ระบบสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่ง 190-191

 SB:ตอนที่ 190 พลังที่แฝงอยู่

ลู่หยางช่วยหลอหยุนซานขจัดสิ่งสกปรกส่วนใหญ่ออกจากร่างกายของเขาซึ่งถือได้ว่าได้ล้างเส้นลมปราณของเขาเสร็จแล้ว

แต่ลู่หยางเองก็ไม่ได้อยู่ว่างๆเพียงลำพัง นอกเหนือจากการส่งคนไปสร้างเมืองร้างร้อนระอุแล้ว เขายังต้องจัดระเบียบคนเพื่อก่อปัญหาในพิธีหมั้นของตระกูลคุน

เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ว่านิกายหนึ่งสวรรค์จะฮุบสมบัติทั้งหมดของตระกูลหยวนไป และแม้กระทั่งก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรหนึ่งสวรรค์ขึ้นมา สิ่งเดียวที่เขาสามารถดูดซับได้ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของพลังของกลุ่ม และตระกูลผู้มั่งคั่ง นอกเหนือจากสามกลุ่มใหญ่ของเมืองตงไหล ดังนั้น ในระหว่างพิธีหมั้นของตระกูลคุน นอกเหนือจากผู้ครองเมือง และสามตระกูลใหญ่แล้ว ยังมีตระกูลที่ร่ำรวยและต่ำต้อยอีกมากมายที่จะไปร่วมงานเลี้ยงแต่งงาน และเพื่อที่จะปรับปรุงชื่อเสียงของเขา คุนเผิงจะเชิญทั้งเมืองเพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วย

 

ดังนั้น หากลู่หยางต้องการที่ล้มงานนี้ เขาจะต้องหาใครสักคนเพื่อปลุกปั่นจิตใจของผู้คน

ในทางกลับกัน เขาจะต้องเป็นอีกคนที่มีความคิดเช่นเดียวกับลู่หยาง และให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้มาก เขาก็คือปี่อาน

แต่คราวนี้ ปี่อานไม่ได้เป็นชายวัยกลางคนที่ร่ำรวย แต่กลับกลายเป็นผู้สูงส่งเยาว์วัยที่สง่างาม จากเสื้อผ้าของเขา บอกได้ว่าเขาเป็นนายน้อยจากตระกูลใหญ่แน่นอน

ข้างๆเขามีปีศาจระดับสูงสองตัวยืนอยู่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของปีศาจระดับสูงทั้งสองนี้จะไม่แข็งแกร่งเท่าปี่อาน แต่พวกมันก็เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ไปแล้ว และความแข็งแกร่งของพวกมันก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้คุมอสูรระดับเหลืองเลย จะเห็นได้ว่าปี่อานต้องได้รับประโยชน์อันใหญ่หลวงจากการเกิดใหม่ครั้งนี้

“ นายน้อย พวกเราเข้ามาในเมืองตงไหลเพื่อฆ่ามนุษย์ที่เรียกว่าคุนเผิงใช่หรือไม่?” ปี่ฟะมองไปที่ปี่อานอย่างสงสัย ราวกับว่าเขาไม่พอใจมากกับการตัดสินใจของเขา

แม้ว่าปีศาจระดับสูงอื่น ๆ จะไม่พูดอะไร เขาก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของปี่อาน

“ หืม เจ้ารู้อะไรไหม? พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเราปีศาจมีคือการทำให้ผู้อื่นต้องมนต์สะกด และนำมันมาใช้เพื่อประโยชน์ของพวกเราเอง คุนเผิงคนนี้มีคุณสมบัติที่จะให้พวกเราใช้มนต์สะกด เขาปฏิบัติต่อพวกเราปีศาจอ่อนเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องให้บทเรียนที่ลึกซึ้งแก่เขาก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวได้ ” ปี่อานคนปัจจุบันนี้ นอกจากแววตาที่ดูโหดร้ายแล้ว ยังมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าอีกด้วย

 

ถ้าราชสีห์ขนทองหกเนตรอยู่ที่นี่ เขาจะรู้แน่นอนว่าปี่อานในปัจจุบันฉลาดกว่าปี่อานในอดีตไม่รู้กี่เท่า มันคงไม่มากเกินไปที่จะบอกว่าเขาเกิดใหม่ จริงๆ

“ เอาล่ะ รีบจัดคนให้ข้า คราวนี้ ข้าขอสิทธิพิเศษตั้งมากมายจากราชาปีศาจ และแม้กระทั่งส่งปีศาจหลวงปลอมตัวออกไป ถ้าเราไม่ทำให้โลกพลิกผลัน เผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกนี้อาจคิดว่าพวกเราปีศาจตายไปแล้ว! ” ดวงตาของปี่อานเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาเริ่มคิดพิจารณาแล้วว่าจะก่ออาชญากรรมอย่างไรในระหว่างงานเลี้ยงหมั้นของคุนเผิง

 

แน่นอนว่าเหตุผลที่เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อฆ่าคุนเผิง ในทางกลับกัน เขาต้องการทำให้คุนเผิงเชื่องในฐานะโฆษกของเขาในโลกมนุษย์ แค่นั้น เขาก็จะได้รับรางวัลจากราชามากขึ้นเรื่อย ๆ …

ในพริบตาเดียว เวลาที่คุ้มค่าของวันหนึ่งก็ผ่านไป คำเชิญไปยังตระกูลคุนส่วนใหญ่ก็ถูกส่งออกไปแล้วเช่นกัน และทั้งหกชั้นของหอคอยสัตยาลึกซึ้งก็เต็มไปด้วยคนตระกูลคุน

นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะกว่าร้อยโต๊ะวางอยู่บนถนนด้านหน้าหอคอยซวนเต๋อ เป็นไปได้มากว่าโต็ะเหล่านี้มีไว้สำหรับผู้ที่ไม่มีสถานะภายในเมืองตงไหล แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเล็กน้อย อันที่จริง สำหรับครอบครัวเล็ก ๆ บางครอบครัว นี่เป็นเพียงขยะที่ฟุ่มเฟือยเท่านั้น

 

แน่นอนว่านอกเหนือจากนี้ สถานที่ที่ครอบครัวคุนเชิญแขกเหรื่ออยู่ในเขตแดนของตระกูลคุน และภัตตาคารแห่งนี้ก็เป็นของพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นจากมุมมองของคนนอก มันจึงเป็นสถานที่ที่ฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายเช่นนี้ ตระกูลคุนจ่ายได้อยู่แล้ว

“ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยตระกูลคุน!ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยตระกูลคุน! ” ในขณะที่แขกคนแล้วคนเล่าเข้ามาหาที่นั่ง คนรับใช้ของตระกูลคุนก็ส่งซองสีแดงขนาดต่างๆใส่ลงในหีบไม้ตามชื่อของพวกเขา หลังจากนั้นคนรับใช้ของตระกูลคุนก็มอบแผ่นไม้พร้อมหมายเลขที่นั่งให้กับเขา

ช่างเป็นเรื่องตลกเสียนี่ ในเมื่อเป็นงานเลี้ยง ตระกูลคุนของพวกเขายังจะต้องเก็บค่าธรรมเนียมจำนวนหนึ่งด้วย หากพวกเขาให้น้อยเกินไป พวกเขาก็จะได้รับการตอบโต้จากตระกูลคุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“นายน้อย นอกเหนือจากสาวกสำนักหนึ่งสวรรค์ระดับต่ำสุดที่มาสถานที่ของเราเพื่อกินอาหารแล้ว ข้าไม่เห็นพวกระดับบนของสำนักหนึ่งสวรรค์เลย ท่านคิดว่าพวกสำนักหนึ่งสวรรค์จะถือโอกาสก่อเรื่องระหว่างพิธีหมั้นไหม? “เมื่อมีคนมากินมากขึ้น มากขึ้น ชายชราเคราขาวก็อดไม่ได้ที่จะพูด

 

“ ฮึ่ม วันนี้ก็แค่อุ่นเครื่อง พรุ่งนี้ถึงจะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับงานแต่งงานของข้า ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้สาวน้อยคนนี้อารมณ์ดีเท่านั้น แต่ข้ายังสามารถมองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันได้อีกด้วย “ คุนเผิงนั่งอยู่บนที่สูงสุดชองตำหนักไม่ไกลจากหอคอยซวนเต๋อนัก และมองไปในระยะไกล

พูดตรงๆ คุนเผิงก็ไม่ได้โง่

หากผู้คนจากสำนักหนึ่งสวรรค์ไม่มาก่อเรื่อง เขาก็สามารถทำพิธีหมั้นได้สำเร็จ และเขายังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อรวบรวมความมั่งคั่งจำนวนมาก

 

แต่เมื่อเทียบกับเงินจำนวนนี้ สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ และกลืนสำนักหนึ่งสวรรค์ทั้งหมดได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน

“รายงานนายน้อย หน่วยสอดแนมสำนักหนึ่งสวรรค์ของเราได้รายงาน นับตั้งแต่วันที่หลอหยุนชาน และ ลู่หยางกลับไปที่สำนักหนึ่งสวรรค์ พวกเขาได้ติดตามลู่หยางไปที่ภูเขาด้านหลังสำนักหนึ่งสวรรค์ และจากนั้นก็ไม่เคยเห็นหลอหยุนชาน และลู่หยางปรากฏตัวอีกเลย จากสิ่งที่ข้าได้ยินมา หลอหยุนซานดูเหมือนจะฝึกฝนวิชาที่ทรงพลังอยู่ มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากเขาทำสำเร็จ การฝึกฝนของเขาจะเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ถ้าเขาล้มเหลวหลอหยุนซานอาจถึงตายได้ “ขณะที่คุนเผิงเริ่มจะหมดความอดทน คนรับใช้ของตระกูลคุนก็วิ่งขึ้นมา และรายงานอย่างเร่งรีบ

 

“โอ้?” สำนักหนึ่งสวรรค์ของพวกเขามีวิธีฝึกฝนที่ทรงพลังเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาอยากต่อสู้กับข้าจริงๆ “เอาล่ะ เจ้าออกไปได้แล้ว” คุนเผิงไม่เพียงแต่ไม่กลัว เขายังเผยสีหน้าตื่นเต้นด้วย

เขาไม่กลัวว่าสำนักหนึ่งสวรรค์จะแข็งแกร่งเกินไป และจะต่อสู้กับเขาในวันหมั้น ในทางตรงกันข้าม เขากลัวว่าสำนักหนึ่งสวรรค์จะอ่อนแอเกินไปมากจนไม่สามารถทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่มีเหตุผลที่จะเข้าสัมผัสถึงรังของสำนักหนึ่งสวรรค์

แต่ในขณะที่คุนเผิงยังคงสบถสาบานอยู่ ลู่หยางก็เดินไปเดินมาในลานบ้านของเขา

 

หลอหยุนซานพักอยู่ที่ลานบ้านทั้งวันทั้งคืน และไม่ได้ออกมา ถ้าเขาไม่ออกมาในอีกสองชั่วโมง มันก็จะรุ่งสางแล้ว ในเวลานั้น เขาไม่รู้จริงๆว่าหลอหยุนชานจะยังไม่สามารถไปงานพิธีหมั้นของลูกสาวอยู่หรือเปล่า

“ช่างมันเถอะ!ไปกันเถอะ!” ลู่หยางรู้ว่าเวลานั้นสำคัญมาก และเขาต้องไปแล้ว

 

“ เอ้อโกวจื่อ สั่งคนของเจ้าให้เหลือเพียงส่วนหนึ่งไว้ข้างหลังเพื่อเฝ้าประตูภูเขาไว้ คนที่เหลือส่วนใหญ่ให้แต่งกายเหมือนคนทั่วๆไปเข้าไปในงานหมั้น ส่วนที่เหลือจะไปเในฐานะสาวกของสำนักหนึ่งสวรรค์ จำที่ข้าตระเตรียมการไว้กับเจ้าด้วยล่ะ! ” ลู่หยางพูดกับเอ้อโกวจื่ออีกสองสามคำก่อนที่เขาจะพาราชสีห์ขนทองหกเนตรไปยังงานเลี้ยงที่ภัตตาคารซวนเต๋อด้วย

 

มีการกล่าวกันว่าไม่เพียงแต่สามตระกูลใหญ่จะส่งตัวแทนไปงานเลี้ยงที่ภัตตาคารซวนเต๋อในวันนี้ แม้แต่คฤหาสน์ของท่านผู้ครองเมืองก็ส่งตัวแทนไปด้วยเช่นกัน และงานเลี้ยงที่ลู่หยางสามารถเข้าร่วมได้คือห้องจัดเลี้ยงที่หรูหราที่สุดบนชั้นหก

เนื่องจากหอคอยซวนเต๋อเป็นหนึ่งในภัตตาคารชั้นนำเพียงไม่กี่แห่งในเมืองตงไหลและยังเป็นสถานที่ที่ตระกูลคุนให้ความบันเทิงแก่บรรดาแขกเหรื่อ เมื่อมาถึงชั้นหก นอกจากห้องส่วนตัวขนาดใหญ่แล้ว ยังมีเวทีขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าห้องส่วนตัว.

โดยปกติ เวทีนี้ใช้เพื่อการแสดงให้แขกเหรื่อได้เพลิดเพลิน ในช่วงเวลาสำคัญ มันยังสามารถใช้เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และยังมีจุดลงจอดสำหรับสัตว์เลี้ยงสงครามบินของแขกจำนวนมากด้วย

ตอนนี้ยังไม่เที่ยงวัน แต่เวทีนี้ที่ยาวห้าสิบเมตรและกว้างสามสิบเมตรมีสัตว์เลี้ยงสงครามบินได้อยู่เจ็ดหรือแปดตัว …

SB:ตอนที่ 191 การใช้ประโยชน์ร่วมกัน

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่าไม่คิดเลยว่าท่านจะต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะได้รับความนิยมไปทั้งเมืองเลยนะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่านนี่หยิ่งผยองจริงๆ ไม่ใช่เหรอ!” เทียนซิงเจิ้นกระโดดขึ้นจากสัตว์เลี้ยงสงครามของเขาอย่างหยิ่งผยอง และเผชิญหน้ากับคุนเผิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขา

ถูกต้อง เขาเป็นพี่ชายของผู้โชคร้ายที่เพิ่งถูกลู่หยางฆ่าตาย เขายังเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเทียนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำที่แท้จริงของสามตระกูลใหญ่เมืองตงไหล

และ เทียนซิงเจี้ยนที่ถูกลู่หยา’ ฆ่าก็เป็นเพียงหนึ่งในคู่แข่งของเขาที่ได้เปรียบเขามาก

 

ในบรรดาสามตระกูลใหญ่ ลูกชายคนโตไม่ใช่คนเดียวที่สามารถกลายเป็นนายน้อยได้ ในทางตรงกันข้าม สถานะของนายน้อยคนโตจะมอบให้กับสาวกที่มีศักยภาพสูงมากเท่านั้น แม้ว่าบุคคลนั้นจะไม่ได้เป็นบุตรชายของผู้อาวุโสสูงสุดก็ตาม ในทางกลับกัน เทียนซิงเจิ้นนั้นเดิมทีเป็นคนที่ไม่ธรรมดา ในขณะที่เทียนซิงเจี้ยนเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสสูงสุดคนปัจจุบันของตระกูลเทียน

“อ้อ เป็นนายน้อยเทียนนี่เอง ยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง! ” แต่ข้าได้ยินมาว่าเทียนซิงเจี้ยนเสียชีวิตข้างนอกแล้ว ดูเหมือนว่าคู่แข่งของท่านจะหายไปหนึ่งคนแล้วสิ! “แม้ว่าความสัมพันธ์ของคุนเผิง และเทียนซิงเจิ้นจะไม่ถือว่าดี แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองคนพูดคุยเกี่ยวกับแผนการ และกลอุบายเหล่านั้น พวกเขายินดีเป็นอย่างยิ่งและกลายเป็นมิตรที่ดีต่อกันทันที ทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันขึ้น

 

“อย่างนั้นหรือ?” “แม้ว่าข้อมูลนี้จะไม่ถูกต้อง แต่ก็เป็นความจริงที่ไอ้หมอนี่ไม่ได้กลับบ้านมาสองสามวันแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดของคุนเผิง เทียนซิงเจิ้นก็ตกตะลึงเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันไปรอบ ๆ และพบที่นั่งที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม เขาจำความปรารถนาดีของคุนเผิงไว้ในใจ

“ ท่านสบายดีไหม นายน้อยคุน” ขณะที่คุนเผิงกำลังอารมณ์ดี เสียงที่ไม่ลงรอยกันดังมาจากอีกด้านหนึ่ง

“ ฮึ่ม ตู้เซี่ยน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่่? ข้านึกว่าท่านยังฝึกศิลปะการต่อสู้ที่บ้านอยู่! ” ในบรรดานายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตู้เซี่ยนมีความสามารถมากที่สุด ความแข็งแกร่งของเขาก็แข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน แม้ว่าคุนเผิงต้องการต่อสู้กับเขา แต่ก็เหมือนอยู่ในเงาเท่านั้น

“ ฝึกฝนอยู่ที่บ้านเหรอ? ท่านไม่ได้คิดว่าข้ายโสเกินไปนะ! มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นในเมืองตงไหลวันนี้ ข้าจะไม่มาร่วมสนุกได้ยังไง? “ นอกจากนี้ วันนี้เป็นวันสำคัญของท่าน นายน้อยคุนผู้ยิ่งใหญ่ มันไม่มีเหตุผลที่ข้าจะไม่มาแสดงความยินดีกับท่าน! ” ตู้เซี่ยนคุ้นเคยกับเขา และไม่ว่าคุนเผิงจะต้อนรับเขาหรือไม่ เขาก็หาที่นั่งเอาเองโดยอัตโนมัติ

“ฮึ่ม ไอ้เพื่อนตัวแสบ!” แม้ว่าคุนเผิงจะไม่ชอบตู้เซี่ยนจริงๆ และทั้งสองมีความขัดแย้งกันชนิดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่โดยผิวเผินแล้ว พวกเขาก็ยังต้องแสร้งทำเป็นว่าพวกเขาดีต่อกัน

นี่เป็นข้อพิพาทระหว่างตระกูลใหญ่เกี่ยวกับวิธีหลอกลวงผู้อื่น

 

“ นายน้อยคุน ขอแสดงความยินดีด้วย! หลังจากที่บุคคลสำคัญแต่ละคนมาถึง จำนวนคนที่มารับการต้อนรับส่วนตัวของคุนเผิงก็น้อยลงเรื่อย ๆ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย และที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในที่นั้นโดยเฉพาะก็คือผู้ที่สวมชุดสีแดงทั้งตัว เพราะเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้อาวุโสอู๋แห่งคฤหาสน์ของผู้ครองเมือง อู๋เฟิง

ในบรรดาผู้คุมอสูรระดับเหลืองไม่กี่สิบคนที่อยู่ในเมืองตงไหล แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่ถือว่าอยู่ที่จุดสูงสุด แต่เขาก็ยังคงมีชีวิตที่โดดเด่นในหมู่พวกเขาและเป็นคนสนิทของเจ้าเมือง . ที่ผู้ครองเมืองส่งเขามาที่นี่ก็เพราะตระกูลคุนเคยให้หน้ากับเขา

 

“ ผู้อาวุโสอู๋ ท่านมีน้ำใจเกินไปแล้ว การปรากฏตัวของท่านที่หอคอยซวนเต๋อในวันนี้ได้นำแสงสว่างมาสู่บ้านที่ต่ำต้อยของพวกเราจริงๆ! ” คุนเผิงรู้ตำแหน่งของผู้อาวุโสอู๋คนนี้อยู่แล้ว และท่าทีดั้งเดิมของเขาไม่เหมือนกับตอนที่เขาล้อเล่นกับนายน้อยสองคนก่อนนั้น แต่กลับอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้น

“ ฮ่า ๆ ๆ ไอ้เด็กคนนี้มันน่าให้สอน ท่านผู้ครองเมืองมอบหมายให้ข้านำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้ท่าน ข้าหวังว่าท่านจะได้แต่งงานกับสาวงาม! ” แล้วผู้อาวุโสอู๋ก็นั่งลงบนที่นั่งตัวหลักโดยไม่หันกลับมามอง นี่คือที่นั่งของเจ้าภาพ

เมื่อเห็นการกระทำของผู้อาวุโสอู๋แล้ว แม้ว่าคุนเผิงจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้อาวุโสอู๋ได้ให้หน้าแก่เขาเป็นจำนวนมากในวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเมือง ตงไหลทั้งหมดเป็นของท่านผู้ครองเมือง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับผู้อาวุโสอู๋ซึ่งเป็นตัวแทนของเขาที่จะทำเช่นนั้น ด้วยวิธีนี้ หัวใจของคุนเผิงจึงสมดุลขึ้นเล็กน้อย

“ ขอแสดงความยินดีด้วย นายน้อยคุน ข้าไม่ได้หวังให้ท่านออกมาต้อนรับข้าเป็นการส่วนตัว ข้าละอายใจจัง!” ขณะที่คุนเผิงกำลังจะเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง เขาก็เห็นลู่หยางขี่ราชสีห์ขนทองหกเนตรและค่อยๆลงมาจากท้องฟ้า

 

“ ข้านึกว่าใคร? เป็นผู้นำสำนักแห่งสำนักหนึ่งสวรรค์นี่เอง! อะไรนี่? ท่านมีสัตว์เลี้ยงสงครามบินได้ด้วยเหรอ? มันไม่ง่ายเลย เป็นไปได้มั้ยที่ตาเฒ่าหลอหยุนชานใช้ตัวตนแก่ๆของเขาเพื่อเอามันมาให้ท่าน? “สำหรับคนอื่น ๆ แล้วคุนเผิงจะเป็นคนที่มีมารยาทอย่างมาก แต่สำหรับลู่หยาง ซึ่งอาจมาก่อเรื่อง และมีสถานะต่ำกว่าเขามาก คุนเผิงจะไม่มีท่าทีที่ดีๆแสดงออกให้

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่านายน้อยคุน ท่านต้องล้อเล่นแน่ๆ ข้าเป็นเพียงลูกของชนชั้นต่ำต้อย ข้าจะเปรียบเทียบกับนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ได้ยังไง? “ ท่านเติบโตขึ้นมาพร้อมกับช้อนทองในปาก ท่านจะได้รับสิ่งที่ท่านต้องการทันทีที่ท่านเกิด แม้ว่าท่านจะเป็นหมู ท่านก็ยังจะถูกเลี้ยงดูขึ้นมาให้อ้วนกับอ้วน ไม่ต้องพูดถึงว่าท่านเป็นคนที่มีสุขภาพดี ” หลังจากได้ยินสิ่งที่คุนเผิงพูด ลู่หยางก็แสดงความอ่อนแอและโต้กลับทันที

 

“เป็นผู้นำสำนักแห่งสำนักหนึ่งสวรรค์นี่เอง! มาคุยกันที่นี่มา! ” ขณะที่คุนเผิงกำลังจะอารมณ์เสีย ตู้เซี่ยนที่กำลังดูอยู่ก็รีบไปช่วยเขา

“ตู้เซี่ยน ขุนนางหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลตู้!” โดยไม่ต้องรอให้ลู่หยางพูด ตู้เซี่ยนก็แนะนำตัวเองก่อน

แม้ว่าเขาจะไม่ได้หวังสูงกับลู่หยาง แต่ศัตรูของศัตรูก็ยังคงเป็นเพื่อนของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดึงลู่หยางเข้ามา

ยิ่งไปกว่านั้น การที่จะสามารถทำลายตระกูลหยวนในช่วงเวลาสั้น ๆ และตัดเขี้ยวของมันออกไปได้ ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีอะไรนัก นี่เป็นสาเหตุที่ตู้เซี่ยนเต็มใจที่จะเป็นเพื่อนกับลู่หยาง

นอกจากนี้ เขาได้ทำให้คุนเผิงขุ่นเคืองแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะทำให้เขาขุ่นเคืองอีกครั้ง

 

“ สำนักหนึ่งสวรรค์ ลู่หยาง.” เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูร่วมสาบานของคุนเผิง แต่อีกฝ่ายที่สามารถยืนหยัดเพื่อเขาได้ก็ถือได้ว่าเป็นมิตรภาพรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นเขาและดู้เซียนจึงยิ้มให้กันก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะไวน์

แม้ว่าทั้งสองคนต้องการทำความรู้จักกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนเกินไปในสถานการณ์เช่นนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อแขกเหรื่อเข้ามามากขึ้น พิธีหมั้นของคุนเผิงก็เริ่มขึ้นอย่างช้าๆ

“ นายน้อย พวกเขาพร้อมแล้ว!” เมื่อแขกคนสำคัญๆนั่งกันหมดแล้ว ชายชราเคราขาวก็ค่อยๆเดินมาที่ด้านหลังของคุนเผิงอย่างไม่เร่งรีบ แล้วค่อยๆพูด

 

“ เอาล่ะ ทุกๆคน ข้า คุนเผิง รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเชิญทุกท่านมาเข้าร่วมพิธีหมั้นของข้า แม้ว่าข้า คุนเผิง จะเป็นคนรักสนุก แต่ข้าก็เป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพเรียบร้อย ข้ารู้ว่าในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตระกูลคุนในอนาคต ภรรยาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นภายใต้การคัดเลือกอย่างพิถีพิถันของข้า ข้าพบผู้หญิงที่ข้าชอบ ซึ่งเป็นลูกสาวของยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเมืองเซียงหยาง หลอหยุนชาน! “ เมืองเซียงหยางและเมืองตงไหลอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีมาโดยตลอด และนี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี แต่ตอนนี้ คุนเผิงได้แต่งงานกับลูกสาวของยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเมืองเซียงหยางแล้ว

แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องที่น่ายกย่อง สำหรับผู้สูงส่งอย่างเช่นเมืองตงไหล นั่นหมายความอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองตงไหลของพวกเราได้ปราบปรามเมืองเซียงหยางของพวกเขามาโดยตลอด”

 

ตามที่คาดไว้ เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของคุนเผิง ผู้สูงส่งของเมืองตงไหลซึ่งแต่เดิมไม่ได้รู้สึกดีต่อคุนเผิง ทุกคนพยักหน้าเล็กน้อยแสดงความชื่นชมที่มีต่อเขา

“ พี่ลู่หยาง ข้าเกรงว่าท่านจะไม่รู้แน่ชัดว่าชาวเมืองตงไหลของเราเกลียดชังมันมากเพียงใด ตอนนี้คุนเผิงได้ทำสิ่งนี้แล้ว กล่าวได้ว่าเขาได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มคนจำนวนมากในเมืองตงไหล! “เมื่อเห็นท่าทางพอใจของคุนเผิง ตู้เซี่ยนก็พูดออกมาด้วยความโกรธ

ขณะที่ลู่หยางต้องการที่จะเห็นด้วยกับตู้เซี่ยน ทันใดนั้น ระบบควบคุมอสูรก็ส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา “ค้นพบปีศาจระดับสูงอยู่ตรงหน้าห้าสิบเมตร … “