ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ 1410-1417

 ตอนที่ 1410 เทพแห่งโรคระบาด (5)


 


 


โอวหย่ามองอย่างประหลาดใจ บุรุษงดงามผู้นั้นมีอำนาจมหาศาลขนาดนั้นเลยหรือ


 


 


“ท่านนักบุญหญิง ข้ารู้ว่าท่านอารมณ์ไม่ดีแต่ท่านอย่าได้มีเรื่องกับเขา! ห้ามเด็ดขาด! ถ้าเขาอยากหาเรื่องสนุกก็ปล่อยเขาไป! อีกสองสามวันเขาก็คงไป รอเขาไปแล้วพวกเราค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อ”


 


 


โอวหย่าหลุบตาต่ำแล้วไม่ตอบอะไรหัวหน้าเผ่าเพราะตอนนี้นางมีแผนใหม่แล้ว…


 


 



 


 


เผ่าผู้ใช้เวท


 


 


ระหว่างเดิน อวิ๋นลั่วเฟิงก็หันไปมองหน้าชายหนุ่ม จากมุมนี้ชายหนุ่มดูหล่อเหล่าไร้ที่ติจนน่าตะลึงจริงๆ!


 


 


“จีจิ่วเทียน ข้าเป็นศิษย์เจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน”


 


 


“ข้าเป็นเจ้าสำนักศึกษาเมืองประจิม เจ้าเป็นศิษย์ของสำนัก ดังนั้นข้าก็ไม่ได้พูดอะไรผิด”


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงก้มหน้าคิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้า “ก็จริง ข้านับว่าเป็นศิษย์เจ้าได้เหมือนกัน”


 


 


“เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ ด้วยความคุ้มครองจากข้า เจ้าอยากทำอะไรที่นี่ก็ได้” จีจิ่วเทียนหันไปหาเด็กสาวข้างๆ เขา “แต่ถ้าเจ้าอยากได้ของที่ต้องการ เจ้าต้องพึ่งพาตัวเอง”


 


 


ถึงแม้เผ่าผู้ใช้เวทจะกลัวเขา แต่พวกเขาก็ไม่มีทางยกสมบัติประจำเผ่าให้เขาแน่หากเขาไม่ทำลายเผ่าผู้ใช้เวทแล้วขโมยมา ทว่าตอนนี้เขาจะไม่ทำแบบนั้น


 


 


เมื่อเห็นว่าจีจิ่วเทียนกำลังเข้าหาอวิ๋นลั่วเฟิง เสี่ยวโม่ก็กระโดดมายืนกั้นระหว่างทั้งสองทันทีก่อนหันไปยิ้มให้อวิ๋นลั่วเฟิง “นายหญิง ข้าหิวแล้ว”


 


 


ถึงแม้ว่าจีจิ่วเทียนจะรู้ว่าเสี่ยวโม่ทำแบบนี้ไปทำไม แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากหัวเราะแล้วยิ้มเยาะ


 


 


“หวงอิงอิง” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดเดินแล้วหันหลังมามองเด็กหญิงที่เงียบมาตลอดทางแล้วเอ่ยถาม “มารดาเจ้ายกปิ่นอัญมณีให้เจ้างั้นหรือ นางได้บอกอะไรเจ้าอีกหรือไม่”


 


 


หวงอิงอิงเอียงคอแล้วคิดสักพัก จากนั้นก็ส่ายหน้า “ข้ารู้แค่ว่าปิ่นอัญมณีเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่โบราณ แล้วต้องให้บุตรสาวโดยสายเลือดเท่านั้น ห้ามให้บุตรสาวบุญธรรมเด็ดขาด ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไม ท่านแม่ไม่ได้บอกเหตุผลไว้”


 


 


พูดจบหวงอิงอิงก็เงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิง


 


 


“แม่นางอวิ๋น เจ้าช่วย…ช่วยเอาปิ่นอัญมณีมาคืนข้าได้หรือไม่ นั่นเป็นของดูต่างหน้าเพียงชิ้นเดียวที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข้า”


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มร้าย “ข้าจะช่วยเจ้าเอาปิ่นอัญมณีกลับมา รวมถึงฐานะที่เจ้าควรได้ด้วย”


 


 


ฐานะที่นางควรได้งั้นหรือ หวงอิงอิงกะพริบตาอย่างงุนงง นางหมายถึงอะไร นางไม่ได้ถามอวิ๋นลั่วเฟิงเพราะเชื่อว่าไม่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะทำอะไรก็เพื่อช่วยนางทั้งนั้น


 


 



 


 


ภายในห้องนอนของสตรีหรูหรา โอวหย่านั่งขมวดคิ้วอยู่ที่โต๊ะพลางคิดบางอย่าง เมื่อสาวใช้เห็นว่านางเงียบไปก็หวาดกลัวแล้วพากันคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความกังวล


 


 


“ท่านนักบุญหญิงเจ้าคะ” ทันใดนั้นสาวใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามารายงานด้วยความเคารพ “ท่านนักบุญหญิง บ่าวรู้ที่ตั้งของห้องพักแขกแล้วเจ้าค่ะ”


 


 


“ดี ดีมาก ตอนนี้ก็พาข้าไปหาจีจิ่วเทียน” โอวหย่ายืนขึ้นแล้วยกยิ้ม “แต่ก่อนหน้านั้นข้าต้องเตรียมตัวเสียก่อน”


 


 


ตอนนั้นจีจิ่วเทียนนอนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ยาวของเขาแล้วใช้นิ้วเรียวหยิบองุ่นจากจานผลไม้ข้างๆ ท่าทางของเขาดูงดงามและเย้ายวน


 


 


เมื่อโอวหย่าผลักประตูมาก็ได้พบภาพชวนล่อลวงนี้ทันที


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 1411เทพแห่งโรคระบาด (6)


 


 


ชายคนนี้งดงามจนน่าตะลึง ดวงตารูปหงส์ของเขาเป็นประกายร้ายกาจ แล้วใบหน้างดงามสูงส่งก็ดูไม่เหมือนอมนุษย์เดินดินแต่เหมือนภูตในป่ามากกว่า


 


 


“ไสหัวไป!”


 


 


ตั้งแต่ต้นจนจบ ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาและน้ำเสียงของเขาก็ดุร้ายน่ากลัวมาก


 


 


โอวหย่าบังคับให้ตัวเองสงบ ถ้านางสามารถชนะใจบุรุษผู้นี้ได้ นางก็ไม่สนใจว่านางจะได้ตำแหน่งนักบุญหญิงหรือไม่


 


 


“นายท่านจี ข้ามาที่นี่เพื่อขอโทษเจ้าค่ะ” โอวหย่าก้มหน้าแล้วพูดอย่างรู้สึกผิด “ข้าไม่รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงและหวงอิงอิงเป็นสหายของท่าน ถ้าข้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของท่านกับพวกนาง ข้าก็จะไม่สนใจเรื่องใหญ่ที่พวกนางก่อไว้”


 


 


เพื่อแสดงความใจกว้างของตัวเอง โอวหย่าก็พูดต่อ “และเพื่อนายท่านจี ข้าก็ยินดียกโทษให้พวกนาง”


 


 


“อ้อ?” เมื่อจีจิ่วเทียนได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความสนใจ “เจ้าหมายถึงเสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ”


 


 


โอวหย่าตื่นเต้นดีใจที่เห็นว่าจีจิ่วเทียนตอบนางแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกไป


 


 


“ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็แค่ตอนที่พวกเราอยู่ที่นครอนันต์ มีบุรุษผู้หนึ่งชื่อหนานกงอวิ๋นอี้มาเกี้ยวข้า แต่อวิ๋นลั่วเฟิงชอบเขา นางก็เลยเกลียดข้า” โอวหย่าก้มหน้าทำท่าทางเสียใจ “นางสังหารคนทั้งตระกูลข้าเพื่อแก้แค้น ซึ่งทั้งตระกูลข้ามีคนมากกว่าห้าร้อยคน! นั่นทำให้ข้าเกลียดนางมาก!” ดวงตาของโอวหย่าเป็นประกายเกลียดชัง


 


 


เป็นเรื่องจริงที่นางเกลียดอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ไม่ใช่เพราะนางทำลายตระกูลโอวแต่อย่างใด ทว่าเป็นเพราะอวิ๋นลั่วเฟิงทำให้นางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก!


 


 


ถ้านางไม่โชคดีได้มาเป็นนักบุญหญิงของเผ่าผู้ใช้เวท ป่านนี้นางก็คงตายไปแล้ว!


 


 


จีจิ่วเทียนยิ้ม “เจ้าหมายความว่าเสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ตกหลุมรักหนานกงอวิ๋นอี้งั้นหรือ แต่เท่าที่ข้ารู้ เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือจักรพรรดิปีศาจ”


 


 


“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ารังเกียจนาง” โอวหย่าพูดอย่างเหยียดหยาม “ถึงแม้ว่านางจะมีคู่หมั้นแล้ว นางก็ยังไปยุ่งกับบุรุษอื่น แม้แต่ผู้อาวุโสของหอแพทย์ก็มีความสัมพันธ์ลับๆ กับนาง คนทั้งนครอนันต์ต่างรู้กันหมด เจ้าสำนักจี ท่านไม่ได้มาจากแดนลับแลก็เลยไม่รู้ว่านางเป็นคนอย่างไรตอนอยู่ที่นั่น”


 


 


เมื่อได้ยินคำพูดของโอวหย่า จีจิ่วเทียนก็ถามคำถามที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขึ้นมาทันที


 


 


“เจ้ารู้หรือไม่ว่าในแดนลับแลมีตระกูลจีอยู่”


 


 


ตระกูลจีหรือ


 


 


โอวหย่าหยุด นางเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลจี แต่ว่าจีจิ่วเทียนถามเรื่องนี้กับนางไปทำไม


 


 


เดี๋ยวก่อนนะ ตระกูลจี? ชื่อสกุลของจีจิ่วเทียนก็เป็น ‘จี’ เหมือนกันนี่ หรือว่าเขา…


 


 


“หรือว่าท่านเป็นผู้นำตระกูลจี” โอวหย่าหน้าซีดตัวสั่น


 


 


จะบังเอิญอะไรขนาดนั้น! หรือว่าเจ้าสำนักศึกษาเมืองประจิมจะเป็นผู้นำตระกูลจีด้วย


 


 


“เปล่า…” จีจิ่วเทียนขยับริมฝีปากสีแดงสดแล้วพูดขึ้น


 


 


ได้ยินอย่างนั้น โอวหย่าก็โล่งอกแล้วแอบหัวเราะกับตัวเอง นางเชื่อมโยงจีจิ่วเทียนกับตระกูลจีได้อย่างไร


 


 


ทว่าคำพูดต่อมาของจีจิ่วเทียนก็ผลักนางตกลงไปจุดต่ำสุดของนรก นางตัวแข็งค้าง


 


 


“ผู้นำตระกูลจีเป็นแค่ผู้ติดตามข้าเฉยๆ”


 


 


ปัง!


 


 


โอวหย่าตัวเซจนต้องใช้กรอบประตูเพื่อพยุงตัวเองไว้ นางพยายามสงบใจแล้วเอ่ยถาม “ท่าน…ท่านว่าอย่างไรนะ”


 


 


จีจิ่วเทียนส่งสายตาร้ายกาจไปให้นาง “หลังจากที่เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ไปนครอนันต์ ข้าก็ส่งคนไปสืบเรื่องนาง เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่านางทำอะไรบ้าง”


 


 


ริมฝีปากของโอวหย่าสั่น นางกลัวจนพูดไม่ออก


ตอนที่ 1412 เทพแห่งโรคระบาด (7)


 


 


“ตอนนี้เจ้าออกไปได้หรือยัง” จีจิ่วเทียนพูดอย่างเย็นชา ถ้าต้องมองโอวหย่าอีกครั้ง เขาคงอาเจียน


 


 


โอวหย่าไม่กล้าพูดอะไรอีก นางรีบหันหลังจากไป และวินาทีที่นางหันหลังมา นางก็น้ำตาไหลทันที


 


 


“ท่านนักบุญหญิงเจ้าคะ” เมื่อนางเดินออกมาจากห้อง สาวใช้ก็รายงานอย่างนอบน้อม “หัวหน้าเผ่าเรียกท่านไปพบเจ้าคะ”


 


 


“หัวหน้าเผ่า?”


 


 


โอวหย่าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เจ้าไปได้”


 


 


“เจ้าค่ะ ท่านนักบุญหญิง” แล้วสาวใช้ก็จากไป


 


 


โอวหย่าไม่ลังเลที่จะมุ่งหน้าไปยังห้องฝึกฌานของหัวหน้าเผ่า ตอนนั้นภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีชายวัยกลางคนยืนหันหลังให้ประตูอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิด เขาก็หันมามองสตรีที่ปรากฏตัว


 


 


“ท่านไปหาจีจิ่วเทียนมาหรือ”


 


 


โอวหย่าพยักหน้า “ใช่แล้ว”


 


 


เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหัวหน้าเผ่าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าหวังว่าท่านจะรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไรในเผ่าผู้ใช้เวท! ท่านไม่รู้หรือว่าจีจิ่วเทียนเป็นคนเช่นไร ท่านกล้าไปหาเรื่องเขาได้อย่างไร”


 


 


ตั้งแต่โอวหย่ามาอยู่ที่เผ่าผู้ใช้เวท นี่เป็นครั้งแรกหัวหน้าเผ่าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับนาง นางหน้าบึ้งทันที “ข้าไม่คิดว่าจีจิ่วเทียนจะน่ากลัวอย่างที่เจ้าว่าเลย เขาไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น”


 


 


ถึงแม้ว่าจีจิ่วเทียนจะทำให้นางรู้สึกกดดันมากจนหายใจไม่ออก…แต่สุดท้ายเขาก็ยังปล่อยนางอยู่ดี


 


 


“จีจิ่วเทียนไม่ได้ทำร้ายท่านหรือ” หัวหน้าเผ่ามองโอวหย่าด้วยสายตาแปลกๆ “ไม่มีทาง! จีจิ่วเทียนโหดร้ายมาก เขาสังหารคนเพียงเพราะคนคนนั้นพูดอะไรที่เขาไม่ชอบ”


 


 


โอวหย่าตะลึง


 


 


เขาโหดร้ายขนาดนั้นจริงหรือ ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงปล่อยนางแม้นางจะใส่ร้ายอวิ๋นลั่วเฟิงที่เขาบอกว่าเป็นศิษย์ตัวเองด้วยเล่า หรือเป็นเพราะว่า…อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้สำคัญกับเขาขนาดที่นางคิดไว้ ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยนางทำไม


 


 


“อย่างไรก็ตาม” หัวหน้าเผ่าดูเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ จึงเอ่ยถามขึ้น “ผู้หญิงคนนั้น หวงอิงอิงสามารถรักษาโรคร้ายแรงของท่านได้จริงหรือ”


 


 


โอวหย่าขมวดคิ้ว “ถูกต้อง! แค่ยกหวงอิงอิงให้ข้าแล้วข้าก็จะสามารถทำพิธีสืบทอดได้ภายในสามวัน”


 


 


“แต่หวงอิงอิงอยู่กับจีจิ่วเทียน ถ้าเราทำร้ายนาง เขาต้องโกรธแน่”


 


 


“หัวหน้าเผ่า” โอวหย่ายิ้ม “ข้าแค่จะขอให้หวงอิงอิงช่วยข้าแล้วข้าจะไม่ทำร้ายนาง ดังนั้นจีจิ่วเทียนย่อมไม่อารมณ์เสีย อีกอย่างข้าจะไม่บังคับนางถ้าหวงอิงอิงปฏิเสธ”


 


 


“ก็ได้” หัวหน้าเผ่าพยักหน้า “ข้าจะส่งคนไปพาหวงอิงอิงไปที่ห้องท่าน แต่ท่านต้องจำไว้ว่าท่านห้ามแตะต้องนางหรือบังคับนางเด็ดขาด”


 


 


“หัวหน้าเผ่า ท่านวางใจ ข้าจะไม่ทำร้ายนางแน่นอน”


 


 


โอวหย่าก้มหน้าแล้วยกยิ้ม


 


 


นางจะทรมานหวงอิงอิงทันทีที่นางตกมาอยู่ในกำมือ!


 


 


แล้วนางก็จะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้มีคนรู้ว่านางทำอะไรกับหวงอิงอิงบ้าง…


 


 



 


 


ภายในห้องนอนแขก หวงอิงอิงกำลังจะเข้านอนแต่จู่ๆ สาวใช้สองคนก็เปิดประตูเข้ามาแล้วพูดว่า “แม่นางหวง นักบุญหญิงของพวกเราต้องการพบเจ้า”


 


 


โอวหย่า?


 


 


หวงอิงอิงถามอย่างโมโห “นางต้องการอะไรจากข้า ข้าไม่ไป!”


 


 


“แม่นางหวง นักบุญหญิงของพวกเราบอกว่า ในเมื่อนี่เป็นเรื่องระหว่างเจ้ากับนาง นางหวังว่าจะจัดการปัญหานี้ด้วยกันเงียบๆ ไม่อย่างนั้นเพื่อนของท่านจะอยู่ในอันตราย”


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 1413 เทพแห่งโรคระบาด (8)


 


 


หวงอิงอิงหน้าซีด นางพยายามใจเย็นแล้วพูดพร้อมยิ้มเยาะ “ข้าไม่เชื่อเจ้า เผ่าผู้ใช้เวทไม่กล้าทำอะไรแม่นางอวิ๋นหรอก”


 


 


นางมีจีจิ่วเทียนปกป้อง เช่นนั้นแล้วแม่นางอวิ๋นจะตกอยู่ในกำมือของเผ่าผู้ใช้เวทได้อย่างไร


 


 


สาวใช้หลุบตาต่ำแล้วพูดต่อ “เจ้าจำเด็กผู้ชายที่อยู่กับเจ้าได้หรือไม่ โชคร้ายที่เด็กคนนั้นอยู่ในมือของนักบุญหญิงของพวกเรา ดังนั้นเจ้าต้องไป”


 


 


เด็กผู้ชาย?


 


 


หรือว่าจะเป็นเสี่ยวโม่?


 


 


ภาพเด็กน้อยใส่ซื่อบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นในความคิดนาง แล้วหวงอิงอิงก็หน้าซีดเผือด “เขามากับแม่นางอวิ๋น เจ้าไม่กลัวว่าจะมีปัญหากับนางหรือ แล้วทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า ข้าจะไปถามแม่นางอวิ๋น”


 


 


“ไม่มีความจำเป็นที่ท่านนักบุญหญิงของพวกเราต้องโกหก ถ้าเจ้าไม่ไปกับพวกเรา เด็กผู้ชายคนนั้นจะต้องตายทันที”


 


 


หวงอิงอิงตัวสั่น นางพยายามจะไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงแต่สาวใช้สองคนนี้แข็งแกร่งกว่านาง ทำให้นางผ่านไปไม่ได้ นางกัดฟันแล้วพูด “ข้าจะไปกับเจ้าแต่เจ้าห้ามทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”


 


 


สาวใช้ทั้งสองคนเข้ามาล้อมหวงอิงอิงทั้งซ้ายและขวาอย่างเงียบเชียบเย็นชาด้วยกลัวว่านางจะหนีไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง พวกนางไม่คิดว่าเรื่องที่หวงอิงอิงถูกพวกนางพาตัวไปได้ถึงหูอวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว


 


 


“นายหญิง ผู้หญิงที่ชื่อหวงอิงอิงคนนั้นออกไปกับคนของเผ่าผู้ใช้เวทขอรับ พวกเราควรหยุดพวกเขาหรือไม่” ไหน่ฉาบอกทุกอย่างที่ได้ยินกับอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วเอ่ยถาม


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเสี่ยวโม่ที่กำลังมีความสุขกับการกินอาหารอร่อยๆ ก่อนจะหันกลับมาหาไหน่ฉา


 


 


“ใช้เสี่ยวโม่ขู่หวงอิงอิงงั้นหรือ ข้าไม่คิดเลยว่าโอวหย่าจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้”


 


 


“นายหญิง ถ้าอย่างนั้นพวกเรา…”


 


 


“ไหน่ฉา ตามหวงอิงอิงไปก่อน เดี๋ยวข้าจะตามไป” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดแล้วหรี่ตา “อีกอย่าง ข้าอยากรู้ว่าโอวหย่ามาหานางในเวลาแบบนี้ทำไม”


 


 



 


 


ปัง!


 


 


ทันทีที่หวงอิงอิงมาถึงประตู สาวใช้สองคนก็ผลักนางเข้ามาอย่างแรง นางตัวเซจนเกือบจะล้ม


 


 


“หวงอิงอิง” โอวหย่าที่หันหลังให้นางอยู่ก็ค่อยๆ หันหน้ามาเมื่อได้ยินเสียง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างามของนาง “ไม่เจอกันนานนะ ข้าควรขอบคุณพระเจ้าที่ส่งเจ้ามาให้ข้าหรือไม่”


 


 


หวงอิงอิงกัดปาก “เสี่ยวโม่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอยู่ที่ไหน ปล่อยเขาไป”


 


 


“ไม่เกี่ยวงั้นหรือ” โอวหย่ายิ้มเยาะ “อย่าลืมว่าอวิ๋นลั่วเฟิงทำลายทุกอย่างที่ข้ามี ทุกคนที่อยู่ใกล้นางสมควรตาย อีกอย่างข้าไม่ได้จับเขามา แล้วข้าจะปล่อยเขาได้อย่างไร”


 


 


หวงอิงอิงหน้าซีดขณะที่ดวงตาแสดงความโกรธเคืองมากกว่าเดิม “เจ้าโกหกข้า!”


 


 


“หวงอิงอิง เจ้าไม่คิดว่าตัวเองโง่หรือ เจ้าเชื่อที่คนอื่นบอกเจ้าทุกอย่าง” โอวหย่ายิ้มเย็น “ข้ายังจำได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าเคยเดินตามข้าแล้วเรียก ‘พี่สะใภ้’ อยู่เลย!”


 


 


หวงอิงอิงโกรธจนอยากจะสังหารนางเสียเดี๋ยวนี้ “โอวหย่า เจ้าใช้คนบริสุทธิ์มาขู่ข้าแล้วพาข้ามาที่นี่ เจ้าต้องการอะไร”


 


 


โอวหย่าเลิกคิ้วแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ง่ายมาก ข้าอยากให้เจ้าทำอะไรบางอย่างให้ข้า”


 


 


“เฮอะ!” หวงอิงอิงพ่นลมหายใจ “ไม่มีทาง!”


 


 


“หวงอิงอิง ในฐานะที่เป็นคนดี เจ้าคงไม่อยากเห็นคนอื่นต้องทรมานเพราะเจ้าใช่หรือไม่” โอวหย่าพูดขณะเดินมาหาหวงอิงอิงพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าเจ้าไม่อยากให้อวิ๋นลั่วเฟิงต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ก็ฟังข้าเสีย”


ตอนที่ 1414 จุดจบของโอวหย่า (1)


 


 


เมื่อเห็นโอวหย่าเดินเข้ามาหานาง หวงอิงอิงก็ถอยหลังไปสองสามก้าว ดวงตาเป็นประกายเดือดดาล


 


 


“แม่นางอวิ๋นมีนายท่านจีอยู่เคียงข้าง เจ้าทำร้ายนางไม่ได้”


 


 


“คิกๆ” โอวหย่าหัวเราะเหมือนนางได้ยินมุกตลกดวงตาเต็มไปด้วยการดูถูก


 


 


“หวงอิงอิง ก็จริงที่หัวหน้าเผ่าเราไม่กล้าแตะต้องจีจิ่วเทียนเพราะเขาแข็งแกร่ง แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ตัวคนเดียว แล้วเผ่าผู้ใช้เวทจะกลัวเขาจริงๆ หรือ อีกอย่าง เป้าหมายของหัวหน้าเผ่าไม่ใช่จีจิ่วเทียนแต่เป็นอวิ๋นลั่วเฟิง”


 


 


เมื่อได้ยินคำพูดของโอวหย่า หวงอิงอิงก็หน้าซีดเผือด นางเสียใจที่พาอวิ๋นลั่วเฟิงมายุ่งกับเรื่องนี้


 


 


เทียบกับคนเจ้าเล่ห์อย่างโอวหย่า หวงอิงอิงเรียบง่ายและบริสุทธิ์กว่ามาก แล้วก็เพราะความไร้เดียงสานี้เองที่ทำให้นางถูกหลอกได้อย่างง่ายดาย


 


 


“เจ้าอยากให้ข้าทำอะไร” หวงอิงอิงถาม นางก้มหน้ากัดฟัน


 


 


“มีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายข้า ข้าต้องการเลือดเจ้าเพื่อรักษา ถ้าเจ้ายินดีเปลี่ยนเลือดกับข้า ข้าจะปล่อยอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ ไป”


 


 


โอวหย่าเข้าหาหวงอิงอิงอีกครั้ง นางเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างโอหัง “หวงอิงอิง ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช้อวิ๋นลั่วเฟิงมาขู่เจ้า เจ้าก็ควรรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ช่วยข้า นักบุญหญิงแห่งเผ่าผู้ใช้เวท”


 


 


พูดจบ นางก็เหลือบมองหวงอิงอิงที่ยังลังเลแล้วพูดต่อ “ถ้าครั้งนี้เจ้ายอมช่วยข้า ข้าจะลืมสิ่งที่ตระกูลหวงทำกับข้าแล้วเลิกแล้วต่อกัน ดีหรือไม่”


 


 


“เจ้ามันคนหน้าไม่อาย!” ดวงตาของหวงอิงอิงแดงก่ำ “เจ้าสังหารครอบครัวข้า! เจ้าคิดว่าข้าจะให้อภัยเจ้างั้นหรือ”


 


 


“ตระกูลหวงของเจ้าสมควรตายแล้ว!” โอวหย่ายิ้มเยาะ “ถ้าเจ้าไม่ขัดขวางการหนีของข้า ข้าคงไม่ทำร้ายเจ้า แล้วตระกูลหวงก็คงไม่ไล่ล่าข้าทำให้ข้าต้องกำจัดตระกูลหวงทั้งตระกูล”


 


 


จนถึงตอนนี้โอวหย่าก็ยังโยนความผิดให้หวงอิงอิง นางแค่ขโมยปิ่นอัญมณีอันเดียว ทำไมหวงอิงอิงต้องโกรธด้วย แล้วพวกเขายังพานางไปที่ตำหนักลงทัณฑ์! ในเมื่อพวกเขาโหดร้ายกับนาง นางก็ไม่คิดจะปรานีพวกเขา!


 


 


เมื่อเห็นว่าหวงอิงอิงตัวสั่นด้วยความโกรธ โอวหย่าก็พูดอย่างเย็นชา “ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดสิบห้านาที เจ้าควรคิดให้ดี เจ้าอยากเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงทรมานเพราะเจ้างั้นหรือ เจ้าเป็นคนจิตใจดี ถ้าพวกเขาโดนทำร้ายเพราะเจ้า เจ้าจะรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต!”


 


 


หวงอิงอิงเงียบ


 


 


เป็นตัวเองนางที่อยากแก้แค้นโอวหย่า และนางก็ไม่ควรเชื่อหนานกงอวิ๋นอี้และเฉินอวี้ชิงที่บอกว่าอวิ๋นลั่วเฟิงสามารถช่วยนางได้ ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่พาอวิ๋นลั่วเฟิงมายุ่งกับเรื่องนี้ เผ่าผู้ใช้เวททรงพลังมาก ไม่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน นางก็ไม่สามารถต่อต้านเผ่าผู้ใช้เวทได้…


 


 


“ข้า…”


 


 


หวงอิงอิงกัดปาก นางเงยหน้ามองโอวหย่าแล้วกำหมัดแน่น “ข้ามีเรื่องอยากจะขอ เจ้าต้องคืนปิ่นอัญมณีให้ข้า!”


 


 


“ไม่มีปัญหา”


 


 


โอวหย่าฉีกยิ้มกว้าง


 


 


คืนนางงั้นหรือ ฝันไปเถอะ! ในเมื่อปิ่นอัญมณีอยู่ในมือนางแล้ว มันก็ควรเป็นของนาง! ทำไมนางต้องคืนให้หวงอิงอิง


 


 


หวงอิงอิงก้มหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก นางเชื่อว่าถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ ด้วยพรสวรรค์ของนางแล้ว สักวันหนึ่งอวิ๋นลั่วเฟิงต้องแก้แค้นให้ครอบครัวนางได้แน่!


 


 


“หวงอิงอิง เรามาเริ่มกันเถอะ”


 


 


โอวหย่าสูดหายเข้าลึกๆ หลังจากสั่งให้สาวใช้เฝ้าประตูเรียบร้อย นางก็หยิบเข็มเงินสองสามเล่มออกมาแล้วทิ่มไปที่นิ้วของนางแล้วตามด้วยนิ้วหวงอิงอิง


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 1415 จุดจบของโอวหย่า (2)


 


 


เจ็บ!


 


 


หวงอิงอิงเจ็บและรู้สึกได้ว่าเลือดไหลย้อนกลับ ทำให้นางอดตื่นตระหนกไม่ได้


 


 


“เจ้าเสียใจหรือไม่” โอวหย่าสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของหวงอิงอิง นางหัวเราะเสียงดัง “โชคร้ายที่เจ้าไม่มีโอกาสอีกแล้ว เลือดของพวกเราถูกสับเปลี่ยนกันแล้ว จากนี้ไป ข้าก็เป็นนักบุญหญิงอย่างแท้จริง ฮ่าๆ!”


 


 


นักบุญหญิงอย่างแท้จริงงั้นหรือ นางหมายความว่าอย่างไร


 


 


ดวงตาหวงอิงอิงฉายแววสับสน นางต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อเห็นว่าเลือดที่นิ้วนางยังไม่หยุด นางก็รู้สึกสับสนมากขึ้น


 


 


ปัง!


 


 


ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเตะให้เปิดออก ร่างสีขาวพุ่งเข้ามาในห้อง อวิ๋นลั่วเฟิงยกตัวหวงอิงอิงที่นั่งอยู่ที่พื้นขึ้นแล้วเตะเข้าที่อกของโอวหย่า


 


 


พรวด!


 


 


โอวหย่ากระอักเลือดออกมาขณะที่ร่างของนางกระเด็นไปชนกำแพง นางหน้าซีดด้วยความเจ็บปวด


 


 


“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” อวิ๋นลั่วเฟิงก้มมองหวงอิงอิงแล้วก็เห็นเข็มเงินปักอยู่ที่นิ้วของนาง นางขมวดคิ้วแล้วจ้องโอวหย่าที่นอนอยู่ที่พื้นอย่างเย็นชา


 


 


“เจ้าต้องการเปลี่ยนเลือดกับนางงั้นหรือ” เสียงของเด็กสาวเย็นเยียบเหมือนมีกริชพุ่งเข้ามาปักกลางใจนาง


 


 


เมื่อครู่หลังจากที่ไหน่ฉาบอกนางว่าหวงอิงอิงถูกโอวหย่าพามา นางก็ส่งไหน่ฉาให้ตามมา แล้วนางจะตามมาเหมือนกัน นางสงสัยว่าทำไมโอวหย่าถึงพาหวงอิงอิงมาที่นี่ ตอนนี้นางก็รู้แล้วว่าโอวหย่าต้องการเปลี่ยนเลือดกับหวงอิงอิง แต่โอวหย่าจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน


 


 


หวงอิงอิงรีบจับแขนเสื้ออวิ๋นลั่วเฟิงแล้วส่ายหน้า ร่องรอยความวิตกกังวลปรากฏบนใบหน้าซีดขาวของนาง


 


 


“ไม่ต้องห่วง” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดเมื่อรู้ถึงความกังวลของนาง “ข้าจะไม่ยอมให้นางทำร้ายเจ้า”


 


 


ข้าจะไม่ยอมให้นางทำร้ายเจ้า


 


 


หวงอิงอิงเงยหน้ามองใบหน้าด้านข้างที่งดงามของหญิงสาวอย่างงุนงง แล้วความอบอุ่นก็คืบคลานเข้าสู่จิตใจนาง


 


 


ไม่เคยมีใครพูดกับนางเช่นนี้ตั้งแต่ครอบครัวนางถูกกวาดล้าง


 


 


เพียงแค่คำนี้ นางก็ไม่ต้องการให้อวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก นางพยายามยืนขึ้นจับมืออวิ๋นลั่วเฟิงแล้วเงยหน้ามองโอวหย่า


 


 


“แม่นางอวิ๋น ข้าเลือกสิ่งนี้เอง เจ้าไม่ต้องห่วงข้า”


 


 


โอวหย่า เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้ายินดีเปลี่ยนเลือดกับเจ้า


 


 


บางทีเจ้าคงไม่รู้ว่าข้าแอบใส่ยาพิษไว้ที่แผลแล้ว เมื่อเลือดของข้าถูกย้ายไปที่เจ้า เจ้าก็ต้องตายไปกับข้าแน่นอน


 


 


นี่เป็น…ราคาที่เจ้าต้องจ่ายหลังจากสังหารครอบครัวข้า!


 


 


“แค่ก” โอวหย่าไอแล้วยืนขึ้น นางยกยิ้ม ประกายร้ายกาจพาดผ่านดวงตา “อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าได้ยินหรือไม่ นางเลือกเอง ข้าไม่ได้บังคับนาง!”


 


 


“เสี่ยวโม่” อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนด้วยเสียงเย็นเยียยบ “ปกป้องหวงอิงอิง”


 


 


“รับทราบ”


 


 


เมื่อได้ยินแบบนั้น เสี่ยวโม่ก็รีบเดินไปข้างหน้าแล้วกดไหล่หวงอิงอิงเพื่อหยุดไม่ให้นางเดินไปข้างหน้า


 


 


“เจ้ากำลังทำอะไร ปล่อยข้านะ ข้า…”


 


 


“หุบปาก!”


 


 


เสี่ยวโม่มองหวงอิงอิงแล้วพูดเสียงดังอย่างโกรธเคือง “ผู้หญิงโง่เง่า! ทำไมเจ้าไม่อยู่ในห้อง นายหญิงข้ามีแผนที่ดีอยู่แล้วแต่เจ้ากลับทำลายมัน!”


 


 


หวงอิงอิงรู้สึกเสียใจจนน้ำตาไหล นางแค่ไม่อยากให้พวกเขามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง!


 


 


“ตอนนี้เจ้าอยู่เฉยๆ อย่าขยับ นายหญิงกำลังจะจัดการเรื่องนี้” เสี่ยวโม่พูดด้วยเสียงอ่อนลงแต่ก็อดยกมือมาตบศีรษะหวงอิงอิงเบาๆ ไม่ได้ “ฉลาดสักที! อะไรทำให้เจ้าคิดว่าโอวหย่าจะจับข้าได้ ข้าสังหารนางได้ง่ายดายไม่ต่างกับตบยุง!”


ตอนที่ 1416 จุดจบของโอวหย่า (3)


 


 


หวงอิงอิงไม่กล้าขยับ นางใช้ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองเสี่ยวโม่อย่างน่าสงสาร


 


 


ทำไมผู้ชายคนนี้ใจร้ายอย่างนี้


 


 


ถึงแม้ว่านางจะรู้ว่าเสี่ยวโม่แค่พยายามหยุดนางไม่ให้ฆ่าตัวตาย แต่นางก็ยังกลัวเขาอยู่ดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่าทางดุร้ายของเสี่ยวโม่ได้ผลดีกว่าคำพูด อย่างน้อยนางก็หยุดอยู่กับที่ ไม่ได้ดื้อรั้นเหมือนเมื่อครู่แล้ว


 


 


“โอวหย่า”


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงย้ายสายตามาที่โอวหย่าแล้วเดินเข้าไปหานางช้าๆ


 


 


“หอแพทย์ตามหาเจ้ามานาน ในที่สุดข้าก็เจอเจ้า”


 


 


โอวหย่าหน้าเปลี่ยนสีแล้วเดินถอยหลัง “อย่าเข้ามานะ ข้าไม่ใช่ทายาทตระกูลโอวอีกต่อไปแล้วแต่เป็นนักบุญหญิงของเผ่าผู้ใช้เวท เจ้าควรจะทำตัวสุภาพ ที่นี่คือเผ่าผู้ใช้เวท”


 


 


ปัง!


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงยกเท้าขึ้นเหมือนไม่ได้ยินที่นางพูดก่อนเตะเข้าที่อกนางอย่างแรง จากนั้นก็กดนางไว้ที่พื้น


 


 


“นี่สำหรับหนานกงอวิ๋นอี้ เจ้าปฏิเสธเขาได้ ไม่ชอบเขาได้ ไม่สนใจเขาได้ หรือแม้แต่ปฏิเสธจะเห็นหน้าเขาก็ย่อมได้ แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำให้พี่ชายข้าอับอาย!”


 


 


จากนั้นนางก็เตะโอวหย่าอีกครั้งจนนางกระอักเลือดออกมา ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด


 


 


“นี่สำหรับเสี่ยวไป๋ นางถูกตระกูลใหญ่สามตระกูลทำร้าย แล้วตระกูลโอวของเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น!”


 


 


โอวหย่าพยายามจะยืนขึ้นแต่อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เปิดโอกาสให้นาง นางยกขาขึ้นแล้วกระทืบโอวหย่าอีกครั้งก่อนเหยียบลงบนหน้าอกนางอย่างแรง


 


 


“นี่สำหรับตระกูลหวง! ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลหวง แต่ถ้าข้าไม่ไล่ตามเจ้า พวกเขาก็คงไม่ถูกเจ้าสังหาร ดังนั้นข้าควรแก้แค้นให้พวกเขา!”


 


 


“และสุดท้าย…” อวิ๋นลั่วเฟิงยกข้าแล้วกระทืบลงไปอีกครั้ง “นี่สำหรับหวงอิงอิง!”


 


 


เลือดไหลทะลักออกจากปากของโอวหย่าจนนางเกือบจะหมดสติ นางรู้สึกเสียใจที่พาหวงอิงอิงมาที่นี่เพราะความโกรธ นางไม่คิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะตามมาเร็วขนาดนี้!


 


 


“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”


 


 


ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังมาจากประตู


 


 


ดวงตาหัวหน้าเผ่าแดงก่ำเมื่อเห็นโอวหย่านอนจมอยู่ในแอ่งเลือด เขาคำรามอย่างเดือดดาล “เจ้ากล้าทำร้ายนักบุญหญิงของพวกเรางั้นหรือ ข้าจะฆ่าเจ้า! ไม่ว่าใครก็หยุดข้าไม่ได้”


 


 


นักบุญหญิงเป็นความหวังของเผ่าผู้ใช้เวท ดังนั้นเขาไม่มีทางยอมให้ใครก็ตามทำร้ายนาง เขาต้องทำให้นางปลอดภัยแม้จะต้องจ่ายด้วยชีวิตตัวเองก็ตาม!


 


 


ตูม!


 


 


เขาปล่อยกลิ่นอายทรงพลังออกมาล้อมรอบไปทั่วห้อง สายลมแรงพัดไปทั่วจนทำลายโต๊ะและเก้าอี้ภายในห้องจนเละเทะ


 


 


“ไม่นะ!”


 


 


หวงอิงอิงตะโกนด้วยความสิ้นหวัง ใบหน้านางซีดเผือดทันที นางไม่แข็งแกร่งเหมือนอวิ๋นลั่วเฟิงและเสี่ยวโม่ นางไม่สามารถต้านทานสายลมแรงจนเหมือนใบมีดนี้ได้ ทำให้เสื้อผ้านางฉีกขาด


 


 


หวงอิงอิงรีบใช้มือปิดหน้าอกตัวเอง นางดูโมโหและอับอายมาก ตอนนั้นเองการโจมตีรุนแรงว่องไวของหัวหน้าเผ่าก็พุ่งเข้าโจมตีนางและอวิ๋นลั่วเฟิง…


 


 


แต่เมื่อหัวหน้าเผ่าสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่หน้าอกนางก็ชะงักไป


 


 


ถึงแม้ว่านางจะรีบปกปิดหน้าอกของตัวเอง แต่เขายังเห็นรอยสักรูปจันทร์เสี้ยวบนหน้าอกนางอยู่ดี เขาตกใจจนหน้าซีดเผือด


 


 


“คิก ข้าไม่คิดเลยว่าหัวหน้าเผ่าผู้ใช้เวทจะชื่นชอบการรังแกเด็กผู้หญิง!”


 


 


เสียงหัวเราะร้ายกาจดังไปทั่วท้องฟ้าแล้วเข้ามาในห้องตอนนั้นเองเสียงนั้นก็ทำร้ายการโจมตีของหัวหน้าเผ่าทำให้ห้องกลับมาสงบอีกครั้ง…


 


 


 


 


 


 


 


 


ตอนที่ 1417 จุดจบของโอวหย่า (4)


 


 


ชายหนุ่มผู้งดงามไร้ที่ติในชุดคลุมสีแดงสดยืนอยู่หน้าประตู เขาเดินข้ามธรณีประตูเข้ามาพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน


 


 


ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อหัวหน้าเผ่าเห็นจีจิ่วเทียนเดินเข้ามา เขาก็คงรีบอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นอย่างแรก แต่ตอนนี้สายตาสับสนของเขากลับจับจ้องไปที่หน้าอกของหวงอิงอิง


 


 


“ทำไม เป็นไปได้อย่างไร” ริมฝีปากของหัวหน้าเผ่าสั่น “ทำไมถึงมีลวดลายนี้อยู่บนหน้าอกเจ้า”


 


 


หวงอิงอิงตะลึง นางหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง “แม่นางอวิ๋น ข้าจำได้ว่าเจ้าบอกว่าแผลของข้าต้องใช้เวลารักษาถึงครึ่งเดือน ทำไมผ่านไปแค่สิบวันแผลข้าก็หายดีแล้วล่ะ”


 


 


“จันทร์เสี้ยวที่หน้าอกสามารถรักษาเจ้าได้” เสี่ยวโม่ก้มมองหวงอิงอิงแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ได้ปลดผนึกพลัง แผลเจ้าก็เลยไม่หายแม้จะผ่านมานาน ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด พลังของมันถูกกระตุ้นเพราะโอวหย่าพยายามเปลี่ยนเลือดกับเจ้า จากนั้นมันก็เลยรักษาแผลให้เจ้าด้วย”


 


 


เมื่อโอวหย่าเห็นหวงอิงอิงแสดงรอยสักจันทร์เสี้ยวที่หน้าอก นางก็หวาดกลัวจนเกือบจะหมดสติ นางไม่เคยคิดว่าเรื่องจะเปลี่ยนทิศทางในเวลาแบบนี้


 


 


ผู้นำเผ่ายื่นมือมาแตะสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยว


 


 


“กรี๊ด!”


 


 


หวงอิงอิงกรีดร้องอย่างตกใจแล้วรีบหลบที่หลังอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนจะตะโกนอย่างโมโห “ตาแก่โรคจิต เจ้าคิดจะทำอะไร”


 


 


อันที่จริงรอยสักจันทร์เสี้ยวอยู่ตรงหน้าอกของนาง ดังนั้นการที่ผู้นำเผ่าตั้งใจแตะมัน เขาก็จัดว่าเป็นโรคจิตได้เหมือนกัน


 


 


“เสี่ยวโม่”


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงมองเสี่ยวโม่แล้วเรียกเขา


 


 


เสี่ยวโม่เข้าใจความหมายของอวิ๋นลั่วเฟิงทันที เขาเดินไปหาโอวหย่า


 


 


“หยุดนะ!” โอวหย่าหน้าเปลี่ยนสีขณะพยายามถอยหลังหนี


 


 


เสี่ยวโม่ติดตามอวิ๋นลั่วเฟิงมานาน เขาไม่มีความสงสารให้ศัตรูแม้แต่นิดเดียว เมื่อเห็นโอวหย่าเอาแต่ถอยหลัง เขาก็ทำหน้าบึ้ง “หากเจ้าก้าวอีกก้าวเดียว ข้าจะสังหารเจ้าทันที!”


 


 


โอวหย่าไม่กล้าขยับแล้วมองหัวหน้าเผ่าด้วยสายตาน่าสงสาร แต่หัวหน้าเผ่ากำลังมุ่งความสนใจไปที่หวงอิงอิงจึงไม่ได้สังเกตเห็นนาง


 


 


เสี่ยวโม่ถอดเสื้อผ้าของโอวหย่าแล้วเอาไปยื่นให้หวงอิงอิง “ใส่ซะ เผื่อมีตาแก่โรคจิตที่ไหนจ้องเจ้าตาไม่กะพริบ”


 


 


เมื่อได้ยินแบบนั้น หวงอิงอิงก็หน้าแดงแล้วจ้องหน้าหัวหน้าเผ่า


 


 


“ใครเป็นนักบุญหญิงตัวจริงกันแน่” เสียงของหัวหน้าเผ่าสั่นสายตาเขาสำรวจทั้งหวงอิงอิงและโอวหย่า


 


 


“หัวหน้าเผ่า!” โอวหย่ากัดฟัน “ข้าเป็นนักบุญตัวจริงของเผ่าผู้ใช้เวท ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวปลอม! นางบังเอิญเห็นรอยสักจันทร์เสี้ยวของข้าแล้วคิดว่าสวยดี เลยให้คนทำแบบเดียวกันบนหน้าอกนาง ท่านอย่าเชื่อผู้หญิงคนนี้”


 


 


อวิ๋นลั่วเฟิงส่งสายตาเย็นเยียบไปให้โอวหย่า “เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าใครเป็นตัวปลอม ถ้าเจ้าเป็นนักบุญหญิงตัวจริง เจ้าจะอยากเปลี่ยนเลือดกับหวงอิงอิงไปทำไม”


 


 


“เปลี่ยนเลือด?” หัวหน้าเผ่ามองโอวหย่าด้วยสายตาตั้งคำถาม “ทำไมเจ้าต้องอยากเปลี่ยนเลือดกับนาง”


 


 


“อย่าไปฟังผู้หญิงคนนี้ ข้า…”


 


 


“หนวกหู”


 


 


จีจิ่วเทียนขมวดคิ้วแล้วโบกมือ ก่อนที่โอวหย่าจะพูดจบ นางก็ล้มลงอย่างแรง


 


 


จากนั้นเขาก็หันไปมองหัวหน้าเผ่า “ข้าคิดว่าเผ่าผู้ใช้เวทมีวิธีบอกว่าใครเป็นนักบุญหญิงตัวจริง ถูกหรือไม่”


 


 


หัวหน้าเผ่าหยุด วิธีมันก็มี เพียงแต่…


 


 


เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวหน้าเผ่าก็ตัดสินใจได้แล้วพูดว่า “โอวหย่า ในเมื่อเจ้ายืนยันว่าเจ้าเป็นนักบุญหญิงตัวจริงก็ไปเข้าพิธีสืบทอดกับข้า”


 


 


“หัวหน้าเผ่า” โอวหย่าหน้าเปลี่ยนสี “ข้าบอกท่านแล้วว่าข้าเข้าพิธีไม่ได้เพราะข้ามีโรคร้ายแรงอยู่”

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม