เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก 132-138

 ตอนที่ 132: สิ้นสุดแล้ว (1)

โดย

Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนมองพ่อ เวลานี้เธอรู้สึกซาบซึ้ง คำพูดของพ่อคือคำพูดที่เธออยากพูด ไม่จำเป็นต้องทำตัวอ่อนน้อมเพราะเรื่องนี้ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าฝ่ายชายแคร์ ก็ถือว่าจบไป


เวยหลายชุนคิดไม่ถึงว่าเฉินจงจะพูดแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าเฉินจงจะเด็ดเดี่ยวแบบนี้ เราเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา เห็นๆ อยู่ว่าบ้านเฉินผิด เห็นๆ อยู่ว่าเฉินเยี่ยนมีชื่อเสียงแบบนั้น พวกเขาปกปิดไม่บอก อยากจะให้ตัวเองเสียเงินทองสู่ขอเฉินเยี่ยนโดยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร ตอนนี้เฉินจงท่าทีแบบนี้หมายความว่ายังไง? บังคับให้ตัวเองตัดสินใจหรือ?


ใช่ ถึงลูกสาวบ้านคุณจะดีแค่ไหน แต่ก็โดนผู้ชายคนอื่นโอบแล้ว กอดไปแล้วไหม? ยังกล้ามาบอกว่าบริสุทธิ์ คนอื่นพูดขึ้นมาจะหัวเราะเยาะกันใหญ่ ถึงเขาจะชอบเฉินเยี่ยน เขาก็ไม่มีทางที่จะยอมรับชื่อเสียงของเฉินเยี่ยนแบบนี้ได้


“คุณลุงพูดแบบนี้ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย ผมแค่ถามเฉยๆ อย่างน้อยผมจะแต่งงานกับคนหนึ่ง ผมต้องรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงสิครับ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตเลยนะ”


น้ำเสียงเวยหลายชุนฟังดูไม่ดี


“งั้นตอนนี้คุณรู้แล้ว รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ยังต้องการจะไปต่อหรือไม่?”


ในที่สุดเฉินเยี่ยนก็พูดแล้ว หวางนิวส่งสายตาให้เธอ รู้สึงว่าน้ำเสียงเฉินเยี่ยนแข็งเกินไป มีอะไรพูดกันดีๆ ไม่ได้หรือ ถ้าเวยหลายชุนโกรธแล้วไปจะทำยังไง


เฉินเยี่ยนไม่ได้มองหวางนิว มองแต่เวยหลายชุน


เวยหลายชุนมองไม่เห็นความละอายใจจากสีหน้าของเฉินเยี่ยน และไม่มีความเขินอายด้วย ไม่รู้สึกขายหน้า มองเขาแบบนี้ เหมือนมีความอวดดีและมีความไม่แคร์อยู่


เฉินเยี่ยนเป็นแบบนี้ทำให้เวยหลายชุนโกรธ เธอมีอะไรให้อวดดี เพราะว่าเธอสวยหรือ? เฉินเวยไม่สวยเหมือนกัน แต่เฉินเวยเหมือนเธอไหม!


เธอเป็นคนผิดแท้ๆ ทำไมเธอยังสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำแบบนี้!


เห็นเวยหลายชุนมองเธอไม่พูดอะไร เฉินเยี่ยนถอนหายใจออกมา เธอเข้าใจความคิดของเวยหลายชุน อันที่จริงก็ปกติ อย่าว่าแต่เวยหลายชุนเลย ผู้ชายคนอื่นก็เกรงว่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน


ตอนแรกที่ไม่รู้เรื่องอะไรได้เจอผู้หญิงสวยคนหนึ่ง คุณจะคิดว่าเธอดีงามขนาดไหน แต่ตอนที่รู้ว่าชื่อเสียงผู้หญิงคนนี้ไม่ดี มีตำหนิ คุณก็จะผิดหวัง จะถอยออกมากลางคัน จะแคร์ เป็นธรรมชาติของมนุษย์


ช่างเถอะ เธอจะไม่ฝืนคนอื่น ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามจะถอยเพราะเธอมีชื่อเสียงแบบนี้ ก็หมายความว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่ตัวเองต้องการเหมือนกัน


“ช่างเถอะ วันนี้ไม่ต้องไปบ้านคุณแล้วล่ะ”


เฉินเยี่ยนพูดประโยคนี้ออกมา ในใจกลับรู้สึกผ่อนคลายลง บางทีกับเวยหลายชุนเธอเป็นคนถูกเลือก ไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ส่วนบ้านเวย เธอไม่เคยทำความรู้จักมาก่อน ไม่ต้องติดต่อกัน เธอก็รู้สึกเบาลง


แต่ประโยคนี้ของเฉินเยี่ยนพูดออกไป เวยหลายชุนกลับโมโหขึ้นมา เขาลุกขึ้นยืน เดินมาด้านหน้าเฉินเยี่ยน


“เฉินเยี่ยน คุณหมายความว่ายังไง? ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมคุณพูดว่าไม่ไปบ้านผมแล้ว! หรือว่าคุณไม่คิดจะคบกับผมตั้งแต่แรก? หรือว่าคุณไม่ได้ชอบผมเลย? คุณถึงได้พูดแบบนี้! คุณมีจิตใจบ้างไหม คุณรู้หรือเปล่าว่าผมได้ยินเรื่องนี้แล้วเสียใจแค่ไหน? คุณรู้หรือเปล่าว่าหลายวันนี้ผมนอนไม่หลับ คุณรู้ไหมว่าผมสับสนมากแค่ไหน ผมคิดทุกวันว่าควรทำยังไง ผมหาข้ออ้างให้คุณ แล้วคุณล่ะ? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? จนถึงตอนนี้คุณไม่ละลายใจบ้างเลยเหรอ”


เวยหลายชุนถามเฉินเยี่ยนตรงๆ เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนควรขอร้องเขา เฉินเยี่ยนควรจะรู้จักละลาย ถ้าเฉินเยี่ยนรู้จักละลายใจ รู้ว่าผิด บางทีเขาอาจจะพิจารณาให้อภัยเฉินเยี่ยน ให้เรื่องนี้ผ่านไป แต่เฉินเยี่ยนพูดอย่างล่องลอยว่าช่างเถอะ เขารับไม่ได้ ควรจะเป็นเขาที่เป็นคนเลือกไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้กลายเป็นเฉินเยี่ยน?


“คุณไม่ต้องสับสนแล้ว แล้วคุณก็ไม่ต้องเสียใจแล้วด้วย ชื่อเสียงฉันไม่ดี ฉันยอมรับ ฉันเลือกให้คุณแล้ว ดีแค่ไหน ส่วนฉันละอายใจไม่ละอายใจ นั่นเป็นเรื่องของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพูด”


เฉินเยี่ยนไม่อยากให้ยืดเยื้อ เธอเข้าใจคำพูดของเวยหลายชุนแล้ว ไม่กี่วันก่อนเวยหลายชุนก็รู้แล้ว วันนั้นที่เขามายังไม่รู้เรื่อง หมายความว่าเขารู้เรื่องเย็นวันนั้นตอนที่กลับไป ใครเป็นคนพูด?


ถ้าเป็นเฉินเวย แล้วเฉินเวยพูดในสถานการณ์ไหน? เธอนึกออกแล้วว่าเย็นวันนั้นเฉินเวยขาแพลง เกรงว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเวยหลายชุน เฉิยเวยจะพูดอะไร เธอคิดก็รู้แล้ว ถ้าวันนี้เวยหลายชุนมาตรงเวลา ระหว่างทางไปบ้านเวยถามเธอตัวต่อตัว เธอต้องเล่าเรื่องนี้อย่างชัดเจนให้เวยหลายชุนฟัง จากนั้นจะถามความเห็นเวยหลายชุนอย่างจริงจัง ปรึกษากันสองคนว่าควรทำอย่างไร จะไม่เป็นแบบตอนนี้


ตอนนี้ท่าทางของเวยหลายชุนแสดงออกว่าเขารังเกียจ แล้วทำไมเธอยังต้องไปต่อ?


“เยี่ยนจื่อ ลูกพูดดีๆ เดิมทีเรื่องนี้พวกเราทำไม่ถูก ต้าชุน คุณอย่าถือสา เยี่ยนจื่อเราเป็นคนตรงๆ ไม่ค่อยอดทน แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของเธอจริงๆ ขอแค่คุณไม่คิดมาก พวกเราจะชดใช้ให้แทนเยี่ยนจื่อ เยี่ยนจื่อต้องทำดีกับคุณ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับคุณดีแน่นอน ถึงเวลานั้นพวกเราจะให้สินเดิมของเจ้าสาวกับเยี่ยนจื่อเยอะหน่อย ธุรกิจบุหรี่นี่ก็ให้พวกคุณ พวกเรารับรอง เรื่องนี้พวกเราก็คิดเสียว่าให้มันผ่านไปได้ไหม?”


หวางนิวเข้ามาขอร้องเวยหลายชุน เธอไม่อยากให้เรื่องนี้สูญเปล่าไปจริงๆ ชื่อเสียงลูกสาวไม่ดี หาลูกเขยดีๆ มันยากมาก เธอไม่อยากให้ลูกสาวหลุดมือไป


เวยหลายชุนมองหวางนิว แล้วมองเฉินเยี่ยน เขารอเฉินเยี่ยนพูด


“เฉินเยี่ยน ขอแค่คุณยอมรับว่าคุณผิด ขอแค่คุณยอมรับ…”


เวยหลายชุนพูดยังไม่ทันจบ เฉินเยี่ยนขัดเขาขึ้นมา “ผิดหรือ? ฉันทำผิดตรงไหน? น่าขำ! เวยหลายชุน บอกคุณให้ คนที่บอกเรื่องนี้กับคุณไม่ได้เล่าทั้งหมดใช่ไหม? เธอไม่ได้รับผิดแทนฉันหรือ?”


เห็นเฉินเยี่ยนยิ้มเยาะแบบนี้ เวยหลายชุนร้อนรน “คุณหมายความว่ายังไง? หรือว่าเรื่องนี้คุณไม่ผิดเลยสักนิด? ถ้าคุณเป็นคนดี ทำไมอวี๋เหวยหมินถึงไม่ชอบคุณ ต้องทำร้ายคุณ? ถ้าคุณเป็นคนดี แล้วทำไมอวี๋ชุนชานต้องไปสวนผลไม้? เห็นเขาทำไมคุณไม่วิ่งหนี? ต้องรอให้เขาทำแบบนั้นคุณถึงต่อต้าน เรื่องนี้คุณไม่ผิด? เกิดเรื่องแล้วคุณยังบิดพลิ้วอยู่อีก คิดว่าใครก็ทำผิดต่อคุณ ตอนนี้คุณยังเป็นอย่างนี้ ผมว่าที่คนอื่นพูดนั้นไม่ผิด คุณไม่มีเหตุผล คิดแต่ตัวเอง ไม่คิดถึงคนอื่น”


คำพูดเวยหลายชุนไม่รักษาน้ำใจเลย เขาคิดแบบนี้ในใจ


เฉินเยี่ยนฟังแล้วไม่โกรธแต่กลับขำ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง คิดว่าคนอื่นก็เหมือนเวยหลายชุนกันหมด คิดว่าเธอคือคนผิดสินะ


“ในเมื่อแบบนี้แล้วคุณจะยังมาทำอะไร ฉันหน้าไม่อาย ทำไมคุณต้องลำบากมาถึงนี่ คุณไปเถอะ”


เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะโต้แย้งกับเวยหลายชุนแล้ว เธอก็ไม่ได้เสียใจ เวยหลายชุนไม่เข้าใจเธอ ว่าเธอแบบนี้ เธอไม่สนใจ แต่ในใจไม่รู้สึกเสียใจสักนิดเลยหรือ? ทำไมในใจยังมีความรู้สึกอึดอัดอยู่


————–


ตอนที่ 133: สิ้นสุดแล้ว (2)

โดย

Ink Stone_Romance

หวางนิวคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะพูดจนเป็นแบบนี้ ดูท่าแล้วเวยหลายชุนรังเกียจลูกสาวจริงๆ เธอเลยด่า “ใครกัน? พวกไม่มีลูกไม่มีหลานมาใส่ร้ายเยี่ยนจื่อเราแบบนี้ เรื่องนี้โทษเยี่ยนจื่อไม่ได้ ไอ้คนที่ไร้ศีลธรรมพูดจามั่วๆ อย่าให้ฉันรู้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฉีกมันเป็นชิ้น”


เสียงหวางนิวด่าทำให้เวยหลายชุนรู้สึกอึกอัก เขาบอกหวางนิวไม่ได้ว่าเฉินเวยเป็นคนบอกเขา ถึงแม้เฉินเยี่ยนเดาได้แล้วก็ไม่ได้พูด เฉินเวยแสดงออกชัดเจนว่าจะทำให้เสียเรื่องตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือ เธอคิดว่าเฉินเวยจะคุมอารมณ์ได้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็รอจนกว่าเธอและเวยหลายชุนตกลงปลงใจกันก่อน ตอนนี้ดูเหมือนว่าเฉินเวยจะใจร้อนเกินไป


เวยหลายชุนมองไปที่เฉินจง เฉินจงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เจ้าดูถูกลูกสาว เรื่องนี้ก็ถือว่าจบกัน ลูกสาวพวกเราบ้านเฉินแต่งไม่ออกก็จะไม่ขอร้องเจ้า


ส่วนเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้เสียดายหรืออาลัยอาวรณ์เลยสักนิด มีแค่หวางนิวพูดกับเขาจะมีประโยชน์อะไร? หวางนิวไม่ใช่เฉินเยี่ยน


มาถึงขั้นนี้แล้ว เวยหลายชุนก็เป็นคนเห็นแก่หน้า เขาย่อมไม่มีทางอยู่ต่อ เขามองเฉินเยี่ยนอย่างลึกซึ้ง เดิมทีเขาคิดว่าเฉินเยี่ยนจะขอร้องเขา จะพูดจาดี จะยอมรับผิดกับเขา ให้เขาให้อภัย เขาคิดไว้แล้ว ขอแค่เฉินเยี่ยนยอมรับผิดด้วยใจจริง รู้ว่าเรื่องนั้นเธอทำไม่ถูก จะปรับปรุงตัว เขาก็จะให้อภัยเฉินเยี่ยน แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะเป็นแบบนี้ เขามองเฉินเยี่ยนผิดไป


เวยหลายชุนลุกขึ้น เฉินเวยควรจะออกมาได้แล้วสิ? ตามนิสัยเธอเธอควรจะออกมาร้องไห้อ้อนวอน ขอร้องเวยหลายชุน พูดแทนพี่สาวตัวเอง


เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าทำไมเรื่องงานแต่งตัวเองโดนทำลายแบบนี้แล้วยังมีใจคิดเรื่องพวกนี้อีก บางทีเธออาจจะไม่ได้มีความรู้สึกกับเวยหลายชุนเลยก็ได้ เพียงแค่อยากหาคนที่ดีแต่งงานด้วย


เฉินเยี่ยนยังคิดในใจ ฝั่งหวาวนิวดึงเวยหลายชุนไว้ แล้วยังอธิบาย เฉินจงมองลูกสาวแล้วส่ายหน้า เวลานี้เฉินเวยออกมาแล้ว เธอไม่พูดอะไรเลยทนเจ็บเท้าเดินมาข้างหน้าเวยหลายชุน เธอคว้าแขนเวยหลายชุนไว้


“พี่เวย อย่าไปเลย ขอร้องล่ะ ฉันยอมรับผิด พี่สาวฉันไม่ผิด เป็นความผิดของฉันทั้งหมด พี่ให้อภัยพี่เถอะ อย่าไปเลย ได้ไหม?”


เฉินเวยนัยน์ตาแดง สีหน้าอ้อนวอน


“เสี่ยวเวย เธออย่าทำแบบนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ความผิดของพี่เธอเธอไม่ต้องรับผิด”


เวยหลายชุนหันหลังกลับมาปลอบเฉินเวย เรื่องสถานะของเฉินเวยที่อยู่ในบ้านเฉิน เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจอยู่


“เสี่ยวเวย ลุกขึ้นมา ไม่ต้องพูดแล้ว”


หวางนิวก็ดึงเฉินเวย ไม่ให้เธอพูดแล้ว ตอนแรกถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดอวี๋เหวยหมิน แต่ในเรื่องนี้เฉินเวยก็มีส่วนรับผิดชอบด้วย เธอไม่อยากให้เฉินเวยมีส่วนเกี่ยวข้อง


หวางนิวทำแบบนี้ทำให้เวยหลายชุนเข้าใจผิด บ้านเฉินนี่ เห็นอยู่ว่าเป็นความผิดเฉินเยี่ยน แต่ทำไมพวกเขาถึงโทษเฉินเวย เพราะว่าเฉินเยี่ยนหาเงินได้หรือ? นี่ไม่ยุติธรรมกับเฉินเวยเลย


“แม่ ขอโทษค่ะ พี่สาว ขอโทษนะ ฉันผิดเอง พี่เวย พี่อย่าไปได้ไหม? โทษฉันเอง โทษฉันเอง ฉันทำผิดเอง ฉันผิดไปแล้ว พี่ไม่ต้องการพี่สาวไม่ได้ พี่กับพี่สาวจะหมั้นหมายกันแล้ว คนในหมู่บ้านมากมายรู้เรื่องกันแล้ว ถ้าพี่ไม่ต้องการพี่สาว เรื่องแพร่ออกไปพี่สาวก็เสียหายหมดแล้ว ขอร้องล่ะ พี่ให้อภัยพี่สาวได้ไหม?”


เฉินเวยน้ำตาไหล ดูเหมือนดอกไม้เล็กๆ เห็นแล้วน่าสงสาร นี่ยังไม่นับ เธอเห็นเวยหลายชุนไม่พูด เลยนั่งคุกเข่าลง


เวยหลายชุนตกใจ  รีบเข้าไปดึงเฉินเวย แต่เฉินเวยไม่ลุกขึ้น ต้องให้เวยหลายชุนอภัยให้เฉินเยี่ยนให้ได้


เฉินเยี่ยน คุณดูเฉินเวยแบบนี้แล้วไม่พูดอะไรหน่อยหรือ? ตัวคุณเองผิด ให้เฉินเวยมาขอร้องแทนคุณแบบนี้ คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ?”


เวยหลายชุนโกรธ เขารู้สึกว่าเฉินเยี่ยนเลือดเย็น โชคดีที่วันนั้นเขาเจอเฉินเวย ไม่อย่างนั้นคงโดนเฉินเยี่ยนหลอกแล้ว แต่งภรรยาแบบนี้กลับไป จะเสียใจก็สายไปแล้ว”


“คุณอยากจะให้ฉันพูดอะไร? ขอบคุณเธอหรือ?”


เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าน่าขำ ทำไมเวยหลายชุนไม่คิดดู ลูกสาวบ้านเฉินเหมือนกัน ถ้าเฉินเวยอ่อนแอแบบนั้นจริง ทำไมพี่แม่ไม่เข้าข้างเฉินเวยล่ะ?”


“เฉินเวย ลุกขึ้นมา ฉันกับเธอยังไม่ได้หมั้นกัน ตอนนี้พูดออกไปก็ไม่เป็นไร อีกอย่างดูท่าทางเธอแบบนั้น เธอไม่กลัวขายหน้า เธอไม่ต้องขอร้องแทนเธอหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เฉินเยี่ยนเห็นแก่ตัว เธอไม่คิดจะปรับปรุงตัว เธอไม่คู่ควรให้เธอทำแบบนี้”


เวยหลายชุนไปดึงเฉินเวย เฉินเวยร้องไห้ไม่ยอม เหมือนซุกอยู่ในอ้อมอกเวยหลายชุน เหมือนเวยหลายชุนประคองไม่อยู่ เธอเลยล้มลงไป


“เฉินเวย”


เฉินเยี่ยนเรียก เฉินเวยเงยหน้าขึ้นมามองเฉินเยี่ยน แววตาเธอชุ่มไปด้วยน้ำ มีน้ำตา จมูกแดงเล็กน้อย เห็นแบบนี้แล้วดูน่าสงสาร


“เขาให้ฉันขอบคุณเธอ เธอว่าฉันควรขอบคุณเธอไหม?”


เฉินเยี่ยนถามเฉินเวย น้ำเสียงอ่อนโยน


“พี่สาว พี่สาว ฉัน…”


เฉินเวยสะอื้นเบาๆ ในใจกลับดีใจมาก เธอบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ก่อนไปบ้านเวย เธอต้องการให้เวยหลายชุนรังเกียจเฉินเยี่ยน ทำลายความสัมพันธ์ของเวยหลายชุนและเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนอย่าคิดว่าจะได้หมั้นกับเวยหลายชุนเลย เวยหลายชุนไม่ยอมรับเธอแล้ว ตอนนี้เฉินเยี่ยนโกรธจะตายแล้ว สมน้ำหน้า!


คิดว่าเฉินเยี่ยนโกรธ เธอรู้สึกลิงโลด ไม่เสียแรงที่ตัวเองยอมทำเท้าเจ็บแล้ว


เพี๊ยะ เฉินเยี่ยนตบเฉินเวยไปหนึ่งฉาด ไม่ส่งสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น กว่าเธอจะรู้สึกตัว เฉินเยี่ยนก็ตบเสร็จแล้ว เฉินเวยกุมหน้าตัวเอง มองเฉินเยี่ยนอย่างไร้ความรู้สึก สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ


“เยี่ยนจื่อ ลูกตบเสี่ยวเวยทำไม เธอก็แค่หวังดี”


หวางนิวว่าเฉินเยี่ยนแล้วรีบไปดูเฉินเวย แต่เธอไม่โทษเฉินเยี่ยนเท่าไร วันนี้เกิดเรื่องเวยหลายชุนแล้ว เฉินเยี่ยนย่อมเสียใจ เธอโทษเฉินเวยก็สามารถเข้าใจได้


เฉินจงไม่พูดอะไร เขาเข้าใจความโกรธของลูกสาวคนโต เขาก็คิดได้แล้ว เรื่องนี้น่าจะเป็นเพราะลูกสาวคนเล็กไปทำอะไรไว้อีก ลูกสาวคนเล็กเขาเป็นอะไรไปแล้ว? เหมือนเขาไม่รู้จักเธอเลย


“เฉินเยี่ยน คุณยังมีเหตุผลอยู่ไหม ทำไมคุณถึงตบเฉินเวย? คุณมีสิทธิ์อะไรมาตบเฉินเวย? ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้”


เวยหลายชุนชี้เฉินเยี่ยน แววตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาผิดหวังจริงๆ


“คุณให้ฉันขอบคุณเธอไม่ใช่หรือ?”


เฉินเยี่ยนมองเวยหลายชุนนิ่งๆ โดนเฉินเวยหลอกล่ออีกคนแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะรักเฉินเวยจนสุดหัวใจเหมือนอวี๋เหวยหมินหรือเปล่า


“เธอ เธอมันไร้เหตุผล!”


เวยหลายชุนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ทำไมเฉินเยี่ยนถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ เห็นอยู่ว่าเมื่อก่อนเฉินเยี่ยนไม่ได้เป็นแบบนี้ บุคลิกที่ดี ความเป็นธรรมชาติ ความดีงามที่ทำให้เขาหวั่นไหวของเฉินเยี่ยนทำไมถึงกลายเป็นความอัปลักษณ์ไปได้


“พอใจหรือยัง?”


เฉินเยี่ยนไม่มองเวยหลายชุนอีก แต่ถามเฉินเวย


“พี่สาว ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษ พี่ตบฉันเถอะ”


เฉินเวยกลับร้องไห้ขอโทษ


เฉินเยี่ยนรู้ว่าเฉินเวยไม่ยอมรับต่อหน้าคนอื่น เลยไม่ถามต่อ เรื่องวันนี้ถือว่าจบลงตรงนี้แล้วกัน


หวางนิวกลัวว่าเรื่องจะแย่ยิ่งไปกว่านี้ ลากเฉินเวยที่ร้องสะอื้นเข้าไปในห้อง เฉินคงและเวยหลายชุนพูดกันอีกสองประโยคและจะส่งแขกกลับ เป็นแบบนี้แล้ว เวยหลายชุนและเฉินเยี่ยนเป็นไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะดูเวยหลายชุนดีแล้ว แต่มาถึงตอนนี้เขาก็ไม่สามารถไปฝืนขอร้องได้แล้ว


“พ่อ พ่อไม่ต้องออกไป หนูไปส่งเขาเอง”


เฉินเยี่ยนเห็นเฉินจงจะไปส่งเวยหลายชุน เธอเลยเรียกเฉินจงไว้


เวยหลายชุนกับเฉินจงมองมาที่เฉินเยี่ยนพร้อมกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตอนนี้แล้ว เฉินเยี่ยนยังจะไปส่งเวยหลายชุน เมื่อก่อนเธอไม่เคยทำแบบนี้


“ไปเถอะ ฉันไปส่งคุณ มีบางเรื่องอยากจะพูดกับคุณ”


เฉินเยี่ยนใช้มือปัดผมม้า ผิดรอยแผลเป็นไว้ ที่เธอไปส่งเวยหลายชุน หนึ่งเพราะไม่อยากจะสนใจเฉินเวยแล้ว ไม่อย่างนั้นเวยหลายชุนไป ต้องเผชิญกับหวางนิว และเฉินเวยยังแสร้งร้องไห้กับเธออีก สองเพราะเวยหลายชุน ต้องตอบแทบความรู้สึกนี้ที่เขามีต่อเธอ


—————–


ตอนที่ 134: ผมต่างหากที่เป็นคนที่คู่ควรกับเธอ!

โดย

Ink Stone_Romance

เวยหลายชุนคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะมาส่งตัวเอง เขาอึ้งไป สติเริ่มกลับมา วันนี้เขามาถึงบ้านเฉินได้ แสดงว่าเขายังเสียดายเฉินเยี่ยน แต่คิดไม่ถึงว่ามาถึงบ้านเฉินแล้ว เรื่องกลับกลายเป็นมาถึงขั้นนี้ ไม่มีทางที่จะกลับไปได้แล้ว


เฉินเยี่ยนมาส่งตัวเอง หมายความว่าเฉินเยี่ยนยังมีความรู้สึกกับตัวเองอยู่บ้าง? หรือเฉินเยี่ยนก็ยังรู้สึกเสียดายตัวเอง? เดินไปกับเฉินเยี่ยนแล้วกัน ตัวเองก็มีเรื่องที่อยากจะคุยส่วนตัวกับเฉินเยี่ยนเหมือนกัน


เฉินเยี่ยนและเวยหลายชุนออกมาจากลานบ้าน หวางนิวยังนัยน์ตาแดงบ่นอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเธอบ่นตัวเองหรือบ่นอวี๋ชุนชาน อวี๋เหวยหมิน แล้วยังมีหลายประโยคที่พูดถึงคนที่เล่าเรื่องนี้ให้เวยหลายชุน


เฉินจงไม่ได้พูดอะไร เขาเป็นคนที่เข้าใจเรื่องราว เขาไม่ได้ห้ามเฉินเยี่ยน เพราะเขารู้ เฉินเยี่ยนไม่ใช่คนที่เขาสามารถห้ามได้ ตามใจลูกสาวแล้วกัน


เฉินเวยแอบเช็ดน้ำตาเงียบๆ เธอก็ไม่ได้ห้าม เรื่องวันนี้กลายเป็นแบบนี้ก็พอแล้ว ในเมื่อเฉินเยี่ยนจะพูดอะไรกับเวยหลายชุนอีก ก็กลับตัวไม่ได้แล้ว เธอยอมพูดก็พูดไปเถอะ ถ้าเฉินเยี่ยนอยากจะขอร้องเวยหลายชุนเป็นการส่วนตัว ดีเลย ถึงเวลานั้นเธอก็จะรู้ว่าเฉินเยี่ยนน่าสมเพชเพียงไหน เธอแค่รอฟังข่าวก็พอ


ส่วนเฉินเยี่ยนจะทำกับเธออย่างไร? เธอไม่กังวล เธออาศัยเปลือกนอกของเฉินเวยที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ถ้าเฉินเยี่ยนจะทำเธอจริง เฉินจงและหวางนิวก็จะไม่ยอม สถานะน้องสาวแท้ๆ ของเฉินเยี่ยนนี่ยังถือว่ามีประโยชน์อยู่


เฉินเยี่ยนและเวยหลายชุนเดินผ่านหมู่บ้านมาไม่ได้พูดจากันระหว่างทาง มาถึงหน้าหมู่บ้าน เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไร พาเวยหลายชุนมาด้านหน้าสวนผลไม้  เธอยืนนิ่ง


“คือที่นี่?”


เวยหลายชุนเห็นสวนผลไม้ก็เข้าใจแล้ว ที่นี่คือสวนผลไม้ที่เล่าลือกัน


“คือที่นี่”


เฉินเยี่ยนพยักหน้า สวนผลไม้นี้เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตเธอ เธอมีความรู้สึกบางอย่างกับสวนผลไม้นี้อย่างบอกไม่ถูก


“คุณ คุณเสียใจบ้างไหม?”


เวยหลายชุนมองเฉินเยี่ยนด้วยสีหน้าสับสน


“เสียใจอะไร?”


เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ ตอนนั้นเธอยังไม่ได้มา เจ้าของร่างเดิมโดนคนหลอกมา เธอควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้ เสียใจที่ไม่ควรมาสวนผลไม้? เฉินเวยกับอวี๋เหวยหมินมีแผนแบบนั้น ไม่ช้าก็เร็วจะต้องทำร้ายเจ้าของร่างเดิมอยู่ดี


เวยหลายชุนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง สำหรับเฉินเยี่ยนแล้ว เขารู้สึกว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจเธอ


“คุณทำแบบนั้นกับเฉินเวย เพราะในใจคุณยังชอบอวี๋เหวยหมินมาตลอด คุณเลยโทษเฉินเวยใช่ไหม? แล้วคุณชอบผมบ้างไหม?”


ในที่สุดเวยหลายชุนก็ถามออกมา เขาคิดว่าเขารู้ความจริงแล้ว เฉินเยี่ยนไม่ได้ดูกระตือรือร้นกับเขาเลย ไม่เหมือนเขา เขาชอบทุกครั้งที่เจอเฉินเยี่ยน ในใจร้อนเป็นไฟ แต่เฉินเยี่ยนกลับนิ่งเฉย เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ตัวเองออกมา ตอนนี้เขารู้แล้ว เฉินเยี่ยนไม่ได้เย็นชา แต่เธอไม่เคยมองเห็นตัวเอง ไม่ได้ชอบตัวเองเลย เลยไม่เหมือนหญิงสาวที่กำลังมีความรัก


เวยหลายชุนรู้สึกโกรธ ความรู้สึกนี้ตัวเองรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว ตัวเองมีอะไรไม่ดี? ทำไมเฉินเยี่ยนต้องทำแบบนี้กับตัวเอง


“หึหึ”


เฉินเยี่ยนหัวเราะออกมา เธอไม่คิดจะตอบคำถามนี้ สำหรับเวยหลายชุนแล้ว ตอนแรกเธอก็แค่คิดเป็นเพื่อน มีเพื่อนใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ใช่คนรัก เธอไม่เป็นฝ่ายเข้าหา เธอไม่กระตือรือร้น ในเมื่อรู้ว่าเฉินเวยจะทำลาย เธอก็ไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน เพราะเธอคิดแค่ว่าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็จบ เธอไม่พยายาม เพียงเพราะเธอไม่อยากเสียใจ


“เฉินเยี่ยน คุณจะไม่ตอบอะไรผมเลยหรือ? ผมรู้ว่านั่นไม่ใช่เนื้อแท้ของคุณ เนื้อแท้คุณเป็นคนดี ถ้าคุณเสียใจ คุณขอโทษ ผมยังสามารถยอมรับได้”


เวยหลายชุนก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังพูดแบบนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเสียใจก็ได้


“เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษคุณ และไม่ต้องตอบอะไรคุณด้วย และเธอก็ไม่ต้องการให้คุณยอมรับ!”


ยังไม่ทันที่เฉินเยี่ยนจะตอบเลย ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากสวนผลไม้


น้ำสียงเย็นชามาก แต่เฉินเยี่ยนก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร และมีแค่เขาที่ชอบโผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ในสถานการณ์ที่เธอไม่ทันเตรียมตัว แต่ทำไมถึงรู้ว่าเป็นเขา ในใจยังรู้สึกดีใจขึ้นมานะ


เวยหลายชุนตกอกตกใจ เขาไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด


ซินห้าวเดินออกมาจากสวนผลไม้ และไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ตรงไหน บนเสื้อเนื้อผ้าดียังมีใบต้นแอปเปิ้ลสองใบติดอยู่


เวยหลายชุนมองชายหนุ่มที่เย็นชาคนนี้ เขาหรี่ตา คนนี้ต้องเป็นศัตรูเขาแน่นอน มีพลังข่มขู่เขาแรงเหลือเกิน


“เขาคืออวี๋เหวยหมิน?”


เวยหลายชุนถามเฉินเยี่ยน ถ้าคนนี้คืออวี๋เหวยหมิน งั้นทั้งหมดก็สามารถอธิบายได้แล้ว มีผู้ชายแบบนี้ มิน่าเฉินเยี่ยนถึงไม่หวั่นไหวกับเขา


“เขาคือคนที่คุณจะแต่งงานด้วยหรือ?”


ซินห้าวก็ถามเฉินเยี่ยน


เฉินเยี่ยนพยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า จากนั้นค่อยพูดขึ้นมา “เขาคือเวยหลายชุน เขาไม่ใช่อวี๋เหวยหมิน”


ประโยคนี้เธอพูดให้ทั้งสองคนฟัง


เวยหลายชุนสงสัย ไม่ใช่อวี๋เหวยหมิน? แล้วเป็นใคร!


“เขาไม่เหมาะกับคุณ!”


ซินห้าวไม่สนใจเวยหลายชุน แต่จ้องมองเฉินเยี่ยนแล้วพูด เขาพูดสบายๆ แต่ดูจริงจัง ไม่สนใจเวยหลายชุนว่าจะเป็นอย่างไรเลย


“ผมไม่เหมาะกับเธอ แล้วใครเหมาะ!”


เวยหลายชุนโกรธกำหมัด หมอนี่เอาอะไรมาพูดว่าตัวเองไม่เหมาะกับเฉินเยี่ยน


“ผม!”


ซินห้าวพูดแล้วเงยหน้าขึ้น สีหน้ามีความมั่นใจ ท่าทางแบบนั้นทำให้คนเห็นแล้วโมโห


“คุณอย่าพูดจามั่วๆ”


เฉินเยี่ยนเหลือบมองซินห้าว พูดอย่างเสียไม่ได้ ระหว่างเธอและซินห้าวไม่เคยคุยอะไรกันมาก่อนเลย เธอรู้ว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าเธอและเวยหลายชุนจะไม่รอด เธอก็ไม่ได้คิดถึงซินห้าว ถึงแม้ว่าซินห้าวอยากจะช่วยตัวเองหรือให้ความยุติธรรมก็ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้


“ผมไม่ได้พูดมั่ว ผมจริงใจ ผมแค่ไม่ได้มาช่วงหนึ่ง คุณก็ไปหมั้นกับคนอื่น ต้องรีบขนาดนี้หรือ? ถึงแม้คุณคิดจะหมั้น จะแต่งงาน ทำไมไม่มาหาผม? เขาแบบนี้ดีกว่าผม?”


สายตาซินห้าวมีแววน้อยใจ เขาชอบเฉินเยี่ยน เดิมทีชีวิตตอนอยู่ที่วัดเส้าหลินก็เรียบง่ายมาก แต่เขาไม่โง่ หลังกลับมาเฉินเยี่ยนเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาอยากพูดคุยด้วย เขารู้ว่านี่คือความชอบ แต่ช่วงนี้เขายุ่งมาก เขาไม่มีเวลามาหาเฉินเยี่ยน เขาก็ไม่อยากมาหาเฉินเยี่ยนตอนนี้ เขาคิดว่าถ้าเขาชอบเฉินเยี่ยน เขาก็ต้องมีความสามารถเลี้ยงดูเฉินเยี่ยนได้ ให้เฉินเยี่ยนมีชีวิตที่ดี ดังนั้นตอนนี้เขาเลยยุ่งทำงาน รอจนเขามีความสามารถแล้ว เขาจะมาบอกเฉินเยี่ยน จากนั้นจะพาเฉินเยี่ยนไปที่บ้านเขา ไม่กลัวว่าแม่เขาจะคัดค้าน เขาจะยืนหยัด ถึงแม้จะต้องออกจากบ้าน เขากับเฉินเยี่ยนก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เขาจะไม่ยอมให้เฉินเยี่ยนมาลำบากกับเขา


แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่เขายุ่งอยู่ ฝ่ายเฉินเยี่ยนกลับจะหมั้นหมาย ครั้งที่แล้วตอนที่เจ้าอ้วนเอาเรื่องนี้มาบอกกับเขา เขาตกใจมาก และเสียใจมาก เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนก็ชอบเขา เขาคิดว่าระหว่างพวกเขาไม่ต้องพูดอะไรสองฝ่ายก็เข้าใจกัน แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนกลับจะแต่งงานกับคนอื่น


เขาไปสืบเรื่องเวยหลายชุนมา ถึงแม้เขาจะคิดว่าเวยหลายชุนไม่เหมาะกับเฉินเยี่ยน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวยหลายชุนก็ไม่แย่ อีกทั้งคนบ้านเวยก็ไม่คัดค้าน แต่เพราะเรื่องนี้เขาก็ไม่ยอมให้เฉินเยี่ยนแต่งงานกับเวยหลายชุนอยู่ดี ดังนั้นเขาเลยกลับมา เขามาเพื่อห้าม


เขารู้ว่าวันนี้เวยหลายชุนจะพาเฉินเยี่ยนกลัยไปบ้านเวย ดังนั้นเขาเลยมารอที่ถนนเส้นนี้ ในเมื่อไม่คุยกันไม่เข้าใจ เขาก็จะบอกความในใจอย่างชัดเจนให้เฉินเยี่ยนฟัง ให้เฉินเยี่ยนรู้ คิดไม่ถึงว่ารอไปรอมา รอจนเฉินเยี่ยนกับเวยหลายชุนมา พวกเขากลับแตกแยกกันแล้ว


ซินห้าวรู้ว่าเฉินเยี่ยนและเวยหลายชุนแตกแยกกันแล้ว ในใจทั้งดีใจและไม่พอใจพร้อมกัน เวยหลายชุนนี่สายตายังไง จะให้เฉินเยี่ยนมาขอโทษเขา เขาคิดว่าเขาเป็นใคร!


————–


ตอนที่ 135: คำสารภาพของหนุ่มหล่อ

โดย

Ink Stone_Romance

“พวกเราเป็นไปไม่ได้”


เฉินเยี่ยนมองซินห้าวแล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมา


“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? คุณเลือกเขาได้ ทำไมเลือกผมไม่ได้? ผมสู้เขาไม่ได้?”


ซินห้าวไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินเยี่ยนถึงเป็นแบบนี้ และเขาก็ไม่สนใจเวยหลายชุนที่อยู่ข้างๆ มองพวกเขาอย่างตกใจ


“คุณหน้าตาดีเกินไป ไม่ปลอดภัย”


เฉินเยี่ยนโดนซินห้าวบีบจนต้องพูดคำนี้ออกมา นี่คือเรื่องจริง เป็นความคิดของเธอจริงๆ


ซินห้าว…


เวยหลายชุน…


พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะให้คำตอบแบบนี้มา


ตอนนี้เวยหลายชุนเข้าใจแล้ว คนที่เฉินเยี่ยนชอบคือผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าคนนี้ เขารู้สึกพ่ายแพ้ เขาเทียบผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ แต่เขาก็โกรธ ในเมื่อชอบคนอื่น แล้วยังจะมาหาเขาทำไม? ล้อเขาเล่นหรือ!


“แล้วเขาแบบนี้ปลอดภัย?”


ซินห้าวขมวดคิ้ว ในหัวเฉินเยี่ยนนี่คิดอะไรอยู่ ปลอดภัยไม่ปลอดภัยเกี่ยวอะไรกับหน้าตาดีด้วย ต้องดูนิสัย!


เฉินเยี่ยนมองเวยหลายชุน เธอส่ายหน้า เวยหลายชุนก็ไม่ปลอดภัย เวยหลายชุนเป็นแบบนี้ ไม่นานก็จะโดนเสน่ห์ของเฉินเวย แล้วก็จะกลายเป็นอวี๋เหวยหมินอีกคน


“อวี๋เหวยหมินขี้เหร่กว่าคุณเยอะเลย แต่เขาชอบเฉินเวย เขาคิดว่าเขาแบบนี้จะสามารถได้กอดทั้งสองคน ตอนนี้พี่เวยก็คิดว่าเฉินเวยสวยน่ารัก อ่อนโยนจิตใจดี อีกหน่อยก็กลัวว่าจะหวั่นไหวได้ พวกเขาหน้าตาไม่ดีเท่าคุณเลย พวกเขายังไปชอบคนอื่น ประสาอะไรกับคุณล่ะ? ฉันไม่เชื่อมั่นในคุณจริงๆ คุณหล่อขนาดนี้ ต้องมีผู้หญิงมากมายมาชอบคุณ ถ้ามีวันหนึ่งคุณคิดนอกใจ ไปชอบคนอื่น ฉันก็จะเสียใจ ฉันไม่อยากให้ตัวเองเสียใจ ฉันเลยไม่เลือกคุณ ฉันแค่อยากจะหาคนใช้ชีวิตด้วย”


มาถึงจุดนี้แล้วเฉินเยี่ยนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พูดความในใจของเธอออกไป เธอมีความรู้สึกให้ซินห้าว แต่เธอไม่วางใจ ดังนั้นเธอเลยไม่เลือก ไม่ทุ่มเทดีกว่า


“ทำไมคุณโง่แบบนี้ คนอื่นกับผมเกี่ยวอะไรกัน? พวกเขาชอบคนอื่น นั่นเพราะพวกเขาตาบอด ผมรู้แค่ว่าผมคิดว่าคุณดี มีคุณแล้วจะไม่มีคนอื่น คนอื่นชอบผม คุณไม่ได้อยู่ข้างผมหรอกหรือ ใครจะมาชอบผมได้ คุณไล่คนอื่นไปให้หมดก็ได้แล้ว ถ้าคุณไล่ไม่ไป ก็ยังมีผมอยู่ไม่ใช่หรือ ผมช่วยคุณไล่เอง แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”


ซินห้าวพูดจริงจังมาก เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเฉินเยี่ยนกลัวเรื่องนี้ ที่แท้เฉินเยี่ยนไม่ไว้ใจเขา ถ้ารู้แต่แรก เขาจะรีบพูดเร็วกว่านี้ไหมนะ? ก็ไม่แน่ ถ้าไม่ใช่ว่าครั้งนี้เฉินเยี่ยนจะหมั้นกับเวยหลายชุน คิดว่าอีกระยะหนึ่งเขาก็ยังไม่บอก รอจนเขาจัดการเรื่องทางนั้นเรียบร้อยแล้วค่อยบอก


ซินห้าวไม่คิดว่าเขาพูดเกินไป เพราะในใจเขาก็คิดแบบนี้ และไม่รู้สึกน่าขายหน้า เป็นผู้ชายคนหนึ่งเพื่อผู้หญิงที่เขาชอบแล้ว แน่นอนว่าคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น มีอะไรน่าขายหน้า ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้มีเวยหลายชุนปรากฏตัวขึ้นมา ครั้งหน้ายังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ถ้าไม่ให้เฉินเยี่ยนรู้ความในใจเขา เฉินเยี่ยนไปแต่งงานกับคนอื่น เขาเสียใจก็ไม่มีที่ให้ร้องไห้แล้ว


เวยหลายชุนโกรธจนอกแทบระเบิดแล้ว เฉินเยี่ยนอยู่ต่อหน้าเขาเป็นธรรมชาติมาก ดูเป็นผู้ดี ไม่เคยพูดอะไรที่เกินขอบเขตมาก่อน ในใจเขาชอบเฉินเยี่ยนก็ยังไม่กล้าจะพูดกับเฉินเยี่ยนว่าชอบเลย แต่สองคนนี้มาพูดอะไรกันต่อหน้าเขา? ช่างไม่มีความเป็นผู้ดีเลย!


“คุณ พวกคุณ พวกคุณหน้าไม่อาย คำพูดแบบนี้ยังพูดออกมาได้ หน้าไม่อาย!”


เวยหลายชุนชี้ไปที่เฉินเยี่ยน ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เฉินเยี่ยนไม่ใช่ผู้ดีอะไรเลย ทำไมเธอถึงกล้าพูดคำว่าชอบออกมาได้ เธอเป็นสาวบริสุทธิ์ เธอไม่อายบ้างหรือ!


“พวกเรามีอะไรต้องขายหน้า? ผมยังไม่ได้แต่งงาน เธอยังไม่ได้แต่งงาน ผมชอบเธอ อีกหน่อยจะสู่ขอเธอ แล้วจะไม่ให้พูดเรื่องพวกนี้กับเธอ พูดเรื่องของเรา? พวกเราทำอะไรไม่ถูก?”


ซินห้าวไม่ชอบขี้หน้าเวยหลายชุนมาก ไม่ต้องพูดเรื่องที่คิดจะแย่งเฉินเยี่ยนของเขา ยังจะให้เฉินเยี่ยนขอโทษ นี่ผู้ชายอะไรกัน!


ควันจะพ่นออกจากจมูกเวยหลายชุนแล้ว เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงที่ได้ยินซินห้าวพูดแบบนี้ ยุคนี้คนที่กล้าพูดแบบนี้มีไม่เยอะ ไม่เหมือนคนยุคหลังที่อ้าปากก็พูดชอบพูดรัก คนยุคนี้ยังหัวโบราณอยู่ ซินห้าวเป็นกรณีพิเศษ แต่กรณีพิเศษนี้ทำไมเธอยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกสบายใจนะ


“คุณ คุณจะสู่ขอเธอ แล้วคุณรู้จักเธอหรือเปล่า เธอเคยถูกถอนหมั้นมาก่อน คุณรู้ไหม เธอเคยอยู่ในสวนผลไม้กับผู้ชายคนอื่นมาก่อน เธอ…”


เวยหลายชุนพูดจนติดอ่างแล้ว เขาโมโห ขณะเดียวกันก็ไม่พอใจ ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีขนาดนี้ ฐานะต้องดีแน่นอน เขาจะไม่สนใจเรื่องในอดีตของเฉินเยี่ยนเชียวหรือ? เขาไม่เชื่อ!


เวยหลายชุนพูดจบ สายตาซินห้าวเย็นชาขึ้นมา เขาก้าวไปทางเวยหลายชุน


เวยหลายชุนรู้สึกกดดัน เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม เหมือนว่า เหมือนว่าผู้ชายคนนี้เดินมาถึงหน้าเขาแล้วจะระดมหมัดใส่เขาเป็นชุด เขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ เขาพูดเรื่องจริงทั้งหมด เวยหลายชุนกำที่บังคับจักรยานแน่น


“ซินห้าว ช่างเถอะ”


เฉินเยี่ยนเรียกซินห้าวไว้ ซินห้าวหันกลับมามองเธอ


“ความคิดเขาปกติมาก พวกเราไม่สามารถควบคุมความคิดคนอื่นได้ เขาอยากจะคิดยังไงก็ให้เขาคิดไปเถอะ”


เฉินเยี่ยนส่ายหน้ากับซินห้าว


แววตาซินห้าวมีความเจ็บปวดขึ้นมา เขาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ดีที่สุด สำหรับเฉินเยี่ยนแล้วเขามีแต่ความรู้สึกสงสาร ไม่ได้รังเกียจ


ซินห้าวหันกลับไปอีกครั้ง มาถึงหน้าเฉินเยี่ยน


“คุณแคร์ไหม?”


เฉินเยี่ยนถามซินห้าว ในเมื่อวันนี้มาถึงแล้ว ในเมื่อซินห้าวบอกชอบเธอแล้ว เธอก็อยากถามให้ชัดเจน เธอไม่ใช่ผู้หญิงยุคนี้ เธอไม่อยากทำเขินอายเหมือนคนยุคนี้ ความรักต้องไขว่คว้ามา ถ้ากลัว บางทีอาจจะสูญเสียมันไป เมื่อก่อนเธอคิดว่าซินห้าวหล่อเกินไป ไม่ปลอดภัย ดังนั้นเธอเลยไม่คิด แต่ตอนนี้ซินห้าวพูดแล้ว อยู่ด้วยกัน ถ้ามีผู้หญิงคนอื่นคิดอะไรกับเขา ก็ให้เธอไล่ไปได้เลย ถ้าไม่ไปเขาจะช่วย แล้วตอนนี้เธอยังจะกลัวอะไร?


ในเมื่อคนแบบอวี๋เหวยหมิน เวยหลายชุนต่างเอาชนะสิ่งเย้ายวนไม่ได้ แล้วทำไมเธอต้องทำร้ายตัวเอง มีตัวเลิกที่ดีแบบซินห้าว ทำไมเธอจะโง่ไม่เลือก


มีสามีที่หล่อ ยังไงก็ดีกว่าคนทั่วไป ถึงแม้ในอนาคตเขาจะนอกใจ แต่ตัวเองยังได้กำไรอยู่ อย่างน้อยผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ตัวเองชอบ ก็ถือว่าได้เจริญหูเจริญตา


อีกอย่างเรื่องในอนาคตใครจะคาดเดาได้กัน บางทีซินห้าวสุดหล่อคนนี้อาจจะไม่นอกใจก็ได้ ถ้าเธอปฏิเสธเพราะเรื่องที่อาจจะไม่เกิดก็ได้ งั้นเธอก็โง่เกินไปแล้ว! เฉินเยี่ยนเปลี่ยนความคิดแล้ว


“อีกหน่อยผมจะปกป้องคุณ”


ซินห้าวตอบเฉินเยี่ยนแค่เจ็ดคำ เฉินเยี่ยนกลับรู้สึกว่านัยน์ตาร้อนผ่าว เขาไม่ได้ตอบว่าเขาแคร์หรือไม่แคร์ แต่เขาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาจะปกป้องตัวเอง เขาให้คำสัญญาเจ็ดคำนี้กับตัวเอง


“หึ หวังว่าคุณจะไม่เสียใจทีหลัง!”


เวยหลายชุนรู้สึกว่าตัวเองทนอยู่ไม่ไหวแล้ว ในสายตาของซินห้าวและเฉินเยี่ยนต่างมีแค่พวกเขา ไม่มีตัวเอง หน้าเขาร้อนผ่าว เขารู้สึกว่าตัวเองผิดหวัง เขารู้สึกว่าตัวเองโดนตบหน้า เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน เขาแค่อยากจะรีบออกไป


เวยหลายชุนขี่จักรยานไปแล้ว เฉินเยี่ยนมองเบื้องหลังเขา อันที่จริงก็รู้สึกขอโทษในใจ ถ้าไม่ใช่เวยหลายชุน คิดว่าเธอกับซินห้าวคงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ เธอคงจะไม่เปลี่ยนความคิดยอมรับซินห้าว แต่มีเวยหลายชุนเข้ามาแทรกกลาง ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและซินห้าวชัดเจน ถือว่าช่วยเธอและซินห้าว


———————-


ตอนที่ 136: ติดกำแพง

โดย

Ink Stone_Romance

“ไม่เห็นเขาแล้ว ยังมองอยู่อีก”


ซินห้าวเห็นเฉินเยี่ยนเอาแต่จ้องมองเบื้องหลังของเวยหลายชุน รู้สึกไม่พอใจ น้ำเสียงฟังดูขมขื่น


เฉินเยี่ยนหันมายิ้มขำซินห้าว เมื่อก่อนซินห้าวไม่ได้เป็นแบบนี้ บางทีอาจจะเพราะพูดออกไปแล้ว เขาเลยปล่อยตามใจตัวเอง ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว


“นั่งไหม?”


เฉินเยี่ยนชี้สวนผลไม้


ซินห้าวพยักหน้า จากนั้นช่วยจับพยุงเฉินเยี่ยน ทั้งสองคนเข้าไปในสวนผลไม้


ในสวนปลูกต้นแอปเปิ้ลและสาลี่ ตอนนี้ผลโตมากแล้ว แต่ยังไม่ถึงฤดูการที่สุกงอม แต่เห็นผลไม้มากมายห้อยตามกิ่งแล้ว ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมา


“ทำไมวันนี้ไม่ขี่จักรยาน?”


เฉินเยี่ยนถามซินห้าวขึ้นมา


ถ้าขี่จักรยานมาจะตกเป็นเป้าสายตาได้มาก จอดจักรยานไว้ตรงนี้จะถูกคนอื่นเห็นได้ง่าย แต่ซินห้าวไม่พูดแบบนี้ เขาแค่ยิ้มให้เฉินเยี่ยน


“สวนผลไม้นี้ไม่มีคนเฝ้าหรือ? ไม่กลัวคนอื่นมาขโมยผลไม้พวกเขาไปหรือไง”


เฉินเยี่ยนหาเรื่องคุย


“ยังไม่สุก รสฝาดมาก ใครจะมาขโมย? ผ่านไปอีกสักพักก็มีคนมาเฝ้าแล้ว”


ซินห้าวตอบ มองเฉินเยี่ยนที่ยืนอยู่ใต้ต้นสาลี่ เฉินเยี่ยนรูปร่างสูงโปร่ง วันนี้ใส่กระโปรงด้วย ยืนอยู่ใต้ต้นไม้แลดูเหมือนภาพวาดเลย สวยงามมาก


“ไม่อย่างนั้นรอผลไม้สุกแล้วพวกเรามาขโมยกันไหม?”


เฉินเยี่ยนพูดจบตัวเองก็หัวเราะขึ้นมา สวนผลไม้นี้อยู่ใกล้หมู่บ้าน คนที่มาเฝ้าสวนเฝ้ายังไงก็เฝ้าไม่ไหว ครึ่งหนึ่งของเด็กในหมู่บ้านตะกละ ตอนกลางคืนจะแอบเข้ามาในสวนขโมยผลไม้ ถูกจับได้ก็วิ่งหนี บางคนโดนหมาไล่ วิ่งกางเกงหลุด แต่ผ่านไปเดี๋ยวก็มาขโมยผลไม้กินเหมือนเดิม


แน่นอน คนที่เฝ้าสวนผลไม้ก็ไม่ได้ทำอะไรพวกเขา ไม่ได้จะมาขโมยมากมาย ก็แค่อยากกินเท่านั้น


รอเก็บผลไม้ในสวนหมดแล้ว หลายคนจะแวะมา ดูว่ามีเหลืออยู่บ้างไหม หรือมาเก็บลูกที่ตกอยู่บนพื้นแล้วยังไม่เสีย เจ้าของร่างเดิมก็เคยมาอยู่หลายครั้ง หลายครั้งมาเก็บลูกที่ยังไม่เสียไป หรือปีนขึ้นไปบนต้นเก็บลูกที่ไม่มีใครเอา เก็บกลับไปเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่าให้คนที่บ้านกิน ส่วนตัวเธออดไม่ได้ที่จะแอบกินไปหนึ่งลูก


คิดถึงตรงนี้แล้วเฉินเยี่ยนรู้สึกปวดใจ ที่จริงเจ้าของร่างเดิมจิตใจดีมาก เธอไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายมาก่อนเลย ทุกข์ร้อนเพื่อครอบครัว เฉินเวยกลับทำร้ายเธอจนตาย เฉินเวยต้องได้รับการแก้แค้นแน่ แต่เฉินเวยอาศัยร่างที่เป็นน้องสาวแท้ๆ มีเลือดเนื้อเชื้อไข เธอยังคิดวิธีล้างแค้นเฉินเวยไม่ออกจริงๆ แต่เธอไม่รีบ เธอเชื่อว่าช้าเร็วเฉินเวยต้องตายด้วยน้ำมือตัวเอง รอพ่อแม่ผิดหวังกับเฉินเวยจนถึงที่สุด ถึงเวลานั้นเธอจะทำให้เฉินเวยรู้จักคำว่าเสียใจภายหลัง


“ถ้าคุณอยากผมจะมาเป็นเพื่อนคุณเอง”


ซินห้าวยิ้มดูน่าเอ็นดู อันที่จริงเขารู้ว่าเฉินเยี่ยนไม่ได้อยากจะขโมยของคนอื่น ก็แค่รู้สึกสนุกเท่านั้นเอง ถ้าอยากจะกิน ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีปัญญาซื้อ แค่อยากจะทำเรื่องตื่นเต้นกับเขาเท่านั้น


“ซินห้าว คุณแน่ใจแล้วหรือ? คุณแน่ใจว่าคุณชอบฉัน? จะจีบฉัน?”


อยู่ๆ เฉินเยี่ยนก็ถามซินห้าวขึ้นมา เวลานี้ไม่มีคนอื่น มีแค่เขาสองคน ใบหน้าซินห้าวกลับแดงระเรื่อขึ้นมา เหมือนเมื่อกี้คนที่พูดว่าชอบเฉินเยี่ยนต่อหน้าเวยหลายชุนไม่ใช่เขาเลย


“ซินห้าว คุณชอบฉันจริงๆ?”


เฉินเยี่ยนเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเข้าใกล้ซินห้าว หลังซินห้าวพิงไปกับลำต้นแอปเปิ้ล เห็นเฉินเยี่ยนเข้ามาใกล้ เขาอยากจะถอยแต่ไม่มีที่ไป


เฉินเยี่ยนวางมือหนึ่งไว้บนต้นแอปเปิ้ล เธอพิงไว้ใกล้ซินห้าวมาก ดูแบบนี้แล้วเหมือนเธอกำลังรุกซินห้าวติดกำแพง หยอกล้อซินห้าว


นี่ดูไม่ค่อยถูกต้องหรือเปล่า? ทำไมเธอถึงกลายเป็นเหมือนอันธพาล ส่วนซินห้าวกลายเป็นสาวงามที่โดนรังแกล่ะ?


มันควรจะกลับกันไม่ใช่หรือ? หรือว่าธาตุแท้ของตัวเองเป็นคนแบบนี้? แต่ได้แกล้งหนุ่มรูปงามแล้วรู้สึกดีจริงๆ


นึกมาถึงตรงนี้เฉินเยี่ยนก็คิดได้ มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นใช้อีกมือจับคางซินห้าวไว้ จะแกล้งซินห้าว เธอจะพูดอะไรต่อไปดีนะ?


เรื่องแบบนี้เฉินเยี่ยนทำเป็นครั้งแรก พูดตามจริง เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงใจกล้าขนาดนี้ ชาติที่แล้วอวี๋เหวยหมินเป็นคนจีบเธอ เธอไม่เคยเป็นฝ่ายรุกมาก่อน ดังนั้นอวี๋เหวยหมินเลยบอกว่าเธอแข็งทื่อ บอกว่าเธอหัวโบราณ ไม่โรแมนติก


ตัวตนของเธอก็หัวโบราณจริง หรือว่าพอได้เกิดใหม่อีกครั้งตัวเองเลยเปลี่ยนไป? กลายเป็นสาวเต็มตัว กลายเป็นโผเข้าหาผู้ชายก่อน?


แต่ความรู้สึกแบบนี้ไม่เลวเลย ชอบก็ทำ แต่ไม่รู้ว่าซินห้าวจะคิดว่าเธอปล่อยเนื้อปล่อยตัว รู้สึกว่าเธอหื่นเกินไปหรือเปล่า?


เฉินเยี่ยนคงท่าทีแบบนั้นอยู่ แต่ความคิดกลับล่องลอยไปแล้ว


อันที่จริงซินห้าวรู้สึกตกใจอยู่ เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะใจกล้าขนาดนี้  เฉินเยี่ยนถึงขนาดใช้แขนหนึ่งกันเขาไว้กับต้นไม้ แน่นอนซินห้าวตอนนี้ยังไม่รู้จักคำว่ารุกไปติดกับกำแพง อีกมือหนึ่งจับคางเขาไว้ นี่มันท่าอะไร? นี่จะทำอะไร? หยอกล้อเขาหรือ?


ใจซินห้าวเต้นตึกตักเร็วมาก ใบหน้าเขาร้อนผ่าว เขาไม่รู้ว่าแบบนี้ถูกหรือผิด แต่เขากลับชอบความรู้สึกแบบนี้


เดี๋ยวก่อน เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง?


ซินห้าวเห็นเฉินเยี่ยนเหม่อไป เขาถึงค่อยรู้สึกตัว ท่าทางของพวกเขามันผิดไปหรือเปล่า?


ซินห้าวคิดอยากจะโอบเอวเฉินเยี่ยน ไม่รอให้เฉินเยี่ยนที่เหม่ออยู่รู้สึกตัว เขากลับตัวแล้วเปลี่ยนตำแหน่งกับเฉินเยี่ยน จากนั้นเขาจับคางเฉินเยี่ยน เผยรอยยิ้มนั้นที่เฉินเยี่ยนยิ้มให้เขาก่อนหน้าแล้วพูด “สาวน้อย พี่ชอบเจ้า”


พูดจบเขาหยักหน้าด้วยความพอใจ แบบนี้สิถึงจะถูก เขาเป็นผู้ชาย ฝ่ายที่รุกควรจะเป็นเขา


หึ เฉินเยี่ยนอดไม่ได้หัวเราะออกมา นี่มันคำพูดที่ตัวเองเคยพูดกับซินห้าวตอนนั้นไม่ใช่หรือ? นี่คือซินห้าวหรือ? ซินห้าวเลียนแบบเธอจนแย่ไปแล้ว? เธอทำชายหนุ่มเย็นชาผู้บริสุทธิ์เสียคนไปแล้ว ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว


เห็นเฉินเยี่ยนขำจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ซินห้าวหน้าบึ้ง มีอะไรน่าขำหรือ? ก็เห็นอยู่ว่าเธอทำแบบนี้ก่อน หรือว่าตัวเองเลียนแบบเธอ เธอไม่พอใจ?


ซินห้าวคิดในใจ ทำยังไงถึงจะทำให้เฉินเยี่ยนพอใจนะ? เฉินเยี่ยนใจกล้ามาก เธอไม่ใช่คนขี้อาย งั้นตัวเองก็ควรใจกล้าขึ้นมาหน่อย? ยังไงตัวเองก็ชอบเฉินเยี่ยน นอกจากเฉินเยี่ยนแล้วตัวเองจะไม่แต่งงานกับคนอื่น


คิดถึงตรงนี้จู่ๆ ซินห้าวก็จูบเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนที่กำลังยิ้มอยู่ไม่ทันระวังตัว รอยยิ้มโดนกดคืนกลับไป เธออยากจะไอ ใบหน้าแดงก่ำ


เฉินเยี่ยนนะเฉินเยี่ยน เธอต้องทำเสียบรรยากาศแบบนี้หรือ ครั้งแรกนะ จูบแรก แล้วยังกับชายหนุ่มเย็นชาที่ตัวเองชอบด้วย จะไอได้ยังไงกัน นี่ควรจะเป็นภาพสวยงามไม่ใช่หรือ?


ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ ตัวเองต้องตั้งใจ อย่างน้อยก็ต้องรู้ซึ้งถึงรสจูบแรกที่สวยงามสิ?


เฉินเยี่ยนกำลังคิดอยู่ ซินห้าวก็ปล่อยเฉินเยี่ยนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดกับผู้หญิงขนาดนี้ เขาจูบเฉินเยี่ยน ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ริมฝีปากแตะกัน แต่ใจเขากลับร้อนดั่งไฟ เขาไม่ได้สานต่อ เขาก็ไม่รู้ว่าสานต่อแล้วจะเป็นยังไง นี่ก็เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย


“ผมจะรับผิดชอบคุณ นอกจากคุณแล้วผมจะไม่แต่งงานกับใคร”


ซินห้าวพูดเสียงเบากับเฉินเยี่ยน แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่ในใจกลับวุ่นวายอยู่ไม่เป็นสุข เฉินเยี่ยนจะไม่ตบเขาใช่ไหม? เขาจูบเฉินเยี่ยนเลยนะ! เขาคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ แต่เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนชอบเขา ไม่น่าจะรังเกียจเขา


—————-


ตอนที่ 137: คุณวางยา


“นี่ นี่จบแล้วเหรอ?”


ฝั่งซินห้าวกำลังกระสับกระส่าย ฝั่งเฉินเยี่ยนก็ถามขึ้นมาอย่างไร้ความรู้สึก


ซินห้าวเลิกคิ้วฝั่งซ้ายขึ้นมา หมายความว่าเธอคิดจะทำอะไร?


เฉินเยี่ยนถามออกไปแล้วค่อยหน้าแดง เธอทำอะไรอยู่นะ หรือว่าเธอยังจะเชิญชวนให้ซินห้าวทำต่อ? หรือเธอยังจะบอกซินห้าวว่าจูบไม่ใช่แบบนี้?


โถ่! เฉินเยี่ยนเอ้ย ทำไมเธอถึงกลายเป็นผู้หญิงหื่นกามไปได้ ต้องเป็นเพราะซินห้าวหล่อเกินไปแน่เลย มายั่วเธอ ใช่ ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนี้


“เปล่า ไม่มีอะไร”


เฉินเยี่ยนพยายามทำให้ตัวเองสงบนิ่ง


ซินห้าวอดไม่ได้ยื่นมือไปม้วมผมเฉินเยี่ยนเล่น ได้จูบเมื่อกี้แล้ว เขารู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขาและเฉินเยี่ยนใกล้กันมากขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมเขาอยากจะกอดเฉินเยี่ยนไว้ในอ้อมกอดเหลือเกิน อยากจะใกล้ชิดเฉินเยี่ยนมากกว่านี้ เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้เลย เมื่อก่อนเขาไม่เคยมีความคิดแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้? หรือว่าเขาโดนวางยาเข้าแล้ว?


ต้องเป็นเพราะเมื่อกี้เขาจูบเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนให้ยาพิษเขา แต่เขาก็ชอบแบบนี้


“บอกมา เมื่อกี้คุณเอาอะไรให้ผมกิน?”


ซินห้าวมือหนึ่งเล่นอยู่ใกล้รากผมเฉินเยี่ยน ถามเฉินเยี่ยนเสียงเบา


“อะไร? ฉันให้คุณกินอะไร?”


เฉินเยี่ยนรู้สึกตามเรื่องที่ซินห้าวคุยไม่ทัน แล้วตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ใกล้กันเกินไปด้วย เธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจของซินห้าวข้างหูเธออย่างชัดเจน ความรู้สึกร้อนผ่าวนี้ แบบนี้ไม่ดี ไม่ดีมาก เธอต้องรักษาระยะห่างกับซินห้าวไว้ดีกว่า


“ถ้าคุณไม่ได้ให้ผมกินอะไร ทำไมผมคิดแต่อยากจะกอดคุณ อยากอยู่ใกล้คุณ อยากจูบคุณ”


ซินห้าวพูดออกมาตัวเองก็รู้สึกหน้าแดง แต่ตอนนี้ไม่มีคน เฉินเยี่ยนก็น่ารักแบบนี้ เขาอยากจะบอกความในใจของเขา ไม่อยากเก็บเอาไว้


“ผมต้องโดนวางยาแน่ๆ”


ซินห้าวพูดขึ้นมาอีกครั้ง โดนคุณวางยา


เห็นซินห้าวก้มหน้าลงเล็กน้อย สายตาเขาไม่เย็นชาแล้ว เขาจ้องมองตัวเองแบบนั้น ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ทำให้เฉินเยี่ยนหน้าแดงใจเต้นแรง เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เธอคิดว่าตัวเองผ่านเลยวัยนั้นมาแล้ว เธอคิดว่าเธอจะไม่ใจเต้นรัวเหมือนสาววัยรุ่นอีก แต่ตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงตึกตัก ที่แท้ ที่แท้อยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ เธอก็อาย หน้าแดงเป็นเหมือนกัน


เธอชอบท่าทางของซินห้าวตอนนี้เหลือเกิน ทำยังไงดี?


เฉินเยี่ยนที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเธอลงมืออย่างกล้าหาญ เธอยื่นมือไปโอบคอซินห้าวไว้ แล้วจูบลงไป


ซินห้าวตะลึงงัน แต่เห็นรูม่านตาเขาขยายขึ้นมา ไม่รอให้เขาทันตั้งตัว เฉินเยี่ยนก็ใช้ลิ้นตวัดริมฝีปากซินห้าว ซินห้าวไม่โง่ เขาแค่ก่อนหน้านี้ทำไม่เป็น จนตอนที่เฉินเยี่ยนจะถอนออกซินห้าวก็เข้าครอบครองลิ้นของเฉินเยี่ยนแล้ว


ละริมฝีปากออกจากกันแล้ว ทั้งสองคนหอบ


“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันให้คุณกินอะไร วางยาพิษอะไรแล้วสินะ”


เฉินเยี่ยนพูดจบก็ยักคิ้วให้ซินห้าว แววตาเธอมีแสงแวววาว เห็นแล้วหวั่นไหว


“รู้แล้ว ที่แท้ลิ้นกับน้ำลายคุณมีพิษนี่เอง”


คำตอบซินห้าวทำเอาเฉินเยี่ยนเกือบจะลุกขึ้นมาตีเขา อะไรกับอะไรนะ หมายความว่ายังไงที่บอกว่าลิ้นกับน้ำลายตัวเองมีพิษ เมื่อกี้ตอนที่เขาจูบตัวเองริมฝีปากแค่แตะกันชัดๆ ไม่ได้มีน้ำลายเลย


แต่เธอจะพูดอะไรได้ เธอทำได้แค่ร้องเบาๆ เพื่อปิดบังความเขินของตัวเอง แล้วหันหลังกลับ เธออยู่กับเขาต่อไปไม่ได้แล้ว พวกเขายังไม่ได้คุยกันเรื่องแต่งงานเลยนะ ถึงแม้ว่าจูบเดียวจะไม่นับอะไร แต่ความใกล้ชิดกันยังต้องคงไว้ในอนาคต อย่างน้อยก็ต้องแต่งงาน


“อย่าเพิ่งไป”


มือซินห้าวดึงแขนเฉินเยี่ยนไว้อย่างรวดเร็ว นัยน์ตามีแววเว้าวอน อ่อนโยน เขาอดไม่ได้ที่จะให้เฉินเยี่ยนไป


“ไม่อย่างนั้นผมไปบ้านคุณแล้วกัน ผมจะไปคุยกับพ่อแม่คุณ รอเวลาสักระยะผมจะให้ที่บ้านมาสู่ขอ ไม่ต้องให้พวกเขาหาคู่ให้คุณแล้ว”


ซินห้าวตัดสินใจมานานแล้ว บ้านเขาก็แนะนำผู้หญิงให้เขาหลายคน มีทุกประเภท เขาไม่ยอมไปดูตัว ซูเหม่ยลี่นั่นแม่เขาชอบ แม่บอกว่าซูเหม่ยลี่สวย เก่ง ที่สำคัญคือฐานะทางบ้านดี


เธอหน้าตายังไง ฐานะที่บ้านดีหรือไม่ดี ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่คิดจะชอบเธอเลย


ซูเหม่ยลี่มาบ้านเขาบ่อย มีครั้งหนึ่งแม่ไม่อยู่บ้าน เธอใจกล้ามาก เข้ามากอดเขาจากด้านหลัง เขาฝึกวิทยายุทธ์มาก่อน การตอบสนองเลยเร็วมาก คนที่เขาไม่ชอบจะให้เธอเข้ามาใกล้ได้ยังไง ดังนั้นยังไม่ทันที่ซูเหม่ยลี่กอดเขา เขาก็เหวี่ยงซูเหม่ยลี่ออกไปอีกฝั่ง


ตอนหลังแม่ยังด่าเขา บอกว่าเขาทำไม่ดีกับซูเหม่ยลี่ ทำซูเหม่ยลี่บาดเจ็บ ทำซูเหม่ยลี่ร้องไห้ ซูเหม่ยลี่ไม่ได้เป็นอะไรกับตัวเอง ทำไมเขาต้องทำไม่ดีกับซูเหม่ยลี่ด้วย? เธอจะกอดตัวเอง ทำไมตัวเองจะลงมือกับเธอไม่ได้?


แต่เฉินเยี่ยนไม่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบความรู้สึกเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเฉินเยี่ยน รู้สึกเป็นอิสระ สบาย ทำยังไงเขาก็ยอม เงาของเฉินเยี่ยนเติบโตในใจเขา เขาเป็นคนที่หนักแน่นมาก ในเมื่อยอมรับคนหนึ่งแล้ว ทั้งชีวิตก็จะไม่เปลี่ยนใจ


การได้สัมผัสกันวันนี้เขายิ่งแน่ใจ เขาชอบเฉินเยี่ยนจริงๆ เฉินเยี่ยนเข้าใกล้เขา เขาไม่รังเกียจเลยสักนิด กลับยิ่งรู้สึกชอบมาก


เขากล้าจูบเฉินเยี่ยน ใจเขาเต้นรัวดั่งกลอง เขาไม่เพียงไม่รังเกียจ แต่กลับอยากเข้าใกล้ขึ้นอีก


เมื่อก่อนเขาไม่ชอบคนอื่นมาแตะต้องตัวเขา แต่เมื่อกี้ริมฝีปากเขากับเฉินเยี่ยนแตะกัน เขายังดูดลิ้นเฉินเยี่ยนด้วย เขาไม่รู้สึกสกปรกเลยสักนิด กลับรู้สึกว่าหวานมาก จนเขาอยากจะกินอีก


นี่ไม่ใช่ชอบแล้วอะไร!


ในเมื่อชอบ ยอมรับเฉินเยี่ยนแล้ว เขาก็จะไม่คิดเรื่องอื่นอีก ไม่สนว่าที่บ้านจะเห็นด้วยหรือไม่ เขาจะแต่งงานกับเฉินเยี่ยน ถ้าแม่คัดค้าน เขาสามารถไปอยู่อย่างอิสระกับเฉินเยี่ยนได้ ยังไงแม่ก็ยังมีน้องชาย เขาเลี้ยงแค่เฉินเยี่ยนก็พอแล้ว


“ไม่ได้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งไปบ้านฉัน เรื่องบ้านฉันฉันจะจัดการให้เรียบร้อย ฉันจะบอกพ่อแม่ว่าอีกหน่อยจะไม่ดูตัวแล้ว รอจนคุณตัดสินใจแน่นอนแล้ว ตอนที่คิดว่าเวลาเหมาะสมแล้ว คุณก็ให้คนมาสู่ขอที่บ้าน”


เฉินเยี่ยนส่ายหน้า เฉินเวยอยู่ที่นั่นนะ เธอไม่อยากให้เฉินเวยเห็นซินห้าว เธอแคร์ซินห้าว ถึงแม้ว่าเธอจะป้องกันเฉินเวยได้ แต่ก็ยังไม่อยากให้เฉินเวยรู้จักซินห้าวก่อน รอจนเธอและซินห้าวตกลงแล้วค่อยว่ากัน ถ้าถึงเวลานั้นเฉินเวยจะมีแผนอะไรอีก อย่าหาว่าเธอแล้งน้ำใจ โดยเฉพาะเฉินเวยที่ใช้ความเป็นน้องสาวเธอมาอ้าง เธอทำเกินไป ก็ยากที่จะจัดการกับฝั่งพ่อแม่


“ได้ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง รอจนผมจัดการเสร็จ ผมจะให้คนไปสู่ขอที่บ้าน แต่คุณต้องรับปากผม จะไม่ไปดูตัวกับผู้ชายคนอื่นอีก”


ซินห้าวพยักหน้า เฉินเยี่ยนเป็นคนมีความคิด เขาก็ชื่นชมคนแบบนี้


“เผด็จการ”


เฉินเยี่ยนเลิกหางตา แต่ดวงตาเธอเหมือนหมอกในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้คนหวั่นไหว ดูมีความไม่พอใจ


“ผมนี่แหละเผด็จการ ยังไงคุณก็เป็นคนของผมแล้ว ไม่อนุญาตให้มองผู้ชายคนอื่น”


ซินห้าวดึงมือเฉินเยี่ยนไว้ พูดอย่างสั่งการ แต่น้ำเสียงกลับฟังดูมีเหตุผล


ฉันเป็นคนของคุณที่ไหน ก็แค่จูบเดียวไม่ใช่หรือ? แต่เฉินเยี่ยนไม่พูดคำพูดพวกนี้


“ใช่แล้ว ครั้งที่แล้วก็ไม่ได้ถามคุณ คุณกำลังยุ่งอะไรอยู่?”


เฉินเยี่ยนเปลี่ยนเรื่องคุย บรรยากาศตอนนี้ดีงามเป็นใจเกินไป เธอไม่สามารถทนต่อไปได้


ตอนที่ 138: ช้อนซื้อโรงงาน


“ปีก่อนผมทำธุรกิจหาเงินมาได้เล็กน้อย แม่ผมไม่ยอมให้ผมค้าขาย บอกว่าผมฉวยโอกาส หลังจากปีนั้นผมดูโรงงานหนึ่งไว้ โรงงานนั้นจะปิดตัวแล้ว ค่าแรงคนงานก็แทบจะไม่มีปัญญาจ่าย ผมเตรียมที่จะช้อนซื้อ แต่ตอนนี้เรื่องข้างในไม่น้อยเลย มีเรื่องลำบาก กำลังคุยกันอยู่”


ซินห้าวเล่าคร่าวๆ ไม่ได้ปิดบัง


เฉินเยี่ยนมองซินห้าวด้วยความตกใจ ซินห้าวคนนี้ไม่ได้กลับชาติมาเกิดใช่ไหม? อายุเขามากกว่าเจ้าของร่างเดิมไม่กี่ปีเอง ตอนนี้คิดจะซื้อกิจการโรงงานจะเป็นเจ้าของโรงงานแล้ว ในยุคนี้คนเป็นเจ้าของโรงงานนั่นเก่งกาจ รู้จักช้อนซื้อโรงงาน นี่มันยุคที่ทหารมีอำนาจ มีไม่กี่คนที่กล้าทำ ซินห้าวก็ยังเด็กเกินไป กล้าหาญเกินไปแล้ว


อีกอย่างการเข้าช้อนซื้อโรงงาน ต้องใช้เงินไม่น้อย ก่อนหน้านี้ซินห้าวทำอะไร? เขาถึงสามารถหาเงินได้มากขนาดนี้


แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้ถามมาก ทุกคนต่างมีเรื่องส่วนตัว มีความลับของตัวเอง ซินห้าวมีความสามารถแบบนี้เธอดีใจจะแย่


“เก่งมากเลย”


เฉินเยี่ยนยกนิ้วโป้งให้ ชมด้วยใจจริง เธอกลับชาติมาเกิด ตอนนี้ยังห่อบุหรี่อยู่เลย ซินห้าวกลับจะซื้อโรงงานแล้ว แต่เธอยังเก่งกว่าอวี๋เหวยหมินและเฉินเวย อวี๋เหวยหมินยังล่องลอยอยู่เลย เฉินเวยก็ยังคิดวิธีหาผู้ชายมาเลี้ยงเธออยู่เลยนะ อย่างน้อยเธอก็พึ่งพาตัวเอง ตอนนี้กินอยู่ก็ไม่ลำบาก


“แล้วคุณมีรางวัลให้หรือเปล่า?”


แววตาซินห้าวเป็นประกายมองไปที่เฉินเยี่ยน ตอนแรกเขาก็ไม่ได้มีความคิดแบบนี้ ตอนที่เพิ่งรู้จักเฉินเยี่ยนเขายังคิดอยู่เลยว่าจะไปเป็นคนงานหรือขัดแย้งกับคนที่บ้านดี เพราะแม่เขาและญาติอยากให้เขาเป็นคนงาน เขาไม่ต้องการ ต่อมาคำพูดเฉินเยี่ยนทำให้เขาเข้าใจชัดเจน คนสามารถมีความคิดของตัวเอง ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น และไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมากำหนดชีวิตเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจสายตาคนอื่น ชอบอะไรก็ทำอย่างนั้น


ดังนั้นเขาเลยปฏิเสธแม่เขาอย่างแน่วแน่ จากนั้นเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง เพราะเส้นสายเขาดีกว่าเฉินเยี่ยนมาก อีกทั้งเขายังคุ้นเคยในเมืองมาก เขาเลยหาเงินได้ ก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจที่อาจหาญมาก ได้เงินจากครั้งนั้นมาไม่น้อย แต่เขาไม่ได้บอกที่บ้าน แม่เขาคิดว่าเขาไม่เอาการเอางาน บอกว่าเขาทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย บังคับให้เขาไม่ต้องทำแล้ว ไปเป็นคนงาน คนงานเขาก็ไม่ยอมทำ เขาไม่ยอมที่มีกรอบวางไว้มากมายขนาดนั้น เขาไม่ยอมทำตามขั้นตอนทีละก้าว เขาอยากจะทำตามความคิดตัวเองหาเลี้ยงเอง สุดท้ายเขาเลยไปดูโรงงานหนึ่ง เขาอยากจะซื้อต่อ ที่บ้านไม่ยอมให้เขาเรียน ที่บ้านอยากให้เขาทำงานไม่ใช่หรือ? ก็ได้ เขาก็จะทำงาน แต่ไม่ใช่คนงาน เป็นหัวหน้าคนงาน ถ้าเขาได้เป็นหัวหน้าคนงาน สุดท้ายถ้าโรงงานนี้ยังขาดทุน เงินเขาก็ลงไปแล้ว เขาอยากจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย แต่ต้องไม่ทำให้ขาดทุน เขามั่นใจ เขายังมีเฉินเยี่ยนที่ต้องเลี้ยงดูอีกนะ


“คุณต้องการรางวัลอะไร? ไม่อย่างนั้นวันนั้นฉันทำอาหารให้คุณกินดีไหม?”


เฉินเยี่ยนขำ อันที่จริงซินห้าวใสซื่อมาก เขาไม่ได้ระแวดระวังมากมายขนาดนั้น สำหรับเธอ เขาคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น พวกเขาคบกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องมีข้อจำกัดมากมาย


“ผมไม่อยากกินข้าว ผมต้องการแบบนี้”


ซินห้าวพูดจบก็ก้มหน้าลงจูบเฉินเยี่ยนอีกครั้ง


เด็กคนนี้เรียนรู้เร็วจริง เฉินเยี่ยนพึมพำในใจ แต่ไม่ได้ผลักซินห้าวออก ความรักของคนหนุ่มสาวนั้นหวานชื่นเสมอ ในเมื่อชอบ ทำไมจะต้องเสแสร้งด้วย…


ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะชอบความรู้สึกตอนที่อยู่กับซินห้าวมาก แต่เธอรู้ว่าถ้ายังไม่กลับที่บ้านน่าจะเป็นห่วงแล้ว ดังนั้นตอนที่ซินห้าวยังทำสายตาอาลัยอาวรณ์เฉินเยี่ยนต้องตัดใจกลับ


เฉินเยี่ยนและซินห้าวเดินตามกันออกจากสวนผลไม้ ถึงแม้ว่าครั้งนี้ในสวนผลไม้ความรู้สึกของทั้งสองคนใกล้ชินกันขึ้นเยอะ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบกัน แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจ อย่างมากก็แค่จูงมือ จูจุ๊บกัน ไม่ทำอย่างอื่น


มาถึงบ้าน เฉินจงอยู่ในสนามเห็นลูกสาวก็แอบถอนหายใจ ถึงแม้ว่าเขาจะปล่อยให้ลูกสาวไป แต่ในใจเขาก็ยังกังวลอยู่ ตั้งแต่เฉินเยี่ยนออกไปกับเวยหลายชุนเขาก็อยู่ในลานบ้านตลอด หวางนิวก็เดินวนไปวนหน้าอยู่ที่ประตูหลายรอบ ปากก็บ่นว่าทำไมยังไม่กลับ


“เขาไม่ได้พูดอะไรใช่ไหม?”


เฉินจงถามเฉินเยี่ยน เห็นหน้าลูกสาว เหมือนหน้าแดง นัยน์ตามีแววเป็นประกาย ดูดีใจเบิกบาน ไม่เศร้าเลยสักนิด เหมือนมีเรื่องดีใจอะไรมา หรือว่าเธอกับเวยหลายชุนคืนดีกันแล้ว?


“เปล่าค่ะ พ่อ ต่อจากนี้หนูตะไม่ดูตัวแล้วนะ พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผ่านไปสักพักค่อยว่ากันอีกทีนะ”


เฉินเยี่ยนพยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้กลับมาปกติ เธอไม่อยากให้เฉินเวยเห็นสีหน้าเธอ


เฉินจงมองเฉินเยี่ยนสองรอบ พยักหน้า ลูกสาวโตแล้ว มีความคิดของตัวเอง เขาแค่สนับสนุนลูกสาวก็พอแล้ว เรื่องอื่นให้เธอจัดการเอง


“งั้นพ่อไปที่ไร่แล้ว”


เฉินจงพูดแล้วไปหยิบพลั่วกับกระสอบวางลงบนชั้นวางของบนรถ ตอนนี้ข้าวโพดในไร่ออกต้นกล้าแล้ว หญ้าก็ขึ้นมาเหมือนกัน ต้องขุดออก ไม่อย่างนั้นมันจะแย่งอาหารข้าวโพดไป หญ้าที่ขุดออกก็เอากลับมาเลี้ยงเป็ดเลี้ยงหมู


“หนูไปด้วยนะ?”


เฉินเยี่ยนพูดแล้วไปหาพลั่ว


“ลูกไม่ต้องไปหรอก มีพ่อกับพี่ชายลูกอยู่น่ะ ถ้าไม่เหนื่อยลูกไปห่อบุหรี่กับจวนเอ๋อร์ ถ้าเหนื่อยก็ไปพัก”


เฉินจงส่ายหน้ากับเฉินเยี่ยน อันที่จริงเขาและหวางนิวถือว่าเป็นพ่อแม่ที่รักลูกมาก ลูกบ้านอื่นต้องทำงานตั้งแต่เด็กจนโต บางคนเพิ่งแปดเก้าขวบ ตอนที่ทำไร่ไม่เพียงแต่ต้องเลี้ยงน้องชายน้องสาว ยังต้องทำอาหารให้คนทั้งบ้าน โดนลวกอะไรมา ผู้ใหญ่ก็ไม่มีเวลามาดู


ครอบครัวพวกเขา ถ้าไม่ใช่ตอนที่ทำไร่ยุ่งมาก เฉินเยี่ยนและเฉินเวยจะอยู่บ้านทำอาหาร เฉินจงและหวางนิวจะไม่ใช่เธอสองคนมาที่ไร่


“ใช่แล้ว ลูกอยู่บ้านพักผ่อนเถอะ วันนี้ก็ไม่ต้องห่อบุหรี่ด้วย เรื่องกำจัดหญ้าแม่ไปเอง”


หวางนิวพูดแล้วก็สวมหมวกฟางเดินออกไป


เห็นเฉินเยี่ยน ลูกสาวไม่เสียใจ แต่เธอเสียใจ เธอรู้สึกว่าไม่ใช่ลูกสาวไม่เสียใจ แต่ต้องกลัวพ่อแม่เสียใจ เลยแกล้งทำแบบนี้ แต่เธอจะพูดอะไรได้? อีกอย่างเรื่องที่ควรพูดก็พูดหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์ เธอทำได้แค่ปลอบไม่กี่ประโยค แล้วออกไปไร่กับเฉินจง


เฉินเยี่ยนเข้าไปในโถงบ้าน เมื่อกี้ยังมีเสียงร้องไห้สะอื้นของเฉินเวยดังออกมา เห็นเธอเข้ามา เฉินเวยเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเธอยังแดงอยู่ แต่พอเห็นเฉินเยี่ยนเธอกลับเผยรอยยิ้มสะใจ


“พี่สาวที่แสนดีของฉัน คิดไม่ถึงล่ะสิ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ต้องการเธอสินะ? ต่อให้เธอสวยแล้วจะทำไม ฉันแค่พูดไม่กี่ประโยค เขาก็ไม่ต้องการเธอแล้ว พี่สาวหนอ เธอบอกว่าเธอจะยังไปส่งเขา เธอก็ยังกล้าทำ”


เฉินเวยยังคงเป็นเฉินเวยที่อ่อนแอ แต่ในคำพูดเธอเต็มไปด้วยการประชดและเย้ยหยัน ถ้าพ่อแม่บ้านเฉินเห็น ต้องคิดว่าไม่ใช่ลูกสาวตัวเองแน่นอน


เฉินเยี่ยนมองเธอไม่ได้พูดอะไร


“ให้ฉันเดาพี่สาวที่แสนเย่อหยิ่งของฉันจะต้องลดตัวลงไปขอร้องให้เขาต้องการเธออยู่ใช่ไหม? ให้ฉันคิด พี่สาวที่แสนสวนจะต้องทำท่าน่าสงสารดูว่าพี่เวยจะหวั่นไหนหรือเปล่าใช่ไหม?”


เฉินเวยพูดไปก็เดินไปรอบๆ เฉินเยี่ยน ท่าทางแบบนั้นดูออกว่าเกลียดถึงขั้นสุด


————-

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม