ความรู้สึกที่เชื่อถือได้ออกมาด้วย 


ตอนที่ 195 แผนที่ดีที่สุด


 


 


เธอลืมว่าตัวเองจะพูดอะไรไปในทันที ได้แต่มองเขาอย่างงุนงง


 


 


นัยน์ตาสีดำล้ำลึกเผยพลังที่ทำให้คนรู้สึกมั่นคง


 


 


นี่คือ…ลูบหัวด้วยความเอ็นดูเหรอ


 


 


เขากำลังปลอบใจเธอเหรอ


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันดึงสติกลับมา มือข้างที่หยุดอยู่บนหัวเธอก็ออกแรงเล็กน้อย แล้วดันหัวของเธอไปข้างๆ จากนั้นก็เลิกคิ้วมองผู้ช่วยที่เดินเข้ามาจากข้างหลัง


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ “…”


 


 


เมื่อกี้เขาแค่รำคาญที่เธอขวางทางอย่างนั้นสินะ


 


 


ซาบซึ้งอะไรกัน เธอตาบอดแล้วแท้ๆ!


 


 


“คุณชาย ผมตรวจสอบมาแล้วครับ เห็นเธออยู่ในโทรทัศน์ระบบปิดของคอนโดมิเนียมที่อาศัยอยู่ เธอออกจากที่นั่นตามแผนงานที่วางเอาไว้ตั้งแต่เช้า แต่หลังจากออกจากคอนโด เธอก็ถูกรถตู้คันหนึ่งพาขึ้นรถไป ยืนยันแล้วว่าเธอถูกพาตัวไปครับ!”


 


 


ผู้ช่วยรีบเดินมาข้างหน้า แล้วรายงานอย่างเร่งร้อน


 


 


เขาหอบหายใจแรงมาก น่าจะวิ่งมาตลอดทางโดยไม่ได้หยุด


 


 


“ประธานถังเจอที่อยู่ของรถตู้คันนั้นแล้วครับ ตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างทางไปหาซ่างซิน แต่ให้ผมวกกลับมาหาคุณชาย ซ่างซินให้ความสำคัญกับงานพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้มาก หวังว่าคุณจะถ่วงเวลาไว้ได้ และรอเขาหาซ่างซินพบครับ!”


 


 


ในเมืองเอชนี้ อิทธิพลของตระกูลถังเป็นรองก็เพียงแต่ตระกูลอวี๋เท่านั้น


 


 


มีถังหยวนซืออยู่แล้ว พวกเขาไปเพิ่มอีกก็ไม่มีประโยชน์อะไร


 


 


ตอนนี้แน่ใจได้แล้วว่าซ่างซินถูกคนลักพาตัวไป


 


 


เมื่องานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่มีปัญหา ไม่เพียงจำนวนขายผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะได้รับผลกระทบ ชื่อเสียงของซ่างซินก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน


 


 


ถังหยวนซือไม่สนใจงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่สนใจชื่อเสียงของซ่างซิน


 


 


ตรงนี้มีแฟนคลับรออยู่มากมาย ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว ผลลัพธ์ก็ยากจะจินตนาการได้แล้ว!


 


 


ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไร พุ่งเป้ามาที่ตัวซ่างซิน หรืองานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ แต่การทำให้สถานการณ์ตอนนี้สงบเรียบร้อย รอให้ซ่างซินปรากฎตัวเป็นแผนที่ดีที่สุด!


 


 


อวี๋เยว่หานเข้าใจความคิดของถังหยวนซือได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาสีดำของเขาหยั่งลึกลง ก่อนจะหันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่


 


 


“วันนี้คุณเป็นคนรับผิดชอบงานโดยรวม มีวิธีถ่วงเวลาบ้างไหม”


 


 


“…”


 


 


สมองของเหนียนเสี่ยวมู่เอาแต่แข็งทื่อตั้งแต่ผู้ช่วยปรากฏตัว


 


 


ในหัวเธอตอนนี้มีแต่คำถามที่กำลังวนเวียนอยู่


 


 


โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าถังหยวนซือไปตามหาซ่างซินด้วยตัวเอง เธอก็ยิ่งเบิกตาโพลงอีก


 


 


แต่สุดท้ายก็ดึงสติกลับมาได้ และสบตาที่ไม่เป็นสุขของอวี๋เยว่หาน ก่อนจะรีบตอบว่า “เอาช่วงที่ไม่ค่อยสำคัญของงานมาไว้ข้างหน้าก่อนได้ ฉันจำได้ว่ามีรายการจับรางวัล น่าจะถ่วงเวลาได้ครึ่งชั่วโมง”


 


 


“เพิ่มของรางวัลในรายการ พยายามถ่วงเวลาจากพวกเขาให้ได้หนึ่งชั่วโมง” อวี๋เยว่หานเงียบไปสองสามวินาที แล้วกำชับเสียงเรียบเย็น


 


 


“ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”


 


 


เมื่อได้รู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่จะช่วยซ่างซินได้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็หมุนตัวเดินไปหากลุ่มคนทำงานข้างๆ โดยไม่ลังเล


 


 


ปรับแก้แผนงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ชั่วคราว


 


 


เมื่อถึงเวลา ก็ให้พิธีกรเริ่มงานไปตามปกติ


 


 


 


 


อีกด้านหนึ่งของเมือง


 


 


รถตู้คันสีดำจอดลงหน้าผับที่ไม่เปิดร้านในตอนกลางวันแห่งหนึ่ง


 


 


เมื่อประตูรถเปิดออก ผู้ชายสวมเสื้อยืดสีดำมีรอยสักเต็มแขนหลายคน ก็แบกหญิงสาวที่กำลังสลบไสลคนหนึ่งเดินเข้าไปทางประตูหลังของผับอย่างมีลับลมคมใน


 


 


แต่เพิ่งเข้าไปในผับ บนบาร์ที่เดิมทีมืดมนก็มีไฟสว่างขึ้นมา


 


 


หลายคนไม่หยุดฝีเท้า แบกคนเดินตรงไปยังห้องส่วนตัวข้างในสุด


 


 


เมื่อประตูห้องส่วนตัวเปิดออก ก็เห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา


 


 


ใบหน้าขาวเกินกว่าปกติ ราวกับเป็นคลุกคลีอยู่ในสถานบันเทิงเป็นเวลานาน


 


 


ขอบตาดำใต้ตาออกไปทางเหลือง และดวงคู่นั้นแสดงความเถื่อนถ่อยออกมาด้วย


 


 


 


 


ตอนที่ 196 ผมก็จะเป็นของคุณเหมือนกัน


 


 


“คุณชายหลิน พาตัวมาแล้วครับ!” ผู้ชายมีรอยสักหลายคนแบกหญิงสาวเดินมาข้างหน้าหลินเชา ก่อนจะเอ่ยปากราวกับขอความดีความชอบ


 


 


เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเชาก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที


 


 


เขาเดินมาข้างหน้าโดยไม่สนใจสิ่งอื่น ก่อนจะปัดผมของหญิงสาวออก เมื่อแน่ใจว่าเป็นคนที่ตัวเองเฝ้าฝันหา เขาก็เบิกตาโพลงขึ้นมา


 


 


“ซ่างซินเอ๋ยซ่างซิน ถึงแม้คุณจะหยิ่งกว่านี้แล้วยังไง สุดท้ายก็ตกอยู่ในกำมือของผม!” หลินเชาหรี่ตาด้วยความดีใจ


 


 


เขาอยากพูดมานานแล้ว ว่าซ่างซินทำได้แค่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เขา


 


 


เขาไม่ได้ตัวเธอ ก็ไม่มีใครได้ไปทั้งนั้น!


 


 


และจะไม่มีใครเห็นเขาเป็นเรื่องตลก!


 


 


หลินเชามองสาวสวยตรงหน้า รู้สึกใจอ่อนเสียแล้ว


 


 


ก่อนหน้านี้ได้แต่มองไกลๆ แต่เพียงเท่านั้นก็รู้สึกว่าซ่างซินสวยมากแล้ว บวกกับความเย่อหยิ่งที่ทำให้ใครๆ ไม่ชอบใจ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มควบคุมความต้องการได้ยากมาก


 


 


ตอนนี้ได้มองใกล้ๆ ถึงจะพบว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียว ยังบริสุทธิ์มากด้วย


 


 


กลิ่นกายสะอาดสะอ้าน ราวกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มหลังฝนตก


 


 


ทำให้เขาข่มใจอยากจะปกป้องเธอแทบไม่ไหว…


 


 


เขารักเธอเหลือเกิน…


 


 


“พวกแกทำอะไรกับเธอ” หลินเชาพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะควบคุมความคิดของตัวเองได้ และเงยหน้าขึ้นมาถาม


 


 


หลายคนรีบอธิบาย “เธอดิ้นแรงมากเลยครับ พวกเรากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ก็เลยทำให้เธอสลบไป แต่คุณชายหลินวางใจเถอะครับ อีกเดี๋ยวก็ตื่นแล้ว!”


 


 


ระหว่างพูด ชายพร้อมรอยสักคนหนึ่งก็ก้าวมาข้างหน้า แล้วก็วางของบางอย่างลงตรงใต้จมูกของซ่างซิน ทันใดนั้นหญิงสาวก็ขมวดคิ้ว และส่งเสียงถอนใจออกมาแผ่วเบา


 


 


จากนั้นเธอก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา


 


 


เมื่อมองเห็นตำแหน่งของตัวเอง ทั้งยังมีคนอยู่ตรงหน้า สมองของเธอก็ทึ่มทือไปเล็กน้อย


 


 


วินาทีต่อมา นางแบบสาวก็จำภาพก่อนหน้าที่ตัวเองจะสลบไปได้ จึงยันร่างกายลุกขึ้นนั่งจากโซฟา


 


 


พร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างระแวดระวัง


 


 


“พวกคุณเป็นใคร”


 


 


ขณะเดียวกับที่เธอพูด มือของเธอก็คลำในกระเป๋าเสื้อ อยากจะหาโทรศัพท์มือถือ แต่กลับพบว่าสิ่งที่ตัวเองค้นหาได้หายไปแล้ว


 


 


มันน่าจะหล่นหายไปตอนที่เธอดิ้นรนอยู่บนรถตู้ก่อนหน้านี้


 


 


ที่นี่ดูเหมือนห้องเก็บเสียง ตะโกนแค่อย่างเดียวคนข้างนอกไม่ได้ยินแน่ๆ


 


 


แถมเธอ…ยังถูกมัดไว้ด้วยเหรอเนี่ย


 


 


ในดวงตาของซ่างซินฉายแววหวาดกลัวออกมา แต่ไม่นานก็ข่มความรู้สึกตัวเองให้ใจเย็นลงได้


 


 


เธอเงยหน้ามองหลายๆ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า


 


 


แต่เธอไม่คุ้นหน้าใครเลยสักคน จำใครไม่ได้โดยสิ้นเชิง


 


 


แต่ชายหนุ่มหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้น เธอเหมือนจะจำได้บ้าง ส่วนเคยเห็นที่ไหน กลับจำไม่ได้เสียอย่างนั้น…


 


 


“ซ่างซิน คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำร้ายคุณหรอก ผมแค่มีธุระอยากคุยกับคุณสักหน่อย ขอแค่คุณให้ความร่วมมือ ผมรับรองว่าคุณจะได้ออกไปจากที่นี่โดยไม่มีรอยขีดข่วน” หลินเชากล่าวพลางพยักเพยิดไปทางคนข้างๆ


 


 


ทันใดนั้นก็มีคนถือกล่องหนึ่งเดินมาข้างหน้า แล้วเปิดกล่องออก


 


 


ในนั้นมีเงินสดอยู่เต็มกล่อง และเหมือนกำลังส่องประกายระยิบระยับด้วย


 


 


ล่อลวงอย่างเต็มที่!


 


 


เมื่อเห็นซ่างซินตะลึงไป มุมปากของหลินเชาก็ปรากฏรอยยิ้มลำพองใจข้นมา


 


 


อย่างที่เขาว่า มีใครไม่ชอบเงินบ้าง


 


 


ซ่างซินปฏิเสธเขาในตอนแรก ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ ตอนนี้ธนบัตรมากมายวางอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรจะเจรจาไม่ได้ล่ะ


 


 


หลินเชาหยิบสัญญาฉบับหนึ่งโยนไว้บนกล่องเงิน “ขอแค่คุณเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ฉบับนี้ เงินพวกนี้ก็จะเป็นของคุณทั้งหมด”


 


 


“…”


 


 


“ถ้าคุณยอม ผมก็จะเป็นของคุณเหมือนกัน!” หลินเชาพูดพลางหรี่ตาจนเหลือเป็นช่องเล็ก พร้อมกับยื่นมือไปหาหน้าอกของเธอ


 


 


แต่ยังไม่ได้ทันที่จะแตะโดน ซ่างซินก็ก้มหน้าลงกัดแขนของเขาเสียแล้ว


 


 


เสียงร้องเหมือนหมูถูกเชือดดังออกจากปากของหลินเชาในทันที


 


 


“อ๊าก”


ตอนที่ 197 ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้


 


 


หลินเชาคิดไม่ถึงเลย หญิงสาวที่ดูบอบบ้างจะพยศได้ถึงขนาดนี้!


 


 


เขาถูกเธอกัดโดยที่ไม่ทันระวัง ยังไม่ทันตั้งสติได้ ก็ถูกเตะเข้ากล่องดวงใจอีกครั้ง!


 


 


สองครั้งสองครา ทำเอาเขาเจ็บจนร้องไม่ออกแล้ว


 


 


สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเหมือนสีของท้องหมูในทันที พลางกุมน้องชายของตัวเองไว้ และเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น


 


 


จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกคนข้างๆ ตามสัญชาตญาณ “ยังตะลึงอะไรอยู่วะ จับเธอไว้สิ!”


 


 


การจู่โจมสองครั้งของซ่างซิ่งแทบจะใช้เรี่ยวแรงจนหมดแล้ว


 


 


เมื่อเห็นหลินเชายังควบคุมสติไม่ได้ เธอก็ยันร่างกายขึ้น ลุกขึ้นยืนจากบนโซฟา และวิ่งไปตรงประตูห้องส่วนตัว


 


 


เธอออกแรงดึงประตูจนสุดแรง แต่ประตูถูกล็อกเอาไว้แล้ว


 


 


“ทำร้ายผมแล้วคิดจะหนีเหรอ ไม่มีทางหรอก!”


 


 


นางแบบสาวรู้สึกหนักใจขึ้นมาแล้ว เธอหันหลับไปเห็นหลินเชาลุกขึ้นจากพื้นพร้อมให้คำสัญญากับตัวเอง


 


 


ตัวเธอแนบชิดติดกับผนังข้างประตูด้วยความหวาดกลัว ส่วนในหัวก็มีใบหน้าของคนคนหนึ่งผุดขึ้นมาอยู่ตลอด


 


 


ตั้งแต่เขายังเด็กจนเติบโต และท่าทางตอนที่เขาโตขึ้น จนกลับกลายมาเป็นเด็กอีกครั้ง…


 


 


เธอยังจำตอนที่ยังเป็นเด็กได้ เธอชอบเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านมาก


 


 


ตรงนั้นมีพุ่มดอกไม้สูง แอบไปเล่นกับแมวเหมียวตรงนั้นได้


 


 


มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอเห็นถังหยวนซือมาหา แต่ก็ตัวเธอเองก็ยังจงใจซ่อนอยู่ในพุ่มดอกไม้ อยากจะรอให้เขาเข้ามาใกล้ๆ ก่อน แล้วถึงจะโผล่ออกไปให้เขาตกใจ


 


 


ทว่าเขายังไม่ทันเดินมาข้างหน้า ก็มีคนเรียกเขาไปเสียแล้ว


 


 


ปฏิกิริยาของเธอในตอนนั้นออกจะลังเลอยู่บ้าง เมื่อเห็นเขาหายไปแล้ว ถึงจะนึกได้ว่าต้องตามเขาไป


 


 


แต่พอรีบร้อนขึ้นมา ก็ถูกกิ่งไม้ในพุ่มดอกไม้เกี่ยวเอาไว้


 


 


ยิ่งเธอร้อนใจดิ้น ก็ยิ่งถูกเกี่ยวแน่นเข้าไปอีก


 


 


สุดท้ายเธอก็ติดอยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้ จึงเอาแต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ


 


 


แต่ตรงนั้นรกร้างมาก นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครอื่น เธอทั้งเสียใจ ทั้งกลัว แถมตะโกนอยู่นาน จนเสียงแหบพร่าแทบพูดไม่ออกแล้ว


 


 


ขณะที่กำลังกังวลว่าตัวเองจะตายอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า ถังหยวนซือที่เพิ่งจากไปก็ปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าเธอทันใด


 


 


ปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าเธอ ราวกับภาพในจินตนาการ…


 


 


วันนั้นแสงสีส้มในยามเย็นตกกระทบบนตัวเขา ทำให้เกิดเงาร่างบางๆ และเพราะยังเด็กอยู่ เงาจึงไม่ได้สูงใหญ่มากขนาดนั้น แต่ในสายตาของเธอ เขาเหมือนกับเทวดาก็ไม่ปาน


 


 


เขาเดินฝ่าแสงแดดมาตรงหน้าเธอทีละก้าว


 


 


จากนั้นเขาก็อุ้มเธอออกมาจากในกองพุ่มดอกไม้


 


 


ท่าทางของเขาดูร้อนใจอยู่บ้าง จึงทำให้เธอเจ็บเล็กน้อย สองมือของเขาประคองใบหน้าที่หวาดกลัวของเธอ ก่อนจะใช้เสียงที่อ่อนโยนที่สุดที่เธอเคยได้ยินปลอบใจเธอ “เสี่ยวซินซิน ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้”


 


 


ไม่เป็นไรนะ มีฉันอยู่ตรงนี้


 


 


นั่นเป็นคำพูดที่น่าจดจำที่สุดที่เธอเคยได้ยินมาในชีวิตนี้


 


 


เธอดึงชายเสื้อของเขาพร้อมท่าทางน่าสงสาร ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา “พี่เสี่ยวซือ พี่จะอยู่กับฉันตลอดไปใช่ไหม”


 


 


“ใช่” มืออันอบอุ่นของเขาลูบหัวเธอ แล้วพูดยืนยันว่า “ขอแค่เธอมีอันตราย ฉันจะต้องไปอยู่ข้างๆ เธอแน่นอน”


 


 


“…”


 


 


เธอยังเด็กนัก ตอนนั้นกลัวจนลืมทุกอย่างไปจนหมดสิ้น แต่กลับจำคำพูดนี้ได้


 


 


ความทรงจำวัยเด็กยังคงอยู่ในหัวเธอเสมอ


 


 


แต่คนที่อยู่ในใจของเธอ กลับไม่ยอมเจอเธออีกเลย


 


 


หญิงสาวมองหลินเชาที่กำลังเดินเข้ามาหา พลางข่มความกลัวเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองตัวสั่น


 


 


พี่เสี่ยวซือ พี่อยู่ที่ไหน…


 


 


 


 


ตอนที่ 198 เขาคอยปกป้องเธออยู่ตลอด


 


 


“เซ็นสัญญาซะดีๆ แล้วขอโทษผมด้วย ผมอาจจะพิจารณาให้อภัยคุณก็ได้” หลินเชาเดินมาข้างหน้า พร้อมกับดึงเนกไทลงมาถึงตรงหน้าอก ใบหน้าคุกคามอย่างยิ่ง


 


 


ดูท่าทางก็รู้แล้วว่าเขาคิดจะทำอะไร


 


 


“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!” ซ่างซินดึงสติกลับมา พอเห็นว่าหลินเชากำลังจะบตัวเธอ จึงตะโกนใส่เขาไปเสียงหนึ่ง


 


 


เมื่อครู่เธอจู่โจมเขาอย่างกล้าหาญไปสองครั้ง ทำให้หลินเชาหมดความอดทนแล้ว


 


 


ครั้งนี้ได้ยินเสียงของเธอ เขาจึงรู้สึกหวาดหวั่น และหยุดฝีเท้าตามสัญชาตญาณ


 


 


เมื่อได้สติกลับมา ถึงพบว่าตัวเองถูกผู้หญิงคนหนึ่งขู่ ทำเอาเขาถ่มน้ำลายออกมาจากปากเลยทีเดียว


 


 


จากนั้นหลินเชาห็ขยิบตาให้คนข้างๆ “จับเธอไว้ วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำ!”


 


 


“คุณชายหลิน ตกลงกันแล้ว พวกเราจับเธอมาให้คุณแล้ว…” เมื่อได้ยินคำสั่งของหลินเชา หลายๆ คนที่ยืนอยู่ข้างเขาต่างก็ลังเลขึ้นมาบ้าง ก่อนจะลดเสียงเตือนหลินเชาว่า “ได่ยินว่าประวัติของซ่างซินไม่ธรรมดา เสี่ยใหญ่หลายคนก็อยากได้เธอ พวกผมไม่ค่อยมั่นใจเลย”


 


 


“ใจเสาะ! พวกแกไม่กล้าแตะต้องเธอ งั้นฉันจะทำเอง!” หลินเชาหรี่ตาทั้งสองข้างลง แล้วถูฝ่ามือ แทบจะข่มในเดินเข้าไปหาซ่างซินไม่ไหวแล้ว


 


 


เขาไม่เชื่อ ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะทำอะไรได้


 


 


ถ้าเธอเก่งขนาดนั้นจริง ยังจะมีหน้ามาเป็นนางแบบเหรอ


 


 


ดูรูปร่างแบบนี้ ใบหน้ารูปไข่แบบนี้ แปดสิบเปอร์เซ็นต์ต้องมีคนรวยคนไหนรับเลี้ยงไว้


 


 


เมื่อเขาได้ลิ้มลองและสั่งสอนเธอสักครั้ง แล้วแย่งเธอมาไว้ในกำมือของตัวเอง ให้เงินเพิ่มอีกหน่อย ยังมีอะไรไม่ยุติธรรมอีก


 


 


หลินเชารวบรวมความกล้า ยิ้มเยาะ และเดินเข้าไปหาซ่างซิน ตอนที่เธอเตรียมจะผลักเขาออกไป เขาก็จับข้อมือของเธอได้ก่อนแล้ว


 


 


“ที่รัก มาให้ผมรักคุณซะดีๆ ฮ่าๆ!” หลินเชาเพิ่งจะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แต่อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงไซเรนตำรวจดังมาจากข้างนอก


 


 


มีคนบุกเข้ามาในผับเหรอ


 


 


สติของเขายังไม่ทันจะกลับมา ซ่างซินก็เหยียบเท้าเขา สลัดตัวเขาออกไป แล้วไปหลบอยู่ในมุม


 


 


เธอกลัวจนขดตัวเป็นก้อนแล้ว


 


 


“ปัง”


 


 


เกิดเสียงดังสนั่น


 


 


ประตูห้องส่วนตัวถูกคนถีบจากข้างนอก


 


 


เงาร่างสีดำทมิฬเดินเข้ามาจากข้างนอก


 


 


ซ่างซินรู้สึกว่าหัวใจรัดตัว น้ำตาคลอเบ้าแทบจะไหลออกมาแล้ว “พี่เสี่ยวซือ…”


 


 


เมื่อได้คนตรงหน้าชัดเจนในวินาทีต่อมา ว่าเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย เธอก็อึ้งไปเล็กน้อย


 


 


จากนั้นก็มีบอดีการ์ดอีกสองสามเขาพุ่งเข้ามา


 


 


แค่เพียงสองสามครั้ง ก็จัดการหลินเชาและคนอื่นๆ ได้อยู่หมัด


 


 


ผู้จัดการเดินมาเป็นคนสุดท้าย พอเธอเห็นซ่างซินก็รีบถลันมาข้างหน้า “ซ่างซิน เธอเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม”


 


 


“…”


 


 


ซ่างซินเบิกตาโพลง มองคนตรงหน้าอย่างงุนงง อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว


 


 


นางแบบสาวโผเข้าไปในอ้อมกอดของผู้จัดการ ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา


 


 


ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอกลัวจนทนไม่ไหวแล้ว มีเพียงผู้จัดการที่กอดเธออยู่ที่เข้าใจ เธอร้องไห้เพราะไม่ได้เจอคนคนนั้น…


 


 


หลังจากออกมาจากผับ ซ่างซินก็ขึ้นรถ และอยู่ในอาการอกสั่นขวัญแขวนอยู่ตลอด


 


 


ดวงตาของเธอแดงก่ำ เหมือนกระต่ายที่ตื่นกลัว


 


 


รถมินิแวนมาถึงงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าบนถนนฝั่งตรงข้ามผับ มีรถหรูคันสีดำจอดเงียบๆ อยู่ข้างทาง


 


 


กระจกรถปิดสนิท แต่บนที่นั่งคนขับมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่


 


 


ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวอยู่บ้าง สองมือกำลังออกแรงกำพวงมาลัย


 


 


เขามองซ่างซินที่กำลังตาแดงก่ำอยู่ไกลๆ ดวงตาที่สงบนิ่งมาโดยตลอดของเขาหดตัวโดยพลัน แทบจะข่มความรู้สึกตัวเองไว้ไม่อยู่ อยากจะพุ่งลงจากรถไปกอดเธอไว้ในอ้อมอก


 


 


แล้วบอกกับเธอว่า เขาคอยปกป้องเธออยู่ตลอด!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม