หวานรักจับหัวใจท่านประธาน 177-184

 ตอนที่ 177 ฝังตัวเอง


 


 


“…” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งคิดจะพูดว่าไม่ต้องฝืนขนาดนั้น แต่พอเงยหน้าก็ได้สบตาสีดำล้ำลึกของเขาแล้ว


 


 


ดวงตาคู่นั้นราวกับเป็นทะเลดาวพร่าวพราว แผ่ซ่านความมืดสลัว


 


 


เพียงแค่มองก็ทำให้อยากจะไปค้นหา อยากจะจมดิ่งอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ตัว…


 


 


เธอเหม่อมองเขาอยู่เนิ่นนาน จนลืมไปแล้วว่าตัวเองจะพูดอะไร


 


 


แต่เมื่อเห็นเขารอคำตอบอยู่ เธอก็ตอบกลับไปว่า “โอเค” แค่คำเดียวอย่างน่าประหลาด


 


 


พูดจบเธอก็ดึงสติกลับมาได้ และอยากจะหยิกปากตัวเองสักครั้ง!


 


 


หญิงงามเป็นภัยต่อประเทศ!


 


 


เธอฝังตัวเองแบบนี้แหละ…


 


 


อวี๋เยว่หานหลับตาลงงีบ ส่วนเธอยังอยากพูดอะไรอีก


 


 


นี่ถือว่าเป็นคำตอบหรือเปล่า หรือจริงๆ แล้วไม่ได้ตอบ


 


 


พูดเพิ่มอีกคำเดียวจะตายหรืออย่างไร


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่กอดเสี่ยวลิ่วลิ่ว พลางต่อว่าเขาอยู่ในใจ…


 


 


 


 


เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ถึงสุดสัปดาห์แล้ว


 


 


ตอนบ่ายของวันเสาร์ เหนียนเสี่ยวมู่สวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนง่ายๆ และมายังสถานที่จัดงานเลี้ยงของแผนกแล้ว


 


 


เมื่อถึงสถานที่นัดหมาย เธอถึงจะพบว่าสถานที่จัดงานเลี้ยงคือคลับ


 


 


ไม่นานเธอก็พบอีกว่าตัวเองเหมือนจะแต่งตัวสบายๆ เกินไปแล้ว…


 


 


พอมองไปข้างหน้า ก็เห็นเพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์ที่ปกติแต่งกายอย่างรัดกุมและมีสไตล์ของการทำงานอย่างมาก แทบจะใส่กระโปรงตัวสวยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แถมยังแต่งหน้ามาสวยมากด้วย


 


 


แม้แต่เพื่อนร่วมงานผู้ชายก็แต่งตัวกันมาหล่อมาก…


 


 


เทียบกันดูแล้ว เธอเหมือนสาวติดบ้านที่เตรียมตัวไปจับจ่ายที่ตลาดมากกว่า


 


 


ถึงแม้อาศัยหน้าตาสะสวยโดดเด่นแล้ว ก็ยังทำให้เธอไม่เข้าพวกกับคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ทำไมคุณแต่งตัวมาแบบนี้คะเนี่ย ไม่มีใครบอกคุณเหรอ ว่างานเลี้ยงของแผนกประชาสัมพันธ์มีรูปแบบเหมือนปาร์ตี้ขนาดเล็ก” มีเพื่อนร่วมงานเห็นการแต่งกายของเหนียนเสี่ยวมู่แล้วอดถามออกมาด้วยความประหลาดใจไม่ได้


 


 


จากนั้นเธอก็ชี้ไปยังคลับที่จัดงานเลี้ยง


 


 


“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปจะมาได้ เป็นสถานที่ไฮโซ พวกเราอาศัยชื่อเสียงของผู้จัดการเหวิน ถึงมาสนุกกันที่นี่ได้ คุณมองข้ามความสำคัญไปแล้ว!”


 


 


คนอื่นได้ยินเข้าก็มองมาทางเหนียนเสี่ยวมู่กันหมด


 


 


ครั้นเห็นการแต่งตัวของเธอ สายตาของทุกคนก็แปลกไปบ้าง


 


 


“…” เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้วมุ่น


 


 


เธอมาร่วมงานเลี้ยงของแผนกประชาสัมพันธ์เป็นครั้งแรก แน่นอนว่าเธอไม่รู้กฎพวกนี้


 


 


คนที่รับผิดชอบจัดงานเลี้ยงควรจะบอกเรื่องพวกนี้กับเธอ แต่เธอก็ไม่เคยได้รับคำเตือนใดๆ เลย


 


 


“ผู้จัดการเหวินมาแล้ว!”


 


 


ไม่รู้ว่าใครร้องขึ้นมา


 


 


ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็ถูกดึงดูดโดยรถหรูคันหนึ่ง


 


 


เมื่อรถคันนั้นหยุดลง คนขับรถก็อ้อมมาเปิดประตูด้านหลังให้หญิงสาวข้างในอย่างนอบน้อม


 


 


จากนั้นขาเรียวยาวคู่หนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน


 


 


เหวินหย่าไต้สวมกระโปรงยาวทรงหางปลา ถือกระเป๋าเรียบหรู กำลังออกมาจากข้างในรถ


 


 


ใบหน้าที่ตกแต่งมาอย่างดี บวกกับกลิ่นอายของความสูงส่ง ยิ่งทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอดูอ่อนโยนน่ามอง…


 


 


เวลาเหวินหย่าไต้อยู่นอกบริษัท บนตัวเฉิดฉายความสูงศักดิ์ของหญิงสาวตระกูลมั่งคั่งออกมาด้วย


 


 


เทียบกับความอลังการของเธอแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจงานเลี้ยงครั้งนี้เข้าไปใหญ่


 


 


แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดอะไรอีก แต่สายตาที่มองมาก็ไม่พอใจอยู่บ้าง


 


 


หลังจากเหวินหย่าไต้ทักทายเพื่อนร่วมงานในงานแล้ว เธอเหมือนสังเกตเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่แต่งตัวมาไม่ถูกต้อง จึงอึ้งไปบ้าง “ทุกคนอย่าโทษซูปเปอร์ไวเซอร์เหนียนเลย เธอเพิ่งมาร่วมงานเลี้ยงของแผนกเราเป็นครั้งแรก ไม่รู้กฎเกณฑ์ก็เป็นเรื่องปกติมาก ครั้งหน้าฉันจะให้เลขาเตือนเธอเอง”


 


 


“…”


 


 


“จริงสิ ฉันจะบอกข่าวดีกับทุกคน ฉันเพิ่งได้รับสายจากคุณชายหาน เขาตกลงมาร่วมงานเลี้ยงของพวกเราแล้ว!”


 


 


 


 


ตอนที่ 178 ภาพที่ทำให้ร้องกรี๊ด!


 


 


เสียงร้องดีใจดังขึ้นทันทีที่เหวินหย่าไต้พูดจบ


 


 


ด้วยรู้กันดีว่าอวี๋เยว่หานไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงของแผนกไหนมาก่อน แต่ตอนนี้กลับมาที่แผนกประชาสัมพันธ์ของพวกเขา


 


 


เป็นเกียรติเหลือเกิน!


 


 


“ผู้จัดการเหวิน คุณเก่งจริงๆ เลยค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเชิญคุณชายหานมาได้!” มีเพื่อนร่วมงานพูดด้วยความตื่นเต้น


 


 


“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่เห็นเหรอว่าผู้จัดการของพวกเราเก่งแค่ไหน เป็นแขนขาของคุณชายเลยนะ!”


 


 


“ใช่ๆๆ คุณชายหานยอมมางานเลี้ยงของพวกเรา เพราะเห็นแก่หน้าผู้จัดการเหวินล้วนๆ พวกเราก็เลยได้อานิสงส์ไปด้วย…”


 


 


“…”


 


 


ทุกคนคุยกันไปเรื่อย อยากจะชมให้เหวินหย่าไต้ตัวลอยให้ได้


 


 


จึงหลงลืมไปแล้วว่าคนสำคัญของงานเลี้ยงในวันนี้คือใคร


 


 


“มีงานเลี้ยงในวันนี้ได้ก็เพราะซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนทาบทามให้ซ่างซินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้สำเร็จแท้ๆ แต่ทำไมทุกคนถึงยกความดีความชอบไปให้ผู้จัดการเหวินหมดเลยล่ะ…” เสี่ยวเสี่ยว นักศึกษาฝึกงานที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับเหนียนเสี่ยวมู่มาโดยตลอดอดบ่นไม่ได้


 


 


ตั้งแต่เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินว่าอวี๋เยว่หานจะมา เธอก็เอาแต่เหม่ออยู่ตลอด


 


 


เมื่อเธอได้สติกลับมา ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือให้เขานำกระโปรงของเธอมาด้วย!


 


 


แค่ช่วยเธอนำกระโปรงมา เขาน่าจะไม่โกรธหรอกมั้ง


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แอบเขียนข้อความส่งไป


 


 


เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้ยินเหวินหย่าไต้พูดพอดี “คุณชายหานอยากจะมาให้รางวัลทุกคน เพราะทุกคนทำงานหนัก ทำงานใหญ่ให้บริษัทสำเร็จมาแล้วมากมาย ถึงได้ออกโรงมาด้วยตัวเอง แต่ฉันแค่พูดโน้มน้าวไม่กี่คำ ไม่ได้มีความดีความชอบอะไร”


 


 


ความหมายของคำพูดนี้เท่ากับว่ายอมรับแล้ว ว่าอวี๋เยว่หานมาที่นี่เพราะเธอ


 


 


เสียงร้องดีใจของทุกคนดังขึ้นกว่าเดิมทันที


 


 


แถมยังพากันล้อเล่นว่าเหวินหย่าไต้กับอวี๋เยว่หานคบกันอีกด้วย


 


 


เหวินหย่าไต้ก็ไม่ได้อธิบาย แค่ยิ้มรับคำหยอกล้อของทุกคนเท่านั้น


 


 


“อย่าเอาแต่ยืนอยู่ข้างนอกเลย ฉันจองห้องส่วนตัวเอาไว้แล้ว พวกเราไปรอข้างในเถอะ” เหวินหย่าไต้เห็นคนมากันเกือบครบแล้ว จึงเอ่ยปากเรียก


 


 


“ผู้จัดการเหวิน คุณชายมาร่วมงานเลี้ยงแผนกของพวกเราเป็นครั้งแรก พวกเรารอเขามาแล้วค่อยเข้าไปดีกว่าไหมคะ” มีคนเสนอความเห็นทันที


 


 


“ฉันก็อยากรอคุณชายหานค่ะ นอกจากในบริษัทแล้ว พวกเราทุกคนไม่เคยเห็นว่าปกติแล้วคุณชายหานมีท่าทางยังไง…” หญิงสาวคนที่พูดยังไม่ทันพูดจบ ใบหน้าก็แดงระเรื่อยขึ้นมาแล้ว


 


 


 ท่าทางแอบรักแบบนี้ อย่าได้แสดงออกชัดเจนเกินไป!


 


 


“ฉันก็อยาก…”


 


 


“อ๊า เทพบุตรของฉันใส่เสื้อผ้าธรรมดาเหรอ อยากเห็นจะแย่แล้ว!”


 


 


พอได้ยินชื่อของอวี๋เยว่หาน หญิงสาวที่ฉลาด ทำงานเก่งของแผนกประชาสัมพันธ์ก็พากันหัวใจพองโต


 


 


ทุกคนต่างก็อยากรอ เหวินหย่าไต้จึงไม่ปฏิเสธ


 


 


และยืนอยู่ข้างนอกคลับอยู่กับเพื่อนร่วมงานในแผนก


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น แต่สายตาของเธอไม่ได้มองทางเข้า เอาแต่มองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง


 


 


อวี๋เยว่หานไม่ตอบข้อความของเธอ จึงไม่รู้ว่าเขายอมช่วยหรือเปล่า


 


 


แถวนี้ไม่มีห้างสรรพสินค้า ไม่อย่างนั้นเธอก็ยังไปซื้อกระโปรงสักตัวมาแก้สถานการณ์ได้


 


 


“มาแล้วๆ!” ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงดังขึ้น แต่ทุกคนก็มองไปยังทางเข้าคลับอย่างพร้อมเพรียง


 


 


รถสปอร์ตเตะตาคันหนึ่งขับเข้ามาอย่างว่องไว


 


 


ก่อนจะจอดตรงหน้าพวกเขาเสียงดังเอี๊ยด


 


 


อวี๋เยว่หานนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ใบหน้าด้านข้างอันสมบูณ์แบบหล่อเหลาจนทำให้ใครหลายคนอยากจะกรี๊ดออกมา


 


 


เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กระดุมสองเม็ดแรกสุดเปิดกว้าง เผยให้เห็นแผงอกแกร่งน่าหลงใหล


 


 


เมื่อเขาถอดแว่นตาดำโยนไปด้านข้างอย่างลวกๆ แล้ว เขาก็หันหน้ามามองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน!


ตอนที่ 179 หมดกัน สถิติการถูกรางวัล 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเขาใส่ชุดสูท พร้อมกับท่าทางนั่งจัดการงานด้วยความเย็นชาสูงส่งอยู่ในรถจนชินแล้ว 


 


 


แต่เธอยังไม่เคยเห็นเขาแต่งตัวแบบวันนี้ 


 


 


เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ได้อยู่ข้างๆ เขา ทำให้บนตัวเขาแผ่หยิ่งยโสออกมายิ่งกว่าเดิม 


 


 


แต่การแต่งตัวสบายๆ ก็ทำให้เขายิ่งดูเยือกเย็น แถมยังมีความร้ายกาจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย 


 


 


ใบหน้าที่มีเค้าโคงชัดเจน มุมปากทำมุมโค้งเล็กน้อย เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ใช่… 


 


 


ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน ทำเอาเธอลุ่มหลงไปกับใบหน้าหล่อเหลานั้น! 


 


 


วินาทีต่อมาเขาก็หลุบตาลง แล้วมองไปยังที่นั่งข้างคนขับของตัวเองครั้งหนึ่ง 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ก็เหมือนกับคนอื่นๆ เอาแต่จ้องมองเขาตั้งแต่วินาทีที่ชายหนุ่มปรากฏตัว และเหลือบมองถุงสีดำบนที่นั่งข้างคนขับเขาตามไปด้วย 


 


 


เขาช่วยเธอนำกระโปรงมาเหรอ 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกาย ดวงตาเกือบจะพร่างพราวไปด้วยดวงตาแล้ว 


 


 


ท่าทางหลงใหลของเธอเหมือนเพื่อนร่วมงานสาวรอบๆ ราวกับแกะออกมา ทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของเหวินหย่าไต้เช่นกัน 


 


 


ครั้นอวี๋เยว่หานมาถึง เธอเตรียมตัวไปต้อนรับ 


 


 


ต้องทำให้ทุกคนรู้ว่า เธอต่างหากถึงจะเป็นคนสำคัญที่สุดในใจของเขา 


 


 


แต่คิดไม่ถึงเลย เธอยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไป สายตาของอวี๋เยว่หานก็มองข้ามเธอไป มองตรงไปยังเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ริมสุดโดยตรง 


 


 


ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาสอดประสานกัน ราวกับมีความรู้สึกบางอย่างก่อตัวอยู่ในบรรยากาศ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมาก! 


 


 


“คุณชายหาน เพื่อนร่วมงานในแผนกได้ยินว่าคุณจะมาก็ดีใจกันใหญ่เลยค่ะ” เหวินหย่าไต้ยิ้มแป้น ก่อนจะแสร้งเดินไปอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำลายการสบตาของพวกเขา แล้วเอ่ยปากอย่างนุ่มนวล 


 


 


ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีความรู้สึกใด เขายื่นมือไปเปิดประตูรถ จากนั้นก็เดินลงมา 


 


 


เขาสวมเสื้อผ้าสบายๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวเข้าคู่กับกางเกงยีนสีดำ เรียบง่ายแต่ยังมีสไตล์ 


 


 


เมื่อกวาดสายตามองผู้คนตรงหน้าแล้ว เขาก็พยักหน้าทักทายเล็กน้อย และเดินเข้าไปในคลับเป็นคนแรก 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่จงใจยืนอยู่ข้างหลังสุด ถือโอกาสแอบวิ่งไปข้างหน้ารถเขาตอนที่ทุกคนไม่ได้สังเกต และหยิบถุงดำบนที่นั่งข้างคนขับขึ้นก่อน แล้วถึงส่งกุญแจรถให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของคลับ ให้อีกฝ่ายช่วยจอดรถให้ 


 


 


จากนั้นเธอก็เดินจามเพิ่งร่วมงานเข้าไปในคลับอย่างรวดเร็ว 


 


 


เมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกเขาเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว เธอก็ถือกระโปรงในมือเดินเข้าไปในห้องน้ำด้านนอกห้องส่วนตัว 


 


 


เธอเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าท่อนบน เผื่อว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดเรื่องน่าอายอะไรขึ้นอีก 


 


 


จนกระทั่งเธอหยิบกระโปรงออกมาจากในถึง เธอก็อึ้งงันไป 


 


 


“ทำไมเป็นกระโปรงตัวนี้ไปได้ล่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่จ้องมองชุดเดรสกระโปรงสั้นสีดำเซ็กซี่ในมือแล้วอยากจะโขกหัวให้ตายบนอ่างล้างมือ 


 


 


ชุดเดรสตัวนี้ เป็นตัวเดียวกับที่ถานเปิงเปิงให้เธอตอนวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว 


 


 


ด้านหน้าเป็นคอวี บนตัวกระโปรงปักลายดอกไม้ ตัวกระโปรงยาวเลยต้นขาไปเล็กน้อย สวมใส่แล้วเปิดเนื้อหนังอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้เกินไปอย่างเห็นได้ชัด 


 


 


เซ็กซี่กำลังดี 


 


 


หากใช้คำพูดของถานเปิงเปิงมาบรรยายก็คงเป็น ‘ถ้าวันไหนเธออยากสละโสด ก็ใส่มันไปเดินเล่นบนถนนสักรอบ รับรองว่าต้องมีผู้ชายรีบร้อนมาขอแต่งงานถึงบ้านแน่!’ 


 


 


เธอไม่เคยใส่ชุดเดรสตัวนี้แม้สักครั้ง แต่ทิ้งไปก็สิ้นเปลืองเปล่าๆ จึงเก็บเอาไว้ตลอด 


 


 


จนตัวเธอเองลืมไปแล้วว่ายังมีกระโปรงตัวนี้อยู่ ใจคิดในตู้เสื้อผ้าของเธอไม่มีสิ่งของอันตรายอะไร ถึงได้ให้อวี๋เยว่หานช่วยเธอหยิบมาจากตู้เสื้อผ้าสักตัว 


 


 


คิดไม่ถึงว่าอวี๋เยว่หานจะหยิบมาได้โป๊ะเช๊ะ… 


 


 


ตอนนี้ทำยังไงดี 


 


 


ใส่หรือไม่ใส่ดีล่ะ 


 


 


ชาติก่อนเธอต้องทำผิดต่ออวี๋เยว่หานแน่ๆ ชาตินี้ถึงได้ตกอยู่ในกำมือของเขาตลอด 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่จ้องมองกระโปรงตัวนี้เกินกว่าครึ่งนาที แล้วก้มมองเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนบนตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็กัดฟันเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปลี่ยนก็ได้! 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 180 ทุกอย่างกำลังพอดี 


 


 


เหวินหย่าไต้ใจกว้างกับลูกน้องเสมอ สถานที่ที่เธอเลือกเป็นคลับชื่อดังในเมืองเอช 


 


 


ในห้องส่วนตัวไม่เพียงกินข้าวได้ ยังมีรายการนันทนาการอีกไม่น้อย 


 


 


ร้องเพลง โต๊ะสนุ๊ก ป้ายชื่อบนโต๊ะ…ทุกอย่างพร้อมสรรพ 


 


 


เหวินหย่าไต้รูว่าอวี๋เยว่หานจะมา จึงให้คนตกแต่งเอาไว้ก่อน ตอนนี้ดูแล้วหรูหราขึ้นไปอีกระดับ 


 


 


อวี๋เยว่หานนั่งตรงหัวโต๊ะหาร 


 


 


ใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับสีหน้าเย็นชา 


 


 


ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน พิงบนพนักเก้าอี้ และไม่มีความคิดจะเริ่มพูดก่อน 


 


 


แม้แต่เหวินหย่าไต้พูดกับเขา ผ่านไปพักหนึ่งเขาถึงจะตอบสักครั้ง 


 


 


เขาก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูอยู่ตลอด 


 


 


ราวกับกำลังรออะไรอยู่… 


 


 


“ทุกคนหิวกันแล้วสินะ ให้พนักงานมารับเสิร์ฟอาหารเลยดีไหม” เหวินหย่าไต้นั่งอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน เธอหันไปสอบถามเขา 


 


 


บนอาหารนี้ คนอื่นในแผนกประชาสัมพันธ์เพิ่งเคยกินข้าวร่วมกับประธานบริษัทของตัวเองเป็นครั้งแรก จึงตื่นเต้นจนพูดไม่ออกกันหมดแล้ว 


 


 


ครั้นได้ยินเหวินหย่าไต้พูด ทุกคนก็เอาแต่พยักหน้า 


 


 


ตอนที่เหวินหย่าไต้ยกมือขึ้นเตรียมจะเรียกพยักงาน กลับได้ยินอวี๋เยว่หานเอ่ยปากเสียงเบา “รอก่อน คนยังไม่ครบ” 


 


 


เขามองไปยังที่ว่างสองสามที่บนโต๊ะอาหารขณะพูด 


 


 


ทันใดนั้นสายตาของหลายคนก็เปลี่ยนไป 


 


 


สายตาที่มองเขาลุ่มหลงยิ่งขึ้นไปอีก… 


 


 


“คุณชายเอาใจใส่จังเลยค่ะ!” 


 


 


“ไม่วางมาดเลนสักนิด ฉันรักเขากว่าเดิมอีกจะทำยังไงดี” 


 


 


เพื่อนร่วมงานสาวหลายคนข่มความหวั่นไหวในใจไว้ไม่อยู่แล้ว จึงแอบกระซิบซาบกัน 


 


 


เหวินหย่าไต้ตะลึงงันไปเล็กน้อย 


 


 


ก่อนจะพบว่าไม่เห็นเงาร่างของเหนียนเสี่ยวมู่อยู่บนโต๊ะอาหาร แม้ในใจจะสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของอวี๋เยว่หาน ให้คนไปเร่งเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ยังมาไม่ถึง 


 


 


“เมื่อกี้ฉันเห็นซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนไปทางห้องน้ำนะคะ ฉันออกไปเรียกเธอดีกว่า” นักศึกษาฝึกงานที่อยู่กับเหนียนเสี่ยวมู่ตลอดได้ยินแล้วก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะหมุนตัววิ่งออกจากห้องส่วนตัวไป 


 


 


แต่เด็กสาวเพิ่งดึงประตูห้องส่วนตัวออก ก็เห็นเหนียนเสียวมู่ยืนอยู่หน้าประตู ทำเอาเธอตะลึงงันไปในทันที 


 


 


“ซู ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน…” 


 


 


เมื่อได้ยินว่าเหนียนเสี่ยวมู่กลับมาแล้ว สายตาของทุกคนก็มองไปทางประตูตามสัญชาตญาณ 


 


 


วินาทีต่อมา ทุกคนก็กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว 


 


 


ชุดเดรสีดำพอดีตัวมาก 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ใส่แล้วขับเน้นสัดส่วนโค้งเว้า บอกว่าสมบูรณ์แบบก็ไม่เกินไปเลย 


 


 


การออกแบบคอวีตรงหน้าอก เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่ของเธอ… 


 


 


ข้างใต้กระโปรงคือขาวเรียวยาว ไม่มีที่ติเลยสักนิด… 


 


 


แค่กระโปรงตัวเดียว กลิ่นอายบนตัวเธอก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 


 


 


ราวกับว่าในพริบตานั้นเธอกลายเป็นปิศาจสาว เพียงแค่กระดิกนิ้วสักครั้งตามใจชอบ ก็ทำให้คนลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น! 


 


 


อวี๋เยว่หานมองเธอ ดวงตาสีดำล้ำลึกหยั่งลึกขึ้นกว่าเดิม… 


 


 


สายตาของคนอื่นจับจ้องอยู่ที่เหนียนเสี่ยวมู่เป็นตาเดียว มีเพียงเหวินหย่าไต้ที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของอวี๋เยว่หานตั้งแต่แรก 


 


 


เธอมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันทีที่ปรากฏตัว พลางกัดฟันด้วยความไม่พอใจ 


 


 


แต่ไม่นานเธอก็ฉีกยิ้มทักทาย 


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณไปไหนมาคะ ทุกคนกำลังรอคุณอยู่ รีบเข้ามานั่งสิคะ” 


 


 


“…” 


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ใส่เสื้อผ้าเซ็กซี่ขนาดนี้ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานเป็นครั้งแรก จึงรู้สึกไม่เป็นตัวเองอยู่บ้าง 


 


 


เมื่อได้ยินเหวินหย่าไต้พูดแล้วเธอก็เดินไปข้างหน้า ไม่ได้คิดมากอีก 


 


 


แต่เพิ่งเตรียมตัวจะนั่งลงตรงมุม ก็พบว่านอกจากที่นั่งว่างๆ ข้างอวี๋เยว่หาน ที่นั่งอื่นถูกนั่งจนเต็มหมดแล้ว 


 


 


เธอทำได้แค่ดึงเก้าอี้ และนั่งลงข้างๆ อวี๋เยว่หาน 


 


 


ตอนที่เธอนั่งลงนั้น เขาก็ชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง แต่ไม่นานก็เลื่อนสายตาไป ราวกับไม่สนใจว่าคนที่นั่งข้างๆ ตัวเองเป็นใคร 


ตอนที่ 181 จ้องตาเขม็งแล้ว!


 


 


เทียบกับอวี๋เยว่หานแล้ว คนอื่นในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้น


 


 


โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานชายที่อยู่ในห้อง


 


 


ปกติเหนียนเสี่ยวมู่สวมชุดทำงานเวลาออยู่ในบริษัท และถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น หน้าตาสวยโดดเด่นของเธอก็พอจะดึงดูดสายตาคนได้แล้ว!


 


 


หากเปลี่ยนมาใส่กระโปรงเซ็กซี่สักตัว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผู้ชายในที่นี้จ้องตาเขม็งกันทันที!


 


 


อยากจะควบคุมอยู่หรอกนะ แต่ปฏิกิริยาทางกายกลับซื่อสัตย์


 


 


ลูกตาของแต่ละคนแทบจะเหมือนติดกาวไว้บนตัวเธอ…


 


 


อวี๋เยว่หานสังเกตเห็นเรื่องนี้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย


 


 


ตอนนั้นเขาหยิบกระโปรงตัวหนึ่งมาลวกๆ ไม่ได้สนใจแบบของกระโปรงเลย โดยเฉพาะผลจากการที่เธอใส่ประโปรงตัวนั้นไปแล้ว ช่าง…น่าโมโหจริงๆ!


 


 


การออกแบบของคอร์เซ็ท ช่วยดึงสัดส่วนน่าหลงใหลของเธอออกมาโดยสมบูรณ์


 


 


เธอผอมมาก แต่ตำแหน่งที่ควรมีก็มีทั้งหมด


 


 


ผิวพรรณผ่องใสดุจคริสตัล ขาวนวลเปล่งประกาย…


 


 


อวี๋เยว่หานนัยน์วูบไหวไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือเรียกพนักงาน


 


 


เสียงเบาจนไม่รู้ว่าสั่งอะไร


 


 


ไม่นานพนักงานก็ออกไป แล้วกลับเข้ามาพร้อมผ้าไหมยาวชิ้นหนึ่ง พร้อมทั้งเดินมาข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่


 


 


“…” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึง กำลังคิดจะบอกว่าตัวเองไม่ต้องการไร แต่พอเห็นผ้าไหมตรงหน้าก็ตาเป็นประกายทันที


 


 


เธอเหมือนกับได้เห็นดาวช่วยชีวิต จึงหยิบขึ้นมาพันร่างกายเอาไว้


 


 


ผ้าไหมผืนยาวเข้าชุดกับกระโปรงของเธออย่างมาก ปิดบังจุดที่โป๊ออกมาได้พอดิบพอดี


 


 


และไม่ทำคนอื่นรู้สึกว่าเกินไปด้วย


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่พันผ้าไหมเรียบร้อยแล้ว เธออยากถามพนักงานว่าใครให้เขาส่งมา ก็เห็นว่าพนักงานมองไปทางอวี๋เยว่หาน จากนั้นก็โค้งตัวถอยออกไปจากห้องจัดลี้ยงส่วนตัว


 


 


หญิงสาวเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาสีดำคลับคู่นั้นพอดี


 


 


เธออยากกล่าวขอบคุณ แต่เขาก็หลุบตาเบือนหน้าออกไปด้วยความเย็นชา


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ “…”


 


 


อาหารค่อยๆ ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง


 


 


ทุกคนต่างก็กินอาหารกันอย่างมีความสุข นับว่าช่วยคลายความตื่นเต้นที่เกิดจากเหนียนเสี่ยวมู่ขึ้นมาได้บ้าง


 


 


เหวินหย่าไต้ก็แนะนำอาหารให้อวี๋เยว่หานฟังอยู่ตลอด “คุณชาย ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งชุดอาหารทะเลเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณอยากสั่งอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ”


 


 


“…” อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาจิบเบาๆ คำหนึ่งเท่านั้น


 


 


จากนั้นก็หันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ข้างๆ เขา


 


 


หญิงสาวมีผ้าไหมแล้ว แต่กลับทำท่าทางประหลาดไม่เหมือนกับทีแรก ในมือเธอคว้าปูก้ามขน กำลังแทะกินด้วยความเบิกบานใจ


 


 


เธอก้มหน้าเล็กน้อย ผมยาวถูกรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นลำคอขาว หูเล็กน่ารักออกสีแดงระเรื่อเล็กน้อย


 


 


มุมปากเปื้อนน้ำซอส แต่ตัวเธอไม่รู้ตัวเลย


 


 


นิ้วมือของเขาขยับเล็กน้อย อยากจะใช้กระดาษทิชชู่เช็ดให้เธอตามสัญชาตญาณ


 


 


แต่พอเขารู้สึกได้ถึงความคิดของตัวเอง ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีก


 


 


อวี๋เยว่หานเอ่ยปากตอบคำถามที่เหวินหย่าไต้ยังคงรอคอยอยู่ “ไม่ต้องหรอก สั่งอาหารที่พวกคุณชอบก็พอ”


 


 


จากนั้นเขาก็ดื่มไวน์แดงรวดเดียวจนหมดแก้ว


 


 


เขาเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่เอาแต่ตั้งใจกินอาหาร จนไม่ได้สังเกตเลยว่าท่าทางเปิดเผยของตัวเองกำลังดึงดูดสายตาของผู้ชายในห้องนี้อยู่…


 


 


ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรอัดแน่นอยู่ตรงหน้าอก อึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย


 


 


เหวินหย่าไต้ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง บนใบหน้าจึงเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่


 


 


ได้แต่ยิ้มเก้ๆ กังๆ


 


 


พอผู้จัดการสาวสังเกตเห็นว่าสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เหนียนเสี่ยวมู่ จึงกัดริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ


 


 


ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างสง่างาม “มา ทุกคนชนแก้วกัน ถือว่าเป็นการต้อนรับเพื่อร่วมงานใหม่ของพวกเรา และขอบคุณคุณชายหานที่ยอมมาร่วมงานเลี้ยงของเราทั้งๆ ที่งานยุ่งมาก”


 


 


“…” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังแทะก้ามปูอย่างมีความสุข อยู่ๆ พบว่าทุกคนยืนขึ้นกันหมด ตัวเองจึงยกก้ามปูขึ้นสองข้าง และลุกขึ้นตาม


 


 


 


 


ตอนที่ 182 คุณชายหาน ฉันขอยกย่องคุณ


 


 


เมื่อพบว่าทุกคนจับจ้องมาที่เธอ ทันใดนั้นเธอก็รู้ตัว รีบวางก้ามปูในมือลง แล้วยื่นมือไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแทน


 


 


“ครั้งนี้ทำให้ซ่างซินตกลงเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้อย่างราบรื่น ก็เพราะซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ขอต้อนรับเข้าสู่แผนกประชาสัมพันธ์ของพวกเราค่ะ หวังว่าคุณจะขยันทำงานต่อไปนะคะ” ขณะพูด เหวินหย่าไต้ไม่ได้มองเหนียนเสี่ยวมู่เลย เธอเอาแต่มองอวี๋เยว่หาน


 


 


คำพูดแต่ละคำล้วนเป็นการชื่นชมเหนียนเสี่ยวมู่ แต่กลับเหมือนกำลังให้เกียรติอวี๋เยว่หาน


 


 


อย่างไรเสียทุกคนตรงนี้ก็รู้ ว่าเหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาในแผนกของพวกเขาได้ ก็เป็นเพราะอวี๋เยว่หานล้วนๆ


 


 


เมื่อทุกคนดื่มหมดแก้วแรก เธอก็เทไวน์ให้ตัวเองอีกเป็นแก้วที่สอง


 


 


จากนั้นเธอก็มองไปทางอวี๋เยว่หาน “คุณชายหานคะ แก้วนี้ฉันขอยกย่องคุณค่ะ”


 


 


ใบหน้าค่อนไปทางสะสวยของเธอเริ่มแสดงอาการเมาออกมาเล็กน้อย ทุกคนยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็พูดต่ออย่างมีมารยาท


 


 


“แผนกของพวกเรามีผลงานดีขนาดนี้ได้ ก็เพราะการชี้แนะอันเฉลียวฉลาดของคุณชายหาน วันนี้คุณมาที่นี่ ถือเป็นการยืนยันต่อการทำงานของฉันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ฉันจะขอยกย่องคุณจนหมดแก้วค่ะ”


 


 


เธอพูดจบก็เงยหน้าขึ้นดื่มไวน์ในแก้วจนเกลี้ยง


 


 


คำพูดยืดยาวนี้อ้อนน้มถ่อมตัวมาก


 


 


แต่ความหมายในคำพูดนี้ กลับเหมือนเป็นการบอกทุกคนเป็นนัยๆ ว่าคุณชายหานมางานเลี้ยงอย่างผิดวิสัยในวันนี้ ก็เป็นเพราะเธอ


 


 


“…”


 


 


อวี๋เยว่หานมองเธอ นับน์ตาสีดำดูเยียบเย็น เขากวาดมองคนอื่นๆ บนโต๊ะอาหาร จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็ยกแก้วไวน์ขึ้น เป็นการบอกให้พนักงานมารินไวน์ให้


 


 


เหวินหย่าไต้มองเขาอย่างมีความสุข พลางรอชายหนุ่มดื่มเหล้า แต่เขากลับยกแก้วไวน์มองไปทางคนอื่นบนโต๊ะอาหาร


 


 


“ทุกคนล้วนเป็นหัวกะทิของบริษัทตระกูลอวี๋ บริษัทมีวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะความพยายามของพวกคุณ แก้วนี้ผมขอยกย่องพวกคุณ” อวี๋เยว่หานพูด และดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมด


 


 


เมื่อได้ยินเขาพูด ทุกคนในห้องอาหารก็ยกแก้วขึ้นดื่มอย่างพร้อมเพรียง


 


 


ดื่มร่วมกัน


 


 


เหล้าที่เดิมทีเป็นของสองคน กลายเป็นการดื่มเหล้าร่วมกันกับทุกคนอย่างน่าประหลาด


 


 


แม้แต่เหตุผลที่อวี๋เยว่หานมาร่วมงานเลี้ยง ก็กลายเป็นการให้รางวัลทุกคนในแผนกประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่เพราะเธอ…


 


 


สีหน้าของเหวินหย่าไต้ดูไม่ได้ในทันที


 


 


แต่ทุกคนยังไม่ทันได้สังเกตเห็น เธอก็อ้าวว่ามีสายเข้า และออกจากห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวไป


 


 


ผู้จัดการสาวยืนอยู่ตรงประตู สองมือกำหมัดเข้าหากันอย่างแรง จนด้านหลังมือมีเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนขึ้นมา


 


 


ข่มความรู้สึกสูญเสียการควบคุมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เธอหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำสาธารณะ อยากจะเติมเครื่องสำอางสักหน่อย


 


 


แต่เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู เธอก็ชนเข้ากับใครบางคน


 


 


“โอ้ ผมเจอใครเนี่ย ที่แท้ก็คุณเหวิน สาวสวยของพวกเรา มาเที่ยวที่นี่เหรอครับ อยากไปดื่มกับผมสักแก้วไหม” ชายหนุ่มท่าทางดูไม่อยู่กับร่องกับรอยยิ้มกริ่มทันทีที่เห็นเหวินหย่าไต้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกินเหล้า


 


 


“หลินเชา…” เหวินหย่าไต้หรี่ตา เธอจำคนตรงหน้าได้ เขาเป็นลูกหลานตระกูลร่ำรวยที่มีชื่อเสียงในวงการ


 


 


เธอกลอกตาเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสียงเบาพร้อมกับหัวเราะไปด้วย


 


 


“แล้วฉันเจอใครเนี่ย ที่แท้ก็คุณชายหลินนี่เอง” เหวินหย่าไต้ทักทายเสร็จอย่างง่ายๆ แต่หลินเชายังไม่ได้ตอบ หญิงสาวก็กอดอกมองเขาเชิงเสียดสีแล้ว


 


 


“คุณชายหลินยังมีกะใจมาเที่ยวอีกนะคะ ท่าทางคงยังไม่รู้ ว่าซ่างซินตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าแล้ว และจะร่วมงานกับพวกเราทันที”


 


 


“…คุณว่าไงนะ?” หลินเชาหรี่ตาเจ้าเล่ห์ลงทันที


 


 


สายตาดูโหดเ**้ยมขึ้นทันที


 


 


ตระกูลหลินเป็นเศรษฐีตามแบบฉบับ ตัวหลินเชาเองยิ่งเป็นพวกมีเงินสกปรก และคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายจริงๆ


 


 


ตอนเพิ่งเข้าทำงานในบริษัทของตัวเอง เขาโชคดีได้เจอสาวสวยอย่างซ่างซิน จากนั้นก็พูดไปเรื่อยว่าตัวเองจะต้องเชิญเธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ได้


 


 


ผลสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องตลกเสียแล้ว…


ตอนที่ 183 คุณให้ผมมา


 


 


ว่ากันว่าวันนั้นเขาถอเงินสดกล่องหนึ่งไปให้ซ่างซินด้วยตัวเอง พร้อมทั้งสาบานว่าจะต้องทำให้ซ่างซินเซ็นสัญญากับเขาให้ได้


 


 


คิดไม่ถึงว่าวันนั้นเข้าไปหาซ่างซินแล้ว เขากลับไม่ได้เจอหน้าเธอ และถูกผู้จัดการของเธอไล่กลับไปด้วยซ้ำ


 


 


แม้แต่กล่องเงินของเขาก็ถูกโยนออกมาด้วย


 


 


ตอนนั้นมีลูกคนรวยอีกสองสามคนไปด้วยกัน หลินเชาจึงเสียหน้ากับการถูกโยนออกมาครั้งนั้นอย่างมาก


 


 


และตอนนี้ไม่มีใครรู้ ว่าซ่างซินจุดอ่อนของเขา


 


 


เดิมทีซ่างซินไม่เคยรับงานพรีเซ็นเตอร์ เขาพอจะแสร้งคิดว่าซ่างซินมีใจให้เขาอยู่บ้าง


 


 


แต่ตอนนี้…


 


 


“พูดขึ้นมาแล้วซูเปอร์ไวเซอร์ที่เพิ่งมาใหม่ของบริษัทเราก็เก่งนะ เรื่องที่แม้แต่คุณชายหลินทำไม่ได้ เธอก็ทำได้หมด ฉันว่านะ คุณชายหลินไม่คู่ควรกับซ่างซินหรอก คุณเสียเวลากับเธอไปมากขนาดนั้น ตอนนี้เธอกลับรับปากคนอื่นอย่างง่ายด้าย ไม่เท่ากับเป็นการหักหน้าคุณเหรอ”


 


 


เหวินหย่าไต้ชายตามองใบหน้าที่ดูไม่ได้จนถึงที่สุดของหลินเชา ราวกับว่าอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจในคืนนี้ให้กับเขาทั้งหมด พร้อมทั้งยิ้มสดใสกว่าเดิม


 


 


“คุณพูดจริงเหรอ” หลินเชาฟังเธอแล้วพูดไม่ออกจริงๆ


 


 


เขาคว้าข้อมือของเธอพลางกัดฟัน


 


 


นางแบบคนหนึ่งทำตัวสูงส่งต่อหน้าเขา เขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว


 


 


ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขาอยากจะคลุกคลีอยู่ในวงสังคมชั้นสูง ไม่อนุญาตให้เขาก่อเรื่อง เขาคงจะจัดการผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว!


 


 


“จริงแท้แน่นอน วันนี้ฉันมาที่นี่ ก็เพราะมาฉลองให้กับเพื่อนร่วมงานใหม่ที่ทำให้ซ่างซินเซ็นเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ สงสารก็แต่คุณชายหลินนี่แหละ…จิ๊ๆ!” เหวินหย่าไต้ใช้นิ้วเรียวจิ้มหน้าอกของหลินเชา ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย


 


 


จากนั้นก็ส่ายหน้าให้เขา แล้วเดินเข้าห้องน้ำสาธารณะไป


 


 


 


 


 


ในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว


 


 


การออกไปจากห้องของเหวินหย่าไต้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศสนุกสนานของทุกคนเลย


 


 


โดยเฉพาะคนกินจุบางคน


 


 


อวี๋เยว่หานพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าของเขาหันไปด้านข้างเล็กน้อย จะได้มองเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ปูขึ้นมาแทะทีละตัว


 


 


ไม่นานตรงหน้าเธอก็เต็มไปด้วยกระดองปู


 


 


ไข่ปูเหลืองทองติดอยู่ที่ข้างปาก เธอไม่เพียงไม่หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ด แต่ใช้ลิ้นเลียกลับเข้าไปในปาก


 


 


จากนั้นก็กินต่ออีกตัวหนึ่ง…


 


 


เธอแกะปูเก่งมาก และยังไม่ลืมที่จะพึมพำว่า “ปูอร่อยขนาดนี้ ยังไม่คนไม่กินด้วยแฮะ”


 


 


พูดจบเธอก็หันไปชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง


 


 


จากนั้นก็ก้มหน้าแทะปูอย่างเงียบๆ


 


 


อวี๋เยว่หาน “…”


 


 


เมื่อเห็นปูก้ามขนตรงหน้า เขาก็เลิกคิ้ว แล้วดันปูของตัวเองไปตรงหน้าเธอ


 


 


เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกายทันที แต่เพิ่งจะลังเลว่าต้องทำเป็นเกรงใจเขาสักหน่อยไหม ก็ได้ยินเสียงดึงดูดของเขาพูดขึ้นมา “แกะให้ผมกินหน่อย”


 


 


“…”


 


 


อะไรนะ?


 


 


ไม่ใช่ให้เธอกิน แต่ให้เธอแกะให้เขาอย่างนั้นเหรอ


 


 


รอยยิ้มตรงมุมปากของเหนียนเสี่ยวมู่แข็งทื่อไปแล้ว แม้แต่ขาปูข้างสุดท้ายในมือก็ลืมดูด


 


 


แต่เพิ่งคิดจะพูดว่าเขาเองก็มีมือมีเท้า ทำไมต้องให้เธอคอยเอาใจ


 


 


ก็ได้ยินเขาพูดเสริมอีกประโยคด้วยความสบายใจว่า “คุณให้ผมมานะ”


 


 


เสียงของเขาไม่ดังมาก มีเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเท่านั้นถึงจะได้ยิน


 


 


เธอคิดจะเถียง แต่ในหัวก็นึกได้ทันทีว่าวันนั้นเธอลุ่มหลงไปกับความหล่อเหลาของเขาอยู่บนรถ ถึงได้เอ่ยปากชวนเขามา


 


 


หญิงสาวเงียบไปในบัดดล


 


 


จากนั้นก็ก่นด่าอยู่ในใจเงียบๆ ‘เป็นกรรมที่ตัวเองก่อทั้งนั้น ทนๆ เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว…’


 


 


เธอใส่ถุงมือด้วยความชำนาญ จากนั้นก็แกะปูพร้อมกับต่อว่าเขาอยู่ในใจ


 


 


และถือโอกาสตอนที่อวี๋เยว่หานไม่ได้สังเกต แอบยัดใส่ปากตัวเองด้วยคำหนึ่ง


 


 


สุดท้ายแล้วเธอก็อดทนแกะปูจนเสร็จอย่างยากลำบาก แล้วส่งไปตรงหน้าเขา


 


 


“คุณชาย ค่อยๆ กินนะ”


 


 


“แกะต่อไป”


 


 


 


 


ตอนที่ 184 ลูกชายโง่ของเจ้าของที่ดิน


 


 


อวี๋เยว่หานรับถ้วยใส่เนื้อปูจากตรงหน้าเธอมาก จากนั้นก็ถือโอกาสส่งถ้วยเปล่าให้เธออีก


 


 


จากนั้นเขาก็คีบเนื้อปูใส่ปากอย่างสบายใจ ท่ามกลางสายตาโมโหเกรี้ยวกราดของเธอ


 


 


ไม่นานปูหนึ่งตัวที่แกะได้เป็นอย่างดีก็ลงไปอยู่ในท้องเขาแล้ว


 


 


ปูก้ามขนตามฤดูกาลรสชาติสดใหม่มาก


 


 


โดยเฉพาะตอนที่ไข่ปูสัมผัสปุ่มรับรส…


 


 


อวี๋เยว่หานหรี่ตาสีดำขลับของเขาลงเล็กน้อย เทียบกับอาหารอร่อยๆ แล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังแกะปูได้อย่างสวยงามข้างๆ ดึงดูดสายตาเขายิ่งกว่า


 


 


สองมือของเธอจับตัวปูก้ามจน แกะกระดองและขาปูออก จากนั้นก็นำเนื้อทั้งหมดใส่ลงไปในชามเปล่า


 


 


ตัวเธอแอบซ่อนไข่ปูเอาไว้ ก่อนจะดูดคำหนึ่ง พร้อมหรี่ตาลงอย่างมีความสุข


 


 


เธอคิดว่าเขาไม่รู้ ถึงได้ยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อยที่ทำแผนการร้ายได้สำเร็จ


 


 


นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานวูบไหว มุมปากยกยิ้มอย่างอดไม่อยู่…


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ยินดีต้อนรับเข้าสู่แผนกของเรานะครับ ผมขอดื่มยกย่องคุณแก้วหนึ่งได้ไหม” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังทำลายความปรองดองระหว่างพวกเขาสองคน


 


 


อวี๋เยว่หานเลิกคิ้วมองไปข้างๆ เธอ


 


 


เพื่อนร่วมงานชายในแผนกประชาสัมพันธ์คนหนึ่ง กำลังยกแก้วไวน์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่มองเธอด้วยตาเป็นประกาย


 


 


ท่าทางแบบนี้ดูเหมือนแม่หม้ายที่กำลังสารภาพรัก


 


 


ทั้งคาดหวัง ทั้งกลัวที่จะถูกปฏิเสธ


 


 


แต่เหนียนเสี่ยวมู่กลับเหมือนลูกชายโง่ของเจ้าของที่ดิน เธอมองความคิดของอีกฝ่ายไม่ออกโดยสิ้นเชิง จึงทิ้งกระดองปูในมือทิ้ง และยกแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาชนแก้วกับอีกฝ่ายด้วยท่าทางอาจหาญอย่างยิ่ง ก่อนจะดื่มอึกๆ จนหมด


 


 


“ฉันดื่มหมดแล้ว คุณก็ตามสบายนะคะ!”


 


 


ท่าทางกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ แม้แต่ผู้ชายมองก็ยังงุนงง


 


 


ผู้ชายคนนั้นอยากพูดอะไรต่อ แต่เธอก็นั่งลงตั้งอกตั้งใจแกะปูต่อแล้ว


 


 


ราวกับว่าในสายตาของเธอไม่มีเรื่องอื่นใดเทียบกับงานแกะปูในมืออีกแล้ว…


 


 


อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเพื่อนร่วมงานชายที่เดินกลับไปอย่างรวดเร็ว มุมปากทำมุมโค้งเห็นชัดยิ่งขึ้น


 


 


จากนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเหนียนเสี่ยวมู่แอบกินขาปูสองข้างของเขาด้วยใบหน้าใด้ใจอีกครั้ง


 


 


“แกะเสร็จตัวนี้แล้ว ที่เหลือผมให้คุณหมดเลย”


 


 


“…” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองเขาด้วยความงงงัน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าก้อนน้ำแข็งถึงมีนิสัยแบบนี้


 


 


เธอได้ยินว่าตัวเองใกล้จะปลดแอกแล้ว ก็ยิ่งก้มหน้าก้มตาตั้งใจแกะปูให้เขายิ่งกว่าเดิม


 


 


แต่ยังไม่ทันได้แกะปูในมือให้เสร็จ ก็มีเพื่อนร่วมงานชายมาขอชนแก้วอีก


 


 


“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมขออวยพรคุณครับ เพิ่งมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์แท้ๆ แต่ก็ตกลงให้ซ่างซินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้” เพื่อนร่วมงานชายในครั้งนี้เตรียมพร้อมก่อนจะมาอย่างเห็นได้ชัด เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ดื่มไวน์ของตัวเองจนหมดก่อน เพื่อขอดื่มหมดแก้วก่อนต่อหน้าเธอ


 


 


จากนั้นดวงตาของเขาจ้องเขม็งมาที่เธอ


 


 


แล้วหล่าวชมจากใจ “คุณสวยมากเลยครับ”


 


 


“ไม่หรอกค่ะ เรื่องพรีเซ็นเตอร์ทุกคนก็มีสวยทั้งนั้น ต่อไปก็ขอให้ช่วยดูแลฉันด้วยนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ยกแก้วไวน์ พร้อมกับตอบรับด้วยรอยยิ้ม


 


 


เธอคิดง่ายๆ ว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานในแผนก แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว


 


 


แค่ดื่มไวน์เท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นใด


 


 


เมื่อเห็นเธอเปิดเผยแบบนี้ คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวก็พากันยกแก้วไวน์ดื่มตามเธอไปด้วย


 


 


งานเลี้ยงแผนกที่เดิมทีดูธรรมดาก็เปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงดื่มเหล้าไปในพริบตา


 


 


เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานชายต่อแถวเข้ามาขอชนแก้วกับเหนียนเสี่ยวมู่ทีละคน ใบหน้าหล่อเหลามีมุมชัดเจนของอวี๋เยว่หานก็ค่อยๆ มืดมนลง แถมยังขมวดคิ้วมุ่นด้วย


 


 


เหล่าเพื่อนร่วมงานหญิงของแผนกประชาสัมพันธ์เพิ่งเคยนั่งกินข้าวอยู่ใกล้ๆ กับประธานบริษัทของตัวเองเป็นครั้งแรก


 


 


แถมเขายังเป็นเทพบุตรในสายตาของทุกคนด้วย


 


 


หญิงสาวหลายคนเพิ่งรวบรวมความกล้าได้ คิดจะไปชนแก้วกับเขา แต่ก็เหลือบไปเห็นใบหน้าเย็นชาของเขาเสียก่อน จึงได้แต่หดตัวกลับไปเงียบๆ


 


 


พากันเซื่องซึมกันไปเป็นแถว

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม