เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก 188-194

 ตอนที่ 188: เฉินเวยโดนดูถูก

โดย

Ink Stone_Romance

วันรุ่งขึ้นตอนที่เฉินเวยเจอเฉินเยี่ยนอีกครั้ง เฉินเวยเชิดหน้าท่าทางเย่อหยิ่ง เฉินเยี่ยนรู้ว่าเธอต้องไปโน้มน้าวอวี๋เหวยหมินได้แล้ว แต่เฉินเยี่ยนไม่สนใจเลย เรือของเฉินเวยและอวี๋เหวยหมินเริ่มสั่นคลอนแล้ว ไม่ช้าก็เร็วจะต้องล่ม


ผ่านไปหลายวัน เฉินเยี่ยนได้ยินว่าอวี๋เหวยหมินไปดูตัวลูกสาวหมู่บ้านฮั่วนั้นยกเลิกแล้ว ว่ากันว่าอวี๋เหวยหมินรังเกียจที่หญิงสาวมีไฝเม็ดใหญ่อยู่บนใบหน้า ดูน่าเกลียด ได้ยินมาว่าพอเขาบอกเหตุผลไป ฝ่ายหญิงก็โกรธจัด ด่าฝั่งนี้อยู่หลายวัน แต่แม่อวี๋เหวยหมินทำอะไรเขาไม่ได้ ออกมาด่าลูกสาวบ้านเฉิน บอกว่าพวกเธอเป็นตัวซวยใส่ลูกชายเขา ทำลูกชายเขายังหาภรรยาไม่ได้จนถึงตอนนี้


ไม่ว่าจะยังไง เรื่องดูตัวของอวี๋เหวยหมินไม่สำเร็จ เฉินเวยดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา เฉินเยี่ยนเข้าใจ อวี๋เหวยหมินยังมีความรู้สึกให้เฉินเวยอยู่ แต่ความรู้สึกนี้ไม่รู้ว่าจะยืนยาวไปนานเท่าไร เฉินเยี่ยนรอดูอยู่


เวลาผ่านไปจนปลายเดือนสอง วันนี้เฉินเยี่ยนและเฉินจงทำงานอยู่ในโรงงานโดนหวางนิวเรียกกลับไป บอกว่าที่บ้านมีแขกมา


ตอนที่เฉินเยี่ยนและเฉินจงมาถึงบ้าน เฉินเวยก็มาด้วย เธอจ้องมองผู้ชายคนหนึ่งอย่างดูดดื่ม ปากก็พูดไม่หยุด


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นซินห้าว นอกจากซินห้าวแล้วตอนนี้ไม่มีใครทำให้เฉินเวยร้อนแผดเผาได้แบบนี้


ในสายตาเฉินเวยมีเพียงซินห้าวเธอไม่เห็นว่าเฉินเยี่ยนกลับมา จนเธอรู้สึกได้ถึงสายตาซินห้าวที่ไม่สนใจเธอเลยมีแววอ่อนโยนและยิ้มออกมาเธอถึงหันไปมอง เห็นเฉินเยี่ยนเดินเข้ามา เฉินเวยริษยาเป็นที่สุด


ทำไมซินห้าวถึงมาตอนนี้? ตามแผนของพวกเขา ซินห้าวควรจะมาอีกทีตอนเดือนห้าเดือนหกสิ มาสู่ขอ และตกลงกัน ครึ่งปีหลังหรือต้นปีหน้าพวกเขาค่อยแต่งงานกัน ตอนนี้มาล่วงหน้าตั้งนาน หรือว่าเขาจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว? เฉินเยี่ยนคิด


“ซินห้าวบอกว่าเขามาสู่ขอ แม่เลยรีบเรียกพวกลูกกลับมา”


รอยยิ้มบนใบหน้าหวางนิวปิดไม่อยู่เลย แม้แต่คิ้วก็เลิกขึ้นด้วยความดีใจ


มาสู่ขอจริงหรือเนี่ย? เฉินเยี่ยนอึ้งไป เฉินเวยยิ่งกำหมัดแน่น สู่ขอ? ไม่ได้! ซินห้าวจะแต่งงานกับเฉินเยี่ยนไม่ได้ พ่อแม่ตอบตกลงไม่ได้ เธอมองเฉินจงและหวางนิวด้วยความคาดหวัง รอให้พวกเขาตอบปฏิเสธไม่ไหว


“นั่งลงก่อนค่อยคุยกัน เจ้าอ้วนก็มาด้วยหรือ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว”


เฉินจงเห็นคนในบ้านนอกจากซินห้าวแล้วยังมีเจ้าอ้วน


พูดคุยกันตามมารยาทสักพัก หวางนิวทนไม่ไหวพูดขึ้นมา “ห้าว ฉันรอมาตั้งนานแล้ว ในที่สุดเธอก็มา เธอว่ามาเธอมาสู่ขอ ทำไมพ่อแม่เธอไม่ส่งคนมา? เรื่องนี้ยังไงเธอก็มาสู่ขอเองไม่ได้นะ ควรจะหาคนอื่น ถ้าฝั่งเธอไม่มีคนที่เหมาะสม ฝั่งฉันหาให้แล้วเธอไปหาคนนั้นก็ได้แล้ว แต่ยังไงก็ต้องเจอพ่อแม่เธอสักครั้ง เธอว่าไหม?


หวางนิวคิดว่าซินห้าวไม่รู้จักธรรมเนียมขั้นตอนการสู่ขอ พ่อแม่ซินห้าวก็ยังอยู่ เขามาสู่ขอเองที่บ้านไม่ได้ พูดออกไปคนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา


เฉินเยี่ยนก็มองซินห้าว เธอคิดว่าวันนี้ไม่น่าจะใช่ซินห้าวเป็นคนสู่ขอ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พาเจ้าอ้วนมา คิดถึงเรื่องที่คุยกับซินห้าวครั้งที่แล้ว หรือว่า?


“คุณลุง คุณป้าครับ วันนี้ผมไม่ได้มาคุยเรื่องผมกับเยี่ยนจื่อ ผมมาเพราะเจ้าอ้วน เจ้าอ้วนไม่มีญาติ เขาเรียกผมว่าพี่ใหญ่ ขอร้องให้ผมมาสู่ขอแทน ผมเลยมา ไม่รู้ว่าผมสามารถสู่ขอแทนเจ้าอ้วนได้หรือไม่”


สีหน้าซินห้าวยังคงเดิม ไม่ดูอึดอัดเลย แต่เขาพูดจริงจังมาก พูดจบยังมองเจ้าอ้วน เจ้าอ้วนพยักหน้า


“อะไรนะ! มาสู่ขอให้เจ้าอ้วน? ขอใคร? ต้องไม่ใช่เยี่ยนจื่อแน่นอน หรือว่าเสี่ยวเวย? ไม่ได้นะ! เสี่ยวเวยฉันยังเด็กอยู่เลย ถ้าฉันจะหาสามีให้ เสี่ยวเวยจะหาแบบไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่แบบเจ้าอ้วนนี้ ฉันไม่ได้บอกว่าเจ้าอ้วนไม่ดี เจ้าอ้วน อย่าโกรธป้านะ ฉันแค่รู้สึกว่าเจ้ากับเสี่ยวเวยไม่เหมาะสมกัน ดูเจ้าตัวใหญ่ขนาดนี้ สูงขนาดนี้ เสี่ยวเวยตัวเล็ก เดินด้วยกันสองคนดูไม่เข้ากัน อีกอย่าง เสี่ยวเวยเราก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ฉันอยากจะหาสามีที่สามารถช่วยเสี่ยวเวยได้ นี่ที่บ้านเธอไม่มีใครเลย อีกหน่อยมีลูกใครจะดูแลตอนอยู่เดือน แม้แต่คนช่วยก็ไม่มี ฉันว่ายังไงก็ไม่ได้ เธออย่าโทษป้าเลยนะ”


หวางนิวรีบไปหน่อย แล้วกลัวเจ้าอ้วนเข้าใจผิด เลยอธิบายให้ฟัง แต่ความหมายเธอก็พูดชัดเจนแล้ว ยังไงก็ไม่ให้เสี่ยวเวยแต่งงานกับเจ้าอ้วน ไม่ว่าใครมาพูดก็ไม่ได้ เธอยังมองซินห้าวอย่างตำหนิ อีกหน่อยเขาจะมาสู่ขอเยี่ยนจื่อ ทำไมถึงหาแบบเจ้าอ้วนให้เสี่ยวเวย นี่ไม่ใช่ว่าทำร้ายเสี่ยวเวยหรือ!


เฉินเวยโกรธจนนัยน์ตาแดงก่ำ เจ้าอ้วนนี่กล้าคิด เขามันตัวอะไรกล้าคิดถึงตัวเอง เป็นคางคกคิดจะกินเนื้อหงส์ ไม่ส่องกระจกดูบ้าง!


เฉินเยี่ยนรู้ว่าแม่ตัวเองเข้าใจผิดแล้ว แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากก็ได้ยินเจ้าอ้วนพูดขึ้นมา “คุณป้าพูดอะไร ผมฟังไม่เข้าใจ เฉินเวยอะไร เกี่ยวอะไรกับเธอ? เธอผอมกะหร่อง ยังสูงไม่เท่าคอผมเลย ดูเธอสิ ยังไม่ทันพูดอะไรก็ร้องไห้แล้ว ใครจะชอบเธอ? คนแบบนี้จะอยู่ด้วยได้ยังไง ทั้งวันยังกลุ้มใจไม่พอหรือ ยังต้องมานั่งปลอบอีก ถ้าต้องแต่งงานกับเธอ คนแบบผมก็กินเนื้อหงส์ไม่ลงหรอก ผมชอบหวางจวน หวางจวนใช้ชีวิตเป็น เธอหน้าตาดี ใบหน้ารูปไข่ ผมเห็นก็ดีใจแล้ว คุณป้าอย่าเข้าใจผิด ถ้าเอาเฉินเวยให้ผม ผมก็ไม่เอา”


เจ้าอ้วนพูดไปก็ส่ายหัวไป ท่าทางน่ารังเกียจแบบนั้นเหมือนเฉินเวยคู่กับเขาแล้วเป็นการดูถูกเขามาก


“เจ้า เจ้า…”


เฉินเวยชี้ไปที่เจ้าอ้วนโกรธจนพูดไม่ออก เจ้าอ้วนถึงกับกล้ารังเกียจเธอ แน่ใจหรือว่าเขาไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับเฉินเยี่ยนมาดูถูกเธอ?


เฉินเยี่ยนยักไหล่อย่างไม่รู้เรื่อง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม เธอไม่ได้สมรู้ร่วมคิดจริงๆ แต่เจ้าอ้วนนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่ทำแบบนี้กับเฉินเวย


หวางนิวถลึงตาอ้าปาก อยากจะว่าเจ้าอ้วนหลายคำแต่พูดไม่ออก เพราะเธอเข้าใจผิด เจ้าตัวเข้าไม่ได้ชอบลูกสาวตัวเองสักหน่อย


“จวนเอ๋อร์เหรอ จวนเอ๋อร์ก็ดี จวนเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ดี”


หวางนิวเลยต้องหาข้ออ้างให้ตัวเอง


“พี่ซินห้าว พี่จะปล่อยให้เขาว่าฉันแบบนี้เหรอ? หรือว่าพี่ไม่รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง? พี่ช่วยฉันด้วย”


เฉินเวยตาแดง น้ำตากลิ้งไปมาข้างใน ดูแล้วน่าสงสารมาก เธอพยายามเรียกร้องความสนใจจากซินห้าว อยากให้ซินห้าวออกหน้าให้เธอ


“เจ้าอ้วนพูดผิดเหรอ? ในสายตาเขาหวางจวนจิตใจดี แข็งแกร่ง มีความสามารถ เป็นผู้หญิงที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้ เขาบอกว่าคุณเป็นคนแบบนี้เขาไม่ต้องการ และจะไม่ต้องการด้วย พูดผิดเหรอ? ต้องการเธอแบบนี้ ก็อย่าคิดจะได้ใช้ชีวิตที่ดีเลย ขอโทษด้วย กรุณาอย่าเรียกผมแบบนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นน้องสาวของเยี่ยนจื่อ แต่คุณกับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมไม่สามารถควบคุมความคิดคุณได้ แต่ผมสามารถควบคุมตัวเองได้ ผมรังเกียจคนที่ดูบอบบาง แต่ในใจกลับโหดร้าย ไม่มีวันชอบ เห็นครั้งเดียวก็ทำผมสะอิดสะเอียนแล้ว ขอให้คุณเข้าใจ และขอให้คุณเคารพด้วย ผมไม่อยากจะให้เยี่ยนจื่อเสียหน้า”


ครั้งนี้ซินห้าวพูดรุนแรงมาก เพราะเขาทนไม่ไหวแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนนี้เฉินเยี่ยนและเฉินจงยังไม่กลับมา เฉินเวยอยากจะอยู่ติดแนบตัวเขาใจจะขาด แล้วก็พูดกับเขาไม่หยุด อยากจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดอะไร เขาไม่สนใจ แต่ตอนนี้เฉินเวยทำกับเฉินเยี่ยนแบบนี้ ทำให้เขาเอือมระอามากที่เฉินเวยเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเฉิน เขากลับไปนานแล้ว


ตอนที่ 189: ให้คุณทุกอย่าง

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนได้ยินคำพูดซินห้าว มองเฉินเวยหน้าซีด เธออยากจะปรบมือร้องว่าดีเสียจริง เฉินเวยเธอคิดมาตลอดว่าตัวเองเสน่ห์แรงกับผู้ชายมากไม่ใช่หรือ ที่ผ่านมาราบรื่นมาตลอดนี่? ยอมแพ้เสียเถอะ!


ครั้งที่แล้วได้รับบทเรียนยังไม่เข็ดอีก วันนี้โดนสมน้ำหน้าจริง เจ้าอ้วนกับซินห้าวยอดเยี่ยม!


เฉินจงมองดูเฉินเวยก็แอบถอนหายใจ เขาเชื่อคำพูดของเฉินเยี่ยน เฉินเวยทำเรื่องแบบนั้นจริงๆ ลูกสาวอยากจะหาสามีที่ดี อยากจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเขาเข้าใจ แต่วิธีของเฉินเวยเขารับไม่ได้ มาแย่งผู้ชายของพี่สาวตัวเอง เธอไม่รู้จักยางอายบ้างหรือไง! ตอนนี้โดนคนว่า โดนคนดูถูก หน้าไม่อาย เธอทำตัวเอง ช่วยไม่ได้


“ห้าว เสี่ยวเวยยังเด็กไม่รู้เรื่อง เธอไม่ได้หมายความอย่างอื่น อย่าโกรธเลย กลับมาฉันจะว่าเธอ ดื่มน้ำก่อน ดื่มน้ำ”


หวางนิวเห็นท่าทางลูกท่าทางลูกสาวแบบนั้นก็สงสาร รีบพูดแทรก


ซินห้าวพูดจบก็ไม่พูดอะไรอีก มองเฉินเยี่ยนเขาก็ยิ้ม ไม่ได้เจอเฉินเยี่ยนมาสองเดือนกว่าแล้ว เขาคิดถึงเธอ


“พี่ จวนเอ๋อร์ล่ะ ทำไมไม่เห็นเธอ?”


เจ้าอ้วนยื่นหน้าออกไปมองไม่หยุด ไม่เห็นหวางจวน เขาใจร้อนถามเฉินเยี่ยน


“เธออยู่ที่โรงงานไม่ได้กลับมา เจ้าอ้วน เธอคิดจะแต่งงานกับจวนเอ๋อร์จริงหรือ? อยากให้รู้ว่าฝ่ายพ่อแม่ของจวนเอ๋อร์ไม่ใช่ง่ายๆ นะพวกเขาอาจจะก่อเรื่อง หลังจากนี้อาจจะไม่มีคนบ้านจวนเอ๋อร์มาช่วยนะ เธอจะทำดีกับเธอหรือเปล่า?”


เฉินเยี่ยนถามเจ้าอ้วนจริงจัง


“พี่สาววางใจได้ ใครกล้ามารังแกจวนเอ๋อร์ ข้าจะตบหน้าขู่เธอให้ตาย! ถ้าพี่ชายกับพี่สะใภ้เธออะไรนั่นกล้ามาก่อเรื่อง ดูสิถ้าข้าไม่จับพวกนั้นมาโยนทิ้ง พี่ใหญ่พูดแล้ว รอให้ข้าตีพวกนั้นจนสงบก่อน ให้พวกเขาเลิกโวยวาย ถ้าจวนเอ๋อร์จะอยู่กับข้า ข้าจะไม่พูดอะไรเลย ข้าไม่กินได้ แต่จะต้องให้เธอกินอิ่ม พี่ใหญ่เอาเงินให้ข้า ข้าจะให้จวนเอ๋อร์ทั้งหมดข้าให้จวนเอ๋อร์กินแป้งหมั่นโถวขาว ข้ากินซุปก็ได้”


เจ้าอ้วนพูดด้วยความอาจหาญและจริงใจ คิดถึงตอนที่ซินห้าวถามเขา เขาไม่อยากจะเชื่อเลย หวางจวนเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้กลับมาชอบเขา? นี่สวรรค์เมตตาให้รางวัลเขาใช่ไหม เขาพบว่าหลังจากเขาอยู่กับซินห้าวเขาโชคดีขึ้น ไม่เพียงแต่ได้กินอิ่ม ไม่ต้องมีเรื่องทะเลาะกันแล้ว เมื่อก่อนเขายังคิดเลยว่าชีวิตนี้ไม่รู้จะหาภรรยาได้ไหม ตอนนี้กลับมีภรรยาที่ดีขนาดนี้ เขาดีใจจนไม่รู้ทิศแล้ว


ซินห้าวก็เล่าเรื่องก่อนหน้านี้ของหวางจวนให้เขาฟังหมดแล้ว เขาไม่โทษหวางจวน ยังสาบานในใจ รอหลังจากไอ้ชั่วนั่นออกจากคุกเมื่อไร เขาจะต้องไปต่อยมันสักชุดระบายความแค้นให้หวางจวน ถ้าคนบ้านมันกล้ามาหาเรื่องหวางจวนอีก เขาจะต้องปกป้องหวางจวน อีกหน่อยเขาจะไม่ยอมให้หวางจวนโดนคนรังแกอีก


ตอนนั้นเขาอยากให้ซินห้าวมาสู่ขอ แต่ซินห้าวบอกไม่รีบ ตอนนี้เขาไม่มีอะไร ถ้าจะสู่ขอ ยังไงก็ต้องมีที่อยู่ ดังนั้นซินห้าวเลยช่วยเขา ซ่อมบ้านที่เขาอยู่แต่ก่อนให้จนสามารถอยู่ได้ และจัดแจงของอีกหน่อย ก็เข้าไปอยู่ได้แล้ว เขาจะสู่ขอภรรยา ไม่ใช่ให้ภรรยามาลำบากกับเขา เขาคิดว่าซินห้าวทำถูกต้อง คิดถูกที่ติดตามพี่ชายคนนี้


“หวางจวนโดนข่มขืนมา เธอไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์ตั้งแต่แรกแล้ว เสียดายที่เห็นเธอเป็นของล้ำค่า แล้วยังจะสู่ขอเธอ ไม่กลัวคนหัวเราะเยาะจนฟันหลุดเอาเหรอ”


เฉินเวยโมโหสุดๆ ซินห้าวก็ไม่สนแล้ว ผู้ชายที่เธอชอบ จะว่าก็ว่าเธอไป อีกหน่อยเขาจะต้องเปลี่ยนมุมมองกับเธอ แต่ไอ้โง่นี่มีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอ? จะมาสู่ขอคนที่โดนย่ำยีมาเป็นภรรยา สวมเขาให้เขายังเห็นเป็นของล้ำค่า เธอไม่หัวเราะเยาะเขาจะไปหัวเราะเยาะใคร!


“เสี่ยวเวย พูดอะไร นี่ใช่เรื่องที่ลูกควรพูดเหรอ”


เฉินจงหน้าเคร่งขรึม ส่งเสียงเตือนเฉินเวย


หวางนิวก็ตีเฉินเวยทีหนึ่ง ไม่ว่ายังไงหวางจวนก็นิสัยดี เป็นเหมือนคนในครอบครัว เธอก็ปฏิบัติกับหวางจวนเป็นเหมือนลูกสาว มีคนมาสู่ขอเธอ เธอดีใจ เฉินเวยพูดแบบนี้ เกินไปแล้ว


แววตาเฉินเยี่ยนเย็นชาขึ้นมา แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เธอมองเจ้าอ้วน เธออยากรู้ว่าเจ้าอ้วนจะทำยังไง


“เจ้าดูเหมือนคน แต่เจ้าไม่พูดจาภาษาคน มิน่าพี่ใหญ่ข้าถึงบอกว่าคนบ้านเฉินมีเจ้าคนเดียวที่ใช้ไม่ได้ ให้ข้าอย่าไปสนใจเจ้า ดูเหมือนพี่ใหญ่พูดไม่ผิดสักนิดเดียว! หวางจวนโดนคนรังแก ข้ายิ่งควรสงสารเธอ ในใจข้า หวางจวนบริสุทธิ์กว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า หัวเราะเยาะจนฟันหลุด? ถ้าขอคนอย่างเจ้าแต่งงานจะโดนคนหัวเราะเยาะจนฟันหลุดมากกว่า ข้าเห็นหวางจวนเป็นของล้ำค่า ข้าจะทำดีกับเธอ เจ้าจะทำไม? ถ้าเจ้ามาว่าหวางจวนของข้าไม่ดีอีก ระวังข้าจะตบเจ้า”


เจ้าอ้วนพูดจบยังจ้องเฉินเวยตาเขม็งและเงื้อมือเขาออกมา


เฉินเวยโดนเจ้าอ้วนว่าจนน้ำตาร่วง ยิ่งไปกว่านั้นคือโกรธซินห้าว เขามาว่าตัวเองได้ยังไง? ตัวเองรักเขา เขาก็ควรรักเธอเหมือนกันไม่ใช่หรือ? ทำไมบอกว่ามีเธอคนเดียวในบ้านเฉินใช้ไม่ได้ ไม่! เธอไม่เชื่อ


สายตาเฉินเวยมองซินห้าวด้วยความวิงวอน ซินห้าวทำเหมือนไม่เห็น สายตาเขาจับจ้องอยู่แต่เฉินเยี่ยน


“เจ้าอ้วน ขอโทษด้วย ข้าสั่งสอนไม่ดีเอง เฉินเวยพูดจาแรงเกินไป จวนเอ๋อร์เป็นเด็กดี เจ้าทำดีกับเธอแบบนี้ ข้าก็รู้สึกว่าเจ้าเป็นคนดี รอข้าไปพาจวนเอ๋อร์กลับมาก่อน ถามจวนเอ๋อร์ ถ้าเธอไม่ติดอะไร ก็ให้พวกเธอตกลงหมั้นหมายกัน”


เฉินจงคิดว่าเจ้าอ้วนก็ไม่แย่ ถึงแม้จะทึ่มหน่อย แต่ขอแค่ทำดีกับหวางจวน นั่นก็เป็นเรื่องดี


“ได้ ได้ คุณลุงรีบไปรีบมาเถอะ ข้ารออยู่”


เจ้าอ้วนพยักหน้าติดต่อกัน


เฉินจงขี่จักรยานไปโรงงานเรียกหวางจวนมา นี่เป็นเรื่องใหญ่ของหวางจวน ต้องให้หวางจวนตกลงด้วยตัวเอง


“คุณป้า ผมขอคุยกับเยี่ยนจื่อหน่อยได้ไหมครับ?”


ซินห้าวถามหวางนิวที่กำลังปลอบเฉินเวยอยู่


“คุยสิ คุยสิ”


เดิมทีหวางนิวคิดจะถามซินห้าวว่าเมื่อไรจะมาสู่ขอ แต่เฉินเวยเสียใจอยู่ ก่อนหน้านี้เฉินเวยพูดจาแบบนั้น เธอรู้สึกไม่ดีมาก เลยไม่กล้าถาม


เฉินเยี่ยนและซินห้าวเข้าไปในห้องเฉินเยี่ยน เฉินเวยมองอย่างอิจฉา อยากจะตามไป แต่เจ้าอ้วนเหมือนตึกทำจากเหล็กยืนอยู่หน้าเธอ ไม่ให้เธอไป หวางนิวก็ดึงมือเธอไว้ มองเธออย่างไม่พอใจ


เฉินเวยเกลียดจริงๆ สองคนนี้ทำไมมาขัดแบบนี้ ทำไมต้องกันเธอด้วย ไม่ง่ายเลยกว่าซินห้าวจะมา ซินห้าวของเธอ เวลานี้อยู่ในห้องเพียงลำพังกับเฉินเยี่ยน ต้องเป็นเฉินเยี่ยนที่อ่อยเขาทำเรื่องไม่ดีงามแน่


สายตาเฉินเวยจะลุกเป็นไฟแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิด อยู่ที่บ้านเฉิน คนที่นี่อยู่กันหมด เฉินเยี่ยนกับซินห้าวจะทำเรื่องไม่ดีไม่งามอะไรได้?


เข้ามาในห้อง ซินห้าวจับเฉินเยี่ยนกอด เฉินเยี่ยนไม่กล้าร้อง เธอรู้ว่าซินห้าวไม่ทำเรื่องที่เกินไปกว่านี้ ซินห้าวแค่กอดเธอเฉยๆ จริงด้วย ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย


“นี่ให้คุณ”


ซินห้าวยัดตั๋วสองใบใส่มือเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนมอง เป็นตั๋วจักรยาน


“เอามาจากไหน?”


เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าซินห้าวจะเอาตั๋วรถจักรยานให้เธอได้ แล้วยังสองใบอีก


“คุณจะเอาไปเป็นรางวัลให้คนงานไม่ใช่หรือ ตอนแรกผมเตรียมไว้ให้ผ่านช่วงนี้ไปแล้วจะซื้อรถจักรยานให้คุณ แต่ได้ยินมาว่าคุณมีหนึ่งคันแล้ว ผมเอาตั๋วให้คุณก็ได้ ดูสิว่าคุณชอบแบบไหน คุณไปเลือกเองเลย เหลืออีกหนึ่งใบ คุณเอาไปเป็นรางวัลให้คนงานก็ได้ เอาไว้ให้ที่บ้านคุณใช้ก็ได้ แล้วแต่คุณ วันหลังถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกผม ผมจะหาให้คุณ”


ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน สายตาอ่อนโยน เดิมทีเขาคิดจะจัดการเรื่องบ้านแล้วค่อยซื้อจักรยานมาให้เฉินเยี่ยน แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซื้อก่อนแล้ว เขาเลยเอาตั๋วรถให้เฉินเยี่ยนก็พอ ส่วนเรื่องอื่น เขาก็จะจัดการให้ รอตอนเขากับเฉินเยี่ยนแต่งงานกัน รถจักรยาน จักรเย็บผ้า วิทยุ โทรทัศน์ จะไม่ให้ขาดเลย เขาจะให้เฉินเยี่ยนทุกอย่าง


ตอนที่ 190: น้ำตาแห่งความยินดี

โดย

Ink Stone_Romance

“ขอบคุณค่ะ ฉันกำลังอยากได้อยู่พอดีเลย”


เฉินเยี่ยนขอบคุณซินห้าว ตอนนี้ซื้ออะไรก็จำเป็นต้องใช้ตั๋ว ไม่มีตั๋วมีเงินอยากซื้อก็ซื้อไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาฝั่งนี้มีตลาดที่พวกเกษตรกรตั้งกันขึ้นมาเอง ซื้อของในตลาดไม่จำเป็นต้องใช้ตั๋ว และสามารถเอาของมาแลกได้ ถือว่าได้ผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการ แต่ของที่ตลาดมีไม่มาก อยากจะซื้อของดี ของชิ้นใหญ่ จำเป็นต้องไปสหกรณ์ นั่นก็ต้องใช้ตั๋ว


ตอนนี้ที่บ้านเธอไม่ขาดตั๋ว แต่พวกตั๋วสินค้าที่ขาดแคลนในตลาด เช่นตั๋วจักรยาน ตั๋วทีวี นั่นจำเป็นต้องใช้เส้นสาย มีเส้นก็สามารถเอามาได้


“เกรงใจผมทำไม!”


ซินห้าวลูบผมเฉินเยี่ยน แล้วพูดขึ้นมาอีก “ผมซื้อบ้านในเมืองแล้ว ในอำเภอก็ดูที่ไว้แล้ว ในหมู่บ้านปู่ผมบอกว่าให้ผมไปหัวหน้ากลุ่มแบ่งเขตที่ดิน ไม่มีปัญหา จัดการบ้านในเมืองและในอำเภอสักหน่อย ผมว่าอีกสองสามเดือนก็เสร็จ ครึ่งปีหลังผมจะได้มาสู่ขอคุณแล้ว เยี่ยนจื่อ คุณดีใจไหม?”


ซินห้าวพูดมาจนสุดท้ายสายตาเขามีความคาดหวัง เหมือนเด็กที่ทำอะไรแล้วต้องการคำชมเชยและการยอมรับ


“ดีใจ ซินห้าว ฉันดีใจค่ะ”


เฉินเยี่ยนเงยหน้ามองซินห้าว ยิ้มออกมาโดยไม่ลังเลเลย ในสายตาของซินห้าวเธอดูเคลิบเคลิ้ม ชาติที่แล้วเธอแทบจะไม่แสดงความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองออกมา เธอคิดว่าไม่จำเป็น แต่เธอรู้แล้วว่าเธอผิด เหมือนตอนนี้ เธอแสดงความรู้สึกตัวเองออกมา คำตอบเธอทำให้สายตาของซินห้าวยิ่งอ่อนโยน ทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้ยุ่งอยู่เพียงลำพัง สิ่งที่เขาทุ่มเทลงไปมีรางวัลตอบแทน เธอและเขามีใจให้เหมือนกัน


หลังซินห้าวได้ยินก็พอใจเป็นอย่างมาก ออกแรงกอดเฉินเยี่ยนแน่น แอบสาบานในใจ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เขาจะต้องโน้มน้าวแม่เขาให้ได้ จะต้องแต่งงานกับเฉินเยี่ยน


จนเฉินเยี่ยนและซินห้าวไปที่โถงบ้าน สายตาเฉินเวยมองไปที่เฉินเยี่ยนดั่งไฟเผาหน้าเฉินเยี่ยนจนเป็นรู เธออยากจะเข้าไปลากเฉินเยี่ยนออกมา แล้วตัวเองยืนอยู่ข้างซินห้าวแทน เพราะมีเพียงเธอที่คู่ควรกับซินห้าว


“อาห้าว เธอกับเยี่ยนจื่อคุยกันเสร็จแล้วหรือ? เมื่อไรจะมาสู่ขอล่ะ?”


หวางนิวทนไม่ไหว ในที่สุดก็ถามขึ้นมา


“คุณป้า อีกเดือนสองเดือนนี้ผมจะมาสู่ขอ คุณป้าวางใจได้ครับ”


ซินห้าวไม่ได้เจาะจงวันที่ แต่ไม่ได้ทำให้หวางนิวหมดหวัง


“งั้นก็ดี ป้าจะรอ ใช่แล้ว อาห้าว โรงงานเธอคือโรงงานอะไร อยู่ที่ไหนล่ะ”


หวางนิวถามต่ออีก


เฉินเยี่ยนเหลือบมองเฉินเวย เกรงว่าเฉินเวยอยากจะรู้ล่ะสิ


ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน


“แม่ โรงงานซินห้าวบอกไปแม่ก็ไม่รู้จัก แม่ไม่ต้องถามหรอก รอให้หมั้นหมายเรียบร้อยค่อยว่ากัน ไม่อย่างนั้นเหมือนพวกเราจะวางแผนอะไรกับเขาเลย”


เฉินเยี่ยนเอ่ยปากพูดแล้ว เธอไม่ให้ซินห้าวพูด เฉินเวยจะได้ไม่ต้องมายุ่มย่าม


หวางนิวพยักหน้า


เฉินเวยรีบดึงเสื้อหวางนิว แต่หวางนิวไม่สนใจเธอ มองแต่ซินห้าว ยิ่งมองก็ยิ่งดีใจ


ตอนที่เฉินจงพาหวางจวนกลับมาก็เห็นภรรยาตัวเองมองซินห้าวแล้วยิ้มออกมา เขาส่ายหน้าทำอะไรไม่ได้รู้ว่าภรรยามองเขาแบบแม่ยายมองลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบใจ


จนเจ้าอ้วนบอกเรื่องขอแต่งงานกับหวางจวนแล้ว หวางจวนแสดงความตกใจปนดีใจ จากนั้นนัยน์ตาเธอแดง แล้วส่ายหน้า พูดขึ้นมา “ฉันไม่ตกลง ฉันไม่แต่ง”


จากนั้นเธอวิ่งกลับเข้าไปในห้อง


คนในบ้านอึ้งกันหมด คิดไม่ถึงว่าหวางจวนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เฉินเวยกลับถอนหายใจยาวออกมา มองเจ้าอ้วนอย่างสะใจที่โดนปฏิเสธ สมน้ำหน้า! เป็นแบบนี้ทั้งชีวิตก็ไม่ได้แต่งงานหรอก


เจ้าอ้วนเบิ่งตาโต ถูมือไปมา แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ได้แต่มองซินห้าว ซินห้าวก็มองเฉินเยี่ยน


“ฉันไปดูให้ พวกคุณนั่งกันก่อน”


เฉินเยี่ยนบอกให้ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจ แล้วเธอก็เข้าไปในห้องหวางจวน


หวางจวนกำลังร้องไห้


“จวนเอ๋อร์ เธอไม่ได้ชอบเจ้าอ้วน?”


เฉินเยี่ยนนั่งลงข้างหวางจวน


“ไม่ใช่ พี่ เจ้าอ้วนเขาเป็นคนดี ฉันทำร้ายเขาไม่ได้ ฉันเป็นแบบนี้ เขาสู่ขอไป คนอื่นจะหัวเราะเยาะเขา ฉันทำให้เขาขายหน้าไม่ได้”


หวางจวนรีบอธิบาย เสียงสั่นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าเธอเสียใจ


“มีอะไรน่าขายหน้า? เธอรู้มาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือว่าตัวเองเป็นคนใช้ชีวิต ตอนที่เธอยังไม่กลับมาฉันถามเจ้าอ้วนแล้ว เธอรู้ไหมว่าเขาพูดยังไง?”


เฉินเยี่ยนเพิ่งรู้ว่าหวางจวนยังไม่หลุดพ้นจากปมในจิตใจ


หวางจวนเงยหน้ามองเฉินเยี่ยน ใบหน้ามีน้ำตาอยู่ แต่แววตาข้างในกลับมีประกายแห่งความหวัง ชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงานจริงๆ แต่กลัวคนรังเกียจเธอ


เฉินเยี่ยนเล่าคำพูดของเจ้าอ้วนให้หวางจวนฟัง หวางจวนปิดหน้าร้องไห้


“จวนเอ๋อร์ ถ้าเธอชอบเจ้าอ้วน เธอก็ต้องมีความกล้า หาคนที่ใช่มันไม่ง่าย ชีวิตเป็นของตัวเอง ขอแค่เธอดีกับเจ้าอ้วน ไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไง ทั้งหมู่บ้านนี้ คิดว่าอีกหน่อยคงไม่ได้เจอใครที่จริงใจกับเธอแบบนี้อีกแล้ว ถ้าใจเธอไม่ได้มีเขา พี่ก็จะไม่พูดมาก พวกเราไปตอบเขากัน”


เฉินเยี่ยนคิดว่าพูดโน้มน้าวมากพอแล้ว หวางจวนน่าจะเข้าใจ


“อย่า พี่ ฉัน ใจฉันมีเขาอยู่”


หวางจวนหน้าแดงเล็กน้อย แต่ยังพูดออกมา


“ได้ งั้นเธอไปบอกเจ้าอ้วนด้วยตัวเอง เขาเป็นคนตรงๆ ถ้าเธอไม่บอกเขาเอง ฉันกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ”


เฉินเยี่ยนตบบ่าหวางจวน เธอหวังจะให้หวางจวนได้มีความสุข


หวางจวนดูเลิ่กลั่กก่อน แต่ต่อมาก็พยักหน้า หลังเธอพยักหน้า สีหน้าเธอก็ดูมั่นใจขึ้นมา หลังตั้งตรง เธอกำหมัด ความสุขอยู่ในมือเธอ เธอต้องไขว่คว้าด้วยตัวเอง


หวางจวนตามเฉินเยี่ยนออกมาจากห้องมาที่โถงบ้าน


“เจ้าอ้วน”


หวางจวนตะโกนเรียก น้ำตากลั้นไม่อยู่ร่วงลงมา


“จวนเอ๋อร์ อย่าร้องไห้ ฉันสงสาร ถ้าเธอชอบไม่ชอบฉัน เธอแค่บอกฉันมา อย่าทำร้ายตัวเอง อีกหน่อยฉันจะเป็นเธอเป็นแค่น้องสาว ใครมารังแก ฉันก็จะช่วยเธอ”


เจ้าอ้วนมองหวางจวนด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย สีหน้ายังมีความสงสาร


หวางจวนทนไม่ไหวสะอื้นออกมา มีคนเป็นห่วงเธอ ความรู้สึกที่ออกหน้าแทนเธอนี้ช่างดีจริง


“เจ้าอ้วน ฉันตกลง ฉันไม่ได้ไม่ชอบเธอ ให้ชัดเจน


“ฉันจะรังเกียจเธอได้ยังไง ฉันคิดว่าเธอดีมาก ดีเหมือนพี่เยี่ยนจื่อเลย”


เจ้าอ้วนพูดจบยังหัวเราะออกมาอย่างจริงใจ


หวางจวนเห็นเขาแบบนี้แล้วอดขำไม่ได้ ยิ้มทั้งน้ำตา เป็นยิ้มแห่งความสุข


“ดี พวกเธอสองคนตกลงกันได้ก็ดีแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นอันตกลง เรื่องต่อไปพวกเราคุยกันแล้ว ฝั่งเจ้าอ้วนไม่มีใคร ไม่ได้เรียกร้องอะไร มีเพียงแต่ฝั่งหวางจวน จะไปบอกฝั่งบ้านเธอสักหน่อยไหม?”


หวางนิวดีใจกับพวกเขา แต่คิดถึงบ้านหวาง เธอก็เป็นกังวล เธอคิดว่าฝั่งนั้นต้องก่อเรื่องแน่


“คุณป้า ฝั่งนั้นหนูไปพูดเอง แต่ คุณป้าคะ ถึงเวลาหนูขอแต่งงานที่นี่ได้หรือไม่คะ?”


หวางจวนคิดว่าที่นี่เป็นบ้านมาตั้งนานแล้ว


“ทำไมจะไม่ได้ เธอก็เป็นลูกสาวของป้า วางใจได้ แค่เธอยอม ก็แต่งที่นี่ล่ะ ป้าดีใจนะ”


หวางนิวตอบตกลงอย่างดีอกดีใจ


เฉินจงก็ยิ้มพยักหน้า หวางจวนน่าจะแต่งงานโดยเร็วที่สุด เขาจะส่งเจ้าสาวเสมือนเธอเป็นลูกสาว


หวางจวนมองเจ้าอ้วน มองคนบ้านเฉิน เธอรู้สึกได้ถึงความสุขอย่างไม่เคยมีมาก่อน ที่แท้หลุดพ้นจากเรื่องนั้น เธอก็มีวันที่มีความสุขเหมือนกัน เธอไม่ต้องไปอิจฉาเยี่ยนจื่อและซินห้าวแล้ว เธอก็มีคนของเธอแล้ว ชีวิตนี้ สวรรค์มีเมตตากับเธออยู่


ตอนที่ 191: เตือนครั้งสุดท้าย

โดย

Ink Stone_Romance

ส่งซินห้าวและเจ้าอ้วนแล้ว หวางจวนตาแดงก่ำจับมือเฉินเยี่ยนไม่ปล่อยเลย ถ้าไม่มีเฉินเยี่ยน ไม่แน่ตอนนี้เธออาจจะกลายเป็นแค่กองกระดูกไปแล้ว จะมีความสุขแบบนี้ที่ไหน


“ต้องเตรียมงานแต่งลูกสาวแล้ว จวนเอ๋อร์วางใจได้ ป้าจะเตรียมข้าวของเครื่องใช้ไว้ให้หลายชิ้น เตรียมชุดใหม่ให้หลายชุด ต้องไม่ให้ใครมาว่าเราได้”


หวางนิวตบหวางจวนเบาๆ เธอจะให้หวางจวนแต่งงานอย่างมีหน้ามีตา


“ขอบคุณค่ะคุณป้า”


หวางจวนขอบคุณด้วยความจริงใจ


เฉินเยี่ยนก็ดีใจ หวางจวนมีความสุขเป็นเรื่องที่เธอรอคอยมาตลอด ถึงแม้ว่าในสายตาคนมากมายเจ้าอ้วนจะไม่ใช่สามีที่ดี แต่เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเจ้าอ้วนดีกว่าผู้ชายหลายคนนัก ขอแค่เขารักและปกป้องหวางจวน ทำดีกับหวางจวน ยังจะต้องการอะไรอีก?


“พี่ ขอฉันคุยกับพี่หน่อยได้ไหม?”


ฝั่งเฉินเวยเรียกเฉินเยี่ยน ก่อนหน้านี้ตอนที่ซินห้าวไปเธออยากดึงรั้งซินห้าวไว้มาก แต่เธอไม่กล้า เธอไม่อยากให้แขนบาดเจ็บอีก ดังนั้นเธอเลยได้แต่อดกลั้นไว้


“พูดมาสิ”


เฉินเยี่ยนรู้ว่าเฉินเวยคิดอะไร


“เข้าไปคุยกันในห้องพี่แล้วกัน พี่ให้ซินห้าวเข้าห้องพี่ คงจะไม่ห้ามให้ฉันเข้าไปหรอกนะ?”


เฉินเวยคิดถึงซินห้าวเข้าไปในห้องเฉินเยี่ยน เธอก็โมโหจนกันฟันกรอด


“ฉันไม่อยากให้เธอเข้าไป”


เฉินเยี่ยนไม่ไว้หน้าเฉินเวย


“ดูสองพี่น้องคนนี้สิ ทะเลาะอะไรกันอีกแล้ว เหมือนคู่แค้นกันมาก่อน คุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง”


หวางนิวจ้องลูกสาวทั้งสองคน


เฉินเวยยิ้ม แล้วเข้าไปดึงแขนเฉินเยี่ยน แสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อฟัง เฉินเยี่ยนหลบเล็กน้อย เธอไม่อยากให้เฉินเวยมาแตะต้องตัวเธอ


เฉินจงและหวางจวนกลับไปโรงงานอีกครั้ง ยังมีงานต้องทำ


หวางนิวอยากจะยืนอยู่หน้าประตูแอบฟังลูกสาวสองคนคุยกัน ว่าตกลงมีเรื่องขัดแย้งอะไรกันแน่ แต่เธอเพิ่งเดินมาหน้าประตู เฉินเวยก็เปิดประตูออกมา หวางนิวเก้อเขินแล้วบอกให้พวกเธอคุยกันดีๆ จากนั้นเดินออกไป


“พี่”


เฉินเวยมองที่ประตูไม่มีคนแล้ว ค่อยหันกลับไปเผชิญหน้ากับเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนกอดอกมองเธอ


“เมื่อกี้เธอกับซินห้าวทำอะไรกัน?”


เฉินเวยถามเฉินเยี่ยน


“ฉันกับซินห้าวทำอะไรทำไมต้องบอกเธอด้วย? เธอสนิทกับฉัน?”


เฉินเยี่ยนคิดว่าน่าขำ เฉินเวยมีสิทธิ์อะไรมาถามเธอ


“เธอไม่ต้องบอกฉันก็รู้ พวกเธอต้องทำเรื่องอย่างว่าแน่นอน เฉินเยี่ยน เธอเป็นคนสูงส่งไม่ใช่หรือ? เธอหัวโบราณไม่ใช่หรือ? อวี๋เหวยหมินโอบเธอต่อหน้าฉัน จูบเธอ เธอยังไม่ยอมเลย เขาเป็นถึงสามีเธอนะ ตอนนี้เธอทนไม่ไหวจะหาผู้ชายแล้ว ทำไมหน้าด้านแบบนี้!”


เฉินเวยกัดฟันพูด เพราะเฉินเยี่ยนแย่งผู้ชายรูปหล่อของเธอไป


“ฉันหน้าด้าน? หึหึ เฉินเวย ฉันตลกจริงๆ ฉันจะหัวโบราณหรือก๋ากั่นมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย ฉันชอบซินห้าว ฉันยินดีที่จะจูบเร่าร้อนกับซินห้าว ไปขัดอะไรเธอ? ฉันไม่เข้าใจ คนที่แย่งผู้ชายคนอื่น ทำไมเธอถึงยังมายืนอยู่แบบนี้ได้!”


เฉินเยี่ยนโกรธมากแล้วหัวเราะ สมองเฉินเวยคนนี้ท่าจะกลวง


“ฉันทำอะไรไม่ได้ เฉินเยี่ยน ฉันบอกเธอให้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะพูดดีกับเธอแล้ว เธอฟังให้ดี ฉันจะไม่ยอมให้เธอแต่งงานกับซินห้าว เธออย่าฝันไปเลย ซินห้าวเป็นของฉัน ตอนนี้เขาโดนเธอหลอกอยู่ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะเห็นธาตุแท้เธอ ถ้าเธอไม่เลิกกับเขา เธอต้องไม่ตายดีแน่!”


เฉินเวยเริ่มบ้า


“เฉินเวย ระหว่างพวกเรายังมีอะไรกันต้องคุยอีก? ในเมื่อเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็จะเตือนเธอเหมือนกัน ถ้าเธอลงมือกับซินห้าว ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่”


เฉินเยี่ยนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน จะส่งเฉินเวยออกไป


“รีบร้อน? วางใจได้ ซินห้าวหล่อขนาดนี้ ฉันจะไม่แตะต้องเขา ฉันทำไม่ลง แต่เฉินเยี่ยน อย่างที่ฉันบอก ถ้าเธอกล้าตอบตกลงแต่งงานกับซินห้าว ฉันจะทำให้เธอเสียใจ”


เฉินเวยหัวเราะขึ้นมา เธอต้องการจะเห็นเฉินเยี่ยนร้อนรน แบบนี้ถึงค่อยสะใจเธอ


“บ้า”


เฉินเยี่ยนคิดว่าเฉินเวยบ้าไปแล้ว


“ใช่แล้ว ฉันเป็นคนบ้า โดนเธอบีบจนเป็นบ้า เธอรู้อยู่แล้วว่าฉันชอบซินห้าว เธอไม่ให้เขากับฉัน เป็นเธอที่บังคับฉัน เฉินเยี่ยน เธอจะโทษฉันไม่ได้”


เฉินเวยเข้ามาใกล้เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนแย่งของเธอไป ดังนั้นโทษเธอไม่ได้


“ฉันจะรอเธอ คนบ้า”


เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะคุยกับเฉินเวยแล้ว ถ้าเฉินเวยเป็นคนที่มีระบบความคิดที่ถูกต้องก็จะไม่ทำเรื่องแบบนี้


“ฉันจะถามเธอครั้งสุดท้าย เธอจะไม่ให้ซินห้าวกับฉันใช่ไหม?”


เฉินเวยไม่พอใจเดินออกไป จุดประสงค์ของเธอคือซินห้าว ไม่ได้จะทำอะไรกับเฉินเยี่ยน


“เขาไม่ใช่สิ่งของ เขาไม่มีทางชอบเธอ ตัดใจเสียเถอะ ไปหาอวี๋เหวยหมินของเธอไป”


เฉินเยี่ยนไม่มีอะไรจะพูดกับเฉินเวยแล้ว


“อวี๋เหวยหมิน เขามันตัวอะไร เขายังเทียบกับส้นรองเท้าซินห้าวไม่ได้เลย! ยังคิดจะให้ฉันเสียตัวให้เขา ร่างกายฉันเป็นของซินห้าวคนเดียวเท่านั้น เขาต้องการ แต่ไม่ดูเลยว่าเขาเป็นใคร ใช่แล้ว เฉินเยี่ยน ครั้งแรกของเธอให้กับอวี๋เหวยหมินใช่ไหม? เธอว่าถ้าซินห้าวรู้ เขาจะเป็นยังไง?”


เฉินเวยยิ้มออกมา ทำหน้ายั่วยุ เธอไม่เชื่อว่าเฉินเยี่ยนจะไม่ร้อนรน


“เธอกล้า!”


เฉินเยี่ยนคว้ามือเฉินเวยไว้ สายตาเย็นชา เฉินเวยมาหาเธอ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่เฉินเวยต้องการพูดกับเธอ


“ฉันมีอะไรไม่กล้า? เฉินเยี่ยน เธอบีบฉัน ฉันกล้าทำทุกอย่าง! เธอได้ดีขนาดนี้ แต่กลับเหยียบย่ำฉันจมดิน ถือดียังไง! ก่อนหน้านี้เธอคอยปรนนิบัติฉัน ทำของกินให้ฉัน เก็บกวาดบ้าน ช่วยฉันทำทุกอย่าง เธอคือสาวใช้ของฉัน ตอนนี้เธอต้องการเป็นนาย มาเหยียบย่ำฉัน งั้นฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว เฉินเยี่ยน ฉันบอกเธอให้ อย่าเห็นว่าตอนนี้ซินห้าวพูดว่าเกลียดฉันมากแค่ไหน ถ้าแค่ฉันอกเขา ว่าเธอมอบครั้งแรกให้อวี๋เหวยหมิน ชาติที่แล้ว เธอนอนกับอวี๋เหวยหมินมาก่อน เธอคิดว่าซินห้าวจะไม่รังเกียจเธอเหรอ? เฉินเยี่ยน ขอแค่ซินห้าวอยู่ข้างฉัน เขาก็จะรู้ว่าฉันดี ถึงตอนนั้นเขาจะไม่ต้องการเธออีกแล้ว ดังนั้นเธอจะไม่มีวันเอาชนะฉันได้”


ใบหน้าเฉินเวยมีแววบ้าคลั่ง ความคิดเธอสุดโต่ง ในความคิดเธอ ของที่ดีที่สุดต้องเป็นของเธอ ไม่ใช่ของเฉินเยี่ยน


“ถ้าอยากตายเธอก็ไปบอกเลย เฉินเวย ฉันบอกเธอนะ ฉันไม่กลัวเรื่องนี้”


อยู่ๆ เฉินเยี่ยนไม่โกรธแล้ว ยังไม่ต้องพูดว่าซินห้าวจะเชื่อหรือไม่เชื่อ และเธอก็ไม่เชื่อว่าเฉินเวยจะกล้าพูด


“เรื่องอวี๋เหวยหมินเธอเป็นคนหาคนมาทำให้เสียเรื่องใช่ไหม? ทำให้เขาทำธุรกิจไม่สำเร็จ หาเงินไม่ได้?”


อยู่ๆ เฉินเวยก็เปลี่ยนเรื่องพูด


“อะไร?”


เฉินเยี่ยนโดนเธอเปลี่ยนหัวข้อก็อึ้งไป นี่อยู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมา เมื่อกี้กำลังพูดเรื่องอื่นอยู่เลย ทำไมถึงมาพูดเรื่องอวี๋เหวยหมินทำธุรกิจอะไรนะ ทำไมเธอไม่รู้เรื่อง? ช่วงนี้เธอเอาแต่ยุ่งเรื่องที่โรงงาน


“อย่ามาแกล้งเลย นอกจากเธอแล้วจะมีใคร ช่วงนี้เขาโดนคนทำเสียเรื่องมาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกยังบอกว่าบังเอิญได้ ครั้งที่สองมีคนตั้งใจทำเขาเสียเรื่อง นอกจากเธอแล้ว เขาไม่มีศัตรูคนอื่น ต้องเป็นเธอไปหาคนอื่นมาทำ! เฉินเยี่ยน ฉันไม่สนใจเรื่องที่เธอทำไม่ดีกับอวี๋เหวยหมิน แต่อวี๋เหวยหมินไม่มีทางไม่สนใจ ถึงเวลานั้นเธอรอดูเขามาคิดบัญชีกับเธอเถอะ!”


เฉินเวยยิ้มด้วยความเย็นชา เธอคิดว่าต้องเป็นเฉินเยี่ยนแน่นอน เฉินเยี่ยนไม่อยากให้อวี๋เหวยหมินเจริญก้าวหน้า ดังนั้นเลยขัดขาอวี๋เหวยหมิย ให้อวี๋เหวยหมยทำธุรกิจไม่สำเร็จ แล้วยังต้องเสียเงืนอีก แบบนี้อวี๋เหวยหมินยิ่งไม่พอใจเฉินเยี่ยน ให้เขาไม่มีความสามารถ เฉินเยี่ยนถึงค่อยวางใจ


“ฉันจะรอเขา และรอเธอด้วย!”


เฉินเยี่ยนก็ไม่อธิบาย เธอคิดถึงซินห้าว ซินห้าวบอกว่าจะไม่ใช่อวี๋เหวยหมินอยู่อย่างเป็นสุข ดูเหมือนซินห้าวจะลงมือจัดการอวี๋เหวยหมิน เธอเตรียมรับมือไว้ เธอไม่กลัวอวี๋เหวยหมิน


“หึ”


เฉินเวยหึขึ้นมาตอนสุดท้ายแล้วเดินออกไป วันนี้ที่เธอมาหาเฉินเยี่ยนก็เพื่อจะเตือนเธอ นี่เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเฉินเยี่ยนไม่เชื่อฟังเธอ งั้นก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจแล้วกัน


ตอนที่ 192: เธอเป็นใคร?

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเวยออกไปแล้ว เฉินเยี่ยนไม่ได้ไปโรงงาน ตอนนี้โรงงานเดินได้อย่างปกติแล้ว เฉินจงสามารถรับผิดชอบได้ เธอไม่ต้องกังวลใจ


เธอคิดถึงเฉินเวย ถ้าเฉินเวยไม่ได้อาศัยอยู่ในร่างน้องสาวเธอก็ดี เธอจะทำยังไงกับเฉินเวยก็ยังพูดอธิบายได้


แต่เฉินเวยอยู่ในร่างน้องสาวเธอ เธอทำร้ายเฉินเวย หวางนิวก็ไม่ยอม


เดิมทีอยากจะให้อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยกัดกันเอง แต่คิดไม่ถึงว่าอวี๋เหวยหมินกลับโดนเฉินเวยทำจนหงอ


เฉินเวยจะทำยังไง?


เฉินเวยครุ่นคิด นอกจากยั่วซินห้าวแล้ว เธอจะมีวิธีอะไร? แต่ซินห้าวก็ไม่โดนเธอยั่วนี่


ส่วนเรื่องอื่น เธอสู้ตัวเองไม่ได้ เธอก็ไม่สามารถโน้มน้าวพ่อแม่ให้ตัวเองไม่แต่งงานได้ ชื่อเสียง? เธอจะปรักปรำชื่อเสียงตัวเองยังไง ซินห้าวไม่สนใจก็ไม่มีประโยชน์ ฝั่งพ่อแม่ซินห้าวเธอก็ทำอะไรไม่ได้ เฉินเวยจะใช้วิธีอะไรนะ?


เฉินเยี่ยนคิดว่าเฉินเวยทำเรื่องใหญ่โตไม่ได้ คนอย่างอวี๋เหวยหมินก็ปากแข็ง ไม่มีปัญญาทำอะไร เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องพวกเขาสองคนไม่คู่ควรกับการกังวลใจ คิดไม่ถึงว่าเฉินเวยกลับติดกับไปกับความหล่อของซินห้าว ความหล่อช่างทำร้ายคนเสียจริง


เฉินเยี่ยนคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเฉินเวยจะสามารถใช้วิธีร้ายกาจอะไร หลักๆ แล้วเฉินเยี่ยนไม่ใช่คนไม่ดี ดังนั้นเลยไม่สามารถใช้มุมมองความคิดของคนไม่ดีมาพิจารณาปัญหาได้


คิดไม่ออกก็ไม่คิดแล้ว เธอไม่ใช่เฉินเวย คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงตอนนั้นดูว่าเฉินเวยจะทำยังไง แล้วค่อยวางแผนแล้วกัน


เฉินเยี่ยนมองตั๋วรถจักรยานบนเตียง


ตั๋วสองใบนี้เธอคิดจะใช้ทั้งหมด คันหนึ่งให้ตัวเธอเอง แล้วอีกคันจะซื้อแบบจักรยานจ่ายตลาดของผู้หญิง ถือว่าเป็นของขวัญแต่งงานให้จวนเอ๋อร์


ฟังจากที่เจ้าอ้วนพูดแล้ว ตั้งใจจะแต่งงานกับจวนเอ๋อร์เดือนห้า อีกไม่ถึงสองเดือน หลายวันนี้เธอจะเข้าไปในเมืองสักรอบ ไปดูรถให้จวนเอ๋อร์ และจะซื้อเสื้อผ้าหลายชุดให้จวนเอ๋อร์


เดิมทีนะ สหกรณ์ในอำเภอก็มีเสื้อผ้าไม่น้อย แต่ถ้าต้องการจะซื้อแบบที่ทันสมัย แบบที่ดี ต้องไปในเมือง ของในอำเภอมีไม่ครบ


คิดแล้วก็ทำ วันรุ่งขึ้นเฉินเยี่ยนถือเงินและตั๋วออกไป เธอให้เฉินจงไปส่งเธอในเมือง จากนั้นให้เฉินจงกลับไป ตัวเองจะซื้อจักรยานแล้วขี่กลับไป


เฉินจงก็ไว้ใจเฉินเยี่ยน อีกทั้งที่โรงงานยังมีคนเฝ้าดูอยู่ ดังนั้นเลยพาเฉินเยี่ยนไปส่งถึงที่แล้วเขาก็ขี่รถออกมา


เฉินเยี่ยนไปถึงที่ซื้อรถจักรยาน เธอค่อยๆ เลือก ครั้งนี้เธอจะซื้อแบบเฟรมเอียง ที่บ้านมีแบบเฟรมตรงแล้ว แค่เธอเลือกที่ตัวเองชอบก็พอแล้ว


ยี่ห้อหงส์ หรือนกพิราบบินดี? สองยี่ห้อนี้ไม่แย่เลย แต่สุดท้ายเฉินเยี่ยนชอบจักรยานจ่ายตลาดของผู้หญิงยี่ห้อหงส์ ตอนนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุด


“ฉันชอบคันนี้ ต้องการคันนี้ คุณซื้อให้ฉันได้ไหม?”


ตอนที่เฉินเยี่ยนหันหลังไปถามพนักงานขาย มีคนมาพูดอยู่ข้างหลังเธอ


เฉินเยี่ยนมองไป เป็นผู้หญิงวัยรุ่น อายุราวยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง หน้าตาถือว่าสวย สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อต ท่อนล่างสวมกระโปรงสีฟ้า สวมรองเท้าหนังสีดำ ดูแล้วฐานะทางบ้านน่าจะไม่แย่ แต่นี่ไม่ใช่จุดที่เฉินเยี่ยนสังเกต เธอสังเกตเห็นผู้หญิงคนนี้มีเปียสองข้าง ผมสีดำขลับ มองดูแล้วน่ารักมาก


เดิมทีผมของเฉินเยี่ยนสีออกทอง คุณภาพผมดีมาก หลังเฉินเยี่ยนมาก็ไว้ผมมาตลอด ตอนนี้แข็งแรงกว่าแต่ก่อนเนอะ มีประกายเงางามเยอะขึ้นมาก แต่เทียบกับผู้หญิงคนนี้แล้วยังห่างไกลกันเยอะเลย


เปียสองข้างของผู้หญิงคนนี้ทั้งดำทั้งมีน้ำหนัก เฉินเยี่ยนลูบผมที่สยายของตัวเอง เทียบกันไม่ได้เลย


พูดขึ้นมาคนสมัยนี้ชอบถักเปียสองข้าง ไม่ใช่ว่าเฉินเยี่ยนถักไม่เป็น แต่ไม่ถนัด เธอชอบปล่อยผมประบ่า หรือไม่ก็รวบหางม้ามากกว่า เรื่องทรงผมนี่เธอไม่ถนัดเลยจริงๆ


“หลิวอี้ หลิวอี้ คุณว่าไง”


ผู้หญิงผมเปียดำดึงผู้ชายข้างเธอมาแล้วเรียก เห็นผู้ชายข้างเธอไม่ตอบ เธอมองไปตามสายตาของผู้ชาย เห็นว่าเป็นเฉินเยี่ยน เธอมองเฉินเยี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายรอบ สายตามีมองเธอมามีแววอิจฉา ปากงอด้วยความโกรธ


ความคิดตอนแรกของเฉินเยี่ยนอยู่ที่เปียของผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้สนใจผู้ชายข้างเธอ ได้ยินเธอเรียก ก็รู้สึกว่าขื่อคุ้นๆ เธอเลยมองไป พอมองไป เฉินเยี่ยนก็อึ้ง ออกจากบ้านไม่ได้ดูฤกษ์มาก่อน เป็นคนรู้จักจริงด้วย


ไม่ผิด ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนอื่น เป็นหลิวอี้ที่เคยมาสู่ขอที่บ้านเฉิน


หลังหลิวอี้โดนเฉินเยี่ยนปฏิเสธก็แค้นใจมาก เขาได้แต่รอวันที่บ้านเฉินจะเสียใจ แต่เขารอไม่ไหว อายุเขาไม่น้อยแล้ว ที่บ้านก็เร่งให้เขาแต่งงาน และแนะนำผู้หญิงให้เขาหลายคน แต่เขาไม่ชอบเลย ไม่มีใครสวยเท่าเฉินเยี่ยนสักคน แล้วยังเรียกร้องมากมาย เขาจะแต่งมาทำไม!


ต่อมาเขาเจอผู้หญิงคนนี้ หวางฮุ่ย หวางฮุ่ยหน้าตาธรรมดา แต่ที่บ้านฐานะไม่แย่ อีกทั้งที่บ้านเธอไม่มีผู้ชาย มีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อเธอเป็นหัวหน้า เขาแต่งงานกับหวางฮุ่ย พ่อเธอจะได้ช่วยเขาปรับตำแหน่งหน้าที่การงาน ฐานะบ้านหวางดี ไม่แน่ตอนนั้นบ้านหวางอาจจะช่วยเขาซื้อบ้านก็ได้ แบบนี้เขาก็ไม่ต้องอยู่กับคนที่บ้านอย่างแออัดแล้ว นี่เป็นจุดประสงค์ที่เขาต้องการ


ความสัมพันธ์ของเขาและหวางฮุ่ยค่อนข้างราบรื่น ถึงแม้หวางฮุ่ยจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย แต่สำหรับเขาก็ถือว่าไม่แย่ ตอนที่บอกว่าจะแต่งงานให้ที่บ้านช่วยออกเงินซ้อบ้าน ช่วยปรับตำแหน่งเขา พวกเขาออกไปอยู่ข้างนอก ทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงยอมโอ๋หวางฮุ่ย


วันนี้เขามาซื้อจักรยานเป็นเพื่อนหวางฮุ่ย เขาตกลงกับหวางฮุ่ย เอาจักรยานหนึ่งคันมาแลกเงินซื้อบ้านที่บ้านหวางจะให้เขาในอนาคต ทั้งตั๋วจักรยานหวางฮุ่ยเป็นคนถือ คิดยังไงก็คุ้ม เขาแค่รับหวางฮุ่ยมา


เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะเจอเฉินเยี่ยน


ตอนนี้เจอเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนสวยกว่าแต่ก่อนอีก ผิวขาวขึ้นมาก ดูแล้วมีราศีมากกว่าเมื่อก่อน เสื้อผ้าที่เฉินเยี่ยนใส่สวยกว่าที่หวางฮุ่ยใส่ เอาเฉินเยี่ยกับหวางฮุ่ยมาเทียบกันแล้ว เป็นใครก็ต้องเลือกเฉินเยี่ยน


น่าเสียดาย ต่อให้เฉินเยี่ยนดีแค่ไหน ก็ไม่มีครอบครัวที่ดี ช่วยเขาไม่ได้ อีกอย่าง เฉินเยี่ยนยังไม่ชอบเขาด้วย หลังจากตอนแรกตกใจที่ได้เห็นเฉินเยี่ยน หลิวอี้ก็โมโหขึ้นมา


“หลิวอี้ เธอเป็นใคร?”


ผู้หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อน หวางฮุ่ยรู้สึกว่าหวางอี้และผู้หญิงคนตรงหน้านี้มีเรื่องอะไรกัน


เฉินเยี่ยนยิ้ม เตรียมจะเดินออกไป เธอไม่อยากทักทาย และไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ทำเป็นไม่รู้จักกันดีแล้ว


“อย่าเพิ่งไป หลิวอี้ คุณบอกมาเธอเป็นใคร”


หวางฮุ่ยเรียกเฉินเยี่ยน ถ้าไม่พูดให้ชัดเจนเธอจะวางใจได้ยังไง


“ฉันเป็นคนที่อยากจะซื้อจักรยาน”


เฉินเยี่ยนตอบหนึ่งประโยค


“เธอชื่อเฉินเยี่ยน เป็นคนในหมู่บ้าน เมื่อก่อนมีคนมาทาบทามเธอให้ผม แต่ผมไม่ชอบ เลยไม่ตกลง”


และในขณะเดียวกัน เสียงหลิวอี้ก็ดังขึ้นมา


เฉินเยี่ยนมองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าหลิวอี้จะพูดแบบนี้ กลายเป็นว่าเคยทาบทามตัวเองให้เขา แล้วเขาไม่ตกลง เขาเห็นแก่หน้าตัวเองเกินไปหรือเปล่า


หวางฮุ่ยมองเฉินเยี่ยนอย่างดูถูก เธอคิดแล้วว่าหลิวอี้กับผู้หญิงคนนี้ต้องมีเรื่องกัน เธอมองดูก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนคนดี ก็ไม่ใช่จริงด้วย เกษตรกร อาศัยที่ตัวเองหน้าตาดีคิดอยากจะแต่งงานกับคนในเมือง แล้วยังมาหาหลิวอี้ของเธออีก เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร มาเทียบกับตัวเอง?


“เธอซื้อจักรยาน? ซื้อไหวเหรอ? คิดว่าอาศัยที่ตัวเองสวยแล้วคนอื่นจะขายให้เธอหรือไง? หึ”


หวางฮุ่ยหึด้วยความดูแคลน


ตอนที่ 193: แย่งชิง

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก เธอจะซื้อจักรยาน ไม่ได้บอกว่าจะอาศัยหน้าตาขอของฟรี ผู้หญิงคนนี้โรคจิตจริง


แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้คิดจะทะเลาะกับเธอ ไร้สาระ


เฉินเยี่ยนไม่สนใจหวางฮุ่ย พูดกับพนักงานว่าเธอต้องการรถจักรยานผู้หญิงยี่ห้อหงส์คันนี้


“ฉันชอบรถคันนี้ ฉันต้องการ มีบางคนนี่ไม่ดูว่าตัวเองฐานะอะไรเลย เดิมทีก็ไม่มีปัญญาอยู่แล้ว ซื้อไหวเหรอ? เธอมีตั๋วรถจักรยานไหม?


หวางฮุ่ยเชิดหน้าเล็กน้อย คำพูดคำจามีแต่ดูถูกเฉินเยี่ยน


ที่จริงหวางฮุ่ยและเฉินเยี่ยนไม่ได้เป็นศัตรูกัน ที่เธอเป็นแบบนี้ หนึ่งเพราะครั้งแรกที่เธอเห็นเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนสวยกว่าเธอ สวมชุดดีกว่าเธอ ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะไม่ได้ใส่รองเท้าหนัง แต่รูปร่างเธอสูง พอเทียบกับแล้ว ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ


สองเป็นเพราะหลิวอี้ หลิวอี้เป็นคู่หมั้นของเธอ หลิวอี้ทำดีได้กับเธอคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้มีเฉินเยี่ยนโผล่มาอีกคน หลิวอี้ยังมองเธออย่างนั้นอีก ถึงแม้หลิวอี้จะบอกว่าเขาไม่ได้ชอบ แต่ นั่นก็ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ดี เธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนก็แค่หน้าตาดี อยากจะมาแต่งงานกับคนเมือง ถือดียังไง?


ตัวเธอเองเป็นหญิงสาวชาวเมือง คู่หมั้นเธอกลับเคยรู้จักมักคุ้นกับหญิงบ้านนอกมาก่อน แค่คิดเธอก็รับไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอมองเฉินเยี่ยนแล้วขัดลูกหูลูกตาอย่างมาก


เฉินเยี่ยนมองหวางฮุ่ย แล้วมองหลิวอี้ หลิวอี้หน้าเคร่งขรึม ไม่พูดอะไรสักคำ


เฉินเยี่ยนส่ายหน้า คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะใจแคบขนาดนี้ โชคดีที่ตอนนั้นเธอปฏิเสธไปอย่างไม่ลังเลเลย ไม่อย่างนั้นแต่งงานกับผู้ชายอย่างนี้ ชีวิตนี้อย่าคิดจะมีความสุขเลย


เฉินเยี่ยนหยิบตั๋วจักรยานออกมาให้พนักงานขายดู


พนักงานขายไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ฐานะอะไร ถ้ามีตั๋วจักรยาน มีเงิน ก็จะขายให้


“รถคันนี้เป็นของฉัน ขายให้เธอไม่ได้”


หวางฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะมีตั๋ว แต่เธอไม่พอใจ รีบหยิบตั๋วออกมาเหมือนกัน


พนักงานขายคิดไม่ถึงว่าลูกค้าจะแย่งกันขึ้นมา เธอรู้ว่าคนที่ซื้อจักรยานได้มีน้อยคนที่แวะเข้ามา เลยพูดออกไป “พวกคุณอย่าเพิ่งแย่งกันค่ะ ตอนนี้ร้านของเรามีจักรยานแบบนี้สองคัน พอดีเลยพวกคุณซื้อคนละคัน”


เฉินเยี่ยนไม่มีปัญหา วันนี้เธอมาซื้อจักรยาน ไม่ใช่มาโกรธ อีกอย่างเป็นคนที่ไม่รู้จักด้วย เธอขี้เกียจจะทะเลาะ มีเวลาเธอก็รีบมาซื้อจักรยานให้จวนเอ๋อร์ ซื้อเสร็จแล้วจะได้ไปซื้อเสื้อผ้า


“ไม่ได้ ฉันต้องการทั้งสองคัน เธอเป็นผู้หญิงในหมู่บ้าน เธอถือดียังไงมีขี่จักรยานที่เหมือนฉัน ฉันอายคนอื่น หลิวอี้ จ่ายเงิน”


หวางฮุ่ยกลับไม่ยอม เธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนซื้อรถเหมือนเธอนั้นเป็นการเหยียดหยามเธอ เฉินเยี่ยนจะมาเทียบกับเธอได้ยังไง


“หลิวอี้ คุณจะไม่พูดอะไรเลยหรือ?”


เฉินเยี่ยนถามหลิวอี้ ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว ตัวเองไม่ถือสาแล้ว เธอกลับมาหาเรื่องตัวเองอยู่นั่น แล้วหลิวอี้นี่ก็เอาแต่มอง


“พูดอะไร? เสี่ยวฮุ่ยไม่ใช่คนที่ใครบางคนจะมาเทียบได้ คนบางคนอาศัยหน้าตาตัวเองสวยก็อ่อยผู้ชายไปทั่ว ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นใครกัน”


หลิวอี้ยังคงโกรธเฉินเยี่ยนอยู่ไม่หาย เฉินเยี่ยนถามเขา เขาเลยว่าเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเยือกเย็น เวลานี้สามารถมองเห็นนิสัยคนที่แท้จริง นิสัยหลิวอี้คนนี้ไม่ได้เรื่องเลย


“ได้ยินแล้วใช่ไหม? หลิวอี้เป็นคู่หมั้นของฉัน ยังจะมาถามเขาอีก หน้าไม่อาย หลิวอี้ จ่ายเงิน”


หวางฮุ่ยเชิดหน้า หน้าตาสวยแล้วยังไง เธอเทียบกับตัวเองได้หรือ?


เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร เธอไม่ใช่ตุ๊กตาดินเผา เธอไม่ใช่ไม่มีความโกรธ เธอต้องการจะดูว่าหลิวอี้จะซื้อจักรยานสองคันให้หวางฮุ่ยยังไง เพราะเธอมองออก หลิวอี้แค่พูดขู่ น่าจะไม่ออกเงินซื้อจักรยานทั้งสองคัน


เฉินเยี่ยนยืนไม่ขยับ หลิวอี้ก็ไม่ได้เอาเงินออกมา หวางฮุ่ยคิดว่าตัวเองกำลังจะหน้าแตกแล้ว เลยทำหน้าเข้มพูดขึ้นมา “ทำอะไรอยู่ รีบเอาเงินออกมาสิ”


หลิวอี้โดนหวางจวนพูดใส่ก็อึดอัด พูดเสียงเบา “เสี่ยวฮุ่ย พวกเราไม่มีตั๋วจักรยานสองใบ”


หวางฮุ่ยอึ้งไป ตั๋วจักรยานเธอเป็นคนขอจากพ่อ มีใบเดียว ที่หลิวอี้ไม่มีตั๋ว เธอซื้อจักรยานสองคันไม่ได้จริงๆ เธอไม่อยากเสียหน้า เมื่อกี้เธอออกอารมณ์ไป ตอนนี้คิดดูแล้ว ซื้อจักรยานสองคันไปทำไม? เธอขี่คนเดียว


“จริงๆ เลย แม้แต่ตั๋วจักรยานคุณก็ไม่มี”


หวางฮุ่ยบ่น คิดว่าหลิวอี้ไม่มีปัญญา ทำเธอขายหน้า


“ไม่มี? ฉันมีนะ สหาย จักรยานสองคันนี้ฉันซื้อหมด”


เฉินเยี่ยนยิ้มอ่อน แล้วหยิบตั๋วจักรยานอีกใบโบกใส่หลิวอี้และหวางฮุ่ย เดิมทีเฉินเยี่ยนไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวเป็นข่าวอยู่แล้ว แต่เธอเป็นคนที่ถ้าไม่ทำอะไรเธอ เธอก็ไม่ทำอะไร เธอมารังแกฉัน ฉันก็ไม่ยอมยื่นหน้ามาให้เธอตบหรอก


เธออยากจะบ้าเห่อต่อหน้าฉัน ได้สิ แต่เธอจะบ้าอย่างนั้นต้องมีเงิน ตอนนี้ซื้อไม่ได้ ฉันซื้อเอง นี่เป็นการตอกกลับที่ดีที่สุด ดีกว่าด่าหยาบคายอีก ยิ่งทำให้คนอื่นรับไม่ได้


อีกอย่างเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้ใช้อารมณ์ เธอต้องการสองคันจริงๆ เพราะจะเอาให้หวางจวนเป็นของขวัญแต่งงาน


“คุณ คุณ… หลิวอี้ คุณดูมันแกล้งฉัน หรือว่าคุณยังตัดใจไม่ได้ แม่ฉันดีกับคุณขนาดนี้ ทำไมคุณไม่คิดบ้าง! ฉันไม่สน ถ้าวันนี้คุณไม่ซื้อจักรยานสองคันให้ฉัน ให้ฉันหนึ่งคัน ให้แม่หนึ่งคัน ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณแล้ว คุณอย่าคิดให้พ่อแม่ฉันเอาเงินมาซื้อบ้านให้พวกเราเลย”


หวางฮุ่ยรู้สึกว่าโดนหยามหน้า เธอโดนผู้หญิงในหมู่บ้านตบหน้าได้ยังไง แต่เธอไม่มีตั๋วจักรยานสองใบ ทำได้แค่ระบายลงกับหลิวอี้


เฉินเยี่ยนมองหลิวอี้ด้วยสายตาเหยียดหยาม ที่แท้ฝ่ายหญิงจะออกเงินสร้างบ้าน ตอนนั้นเขายังทำเป็นแกล้งอวดร่ำอวดรวยต่อหน้าพ่อแม่


“เสี่ยวฮุ่ย หยุดโวยวายได้แล้ว คนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอา รอผมไปหาตั๋วจักรยานอีกใบได้ก่อน จะให้คุณแน่ ให้คุณป้าแน่นอนดีไหม?”


หลิวอี้กดเสียงต่ำ แต่สีหน้าเขาไม่ดีเลย เขาเป็นผู้ชาย ในใจต้องคิดว่าเป็นเรื่องอยู่แล้ว แต่โดนคนว่าอีก นั่นก็เป็นอีกเรื่อง


“ต้องซื้อตอนนี้ คุณไม่เห็นว่าเธอมาแกล้งฉันหรือไง?”


หวางฮุ่ยไม่ยอม เธอจะต้องกู้หน้าคืนมาต่อหน้าเฉินเยี่ยนให้ได้


หลิวอี้ทำอะไรหวางฮุ่ยไม่ได้ เลยมองด้วยความโกรธไปที่เฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนขี้เกียจมองเขา แล้วยื่นตั๋วและเงินให้พนักงานขาย เธอเชื่อว่าการกระทำมีพลังมากกว่าคำพูด


พนักงานขายไม่สนว่าพวกคุณจะเป็นใคร เธอมีหน้าที่รับผิดชอบขายรถเท่านั้น


“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอทำแบบนี้ไม่ได้ รถคันนี้ฉันชอบก่อน เธอจะซื้อทั้งหมดไม่ได้ ฉันต้องการหนึ่งคัน หลิวอี้ เอาเงินมา”


หวางฮุ่ยใช้มือดึงแขนเฉินเยี่ยนไว้ เธอไม่ยอมให้ไม่เหลือแม้แต่คันเดียว


เฉินเยี่ยนมองแขนตัวเองแล้วพูดด้วยความเย็นชา “เธอชอบก่อน? เธอชอบก่อนก็เป็นของเธอ? อย่าขำไปหน่อยเลย อีกอย่าง รถคันนี้ฉันชอบก่อน กรุณาอย่าโวยวายไร้เหตุผลตรงนี้ อยากจะซื้อ ก็ไปหาผู้ชายของเธอ ดึงฉันไว้ทำไม ฉันไม่ใช่ผู้ชายของเธอ ฉันไม่มีสิทธิ์มาดูแลเธอ เธอมาดึงๆ ฉันแบบนี้ฉันก็ซื้อให้เธอไม่ได้อยู่ดี ปล่อยมือ เธอไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ แต่ฉันขายหน้าคนอื่นนะ”


เฉินเยี่ยนทนไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงคนนี้โรคจิตเกินไปแล้ว


“เธอสิขายหน้า! หลิวอี้ เอาเงินมาสิ”


ฝั่งหวางฮุ่ยไม่ปล่อยมือ แล้วยังตะโกนเรียกหลิวอี้ วันนี้ไม่ว่ายังไงเธอต้องซื้อให้ได้หนึ่งคัน ไม่อย่างนั้นถือว่าเธอแพ้


ตอนที่ 194: ฉันยินดี

โดย

Ink Stone_Romance

“ช่างเถอะ เสี่ยวฮุ่ย แค่สองคันเอง เขาซื้อไปแล้ว เดี๋ยวอีกไม่กี่วันพวกเรามาซื้อใหม่ก็ได้”


หลิวอี้อิดออด เขาอยากจะเอาเงินฟาดหน้าใส่เฉินเยี่ยนแรงๆ แต่เขาไม่กล้าพอ


วันนี้เขาเอาเงินมาพอซื้อจักรยาน แต่ก่อนออกจากบ้านแม่เขาขอเงินไปจำนวนหนึ่ง เงินเลยไม่พอแล้ว แม่เขาบอกว่าไม่พอก็ให้เสี่ยวฮุ่ยช่วยออกบ้าง ยังไงก็ซื้อให้เธออยู่แล้ว ให้เขาโอ๋เสี่ยวฮุ่ยหน่อยก็พอ


เขาคิดว่าสมเหตุสมผล ถ้าไม่มีเฉินเยี่ยน เขาจะบอกให้หวางฮุ่ยเอาเงินตัวเองออกมา แต่ตอนนี้เขากลับพูดไม่ได้


เฉินเยี่ยนมองก็รู้แล้ว เดิมทีคิดอยากจะพูดประชดสักสองคำ แค่คิดดูแล้วก็ไม่มีประโยชน์ เลยไม่ได้พูด ฝั่งหวางฮุ่ยก็ไม่รู้ ร้องขึ้นมา “หลิวอี้ คุณหมายความว่ายังไง? ทำไมต้องให้ฉันยอมเธอ ณบอกมา รถคันนี้คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ? ไม่ซื้อพวกเราก็เลิกกัน”


หวางฮุ่ยคิดว่าหลิวอี้ไม่ให้หน้าเธอเลย


หลิวอี้ก็รู้สึกเสียหน้าแล้ว เขาโทษทั้งหมดเป็นเพราะเฉินเยี่ยน ถ้าไม่เจอเฉินเยี่ยน ก็ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หวางฮุ่ยจะไม่โมโห เขาก็ไม่ต้องขายหน้า เป็นผู้หญิงบ้านนอก ทำไมไม่อยู่บ้านดีๆ ออกมาเดินเล่นทำไม!


“เธอหมายความว่ายังไง? เธอเห็นผมดีขนาดนี้ ตอนแรกคุณอยากจะเกาะผม คิดจะเอาทั้งบ้านมาเกาะผม ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนดีอะไร เลยไม่ตกลง ตอนนี้คุณมาทำลายความสัมพันธ์ของผมกับเสี่ยวฮุ่ยอีก คุณมันหน้าไม่อาย!”


หลิวอี้เอาความโมโหไปลงที่เฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนโกรธจัดแต่ก็ยิ้มออกมา “หลิวอี้ ตัวเองเป็นคนไว้หน้าตัวเอง อย่าเอาทองมาโลกบนหน้าตัวเอง ฉันไม่อยากจะรู้จักคุณ รีบลากผู้หญิงบ้าของคุณออกไป ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าคุณ”


เฉินเยี่ยนไม่คิดว่าผู้ชายคนหนึ่งจะเป็นได้ถึงขนาดนี้


“เธอสิผู้หญิงบ้า กล้ามาว่าฉัน”


หวางฮุ่ยไม่สนแล้ว ผู้หญิงที่เธอดูถูกกล้าว่าเธอ เธอลงมือจะตบเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนคว้ามือเธอยกขึ้นมา แล้วดึงไปด้านหลัง หวางฮุ่ยส่งเสียงกรีดร้อง


หลิวอี้เห็นหวางฮุ่ยเสียเปรียบ เลยรีบเข้ามา เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชาแล้วพูด “ถ้าคุณกล้าเข้ามาใกล้อีกก้าว ฉันจะหักแขนเธอ”


หลิวอี้อยากจะเข้าไปแต่ก็กลัวหวางฮุ่ยโดนทำร้าย เลยไม่กล้าขยับ


“คุณรีบปล่อยเธอ เฉินเยี่ยน คุณรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร ถ้าคุณทำร้ายเธอ คุณมีกี่ชีวิตก็ไม่พอชดใช้”


หลิวอี้ขู่เฉินเยี่ยน


“ฉันไม่สนว่าเธอเป็นใคร! คุณกลัวเธอ ฉันไม่กลัว”


เฉินเยี่ยนไม่สนใจ


“คุณ คุณ… เฉินเยี่ยน คุณพูดบอกความจริงมา ตั๋วจักรยานนี้คุณเอามาจากไหน? ครอบครัวคุณไม่มีทางหาตั๋วจักรยานมาได้ คุณขโมยมาใช่ไหม? ใช่แล้ว คุณต้องขโมยมาแน่นอน! ถ้าคุณปล่อยเสี่ยวฮุ่ย เรื่องนี้ผมจะทำเป็นไม่รู้ ไม่อย่างนั้นผมจะไปแจ้งตำรวจมาจับคุณ”


หลิวอี้ไม่กล้าเข้าไป เห็นหวางฮุ่ยร้องเจ็บไม่หยุด เขาทำอะไรไม่ได้ เลยขู่เฉินเยี่ยน เพราะเขารู้จักบ้านเฉิน บ้านเฉินไม่มีทางมีตั๋วรถจักรยานแน่


“หึหึ”


เฉินเยี่ยนหัวเราะหึหึใส่หลิวอี้ หลิวอี้นี่โง่หรือเปล่า


“ตั๋วจักรยานของฉันน่ะหรือ คุณอยากรู้? ฉันไม่กลัวที่จะบอกคุณหรอก หลิวอี้ คุณบอกว่าไม่ชอบฉันไม่ใช่หรือ? แน่นอนย่อมมีผู้ชายที่ชอบฉัน ตั๋วจักรยานนี้เขาเป็นคนให้ ให้ทีสองใบเลยนะ แฟนคุณนี่เป็นสาวในเมืองใช่ไหม? จุ๊จุ๊ ดูคุณสงสารเธอขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ให้ตั๋วจักรยานเธอไปล่ะ? ตอนแรกที่คุณมาสู่ขอที่บ้านฉัน คุณบอกว่าไม่ให้ฉันไปเจอผู้ชายคนอื่น แต่ตแนนี้ฉันดูแล้ว ผู้ชายคนอื่นดีกว่าคุณเยอะเลย โชคดีที่ตอนนั้นฉันไม่ตาบอดตกลงกับคุณ ไม่อย่างนั้น…”


เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายเธอก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว เดิมทีเธอไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อย แต่สองคนนี้กัดไม่ปล่อยเลย งั้นก็อย่ามาโทษเธอ


“เธอพูออะไร! เขาไปสู่ขอเธอที่บ้าน เป็นไปไม่ได้ เห็นอยู่ว่าเธออยากจะเข้าหาหลิวอี้ เขาไม่ชอบเธอ เธออย่ามาพูดมั่วๆ”


หวางฮุ่ยร้องเสียงดัง แล้วส่ายหน้าด้วย เฉินเยี่ยนพูดแบบนี้ทำลายความมั่นใจของเธอ


“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วหลิวอี้ คุณอยากจะแจ้งความก็ตามใจ จักรยานซื้อแล้ว ฉันยังต้องไปสถานีตำรวจทำเรื่องตราประทับอีก ถ้าฉันขโมยมา ฉันจะกล้าไปไหม? ไม่มีสมองเลย เอาล่ะ ฉันจี้เกียจจะเสียเวลากับพวกคุณแล้ว ฉันยังต้องไปซื้อเสื้อผ้าอีก พวกคุณอย่ามาทำฉันอารมณ์เสีย”


เฉินเยี่ยนพูดจบก็ปล่อยแขนหวางฮุ่ย หวางฮุ่ยพุ่งไปข้างหน้า หลิวอี้รีบเข้าไปรับเธอ


หวางฮุ่ยตบหน้าหลิวอี้ไปหนึ่งฉาด


“คุณบ้าไปแล้ว! มาตบผมทำไม”


หลิวอี้โมโห เขาเป็นผู้ชาย โดนผู้หญิงตบหน้าต่อหน้าผู้คน เขาขายหน้ามาก


“ฉันบ้าไปแล้ว ใครให้คุณโกหกฉัน”


หวางฮุ่ยรู้สึกว่าเหยียบย่ำอย่างไม่เคยโดนมาก่อน


“หยุดโวยวานได้แล้ว เธอจงใจ เธอเป็นคนบ้านนอก ผมจะไปชอบเธอหรือ? เธอเทียบกับคุณได้หรือ? เธอตั้งใจยุยงความสัมพันธ์ของพวกเรา”


หลิวอี้อธิบายอย่างอดทน เขาเสียหวางฮุ่ยไปไม่ได้ เขาลงทุนลงแรงไปกับหวางฮุ่ยไม่น้อย จะเสียไปฟรีๆ ไม่ได้


เฉินเยี่ยนเลิกคิ้ว หลิวอี้นี่ไม่ได้เรื่อง เธอพูดกับพนักงานขาย จะไปซื้อเสื้อผ้าก่อน ตอนจะกลับค่อยมารับรถ


“ซื้อจักรยานสองคัน ทำไมไม่เผาไปให้เธอเลยล่ะ เธอขี่ได้หรือไง!”


หวางฮุ่ยพูดอย่างไม่พอใจ


“ฉันยินดี ฉันมีตั๋วเยอะ ฉันขี่หนึ่งคันทิ้งอีกหนึ่งคัน”


เฉินเยี่ยนยั่วโมโหหวางฮุ่ย


หวางฮุ่ยกัดฟัน ตอนนี้เธอเริ่มเชื่อครึ่งเชื่อครึ่งกับคำพูดหลิวอี้แล้ว แต่หลิวอี้เป็นแฟนเธอ เธอทะเลาะกับหลิวอี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเฉินเยี่ยนจะชนะ แต่ไปแบบนี้ หวางฮุ่ยก็ไม่พอใจ เธอคิดแล้ว เลยเดินตามหลังเฉินเยี่ยนไป


เฉินเยี่ยนมองดูอย่างช้าๆ เธอเลือกเสื้อผ้าให้หวางจวน ได้ยินหลิวอี้ปลอบหวางฮุ่ยเสียงเบา บ่นไม่หยุด เธอไม่สนใจปลาสองตัวที่อยู่ข้างหลัง คิดเสียว่าแก้เหงาดี


หวางจวนจะเป็นเจ้าสาวแล้ว เธอต้องเลือกชุดเป็นมลคง ชุดสวย พวกชุดสีเข้มเธอไม่เลือก ถึงแม้ว่าจะทนสกปรก แต่ดูไม่ดี


“สหาย คุณเอาเสื้อตัวนั้นมาให้ฉันดูหน่อยค่ะ”


เฉินเยี่ยนถูกใจเสื้อสีขาวมีปกเนื้อผ้าดีอยู่ตัวหนึ่ง พื้นผ้าสีขาว ด้านบนมีวงกลมสีแดงและสีดำอยู่ ดูสวยงามน่ารัก เสื้อผ้าแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในยุคนี้


อันที่จริงเฉินเยี่ยนอยากจะซื้อกระโปรงสีสดให้หวางจวนหลายตัว แต่กระโปรงสีแดงสีเหลืองพวกนั้นต้องรอยุค 80 ถึงค่อยเป็นที่นิยม ตอนนี้ยังไม่มี ดังนั้นเธอเลยล้มเลิกความคิด


แต่เฉินเยี่ยนเจอเสื้อไหมพรมสีสดใสแบบถัก เธอเลยจะซื้อสองตัว ถึงเวลาให้เธอกับหวางจวนคนละตัว ตัวเองจะได้ไม่ต้องถัก


อีกอย่าง เฉินเยี่ยนยังคิดจะซื้อกางเกงขากระดิ่งและรองเท้าหนังสีดำด้วย


ในความทรงจำเธอกางเกงขากระดิ่งน่าจะฮิตสักพักหนึ่งเลย ใส่กางเกงขากระดิ่งก็ต้องใส่รองเท้าหนังถึงจะดูดี ดันั้นเธอเลยตัดสินใจซื้อ


“ฉันต้องการเสื้อผ้าดีตัวนั้น”


ตอนนี้หวางฮุ่ยเดินมาข้างหน้า แล้วแย่งชุดที่เฉินเยี่ยนชอบ


“เธอเหมาหมด?”


เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชาแล้วถามเธอกลับ


“หมายความว่ายังไง?”


หวางฮุ่ยไม่เข้าใจ


“ก็หมายความว่าเธอจะซื้อหมดเลยใช่ไหม? ถ้าฉันชอบอะไรเธอก็จะซื้อ งั้นฉันไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าเธอไม่อยากได้จริงๆ รบกวนหลีกทางด้วย อย่ามาขี้อวดเลย เธอไม่อาย แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะ”


เฉินเยี่ยนคิดว่าหวางฮุ่ยคนนี้เป็นโรคจริงๆ


“เธอ เธอ เธอคอยดูว่าฉันจะมีปัญญาซื้อไหม”


หวางฮุ่ยโกรธจัด เธอกลับโดนคนบ้านนอกดูถูก


“ซื้อ”


หวางฮุ่ยตะคอกใส่หลิวอี้ หลิวอี้เอาเงินกับตั๋วออกมาอย่างช่วยไม่ได้


เฉินเยี่ยนยักไหล่ ไม่สนใจเลย ยังไงก็ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เธอก็ซื้อเหมือนกัน

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม