เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก 146-152

 ตอนที่ 146 : ความหลงใหลของบ้านหลัว (1)

โดย

Ink Stone_Romance

ฝั่งบ้านเฉินไม่รู้ความคิดของบ้านหลัวและหลัวเหมย บ้านหลัวตอบกลับมาว่าถ้าไม่แต่งลูกสาวเข้าบ้านใหม่ ลูกสาวก็จะไม่แต่ง ให้บ้านเฉินเก็บบ้านใหม่ไว้ เลี้ยงสัตว์เถอะ


ตอบกลับมาแบบนี้ ชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้จบแล้ว บ้านเฉินจึงต้องหาคนอื่นต่อ


เพราะเฉินจงยุ่งเรื่องสร้างบ้านใหม่ ตอนที่ถึงขั้นตอนเก็บรายละเอียดบ้าน เฉินจงดูผอมมาก ทุกวันหวางนิวทำอาหารจนเหนื่อยสายตัวแทบขาด เฉินกุ้ยก็มาช่วย ผอมลงไปเยอะเช่นเดียวกับเฉินจง เฉินเยี่ยนเห็นพวกเขาไม่มีเวลา เธอเอาบุหรี่ที่ห่อเสร็จแล้ววางบนชั้นรถเข็น ครึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้ไปส่งบุหรี่ ในบ้านมีกองบุหรี่เต็มไปหมด ควรต้องไปส่งแล้ว


“พี่ ไม่ต้องรีบ เดินเหนื่อยแล้วก็พักนะ”


หวางจวน เดิมทีเธออยากจะไปด้วย แต่ฝั่งนี้หวางนิวยุ่งมากจริงๆ เฉินเวยก็หายไปไม่เห็นเงา หวางจวนช่วยหวางนิวอบหมั่นโถว ทำกับข้าว เฉินเยี่ยนเลยต้องไปส่งด้วยตัวเอง


จนมาส่งบุหรี่ถึงที่สุดท้ายแล้ว เฉินเยี่ยนค่อยมีเวลาเช็ดเหงื่อบนศีรษะตัวเอง อากาศร้อน เธอลากรถเดินมาตามถนนแบบนี้ เลยรู้สึกเหนื่อย แต่ในเมื่อเข้ามาในอำเภอแล้ว เธออยากจะซื้อเนื้อ ซื้อของกินกลับไปหน่อย พรุ่งนี้พ่อจะได้ไม่ต้องไปตลาด


พอเข้าไปในสหกรณ์ เห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ เฉินเยี่ยนถึงค่อยนึกขึ้นได้ เธอลืมเวยหลายชุนไปได้ยังไงนะ น่าจะเพราะยุ่งมาก


แต่ในเมื่อมาแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะหันหลังกลับ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกับเวยหลายชุน


เฉินเยี่ยนส่งยิ้มให้ สีหน้าเวยหลายชุนดูสับสน


ไม่ได้เจอเฉินเยี่ยนมานาน เฉินเยี่ยนยังคงดูสดใส ทำให้ใจหวั่นไหว แต่เธอไม่ได้เป็นคนของตัวเอง


คิดถึงซินห้าว เวยหลายชุนก็โมโหขึ้นมา แต่เขามีเฉินเวย เฉินเวยไม่ได้แย่ไปกว่าเฉินเยี่ยน ถึงแม้เฉินเวยจะดูอ่อนแอ ถึงแม้อยู่กับเฉินเวยเขาจะเสียเงินและตั๋วไปไม่น้อย แต่เขาคิดว่าคุ้มค่า เพราะเฉินเวยชอบเขาด้วยใจจริง ไม่เหมือนเฉินเยี่ยน


“คุณลุงคะ ฉันจะซื้อเนื้อ เต้าหู้ ถั่วงอก แล้วก็ผ้าขนหนูสองผืน และซื้อเสื้อให้พ่อกับพี่ชายคนละตัวค่ะ”


เฉินเยี่ยนเห็นสีหน้าสับสนของเวยหลายชุนเลยไม่ได้เข้าไปหา เธอไปหาลุงป่าวเอิน


“ได้ เดี๋ยวลุงหยิบให้ เยี่ยนจื่อ บ้านสร้างใกล้เสร็จแล้วล่ะสิ?”


ระหว่างลุงป่าวเอินหยิบของให้เฉินเยี่ยน ก็ถามไปด้วย


“อืม พ่อหนูบอกว่าอีกสิบวับก็น่าจะสร้างเสร็จแล้ว ตากทิ้งไว้หนึ่งเดือน ก็เก็บเกี่ยวเสร็จพอดี พวกเราจะได้ย้ายเข้าไปได้เลย”


เฉินเยี่ยนพูดขึ้นมาก็ดีใจ


“ดี ดี บ้านเธอนี่เก่ง บ้านในหมู่บ้านเรานี่ เธอเป็นหลังแรกที่สร้างบ้านหลังคามุงกระเบื้องเจ็ดห้อง”


ลุงป่าวเอินดีใจด้วยความจริงใจ ถึงแม้ว่าเขาแนะนำเวยหลายชุนและเฉินเยี่ยนไม่สำเร็จ แต่บ้านเฉินมีความเป็นอยู่ที่ดี สร้างบ้านใหม่ เขาก็ดีใจ


ตอนที่เฉินเยี่ยนช่วยเฉินจงกับเฉินกุ้ยเลือกเสื้อ ลุงป่าวเอินถามเฉินเยี่ยนเสียงเบา “เยี่ยนจื่อ เธอกลับไปบอกเสี่ยวเวยหน่อย ไม่มีอะไรก็ไม่ต้องมาสหกรณ์ ตอนนี้คนข้างในต่างลือกันเรื่องเธอกับต้าชุน โดยเฉพาะเอ้อเฟิ่งที่ทะเลาะกับเธอครั้งที่แล้ว ว่าได้หยาบคาบมาก เสี่ยวเวยยังไม่ได้แต่งงานเลย ต้าชุนก็ไม่แย่ แต่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะดูตัวเธอ ถ้าเขาไปหาเสี่ยวเวย ข่าวแพร่ออกไปจะไม่น่าฟังเอา”


ฟังคำพูดของลุงป่าวเอินแล้ว เฉินเยี่ยนมองไปรอบๆ วันนี้เธอไม่เห็นเอ้อเฟิ่ง น่าจะหยุดงานมั้ง เธอก็รู้ว่าลุงป่าวเอินเตือนตัวเองด้วยความหวังดี แต่เรื่องนี้เธอควบคุมไม่ได้จริงๆ


“คุณลุง ลุงก็รู้ว่าเรื่องที่สวนผลไม้ครั้งที่แล้วเกิดขึ้น หนูกับเสี่ยวเวย… ครั้งที่แล้วก็เป็นเสี่ยวเวยกับเวยต้าชุนที่ว่าเรื่องหนูกับอวี๋เหวยหมิน หนูเคยเตือนเฉินเวยแล้ว แต่เธอไม่ฟัง ก่อนหน้านี้แม่หนูก็ไม่ให้เธอออกมา พ่อก็พูดเหมือนกัน แต่ดูไม่ไหวแล้ว”


สีหน้าเฉินเยี่ยนดูลำบากใจ ว่าเฉินเวยไม่ดี เธอไม่รู้สึกผิดอะไรเลย


“เฮ้อ ลำบากเธอแล้ว ลูกโตแล้วพ่อแม่บังคับไม่ได้ ดูสิพ่อเธอก็เป็นคนดีไม่แย่เลย แม่เธอก็เป็นคนซื่อๆ จริงใจ เสี่ยวเวยนี่ดูแปลกๆ ทำไมเป็นแบบนี้ได้?”


ลุงป่าวเอินส่ายหน้า เทียบกับเฉินเวยแล้ว เขาชอบเฉินเยี่ยนมากกว่า โดยเฉพาะเวลาที่เฉินเวยชอบมาหาเวยหลายชุน หลังจากได้ยินเฉินเวยคุยกับเวยหลายชุน อีกทั้งเวยหลายชุนมักจะซื้อของในสหกรณ์ให้เฉินเวย ลุงป่าวเฉินยิ่งเห็นแล้วขัดใจ แต่เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง


“เอาล่ะ กลับไปเถอะ ค่อยๆ กลับนะ”


ลุงป่าวเอินเก็บเงินและตั๋ว ช่วยเฉินเยี่ยนห่อข้าวของ แล้วกำชับเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนลากรถกำลังจะเดินไป มีคนเดินออกมาจากสหกรณ์ ยืนอยู่ด้านหน้าเธอ


“หลีกทางหน่อยค่ะ”


เฉินเยี่ยนไม่ได้เงยหน้าขึ้น เธอรู้ว่าเป็นใคร


“เฉินเยี่ยน ถามหน่อย เฉินเวยล่ะ?”


เสียงเวยหลายชุนพยายามระงับความโกรธ หลายวันนี้เฉินเวยไม่ได้มาหาเขา เขารู้สึกหงุดหงิดมาก วันนี้เจอเฉินเยี่ยน เขาทนไม่ไหวเลยมาถามเฉินเยี่ยน


“น่าขำ คุณมาถามฉัน? เฉินเวยเป็นอะไรกับคุณ? คุณมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน? อีกอย่าง เฉินเวยไปไหนเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันไม่ได้มีหน้าที่คอยช่วยคุณ”


เฉินเยี่ยนเงยหน้าขึ้น วางที่ลากรถไว้ เวยหลายชุนนี่น่าตลกสิ้นดี เขามีสิทธิ์อะไรมาถามตัวเอง แต่เฉินเวยไม่อยู่บ้าน เธอไม่ได้มาหาเวยหลายชุน งั้นต้องอยู่กับอวี๋เหวยหมินแน่นอน


“คุณอย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณทำอะไรกับเฉินเวยไว้บ้าง เธอบอกผมหมดแล้ว ผมจะบอกคุณให้ อีกหน่อยห้ามแกล้งเฉินเวย ไม่อย่างนั้น…”


เวยหลายชุนโกรธมาก เตือนเฉินเยี่ยน นอกจากเขาจะทวงความยุติธรรม สนับสนุนเฉินเวยแล้ว เขายังไม่พอใจอีกด้วย


“ไม่อย่างนั้นจะทำไม? เวยหลายชุนก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าคุณนิสัยไม่แย่เลย ตอนนี้ดูเหมือนคุณก็แค่สติเลอะเลือนคนหนึ่ง”


เฉินเยี่ยนเริ่มโกรธ เวยหลายชุนนี่เป็นบ้าอะไร หรือว่าผู้ชายทุกคนเป็นแบบนี้กันหมด โดนคำหวานของผู้หญิงอย่างเฉินเวยไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่มีสมองแล้ว


“คุณ แล้วคุณมีเหตุผลหรือไง ตัวเองไม่มีชื่อเสียงแล้ว คุณกับผู้ชายคนนั้นแอบทำอะไรกัน คุณยังกล้ามาว่าคนอื่น เฉินเยี่ยนคุณมันหน้าไม่อาย!”


เวยหลายชุนคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะว่าเขาแบบนี้ เขาไม่มีสติ พูดด่าว่าให้เจ็บช้ำน้ำใจ


“ฉันหน้าไม่อายแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? ฉันเป็นอะไรกับคุณ ไม่ต้องมาสนใจหรอก จะสนใจก็ไปสนใจเฉินเวยของคุณเถอะ วันนี้เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว จนฉันออกจากบ้านเธอก็ไม่อยู่บ้าน ฉันยังคิดว่าเธอจะมาหาคุณเสียอีก คิดไม่ถึงว่าไม่ใช่ งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วว่าเธอไปไหน หรือคุณลองคิดดูสิ?”


เฉินเยี่ยนไม่ได้โกรธ แต่กลับหัวเราะ ไม่รู้ว่าเวยหลายชุนจะรู้นิสัยเฉินเวยหรือยัง จะหน้าแดงเพราะคำพูดวันนี้ของเขาหรือเปล่า


“คุณไม่ต้องมายุยงเลย ผมรู้ว่าเสี่ยวเวยเป็นคนยังไง เธอจิตใจดี ใจอ่อน คอยคิดทนคุณ คุณยังมาว่าร้ายเสี่ยวเวยอีก เธอดีกว่าคุณเป็นร้อยเท่า!”


เวยหลายชุนคิดว่าเฉินเยี่ยนอารมณ์เสียเพราะเห็นเขาและเฉินเวยดีต่อกัน ถึงได้ยุแยงเขาและเฉินเวย


“งั้นก็ขอให้คุณโชคดีแล้วกัน”


เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะพูดมากแล้ว ตอนนี้เวยหลายชุนโดนเฉินเวยทำให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ตัวเองพูดอะไรไป สำหรับเขาก็คือผิดทั้งหมด ทำไมจะต้องมาสิ้นเปลืองน้ำลาย รอเขาลำบาก เดี๋ยวเขาก็รู้เอง แต่ถึงแม้เขาจะลำบาก คิดว่าเขาก็จะไม่เกลียดเฉินเวย กลับโทษตัวเองด้วยซ้ำ เฉินเวยต้องผลักปัญหามาที่ตัวเขาแน่นอน นี่เป็นวิธีการของเฉินเวย


—————–


ตอนที่ 147: ความหลงใหลของบ้านหลัว (2)

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนลากรถไปแล้ว เวยหลายชุนไม่พอใจยังไงก็ได้แต่มอง เขาไปแย่งรถเฉินเยี่ยนไม่ให้เฉินเยี่ยนไปไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง


กลับมาที่เคาน์เตอร์ เวยหลายชุนเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เฉินเยี่ยนบอกว่าเฉินเวยออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า เธอกลับไม่ได้มาหาตัวเอง แล้วเธอไปไหม?


ตอนเริ่มแรกเฉินเวยมาหาเขาแทบทุกวัน ก่อนหน้านี้เฉินเวยมาน้อยลง บอกว่าที่บ้านดูเธออยู่ บอกว่าแม่เธอไม่ให้เธอมาในอำเภอ ไม่ให้เธอไปมาหาสู่กับเขา เธอได้รับความกดดันจากทางบ้าน หาโอกาสหนีมาพบเขา


เขาซาบซึ้งมาก รู้สึกว่าเฉินเวยชอบเขาด้วยใจจริง เพื่อเขาเลยถึงกับยอมเสียสละมากมาย


ทุกครั้งที่เจอสายตาเฉินเวยเต็มไปด้วยความรัก มองใบหน้าเขินอายของเฉินเวย เขาพึงพอใจมาก เขาคิดว่าเฉินเวยคือคนที่ดีที่สุด


แต่วันนี้คำพูดเฉินเยี่ยนกลับทิ่มแทงใจเขา เขาบอกตัวเองว่าเฉินเยี่ยนอิจฉา ต้องการจะทำให้เขาและเฉินเวยแตกกัน ถึงได้พูดแบบนี้ แต่อีกด้าน เขาก็รู้สึกว่าเฉินเยี่ยนไม่ได้พูดโกหก หลังจากรู้จักเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนไม่เคยโกหกเขาเลย ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นเฉินเวยไปไหน?


เธอจะไปหาอวี๋เหวยหมินคนนั้นหรือเปล่า?


ไม่รู้ว่าทำไมเวยหลายชุนถึงคิดถึงอวี๋เหวยหมิน ใจเขาไม่สงบสุข


ไม่พูดถึงเวยหลายชุน พูดถึงเฉินเยี่ยน เธอออกจากสหกรณ์ ระหว่างทางลากรถกลับ เดินไปได้ครึ่งทาง เธอหาร่มไม้นั่งลงพัก เหนื่อยมากจริงๆ


และไม่รู้ว่าซินห้าวทำอะไรอยู่ เรื่องโรงงานตกลงได้หรือยัง


จะช้อนซื้อโรงงานนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คนงานยุคนี้เนื้อหอมมาก กิจการโรงงานทั่วไปก็ดีมาก โรงงานนี้ไม่ยอมให้ค่าจ้าง หมายความว่าไม่ได้กำไร ซินห้าวซื้อโรงงานมาก็ไม่รู้ว่าจะทำให้โรงงานเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีได้หรือไม่? เพราะซินห้าวยังอายุน้อย เขาไม่มีประสบการณ์ ถ้าถึงเวลากิจการโรงงานไปต่อไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าซินห้าวจะกดดันหรือไม่


แต่ไม่เป็นไร พวกเขายังเด็ก ยังรับความล้มเหลวได้อยู่ ช่วงตอนเริ่มต้นปฏิวัติ คนมากมายที่ธุรกิจล้มเหลว นับประสาอะไรกับพวกเขาที่จะต้องประสบความสำเร็จ?


เธอไม่เป็นห่วงฝั่งซินห้าว เธอเชื่อว่าซินห้าวสามารถจัดการได้


แล้วเธอล่ะ?


เธอจะสร้างโรงงานด้วยดีไหม?


เรื่องซื้อโรงงานลืมไปได้เลย เธอไม่มีเงินทุน อีกอย่างถึงแม้จะซื้อ เหมือนเธอทำได้เพียงเรื่องบุหรี่ ซื้อมาแล้ว มีเรื่องอีกมากที่ต้องเผชิญแต่ละฝ่าย แล้วยังต้องติดต่อกับคนของรัฐอะไรอีก กฎระเบียบในการทำโรงงานก็ไม่น้อย เธอไม่ชอบเป็นคนโดนควบคุม เรื่องนี้ไม่เหมาะกับเธอ


แต่ให้เธออาศัยการห่อบุหรี่อย่างเดียว เมื่อไรเธอถึงจะเติบโตขึ้นมา?


ทำให้ใหญ่? ทำเป็นโรงงานห่อบุหรี่ รียกให้คนมาห่อบุหรี่ แล้วขยายการขายเพิ่ม?


บุหรี่ของเธอไม่มียี่ห้อ เป็นของที่ไม่มีการรับประกัน ถ้าโดนจับได้ ถ้าไม่โดนปิด ก็โดนปรับ ถ้าขยายใหญ่ ความเสี่ยงก็ไม่น้อยเลย


หรือเธอจะยื่นขอยี่ห้อบุหรี่? ถ้าทำบุหรี่ ต้องมีสูตรของตัวเอง แล้วต้องมีสถานที่ถึงจะยื่นสมัครได้สินะ? ตอนนี้เธอไม่ได้เตรียมเรื่องพวกนี้ไว้เลย


แล้วเธอรู้เรื่องว่าอีกหลายปี พวกที่ทำกระดาษทิชชู่หาเงินได้มาก เปิดโรงงานผลิตกระดาษทิชชู่ เงินก็ทะลักเข้ามา แต่สร้างโรงงานกระดาษ ต้องมีเงินลงทุนเครื่องจักร


สุดท้ายแล้วก็คือเงิน! เงินจ๋า รีบวิ่งเข้ามาหาฉันหน่อย ไม่มีเงินเธอคิดจะทำอะไรก็ไม่สำเร็จ


เฉินเยี่ยนกำหญ้าขึ้นมา คิดถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของเธอ แต่กลับปวดหัวเรื่องเงินลงทุน


“เยี่ยนจื่อ เธอคือเยี่ยนจื่อ? ทำไมมาอยู่ตรงนี้?”


มีจักรยานคันหนึ่งขี่ผ่านมาข้างหน้าเฉินเยี่ยน คนนั้นจ้องมองเฉินเยี่ยน เดิมทีขี่ผ่านไปแล้ว แต่กลับย้อนกลับมา


“คุณคือ?”


เฉินเยี่ยนมองประเมินดูคนที่เรียกเธอ อายุประมาณยี่สิบสอง รูปร่างสูงประมาณ 175 เซนติเมตร หน้าตาถือว่าใช้ได้ ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูสดใส ดูจากการแต่งกาย ใส่เสื้อกับกางเกงเข้าชุดกัน เป็นแบบทันสมัยที่สุดในยุคนี้ แล้วยังขี่จักรยาน ดูแล้วฐานะทางบ้านไม่แย่


ผู้ชายคนนี้ดูหน้าตาคุ้น แต่เฉินเยี่ยนมั่นใจว่าไม่เคยเจอหลังตัวเองกลับชาติมาเกิดแน่นอน น่าจะเป็นเจ้าของร่างเดิมรู้จัก แต่เธอนึกไม่ออก


“จำพี่ไม่ได้แล้วหรือ พี่เสี่ยวเฟยของเธอไง หูเฟย”


ผู้ชายที่ชื่อหูเฟยยิ้มให้เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนจำเขาไม่ได้ไม่แปลก เฉินเยี่ยนน่าจะไม่ได้เจอเขามาหลายปีแล้ว พูดขึ้นมาเขาเพิ่งได้เจอเฉินเยี่ยนมาเมื่อปีก่อน แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้เข้าไปคุยกับเฉินเยี่ยน ดังนั้นเขาจำเฉินเยี่ยนได้ แต่เฉินเยี่ยนกลับจำเขาไม่ได้


“อ้อ อ้อ ฉันนึกออกแล้ว พี่เสี่ยวเฟยบ้านคุณป้าฮวาเอ๋อร์”


เฉินเยี่ยนนึกขึ้นมาได้ทันที เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือใครจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม


หูเฟย เธอน่าจะเรียกว่าพี่ชาย แม่หูเฟยกับแม่เธอหวางนิวเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องขั้นที่สาม แต่เพราะที่บ้านหวางนิวลูกไม่เยอะ ดังนั้นเลยสนิทกับหลิวฮวาเอ๋อร์แม่ของหูเฟย วันปีใหม่ หลิวฮวาเอ๋อร์จะไปเยี่ยมญาติที่บ้านแม่หวางนิว


หลิวฮวาเอ๋อร์แต่งงานไปในอำเภอ ตอนนี้สามีเป็นคนงานในโรงงานหนึ่ง ตำแหน่งยังเล็กอยู่ แต่ฐานะที่บ้านดีมาก


ตอนที่เฉินเยี่ยนอายุสิบสองสิบสามปี หวางนิวอุ้มเฉินหู่มาหาหมอในอำเภอ แล้วยังมาอยู่ที่บ้านของฮวาเอ๋อร์ด้วย


ป้าฮวาเอ๋อร์คนนี้ ฐานะทางบ้านถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ว่าญาติคนไหนไปเยี่ยม เธอจะต้อนรับแค่น้ำแก้วเดียว ถึงแม้จะเรียกให้อยู่กินข้าว อาหารก็แย่มาก ที่บ้านเธอมีคนเอาอาหารกระป๋องมาให้ ถึงแม้จะไม่เท่าไร เธอก็เสียดายที่จะเอาออกมาต้อนรับญาติอยู่ดี


ถือว่าเป็นคนที่ขี้เหนียวมาก


เธอมีลูกชายสองคน คนโตชื่อหูชิ่ง แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีลูก


คนเล็กชื่อหูเฟย ยังไม่ได้แต่งงาน


เธอไม่มีลูกสาว แม่ก่อนตอนเจอเฉินเยี่ยน ยังบอกว่าจะให้เฉินเยี่ยนเป็นลูกสาวเธอ แต่เฉินเยี่ยนไม่ชอบเธอ รู้สึกว่าเธอเก่งแต่พูด นิสัยกลับขี้งก อีกอย่างเจ้าของร่างเดิมพูดไม่เก่ง ทุกครั้งที่เจอ เธอไม่เคยเป็นฝ่ายเข้าหาฮวาเอ๋อร์ก่อนเลย


แต่เฉินเวยกลับชอบพูดคุยกับป้าฮวาเอ๋อร์คนนี้มาก แต่ถึงแม้เฉินเวยจะประจบขนาดไหน ป้าฮวาเอ๋อร์ก็ไม่เคยให้เฉินเวยกินอะไรเลย ตอนหลังเฉินเวยเลยไม่เข้าหาแล้ว


ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ เจ้าของร่างเดิมกับหูเฟยเคยเป็นคู่หมั้นหมายกันตอนเด็กมาก่อน


นี่ไม่ใช่ความคิดของป้าฮวาเอ๋อร์ เป็นคุณตาของเฉินเยี่ยน หวางนิวก็คิดว่าไม่แย่ ส่วนป้าฮวาเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองบ้านเลยตกลงกัน


แต่ต่อมาฐานะทางบ้านหูนับวันยิ่งดีขึ้น บ้านเฉินกลับไม่ได้ดีอะไร ป้าฮวาเอ๋อร์เลยไม่พูดเรื่องแต่งแล้ว


ตอนที่เฉินจงให้เฉินเยี่ยนหมั้นกับอวี๋เหวยหมิน หวางนิวยังบ่นถึงเรื่องนี้ แล้วยังไปถึงบ้านหู แต่หลังจากกลับมาหวางนิวก็ไม่พูดอะไรเลย ยังไงในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเธอไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน เจ้าของร่างเดิมเลยหมั้นกับอวี๋เหวยหมิน


หลังจากนั้นมาเธอก็ไม่ได้เจอหูเฟยอีกเลย บางทีอาจจะเห็นไกลๆ แต่จำไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอ


“ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้?”


หูเฟยเห็นเฉินเยี่ยนจำเขาได้ก็ดีใจมาก


“มาซื้อของในอำเภอ บ้านฉันสร้างบ้านอยู่ไม่ใช่หรือ? คนกินข้าวเลยเยอะ”


เฉินเยี่ยนยิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัด สำหรับเธอแล้ว หูเฟยคือคนแปลกหน้า ส่วนเรื่องหมั้นตอนเด็กที่จบไปแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ


—————


ตอนที่ 148: มาเยี่ยมที่บ้าน

โดย

Ink Stone_Romance

“บ้านเธอสร้างบ้านหรือ? ทำไมไม่บอกสักคำ พี่จะได้ไปช่วยด้วย คุณป้ากับคุณลุงสุขภาพเป็นยังไงบ้าง ต้องเหนื่อยมากแน่เลยใช่ไหม?”


หูเฟยดูกระตือรือร้นมาก ถามเฉินเยี่ยนไม่หยุด


เฉินเยี่ยนตอบทีละคำถาม รู้สึกแปลกใจ เมื่อก่อนหูเฟยคนนี้ดูไม่ได้กระตือรือร้นแบบนี้เลย เขากับเจ้าของร่างเดิมเคยคุยกันแค่ไม่กี่คำ ถึงแม้จะเจอหน้าก็แค่ทักทาย แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น?


เฉินเยี่ยนมองท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้ขึ้นฝั่งตะวันตกนี่นา


“เยี่ยนจื่อ ได้ข่าวว่าเธอกับบ้านอวี๋ถอนหมั้นกันแล้วหรือ? เธอ อย่าเสียใจไปเลยนะ บ้านอวี๋นั่นไม่ใช่คนดีอะไร คุณป้ากับคุณลุงต้องหาคนที่ดีกว่านี้ให้เธอแน่”


หูเฟยปลอบเฉินเยี่ยน เขายังแอบสังเกตสีหน้าของเฉินเยี่ยน กลัวว่าพูดแบบนี้ไปเฉินเยี่ยนจะโกรธ


“ขอบคุณค่ะพี่เสี่ยวเฟย ไม่เป็นไร ฉันไม่เสียใจ”


เฉินเยี่ยนยิ้มขอบคุณ ไม่ว่าจะยังไงก็ถือว่าเขาปลอบเธอ เธอเลยรับไว้ เพียงแต่พูดมาตั้งนาน เธอเตรียมจะกลับแล้ว ทำไมเขายังไม่ไปอีก


“ไม่เสียใจก็ดีแล้ว ไม่เสียใจก็ดีแล้ว”


เห็นเฉินเยี่ยนไม่โกรธ หูเฟยค่อยถอนหายใจออกมาเงียบๆ เฉินเยี่ยนไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย เมื่อก่อนเฉินเยี่ยนเห็นเขาก็จะหลบ ไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าเขาพูดกับเฉินเยี่ยนแบบนี้ อย่างมากเฉินเยี่ยนก็จะก้มหน้าไม่พูดอะไร ในความทรงจำเขาเฉินเยี่ยนหน้าตาสวย แต่ไม่ค่อยพูด ไม่ใช่แบบที่เขาชอบ ภรรยาแบบนี้น่าเบื่อ


ดังนั้นตอนหวางนิวแม่เธอมาที่บ้านคุยเรื่องเขากับเฉินเยี่ยน เขาบอกแม่เขาว่าเขาจะไม่แต่งงานกับเฉินเยี่ยน แม่เขาก็คิดแบบนี้เหมือนกันพอดี เลยปฏิเสธหวางนิวไป จากนั้นได้ยินแม่เขาบอกว่าเฉินเยี่ยนหมั้นกับบ้านอวี๋ เขาดีใจมาก มาจับเขาหมั้นกันตอนเด็กได้ยังไง ภรรยาเขาเขาต้องหาเอง


เขาหาได้คนหนึ่ง เขาชอบผู้หญิงคนนั้นมาก เป็นคนชนบทเหมือนกัน เขาเป็นคนงาน ผู้หญิงคนนั้นยังเรียนอยู่ ตอนแรกทั้งสองคนดีกันมาก บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเรียนจบแล้ว เขาจะหางานเป็นคนงานให้เธอ แล้วพวกเขาแต่งงานกัน แต่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นเรียนหนังสือในเมืองได้เพียงครึ่งปี เขาไปหาเธอ ทั้งสองคนก็ทะเลาะกัน หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เรียนแล้ว แล้วแต่งงานกับคนในเมือง


ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีไม่สู้เขา แต่พ่อแม่เขามีความสามารถ ดังนั้นผู้หญิงเลยเลือกเขา แล้วทิ้งตัวเอง


เขารู้สึกเสียใจ หลังจากนั้นก็ดูตัวอีกหลายคน แต่ไม่เจอที่ถูกใจ แม่เขาก็เร่ง กระทั่งยังพูดถึงเฉินเยี่ยนขึ้นมา แต่แม่เขาบอกว่าเฉินเยี่ยนโดนบ้านอวี๋ถอนหมั้น ชื่อเสียงไม่ดี ไม่เหมาะสมกับเขา เขาก็ไม่ได้คิดอะไร เฉินเยี่ยนเป็นคนซื่อๆ ไม่เข้ากันกับเขา


วันนี้เจอเฉินเยี่ยนเดิมทีเขาแค่คิดจะทักทายแล้วก็ไป แต่คิดไม่ถึงว่าพอคุยกันแล้ว เขาก็หยุดไม่ได้


เฉินเยี่ยนไม่พูดน้อยเหมือนเมื่อก่อน สายตาดูมีความมั่นใจมาก ดูมีชีวิตชีวา เหมือนกันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย


รูปร่างหน้าตายังคงเหมือนเดิม แต่บุคลิกกลับไม่เหมือนเดิม แต่เฉินเยี่ยนแบบนี้กลับมีเสน่ห์ดึงดูดเขา เขาคิดในใจ ถ้าเมื่อก่อนเฉินเยี่ยนร่าเริงแบบนี้ บุคลิกดีแบบนี้ น่ารักแบบนี้ เขาจะยอมรับการหมั้นสมัยเด็กไหมนะ?


แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องไปคิดแล้ว วันนี้ได้เจอเฉินเยี่ยน อาจจะเป็นการจัดการของสวรรค์ แล้วเขาจะติดต่อกับเฉินเยี่ยนอีกดีไหมนะ?


“พี่เสี่ยวเวยพี่มีธุระก็รีบไปเถอะค่ะ ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”


เฉินเยี่ยนเห็นเขาไม่ไปแล้วยังยืนคิดอยู่ตรงนั้น คิดว่าฝ่ายตรงข้ามเกรงใจ เลยรีบเอ่ยปากให้อีกฝ่ายไป


ดูสิ เธอยังคิดแทนคนอื่นอีก


“พี่ไม่เป็นไร เดิมทีคิดว่าจะไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้า พอดีไปทางเดียวกันเลย มา เอารถมา เดี๋ยวลากให้ พี่จะกลับไปด้วยกัน”


หลังหูเฟยรู้สึกตัวก็พูดคำนี้ออกมา


พูดออกไปแล้วเขาก็อึ้ง เดิมทีวันนี้เขาคิดจะไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง แต่ตอนนี้พูดออกไปแล้ว เปลี่ยนไม่ได้ อีกอย่างเขาก็ยังไม่ได้นัดกับเพื่อนคนนั้น ไปตอนไหนก็ได้ วันนี้เขากลับไปกับเฉินเยี่ยนแล้วกัน ช่วยเฉินเยี่ยนลากรถ ถือว่าเป็นการช่วยเฉินเยี่ยน คิดว่าเฉินเยี่ยนน่าจะรู้สึกดีกับเขาบ้าง ยังไงฐานะเขาก็ถือว่าดีมาก ข้อนี้เขามั่นใจอยู่


เฉินเยี่ยน…


พี่ชายคิดจะโกหกก็ต้องเตรียมตัวหน่อยหรือเปล่า? หลายปีมานี้ไม่เคยมาบ้านฉันเลยนะ? ประตูบ้านฉันอยู่ทิศไหนเขายังไม่รู้เลยสินะ? ไม่กลัวจะหลงทางหรือไง! แต่เธอจะไม่ให้เขาไปได้ยังไง? เขาถือเอาเรื่องมาเยี่ยมป้ากับลุงขึ้นมา ไม่ใช่เธอ


อีกอย่างเหมือนผู้ชายคนนี้ก็ดูจะไม่ชอบเธอ ไม่อย่างนั้นเจ้าของร่างเดิมหมั้นกับเขาตอนเด็กแล้ว จะไปหมั้นกับอวี๋เหวยหมินได้ยังไง


จะกลับกับตัวเองก็กลับเถอะ เขายอม ตัวเองก็ไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ


“งั้นจักรยานพี่จะทำยังไง? ไม่งั้นพี่ขี่จักรยานนำไปก่อนก็ได้”


เฉินเยี่ยนถามหูเฟย


“ได้ยังไงล่ะ เธอขี่เป็นไหม? ถ้าเป็นเธอก็ขี่ไป พี่ลากรถเอง”


หูเฟยทำเหมือนพระเอกช่วยหญิงงาม มีความเป็นสุภาพบุรุษมาก


“ฉันขี่ไม่เป็น”


เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ถึงเป็นเธอก็ไม่ขี่ จะอธิบายไม่ได้ เจ้าของร่างเดิมยังไม่เคยแม้แต่จะจับจักรยานเลย


“งั้นเอารถใส่บนรถลาก เดี๋ยวพี่ลากเอง”


หูเฟยพูดไปก็หิ้วจักรยานไปไว้บนรถลาก


ถือว่ามีกำลังอยู่ ก็ได้ ดูเหมือนจะลากรถได้ เฉินเยี่ยนไม่กังวลแล้ว


ระหว่างทางที่เดินกลับ ข้างกายเฉินเยี่ยนมีหูเฟยที่เคยหมั้นหมายตอนเด็กเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ระหว่างทางเขาคุยกับเฉินเยี่ยน ยิ่งคุยเขาก็ยิ่งดีใจ เฉินเยี่ยนเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ตอนนี้ได้คุยกับเฉินเยี่ยนรู้สึกสนุกมาก เขาเริ่มมีความคิดแล้ว


มาถึงบ้านเฉิน หน้าผากหูเฟยมีเหงื่อ มีจักรยานแล้วเขาไม่เคยเดินแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กเขาแทบไม่เคยจูงจักรยานเลย ครั้งนี้ต้องทำ ถือว่าเหนื่อยมากอยู่


เฉินเยี่ยนไม่รู้สึกผิด ระหว่างทางเธอบอกว่าเธอจะลากเอง หูเฟยไม่ยอม เธอก็ทำอะไรไม่ได้


“เสี่ยวเฟย มาได้ยังไง? แม่เธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”


หวางนิวเห็นหูเฟยกลับมากับเฉินเยี่ยนก็แปลกใจ หูเฟยไม่เคยมาบ้านเธอมาก่อน ตอนที่ฮวาเอ๋อร์มาเยี่ยมญาติ หูเฟยไม่เคยตามมาเลย ครั้งนี้หรือว่าพี่สาวมีเรื่องอะไร ไม่ใช่ว่าฮวาเอ๋อร์เสียแล้ว หูเฟยมาแจ้งข่าวนะ?”


คิดแบบนี้ หวางนิวก็ร้อนรน


“คุณป้า ไม่มีอะไรครับ วันนี้บังเอิญเจอเยี่ยนจื่อ เห็นเธอลากรถดูหนักมาก ผมเลยกลับมากับเยี่ยนจื่อ เลยมาเยี่ยมคุณป้ากับคุณลุงด้วยเลย แม่ผมบ่นถึงป้าน่ะ บอกว่าป้าไม่มาที่บ้านเลย แล้วยังบอกว่าเมื่อไรจะมาเยี่ยมป้า”


หูเฟยรีบหาข้ออ้าง แน่นอน เรื่องพวกนี้เขาโกหกขึ้นมา แม่เขาบ่น แต่ไม่ชอบที่มาเยี่ยมบ้านเฉิน และไม่ได้พูดเรื่องให้มาเยี่ยม


“อ้อ อ้อ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ตกอกตกใจหมด นั่งก่อน ป้าไปรินน้ำให้ ใกล้มืดแล้วอยู่กินข้าวที่นี่ น้องเฉินเยี่ยนซื้อเนื้อมาก แล้วยังมีเต้าหู้ ถั่วงอก ถั่วฝักยาว แตงกวามีหมด ป้าทำให้เธอกิน”


หวางนิวค่อยยิ้มขึ้นมาได้ ถึงแม้ฮวาเอ๋อร์จะขี้งก แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็เป็นพี่สาว ถ้าไม่มีพี่แล้ว เธอก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน


————–


ตอนที่ 149: มีความแค้นใหญ่หลวง

โดย

Ink Stone_Romance

หูเฟยและหวางนิวคุยกันสักพัก พอรู้ว่าบ้านเฉินสร้างบ้านหลังคามุงกระเบื้องเจ็ดห้องหูเฟยรู้สึกตกใจ บ้านเขาอยู่ในอำเภอ พ่อเป็นคนงาน เป็นหัวหน้า แต่บ้านเขาไม่ใหญ่ พ่อแม่ พี่สะใภ้และเขาอยู่ด้วยกัน บางครั้งก็ไม่สะดวกสบาย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ฐานะบ้านเฉินจะดีขนาดนี้แล้ว


คิดถึงเมื่อก่อนแม่มักจะกลัวว่าพวกญาติที่จนจะมาดูถูกบ้านพวกเขา กลัวพวกเขาจะมาขอร้องให้พ่อช่วยเหลือ ดังนั้นเลยชอบว่าลับหลังบ่อยๆ ว่าบ้านนั้นไม่ดี ให้เขาอยู่ห่างๆ หน่อย แม่ก็ดูถูกบ้านเฉินมาก บอกว่าป้าหวางนิวแต่งงานกับผู้ชายหน้าตาดี แต่เสียดายไม่มีประโยชน์เลย ทำให้หวางนิวมีชีวิตที่ดีไม่ได้ แม่คิดว่าตัวเองโชคดี แต่งงานกับพ่อ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่แบบนั้นแล้ว เขาควรจะเปลี่ยนความคิดได้แล้ว


ตอนค่ำหลังรู้ฐานะของหูเฟยเฉินเวยก็เลิกคิ้วใส่เฉินเยี่ยน เธอรู้เรื่องที่เฉินเยี่ยนและหูเฟยเคยหมั้นหมายตอนเด็กมาก่อน แต่หูเฟยไม่ชอบเฉินเยี่ยน บ้านหูก็ไม่ชอบบ้านเฉิน คิดไม่ถึงว่าวันนี้หูเฟยจะมาเยี่ยมถึงบ้าน ฟังจากคำพูดแล้วเขายังไม่มีคู่หมั้นหมาย หรือว่าเขาจะชอบเฉินเยี่ยนขึ้นมาอีก?


หูเฟยรังเกียจเฉินเยี่ยนมาตลอดไม่ใช่หรือ? หาว่าเฉินเยี่ยนงุ่มง่าม ซื่อๆ ไม่ชอบพูด ทำไมยอมแล้วล่ะ?


อยู่ๆ เฉินเวยก็เข้าใจ เฉินเยี่ยนคนนี้ไม่ใช่เฉินเยี่ยนคนก่อนหน้า นิสัยเปลี่ยน ไม่เงียบเหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด


เฉินเวยกัดฟัน เฉินเยี่ยนนี่ยังไงนะ ทำไมถึงได้โชคดีคนแล้วคนเล่า? เวยหลายชุนนั่นตัวเองเพิ่งจัดการได้ นี่มีหูเฟยโผล่มาอีกคน หูเฟยนี่ก็เป็นคนงานเหมือนกัน พ่อหูเฟยยังเป็นหัวหน้าคนงานด้วย แม่เขาคือป้าฮวาเอ๋อร์ ถ้าหูเฟยสนใจเฉินเยี่ยน แม่ตัวเองคงมีหวังมาก


เฉินเยี่ยนนี่หยุดพักสักนิดไม่ได้เลยหรือ!


ไม่ได้! ไม่สามารถให้หูเฟยกับเฉินเยี่ยนได้กัน ตัวเองต้องทำให้เรื่องนี้ยุติ เฉินเยี่ยนอย่าได้คิดจะหาคนที่ดีเลย


เฉินเวยตัดสินใจอีกครั้ง


เฉินเยี่ยนไม่รู้ ถ้ารู้ เธอจะขอบคุณหูเฟย ขอบคุณเฉินเวย เธออยากจะให้ยิ่งทีเฉินเวยยิ่งสนใจผู้ชายเยอะขึ้น แบบนี้เธอจะได้ไม่มีเวลามาสนใจตัวเอง เธอกับซินห้าวก็ปลอดภัยแล้ว


กินข้าวเย็นเสร็จ บ้านเฉินไปส่งหูเฟยที่หน้าหมู่บ้าน หวางนิวบอกทางกลับให้หูเฟยอีกรอบ มองดูหูเฟยขี่จักรยานกลับไป คนในบ้านค่อยกลับบ้าน


“เสี่ยวเฟยนี่หมั้นหมายกับเฉินเยี่ยนตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้เสี่ยวเฟยก็ยังไม่มีภรรยา เยี่ยนจื่อก็ยังไม่ได้แต่งงาน ฉันว่าพวกเขาก็ดูไม่แย่เลย รอสร้างบ้านเสร็จ ฉันจะไปอำเภอ หาป้าฮวาเอ๋อร์คุยเรื่องนี้”


หวางนิวมีความคิดอีกแล้ว


เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ห้าม เธอรู้ว่าป้าฮวาเอ๋อร์ไม่น่าจะเห็นด้วย อีกอย่างยังมีเฉินเวยที่ไม่อยากให้เธอได้ดี เธอกับหูเฟยเป็นไปไม่ได้ ก็ให้เฉินเวยคิดว่าตัวเองยอมแล้วกัน ให้เฉินเวยพยายามทำซ้ำไปมาต่อ ตัวเองแค่มองดูก็พอแล้ว


เฉินเวยเห็นเฉินเยี่ยนเงียบไม่พูดอะไร เธอคิดว่าเฉินเยี่ยนมีความคิดแบบนั้น ก็ใช่ เฉินเยี่ยนอายุไม่น้อยแล้ว หน้าตาก็ดี แต่ไม่มีโชคเรื่องคู่ เธอต้องร้อนใจ ชาติที่แล้วเฉินเยี่ยนเป็นภรรยาของอวี๋เหวยหมินมาก่อน เธอไม่เชื่อว่าเฉินเยี่ยนจะไม่คิดเรื่องหนุ่มสาว เฉินเยี่ยนต้องมีความต้องการเหมือนกัน ถึงได้รีบร้อนแบบนี้


คิดถึงเรื่องนี้เธอก็นึกถึงตอนกลางวัน วันนี้แม่อวี๋เหวยหมินกลับไปบ้านแม่ของเธอ ที่บ้านมีอวี๋เหวยหมินอยู่คนเดียว เธอขลุกอยู่กับอวี๋เหวยหมินทั้งวัน ถือว่าเป็นการชดเชยที่ช่วงนี้ทำให้อวี๋เหวยหมินเปล่าเปลี่ยว


วันนี้ได้ผล เธอจับกล่องดวงใจของอวี๋เหวยหมิน แต่เพราะออกแรงมากไป วันนี้อวี๋เหวยหมินเลยเกือบพรากสิ่งล้ำค่าที่สุดของหญิงสาวไปจากเธอ คิดถึงส่วนที่เร่าร้อนของอวี๋เหวยหมินเกือบเข้าไปในร่างกายเธอ เธอมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก เป็นแบบนี้ต่อไปไม่รู้ว่าอวี๋เหวยหมินจะทนได้นานเท่าไร ตัวเองก็ไม่สามารถใช้ปากได้ทุกครั้ง ใช้มือช่วยเขาหรือ? แต่เสียตัวให้อวี๋เหวยหมินแบบนี้ เธอไม่ยอม


โอ้ย ทำไมสวรรค์ถึงไม่ให้คนหล่อ คนเท่ ผู้ชายที่ฐานะดี นิสัยดีกับเธอมานะ? ถ้ามีคนแบบนี้ เธอจะไม่สนใจยอมมอบพรหมจารีให้ฝ่ายตรงข้ามไปเลย แล้วแต่งงานกับเขา ใช้ชีวิตมีความสุข อวี๋เหวยหมินอะไร เวยหลายชุนอะไรนั่น ไปไกลๆ เลย


แต่ไม่มี ไม่มีผู้ชายแบบนี้ปรากฏตัว เธอได้แต่ดิ้นรนด้วยตัวเอง แต่คิดดูแล้วได้ไปมาหาสู่กับผู้ชายสามคน เฉินเวยรู้สึกฮึกเหิมและสนุก แบบนี้จะได้โชว์เสน่ห์ของตัวเอง เฉินเยี่ยน เธอคอยดูฉัน ฉันจะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย!


สายตาเฉินเวยที่มองเฉินเยี่ยนเต็มไปด้วยความเป็นอริ แต่เฉินเยี่ยนกลับก้มหน้าไม่มองเธอ ให้เธออยากจะยั่วเฉินเยี่ยนก็ไม่มีที่จะให้ยั่ว


เรื่องหูเฟยและเฉินเยี่ยน เฉินจงไม่ค่อยเห็นด้วย เขาคิดว่าหลิวฮวาเอ๋อร์ไม่จริงใจ หูเฟยเขาก็ไม่ใช่ว่าชอบมาก แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร ถ้าเขาบอกไม่ได้ จะทำร้ายจิตใจภรรยา เขารู้ว่าช่างนี้ภรรยากังวลใจมากเรื่องานแต่งของเฉินกุ้ยและเฉินเยี่ยน


ภรรยาอยากไปถามก็ไปเถอะ ถึงเวลาเจอกำแพงเธอก็ตัดใจได้เอง


ระหว่างที่บ้านเฉินต่างคนต่างคิด ระหว่างที่ยุ่งกันอยู่ บ้านหลังคามุงกระเบื้องเจ็ดห้องก็สร้างเสร็จในที่สุด


 ————–


ตอนที่ 150: ฟันกุญแจ

โดย

Ink Stone_Romance

บ้านใหม่สร้างเสร็จแล้วใจหวางนิวรู้สึกเศร้าใจ เธอเคยรู้สึกสับสนและลังเลบ้านหลังใหม่นี้ ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะปฏิเสธบ้านหลัวไป แต่ตอนกลางคืนเธอบ่นเรื่องนี้กับเฉินจงอยู่ไม่น้อย บอกว่าไม่งั้นก็เอาบ้านใหม่ให้เฉินกุ้ยดีกว่า ให้เฉินกุ้ยแต่งภรรยา  ยังไงฝั่งนี้ก็ห่อบุหรี่ได้ พวกเขาขยันอีกสักหนึ่งปี แล้วค่อยสร้างหลังใหม่ หู่จื่อยังเด็ก รอได้ แต่เฉินกุ้ยหาคนที่ดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว


แต่ทุกครั้งเฉินจงจะปลอบเธอ บอกเหตุผลให้เธอฟัง สุดท้ายให้เธอล้มเลิกความคิด


ถึงแม้ว่าหวางนิวจะยังมีใจ แต่ก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้แล้ว เพราะถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว เก็บเกี่ยวก็หลายวัน ทุกบ้านต่างแย่งกัน ยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ แต่บ้านเฉินทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างก็เข้าร่วมกันหมด


เฉินเยี่ยนสวมเสื้อเนื้อผ้าหยาบแขนยาว พันผ้าบนศีระ กางเกงก็สวมขายาว รองเท้าผ้า เธอคลุมตัวเองทั้งตัว ถึงแม้จะร้อน แต่นี่ยังไม่ทันจะลงไร่ เธอก็หงื่อออกแล้ว แต่แบบนี้ก็ดีกว่าบาดเจ็บเยอะเลย


เธอเกิดมาในหมู่บ้านเกษตรกร เธอรู้ มาเก็บข้าวโพดต้องใส่เสื้อแขนยาว เพราะใบข้าวโพดจะบาดตัว ถ้าใส่แขนสั้น เก็บเสร็จกลับมาจะเจอแผลเล็กๆ น้อยๆ ตามแขนเต็มไปหมด บาดแผลนี้เลือดไม่ออก เล็กมาก แต่ใช้น้ำล้างรอบหนึ่ง บวกกับเหงื่อออกอีก ความรู้สึกนั้นแทบทนไม่ไหว


นอกจากแขนแล้ว คอก็ต้องพัน ไม่อย่างนั้นคอและใบหน้าก็จะโดนข่วนเป็นรอยแผลเล็กๆ เธอยอมร้อนดีกว่าโดนข่วนเป็นรอย


แต่ว่าเฉินจง เฉินกุ้ย หวางนิวใส่แขนสั้นหมดเลย พวกเขาชินแล้ว ผิวหนังหนา บาดไปก็ไม่รู้สึกอะไร


หวางจวนและเฉินเวยก็ใส่แขนยาว เฉินหู่ก็ใส่แขนยาว หลายคนนี้ลากรถเข้าไปในไร่แล้ว


เดิมทีเฉินเวยไม่อยากมาที่ไร่เลย แต่แม้แต่เฉินหู่ยังเข้าไป ถ้าเธอไม่ไป พ่อแม่จะว่าเธอได้ เธอเลยต้องขึ้นรถ


ดึงข้าวโพดเป็นงานที่ต้องใช้เทคนิค ถ้าไม่มีเทคนิค ดึงออกมาก็จะใช้แรงมาก แต่ถ้ารู้เทคนิคแล้ว ก็จะสามารถดึงข้าวโพดได้อย่างง่ายดายเลย อีกอย่างเข็มขัดไม่มากไม่น้อย กำลังดี


ข้าวโพดที่ดึงออกมาโยนไว้เป็นกอง จนระยะทางไปไกลแล้ว ได้ปริมาณพอแล้ว ก็จะเริ่มกองใหม่


เพราะว่าคนมากดึงเร็ว เฉินหู่รับผิดชอบเก็บข้าวโพดใส่ตะกร้า แล้วเทข้าวโพดในตะกร้าลงบนรถ


แรงเขาไม่ได้มาก ใส่ได้เต็มตะกร้า แต่วิ่งไปทีละรอบทีละรอบ หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เสียแรงไปมาก


เฉินกุ้ยและเฉินจงนอกจากรับผิดชอบดึงข้าวโพดแล้ว ยังต้องใส่ข้าวโพด ลากรถกลับบ้าน พวกเขาลำบากสุด


เฉินเวยแค่ดึงไม่กี่อันก็ทำไม่ไหวแล้ว เธออืดอาดยืดยาด ไม่ลงไปในไร่ และไม่ดึง รอแวบไปเห็นเฉินจง


ลากรถมาเธอรีบคุกเข่าลงไปบนพื้น


“เป็นอะไรไป?”


หวางนิวดึงข้าวโพดไปกลับสองรอบเห็นลูกสาวคุกเข่าอยู่บนพื้นก็รีบถาม


ไม่อยากทำแล้วไงล่ะ จะอะไรเสียอีก


เฉินเยี่ยนคิดในใจ แต่มือไม่หยุด เธอดึงเพื่มอีกหลายอัน พ่อแม่จะได้ดึงน้อยลงหลายอัน เธอไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก


“แม่ หนูปวดท้อง”


เฉินเวยหาข้ออ้างได้นานแล้ว


“ปวดท้องหรือ ประจำเดือนมาหรือเปล่า? ลูกก็ใช่ ทำไมไม่พูดสักคำ รีบไปพักไป รอพ่อมาแล้ว รถรอบถัดไปลูกก็กลับไปกับพี่ชายแล้วกัน”


หวางนิวคิดว่าลูกสาวประจำเดือนมา


“แต่ข้าวโพดเยอะขนาดนี้”


เฉินเวยแกล้งทำท่าลังเล แต่สีหน้าเจ็บปวด


“ไม่เป็นไร พวกเราทำกันหมด ลูกกลับไปพักผ่อน ตอนเที่ยงมาทำกับข้าว แม่กับพี่สาวไม่กลับไปทำกับข้าวแล้ว พวกเราจะเก็บข้าวโพดมากหน่อย”


งานของหวางนิวทำให้เฉินเวยอ้าปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอหนีงานเก็บข้าวโพดได้ แต่หนีไม่พ้นทำอาหารหรือ? ร้อนขนาดนี้ เธอไม่อยากวนไปมาอยู่หน้าเตาไฟ


แต่ตอนนี้ยุ่งกันขนาดนี้ เธอจะพูดอะไรได้ เธอเลยไม่ส่งเสียง


เฉินเวยตามเฉินกุ้ยกลับไปกับรถรอบที่สอง เฉินกุ้ยเทข้าวโพดลงในลานบ้าน เฉินเวยยืนอยู่หน้าบ้านเฉินเยี่ยนพักใหญ่


เห็นกุญแจใหญ่ล็อคอยู่ด้านบน เฉินเวยโกรธมาก เธอรู้ว่าเฉินเยี่ยนกันเธอ


รอจนเฉินกุ้ยลากรถเปล่าไปแล้ว เฉินเวยวิ่งเข้าไปในห้องหยิบขวานออกมา เธอคิดจะฟันแม่กุญแจ เธอจะเข้าไปข้างในไปขโมยไปป์ห่อบุหรี่ให้อวี๋เหวยหมิน ยังไงวันนี้บ้านเฉินก็ไม่มีคนอื่น เธอพูดได้ว่าคนอื่นมาขโมยไป ไม่มีหลักฐาน เฉินเยี่ยนก็ทำอะไรเธอไม่ได้


เฉินเวยฟันลงไป แต่ไม่ทำให้กุญแจพัง ฟันครั้งที่สองเธอฟันไม่ลง เมื่อกี้เฉินกุยกลับมากุญแจนี้ยังดีอยู่ เธอมาถึงบ้านแล้ว จะไปบอกว่าเป็นคนนอกได้ยังไง? เฉินเยี่ยนต้องไม่เชื่อแน่นอน เธอคิดถึงความบ้าคลั่งของเฉินเยี่ยน เธอคิดถึงว่าเธอกลับมาเกิดใหม่ยังไง สายตาเฉินเยี่ยนคู่นั้นที่กระหายเลือดยังคงติดอยู่ตรงหน้าเธอ ขวานในมือเฉินเวยหล่นลงที่พื้น


พอขวานหล่นลงทำเอาเฉินเวยตกใจได้สติ เธอรู้ว่าฟางเส้นสุดท้ายของเฉินเยี่ยนอยู่ที่ไหน เธออยู่ด้วยกันกับอวี๋เหวยหมินแล้ว เธอใช้ฐานะน้องสาวของเฉินเยี่ยน ไปแย่งผู้ชายของเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนก็ทำอะไรเธอไม่ได้ เพราะเฉินเยี่ยนเสียใจเพราะผู้ชาย เธอประสบมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น อันที่จริงก็เป็นแบบนั้น นี่เธอแย่งเวยหลายชุนมา ตอนแรกเฉินเยี่ยนก็แค่ตบเธอไปหนึ่งฉาด ทำอะไรเธอไม่ได้


แต่ถ้าตัวเองขโมยไปป์ห่อบุหรี่ของเธอนี่ไม่ได้เลย เท่ากับตัดทางทำมาหากินของเฉินเยี่ยน คิดถึงครั้งที่แล้วที่ช่างเหลียนขโมยเงินไป เฉินเยี่ยนก็ให้เฉินกุ้ยหย่ากับช่างเหลียน ถ้าตัวเองขโมยไปป์บุหรี่ไป เธอต้องไล่ตัวเองออกจากบ้านเฉินแน่


เฉินเยี่ยนบ้าขึ้นมานี่น่าตกใจ


ช่างเถอะ ช่างเถอะ เดิมทีหาเงินเป็นเรื่องของผู้ชาย ตอนนี้เธอมีเวยหลายชุน มีเสื้อผ้าใหม่ ของกินก็มี เธอบีบเฉินเยี่ยนไม่ได้ ประโยชน์อื่นๆ ก็ให้อวี๋เหวยหมิน สุดท้ายแล้วคนที่ซวยกลับเป็นเธอ


คิดถึงตรงนี้เฉินเวยหยิบขวานขึ้นมาจากพื้นเอากลับไปวางในห้อง นอนอยู่บนเตียงเล็กๆ เรียบง่ายของเธอ เธอเริ่มคิดว่าจะทำยังไงถึงจะจับหูเฟยมาอยู่ในมือ ฐานะบ้านหูดีกว่าบ้านเวย ถ้าทั้งเวยหลายชุนและหูเฟยให้เงินและตั๋วเธอ งั้นเธอก็สบายมือแล้ว เธอไม่ต้องลำบากเหมือนเฉินเยี่ยน ก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ ดีที่สวรรค์เห็นเธอลำบากเลยส่งหนุ่มหล่อมาให้เธออีกคน เป็นหนุ่มหล่อแบบที่เธอชอบเลย ให้เธอได้กอดทั้งซ้ายขวา ชีวิตแบบนั้นดีงามเหลือเกิน


นึกถึงฝันแสนหวานจนเฉินเวยลืมเวลา รอคนบ้านเฉินกลับมาเธอก็หลับไปแล้ว


หวางนิวไปห้องครัว เห็นหม้อเย็นเตาเย็นอยู่นอกจากเธอจะโกรธแล้วเธอยังเป็นห่วง ลูกสาวไม่ได้ทำกับข้าว หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?


ได้ยินหวางนิวตะโกนเสียงดังเรียกเฉินเวย เฉินเยี่ยนยิ้ม จากนั้นก็ตักน้ำเย็นให้ทุกคนล้างหน้า ล้างมือ


น้ำเย็นซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังช่างสบายไม่มีอะไรจะเทียบได้ เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเซลล์ทั้งตัวเธอกำลังกระโดดโลดเต้น เซลล์ได้รับน้ำไปเพื่อขจัดความร้อนออกจากร่างกาย


เปลี่ยนมาใส่เสื้อแขนสั้น เฉินเยี่ยนไปห้องครัว เธอรู้ เฉินเวยต้องไม่ได้ทำอาหารแน่นอน เธอขี้เกียจขนาดไหนเฉินเยี่ยนรู้ดี เฉินเยี่ยนคิดไปพลางอุ่นธัญพืชไป ยังไงก็ไม่สามารถให้คนในบ้านที่ทำงานมาทั้งเช้าหิวได้


 ——————


ตอนที่ 151: ใครมา

โดย

Ink Stone_Romance

หวางนิวดูเฉินเวยเสร็จก็เข้ามาในครัว พอเข้ามาก็บ่น “เด็กคนนี้นี่ บอกว่าปวดท้องหนักมา ลุกไม่ขึ้น แม่เห็นสีหน้าก็ยังดีอยู่ ดูไม่เหมือนปวดมากมายเท่าไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้นัก ไม่ยอมทำกับข้าว ทั้งพ่อ พี่ชายเขาเหนื่อยมาทั้งเช้า ท้องว่างหมดแล้ว แค่อยากจะกลับมากินข้าวพักผ่อน ตอนบ่ายยังต้องทำงานอีก นี่ไม่มีอะไรเลย พ่อเขาไม่พูด แต่ในใจต้องไปเป็นสุขแน่ เสี่ยวเวยยิ่งทียิ่งใช้ไม่ได้แล้ว พูดก็ไม่ฟัง ลูกว่า เธอเหมือนใคร ไปหัดนิสัยเสียแบบนี้มาจากใคร”


ใครก็ไม่เหมือน เธอนิสัยอย่างนี้อยู่แล้ว แล้วที่เธอเป็นแบบนี้เพราะเสียนิสัย ลองตีดูหลายที ดูว่าเธอยังจะขี้เกียจอยู่ไหม


แต่เฉินเยี่ยนก็รู้ นิสัยเฉินเวยเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตีไปก็ไม่ได้ผล สอนไปก็ไม่ได้ดี ถึงแม้ปากเธอจะบอกว่าจะทำตัวดีขึ้น แต่ในเฉินเวยไม่มีทางเปลี่ยน


“คุณป้าพักผ่อนเถอะค่ะ ฝั่งนี้มีหนูกับพี่เยี่ยนจื่ออยู่”


หวางจวนช่วยเฉินเยี่ยนทำอาหาร ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเหนื่อยเหมือนกัน แต่หวางนิวทำงานมากกว่าพวกเธอ เหนื่อยมากกว่า


“ไม่เป็นไร ฉันช่วยจะได้เร็วขึ้น ให้พ่อกับพี่ชายได้รีบกินรีบนอนกลางวัน พวกเธอสองคนก็นอนงีบหนึ่ง ตอนบ่ายถ้าเหนื่อยมากก็ไม่ต้องไป พวกเราทำกันได้”


หวางนิวส่ายหน้า เธอเหนื่อยมาก แต่เธอชินกว่าพวกเฉินเยี่ยน


พวกเฉินเยี่ยนทำอาหารกลางวันเสร็จเร็วมาก ตอนที่กินเฉินจงมองเฉินเวยอยู่หลายครั้ง มือเฉินเวยที่ถือชามสั่นเล็กน้อย เธอกลัวเฉินจงจะว่าเธอ เธอคิดไว้แล้ว ถ้าเฉินจงว่าเธอ เธอจะร้องไห้ แกล้งทำเป็นน่าสงสารเธอพอทำได้ แต่สุดท้ายเฉินจงไม่ได้พูดอะไร แต่ความกดดันที่มองไม่เห็นทำเอาเฉินเวยอึดอัด เธอรู้ พ่อคนนี้ยิ่งไม่ชอบเธอแล้ว


ตอนที่เก็บของเสร็จกลับเข้าห้องมือเฉินเยี่ยนที่ปลดล็อคประตูชะงักไป บนประตูมีรอย วงกบประตูไม้มีรอยสีขาว เหมือนโดนฟัน


จนเข้ามาในห้อง ไปป์ห่อบุหรี่ยังอยู่ เงินไม่หาย ในห้องไม่ได้ถูกรื้อ ดูเหมือนไม่มีใครเข้ามา เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชา วันนี้เฉินเวยน่าจะทุบกุญแจ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ทุบให้เปิดออก เธอคิดอยากจะขโมยไปป์ห่อบุหรี่ล่ะสิ ทำไมไม่ทำต่อนะ?


อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่สนใจเลยว่าเฉินเวยจะขโมยไปป์ห่อบุหรี่ไป ธุรกิจบุหรี่นี้เฉินเยี่ยนคิดเรื่องขยับขยายธุรกิจเอาไว้แล้ว เธอคิดไว้แล้วว่าช่วงนี้ให้พ่อทำไปป์ห่อบุหรี่มาหลายอัน ถึงเวลาจะให้บ้านลุง ครอบครัวที่สนิทกัน ให้พวกเขาพันบุหรี่เหมือนกัน หลังได้มาตรฐานแล้ว เธอจะรวมกันส่งไปที่จุดรับบุหรี่ ถึงตอนนั้นก็ขยายจุดรับบุหรี่อีกหลายที่ก็ได้แล้ว คำนวณดูแล้ว ไม่เพียงแต่ญาติพี่น้องจะได้เงิน เธอก็ได้เงินเพิ่มขึ้นด้วย


ส่วนเรื่องไปป์ห่อบุหรี่ที่แพร่ออกไป คนอื่นจะผลิตตาม เธอไม่ได้สนใจเลย คนอื่นห่อบุหรี่ก็เอาไปขายได้ ขายของเหมือนกัน ถ้าพวกเขายอม ก็ทำไป เธอไม่ได้คิดจะครอบครองคนเดียว เธอต้องการแค่เงินลงทุนสร้างตัว


ถ้าอีกหน่อยสามารถทำได้ เธอคิดว่าตัวเองจะยื่นขอแบรนด์สินค้า ผลิตบุหรี่ ยังไงเธอก็ไม่สามารถจะให้ซินห้าวมาช่วยเธอเก็บไปป์บุหรี่ได้คลอด ไม่ช้าเร็วก็ต้องใช้หมด อีกอย่าง ไปป์บุหรี่ที่เก็บมาได้ รสชาติแต่ละอันแตกต่างกัน เธอต้องทำยาเส้นของตัวเอง


ส่วนสูตรยาเส้น เธอมีคอมพิวเตอร์ เสียสละเลือดทิพย์หยดหนึ่งก็ได้มาแล้ว


ดังนั้นเฉินเยี่ยนไม่กลัวว่าไปป์ห่อบุหรี่จะหายไป ถ้าวันนี้เฉินเวยขโมยไปป์ห่อบุหรี่ไปจริงๆ เธอก็จะทำให้เฉินเวยได้รู้ถึงผลตอบแทน ถึงแม้ว่าจะไม่ไล่เฉินเวยออกจากบ้านเฉิน เฉินเวยก็จะสูญสิ้นความไว้ใจจากพ่อแม่ ขอแค่เฉินจงและหวางนิวเกลียดเฉินเวย ไม่รู้สึกรู้สาแล้ว เธอจะต่อสู้กับเฉินเวย ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว


น่าเสียดายเฉินเวยไม่ได้ทำต่อ อาศัยแค่รอยก็บอกไม่ได้ชัดเจน เฉินเยี่ยนจึงต้องวางมือ


หลับกลางวันแล้ว ตอนบ่ายพวกเฉินเยี่ยนก็ไปที่ไร่ต่อ ยุ่งกันแบบนี้สองวัน กว่าจะเก็บเกี่ยวพืชผลหมด


ข้าวโพดกองอยู่ในลานบ้าน ถั่วเหลืองวางแผ่ไว้บนถนน เฉินจงและเฉินกุ้ยกำลังดันหินบดถั่ว สลับกันกับงาก็ตากไว้ที่ลานบ้าน ถั่วลิสงก็กองไว้ด้วยกัน


นอกจากข้าวโพดแล้ว จำนวนถั่วลิสง ถั่วเหลือง และงาไม่มาก


ถั่วลิสงเอาไปเคี่ยวน้ำมัน ถั่วเหลือสามารถกินได้ งาก็บดจนเป็นน้ำมันงา นี่เป็นของราคาแพง ปกติแล้วบ้านเฉินเสียดายที่จะกิน เลยเอาไปขายที่ตลาดหรือเอาไปแลกกับของใช้จำเป็นที่สหกรณ์ ปีนี้ไม่ต้องแล้ว เฉินเยี่ยนคิดจะเก็บไว้ น้ำมันงาเอาไปทำกับข้าวหอมมาก บ้านตัวเองปลูกยิ่งสะอาด เธอเสียดายที่จะเอาไปขาย


รอจนจัดข้าวโพดเรียบร้อยหรือแขวนไว้ในบ้านหมดแล้ว หรือตากในลานบ้าน ตากให้แห้งนี้ต้องปอกออกมา ส่วนหนึ่งเป็นการยื่นมอบรัฐบาล


หลังบดถั่วเหลือ ต้องเลือกถั่วที่สะอาดใส่ลงถุง ถั่วแท่งก็วางกองไว้ นี่เป็นฟืนจุดไฟที่ดีที่สุด ติดไฟดีมาก


ส่วนถั่วลิสง เฉินเยี่ยนเริ่มต้มถั่วห้าสีมากิน ที่เหลือปอกเสร็จแล้ว ผึ่งให้แห้งแล้วใส่ถุงไว้ ถั่วลิสงแห้งก็เอามาใช้จุดไฟได้


รอจนเก็บกวาดทำความสะอาดลานบ้านเสร็จแล้ว บ้านเฉินถึงค่อยได้ถอยหายใจ ฤดูเก็บเกี่ยวจบแล้ว ส่งธัญพืชแล้ว ต้นข้าวโพดที่ตัดอยู่ที่พื้นโดนลากจนหมดเกลี้ยงไปกองอยู่นอกลานบ้านเอาไปทำฟืน ในไร่ของหมู่บ้าน นอกจากฟางข้าวสาลีพวกนี้แล้ว ก็เอามาเป็นฟืนให้เกษตรกรหมด เป็นสิ่งสำคัญของทุกบ้าน


รอจนไถที่นาปลูกข้าวสาลีแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่


แต่เฉินเยี่ยนไม่ต้องจัดการเรื่องพวกนี้ เธอยุ่งเรื่องย้ายบ้าน


ธัญพืชนอกจากนำส่งแล้ว แบ่งนับตามจำนวนคนทั้งสองฝั่งพอแล้ว เฉินจงและหวางนิวพูดแล้ว ก่อนเฉินกุ้ยยังไม่แต่งงาน สามารถไปกินข้าวที่บ้านนั้นได้ตลอด แต่งงานแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยลากธัญพืชมา


เฉินกุ้ยก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาคิดว่าแบบนี้สมเหตุสมผลมาก ยังไงแบ่งแค่ให้เขาพอกินก็ได้แล้ว


ธัญพืช หม้อจานชามกระทะย้ายไปหมด เหลือแค่เตียงและพวกผ้าห่มที่ไม่ได้เอาไป เฉินจงรีบหาคนมาช่วยทำสองเตียง แบบนี้จะได้แยกกันนอนได้แล้ว


พรุ่งนี้ต้องย้ายไปแล้ว เฉินเยี่ยนดีใจมาก ตั้งแต่บ่ายเธอยุ่งอยู่ในครัว ตอนทำอาหารปากยังฮัมเพลงเบาๆ เธอมาที่นี่ได้หนึ่งปีพอดี การเปลี่ยนแปลงปีนี้ถือว่าไม่เล็กเลย ย้ายบ้านใหม่ เธอก็ไม่ต้องสนใจเฉินเวยแล้ว รออีกหน่อย ซินห้าวก็จะมาสู่ขอ ดีจริงๆ เธอดีใจเหลือเกิน


เฉินเยี่ยนกำลังฝันหวานอยู่ ได้ยินคนพูดในลานบ้าน เหมือนมีคนมา เธอไม่ได้สนใจ ผัดผักใส่ลงจาน นี่ถือเป็นสองมื้อสุดท้ายของที่นี่แล้ว พรุ่งนี้กินข้าวเช้าเสร็จ พวกเขาก็จะบ้ายไปใช้ชีวิตที่ดีอย่างเป็นทางการ วันนี้เธอดีใจ เลยจะทำอาหารมากขึ้นสองอย่างเพื่อฉลอง


“เธอมาได้ยังไง? ใครให้เธอมา? มีเรื่องอะไร?”


เสียงหวางนิวดังขึ้นมา


ใครมา? ฟังจากเสียงแม่แล้วดูเหมือนจะไม่ต้อนรับคนที่มาเท่าไร หรือว่าเป็นอวี๋เหวยหมิน? เป็นไปไม่ได้ วันนี้เฉินเวยไม่อยู่บ้านทั้งวัน และไม่รู้ว่าไปหาใคร อวี๋เหวยหมินน่าจะไม่มาที่บ้าน


“ผม ผมมาเอง และก็ไม่มีอะไร แค่มาเยี่ยม คุณป้าสบายดีนะครับ?”


เสียงผู้ชายดังขึ้นมา เสียงไม่ดัง ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูลังเล และฟังดูเคอะเขิน


——————–


ตอนที่ 152: สงสัย

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนหยุดผัด เธอฟังออก เป็นเวยหลายชุน เขามาทำไม? หรือจะมาสู่ขอ? แต่เฉินเยี่ยนมั่นใจว่าเขามาเพราะเฉินเวยแน่นอน


เฉินเยี่ยนไม่ออกไป ยังไงก็ไม่ได้มาหาเธอ ไม่เจอก็ดี


“มีอะไรไม่ดี เธอมีเรื่องอะไร?”


หวางนิวถามเวยหลายชุนอีกครั้งว่ามีเรื่องอะไร เธอไม่ได้ให้เวยหลายชุนเข้ามาในบ้าน ในเมื่อเวยหลายชุนกับเฉินเยี่ยนจบกันแล้ว เธอก็ไม่ต้องปฏิบัติกับเวยหลายชุนเหมือนแต่ก่อน ส่วนมีคนบอกว่าเฉินเวยไปในอำเภอหาเวยหลายชุนทั้งวัน เรื่องนี้เธอไม่อยากคิด ยังไงเวยหลายชุนและเฉินเวยก็เป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ไม่สามารถให้ผู้ชายมาขอพี่สาว แล้วขอน้องสาวอีก ไม่มีแบบนี้


รู้สึกได้ว่าท่าทางหวางนิวดูไม่ชอบเขา เวยหลายชุนรู้สึกอึดอัด เขาอยากจะหันหลังเดินกลับไป ถือว่าเขาไม่เสียดายบ้านเฉิน! แต่คิดถึงเฉินเวย เขาก็ก้าวขาไม่ออก


“คุณป้า ผมมาถึงนี่แล้ว มาหาก็ถือว่าเป็นแขก ยังไงคุณป้าให้ผมเข้าไปดื่มชาสักถ้วยเถอะครับ”


เวยหลายชุนแกว่งอาหารกระป๋องและผ้าผืนหนึ่งในมือ เป็นของที่ครั้งที่แล้วเฉินเวยชอบ แต่มือเขาดูตื่นเต้น แต่ไม่ได้พูดอะไร เฉินเวยดูเหมือนจะไม่พอใจ แต่เฉินเวยไม่ได้พูดอะไร มาคิดถึงครั้งนั้นที่เฉินเวยและเขาอยู่บนถนน ตอนนั้นท้องฟ้ามืดมาก เขาขี่รถหาเฉินเวยไป เพราะทางไม่ดีเลยเกือบทำเฉินเวยล้ม เขารีบลงจากรถถามเฉินเวยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เฉินเวยซบลงกับอกเขา


วินาทีนั้นไม่รู้ว่าเขาใจกล้ามาจากไหน เขาโอบเฉินเวย แล้วจูบเฉินเวย


เสียงเฉินเวยออดอ้อน ได้ยินเข้าไปในหูเขาแล้วมันกระตุ้นในเลือดในตัวเขาพลุ่งพล่าน เฉินเวยตอบกลับจูบเขา ยังใช้ลิ้นด้วย แล้วยังใช้หน้าอกเสียดสีไม่หยุด เขาทนไม่ไหวใช้มือล้วงเข้าไป


ถึงแม้ว่าหน้าอกเฉินเวยไม่ใหญ่ แต่เล็กน่ารักกำลังดี เหมือนตัวของเฉินเวย ทำให้คนหลงใหล


วินาทีนั้นเฉินเวยเหมือนกระแสน้ำอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมอกเขา แล้วก็เหมือนเหล้าแรง ที่มอมคนให้เมา เขารู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่ ไฟลุกโชนไปทั้งตัว เขาถอดเสื้อเฉินเวยออก ตอนนั้นเขาคิดจะมีอะไรกันกับเฉินเวย แต่เฉินเวยผลักเขาออก ขอร้องให้เขาอย่าทำ บอกว่าต้องเก็บไว้ในคืนแต่งงาน เธอไม่สามารถเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงานได้


เฉินเวยเป็นผู้หญิงที่ดี เขาต้องปกป้องเธอ ดังนั้นเขาอดกลั้นไว้ ส่งเฉินเวยหลับบ้าน แต่ไฟนั้นยังคงมอดไหม้อยู่ในอกเขา เพียงแค่นึกขึ้นมาเขาก็รู้สึกว่าไฟกำลังแผดเผา


แต่สิ่งที่เวยหลายชุนคิดไม่ถึงก็คือ หลังจากครั้งนั้นเฉินเวยก็ไม่มาหาเขาอีกเลย ผ่านไปหลายวันแล้ว เฉินเวยไม่มาหาเขาที่สหกรณ์


ทุกคืนเขานอนไม่หลับ ตอนแรกก็มีไฟแห่งความต้องการลุกโชน อดไม่ได้อยากจะแต่งกับเฉินเวยพากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย สองคนจะได้พลอดรักกัน คิดถึงความออดอ้อนของเฉินเวยแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าเพราะเฉินเวย


ต่อมากลายเป็นกังวลใจ เป็นห่วงว่าเฉินเวยจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นห่วงว่าเฉินเวยจะโกรธเขาแล้วหรือเปล่า เพราะเขาไม่ได้ซื้อผ้าชิ้นนั้นให้เฉินเวย หรือเรื่องคืนนั้นที่เขาล่วงเกินเฉินเวย? แต่ตอนนั้นเฉินเวยก็เหมือนดื่มด่ำด้วยเหมือนกัน เสียงนั้นยั่วยวน เขาคิดว่าเฉินเวยก็ชอบด้วย


แต่ทำไมเฉินเวยไม่มาหาเขาล่ะ?


วันแล้ววันเล่า ทุกวันเขาเฝ้ารอคอย แล้วก็ผิดหวัง เขารอต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยตัดสินใจมาดู เขาอยากรู้ว่าเฉินเวยเป็นอะไรไป หรือว่าบ้านเฉินไม่ให้เธอมาหาเขา ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะคุยกับบ้านเฉินให้รู้เรื่อง เขาจะต้องแต่งงานกับเฉินเวย ถึงแม้ว่าเฉินเวยจะยังอายุน้อย แต่ในหมู่บ้านเกษตรกร คนที่ยังอายุไม่ถึงก็มีตั้งเยอะ พวกเขาจัดงานเลี้ยงก่อน รอเฉินเวยอายุถึงแล้วค่อยไปจดทะเบียนสมรสก็ได้


เขาจะบอกบ้านเฉิน ว่าเขาจะทำดีกับเฉินเวย เขาจะรักและปกป้องเฉินเวย ไม่เหมือนคนบ้านเฉิน ไม่ให้เฉินเวยโดนรังแกอีก


แล้วเฉินเวยล่ะ?


ตัวเองมาแล้ว ทำไมไม่เห็นเธอออกมาเลย? เธอบอกว่าเธอคิดถึงตัวเองมากไม่ใช่เหรอ ทุกวันรอคอยที่จะเจอตัวเองอยู่ทุกขณะนี่?


เวยหลายชุนมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นคนที่เขาคิดถึงออกมา


หวางนิวไม่อยากจะเชิญเขาเข้าบ้านจริงๆ แต่เขาพูดแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่รู้จะพูดยังไง เลยให้เวยหลายชุนเข้ามาในบ้านอย่างไม่เต็มใจ


“ทำไมไม่เห็นคุณลุงกับพี่กุ้ยเลยครับ?”


เวยหลายชุนไม่กล้าถามถึงเฉินเวยตรงๆ


“ลุงไปบ้านเอ้อต้านในหมู่บ้าน เดี๋ยวก็กลับมา เฉินกุ้ยไปด้วยกันกับลุงน่ะ มีอะไรก็ว่ามาเถอะ”


หวางนิวน้ำเสียงไม่ดี


“แล้วเยี่ยนจื่อกับเสี่ยวเวยล่ะครับ? ทำไมไม่เห็นเลย หู่จื่อด้วย”


เวยหลายชุนอ้างเฉินเยี่ยนกับหู่จื่อ เพื่อถามถึงเฉินเวย


“หู่จื่อออกไปเล่นกับเพื่อนเขาแล้ว เยี่ยนจื่อทำอาหารอยู่ เสี่ยวเวยออกไปข้างนอกทั้งวันยังไม่กลับมาเลย ไม่ได้ไปหาเธอหรือ? ฉันถามหน่อย ตกลงเธออยากจะถามถึงใครกันแน่”


หวางนิวรำคาญมาก เมื่อก่อนเธอเห็นเวยหลายชุนเป็นเหมือนลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะเห็นเวยหลายชุนแล้ว จะให้ทำดีด้วยนี่สิแปลก


เวยหลายชุนใจเต้น เฉินเยี่ยนกำลังทำอาหาร แต่เฉินเวยกลับออกไปข้างนอกทั้งวัน คนบ้านเฉินคิดว่าเธอออกไปหาตัวเอง แต่เปล่าเลย แล้วเธอไปไหน?


“คุณป้าไม่ได้ห้ามเสี่ยวเวยออกจากบ้าน?”


น้ำเสียงเวยหลายชุนไม่ได้รุนแรงเหมือนหวางนิว เขาถามต่อ


“ทำไมฉันจะไม่ให้เธอออกจากบ้าน? เธอไม่ได้เป็นอะไรที่เจอคนไม่ได้ ลูกสาวคนนี้ทั้งวันไม่รู้ไปไหน ไม่อยู่บ้าน ว่าไป ก็ไม่ฟัง และไม่กลัวไปเจอคนไม่ดีด้วย จริงๆ เลย ไม่รู้ว่าไปหัดแบบนี้มาจากใคร กลับมาเดี๋ยวต้องว่าหน่อย เป็นผู้หญิงออกไปวิ่งเล่นข้างนอกทั้งวัน โดนคนหลอกไป จะร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้ร้อง”


หวางนิวแสดงออกว่าเธอไม่พอใจ เธอก็พูดให้เวยหลายชุนฟัง แสดงให้เห็นว่าต่อจากนี้ไม่หาลูกสาวเธอน้อยลงหน่อย


เวยหลายชุนอึ้งไป ฟังจากความหมายของหวางนิวแล้ว เฉินเวยไม่อยู่บ้านทุกวัน ออกไปทีไปเป็นวัน บางครั้งเธอมาหาตัวเอง แต่เธอไม่ได้มาหาตัวเองทุกวัน โดยเฉพาะอาทิตย์นี้ เธอไม่มาหาตัวเองเลยสักครั้ง


เธอบอกตัวเองว่าเธอออกจากบ้านทุกวันไม่ได้ เฉินเวยบอกว่าฤดูเก็บเกี่ยวทุกวันเฉินเยี่ยนไม่สนใจทำอะไรเลย เธอต้องทั้งไปทำงานในไร่และทำกับข้าวที่บ้าน ดังนั้นเลยไปหาเขาไม่ได้ บอกว่าเก็บเกี่ยวเสร็จก็จะว่างแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้วบ้านเฉินก็ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดี เฉินเวยก็ออกไปข้างนอกแล้ว บ้านเฉินไม่ได้กักบริเวณเธอ แต่เธอไปไหนล่ะ? ถ้าวันนี้ตัวเองทนไม่ไหวมาหา เฉินเวยก็จะยังบอกเขาว่าที่บ้านไม่ให้เธอออกไปอยู่ไหม เธอไปหาใคร?


เวยหลายชุนรู้ว่าหวางนิวเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่โกหกเขา คิดถึงคำพูดครั้งที่แล้วของเฉินเยี่ยน เวยหลายชุนก็โกรธขึ้นมา ที่แท้เฉินเวยก็หลอกตัวเอง?


ไม่! เขาไม่เชื่อ เฉินเวยจิตใจดีขนาดนั้น ดีงามขนาดนั้น เธอจะโกหกหลอกลวงได้ยังไง?


“แม่ หนูกลับมาแล้ว พี่เสี่ยวเฟยมาแล้ว แม่ อยู่ไหน”


ตอนนี้มีเสียงกังวานของเฉินเวยดังขึ้นมาด้านนอก เสียงนั้นฟังดูร่าเริงมาก เหมือนนกกระจิบที่กำลังร้องเพลงอย่างมีความสุข


พอได้ยินเสียงเฉินเวย ในใจเวยหลายชุนก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที สีหน้าเขาแสดงออกถึงรอยยิ้ม กระโดดลุกขึ้นยืน ไม่กี่ก้าวก็เดินออกจากโถงบ้านถึงลานบ้านแล้ว


ตอนนี้ฟ้ายังสว่างอยู่ เฉินเวยที่เขาเฝ้าคิดถึงยืนตัวเป็นๆ อยู่ในลานบ้าน


—————

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม